Book,Page,LineNumber,Text 48,0047,001,เพราะเป็นผู้มีความดำริไม่หม่นหมอง อีกอย่างหนึ่ง ท่านกล่าวว่า วิรชะ 48,0047,002,เพราะไม่มีกิเลสดุจธุลี คือ ราคะ. กล่าวว่า วิปปสันนะ เพราะไม่มี 48,0047,003,ความขุ่นมัวด้วยโทสะ. กล่าวว่า อนาวิละ เพราะไม่มีความเกลือกกลั้ว 48,0047,004,ด้วยโมหะ. กล่าวว่า ภิกษุ เพราะท่านผู้เป็นอย่างนี้ ชื่อว่า ภิกษุ โดย 48,0047,005,ปรมัตถ์. คำว่า อทาสหํ ตัดบทว่า อทาสึ อหํ เราได้ถวายแล้ว. 48,0047,006,บทว่า ปี€ํ ได้แก่ ตั่งอย่างดี [ ภัทรบิฐ ] ที่มีอยู่ในสำนักของดีฉัน 48,0047,007,ในครั้งนั้น. บทว่า ปสนฺนา ได้แก่ มีจิตเลื่อมใส เพราะเชื่อในผลกรรม 48,0047,008,และเชื่อในพระรัตนตรัย. บทว่า เสหิ ปาณิภิ ความว่า ดีฉันไม่ใช้ 48,0047,009,คนอื่น จัดตั้งที่ควรน้อมเข้าไปด้วยมือของตนถวาย. 48,0047,010,ในคาถานั้น เทวดาแสดงเขตสมบัติ ด้วยบทว่า วิรชํ ภิกฺขุํ 48,0047,011,วิปฺปสนฺนมนาวิลํ นี้. แสดงเจตนาสมบัติ ด้วยบทว่า ปสนฺนา นี้. แสดง 48,0047,012,ประโยคสมบัติ ด้วยบทว่า เสหิ ปาณิภิ นี้. อนึ่ง เทวดาแสดงคุณ 48,0047,013,แห่งทาน ๒ นี้ คือ ถวายโดยเคารพ และถวายใกล้ชิด ด้วยบทว่า 48,0047,014,ปสนฺนา นี้. แสดงคุณแห่งทาน ๒ นี้ คือ ถวายด้วยมือตนเอง และ 48,0047,015,ตามเข้าไปถวาย ด้วยบทว่า เสหิ ปาณิภิ นี้. พึงทราบว่า เทวดา 48,0047,016,แสดงคุณแห่งทาน ๒ นี้ คือ ทำความยำเกรงถวาย ถวายตามกาล เพราะ 48,0047,017,เป็นผู้รู้จักเวลานั่ง ด้วยการลาดผ้าสีเหลือง. คำที่เหลือมีนัยที่กล่าวมาแล้ว 48,0047,018,ในหนหลังทั้งนั้น. 48,0047,019,จบอรรถกถาตติยปีฐวิมาน