Book,Page,LineNumber,Text
45,0032,001,แม้พระอริยเจ้าทั้งหลาย มีพระธรรมเสนาบดีเป็นต้นก็ฉันนั้น เมื่อพระผู้มี-
45,0032,002,พระภาคเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่ก็ตาม ปรินิพพานแล้วก็ตาม ก็กล่าวคล้อย
45,0032,003,ตามเทศนาของพระองค์ หาได้มีวาทะเป็นต่าง ๆ กัน ในเทศนานั้นไม่. เพราะ
45,0032,004,เหตุนั้น ท่านจึงกล่าวไว้ว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เป็นพระอรหันต์ตรัสไว้
45,0032,005,แล้ว ในกาลย่อมาจากนั้น แม้พระอริยสงฆ์ผู้เป็นพระอรหันต์ก็กล่าวไว้. ท่าน
45,0032,006,กล่าวคำว่า วุตฺตํ ไว้อย่างนั้น (ซ้ำสองครั้ง) ก็เพื่อจะแสดงว่าพระดำรัสของ
45,0032,007,พระผู้มีพระภาคเจ้า ไม่ขัดแย้งกับพระอริยเจ้าทั้งหลายดังพรรณนาฉะนี้.
45,0032,008,อีกประการหนึ่ง ท่านกล่าวคำว่า วุตฺตํ ไว้สองครั้งก็เพื่อแสดงว่า
45,0032,009,พระดำรัสของพระผู้มีพระภาคเจ้า มีนัยอย่างที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
45,0032,010,พระองค์ก่อน ๆ ตรัสไว้. แม้จะมีความแตกต่างกันในเรื่องชาติ โคตร และ
45,0032,011,จำนวนอายุเป็นต้น แต่พระพุทธเจ้าทั้งหลาย ก็ไม่มีความแตกต่างกันด้วย
45,0032,012,พระธรรมเทศนา เหมือนกับที่ไม่ทรงมีความแตกต่างกันด้วยพระคุณมีทสพล-
45,0032,013,ญาณเป็นต้น. พระพุทธเจ้าเหล่านั้นตรัสไม่ขัดกันเองและตรัสคำหน้าไม่ขัด
45,0032,014,แย้งกับคำหลังด้วยพระองค์เอง เพราะเหตุนั้น จึงสมด้วยคำที่ท่านกล่าวไว้
45,0032,015,ดังนี้ว่า พระพุทธเจ้า ทั้งหลาย และพระผู้มีพระภาคเจ้า ของเราทั้งหลาย
45,0032,016,ในปัจจุบันตรัสไว้แล้วด้วยพระองค์เองเมื่อก่อนเป็นฉันใด พระผู้มีพระภาค-
45,0032,017,เจ้าผู้เป็นพระอรหันต์ก็ตรัสคำนี้ไว้ฉันนั้น. ท่านกล่าวคำว่า วุตฺตํ ไว้สอง
45,0032,018,ครั้งเพื่อแสดงว่า คำสอนของพระพุทธเจ้า มีนัยเดียวกับที่พระพุทธเจ้า
45,0032,019,พระองค์ก่อน ๆ ตรัสไว้ และมีนัยเดียวกับที่พระองค์เองตรัสไว้ในพระสูตร
45,0032,020,อื่น ๆ ดังพรรณนามาฉะนี้. ความไม่ขัดแย้งกันแห่งเทศนาของพระพุทธเจ้า
45,0032,021,ทั้งหลาย ในที่ทุกแห่งเป็นอันท่านแสดงไว้แล้วด้วยคำนั้น.