Book,Page,LineNumber,Text 47,0043,001,พระผู้มีพระภาคเจ้า ครั้นตรัสความที่นิพพานธรรม เป็นธรรมไม่ 47,0043,002,เสมอด้วยธรรมเหล่าอื่นอย่างนี้แล้ว บัดนี้ เพื่อความเข้าไปสงบแห่งอุปัทวะ 47,0043,003,ซึ่งบังเกิดขึ้นแล้วแก่สัตว์ทั้งหลายเหล่านั้น ทรงอาศัยความที่ธรรมรัตนะ คือ 47,0043,004,พระนิพพาน เป็นธรรมไม่เช่นกับคุณธรรมทั้งหลาย มีขยธรรม วิราคธรรม 47,0043,005,อมตธรรม และปณีตธรรม จึงทรงประกอบสัจวาจาว่า 47,0043,006,อิทมฺปิ ธมฺเม รตนํ ปณีตํ 47,0043,007,เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ. 47,0043,008,ธรรมรัตนะแม้นี้เป็นรัตนะอันประ- 47,0043,009,ณีต ด้วยสัจวาจานี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่ 47,0043,010,สัตว์เหล่านี้ ดังนี้. 47,0043,011,เนื้อความแห่งคาถานั้น บัณฑิตพึงทราบโดยนัยที่ข้าพเจ้ากล่าวไว้แล้ว 47,0043,012,ในคาถาก่อนนั้นแล อาชญา (อำนาจป้องกัน) แห่งคาถาแม้นี้ อันอมนุษย์ 47,0043,013,ทั้งหลายในแสนโกฏิจักรวาลได้รับแล้ว. 47,0043,014,พระผู้มีพระภาคเจ้าครั้นตรัสสัจวาจา ด้วยธรรมคุณคือพระนิพพาน 47,0043,015,อย่างนี้แล้ว แม้ในบัดนี้เมื่อจะตรัสธรรมคุณคือมรรค จึงทรงเริ่มว่า ยมฺพุทฺธ- 47,0043,016,เสฏฺโ€ ปริวณฺณยี สุจึ ดังนี้. 47,0043,017,ในพระคาถานี้ พึงทราบวินิจฉัยดังต่อไปนี้. 47,0043,018,พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่า พุทธะ โดยนัยว่า พระองค์ทรง 47,0043,019,"ตรัสรู้สัจจะทั้งหลาย ดังนี้เป็นต้น, ชื่อว่า ประเสริฐที่สุด เพราะอรรถว่า พระ"