date
stringlengths
12
13
title
stringlengths
20
290
text
stringlengths
9
61.3k
20 พ.ค. 2566
โอกาสทองแรงงานไทยไปทำงานออสเตรเลีย หลังผลเจรจาคืบหน้า
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยความคืบหน้าจากการเดินทางเยือนประเทศออสเตรเลีย เมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ว่า ขณะนี้ประเทศออสเตรเลียมีความต้องการหาคนไปทำงานในกิจการน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ตำแหน่งช่างทำหม้อน้ำ ช่างเชื่อม จำนวนมาก และพร้อมจ่ายค่าจ้างในอัตราสูง ประมาณ 130,000 บาทต่อเดือน นายจ้างมีที่พักให้ และยังมีสวัสดิการตามกฎหมายของออสเตรเลียด้วย ซึ่งแรงงานไทยเป็นแรงงานที่มีคุณภาพ ขยันทำงาน อดทน เรียนรู้งานได้รวดเร็ว ที่สำคัญมีทักษะและความสามารถตรงกับความต้องการของนายจ้างออสเตรเลีย โดยเฉพาะช่างเชื่อมไทยเป็นช่างที่มีทักษะฝีมือการทำงานขั้นสูง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจและเป็นโอกาส จึงกำชับอธิบดีกรมการจัดหางานให้ติดตามเรื่องการขยายตลาดแรงงานไทยในออสเตรเลียอย่างใกล้ชิด เพื่ออำนวยความสะดวกให้แรงงานไทยสามารถเดินทางไปทำงานได้อย่างถูกต้อง และได้รับสวัสดิการที่ดี ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า ล่าสุด คณะนายจ้าง บริษัท MACH NATIONAL Pty Ltd. จากประเทศออสเตรเลียได้เข้าพบเพื่อหารือความเป็นไปได้ในการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานก่อสร้าง ซึ่งทางคณะนายจ้างแจ้งความต้องการคนหางานไปทำงานในตำแหน่ง ช่างทำหม้อน้ำ/ช่างเชื่อม จำนวน 250 คน อัตราค่าจ้าง 5,763 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือคิดเป็นเงินไทย 131,326 บาทต่อเดือน พร้อมค่าล่วงเวลาตามกฎหมายของออสเตรเลีย โดยมีสัญญาจ้างครั้งละ 6 เดือน ต่ออายุได้ไม่เกิน 1 ปี จัดหาที่พักให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย จ่ายค่าโดยสารเครื่องบินขากลับให้ เมื่อทำงานครบสัญญาจ้าง และมีสวัสดิการตามที่กฎหมายออสเตรเลียกำหนดอธิบดีกรมการจัดหางาน ย้ำว่า ผู้สนใจทำงานต่างประเทศ ตรวจสอบข้อมูลของบริษัทจัดหางานให้รอบคอบก่อน เพื่อป้องกันมิให้คนหางานถูกหลอกลวงจากกลุ่มมิจฉาชีพ โดยสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ หรือที่กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ โทร. 02 245 6713 หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694 หรือที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 กรมการจัดหางาน
20 พ.ค. 2566
กปภ. ปลูกป่าเทิดพระเกียรติ เพิ่มพื้นที่สีเขียว สร้างความอุดมสมบูรณ์ให้กับป่าต้นน้ำ
นายวิบูลย์ วงสกุล ผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค หรือ กปภ. เปิดเผยว่า กปภ. ดำเนินโครงการ “กปภ. ปลูกป่าเพื่อแผ่นดิน เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (Father’s Land) ปี 2566 เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวและความอุดมสมบูรณ์ให้กับผืนป่าต้นน้ำ นำร่องจัดกิจกรรมปลูกป่าที่แรก ณ บ้านป่าสักงาม อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำดิบที่สำคัญของ กปภ. โดยได้รับการสนับสนุนต้นไม้ยืนต้นจากกรมป่าไม้ จำนวน 200 ต้น เช่น ยางนา พะยอม มะค่าโมง ปีบ แคนา กระทุ่มบกทรงบาดาล ขี้เหล็กบ้าน ส้มเขียวหวาน ขนุน และมะขามยักษ์ นอกจากนี้ กปภ. ทั้ง 234 สาขาทั่วประเทศ จะร่วมกันดำเนินโครงการปลูกป่าเพื่อแผ่นดินฯ โดยการปลูกต้นไม้ทั่วทุกพื้นที่รับผิดชอบของ กปภ. เพื่ออนุรักษ์ป่าไม้ให้อยู่คู่กับชุมชน พร้อมเชิญชวนประชาชน มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ ด้วยการช่วยดูแลรักษาและสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับประเทศและโลกได้อย่างยั่งยืนต่อไป
20 พ.ค. 2566
เทศกาลทุเรียนและผลไม้ภาคตะวันออก เน้นส่งเสริมการตลาดและขยายตลาดของสินค้าวิสาหกิจชุมชนถึงผู้บริโภค
นายกฤษ อุตตมะเวทิน รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ภาคตะวันออกเป็นแหล่งผลิตผลไม้คุณภาพที่สำคัญของประเทศ โดยเฉพาะผลไม้เศรษฐกิจอย่าง ทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกอง โดยผลผลิตส่วนใหญ่ส่งออกไปต่างประเทศประมาณร้อยละ 60 ซึ่งมีประเทศคู่ค้าที่สำคัญคือ สาธารณรัฐประชาชนจีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน และประเทศแถบอเมริกาและยุโรป เนื่องจากผลไม้ตะวันออกเป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภค จากรสชาติที่ดี มีคุณภาพ มีระบบการผลิตที่ได้มาตรฐานและปลอดภัย ซึ่งเป็นผลสำเร็จจากการบริหารจัดการที่มีระบบการผลิตที่ดีและการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ประกอบกับในช่วงเดือนพฤษภาคมของทุกปี จะมีผลผลิตส่วนใหญ่ออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก จึงต้องมีการส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการจำหน่ายแบบออนไลน์ ออฟไลน์ การจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและการจัดงานประชาสัมพันธ์ เพื่อเป็นกลไกสำคัญช่วยกระจายผลผลิตจากเกษตรกรไปสู่ผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น กรมส่งเสริมการเกษตร โดยสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 3 จังหวัดระยอง จัดงาน Durian and Eastern Fruits Fest เทศกาลทุเรียนและผลไม้ภาคตะวันออก ระหว่างวันที่ 18-21 พฤษภาคมนี้ ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลอยุธยา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อส่งเสริมการบริโภคทุเรียนและผลไม้ภาคตะวันออกคุณภาพดีให้กับผู้บริโภค ประชาสัมพันธ์ความหลากหลายของสายพันธุ์ทุเรียน และผลไม้เอกลักษณ์พิเศษเฉพาะถิ่นภาคตะวันออก ส่งเสริมการตลาดและขยายตลาดของสินค้าวิสาหกิจชุมชนและแม่บ้านเกษตรกรภาคตะวันออกให้ถึงกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึง สำหรับสถานการณ์ไม้ผลภาคตะวันออกปัจจุบันในพื้นที่จังหวัดระยอง จันทบุรี ตราด โดยทุเรียน คาดการณ์ปริมาณผลผลิต 782,942 ตัน มีผลผลิตที่เก็บเกี่ยวแล้ว 540,650 ตัน เหลือผลผลิตที่ยังไม่ได้เก็บเกี่ยว 242,292 ตัน
20 พ.ค. 2566
ต่างชาติเชื่อมั่นศักยภาพของประเทศไทย 4 เดือนแรกปีนี้ ต่างชาติเข้ามาลงทุน 217 ราย เม็ดเงินลงทุนกว่า 38,000 ล้านบาท
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากมาตรการส่งเสริมการลงทุนของรัฐบาล โดยให้สิทธิประโยชน์จูงใจกระตุ้นให้เกิดการลงทุน ประกอบกับความพร้อมเรื่องวัตถุดิบที่มีอย่างเพียงพอและมีอุตสาหกรรมสนับสนุนพร้อม ทำให้ต่างชาติมีความเชื่อมั่นศักยภาพของประเทศไทยและยังเป็นเป้าหมายการลงทุนของต่างชาติ ซึ่งจากข้อมูลในช่วง 4 เดือนของปี 2566 (ม.ค.-เม.ย.) มีการอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย ภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 จำนวน 217 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 เป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 69 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 148 ราย เม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 38,702 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 จ้างงานคนไทย 2,419 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 โดยชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุน 5 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ สหรัฐฯ จีน สมาพันธรัฐสวิสและอื่นๆสำหรับธุรกิจที่ได้รับอนุญาตในช่วง 4 เดือน ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจที่สอดคล้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ นโยบายการส่งเสริมการลงทุนเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ส่วนการลงทุนในพื้นที่ EEC ของนักลงทุนต่างชาติ ในช่วง 4 เดือน มีนักลงทุนต่างชาติสนใจลงทุนในพื้นที่ EEC จำนวน 43 ราย คิดเป็นร้อยละ 20 ของจำนวนนักลงทุนทั้งหมด มีมูลค่าการลงทุนในพื้นที่ EEC จำนวน 7,521 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 19 ของเงินลงทุนทั้งหมด เป็นนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น 17 ราย ลงทุน 2,816 ล้านบาท จีน 8 ราย ลงทุน 725 ล้านบาท ฮ่องกง 3 ราย ลงทุน 2,920 ล้านบาท และประเทศอื่นๆ อีก 15 ราย ลงทุน 1,058 ล้านบาท
20 พ.ค. 2566
ยูเนสโกรับรองโคราชจีโอพาร์ค เป็นอุทยานธรณีโลก ทำให้จังหวัดนครราชสีมาเป็นเมืองที่ 4 ของโลกที่มีดินแดนแห่ง 3 มงกุฎของยูเนสโก
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก (UNESCO) รับรองให้ โคราชจีโอพาร์ค (KHORAT Geopark) จังหวัดนครราชสีมา เป็นอุทยานธรณีโลก (UNESCO Global Geopark) เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2566 ถือเป็นอุทยานธรณีโลกแห่งที่ 2 ของประเทศไทย และทำให้ไทยสร้างอีกประวัติศาสตร์ จังหวัดนครราชสีมา เป็นเมืองแห่ง 3 มงกุฎ หรือทริปเปิลคราวน์ (Triple Crown) ถือเป็นเมืองที่ 4 ของโลก ต่อจากอิตาลี เกาหลีใต้ และจีน ที่มีดินแดนแห่ง 3 มงกุฎของยูเนสโก ในจังหวัดเดียวกันโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ยูเนสโกได้ลงพื้นที่ตรวจประเมิน เก็บข้อมูลภาคสนาม ใน 17 แหล่งสำคัญของจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งผลการประชุมคณะกรรมการบริหารองค์การยูเนสโก ครั้งที่ 216 ณ องค์การยูเนสโก สำนักงานใหญ่ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส มีมติรับรองให้ โคราชจีโอพาร์ค เป็นอุทยานธรณีโลก และจะมีโปรแกรมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติของยูเนสโก ครบทั้ง 3 โปรแกรม ได้แก่ มรดกโลก (กลุ่มป่าดงพญาเย็นเขาใหญ่) มนุษย์และชีวมณฑล (พื้นที่สงวนชีวมณฑลป่าสะแกราช) และจีโอพาร์คโลก (โคราชจีโอพาร์ค)โคราชจีโอพาร์ค มีความแตกต่างจากจีโอพาร์คโลก ที่มีอยู่ 177 แห่งทั่วโลกคือ เป็นดินแดนแห่งเควสตาและฟอสซิล ที่เชื่อมโยงกับระบบนิเวศป่าเต็งรัง ป่าดิบแล้ง และวิถีชีวิตผู้คนกว่า 4,000 ปี ในพื้นที่ภูมิศาสตร์บริเวณลุ่มน้ำลำตะคองตอนกลางถึงตอนล่าง โดยพัฒนาต่อยอดและขยายจากสถาบันวิจัยและพิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหินและทรัพยากรธรณีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ที่ดำเนินโครงการในระยะแรก นับตั้งแต่ปี 2537
20 พ.ค. 2566
รัฐบาลเตือนประชาชน เฝ้าระวังป้องกันโรคไข้เลือดออกช่วงหน้าฝน ช่วยกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ช่วงนี้เข้าสู่ฤดูฝนทำให้หลายพื้นที่ของประเทศไทยเริ่มมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดน้ำขังตามภาชนะและวัสดุต่างๆ ซึ่งเป็นปัจจัยและแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายที่เป็นพาหะนำเชื้อไวรัสเดงกี (dengue virus) ที่ทำให้เกิดโรคไข้เลือดออกมาสู่คน โดยมักระบาดในช่วงฤดูฝนของทุกปี ขอเตือนให้ประชาชนป้องกันตนเองและครอบครัวจากโรคไข้เลือดออก โดยร่วมกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในบริเวณบ้าน โรงเรียน และชุมชน โดยยึดหลัก 3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค ตามข้อแนะนำของกรมควบคุมโรคคือ เก็บบ้าน เก็บขยะ และเก็บน้ำ ซึ่งจะทำให้สามารถป้องกันโรคไข้เลือดออกได้ รวมถึงป้องกันโรคไข้ปวดข้อยุงลายและโรคติดเชื้อไวรัสซิกาด้วย อีกทั้งขณะนี้เป็นช่วงของการเปิดภาคเรียน ทำให้เกิดการรวมตัวของกลุ่มเด็กนักเรียนในสถานศึกษาและบางพื้นที่เริ่มมีฝนตก ขอให้สถานศึกษา ศูนย์เด็กในชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันในการจัดสถานศึกษา ศูนย์เด็กเล็กในชุมชนให้มีความปลอดภัย ปราศจากแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายอันเป็นต้นเหตุของโรคไข้เลือดออก รวมทั้งขอให้ผู้ปกครองสังเกตอาการของบุตรหลานและคนในครอบครัว หากพบมีอาการไข้สูงเฉียบพลัน ร่วมกับปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว อาจมีจุดแดง เล็กๆ ขึ้นตามลำตัว แขน ขา คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง และเบื่ออาหาร โดยหากอาการไข้สูงเกิน 2 วัน เช็ดตัวหรือทานยาลดไข้แล้วไข้ไม่ลดลง ให้สันนิษฐานอาจป่วยด้วยโรคไข้เลือดออก ไม่ควรซื้อยาลดไข้ในกลุ่มแอสไพริน ไอบูโพรเฟนและไดโคลฟีแนค มารับประทาน และให้รีบนำผู้ป่วยไปพบแพทย์หรือสถานบริการสาธารณสุขที่อยู่ใกล้บ้าน เพื่อให้ได้รับการรักษาที่ถูกต้องรวดเร็ว จะช่วยลดโอกาสการเสียชีวิตได้ข้อมูลจากกรมควบคุมโรค รายงานสถานการณ์โรคไข้เลือดออกในประเทศไทย ในสัปดาห์ที่ 19 ระหว่างวันที่ 7 - 13 พฤษภาคม 2566 พบผู้ป่วยสะสมจำนวน 14,811 ราย มีผู้เสียชีวิต 13 ราย หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422
20 พ.ค. 2566
พบผู้ปกครองออกมาซื้อชุดนักเรียนน้อยลงกว่าทุกปี ประหยัด ซื้อเท่าที่จำเป็น
บรรยากาศที่ร้านน้อมจิตต์ สาขาบางกระบือ ผู้ผลิตและจำหน่ายชุดนักเรียนรายใหญ่ หนึ่งร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน Back To School พบว่าตั้งแต่ช่วงเช้า มีผู้ปกครองบางส่วนพาบุตรหลานใช้วันหยุดสุดสัปดาห์ออกมาซื้อชุดนักเรียนกันอย่างต่อเนื่อง ภายหลังเปิดภาคเรียนตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งทางร้านได้ให้ความร่วมมือกับกระทรวงกระทรวงพาณิชย์ตรึงราคา เพื่อช่วยเหลือประชาชนในช่วงเปิดภาคเรียน เช่นเดียวกับหนึ่งในประชาชนที่เลือกซื้อชุดสินค้ากล่าวว่าปีนี้ไม่ได้ซื้อชุดนักเรียน เนื่องจากลูกเรียนเป็นปีสุดท้ายวันนี้จึงมาซื้อเพียงถุงเท้าเท่านั้น ส่วนตัวมองว่าชุดนักเรียนมีราคาปรับขึ้นตลอด หากสามารถประหยัดได้จำเป็นต้องประหยัด โดยเฉพาะชุดลูกเสื้อ หากไม่จำเป็นมองว่าไม่ควรมี จะสามารถประหยัดได้ขึ้นมาในระดับหนึ่งขณะที่ร้านสหมิตรเซ็นเตอร์ ย่านบางกระบือ ถือเป็นร้านจำหน่ายซื้อผ้าชุดนักเรียนทุกรูปแบบขนาดใหญ่ พบว่าปีนี้ผู้ปกครองออกมาซื้อเสื้อผ้าน้อยกว่าทุกปี โดยเจ้าของร้าน กล่าวว่า ปีนี้ผู้ปกครองออกมาซื้อเสื้อผ้าน้อยกว่าทุกๆ ปี มองว่าประหยัดกันมากขึ้นและสั่งซื้อทางออนไลน์มากขึ้นด้วยสำหรับโครงการพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน Back To School ประชาชนสามารถเลือกซื้อสินค้าลดราคาได้ผ่านทางช่องทางออนไลน์ หรือแอปพลิเคชันของแต่ละร้านค้า รวมทั้งเลือกซื้อสินค้าทาง Shopee และ Lazada โดยทั้งสองแพลตฟอร์มนี้จัดให้มี Code ส่วนลดสำหรับโครงการนี้เป็นการเฉพาะ ไปจนถึงวันที่ 31 พ.ค. นี้
19 พ.ค. 2566
กรมการค้าภายใน รายงานสถานการณ์ราคาสินค้าในสัปดาห์นี้ มีทั้งปรับลดลงและทรงตัว พร้อมติดตามต้นทุนวัตถุดิบอย่างใกล้ชิด หลังราคาน้ำมันดีเซลปรับลดลง
ร้อยตรีจักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า สถานการณ์ราคาสินค้าในสัปดาห์นี้ มีทั้งปรับเพิ่มขึ้นและลดลง โดยกลุ่มเนื้อสัตว์ หมูเนื้อแดงราคาเฉลี่ยทั่วประเทศอยู่ที่ ก.ก. ละ 142 บาท ปรับลดลงจากเดือนก่อน ที่ราคา 151 บาทต่อกก. เนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เป็นผลดีต่อผู้บริโภค ส่วนไก่ราคาเฉลี่ยทั่วประเทศปรับขึ้นเล็กน้อย โดยไก่น่องติดสะโพก ราคาเฉลี่ย 78 บาทต่อกก. น่องไก่ 81 บาทต่อกก. สะโพกไก่ 84 บาทต่อกก. อกไก่ 77 บาทต่อกก. ซึ่งเป็นผลจากสภาพอากาศร้อน ทำให้ไก่โตช้า ความต้องการบริโภคเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามผลผลิตมีเพียงพอต่อความต้องการ และราคายังอยู่ภายในโครงสร้างที่กำกับดูแลสำหรับไข่ไก่ เบอร์ 3 ราคาเฉลี่ยทั่วประเทศฟองละ 3.91 บาท ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากสภาพอากาศร้อน ทำให้ไก่ออกไข่น้อยลง แต่ภาพรวมยังเพียงพอต่อความต้องการ และราคายังอยู่ในโครงการ คาดว่าผลผลิตจะออกมากขึ้นเมื่อเข้าสู่ช่วงหน้าฝน และราคาจะลดลง นอกจากนี้ สินค้าอุปโภคบริโภคหลายรายการ ภาพรวมทรงตัวและปรับลดลง เนื่องจากห้างได้จัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้าอย่างต่อเนื่อง โดยสินค้าที่ราคาทรงตัว เช่น ข้าวสารบรรจุถุง นมผง น้ำตาลทราย บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ครีมอาบน้ำ แชมพู ส่วนที่ราคาลดลง เช่น ปลากระป๋อง สบู่ก้อน น้ำยาล้างจาน และน้ำยาซักผ้า เป็นต้น ทั้งนี้ กรมฯ จะติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะต้นทุนวัตถุดิบ ซึ่งขณะนี้วัตถุดิบหลายรายการมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับลดลง และเงินบาทแข็งค่า มีผลทำให้ต้นทุนการนำเข้าลดลงด้วย
19 พ.ค. 2566
โครงการประกันรายได้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ งวดที่ 7 ไม่ต้องจ่ายส่วนต่างในงวดนี้ หลังราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ราคาปรับตัวสูงขึ้น เกษตรกรขายได้ราคาดี
นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ได้พิจารณาราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2565/66 งวดที่ 7 สำหรับเกษตรกรที่แจ้งวันคาดว่าจะเก็บเกี่ยวตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน ถึงวันที่ 19 พฤษภาคม 2566 โดยราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงของงวดที่ 7 กก.ละ 11.95 บาท ซึ่งมีราคาสูงกว่าราคาประกันที่ กก.ละ 8.50 บาท จึงไม่ต้องชดเชยส่วนต่างให้แก่เกษตรกรในงวดนี้ ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการฯ จะพิจารณากำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการฯ เป็นประจำเดือนละ 1 ครั้ง รวม 12 งวด จนถึงระยะเวลาสิ้นสุดการรับสิทธิ์ชดเชยตามโครงการฯ วันที่ 20 ตุลาคม 2566 สำหรับเกษตรกรที่มีวันเพาะปลูกตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2565 – 31 พฤษภาคม 2566 รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับสถานการณ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในตลาดต่างประเทศ กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ คาดการณ์ปริมาณผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของโลกปีนี้ จะมีปริมาณเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีปริมาณการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในบราซิล สหรัฐอเมริกา และอาร์เจนตินา โดยตั้งแต่เดือนเมษายน 2566 ราคาเสนอซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของผู้ส่งออกรายใหญ่ได้ลดลง จากผลผลิตที่เพิ่มขึ้นของบราซิล ซึ่งกดดันราคาทั่วโลก รวมถึงการยกเลิกการจัดส่งข้าวโพดไปยังประเทศจีนเป็นจำนวนมาก ทำให้อุปสงค์ข้าวโพดสหรัฐอ่อนตัวลง ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลของผู้แทนสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย ที่คาดการณ์ว่าราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ รวมถึงพืชทดแทนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เช่น ข้าวสาลีและข้าวบาร์เลย์ อาจจะปรับตัวลดลงแต่ยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไป
19 พ.ค. 2566
กรมการขนส่งทางบก ขอความร่วมมือผู้ประกอบการและพนักงานขับรถโดยสารและรถบรรทุก ปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยและขับรถด้วยความระมัดระวังช่วงฤดูฝน
นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ช่วงฤดูฝน ทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ลดลง กรมการขนส่งทางบก จึงขอความร่วมมือผู้ประกอบการกวดขันและกำชับพนักงานขับรถโดยสารและรถบรรทุกปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยและขับรถด้วยความระมัดระวังปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ก่อนออกปฏิบัติหน้าที่ต้องตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงและอุปกรณ์ส่วนควบของรถทุกครั้ง ในกรณีรถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ต้องใช้อุปกรณ์สำหรับยึดตู้บรรทุกสินค้า (Twist-Lock) ทุกคัน ให้ยึดมั่นคงแข็งแรงกับตัวรถและสามารถรับน้ำหนักบรรทุกได้โดยไม่เกิดความเสียหาย เพื่อป้องกันไม่ให้ตู้คอนเทนเนอร์บรรทุกสินค้าร่วงหล่น และตัวรถต้องติด GPS Tracking โดยผู้ประกอบการต้องติดตามการใช้รถของพนักงานขับรถอย่างเคร่งครัด หากพบมีการกระทำผิด เช่น พนักงานขับรถใช้ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ให้ดำเนินการแจ้งเตือนไปยังพนักงานขับรถทันที โดยศูนย์บริหารจัดการเดินรถระบบ GPS กรมการขนส่งทางบกและสำนักงานขนส่งจังหวัดทุกจังหวัดได้ดำเนินการกำกับ ดูแล ตรวจสอบตลอด 24 ชั่วโมงทั้งนี้หากพบพนักงานขับรถฝ่าฝืนกฎหมายหรือทำผิดจนเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงจะดำเนินการลงโทษผู้ฝ่าฝืนขั้นสูงสุดและมีโอกาสถูกพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับรถได้รวมถึงจะดำเนินการลงโทษเจ้าของรถและผู้ประกอบการตามกฎหมายต่อไป
19 พ.ค. 2566
หากมีร้านฝ่าฝืนขายกัญชาให้นักเรียนและผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ต้องถูกถอนใบอนุญาต
นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวถึงกรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ลงพื้นที่โรงเรียนเซนต์โยเซฟ คอนแวนต์ พบร้านกัญชา ตั้งอยู่ตรงข้ามโรงเรียน ว่า เรื่องนี้ ทางกรมการแพทย์แผนไทยฯ ได้รับการร้องเรียนเมื่อวาน (18 พ.ค.66) และวันนี้ (19 พ.ค.66) ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปตรวจสอบแล้วพบว่า ร้านปิด ทั้งนี้ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ. 2565 มีเงื่อนไขและให้อำนาจ เรื่องห้ามการจำหน่ายให้กับเด็กนักเรียน และผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี หากฝ่าฝืนต้องเพิกถอนใบอนุญาต ดังนั้นร้านที่ขออนุญาตต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย ต้องมีการทำรายงานการซื้อขายกัญชา ส่งมากับมายังกรมการแพทย์แผนไทยฯ ด้วย โดยต้องระบุ อีเมลของผู้ซื้อกัญชา ซึ่งเรื่องนี้พึ่งมีการบังคับใช้ไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ส่วนเรื่องที่มีร้านกัญชาอยู่ตรงข้ามสถานศึกษานั้น อยากให้เข้าใจว่าเดิมมีเสนอเรื่องการจัดโซนนิ่งกัญชา แต่เรื่องยังคงค้างอยู่ในสภา หากรัฐบาลชุดใหม่เห็นควร ว่า ควรมีโซนนิ่ง ก็คงมีการเร่งพิจารณา หรือหากจะยกเลิก ก็แล้วแต่รัฐบาลชุดใหม่ ส่วนกรณีที่นายชูวิทย์ ขู่จะให้รัฐบาลชุดใหม่เล่นงาน ทั้งปลัดและอธิบดี ที่เกี่ยวข้องกับกัญชานั้น มองว่า คนที่จะมาเป็นรัฐมนตรี มีวุฒิภาวะและวิจารณญาณมากพอ เข้าใจการปฏิบัติของข้าราชการว่าปฏิบัติตามบทบาทและนโยบายของรัฐบาลและรัฐมนตรี
19 พ.ค. 2566
กรมปศุสัตว์ เร่งขับเคลื่อนปฎิบัติการหมูสะอาด จัดระบบการเลี้ยงสุกรตลอดห่วงโซ่รักษาเสถียรภาพราคาสุกร
นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยหลังเป็นประธานการประชุมคณะทำงานพัฒนาด้านสุกร ว่า ที่ประชุมมีการรายงานสรุปข้อมูลจำนวนสุกรและเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร สถานการณ์โรคที่สำคัญในสุกร ศูนย์ผลิตน้ำเชื้อสุกรมาตรฐาน มาตรฐานฟาร์มภาคบังคับและข้อมูลฟาร์มมาตรฐานสุกร และมีการรายงานสถานการณ์การผลิต ต้นทุนการผลิต การตลาดในสุกร เปรียบเทียบ ปี 2564 -2566 นอกจากนี้ ได้พิจารณาเกี่ยวกับข้อมูลด้านสุกรที่สำคัญ ระบบหรือขั้นตอนการรายงานข้อมูลด้านสุกร รวมถึงหารือมาตรการเพื่อพัฒนางานด้านสุกรทั้งระบบ อาทิเช่น มาตรการป้องกันการลักลอบนำเข้าเนื้อและชิ้นส่วนสุกร มาตรการตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายต่อสถานที่ตัดแต่งหรือสถานที่จำหน่ายเนื้อและชิ้นส่วนสุกรลักลอบนำเข้า มาตรการควบคุมการเคลื่อนย้ายสุกรมีชีวิตและซาก มาตรการการลงเลี้ยงใหม่ มาตรฐานฟาร์มสุกรภาคบังคับ มาตรการลดต้นทุนอาหารสัตว์ มาตรการด้านโรงฆ่าสัตว์และการขนส่งสุกรมีชีวิตและซากเป็นต้นเป้าหมายการประชุมครั้งนี้ เพื่อจัดวางระบบฐานข้อมูล หรือ Big Data และจัดวางบทบาทหน้าที่ของหน่วยงานในสังกัดกรมปศุสัตว์เพื่อบูรณาการภารกิจ รวมถึงจัดวางระบบข้อมูลที่สำคัญ รองรับภารกิจการขับเคลื่อนปฏิบัติการหมูสะอาด ที่มีเป้าหมายในการควบคุม เฝ้าระวังโรคระบาด ควบคู่กับการรักษาเสถียรภาพราคาสุกร โดยมุ่งหวังให้เกษตรกรเลี้ยงและขายสุกรได้ในราคาที่พออยู่ได้ไม่ขาดทุนอย่างมีเสถียรภาพ ซึ่งกรมปศุสัตว์จะมีการขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุดต่อไป
19 พ.ค. 2566
ประชาชนตรวจสอบยอดเงินค่าไฟฟ้าเดือนพฤษภาคมนี้ หากชำระบิลค่าไฟแล้ว จะคืนส่วนลดให้เดือนถัดไป
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติเห็นชอบให้ดำเนินการมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนจากสถานการณ์ราคาพลังงานที่ได้รับผลกระทบจากราคาไฟฟ้า ตามที่คณะรัฐมนตรีโดยให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าต่อเนื่อง 4 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2566 แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน และส่วนลดค่าไฟฟ้า (เพิ่มเติม) สำหรับงวดเดือนพฤษภาคม 2566 จำนวน 150 บาทต่อราย ให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 500 หน่วยต่อเดือน ทั้งนี้กำหนดให้เป็นส่วนลดค่าไฟฟ้าก่อนการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มการไฟฟ้านครหลวง (MEA) แจ้งว่า สำหรับใบแจ้งค่าไฟฟ้าประจำเดือนพฤษภาคม 2566 ที่จดหน่วยและส่งใบแจ้งค่าไฟฟ้าในวันที่ 14-17 พฤษภาคม 2566 ที่ยังไม่มีส่วนลด MEA จะปรับปรุงในระบบรับชำระเงินค่าไฟฟ้า โดยผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถตรวจสอบยอดเงินค่าไฟฟ้าประจำเดือนพฤษภาคม 2566 ที่มีการปรับปรุงแล้วได้ที่แอปพลิเคชัน MEA Smart life หรือที่ทำการ MEA ทั้ง 18 เขต หากผู้ใช้ไฟฟ้าที่ชำระค่าไฟฟ้าแล้ว MEA จะคืนเงินส่วนลดดังกล่าวให้ในเดือนถัดไป ทั้งนี้ ใบแจ้งค่าไฟฟ้าประจำเดือนพฤษภาคม 2566 จะเป็นการจดหน่วยในวันใดวันหนึ่งระหว่างวันที่ 14 พฤษภาคม ถึงวันที่ 13 มิถุนายนนี้นอกจากนี้ ตามที่มีประชาชนได้รับข้อความแอบอ้าง หน่วยงานการไฟฟ้านครหลวง เพื่อหลอกเก็บเงินค่าบริการต่างๆ นอกสถานที่ทำการ รวมถึงเพื่อล่อลวงให้รับบริการผ่านระบบออนไลน์ หรือคลิกลิงก์ต่างๆ MEA มีความห่วงใยต่อกรณีดังกล่าว แจ้งวิธีสังเกต SMS ของ MEA ที่ถูกต้อง ขอให้ประชาชนสังเกตบริเวณชื่อบุคคลผู้ส่ง โดยจะต้องระบุชื่อเป็น “MEA” เท่านั้น หากพบชื่อผู้ส่งเป็นตัวเลขเบอร์โทรศัพท์ หรือตัวอักษรที่ไม่ใช่การสะกดตามคำว่า “MEA” ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ MEA ยืนยันว่าจะไม่ส่ง SMS ให้กับบุคคลทั่วไป ยกเว้นเป็นผู้ที่กำลังติดต่อธุรกรรมกับ MEA หรือรับบริการ MEA e-Bill อยู่เท่านั้น
19 พ.ค. 2566
ชวนประชาชนร่วมกิจกรรมรณรงค์สัปดาห์วันความดันโลหิตสูงโลก ทดสอบคุณภาพเครื่องวัดความดันโลหิต ฟรี
นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวถึงการจัดกิจกรรมรณรงค์สัปดาห์วันความดันโลหิตสูงโลก ว่าโรคความดันโลหิตสูงเป็นหนึ่งในโลกไม่ติดต่อเรื้อรัง ที่เป็นปัญหาสาธารณสุขสำคัญกำลังคุกคามสุขภาพคนไทยและคนทั้งโลก โดยพบคนไทยเป็นโรคความดันโลหิตสูงจำนวนมาก เป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมาเช่น โรคหลอดเลือด โรคหัวใจ เครื่องวัดความดัน ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ปัจจุบันนอกจากจะมีสถานพยาบาลใช้งานแล้ว ประชาชนทั่วไปยังนิยมซื้อไปใช้เองอย่างแพร่หลาย ทั้งนี้เครื่องวัดความดันโลหิต ทั้งแบบพกพาหรือที่ใช้วัดเองที่บ้าน ควรหมั่นตรวจสอบมาตรฐานอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่า เครื่องวัดความดันโลหิตนั้นอ่านค่าได้ถูกต้อง สมบูรณ์ วันนี้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จัดกิจกรรมรณรงค์สัปดาห์วันความดันโลหิตสูงโลก โดย สำนักรังสีและเครื่องมือแพทย์ ได้จัดให้บริการ ทดสอบคุณภาพเครื่องวัดความดันโลหิตและเครื่องวัดค่าออกซิเจนปลายนิ้ว บริการประชาชนฟรี ตั้งแต่เวลา 15.00 น.-18.00 น. ณ สถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วงสถานีกระทรวงสาธารณสุข
19 พ.ค. 2566
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เปิดระบบซื้อบัตร-ชำระค่าบริการผ่านแอปฯ QueQ ลดปัญหาจราจร เริ่ม 1 กรกฎาคมนี้
Facebook Page "อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่" ได้โพสต์ภาพประกาศ การจำหน่ายบัตรค่าบริการผ่านเข้าไปในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ด้วยระบบการจำหน่ายบัตรค่าบริการอิเล็กทรอนิกส์ โดยระบุว่า อุทยานฯ มีข้อบังคับใช้ระบบจำหน่ายบัตร (E-Ticket) ผ่านแอปพลิเคชัน QueQ ลดปัญหาด้านการจราจรติดขัดและวัตถุประสงค์ตามเป้าหมายของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพื่อประโยชน์และความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จึงกำหนดให้ผู้ที่เข้ามาเยือนทุกท่าน จองบัตรค่าบริการอิเล็กทรอนิกส์ (E-Ticket) นักท่องเที่ยวชาวไทยชำระค่าบริการผู้ใหญ่ 40 บาท และเด็ก 20 บาท ผ่าน App QueQ เพียงครั้งเดียวเท่านั้นในส่วนของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ต้องชำระค่าบริการ 2 ครั้ง โดยชำระผ่าน App QueQ ในราคาผู้ใหญ่ 200 บาทและเด็ก 100 บาท และต้องชำระเป็นเงินสดก่อนเข้าพื้นที่อีกครั้ง บริเวณด่านตรวจศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ หรือเนินหอมในราคาผู้ใหญ่ 200 บาท และเด็ก 100 บาท ทั้งนี้ ระบบการจำหน่ายบัตรอิเล็กทรอนิกส์ จะเปิดให้ใช้บริการตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมนี้ เป็นต้นไป หากมีการเปลี่ยนแปลงจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
19 พ.ค. 2566
สิ้นสุดฤดูร้อนเริ่มเข้าสู่ฤดูฝน 22 พฤษภาคมนี้ ปริมาณฝนตกรวมน้อยกว่าปีที่ผ่านมา
นางสาวชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ประเทศไทยสิ้นสุดฤดูร้อนแล้วและจะเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ เนื่องจากพบว่ามีฝนตกชุกหนาแน่นและต่อเนื่องครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ ประกอบกับลมที่พัดปกคลุมประเทศไทยที่ระดับผิวพื้นถึงความสูงประมาณ 3.5 กิโลเมตร ได้เปลี่ยนทิศเป็นลมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งจะพัดนำความชื้นจากทะเลอันดามันเข้ามาปกคลุมบริเวณประเทศไทยอย่างต่อเนื่องและลมชั้นบนตั้งแต่ระดับความสูง 5 กิโลเมตรขึ้นไปได้เปลี่ยนทิศเป็นลมฝ่ายตะวันออก ซึ่งถือว่าครบองค์ประกอบตามเกณฑ์การเข้าสู่ฤดูฝนของประเทศไทยแล้วอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า ในปีนี้ปริมาณฝนรวมจะน้อยกว่าปีที่ผ่านมาและน้อยกว่าค่าปกติประมาณร้อยละ 5 ช่วงกลางเดือนมิถุนายนถึงกลางเดือนกรกฎาคมจะเกิดสภาวะฝนทิ้งช่วง อาจส่งผลทำให้เกิดการขาดแคลนน้ำด้านการเกษตรได้ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่แล้งซ้ำซากนอกเขตชลประทาน ส่วนเดือนสิงหาคมและกันยายน จะมีฝนตกชุกหนาแน่นที่สุด มีโอกาสสูงที่จะมีพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนผ่านบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1-2 ลูก ส่งผลให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ และก่อให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก รวมทั้งน้ำล้นตลิ่งได้ สำหรับฤดูฝนของประเทศไทยตอนบนจะสิ้นสุดประมาณกลางเดือนตุลาคม ส่วนภาคใต้โดยเฉพาะฝั่งตะวันออกจะมีฝนตกชุกหนาแน่นต่อไปอีกจนถึงกลางเดือนมกราคม 2567
18 พ.ค. 2566
ภาพรวมนักท่องเที่ยวเข้าไทยเดือนพฤษภาคม 66 เพิ่มขึ้น คาดครึ่งปีหลังการท่องเที่ยวเติบโตหลัง
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา ประเมินภาพรวมของเดือนพฤษภาคม 2566 พบว่า จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยมากกว่า 2 ล้านคน โดยเป็นนักท่องเที่ยวจากอาเซียน เอเชียตะวันออกและเอเชียใต้ เป็นหลัก ขณะที่สัปดาห์ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยมีการปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากการไม่มีวันหยุดต่อเนื่องในตลาดระยะใกล้ ส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวเข้าไทยอยู่ที่ 415,309 คน แต่เพิ่มขึ้นจากที่คาดการณ์ในสัปดาห์ก่อนหน้า (ข้อมูล ณ วันที่ 15 พ.ค. 66) โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มาจากประเทศ มาเลเซีย จีน อินเดีย ลาว และเกาหลีใต้ คิดเป็นร้อยละ 47.5 ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด อย่างไรก็ตาม กระทรวงฯ คาดการณ์ว่าสัปดาห์ถัดไปจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ที่ 420,000 คน โดยจะมีนักท่องเที่ยวอาเซียนและเอเชียตะวันออก เป็นหลัก และคาดว่าการท่องเที่ยวของไทยยังคงมีแนวโน้มการเติบโตขึ้นในครึ่งปีหลัง แม้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวระหว่างประเทศจะชะลอตัวลง แต่ก็เป็นไปตามฤดูกาลท่องเที่ยว ประกอบกับมีปัจจัยสนับสนุนทั้งภายในและภายนอกประเทศ เช่น การเพิ่มจำนวนเที่ยวบินและแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ทำโดยภาครัฐและเอกชนทั้งนี้ ยังมีปัจจัยเชิงลบจากแรงกดดันด้านเศรษฐกิจโลก ไม่ว่าจะเป็นประเด็นเรื่องของอัตราเงินเฟ้อ ความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐฯ ความพยายามผลักดันเงินสกุลหยวนเป็นเงินสกุลหลักของโลก รวมถึงแนวโน้มความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่จะยังไม่สิ้นสุดในปีนี้
18 พ.ค. 2566
กรมบัญชีกลางเตือนอย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพ แอบอ้างชื่อกรมบัญชีกลาง หลอกลวงประชาชนกู้เงินออนไลน์
นางสาววารี แว่นแก้ว รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลางได้รับแจ้งจากประชาชนว่า มีมิจฉาชีพแอบอ้างชื่อกรมบัญชีกลาง ประกอบการให้กู้ยืมเงินแบบออนไลน์ โดยการส่งลิงก์ Line Official ให้สมัครกู้ยืมเงินผ่านทาง Facebook ทำให้ประชาชนหลงเชื่อเข้าไปสมัครและกรอกข้อมูลส่วนตัวและให้ทำธุรกรรมทางการเงิน โดยในขั้นตอนของการปลดล็อคบัญชีเงินฝากธนาคาร กลุ่มมิจฉาชีพได้แอบอ้างชื่อกรมบัญชีกลางในเอกสารระบบล็อค System Lock เพื่อหลอกลวงให้ประชาชนหลงเชื่อ กรมบัญชีกลาง ขอชี้แจงว่า กรมบัญชีกลางไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับการกระทำดังกล่าว ขอเตือนให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่ Call Center กรมบัญชีกลาง 0 2270 6400
18 พ.ค. 2566
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาจำคุก ส.ส. ภูมิใจไทย 3 ราย คนละ 9 เดือน
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านฟังคำพิพากษาคดีที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ฟ้อง นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พัทลุง เขต 2 พรรคภูมิใจไทย นายภูมิศิษฏ์ คงมี อดีต ส.ส. พัทลุง เขต 1 พรรคภูมิใจไทย และนางนาที รัชกิจประการ อดีต ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย เป็นจำเลย ตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต กรณีเสียบบัตร ส.ส. แทนกันในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยจำเลยทั้ง 3 คนถูกกล่าวว่ายินยอมให้บุคคลอื่นเสียบบัตรแสดงตนแทนในการลงมติเรียงตามรายมาตรา ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 เมื่อวันที่ 10-11 มกราคม 2563 เป็นเหตุให้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 วาระที่ 2-3 ไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ เข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ ส.ส. เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต มีโทษตามกฎหมาย คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มาตรา 172 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับโดยล่าสุดศาลฎีกา พิพากษาจำคุก ส.ส. ภูมิใจไทย 3 ราย จำคุกคนละ 9 เดือน พ้นจากตำแหน่ง ตัดสิทธิทางการเมือง ไม่รอลงอาญา
18 พ.ค. 2566
กรมธนารักษ์จัดทำเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 90 ปี กรมธนารักษ์ เฉลิมพระเกียรติสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
นายจำเริญ โพธิยอด อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสครบ 90 ปี กรมธนารักษ์ ในวันที่ 23 พฤษภาคม 2566 กระทรวงการคลังได้อนุมัติให้กรมธนารักษ์จัดทำเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 90 ปี กรมธนารักษ์ โดยจัดทำจำนวน 2 ประเภท ได้แก่ เหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล) ชนิดราคา 20 บาท ประเภทขัดเงา จำนวนผลิตไม่เกิน 100,000 เหรียญ ราคาจำหน่ายเหรียญละ 200 บาท และเหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล) ชนิดราคา 20 บาท ประเภทธรรมดา จำนวนผลิตไม่เกิน 1,000,000 เหรียญ ราคาจ่ายแลกเหรียญละ 20 บาท โดยลวดลายด้านหน้า กลางเหรียญมีพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์ชุดสากล ทรงประดับเหรียญที่ระลึกในการเสด็จพระราชดำเนินเยือนสหรัฐอเมริกาและทวีปยุโรป ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ภายในวงขอบเหรียญเบื้องล่าง มีข้อความว่า “พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” ด้านหลัง กลางเหรียญมีรูปเครื่องหมายราชการของกรมธนารักษ์ ภายในวงขอบเหรียญเบื้องบนมีข้อความว่า “๙๐ ปี กรมธนารักษ์ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๖” เบื้องล่างมีข้อความบอกราคาว่า “๒๐ บาท” และข้อความว่า “ประเทศไทย” โดยมีลายไทยประดิษฐ์คั่นระหว่างข้อความเบื้องบนกับเบื้องล่างทั้งสองข้างผู้ที่ประสงค์จะขอแลกเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกดังกล่าว สามารถติดต่อขอแลกได้ตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคม 2566 เป็นต้นไป ที่สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ทั่วประเทศ หรือช่องทางออนไลน์ www.treasury.go.th
18 พ.ค. 2566
ปั้นแรงงานสู่ผู้ประกอบการร้านสตรีทฟู้ด ตั้งเป้า 30,000 คนทั่วประเทศ สร้างงาน เพิ่มรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจ
นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดตัวโครงการพัฒนาส่งเสริมอาชีพผู้ประกอบการร้านสตรีทฟู้ด พร้อมซักซ้อมความเข้าใจแก่บุคลากร 5 หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน ทั้งส่วนกลางและภูมิภาคร่วม 400 คน เพื่อนำเสนอแผนการฝึกอบรมในภาพรวมของประเทศและชี้แจงแนวทางการดำเนินงาน รวมถึงระดมความคิดเห็นเพื่อกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่สอดคล้องกับบริบทแต่ละจังหวัด ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยสนับสนุนการขับเคลื่อนโครงการดังกล่าวให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า รัฐบาลสนับสนุนงบกลาง เพื่อส่งเสริมด้านอาชีพให้แก่แรงงานนอกระบบ โดยเฉพาะภาคธุรกิจร้านสตรีทฟู้ด ซึ่งมีผู้ประกอบการร้านสตรีทฟู้ดมากกว่า 560,000 ราย และมีมูลค่ากว่า 3.4 แสนล้านบาท มีอัตราการเติบโตประมาณร้อยละ 5 ต่อปี สตรีทฟู้ดยังเป็น Soft Power ของไทย ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาในประเทศ รัฐบาลจึงได้เร่งผลักดันให้สตรีทฟู้ดของไทยเกิดการขยายตัวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้แก่ประชาชน โดยกำหนดเป้าหมายสร้างสตรีทฟู้ด 30,000 คนทั่วประเทศ โดยจัดฝึกอบรมให้แก่ผู้สนใจประกอบอาชีพสตรีทฟู้ดรวม 600 รุ่น แบ่งเป็นสตรีทฟู้ดรายใหม่ 300 รุ่น เป้าหมายจำนวน 15,000 คน เพื่อสร้างโอกาสในการเข้าสู่เส้นทางอาชีพร้านสตรีทฟู้ด และอีก 300 รุ่น เป้าหมายผู้ประกอบการสตรีทฟู้ดรายเดิมจำนวน 15,000 คน เพื่อทำให้ดีขึ้น เก่งขึ้น ไปได้ไกลขึ้นและยังเสริมภูมิคุ้มกันหากเกิดวิกฤตขึ้นในอนาคตปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ธุรกิจร้านสตรีทฟู้ดของไทยเกิดการขยายตัวและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่สำคัญจะเกิดประโยชน์ต่อประชาชนที่ผันตัวมาสู่เส้นทางอาชีพเป็นผู้ประกอบการสตรีทฟู้ดรายใหม่ สามารถสร้างงานให้แก่แรงงานได้มีทักษะฝีมือ มีอาชีพ มีรายได้ที่มั่นคงและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สำหรับผู้สนใจเข้าร่วมโครงการดังกล่าว ไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยสามารถติดต่อได้ที่ สำนักงานแรงงานจังหวัดทั่วประเทศ สำหรับกิจกรรมแสดงร้านค้าสตรีทฟู้ด กำหนดไว้จำนวน 5 ครั้ง โดยครั้งที่ 1 กรุงเทพมหานครจัดขึ้นวันที่ 25-31 พฤษภาคม 2566 ณ เซ็นทรัลพลาซ่ารามอินทรา ครั้งที่ 2 ภูเก็ต จัดขึ้นวันที่ 2-8 มิถุนายน 2566 ณ เซ็นทรัลพลาซ่าภูเก็ต ครั้งที่ 3 เชียงใหม่ จัดขึ้นวันที่ 13-19 มิถุนายน 2566 ณ เซ็นทรัลพลาซ่าเชียงใหม่แอร์พอร์ต ครั้งที่ 4 นครราชสีมา จัดขึ้นวันที่ 21-27 มิถุนายน 2566 ณ เซ็นทรัลพลาซ่าโคราช และครั้งที่ 5 ชลบุรี จัดขึ้นวันที่ 29 มิถุนายน - 5 กรกฎาคม 2566 ณ เซ็นทรัลพลาซ่าพัทยา
18 พ.ค. 2566
ไทยและเนปาล พร้อมผลักดันความร่วมมือทุกมิติ ส่งเสริมการค้าการลงทุน การท่องเที่ยวทางศาสนาและวัฒนธรรม
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้การต้อนรับ นายคเณศ ประสาท ธกาล เอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาลประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะในโอกาสพ้นจากหน้าที่ ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาลทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงความร่วมมือประเด็นต่างๆ ทั้งการแลกเปลี่ยนทางศาสนา วัฒนธรรมและการท่องเที่ยว ยินดีส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและการท่องเที่ยวระหว่างกันโดยเฉพาะเส้นทางการท่องเที่ยวทางศาสนาและวัฒนธรรม ซึ่งเอกอัครราชทูตเนปาลฯ กล่าวว่า มีนักท่องเที่ยวไทยให้ความสนใจเดินทางมายังเนปาลมากขึ้น จากเส้นทางการท่องเที่ยวเพื่อแสวงบุญที่เนปาล โดยรัฐบาลเนปาลพร้อมให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกให้เป็นอย่างดี ด้านเศรษฐกิจ พร้อมที่จะประสานความร่วมมือกับรัฐบาลเนปาล ขยายโอกาสทางการค้าเพื่อการพัฒนาในสาขาที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน รวมไปถึงการเข้าร่วมการประชุม BIMSTEC เชื่อมั่นว่า จะสามารถผลักดันความร่วมมือได้อย่างมีประสิทธิภาพในระดับพหุภาคี และด้านวิชาการ ไทยยินดีสนับสนุนการเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาในสาขาที่จะเป็นประโยชน์ต่อเนปาล โดยเฉพาะการพัฒนาบุคลากรผ่านการมอบทุนอบรมในระดับต่างๆ รวมถึงในสาขาที่จำเป็นในสภาวะปัจจุบัน เช่น สาธารณสุข การพัฒนาสตรีและเด็ก รวมถึงการส่งเสริมการพัฒนาตามหลัก BCG Economy ซึ่งเอกอัครราชทูตเนปาลฯ ยินดีจะส่งเสริมความร่วมมือในสาขาที่มีศักยภาพร่วมกัน พร้อมชื่นชมหลัก BCG Economy ที่นายกรัฐมนตรีผลักดันให้เป็นวาระสำคัญเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนร่วมกัน
18 พ.ค. 2566
กรมการค้าภายใน รักษาระดับราคา นำผู้ประกอบการซื้อมะม่วงจากกลุ่มเกษตรกร จังหวัดเชียงใหม่กว่า 39,000 ตัน
นายวัฒนศักดิ์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดกิจกรรมอมก๋อยโมเดล@เชียงใหม่ สินค้ามะม่วง ณ อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ ว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน ร่วมกับผู้ประกอบการห้างค้าปลีกค้าส่งรายใหญ่ รวมทั้งผู้ประกอบการในพื้นที่ รวม 10 ราย และสถานีบริการน้ำมัน PT และบางจาก เข้ารับซื้อผลผลิตมะม่วงจากกลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่มะม่วงท่าล้อ อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ รวมกว่า 39,800 ตัน ในราคานำตลาด เพื่อนำไปกระจายตามช่องทางต่างๆ ให้เข้าถึงผู้บริโภค โดยหวังว่าจะช่วยรักษาระดับราคามะม่วงให้อยู่ในเกณฑ์ดี ในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดพร้อมกันปริมาณมาก ซึ่งพื้นที่ อำเภอดอยหล่อ มีพื้นที่ปลูกมะม่วงกว่า 3,126 ไร่ หลายสายพันธุ์ อาทิ แดงจักรพรรดิ์ งาช้างแดง และ R2E2 มั่นใจว่าจะช่วยให้เกษตรกรมีรายได้มากขึ้น รวมมูลค่าการรับซื้อครั้งนี้กว่า 460 ล้านบาท อธิบดีกรมการค้าภายใน ย้ำว่าขอให้เกษตรกรรักษาคุณภาพผลผลิตให้ได้มาตรฐาน เพื่อให้สินค้าเป็นที่ต้องการของตลาดและจำหน่ายได้ในราคาที่สูงขึ้น ลดปัญหาการถูกกดราคาจากพ่อค้าคนกลาง ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งในมาตรการบริหารจัดการผลไม้เชิงรุกปี 2566 ของกระทรวงพาณิชย์ ภายใต้โครงการอมก๋อยโมเดล โดยกรมฯ จะเข้าไปดูดซับผลผลิตและเชื่อมโยงตลาดกับผู้ประกอบการ เพื่อรักษาระดับราคาให้อยู่ในเกณฑ์ดีตลอดฤดูกาล
18 พ.ค. 2566
เตือนผู้บริโภคระวังหมูเถื่อน แนะเลือกซื้อจากผู้ผลิตมาตรฐาน สังเกตตราสัญลักษณ์ ปศุสัตว์ OK
นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า หมูเถื่อน เป็นเนื้อสุกรลักลอบนำเข้า ที่ไม่ได้ผ่านขั้นตอนการตรวจสอบความปลอดภัย ผู้บริโภคจึงมีความเสี่ยงที่จะได้รับอันตรายจากสารปนเปื้อน นอกจากนี้ ยังเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการนำโรคระบาดเข้ามาในประเทศไทย โดยโรคระบาดที่สำคัญ ที่ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรไทยและเสี่ยงต่อความปลอดภัยในอาหารของผู้บริโภคสำหรับผู้บริโภค แนะนำให้เลือกซื้อเนื้อสุกร จากสถานที่ หรือแหล่งจำหน่ายที่น่าเชื่อถือและมั่นใจได้ว่าไม่มีการนำเนื้อหมูเถื่อนมาจำหน่าย ในส่วนของกรมปศุสัตว์ มีโครงการที่เป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคคือ โครงการปศุสัตว์ OK ที่ กรมปศุสัตว์ ให้การรับรองว่าเนื้อสุกรหรือเนื้อสัตว์ที่จำหน่ายมีความปลอดภัยได้มาตรฐาน สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาได้ว่ามาจากฟาร์มเลี้ยงที่ได้มาตรฐานและมาจากโรงชำแหละที่ถูกสุขอนามัย โดยให้สังเกตตราสัญลักษณ์ ปศุสัตว์ OK ที่ช่วย้ำความมั่นใจแก่ผู้บริโภคว่าได้บริโภคเนื้อหมูของไทยที่ผลิตได้มาตรฐานและมีความปลอดภัยในอาหารอย่างแน่นอน ที่ผ่านมา กรมปศุสัตว์ ไม่ได้นิ่งนอนใจ เร่งดำเนินการปราบปรามอย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง โดยอยู่ในระหว่างสอบสวนสืบสวนติดตามว่ามีการลักลอบนำ หมูเถื่อน ส่งขายตามร้านค้า แหล่งจำหน่าย หรือสถานที่ตัดแต่งใด โดยร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าติดตามไปจนถึงสถานที่ดังกล่าว หากตรวจสอบพบว่า เนื้อสุกรเหล่านั้นไม่มีแหล่งที่มา หรือมาจากการลักลอบนำเข้า จะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ฉะนั้นจึงขอเตือนผู้ที่ลักลอบนำเข้าเนื้อหมูเถื่อน หรือผู้ที่สนับสนุนโดยการซื้อและนำมาจำหน่ายให้ผู้บริโภค ขอให้หยุดการกระทำในทันทีด้านธุรกิจบริการอาหาร ขอให้ตรวจสอบว่าเนื้อสุกรเหล่านั้น มาจากแหล่งผลิตในประเทศหรือเป็นเนื้อสุกรที่มาจากการลักลอบนำเข้า หากมีเบาะแสว่าเนื้อสุกรที่ซื้อมาใช้สำหรับนำไปตัดแต่ง หรือนำไปแปรรูปเพื่อให้ประชาชนบริโภค อาจไม่ใช่เนื้อสุกรในประเทศ ขอให้แจ้งผ่านช่องทางของกรมปศุสัตว์
18 พ.ค. 2566
แก้หนี้ครูต่อเนื่อง หลังสมาชิกมากกว่า 4.6 แสนรายได้รับประโยชน์ หลังสหกรณ์ลดดอกเบี้ยเงินกู้
นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า จากปัญหาหนี้สินครูทั้งระบบที่มีมากถึง 1.4 ล้านล้านบาท ครูกว่าร้อยละ 80 จากทั่วประเทศ 9 แสนคน ต้องเผชิญกับภาวะหนี้สินจำนวนมหาศาล โดยเจ้าหนี้รายใหญ่สุดคือ สหกรณ์ออมทรัพย์ครู 8.9 แสนล้านบาท ที่ผ่านมา กรมส่งเสริมสหกรณ์ ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวและได้ร่วมลงนาม MOU ดำเนินการโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ระหว่างกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กับหน่วยงานและสถาบันการเงิน รวม 12 แห่ง ซึ่งกรมฯ มีบทบาทหน้าที่ ส่งเสริม สนับสนุน กำกับ ดูแล ให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูช่วยเหลือแก้ไขปัญหาหนี้สินสมาชิกสหกรณ์ได้อย่างทั่วถึงและเป็นธรรม ขณะนี้มีสหกรณ์ออมทรัพย์ครูกว่า 70 แห่ง จากทั้งหมด 108 แห่ง เข้าร่วมปรับอัตราดอกเบี้ย โดยการลดดอกเบี้ยเงินกู้ และพบว่ามีสหกรณ์ 11 แห่ง สามารถปรับลดดอกเบี้ยให้ลงเหลือต่ำกว่า 5% โดยมีครูที่ได้รับประโยชน์ทันทีกว่า 460,000 คน ทั้งนี้ การให้เงินกู้แก่สมาชิกครู สหกรณ์ออมทรัพย์ครูจะปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการให้เงินกู้ ซึ่งในระเบียบจะมีการกำหนดหลักเกณฑ์ ได้ออกคำแนะนำการให้สินเชื่ออย่างเป็นธรรมของสหกรณ์ออมทรัพย์ เพื่อให้สหกรณ์ใช้เป็นแนวทางในการให้เงินกู้แก่สมาชิก พร้อมทั้งเป็นเครื่องมือในการแก้่ไขปัญหาหนี้สินของสมาชิก ส่วนกรณีที่มีสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครู ต้องการให้ปรับปรุงข้อบังคับเพื่อให้สมาชิกสามารถถอนหุ้นซึ่งถือว่าเป็นเงินฝากของตนเอง โดยอ้างว่าจะช่วยให้เกิดผลดีต่อระบบสหกรณ์ และจะช่วยลดต้นทุนของสหกรณ์ลงนั้น ขอชี้แจงว่า ในการจัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์มีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อส่งเสริมให้สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์สามารถสงวนส่วนแห่งรายได้ของตนไว้ในทางอันมั่นคงและได้รับประโยชน์ตามสมควร อีกทั้งกฎหมายสหกรณ์ก็ประสงค์จะคุ้มครองทุนของสหกรณ์โดยรวมเป็นพิเศษ ซึ่งทุนของสหกรณ์เกิดจากการถือหุ้นโดยสมาชิกและสมาชิกแต่ละรายก็ได้ส่งเงินค่าหุ้นเข้าสหกรณ์เป็นประจำทุกเดือน และกฎหมายสหกรณ์ก็มิได้บัญญัติให้อำนาจแก่สหกรณ์ให้แก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับเพื่อให้สมาชิกถอนหุ้นได้
18 พ.ค. 2566
JOB EXPO THAILAND 2023 “คนไทยมีงานทำ คนหางาน งานหาคน”
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงานมีกำหนดจัดงาน JOB EXPO THAILAND 2023 ภายใต้ธีมงาน “คนไทยมีงานทำ คนหางาน งานหาคน” ระหว่างวันที่ 8-10 มิถุนายน 2566 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา Hall 100-102 กรุงเทพมหานคร และใน 3 จังหวัดใหญ่ ได้แก่ ชลบุรี ภูเก็ต และนครราชสีมา ในช่วงเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อรองรับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ หลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย เพื่อสนองความต้องการของประชาชนที่ต้องการมีงานทำ มีอาชีพ สร้างรายได้ให้แก่ตนเอง ซึ่งเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างมั่นคงและยั่งยืนให้กับประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย ทั้งผู้สำเร็จการศึกษาใหม่ ผู้พิการ ผู้สูงอายุ และประชาชนทุกคนที่ต้องการมีงานทำ สำหรับงาน JOB EXPO ที่จะจัดขึ้นในเดือนมิถุนายนนี้ ถือเป็นมหกรรมการจัดหางานที่ยิ่งใหญ่ระดับประเทศ เพราะมีการรวบรวมตำแหน่งงานทั้งในประเทศและต่างประเทศไว้มากกว่า 500,000 อัตรา และมีไฮไลท์สำคัญอย่างการเชิญชวนนายจ้าง สถานประกอบการชั้นนำ เกือบ 400 แห่ง มารับสมัครและสัมภาษณ์ผู้สมัครงานภายในงาน ควบคู่กับการสัมภาษณ์งานออนไลน์ผ่านระบบ Zoom เพื่ออำนวยความสะดวกให้คนหางานจากทั่วประเทศที่ไม่สามารถมาร่วมงานได้ รวมทั้งยังรวบรวมงานสำหรับผู้สูงอายุและกลุ่มเปราะบาง และกลุ่มคนพิการ ทั้งงานประจำที่นายจ้างสถานประกอบการยินดีรับผู้ที่อายุมากกว่า 60 ปี และอาชีพอิสระสำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการหารายได้เสริมอีกด้วยด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวเสริมถึงการงาน JOB EXPO THAILAND 2023 ว่า นอกจากกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่กำลังมองหาโอกาสเปลี่ยนงาน ผู้ว่างงาน นักศึกษาจบใหม่ ยังมีการจัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติศาสตร์แห่งพระราชา ศาสตร์แห่งความพอเพียง และโครงการจิตอาสา 904 โคก หนอง นา โมเดล กิจกรรมคนไทยไม่ทิ้งกัน คนหางาน งานหาคน Job Matching กิจกรรม Platform “ไทยมีงานทำ” กิจกรรมรวมใจสร้างงาน สร้างอาชีพ กิจกรรมส่งเสริมและสนับสนุนการมีงานทำ และกิจกรรมส่งเสริม พัฒนา คุณภาพแรงงาน และกลุ่มเปราะบาง โดยแต่ละกิจกรรมกรมการจัดหางานคิดเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของคนหางานแต่ละกลุ่ม ทั้งผู้ที่ต้องการทำงานเต็มเวลา ทำงานพาร์ทไทม์ หรือต้องการก้าวสู่ Start Up เป็นเจ้าของกิจการของตนเอง และยังเตรียมทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการไปหาประสบการณ์ทำงานต่างประเทศ รวมทั้งงานที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุและกลุ่มเปราะบาง สำหรับสถานที่และกำหนดการจัดงาน JOB EXPO THAILAND 2023 ที่กรุงเทพมหานคร กำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 8-10 มิถุนายน 2566 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา Hall 100-102 ขณะที่ในจังหวัดชลบุรี ระหว่างวันที่ 16-17 มิถุนายน 2566 ณ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ศรีราชา ส่วนที่จังหวัดภูเก็ต ระหว่างวันที่ 23-24 มิถุนายน 2566 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต และที่จังหวัดนครราชสีมา กำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 28-29 มิถุนายน 2566 ณ โคราชฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า นครราชสีมา
17 พ.ค. 2566
ธ.ก.ส. เตือนระวังมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นตัวแทนธนาคารปล่อยเงินกู้นอกระบบ ยืนยัน ธ.ก.ส. ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่มีนโยบายปล่อยเงินกู้ผ่านตัวแทนบริษัท
นายไพศาล หงษ์ทอง ผู้ช่วยผู้จัดการและโฆษกธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ มีกลุ่มผู้ไม่หวังดีแอบอ้างเป็นบริษัทตัวแทนธนาคารในการนำเสนอเงินกู้นอกระบบ จัดทำเอกสารนัดรับเงินกู้และแอบอ้างชื่อและตราสัญลักษณ์ รวมถึงลายเซ็นพนักงาน โดยให้ชำระค่าคิวล่วงหน้าก่อนการรับสินเชื่อ ธ.ก.ส. ขอเรียนว่า ธ.ก.ส. ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำดังกล่าว อีกทั้งธนาคารไม่มีนโยบายในการให้สินเชื่อผ่านตัวแทนบริษัท หรือมีการชำระค่าคิวล่วงหน้าก่อนรับสินเชื่อ จึงขอให้เกษตรกรลูกค้าและประชาชนทั่วไปอย่าหลงเชื่อบริษัทหรือบุคคลที่มีพฤติการณ์ดังกล่าว พร้อมย้ำเตือนให้ลูกค้าทุกท่าน เพิ่มความระมัดระวังมากยิ่งขึ้นในการติดต่อหรือทำธุรกรรมออนไลน์ เนื่องด้วยปัจจุบันมิจฉาชีพมีรูปแบบการหลอกลวงที่หลากหลาย หากไม่แน่ใจสามารถติดต่อโดยตรงที่ธนาคาร หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02 555 0555 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งธนาคารจะดําเนินการเอาผิดตามขั้นตอนทางกฎหมายกับผู้ที่หลอกลวงในลักษณะดังกล่าวต่อไปทั้งนี้ ธ.ก.ส. มีผลิตภัณฑ์ด้านสินเชื่ออย่างหลากหลายที่มีอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน เช่น สินเชื่อสานฝันสร้างอาชีพ สินเชื่อนวัตกรรมดี มีเงินทุน และสินเชื่อ SME เสริมแกร่ง อัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 4 เป็นต้น ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลและข่าวสารด้านผลิตภัณฑ์และบริการ ผ่านช่องทางการสื่อสารหลักของธนาคาร ได้แก่ เว็บไซต์ www.baac.or.th Facebook Page “ธกส BAAC Thailand” และ LINE Official Account : @baacfamily
20 พ.ค. 2566
โอกาสทองแรงงานไทยไปทำงานออสเตรเลีย หลังผลเจรจาคืบหน้า
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยความคืบหน้าจากการเดินทางเยือนประเทศออสเตรเลีย เมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ว่า ขณะนี้ประเทศออสเตรเลียมีความต้องการหาคนไปทำงานในกิจการน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ตำแหน่งช่างทำหม้อน้ำ ช่างเชื่อม จำนวนมาก และพร้อมจ่ายค่าจ้างในอัตราสูง ประมาณ 130,000 บาทต่อเดือน นายจ้างมีที่พักให้ และยังมีสวัสดิการตามกฎหมายของออสเตรเลียด้วย ซึ่งแรงงานไทยเป็นแรงงานที่มีคุณภาพ ขยันทำงาน อดทน เรียนรู้งานได้รวดเร็ว ที่สำคัญมีทักษะและความสามารถตรงกับความต้องการของนายจ้างออสเตรเลีย โดยเฉพาะช่างเชื่อมไทยเป็นช่างที่มีทักษะฝีมือการทำงานขั้นสูง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจและเป็นโอกาส จึงกำชับอธิบดีกรมการจัดหางานให้ติดตามเรื่องการขยายตลาดแรงงานไทยในออสเตรเลียอย่างใกล้ชิด เพื่ออำนวยความสะดวกให้แรงงานไทยสามารถเดินทางไปทำงานได้อย่างถูกต้อง และได้รับสวัสดิการที่ดี ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า ล่าสุด คณะนายจ้าง บริษัท MACH NATIONAL Pty Ltd. จากประเทศออสเตรเลียได้เข้าพบเพื่อหารือความเป็นไปได้ในการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานก่อสร้าง ซึ่งทางคณะนายจ้างแจ้งความต้องการคนหางานไปทำงานในตำแหน่ง ช่างทำหม้อน้ำ/ช่างเชื่อม จำนวน 250 คน อัตราค่าจ้าง 5,763 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือคิดเป็นเงินไทย 131,326 บาทต่อเดือน พร้อมค่าล่วงเวลาตามกฎหมายของออสเตรเลีย โดยมีสัญญาจ้างครั้งละ 6 เดือน ต่ออายุได้ไม่เกิน 1 ปี จัดหาที่พักให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย จ่ายค่าโดยสารเครื่องบินขากลับให้ เมื่อทำงานครบสัญญาจ้าง และมีสวัสดิการตามที่กฎหมายออสเตรเลียกำหนดอธิบดีกรมการจัดหางาน ย้ำว่า ผู้สนใจทำงานต่างประเทศ ตรวจสอบข้อมูลของบริษัทจัดหางานให้รอบคอบก่อน เพื่อป้องกันมิให้คนหางานถูกหลอกลวงจากกลุ่มมิจฉาชีพ โดยสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ หรือที่กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ โทร. 02 245 6713 หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694 หรือที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 กรมการจัดหางาน
20 พ.ค. 2566
กปภ. ปลูกป่าเทิดพระเกียรติ เพิ่มพื้นที่สีเขียว สร้างความอุดมสมบูรณ์ให้กับป่าต้นน้ำ
นายวิบูลย์ วงสกุล ผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค หรือ กปภ. เปิดเผยว่า กปภ. ดำเนินโครงการ “กปภ. ปลูกป่าเพื่อแผ่นดิน เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (Father’s Land) ปี 2566 เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวและความอุดมสมบูรณ์ให้กับผืนป่าต้นน้ำ นำร่องจัดกิจกรรมปลูกป่าที่แรก ณ บ้านป่าสักงาม อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำดิบที่สำคัญของ กปภ. โดยได้รับการสนับสนุนต้นไม้ยืนต้นจากกรมป่าไม้ จำนวน 200 ต้น เช่น ยางนา พะยอม มะค่าโมง ปีบ แคนา กระทุ่มบกทรงบาดาล ขี้เหล็กบ้าน ส้มเขียวหวาน ขนุน และมะขามยักษ์ นอกจากนี้ กปภ. ทั้ง 234 สาขาทั่วประเทศ จะร่วมกันดำเนินโครงการปลูกป่าเพื่อแผ่นดินฯ โดยการปลูกต้นไม้ทั่วทุกพื้นที่รับผิดชอบของ กปภ. เพื่ออนุรักษ์ป่าไม้ให้อยู่คู่กับชุมชน พร้อมเชิญชวนประชาชน มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ ด้วยการช่วยดูแลรักษาและสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับประเทศและโลกได้อย่างยั่งยืนต่อไป
20 พ.ค. 2566
เทศกาลทุเรียนและผลไม้ภาคตะวันออก เน้นส่งเสริมการตลาดและขยายตลาดของสินค้าวิสาหกิจชุมชนถึงผู้บริโภค
นายกฤษ อุตตมะเวทิน รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ภาคตะวันออกเป็นแหล่งผลิตผลไม้คุณภาพที่สำคัญของประเทศ โดยเฉพาะผลไม้เศรษฐกิจอย่าง ทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกอง โดยผลผลิตส่วนใหญ่ส่งออกไปต่างประเทศประมาณร้อยละ 60 ซึ่งมีประเทศคู่ค้าที่สำคัญคือ สาธารณรัฐประชาชนจีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน และประเทศแถบอเมริกาและยุโรป เนื่องจากผลไม้ตะวันออกเป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภค จากรสชาติที่ดี มีคุณภาพ มีระบบการผลิตที่ได้มาตรฐานและปลอดภัย ซึ่งเป็นผลสำเร็จจากการบริหารจัดการที่มีระบบการผลิตที่ดีและการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ประกอบกับในช่วงเดือนพฤษภาคมของทุกปี จะมีผลผลิตส่วนใหญ่ออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก จึงต้องมีการส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการจำหน่ายแบบออนไลน์ ออฟไลน์ การจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและการจัดงานประชาสัมพันธ์ เพื่อเป็นกลไกสำคัญช่วยกระจายผลผลิตจากเกษตรกรไปสู่ผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น กรมส่งเสริมการเกษตร โดยสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 3 จังหวัดระยอง จัดงาน Durian and Eastern Fruits Fest เทศกาลทุเรียนและผลไม้ภาคตะวันออก ระหว่างวันที่ 18-21 พฤษภาคมนี้ ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลอยุธยา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อส่งเสริมการบริโภคทุเรียนและผลไม้ภาคตะวันออกคุณภาพดีให้กับผู้บริโภค ประชาสัมพันธ์ความหลากหลายของสายพันธุ์ทุเรียน และผลไม้เอกลักษณ์พิเศษเฉพาะถิ่นภาคตะวันออก ส่งเสริมการตลาดและขยายตลาดของสินค้าวิสาหกิจชุมชนและแม่บ้านเกษตรกรภาคตะวันออกให้ถึงกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึง สำหรับสถานการณ์ไม้ผลภาคตะวันออกปัจจุบันในพื้นที่จังหวัดระยอง จันทบุรี ตราด โดยทุเรียน คาดการณ์ปริมาณผลผลิต 782,942 ตัน มีผลผลิตที่เก็บเกี่ยวแล้ว 540,650 ตัน เหลือผลผลิตที่ยังไม่ได้เก็บเกี่ยว 242,292 ตัน
20 พ.ค. 2566
ต่างชาติเชื่อมั่นศักยภาพของประเทศไทย 4 เดือนแรกปีนี้ ต่างชาติเข้ามาลงทุน 217 ราย เม็ดเงินลงทุนกว่า 38,000 ล้านบาท
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากมาตรการส่งเสริมการลงทุนของรัฐบาล โดยให้สิทธิประโยชน์จูงใจกระตุ้นให้เกิดการลงทุน ประกอบกับความพร้อมเรื่องวัตถุดิบที่มีอย่างเพียงพอและมีอุตสาหกรรมสนับสนุนพร้อม ทำให้ต่างชาติมีความเชื่อมั่นศักยภาพของประเทศไทยและยังเป็นเป้าหมายการลงทุนของต่างชาติ ซึ่งจากข้อมูลในช่วง 4 เดือนของปี 2566 (ม.ค.-เม.ย.) มีการอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย ภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 จำนวน 217 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 เป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 69 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 148 ราย เม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 38,702 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 จ้างงานคนไทย 2,419 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 โดยชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุน 5 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ สหรัฐฯ จีน สมาพันธรัฐสวิสและอื่นๆสำหรับธุรกิจที่ได้รับอนุญาตในช่วง 4 เดือน ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจที่สอดคล้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ นโยบายการส่งเสริมการลงทุนเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ส่วนการลงทุนในพื้นที่ EEC ของนักลงทุนต่างชาติ ในช่วง 4 เดือน มีนักลงทุนต่างชาติสนใจลงทุนในพื้นที่ EEC จำนวน 43 ราย คิดเป็นร้อยละ 20 ของจำนวนนักลงทุนทั้งหมด มีมูลค่าการลงทุนในพื้นที่ EEC จำนวน 7,521 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 19 ของเงินลงทุนทั้งหมด เป็นนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น 17 ราย ลงทุน 2,816 ล้านบาท จีน 8 ราย ลงทุน 725 ล้านบาท ฮ่องกง 3 ราย ลงทุน 2,920 ล้านบาท และประเทศอื่นๆ อีก 15 ราย ลงทุน 1,058 ล้านบาท
20 พ.ค. 2566
ยูเนสโกรับรองโคราชจีโอพาร์ค เป็นอุทยานธรณีโลก ทำให้จังหวัดนครราชสีมาเป็นเมืองที่ 4 ของโลกที่มีดินแดนแห่ง 3 มงกุฎของยูเนสโก
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก (UNESCO) รับรองให้ โคราชจีโอพาร์ค (KHORAT Geopark) จังหวัดนครราชสีมา เป็นอุทยานธรณีโลก (UNESCO Global Geopark) เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2566 ถือเป็นอุทยานธรณีโลกแห่งที่ 2 ของประเทศไทย และทำให้ไทยสร้างอีกประวัติศาสตร์ จังหวัดนครราชสีมา เป็นเมืองแห่ง 3 มงกุฎ หรือทริปเปิลคราวน์ (Triple Crown) ถือเป็นเมืองที่ 4 ของโลก ต่อจากอิตาลี เกาหลีใต้ และจีน ที่มีดินแดนแห่ง 3 มงกุฎของยูเนสโก ในจังหวัดเดียวกันโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ยูเนสโกได้ลงพื้นที่ตรวจประเมิน เก็บข้อมูลภาคสนาม ใน 17 แหล่งสำคัญของจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งผลการประชุมคณะกรรมการบริหารองค์การยูเนสโก ครั้งที่ 216 ณ องค์การยูเนสโก สำนักงานใหญ่ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส มีมติรับรองให้ โคราชจีโอพาร์ค เป็นอุทยานธรณีโลก และจะมีโปรแกรมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติของยูเนสโก ครบทั้ง 3 โปรแกรม ได้แก่ มรดกโลก (กลุ่มป่าดงพญาเย็นเขาใหญ่) มนุษย์และชีวมณฑล (พื้นที่สงวนชีวมณฑลป่าสะแกราช) และจีโอพาร์คโลก (โคราชจีโอพาร์ค)โคราชจีโอพาร์ค มีความแตกต่างจากจีโอพาร์คโลก ที่มีอยู่ 177 แห่งทั่วโลกคือ เป็นดินแดนแห่งเควสตาและฟอสซิล ที่เชื่อมโยงกับระบบนิเวศป่าเต็งรัง ป่าดิบแล้ง และวิถีชีวิตผู้คนกว่า 4,000 ปี ในพื้นที่ภูมิศาสตร์บริเวณลุ่มน้ำลำตะคองตอนกลางถึงตอนล่าง โดยพัฒนาต่อยอดและขยายจากสถาบันวิจัยและพิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหินและทรัพยากรธรณีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ที่ดำเนินโครงการในระยะแรก นับตั้งแต่ปี 2537
20 พ.ค. 2566
รัฐบาลเตือนประชาชน เฝ้าระวังป้องกันโรคไข้เลือดออกช่วงหน้าฝน ช่วยกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ช่วงนี้เข้าสู่ฤดูฝนทำให้หลายพื้นที่ของประเทศไทยเริ่มมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดน้ำขังตามภาชนะและวัสดุต่างๆ ซึ่งเป็นปัจจัยและแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายที่เป็นพาหะนำเชื้อไวรัสเดงกี (dengue virus) ที่ทำให้เกิดโรคไข้เลือดออกมาสู่คน โดยมักระบาดในช่วงฤดูฝนของทุกปี ขอเตือนให้ประชาชนป้องกันตนเองและครอบครัวจากโรคไข้เลือดออก โดยร่วมกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในบริเวณบ้าน โรงเรียน และชุมชน โดยยึดหลัก 3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค ตามข้อแนะนำของกรมควบคุมโรคคือ เก็บบ้าน เก็บขยะ และเก็บน้ำ ซึ่งจะทำให้สามารถป้องกันโรคไข้เลือดออกได้ รวมถึงป้องกันโรคไข้ปวดข้อยุงลายและโรคติดเชื้อไวรัสซิกาด้วย อีกทั้งขณะนี้เป็นช่วงของการเปิดภาคเรียน ทำให้เกิดการรวมตัวของกลุ่มเด็กนักเรียนในสถานศึกษาและบางพื้นที่เริ่มมีฝนตก ขอให้สถานศึกษา ศูนย์เด็กในชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันในการจัดสถานศึกษา ศูนย์เด็กเล็กในชุมชนให้มีความปลอดภัย ปราศจากแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายอันเป็นต้นเหตุของโรคไข้เลือดออก รวมทั้งขอให้ผู้ปกครองสังเกตอาการของบุตรหลานและคนในครอบครัว หากพบมีอาการไข้สูงเฉียบพลัน ร่วมกับปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว อาจมีจุดแดง เล็กๆ ขึ้นตามลำตัว แขน ขา คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง และเบื่ออาหาร โดยหากอาการไข้สูงเกิน 2 วัน เช็ดตัวหรือทานยาลดไข้แล้วไข้ไม่ลดลง ให้สันนิษฐานอาจป่วยด้วยโรคไข้เลือดออก ไม่ควรซื้อยาลดไข้ในกลุ่มแอสไพริน ไอบูโพรเฟนและไดโคลฟีแนค มารับประทาน และให้รีบนำผู้ป่วยไปพบแพทย์หรือสถานบริการสาธารณสุขที่อยู่ใกล้บ้าน เพื่อให้ได้รับการรักษาที่ถูกต้องรวดเร็ว จะช่วยลดโอกาสการเสียชีวิตได้ข้อมูลจากกรมควบคุมโรค รายงานสถานการณ์โรคไข้เลือดออกในประเทศไทย ในสัปดาห์ที่ 19 ระหว่างวันที่ 7 - 13 พฤษภาคม 2566 พบผู้ป่วยสะสมจำนวน 14,811 ราย มีผู้เสียชีวิต 13 ราย หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422
20 พ.ค. 2566
พบผู้ปกครองออกมาซื้อชุดนักเรียนน้อยลงกว่าทุกปี ประหยัด ซื้อเท่าที่จำเป็น
บรรยากาศที่ร้านน้อมจิตต์ สาขาบางกระบือ ผู้ผลิตและจำหน่ายชุดนักเรียนรายใหญ่ หนึ่งร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน Back To School พบว่าตั้งแต่ช่วงเช้า มีผู้ปกครองบางส่วนพาบุตรหลานใช้วันหยุดสุดสัปดาห์ออกมาซื้อชุดนักเรียนกันอย่างต่อเนื่อง ภายหลังเปิดภาคเรียนตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งทางร้านได้ให้ความร่วมมือกับกระทรวงกระทรวงพาณิชย์ตรึงราคา เพื่อช่วยเหลือประชาชนในช่วงเปิดภาคเรียน เช่นเดียวกับหนึ่งในประชาชนที่เลือกซื้อชุดสินค้ากล่าวว่าปีนี้ไม่ได้ซื้อชุดนักเรียน เนื่องจากลูกเรียนเป็นปีสุดท้ายวันนี้จึงมาซื้อเพียงถุงเท้าเท่านั้น ส่วนตัวมองว่าชุดนักเรียนมีราคาปรับขึ้นตลอด หากสามารถประหยัดได้จำเป็นต้องประหยัด โดยเฉพาะชุดลูกเสื้อ หากไม่จำเป็นมองว่าไม่ควรมี จะสามารถประหยัดได้ขึ้นมาในระดับหนึ่งขณะที่ร้านสหมิตรเซ็นเตอร์ ย่านบางกระบือ ถือเป็นร้านจำหน่ายซื้อผ้าชุดนักเรียนทุกรูปแบบขนาดใหญ่ พบว่าปีนี้ผู้ปกครองออกมาซื้อเสื้อผ้าน้อยกว่าทุกปี โดยเจ้าของร้าน กล่าวว่า ปีนี้ผู้ปกครองออกมาซื้อเสื้อผ้าน้อยกว่าทุกๆ ปี มองว่าประหยัดกันมากขึ้นและสั่งซื้อทางออนไลน์มากขึ้นด้วยสำหรับโครงการพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน Back To School ประชาชนสามารถเลือกซื้อสินค้าลดราคาได้ผ่านทางช่องทางออนไลน์ หรือแอปพลิเคชันของแต่ละร้านค้า รวมทั้งเลือกซื้อสินค้าทาง Shopee และ Lazada โดยทั้งสองแพลตฟอร์มนี้จัดให้มี Code ส่วนลดสำหรับโครงการนี้เป็นการเฉพาะ ไปจนถึงวันที่ 31 พ.ค. นี้
19 พ.ค. 2566
กรมการค้าภายใน รายงานสถานการณ์ราคาสินค้าในสัปดาห์นี้ มีทั้งปรับลดลงและทรงตัว พร้อมติดตามต้นทุนวัตถุดิบอย่างใกล้ชิด หลังราคาน้ำมันดีเซลปรับลดลง
ร้อยตรีจักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า สถานการณ์ราคาสินค้าในสัปดาห์นี้ มีทั้งปรับเพิ่มขึ้นและลดลง โดยกลุ่มเนื้อสัตว์ หมูเนื้อแดงราคาเฉลี่ยทั่วประเทศอยู่ที่ ก.ก. ละ 142 บาท ปรับลดลงจากเดือนก่อน ที่ราคา 151 บาทต่อกก. เนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เป็นผลดีต่อผู้บริโภค ส่วนไก่ราคาเฉลี่ยทั่วประเทศปรับขึ้นเล็กน้อย โดยไก่น่องติดสะโพก ราคาเฉลี่ย 78 บาทต่อกก. น่องไก่ 81 บาทต่อกก. สะโพกไก่ 84 บาทต่อกก. อกไก่ 77 บาทต่อกก. ซึ่งเป็นผลจากสภาพอากาศร้อน ทำให้ไก่โตช้า ความต้องการบริโภคเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามผลผลิตมีเพียงพอต่อความต้องการ และราคายังอยู่ภายในโครงสร้างที่กำกับดูแลสำหรับไข่ไก่ เบอร์ 3 ราคาเฉลี่ยทั่วประเทศฟองละ 3.91 บาท ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากสภาพอากาศร้อน ทำให้ไก่ออกไข่น้อยลง แต่ภาพรวมยังเพียงพอต่อความต้องการ และราคายังอยู่ในโครงการ คาดว่าผลผลิตจะออกมากขึ้นเมื่อเข้าสู่ช่วงหน้าฝน และราคาจะลดลง นอกจากนี้ สินค้าอุปโภคบริโภคหลายรายการ ภาพรวมทรงตัวและปรับลดลง เนื่องจากห้างได้จัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้าอย่างต่อเนื่อง โดยสินค้าที่ราคาทรงตัว เช่น ข้าวสารบรรจุถุง นมผง น้ำตาลทราย บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ครีมอาบน้ำ แชมพู ส่วนที่ราคาลดลง เช่น ปลากระป๋อง สบู่ก้อน น้ำยาล้างจาน และน้ำยาซักผ้า เป็นต้น ทั้งนี้ กรมฯ จะติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะต้นทุนวัตถุดิบ ซึ่งขณะนี้วัตถุดิบหลายรายการมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับลดลง และเงินบาทแข็งค่า มีผลทำให้ต้นทุนการนำเข้าลดลงด้วย
19 พ.ค. 2566
โครงการประกันรายได้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ งวดที่ 7 ไม่ต้องจ่ายส่วนต่างในงวดนี้ หลังราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ราคาปรับตัวสูงขึ้น เกษตรกรขายได้ราคาดี
นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ได้พิจารณาราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2565/66 งวดที่ 7 สำหรับเกษตรกรที่แจ้งวันคาดว่าจะเก็บเกี่ยวตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน ถึงวันที่ 19 พฤษภาคม 2566 โดยราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงของงวดที่ 7 กก.ละ 11.95 บาท ซึ่งมีราคาสูงกว่าราคาประกันที่ กก.ละ 8.50 บาท จึงไม่ต้องชดเชยส่วนต่างให้แก่เกษตรกรในงวดนี้ ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการฯ จะพิจารณากำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการฯ เป็นประจำเดือนละ 1 ครั้ง รวม 12 งวด จนถึงระยะเวลาสิ้นสุดการรับสิทธิ์ชดเชยตามโครงการฯ วันที่ 20 ตุลาคม 2566 สำหรับเกษตรกรที่มีวันเพาะปลูกตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2565 – 31 พฤษภาคม 2566 รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับสถานการณ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในตลาดต่างประเทศ กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ คาดการณ์ปริมาณผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของโลกปีนี้ จะมีปริมาณเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีปริมาณการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในบราซิล สหรัฐอเมริกา และอาร์เจนตินา โดยตั้งแต่เดือนเมษายน 2566 ราคาเสนอซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของผู้ส่งออกรายใหญ่ได้ลดลง จากผลผลิตที่เพิ่มขึ้นของบราซิล ซึ่งกดดันราคาทั่วโลก รวมถึงการยกเลิกการจัดส่งข้าวโพดไปยังประเทศจีนเป็นจำนวนมาก ทำให้อุปสงค์ข้าวโพดสหรัฐอ่อนตัวลง ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลของผู้แทนสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย ที่คาดการณ์ว่าราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ รวมถึงพืชทดแทนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เช่น ข้าวสาลีและข้าวบาร์เลย์ อาจจะปรับตัวลดลงแต่ยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไป
19 พ.ค. 2566
กรมการขนส่งทางบก ขอความร่วมมือผู้ประกอบการและพนักงานขับรถโดยสารและรถบรรทุก ปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยและขับรถด้วยความระมัดระวังช่วงฤดูฝน
นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ช่วงฤดูฝน ทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ลดลง กรมการขนส่งทางบก จึงขอความร่วมมือผู้ประกอบการกวดขันและกำชับพนักงานขับรถโดยสารและรถบรรทุกปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยและขับรถด้วยความระมัดระวังปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ก่อนออกปฏิบัติหน้าที่ต้องตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงและอุปกรณ์ส่วนควบของรถทุกครั้ง ในกรณีรถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ต้องใช้อุปกรณ์สำหรับยึดตู้บรรทุกสินค้า (Twist-Lock) ทุกคัน ให้ยึดมั่นคงแข็งแรงกับตัวรถและสามารถรับน้ำหนักบรรทุกได้โดยไม่เกิดความเสียหาย เพื่อป้องกันไม่ให้ตู้คอนเทนเนอร์บรรทุกสินค้าร่วงหล่น และตัวรถต้องติด GPS Tracking โดยผู้ประกอบการต้องติดตามการใช้รถของพนักงานขับรถอย่างเคร่งครัด หากพบมีการกระทำผิด เช่น พนักงานขับรถใช้ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ให้ดำเนินการแจ้งเตือนไปยังพนักงานขับรถทันที โดยศูนย์บริหารจัดการเดินรถระบบ GPS กรมการขนส่งทางบกและสำนักงานขนส่งจังหวัดทุกจังหวัดได้ดำเนินการกำกับ ดูแล ตรวจสอบตลอด 24 ชั่วโมงทั้งนี้หากพบพนักงานขับรถฝ่าฝืนกฎหมายหรือทำผิดจนเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงจะดำเนินการลงโทษผู้ฝ่าฝืนขั้นสูงสุดและมีโอกาสถูกพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับรถได้รวมถึงจะดำเนินการลงโทษเจ้าของรถและผู้ประกอบการตามกฎหมายต่อไป
19 พ.ค. 2566
หากมีร้านฝ่าฝืนขายกัญชาให้นักเรียนและผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ต้องถูกถอนใบอนุญาต
นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวถึงกรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ลงพื้นที่โรงเรียนเซนต์โยเซฟ คอนแวนต์ พบร้านกัญชา ตั้งอยู่ตรงข้ามโรงเรียน ว่า เรื่องนี้ ทางกรมการแพทย์แผนไทยฯ ได้รับการร้องเรียนเมื่อวาน (18 พ.ค.66) และวันนี้ (19 พ.ค.66) ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปตรวจสอบแล้วพบว่า ร้านปิด ทั้งนี้ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ. 2565 มีเงื่อนไขและให้อำนาจ เรื่องห้ามการจำหน่ายให้กับเด็กนักเรียน และผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี หากฝ่าฝืนต้องเพิกถอนใบอนุญาต ดังนั้นร้านที่ขออนุญาตต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย ต้องมีการทำรายงานการซื้อขายกัญชา ส่งมากับมายังกรมการแพทย์แผนไทยฯ ด้วย โดยต้องระบุ อีเมลของผู้ซื้อกัญชา ซึ่งเรื่องนี้พึ่งมีการบังคับใช้ไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ส่วนเรื่องที่มีร้านกัญชาอยู่ตรงข้ามสถานศึกษานั้น อยากให้เข้าใจว่าเดิมมีเสนอเรื่องการจัดโซนนิ่งกัญชา แต่เรื่องยังคงค้างอยู่ในสภา หากรัฐบาลชุดใหม่เห็นควร ว่า ควรมีโซนนิ่ง ก็คงมีการเร่งพิจารณา หรือหากจะยกเลิก ก็แล้วแต่รัฐบาลชุดใหม่ ส่วนกรณีที่นายชูวิทย์ ขู่จะให้รัฐบาลชุดใหม่เล่นงาน ทั้งปลัดและอธิบดี ที่เกี่ยวข้องกับกัญชานั้น มองว่า คนที่จะมาเป็นรัฐมนตรี มีวุฒิภาวะและวิจารณญาณมากพอ เข้าใจการปฏิบัติของข้าราชการว่าปฏิบัติตามบทบาทและนโยบายของรัฐบาลและรัฐมนตรี
19 พ.ค. 2566
กรมปศุสัตว์ เร่งขับเคลื่อนปฎิบัติการหมูสะอาด จัดระบบการเลี้ยงสุกรตลอดห่วงโซ่รักษาเสถียรภาพราคาสุกร
นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยหลังเป็นประธานการประชุมคณะทำงานพัฒนาด้านสุกร ว่า ที่ประชุมมีการรายงานสรุปข้อมูลจำนวนสุกรและเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร สถานการณ์โรคที่สำคัญในสุกร ศูนย์ผลิตน้ำเชื้อสุกรมาตรฐาน มาตรฐานฟาร์มภาคบังคับและข้อมูลฟาร์มมาตรฐานสุกร และมีการรายงานสถานการณ์การผลิต ต้นทุนการผลิต การตลาดในสุกร เปรียบเทียบ ปี 2564 -2566 นอกจากนี้ ได้พิจารณาเกี่ยวกับข้อมูลด้านสุกรที่สำคัญ ระบบหรือขั้นตอนการรายงานข้อมูลด้านสุกร รวมถึงหารือมาตรการเพื่อพัฒนางานด้านสุกรทั้งระบบ อาทิเช่น มาตรการป้องกันการลักลอบนำเข้าเนื้อและชิ้นส่วนสุกร มาตรการตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายต่อสถานที่ตัดแต่งหรือสถานที่จำหน่ายเนื้อและชิ้นส่วนสุกรลักลอบนำเข้า มาตรการควบคุมการเคลื่อนย้ายสุกรมีชีวิตและซาก มาตรการการลงเลี้ยงใหม่ มาตรฐานฟาร์มสุกรภาคบังคับ มาตรการลดต้นทุนอาหารสัตว์ มาตรการด้านโรงฆ่าสัตว์และการขนส่งสุกรมีชีวิตและซากเป็นต้นเป้าหมายการประชุมครั้งนี้ เพื่อจัดวางระบบฐานข้อมูล หรือ Big Data และจัดวางบทบาทหน้าที่ของหน่วยงานในสังกัดกรมปศุสัตว์เพื่อบูรณาการภารกิจ รวมถึงจัดวางระบบข้อมูลที่สำคัญ รองรับภารกิจการขับเคลื่อนปฏิบัติการหมูสะอาด ที่มีเป้าหมายในการควบคุม เฝ้าระวังโรคระบาด ควบคู่กับการรักษาเสถียรภาพราคาสุกร โดยมุ่งหวังให้เกษตรกรเลี้ยงและขายสุกรได้ในราคาที่พออยู่ได้ไม่ขาดทุนอย่างมีเสถียรภาพ ซึ่งกรมปศุสัตว์จะมีการขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุดต่อไป
19 พ.ค. 2566
ประชาชนตรวจสอบยอดเงินค่าไฟฟ้าเดือนพฤษภาคมนี้ หากชำระบิลค่าไฟแล้ว จะคืนส่วนลดให้เดือนถัดไป
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติเห็นชอบให้ดำเนินการมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนจากสถานการณ์ราคาพลังงานที่ได้รับผลกระทบจากราคาไฟฟ้า ตามที่คณะรัฐมนตรีโดยให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าต่อเนื่อง 4 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2566 แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน และส่วนลดค่าไฟฟ้า (เพิ่มเติม) สำหรับงวดเดือนพฤษภาคม 2566 จำนวน 150 บาทต่อราย ให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 500 หน่วยต่อเดือน ทั้งนี้กำหนดให้เป็นส่วนลดค่าไฟฟ้าก่อนการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มการไฟฟ้านครหลวง (MEA) แจ้งว่า สำหรับใบแจ้งค่าไฟฟ้าประจำเดือนพฤษภาคม 2566 ที่จดหน่วยและส่งใบแจ้งค่าไฟฟ้าในวันที่ 14-17 พฤษภาคม 2566 ที่ยังไม่มีส่วนลด MEA จะปรับปรุงในระบบรับชำระเงินค่าไฟฟ้า โดยผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถตรวจสอบยอดเงินค่าไฟฟ้าประจำเดือนพฤษภาคม 2566 ที่มีการปรับปรุงแล้วได้ที่แอปพลิเคชัน MEA Smart life หรือที่ทำการ MEA ทั้ง 18 เขต หากผู้ใช้ไฟฟ้าที่ชำระค่าไฟฟ้าแล้ว MEA จะคืนเงินส่วนลดดังกล่าวให้ในเดือนถัดไป ทั้งนี้ ใบแจ้งค่าไฟฟ้าประจำเดือนพฤษภาคม 2566 จะเป็นการจดหน่วยในวันใดวันหนึ่งระหว่างวันที่ 14 พฤษภาคม ถึงวันที่ 13 มิถุนายนนี้นอกจากนี้ ตามที่มีประชาชนได้รับข้อความแอบอ้าง หน่วยงานการไฟฟ้านครหลวง เพื่อหลอกเก็บเงินค่าบริการต่างๆ นอกสถานที่ทำการ รวมถึงเพื่อล่อลวงให้รับบริการผ่านระบบออนไลน์ หรือคลิกลิงก์ต่างๆ MEA มีความห่วงใยต่อกรณีดังกล่าว แจ้งวิธีสังเกต SMS ของ MEA ที่ถูกต้อง ขอให้ประชาชนสังเกตบริเวณชื่อบุคคลผู้ส่ง โดยจะต้องระบุชื่อเป็น “MEA” เท่านั้น หากพบชื่อผู้ส่งเป็นตัวเลขเบอร์โทรศัพท์ หรือตัวอักษรที่ไม่ใช่การสะกดตามคำว่า “MEA” ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ MEA ยืนยันว่าจะไม่ส่ง SMS ให้กับบุคคลทั่วไป ยกเว้นเป็นผู้ที่กำลังติดต่อธุรกรรมกับ MEA หรือรับบริการ MEA e-Bill อยู่เท่านั้น
19 พ.ค. 2566
ชวนประชาชนร่วมกิจกรรมรณรงค์สัปดาห์วันความดันโลหิตสูงโลก ทดสอบคุณภาพเครื่องวัดความดันโลหิต ฟรี
นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวถึงการจัดกิจกรรมรณรงค์สัปดาห์วันความดันโลหิตสูงโลก ว่าโรคความดันโลหิตสูงเป็นหนึ่งในโลกไม่ติดต่อเรื้อรัง ที่เป็นปัญหาสาธารณสุขสำคัญกำลังคุกคามสุขภาพคนไทยและคนทั้งโลก โดยพบคนไทยเป็นโรคความดันโลหิตสูงจำนวนมาก เป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมาเช่น โรคหลอดเลือด โรคหัวใจ เครื่องวัดความดัน ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ปัจจุบันนอกจากจะมีสถานพยาบาลใช้งานแล้ว ประชาชนทั่วไปยังนิยมซื้อไปใช้เองอย่างแพร่หลาย ทั้งนี้เครื่องวัดความดันโลหิต ทั้งแบบพกพาหรือที่ใช้วัดเองที่บ้าน ควรหมั่นตรวจสอบมาตรฐานอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่า เครื่องวัดความดันโลหิตนั้นอ่านค่าได้ถูกต้อง สมบูรณ์ วันนี้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จัดกิจกรรมรณรงค์สัปดาห์วันความดันโลหิตสูงโลก โดย สำนักรังสีและเครื่องมือแพทย์ ได้จัดให้บริการ ทดสอบคุณภาพเครื่องวัดความดันโลหิตและเครื่องวัดค่าออกซิเจนปลายนิ้ว บริการประชาชนฟรี ตั้งแต่เวลา 15.00 น.-18.00 น. ณ สถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วงสถานีกระทรวงสาธารณสุข
19 พ.ค. 2566
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เปิดระบบซื้อบัตร-ชำระค่าบริการผ่านแอปฯ QueQ ลดปัญหาจราจร เริ่ม 1 กรกฎาคมนี้
Facebook Page "อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่" ได้โพสต์ภาพประกาศ การจำหน่ายบัตรค่าบริการผ่านเข้าไปในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ด้วยระบบการจำหน่ายบัตรค่าบริการอิเล็กทรอนิกส์ โดยระบุว่า อุทยานฯ มีข้อบังคับใช้ระบบจำหน่ายบัตร (E-Ticket) ผ่านแอปพลิเคชัน QueQ ลดปัญหาด้านการจราจรติดขัดและวัตถุประสงค์ตามเป้าหมายของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพื่อประโยชน์และความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จึงกำหนดให้ผู้ที่เข้ามาเยือนทุกท่าน จองบัตรค่าบริการอิเล็กทรอนิกส์ (E-Ticket) นักท่องเที่ยวชาวไทยชำระค่าบริการผู้ใหญ่ 40 บาท และเด็ก 20 บาท ผ่าน App QueQ เพียงครั้งเดียวเท่านั้นในส่วนของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ต้องชำระค่าบริการ 2 ครั้ง โดยชำระผ่าน App QueQ ในราคาผู้ใหญ่ 200 บาทและเด็ก 100 บาท และต้องชำระเป็นเงินสดก่อนเข้าพื้นที่อีกครั้ง บริเวณด่านตรวจศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ หรือเนินหอมในราคาผู้ใหญ่ 200 บาท และเด็ก 100 บาท ทั้งนี้ ระบบการจำหน่ายบัตรอิเล็กทรอนิกส์ จะเปิดให้ใช้บริการตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมนี้ เป็นต้นไป หากมีการเปลี่ยนแปลงจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
19 พ.ค. 2566
สิ้นสุดฤดูร้อนเริ่มเข้าสู่ฤดูฝน 22 พฤษภาคมนี้ ปริมาณฝนตกรวมน้อยกว่าปีที่ผ่านมา
นางสาวชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ประเทศไทยสิ้นสุดฤดูร้อนแล้วและจะเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ เนื่องจากพบว่ามีฝนตกชุกหนาแน่นและต่อเนื่องครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ ประกอบกับลมที่พัดปกคลุมประเทศไทยที่ระดับผิวพื้นถึงความสูงประมาณ 3.5 กิโลเมตร ได้เปลี่ยนทิศเป็นลมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งจะพัดนำความชื้นจากทะเลอันดามันเข้ามาปกคลุมบริเวณประเทศไทยอย่างต่อเนื่องและลมชั้นบนตั้งแต่ระดับความสูง 5 กิโลเมตรขึ้นไปได้เปลี่ยนทิศเป็นลมฝ่ายตะวันออก ซึ่งถือว่าครบองค์ประกอบตามเกณฑ์การเข้าสู่ฤดูฝนของประเทศไทยแล้วอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า ในปีนี้ปริมาณฝนรวมจะน้อยกว่าปีที่ผ่านมาและน้อยกว่าค่าปกติประมาณร้อยละ 5 ช่วงกลางเดือนมิถุนายนถึงกลางเดือนกรกฎาคมจะเกิดสภาวะฝนทิ้งช่วง อาจส่งผลทำให้เกิดการขาดแคลนน้ำด้านการเกษตรได้ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่แล้งซ้ำซากนอกเขตชลประทาน ส่วนเดือนสิงหาคมและกันยายน จะมีฝนตกชุกหนาแน่นที่สุด มีโอกาสสูงที่จะมีพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนผ่านบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1-2 ลูก ส่งผลให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ และก่อให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก รวมทั้งน้ำล้นตลิ่งได้ สำหรับฤดูฝนของประเทศไทยตอนบนจะสิ้นสุดประมาณกลางเดือนตุลาคม ส่วนภาคใต้โดยเฉพาะฝั่งตะวันออกจะมีฝนตกชุกหนาแน่นต่อไปอีกจนถึงกลางเดือนมกราคม 2567
18 พ.ค. 2566
ภาพรวมนักท่องเที่ยวเข้าไทยเดือนพฤษภาคม 66 เพิ่มขึ้น คาดครึ่งปีหลังการท่องเที่ยวเติบโตหลัง
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา ประเมินภาพรวมของเดือนพฤษภาคม 2566 พบว่า จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยมากกว่า 2 ล้านคน โดยเป็นนักท่องเที่ยวจากอาเซียน เอเชียตะวันออกและเอเชียใต้ เป็นหลัก ขณะที่สัปดาห์ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยมีการปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากการไม่มีวันหยุดต่อเนื่องในตลาดระยะใกล้ ส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวเข้าไทยอยู่ที่ 415,309 คน แต่เพิ่มขึ้นจากที่คาดการณ์ในสัปดาห์ก่อนหน้า (ข้อมูล ณ วันที่ 15 พ.ค. 66) โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มาจากประเทศ มาเลเซีย จีน อินเดีย ลาว และเกาหลีใต้ คิดเป็นร้อยละ 47.5 ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด อย่างไรก็ตาม กระทรวงฯ คาดการณ์ว่าสัปดาห์ถัดไปจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ที่ 420,000 คน โดยจะมีนักท่องเที่ยวอาเซียนและเอเชียตะวันออก เป็นหลัก และคาดว่าการท่องเที่ยวของไทยยังคงมีแนวโน้มการเติบโตขึ้นในครึ่งปีหลัง แม้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวระหว่างประเทศจะชะลอตัวลง แต่ก็เป็นไปตามฤดูกาลท่องเที่ยว ประกอบกับมีปัจจัยสนับสนุนทั้งภายในและภายนอกประเทศ เช่น การเพิ่มจำนวนเที่ยวบินและแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ทำโดยภาครัฐและเอกชนทั้งนี้ ยังมีปัจจัยเชิงลบจากแรงกดดันด้านเศรษฐกิจโลก ไม่ว่าจะเป็นประเด็นเรื่องของอัตราเงินเฟ้อ ความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐฯ ความพยายามผลักดันเงินสกุลหยวนเป็นเงินสกุลหลักของโลก รวมถึงแนวโน้มความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่จะยังไม่สิ้นสุดในปีนี้
18 พ.ค. 2566
กรมบัญชีกลางเตือนอย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพ แอบอ้างชื่อกรมบัญชีกลาง หลอกลวงประชาชนกู้เงินออนไลน์
นางสาววารี แว่นแก้ว รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลางได้รับแจ้งจากประชาชนว่า มีมิจฉาชีพแอบอ้างชื่อกรมบัญชีกลาง ประกอบการให้กู้ยืมเงินแบบออนไลน์ โดยการส่งลิงก์ Line Official ให้สมัครกู้ยืมเงินผ่านทาง Facebook ทำให้ประชาชนหลงเชื่อเข้าไปสมัครและกรอกข้อมูลส่วนตัวและให้ทำธุรกรรมทางการเงิน โดยในขั้นตอนของการปลดล็อคบัญชีเงินฝากธนาคาร กลุ่มมิจฉาชีพได้แอบอ้างชื่อกรมบัญชีกลางในเอกสารระบบล็อค System Lock เพื่อหลอกลวงให้ประชาชนหลงเชื่อ กรมบัญชีกลาง ขอชี้แจงว่า กรมบัญชีกลางไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับการกระทำดังกล่าว ขอเตือนให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่ Call Center กรมบัญชีกลาง 0 2270 6400
18 พ.ค. 2566
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาจำคุก ส.ส. ภูมิใจไทย 3 ราย คนละ 9 เดือน
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านฟังคำพิพากษาคดีที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ฟ้อง นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พัทลุง เขต 2 พรรคภูมิใจไทย นายภูมิศิษฏ์ คงมี อดีต ส.ส. พัทลุง เขต 1 พรรคภูมิใจไทย และนางนาที รัชกิจประการ อดีต ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย เป็นจำเลย ตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต กรณีเสียบบัตร ส.ส. แทนกันในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยจำเลยทั้ง 3 คนถูกกล่าวว่ายินยอมให้บุคคลอื่นเสียบบัตรแสดงตนแทนในการลงมติเรียงตามรายมาตรา ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 เมื่อวันที่ 10-11 มกราคม 2563 เป็นเหตุให้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 วาระที่ 2-3 ไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ เข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ ส.ส. เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต มีโทษตามกฎหมาย คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มาตรา 172 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับโดยล่าสุดศาลฎีกา พิพากษาจำคุก ส.ส. ภูมิใจไทย 3 ราย จำคุกคนละ 9 เดือน พ้นจากตำแหน่ง ตัดสิทธิทางการเมือง ไม่รอลงอาญา
18 พ.ค. 2566
กรมธนารักษ์จัดทำเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 90 ปี กรมธนารักษ์ เฉลิมพระเกียรติสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
นายจำเริญ โพธิยอด อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสครบ 90 ปี กรมธนารักษ์ ในวันที่ 23 พฤษภาคม 2566 กระทรวงการคลังได้อนุมัติให้กรมธนารักษ์จัดทำเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 90 ปี กรมธนารักษ์ โดยจัดทำจำนวน 2 ประเภท ได้แก่ เหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล) ชนิดราคา 20 บาท ประเภทขัดเงา จำนวนผลิตไม่เกิน 100,000 เหรียญ ราคาจำหน่ายเหรียญละ 200 บาท และเหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล) ชนิดราคา 20 บาท ประเภทธรรมดา จำนวนผลิตไม่เกิน 1,000,000 เหรียญ ราคาจ่ายแลกเหรียญละ 20 บาท โดยลวดลายด้านหน้า กลางเหรียญมีพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์ชุดสากล ทรงประดับเหรียญที่ระลึกในการเสด็จพระราชดำเนินเยือนสหรัฐอเมริกาและทวีปยุโรป ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ภายในวงขอบเหรียญเบื้องล่าง มีข้อความว่า “พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” ด้านหลัง กลางเหรียญมีรูปเครื่องหมายราชการของกรมธนารักษ์ ภายในวงขอบเหรียญเบื้องบนมีข้อความว่า “๙๐ ปี กรมธนารักษ์ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๖” เบื้องล่างมีข้อความบอกราคาว่า “๒๐ บาท” และข้อความว่า “ประเทศไทย” โดยมีลายไทยประดิษฐ์คั่นระหว่างข้อความเบื้องบนกับเบื้องล่างทั้งสองข้างผู้ที่ประสงค์จะขอแลกเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกดังกล่าว สามารถติดต่อขอแลกได้ตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคม 2566 เป็นต้นไป ที่สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ทั่วประเทศ หรือช่องทางออนไลน์ www.treasury.go.th

Dataset Card for "prd_news"

More Information needed

Downloads last month
38