Book,Page,LineNumber,Text
47,0018,001,๔. หมายถึงพระขีณาสพ ดังในประโยคทั้งหลายมีประโยคเป็นต้น
47,0018,002,อย่างนี้ว่า โย จ กาลฆโส ภูโต บุคคลใดเป็นผู้กลืนกินกาล.
47,0018,003,๕. หมายถึงสัตว์ทั้งปวง ดังในประโยคทั้งหลาย มีประโยคเป็นต้น
47,0018,004,อย่างนี้ว่า สพฺเพว นิกฺขิปิสฺสนฺติ ภูตา โลเก สมุสฺสยํ สัตว์ทั้งปวงแล
47,0018,005,ย่อมทิ้งร่างกายไว้ในโลก.
47,0018,006,๖. หมายถึงต้นไม้เป็นต้น ดังในประโยคทั้งหลายมีประโยคเป็นต้น
47,0018,007,อย่างนี้ว่า ภูตคามปาตพฺยตาย ปาจิตฺติยํ เป็นอาบัติปาจิตตีย์ในเพราะ
47,0018,008,พรากภูตคาม.
47,0018,009,๗. หมายถึงหมู่สัตว์ ซึ่งอยู่ภายใต้ชั้น จาตุมมหาราชิกาลงมา ดังใน
47,0018,010,ประโยคทั้งหลาย มีประโยคเป็นต้นอย่างนี้ว่า ภูเต ภูตโต สญฺชานาติ ย่อม
47,0018,011,รู้สัตตนิกายทั้งหลาย โดยความเป็นสัตตนิกาย ดังนี้ก็จริง ถึงกระนั้นในรตน-
47,0018,012,สูตรนี้ บัณฑิตก็พึงเห็นว่า ภูต ศัพท์ ใช้ในอมนุษย์ทั้งหลายโดยไม่แปลกกัน.
47,0018,013,บทว่า สมาคตานิ ได้แก่ประชุมกันแล้ว เทวดาทั้งหลายที่เกิดแล้ว
47,0018,014,ณ ภาคพื้น ชื่อว่า ภุมฺมานิ (ภุมเทวดา)
47,0018,015,วา ศัพท์ ใช้ในวิกัปปัตถะ (แปลว่า หรือ) เพราะเหตุนั้น พระ-
47,0018,016,ผู้มีพระภาคเจ้าจึงทรงกระทำวิกัปอันหนึ่งนี้ว่า ภุมเทวดาทั้งหลาย เหล่าใด
47,0018,017,หรือภูตทั้งหลายเหล่าใดที่ประชุมกันแล้วในที่นี้ แล้วตรัสว่า ยานิว อนฺตลิกฺเข
47,0018,018,หรือเทพเหล่าใดซึ่งประชุมกันแล้วในอากาศ ดังนี้ เพื่อกระทำวิกัปที่สอง
47,0018,019,อีกอย่างหนึ่ง อธิบายว่า ภูตทั้งหลายเหล่าใดเกิดแล้วในอากาศ ประชุมกัน
47,0018,020,แล้วในที่นี้.
47,0018,021,ก็ในคำว่า ภูตานิ นี้ ภูตสัตว์เหล่าใด ตั้งแต่ชั้นยามาจนถึงชั้นอกนิฏฐ-
47,0018,022,ภพซึ่งบังเกิดแล้วในอากาศ พึงทราบว่า เป็นภูตในอากาศ ก็เพราะเหตุที่