Book,Page,LineNumber,Text 47,0049,001,ธัมมานุธัมมปฏิบัติที่ควรกระทำ บรรลุแล้วซึ่งมรรคและผลทั้งหลาย เพราะ 47,0049,002,เหตุนั้น ท่านจึงเรียกว่า สาวก. 47,0049,003,บาทคาถาว่า เอเตสุ ทินฺนานิ มหปฺผลานิ ความว่า ทานทั้งหลาย 47,0049,004,แม้จะน้อยที่บุคคลให้แล้วในสาวกของพระสุคตเจ้าทั้งหลายเหล่านี้ ชื่อว่า มีผล 47,0049,005,มาก เพราะทักษิณาทานเข้าถึงความบริสุทธิ์ ฝ่ายปฏิคคาหก (ผู้รับ) เพราะ 47,0049,006,ฉะนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสไว้แม้ในตอนกลาง ๆ แห่งอัคคัปปสาทสูตรว่า 47,0049,007,ภิกษุทั้งหลาย หมู่หรือคณะมีประมาณเท่าใด หมู่แห่งสาวกของพระตถาคต เรา 47,0049,008,กล่าวว่าเลิศกว่าหมู่หรือคณะเหล่านั้น คือคู่แห่งบุรุษ ๔ คู่ บุรุษบุคคล ๘ นี่ 47,0049,009,คือสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า ชนทั้งหลายเหล่าใดเลื่อมใสแล้วในสงฆ์ 47,0049,010,สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า ย่อมได้รับผลเลิศ. 47,0049,011,พระผู้มีพระภาคเจ้าครั้นตรัสถึงคุณของสังฆรัตนะ ด้วยสามารถบุคคล 47,0049,012,ผู้ตั้งอยู่ในมรรคและผลแม้ทั้งปวง อย่างนี้แล้ว บัดนี้ ทรงอาศัยคุณข้อนั้น 47,0049,013,ประกอบสัจวาจาว่า อิทมฺปิ สงฺเฆ รตนํ ปณีตํ ดังนี้เป็นต้น. 47,0049,014,เนื้อความแห่งพระคาถานั้น พึงทราบโดยนัยอันข้าพเจ้ากล่าวแล้วใน 47,0049,015,ตอนต้นนั้นแล อาชญาแห่งพระคาถาเหล่านี้ อันอมนุษย์ทั้งหลายในแสนโกฏิ- 47,0049,016,จักรวาลรับแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสสัจวาจา ด้วยคุณของสังฆรัตนะด้วย 47,0049,017,สามารถแห่งท่านผู้ตั้งอยู่ในมรรค และท่านผู้ตั้งอยู่ในผลอย่างนี้แล้ว บัดนี้ 47,0049,018,ต่อแต่นั้นทรงปรารภจะตรัสสัจวาจา ด้วยคุณแห่งพระขีณาสพทั้งหลายผู้เสวย 47,0049,019,ความสุขอันเกิดจากผลสมาบัติบางจำพวกเท่านั้น จึงตรัสว่า เย สุปฺปยุตฺตา 47,0049,020,เป็นต้น.