Book,Page,LineNumber,Text 46,0014,001,แม้ที่ท่านกำหนดแล้ว อันต่างด้วยขันธ์ในอดีตเป็นต้น ก็ด้วยอำนาจแห่งอารมณ์ 46,0014,002,ดุจกิเลสที่บังเกิดขึ้นแก่นันทมาณพ และบุตรเศรษฐีชื่อว่า โสเรยยกะ เป็นต้น 46,0014,003,เพราะปรารภขันธ์ทั้งหลายของพระมหากัจจายนะ และของนางอุบลวรรณาเถรี 46,0014,004,เป็นต้น. ก็ถ้าหากว่าอารมณ์นี้ จะพึงชื่อว่าภูมิลัทธะแล้วไซร้ ใคร ๆ ก็ไม่พึง 46,0014,005,ละมูลแห่งภพได้ เพราะเหตุที่อารมณ์นั้นอันใคร ๆ ไม่พึงละได้ แต่พึงทราบว่า 46,0014,006,ที่ชื่อว่า ภูมิลัทธะ ก็ด้วยสามารถแห่งวัตถุ. 46,0014,007,ด้วยว่า ขันธ์ทั้งหลายที่มิได้กำหนดแล้วด้วยวิปัสสนา ย่อมบังเกิด 46,0014,008,ขึ้นในวัตถุใด ๆ กิเลสชาตที่มีวัฏฏะเป็นมูล ก็ย่อมนอนเนื่องในขันธ์เหล่านั้น 46,0014,009,นับตั้งแต่ได้บังเกิดขึ้นในวัตถุนั้น ๆ. กิเลสชาตนั้น พึงทราบว่าภูมิลัทธุป- 46,0014,010,ปันนะ เพราะอรรถว่ายังละไม่ได้ ก็กิเลสทั้งหลายที่ยังละไม่ได้ และที่ยัง 46,0014,011,นอนเนื่องอยู่ในขันธ์เหล่าใด (ย่อมบังเกิดขึ้น) แก่บุคคลใดในวัตถุนั้น ขันธ์ 46,0014,012,เหล่านั้นนั่นเอง ของบุคคลนั้นเป็นที่ตั้งของกิเลสเหล่านั้น หาใช่ขันธ์ของ 46,0014,013,บุคคลเหล่าอื่นไม่. ก็ขันธ์ที่เป็นอดีตเท่านั้น เป็นที่ตั้งแห่งกิเลสทั้งหลาย ที่ 46,0014,014,บุคคลนั้นยังละไม่ได้ และที่นอนเนื่องอยู่ในอดีตขันธ์ทั้งหลาย หาใช่ขันธ์ 46,0014,015,นอกจากนี้ไม่ ในขันธ์ที่เป็นอนาคตเป็นต้นก็มีนัยนี้ (เหมือนกัน) อนึ่ง 46,0014,016,ขันธ์ที่เป็นกามาวจรเท่านั้น เป็นที่ตั้งแห่งกิเลสทั้งหลายที่สัตว์ยังละไม่ได้ และ 46,0014,017,ที่นอนเนื่องอยู่ในกามาวจรขันธ์ทั้งหลาย หาใช่ขันธ์นอกนี้ไม่ ในขันธ์ที่เป็น 46,0014,018,รูปาวจรและอรูปาวจรก็นัยนี้ (เหมือนกัน). 46,0014,019,ก็กิเลสชาตอันมีวัฏฏะเป็นมูลนั้น ๆ มีอยู่ในขันธ์ทั้งหลาย ของพระ- 46,0014,020,อริยบุคคลใด ๆ ในบรรดาพระโสดาบันเป็นต้น อันพระอริยบุคคลนั้น ๆ ย่อม 46,0014,021,ละได้ด้วยมรรคนั้น ๆ ขันธ์เหล่านั้น ๆ ของพระอริยบุคคลนั้น ๆ จะนับว่า