Book,Page,LineNumber,Text 46,0050,001,คำว่า นิวรณ์ ในคาถานี้ว่า โย นีวรเณ เป็นต้น มีวิเคราะห์ว่า 46,0050,002,ที่ชื่อว่านิวรณ์ เพราะอรรถวิเคราะห์ว่า ย่อมทำจิตให้เดือนร้อน อธิบายว่า 46,0050,003,เป็นเครื่องปกปิดจิต. 46,0050,004,บทว่า ปหาย ได้แก่ ทิ้งเสีย. 46,0050,005,บทว่า ปญฺจ เป็นการกำหนดนับนิวรณ์เหล่านั้น ภิกษุที่ชื่อว่า 46,0050,006,ไม่มีทุกข์ เพราะไม่มีความทุกข์ ที่ชื่อว่าข้ามความสงสัยเสียได้ เพราะตนข้าม 46,0050,007,ความสงสัยได้แล้ว ที่ชื่อว่ามีลูกศรออกแล้ว เพราะเป็นผู้มีลูกศรไปปราศแล้ว 46,0050,008,ถามว่า ท่านกล่าวอธิบายไว้อย่างไร ตอบว่า ท่านกล่าวอธิบายไว้ว่า ภิกษุใด 46,0050,009,เห็นนิวรณ์ทั้งห้า มีกามฉันท์เป็นต้น และเห็นโทษในนิวรณ์ทั้งหลาย โดย 46,0050,010,ความเป็นของเสมอกันและโดยพิเศษ โดยนัยที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ใน 46,0050,011,สมันตรภัตรกสูตร จึงละ (นิวรณ์เหล่านั้น) ได้ด้วยมรรคนั้น ๆ ชื่อว่าเป็นผู้ 46,0050,012,ไม่มีทุกข์ เพราะความไม่มีแห่งทุกข์ คือ กิเลสทุกข์ เพราะเหตุที่ตนละนิวรณ์ 46,0050,013,เหล่านั้นได้แล้วนั่นเอง ชื่อว่า ข้ามพ้นความสงสัยเสียได้ เพราะท่านข้ามพ้น 46,0050,014,ความสงสัยที่เป็นไปแล้ว โดยนัยเป็นต้นว่า ในอดีตกาลนานมาแล้ว เราได้ 46,0050,015,เป็นแล้วหรือหนอ ชื่อว่าสลัดลูกศรเสียได้ เพราะท่านปราศจากลูกศรทั้งห้า 46,0050,016,ที่ท่านกล่าวไว้ว่า ในบรรดาลูกศรเหล่านั้น ลูกศร ๕ อย่างเป็นไฉน ๕ อย่าง 46,0050,017,คือ ลูกศรคือราคะ ลูกศรคือโทสะ ลูกศรคือโมหะ ลูกศรคือมานะ ลูกศร 46,0050,018,คือทิฏฐิ ภิกษุนั้นชื่อว่าละฝั่งในและฝั่งนอกเสียได้ โดยนัยที่ข้าพเจ้ากล่าวไว้ 46,0050,019,แล้วในตอนต้นนั่นเอง. 46,0050,020,แม้ในพระคาถานั้น บัณฑิตพึงทราบการละนิวรณ์ ๒ อย่างเช่นกัน 46,0050,021,คือ โดยลำดับกิเลส ๑ โดยลำดับแห่งมรรค ๑.