Book,Page,LineNumber,Text 50,0018,001,โพธิสมภาร ตลอดเวลา ๘ อสงไขย (กำไร) แสนมหากัป. โดยกำหนดอย่างสูง 50,0018,002,ต้องปรารถนาการเพิ่มพูนโพธิสมภารตลอดเวลาถึง ๑๖ อสงไขย (กำไร) 50,0018,003,แสนมหากัป. และข้อแตกต่างกันเหล่านี้ พึงทราบด้วยสามารถแห่งบารมีของ 50,0018,004,พระโพธิสัตว์ ผู้ที่เป็นปัญญาธิกะ สัทธาธิกะ และวิริยาธิกะ. 50,0018,005,อธิบายว่า ผู้ที่เป็นปัญญาธิกะ ย่อมมีศรัทธาอ่อน แต่มีปัญญากล้าแข็ง 50,0018,006,และต่อจากนั้นไปไม่นาน บารมีก็จะถึงความบริบูรณ์ เพราะความเป็นผู้ฉลาด 50,0018,007,ในอุบาย เป็นภาวะผ่องใส และละเอียดอ่อน. 50,0018,008,ผู้ที่เป็นสัทธาธิกะ ย่อมมีปัญญาปานกลาง เพราะฉะนั้น บารมีของ 50,0018,009,พระโพธิสัตว์ผู้เป็นสัทธาธิกะเหล่านั้น จึงถึงความบริบูรณ์ไม่เร็วเกินไป และ 50,0018,010,ไม่ช้าเกินไป. 50,0018,011,ส่วนผู้ที่เป็นวิริยาธิกะ ย่อมมีปัญญาน้อย เพราะฉะนั้น บารมีของ 50,0018,012,พระโพธิสัตว์ ผู้วิริยาธิกะเหล่านั้น จึงถึงความบริบูรณ์ โดยการเนิ่นนาน 50,0018,013,ทีเดียว. 50,0018,014,สำหรับพระปัจเจกโพธิสัตว์ไม่อย่างนั้น อธิบายว่า ท่านเหล่านั้น 50,0018,015,แม้ถึงจะมีบารมีเป็นปัญญาธิกะ ก็ยังต้องปรารถนาการเพิ่มพูนโพธิสมภาร 50,0018,016,ตลอดเวลา ๒ อสงไขย (กำไร) แสนกัป (แต่) ไม่ต่ำกว่านั้น. แม้ท่านผู้เป็น 50,0018,017,สัทธาธิกะ และวิริยาธิกะ ล่วงเลยกัปอื่นจากกำหนดที่กล่าวแล้ว ไปเล็กน้อย 50,0018,018,เท่านั้น ก็ย่อมบรรลุปัจเจกสัมโพธิญาณ แต่ไม่ถึงอสงไขยที่ ๓. 50,0018,019,สำหรับพระโพธิสัตว์ ผู้เป็นสาวก บำเพ็ญอภินิหาร เพื่อความเป็น 50,0018,020,อรรคสาวก ต้องปรารถนาการเพิ่มพูนโพธิสมภาร สิ้นเวลา ๑ อสงไขย 50,0018,021,(กำไร) แสนกัป. 50,0018,022,สำหรับผู้ที่เป็นมหาสาวก (บำเพ็ญอภินิหาร เพื่อความเป็นมหาสาวก) 50,0018,023,ต้องปรารถนาการเพิ่มพูนโพธิสัมภาร สิ้นเวลาแสนกัปเท่านั้น. ถึงพระพุทธ-