Datasets:

pythainlp

/

prd_news_30112023

like 1

Follow

PyThaiNLP 33

คลังจังหวัดสกลนคร รับรางวัลนวัตกรรม ในผลงาน "ระบบติดตามการดำเนินงานโครงการความโปร่งใสในการก่อสร้างภาครัฐ CoST Tracking System"

วันที่ 15 กันยายน 2566 นางณริศรา ขูขุนทด คลังจังหวัดสกลนคร และคณะ เข้าร่วมพิธีมอบรางวัลหน่วยงานที่มีผลปฏิบัติงานดีเด่น ประจําปีงบประมาณ พ.ศ.2565 และรางวัลนวัตกรรมกรมบัญชีกลาง ครั้งที่ 12 ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดยมีนางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมบัญชีกลาง เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลหน่วยงานที่มีผลปฏิบัติงานดีเด่น ประจําปีงบประมาณ พ.ศ.2565 และรางวัลนวัตกรรมกรมบัญชีกลาง ครั้งที่ 12 ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ณ โรงแรม รามา การ์เด้นส์ โดยมีผู้บริหารระดับสูงของกรมบัญชีกลาง ร่วมแสดงความยินดีกับหน่วยงานที่ได้รับรางวัล โดยรางวัลที่มอบให้ กับหน่วยงานที่ได้ปฏิบัติงานดีเด่น ในครั้งนี้ประกอบด้วย รางวัลหน่วยงานที่มีผลปฏิบัติงานดีเด่น ประจําปีงบประมาณ พ.ศ.2565 จํานวน 22 หน่วยงาน และรางวัลนวัตกรรมกรมบัญชีกลาง ครั้งที่ 12 ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค จํานวน 25 รางวัลซึ่งสํานักงานคลังจังหวัดสกลนครได้รับรางวัลผลการปฏิบัติงานดีเด่น ขนาดกลาง M และได้รับรางวัลนวัตกรรม ระดับชมเชย โดยเสนอผลงาน ระบบติดตามการดําเนินงานโครงการความโปร่งใสในการก่อสร้างภาครัฐ CoST Tracking System

15/9/2023

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

สกลนคร

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสกลนคร

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230915234930885

สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครพนม เตรียมเปิดจุดขายไข่ไก่ลดราคาช่วยประชาชน

สํานักงานพาณิชย์จังหวัดนครพนม เชิญชวนประชาชนจังหวัดนครพนม ร่วมซื้อไข่ไก่ลดราคาช่วยประชาชน ภายใต้กิจกรรมเชื่อมโยงจําหน่ายไข่ไก่เพื่อลดค่าครองชีพประชาชน โดยสํานักงานพาณิชย์จังหวัดนครพนมร่วมกับกรมการค้าภายใน ในวันที่ 19-20 กันยายน 2566 เวลา 09.00 - 15.00 น. (หรือจนกว่าสินค้าจะหมด จํานวน 125 แผง/จุด/วัน) โดยจําหน่ายไข่ไก่ เบอร์ 3 ราคา 110 บาท (จากปกติ 130 บาท) จํากัดจํานวนการซื้อคนละไม่เกิน 2 แผงทั้งนี้ จะจัดจําหน่ายไข่ไก่ ตามจุดจําหน่าย 2 จุด ได้แก่ บริเวณหน้าสวนชมโขง และหน้าสํานักงานพาณิชย์จังหวัดนครพนม ถนนอภิบาลบัญชา ต.ในเมือง อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม

15/9/2023

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

นครพนม

สวท.นครพนม

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230915231804875

พาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ ตรวจสอบเรื่องร้องเรียนผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไม่สามารถใช้วงเงินในบัตรฯ ได้

สํานักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ นางพิรุณวรรณน์ จงใจภักดิ์ พาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กลุ่มกํากับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า ลงพื้นที่ตรวจสอบเรื่องร้องเรียนผ่านทางสายด่วน 1569 กรมการค้าภายใน กรณีผู้ร้องเรียนเป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จํานวน 2 ราย อาศัยอยู่ที่จังหวัดตราดและลพบุรี ได้รับเงินตามสิทธิ์ในบัตรฯ จํานวน 300 บาท/เดือน แต่ไม่สามารถใช้วงเงินในบัตรฯ ได้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2566 โดยการตรวจสอบจากศูนย์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีวงเงินในบัตรฯ ไปปรากฏว่าถูกใช้กับร้านธงฟ้าฯ ในพื้นที่อําเภอลําดวน จังหวัดสุรินทร์ โดยที่ผู้ร้องเรียนไม่ได้นําบัตรไปใช้ในพื้นที่ของจังหวัดสุรินทร์แต่อย่างใดจากการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า ร้านธงฟ้าประชารัฐตามที่ถูกร้องเรียนดังกล่าว มีการรับชําระสินค้าผ่านบัตรสวัสดิการจริง แต่ว่ามีบุคคลอื่นนํามาซื้อสินค้าโดยการส่งรูปถ่ายบัตรฯ มาให้ร้านสแกนชําระค่าสินค้า ซึ่งทางร้านไม่ทราบว่าเป็นบัตรของบุคคลอื่นที่ไม่ยินยอม พนักงานเจ้าหน้าที่จึงลงบันทึกการตรวจฯ และแนะนําตักเตือนร้านค้าดังกล่าวไม่ให้บริการรับชําระบริการสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้อีก หากมีการร้องเรียนดังกล่าวอีกจะถูกเพิกถอนจากการเป็นร้านธงฟ้าฯทั้งนี้ พนักงานเจ้าหน้าที่ได้แนะนําตักเตือนให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขการปฏิบัติร้านธงฟ้าฯ และให้ปฏิบัติตามกฎเหล็กร้านธงฟ้าฯ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งเจ้าของร้านหากกระทําผิดเงื่อนไขจะถูกเพิกถอนจากการเป็นร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ และยกเลิกการใช้ Mobile Application ทันที เจ้าของร้านรับทราบเข้าใจและยินดีปฏิบัติตาม

15/9/2023

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

สุรินทร์

สวท.สุรินทร์

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230915234605882

จังหวัดปัตตานี จัดงาน Pattani River Festival 2023 “ดินแดนลังกาสุกะ ปัตตานีวิถีแห่งสายน้ำ” ระหว่างวันที่ 15-17 กันยายน 2566 ณ บริเวณสะพานเดชานุชิต ริมแม่น้ำปัตตานี

วันนี้ (15 ก.ย.66) เวลา 20.00 น. ณ บริเวณสะพานเดชานุชิต ริมแม่น้ําปัตตานี อําเภอเมืองปัตตานี นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เป็นประธานเปิดงาน Pattani River Festival 2023 “ดินแดนลังกาสุกะ ปัตตานีวิถีแห่งสายน้ํา” โดยมีนายสุชาติ ชายมัน ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดปัตตานี กล่าวรายงาน พร้อมด้วยว่าที่ร้อยตรีตระกูล โทธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชนเข้าร่วมงานเป็นจํานวนมากการดําเนินงานในครั้งนี้ สํานักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดปัตตานี เทศบาลเมืองปัตตานี ร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชนจัดงานนี้ขึ้น เพื่อถ่ายทอดเงาอดีตที่ยืนยาวจนถึงปัจจุบัน สู่การสร้างสรรค์ศิลปะร่วมสมัย เพื่ออนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมของปัตตานีวิถีแห่งสายน้ํา สําหรับพิธีเปิดภายในงาน มีการโชว์เดินแบบผ้าไทย โดยคณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานฯ ของจังหวัดปัตตานี มีการแสดงสด แสง สี เสียง สื่อผสม ผ่านม่านน้ําและน้ําพุดนตรี พร้อมพลุดอกไม้ไฟ แสดงศิลปวัฒนธรรม แบบวิจิตรศิลป์ และในช่วงเช้า ตั้งแต่เวลา 09.00 น. มีการแข่งขันเรือพายประเพณีอีกกิจกรรมหนึ่งด้วยจังหวัดปัตตานีได้กําหนดแนวทาง เพื่อทําให้เกิดการสร้างรายได้ภายในจังหวัด เพิ่มรายได้ให้ผู้ประกอบการในพื้นที่ พร้อมทั้งอนุรักษ์วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมที่มีอยู่ให้แก่เยาวชนในพื้นที่ มีการนําเอาวัฒนธรรมทางน้ํามาถ่ายทอดผ่านกิจกรรมต่างๆ คือ กิจกรรมทางเรือ เรื่องราวของศิลปะวัฒนธรรมที่ถูกถ่ายทอดผ่านลวดลายของเรือกอและ ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ถือว่าเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ําค่าของจังหวัดปัตตานีที่คู่ควรแก่การอนุรักษ์ สืบทอด และสืบสาน ให้แก่เยาวชนรุ่นหลังต่อไปสําหรับการจัดงาน Pattani River Festival 2023 “ดินแดนลังกาสุกะ ปัตตานีวิถีแห่งสายน้ํา” มีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมและเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการ ในการจําหน่ายสินค้าและอาหารท้องถิ่น ยกระดับกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติของจังหวัดปัตตานี ให้เป็นที่รู้จักและเพื่อสร้างความตระหนักรู้ให้กับเยาวชนในพื้นที่ในการอนุรักษ์วัฒนธรรมที่มีอยู่ของจังหวัดปัตตานีต่อไป

15/9/2023

ภาคใต้

ปัตตานี

สวท.ปัตตานี

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230916073832930

คลังจังหวัดอำนาจเจริญ เข้าร่วมกิจกรรม “วันประมงแห่งชาติ อำนาจเจริญ”

วันศุกร์ที่ 15 กันยายน 2566 เวลา 08.39 น. นางนิภาพรรณ เหล่าแค คลังจังหวัดอํานาจเจริญ มอบหมายให้ นายณัฏฐ์กิตต์ วิเศษรัตน์ นักวิชาการคลังชํานาญการพิเศษ พร้อมด้วยบุคลากรสํานักงานคลังจังหวัดอํานาจเจริญ เข้าร่วมกิจกรรม “วันประมงแห่งชาติ อํานาจเจริญ” เนื่องในวันประมงแห่งชาติ ประจําปี 2566 ณ อ่างเก็บน้ําห้วยหินกอง บ้านหินกอง หมู่ที่ 9 ตําบลนาหว้า อําเภอปทุมราชวงศา จังหวัดอํานาจเจริญ โดยมีนายชนาส ชัชวาลวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอํานาจเจริญ เป็นประธานในพิธี

15/9/2023

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

อำนาจเจริญ

สวท.อำนาจเจริญ

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230915234817884

กระบี่เปิดงาน Krabi GOes Local Festival ปลุกกระแสการท่องเที่ยวด้านชุมชนท่องเที่ยว Otop นวัตวิถี

จังหวัดกระบี่เปิดงาน มหกรรมชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีกระบี่ Krabi GOes Local Festival ชวนเที่ยววิถีบ้านเกาะกลาง ต.คลองประสงค์ ปลุกกระแสท่องเที่ยวในตัวเมืองกระบี่ กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนวันที่ 15 กันยายน 2566 นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ มอบหมายให้นายอนุวรรตน์ โหมดพริ้ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นประธานเปิดงาน มหกรรมชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีกระบี่ Krabi GOes Local Festival ณ ลานอเนกประสงค์ตรงข้ามองค์การบริหารส่วนตําบลคลองประสงค์ อําเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ โดยมีนายชัยวุฒิ ครุฑมาศ พัฒนาการจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ผู้ประกอบการจากชุมชนเกาะกลาง และสื่อมวลชน ร่วมในพิธีเปิดรองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เผย หลังจากผ่านพ้นวิกฤติโควิด -19 จังหวัดกระบี่ ได้ให้ความสําคัญกับการจัดกิจกรรมต่างๆเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดกระบี่ให้กลับคืนมา โดยเฉพาะยุทธศาสตร์จังหวัด ที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ใช่เฉพาะช่วงไฮซีซั่นเท่านั้น เราต้องการเปิดเมืองให้นักท่องเที่ยวได้เห็นว่าเรามีความหลากหลายในการท่องเที่ยว ทั้งแหล่งท่องเที่ยว และเทศกาลท่องเที่ยวชุมชนทางจังหวัดจึงจัดโครงการ Krabi GOes Local Tourism มหกรรมชุมชนท่องเที่ยว Otop นวัตวิถีกระบี่ Krabi GOes Local Festival ขึ้นเพื่อสร้างการรับรู้ และประชาสัมพันธ์ข้อมูลชุมชนโปรแกรมการท่องเที่ยวรูปแบบต่างๆของชุมชมท่องเที่ยว ตําบลคลองประสงค์ ให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไป เพื่อสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวและจากการจําหน่ายผลิตภัณฑ์จากชุมชน อีกทั้งเพื่อเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยวระหว่างชุมชนท่องเที่ยว กับการท่องเที่ยวกระแสหลัก ซึ่งปัจจุบันจังหวัดกระบี่มีสินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชนทั้งที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนถึง 49 แห่ง อาหารพื้นบ้านซึ่งมีไม่น้อยกว่า 29 เมนู และผลิตภัณฑ์ชุมชนที่ลงทะเบียนถึง762 ราย/กลุ่ม และในแต่ละปีสามารถทํารายได้ไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาทสําหรับ Krabi GOes Local Festival จัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-17 กันยายน 2566 ภายในงานมีการนําเสนอสินค้าการบริการ การสาธิตผลิตภัณฑ์ชุมชน การประกวด อาหารพื้นบ้าน การแสดงวัฒนธรรมชุมชน และดนตรี ศิลปวัฒนธรรม วิถีชีวิต ที่มีเสน่ห์ ของชุมชน/เกาะกลาง ตําบลคลองประสงค์ ซึ่งนับเป็นพื้นที่ที่มีเอกลักษณ์ ผลิตภัณฑ์ชุมชน ของตําบลคลองประสงค์ เช่น กลุ่มข้าวสังข์หยด กลุ่มผ้าบาติกฯ เป็นต้น ทางชุมชนก็เตรียมจัดบริการนําชมโปรแกรม เส้นทางท่องเที่ยวชุมชนเกาะกลาง และตําบล คลองประสงค์เป็นพื้นที่ที่มีเอกลักษณ์พิเศษนั่งข้ามเรือมีวิถีชีวิตของชุมชนมุสลิมที่เข้มแข็ง จึงมีวัฒนธรรมที่ค่อนข้างแตกต่าง และเป็นเรื่องใหม่ของการท่องเที่ยว และมีสินค้าจัดจําหน่ายร่วมกัน มากกว่า 40 ราย นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมพิเศษให้ผู้เข้าร่วมงานได้ร่วมสนุก คือ กิจกรรมสวมใส่ผ้าไทยไปเที่ยวเกาะ งานนี้มีรางวัลถึง 3 รางวัล

15/9/2023

ภาคใต้

กระบี่

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกระบี่

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230916073649929

พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรีและคณะทำงานประชุมติดตามการ ตรวจสอบการซื้อขายกุ้งขาวแวนนาไม

สํานักงานพาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี จัดประชุมคณะทํางานติดตามการตรวจสอบการซื้อขายกุ้งขาวแวนนาไมและอนุมัติเบิกจ่ายค่าชดเชยส่วนต่างและค่าบริหารจัดการ ครั้งที่ 4/2566 โดยมีนางสาวจินตะณา ปิ่นสุภา พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี เป็นประธานการประชุม โดยที่ประชุมได้แจ้งเรื่องประกาศการกําหนดราคาอ้างอิงกุ้งขาวแวนนาไม และการชดเชยราคาส่วนต่างราคาตามโครงการช่วยเหลือเกษตรกร ผู้เลี้ยงกุ้ง ปี 2566 จังหวัดเพชรบุรี จํานวน 22 ครั้ง สรุปผลการดําเนินโครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ปี 2566 จังหวัดเพชรบุรี เกษตรกรจับกุ้งแล้วเสร็จ จํานวน 13 ราย ปริมาณ 43.095 ตัน ค่าชดเชยส่วนต่างราคา 861,9000 บาท และค่าบริหารจัดการ 430,950 บาท รวมเป็นเงิน 1,292,850 บาท สรุปผลการเบิกจ่ายค่าชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง สําหรับเรื่องพิจารณาติดตามและเร่งรัดการซื้อขายกุ้งขาวแวนนาไมของเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งที่เข้าร่วมโครงการฯ ที่ยังไม่ได้จับกุ้ง เนื่องจากใกล้สิ้นสุดระยะเวลาดําเนินการซื้อขายกุ้งภายในวันที่ 30 กันยายน 2566 เพื่อจัดทําแผนการซื้อขายกุ้งระกว่างเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งกับผู้รวบรวมและกระจายกุ้ง ก่อนวันที่ 20 กันยายน 2566 มติที่ประชุมมอบหมายให้สํานักงานประมงจังหวัดเพชรบุรี และชมรมผู้เลี้ยงกุ้งจังหวัดเพชรบุรี ประสานเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งที่ยังไม่จับกุ้งแจ้งวันที่จะจับกุ้งให้ชัดเจน เพื่อจัดทําแผน การซื้อขายกุ้งระหว่างเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งกับผู้รวบรวม และดําเนินการซื้อขายกุ้งให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 16 - 29 กันยายน 2566

16/9/2023

ภาคตะวันตก

เพชรบุรี

สวท.เพชรบุรี

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230916074552934

พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรีพร้อมคณะทำงาน ลงพื้นที่ตรวจติดตาม การซื้อขายกุ้งขาวแวนนาไม ตามโครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ปี 2566 จังหวัดเพชรบุรี

พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรีพร้อมคณะทํางาน ลงพื้นที่ตรวจติดตามการซื้อขายกุ้งขาวแวนนาไม ตามโครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ปี 2566 จังหวัดเพชรบุรี สํานักงานพาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี พร้อมด้วยคณะทํางานประจําจุดซื้อขายกุ้งขาวแวนนาไม (เจ้าหน้าที่ ประมงอําเภอ เกษตรอําเภอ ผู้แทนหัวหน้าสํานักงานชั่งตวงวัด 0-6 เพชรบุรี และผู้แทนชมรมผู้เลี้ยงกุ้งเพชรบุรี) ลงพื้นที่ตรวจติดตาม การซื้อขายกุ้งขาวแวนนาไม ตามโครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ปี 2566 จังหวัดเพชรบุรี ณ ฟาร์มกุ้ง สมชัยฟาร์ม ม.1 ต.แหลมผักเบี้ย อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี ซึ่งได้รับการจัดสรรปริมาณกุ้ง ในการเข้าร่วมโครงการฯ จํานวน 1,312 กก. กุ้งที่จับได้ขนาด 95 ตัว/กก. ราคาซื้อขาย 95 บาท/กก. อัตราชดเชย 20/กก. รวมเงินชดเชย 26,240 บาท จังหวัดเพชรบุรี ได้รับงบประมาณจากกรมการค้าภายในจํานวน 175 ตัน เกษตรกรเข้าร่วมโครงการ 44 ราย ผู้รวบรวมกระจายกุ้ง 3 ราย ชดเชยราคาให้เกษตรกรที่เข้าร่วม โครงการ กก.ละ 20 บาท และผู้รวบรวมฯ กก.ละ 10 บาท ระยะเวลาดําเนินการตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย - 30 ก.ย.66 สรุปผลการดําเนินการตามโครงการฯ ตั้งแต่วันที่ 18 ส.ค. -15 ก.ย 66 มีการซื้อขายกุ้งทั้งสิ้นจํานวน 16 ราย ปริมาณกุ้ง 44.407 ตัน รวมเป็นเงินชดเชยส่วนต่างราคา 888,140 บาท และได้จ่ายเงินชดเชยส่วนต่างราคาให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งที่เข้ารวมโครงการฯ ไปแล้ว 1 ครั้ง จํานวน 5 ราย เป็นเงินทั้งสิ้น 416,380 บาท โดยคณะทํางานติดตามตรวจสอบการซื้อขายกุ้งขายแวนนาไมและอนุมัติเบิกจ่ายเงินค่าชดเชยส่วนต่างราคาและค่าบริหารจัดการ ซึ่งมีพาณิชย์จังหวัดเพชรบุรีเป็นประธาน มีมติให้จ่ายเงินค่าชดเชยส่วนต่างราคาให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ที่มีเอกสารถูกต้องภายใน 15 วันหลังจากจับกุ้ง

16/9/2023

ภาคตะวันตก

เพชรบุรี

สวท.เพชรบุรี

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230916075809935

จังหวัดปัตตานี จัดงาน Pattani River Festival 2023 ดินแดนลังกาสุกะ ปัตตานีวิถีแห่งสายน้ำ กระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว

วันที่ 15 กันยายน 2566 เวลา 20.00 น. ที่บริเวณเวทีริมน้ําข้างสะพานเดชานุชิต อําเภอเมืองปัตตานี นางปาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เป็นประธานเปิดงาน Pattani River Festival 2023 "ดินแดนลังกาสุกะ ปัตตานีวิถีแห่งสายน้ํา" ซึ่งจัดโดยสํานักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดปัตตานี เทศบาลเมืองปัตตานี ร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่ออนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมของปัตตานีวิถีแห่งสายน้ํา หวังกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ผู้ประกอบการ ร้านค้าและประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมจํานวนมาก นายสุชาติ ชายมัน ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า จังหวัดปัตตานีเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก อีกทั้งมีต้นทุนทางด้านสิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม ประเพณี ที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งสามารถเอาวัฒนธรรมต่างๆ เหล่านี้มาช่วยหนุนเสริมด้านการท่องเที่ยว ทําให้เกิดการสร้างรายได้ภายในจังหวัด เพิ่มรายได้ให้ผู้ประกอบการในพื้นที่ เกิดการจ้างงานและสามารถสร้างความตระหนักในเรื่องของการอนุรักษ์วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมที่มีอยู่ให้แก่เยาวชนในพื้นที่ รวมถึงการนําเอาวัฒนธรรมทางน้ําที่มีประวัติอยู่คู่จังหวัดปัตตานีมาช้านาน ที่ถูกถ่ายทอดผ่านกิจกรรมต่างๆ อาทิ กิจกรรมทางเรือ เรื่องราวของศิลปะวัฒนธรรมที่ถูกถ่ายทอดผ่านลวดลายของเรือกอและ ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้ถือว่าเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ําค่าของจังหวัดปัตตานีที่คู่ควรแก่การอนุรักษ์ สืบทอด และสืบสาน ให้แก่เยาวชนรุ่นหลังต่อไป อีกทั้งนโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ได้ให้ความสําคัญกับการฟื้นฟูและสร้างเศรษฐกิจภายในประเทศหลังสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 โดยเน้นให้มีการสร้างงาน สร้างอาชีพ จังหวัดปัตตานี โดยสํานักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดปัตตานี จึงได้ร่วมกับเทศบาลเมืองปัตตานี และภาคีเครือข่าย จึงทําให้เกิดกิจกรรมนี้ขึ้นมาดําเนินการโครงการส่งเสริมมหกรรมท่องเที่ยววิถีประสบการณ์สัมผัส (Pattani Experience) กิจกรรมส่งเสริมเทศกาลแห่งสายน้ําปัตตานี ดินแดนลังกาสุกะ ในชื่องาน Pattani River Festival 2023 "ดินแดนลังกาสุกะ ปัตตานีวิถีแห่งสายน้ํา" กิจกรรมภายในงาน ประกอบไปด้วยการแสดง แสง สี เสียง สื่อผสม ผ่านม่านน้ํา น้ําพุดนตรี และพลุดอกไม้ไฟ การแข่งขันเรือพาย เรือยอกอง 5 ฝีพาย การแข่งขันเรือยาว 10 ฝีพาย การแสดงดนตรี การแสดงศิลปะพื้นบ้านพหุวัฒนธรรม ร้านอาหาร กาแฟ และสินค้าชุมชมกว่า 100 ร้านค้า และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย กําหนดจัดงานระหว่างวันที่ 15-17 กันยายน 2566

16/9/2023

ภาคใต้

ปัตตานี

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปัตตานี

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230916081852938

ผู้ว่าฯ โคราช เปิดกิจกรรมแสดงและจำหน่ายสินค้าเกษตรปลอดภัย ชาวโคราชร่วมใจพัฒนา อาหารปลอดภัยสร้างรายได้สู่ชุมชน

วันนี้ (16 ก.ย.66) ที่ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมแสดงและจําหน่ายสินค้าเกษตรปลอดภัย "ชาวโคราชร่วมใจพัฒนาอาหารปลอดภัยสร้างรายได้สู่ชุมชน" ภายใต้โครงการส่งเสริมการพัฒนากลไกและโครงสร้างดูดชับมูลค่าทางเศรษฐกิจและการกระจายรายได้กลับสู่ท้องถิ่น กิจกรรมส่งเสริมช่องทางการตลาดเครือข่ายเกษตรปลอดภัย เพื่อส่งเสริมเครือข่ายเกษตรปลอดภัยสู่ช่องทางการตลาดอาหารปลอดภัย กลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย ผู้ผลิต ผู้ประกอบการที่มีศักยภาพและมีความพร้อมในการพัฒนาสู่เกษตรปลอดภัย กลุ่มสัมมาชีพชุมชน กลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ ตามโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ "โคก หนอง นา" โมเดล หรือโครงการศูนย์เรียนรู้ทฤษฎีใหม่รูปแบบโคกหนองนาโมเดล จํานวน 30 กลุ่มๆ ละ 2 คน รวม 60 คน ดําเนินการจัดงาน ระหว่างวันที่ 15-17 กันยายน 2566 โดยกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย จัดแสดงผลงานและนิทรรศการการพัฒนาเกษตรปลอดภัย การเจรจาธุรกิจ/จับคู่ธุรกิจ การจําหน่ายสินค้าเกษตรปลอดภัย อาหารปลอดภัย และกิจกรรมส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

16/9/2023

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

นครราชสีมา

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230916084717942

สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสงครามจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมตลาดน้ำท่าคา

วันนี้ (16 ก.ย.66) ที่ตลาดน้ําท่าคา ตําบลท่าคา อําเภออัมพวา นายรนัสถ์ พุ่มเจริญ ปลัดจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นประธานเปิดโครงการส่งเสริมสนับสนุนการอนุรักษ์ฟื้นฟูขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่นจังหวัดสมุทรสงคราม "กิจกรรมส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยววัฒนธรรมตลาดน้ําท่าคา" โดยสํานักงานวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสงคราม กําหนดจัดกิจกรรมขึ้นเพื่อเป็นการส่งเสริม สนับสนุน อนุรักษ์ประเพณี วัฒนธรรมท้องถิ่น ปลูกจิตสํานึกให้เด็ก เยาวชน ประชาชนในท้องถิ่นเกิดความตระหนักในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และสืบสานภูมิปัญญาและคุณค่าความหลากหลาย ส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม เสริมสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนในท้องถิ่น โดยมีนายญาณทัช สิริวัฒน์ วัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสงคราม ประกันสังคมจังหวัดฯ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นําท้องที่ ผู้นําท้องถิ่น นักเรียน เข้าร่วมกิจกรรมตักบาตรพระสงฆ์ทางน้ํา ล่องเรือชมธรรมชาติสองฝั่งคลอง เส้นทางเสด็จประพาสต้นรัชกาลที่ 5 บ้านกํานันจัน และชมวิถีชุมชนชาวท่าคา สวนผลไม้ การทําน้ําตาลมะพร้าว จักสานก้านมะพร้าว พร้อมทั้งท่องเที่ยวตลาดน้ําท่าคาซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของชุมชนแห่งนี้ด้วย

16/9/2023

ภาคกลางและปริมณฑล

สมุทรสงคราม

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสงคราม

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230916132904980

จังหวัดลำปาง จัดกิจกรรมอบรมบุคลากรด้านการท่องเที่ยวเพื่อพัฒนาทักษะการจัดการท่องเที่ยววิถีชีวิตในชนบท รุ่นที่ 1

วันที่ 16 กันยายน 2566 เวลา 09.30 น. ณ โรงแรมบุษย์น้ําทอง อําเภอเมือง จังหวัดลําปาง นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดลําปาง มอบหมายให้ นายจําลักษ์ กันเพ็ชร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลําปาง เป็นประธานในพิธีเปิดฯ พร้อมด้วย ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลําพูน หัวหน้าส่วนราชการหน่วยงาน และเครือข่ายบุคลากรด้านการท่องเที่ยวที่ เข้าร่วมกิจกรรมอบรมบุคลากรด้านการท่องเที่ยวเพื่อพัฒนาทักษะการจัดการท่องเที่ยววิถีชีวิตในชนบท รุ่นที่ 1กิจกรรมอบรมบุคลากรด้านการท่องเที่ยวเพื่อพัฒนาทักษะการจัดการท่องเที่ยววิถีชีวิตในชนบท จัดขึ้นโดย กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 มอบหมายให้สํานักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลําพูน ภายใต้โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมสร้างสรรค์ ประจําปีงบประมาณ 2566 ของกลุ่มจังหวัดฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มทักษะการจัดการท่องเที่ยวชมวิถีชีวิตในชนบทเพิ่มศักยภาพให้แก่ชุมชนท่องเที่ยว และพัฒนาการดําเนินการจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวชมวิถีชีวิตในชนบท รวมถึงพัฒนาทักษะการนําเที่ยวและการตลาดประชาสัมพันธ์ เนื่องจากกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 มีศักยภาพ และมีความโดดเด่นทางการท่องเที่ยว หากทรัพยากรบุคคลมีความพร้อม และมีความสามารถในสื่อสารให้แก่นักท่องเที่ยวได้เข้าใจ และเข้าถึงความงดงามต่างๆ ของสินค้าและบริการทางด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดตนเองและสามารถเชื่อมโยงภายในกลุ่มจังหวัดได้ และเกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไปการจัดกิจกรรมดังกล่าว สํานักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลําพูน ได้กําหนดจัดการอบรม ทั้งสิ้น จํานวน 4 รุ่น ประกอบด้วย รุ่นที่ 1 จังหวัดลําปาง ระหว่างวันที่ 14-17 กันยายน 2566 ณ โรงแรมบุษย์น้ําทอง จังหวัดลําปาง รุ่นที่ 2 จังหวัดแม่ฮ่องสอน ระหว่างวันที่ 21-24 กันยายน 2566 ณ เบลล์วิลล่า รีสอร์ท ปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน รุ่นที่ 3 จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 2-5 ตุลาคม 2566 ณ โรงแรมเมอร์เคียว เชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ รุ่นที่ 4 จังหวัดลําพูน ระหว่างวันที่ 19- 22 ตุลาคม 2566 ณ เดอะ แกรนด์จามจุรี รีสอร์ท จังหวัดลําพูน

16/9/2023

ภาคเหนือ

ลำปาง

สวท.ลำปาง

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230916135611981

นักท่องเที่ยวแห่เที่ยวชมศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำจังหวัดสมุทรสาคร กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน

ศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ําจังหวัดสมุทรสาคร (SamutSakhon Aquarium) ตําบลโคกขาม อําเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร เป็นจุดเช็คอินแห่งใหม่ของจังหวัดสมุทรสาคร ที่จะสร้างงานสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน มีนักท่องเที่ยวทั้งในจังหวัดและจังหวัดใกล้เคียงมาเที่ยวชมกันอย่างคึกคัก บ้างมาแบบเป็นคู่ เป็นครอบครัวที่จูงมือลูกจับมือหลานกันมาเป็นภาพบรรยากาศที่น่ารัก อบอุ่น เต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข ศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ําจังหวัดสมุทรสาคร (SamutSakhon Aquarium)ตั้งอยู่ที่หมู่ 8 ตําบลโคกขาม อําเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ในพื้นที่ประมาณ 10 ไร่ เริ่มก่อสร้างเมื่อปีงบประมาณ 2552 โดยใช้งบประมาณจากงบพัฒนาจังหวัดสมุทรสาคร 97,082,200 บาท เปิดให้เข้าชมฟรี วันจันทร์-วันศุกร์ เปิดเวลา 10.00 น. - 16.00 น. และวันเสาร์ อาทิตย์ เปิด 100 - 170 น. ไฮไลท์คือ อุโมงค์ปลาเห็นปลาว่าย 180 องศา มีการจัดแสดงสัตว์น้ําเป็นตู้ๆ กว่า 100 ชนิด เช่น ฉลามกบ ปลาไหลมอเรย์ ปลาตะกรับลายบั้ง ปลาผีเสื้อนกกระจิบ กระเบนทองจุดฟ้า ปลาเก๋า กะพงแดง ปลาช่อนทะเล ปลาการ์ตูนหลากหลายสายพันธุ์ ปลาสิงคโปร์แองเจิ้ล ปลาบู่หน้าผี ปลาหมอส้ม ปลาใบมีดโกง บ่อพ่อแม่พันธุ์ และบ่อเต่า

16/9/2023

ภาคกลางและปริมณฑล

สมุทรสาคร

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสาคร

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230916150510995

จังหวัดสุพรรณบุรี จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในงาน “ชมวัฒนธรรมพื้นบ้าน ชิมอาหารพื้นถิ่น”

ค่ําวานนี้ (15 ก.ย.66) ที่บริเวณวิทยาลัยนาฏศิลปสุพรรณบุรี นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในงาน “ชมวัฒนธรรมพื้นบ้าน ชิมอาหารพื้นถิ่น” เติมความสุข สนุกสุดฟิน ยลวิธีวัฒนธรรมพื้นถิ่น ฟังเพลงเพราะศิลปินดัง ชิมจานเด็ดสุดปังเมืองสุพรรณบุรี พร้อมด้วย สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรจังหวัดสุพรรณบุรี เขต 1 ดร.สมจินต์ ชาญกระบี่ ผู้จัดการสํานักงานพื้นที่พิเศษ 7 นางสาวนิษฐกานต์ คุณวัชระกิจ วัฒนธรรมจังหวัดสุพรรณบุรี นายพิสิฏฐ์ ช่างผาสุข ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดสุพรรณบุรี หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนหน่วยงาน ภาคเอกชน ภาคีเครือข่าย สื่อมวลชน และประชาชนทั่วไป เข้าร่วมกิจกรรมดร.สมจินต์ ชาญกระบี่ ผู้จัดการสํานักงานพื้นที่พิเศษ 7 กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ได้ใช้ศักยภาพที่เป็นต้นทุนสินทรัพย์ในพื้นที่ของจังหวัดสุพรรณบุรี ทั้งวัฒนธรรม ดนตรี อาหารพื้นถิ่น เป็นการขับเคลื่อนและยกระดับ Soft power ของจังหวัดสุพรรณบุรี ด้วยบริบทของ อาหาร สินค้า การแสดง นําเสนอผ่านอัตลักษณ์ของจังหวัดสุพรรณบุรี มุ่งสู่เศรษฐกิจที่ส่งเสริมการสร้างงาน สร้างเงิน สร้างคน ยกระดับคุณภาพชีวิต ท้องถิ่นสู่สากล รวมทั้งเป็นการส่งเสริมและขับเคลื่อนจังหวัดสุพรรณบุรีสู่การเป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ด้านดนตรีขององค์การยูเนสโก (UNESCO Creative Cities Network: UCCN) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาและปรับปรุงองค์ประกอบของจังหวัดสุพรรณบุรีสู่เครือข่ายเมืองสร้างสรรค์องค์การยูเนสโกให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น และเป็นการพัฒนาข้ามสาขาตามบริบทของแนวทางการพัฒนาเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ ทั้งนี้กิจกรรมจัดให้มีตั้งแต่วันที่ 14-17 กันยายน 2566 โดยกิจกรรมภายในงานประกอบไปด้วย/มหกรรมสินค้าจากผู้ประกอบการชุมชน /การจัดแสดงสินค้าทางวัฒนธรรมและอาหารพื้นถิ่นเมืองสุพรรณ/การแสดงศิลปินตลอดการจัดงาน /การแสดงดนตรีจากเยาวชนจังหวัดสุพรรณบุรี /ร่วมลุ้นรับของที่ระลึกภายในงาน และกิจกรรมสร้างสรรค์ creative workshop กิจกรรมในแต่ละวันจะเปิดให้เข้าชมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย มีศิลปินนักร้องนักดนตรีที่มีชื่อเสียงเข้าร่วมสร้างสีสันและบรรยากาศ อาทิ เปา เปาวลี พรพิมล, อ๊อด โฟร์เอส, เสรี รุ่งสว่าง และติ๊ก ชิโร่ นอกจากนี้ภายในงานได้เปิดพื้นที่ให้เยาวชนที่มีความสามารถทางด้านดนตรี การแสดงพื้นบ้าน หรือศิลปวัฒนธรรมอื่นๆ ได้แสดงความสามารถ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการจําหน่ายสินค้าอัตลักษณ์ของดีพื้นถิ่นของจังหวัดสุพรรณบุรีนําสินค้ามาจําหน่ายภายในงาน อาทิ ปลาหมําสมุนไพรทอดกรอบ จากวิสาหกิจชุมชนเปลญวนแม่พระประจักษ์ อําเภอสองพี่น้อง ซึ่งได้รับการคัดเลือกให้เป็นเมนู “1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น”, “เมี่ยงกลีบบัว” จากเมืองโบราณอู่ทอง เป็นต้น ทั้งนี้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่เวลา 16.00 น. - 21.00 น. ตั้งแต่วันที่ 14- 17 กันยายน 2566 ณ สนามหญ้า บริเวณวิทยาลัยนาฏศิลปสุพรรณบุรี

16/9/2023

ภาคตะวันตก

กาญจนบุรี

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุพรรณบุรี

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230916151332998

นครพนม ขอเชิญเที่ยวงานของดี อำเภอปลาปาก และประเพณีเทศกาลกินต่อหัวเสือโลก 22 กันยายน 2566

อําเภอปลาปาก ขอเชิญเที่ยวงานของดี อําเภอปลาปาก และประเพณีเทศกาลกินต่อหัวเสือโลก ในวันที่ 22 กันยายน 2566 ณ ลานที่ว่าการอําเภอปลาปาก เลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง และผลผลิตจากเกษตรอินทรีย์ โคก หนอง นา ร้านค้า OTOP นิทรรศการเกี่ยวกับต่อหัวเสือ และผลิตภัณฑ์จากต่อหัวเสือ วงดนตรีพื้นบ้านเด็กนักเรียน การประกวดรังต่อ การประกวดซุ้มนิทรรศการกินต่อ การจําหน่ายสินค้า OTOP และธิดาต่อ การประกอบอาหารจากต่อหัวเสือ ชิมอาหารรสเด็ดจากแต่ละตําบล

16/9/2023

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

นครพนม

สวท.นครพนม

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230916164203008

นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่คาดวีซ่าฟรีจากรัฐบาลถือเป็นนิมิตหมายที่ดีกระตุ้นการท่องเที่ยวให้กลับมาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว

นางสาวศศิธร กิตติธรกุล นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ กล่าวถึงวีซ่าฟรีที่ทางรัฐบาลจจะนํามาใช้ในการกระตุ้นการท่องเที่ยวว่าเป็นที่น่ายินดีจากข่าวที่จจะมีวีซ่าฟรี เพราะมองว่าเบื้องต้นหากเป็นมุมมองของนักท่องเที่ยวคือถ้าเดินทางสะดวก เดินทางง่าย เข้ามายังประเทศไทยง่าย ไม่ต้องวุ่นวายเรื่องเอกสารต่างๆ จะทําให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจ ที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยง่ายขึ้นเป็นสิ่งที่ดีมากเมื่อรัฐบาลเปิดโอกาสให้มีนักท่องเที่ยวตัดสินใจที่จะเดินทางเข้ามาประเทศไทยได้สะดวกขึ้น ดังนั้นคนไทยทุกคนจะต้องเป็นเจ้าบ้านที่ดี ร่วมด้วยช่วยกัน สร้างความปลอดภัย ให้กับนักท่องเที่ยว ในส่วนของการจัดการ ไม่ว่าจะการเข้าคิวต่างๆ การบริหารเรื่องรถ เรือ การขนส่งมวลชนต่างอยากจะให้ช่วยกันจัดระบบ ระเบียบที่ดีด้วย ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทางสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ได้ร่วมกับ ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้เดินทางไปทําโรดโชว์ที่ประเทศคาซัคสถานและอุซเบกิสถาน อุปสรรคและปัญหาจากการเจรจากับตัวแทนบริษัทนําเที่ยวคือการสอบถามเรื่องวีซ่าเข้าประเทศไทย ซึ่งก่อนหน้าทางสมาคมไม่สามารถตอบคําถามได้ ทําให้เป็นอุปสรรคในการตัดสินใจในการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวคาซัคสถาน แต่เมื่อรัฐบาลอนุมัติให้ชาวคาซัคสถานเดินทางมาไทยโดยวีซ่าฟรี ซึ่งพํานักในประเทศไทยได้ไม่เกินสามสิบวัน ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีเพราะว่า คาซัคสถานเป็นนักท่องเที่ยวที่ชอบกีฬา และเน้นในเรื่องของ Eco tourism ซึ่งตอบโจทย์กับจังหวัดกระบี่ในการดันนโยบายในเรื่องของการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ Eco tourism, Green tourism สามารถรับนักท่องเที่ยวคาซัคสถาน และยังเป็น Halal destinations ด้วยเช่นกัน

16/9/2023

ภาคใต้

กระบี่

สวท.กระบี่

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230916164852011

นครพนมสร้างสังคมอุดมสุข ทุกช่วงวัย อย่างยั่งยืน ลงพื้นที่ช่วยเหลือครัวเรือนยากไร้ ส่งเสริมอาชีพ สร้างรายได้ในครัวเรือน

นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนางสงวน จันทร์พร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม นําทีมส่วนราชการลงพื้นที่ครัวเรือนเป้าหมาย ตามโครงการขจัดความยากจน และพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง “นครพนมสร้างสังคมอุดมสุข ทุกช่วงวัย อย่างยั่งยืน” ประจําปี 2566 เพื่อตรวจเยี่ยมให้กําลังใจประชาชนในโครงการจังหวัดเคลื่อนที่แบบบูรณาการฯ วันที่ 16 กันยายน 2566 ตําบลนาทราย อําเภอเมืองนครพนมครัวเรือนเป้าหมายในครั้งนี้ ได้แก่ นางสาวทองเสี่ยน หอมคัก อายุ 42 ปี อาศัยอยู่หมู่ที่ 3 บ้านโพนงาม ตําบลนาทราย การศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 อาชีพ อาชีพรับจ้างทั่วไป ทําความสะอาด รายได้ประมาณเดือนละ 3,000 - 4,000 บาท มีสมาชิกในครัวเรือน 3 คนสภาพปัญหา คือ มีรายได้ไม่เพียงพอต่อการดํารงชีวิต บ้านพักอาศัยเป็นบ้านไม้หลังคาสังกะสีเก่า สภาพทรุดโทรม ไม่มั่นคง ห้องครัวและห้องน้ําไม่ถูกสุขลักษณะ เครื่องอุปโภคบริโภคไม่เพียงพอต่อการดํารงชีพจังหวัดนครพนมได้ดําเนินการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น โดยสํานักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนมช่วยเหลือเงินทุนในการประกอบอาชีพ องค์การบริหารส่วนตําบลนาทรายร่วมกับผู้นําท้องที่ ท้องถิ่นช่วยเหลือสนับสนุนเครื่องอุปโภคบริโภค และสํานักงานพัฒนาชุมชนอําเภอเมืองนครพนมส่งเสริม ให้คําแนะนําในการเลี้ยงกบเพื่อเลี้ยงชีพและส่งเสริมรายได้ในครัวเรือน

16/9/2023

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

นครพนม

สวท.นครพนม

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230916165716015

ประธานคณะอนุกรรมาธิการปฏิรูปประเทศด้านแรงงาน ลงพื้นที่ติดตามรับทราบปัญหาความต้องการแรงงานภาคธุรกิจท่องเที่ยวอำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี

วันนี้ (16 ก.ย.66) ที่อําเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี นายจรินทร์ จักกะพาก ประธานอนุกรรมาธิการปฏิรูปประเทศด้านแรงงาน พร้อมด้วย นายจิรชัย มูลทองโร่ย รองประธานอนุกรรมาธิการปฏิรูปประเทศด้านแรงงาน และอนุกรรมาธิการที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนคณะทํางาน ลงพื้นที่อําเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ด้านแรงงานภาคธุรกิจท่องเที่ยวนายจรินทร์ จักกะพาก ประธานอนุกรรมาธิการปฏิรูปประเทศด้านแรงงาน กล่าวว่า หลายๆ พื้นที่ของประเทศ ประสบปัญหาในลักษณะนี้ใกล้เคียงกัน โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยว ที่ต้องการแรงงานที่มีทักษะสูง และพูดภาษาต่างประเทศได้ ซึ่งผู้ผลิตแรงงาน อาชีวะศึกษา มหาวิทยาลัย กับผู้ประกอบการ ภาคเอกชน จะต้องร่วมกันกําหนดทิศทางการผลิตแรงงาน ขณะที่สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน ต้องเข้ามามีบทบาทในการ ยกระดับทักษะ ความสามารถ และการออกใบรับรอง ให้กับแรงงานที่ต้องการ อัพสกิล - รีสกิล เพื่อให้ได้รับค่าตอบแทนที่สูงขึ้นทั้งนี้ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ก่อนจะมีสถานการณ์โควิด-19 จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีรายได้รวมกว่า 2 แสนล้านบาท และมาจากธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ ราว 1 แสนล้านบาท หลังจากสถานการณ์การท่องเที่ยวเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ตั้งแต่มกราคมถึงกรกฎาคม 66 มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามากว่า 4 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2565 ถึงร้อยละ 131.75 และมีอัตราการเข้าพักร้อยละ 73.32 เพิ่มขึ้นร้อยละ 29.97 ของปี 2565 จากการฟื้นตัวของธุรกิจท่องเที่ยวทําให้เกิดปัญหาการขาดแคลนแรงงาน โดยเฉพาะแรงงานที่มีทักษะและประสบการณ์ในภาคการท่องเที่ยวและบริการ

16/9/2023

ภาคใต้

สุราษฎร์ธานี

สวท.สมุย จ.สุราษฎร์ธานี

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230916174845026

นครพนม จัดโครงการ 1 เมืองท่องเที่ยว 1 ประสบการณ์ท้องถิ่น ส่งเสริมการท่องเที่ยวริมโขง โดยใช้ทุนทางวัฒนธรรมและประสบการณ์ท้องถิ่น

วันที่ 16 กันยายน 2566 เวลา 18.00 น. นายคงกริช พงษ์พันธ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครพนม เป็นประธานการเปิดโครงการ 1 เมืองท่องเที่ยว 1 ประสบการณ์ท้องถิ่น (One Destination, One Local Experience) ที่จังหวัดนครพนม โดยสํานักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครพนมจัดขึ้น เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวริมโขง โดยใช้ทุนทางวัฒนธรรมและประสบการณ์ท้องถิ่น โดยมีนางแสงมณีจรรณ์ เพชรสังหาร ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชนในพื้นที่ นักท่องเที่ยวและสื่อมวลชน ร่วมในกิจกรรม ณ ลานพนมนาคา ริมฝั่งแม่น้ําโขง เขตเทศบาลเมืองนครพนม อําเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนมนายคงกริช พงษ์พันธ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า จังหวัดนครพนม โดยสํานักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครพนม ดําเนินโครงการ 1 เมืองท่องเที่ยว 1 ประสบการณ์ท้องถิ่น (One Destination, One Local Experience) กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวริมโขงโดยใช้ทุนทางวัฒนธรรมและประสบการณ์ท้องถิ่น ซึ่งถือได้ว่าเป็นโครงการและกิจกรรมที่สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลและกระทรวงวัฒนธรรมเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรม มีนโยบายสร้างเศรษฐกิจด้วยวัฒนธรรม มุ่งเน้นพัฒนาและปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยว ทั้งทางศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม ให้มีคุณภาพ พัฒนาสมรรถะบุคลากรให้พร้อมรองรับนักท่องเที่ยว รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีไทย นําทุนทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาจากวิถีชีวิตชุมชนมาส่งเสริมสนับสนุนการท่องเที่ยวให้มีอัตลักษณ์ความเป็นไทย เพื่อสร้างฐานรากเศรษฐกิจในระดับชุมชน เกิดการจ้างงานและการจําหน่ายผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมของแต่ละท้องถิ่นสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนในท้องถิ่น พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายความร่วมมือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเชื่อมโยงกลุ่มจังหวัดเพื่อเสริมสร้างรายได้ให้ประเทศ เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวริมโขง โดยใช้ทุนทางวัฒนธรรมและประสบการณ์ท้องถิ่น เพิ่มและพัฒนาศักยภาพให้กับสถานที่ สินค้า และกิจกรรมการท่องเที่ยว สําหรับรองรับนักท่องเที่ยว เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางการท่องเที่ยว กระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยว กระตุ้นเศษฐกิจของจังหวัดนครพนม ส่งผลให้ประชาชน รวมถึงผู้ประกอบการมีรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นโดยภายในงานมีการแสดงของชนเผ่าไทอีสาน (ลาว) การแสดง "ฟ้อน 9 ชนเผ่า 2 เชื้อชาติ" จากโรงเรียนเชียงยืนวิทยา การจัดบูธนิทรรศการวัฒนธรรมดนตรีอีสานชนเผ่าไทอีสาน(ลาว) และบูธแสดงอาหารถิ่นชุมชนเผ่าไทแสก "เมี่ยงตาสวด" ซึ่งเมนูนี้ได้รับการคัดเลือก ให้เป็นอาหารประจําจังหวัดนครพนม หรืออาหารประจําถิ่นตามการดําเนินการจัดกิจกรรม "1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น" ภายใต้โครงการการส่งเสริม และพัฒนายกระดับอาหารถิ่น สู่มรดกทางวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ความเป็นไทย (Thailand Best Local Food) "รสชาติ...ที่หายไป The Lost Taste" ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ตามประกาศของกรมส่งเสริมวัฒนธรรม เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2566 อีกด้วย

16/9/2023

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

นครพนม

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230917005943077

จ.นราธิวาส เปิดงานของดีเมืองนรา ครั้งที่ 46 ประจำปี 2566 เพื่อเป็นการประกาศเกียรติคุณและแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ตลอดจนส่งเสริมการท่องเที่ยว และประเพณีวัฒนธรรมที่ดีงามของชุมชนท้องถิ่น

นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานเปิดงานของดีเมืองนรา ครั้งที่ 46 ประจําปี 2566 ที่บริเวณสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา หรือ สวน ร.5 อําเภอเมืองนราธิวาส ซึ่งมีนายไพโรจน์ จริตงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวรายงานการจัดงานของดีเมืองนราถือเป็นประเพณีที่จังหวัดนราธิวาสได้จัดขึ้นเป็นประจําทุกปี สืบทอดกันมาตั้งแต่ปี 2519 เป็นต้นมา เพื่อเป็นการประกาศเกียรติคุณและแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ส่งเสริมความสามัคคีปรองดองของคนในพื้นที่ ส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมด้านการท่องเที่ยว รวมถึงพัฒนาศักยภาพและยกระดับมาตรฐานทางด้านการส่งเสริมอาชีพ ด้านศิลปหัตถกรรม และประเพณีวัฒนธรรมที่ดีงามของชุมชนท้องถิ่นให้เป็นที่ยอมรับต่อนานาประเทศ การจัดงานของดีเมืองนราในปีนี้ (2566) มีกิจกรรมกองงานที่สําคัญ ประกอบด้วย กองงานวันลองกอง เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพผลผลิตลองกองและผลผลิตทางการเกษตรของจังหวัดนราธิวาให้ดียิ่งขึ้น ภายใต้ชื่อ “ร่วมใจภักดิ์ สืบสาน รักษา ต่อยอด ศาสตร์พระราชา ชาวนราเปี่ยมสุข” กองงานศิลปาชีพและงานกระจูด เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมด้านศิลปะหัตถกรรมในท้องถิ่น โดยจัดแสดงและสาธิตผลิตภัณฑ์ของชาวบ้านในรูปแบบเครื่องใช้ เครื่องประดับตกแต่งต่าง ๆ ภายใต้หัวข้อ “สืบสานพระราชปณิธาน ศิลปาชีพสร้างคุณค่า นรายั่งยืน” โดยทั้ง 2 กองงานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-25 กันยายน 2566 ที่สวน ร.5 อําเภอเมืองนราธิวาสกองงานประชันเสียงนกเขาชวาชิงถ้วยพระราชทาน เป็นกิจกรรมที่ผู้เลี้ยงและกลุ่มอนุรักษ์นกเขาชวาได้ร่วมมือกันจัดขึ้น เพื่อนํานกของตนเองมาประชันน้ําเสียงหาความเป็นหนึ่ง และชิงถ้วยพระราชทานอันทรงเกียรติครอบครอง และยังเป็นการส่งเสริมกลุ่มผู้เลี้ยงได้มีการพัฒนาสายพันพุ์น้ําเสียงนกเขาชวาให้มีความไพเราะมากยิ่งขึ้น และให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายไปยังนานาประเทศ โดยจัดการแข่งขันในระหว่างวันที่ 17-18 กันยายน 2566 ที่ สวน ร.5 อําเภอเมืองนราธิวาส กองงานแข่งขันเรือกอและ เรือยอกอง และเรือคชสีห์ ชิงถ้วยพระราชทานหน้าพระที่นั่ง ซึ่งมีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมและอนุรักษ์ประเพณีการแข่งขันเรือ ซึ่งเป็นวิถีชีวิตชาวประมงของจังหวัดนราธิวาสและเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ อีกทั้งยังมีขบวนแห่ทางน้ําที่สวยงามตระการตา โดยจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 22-24 กันยายน 2566 ที่บริเวณพลับพลาที่ประทับ ริมเขื่อนท่าพระยาสาย อําเภอเมืองนราธิวาส นอกจากนี้ ยังมีกองงานขบวนแห่ทางบก โดยได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน จัดขบวนช้าง 29 เชือก อย่างยิ่งใหญ่เข้าร่วมในพิธีเปิดงานของดีเมืองนรา ประจําปี 2566 จากส่วนราชการ ภาคเอกชน และอําเภอทุกอําเภอ มีช้างนําขบวน 13 อําเภอในพื้นที่ โดยริ้วขบวนที่มีความสวยงามตระการตา นําเสนออัตลักษณ์ผสมผสานวิถีชีวิตพหุวัฒนธรรมการแต่งกายพื้นถิ่นที่มีสีสันสวยงามประณีต เช่น ขบวนปาโจสุขถ้วนหน้า ด้วยพระบารมี อําเภอบาเจาะ ขบวนใต้ร่มพระบารมี ชาวซูวาปาดี มีสุข อําเภอสุไหงปาดี ขบวนพหุวัฒนธรรมนําสันติสุข อําเภอรือเสาะ เจาะไอร้อง รูเมาะกีตออําเภอเจาะไอร้อง ดินแดนพหุวัฒนธรรมมะนาลอ อําเภอเมืองนราธิวาส วิถีแห่งเจ้าเมืองดินแดนช้างเผือก อําเภอจะแนะ เป็นต้น

17/9/2023

ภาคใต้

นราธิวาส

สวท.นราธิวาส

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230917080503086

จังหวัดตรัง จัดการแข่งขัน “Andaman International Trail Running@Trang” สนามที่ 2 กระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดตรังและกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน

วันนี้ (17 กันยายน 2566 ) จังหวัดตรัง จัดการแข่งขัน “อันดามัน อินเตอร์เนชั่นแนล เทรล รันนิ่ง แอท ตรัง” (Andaman International Trail Running) ณ วังผาเมฆ อําเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง เป็นสนามที่ 2 ต่อจากจังหวัดสตูล ก่อนส่งต่อสนามที่ 3 จังหวัดพังงา โดยมีการแข่งขันวิ่งเทรลใน 3 ประเภทระยะทาง ได้แก่ ระยะทาง 6 กิโลเมตร 10 กิโลเมตร และ 25 กิโลเมตร เพื่อพัฒนากิจกรรมด้านการท่องเที่ยวเชิงกีฬาให้ได้มาตรฐานในระดับสากล ตลอดจนส่งเสริมภาพลักษณ์ทางการท่องเที่ยวและกระจายรายได้ไปสู่ประชาชนในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ด้านนายวิศิษฎ์ อนันต์วรปัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง มั่นใจว่าการจัดการแข่งขัน “อันดามัน อินเตอร์เนชั่นแนล เทรล รันนิ่ง แอท ตรัง” ในครั้งนี้ จะทําให้การท่องเที่ยวในจังหวัดตรัง เป็นที่สนใจจากนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ กระตุ้นการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ยกระดับสนามการแข่งขันวิ่งในรูปแบบของการผจญภัยตามเส้นทางธรรมชาติของจังหวัดตรัง และจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะผลักดันให้สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดตรังเป็นที่รู้จักในวงกว้างต่อไป

17/9/2023

ภาคใต้

ตรัง

สวท.ตรัง

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230917090924097

สื่อมวลชนส่วนกลางสัมผัสวิถีน้ำ วิถีนนท์ เส้นทางคลองอ้อมนนท์

วันที่ 16 ก.ย.66 เวลา 09.30 น.นางสาวปาณิสรา กาญจนะจิตรา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี พร้อมด้วยนางณัฏฐิรา แพงคุณท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนนทบุรีนําคณะสื่อมวลชนจากส่วนกลาง ร่วมกิจกรรมท่องเที่ยวตามเส้นทางวันเดียวเที่ยวเมืองนนท์ (One Day Trip) วิถีน้ํา วิถีนนท์ เส้นทางคลองอ้อมนนท์ ลําน้ําสายแหล่งท่องเที่ยวชมวิถีชีวิตริมน้ําและมีสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมหลายแห่งโดยมีนายชาญยุทธ เศวตสุวรรณ ผู้อํานวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สํานักงานกรุงเทพมหานคร นายวัฒนา ศักดิ์ชูวงษ์ ผู้อํานวยการสํานักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนนทบุรีและนางกรพรรณ ประสพจันทร์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดนนทบุรีร่วมทริปครั้งนี้ด้วยกิจกรรมเริ่มต้นด้วยการกราบนมัสการเจ้าอาวาสวัดชลอ ซึ่งวัดชลอตั้งอยู่ที่อําเภอบางกรวย ภายในวัดมีอุโบสถเรือสุพรรณหงส์สง่างามเป็นอุโบสถหลังใหม่ ที่สร้างขึ้นเมื่อปี 2526 โดยพระครูนนทปัญญาวิมล (หลวงพ่อสุเทพ) อดีตเจ้าอาวาสวัดชลอมีดําริให้สร้างขึ้นจากคณะสื่อมวลชนได้ลงเรือที่ท่าน้ําวัดชลอ เดินทางไปเยี่ยมชมวัดโตนด กราบสักการะหลวงพ่อสําเร็จ พระประธานในพระอุโบสถ ที่ศักดิ์สิทธิ์ หากใครมากราบไหว้ขอพรเรื่องที่ดิน การ เลื่อนตําแหน่ง การค้าขายก็มักจะสําเร็จสมความปรารถนาต่อมาคณะฯได้ล่องเรือไปดื่มด่ําบรรยากาศริมคลองอ้อมนนท์ที่มองดูคลองคาเฟ่ ที่มีเครื่องดื่มอาหารและขนมให้บริการ เสร็จลงเรือเดินทางเยี่ยมชมวัดราษฎร์ประคองธรรม มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองที่เป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้าน คือ พระพุทธไสยาสน์ หรือหลวงพ่อพระนอนองค์ใหญ่ที่มีความยาวถึง 32 เมตร ประดิษฐานที่ศาลาพระนอน และยังมีวิหารหลวงพ่อโต ภายในประดิษฐานหลวงพ่อโต (ซําปอกง) ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของคนทั่วไป หากมากราบไหว้ขอพรก็จะได้รับพรสมดังปรารถนาอีกจุดที่คณะฯได้ไปเยี่ยมชม คือวัดปรางค์หลวง ที่มีองค์พระปรางค์ศิลปกรรมสมัยอยุธยาตอนต้น และหลวงพ่ออู่ทองพระพุทธรูปก่ออิฐถือปูนปิดทองปางมารวิชัยหน้าตักกว้าง 9 คืบ ที่ชาวบ้านในชุมชนนับถือเป็นอย่างมาก ปิดท้ายทริปด้วยก๋วยเตี๋ยวต้มยําแสนอร่อยที่ร้านก๋วยเตี๋ยวทองย้อยริมคลองอ้อมนนท์หลังจากนั้น สํานักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนนทบุรี ก็จะพานักท่องเที่ยวสายวัฒนธรรมที่สมัครเข้าร่วมโครงการวันเดียวเที่ยวเมืองนนท์ล่องเรือสักการะพระวัดต่าง ๆ แวะรับประทานอาหารอร่อยริมคลองในสามเส้นทาง ฟรีคือเส้นทางที่ 1 วัดชลอ-วัดปรางค์หลวง เส้นทางที่ 2 วัดชลอ - ตลาดสามสายน้ํา บางม่วง และเส้นทางที่ 3 วัดชลอ - ทวดข้าวสาร ในวันเสาร์ที่ 23 อาทิตย์ที่ 24 กันยายนและวันเสาร์ที่ 30 กันยายน อาทิตย์ที่ 1 ตุลาคม 2566 ซึ่งมีผู้เข้าร่วมโครงการเต็มจํานวนหมดแล้วทุกวัน

17/9/2023

ภาคกลางและปริมณฑล

กรุงเทพมหานคร

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนนทบุรี

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230917103059108

“เดิน ล่อง ท่องย่าน สานวัฒนธรรมชุมชน” มุ่งเสริมสร้างอัตลักษณ์และกระตุ้นเศรษฐกิจ

นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดกิจกรรมย่านสร้างสรรค์ “เดิน ล่อง ท่องย่าน สานวัฒนธรรมชุมชน” ย่านตลาดน้ําตลิ่งชัน พร้อมกล่าวว่ากิจกรรมดังกล่าวเป็นหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจและพัฒนาอัตลักษณ์ของกรุงเทพมหานครทั้ง 50 เขต โดยเขตตลิ่งชันมีตลาดน้ําเป็นอัตลักษณ์ที่สําคัญ ซึ่งกิจกรรมนี้จะช่วยให้ชาวตลิ่งชันมีความเข้มแข็งและมีความสุข ซึ่งสอดรับกับนโยบาย 9 ด้าน 9 ดี ที่ทางผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครให้ความสําคัญ ภายในงานมีกิจกรรมมากมาย ได้แก่ กิจกรรมตักบาตรทางเรือ กิจกรรม full fun 1 day trip @ตลิ่งชัน วันเดียวเที่ยว 4 ตลาด กิจกรรมถนนคนเดิน การจําหน่ายสินค้าอุปโภค บริโภค จากวิสาหกิจชุมชนและสินค้าเกษตรในพื้นที่ และกิจรรมการแสดงศิลปวัฒนธรรมจากเยาวชนและกลุ่มชุมชนตลิ่งชันสําหรับผู้ที่สนใจ สามารถเที่ยวชมงาน เดิน ล่อง ท่องย่าน สานวัฒนธรรมชุมชน ทุกวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 8.00 น.-17.00 น. ณ ตลาดน้ําตลิ่งชันและตลาดน้ําสองคลองวัดตลิ่งชัน

17/9/2023

ภาคกลางและปริมณฑล

กรุงเทพมหานคร

สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230917122620132

สัมผัสวิถีน้ำ วิถีนนท์ เส้นทางคลองอ้อมนนท์ ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม

นางสาวปาณิสรา กาญจนะจิตรา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี พร้อมด้วยนางณัฏฐิรา แพงคุณ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนนทบุรี นําคณะสื่อมวลชนจากส่วนกลาง ร่วมกิจกรรมท่องเที่ยวตามเส้นทางวันเดียวเที่ยวเมืองนนท์ (One Day Trip) วิถีน้ํา วิถีนนท์ เส้นทางคลองอ้อมนนท์ ลําน้ําสายแหล่งท่องเที่ยว ชมวิถีชีวิตริมน้ําและมีสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมหลายแห่ง โดยมีนายชาญยุทธ เศวตสุวรรณ ผู้อํานวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สํานักงานกรุงเทพมหานคร นายวัฒนา ศักดิ์ชูวงษ์ ผู้อํานวยการสํานักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนนทบุรีและนางกรพรรณ ประสพจันทร์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดนนทบุรีร่วมทริปครั้งนี้ด้วยกิจกรรมเริ่มต้นด้วยการกราบนมัสการเจ้าอาวาสวัดชลอ ซึ่งวัดชลอตั้งอยู่ที่อําเภอบางกรวย ภายในวัดมีอุโบสถเรือสุพรรณหงส์สง่างามเป็นอุโบสถหลังใหม่ที่สร้างขึ้นเมื่อปี 2526 โดยพระครูนนทปัญญาวิมล (หลวงพ่อสุเทพ) อดีตเจ้าอาวาสวัดชลอมีดําริให้สร้างขึ้นจากคณะสื่อมวลชนลงเรือที่ท่าน้ําวัดชลอ ไปเยี่ยมชมวัดโตนด กราบสักการะหลวงพ่อสําเร็จ พระประธานในพระอุโบสถ ที่ศักดิ์สิทธิ์ หากใครมากราบไหว้ขอพรเรื่องที่ดิน การเลื่อนตําแหน่ง การค้าขายก็มักจะสําเร็จสมความปรารถนา จากนั้นคณะล่องเรือไปดื่มด่ําบรรยากาศริมคลองอ้อมนนท์ที่มองดูคลองคาเฟ่ ที่มีเครื่องดื่มอาหารและขนม ให้บริการ เสร็จลงเรือเดินทางเยี่ยมชมวัดราษฎร์ประคองธรรม มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองที่เป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้านคือ พระพุทธไสยาสน์ หรือหลวงพ่อพระนอนองค์ใหญ่ที่มีความยาวถึง 32 เมตร ประดิษฐานที่ศาลาพระนอนและยังมีวิหารหลวงพ่อโต ภายในประดิษฐานหลวงพ่อโต (ซําปอกง) ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของคนทั่วไป หากมากราบไหว้ขอพรก็จะได้รับพรสมดังปรารถนาอีกจุดที่คณะไปเยี่ยมชมคือ วัดปรางค์หลวง ที่มีองค์พระปรางค์ศิลปกรรมสมัยอยุธยาตอนต้นและหลวงพ่ออู่ทองพระพุทธรูปก่ออิฐถือปูนปิดทองปางมารวิชัยหน้าตักกว้าง 9 คืบ ที่ชาวบ้านในชุมชนนับถือเป็นอย่างมากปิดท้ายทริปด้วยก๋วยเตี๋ยวต้มยําแสนอร่อยที่ร้านก๋วยเตี๋ยวทองย้อยริมคลองอ้อมนนท์หลังจากนี้สํานักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนนทบุรี จะพานักท่องเที่ยวสายวัฒนธรรมที่สมัครเข้าร่วมโครงการวันเดียวเที่ยวเมืองนนท์ล่องเรือสักการะพระวัดต่างๆ แวะรับประทานอาหารอร่อยริมคลองในสามเส้นทาง ฟรีคือเส้นทางที่ 1 วัดชลอ-วัดปรางค์หลวง เส้นทางที่ 2 วัดชลอ - ตลาดสามสายน้ํา บางม่วง และเส้นทางที่ 3 วัดชลอ - ทวดข้าวสาร ในวันเสาร์ที่ 23 อาทิตย์ที่ 24 กันยายนและวันเสาร์ที่ 30 กันยายน อาทิตย์ที่ 1 ตุลาคม 2566 ซึ่งมีผู้เข้าร่วมโครงการเต็มจํานวนหมดแล้วทุกวัน

17/9/2023

ภาคกลางและปริมณฑล

กรุงเทพมหานคร

หน่วยงานสำนักข่าว

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230917121120123

นายกรัฐมนตรี พบปะผู้บริหารการท่าอากาศยานเชียงใหม่ หารือประเด็นการเพิ่มเที่ยวบินหลังเที่ยงคืน

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พบปะผู้บริหารการท่าอากาศยานเชียงใหม่ ณ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ เพื่อร่วมพูดคุยประเด็นการเพิ่มเที่ยวบินหลังเที่ยงคืนเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นนายกรัฐมนตรีรับฟังการดําเนินการ เตรียมการรองรับการเพิ่มเที่ยวบินหลังเที่ยงคืนเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น การพัฒนาปรับปรุงท่าอากาศยานเชียงใหม่ เช่น การพัฒนาปรับอาคารผู้โดยสารเดิม การก่อสร้างอาคารผู้โดยสารใหม่ (แต่อยู่ในพื้นที่เดิม) รวมถึงการก่อสร้างสนามบินแห่งที่ 2 ในการแก้ปัญหาความแออัดของผู้โดยสารของสนามบินเชียงใหม่ปัจจุบันที่แม้จะมีการพัฒนาปรับปรุงสนามบินเพื่อรองรับผู้โดยสารแล้วตามเป้าหมายคือ 20 ล้านคนต่อปีนายกรัฐมนตรี ย้ํา AOT นอกจากดูแลเรื่อง EIA และผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ แล้วก็ให้ดูแลเยียวยาประชาชนลดผลกระทบด้านเสียงเป็นไปอย่างเหมาะสม รวมถึงเยียวยาจิตใจด้วย พร้อมสอบถามถึงการก่อสร้างสนามบินแห่งใหม่ที่ใช้เงินลงทุนประมาณ 7 หมื่นล้านบาท ระยะเวลา 7 ปี จะเกิดความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์ต่อประชาชนมากน้อยเพียงใดเมื่อเทียบกับสนามบินปัจจุบันที่ผลกําไรอยู่ที่ 2 พันล้านบาทต่อปี ซึ่ง AOT รายงานว่าเมื่อก่อสร้างสนามบินแห่งใหม่แล้วเสร็จจะสามารถมีกําไรอยู่ที่ประมาณ 3 พันล้านบาทต่อปี และสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 20 ล้านคนต่อปี ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงนโยบายฟรีวีซ่าของรัฐบาล ซึ่งจะทําให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีนนั้น ขอให้ AOT และ ตม. รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาเกิดความประทับใจและมีความปลอดภัย ก่อนหน้านั้นนายกรัฐมนตรีได้พบปะประชาชนที่คาดว่าได้รับผลกระทบจากการเพิ่มเที่ยวบิน ณ เทศบาลเมืองแม่เหียะ ซึ่ง AOT ก็มีมาตรการในการดูแลเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบตามกฎหมาย

17/9/2023

ภาคกลางและปริมณฑล

กรุงเทพมหานคร

Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230917183533176

ททท.เปิดตัวอาหารพื้นถิ่นตอกย้ำ "อีสาน...ไปไสกะแซ่บ"

นางสรัสวดี อาสาสรรพกิจ ผู้อํานวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. พร้อมผู้อํานวยการสํานักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจังหวัดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8 สํานักงาน นําอาหารของดีของเด่นแต่ละพื้นถิ่นมาประชาสัมพันธ์ผ่านกิจกรรมเสวนาทิศทางส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ "อีสาน...ไปไสกะแซ่บ" และแนวทางการพัฒนาและต่อยอดเพื่อยกระดับอาหารอีสานและเพิ่มมูลละค่าในเชิงการตลาด ที่ห้องแก่นแก้วไลท์เฮ้าส์ชั้น 28 โรงแรมแอดลิบ จังหวัดขอนแก่น ผู้ร่วมงานประกอบด้วย ภาครัฐ ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง เปิดประสบการณ์ลิ้มรสเมนูจานแซ่บจาก 8 สํานักงาน ททท. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อาทิ ไก่กะเต็ด จากนครราชสีมา กุนเชียงป้ารอง จากอุดรธานี เนื้อโคขุนเสียบไม้ย่าง จากนครพนม อ๋อปลายอน จากขอนแก่น, สแน็คบาร์อังแกบอบ จากสุรินทร์ และหมูยอยักษ์จากอุบลราชธานี เป็นการตอกย้ําความเป็นอีสานไปไสกะแซ่บผู้อํานวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ททท.จัดทําแผนงานส่งเสริมการตลาดและกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในทุกภูมิภาคของประเทศไทย ต่อยอดการท่องเที่ยวและกระจายรายได้สู่ชุมชนท้องถิ่น ผ่านการจัดงานเทศกาลและกิจกรรม หนึ่งในนั้นคือ อาหารไทยพื้นถิ่น เป็นซอฟท์เพาเวอร์ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวอีสานมากขึ้น เน้นคุณภาพอาหาร ความสะอาดและหารรับประทานยาก ต้องเดินทางมาที่จังหวัดนั้นๆ เท่านั้น ซึ่งตั้งเป้าจะดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ร้อยละ 14 จากนักท่องเที่ยวทั่วประเทศนอกจากจะมีเวทีการเสวนาในเรื่องทิศทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ชวน “หลงรักแผ่นดินถิ่นอีสาน” ปลดล็อกประสบการณ์ท่องเที่ยวด้วยแนวคิด “อีสาน...ไปไสกะแซ่บ” เป็นการยกระดับอาหารอีสานสู่ความเป็นสากล เรื่องราวอาหารสู่การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ แนวโน้มการตลาดและมุมมองจากภายนอกสู่การทําการตลาดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

17/9/2023

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ขอนแก่น

สวท.ขอนแก่น

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230917130749141

รองผู้ว่าฯ สมุทรสงคราม เปิดโครงการส่งเสริมการออกกำลังกายและกีฬาเพื่อมวลชน "กิจกรรมส่งเสริมการออกกำลังกายและเล่นกีฬาจังหวัดสมุทรสงคราม “แม่กลอง BILK 2023”

วันนี้ (17 ก.ย.66) นายกรกฎ วงษ์สุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นประธานเปิดโครงการส่งเสริมการออกกําลังกายและเล่นกีฬาฯ ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัด โดยมี นายสุภาพล ศิริไกรวัฒนาวงค์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดฯ กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดกิจกรรมเพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนทุกเพศ ทุกวัย ได้ตระหนักถึงประโยชน์ของการออกกําลังกายและเล่นกีฬา อีกทั้ง ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ทั้งนี้ เส้นทางการออกกําลังกายในการปั่นจักรยานผ่านแหล่งท่องเที่ยวหลัก คือ ตลาดน้ําท่าคา ให้นักปั่นจักรยาน ได้แวะ ชม ชิม แชะ ช็อป สร้างรายได้ด้านการท่องเที่ยวให้กับชุมชนท่องเที่ยว พร้อมทั้งบูรณากับชมรมกีฬาจักรยานจังหวัดสมุทรสงคราม, องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสงคราม, องค์การบริหารส่วนตําบลท่าคา, การประปาส่วนภูมิภาคสาขาสมุทรสงคราม และมูลนิธิสว่างเบญจธรรม มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจํานวนมาก

17/9/2023

ภาคกลางและปริมณฑล

สมุทรสงคราม

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสงคราม

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230917133210145

อ.เถิน จ.ลำปาง จัดงานวันส้มเกลี้ยงและของดีเมืองเถิน ส่งเสริมการปลูกและการขายสินค้าอัตลักษณ์ในชุมชน

นางสาวตวงรัตน์ โล่ห์สุนทร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลําปาง เป็นประธานเปิดงานวันส้มเกลี้ยงและของดีเมืองเถิน ภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพส้มเกลี้ยง ประจําปี 2566 ณ สวนสาธารณะเมืองเถิน ในค่ําวันที่ 16 กันยายน 2566 โดยมีนายชยพล ชมภูรัตน์ นายกเทศมนตรีเมืองล้อมแรด กล่าวรายงาน ซึ่งเทศบาลเมืองล้อมแรด ได้จัดงานขึ้นระหว่างวันที่ 15-17 กันยายน 2566 เพื่อส่งเสริมให้สัมเกลี้ยงเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ส่งเสริมการปลูกและการขายส้มเกลี้ยง โดยมีกิจกรรมต่างๆ ได้แก่ ประกวดส้มเกลี้ยง การประกวดลีลาสร้างสุขภาพ เถินแดนซ์ การแข่งขันตําส้มเกลี้ยงฯ และกิจกรรมขยะแลกไข่และส้มเกลี้ยงสําหรับผลการประกวดลีลาสร้างสุขภาพเถินแดนซ์ ชิงถ้วยรางวัลนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลําปาง ซึ่งผลการประกวดทีมที่ชนะเลิศ ได้แก่ ตําบลแม่ปะ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ตําบลล้อมแรด และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ ตําบลนาโป่ง

17/9/2023

ภาคเหนือ

ลำปาง

สวท.ลำปาง

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230917140938153

แข่งแปรรูปกล้วยหินของดีอำเภอบันนังสตา

เมนูคาวหวานที่เห็นรูปร่างหน้าตาสวยงามน่าทานนี้ เป็นความคิดสร้างสรรค์การแปรรูปจากกล้วยหิน ของกลุ่มแม่บ้านจากตําบลต่างๆ ในพื้นที่อําเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา ซึ่งได้เข้าร่วมแข่งขันแปรรูปผลิตภัณฑ์จากกล้วยหินในงานมหกรรมงานกล้วยหินและของดี ที่อําเภอบันนังสตา ที่จัดขึ้น โดยมุ่งเน้นส่งเสริมผลผลิตกล้วยหิน พืชเศรษฐกิจของอําเภอบันนังสตา รวมถึงการแปรรูปจากกล้วยหินให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากยิ่งขึ้นเพื่อสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ บรรยากาศการแข่งขันเป็นไปอย่างคึกคัก กลุ่มแม่บ้านที่เข้าร่วมประชันฝีมือ ต่างนํากล้วยหินมาแปรรูปในเมนูแปลกใหม่ ไม่ว่าจะเป็นผัดเผ็ดปลาดุกกล้วยหิน แกงส้มกล้วยหิน แกงกะทิกล้วยหิน รวมถึงขนมที่ทําจากกล้วยหินนานาชนิด อย่างแซนวิส 4 อย่าง 4 รส บัวลอยกล้วยหิน และอื่นๆ เพื่อให้ทางคณะกรรรมการ จากสํานักงานพัฒนาชุมชนและผู้ที่เชี่ยวชาญ ได้ร่วมกันตัดสิน ผลปรากฏว่า เมนู ยําท้องถิ่น กล้วยหินบ้านเรา ขนมกล้วย หรืออาแปกูกูห ของทีมตําบลตาเนาะปูเต๊ะ เป็นผู้คว้ารางวัลชนะเลิศการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากกล้วยหินไปได้สําหรับการแข่งขันแปรรูปกล้วยหินในครั้งนี้ นอกจากจะช่วยเพิ่มเมนูจากกล้วยหินให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นแล้ว ยังช่วยให้กลุ่มสตรีในพื้นที่ได้พัฒนาทักษะในการแปรรูปจากกล้วยหิน เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตกล้วยหิน รวมไปถึงส่งเสริมอาชีพและสร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่อีกด้วย

17/9/2023

ภาคใต้

ยะลา

สทท.ยะลา

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230917153401166

กระทรวงพาณิชย์ นำทัพสินค้าไทยร่วมงาน China-ASEAN Expo สาธารณรัฐประชาชนจีน คาดยอดขายไม่ต่ำกว่า 150 ล้านบาท

นายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เข้าร่วมกล่าวสุนทรพจน์ ในพิธีเปิดงานแสดงสินค้าจีน-อาเซียน ครั้งที่ 20 (The 20th China-ASEAN Expo) และการประชุมสุดยอดธุรกิจและการลงทุนจีน-อาเซียน ครั้งที่ 20 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมระหว่างประเทศนครหนานหนิง เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยไทยได้ชื่นชมความพยายามของรัฐบาลจีน ในความมุ่งมั่นพัฒนาภูมิภาคอาเซียนและระเบียงเศรษฐกิจต่างๆ เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนร่วมกัน ขณะที่รัฐบาลไทยยังมุ่งขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาสําคัญที่สอดคล้องกับจีน ทั้งการเปิดกว้าง ทางด้านการค้า การลงทุน การพัฒนาเกษตรกรรมที่ทันสมัย การพัฒนาอุตสาหกรรมเชิงนวัตกรรม ตลอดจนการขยายความร่วมมือในมิติต่างๆ โดยเชื่อว่า ด้วยความสอดคล้องของนโยบายของทั้งสองประเทศ ไทยและจีนจึงมีโอกาสหารือและจัดทําความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่างๆ มากขึ้นนายภูมิธรรม กล่าวด้วยว่า นครหนานหนิง หรือ Nanning Channel ได้เปิดโอกาสให้ผู้ส่งออกไทยแนะนําสินค้าไทย รวมถึงทําความเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคชาวจีน เพื่อพัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้ตรงตามความต้องการของตลาดจีน โดยในปีนี้ ไทยมีผู้ส่งออกจํานวน 76 รายใน 4 กลุ่มสินค้าเข้าร่วมแสดงสินค้าใน Thailand Pavilion และคาดหวังว่าจะเปิดตัวให้เป็นที่รู้จักในตลาดจีนและชาติอาเซียนอื่นๆ ได้เพิ่มขึ้น ตั้งเป้าจะเกิดมูลค่าการซื้อขายไม่ต่ํากว่า 150 ล้านบาท นอกจากนี้ ไทยยังได้จัดแสดงภาพลักษณ์ของประเทศ ใน Pavilion of City of Charm โดยคัดเลือกจังหวัดจันทบุรีที่มีชื่อเสียงด้านความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ทั้งผลไม้ อัญมณี สถานที่ท่องเที่ยวอันสวยงาม ตลอดจนความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสําหรับการลงทุนและพัฒนา โดยได้แสดงให้เห็นว่า หากเดินทางไปจังหวัดจันทบุรี นักท่องเที่ยวจะเพลิดเพลินไปกับจังหวัดจันทบุรี ในฐานะจังหวัดแห่งมนต์เสน่ห์ของไทยอย่างแน่นอนสําหรับงาน CAEXPO 2023 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-19 กันยายน 2566 ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ระหว่างประเทศนครหนานหนิง เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง สาธารณรัฐประชาชนจีน บนพื้นที่งาน 104,000 ตารางเมตร คาดมีผู้เข้าร่วมชมกว่า 100,000 คน (onsite) และกว่า 20 ล้านคนบนแพลตฟอร์มออนไลน์

18/9/2023

ภาคกลางและปริมณฑล

กรุงเทพมหานคร

สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230918092247209

นายกรัฐมนตรี เตรียมหารือปรับค่าไฟต่ำกว่า 4 บาท ต่อหน่วย คาดรู้ผลใน 2-3 สัปดาห์

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในงาน THAIRATH FUTURE PERFECT ถึงนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องครอบคลุมทุกมิติ โดยหลังจากนี้กําลังเตรียมพิจารณาหาแนวทางการปรับลดราคาน้ํามันกลุ่มเบนซิน ซึ่งมีความละเอียดอ่อนมากกว่ากลุ่มดีเซล ดังนั้นรัฐบาลจะต้องพิจารณาอย่างรอบด้านโดยจะมุ่งเน้นกลุ่มที่เปราะบางเป็นกลุ่มแรก ขณะที่ส่วนค่าไฟฟ้านั้นตนเองอยากเห็นเลขราคาค่าไฟฟ้า ต่อหน่วยอยู่ที่ 3 บาท/หน่วย ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างพูดคุยกับผู้เกี่ยวข้องโดยคาดว่าจะรู้ผลใน 2-3 สัปดาห์นี้ การพักหนี้เกษตรก็ถือเป็นสิ่งจําเป็นเร่งด่วน หนี้ในภาคส่วนอื่นๆ ก็ยังต้องพิจารณาตามความเร่งด่วน ซึ่งรัฐบาลยึดหลักอะไรทําได้ให้ทําก่อนทําทันที ขณะที่การเพิ่มรายได้ระยะสั้น อย่างโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ยืนยันว่าจะเกิดได้ในไตรมาส 1 ปี 2567นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า ในการเพิ่มศักยภาพการแข่งของประเทศในระยะยาวก็ถือเป็นเรื่องสําคัญ ทั้งการพัฒนาการผลิตของภาคเกษตร การยกระดับการท่องเที่ยวเพื่อดึงดูนักท่องเที่ยวให้มากขึ้นกว่าเดิม โดยยืนยันว่าการเปิดฟรีวีซ่าให้นั้นได้คํานึงถึงความมั่นคงเป็นหลักเพื่อป้องกันผู้ไม่หวังดีเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ โดยในขั้นต่อไปเตรียมหารือการเปิดฟรีวีซ่าให้กับประเทศอินเดียต่อไป

18/9/2023

ภาคกลางและปริมณฑล

กรุงเทพมหานคร

สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230918095657222

กระทรวงพลังงาน หารือกรมธุรกิจพลังงานร่วมแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันเบนซิน

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ได้มีการหารือกับกรมธุรกิจพลังงานร่วมหาแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาน้ํามันเบนซิน โดยเบื้องต้นพบว่า ด้านน้ํามันไม่มีคณะกรรมการกํากับดูแล และด้านอํานาจทางกฎหมายหน่วยงานภาครัฐไม่มีอํานาจเข้าไปควบคุมราคาต้นทุนแก่ผู้ประกอบการ ส่งผลกระทบให้ต้นทุนสูงเพิ่มขึ้น โดยกระทรวงพลังงานเล็งเห็นว่าจะต้องหาแนวทางแก้ไขปัญหาทางด้านอํานาจหน้าที่ของหน่วยงานภาครัฐในการกํากับดูแลในอนาคต เนื่องจากน้ํามันเป็นสินค้าอุปโภค บริโภคที่สําคัญต่อการดํารงชีวิตของประชาชนและต้นทุนราคาสินค้าต่างๆ รวมถึงเรื่องความมั่นคง โดยต้องกํากับดูแลให้รอบคอบและได้ข้อมูลที่ถูกต้องชัดเจนนอกจากนี้ นายพีระพันธุ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า วันที่ 19 กันยายน 2566 จะเดินทางเข้าไปที่กรมศุลกากรเพื่อติดตามข้อมูลราคาต้นทุนน้ํามัน โดยคาดว่าภายในปีนี้จะเห็นถึงโครงสร้างราคาน้ํามันเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ พร้อมลดราคาน้ํามันให้เป็นของขวัญปีใหม่แก่ประชาชน

18/9/2023

ภาคกลางและปริมณฑล

กรุงเทพมหานคร

สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230918113040253

สำนักงานพาณิชย์จังหวัดลำปาง กำหนดจัดกิจกรรมเชื่อมโยงการจำหน่ายไข่ไก่ เพื่อลดภาระค่าครองชีพให้ผู้บริโภค จำหน่ายไข่ไก่เบอร์ 2 ราคาแผงละ 105 บาท

นางสาวเยาวเรศ แซ่โค้ว พาณิชย์จังหวัดลําปาง เปิดเผยว่า สํานักงานพาณิชย์จังหวัดลําปาง ร่วมกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ กําหนดจัดกิจกรรมเชื่อมโยงการจําหน่ายไข่ไก่ เพื่อลดภาระค่าครองชีพให้ผู้บริโภค โดยจําหน่ายไข่ไก่เบอร์ 2 ราคาแผงละ 105 บาท (30 ฟอง)สํานักงานพาณิชย์จังหวัดลําปาง เชิญชวนผู้สนใจเลือกซื้อ "ไข่ไก่ราคาพิเศษ" ครั้งที่ 1 วันที่ 19 กันยายน 2566 เวลา 09.00 น. ณ ลานจอดรถยนต์ ด้านหน้าสํานักงานพาณิชย์จังหวัดลําปาง เวลา 15.00 น. ณ ตลาดต้องชม "กาดนัดฮิมวัง" และครั้งที่ 2 วันที่ 22 กันยายน 2566 เวลา 09.00 น. ณ ลานจอดรถยนต์ ด้านหน้าสํานักงานพาณิชย์จังหวัดลําปาง เวลา 15.00 น. ณ ตลาดต้องชม "ถนนสายวัฒนธรรมลําปาง"

18/9/2023

ภาคเหนือ

ลำปาง

สวท.ลำปาง

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230918120423268

กบข. พร้อมจ่ายเงินคืนสมาชิกเกษียณอายุภายใน 7 วันทำการ

นางศรีกัญญา ยาทิพย์ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบําเหน็จบํานาญข้าราชการ หรือ กบข. เปิดเผยว่า สมาชิก กบข. ที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน 2566 มีจํานวน 21,223 ราย ซึ่ง กบข. จะดําเนินการจ่ายเงินคืนสมาชิกภายใน 7 วันทําการ หลังจากที่ กบข. ได้รับเอกสารที่ครบถ้วนถูกต้องและประกาศเกษียณอายุราชการมีผลบังคับใช้ โดยสมาชิกสามารถยื่นเรื่องขอรับเงิน กบข. คืนล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันนี้ ผ่าน 2 ช่องทางคือ แจ้งความประสงค์ทางระบบบําเหน็จบํานาญและสวัสดิการรักษาพยาบาล (Digital Pension) ของกรมบัญชีกลางและแจ้งความประสงค์ผ่านหน่วยงานต้นสังกัด พร้อมกรอกแบบ กบข. รง 008/1/2555สมาชิกที่สิ้นสุดสมาชิกภาพเนื่องจากเกษียณอายุราชการ และมีเวลาราชการมากกว่า 10 ปีขึ้นไป จะมีสิทธิเลือกรับบําเหน็จบํานาญจากกรมบัญชีกลาง และได้รับเงินก้อนจาก กบข. ด้วย โดยกรณีที่สมาชิกเลือกรับบํานาญ จะได้รับเงิน กบข. ทั้งหมด ทั้งเงินสะสมของสมาชิก เงินออมเพิ่ม (ถ้ามี) เงินสมทบเงินชดเชยจากรัฐ และเงินประเดิม (ถ้ามี) รวมถึงเงินผลประโยชน์จากการที่ กบข. นําเงินไปลงทุนสร้างผลตอบแทนให้ หากสมาชิกเลือกรับบําเหน็จ จะได้รับเงิน กบข. ในส่วนของเงินสะสมของสมาชิก เงินออมเพิ่ม (ถ้ามี) เงินสมทบจากรัฐและเงินผลประโยชน์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook กบข. หรือ LINE กบข. @gpfcommunity หรือศูนย์บริการข้อมูลสมาชิก โทร 1179

18/9/2023

ภาคกลางและปริมณฑล

กรุงเทพมหานคร

สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230918140026305

ชลบุรี จัดงานวันไผ่โลก หรือ Bamboo World 2023

วันที่ 18 กันยายน 2566 ว่าที่ ร.ต.ศราวุธ กรจิระเจริญ นายอําเภอพนัสนิคม เป็นประธานเปิดงานวันไผ่โลก หรือ Bamboo World 2023 ภายใต้บริบท นวัตกรรมและชุมชนที่มีศักยภาพ ซึ่งจังหวัดชลบุรีมีความพร้อมและมีศักยภาพที่จะขับเคลื่อนการพัฒนาไผ่ไม้เศรษฐกิจชุมชน บ่งชี้ถึงความสําคัญของไผ่ที่มีความสําคัญต่อวิถีชีวิตของชุมชนในจังหวัดชลบุรี ณ ศูนย์ส่งเสริมฝีมือจักสานด้วยไม้ไผ่ อําเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี โดยมี นายอนันต์ ภู่สิทธิกุล ที่ปรึกษาคณะทํางานโครงการนวัตกรรมยกระดับไผ่และผลิตภัณฑ์ไผ่ไทย นายกิติพงศ์ ตั้งกิจ ประธานคณะทํางานโครงการนวัตกรรมยกระดับไผ่และผลิตภัณฑ์ไผ่ไทย หัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และพี่น้องเกษตรกรชาวชลบุรี ภาคีเครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกไผ่ ที่ร่วมกิจกรรมในวันนี้ว่าที่ ร.ต.ศราวุธ กรจิระเจริญ นายอําเภอพนัสนิคม เปิดเผยว่า นวัตกรรมและศักยภาพการจัดการธุรกิจไผ่จังหวัดชลบุรี มีการตั้งเป้าหมายที่ดําเนินการตามแนวทาง BCG Model ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง ปลายทาง ในส่วนของสถาบันการศึกษานําโดยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก ดําเนินการขับเคลื่อนด้านนวัตกรรม อาทิ นวัตกรรมสีไผ่ด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ใช้ประโยชน์จากใบไผ่ที่ปลูกในจังหวัดชลบุรีเป็นวัสดุหลักในการให้สี เกิดสินค้าพรีเมี่ยมมูลค่าสูงเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดชลบุรี การออกแบบหัตถกรรมจักสานในการพัฒนาร่วมกับชุมชนในพื้นที่และการจัดตั้งศูนย์วิจัยพันธุ์ไผ่เศรษฐกิจ โดยในส่วนของหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จังหวัดชลบุรี จัดทําแนวทางการพัฒนาไผ่ไม้เศรษฐกิจชุมชนจังหวัดชลบุรี จํานวน 4 ด้าน 11 แนวทาง ด้านอุตสาหกรรมมีแนวทางสนับสนุนไผ่เศรษฐกิจตลอดห่วงโซ่คุณค่า ยึดหลักแนวทางการจัดการทรัพยากรด้วย BCG MODEL ที่มีการลงทุนน้อยแต่สามารถสร้างมูลค่าได้สูงด้านการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชลบุรี มีแนวทางที่นําไผ่มาผนวกกับการจัดงานกีฬาเยาวชน ปี 2567 ณ จังหวัดชลบุรี จากแนวคิดการทําผลิตภัณฑ์เหรียญรางวัลและถ้วยรางวัล AD Card พร้อมสายคล้อง โดยทําจากไผ่ เพื่อเป็นส่งเสริมการทําอุตสาหกรรมจากไผ่ในชุมชนของจังหวัดชลบุรี และสามารถส่งต่อให้เป็นอุตสาหกรรมด้านกีฬาและยังเป็นการสนับสนุนโครงการของกรมเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ซึ่งกําหนดให้มี Green Sports ซึ่งเป็นตัวชี้วัด Carbon Credit ของจังหวัดชลบุรี ด้านวัฒนธรรมท้องถิ่น มีแนวทางที่จะพัฒนาไผ่จักสานต่อเนื่อง โดยร่วมกับชุมชนพนัสนิคม ซึ่งเป็นชุมชนที่มีการดําเนินงานเรื่องไผ่จักสาน ซึ่งเป็นวิถีชีวิต ของชุมชนมายาวนานและดําเนินการต่อเนื่องอีกด้วยนอกจากนี้ ในช่วงการประชุมเอเปคที่ผ่านมา ประเทศไทยได้มอบของที่ระลึกส่วนหนึ่งมาจากชุมชนพนัสนิคม ซึ่งศูนย์ส่งเสริมฝีมือจักสานด้วยไม้ไผ่อําเภอพนัสนิคม ได้ก่อตั้งภายใต้พระราชดําริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

18/9/2023

ภาคตะวันออก

ชลบุรี

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชลบุรี

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230918145657336

จ.พังงา เข้าร่วมประชุม กรอ. กลุ่มภาคใต้ฝั่งอันดามัน ครั้งที่ 5

วันนี้ (18 ก.ย.66) นางสาวนิรชา บัณฑิตย์ชาติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ได้รับมอบหมายจากนายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ให้เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) กลุ่มภาคใต้ฝั่งอันดามัน ครั้งที่ 5/2566 โดยมีภาครัฐและภาคเอกชน จากจังหวัด กระบี่ ตรัง พังงา ภูเก็ต ระนอง และสตูล เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมพลาซ่า 1 โรงแรมดีวาน่าพลาซ่าภูเก็ตป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เพื่อติดตามการดําเนินงานตามความต้องการของพื้นที่ นโยบายเร่งด่วนและข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีเมื่อคราวประชุมกับผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้แทนภาคเอกชน ผู้บริหารท้องถิ่น เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน เช่น การบริหารจัดการน้ําในภาพรวมของกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ความก้าวหน้าโครงการ Andaman Wellness Corridor (AWC) ความก้าวหน้าโครงการ ANDAMAN ECONOMIC TOURISM (เขตเศรษฐกิจเพื่อการท่องเที่ยวอันดามัน) จากนั้น ที่ประชุมได้หารือการจัดประชุม กรอ. กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ครั้งที่ 1/2567 ในห้วงเดือนพฤศจิกายน 2566

18/9/2023

ภาคใต้

พังงา

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพังงา

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230918150318340

พาณิชย์จังหวัดภูเก็ต จัดกิจกรรมเชื่อมโยงการจำหน่ายไข่ไก่ เพื่อลดภาระค่าครองชีพ พร้อมบูรณาการร่วมกับหลายหน่วยงานจัดกิจกรรมจำหน่ายสินค้าราคาประหยัดอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยเหลือผู้บริโภค

วันนี้ (18 กันยายน 2566) บริเวณหน้าสํานักงานพาณิชย์จังหวัดภูเก็ต มีการจัดกิจกรรมเชื่อมโยงการจําหน่ายไข่ไก่ เพื่อลดภาระค่าครองชีพ โดยสํานักงานพาณิชย์จังหวัดภูเก็ต ร่วมกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ จัดจําหน่ายไข่ไก่เบอร์ 3 ราคาแผงละ 120 บาท เพื่อลดภาระค่าครองชีพให้ผู้บริโภค ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ซึ่งมีประชาชนทยอยมาซื้อย่างต่อเนื่อง แต่ไม่หนาแน่น เนื่องจากในช่วงนี้ผลผลิตมีเพียงพอกับความต้องการบริโภค ราคาไข่ไก่ในพื้นที่จึงไม่ได้มีราคาที่สูงจนส่งกระทบต่อการดํารงชีวิตของประชาชนนางปทุมภรณ์ แย้มเกิด ผู้อํานวยการกลุ่มงานกํากับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า สํานักงานพาณิชย์จังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ราคาไขไก่ในพื้นที่จังหัดภูเก็ต ไม่ได้ประสบปัญหาหรือส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค เนื่องจากผลผลิตมีเพียงพอกับความต้องการ ประกอบกับสํานักงานพาณิชย์จังหวัดภูเก็ต ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบราคาสินค้าและความต้องการของผู้บริโภคเป็นประจํา พร้อมกับบูรณาการร่วมกับหลายภาคส่วน เช่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ห้างสรรพสินค้าท้องถิ่น จัดกิจกรรมจําหน่ายสินค้าราคาประหยัด เพื่อลดค่าครองชีพให้กับประชาชน โดยการนําสินค้าที่จําเป็นมาจําหน่ายให้กับประชาชนในราคาประหยัด โดยเฉพาะ ไข่ไก่ น้ํามันพืช ข้าวสาร เนื้อหมูสด ไก่สด ทําให้ประชาชนผู้บริโภคมีตัวเลือกในการเลือกซื้อสินค้าอุปโภค บริโภค เพิ่มมากขึ้นจากเดิม นอกจากนั้น สํานักงานพาณิชย์จังหวัดภูเก็ต มีการกํากับดูแลและติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนผู้บริโภค ซื้อสินค้าในราคาที่เป็นธรรม พร้อมเน้นย้ําให้ผู้ค้าปิดป้ายแสดงราคาสินค้าและบริการที่ชัดเจน ไม่เอาเปรียบผู้บริโภค ย้ําให้ปฏิบัติตามมาตรา 29 พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 อย่างเคร่งครัด

18/9/2023

ภาคใต้

ภูเก็ต

สวท.ภูเก็ต

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230918162144359

แขวงทางหลวงนครราชสีมาที่ 3 ประชุมชี้แจงโครงการก่อสร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 224 สายบ้านโคกกรวด - บ้านหนองสนวน ระยะทาง 23.114 กิโลเมตร

วันนี้ (18 ก.ย.66) นายภูมิสิทธิ์ วังคีรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมชี้แจงโครงการก่อสร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 224 สายบ้านโคกกรวด-บ้านหนองสนวน ระหว่าง กม.66+331 - กม.80+000 และ กม.92+555 - กม.102+000 ระยะทาง 23.114 กิโลเมตร ณ หอประชุมที่ว่าการอําเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา โดยมีนายอาทิตย์ หวังศุภกิจโกศล และนายอภิชา เลิศพัชรกมล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนครราชสีมา ร่วมประชุมนายไชยวิทย์ บุรสมบูรณ์ ผู้อํานวยการแขวงทางหลวงนครราชสีมาที่ 3 กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของการประชุมในครั้งนี้ว่า เพื่อชี้แจงรายละเอียดของโครงการฯ ให้กับประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบ โดยผู้แทนกรมทางหลวงจะอธิบายถึงวัตถุประสงค์ รูปแบบการก่อสร้าง ระยะเวลา และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการก่อสร้าง รวมถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหาผลกระทบดังกล่าวโครงการก่อสร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 224 สายบ้านโคกกรวด-บ้านหนองสนวน เป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างจังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดบุรีรัมย์ มีปริมาณการจราจรหนาแน่น โดยเฉพาะช่วงเทศกาลและวันหยุดยาว กรมทางหลวงจึงได้มีโครงการก่อสร้างทางหลวงสายนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรองรับปริมาณการจราจรและความปลอดภัย รูปแบบการก่อสร้างจะขยายช่องทางจราจรจากเดิม 2 ช่องจราจร เป็น 4 ช่องจราจร (ไปกลับข้างละ 2 ช่องจราจร) กว้างช่องจราจรละ 3.50 เมตร ไหล่ทางด้านนอกกว้าง 2.50 เมตรสําหรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการก่อสร้าง ได้แก่ ปัญหาการจราจรติดขัด ปัญหาฝุ่นละออง และปัญหามลพิษทางเสียง กรมทางหลวงจะดําเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาเหล่านี้ โดยจัดให้มีป้ายแจ้งเตือนและอํานวยความสะดวกด้านการจราจร ติดตั้งเครื่องดูดฝุ่นและเครื่องพ่นน้ําเพื่อลดฝุ่นละออง และติดตั้งเครื่องลดเสียงเพื่อลดมลพิษทางเสียงผู้เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ ประกอบด้วย ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ผู้แทนองค์กรส่วนท้องถิ่น ผู้แทนองค์กรภาคเอกชน ผู้นําชุมชน สื่อมวลชน และประชาชนในพื้นที่ ซึ่งต่างแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อโครงการฯ โดยส่วนใหญ่เห็นด้วยกับโครงการและขอให้เร่งดําเนินการก่อสร้างเพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรที่ติดขัดและเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง

18/9/2023

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

นครราชสีมา

สวท.นครราชสีมา

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230918195749427

จังหวัดภูเก็ตเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน (กระบี่ ตรัง พังงา ภูเก็ต ระนอง และสตูล) ครั้งที่ 5/2566

วันที่ 18 กันยายน 2566 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมพลาซ่า โรงแรมดีวาน่าพลาซ่าภูเก็ต ป่าตอง ตําบลป่าตอง อําเภอกะทู้ นายอํานวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน (กระบี่/ตรัง/พังงา/ภูเก็ต/ระนองและสตูล) ครั้งที่ 5/2566 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการภาครัฐเอกชนในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามันเข้าร่วมสําหรับการประชุมในครั้งนี้มีวาระที่สําคัญประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวพื้นที่อันดามัน 3+3 ภูเก็ต/พังงา/กระบี่/ระนอง/ตรัง/สตูล นําเสนอการประชาสัมพันธ์การจัดงาน Andaman Tourism Networking 2023 วันที่ 7- 9 ตุลาคม 2566 ณ โรงแรมรอยัลภูเก็ตซิตี้ โดยมีกิจกรรมได้แก่ เวทีจับคู่ธุรกิจ Table Top Sales กว่า 50 คู่ค้า, งานแสดงสินค้า บริษัททัวร์ ห้างร้านกว่า 100 ร้านค้า, กิจกรรมแข่งขันเสริมทักษะด้านอาหาร งานช่าง เทคโนโลยี อื่นๆ อีกมากมาย สําหรับผู้ที่สนใจกิจกรรม "เปิดเวทีเจรจาจับคู่ธุรกิจ Table Top Sale: B2B" วันที่ 8 ต.ค.66 มูลค่าโต๊ะละ 2,000 บาท ลงทะเบียนได้ที่ https://forms.gle/SLEdcuwAYKu9KZSC6 จากนั้นที่ประชุมได้มีการนําเสนอ การแต่งตั้งคณะทํางานศึกษาและติดตามเร่งรัดการปรับปรุง, คําสั่งกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ที่ 28/3565 ลงวันที่ 7 ธันวาคม 2565 และแก้ไขผังเมืองรวมกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน แนวทางการขับเคลื่อนโครงการ Andaman Wellness Comidor (AWC) ของจังหวัดในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน (กระบี่/ตรัง/พังงา/ภูเก็ต/ระนอง/และสตูล)โอกาสนี้ที่ประชุมได้ติดตามความก้าวหน้าการดําเนินงานตามความต้องการของพื้นที่ นโยบายเร่งด่วนและข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี เมื่อคราวประชุมกับผู้ว่าราชการจังหวัดผู้แทนภาคเอกชน ผู้บริหารท้องถิ่น เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน รวมถึงความคืบหน้า การบริหารจัดการน้ําในภาพรวมของกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน(กระบี่ ตรัง พังงา ภูเก็ต ระนอง และสตูล) ความก้าวหน้าโครงการ ANDAMAN ECONOMIC TOURISM (เขตเศรษฐกิจเพื่อการท่องเที่ยวอันดามัน) และที่ประชุมร่วมพิจารณา ประเด็นขอความเห็นชอบให้ กรอ.จังหวัดพังงา เป็นฝ่ายเลขานุการในการจัดตั้งคณะทํางานขับเคลื่อนการติดตามเร่งรัดการก่อสร้างสนามบินจังหวัดพังงา ,ขอความเห็นชอบให้ กรอ.จังหวัดในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน (กระบี่/ตรัง/พังงา/ภูเก็ต/ระนองและสตูล) เป็นฝ่ายเลขานุการในการจัดตั้งคณะทํางานขับเคลื่อนการติดตามเร่งรัดการขอใช้ประโยชน์ที่ดินจากภาครัฐ ขอความเห็นชอบให้ กรอ. จังหวัดภูเก็ต เป็นฝ่ายเลขานุการในการจัดตั้งคณะทํางานขับเคลื่อนการติดตามเร่งรัดโครงการการวางท่อส่งน้ําดิบจากเขื่อนรัชชประภา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ไปยังจังหวัดภูเก็ต, ขอความเห็นชอบให้ กรอ. กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ติดตามความก้าวหน้าการก่อสร้างรถไฟสายใหม่เชื่อมรถไฟสายใต้เส้นทางสุราษฎร์ธานี-ท่านุ่น (จังหวัดพังงา)

18/9/2023

ภาคใต้

ภูเก็ต

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230918205850440

มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ประชุมหารือและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การดำเนินงานโครงการยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น ประจำปีงบประมาณ 2567 พื้นที่จังหวัดภูเก็ต

วันที่ 18 กันยายน 2566 เวลา 10.00 น. ณ หอประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ผศ.ดร.ดวงรัตย์ โกยกิจเจริญ รองอธิการบดีฝ่ายแผนงานและวิจัย มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต เป็นประธานการประชุมหารือและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การดําเนินงานโครงการยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏ เพื่อการพัฒนาท้องถิ่น ประจําปีงบประมาณ 2567 พื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ภาครัฐเอกชนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าร่วมด้วยมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ได้ดําเนินงานตามยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นระยะ 20 ปี พ.ศ.2560 ถึง 2579 เพื่อเป็นการสนองพระบรมราโชบายในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีความรู้ มีทัศนคติ ที่ ดีและมีอาชีพที่มั่นคง ซึ่งจะเป็นการเสริมสร้างความมั่นคงให้แก่ประเทศไทย ประกอบด้วย โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิต และยกระดับเศรษฐกิจฐานราก โครงการยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนยั่งยืนสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ โครงการพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวโดยชุมชน โครงการราชภัฏรักษ์สิ่งแวดล้อม โครงการศูนย์การเรียนรู้เพื่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนสําหรับการบริหารจัดการทรัพยากรชุมชน โครงการส่งเสริมและพัฒนาอาหารพื้นถิ่นแบบบูรณาการสู่การท่องเที่ยว โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดําริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.) โครงการพัฒนาความเป็นเลิศด้านการท่องเที่ยวและบริการ(สปา/ฮาลาล/ท่องเที่ยว)โอกาสนี้ที่ประชุมการรายงานผลการดําเนินโครงการศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต เพื่อการพัฒนาท้องถิ่นประจําปี 2566 จากนั้นที่ประชุมได้ร่วมหารือพิจารณา ร่างคําสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการโครงการยุทธศาสตร์เพื่อพัฒนาท้องถิ่น ประจําปีงบประมาณ 2567 พื้นที่จังหวัดภูเก็ตด้วย

18/9/2023

ภาคใต้

ภูเก็ต

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230918211247443

อำเภอเบตง ลงพื้นที่ดูงาน กระบวนการผลิตทุเรียนแช่แข็ง ณ บริษัท สกาย ออน อินเตอร์ เนชั่นนอล จำกัด ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้าส่งออกไปยังตลาดอาเซียน และประเทศจีน

วันที่ 18 กันยายน 2566 ที่บริษัท สกาย ออน อินเตอร์ เนชั่นนอล จํากัด ตําบลตาเนาะแมเราะ อําเภอเบตง จังหวัดยะลา นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอําเภอเบตง พร้อมด้วย นางมุกดา ยังอภัย ณ สงขลา นายกกิ่งกาชาดอําเภอเบตง ลงพื้นที่ดูงาน กระบวนการผลิตทุเรียนแช่แข็ง ณ บริษัท สกาย ออน อินเตอร์ เนชั่นนอล จํากัด เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจด้านตลาดเสรี พัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการให้ใช้ประโยชน์ FTA เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้า สําหรับการผลิตทุเรียนแช่เยือกแข็ง ทุเรียนแช่เย็นจนแข็งในรูปทุเรียนทั้งผล เนื้อทุเรียนมีเมล็ด และเนื้อทุเรียนไม่มีเมล็ด มีสาระสําคัญครอบคลุมตั้งแต่การรับวัตถุดิบ กระบวนการผลิต การเก็บรักษา และการขนส่ง ที่สอดคล้องกับหลักเกณฑ์การปฏิบัติหลักการทั่วไปเกี่ยวกับสุขลักษณะอาหาร อาทิ สถานประกอบการต้องทําให้มั่นใจว่ามีการปนเปื้อนน้อยที่สุด ต้องมีเครื่องมืออุปกรณ์ที่จําเป็นสําหรับการปฏิบัติงาน เช่น การควบคุมอุณหภูมิ การเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ การทําความสะอาด และสุขลักษณะส่วนบุคคล เป็นต้นนอกจากนี้ ยังมีข้อกําหนดในการควบคุมเชื้อโรคและสารเคมี ที่อาจปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์และระบบควบคุมสุขลักษณะเช่น การรับวัตถุดิบทุเรียนที่มีคุณภาพและปลอดภัย การควบคุมกระบวนการแช่เยือกแข็ง เก็บรักษาและขนส่ง เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีอุณหภูมิที่ 18 องศาเซลเซียส หรือต่ํากว่า รวมถึงการจัดการและการกํากับดูแลเฝ้าระวังอันตรายต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นกับผลิตภัณฑ์ด้วย สําหรับทุเรียนแช่เยือกแข็งนับเป็นสินค้าที่ไทยมีศักยภาพการผลิตและส่งออกสูง โดยส่งออกไปยังตลาดอาเซียน และประเทศจีน

18/9/2023

ภาคใต้

ยะลา

สวท.เบตง จ.ยะลา

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919001504465

กรมสรรพากร ปรับปรุงวิธีการการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีมีเงินได้จากแหล่งเงินได้นอกประเทศ เริ่มใช้ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป

นายวินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ รองอธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะโฆษกกรมสรรพากร เปิดเผยว่า การปรับปรุงวิธีการการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีมีเงินได้จากแหล่งเงินได้นอกประเทศ ตามคําสั่งกรมสรรพากร เรื่องการเสียภาษีเงินได้ตามมาตรา 41 วรรคสองแห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2566 เป็นการปรับปรุงวิธีการการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สําหรับผู้มีเงินได้จากแหล่งเงินได้นอกประเทศ เนื่องจากหน้าที่การงาน หรือกิจการที่ทําในต่างประเทศ หรือเนื่องจากทรัพย์สินที่อยู่ในต่างประเทศจะต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในประเทศไทยให้ชัดเจนและสามารถจัดเก็บภาษีได้อย่างเป็นธรรมมากยิ่งขึ้น ผู้มีเงินได้จะต้องเสียภาษีต่อเมื่อนําเงินได้พึงประเมินดังกล่าวเข้ามาในประเทศไทย ทั้งนี้ หากผู้มีเงินได้ถูกเก็บภาษีไว้ในประเทศแหล่งเงินได้แล้ว ผู้มีเงินได้สามารถนําภาษีที่ถูกประเทศแหล่งเงินได้ที่มีการทําอนุสัญญาภาษีซ้อนกับประเทศไทยเก็บไว้มาใช้เป็นเครดิตภาษีได้ตามหลักเกณฑ์ที่กําหนดในอนุสัญญาภาษีซ้อนโฆษกกรมสรรพากร กล่าวด้วยว่า การปรับปรุงวิธีการการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในครั้งนี้ จะช่วยเสริมสร้างความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษีระหว่างผู้มีเงินได้จากแหล่งเงินได้ภายในและภายนอกประเทศ และยกระดับความโปร่งใสในการปฏิบัติทางภาษีให้ถูกต้อง ทั้งนี้ กรมสรรพากร จะร่วมหารือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับการปรับปรุงวิธีการการจัดเก็บภาษีดังกล่าวต่อไป

19/9/2023

ภาคกลางและปริมณฑล

กรุงเทพมหานคร

สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919085754469

กรมโรงงานอุตสาหกรรม จัดกิจกรรม “พลอยได้..พาสุข” เปลี่ยนการจำลองธุรกิจ สู่การปฏิบัติจริง

นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) กล่าวว่า กรอ. จัดกิจกรรม “พลอยได้..พาสุข” เปลี่ยนการจําลองธุรกิจ สู่การปฏิบัติจริง เพื่อสนับสนุนวิสาหกิจชุมชนในการนําวัสดุพลอยได้จากภาคอุตสาหกรรม มาต่อยอดสร้างมูลค่าทําเป็นผลิตภัณฑ์ ลดค่าใช้จ่ายในการกําจัดกากอุตสาหกรรม สร้างเศรษฐกิจหมุนเวียน เพิ่มรายได้ ให้ชุมชนและภาคอุตสาหกรรม โดยที่ผ่านมา กรอ. ดําเนินงานโครงการพัฒนาและยกระดับเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสู่เมือง สิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ประจําปี 2566 และมอบให้แก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมที่เป็นโรงงานอุตสาหกรรมที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม โรงงานอุตสาหกรรมที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างต่อเนื่อง และโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศที่มีคุณค่าต่อสังคม จํานวน 556 รางวัล ถือเป็นการส่งเสริมให้โรงงานอุตสาหกรรมนําไปปฏิบัติสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ประเทศ ที่ต้องการให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง อีกทั้งเป็นโรงงานอุตสาหกรรมต้นแบบที่จะช่วยเป็นแรงขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมไทยให้เติบโตและอยู่คู่สังคมและชุมชน ทําให้เกิดภาพลักษณ์ “ชุมชนรักโรงงาน-โรงงานรักชุมชน” ทั้งนี้ กรอ. เชื่อมั่นว่า หากโรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศ นํามาตรฐานความรับผิดชอบต่อสังคมของผู้ประกอบการ ไปประยุกต์ใช้และปฏิบัติอย่างต่อเนื่องแล้ว จะทําให้อุตสาหกรรมไทยปรับเข้าสู่อุตสาหกรรมวิถีใหม่ได้ไม่ยากและจะทําให้เศรษฐกิจอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจชุมชนเติบโตไปด้วยกัน

19/9/2023

ภาคกลางและปริมณฑล

กรุงเทพมหานคร

สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919095648495

การส่งออกสินค้าปศุสัตว์ของไทยในช่วง 7 เดือนแรก ปี 2566 ขยายตัวต่อเนื่อง

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อํานวยการสํานักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า สนค.ติดตามสถานการณ์การค้าสินค้าปศุสัตว์ของไทยในช่วง 7 เดือนแรก (มกราคม – กรกฎาคม 2566) จากแดชบอร์ดวิเคราะห์ข้อมูล ‘ไก่เนื้อ’ ของเว็บไซต์ คิดค้า.com พบว่า สินค้าเนื้อไก่ทั้งแช่แข็งและแปรรูป มีมูลค่าการส่งออกสูงถึง 2,322.04 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกว่าร้อยละ 87 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าปศุสัตว์ทั้งหมดของไทย ตลาดส่งออกสําคัญคือ ญี่ปุ่น มีสัดส่วนร้อยละ 40.95 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าไก่จากไทยไปโลก ส่วนตลาดส่งออกที่สําคัญอื่นๆ เช่น สหราชอาณาจักร สาธารณรัฐประชาชนจีน เนเธอแลนด์ เกาหลี และมาเลเซีย จากการประเมินช่องว่างโอกาสการขยายมูลค่าการส่งออกของไทย พบว่า ตลาดอียูมีแนวโน้มบริโภคไก่เพิ่มขึ้น ส่วนประเทศซาอุดีอาระเบียเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง ซึ่งส่วนแบ่งตลาดของไทยในตลาดดังกล่าวยังถือว่าไม่มากนัก จึงเป็นโอกาสที่ไทยควรเร่งขยายการส่งออกไปยังตลาดเป้าหมายเหล่านี้ โดยผู้ประกอบการควรเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่การผลิตและอุปทานในตลาดโลก ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและขยายตลาดใหม่ๆ

19/9/2023

ภาคกลางและปริมณฑล

กรุงเทพมหานคร

สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919115418517

สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนราธิวาส จัดกิจกรรมเชื่อมโยงการจำหน่ายไข่ไก่เพื่อลดภาระค่าครองชีพ วันที่ 19-20 กันยายน 2566

วันนี้ (19 ก.ย.66) นางนฤมล แก้วมุกดากุล พาณิชย์จังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า สํานักงานพาณิชย์จังหวัด ร่วมกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ กําหนดจัดกิจกรรมเชื่อมโยงการจําหน่ายไข่ไก่ เพื่อลดภาระค่าครองชีพ โดยจําหน่ายไข่ไก่เบอร์ 2 ราคาแผงละ 120 บาท (ปกติแผงละ 137 บาท) วันที่ 19-20 กันยายน 2566 เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป (จนกว่าสินค้าจะหมด) จุดที่ 1 ที่บริเวณด้านข้างสํานักงานพาณิชย์จังหวัดนราธิวาส ตรงข้ามโรงแรมแปซิฟิกและจุดที่ 2 ร้าน ก.เก่ง กาแฟโบราณ สี่แยกประชาภิรมย์ ถนนระแงะมรรคา อําเภอเมืองนราธิวาส ภาพรวมมีประชาชนทยอยเดินทางมาซื้ออย่างต่อเนื่อง ขณะที่ในพื้นที่มีไข่ไก่เพียงพอต่อการบริโภค ราคาไข่ไก่ในพื้นที่ไม่ได้มีราคาสูงจนส่งผลต่อการดํารงชีวิต ผลผลิตไข่ไก่มีเพียงพอกับความต้องการของประชาชนพาณิชย์จังหวัดนราธิวาส กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางสํานักงานพาณิชย์ฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบราคาเป็นประจํา อีกทั้งบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดกิจกรรมจําหน่ายสินค้าราคาประหยัดเพื่อลดค่าครองชีพ นําสินค้าที่จําเป็นมาจําหน่าย เช่น ไข่ไก่ ข้าวสาร น้ํามันพืช เป็นต้น

19/9/2023

ภาคใต้

นราธิวาส

สวท.นราธิวาส

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919104122500

ททท.ยกคาราวานหรอยแรง ล่องใต้ กระตุ้นการท่องเที่ยว 14 จังหวัด

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ยกคาราวานหรอยแรง ล่องใต้ กระตุ้นการท่องเที่ยว 14 จังหวัด ขณะนี้เดินทางถึงจังหวัดสงขลา พร้อมออกเดินทางต่อสู่ชายแดนใต้คณะรถคาราวาน หรอยแรง...ล่องใต้ ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นกลุ่มเครือข่ายด้านการท่องเที่ยว สมาคมสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยว องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น บริษัทนําเที่ยว ผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยว และสื่อมวลชนจากกรุงเทพมหานคร และจาก 14 จังหวัดภาคใต้ ประมาณ 100 คน ได้เดินทางถึงจังหวัดสงขลา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อเข้าเยี่ยมชมสินค้า และบริการทางการท่องเที่ยว ในการนําไปต่อยอดการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด หลังจากที่ได้ล่องคาราวานท่องเที่ยวภาคใต้มาแล้ว 4 จังหวัด ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2566 เป็นต้นมา ในเส้นทางกรุงเทพมหานคร สู่จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง จนมาถึงจังหวัดสงขลา คณะคาราวาน ได้ขึ้นรถรางนําเที่ยวของเทศบาลนครสงขลา เยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวประวัติศาสตร์ที่สําคัญของจังหวัดสงขลา ในย่านเมืองเก่าสงขลา” ย่านการค้าสมัยโบราณที่มีอายุกว่า 200 ปี ที่เป็นแหล่งค้าขายและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมของไทยและต่างชาติมาตั้งแต่โบราณ ซึ่งอาคารบ้านเรือนล้วนเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงามแบบจีน และชิโนยูโรเปียน รวมถึงมีถนนสายประวัติศาสตร์ที่สําคัญ 3 สาย ทั้งถนนนครนอก นครใน และถนนนางงาม ที่มีวิถีการดําเนินชีวิต และกลิ่นอายความเป็นดั้งเดิมของจังหวัดสงขลา ซึ่งระหว่างที่คณะคาราวานฯ นั่งรถรางศึกษาแหล่งท่องเที่ยว ก็ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากประชาชนในพื้นที่ ผ่านรอยยิ้ม และเสียงทักทายตลอดเส้นทาง นอกจากนี้ คณะคาราวานยังได้ เยี่ยมชมรูปปั้น“นางเงือกทอง” สัญลักษณ์อันโดดเด่นของสงขลา บริเวณแหลมสมิหลาด้วย นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อํานวยการ ททท.ภูมิภาคภาคใต้ เปิดเผยว่า กิจกรรมหรอยแรง...ล่องใต้ ประจําปี 2566 จัดขึ้นในโครงการ เที่ยวใต้เที่ยวง่ายหรอยแรงได้ทั้งปี โดยร่วมกับ ททท.สํานักงานภาคใต้ จัดกิจกรรมคาราวาน เส้นทางกรุงเทพมหานครสู่ 14 จังหวัดภาคใต้ ระหว่างวันที่ 15-26 กันยายน 2566 ใน 12 วัน 11 คืน เพื่อส่งเสริมการขายสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในภูมิภาค ในรูปแบบคาราวาน โดยเปิดโอกาสให้กลุ่มบริษัทนําเที่ยว สมาคมสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยว ได้ร่วมแลกเปลี่ยนทริปท่องเที่ยวที่ดีๆ ในแต่ละพื้นที่ เป็นการเชื่อมโยงด้านการท่องเที่ยวในโอกาสต่อไป ซึ่งจะช่วยในการผลักดัน ต่อยอดให้เกิดกระแสการเดินทางท่องเที่ยว และกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวที่มีความชื่นชอบในทุกไลฟ์สไตล์ที่ตอบโจทย์ ให้เข้ามาสร้างสรรค์ประสบการณ์การท่องเที่ยวในพื้นที่ได้อย่างต่อเนื่อง ตามคอนเซ็ปต์ภาคใต้ 14 จังหวัด 14 สไตล์ในจุดขายต่างกัน 24 ชั่วโมงที่หาความสุขได้ในภาคใต้ และภาคใต้ ไม่มีช่วงโลซีซั่น ในการท่องเที่ยว สามารถหรอยได้ทุกเดือน 365 วัน จึงเป็นที่มาของ 14-24-365 “หรอยแรง ล่องใต้”ทั้งนี้ คณะคารานวานจะเริ่มออกเดินทางต่อไปยังพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ปัตตานี – ยะลา - นราธิวาส และสตูล รวมถึงจะเดินทางสู่พื้นที่ฝั่งอันดามัน ในจังหวัดตรัง - กระบี่ - ภูเก็ต - พังงา และปิดท้ายที่จังหวัดระนอง

19/9/2023

ภาคใต้

สงขลา

สทท.สงขลา

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919131902545

ดีพร้อม (DIPROM) ลุยเมืองอันดามัน ยกระดับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ปั้น Wellness City ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ณ จังหวัดภูเก็ต พื้นที่สำคัญด้านการท่องเที่ยวระดับสากล

วันนี้ (19 กันยายน 2566) ที่ โรงแรม Seabed Grand Hotel Phuket อําเภอเมืองภูเก็ต ดร.อาทิตย์ พัฒนพงศ์ชัย ผู้อํานวยการกองพัฒนาดิจิทัลอุตสาหกรรม เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ หลักสูตร "ยกระดับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงสุขภาพด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล" ภายใต้โครงการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของวิสาหกิจไทยด้วยดิจิทัล จัดโดยกองพัฒนาดิจิทัลอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม โดยมี ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน และบุคคลที่สนใจ จากจังหวัดในพื้นที่ฝั่งอันดามัน กว่า 120 คน เข้าร่วม สําหรับ โครงการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของวิสาหกิจไทยด้วยดิจิทัล เป็นการเพิ่มความรู้ทักษะด้านการตลาดออนไลน์ ด้วยการนําเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ ในการดําเนินธุรกิจ SME อย่างเหมาะสม เป็นการเพิ่มช่องทางการตลาดออนไลน์นําไปสู่การสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน ช่วยยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเข้มแข็ง ซึ่งเป็นไปตามภารกิจที่กองพัฒนาดิจิทัลอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (DIPROM) ช่วยในการส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนา SME ให้นําเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้กับการบริหารจัดการธุรกิจ ตามแนวคิด "ดี-พร้อม-อัพ" (UP) ยกระดับชุมชนด้วยการตลาดดิจิทัล" ทั้งนี้ ได้นําองค์ความรู้และทักษะด้านการตลาดออนไลน์มาปรับใช้กับธุรกิจโดยเฉพาะกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) ที่ตอบโจทย์พื้นที่จังหวัดภูเก็ต และจังหวัดฝั่งอันดามัน ที่เป็นเป้าหมายการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ให้ความสนใจอย่างมาก ดร.อาทิตย์ พัฒนพงศ์ชัย ผู้อํานวยการกองพัฒนาดิจิทัลอุตสาหกรรม กล่าวว่า ตามแนวนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งเน้นการยกระดับและพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก โดยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผลิตภัณฑ์ชุมชน กระทรวงอุตสาหกรรมภายใต้การนําของ นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการอุตสาหกรม คณะผู้บริหาร ประกอบด้วย ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายใบน้อย สุวรรณชาตรี อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้ให้แนวทางในการยกระดับผู้ประกอบการด้วยการนําเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยการอบรมในวันนี้เป็นหนึ่งในเป้าหมายที่จะสร้างผู้ประกอบการยุคใหม่ที่ทันต่อโลกยุคดิจิทัล ซึ่งผู้เข้ารับการอบรมจะได้รับความรู้เชิงวิชาการและเชิงปฏิบัติในการยกระดับผู้ประกอบการ เพื่อขยายตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งเป็นช่องทางที่เปิดกว้างทั่วทุกมุมโลก อย่างไรก็ตาม สิ่งสําคัญในการช่วยเหลือผู้ประกอบการด้าน Wellness คือ การสร้างความพร้อมทุกด้าน ซึ่งจากมาตรฐานการประเมินของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมพบว่าผู้ประกอบการด้านนี้ยังมีค่ามาตรฐานอยู่ในระดับต่ํา จึงต้องเร่งให้ความรู้และพัฒนาทักษะ เพื่อตอบโจทย์ตามมาตรการของภาครัฐในการ พัฒนากลุ่มผู้ประกอบการรองรับการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการจําหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้าและบริการเชิงสุขภาพ ที่ประเทศไทยได้รับความนิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วโลก จึงต้องมีการติดอาวุธทางปัญญาด้านธุรกิจออนไลน์ ให้กับกลุ่มผู้ประกอบการที่มีความพร้อม ที่สามารถจะยกระดับสู่ความเป็นสากลได้ในอนาคต และถือเป็นการต่อยอดธุรกิจที่ยั่งยืน

19/9/2023

ภาคใต้

ภูเก็ต

สวท.ภูเก็ต

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919145514596

นครพนม เชิญร่วมกิจกรรม “มหกรรมโคก หนอง นา และอาหารปลอดภัย จังหวัดนครพนม”

สํานักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครพนม ได้ดําเนินการจัดกิจกรรม “มหกรรมโคก หนอง นา และอาหารปลอดภัย จังหวัดนครพนม” เพื่อส่งเสริมมูลค่าทางเศรษฐกิจและกระจายรายได้กลับสู่ท้องถิ่น ในวันที่ 20-24 กันยายน 2566 ณ บริเวณลานอเนกประสงค์ หน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สาขานครพนม จังหวัดนครพนมโดยภายในงานมีเครือข่ายโคก หนอง นา จ.นครพนม ผู้ประกอบการที่ขึ้นทะเบียน OTOP และกลุ่มเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐที่มีศักยภาพในการพัฒนาสินค้าสู่กิจการอาหารปลอดภัยใน 3 กลุ่มงาน ได้แก่ 3 กลุ่มงาน ได้แก่ เกษตร แปรรูป ท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิญชวน ชิม ชอป กับมหกรรม การจําหน่ายอาหารเกษตรปลอดภัยจากโคกหนองนา และสินค้า OTOP ภายในงานพบกับกิจกรรมส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กิจกรรมนาทีทองตลอดทั้งงาน และการแสดงผลงานและนิทรรศการ การพัฒนาเกษตรปลอดภัย

19/9/2023

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

นครพนม

สวท.นครพนม

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919142026584

เทศบาลเมืองเบตงจัดโครงการฝึกอาชีพการทำ สลัดโรล เพื่อสุขภาพ สร้างรายได้เสริม เพิ่มทักษะด้านอาชีพให้แก่กลุ่มแม่บ้านของชุมกือติง

วันที่ 19 กันยายน 2566 ที่อาคารเทศบาล (หลังเก่า) อ.เบตง จ.ยะลา นายสกุล เล็งลัคน์กุล นายกเทศมนตรีเมืองเบตง เป็นประธานเปิดโครงการฝึกอาชีพการทํา สลัดโรล เพื่อสุขภาพ สร้างรายได้เสริม เพื่อเป็นการเสริมสร้างความรู้และทักษะด้านอาชีพให้แก่กลุ่มแม่บ้านของชุมกือติง สนับสนุนให้มีการฝึกอบรมในการทําอาชีพเสริมเพื่อเป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์มีคุณค่าสร้างความรักความสามัคคี และยังเป็นการสร้างโอกาสและทางเลือกในการประกอบอาชีพเสริมสร้างรายได้ให้กับครอบครัว อันจะเป็นการสร้างความเข้มแข็งของภาคประชาชนให้อยู่อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนต่อไปนายสกุล เล็งลัคน์กุล นายกเทศมนตรีเมืองเบตง กล่าวว่า การจัดการศึกษาอาชีพในปัจจุบันมีความสําคัญมาก เพราะจะเป็นการพัฒนาประชากรของประเทศให้มีความรู้ ความสามารถและทักษะในการประกอบอาชีพ เป็นการแก้ปัญหาการว่างงานและส่งเสริมความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจชุมชน สามารถสร้างรายได้ที่มั่นคง มั่งคั่ง และมีงานทําอย่างยั่งยืน ในปัจจุบันคนไทยนิยมรับประทานอาหารที่เรียกว่า “สลัดโรล” ซึ่งก็มีผู้ที่นําเอา สลัดโรล มาใช้เป็น “ช่องทางทํากิน” ได้อย่าง น่าสนใจ ซึ่งจะสังเกตเห็นว่าจะมีร้านสลัดโรลเป็นจํานวนมาก มีทั้งตั้งโต๊ะ หรือรถเข็น และออกบูทขาย อยู่ในศูนย์การค้า บริเวณสถานศึกษา ชุมชน สามารถเลือกหารับประทานได้ง่าย เป็นทางเลือกสําหรับคนที่อยากทานอาหารเพื่อสุขภาพ เหมาะสําหรับผู้ที่ดูแลสุขภาพ ทําให้มีผู้ที่สนใจเรียนการทําสลัดโรลมากขึ้น แต่ไม่มีหน่วยงาน หรือบุคคลเปิดสอน ในขณะเดียวกันผู้ประกอบการที่มาทําธุรกิจสลัดโรลยังมีน้อย โดยเฉพาะรถเข็นสลัดโรล สามารถวางขายในชุมชนที่มีนักท่องเที่ยว จึงเป็นช่องทางที่ดีอีกทางหนึ่ง สําหรับคนที่กําลังมองหาอาชีพใหม่ๆ อาชีพการทําและขาย สลัดโรล สามารถสร้างรายได้ที่มั่นคง เป็นการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่เสริมสร้างศักยภาพให้ผู้เรียนมีความรู้ ทักษะในการประกอบอาชีพ สามารถพัฒนาตนเอง หรือกลุ่มไปสู่การบริหารจัดการที่มีมาตรฐานเป็นไปตามหลักการของการประกอบอาชีพ และเมื่อจบหลักสูตรแล้วผู้เรียนสามารถนําความรู้และประสบการณ์ไปประกอบอาชีพที่สอดคล้องกับศักยภาพของตนเอง ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม

19/9/2023

ภาคใต้

ยะลา

สวท.เบตง จ.ยะลา

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919143415587

ประชาชนชาวจังหวัดพังงา ให้ความสนใจซื้อไข่ไก่สดเบอร์ 2 คุณภาพดี ราคาประหยัดแผงละ 120 บาท ลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนในกิจกรรมพาณิชย์ชวนช้อปเป็นจำนวนมาก ด้านประชาชนที่เข้าร่วมซื้อไข่ไก่แสดงความพึงพอใจต่อการจัดโครงการในลักษณะดังกล่าว

วันนี้ (19 กันยายน 2566) ทีมข่าวสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดพังงา ลงพื้นที่ติดตามบรรยากาศการจําหน่ายไข่ไก่ราคาสดเบอร์ 2 คุณภาพดี จัดโดยสํานักงานพาณิชย์จังหวัดพังงา กําหนดจําหน่ายสองจุดจุดละ 200 แผงต่อวัน คือบริเวณด้านหน้าสํานักงานพาณิชย์จังหวดพังงาและสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. (สกต.) เพื่อเป็นการลดภาระค่าครองชีพลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ช่วยพี่น้องประชาชน โดยเปิดจําหน่ายตั้งแต่เวลา 10.00 น.เป็นต้นไป ทั้งนี้ประชาชนให้ความสนใจทยอยเดินทางมาซื้อไข่ไก่อย่างต่อเนื่อง นางสาวจันทิมา โคระ หนึ่งในประชาชนที่เดินทางมาซื้อไข่ไก่ในครั้งนี้ กล่าวว่า มีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมลดค่าครองชีพของประชาชนในครั้งนี้ เนื่องจากสามารถช่วยลดรายจ่ายลงได้และอยากให้มีการจัดกิจกรรมในลักษณะนี้อีก สําหรับกิจกรรมพาณิชย์ชวนช้อปไข่ไก่สดเบอร์ 2 คุณภาพดี ราคาประหยัดแผงละ 120บาทจะยังมีกิจกรรมต่อเนื่องไปถึงวันพรุ่งนี้ (20กย66)จํากัดจํานวนคนละไม่เกิน 2 แผง สินค้ามีจํานวนจํากัด

19/9/2023

ภาคใต้

พังงา

สวท.พังงา

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919145638597

2 ผู้ประกอบการบริการ จ.ลำปาง รับรางวัล Thai SELECT Classic ร้านอาหารไทยคุณภาพดีเยี่ยม

นางสาวยุรีพรรณ แสนใจยา ผู้อํานวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สํานักงานลําปาง เปิดเผยว่า "ร้านอาหารบ้านพระยาสุเรนทร์บายมาดามมูเซอ ลําปาง" และ "JJ Park Lampang" ได้ผ่านการคัดเลือกและรับรางวัล ตราสัญลักษณ์ THAI SELECT ประจําปี 2566 ประเภท Thai SELECT Classic ร้านอาหารไทยคุณภาพดีเยี่ยม จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2566 สัญลักษณ์ THAI SELECT เป็นสัญลักษณ์ที่การันตี คุณภาพ รสชาติ การบริการ และมาตรฐานของร้านอาหารไทยที่เป็นเยี่ยม ซึ่งตราสัญลักษณ์ THAI SELECT เป็นเครื่องหมายรับรองที่กระทรวงพาณิชย์และรัฐบาลไทยมอบให้เพื่อรับประกันรสชาติไทยแท้ของผลิตภัณฑ์อาหารไทยและร้านอาหารไทยทั้งในและต่างประเทศ ประเมินตามประเภทร้านอาหาร การตกแต่ง และระดับความเป็นเลิศด้านอาหารและการบริการร้านบ้านพระยาสุเรนทร์ บาย มาดามมูเซอร์ (พิกัด Baan Phraya Suren by Madame Musur) เปิดทุกวัน เวลา 10.30-21.00 น. และในส่วนของบาร์เปิดเวลา 18.00-00.00 น. โทรศัพท์ 06-1570-8324 และ Park Lampang (พิกัด JJ Park Lampang) เปิดทุกวัน เวลา 09.00 - 21.00 น. โทรศัพท์ 09-6789-5362

19/9/2023

ภาคเหนือ

ลำปาง

สวท.ลำปาง

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919142006583

พลังงานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมคณะลงพื้นที่เยี่ยมชมสถานีบริการภาคพื้นดินไทยคม และโรงไฟฟ้าอุทัย อำเภออุทัย

วันที่ 19 กันยายน 2566 เวลา 08.00 น. นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมคณะหัวหน้าส่วนราชการ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หอการค้าจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมลงพื้นที่สถานีบริการภาคพื้นดินไทยคม อําเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี และโรงไฟฟ้าอุทัย อําเภออุทัย โดยมี นางสุชานันท์ ศุภราช พลังงานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมคณะผู้บริหารไทยคม ให้การต้อนรับและเยี่ยมชมสถานีภาคพื้นดินไทยคมโดยบริษัทไทยคม เป็นผู้นําธุรกิจดาวเทียมแห่งเอเชีย และผู้ให้บริการด้านสื่อสารผ่านดาวเทียมครบวงจรไทยคมก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2534 ด้วยประสบการณ์ 3 ทศวรรษ ในอุตสาหกรรมการให้บริการด้านสื่อสารผ่านดาวเทียมที่ครอบคลุมกว่า 10 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ผนวกกับความรู้และความเชี่ยวชาญในธุรกิจดาวเทียม ทําให้ไทยคมได้รับความเชื่อมั่นจากผู้ประกอบการชั้นนําในอุตสาหกรรมต่างๆ อาทิ อุตสาหกรรมบรอดคาสต์ โทรคมนาคม และพันธมิตรทั้งในภาคธุรกิจและภาครัฐแพลตฟอร์มบริการด้านบรอดคาสต์และบรอดแบนด์ของไทยคม ได้รับการออกแบบเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการสื่อสารผ่านดาวเทียมอย่างครบวงจร รองรับการขยายธุรกิจของลูกค้าและพันธมิตร ให้ก้าวสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบนายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า การลงพื้นที่เยี่ยมชมสถานีภาคพื้นดินไทยคม เป็นการเยี่ยมชมและรับฟังข้อมูลต่าง ๆ ในการเชื่อมโยงเครือข่ายและรับฟังเทคโนโลยีการใช้ระบบสัญญานดาวเทียมเพื่อใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ รวมถึงการเชื่อมโยงข้อมูลผ่านดาวเทียมที่จะช่วยงานรับมือสถานการณ์ต่าง ๆ อาทิ การวิเคราะห์สถานการณ์น้ํา การวิเคราะห์ปริมาณฝน เป็นต้น ซึ่งต้องขอบคุณทางบริษัท ไทยคม และพลังงานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในการนําคณะลงพื้นที่ในครั้งนี้ จากนั้น นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมคณะลงพื้นที่โรงไฟฟ้าอุทัย อําเภออุทัย เยี่ยมชมการดําเนินงานของบริษัทฯ ณ โรงไฟฟ้าอุทัย อําเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติที่มีกําลังการผลิต 1,600 เมกะวัตต์

19/9/2023

ภาคกลางและปริมณฑล

พระนครศรีอยุธยา

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919163043667

แม่ค้าชุมชนบ้านหน้าชิง อำเภอเมืองกระบี่ เร่งทำขนมพอง ขนมลา หลังมียอดสั่งจองเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คาดว่าปีนี้ขายดี แม้ราคาแก๊สหุงต้ม วัตถุดิบพากันขึ้นราคาแต่ยังคงขายราคาเดิม

ชาวบ้านชุมชนบ้านหน้าชิง หมู่ 1 ตําบลกระบี่น้อย อําเภอเมืองกระบี่ ซึ่งเป็นชุมชนที่มีแม่ค้าทําขนมเดือนสิบ กว่า 10 ราย เร่งทําขนมเดือนสิบ ขนมพอง ขนมลา เตรียมส่งให้กับ พ่อค้าแม่ค้า ที่สังจองไว้เป็นจํานวนมาก ยิ่งใกล้ช่วงเทศกาลเดือนสิบของทุกปี จะได้ยินเสียงเคาะกะลากระบวยร่อนแป้งเป็นจังหวะในการทําขนมลาแบบโบราณ ดังมาแต่ไกลบริเวณชุมชนบ้านหน้าชิงนี้จะมีให้เห็นกันในช่วงทําบุญเดือนสิบเท่านั้น โดยจะเริ่มทําตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม ถึงวันที่ 12 ตุลาคม ก่อนถึงการทําบุญใหญ่ การทําขนมลา แม่ค้าแต่ละคนจะผสมแป้งกันเป็นกะละมัง จากนั้นก็ตั้งกระทะเติมน้ํามันจนร้อนได้ที่ก็นั่งเตรียมร่อนแป้งที่ผสมลงกระทะทําทีละแผ่น และเมื่อแป้งสีสวยสุกได้ที่ก็จะนําออกจากกระทะและน้ํามาขึ้นรูปสามเหลี่ยม ในขณะที่แป้งยังร้อนเพราะจะไม่ทําให้ชิ้นขนมแตกเนื่องจากขนมมีความกรอบ นางโสภา เต้บํารุง อายุ 54 ปี แม่ค้าทําขนมลา กล่าวว่า คาดว่าปีนี้จะขายดีกว่าทุกปีเพราะมีออเดอร์สั่งจองเข้ามาเป็นจํานวนมาก แต่ยอมรับว่าเศรษฐกิจช่วงนี้ไม่ค่อยดีของแพงขึ้นทุกอย่าง แก๊สหุงต้มก็ขึ้นราคาถังละกว่า 480 บาท ยอดขายจะสูงก่อนช่วงใกล้วันทําบุญ ซึ่งช่วงนี้ก็มีคนมาทยอยซื้อกันบ้างแล้ว สําหรับขนมที่ลาที่ทําอยู่ใช้แป้งวันละ 10 กิโลกรัม ทําขนมลาได้ ประมาณ 700 แผ่นต่อวัน เพื่อนําไปจําหน่ายต่อในช่วงก่อนเทศกาลเดือนสิบ คาดว่าปีนี้ขายดีกว่าทุกปีที่ผ่านมา มีคนทําบุญมากขึ้น แม้ว่าราคาวัตถุดิบ อย่างแก๊สหุงต้ม น้ํามันพืช แป้ง ทําขนม ปรับราคาเพิ่มขึ้น เช่น น้ําตาลทราย จากราคากิโลกรัมละ 20-21 บาท ปรับขึ้นเป็น 24 บาท แป้งทําขนมจากราคา 50 บาท ปรับขึ้นเป็น 55 บาท แต่ยังคงขายราคาเดิม ชุดละ 60 บาท ขนมลาชิ้นละ 6 บาท

19/9/2023

ภาคใต้

กระบี่

สวท.กระบี่

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919152120611

พ่อเมืองโคราช มอบรางวัล เพชรสาธร Sathorn Award เชิดชูเกียรติบุคคล องค์กร ที่สร้างคุณประโยชน์ให้กับเมืองย่าโม เนื่องในโอกาสสมโภชเมืองนครราชสีมา ครบรอบ 555 ปี

ที่ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล “เพชรสาธร Sathorn Award” เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติบุคคล หน่วยงาน/องค์กร ที่มีคุณธรรม จริยธรรม มีความประพฤติปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี ทําคุณประโยชน์สร้างชื่อเสียงให้กับชุมชน สังคมจังหวัด และประเทศชาติ เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป สมควร์แก่การยกย่องเชิดชูเกียรติ เนื่องในโอกาสสมโภชเมืองนครราชสีมา ครบรอบ 555 ปี โดยมีบุคคล องค์กรที่ได้รับคัดเลือกได้รับรางวัล เพชรสาธร Sathorn Award จํานวน 155 รางวัล ประกอบด้วย ประเภทบุคคล : ผู้นําทางศาสนา จํานวน 17 รางวัล ประเภทบุคคล : เด็กและเยาวชน จํานวน 18 รางวัล ประเภทบุคคล : ประชาชนทั่วไป จํานวน 75 รางวัลและประเภทหน่วยงาน/องค์กร จํานวน 45 รางวัล ซึ่งนอกจากการมอบรางวัลเชิดชูเกียรติแก่บุคคลและองค์กรแล้ว ภายในงานยังได้มีการ แสดงนิทรรศการน้อมรําลึก ย้อนอดีตเมืองโคราช เนื่องในโอกาสครบรอบ 555 ปี ชมการสาธิต 1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น รสชาติที่หายไป The Lost Taste เมี่ยงคํา (โคราช) และ ชมกิจกรรมตลาดบกส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนยลวิถี อีกด้วย

19/9/2023

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

นครราชสีมา

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919151829607

นักศึกษาหลักสูตร นปส. รุ่นที่ 81 ลงพื้นที่จังหวัดกระบี่ ศึกษาดูงานการบริหารจัดการด้านการท่องเที่ยวเชิงนิเวศเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน

วันนี้ 19 กันยายน 2566 ที่ห้องประชุมพนมเบญจา ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดกระบี่ นายพินัย อนันตพงษ์ นายอุกริช พึ่งโสภา และนายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ที่ปรึกษาหลักสูตรพร้อมคณะนักศึกษาหลักสูตรนักปกครองระดับสูง รุ่นที่ 81 จํานวน 80 คน ได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดกระบี่ เป็นวันที่สองเพื่อรับฟังการอภิปรายการบริหารจัดการด้านการท่องเที่ยวเชิงนิเวศเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยมีนายสมชาย หาญภักดีปฏิมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ได้ให้การต้อนรับ และบรรยายพิเศษ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ สมาคมและภาคเอกชน ร่วมให้การต้อนรับในโอกาสเดียวกันนี้ นายสมชาย หาญภักดีปฏิมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ได้บรรยายสรุปการบริหารจัดการด้านการท่องเที่ยวเชิงนิเวศเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน บนเป้าหมายการพัฒนาจังหวัดกระบี่ พ.ศ.2566-2570 “ เมืองท่องเที่ยวคุณภาพระดับนานาชาติ เกษตรอุตสาหกรรมยั่งยืนสังคมน่าอยู่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและปรับตัวเท่าทันต่อบริบทการเปลี่ยนแปลง” โดยจังหวัดกระบี่มุ่งเน้นการพัฒนาและเติบโตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เราจึงต้องรักษาสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ ไว้ให้ได้นานที่สุด เพราะสิ่งเหล่านี้มีคุณค่าและสร้างมูลค่าในการท่องเที่ยว ให้กับจังหวัดกระบี่ เรามีทรัพยากรทางการท่องเที่ยวที่มีความหลากหลาย ทั้งทะเลที่มีความสวยงามระดับโลก บนบกเรามีถ้ําที่สวยงามกว่า 50 ถ้ํา โดยเฉพาะถ้ําคลัง สวยงามเป็นอันดับ 2 ของเอเชีย มีน้ําพุร้อนเค็ม น้ําตกร้อน และมีความเข้มแข็งของประชาคมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว มีชุมชนท่องเที่ยวที่ได้รับรางวัลระดับประเทศ และมีการทําปฏิญญากระบี่ในการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวทางด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติโดยการท่องเที่ยวแบบกรีน การสงวนพื้นที่ชายหาด จะสังเกตุได้ว่าบริเวณชายหาดจังหวัดกระบี่จะไม่มีร่มและเก้าอี้ผ้าใบ หรือเจ็ตสกี และนอกจากนี้จังหวัดกระบี่ยังเป็นพื้นที่เศรษฐกิจการเกษตรที่สําคัญทางด้านพืช ประมงและปศุสัตว์ เป็นแหล่งปลูกปาล์มน้ํามันที่สําคัญ และมีรายได้จากการท่องเที่ยวก่อนช่วงโควิด-19 มากถึง 112,000 กว่าล้านบาท ดังนั้นจังหวัดกระบี่จึงมุ่งการพัฒนาไปสู่การบริหารจัดการด้านการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน Krabi Go Green มุ่งสู่การท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ เพื่อให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ ผู้คนน่ารักนอกจากนี้ นางสาววิชุพรรณ ภูเก้าล้วน ศรีสัญญา นายกสมาคมโรงแรมจังหวัดกระบี่ได้บรรยายสรุปความพร้อมด้านโรงแรมที่พักในจังหวัดกระบี่ ที่จะรองรับนักเที่ยว พร้อมทั้งการขับเคลื่อนปฏิญญาการพัฒนาการท่องเที่ยว สู่การบริหารจัดการด้านการท่องเที่ยวเชิงนิเวศเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน Krabi Go Green มุ่งสู่การท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ และมาตรฐานGreen Hotel ทั้งด้านอาหาร ด้านสุขภาพ ซึ่งมีไร่เลย์โมเดล เป็นแนวคิด เพื่อการจัดการปัญหาด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยคณะนักศึกษาหลักสูตรนักปกครองระดับสูง รุ่นที่ 81 ได้ร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลกับส่วนราชการและภาคเอกชนในการบริหารจัดการด้านการท่องเที่ยวเชิงนิเวศเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมทั้งการบริหารจัดการท่องเที่ยว ซึ่งจังหวัดกระบี่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาช่วงก่อนระบาดโรคโควิด-19 มากถึง 6-7 ล้านคน โดยเฉพาะเรื่องการจัดการขยะได้รับความสนใจจากคณะนักศึกษา กระบี่ได้บริหารจัดการได้ดีไม่มีขยะตกค้าง

19/9/2023

ภาคใต้

กระบี่

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกระบี่

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919153819625

สถานีตำรวจท่องเที่ยวเกาะสมุย เปิดอาคารหลังใหม่ รองรับการให้บริการและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว

วันที่ 19 กันยายน 2566 เวลา 09.00 น. ที่อาคารที่ทําการ สถานีตํารวจท่องเที่ยว 5 กองกํากับการ 2 กองบังคับการตํารวจท่องเที่ยว 3 ตําบลบ่อผุด อําเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี พล.ต.ท.สุคุณ พรหมายน ผู้บัญชาการตํารวจท่องเที่ยว เปิดอาคารที่ทําการแห่งใหม่ พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ พนักงานเทศบาล เจ้าหน้าที่ตํารวจสถานีตํารวจท่องเที่ยวเกาะสมุย ตัวแทนหน่วยงานภาครัฐ เอกชน สื่อมวลชน และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วม โดยมีพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เปิดผ้าแพรคลุมป้ายอาคาร พระสงฆ์เจิมป้ายใหญ่บริเวณด้านหน้าที่ทําการ ประพรมน้ําพระพุทธมนต์อาคารที่ทําการแห่งใหม่ และพิธีตัดริบบิ้นห้องประชุม “พรหมายน” บริเวณชั้น 2 ของอาคาร เพื่อความเป็นสิริมงคลพล.ต.ท.สุคุณ พรหมายน ผู้บัญชาการตํารวจท่องเที่ยว กล่าวว่า มีความมั่นใจว่าอาคารที่ทําการสถานีตํารวจท่องเที่ยวเกาะสมุย จะสามารถรองรับและปฏิบัติหน้าที่ให้บริการนักท่องเที่ยวและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาเป็นจํานวนมากขึ้น และสนองตอบตามที่รัฐบาลมีนโยบายฟรีวีซ่าชั่วคราวระหว่าง วันที่ 25 กันยายน 2566 ถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 ที่กําลังจะถึงนี้ ได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็ว ทําให้เกิดแรงขับเคลื่อนเชิงรุกในการดูแลรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยว รวมถึงการปราบปรามอาชญากรรมรูปแบบต่างๆ กลุ่มทุนสีเทา ที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว การเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวในทุกรูปแบบ ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นจากนั้นเวลา 14.00 น. พล.ต.ท.สุคุณ พรหมายน ผู้บัญชาการตํารวจท่องเที่ยว เดินทางต่อไปยังสนามบินนานาชาติสมุย (ขาเข้า) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้แก่ประชาชน และนักท่องเที่ยว พร้อประชาสัมพันธ์ 1155 ตํารวจท่องเที่ยว แอพพลิเคชั่น Tourist Police I Lert U และแนะนําการปฏิบัติตามหลัก D-M-H-T-T-A

19/9/2023

ภาคใต้

สุราษฎร์ธานี

สวท.สมุย จ.สุราษฎร์ธานี

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919154645633

ข้าวยโสธร คว้า 3 รางวัล ในการประกวดข้าวสารดีเด่นแห่งประเทศไทย ประจำปี 2566

ตามที่กระทรวงพาณิชย์ จัดการประกวดข้าวสารดีเด่นแห่งประเทศไทย ประจําปี พ.ศ. 2566 เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2566 ที่ห้องประชุมวิมวาทิตย์ 2 ชั้น 3 สํานักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ ผลปรากฎว่า จังหวัดยโสธร ได้ส่งข้าวสารร่วมประกวดและสามารถคว้ารางวัลได้ 3 รางวัล ประกอบด้วย รางวัลชนะเลิศ ประเภท ข้าวหอมมะลิ ได้แก่ ข้าวหอมมะลิ ตรา บั้งไฟ จังหวัดยโสธร จากบริษัท โรงสีกิจเจริญยโสธร จํากัด เลที่ 373 ม.2 ต.ลุมพก อ.คําเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร โทร. 085-4053593 รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 ประเภท ข้าวหอมมะลิ ได้แก่ ข้าวหอมมะลิ ตรา เอราวัณ จาก บริษัท โรงสีพงษ์นิธิทิพ 1 จํากัด เลขที่ 111 ม.12 ต.กุดชุม อ.กุดชุม จ.ยโสธ โทร. 099-7495551 รางวัลชนะเลิศ ประเภท ข้าวหอมมะลิกลุ่มโรงสีเกษตรกร ได้แก่ ข้าวหอมมะลิ ตรา ขวัญยโสธร จากวิสาหกิจชุมชนเกษตรธรรมชาติหนองยอ เลขที่ 72 ม.4 ต.กําแมด อ.กุดชุม จ.ยโสธร โทร. 081-5790237ซึ่งทั้ง 3 รางวัล นับเป็นความภาคภูมิใจของชาวจังหวัดยโสธร จึงขอแสดงความยินดีอย่างยิ่งกับโรงสีและกลุ่มเกษตรกรที่ได้รับรางวัลในการประกวดข้าวสารดีเด่นแห่งประเทศไทย ประจําปี 2566 และขอเชิญชวนทุกท่านได้มาอุดหนุนข้าวอินทรีย์ของจังหวัดยโสธรต่อไป ...///

19/9/2023

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ยโสธร

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยโสธร

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919200330743

จังหวัดเพชรบุรี พัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ “ ไม่มีปัญหาร้องเรียน ชุมชนรักโรงงาน โรงงานรักชุมชน “ เลือก อำเภอชะอำ เป็นพื้นที่ต้นแบบ ประชาชนต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความภาคภูมิใจในเมืองน่าอยู่คู่อุตสาหกรรม

วันนี้ (19 กันยายน 2566) เวลา 13.30 น. นางวันเพ็ญ มังศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี นางอทิตา กลิ่นสุวรรณ อุตสาหกรรมจังหวัดเพชรบุรี หัวหน้าส่วนราชการและเจ้าหน้าที่ ร่วมประชุมหารือ คณะกรรมการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ณ ห้องประชุม ศาลากลางจังหวัดเพชรบุรี นางวันเพ็ญ มังศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยถึงแนวทางการพัฒนาเมืองเพชรบุรีว่า จังหวัดเพชรบุรีมีความพร้อมในศักยภาพทุกด้าน ที่จะพัฒนาให้เป็นเมืองน่าอยู่ น่ากิน น่าเที่ยว พร้อมทั้งการขับเคลื่อนวิถีเศรษฐกิจด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมภายใต้ระบบเชิงนิเวศ โดยจังหวัดเพชรบุรี เลือกพื้นที่ อําเภอชะอํา เป็นพื้นที่ต้นแบบ ประชาชนต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความภาคภูมิใจในเมืองน่าอยู่คู่อุตสาหกรรม โดยไม่มีปัญหาร้องเรียน ชุมชนรักโรงงาน โรงงานรักชุมชน นอกจากนั้น รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี กล่าวเพิ่มเติมว่าการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ โรงงานอุตสาหกรรมสามารถอยู่ร่วมกับคนในชุมชน โดยไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พัฒนาอุตสาหกรรมให้สามารถอยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างยั่งยืน ไม่ให้เกิดผลกระทบซึ่งกันและกันภายใต้สภาวะแวดล้อมและคุณภาพชีวิตที่ดี พร้อมทั้งช่วยส่งเสริมให้เศรษฐกิจชุมชนเติบโตไปด้วยกัน อุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ที่ไม่เพียงช่วยสร้างเศรษฐกิจ สร้างรายได้แล้ว แต่สามารถอยู่ร่วมกับประชาชนได้อย่างมีความสุข และยังช่วยเสริมศักยภาพความเป็นเมืองท่องเที่ยวอีกด้วย จามรี อนุรัตน์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรีรายงาน

19/9/2023

ภาคตะวันตก

เพชรบุรี

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919203520753

จังหวัดเพชรบุรี ขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ สนับสนุน อำเภอชะอำ เป็นพื้นที่ต้นแบบ เมืองน่าอยู่ คู่อุตสาหกรรม

วันนี้ (19 ก.ย. 66) ณ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดเพชรบุรี นางวันเพ็ญ มังศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ร่วมด้วย นางอทิตา กลิ่นสุวรรณ อุตสาหกรรมจังหวัดเพชรบุรี หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม นางวันเพ็ญ มังศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี กล่าวว่า สํานักงานอุตสาหกรรมจังหวัดเพชรบุรีในฐานะเลขานุการและคณะทํางานขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศจังหวัดเพชรบุรี แผนปฏิบัติการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ พื้นที่ตําบลชะอํา อําเภอชะอํา จังหวัดเพชรบุรี ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566-2570) ซึ่งมีความสอดคล้องกับบริบทการพัฒนาเชิงพื้นที่ และเป็นไปตามข้อกําหนดพื้นฐานของการเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ มุ่งสู่ระดับที่ 5 “เมืองน่าอยู่ คู่อุตสาหกรรม” ที่ประชุมได้พิจารณาดําเนินการขับเคลื่อนการพัฒนาจังหวัดเพชรบุรี ให้สอดคล้องตามตัวชี้วัดเป็นไปตามข้อกําหนดพื้นฐานของการเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ทั้งนี้ จังหวัดเพชรบุรีมีความพร้อมในทุกด้าน การขับเคลื่อนวิถีเศรษฐกิจด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมภายใต้ระบบเชิงนิเวศ จังหวัดเพชรบุรีเลือกพื้นที่อําเภอชะอําเป็นพื้นที่ต้นแบบ โรงงานอุตสาหกรรมอยู่ร่วมกับคนชุมชนไม่กระทบสิ่งแวดล้อม อุตสาหกรรมเชิงนิเวศ สามารถช่วยเสริมสร้างศักยภาพความเป็นเมืองท่องเที่ยว สร้างงาน สร้างรายได้สู่ชุมชน

19/9/2023

ภาคตะวันตก

เพชรบุรี

สวท.เพชรบุรี

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919212536758

พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี ทำสื่อประชาสัมพันธ์ ของเด็ดเพชรพาณิชย์ ส่งเสริมการขาย

นางสาวจินตะณา ปิ่นสุภา พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี มอบหมายกลุ่มส่งเสริมการประกอบธุรกิจการค้าและการตลาด ลงพื้นที่จัดทําสื่อประชาสัมพันธ์ ของเด็ดเพชรพาณิชย์ ในตอน “อยากกินปูทะเล นึกถึงขวัญใจฟาร์ม” ให้กับผู้ประกอบการ จํานวน 2 แห่ง ดังนี้ 1.ขวัญใจฟาร์ม ตําบลบางจาน อําเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเป็นแหล่งเพาะเลี้ยงปูทะเล ปูไข่ ปูเนื้อ ปูกะเทย ครบวงจร และจําหน่ายพันธุ์ปู เนื้อปูแปรรูป สามารถจัดส่งได้ทั่วประเทศ 2.Queen Crab 1987 ตําบลบางจาน อําเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเป็นแหล่งจําหน่าย ข้าวคลุกไข่ปู ปูทะเลไข่ดอง ปูทะเลนึ่งน้ําจิ้มรสแซ่บ สามารถจัดส่งได้ในจังหวัดเพชรบุรี พร้อมทั้งเชิญชวนผู้ประกอบการสมัครใช้บริการ Moc Event ระบบบัญชีผู้ใช้งานกลางกระทรวงพาณิชย์ โดยสามารถติดตามคลิปประชาสัมพันธ์ของสํานักงานพาณิชย์จังหวัดเพชรบุรีได้ที่ Tiktok ของเด็ดเพชรพาณิชย์ เพจ Facebook ของเด็ดเพชรพาณิชย์ ที่ตั้ง : 52/1 บางจาน ซอย 4, บางจาน, เพชรบุรี 76000, ประเทศไทย สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ทาง เพจ 1.Kwanjai Farm https://www.facebook.com/KwanjaiFarmOfficial 2.Queen Crab 1987 ปูทะเลไข่ดอง ปูทะเลนึ่งน้ําจิ้มรสแซ่บ https://www.facebook.com/QueenCrab1987Official

20/9/2023

ภาคตะวันตก

เพชรบุรี

สวท.เพชรบุรี

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230920090341797

พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรีติดตามสถานการณ์ราคามะนาวเพชรบุรี ราคาปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากกระทบแล้ง

นางสาวจินตะณา ปิ่นสุภา พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กลุ่มส่งเสริมการประกอบธุรกิจการค้าและการตลาด ลงพื้นที่พบปะ เจ้าหน้าที่เกษตรอําเภอท่ายาง และเกษตรกรผู้ปลูกมะนาว ในพื้นที่ อําเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี เพื่อติดตามสถานการณ์มะนาวเพชรบุรี และประชาสัมพันธ์รับสมัครเกษตรกร กลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตและผู้ประกอบการ มะนาวเพชรบุรี (GI) ที่มีความประสงค์ขอใช้ตราสัญลักษณ์สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) “มะนาวเพชรบุรี” และลงพื้นที่ ณ ตลาดกลางการเกษตรท่ายาง(ตลาดหนองบ้วย) อําเภอท่ายาง จากการติดตามสถานการณ์ราคามะนาว พบว่า ปัจจุบันผลผลิตมะนาวมีปริมาณลดลงเนื่องจากกระทบแล้งฝนตกลดลง และอยู่นอกฤดูกาลผลิต ราคาจึงปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย ผลใหญ่ ราคาส่ง อยู่ที่ 3 - 3.20 บาท/ลูก ผลใหญ่ ราคาปลีก อยู่ที่ 3.50 - 4 บาท/ลูก

20/9/2023

ภาคตะวันตก

เพชรบุรี

สวท.เพชรบุรี

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230920090524798

พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี และคณะลงพื้นที่ตรวจสต็อกน้ำมันปาล์มคงเหลือทั้งระบบ อำเภอเขาย้อย อำเภอหนองหญ้าปล้อง และอำเภอแก่งกระจาน

สํานักงานพาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี และคณะลงพื้นที่ตรวจสต็อกน้ํามันปาล์มคงเหลือทั้งระบบ ระดับจังหวัดลงพื้นที่ ณ อําเภอเขาย้อย อําเภอหนองหญ้าปล้อง และอําเภอแก่งกระจาน เพื่อตรวจสอบสต็อกน้ํามันปาล์มคงเหลือทั้งระบบ ในการบริหารจัดการอุปทานน้ํามันปาล์มมีความต่อเนื่อง ผลการตรวจ ผู้ประกอบการ จํานวน 2 แห่ง 1) บริษัท ปาล์มออยล์ เอ็นเนอร์ยี่ อินดัสทรี จํากัด จํานวน 1,135.465 ตัน 2) บริษัท สยาม ออยล์ โปรดักส์ จํากัด จํานวน 21.015 ตัน ปริมาณสต็อกน้ํามันปาล์มดิบ รวมทั้งสิ้น 1,156.480 ตัน และผลการตรวจจุดรับซื้อผลปาล์ม ลานเท ของผู้ประกอบการ จํานวน 3 แห่ง 1) ห้างหุ้นส่วนจํากัด เพชรปาล์ม อําเภอหนองหญ้าปล้อง มีผลปาล์มสดในลานเท จํานวน 41 ตัน 2) บริษัท เสถียรปาล์ม จํากัด สาขาหนองหญ้าปล้อง อําเภอหนองหญ้าปล้อง มีผลปาล์มสดในลานเท จํานวน 15 ตัน 3) ชิตลานปาล์ม สาขาแก่งกระจาน อําเภอแก่งกระจาน มีผลปาล์มสดในลานเท จํานวน 12 ตัน สถานการณ์การรับซื้อผลผลิตปาล์มสดในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี ของลานเทซึ่งจะรับซื้อและรวบรวมผลปาล์มสดไปจําหน่ายในพื้นที่จังหวัดชลบุรี และจังหวัดกาญจนบุรี โดยราคารับซื้อ อยู่ที่ 4.90 บาท/กก. ซึ่งเป็นราคาที่ปรับขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 0.20 สตางค์

20/9/2023

ภาคตะวันตก

เพชรบุรี

สวท.เพชรบุรี

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230920093112808

ชาวยะลา ทยอยเติมน้ำมันดีเซล หลังปรับลด 2 บาท เริ่มวันนี้เป็นวันแรก

วันนี้ 20 ก.ย 66 ปั๊มน้ํามันทุกปั๊มที่ยะลา ต่างพากันปรับราคาน้ํามันดีเซลลง หลังรัฐบาล ได้เริ่มมาตรการ ช่วยเหลือค่าครองชีพให้ประชาชน ด้วยการลดราคาน้ํามันดีเซลลง 2 บาท ทําให้น้ํามันดีเซล B7 จากเดิม 32.44 บาท ปรับลดลงเหลือ 30.44 บาท ซุปเปอร์พรีเมี่ยม ดีเซล B7 จากเดิม 42.74 ปรับลดลงเหลือ 40.74 บาท ดีเซล จากเดิม 32.44 บาท ปรับลดลงเหลือ 30.44 บาท ส่วนน้ํามันอย่างอื่นราคายังคงเดิม บางตัวมีปรับขึ้น ขณะที่บรรยากาศตามปั๊มน้ํามันต่างๆ ได้มีประชาชนที่ใช้รถยนต์เติมน้ํามันดีเซล ทยอยนํารถยนต์เข้ามาเติมน้ํามันกันอย่างต่อเนื่องซึ่งชาวบ้าน ต่างก็บอกว่าดีใจที่น้ํามันลดราคา จะได้ไม่ต้องกังวลมากเกินการจับจ่ายใช้สอยบางครั้งยังไม่พอ บางคนพอน้ํามันแพงก็เติมทีละนิดพอน้ํามันลงก็ได้เพิ่มปริมาณในการเติมขึ้นมาหน่อย หลังจากที่หนักมาหลายเดือนน้ํามันแพงอย่างต่อเนื่อง และอยากให้น้ํามันลดลงแบบนี้ตลอดไป จะได้ช่วยลดภาระค่าครองชีพ ให้ประชาชน ก็ต้องขอบคุณรัฐบาลด้วยนอกจากการการลดราคาน้ํามันแล้ว รัฐบาลใหม่โดยการนําของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ยังได้ไฟเขียวลดราคาค่าไฟฟ้า ให้กับประชาชน อีกด้วย

20/9/2023

ภาคใต้

ยะลา

สทท.ยะลา

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230920093333812

ลำปาง-ประชาชนชาวจำนวนมาก ให้ความสนใจเลือกซื้อไข่ไก่ราคาพิเศษ ด้านพาณิชย์ลำปาง เตรียมจัดกิจกรรมฯ ครั้งที่ 2 ในวันที่ 22 กันยายนนี้

นางสาวเยาวเรศ แซ่โค้ว พาณิชย์จังหวัดลําปาง เปิดเผยว่า ตามที่สํานักงานพาณิชย์จังหวัดลําปาง ร่วมกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์กําหนดจัดกิจกรรมเชื่อมโยงการจําหน่ายไข่ไก่ เพื่อลดภาระค่าครองชีพให้ผู้บริโภค โดยการจําหน่ายไข่ไก่เบอร์ 2 ราคาแผงละ 105 บาท (30 ฟอง) ซึ่งการจัดครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา มีประชาชนให้ความสนใจและซื้อไข่เป็นจํานวนมาก สําหรับการจัดกิจกรรมฯ ครั้งที่ 2 จะจัดขึ้นในวันที่ 22 กันยายน 2566 เวลา 09.00 น. ณ ลานจอดรถยนต์ ด้านหน้าสํานักงานพาณิชย์จังหวัดลําปาง และเวลา 15.00 น. ณ ตลาดต้องชม "ถนนสายวัฒนธรรมลําปาง" จึงเชิญชวนผู้สนใจเลือกซื้อไข่ไก่ราคาพิเศษต่ํากว่าท้องตลาดทั่วไป ในวันเวลาและสถานที่ดังกล่าวอย่างไรก็ตาม กรมการค้าภายใน ได้มีการกํากับดูแลและติดตามสถานการณ์ราคาไข่ไก่อย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างความเป็นธรรมตลอดห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่ผู้เลี้ยงไก่ไข่จนถึงประชาชนผู้บริโภค ทั้งนี้ หากพบผู้ค้ารายใดมีพฤติกรรมจําหน่ายไข่ไก่ในราคาสูงเกินสมควร สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วน กรมการค้าภายใน 1569 และหากพบการกระทําผิดจะมีความผิดตามมาตรา 29 พ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้าและ บริการ พ.ศ.2542 มีโทษปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือจําคุกไม่เกิน 7 ปี หรือทั้งจําทั้งปรับ

20/9/2023

ภาคเหนือ

ลำปาง

สวท.ลำปาง

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230920091432801

ช่วง 8 เดือนปี 2566 ต่างชาติลงทุนในไทยมูลค่ากว่า 65,000 ล้านบาท เกิดการจ้างงานคนไทยกว่า 4 พันคน

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เปิดเผยว่า ช่วง 8 เดือนของปี 2566 (มกราคม - สิงหาคม) มีการอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย จํานวน 435 ราย เงินลงทุนทั้งสิ้น 65,790 ล้านบาท เกิดการจ้างงานคนไทย 4,491 คน โดยชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุน 5 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา จีน และฮ่องกง รวมถึงมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านโดยตรงจากประเทศผู้เข้ามาลงทุนให้แก่คนไทยในหลายด้าน ทั้งนี้ ธุรกิจที่ได้รับอนุญาตส่วนใหญ่ เป็นธุรกิจที่สอดคล้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ นโยบายการส่งเสริมการลงทุนเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ อาทิ บริการขุดเจาะหลุมปิโตรเลียมภายในบริเวณพื้นที่แปลงสํารวจที่ได้รับสัมปทานในอ่าวไทย บริการซอฟต์แวร์ ประเภท ENTERPRISE SOFTWARE และ DIGITAL CONTENTสําหรับการลงทุนในพื้นที่ EEC ช่วง 8 เดือนของปี 2566 (มกราคม - สิงหาคม) มีนักลงทุนต่างชาติสนใจลงทุน 86 ราย คิดเป็นร้อยละ 20 ของจํานวนนักลงทุนทั้งหมด มูลค่าการลงทุน 14,283 ล้านบาท เป็นนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น จีน และฮ่องกงทั้งนี้ เฉพาะเดือนสิงหาคม 2566 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจในประเทศไทย 58 ราย เงินลงทุนทั้งสิ้น 6,840 ล้านบาท เกิดการจ้างงานคนไทย 897 คน ส่วนใหญ่เป็นคนต่างชาติจากญี่ปุ่น สิงคโปร์และฮ่องกง

20/9/2023

ภาคกลางและปริมณฑล

กรุงเทพมหานคร

สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230920101232839

อุดรธานี สัมมนารับฟังความคิดเห็นการพัฒนาโครงข่ายการคมนาคมเพื่อเชื่อมโยงกับกลุ่มจังหวัดภาคเหนือ

นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนาเพื่อแนะนําโครงการและรับฟังความคิดเห็นโครงการศึกษาการจัดทํา Model การพัฒนาโครงข่ายการคมนาคมในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือเชื่อมโยงพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภายใต้กรอบ GMS โดยมี นายสุวัฒน์ วิไลงาม รองประธานหอการค้าจังหวัดอุดรธานี หัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน ร่วมประชุม ที่ห้องประชุมมาโจเรล โรงแรมเดอ ปริ้นเซส อุดรธานีสําหรับโครงการนี้ เพื่อเป็นการจัดทําภาพรวมการพัฒนาและยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงข่ายการคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ฯ จัดทําฐานข้อมูลเพื่อการพัฒนาระบบขนส่งและจราจรในภูมิภาคสําหรับบูรณาการการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งระดับประเทศ ระดับภาค ระดับกลุ่มจังหวัด ระดับจังหวัดรวมถึงการเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีแนวทางและวิธีการศึกษาประกอบด้วยงาน 3 ส่วนคือ ส่วนที่ 1 การจัดทําภาพรวมการพัฒนายุทศาสตร์การพัฒนาโครงข่ายการคมนาคมาและระบบโลจิสติกส์ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ ที่เชื่อมโยงในแต่ละรูปแบบการขนส่งกับพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภายใต้กรอบ GMS และกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง เพื่อสนับสนุนการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวตามระยะเวลาการพัฒนาตามยุทธศาสตร์ชาติ ส่วนที่ 2 จัดทําแผนงาน แผนการลงทุน และจัดลําดับความสําคัญของการพัฒนาโครงข่ายการคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ในแต่ละรูปแบบการขนส่งในพื้นที่ และส่วนที่ 3 การประชาสัมพันธ์และการมีส่วนร่วมของประชาชน

20/9/2023

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

อุดรธานี

สวท.อุดรธานี

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230920103721852

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จัดกิจกรรมเจรจาการค้าซาอุดีอาระเบีย อียิปต์ สร้างยอดขายกว่า 261 ล้านบาท

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับสํานักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองเจดดาห์ และกรุงไคโร จัดเจรจาการค้าระหว่างผู้ประกอบการไทยกับผู้ซื้อ ผู้นําเข้าของซาอุดีอาระเบีย และอียิปต์ เพื่อขยายตลาดส่งออกสินค้าในกลุ่มสินค้าอาหารฮาลาลและสินค้าศักยภาพอื่น เมื่อวันที่ 25-31 สิงหาคม 2566 ซึ่งผลการเจรจาการค้า ณ เมืองเจดดาห์ มีผู้ประกอบการจํานวน 26 บริษัท เดินทางไปเข้าร่วมเจรจาการค้า และมีผู้นําเข้า นักธุรกิจซาอุดิอาระเบียกว่า 200 ราย ให้ความสนใจเข้าร่วม มีมูลค่าสั่งซื้อภายในงานทั้งสิ้น ประมาณ 183,750,000 บาท ส่วนที่กรุงไคโร มีผู้ประกอบการ จํานวน 25 บริษัท เดินทางไปเข้าร่วมเจรจาการค้า และมีผู้นําเข้านักธุรกิจอียิปต์ กว่า 100 ราย ให้ความสนใจเข้าร่วม มีมูลค่าสั่งซื้อภายในงาน ประมาณ 77,315,000 บาท นายภูสิต กล่าวสรุปว่า การจัดงานที่ซาอุดิอาระเบียและอียิปต์ มีมูลค่าสั่งซื้อคิดเป็นเงินไทยกว่า 261 ล้านบาท โดยสินค้าที่ได้รับความสนใจ ได้แก่ สินค้าสุขภัณฑ์ห้องน้ํา ชิ้นส่วนรถยนต์ ผลไม้สดและแปรรูป และสินค้าอาหารฮาลาล ตามลําดับ และผู้ประกอบการมีความพึงพอใจในการเข้าร่วมกิจกรรม

20/9/2023

ภาคกลางและปริมณฑล

กรุงเทพมหานคร

สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230920130119896

สมาคมมิตรภาพเวียดนาม-อาเซียน นครโฮจิมินทร์เข้าพบผวจ.อุดรธานีเพื่อหารือในการพัฒนาเศรษฐกิจร่วมกันในอนาคต

นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ให้การต้อนรับ สมาคมมิตรภาพเวียดนาม-อาเซียน นครโฮจิมินทร์ นําโดย ศาสตราจารย์ ดร.ฟาน ถิ หง ซวน ประธานสมาคมฯ ในโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี มี นายธนพล กองทรัพย์ไพศาล ประธานหอการค้าจังหวัดอุดรธานี หัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน ร่วมต้นรับ ที่ ห้องภูพระบาท ชั้น 2 อาคาร 2 ศาลากลางจังหวัดอุดรธานีผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้กล่าวถึงศักยภาพจังหวัดอุดรธานี ความเป็นศูนย์กลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และความสัมพันธ์ระหว่างจังหวัดอุดรธานี กับประเทศเวียดนามศาสตราจารย์ ดร.ฟาน ถิ หง ซวน กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างนครโฮจิมินทร์กับจังหวัดอุดรธานี ที่มีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจมาอย่างช้านาน ซึ่งปีนี้จะเป็นปีที่ระลึกถึง 10 ปี การลงนามด้านยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ โดยนครโฮจิมินทร์เป็นเมืองใหญ่ทางด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรม ซึ่งมีการติดต่อกับกงสุลใหญ่ไทยในนครโฮจิมินทร์อย่างต่อเนื่อง ในด้านเศรษฐกิจจังหวัดอุดรธานีได้มีการลงนามความสัมพันธ์กับจังหวัดท้ายเหวียน ประเทศเวียดนาม หวังว่าจะมีการลงนามกับจังหวัดอื่นๆ ที่มีเศรษฐกิจใกล้เคียงกัน และจังหวัดอุดรธานี มีนักศึกษาจากประเทศเวียดนามจํานวน 60 คน นครโฮจิมินทร์มีทุนการศึกษาจํานวน 20 ทุน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีโอกาสให้การมอบทุนให้กับนักศึกษาจังหวัดอุดรธานี ในการเข้าศึกษาในนครโฮจิมินทร์ รวมทั้งการพัฒนาความสัมพันธ์ในด้านอื่นๆ ทั้งด้านการท่องเที่ยว ด้านสุขภาพ ด้านการค้า เช่น การซื้อ-ขาย มะพร้าว ที่โฮจิมินทร์ได้มีการลงนามร่วมกับประเทศมาเลเซีย หวังว่าจะมีโอกาสในการลงนามสัญญาซื้อ-ขาย มะพร้าว ร่วมกับจังหวัดอุดรธานี ในอนาคต

20/9/2023

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

อุดรธานี

สวท.อุดรธานี

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230920103606849

ส.อ.ท. มุ่งขับเคลื่อนอุตฯ การพิมพ์-บรรจุภัณฑ์-บรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูกไทยสู่นานาชาติ ผลักดันอุตสาหกรรมไทยสู่ Next-Gen Industries

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานมหกรรมแสดงสินค้านานาชาติด้านอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์การพิมพ์ครั้งที่ 9 และบรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูกแห่งภูมิภาคเอเชีย ครั้งที่ 2 ว่า ส.อ.ท. ร่วมกับ สมาคมการพิมพ์ไทย สมาคมการบรรจุภัณฑ์ไทย สมาคมบรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูกไทย และภาคเอกชน จัดงานดังกล่าวขึ้น เพื่อตอกย้ําศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางการผลิต พร้อมสร้างโอกาสทางธุรกิจและเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการ โดยมุ่งผลักดันและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยตามเป้าหมาย โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ ให้สอดคล้องกับทิศทางของตลาดโลกและเทรนด์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างพื้นที่แลกเปลี่ยนนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ ระหว่างกลุ่มผู้ประกอบการและผู้นําอุตสาหกรรมจากหลายประเทศทั่วโลก ด้วยการจัดมหกรรมแสดงสินค้านานาชาติด้านอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์การพิมพ์และบรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูก ที่ถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้น เพื่อรองรับเทรนด์ของโลกและความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งจะเป็นแรงสนับสนุนสําคัญให้กับผู้ประกอบการไทยในการต่อยอดธุรกิจได้อย่างสร้างสรรค์และยั่งยืนทั้งนี้ คาดการณ์ว่าการจัดงานในปีนี้จะได้รับผลตอบรับจากผู้เข้าชมงานไม่ต่ํากว่า 15,000 คน จากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ สําหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมงานดังกล่าวได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 23 กันยายน ณ ฮอลล์ 100 – 101 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา

20/9/2023

ภาคกลางและปริมณฑล

กรุงเทพมหานคร

สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230920155827029

เทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน ลงนามความร่วมมือ MOU และ เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างเมือง กับคณะผู้บริหารเทศบาลเมืองไหล่ปิน จังหวัดหนานหนิง มณฑลกว่างซีจ้วง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน

ระหว่างวันที่ 18-19 กันยายน 2566 นางสาวมัลลิกา จีนาคํา นายกเทศมนตรเมืองแม่ฮ่องสอนนําคณะตัวแทนเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน เดินทางไปประเทศจีน เพื่อลงนามความร่วมมือ MOU และเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างเมือง เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในทุกมิติของงานเมือง กับคณะผู้บริหารเทศบาลเมืองไหล่ปิน จังหวัดหนานหนิง มณฑลกว่างซีจ้วง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน โดยนายปกรณ์ จีนาคํา อดีตนายกเทศมนตรีเมืองแม่ฮ่องสอน และนายไหล ยิ่งหมิ่น อดีตนายกเทศมนตรีเมืองไหล่ปิน เคยทําบันทึกความร่วมมือนี้มาก่อน แต่ได้หยุดไปช่วงโรคระบาด COVID-19 ครั้งนี้ นางสาวมัลลิกา จีนาคํา นายกเทศมนตรีเมืองแม่ฮ่องสอน ได้ลงนาม MOU กับเทศบาลเมืองไหล่ปิน ซึ่งนําโดย นายเลี่ยว เหอหมิง นายกเทศมนตรีเมืองไหล่ปินคนปัจจุบัน นายเถียนฮุย รองนายกเทศมนตรีเมืองไหล่ปิน พร้อมคณะผู้บริหารเทศบาลเมืองไหล่ปินนางสาวมัลลิกา จีนาคํา นายกเทศมนตรีเมืองแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า เมืองไหล่ปินนั้นมีลักษณะคล้ายเมืองแม่ฮ่องสอน ทั้งในเชิงชาติพันธุ์ เศรษฐกิจ และสังคม แต่มีขนาดใหญ่ และเจริญกว่าเมืองแม่ฮ่องสอน การขยายแนวร่วมความร่วมมือในครั้งนี้ มีประโยชน์เป็นอย่างมาก โดยเทศบาลเมืองไหล่ปินจะส่งครูภาษาจีน มาสอนภาษาจีนที่โรงเรียนเทศบาลฯ มีการแลกเปลี่ยนคณะครูและนักเรียนเข้าค่ายทํากิจกรรมร่วมกัน และอาจจะมีการรับเด็กนักเรียนเทศบาล ฯไปร่วมเรียนและใช้ชีวิตที่โรงเรียนของเทศบาลเมืองไหล่ปินด้วยนอกจากนี้ ยังได้เรียนรู้จากเทศบาลเมืองไหล่ปิน ด้านอื่นๆ หรือส่งเด็กและคนของเมืองแม่ฮ่องสอนไปเรียน ไปฝึกงาน หรือทํางาน ถือว่าเป็นการทํา MOU ที่ส่งเสริม Soft Power ของกันและกัน มีส่วนช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของแม่ฮ่องสอนเพิ่มมากขึ้น วันเดียวกันคณะของเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน ได้รับเชิญให้ไปเยือนมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกวางสี เมืองไหล่ปิน โดยนายหยาง เจี๋ย อธิการบดีมหาวิทยาลัยพร้อมคณะนักศึกษาคนไทย ให้การต้อนรับอย่างดียิ่ง โดยทางมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกวางสี ยินดีให้ทุนการศึกษา ที่พัก ระดับปริญญาตรี ระดับอาชีวศึกษาวิชาชีพเทคนิค ให้เป็นแหล่งฝึกงานสําหรับผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องยนต์ และเทคโนโลยีด้วย.

20/9/2023

ภาคเหนือ

แม่ฮ่องสอน

สวท.แม่ฮ่องสอน

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230920111026875

เตรียมปรับลดราคาเนื้อสัตว์-ไข่ และสินค้าอีก 20 รายการ คาดต้นเดือนตุลาคมมีความชัดเจน

นายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงมาตรการช่วยเหลือประชาชน โดยการลดราคาสินค้าประเภทต่างๆ เพิ่มเติม ของกระทรวงพาณิชย์ ภายหลังจากรัฐบาลลดราคาน้ํามันดีเซลแล้วว่า ได้พูดคุยกับกรมการค้าภายใน และปลัดกระทรวงพาณิชย์แล้วว่า เรื่องราคาน้ํามันนอกจากจะส่งผลต่อค่าครองชีพของประชาชนแล้ว ยังกระทบต่อต้นทุนของสินค้าด้วย โดยเฉพาะต้นทุนราคาสินค้าและค่าขนส่งที่ใช้เชื้อเพลิง ซึ่งน่าจะสามารถปรับลดได้ โดยได้มอบหมายให้กรมการค้าภายในดําเนินการภายใน 15 วัน แต่ขณะนี้ยังไม่ครบกรอบเวลา คาดว่า ต้นเดือนตุลาคมจะมีความชัดเจน ซึ่งได้มอบหมายให้ไปดูสินค้าประเภทต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน ดูว่าสินค้าประเภทไหนมีต้นทุนอย่างไรและจะสามารถแก้ไขลดได้แค่ไหนอย่างไรบ้างนายภุมิธรรม กล่าวต่อว่า ในช่วงสัปดาห์หน้า จะพูดคุยกับผู้ประกอบการรายใหญ่ ทั้งในส่วนผู้ผลิต ซึ่งก็ได้พูดคุยตามกรอบนโยบายที่เคยให้ไว้ ที่คนตัวใหญ่ต้องช่วยดึงคนตัวเล็กให้ขึ้นไปด้วยกัน เพื่อสร้างความสมดุลให้กับผู้ประกอบการและผู้บริโภค และไม่ส่งผลกับประชาชน หาจุดที่ประนีประนอมกันได้ คาดว่า ตัวสินค้าที่จะได้รับการพิจารณาก็จะเป็นสินค้าประเภทข้าว เนื้อสัตว์ ไข่ไก่ และจะดูเพิ่มเติมอีกประมาณ 20 รายการ นอกจากนี้ ยังจะดูเพิ่มเติมว่า สินค้าตัวไหนที่เป็นปัญหา โดยจะดําเนินการลดราคาต้นทุน ให้อย่างเป็นรูปธรรม

20/9/2023

ภาคกลางและปริมณฑล

กรุงเทพมหานคร

Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230920141225940

พาณิชย์จังหวัดลำพูน ร่วมกับกลุ่มเกษตรกร และผู้ประกอบการค้าข้าว ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงซื้อขายข้าว (MOU) ภายใต้โครงการเชื่อมโยงตลาดข้าวอินทรีย์และข้าว GAP ครบวงจร ระยะที่ 2

วันนี้ (20 ก.ย.66) ที่ห้องประชุม สํานักงานพาณิชย์จังหวัดลําพูน นายประพจน์ พรหมฟัง ผู้อํานวยการศูนย์เมล็ดพันธ์ข้าวเชียงใหม่ พร้อมด้วย นางกนกรัตน์ ยุกติรัตน์ พาณิชย์จังหวัดลําพูน นายโกวิท ใหม่ตั้ง ประธานกลุ่มข้าวอินทรีย์ตําบลป่าสัก และนางสาวสินีธนากานต์ เทพา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะสุขขะเฮ้าส์ (ไทยแลนด์)จํากัด ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงซื้อขายข้าว (MOU) ภายใต้โครงการเชื่อมโยงตลาดข้าวอินทรีย์และข้าว GAP ครบวงจร ระยะที่ 2 ปีการผลิต 2566/67 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงความร่วมมือในการส่งเสริมเกษตรกรที่ผลิตข้าวคุณภาพ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการผลิต ทั้งมาตรฐานอินทรีย์ มาตรฐาน GAP และมาตรฐานอินทรีย์ต่างประเทศ ให้มีตลาดรองรับผลผลิตแน่นอน เป็นไปตามแนวทางการตลาดนําการผลิต ให้เกษตรกรเกิดความเชื่อมั่นในการผลิตข้าวคุณภาพ เป็นการยกระดับราคาข้าวเปลือก ให้สูงกว่าราคาตลาดตามคุณภาพ ทั้งนี้ ได้มีการซักซ้อมความเข้าใจชี้แจงรายละเอียดหลักเกณฑ์การซื้อขายข้าวก่อนทําบันทึกข้อตกลงซื้อขายข้าว และความคิดเห็นของคณะกรรมการ ให้แก่กลุ่มเกษตรกร และผู้ประกอบการทราบเรียบร้อยแล้ว สําหรับการรับซื้อผลผลิต ภายใต้โครงการเชื่อมโยงตลาดข้าวอินทรีย์และข้าว GAP ครบวงจร ระยะที่ 2 ของปีการผลิต 2566/67 ของจังหวัดลําพูน จะเป็นพันธ์ุ ข้าวขาวดอกมะลิ 105 จํานวน 30.40 ตัน โดยมีเกษตรกรที่จะซื้อขายผลผลิตจํานวนทั้งสิ้น 10 ราย และการดําเนินการจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และมาตรฐานในการรับซื้อตาม เงื่อนไข และข้อกําหนด และยังจะเป็นการยกระดับราคาการผลิตข้าวเปลือก ที่มีคุณภาพ มีมาตรฐาน GAP สามารถนําผลผลิตข้าว ออกสู่ตลาดทั้งในประเทศ และนอกประเทศต่อไป

20/9/2023

ภาคเหนือ

ลำพูน

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูน

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230920133006904

สำนักงานพาณิชย์จังหวัดกาญจนบุรี จัดงานแถลงข่าว โครงการส่งเสริมการพัฒนาการค้าทั้งในและระหว่างประเทศงานจัดแสดงสินค้า “หลงเสน่ห์เมืองกาญจน์” ณ 2 ห้างดัง ไอคอนสยาม กรุงเทพฯ และโรบินสัน กาญจนบุรี หวังสร้างรายได้สนับสนุนผู้ผลิตและผู้ประกอบการ

วันนี้ (20 กันยายน 2566) เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุม ริมสวน โรงแรม นที เดอะริเวอร์ฟรอนท์ กาญจนบุรี นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานในงานแถลงข่าว การเตรียมการจัดงาน โครงการส่งเสริมการพัฒนาการค้าทั้งในและระหว่างประเทศงานจัดแสดงสินค้า "หลงเสน่ห์เมืองกาญจน์" พร้อมด้วย นางสาวยุพา นาคา พาณิชย์จังหวัดกาญจนบุรี นายวิเชียร ตระกูลโรจน์ ประธานหอการค้าจังหวัดกาญจนบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และสื่อมวลชน เข้าร่วมการแถลงข่าวฯ สํานักงานพาณิชย์จังหวัดกาญจนบุรีจัดงานแถลงข่าวการเตรียมพร้อมจัดงานแสดงสินค้า "หลงเสน่ห์ เมืองกาญจน์" ภายใต้โครงการส่งเสริมการพัฒนาการค้าทั้งในและระหว่างประเทศ กิจกรรมพัฒนาตลาดสินค้ากาญจนบุรี เพื่อส่งเสริมให้ผู้ผลิต ผู้ประกอบการสินค้าที่มีความโดดเด่นได้มีโอกาสพบผู้บริโภค และเป็นการสร้างเสริมเศรษฐกิจให้แก่จังหวัดกาญจนบุรี โดยการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดในพื้นที่ทําเลทอง ของกรุงเทพ ตั้งแต่วันที่ 25 - 29 กันยายน 2566 ที่เมืองสุขสยาม ณ ไอคอนสยาม ชั้น G และห้างสรรพสินค้า โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เซ็นตอร์ กาญจนบุรี ในวันที่ 5 - 9 ตุลาคม 2566 นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า จังหวัดกาญจนบุรี เป็นจังหวัดที่มีจุดเด่น สวยงาม และมีชื่อเสียงด้านสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ความงามของธรรมชาติและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นที่มีคุณภาพหลากหลาย เป็นที่ยอมรับแล้วในระดับประเทศและต่างประเทศ จังหวัดกาญจนบุรีได้เร่งพัฒนาเมืองให้น่าอยู่ ปลอดภัย พร้อมสนับสนุนให้สถานประกอบการก้าวสู่ธุรกิจสีเขียว ใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์ มีการพัฒนาคุณภาพศักยภาพด้านการเกษตร การผลิตสินค้า และการให้บริการของธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารให้มีมาตรฐานที่สูงขึ้นรองรับการขยายการค้าและการลงทุนในจังหวัดกาญจนบุรีอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น จังหวัดกาญจนบุรีจึงพร้อมสนับสนุนให้มีกิจกรรมสร้างโอกาสทางการตลาดให้แก่สินค้าและบริการของจังหวัดกาญจนบุรี อาทิเช่น งานแสดงสินค้า "หลงเสน่ห์เมืองกาญจน์" ในกรุงเทพ และจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อนําผลผลิตคุณภาพจากแหล่งผลิตสู่ผู้บริโภคโดยตรง สร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการทุกระดับ และพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดกาญจนบุรีไปพร้อมกัน นางสาวยุพา นาคา พาณิชย์จังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า งานแสดงสินค้ากําหนดจัดขึ้น 2 ครั้ง ใช้ชื่องาน "หลงเสน่ห์เมืองกาญจน์" เป็นการพัฒนาตลาดสินค้ากาญจนบุรี ผลิตผลทางการเกษตร สินค้าอัตลักษณ์ของจังหวัดกาญจนบุรี ให้แก่เกษตรกร ผู้ประกอบการในจังหวัดกาญจนบุรี แนวคิดการจัดกิจกรรม "หลงเสน่ห์เมืองกาญจน์" เพราะจังหวัดกาญจนบุรีมีจุดขายที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เอกลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ ตลอดจนสินค้าเกษตร และสินค้าแปรรูป ที่ผ่านกระบวนการพัฒนาและได้รับการตอบรับจากตลาดภายในประเทศ และต่างประเทศเป็นอย่างดี เป็นผลิตภัณฑ์ดีเด่นสําหรับนักท่องเที่ยวและผู้บริโภค โดยการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดในพื้นที่ทําเลทองตั้งแต่เดือนกันยายนถึงตุลาคม 2566 งานแรกเน้นกลุ่มผู้ซื้อนักท่องเที่ยวและผู้บริโภคในกรุงเทพฯ โดยคัดสรรผู้ประกอบการคุณภาพ จํานวน 50 ร้านค้า และงานในจังหวัดกาญจนบุรี ได้เพิ่มความหลากหลายของสินค้าให้แก่นักท่องเที่ยวให้จ่ายใช้สอยของใช้ของฝาก ณ ห้างสรรพสินค้า โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เซ็นเตอร์ กาญจนบุรี ไฮไลท์ของงานคือ การนําสินค้าที่ดีมีคุณภาพมาแสดงและจําหน่าย โดยร่วมมือกับภาคเอกชน เพื่อคัดสรรสินค้าคุณภาพดีและดีมาก มาจําหน่ายให้แก่ผู้ซื้อในราคาพิเศษ พร้อมโปรโมชั่นซื้อสินค้ารับคูปองเพื่อนํากลับไปจับจ่ายใช้สอยภายในงานอีกด้วย นายสหพันธ์ รุ่งโรจนพณิชย์ เลขาธิการหอการค้าจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า ภาคเอกชนเห็นด้วยและพร้อมสนับสนุนเต็มที่กับกิจกรรมการส่งเสริมตลาดของจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อขับเคลื่อนการค้าการตลาดของผู้ประกอบการทุกระดับ ตั้งแต่ต้นน้ํา กลางน้ํา และปลายน้ํา ของจังหวัดกาญจนบุรี ได้เติบโตมีรายได้สูงขึ้น และแข่งขันได้ รวมทั้งการสนับสนุนให้ธุรกิจบริการ โรงแรมและร้านอาหาร สามารถดูแลต้อนรับท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติที่มาเยือนจังหวัดกาญจนบุรีด้วยคุณภาพและอบอุ่น

20/9/2023

ภาคตะวันตก

กาญจนบุรี

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกาญจนบุรี

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230920131607899

กระทรวงอุตสาหกรรม มุ่งสร้างความสำเร็จให้ผู้ประกอบการ ชู เอกลักษณ์ชุมชน พร้อมขับเคลื่อนการแปรรูปสินค้าเกษตร กว่า 2,547 ราย

นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมมีนโยบายมุ่งพัฒนาภาคอุตสาหกรรมใน 4 มิติ ประกอบด้วย ความสําเร็จทางธุรกิจเปลี่ยนผ่านสู่อุตสาหกรรมเศรษฐกิจ มุ่งให้ผู้ประกอบการมีกําไรในการดําเนินธุรกิจ ความอยู่ดีกับสังคมโดยรวมส่งเสริมการทํางานร่วมกันระหว่างสถานประกอบการ ชุมชน และสังคมให้อยู่ร่วมกันอย่างเป็นมิตรและมีความสุข ความลงตัวกับกติกาสากล ดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมสู่อุตสาหกรรมสีเขียว เพื่อโอกาสทางธุรกิจมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนตอบโจทย์ไทยและประชาคมโลก ทั้งการลดโลกร้อน การลดใช้น้ํา และเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ให้มากขึ้น / และการกระจายรายได้สู่ชุมชนที่ตั้ง ด้วยการกระจายรายได้ และสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นนอกจากนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม ได้ดําเนินการการขับเคลื่อนการแปรรูปสินค้าเกษตรอุตสาหกรรม 1 จังหวัด 1 ชุมชน (One Province One Agro-Industrial Community : OPOAI-C)” ประจําปีงบประมาณ 2566 โดยมีชุมชนเข้าร่วมโครงการทั่วประเทศ จํานวน 2,547 ราย และพัฒนาให้เกิดผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค 312 ผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะทําให้วิสาหกิจสามารถยกระดับผลผลิตทางการเกษตรให้เป็นสินค้าอุตสาหกรรมเกษตรที่มีมูลค่าสูง ได้มาตรฐาน และมีความปลอดภัย โดยใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นสร้างความเป็นเอกลักษณ์ของชุมชน ถือเป็นแนวทางในการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ไทย เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน และสร้างรายได้ให้ภาคเกษตรในอนาคตอีกด้วย

20/9/2023

ภาคกลางและปริมณฑล

กรุงเทพมหานคร

สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230920155706027

กาญจนบุรี จัดแถลงข่าวการจัดแสดงสินค้า หลงเสน่ห์เมืองกาญจน์

จ.กาญจนบุรี จัดงานแถลงข่าวการจัดงานแสดงสินค้า หลงเสน่ห์เมืองกาญจน์ โครงการส่งเสริมการพัฒนาการค้าทั้งในและระหว่างประเทศ กิจกรรมพัฒนาตลาดสินค้ากาญจนบุรีนายอธิสรรค์ อินทร์ตรา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานในงานแถลงข่าวการจัดงานแสดงสินค้า “หลงเสน่ห์เมืองกาญจน์” พร้อมด้วย นาวสาวยุพา นาคา พาณิชย์จังหวัดกาญจนบุรี นายสหพันธ์ รุ่งโรจน์พณิชย์ เลขาธิการหอการค้าจังหวัดกาญจนบุรี ผู้อํานวยการสํานักประชาสัมพันธ์ เขต 8 ผู้อํานวยการสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยจังหวัดกาญจนบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ภายใต้โครงการส่งเสริมการพัฒนาการค้าทั้งในและระหว่างประเทศ กิจกรรมพัฒนาตลาดสินค้ากาญจนบุรี ที่ห้องประชุมริมสวน โรมแรม นที เดอะริเวอร์ฟรอนท์ กาญจนบุรีโดย สํานักงานพาณิชย์จังหวัดกาญจนบุรี ได้จัดงานแสดงและจําหน่ายสินค้า “หลงเสน่ห์เมืองกาญจน์” ภายใต้โครงการส่งเสริมการพัฒนาการค้าทั้งในและระหว่างประเทศ กิจกรรมพัฒนาตลาดสินค้ากาญจนบุรี เพื่อส่งเสริมให้ผู้ผลิตและผู้ประกอบการได้มีโอกาสพบปะผู้บริโภค และประชาสัมพันธ์สินค้าที่มีความโดดเด่น นําผลผลิตคุณภาพจากแหล่งผลิตสู่ผู้บริโภคโดยตรง เป็นการสร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการทุกระดับ และพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดกาญจนบุรีไปพร้อมกันซึ่งการจัดงานแสดงสินค้า “หลงเสน่ห์เมืองกาญจน์” กําหนดจัดขึ้น 2 ครั้ง ครั้งแรกเน้นกลุ่มผู้ซื้อ นักท่องเที่ยวและผู้บริโภคในกรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 25-29 กันยายน 2566 ที่เมืองสุขสยาม ไอคอนสยาม ชั้น G และงานในจังหวัดกาญจนบุรี ที่ห้างสรรพสินค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์กาญจนบุรี ระหว่างวันที่ 5-9 ตุลาคม 2566โดยไฮไลท์ของงานคือการนําสินค้าที่ดีมีคุณภาพมาแสดงและจัดจําหน่าย โดยร่วมมือกับภาคเอกชน เพื่อคัดสรรสินค้าคุณภาพดีและดีมาก มาจัดจําหน่ายให้แก่ผู้ซื้อในราคาพิเศษ

20/9/2023

ภาคตะวันตก

กาญจนบุรี

สทท.กาญจนบุรี

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230920134046921

สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสตูล เชิญชวนร้านค้าสมัครเข้าเป็นร้านธงฟ้า เพื่อกระจายรายได้พัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น

วันนี้ (20 ก.ย.66) นางสายช่อ อังศุพานิช พาณิชย์จังหวัดสตูล เชิญชวนร้านค้าในจังหวัดสตูลที่จําหน่ายสินค้าในกลุ่ม 6 หมวดสินค้าตามคุณสมบัติที่กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์กําหนด สมัครเข้าร่วมเป็นร้านธงฟ้า จําหน่ายสินค้าราคาประหยัดและพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น อาทิ ร้านค้าปลีก ร้านโชห่วยท้องถิ่น ร้านค้าสหกรณ์ ผู้ผลิตสินค้าชุมชน โอทอป เป็นต้น โดยจะต้องไม่เป็นสาขาของร้านค้าส่งค้าปลีกสมัยใหม่ระดับประเทศ ตลอดจนต้องมีทําเล สถานที่ตั้งร้านค้าที่แน่นอน อยู่ในแหล่งชุมชน และไม่เคยถูกเพิกถอนสิทธิหรือขอยกเลิกการติดตั้งเครื่อง EDC มาก่อน หากเจ้าของร้านค้าในจังหวัดสตูลที่มีคุณสมบัติครบถ้วนดังกล่าว สามารถสมัครเข้าเป็นร้านธงฟ้า ได้ตั้งแต่บัดนี้ ติดต่อสํานักงานพาณิชย์จังหวัดสตูล โทรศัพท์ 0 7471 1126 ในวันและเวลาราชการ

20/9/2023

ภาคใต้

สตูล

สวท.สตูล

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230920134842926

กรมการท่องเที่ยว ตอบรับนโยบายฟรีวีซ่าจีน รับนักท่องเที่ยวไฮซีซั่น จัดอบรมเจ้าหน้าที่ 3 จังหวัดท่องเที่ยวสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยว

นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย (โดยไม่ต้องขอวีซ่าจึงไม่มีค่าธรรมเนียม) เป็นเวลา 5 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2566 ถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งคาดการณ์ว่ามาตรการดังกล่าวจะกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้าประเทศไทยจํานวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เกิดการหมุนเวียนของเม็ดเงิน และสร้างรายได้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้อย่างรวดเร็ว กรมการท่องเที่ยวจึงเตรียมความพร้อมเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยจัดอบรมเจ้าหน้าที่จากสํานักงานทะเบียนธุรกิจนําเที่ยวและมัคคุเทศก์ทั้ง 6 สาขา และกองบัญชาการตํารวจท่องเที่ยว เพื่อซักซ้อมความเข้าใจในการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายธุรกิจนําเที่ยวและมัคคุเทศก์ พร้อมให้คําแนะนําในการปฏิบัติงานของมัคคุเทศก์และผู้ประกอบธุรกิจนําเที่ยวในเดือนกันยายนนี้ ในพื้นที่ 3 จังหวัดท่องเที่ยว ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นครราชสีมา และเชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นมาตรการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยว รวมถึงป้องกันไม่ให้มีการกระทําที่ผิดกฎหมายทั้งนี้ กรมการท่องเที่ยว มีความมุ่งหวังให้การท่องเที่ยวไทยในช่วงไฮซีซั่น และผลจากนโยบายฟรีวีซ่าของรัฐบาล กระตุ้นให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยจํานวนมาก เพื่อให้ประชาชนมีรายได้ เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และฟื้นตัวจากผลกระทบของสถานการณ์โควิด-19 ได้

20/9/2023

ภาคกลางและปริมณฑล

กรุงเทพมหานคร

สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230920151937980

อธิบดีใบน้อย กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (Diprom) นำทีมงานให้ความรู้ตลาดออนไลน์ กลุ่มผู้ประกอบธุรกิจ Wellness ชี้ เป็นจุดขายที่ทั่วโลกสนใจ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในประเทศ

นายใบน้อย สุวรรณชาตรี อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พบปะกลุ่มผู้ประกอบการที่เข้ารับการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ หลักสูตร "ยกระดับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงสุขภาพด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล" (DIPROM Wellness Go Up) ณ โรงแรม Seabed Grand Hotel Phuket อ.เมือง จ.ภูเก็ต ภายใต้โครงการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของวิสาหกิจไทยด้วยดิจิทัล กิจกรรม ดี-พร้อม-อัพ (UP) ยกระดับชุมชนด้วยตลาดดิจิทัล จัดโดยกองพัฒนาดิจิทัลอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม โดยโอกาสนี้อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมได้มอบโล่รางวัลแก่ผู้ประกอบการธุรกิจ Wellness ที่มีผลการดําเนินงานเชิงประจักษ์อีกด้วย .โครงการนี้ เป็นโครงการที่ช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าใจและเข้าถึงแนวทางการดําเนินธุรกิจในยุคดิจิทัล โดยมีเป้าหมายให้ผู้ประกอบการ SME นําองค์ความรู้และทักษะที่ได้จากการฝึกอบรมด้านการตลาดออนไลน์ไปปรับใช้กับธุรกิจของตนเอง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ที่เป็นเป้าหมายการเดินทางที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกให้ความสนใจ ทั้งนี้ ผู้เข้าอบรมได้เข้าร่วมกิจกรรม Group Coaching ที่มีส่วนช่วยในการวิเคราะห์การตลาดของธุรกิจ Health and Wellness รวมถึงการเลือกใช้ช่องทางในการประชาสัมพันธ์ธุรกิจของตนบนโลกออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ผู้ประกอบการยังได้รับความรู้ในการสร้างความตระหนักถึงโอกาสและทางรอดในการประกอบธุรกิจ Medical Wellness จากวิทยากรผู้มีประสบการณ์ และได้ร่วมนําเสนอและวิพากษ์แนวทางการพัฒนาธุรกิจของตนต่อคณะวิทยากร ซึ่งจะช่วยแนะนําแนวทางการพัฒนาธุรกิจให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอีกด้วย.อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า ในการอบรมครั้งนี้ เราได้ Success Case จํานวน 12 ราย ที่เป็นต้นแบบนักการตลาดชุมชนดิจิทัลในกลุ่มธุรกิจเชิงสุขภาพ ซึ่งสอดคล้องกับแนวนโยบายของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ที่มุ่งเน้นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลภายใต้กระแสโลกใหม่ที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดย จ.ภูเก็ต มีความโดดเด่นด้านธุรกิจเชิงสุขภาพ แต่ยังไม่ได้มีการประชาสัมพันธ์อย่างแพร่หลาย วันนี้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมได้นําองค์ความรู้และแนวทางการพัฒนาธุรกิจสู่ช่องทางออนไลน์มาช่วยยกระดับสินค้าและบริการของผู้ประกอบการ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการขยายตลาดให้กว้าง และเปิดรับลูกค้าจากทั่วทุกมุมโลก ส่งผลต่อการเพิ่มเม็ดเงินให้ประเทศ และกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น

20/9/2023

ภาคกลางและปริมณฑล

กรุงเทพมหานคร

หน่วยงานสำนักข่าว

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230920150735966

กนอ. ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เดินหน้าขับเคลื่อนความปลอดภัยในนิคมอุตฯ พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยภายหลังร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการขับเคลื่อนความปลอดภัยในนิคมอุตสาหกรรม ระหว่าง กนอ. กับ สํานักงานตํารวจแห่งชาติ ว่า ถือเป็นการเริ่มต้นความร่วมมือและบูรณาการในการทํางานร่วมกัน อีกทั้งยังเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม และชุมชนโดยรอบ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน โดย กนอ. ได้ตระหนักถึงความปลอดภัยในการประกอบกิจการของผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมให้เป็นไปตามกฎหมาย ตลอดจนการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยรอบนิคมอุตสาหกรรม ตามแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน และบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาล นอกจากนี้ ยังได้เดินหน้าพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมทั่วประเทศ ทั้งปัญหาจราจร ยาเสพติด ความปลอดภัย ในชีวิตและทรัพย์สิน ความปลอดภัยไซเบอร์ พร้อมทั้งอํานวยความสะดวกให้กับนักลงทุนต่างชาติ เพื่อบรรลุเป้าหมายการอยู่ร่วมกันระหว่างนิคมอุตสาหกรรมกับชุมชนอย่างยั่งยืนในอนาคตอีกด้วย

20/9/2023

ภาคกลางและปริมณฑล

กรุงเทพมหานคร

สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230920155940031

พาณิชย์จังหวัดกาญจนบุรี ขานรับนโยบายส่งเสริมการค้า สนับสนุนผู้ผลิตและผู้ประกอบการ เตรียมจัดงานแสดงสินค้า "หลงเสน่ห์เมืองกาญจน์"

ที่ห้องประชุม ริมสวน โรงแรม นที เดอะริเวอร์ฟรอนท์ กาญจนบุรี นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วย นางสาวยุพา นาคา พาณิชย์จังหวัดกาญจนบุรี นายวิเชียร ตระกูลโรจน์ ประธานหอการค้าจังหวัดกาญจนบุรี ร่วมแถลงข่าวการจัดงานแสดงสินค้า "หลงเสน่ห์เมืองกาญจน์" เพื่อนําผลผลิตคุณภาพจากแหล่งผลิตสู่ผู้บริโภคโดยตรง สร้างรายได้ ให้แก่ผู้ประกอบการทุกระดับ และพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดกาญจนบุรีไปพร้อมกัน โดยจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดในพื้นที่ทําเลทอง ของกรุงเทพ ที่เมืองสุขสยาม ณ ไอคอนสยาม ชั้น G ระหว่างวันที่ 25-29 กันยายน 2566 และห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เซ็นตอร์ กาญจนบุรี ระหว่างวันที่ 5-9 ตุลาคม 2566 นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า จังหวัดกาญจนบุรี เป็นจังหวัดที่มีจุดเด่น สวยงาม และมีชื่อเสียงด้านสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ความงามของธรรมชาติ และผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นที่มีคุณภาพหลากหลาย เป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ การจัดงานในครั้งนี้ ถือเป็นการสร้างโอกาสในการพัฒนาตลาดสินค้า ผลิตผลทางการเกษตร สินค้าอัตลักษณ์ให้แก่เกษตรกร ผู้ประกอบการในจังหวัดกาญจนบุรี โดยได้ร่วมกับภาคเอกชน คัดสรรผู้ประกอบการคุณภาพ นําสินค้าที่ดี มีคุณภาพมาแสดงและจําหน่ายให้แก่ผู้ซื้อในราคาพิเศษ

20/9/2023

ภาคตะวันตก

กาญจนบุรี

สวท.กาญจนบุรี

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230920162312043

พาณิชย์จังหวัดนครพนม หารือร่วมกับคณะอนุกรรมการด้านการค้าชายแดน ประเด็นสถานการณ์เศรษฐกิจการค้าชายแดนผ่านแดน

วันที่ 20 กันยายน 2566 เวลา 09.00 น. นางจุฑารัตน์ ศรีโมรา พาณิชย์จังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนางสาวบงกช จันทร์หอม หัวหน้ากลุ่มทะเบียนธุรกิจและอํานวยความสะดวกทางการค้า และนายธิติศักดิ์ ผาสุขนิตย์ชญากุล หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์และแผนงาน ประชุมหารือร่วมกับคณะอนุกรรมการด้านการค้าชายแดน ภายใต้สายงานอาเซียนและโลจิสติกส์ ซึ่งมีนายสุริยนต์ ตู้จินดา เป็นประธานคณะอนุกรรมการฯ หารือในประเด็นสถานการณ์เศรษฐกิจการค้าชายแดน ผ่านแดน จังหวัดนครพนม ณ ห้องประชุมพาณิชยาทร ชั้น 1 สํานักงานพาณิชย์จังหวัดนครพนม ที่ประชุมได้นําเสนอข้อมูลภาพรวมด้านเศรษฐกิจของจังหวัดนครพนม ปี 2564 มีผลิตภัณฑ์จังหวัด ณ ราคาประจําปี ราคาตลาดเท่ากับ 47,747 ล้านบาท ผลิตภัณฑ์จังหวัดต่อหัว 87,122 บาท แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ สาขาอุตสาหกรรม เกษตรกรรม และการบริการทั้งนี้ ข้อมูลนิติบุคคล (กลุ่มสนุก) ที่คงอยู่ ณ เดือนกรกฎาคม 2566 ได้แก่ สกลนคร จํานวน 3,562 ราย ประเภทธุรกิจ ก่อสร้างทั่วไป การบริการด้านอาหารในภัตตาคาร ร้านอาหาร จังหวัดนครพนม จํานวน 2,220 ราย ประเภทก่อสร้างทั่วไป การขายปลีกทางอินเทอร์เน็ต และจังหวัดมุกดาหาร จํานวน 1,562 ราย ประเภทก่อสร้างทั่วไป การขายส่งสินค้าทั่วไป จังหวัดนครพนมมีช่องทางการค้าระหว่างประเทศไทยและ สปป.ลาว ผ่านจุดผ่านแดนถาวร 2 แห่ง ได้แก่ จุดผ่านแดนถาวร สะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 3 นครพนม - คําม่วน และจุดผ่านแดนถาวร ท่าเทียบเรือเทศบาลเมืองนครพนม และจุดผ่อนปรนการค้า 4 แห่ง ได้แก่ จุดผ่อนปรนการค้าอําเภอบ้านแพง อําเภอท่าอุเทน อําเภอเมืองนครพนม และอําเภอธาตุพนมนอกจากนี้ ยังมีเส้นทาง R12 ที่เชื่อมต่อระหว่างประเทศไทย ลาว เวียดนาม จีน ที่ถือเป็นประตูเศรษฐกิจภาคอีสานเชื่อมโยงทั้ง 4 ประเทศ โดยมีมูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดน ภาพรวมทั้งประเทศ ระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายน 2566 มูลค่ารวม 742,654 ล้านบาท ส่งออก 420,739 ล้านบาท นําเข้า 321,915 ล้านบาท ดุลการค้า 98,824 ล้านบาท (ที่มา : กรมการค้าต่างประเทศ)

20/9/2023

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

นครพนม

สวท.นครพนม

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230920170653071

พาณิชย์จังหวัดนครพนม จัดงานจำหน่ายไข่ไก่ลดค่าครองชีพประชาชน ระหว่างวันที่ 19-20 กันยายน 2566

วันที่ 20 กันยายน 2566 สํานักงานพาณิชย์จังหวัดนครพนม โดยนางจุฑารัตน์ ศรีโมรา พาณิชย์จังหวัดนครพนม ร่วมกับกรมการค้าภายในจัดจําหน่ายไข่ไก่ลดราคาช่วยประชาชน (วันที่สอง) ภายใต้กิจกรรมเชื่อมโยงจําหน่ายไข่ไก่ เพื่อลดค่าครองชีพประชาชน บรรยากาศการจําหน่ายเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ประชาชนจํานวนมากให้การตอบรับและออกมาจับจ่ายซื้อไข่ไก่โดยสํานักงานพาณิชย์จังหวัดนครพนม ได้จัดจําหน่ายไข่ไก่เบอร์ 3 ราคาประหยัด รวม 2 วัน จํานวน 500 แผง ในราคา 110 บาท/แผง (จากราคาปกติ 130 บาท/แผง) สามารถลดค่าครองชีพประชาชน 20 บาท/แผง ณ 2 จุดจําหน่าย ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม ดังนี้1. หน้าลานสวนชมโขง ต.ในเมือง อ.เมืองนครพนม2. หน้าสํานักงานพาณิชย์จังหวัดนครพนม ถ.อภิบาลบัญชา ต.ในเมือง อ.เมืองนครพนมผลการดําเนินการจําหน่ายฯ ในระหว่างวันที่ 19 - 20 กันยายน 2566 ยอดการจําหน่ายทั้งสิ้น 55,000 บาท สามารถลดค่าครองชีพประชาชนชาวจังหวัดนครพนมรวมได้ จํานวน 10,000 บาท

20/9/2023

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

นครพนม

สวท.นครพนม

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230920170748073

นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เชื่อมั่นมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของรัฐบาล

นายธเนศ ตันติวิริยะกิจ นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวเชื่อมโยงเศรษฐกิจของรัฐบาล เป็นสิ่งที่ภาคเอกชนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พร้อมรองรับแนวทางกระตุ้นการท่องเที่ยวของรัฐบาล อย่างมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว ระยะเร่งด่วน ด้วยมาตรการวีซ่าฟรีของ 2 ประเทศคือ จีนและคาซัคสถาน เป็นระยะเวลา 5 เดือน ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายนนี้ถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 ถือเป็นช่วงโกลเด้นวีคของตลาดจีนถึง 2 ช่วงคือ วันชาติจีน ในเดือนตุลาคมนี้ กับเทศกาลตรุษจีน ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2567 จึงถือเป็นแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจและจะส่งให้ตัวเลข GDP เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างไรก็ตาม ภาคการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต มีความเชื่อมั่นถึงมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว ที่รวมถึงประเด็นการเพิ่มศักยภาพของเที่ยวบินในการรองรับการท่องเที่ยว เพื่อตอบโจทย์ปริมาณนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น จะส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวกลับมาและจังหวัดภูเก็ตมีความพร้อมในทุกด้าน เพื่อรองรับการกลับมาของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

20/9/2023

ภาคใต้

ภูเก็ต

สวท.ภูเก็ต

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230920165251059

ผู้ประกอบการ อ.สังขละบุรี เตรียมต้อนรับนักท่องเที่ยว หลัง ครม.ออกมาตรการฟรีวีซ่า คาดสร้างเงินหมุนเวียนมากกว่า 200 ล้านบาท

ผู้ประกอบการร้านอาหารพื้นถิ่นและร้านของฝากบริเวณสะพานมอญ จุดไฮไลท์ท่องเที่ยวสําคัญในอําเภอสังขละบุรี ต่างรู้สึกดีใจที่รัฐบาลกระตุ้นการท่องเที่ยว เพิ่มโอกาสให้ต่างชาติเที่ยวไทยได้สะดวกขึ้น จึงเร่งจัดเตรียมปรับปรุงร้าน ทําป้ายภาษาจีนและภาษาอังกฤษ รวมถึงวางแผนเตรียมสินค้าให้พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวที่จะทยอยเข้ามาจํานวนมาก อย่างนักท่องเที่ยวจีนเองก็เริ่มมาเที่ยวมากขึ้น โดยเฉพาะต้นปีที่ผ่านมา มีทั้งเดินทางมาเองและมีไกด์นําทาง มาครั้ง 3-4 วัน ทําให้การค้าขายคล่องตัวขึ้นสังขละบุรีมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ทั้งสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย มีแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และศาสนา เป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ และมีประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ จุดแข็งเหล่านี้กลายเป็นจุดขาย ทําให้การท่องเที่ยวคึกคัก โรงแรม 141 แห่ง รวม 2,000 ห้อง ถูกจองเต็มในทุกช่วงเทศกาลอย่างช่วงปลายปีนี้ห้องพักจะถูกจองเต็มตั้งแต่เดือนตุลาคม สร้างรายได้ให้กับพื้นที่กว่า 200 ล้านบาท คาดหลังจากรัฐส่งเสริมวีซ่าฟรี จะเพิ่มนักท่องเที่ยวจีนและกลุ่มใหม่ๆ เข้ามาในพื้นที่มากขึ้น จากเดิมมีชาวฝรั่งเศส รัสเซีย สิงคโปร์และเกาหลีที่เดินทางมาเที่ยวข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาระบุว่า ปี 2565 มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาในไทยถึง 273,567 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 10 เท่า ขณะที่ภาพรวมการท่องเที่ยวของจังหวัดกาญจนบุรี มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเที่ยว 81,101 คน ซึ่งมากเป็นอันดับ 2 ของจังหวัดในภาคตะวันตกรองจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์สร้างรายได้เกือบ 300 ล้านบาท ขณะเดียวกันการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คาดการณ์ว่าวีซ่าฟรี จะทําให้นักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นราว 5 แสน-7 แสนคน ทําให้ในปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวรวมกว่า 4.2 ล้านคนสําหรับมาตรการ "วีซ่าฟรี" ถือเป็นมาตรการควิกวิน เพื่อกระตุ้นและนํารายได้เข้าประเทศ ซึ่งเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยว 2 ประเทศ คือ จีน และคาซัคสถานเพิ่มเติม จากเดิมให้ไปแล้ว 57 ประเทศค่ะ สามารถเดินทางเข้าไทยได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า รวมระยะเวลา 5 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2566- 29 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งครอบคลุมช่วง "โกลเด้นวีค" หรือช่วงหยุดยาวสําคัญของตลาดจีน 2 ช่วง ได้แก่ วันชาติจีน และเทศกาลตรุษจีนในเดือน ก.พ.ปีหน้า ส่วนนักท่องเที่ยวจากคาซัคสถาน มองว่าเป็นตลาดศักยภาพที่สามารถเพิ่มการเดินทางเข้าไทยได้

20/9/2023

ภาคตะวันตก

กาญจนบุรี

สวท.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230920172709087

คนขับรถโดยสารขอนแก่น ยิ้มออกหลังน้ำมันดีเซลปรับราคาลดลงลิตรละ 2 บาท ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น แต่จะให้ดีอยากให้เหลือลิตรละ 25 บาท

ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดขอนแก่น แห่งที่ 1 ถนนประชาสโมสร ซึ่งเป็นคิวรถโดยสารรับ-ส่งสาธารณะ สาย 3 สาย 4 สีเขียว ให้บริการประชาชน ภายหลังจากที่มีการปรับลดราคาน้ํามันดีเซลลงลิตรละ 2 บาท โดยที่สถานีบริการน้ํามันจังหวัดขอนแก่น ราคาจําหน่ายน้ํามันดีเซลชนิด B7 ราคาลิตรละ 29.94 บาท นั้นนายสงคราม สังวร อายุ 51 ปี เปิดเผยว่า ตนประกอบอาชีพวิ่งรถรับส่งโดยสารสาธารณะมา 10 ปี แล้ว ตั้งแต่น้ํามันลิตรละ 10 บาท เมื่อก่อนวิ่งรถตั้งแต่เช้าจะได้ทุนในช่วง 10 โมงของทุกวัน ที่เหลือจะเป็นกําไรรายได้ทั้งหมด ปัจจุบัน วิ่งรถทั้งวันเหลือเฉลี่ยหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดได้วันละ 200-300 บาทเท่านั้น การที่รัฐบาลลดราคาน้ํามันลงในครั้งนี้ ต้องขอขอบคุณนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสินอย่างมาก แต่ถ้าจะให้ดีให้อยู่ได้ไม่ลําบากดิ้นรน ขอให้ตรึงราคาดีเซลไว้ไม่เกิน 25-26 บาทต่อลิตร และขึ้นค่าโดยสาร ในส่วนของนักเรียนโตและนักศึกษาที่ยังคิดค่ารถเท่าเด็กเล็ก ราคาค่าโดยสารที่จังหวัดขอนแก่นถูกกว่าทุกจังหวัด จึงอยากให้รัฐบาลพิจารณาในเรื่องค่าโดยสารควบคู่ไปกับลดราคาน้ํามันดีเซลด้วยด้านนายประยุทธ นาหนอง คนขับรถโดยสารสาธารณะสาย 3 บอกว่า การปรับราคาน้ํามันลดลงมาแบบนี้ก็ดีแล้ว ถ้าจะให้ดีที่จะแก้ปัญหาปากท้องให้กับคนขับรถโดยสารสาธารณะคือตรึงราคาน้ํามันไม่ให้เกิน 25 บาทต่อลิตร และอีกส่วนที่จะสามารถมาช่วยบรรเทาปัญหานี้ได้คือขึ้นราคาค่ารถโดยสารในกลุ่มนักเรียนโต ให้คิดเท่ากับผู้ใหญ่ หรือปรับขึ้นอีกสัก 2-3 บาท ซึ่งปัจจุบันค่ารถโดยสารทั่วไปอยู่ที่ 10 บาท เด็กนักเรียน-นักศึกษา 6 บาท และช่วงนี้ผู้โดยสารที่จะใช้บริการก็ไม่คึกคักเท่าแต่ก่อน ซึ่งถ้าสองอย่างนี้ทําให้ได้ก็จะสามารถประกอบอาชีพเลี้ยงปากเลี้ยงท้องได้ดีมากขึ้น

20/9/2023

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ขอนแก่น

สวท.ขอนแก่น

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230920191753113

ขนส่งจังหวัดภูเก็ต เร่งหาแนวทางการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนจากการประกอบกิจการแท็กซี่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต

วันนี้ (20 กันยายน 2566) ที่ ห้องประชุมไกล่เกลี่ย ศูนย์ดํารงธรรมจังหวัดภูเก็ต ชั้น 1 นายอานุภาพ รอดขวัญ ยอดระบํา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้าผลการดําเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนจากการประกอบกิจการแท็กซี่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยมี นาวาเอกธรรมนูญ แสนดวงดี รอง ผอ.รมน.จังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.จิระศักดิ์ เสียมศักดิ์ รองผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัดภูเก็ต นายอัดชา บัวจันทร์ ขนส่งจังหวัดภูเก็ต และหัวหน้าส่วนราชการ ภาครัฐ ภาคเอกชน ที่เกี่ยวข้อง ร่วมหาแนวทางการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน จากการรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาความเดือดร้อนจากการประกอบกิจการแท็กซี่ จํานวน 3 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มรัษฎา วีไอพี คอรัล ทัวร์ หรือกลุ่มแท็กซี่ท่าเรือรัษฎา กลุ่มผู้ให้บริการรถแท็กซี่มิเตอร์ (ป้ายเหลือง) และ สหกรณ์บริการรถยนต์บริการธุรกิจภูเก็ต จํากัด (สหกรณ์) ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2566 ได้มีการประชุมซึ่งมี รอง ผอ.รมน.จังหวัดภูเก็ตเป็นประธาน โดยที่ประชุมมีมติ ให้ท่าเรือรัษฎาจัดระเบียบการจอดรถ การเข้ารับผู้โดยสารของรถแท็กซี่ application และรถแท็กซี่ทั่วไปให้เห็นชัดเจน ให้ตํารวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และขนส่งจังหวัดภูเก็ต กวดขันการจอดและการนํารถแท็กซี่ ผิดกฎหมายเข้ามารับบริการรวมทั้งการจอดรถกีดขวางการจราจรบริเวณด้านหน้าท่าเทียบเรือและบริเวณใกล้เคียง นอกจากนั้น ให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต จัดหาวัสดุอุปกรณ์สําหรับใช้ในการ จัดระเบียบรถ จัดระเบียบการจราจร โดยให้ตํารวจภูธรจังหวัดภูเก็ตเป็นหน่วยงานขอใช้วัสดุดังกล่าว และให้รายงานผลการดําเนินการให้จังหวัดภูเก็ตทราบ เพื่อประมวลผลนําเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตประกอบการวินิจฉัยต่อไป อย่างไรก็ตาม ในการประชุมครั้งนี้ มีการติดตามความคืบหน้าผลการดําเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของกลุ่มแท็กซี่รัษฎา วีไอพี คอรัล ทัวร์ (กลุ่มแท็กซี่ท่าเรือรัษฎา) กลุ่มผู้ให้บริการรถแท็กซี่มิเตอร์ (ป้ายเหลือง) และสหกรณ์บริการรถยนต์บริการธุรกิจภูเก็ต จํากัด (สหกรณ์) เพื่อให้การแก้ปัญหาเป็นรูปธรรมและมีการจัดระเบียบ อย่างถูกต้อง และได้มีการหารือในเรื่องที่สําคัญอีกเรื่อง คือการจัดทําฐานข้อมูล รถโดยสารสาธารณะ รถแท็กซี่ ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ที่มีการขออนุญาตใช้ Application ต่างๆ ว่ารถคันใด ใช้แอพพลิเคชั่นใด ซึ่งจะเป็นฐานข้อมูลที่สํานักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต จะได้ใช้เป็นฐานข้อมูลในการจัดระเบียบรถโดยสารสาธารณะ โดยข้อมูลดังกล่าว จะต้องขอจากกระทรวง DE

20/9/2023

ภาคใต้

ภูเก็ต

สวท.ภูเก็ต

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230920170731072

พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี ลงพื้นที่จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ ของเด็ดเพชรพาณิชย์ ส่งเสริมธุรกิจการค้าและตลาด

วันนี้ (20 ก.ย.66) นางสาวจินตะณา ปิ่นสุภา พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี มอบหมายกลุ่มส่งเสริมการประกอบธุรกิจการค้าและการตลาด ลงพื้นที่จัดทําสื่อประชาสัมพันธ์ ของเด็ดเพชรพาณิชย์ ในตอน “วันเดย์ทริป แก่งกระจาน” ให้กับผู้ประกอบการ ณ อําเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุ จํานวน 4 แห่ง ได้แก่ เขื่อนแก่งกระจาน อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ร้าน Coastly คาเฟ่แก่งกระจาน Le La Lake Resort and Spa ที่พักสุดชิล ติดเขื่อนแก่งกระจาน และ VILLA La FLORA คาเฟ่และที่พักติดแม่น้ําเพชรบุรี?ทั้งนี้ สามารถติดตามคลิปประชาสัมพันธ์ของสํานักงานพาณิชย์จังหวัดเพชรบุรีได้ที่ Tiktok ของเด็ดเพชรพาณิชย์ เพจ Facebook ของเด็ดเพชรพาณิชย์

20/9/2023

ภาคตะวันตก

เพชรบุรี

สวท.เพชรบุรี

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230920180816100

สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มั่นใจมาตรการฟรีวีซ่าส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวทั้ง 8 อำเภอ

นายปราโมทย์ เพชรศาสตร์ รักษาการนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า จากการที่รัฐบาลออกมาตรการฟรีวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนและคาซัคสถาน เป็นระยะเวลา 5 เดือน ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. 66-29 ก.พ.67 มั่นใจว่าจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้เป็นอย่างดี เพราะมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ มีความน่าสนใจหลากหลายกระจายอยู่ใน 8 อําเภอ ไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ในแต่ละพื้นที่ รวมทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวช้อปปิ้งที่เป็นที่ชื่นชอบของชาวจีนขณะนี้พบว่าผู้ประกอบการโรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร ธุรกิจบริการต่างๆ ด้านท่องเที่ยวตื่นตัวอย่างมาก เตรียมความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมา โดยล่าสุดมีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนจํานวนกว่า 2,000 คน เดินทางมาท่องเที่ยวที่อําเภอสามร้อยยอด สัมผัสวิถีชีวิตของคนในท้องถิ่น ท่องเที่ยวตลาดลงเลและเดินทางไปท่องเที่ยวที่อําเภออื่นๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อศึกษาวัฒนธรรมที่แตกต่าง

20/9/2023

ภาคตะวันตก

ประจวบคีรีขันธ์

สวท.ประจวบคีรีขันธ์

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230920183217110

นายอำเภอลำทะเมนชัย ประชุมขับเคลื่อนแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 ในระดับพื้นที่ตำบล

วันนี้ (20 ก.ย.66) เวลา 13.00 น. นายศิวะเสก สินโทรัมย์ นายอําเภอลําทะเมนชัย เป็นประธานการประชุมขับเคลื่อนแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 ในระดับพื้นที่ตําบล ณ ห้องประชุมชั้น 2 ที่ว่าการอําเภอลําทะเมนชัย การประชุมดังกล่าวเป็นการร่วมหารือแนวทางการจัดเก็บข้อมูลเยาวชนกลุ่ม NEETs และเด็กพิการในพื้นที่ โดยมีผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้แทนสถานศึกษาในพื้นที่ เจ้าหน้าที่จากสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) พร้อมด้วยผู้แทนองค์การทุนเพื่อเด็กแห่ง (UNICEF) ประเทศไทย เข้าร่วมการประชุม ซึ่งหลังจากนี้ จะมีการนัดหมายประชุมซักซ้อมความเข้าใจในการเก็บข้อมูลรายชื่อกลุ่มเป้าหมาย กับกํานัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นําชุมชน อีกครั้งหนึ่ง

20/9/2023

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

นครราชสีมา

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230921000832154

ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตื่นตัวพร้อมรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจากมาตรการฟรีวีซ่า มั่นใจ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในพื้นที่ทุกอำเภอ

นายปราโมทย์ เพชรศาสตร์ รักษาการนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า จากการที่รัฐบาลออกมาตรการฟรีวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนและคาซัคสถาน เป็นระยะเวลา 5 เดือน ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. 66 – 29 ก.พ.67 มั่นใจว่าจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้เป็นอย่างดีเพราะมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ มีความน่าสนใจหลากหลายกระจายอยู่ใน 8 อําเภอ ไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ในแต่ละพื้นที่ รวมทั้ง ยังมีแหล่งท่องเที่ยวช้อปปิ้งที่เป็นที่ชื่นชอบของชาวจีน ซึ่งขณะนี้พบว่าผู้ประกอบการโรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร ธุรกิจบริการต่างๆ ด้านท่องเที่ยวตื่นตัวอย่างมาก เตรียมความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่ผ่านมามีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนจํานวนกว่า 2,000 คน เดินทางมาท่องเที่ยวที่อําเภอสามร้อยยอด ไปตลาดลงเลซึ่งมีอาหารพื้นถิ่น อาหารสตรีทฟู้ดสดจากทะเล และเดินทางไปท่องเที่ยวที่อําเภออื่นๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อสัมผัสวิถีชีวิตของคนในท้องถิ่นและศึกษาวัฒนธรรมที่แตกต่าง

21/9/2023

ภาคตะวันตก

ประจวบคีรีขันธ์

สวท.ประจวบคีรีขันธ์

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230921092937193

ททท.จัดคาราวานรถยนต์ “หรอยแรง...ล่องใต้”ประจำปี 2566 แนวคิด “14:24:365 หรอยแรง...แหล่งใต้” ปักษ์ใต้-เที่ยวได้ เพื่อคนทั้งมวล (Tourism for all) พื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้

วานนี้ (20 ก.ย. 66) ที่ห้องประชุมโรงแรมสินเกียรติบุรี อําเภอเมือง จังหวัดสตูล นายชูชีพ ธรรมเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ร่วมเป็นเกียรติในงาน “หรอยแรง...ล่องใต้”ประจําปี2566 แนวคิด “14:24:365 หรอยแรง...แหล่งใต้” ปักษ์ใต้-เที่ยวได้ เพื่อคนทั้งมวล (Tourism for all) พื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ โดยมี นายไพรัช สุขงาม ผู้อํานวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สํานักงานสตูล พร้อมด้วย ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจํานวนมากสําหรับการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ สํานักงาน ททท. จังหวัดสตูล ได้ร่วมแถลงแนวทางการดําเนินแผนการตลาดท่องเที่ยวในแต่ละพื้นที่ และกิจกรรมแลกเปลี่ยน Contact โดยแหล่งท่องเที่ยวคาราวานรถยนต์ ภายใต้ชื่อกิจกรรมคาราวานรถยนต์ส่งเสริมการตลาดท่องเที่ยวภาคใต้ “หรอยแรง...ล่องใต้ ประจําปี 2566” ในวันที่ 15-26 กันยายน 2566 ณ พื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ เส้นทาง ชุมพร-สุราษฎร์ธานี- นครศรีธรรมราช-พัทลุง-สงขลา-ปัตตานี-นราธิวาส-ยะลา-สตูล-ตรัง-กระบี่-ภูเก็ต-พังงา-ระนอง ภายใต้แนวทาง “เที่ยวใต้ : สะดวกสบายทันสมัย ปลอดภัยได้มาตรฐาน และสัมผัสกับประสบการณ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสู่ ความยั่งยืน” “14:24:365 หรอยแรงแหล่งใต้” ปักษ์ใต้-เที่ยวได้ เพื่อคนทั้งมวล (Tourism for all) เพื่อส่งเสริม การตลาดภูมิภาคภาคใต้ โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ ระหว่างทางผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้สัมผัสประสบการณ์ทางการท่องเที่ยวและร่วมสํารวจ ทดสอบสินค้าทางการ ท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนในพื้นที่ภาคใต้ และเป็นการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงาน พันธมิตรในการผลักดันและส่งเสริมสินค้าท้องถิ่นให้มีศักยภาพพร้อมขาย ตลอดจนสร้างกระแสให้เกิดการรับรู้ใน การอนุรักษ์ไปพร้อมกับการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม และประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ ผ่านสื่อช่องทางต่าง ๆ อีกด้วย

21/9/2023

ภาคกลางและปริมณฑล

กรุงเทพมหานคร

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสตูล

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230921092025187

เดินหน้าพัฒนากาแฟโรบัสต้า แปรรูปผลิตภัณฑ์ เพิ่มมูลค่าสู่ตลาดสากล

ศอ.บต. เตรียมพัฒนากาแฟสายพันธุ์โรบัสต้า นําผลผลิตแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ เพิ่มมูลค่า สู่ตลาดสากล จากความร่วมมือของศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ที่ได้ร่วมกับบริษัท ปตท. น้ํามันและการค้าปลีก จํากัด (มหาชน) ผู้นําธุรกิจ “คาเฟ่อเมซอน” ส่งเสริมและผลักดันการสร้างองค์ความรู้ ถ่ายทอดเทคโนโลยีและประสบการณ์ให้เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้าสามารถผลิตเมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพ สร้างแบรนด์กาแฟให้เป็นที่ต้องการของตลาด คงรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่อนาคตจะสร้างงาน สร้างรายได้ ให้เพียงพอต่อการดํารงชีวิตที่ดียิ่งขึ้นโดยกระบวนการพัฒนาและผลสําเร็จที่ผ่านมาได้ขยายพื้นที่เพาะปลูกกาแฟโรบัสต้าให้กับเกษตรกรไปแล้วรวมจํานวน 30,154 ต้น คิดเป็น 760 ไร่ ประสานภาคธุรกิจรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกร ซึ่งปี 2566 ได้ดําเนินการรับซื้อผลผลิตจากวิสาหกิจชุมชน จํานวน 200 กิโลกรัม เพื่อทดสอบคุณภาพและพัฒนารสชาติกาแฟให้เป็นอัตลักษณ์ของในพื้นที่ อีกทั้ง ยังได้สนับสนุนโรงตากอบพาลาโบล่าโดม ควบคุมความชื้นและรสชาติ พัฒนาศักยภาพการผลิตผ่านการอบรมเดือนละ 1 ครั้ง ดําเนินการรองรับผลผลิตกาแฟอัตลักษณ์เฉพาะถิ่นชายแดนใต้ภายใต้ร้าน Caf? amazon สาขา ศอ.บต. โดยมีคอนเซ็ปต์ “นกกระดาษ” ที่แสดงถึงสัญลักษณ์ของ “สันติภาพ” ทั้งนี้คณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้ศึกษากาแฟพื้นเมือง /กาแฟโบราณ เก็บรักษาพันธุ์ ศึกษาการเจริญเติบโต และขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเนื้อเยื่อจากต้นพันธุ์กาแฟโรบัสต้าที่แข็งแรง ให้ผลผลิตสูงมีภูมิต้านทาน สามารถเจริญเติบโตได้ดี ทนทานต่อสภาพในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้จากผลการดําเนินการข้างต้นส่งผลให้ศอ.บต. สํานักงานเกษตร อําเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ได้รับรางวัล เลิศรัฐประเภทร่วมใจแก้จน ระดับดีเด่น ประจําปี พ.ศ. 2566 ภายใต้ชื่อผลงาน “วิสาหกิจชุมชนอําเภอสะบ้าย้อย ยกระดับกาแฟโรบัสต้าแก้จนคนชายแดนใต้อย่างยั่งยืน” การรับซื้อและพัฒนารสชาติกาแฟพื้นถิ่น/กาแฟ 150 ปี ทั้งนี้ ในปี 2567 จะมีการดําเนินการแก้ไขปัญหาในแปลงให้สามารถผลิตกาแฟและมีผลผลิตที่เฉลี่ย ต่อไร่สูงขึ้น ส่งเสริมให้มีการสร้างผลิตภัณฑ์ของกลุ่มฯ เช่น กาแฟดิบ กาแฟสด ชาดอก ผ้ามัดย้อมจากใบกาแฟ สบู่และสครับจากกากกาแฟและเมล็ดกาแฟที่ไม่ใช้ จํานวนไม่น้อยกว่า 3 พื้นที่ ได้แก่ ตําบลบาโหยและตําบลบ้านโหนด อําเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา และอําเภอธารโต จังหวัดยะลา นอกจากนี้ จะมีการขยายจุดเรียนรู้การทํากาแฟคุณภาพรวบรวมผลผลิตกาแฟในพื้นที่ไม่น้อยกว่า 2 จุด และขยายพื้นที่ปลูกใหม่และปลูกเดิมในพื้นที่ภายใต้การจัดการแปลงกาแฟคุณภาพ จํานวนไม่น้อยกว่า 10,000 ต้น พร้อมจัดหาเครื่องวัดความชื้น เพื่อให้ได้ผลผลิตคุณภาพมาตรฐานตลาดสากล ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรในพื้นที่ จํานวน 2 พื้นที่ได้แก่อําเภอสะบ้าย้อย “จิบกาแฟ แลถ้ํา” และอําเภอธารโต “จิบกาแฟ ชมหมอก” ต่อไป

21/9/2023

ภาคใต้

ยะลา

สทท.ยะลา

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230921092312188

ตำรวจท่องเที่ยว วางมาตรการด้านความมั่นคงปลอดภัยคุ้มครองนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวของไทย

พลตํารวจโท สุคุณ พรหมายน ผู้บัญชาการตํารวจท่องเที่ยว กล่าวว่า นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมอํานวยความสะดวกรองรับนักท่องเที่ยว หลังจากรัฐบาลมีนโยบาย Visa Free ชั่วคราวให้นักท่องเที่ยวชาวจีนและคาซัคสถาน เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2566 - 29 กุมภาพันธ์ 2567 รวมระยะเวลา 5 เดือน พบว่าขณะนี้มียอดจองห้องพักและเที่ยวบินเพิ่มมากขึ้น และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นช่วงปลายปี หรือฤดูกาลท่องเที่ยวของไทย ในส่วนของการท่องเที่ยวได้ออก 2 มาตรการรองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยว ทั้งบูรณการร่วมกับภาคเอกชน สมาคมธุรกิจที่เกี่ยวข้องสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย ซึ่งทุกหน่วยงานดําเนินการไปแล้ว ส่วนด้านความมั่นคงกองบัญชาการตํารวจท่องเที่ยวจะเป็นหน่วยงานหลักของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา บูรณการทํางานร่วมกับศูนย์ 191 และ 1162 ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ( ททท.) ตั้งศูนย์ช่วยเหลือดูแลนักท่องเที่ยว วางมาตรการดูแลด้านความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ที่สามารถสื่อสารได้ทั้งภาษาจีน อังกฤษ ญี่ปุ่น เกาหลี อาหรับ รัสเซีย เมียนมา และมาเลซีย เพื่อส่งข้อมูลในการช่วยเหลือ นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ควบคู่การให้ความช่วยเหลือผ่าน แอปพลิเคชัน Tourist Police i lert u รวมถึงการออกตรวจแหล่งท่องเที่ยวสําคัญ และการปราบปราบกลุ่มธุรกิจสีเทา ที่ผิดกฎหมาย เอาเปรียบนักท่องเที่ยว หลอกลวงซื้อสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมามีการร้องเรียนจากนักท่องเที่ยว ส่วนใหญ่เป็นชาวจีน ขอความช่วยเหลือด้านการสื่อสารด้านที่พัก หรือเหตุทะเลาะวิวาท รวมถึงรับแจ้งเตือนเรื่องภัยพิบัติ แหล่งท่องเที่ยวที่มีความเสี่ยงจากภัยพิบัตินอกจากนี้ ตํารวจท่องเที่ยวยังได้ประสานงานกับสถานทูตทุกประเทศ ร่วมสอดส่องด้านการข่าวที่ทําลายความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยวของไทยและยังเข้มงวดร้านเช่ายานพาหนะทุกประเภทต้องได้รับใบรับอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมายหากเกิดอุบัติเหตุนักท่องเที่ยวจะได้รับการคุ้มครอง

21/9/2023

ภาคกลางและปริมณฑล

กรุงเทพมหานคร

สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230921094649210

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ร่วมกับสภาเกษตรกรแห่งชาติ ลงพื้นที่ให้คำแนะนำเกษตรกร ใช้ประโยชน์จาก FTA

นางสาวบุณิกา แจ่มใส รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่พบเกษตรกร วิสาหกิจชุมชนและผู้ประกอบการ จังหวัดน่าน ร่วมกับสภาเกษตรกรแห่งชาติ พร้อมจัดสัมมนาให้ความรู้ความเข้าใจเรื่องความตกลงการค้าเสรี (FTA) และแลกเปลี่ยนข้อมูลเรื่องสถานการณ์การค้าสินค้าในพื้นที่ ทั้งกาแฟ ชาอัสสัม ลําไยอีดอ และผ้าทอน่าน โดยมุ่งเน้นให้เร่งใช้ประโยชน์จาก FTA ที่ไทยทํากับคู่ค้า 14 ฉบับ กับ 18 ประเทศ ซึ่งได้ยกเว้นภาษีนําเข้าให้กับสินค้าส่วนใหญ่จากไทยแล้ว โดยได้นําวิทยากรผู้เชี่ยวชาญการค้าระหว่างประเทศ ให้คําแนะนําเรื่องกลยุทธ์การทําตลาด พฤติกรรมผู้บริโภครุ่นใหม่ สินค้า BCG และแนวทางการเพิ่มมูลค่าสินค้า ทั้งการสร้างเรื่องราวและการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีสร้างความแตกต่างของสินค้า เพื่อให้เกษตรกร วิสาหกิจชุมชนและผู้ประกอบการ สามารถนําความรู้ที่ได้รับไปพัฒนาต่อยอดสินค้า ให้สามารถแข่งขันได้และเข้าถึงช่องทางตลาดเพิ่มขึ้นทั้งนี้ ได้หารือกับผู้ประกอบการกาแฟ ห้างหุ้นส่วนจํากัด น่านดูโอ คอฟฟี่ อําเภอเวียงสา และวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแปรรูปกาแฟสวนยาหลวง อําเภอท่าวังผา แนะนําทิศทางการเติบโตของตลาดกาแฟ ให้สามารถใช้สิทธิประโยชน์จาก FTA เพื่อเพิ่มแต้มต่อขยายตลาดส่งออก ซึ่งปัจจุบันคู่ค้า FTA ส่วนใหญ่ได้ยกเว้นการเก็บภาษีนําเข้าสินค้ากาแฟจากไทยทุกรายการแล้ว นอกจากนี้ ยังได้พบปะกับวิสาหกิจชุมชนเมี่ยงชาอัสสัมแปรรูป อําเภอปัว ซึ่งเป็นแหล่งปลูกชาอัสสัมขนาดใหญ่ในไทย โดยให้คําแนะนําเรื่องโอกาสทางการค้าของสินค้าชาในตลาดโลก ซึ่งเป็นสินค้าที่ตอบโจทย์เทรนด์โลกโดยเฉพาะผู้บริโภคที่รักสุขภาพ รวมทั้งพบกับวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ลําไยพญาแก้ว อําเภอเชียงกลาง เกษตรกรผู้ปลูกลําไยพันธุ์อีดอ พร้อมสนับสนุนให้ใช้ประโยชน์จาก FTA ขยายตลาดส่งออกไปอาเซียนและจีน ซึ่งนิยมบริโภคลําไยของไทย และได้ยกเว้นการเก็บภาษีนําเข้าให้กับสินค้าลําไยสดจากไทยแล้ว

21/9/2023

ภาคกลางและปริมณฑล

กรุงเทพมหานคร

สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230921094934212

กรมการค้าต่างประเทศ แนะผู้ส่งออกไทยเตรียมพร้อมรับมือความท้าทายใหม่ หลังอินเดียกำหนดให้สินค้ากลุ่มแล็ปท็อป แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ ที่จะนำเข้าอินเดีย ต้องขอใบอนุญาต เริ่ม 1 พ.ย. 66 นี้

นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า อินเดีย ออกประกาศว่าด้วยการปรับปรุงนโยบายการนําเข้าสินค้าภายใต้พิกัดอัตราศุลกากร 8471 เฉพาะสินค้า 7 รายการ ตามพิกัดอัตราศุลกากรอินเดีย ซึ่งครอบคลุมถึงชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ แล็ปท็อป แท็บเล็ต และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล โดยกําหนดให้การนําเข้าสินค้าในกลุ่มดังกล่าวเข้าสู่อินเดียต้องขอใบอนุญาตนําเข้า ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม การบังคับใช้มาตรการดังกล่าวมีข้อยกเว้นให้ไม่ต้องขอใบอนุญาต เช่น การนําเข้าไปเพื่อวัตถุประสงค์การศึกษาวิจัยและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ (R&D) การทดสอบ การประเมิน การซ่อมบํารุง การส่งกลับ เป็นต้น ทั้งนี้ ผู้ประกอบการในประเทศไทย ในฐานะคู่ค้าใน Supply chain ของอินเดีย จึงควรศึกษาแนวทางการออกใบอนุญาต สําหรับสินค้าในกลุ่ม แล็ปท็อป แท็บเล็ต อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ภายใต้พิกัดอัตราศุลกากร 8471 เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับมาตรการใหม่ ที่จะเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 โดยในช่วงเปลี่ยนผ่านตั้งแต่ปัจจุบันถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2566 สามารถนําเข้าสู่อินเดียได้โดยไม่จําเป็นต้องขอใบอนุญาตนําเข้าอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลอินเดียมั่นใจว่าการบังคับใช้มาตรการดังกล่าว จะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมการผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของอินเดีย ช่วยสร้างโอกาสในการจ้างงานและรายได้หมุนเวียนในประเทศจํานวนมาก ในขณะเดียวกันจะสร้างความท้าทายต่อผู้ผลิตรายใหญ่ที่ดําเนินการผลิตและจัดจําหน่ายสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ แล็ปท็อป แท็บเล็ต และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในอินเดีย รวมถึงคู่ค้าตลอด Supply chain ในประเทศต่าง ๆ ซึ่งอาจมีต้นทุนเพิ่มขึ้นจากการผลิตและบริหารจัดการที่จะเกิดขึ้นจากมาตรการนี้ นําไปสู่ความจําเป็นที่ต้องมีการปรับราคาสินค้าและปรับระยะเวลาการดําเนินตามแผนการผลิตเพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดอินเดียได้ ซึ่งในปี 2563 อินเดียได้เคยดําเนินมาตรการในลักษณะเดียวกันกับการนําเข้าสินค้าโทรทัศน์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความจริงจังและมุ่งมั่นของอินเดียในการดําเนินมาตรการส่งเสริมอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศอย่างต่อเนื่อง

21/9/2023

ภาคกลางและปริมณฑล

กรุงเทพมหานคร

สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230921104948245

จ.นราธิวาส ประชาชนเป็นจำนวนมากให้ความสนใจร่วมชมการฝึกซ้อมพายเรือริมเขื่อนท่าพระยาสาย บรรยากาศคึกคัก เสริมสร้างภาพลักษณ์การท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยจะเข้าร่วมแข่งขันฯ ชิงถ้วยพระราชทานหน้าพระที่นั่ง วันที่ 22-24 กันยายน นี้

บรรยากาศที่บริเวณริมเขื่อนท่าพระยาสาย อําเภอเมืองนราธิวาส เป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนทั้งในพื้นที่และจังหวัดใกล้ ร่วมชมการฝึกซ้อมพายเรือ โดยว่าที่ร้อยตรี จิรัสย์ ศิริวัลลภ นายอําเภอเมืองนราธิวาส กล่าวว่า ในช่วงวันที่ 22-24 กันยายน 2566 จะมีการแข่งขันเรือกอและ เรือยอกอง และเรือคชสีห์ ชิงถ้วยพระราชทานหน้าที่พระที่นั่งซึ่งเป็น 1 ในกองงาน งานของดีเมืองนรา ครั้งที่ 46 ช่วงที่ผ่านมามีประชาชนมาร่วมชมอย่างเนืองแน่นทุกวัน สร้างความสุข บริเวณนี้มีภาคเอกชนเปิดตลาดริมเขื่อน เกิดการจับจ่ายใช้สอยเกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนในพื้นที่ อีกทั้งตลาดแห่งนี้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียด้วย ขณะเดียวกันกลุ่มเด็ก และเยาวชน ก็ให้ความสนใจมาร่วมชมเป็นจํานวนมาก มองว่ากีฬาพายเรือจะกระตุ้นให้เยาวชนได้ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ ห่างไกลจากยาเสพติดในส่วนของอําเภอเมืองนราธิวาส ให้การส่งเสริมบรรยากาศการค้าขาย โดยเฉพาะการท่องเที่ยวควบคู่กับธุรกิจโรงแรมที่พัก ได้จัดตั้งชมรมผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมอําเภอเมืองนราธิวาส เพื่อสร้างเครือข่ายในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร รวมถึงสร้างมาตรฐานของโรงแรมที่พักเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวชาวไทยชาวมาเลเซีย ทําให้ประชาชนได้รับประโยชน์ เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีด้านการท่องเที่ยวทั้งนี้ ขอเชิญเชิญประชาชนร่วมชมการแข่งขันเรือกอและ เรือยอกอง และเรือคชสีห์ ชิงถ้วยพระราชทานหน้าที่พระที่นั่งแห่งเดียวของประเทศไทย วันที่ 22-24 กันยายน นี้

21/9/2023

ภาคใต้

นราธิวาส

สวท.นราธิวาส

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230921112209271

จังหวัดแพร่มีรายได้จากการท่องเที่ยวหลังวิกฤตโควิด ทะลุ 3,000 ล้าน ตั้งเป้าปี 2567 เปิดปฏิทินท่องเที่ยวแพร่อย่างยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

นายชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เปิดเผยว่า การท่องเที่ยวเป็นกิจกรรมที่จะช่วยสร้างรายได้กระตุ้นเศรษฐกิจหลังวิกฤติโควิดได้เร็วที่สุด โดยในปี 2565 ที่ผ่านมาจังหวัดแพร่มีรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งปีอยู่ที่ 1,800 ล้านบาท หลังจากมารับตําแหน่งได้หารือร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคประชาชน และสื่อมวลชน ร่วมกันกําหนดเป้าหมายและร่วมขับเคลื่อนการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตั้งเป้ารายได้ไม่น้อยกว่า 3,000 ล้านบาท เพียง 10 เดือนแรกของปี 2566 กรมการท่องเที่ยวเก็บตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาเที่ยวชมศิลปวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี งานอีเว้นท์ และแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ส่งผลให้จังหวัดแพร่มีรายได้จากการท่องเที่ยวถึง 3,000 ล้านบาท คาดว่าจะทะลุเป้าที่วางไว้แน่นอน ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ กล่าวอีกว่า ในปี 2567 โดยการบูรณาการทํางานร่วมกันทุกภาคส่วนของจังหวัดแพร่ ตั้งเป้าหมายที่จะดึงนักท่องเที่ยวมาเที่ยวจังหวัดแพร่ ในรูปแบบการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ไม่กระทบกับสิ่งแวดล้อม จะมีรายได้เพิ่มขึ้นระหว่าง 3,500-4,000 ล้านบาท โดยเฉพาะเรื่องอาหารพื้นเมืองจังหวัดแพร่มีความโดดเด่น การเข้ามาจับจ่ายซื้อข้าวของ ของฝากของที่ระลึก เมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามาจับจ่ายซื้อของในจังหวัดแพร่เม็ดเงินทั้งหมดจะกระจายไปสู่ประชาชนชาวจังหวัดแพร่ในสาขาอาชีพต่างๆ เกษตรกรได้ขายสินค้าด้านการเกษตร กลุ่มอาชีพต่างๆ มีรายได้เสมอภาคกัน โดยเฉพาะที่บ้านนาคูหา และบ้านแม่ลัว อําเภอเมืองแพร่ เป็นจุดท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่จังหวัดกําลังพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเพื่อให้ชาวบ้านมีรายได้เสมอภาคกันนายชุติเดช กล่าวว่า เดือนสุดท้ายของปีงบประมาณ จังหวัดแพร่พยายามเก็บกวาดเม็ดเงินที่เหลือจ่ายจากโครงการอื่น เพื่อดําเนินโครงการ 2 โครงการ คือ กิจกรรมที่ 1.โครงการ Phrae Street Craft Festival 2023 ที่ถนนบริเวณเมฆฮิมคือ ทําเป็นถนนโชว์งานหัตถกรรมที่โดดเด่นของกลุ่มอาชีพต่างๆ ในจังหวัดแพร่ เพื่อเป็นแหล่งสร้างรายได้ให้กับประชาชนในกลุ่มอาชีพต่างๆ โดยเน้นการร่วมกลุ่มเพื่อเพิ่มปริมาณการผลิตให้ทันความต้องการของลูกค้าโดยท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเป็นเจ้าภาพ พร้อมเปิดปฏิทินการท่องเที่ยวของจังหวัดแพร่ปีหน้า จะทําอย่างไรที่จะนํานักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวจังหวัดแพร่ได้อย่างยั่งยืนกิจกรรมที่ 2 โครงการจัดมินิแสงสีเสียงสืบสานตํานานเมืองลองที่ห่างหายไปในช่วงโควิด โดยความร่วมมือกับอาจารย์โกมล พานิชพันธ์ เจ้าของพิพิธภัณฑ์โกมลผ้าโบราณ และกลุ่มต่างๆ ในพื้นที่อําเภอลอง ที่มีศักยภาพในพื้นที่มาร่วมกันแสดงพลังถ่ายทอดงานแสงสีเสียง หากการต้อนรับสร้างความประทับใจ ผู้คนก็จะกล่าวถึงจังหวัดแพร่และมาเที่ยวที่จังหวัดแพร่เพิ่มมากขึ้น “หลักฐานทางประวัติศาสตร์ 1,000 กว่าปีของจังหวัดแพร่อยู่ที่อําเภอลอง พระนางจามเทวีได้ทิ้งร่องรอยการจาริกมาถึงเมืองลองไว้ เรามีบทเรียนทางประวัติศาสตร์กลุ่มพันธมิตรทิ้งระเบิดที่สะพานเมืองลอง เพื่อจะตัดเส้นทางการเดินทัพของญี่ปุ่น ร่องรอยทางประวัติศาสตร์ยังปรากฏอยู่ที่เมืองลอง ซึ่งจะเก็บเรื่องราวเหล่านี้มาทําเป็นมินิแสงสีเสียงสืบสานตํานานเมืองลอง โดยทั้ง 2 งาน รวมถึงการเปิดตัวปฏิทินท่องเที่ยวจังหวัดแพร่ มีการประชาสัมพันธ์ล่วงหน้าเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้วางแผนมาเที่ยวที่อําเภอลอง และที่จังหวัดแพร่เพิ่มมากขึ้น” ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่กล่าว

21/9/2023

ภาคเหนือ

แพร่

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230921113124275

ทอท. แจงภาพผู้โดยสารหนาแน่นแถวคอยนานกว่า 3 ชั่วโมง ไม่เป็นความจริง สามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อํานวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) (ทอท.) กล่าวว่า ตามที่มีการเผยแพร่ภาพผู้โดยสารหนาแน่นบริเวณจุดตรวจลงตราหนังสือเดินทาง ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ในสื่อสังคมออนไลน์ พร้อมระบุว่าใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง นั้น ทอท. ในฐานะผู้บริหารท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งรวมถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ขอชี้แจงว่าโพสต์ ดังกล่าวไม่เป็นความจริง จากการตรวจสอบการให้บริการระหว่างวันที่ 1-31 สิงหาคมที่ผ่านมาพบว่า กระบวนการผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศใช้เวลาสูงที่สุดเพียง 40 นาที และเวลารอคิวน้อยที่สุดใช้เวลาเพียง 12 นาที เฉลี่ยโดยรวมผู้โดยสารใช้เวลาประมาณ 25 นาที ทั้งนี้ ในช่วง Peak Hour ผู้โดยสารจะใช้เวลารอคิวเพื่อตรวจหนังสือเดินทางเฉลี่ย 15 นาที และใช้เวลาหน้าเคาน์เตอร์ตรวจหนังสือเดินทาง 60 วินาทีต่อคน ซึ่งระยะเวลาดังกล่าว ทอท. สามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นไปตามคําแนะนําขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization: ICAO) ที่ท่าอากาศยานควรปฏิบัติในเรื่องระยะเวลาการไหลเวียนผู้โดยสารขาเข้า – ขาออก (Annex 9) โดยแนะนําให้กระบวนการผู้โดยสารขาเข้าไม่ควรเกิน 45 นาที และผู้โดยสารขาออกไม่ควรเกิน 60 นาทีสําหรับท่าอากาศยานอีก 5 แห่ง ประกอบด้วยท่าอากาศยานดอนเมือง แม่ฟ้าหลวงเชียงราย หาดใหญ่ เชียงใหม่ และภูเก็ต ทอท. ได้กําหนดการดําเนินงานในขั้นตอนกระบวนการผู้โดยสารระหว่างประเทศขาเข้า – ขาออกมีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นไปตามคําแนะนําของ ICAO เพื่อให้เป็นมาตรฐานสากลเช่นกัน

21/9/2023

ภาคกลางและปริมณฑล

กรุงเทพมหานคร

สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230921132601298

มุมข่าว..เยาวชน การทำ"ขนมอังกู๊" เยาวชนโรงเรียนเทศบาลบ้านบางเหนียว

วันนี้...ลงไปที่จังหวัดภูเก็ต พาไปดูการทํา "ขนมอังกู๊ " หรือ "ขนมเต่าแดง" สัญลักษณ์ของประเพณีพ้อต่อ หรือว่าวันสารทจีนของชาวภูเก็ต โดยน้องๆ โรงเรียนเทศบาลบ้านบางเหนียว ได้ร่วมกันอนุรักษ์สืบสาน ให้คงอยู่คู่ชาวภูเก็ต ติดตามได้ใน "มุมข่าวเยาวชน"สายข่าว NBT

21/9/2023

ภาคกลางและปริมณฑล

กรุงเทพมหานคร

หน่วยงานสำนักข่าว

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230921150811355

จังหวัดอุทัยธานี จัดกิจกรรมฝึกอบรมเกษตรกรและมอบรางวัลการประกวดโครงการส่งเสริมแปลงเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง

จังหวัดอุทัยธานี จัดกิจกรรมฝึกอบรมเกษตรกรและมอบรางวัลการประกวดโครงการส่งเสริมแปลงเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง และเกษตรทฤษฎีใหม่ตามแนวพระราชดําริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ตามสโลแกน “เกษตรพอเพียงในสถานศึกษา ตามแนวพระราชดําริฯ”เวลา 11.00 น. วันนี้ (21 ก.ย.66) ณ อาคารสวนน้ําเฉลิมพระเกียรติ (บึงพระชนก) ตําบลเกาะเทโพ อําเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานีเป็นประธานเปิดกิจกรรมฝึกอบรมเกษตรกรและมอบรางวัลการประกวดโครงการส่งเสริมแปลงเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง และเกษตรทฤษฎีใหม่ตามแนวพระราชดําริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และมอบรางวัลการประกวดโครงการสิ่งแวดล้อมศึกษาเพื่อนําไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน "เกษตรพอเพียงในสถานศึกษา ตามแนวพระราชดําริฯ" ประจําปี 2566 พร้อมด้วย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุทัยธานี ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุทัยธานี สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุทัยธานี หัวหน้าส่วนราชการแขกผู้มีเกียรติ และเกษตรกร กว่า 2,700 คนร่วมกิจกรรม โดยนายเผด็จ นุ้ยปรี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุทัยธานี เป็นผู้กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ในการจัดกิจกรรมนายเผด็จ ฯ กล่าวว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุทัยธานีได้บูรณาการ ร่วมกับจังหวัดอุทัยธานีและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องขับเคลื่อนเกษตรปลอดภัยและทฤษฎีใหม่ ในครัวเรือนโดยได้จัดทําโครงการอบรมเกษตรกร และประกวดแปลงเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ตามแนวพระราชดําริของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 จนถึงปัจจุบัน เป็นเวลา 17 ปี และต่อมาเมื่อปี 2559 ได้ขยายโครงการไปสู่สถานศึกษาโดยจัดทําโครงการสิ่งแวดล้อมศึกษาเพื่อนําไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน “เกษตรพอเพียงในสถานศึกษาตามแนวพระราชดําริฯ” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นให้เกษตรกรประกอบอาชีพเกษตรกรรมตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ และเพื่อเป็นการกระตุ้นและส่งเสริมให้เกษตรกร นักเรียนได้น้อมนําปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ตามแนวพระราชดําริฯไปประยุกต์ใช้ในครอบครัวอันเป็นกลยุทธ์หลักในการแก้ไขปัญหาความยากจนที่ยั่งยืนต่อไปโดยกิจกรรมประกอบด้วย ช่วงเช้าเป็นการอบรมให้ความรู้แก่เกษตรกรที่มาร่วมงาน และเวลา 11.00 น.เป็นพิธีมอบรางวัลและประกาศเกียรติคุณแก่เกษตรกรผู้ชนะเลิศการประกวดโครงการส่งเสริมแปลงเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงฯ ประเภทแบบก้าวหน้ามืออาชีพและมือใหม่ รวม 3ประเภท ระดับตําบล ระดับอําเภอ และระดับจังหวัด รวม 65 รางวัล รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 815,000 บาท และพิธีมอบรางวัล "เกษตรพอเพียงในสถานศึกษา ตามแนวพระราชดําริฯ" จํานวน 4 ประเภท รวม 16 รางวัล รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 240,000 บาท เยี่ยมชมนิทรรศการผลงานของนักศึกษาที่ได้รับรางวัลดังกล่าว

21/9/2023

ภาคกลางและปริมณฑล

อุทัยธานี

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุทัยธานี

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230921142501327