Book,Page,LineNumber,Text 43,0045,001,แล้ว: เพราะฉะนั้น สัตว์เหล่านี้จึงเที่ยวขับร้องฟ้อนรำอยู่ในที่ทั้งหลาย 43,0045,002,มีโรงดื่มสุราและสนามเป็นที่เล่นเป็นต้น . จึงไม่สามารถจะฟังธรรมได้. 43,0045,003,อานนท์. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อุบาสกทั้งหลายนั่น อาศัยอะไร 43,0045,004,จึงไม่สามารถ ? 43,0045,005,"ลำดับนั้น พระศาสดาตรัสแก่พระอานนท์ว่า "" อานนท์ อุบาสก" 43,0045,006,เหล่านั้น อาศัยราคะ อาศัยโทสะ อาศัยโมหะ อาศัยตัณหา จึงไม่สามารถ: 43,0045,007,"ชื่อว่าไฟ เช่นกับด้วยไฟคือราคะไม่มี, ไฟใดไม่แสดงแม้ซึ่งเถ้า ย่อมไหม้" 43,0045,008,สัตว์ทั้งหลาย; แท้จริง แม้ไฟซึ่งยังกัลป์ให้พินาศ ที่อาศัยความปรากฏ 43,0045,009,แห่งอาทิตย์ ๗ ดวงบังเกิดขึ้น ย่อมไหม้โลก ไม่ให้วัตถุไร ๆ เหลืออยู่เลย 43,0045,010,"ก็จริง, ถึงกระนั้น ไฟนั้นย่อมไหม้ในบางคราวเท่านั้น; ชื่อว่ากาลที่ไฟคือ" 43,0045,011,ราคะจะไม่ไหม้ ย่อมไม่มี: เพราะฉะนั้น ชื่อว่าไฟเสมอด้วยราคะก็ดี ชื่อว่า 43,0045,012,ผู้จับเสมอด้วยโทสะก็ดี ชื่อว่าข่ายเสมอด้วยโมหะก็ดี ชื่อว่าแม่น้ำเสมอ 43,0045,013,"ด้วยตัณหาก็ดี ไม่มี"" ดังนี้แล้ว จึงตรัสพระคาถานี้ว่า :-" 43,0045,014,๙. นตฺถิ ราคสโม อคฺคิ นตฺถิ โทสสโม คโห 43,0045,015,นตฺถิ โมหสมํ ชาลํ นตฺถิ ตณฺหาสมา นที. 43,0045,016,"""ไฟเสมอด้วยราคะ ไม่มี, ผู้จับเสมอด้วยโมหะ" 43,0045,017,"ไม่มี, ข่ายเสมอด้วยโมหะ ไม่มี. แม่น้ำเสมอด้วย" 43,0045,018,"ตัณหา ไม่มี.""" 43,0045,019,