thaexam_choice / ALevel_Chem_66.json
AIEIR's picture
Upload 18 files
e62af42 verified
[
{
"No": 1,
"Question": "พิจารณาข้อมูลของธาตุสมมติ Q และ R ต่อไปนี้: ไอออน Q²- มีการจัดเรียงอิเล็กตรอนเหมือนก๊าซมีสกุลที่อยู่ในคาบที่ 3 และธาตุ R มีจำนวนอิเล็กตรอนใน 3p ออร์บิทัล 5 อิเล็กตรอน ข้อใดถูกต้อง",
"Choices": {
"A": "ธาตุ R อยู่ในคาบที่ 3 หมู่ VA",
"B": "ขนาดของอะตอม R มีขนาดใหญ่กว่าอะตอม Q",
"C": "ขนาดของไอออน R⁻ มีขนาดใหญ่กว่าไอออน Q²-",
"D": "ธาตุ Q มีจำนวนอิเล็กตรอนใน 3p ออร์บิทัล 6 อิเล็กตรอน",
"E": "พลังงานไอออไนเซชันลำดับที่ 1 ของธาตุ R มีค่ามากกว่าธาตุ Q"
},
"Answer": "E"
},
{
"No": 2,
"Question": "^24NaCl เป็นสารประกอบโซเดียมอยู่ในรูปของ Na-24 เท่านั้น ซึ่ง Na-24 สลายตัวให้รังสีบีตา และมีครึ่งชีวิต 15 ชั่วโมง ถ้าละลาย ^24NaCl 5.95 กรัม ในน้ำจนอิ่มตัวได้สารละลาย 25.00 มิลลิลิตร แล้วนำสารละลายไปใช้ 20.00 มิลลิลิตร หากตั้งสารละลายที่เหลือไว้ 30 ชั่วโมง สารละลายนี้จะมีไอออน ^24Na^+ จำนวนกี่กรัม กำหนดให้ มวลต่อโมล ^24NaCl = 59.5 กรัมต่อโมล",
"Choices": {
"A": "0.0600",
"B": "0.120",
"C": "0.240",
"D": "0.300",
"E": "0.600"
},
"Answer": "B"
}
,
{
"No": 4,
"Question": "ธาตุสมมติ A และ E อยู่ตำแหน่งเดียวกันในคาบที่ 3 สารประกอบคลอไรด์ของธาตุ A มีสูตรเคมีเป็น ACl₂ และ ACl₄ ซึ่งทั้งคู่เป็นโมเลกุลมีขั้ว สารประกอบคลอไรด์ของธาตุ E มีสูตรเคมีเป็น ECl₃ ที่เป็นโมเลกุลมีขั้ว และ ECl₅ ที่เป็นโมเลกุลไม่มีขั้ว ตามทฤษฎี VSEPR ข้อใดไม่ถูกต้อง",
"Choices": {
"A": "ACl₂ มีรูปทรงโมเลกุลเป็นทรงสี่หน้าแบนย่อ",
"B": "ECl₃ มีรูปทรงโมเลกุลเป็นพีระมิดฐานสามเหลี่ยม",
"C": "ACl₄ มีจำนวนอิเล็กตรอนคู่โดดเดี่ยวที่อะตอมกลางเท่ากับ ECl₃",
"D": "มุมพันธะ C-A-Cl ใน ACl₂ จับมุมได้ใหญ่กว่ามุมพันธะ Cl-E-Cl ใน ECl₃",
"E": "มุมพันธะที่แกนคู่สุดของ Cl-A-Cl ใน ACl₄ และ Cl-E-Cl ใน ECl₅ มีค่าน้อยกว่า 109.5°"
},
"Answer": "D"
}
,
{
"No": 5,
"Question": "ถ้าผสมสารละลาย A และ B จนเกิดปฏิกิริยาพอดีกัน ได้ตะกอนสีเขียวของ C และสารละลาย D จากนั้นกรองตะกอน C ออกจากสารละลาย D เสร็จ แล้วเติมกรด HNO3 ลงบนตะกอน C จะเกิดฟองแก๊ส X และเมื่อเติมสารละลาย AgNO3 ลงในสารละลาย D จะเกิดตะกอนสีเหลือง Y สารละลาย A และ B คือสารในข้อใด",
"Choices": {
"A": "CaBr2, KCl",
"B": "CaCl2, K2CO3",
"C": "CuBr2, K2CO3",
"D": "CuCO3, KBr",
"E": "Cu(NO3)2, K2CO3"
},
"Answer": "C"
},
{
"No": 6,
"Question": "เครื่องดื่มชนิดหนึ่ง เตรียมได้จากสารให้ความหวาน X มวล 3.04 กรัม ละลายในน้ำ 50.0 กรัม โดยเครื่องดื่มนี้มีจุดเยือกแข็งเท่ากับ -0.744 องศาเซลเซียส สารให้ความหวาน X เป็นสารในข้อใด กำหนดให้ สาร X เป็นสารที่ระเหยยากและไม่แตกตัวเป็นไอออนเมื่อละลายในน้ำ ค่า Kf ของน้ำ เท่ากับ 1.86 องศาเซลเซียสต่อโมแลล",
"Choices": {
"A": "อิริทริทอล มวลโมเลกุล 122",
"B": "ไซลิทอล มวลโมเลกุล 152",
"C": "กลูโคว มวลโมเลกุล 180",
"D": "แอสปาแตม มวลโมเลกุล 240",
"E": "ซูโครส มวลโมเลกุล 342"
},
"Answer": "B"
},
{
"No": 7,
"Question": "ซิลิคอนคาร์โบด์ (SIC) ผลิตได้จากทรายหรือซิลิคอนไดออกไซด์ ทำปฏิกิริยากับคาร์บอนมากเกินพอที่อุณหภูมิสูง ได้ผลิตภัณฑ์เป็นซิลิคอนกับคาร์บอนมอนอกไซด์ จากนั้นซิลิคอนที่เกิดขึ้นจะทำปฏิกิริยาต่อกับคาร์บอนที่เหลืออยู่ ได้ผลิตภัณฑ์เป็นซิลิคอนคาร์ไบด์ หากเริ่มต้นใช้ซิลิคอนไดออกไซด์ 6.00 x 10^3 กิโลกรัม จะต้องใช้คาร์บอนอย่างน้อยที่สุดกี่กิโลกรัม จึงจะเพียงพอสำหรับเปลี่ยนซิลิคอนไดออกไซด์ทั้งหมดเป็นซิลิคอนคาร์ไบด์ กำหนดให้ มวลต่อโมลของซิลิคอนไดออกไซด์ เท่ากับ 60.0 กรัมต่อโมล",
"Choices": {
"A": "1.20 x 10^3",
"B": "2.40 x 10^3",
"C": "3.60 x 10^3",
"D": "2.40 x 10^6",
"E": "3.60 x 10^6"
},
"Answer": "C"
}
,{
"No": 8,
"Question": "สารประกอบ Mg2SiO4 ทำปฏิกิริยากับ CO2, ได้ดังสมการเคมี Mg2SiO4 + CO2 -> MgCO3 + SiO2 (สมการยังไม่ดุล) ถ้า Mg2SiO4 ทำปฏิกิริยากับ CO2 ในอากาศที่ประกอบด้วยแก๊ส CO2 ร้อยละ 0.100 โดยมวล และอากาศมีความหนาแน่น 1.00 กรัมต่อลิตร หากต้องการให้แก๊ส CO2 ทั้งหมดที่มีอยู่ในอากาศ 88.0 ลิตร เกิดปฏิกิริยาเป็นผลิตภัณฑ์ จะต้องใช้ Mg2SiO4 อย่างน้อยกี่กรัม กำหนดให้ ในกระบวนการนี้ Mg2SiO4 กับ CO2 ทำปฏิกิริยาระหว่างกันเท่านั้น มวลต่อโมลของ Mg2SiO4 เท่ากับ 140.0 กรัมต่อโมล",
"Choices": {
"A": "0.140",
"B": "0.280",
"C": "0.560",
"D": "14.0",
"E": "28.0"
},
"Answer": "A"
}
,
{
"No": 9,
"Question": "ปฏิกิริยาระหว่างสารสมมติ X2 และ Y2 ได้สารผลิตภัณฑ์เพียงชนิดเดียว เมื่อทำการทดลองพบว่าความเข้มข้นของ X2 และ Y2 ที่เวลาต่างๆ เป็นดังตาราง และที่เวลา 5.0 วินาที ความเข้มข้นของผลิตภัณฑ์เท่ากับ 4.00 โมลาร์\n\nตาราง:\nเวลา (s): 0.0, 5.0, 10.0, 15.0, 20.0\n[X2] (M): 10.00, 6.00, 4.00, 3.00, 2.50\n[Y2] (M): 4.00, 2.00, 1.00, 0.50, 0.25\n\nพิจารณาข้อความต่อไปนี้:\nก. อัตราการเปลี่ยนแปลงความเข้มข้นเฉลี่ยในช่วงเวลา 0.0 - 10.0 วินาที ของ Y2 เท่ากับ 0.300 โมลาร์ต่อวินาที\nข. ความเข้มข้นของผลิตภัณฑ์ที่เวลา 10.0 วินาที เท่ากับ 6.00 โมลาร์\nค. สูตรโมเลกุลของผลิตภัณฑ์ คือ XY2",
"Choices": {
"A": "ก. เท่านั้น",
"B": "ข. เท่านั้น",
"C": "ก. และ ข. เท่านั้น",
"D": "ก. และ ค. เท่านั้น",
"E": "ข. และ ค. เท่านั้น"
},
"Answer": "C"
},
{
"No": 10,
"Question": "เมื่อวิตามินซีทำปฏิกิริยาเคมีกับออกซิเจนและน้ำ จะเกิดการสลายตัวให้กรด 2,3-ไดตีโตกูโลนิก หากทำการทดลองเพื่อศึกษาอัตราการสลายตัวของวิตามินซีในน้ำแอปเปิล โดยเติมวิตามินและน้ำตาลลงในน้ำแอปเปิลที่เหมือนกัน และมีปริมาตรรวมเป็นร้อยละ 75 ของขวดที่บรรจุ ซึ่งเป็นขวดปิดที่มีปริมาตรเท่ากัน โดยมีปริมาณวิตามินซี น้ำตาล เส้นผ่านศูนย์กลางของขวด อุณหภูมิ และเวลาที่ใช้ (เวลาที่ปริมาณวิตามินซีเหลือครึ่งหนึ่งของปริมาณที่เติม) ในแต่ละการทดลอง เป็นดังตาราง:\n\nการทดลองที่: 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7\nมวลของวิตามินซี (mg): 200, 200, 200, 200, 400, 200, 100\nมวลของน้ำตาลที่เพิ่ม (g): 0.0, 0.0, 10.0, 10.0, 10.0, 0.0, 10.0\nเส้นผ่านศูนย์กลางของขวด (cm): 5.0, 5.0, 5.0, 5.0, 5.0, 8.0, 8.0\nอุณหภูมิ (°C): 28, 8, 28, 8, 8, 28, 8\nเวลาที่ใช้ (h): 4.2, 4.8, 4.6, 5.6, 5.2,X , Y\n\nพิจารณาข้อความต่อไปนี้:\nก. เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น อัตราการเกิดกรด 2,3-ไดตีโตกูโลนิก จะเพิ่มมากขึ้น\nข. การเติมน้ำตาลทำให้วิตามินซีสลายตัวเร็วขึ้น\nค. X < 4.2\nง. Y < 5.6",
"Choices": {
"A": "ก. และ ค. เท่านั้น",
"B": "ข. และ ค. เท่านั้น",
"C": "ค. และ ง. เท่านั้น",
"D": "ก. ข. และ ง. เท่านั้น",
"E": "ก. ค. และ ง. เท่านั้น"
},
"Answer": "A"
},
{
"No": 11,
"Question": "เติมลมยางรถยนต์ A และ B ด้วยอากาศ ที่อุณหภูมิ 27 องศาเซลเซียส จนอ่านค่าความดันได้ 30.0 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว จากนั้น อุณหภูมิในอากาศลดต่ำลงอย่างรวดเร็วจนเหลือ 12 องศาเซลเซียส พิจารณาข้อความต่อไปนี้:\nก. ที่อุณหภูมิ 12 องศาเซลเซียส อ่านค่าความดันของยางรถยนต์ A ได้ 28.5 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว\nข. หากยางรถยนต์ B มีปริมาตรเป็น 2 เท่าของยางรถยนต์ A ความดันที่อุณหภูมิ 12 องศาเซลเซียส ของยางรถยนต์ B จะเป็นครึ่งหนึ่งของยางรถยนต์ A\nค. หากเติมลมยางรถยนต์ A ด้วยแก๊สไนโตรเจนแทนอากาศ ความดันที่อุณหภูมิ 12 องศาเซลเซียส ในยางที่เติมแก๊สไนโตรเจนจะมีค่าเท่ากันกับเมื่อเติมอากาศ\n\nกำหนดให้ แก๊สที่เกี่ยวข้องเป็นแก๊สอุดมคติ และยางรถยนต์ A และ B เป็นระบบปิด ข้อความใดถูกต้อง",
"Choices": {
"A": "ก. เท่านั้น",
"B": "ข. เท่านั้น",
"C": "ค. เท่านั้น",
"D": "ก. และ ค. เท่านั้น",
"E": "ข. และ ค. เท่านั้น"
},
"Answer": "D"
}
,
{
"No": 12,
"Question": "แก๊ส X สามารถสังเคราะห์ได้จากแก๊ส Y ทำปฏิกิริยากับแก๊ส SCl2 ดังสมการเคมี: 2Y + SCl2 -> X หากอัตราการแพร่ผ่านของแก๊ส Y เป็น 1.92 เท่าของแก๊ส SCl2 แก๊ส X ควรเป็นแก๊สในข้อใด กำหนดให้ มวลต่อโมลของ SCl2 เท่ากับ 103 กรัมต่อโมล",
"Choices": {
"A": "C2H4 มวลต่อโมเลกุล 28",
"B": "C4H9 มวลต่อโมเลกุล 56",
"C": "C2H4Cl2S มวลต่อโมเลกุล 131",
"D": "C4H8Cl2S มวลต่อโมเลกุล 159",
"E": "C8H16Cl2S มวลต่อโมเลกุล 215"
},
"Answer": "D"
}
,
{
"No": 13,
"Question": "ไดไนโตรเจนเพนทอกไซด์ (N₂O₅) เป็นของแข็งที่สลายตัวได้แก๊สไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO₂) และแก๊สออกซิเจน (O₂) ถ้าเก็บ N₂O₅ 6.0 โมล ในภาชนะปิดขนาด 10.0 ลิตร ที่อุณหภูมิหนึ่งพบว่า ที่สมดุลจะเหลือสารนี้ 5.0 โมล ถ้าสมการเคมีของปฏิกิริยาการสลายตัวของ N₂O₅ ที่ดุลแล้วมีเลขสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็มที่น้อยที่สุด ค่าคงที่สมดุลของปฏิกิริยาเคมีดังกล่าวมีค่าเท่าใด",
"Choices": {
"A": "8.0 x 10⁻⁵",
"B": "3.2 x 10⁴",
"C": "0.010",
"D": "0.32",
"E": "8.0"
},
"Answer": "A"
},
{
"No": 14,
"Question": "เมื่อบรรจุแก๊ส A₂ ความดัน 1.00 บรรยากาศ และ B₂ ความดัน 1.00 บรรยากาศ ที่อุณหภูมิ T เคลวิน จะเกิดปฏิกิริยา ดังสมการเคมี\n\nA₂(g) + B₂(g) ⇌ 2AB(g)\n\nพบว่าที่สมดุล แก๊ส AB มีความดัน 0.40 บรรยากาศ จากนั้นรบกวนสมดุลโดยการเพิ่มความดันของ A₂ อีก 0.20 บรรยากาศ ถ้าทุกแก๊สในปฏิกิริยาเป็นแก๊สอุดมคติ ที่สมดุลใหม่ ความเข้มข้นของ AB และค่าคงที่สมดุลของปฏิกิริยาในข้อใดถูกต้อง",
"Choices": {
"A": "ความเข้มข้นของ AB มากกว่า 0.40/RT ค่าคงที่สมดุล 0.16",
"B": "ความเข้มข้นของ AB มากกว่า 0.40/RT ค่าคงที่สมดุล 0.25",
"C": "ความเข้มข้นของ AB มากกว่า 0.40/RT ค่าคงที่สมดุล 0.44",
"D": "ความเข้มข้นของ AB น้อยกว่า 0.40/RT ค่าคงที่สมดุล 0.25",
"E": "ความเข้มข้นของ AB น้อยกว่า 0.40/RT ค่าคงที่สมดุล 0.44"
},
"Answer": "B"
},
{
"No": 15,
"Question": "หินปูน (CaCO₃) สลายตัวภายในภาชนะปิดที่อุณหภูมิสูงได้ปูนขาว (CaO) และแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ดังสมการเคมี:\n\nCaCO₃(s) ⇌ CaO(s) + CO₂(g) ΔH = +178 กิโลจูลต่อโมล\n\nเมื่อปฏิกิริยานี้เข้าสู่สมดุลแล้ว ผลของการกระทำหรือการรบกวนสมดุลในข้อใดถูกต้อง",
"Choices": {
"A": "การบดหินปูนจะทำให้ค่าคงที่สมดุลของปฏิกิริยานี้เพิ่มขึ้น",
"B": "การเติมตัวเร่งปฏิกิริยาจะทำให้เกิดปฏิกิริยาไปข้างหน้าเพิ่มขึ้น",
"C": "การเพิ่มอุณหภูมิให้ระบบจะทำให้ค่าคงที่สมดุลของปฏิกิริยานี้เพิ่มขึ้น",
"D": "การลดปริมาตรภาชนะจะทำให้ความเข้มข้นของ CO₂ ที่สมดุลใหม่เพิ่มขึ้น",
"E": "การดูดแก๊สบางส่วนออกจะทำให้ความเข้มข้นของ CO₂ ที่สมดุลใหม่เพิ่มขึ้น"
},
"Answer": "C"
}
,
{
"No": 17,
"Question": "สารประกอบอินทรีย์ 3 ชนิด ได้แก่ A B และ C ที่ไม่ทำปฏิกิริยากัน และไม่ทำปฏิกิริยากับน้ำ ทดลองโดยนำน้ำของผสมระหว่าง A B และ C มาผสมกับน้ำ จากนั้นเขย่าแล้วตั้งไว้ 3 นาที เกิดการแยกชั้น โดยในชั้นของสารประกอบอินทรีย์พบสาร B และ C ซึ่งเมื่อนำชั้นของสารประกอบอินทรีย์นี้มาให้ความร้อนที่อุณหภูมิหนึ่งพบว่าสาร B ระเหยออกไปจนเหลือแค่สาร C สาร A B และ C ในข้อใดสามารถให้ผลที่สอดคล้องกับการทดลองข้างต้นได้",
"Choices": {
"A": "propan-1-ol, octan-1-ol, octane",
"B": "propan-1-ol, octane, octan-1-ol",
"C": "octane, octan-1-ol, propan-1-ol",
"D": "octane, octan-1-ol, propan-1-ol",
"E": "octan-1-ol, octane, propan-1-ol"
},
"Answer": "B"
},
{
"No": 19,
"Question": "สาร A เกิดปฏิกิริยาไฮโดรลิซิสในกรดได้สาร P และสาร Q โดยสาร Q สามารถเปลี่ยนสีกระดาษลิตมัสจากสีน้ำเงินเป็นสีแดงได้ สาร P สามารถเตรียมได้จากปฏิกิริยาระหว่างสาร R กับ KMnO₄ และสาร R จำนวน 1 โมล จะเกิดปฏิกิริยาพอดีกับ Br₂ จำนวน 1 โมล ในที่มืด ได้สาร S ดังแผนภาพ: สาร A เมื่อเกิดปฏิกิริยาไฮโดรลิซิสในกรดจะแตกตัวให้สาร P และสาร Q จากนั้นสาร P จะเกิดปฏิกิริยากับสาร R ที่ทำปฏิกิริยากับ KMnO₄ และสุดท้ายสาร R จะทำปฏิกิริยากับ Br₂ ในที่มืด ให้ผลิตภัณฑ์เป็นสาร S",
"Choices": {
"A": "ถ้าสาร A เกิดปฏิกิริยาไฮโดรลิซิสในเบส จะยังได้สาร P เป็นผลิตภัณฑ์",
"B": "ถ้านำสาร Q ไปทำปฏิกิริยากับเอมีนที่อุณหภูมิสูงจะได้สารประกอบประเภทเอไมด์",
"C": "ถ้านำ Oxalamide (H₂NOC-CONH₂) มาทำปฏิกิริยาไฮโดรลิซิสในกรดจะยังได้ผลิตภัณฑ์เป็นสาร Q",
"D": "ปฏิกิริยาระหว่างสาร R กับ KMnO₄ ได้ผลิตภัณฑ์เป็นสาร P และตะกอนสีน้ำตาล",
"E": "สาร S มีสูตรโครงสร้าง คือ BrCH₂CH(CH₃)CH(CH₃)CH₂Br"
},
"Answer": "E"
}
,
{
"No": 20,
"Question": "เมื่อนำไขมันชนิดหนึ่งมาทำปฏิกิริยาทรานส์เอสเทอร์ริฟิเคชันกับเมทานอล ได้ผลิตภัณฑ์เป็นกลีเซอรอลและไบโอดีเซล 2 ชนิด ที่มีสูตรเคมีเป็น C₁₉H₃₈O₂ และ C₁₇H₃₄O₂ ข้อใดเป็นสูตรโครงสร้างที่เป็นไปได้ของไขมันที่ใช้ในปฏิกิริยานี้",
"Choices": {
"A": "CH₃-(CH₂)₁₄-C(=O)-O-CH₂-CH₂-CH₂-O-C(=O)-(CH₂)₁₆-CH₃",
"B": "CH₃-(CH₂)₁₇-C(=O)-O-CH₂-CH₂-CH₂-O-C(=O)-(CH₂)₁₅-CH₃",
"C": "CH₃-(CH₂)₁₅-C(=O)-O-CH₂-CH-CH₂-O-C(=O)-(CH₂)₁₇-CH₃, O-C(=O)-(CH₂)₁₇-CH₃",
"D": "CH₃-(CH₂)₁₆-C(=O)-O-CH₂-CH-CH₂-O-C(=O)-(CH₂)₁₄-CH₃, O-C(=O)-(CH₂)₁₆-CH₃"
},
"Answer": "D"
}
,
{
"No": 23,
"Question": "ในปัจจุบัน บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้านิยมใช้แบตเตอรี่ลิเทียมไอออนประเภทที่มี LiFePO₄ เป็นแคโทด เนื่องจากมีต้นทุนการผลิตต่ำและมีความปลอดภัยสูง โดยปฏิกิริยาเคมีขั้นตอนสุดท้ายในการสังเคราะห์แคโทดชนิดนี้ เป็นดังสมการเคมี:\n\n24FePO₄·2H₂O + 12Li₂CO₃ + C₆H₁₂O₆ ⇌ 24LiFePO₄ + 18CO₂ + 54H₂O\n\nข้อใดระบุตัวรีดิวซ์และตัวออกซิไดส์ของปฏิกิริยาข้างต้นได้ถูกต้อง",
"Choices": {
"A": "C₆H₁₂O₆, Li₂CO₃",
"B": "C₆H₁₂O₆, FePO₄·2H₂O",
"C": "Li₂CO₃, FePO₄·2H₂O",
"D": "FePO₄·2H₂O , Li₂CO₃",
"E": "FePO₄·2H₂O , C₆H₁₂O₆"
},
"Answer": "B"
},
{
"No": 24,
"Question": "พิจารณาสมการรีดอกซ์ต่อไปนี้\n\nXeF₆ + OH⁻ → Xe + XeO₆⁴⁻ + F⁻ (สมการยังไม่ดุล)\n\nดุลสมการโดยวิธีครึ่งปฏิกิริยาในภาวะเบส ให้ได้สมการรีดอกซ์ที่ดุลแล้ว ทุกสารมีเลขสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็มที่น้อยที่สุด ซึ่งมีครึ่งปฏิกิริยาที่เกี่ยวข้องดังนี้\n\nครึ่งปฏิกิริยาที่ 1: XeF₆ → Xe + F⁻\nครึ่งปฏิกิริยาที่ 2: XeF₆ + OH⁻ → XeO₆⁴⁻ + F⁻\n\nข้อใดไม่ถูกต้อง",
"Choices": {
"A": "ครึ่งปฏิกิริยาที่ 1 เป็นครึ่งปฏิกิริยารีดักชัน",
"B": "XeF₆ ในครึ่งปฏิกิริยาที่ 2 ทำหน้าที่เป็นตัวรีดิวซ์",
"C": "สมการรีดอกซ์ที่ดุลแล้ว มีเลขสัมประสิทธิ์ของ H₂O เท่ากับ 6",
"D": "สมการรีดอกซ์ที่ดุลแล้ว ผลรวมของเลขสัมประสิทธิ์ทั้งหมดเท่ากับ 86",
"E": "สมการรีดอกซ์ที่ดุลแล้ว มีการถ่ายโอนอิเล็กตรอนทั้งหมด 6 อิเล็กตรอน"
},
"Answer": "C"
}
,
{
"No": 25,
"Question": "กำหนดค่าศักย์ไฟฟ้ามาตรฐานของครึ่งเซลล์รีดักชันดังต่อไปนี้ โดย A, D และ G เป็นธาตุสมมติ\n\n2H₂O(l) + 2e⁻ → H₂(g) + 2OH⁻(aq) E° = -0.83 V\nO₂(g) + 4H⁺(aq) + 4e⁻ → 2H₂O(l) E° = +1.23 V\nA²⁺(aq) + 2e⁻ → A(s) E° = +0.30 V\nD⁺(aq) + e⁻ → D(s) E° = -1.10 V\nG(s) + 2e⁻ → G²⁻(aq) E° = +1.50 V\n\nหากนำสารละลายผสมที่ประกอบด้วย A²⁺ 1.0 โมลาร์, D⁺ 1.0 โมลาร์ และ G²⁻ 1.0 โมลาร์ ในน้ำไปแยกสลายด้วยไฟฟ้า โดย A²⁺, D⁺ และ G²⁻ ไม่ทำปฏิกิริยากัน ผลิตภัณฑ์ชนิดใดเกิดขึ้นที่แคโทด และต้องใช้แหล่งกำเนิดไฟฟ้าที่มีอีเอ็มเอฟอย่างน้อยเท่าใด",
"Choices": {
"A": "A(s), 0.93 V",
"B": "A(s), 1.20 V",
"C": "D(s), 0.13 V",
"D": "D(s), 0.40 V",
"E": "G(s), 1.20 V"
},
"Answer": "A"
}
,
{
"No": 26,
"Question": "กำหนดค่าศักย์ไฟฟ้ามาตรฐานของครึ่งเซลล์รีดักชัน ดังตาราง\n\n| ปฏิกิริยาครึ่งเซลล์รีดักชัน | E° (V) |\n|------------------------------------------|--------|\n| Na⁺(aq) + e⁻ → Na(s) | -2.71 |\n| Sn²⁺(aq) + 2e⁻ → Sn(s) | -0.14 |\n| Ag⁺(aq) + e⁻ → Ag(s) | +0.80 |\n| Br₂(l) + 2e⁻ → 2Br⁻(aq) | +1.07 |\n| Cl₂(l) + 2e⁻ → 2Cl⁻(aq) | +1.36 |\n\nพิจารณาสารต่อไปนี้:\n\nก. AgNO₃(aq)\nข. NaNO₃(aq)\nค. Cl₂(g)\nง. SnBr₂(aq)\n\nเมื่อบรรจุสารในภาชนะที่ทำจากดีบุก (Sn) สารใดไม่ทำให้ภาชนะที่ทำจากดีบุกผุกร่อน",
"Choices": {
"A": "ก. เท่านั้น",
"B": "ข. เท่านั้น",
"C": "ก. และ ค. เท่านั้น",
"D": "ข. และ ง. เท่านั้น",
"E": "ข. ค. และ ง. เท่านั้น"
},
"Answer": "D"
}
,
{
"No": 27,
"Question": "ข้อใดเป็นสารที่ไม่สามารถแสดงสมบัติเป็นทั้งคู่กรดและคู่เบสได้",
"Choices": {
"A": "H₂O",
"B": "HSO₃⁻",
"C": "H₂PO₄⁻",
"D": "HCOO⁻",
"E": "H₃N⁺CH₂COO⁻"
},
"Answer": "D"
}
,
{
"No": 28,
"Question": "กำหนดให้ A, X, และ Z เป็นธาตุสมมติ\n\nHA(aq) + H₂O(l) → A⁻(aq) + H₃O⁺(aq)\nHX(aq) + H₂O(l) ⇌ X⁻(aq) + H₃O⁺(aq) Kₐ = 1.0 x 10⁻⁵\nZ⁻(aq) + H₂O(l) ⇌ HZ⁻(aq) + OH⁻(aq) K_b = 1.0 x 10⁻⁴\n\nพิจารณาสารละลาย 3 ชนิด ได้แก่:\n1. [HZ]A 1.0 โมลาร์\n2. [HZ]X 1.0 โมลาร์\n3. NaX 1.0 โมลาร์\n\nข้อใดเรียงลำดับสารละลายข้างต้นที่มี pH จากมากไปน้อยได้ถูกต้อง",
"Choices": {
"A": "[HZ]X, [HZ]A, NaX",
"B": "[HZ]A, [HZ]X, NaX",
"C": "NaX, [HZ]A, [HZ]X",
"D": "[HZ]X, NaX, [HZ]A",
"E": "NaX, [HZ]X, [HZ]A"
},
"Answer": "E"
},
{
"No": 29,
"Question": "ปฏิกิริยาสะเทินระหว่างกรดบอริก (H₃BO₃) และสารละลาย NaOH เป็นดังสมการเคมี\n\nH₃BO₃(aq) + NaOH(aq) ⇌ H₂O(l) + NaH₂BO₃(aq)\n\nถ้าในปฏิกิริยาสะเทินนี้ใช้ NaOH 1.00 โมลาร์ ปริมาตร 70.00 มิลลิลิตร เพื่อทำปฏิกิริยาที่พอดีกันกับกรดบอริก ปริมาตร 30.00 มิลลิลิตร ที่จุดสมมูลนี้จะมี pH เท่าใด\n\nกำหนดให้กรดบอริก มีค่า Kₐ₁ = 7.00 x 10⁻¹⁰ และใช้ค่า Kₐ₁ เท่านั้นในการคำนวณ",
"Choices": {
"A": "2.50",
"B": "4.65",
"C": "9.15",
"D": "9.35",
"E": "11.50"
},
"Answer": "E"
}
,
{
"No": 30,
"Question": "นักเรียนคนหนึ่งทดลองเปรียบเทียบปริมาณน้ำตาลของผลไม้ชนิดต่าง ๆ ตามขั้นตอนดังนี้\n\nI. ชั่งผลไม้ 10.00 กรัม ด้วยเครื่องชั่งทศนิยม 3 ตำแหน่ง\nII. ตวงน้ำกลั่นปริมาตร 100.00 มิลลิลิตร ด้วยบีกเกอร์ แล้วเทผสมกับผลไม้ จากนั้นปั่นและกรองด้วยผ้าขาวบาง\nIII. ตวงสารละลายที่ได้จากขั้นตอนที่ II. ปริมาตร 5.00 มิลลิลิตร ลงในหลอดทดลองด้วยปิเปตต์\nIV. เติมสารละลายเบเนดิกต์ปริมาตร 1.00 มิลลิลิตร จากบิวเรตต์ลงไปในหลอดทดลองจากขั้นตอนที่ III. จากนั้นจับเวลาที่ใช้จนกระทั่งมีตะกอนเกิดขึ้น และทดลองซ้ำโดยเปลี่ยนชนิดผลไม้แล้วเปรียบเทียบเวลาที่ใช้ในการตกตะกอน\n\nขั้นตอนใดเลือกใช้อุปกรณ์วัดปริมาณสารที่ไม่ละเอียดเพียงพอกับข้อมูลที่ต้องการวัด",
"Choices": {
"A": "I. เท่านั้น",
"B": "II. เท่านั้น",
"C": "IV. เท่านั้น",
"D": "I. และ II. เท่านั้น",
"E": "II. และ IV. เท่านั้น"
},
"Answer": "B"
},
{
"No": 31,
"Question": "ของเหลวชนิดหนึ่งมีสูตร CₓHᵧO_z โดยมีร้อยละโดยมวลของธาตุคาร์บอนและไฮโดรเจนเท่ากับ 54.54 และ 9.09 ตามลำดับ ถ้านำของเหลวนี้มวล 352.0 กรัม มาทำให้เป็นไอทั้งหมดจะมีปริมาตร 89.60 ลิตร ที่ STP ค่าของ x + y + z เป็นเท่าใด",
"Choices": {},
"Answer": "14"
}
,
{
"No": 33,
"Question": "พิจารณาข้อความเกี่ยวกับธาตุสมมติ ᵃₓX และ ᵇₓY ต่อไปนี้\n\nก. X³⁺ มีจำนวนอิเล็กตรอนเท่ากับจำนวนอิเล็กตรอนของแก๊สมีตระกูลที่มีเวเลนซ์อิเล็กตรอนอยู่ในระดับพลังงานที่ 3\nข. Y เป็นไอโซโทปของ X โดย Y มีจำนวนโปรตอนเท่ากับจำนวนนิวตรอน\n\nค่าของ c + d เป็นเท่าใด",
"Choices": {},
"Answer": "63"
}
,
{
"No": 34,
"Question": "เตรียมสารละลายสำหรับทำความสะอาดหินปูนที่เกาะบนกระจก 2 ขวด โดยขวดที่ 1 นำสารละลายกรดแอซีติกเข้มข้น 1.00 โมลาร์ ปริมาตร 90.0 มิลลิลิตร มาเติมน้ำจนมีปริมาตร 2.00 ลิตร ถ้าต้องการเตรียมสารละลายขวดที่ 2 ปริมาตร 5.00 ลิตร ให้มีค่า pH เท่ากับขวดที่ 1 โดยใช้สารละลายกรดไฮโดรคลอริกเข้มข้นร้อยละ 7.30 โดยมวลต่อปริมาตร แทนกรดแอซีติก จะต้องใช้สารละลายกรดไฮโดรคลอริกกี่มิลลิลิตร\n\nกำหนดให้ Kₐ ของกรดแอซีติก = 1.80 x 10⁻⁵\nมวลต่อโมลของกรดแอซีติกเท่ากับ 60.0 กรัมต่อโมล\nมวลต่อโมลของกรดไฮโดรคลอริกเท่ากับ 36.5 กรัมต่อโมล",
"Choices": {},
"Answer": "2.25 ML"
}
,
{
"No": 35,
"Question": "แก๊สไนตรัสออกไซด์ (N₂O) เป็นแก๊สที่ใช้ทำวิปครีมสำหรับฉีดบนอาหารหรือเครื่องดื่ม โดยมีขั้นตอนการเตรียมวิปครีมดังนี้\n\nขั้นที่ 1: เทครีมซึ่งเป็นของเหลวสีขาว 500.0 มิลลิลิตร ลงในกระป๋องเปล่าซึ่งมีปริมาตร 910.5 มิลลิลิตร และปิดฝากระป๋องจนแน่นสนิท\nขั้นที่ 2: เติมแก๊ส N₂O มวล 8.80 กรัม ลงในกระป๋อง\nขั้นที่ 3: เขย่ากระป๋องให้แก๊ส N₂O กับครีมผสมเป็นเนื้อเดียวกัน ได้เป็นวิปครีม\n\nที่อุณหภูมิ 27 องศาเซลเซียส ความดันของแก๊ส N₂O ในกระป๋องวิปครีมเท่ากับกี่บรรยากาศ\n\nกำหนดให้ แก๊ส N₂O ไม่ละลายในครีมและไม่ทำปฏิกิริยากับสารในครีม ขณะทำวิปครีมของเหลวมีปริมาตรไม่เปลี่ยนแปลง",
"Choices": {},
"Answer": "12 atm"
}
]