title
stringlengths 2
223
| body
stringlengths 496
195k
| summary
stringlengths 34
1.83k
| type
stringlengths 4
98
⌀ | tags
stringlengths 2
1.52k
⌀ | url
stringlengths 27
112
|
---|---|---|---|---|---|
ปธ.คณะกรรมการโอลิมปิก เยี่ยมชมการฝึกซ้อมของ พีทีที บลูเวฟ | วันที่ 16 เม.ย.61 มร. โธมัส บาค ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกระหว่างประเทศ ซึ่งเดินทางมายัง ประเทศไทย เพื่อเข้าร่วมประชุมใหญ่สมัชชาสหพันธ์กีฬานานาชาติ สปอร์ต แอคคอร์ด 2018 ระหว่าง 15-20 เมษายน นี้ พร้อมด้วย นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการ กกท., คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ไอโอซีเมมเบอร์, พันโท รุจ แสงอุดม รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายกีฬาอาชีพ และ สิทธิประโยชน์, คุณ ณัฐวุฒิ เรืองเวส รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศ และวิทยาศาสตร์การกีฬา,ได้เข้าไปเยี่ยมชมการฝึกซ้อม ของ นักกีฬา ทีมชาติ ไทย อาทิ วอลเลย์บอลหญิง ทีมชาติ ไทย, มวยสากลสมัครเล่น และ เทควันโด ที่ อาคารศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา กกท. หัวหมาก รวมถึงได้เยี่ยมชมการฝึกซ้อม ของ ทัพ ฉลามพลังเพลิง พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อม สู้ศึก ฤดูกาล 2018 ที่จะเปิดขึ้น ในวันที่ 21 เมษายน นี้,สำหรับบรรยากาศ ของการเยี่ยมชมการฝึกซ้อม ของ ประธานไอโอซี เป็นไปอย่างกันเอง ซึ่งทาง มร. โธมัส บาค ได้ร่วมพูดคุย และทักทายนักเตะ ทีมงานผู้ฝึกสอน ของ พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที รวมถึงได้โชว์ลีลาการเดาะบอล ให้กับสื่อมวลชน ที่เดินทางมารายงานข่าวในครั้งนี้ ได้ชม,ซึ่งจุดประสงค์ ของ มร.โธมัส บาค ที่ต้องการเยี่ยมชม การฝึกซ้อม ของ นักกีฬา ทีมชาติ ไทย โดยเฉพาะ วอลเลย์บอล หญิง ทีมชาติ ไทย และ สโมสร พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี เนื่องจาก นักกีฬาสองทีมนี้ สามารถทำผลงาน ในเวทีระดับนานาชาติได้อย่างน่าประทับใจ ทั้งการผ่านเข้าไปเล่น เวิลด์กรังด์ปรีซ์ ของทีมนักตบสาวไทย และการคว้าแชมป์หลากหลายรายการ ของ พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ทั้งแชมป์ ฟุตซอล ไทยลีก ฤดูกาลล่าสุด, แชมป์ สโมสร ชิงแชมป์ เอเชีย 2017 และการผ่านเข้าไปเล่น ฟุตซอล สโมสร ชิงแชมป์โลกในปีนี้อีกด้วย ซึ่งความสำเร็จทั้งหมดนี้ ทำให้ ประธานไอโอซี ให้การสนใจกีฬา 2 ชนิดนี้ มากเป็นพิเศษ,นอกจากนี้ มร. โธมัส บาค ยังได้กล่าวอวยพร ให้กับ นักเตะ และ ทีมงานผู้ฝึกสอน ของ พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี โชคดี กับการแข่งขัน ในฤดูกาล 2018 ที่กำลังเปิดขึ้นอีกด้วย,โดยทาง บิ๊กแปม ธัชพัทธ์ เบ็ญจศิริวรรณ ประธานสโมสร ฉลามพลังเพลิง พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี เปิดเผยว่า ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ มร. โธมัส บารค ประธานคณะกรรมการโอลิมปิก ได้เดินทางเข้ามาชมการซ้อมของสโมสรเรา ในสถานะตัวเเทนของ สโมสรผมขอขอบคุณสำหรับคำอวยพรเเละโอกาสในครั้งนี้ เราได้เผยแพร่กีฬาฟุตซอลซึ่งจะเป็นกีฬาที่ได้รับความสนใจจากคนทั่วโลกในเวลาอีกไม่นาน | มร. โธมัส บาค ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกฯ ได้เดินทางเข้าไปยังสนามซ้อมของ พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ยอดทีมโต๊ะเล็กของไทยเพื่อชมการฝึกซ้อม | กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์ | บิ๊กแปม,ธัชพัทธ์ เบ็ญจศิริวรรณ,พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี,มร.โธมัส บาค,เอไอเอส ฟุตซอล ไทยลีก | https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/1257604 |
น.ช.ชั้นดีใกล้พ้นโทษ ขอผู้คุมพบเมียหน้าเรือนจำ ก่อนเตลิดหนีทั้งคู่ | เวลา 12.40 น. วันที่ 4 เม.ย. 60 นายอุทัย จำปามั่น อายุ 36 ปี นักทัณฑวิทยาชำนาญการ เรือนจำจังหวัดหนองบัวลำภู เข้าลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองหนองบัวลำภู ว่าเมื่อวันที่ 3 เม.ย. 60 เวลาประมาณ 14.30 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่เรือนจำนำผู้ต้องขังมาทำงานจ่ายนอกที่บริเวณด้านหน้าเรือนจำ ขณะทำงาน น.ช.สาคร หรือ เอ บุญทานันท์ อายุ 32 ปี ชาวบ้าน หมู่ 5 ต.ดินจี่ อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ ผู้ต้องขังในคดียาเสพติด ต้องโทษ 3 ปี ซึ่งเดือน มิ.ย. 60 อีกไม่ถึง 3 เดือน จะพ้นโทษ ได้ขออนุญาตผู้คุมไปพบ น.ส.กัลยารัตน์ ยุบลชัย ภรรยา ที่มารอพบบริเวณป้อมยามหน้าเรือนจำ ก่อนจะพากันขึ้นรถสามล้อเครื่องหลบหนีไปทาง อ.สุวรรณคูหา หลังจากตรวจพบมีผู้ต้องขังหลบหนี เจ้าหน้าที่เรือนจำได้กระจายกำลังกันออกติดตามแต่ไร้วี่แวว หลังจากนั้นได้เข้าแจ้งกับ พ.ต.อ.รัชพล เสริมสรันย์ ผกก.สภ.เมืองหนองบัวลำภู เพื่อดำเนินคดีกับ น.ช.สาคร ในข้อหาหลบหนีการควบคุมตัวโดยหมายศาล และ น.ส.กัลยารัตน์ ในข้อหาอำนวยความสะดวกในการหลบหนีแก่ผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เรือนจำได้นำภาพและข้อมูลของ น.ช.สาคร ไปติดตามสถานที่ต่างๆ เพื่อให้ประชาชนช่วยติดตาม แจ้งเบาะแสนักโทษรายนี้มาดำเนินคดีกันต่อไป. | คิดสั้น!! นักโทษชายชั้นดีใกล้พ้นโทษอีก 3 เดือน ออกทำงานหน้าเรือนจำหนองบัวลำภู ขอผู้คุมพบเมียที่มารอหน้าป้อม ก่อนพากันหลบหนีขึ้นสามล้อเครื่อง จนท.ต้องกระจายกำลังออกติดตาม แต่ไร้วี่แวว นักทัณฑวิทยาต้องเข้าแจ้งความตำรวจ | ข่าว | นักโทษหนี,นักโทษใกล้พ้นโทษ,เรือนจำหนองบัวลำภู,กัลยารัตน์ ยุบลชัย,หนองบัวลำภู | https://www.thairath.co.th/news/904832 |
นปช. นัดชุมนุมใหญ่ 3 วันติดลุ้นศาล รธน.วินิจฉัยเรื่องแก้ที่มา ส.ว. | จตุพร แถลงนัดเสื้อแดงชุมนุมใหญ่ 3 วันติดที่เมืองทอง ติดตามศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยกรณีแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มา ส.ว. หวั่นพรรคเพื่อไทยถูกยุบ13 พ.ย. 2556 - จตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) พร้อมด้วยคนเสื้อแดงแถลงตอบโต้พรรคประชาธิปัตย์และแกนนำการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ว่า หลังจากที่รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยยอมถอยร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแล้ว ถือว่าการชุมนุมดังกล่าวได้รับชัยชนะแล้ว ดังนั้น การชุมนุมควรยุติ แต่แกนนำชุมนุมและพรรคประชาธิปัตย์กลับพยามยามสร้างเงื่อนไขการชุมนุมเป็นการล้มรัฐบาลนายจตุพร กล่าวว่า การกระทำอารยะขัดขืนก็เพียงเพื่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ทั้ง ๆ ที่เป็นเรื่องผิดกฎหมาย และบอกว่าการชุมนุมจะได้รับชัยชนะภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งเชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้รับสัญญาณบางอย่างจากคนบางคนว่าศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวนกรณี ส.ส.ยื่นคำร้องว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มา ส.ว.ให้มาจากการเลือกตั้ง ขัดมาตรา 68 ล้มล้างการปกครองฯ หรือไม่ ในวันที่ 21 พฤศจิกายนนี้ ถ้ามีการวินิจฉัยว่าขัดรัฐธรรมนูญจะทำให้ ส.ส. และ ส.ว. 312 คนพ้นจากตำแหน่งและยุบพรรคการเมืองขั้วรัฐบาลทั้งหมด และภายในสัปดาห์นี้หรือสัปดาห์หน้าพรรคประชาธิปัตย์จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทันทีที่ยื่นอภิปราย รัฐบาลก็ไม่สามารถยุบสภาได้และเมื่อยุบสภาไม่ได้ วันที่ 20 ส.ส. และ ส.ว. 312 คนพ้นจากตำแหน่ง ยุบสภาก็ไม่ได้ ประชุมอภิปรายไม่ไว้วางใจก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้นในสภาก็จะเหลือแต่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และ ส.ว.สรรหา บ้านเมืองจะเดินเข้าสุญญากาศ เป็นไปตามที่ฝ่ายตรงข้ามพยายามดำเนินการมาโดยตลอดดังนั้น คนเสื้อแดงจะมีการนัดชุมนุมใหญ่ ติดต่อกัน 3 วัน คือวันที่ 18-20 พ.ย.นี้เพื่อติดตามการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่เมืองทองธานี นายจตุพร กล่าววันเดียวกัน สำนักข่าวไทยรายงานบรรยากาศการชุมนุมต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เริ่มคึกคักตั้งแต่เวลา 15.00 น. ประชาชนทยอยเข้าจับจองพื้นที่ฟังปราศรัยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยนายแทนคุณ จิตต์อิสระ ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นเวทีปราศรัยเป็นคนแรก โจมตีรัฐบาลโกหกหลอกลวงประชาชน เพราะยังไม่ทำให้ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ตายไปจากสภาฯ แม้วุฒิสภาจะคว่ำร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ไปแล้วก็ตาม แต่สภาผู้แทนราษฎรอาจฉวยโอกาสหยิบขึ้นมาพิจารณาได้อีก จากนั้นมีแกนนำและผู้ที่คัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม สลับกันขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งโจมตีการทำหน้าที่ของตำรวจนครบาลละเมิดสิทธิประชาชน จากกรณีสั่งให้ทุกสถานีตำรวจเข้มงวดกวดขันจับกุมรถที่ติดธงชาติวิ่งบนท้องถนน หลังนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประกาศอารยะขัดขืน โดยเชิญชวนให้ประชาชนติดธงชาติทุกสถานที่เพื่อแสดงการต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ โฆษกกลุ่มผู้ชุมนุม เปิดเผยอ้างว่า วันนี้ได้รับความร่วมมือและการตอบรับจากประชาชนหลายกลุ่มที่ดำเนินตามแนวทางอารยะขัดขืน พร้อมยืนยันจะชุมนุมต่อไปจนกว่าจะได้รับชัยชนะ คือ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จะต้องออกพ้นสภาฯ โดยในวันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายนนี้ แกนนำจะมีแนวทางยกระดับการชุมนุมอีกครั้ง | จตุพร แถลงนัดเสื้อแดงชุมนุมใหญ่ 3 วันติดที่เมืองทอง ติดตามศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยกรณีแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มา ส.ว. หวั่นพรรคเพื่อไทยถูกยุบ 13 พ.ย. | การเมือง | การชุมนุมคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม,จตุพร พรหมพันธุ์,ที่มา ส.ว.,นปช.,พรรคประชาธิปัตย์,ยุบพรรคการเมือง,ศาลรัฐธรรมนูญ,เอกนัฏ พร้อมพันธุ์,แก้ไขรัฐธรรมนูญ,แทนคุณ จิตต์อิสระ,แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ | https://prachatai.com/journal/2013/11/49791 |
อดุลย์ มั่นใจรัฐลุยแก้ค้ามนุษย์ ฉุดระดับ เทียร์ ปีนี้ดีขึ้น | เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 28 มี.ค.59 พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิด โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานและประเมินการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ที่โรงแรมวีวัน อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก 8 จังหวัด ในสังกัดตำรวจภูธรภาค 3 และเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงพัฒนาสังคมฯ เข้าร่วมประชุมกว่า 1,500 คน,พล.ต.อ.อดุลย์ เปิดเผยว่าสถานการณ์การค้ามนุษย์ของไทยเริ่มดีขึ้นตามลำดับ โดยเมื่อปี 2558 ที่ผ่านมา ประเทศไทยเราถูกจัดให้อยู่ในเทียร์ 3 แต่ในทางปฏิบัติปีนี้เรามีการขับเคลื่อนมากมาย ตั้งแต่การจับกุมเครือข่ายที่สำคัญ การปรับปรุงกฎหมายที่เพิ่มช่องทางการฟ้องร้อง รวมทั้งการคัดกรองก็มีมาตรฐานเพิ่มมากขึ้นด้วย ซึ่งบ่งบอกว่าเราได้ขับเคลื่อนอย่างมีประสิทธิภาพทุกหน่วย โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานด้วยตนเอง จึงมั่นใจได้ว่าปีนี้ระดับเทียร์ของไทยจะดีขึ้นแน่นอน,ส่วนการเดินทางมามอบนโยบายวันนี้ จะเน้นย้ำเรื่องของการจับกุมดำเนินคดี และการขยายผลเป็นหลัก ซึ่งสถานการณ์โดยรวมของพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างไม่น่าเป็นห่วงมากนัก มีเพียงจังหวัดที่มีพื้นที่ติดชายแดนประเทศเพื่อนบ้านเท่านั้น ที่จะต้องมีการดำเนินการอย่างเข้มข้น ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องการค้าประเวณีที่เดินทางเข้าประเทศไทยได้ง่าย โดยผ่านนายหน้า ทั้งนี้ ตนขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ที่เกี่ยวข้อง ปฏิบัติหน้าที่ในเชิงบูรณาการด้วยความมั่นใจ,สำหรับการจัดระเบียบขอทานได้มีการทำงานมาอย่างต่อเนื่อง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 7 แล้ว โดยมีการพิสูจน์ทราบไปแล้วกว่า 2,700 ราย เป็นต่างด้าวประมาณ 800 ราย ซึ่งมีการผลักดันกลับประเทศไปแล้ว ส่วนที่เหลือก็ได้มีการฟื้นฟูและสร้างอาชีพให้ แต่เนื่องจากขอทานเป็นปัญหาทางสังคม จึงยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราต้องขอความร่วมมือทุกฝ่าย รวมทั้งประชาชนผู้ให้ทาน ให้ช่วยรณรงค์แก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ด้วย อย่างไรก็ตามจากการเดินหน้าจัดระเบียบขอทานอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปริมาณขอทานลดลงได้เป็นจำนวนมาก. | เจ้ากระทรวงพัฒนาสังคมฯ มอบนโยบายแก้ปัญหาค้ามนุษย์ที่โคราช เผยคุมค้าประเวณี-ขอทานจนลดจำนวนลงมาก พร้อมระบุมั่นใจระดับเทียร์ของไทยปีนี้ดีขึ้นแน่ | null | ค้ามนุษย์,แก้ปัญหาค้ามนุษย์,รมว.พัฒนาสังคม,พม.,อดุลย์ แสงสิงแก้ว,ประชุมค้ามนุษย์,นครราชสีมา,ข่าว,ข่าวสังคม,ข่าวทั่วไทย,ข่าวภูมิภาค | https://www.thairath.co.th/content/597528 |
ตะวันออก-ใต้ ฝนเพิ่ม ตกหนักบางแห่ง ระวังน้ำท่วม-น้ำป่า กทม.ฝนร้อยละ 60 | ,เมื่อวันที่ 8 ส.ค.62 กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคตะวันออกและภาคใต้ มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่เสี่ยงภัยได้ สำหรับทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง ในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเรือเล็กงดออกจากฝั่งตลอดช่วง,ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา ลาว และเวียดนามตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง,พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.,ภาคเหนือ มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ กำแพงเพชร และตาก อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.,ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดอุดรธานี หนองคาย บึงกาฬสกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.,ภาคกลาง มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี และอุทัยธานี อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.,ภาคตะวันออก มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดจันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร,ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ,ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร,ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดระนอง และพังงา อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร,กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. | อุตุฯ เผย ตะวันออก-ใต้ มีฝนเพิ่มขึ้น-ฝนตกหนักบางแห่ง เตือนระวังน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก อ่าวไทย-อันดามัน คลื่นสูง ขอชาวเรือระมัดระวัง เรือเล็กงดออกจากฝั่ง | ข่าว,ทั่วไทย | กรมอุตุฯ,อุตุนิยมวิทยา,พยากรณ์อากาศ,อากาศวันนี้,อากาศประเทศไทย,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/1632966 |
ปูพรมค้นหา เอ๋ ควาย นักโทษหนี รพ. ในป่าละเมาะ ตั้งนำจับ 5 หมื่น | จากกรณี นักโทษชาย เสกสรร เขื่อนแก้ว หรือ เอ๋ ควาย อายุ 39 ปี ชาว ต.หนองหล่ม อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ซึ่งศาลสั่งจำคุกนักโทษในคดีครอบครองยาเสพติดไว้เพื่อจำหน่าย ครั้งล่าสุดเป็นเวลา 3 ปี 3 เดือน 15 วัน มารักษาตัวที่โรงพยาบาลห้างฉัตร ด้วยอาการปวดท้องใต้ลิ้นปี่ ถึงชายโครงด้านซ้าย กระทั่งเมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 23 พ.ค. 61 ได้อาศัยจังหวะช่วงเข้าห้องน้ำสะเดาะกุญแจข้อมือแล้วหลบหนีออกจากโรงพยาบาลห้างฉัตร และพบร่องรอยการตัดรั้วลวดหนามออกไปทางป่าละเมาะข้างโรงพยาบาล โดยที่บริเวณข้อเท้ายังมีตรวนติดอยู่ ,ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 00.15 น. วันที่ 24 พ.ค. 61 ที่บริเวณรอยต่อตำบลหนองหล่ม–ตำบลวอแก้ว อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง น.ส.สุนันทา คงพากเพียร ผอ.ทัณฑสถานบำบัดพิเศษลำปาง พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ จังหวัดลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ กำลังตำรวจ สภ.ห้างฉัตร, เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมอาวุธครบมือ ลงพื้นที่ปูพรมค้นหานักโทษชายที่หลบหนีตั้งแต่กลางวันจนถึงกลางคืน รวมแล้วยี่สิบกว่าชั่วโมง แต่ก็ยังไม่พบตัว,โดยเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังกันลงพื้นที่ค้นหาตัวตามจุดต่างๆ ตามที่ได้รับแจ้งเบาะแส ล่าสุด ไปพบร่องรอยการกินข้าวกล่อง ขนม ที่ขนำแห่งหนึ่งใกล้กับสระน้ำในป่าละเมาะ ห่างจากจุดที่มีคนพบนักโทษชายรายดังกล่าว ประมาณ 1 กม. ในเขตพื้นที่ตำบลหนองหล่ม อ.ห้างฉัตร แต่ก็ไม่พบตัว จึงได้กระจายกำลังไปอยู่ตามจุดต่างๆ เพื่อสกัดเส้นทางหลบหนี,ด้านกรมราชทัณฑ์ ได้ตั้งรางวัลนำจับ จำนวน 50,000 บาท ให้ผู้ที่ชี้เบาะแสกับเจ้าหน้าที่จนนำไปสู่การจับกุม ซึ่งเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่จะได้ลงพื้นที่ค้นหาตัวอีกครั้ง. | เจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหา เอ๋ ควาย นักโทษสะเดาะกุญแจมือ หนีออกจาก รพ. ที่ลำปาง ในป่าละเมาะ พบอาหาร ขนม ในขนำ แต่ไม่พบตัว ราชทัณฑ์ตั้งนำจับ 5 หมื่น คนแจ้งเบาะแส | ข่าว,อาชญากรรม | นักโทษหนี รพ.,สะเดาะกุญแจมือ,เอ๋ ควาย,ราชทัณฑ์,ตั้งรางวัลนำจับ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1290012 |
กลุ่มถูกแม่ค้าอ้างเป็นเมียทหารเปิดเพจหลอกขายกระทง ร้องกองปราบ | กลุ่มผู้เสียหายรวมตัวแจ้งความ หลังตกเป็นเหยื่อเพจขายกระทงเปลือกข้างโพดโดยอ้างเป็นภรรยานายทหาร พร้อมอ้างอิงเอารูปราชวงค์มาขึ้นเพจเรียกยอดขาย สุดท้ายปิดเพจหายตัวไร้ร่องรอย9 พ.ย. 2560 รายงานว่า กลุ่มผู้เสียหายเกือบ 10 คน เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม หลังถูกแม่ค้าที่อ้างตัวเป็นภรรยานายทหาร เปิดเพจทำกระทงเปลือกข้าวโพด ขายส่งทั่วไทย แต่กลับถูกหลอกลวงเชิดเงินหนี โดยมีพ่อค้าแม่ค้ารายย่อยตกเป็นเหยื่อ บางรายเสียเงินเป็นแสนแต่ไม่ได้รับของ เมื่อทวงถามเอาเงินคืนแต่ไร้คำตอบ จากการสอบประวัติพบเมื่อปี 59 ที่ผ่านมาเคยมีพฤติกรรมเช่นนี้ อ้างอิงเอารูปราชวงค์มาขึ้นเพจเพื่อสร้างศักยภาพเรียกการตลาดหลอกลวงผู้คนยุทธศักดิ์ มหาทรัพย์ศิริ อายุ 38 ปี เจ้าของธุรกิจร้านสังฆภัณฑ์ หนึ่งในผู้เสียหาย เล่าว่า ตนได้สั่งกระทงจากเพจ กระทงเปลือกข้าวโพดราคาถูก จำนวน 2000 ใบ ใบละ 38 บาท มูลค่ากว่า 70000 บาท โดยเมื่อโอนเงินแล้ว กลับได้สินค้าไม่ครบตามจำนวนจึงส่งกระทงคืนกลับและติดต่อผ่านเพจแต่ถูกปฎิเสธ พร้อมบ่ายเบี่ยงการคืนเงิน และขู่ฟ้องกลับฐานหมิ่นประมาทหากมีการแจ้งความ ส่วนสาเหตุที่หลงเชื่อเนื่องจากมีการโพสภาพแอบอ้างเบื้องสูง และจากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าเจ้าของเพจเป็นบุคคลมีสี จึงตัดสินใจแจ้งความฐานฉ้อโกงประชาชน | กลุ่มผู้เสียหายรวมตัวแจ้งความ หลังตกเป็นเหยื่อเพจขายกระทงเปลือกข้างโพดโดยอ้างเป็นภรรยานายทหาร พร้อมอ้างอิงเอารูปราชวงค์มาขึ้นเพจเรียกยอดขาย สุดท้ายปิดเพจหายตัวไร้ร่องรอย 9 พ.ย. | ไอซีที,เศรษฐกิจ | ฉ้อโกงประชาชน,ทหาร,ยุทธศักดิ์ มหาทรัพย์ศิริ,ราชวงค์ | https://prachatai.com/journal/2017/11/74041 |
เสรีพิศุทธ์ ไม่หวั่น หาก ธรรมนัส จะฟ้อง ปูด จำคุก 8 เดือน ออสเตรเลีย | เสรีพิศุทธ์ลั่น ไม่หวั่น หากร.อ.ธรรมนัสจะฟ้องร้อง กมธ.ป.ป.ช.ซึ่งตนเป็นประธาน กรณีปูด เคยถูกดำเนินคดีจำคุก 8 เดือน ที่ออสเตรเลีย เมื่อปี 2531 ท้าแน่จริงฟ้องมา ,วันที่ 3 ต.ค. พล.ต.อ.,เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส, ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ ถีงกรณีที่มีข่าวว่า ร.อ.,ธรรมนัส พรหมเผ่า, รมช.เกษตรและสหกรณ์ ขู่จะฟ้องร้องคดีหมิ่นฯ (หมิ่นประมาท) กับตนเอง ปม กมธ.ป.ป.ช.ของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เดินหน้าตรวจสอบการใช้วุฒิปริญญาเอกปลอม และระบุ มีการถูกดำเนินคดีจำคุก 8 เดือน ที่ประเทศออสเตรเลีย เมื่อปี 2531 อีกคดี ซึ่งเป็นคนละคดีกับคดีพัวพันยาเสพติดก่อนหน้านี้ ว่า ก็ขอให้เขาฟ้องร้องมา ตนก็พร้อมที่จะสู้คดีอยู่แล้ว ก็ให้เขาฟ้องร้องมาก่อน ตนไม่กลัว และไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างไร ก็ขอดูรายละเอียดก่อนว่าเขา (ร.อ.ธรรมนัส) จะดำเนินการฟ้องร้องจริงหรือไม่ อย่างไร,อย่างไรก็ตาม ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ ได้พยายามติดต่อไปยัง ร.อ.ธรรมนัส เพื่อสอบถามและขอความชัดเจนในประเด็นดังกล่าว แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้,ข่าวเกี่ยวข้อง,กรรมาธิการปูด ธรรมนัส เคยโดนจำคุกอีกคดี 8 เดือน | เสรีพิศุทธ์ลั่น ไม่หวั่น หากร.อ.ธรรมนัสจะฟ้องร้อง กมธ.ป.ป.ช.ซึ่งตนเป็นประธาน กรณีปูด เคยถูกดำเนินคดีจำคุก 8 เดือน ที่ออสเตรเลีย เมื่อปี 31 ท้าแน่จริงฟ้องมา | ข่าว,การเมือง | เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส,ธรรมนัส พรหมเผ่า,จำคุก 8 เดือน,ออสเตรเลีย,กมธ.ป.ป.ช.,ฟ้องหมิ่นประมาท,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1674493 |
ระทึกอีก ไหม้หัวรถจักร หวิดวอด | 300หนีตายวุ่น ดาราเด่นคุณ ช่วยอุ้มคนชรา,รถไฟไทยทำระทึกอีก แล้ว เป็นขบวนรถ 111 (กรุงเทพฯ-เด่นชัย) เกิดไฟลุกไหม้หัวรถจักรใกล้สถานี รถไฟ ท่าเรือ ผู้โดยสารกว่า 300 ชีวิตหนีตายโกลาหล ขณะเกิดเหตุพระเอกหนุ่ม เด่นคุณ งามเนตร พร้อมทีมงานยกกองถ่ายขึ้นไปถ่ายทำละครเรื่อง ดอกไม้ใต้เมฆ อยู่พอดี เข้าช่วยเหลือคนเจ็บและคนชรา ชาวเน็ตแห่ชมพระเอกน้ำใจงาม เป็นพระเอกทั้งในจอนอกจอ พร้อมยกย่องให้เป็น ฮีโร่ ส่วนเหตุรถไฟชนท้ายกัน ผู้ว่าการ รฟท.ยัน พขร.ประมาท พร้อมสั่งคุมเข้มการเดินรถ ขณะที่ พขร.นักซิ่งพร้อมช่างเครื่องยังโคม่า โดยเฉพาะช่างเครื่องแพทย์ต้องตัดแขนทิ้ง,กรณีอุบัติเหตุรถไฟขบวน 107 กรุงเทพฯ-เด่นชัย ชนท้ายรถด่วนขบวน 69 กรุงเทพฯ-หนองคาย ระหว่างสถานีรถไฟบ้านดอนกลางกับสถานีชุมทาง รถไฟบ้านภาชี หมู่ 7 ต.กระจิว อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อช่วงค่ำวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ผู้โดยสารบาดเจ็บจำนวนมากนั้น ล่าสุดได้เกิดเหตุระทึกซ้ำกับขบวนรถไฟอีกแล้ว โดยเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 มี.ค. พ.ต.อ.จิตเกษม สนขำ ผกก.สภ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา รับรายงานเกิดเหตุไฟไหม้หัวรถจักรใกล้สถานีรถไฟท่าเรือ หมู่ 3 ต.ท่าเจ้าสนุก นำกำลังรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุอยู่ห่างสถานีรถไฟท่าเรือไปประมาณ 1 กม.สองข้างทางเป็นทุ่งนา พบรถไฟขบวนที่ 111 (กรุงเทพฯ-เด่นชัย) จอดอยู่ โดยมีไฟลุกไหม้ที่บริเวณหัวรถจักรกับมีควันไฟพวยพุ่งออกมา ผู้ที่โดยสารมากับขบวนรถกว่า 300 คน ต่างหอบสัมภาระหนีตายออกมาจากขบวนรถกันอย่างโกลาหล แต่ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ช่วยกันดับเพลิง ก่อนจะประสานเจ้าหน้าที่ทหารมารับผู้โดยสารทั้งหมดไปยังสถานีรถไฟท่าเรือ เพื่อโดยสารรถขบวนถัดไปเดินทางต่อไปยังสถานีปลายทาง พร้อมลากหัวรถจักรไปไว้ที่สถานีรถไฟท่าเรือเพื่อเปิดเส้นทางเดินรถ,จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุรถไฟขบวนดังกล่าวมีนายวีระเดช ขาวแป้ง เป็น พขร.นำผู้โดยสารกว่า 300 ชีวิต ออกจากสถานีต้นทางหัวลำโพงปลายทางสถานีรถไฟเด่นชัย โดยในจำนวนนี้ มีดารานักแสดงชื่อดัง เด่นคุณ งามเนตร พระเอกละครเรื่อง ดอกไม้ใต้เมฆ และทีมงานยกกองถ่ายขึ้นไปถ่ายทำละครเรื่องดังกล่าวบนขบวนรถไฟด้วย แต่เมื่อขบวนรถวิ่งไปถึงที่เกิดเหตุสองข้างทางเป็นทุ่งนา ปรากฏว่าได้เกิดไฟไหม้ขึ้นที่หัวรถจักร นายวีระเดชจึงได้หยุดรถ ทำให้ผู้โดยสารแตกตื่นหนีตายออกจากตัวรถโกลาหล โดยนายวีระเดชแจ้งให้ทราบถึงสาเหตุว่าเกิดจากประกับเทอร์โบของเครื่อง ยนต์แตก เป็นเหตุให้เกิดไฟลุกไหม้ขึ้น อย่างไรก็ตามภายหลังเกิดเหตุ พริม-พริมา พันธุ์เจริญ หนึ่งในนักแสดงของเรื่อง ได้โพสต์ภาพผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว เป็นภาพของ เด่นคุณ งามเนตร กำลังช่วยอพยพผู้โดยสารสูงอายุออกจากขบวนรถไฟ สร้างความชื่นชมให้กับผู้คนในสังคมออนไลน์เป็นอย่างมาก ยกย่องให้พระเอกหนุ่มเป็นฮีโร่คนใหม่ สำหรับ เด่นคุณ งามเนตร พระเอกหนุ่มอายุ 20 ปี เป็นนักแสดงของช่อง 3 ประเดิมผลงานละครเรื่องแรก หลบผีผีไม่หลบ และแจ้งเกิดเต็มตัวในละครเรื่อง เพลิงฉิมพลี,เด่นคุณ งามเนตร พระเอกวิก 3 เผยกับ ไทยรัฐ ในเวลาต่อมาว่า ตนเดินทางไปถ่ายทำละครเรื่อง ดอกไม้ใต้เมฆ ทางช่อง 3 บนรถไฟสายกรุงเทพฯ-เด่นชัย เหตุเกิดใกล้กับสถานีรถไฟท่าเรือ ขณะถ่ายทำละครก็มีควันไฟเกิดขึ้น แต่ตนและเพื่อนๆก็ไม่ได้ตกใจอะไร กระทั่งไฟมันลามมากขึ้น ผู้คนในรถไฟเริ่มตกใจ จึงช่วยกันอพยพผู้โดยสาร โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่เดินทางมาคนเดียว ไม่มีใครช่วยพยุง บางคนเป็นโรคหอบหืด ตนและทีมงานในกองละครก็ได้เข้าไปช่วยพยุงลงจากรถไฟ ช่วยถือของ ที่หลายคนมองว่าเป็น ฮีโร่ ส่วนตัวไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นฮีโร่เลย รู้สึกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นหน้าที่ของพลเมืองที่ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ต้องช่วยเหลือกันอยู่แล้ว และเหตุการณ์ก็ไม่ได้น่ากลัวมาก บางคนก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนคือดารา คิดว่าเป็นหน่วยกู้ภัย ส่วนตัวก็รู้สึกดีที่ได้มีส่วนช่วยเหลือผู้อื่นได้พูดคุยกัน แลกเปลี่ยนความคิดกันระหว่างเกิดเหตุการณ์นี้ เป็นคนชอบการผจญภัยอยู่แล้ว เป็นคนบ้าพลัง อย่างมีภาพที่ตนอุ้มคนชราเนื่องจากเขาล้มขาหักเดินไม่ไหว ต้องพาข้ามไปอีกฟากและต้องรีบไปช่วยคนที่เป็นโรคหอบหืดต่อ เหตุการณ์นี้ใช้เวลานานเหมือนกัน มีคนต้องการความช่วยเหลือหลายคน แต่ที่เห็นมีภาพตนออกมาเยอะเนื่องจากเพื่อนชอบถ่ายรูปและได้ถ่ายไว้เท่านั้นเอง,ส่วนความคืบหน้าเหตุการณ์รถไฟขบวนที่ 107 (กรุงเทพฯ-เด่นชัย) ชนท้ายรถด่วนขนวนที่ 69 (กรุงเทพฯ-หนองคาย) ระหว่างสถานีรถไฟบ้านดอนกลางกับสถานีชุมทางรถไฟบ้านภาชี หมู่ 7 ต.กระจิว อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อช่วงค่ำวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ผู้โดยสารบาดเจ็บจำนวนมากแล้วนั้น เมื่อตอนสายวันที่ 27 มี.ค. นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ ผวจ.พระนครศรีอยุธยา ได้เดินทางไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บและให้กำลังใจที่ รพ. พระนครศรีอยุธยา และ รพ.ภาชี โดยทราบว่ามีผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ทั้งหมด 52 คน กระจายไปตาม รพ.ต่างๆ ประกอบด้วย รพ.พระนครศรีอยุธยา 39 คน ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 3 คน คือ นายอภิเดช อรรควิทยาคม อายุ 45 ปี 2.นายสมพล ชาญบัญชี อายุ 48 ปี พขร.ขบวน 107 (กรุงเทพฯ-เด่นชัย) 3.นายเติมพงษ์ สิงห์ชูวงษ์ อายุ 38 ปี ช่างเครื่อง ขบวน 107 ที่ รพ.อุทัย 10 คน บาดเจ็บสาหัส 1 คน คือ นายสวัสดี ผดุงมาตรวรกุล และ ที่ รพ.ท่าเรือ อีก 2 คน ล่าสุดผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว และบางส่วนญาติมารับตัวไปรักษาที่อื่น เหลือพักรักษาตัวที่ รพ.พระนครศรีอยุธยา 3 คน,ต่อมาวันเดียวกันนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุรถไฟชนท้ายกัน พร้อมกับเปิดเผยว่า ผลสรุปที่ได้รับรายงานจากฝ่ายตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าอุบัติเหตุดังกล่าวคาดว่าเป็นความประมาทของพนักงานขับรถขบวน 107 กรุงเทพฯ-เด่นชัย ที่พุ่งชนรถไฟขบวน 69 กรุงเทพฯ-หนองคาย เนื่องจากไม่ยอมหยุดขบวนรถทั้งๆที่เห็นสัญญาณไฟแดงที่เป็นสัญลักษณ์ให้หยุดแล้วก็ตาม ซึ่งตรงจุดเกิดเหตุรถไฟขบวน 69 ได้จอดรถเพราะระบบล้อมีปัญหา หากพนักงานขับรถขบวน 107 เห็นสัญญาณ เตือนว่าไม่ให้วิ่งก็จะไม่เกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากสัญญาณ ไฟแจ้งหยุดรถอยู่ห่างก่อนถึงจุดเกิดเหตุระยะทางประมาณ 20 กม. แต่รถขบวน 107 ไม่ได้หยุดรอ เบื้องต้นยืนยันข้อมูลว่าเป็นความประมาท ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดการประมาทนั้น ทาง รฟท.ยังไม่สรุป แต่ยืนยันว่าไม่มีกรณีหลับในหรือดื่มแอลกอฮอล์,นายวุฒิชาติเผยอีกว่า สำหรับกฎเดินรถของ รฟท. กำหนดชัดเจนว่าหากมีรถวิ่งอยู่ข้างหน้าและยังไม่เข้าสถานีถัดไป รถไฟที่ขับตามหลังยังไม่สามารถออกจากสถานีได้เพื่อความปลอดภัย ซึ่ง รฟท.ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ควบคุม มีศูนย์ควบคุมใหญ่อยู่ที่บางซื่อ ดูแลและบริหารระบบการเดินรถได้ทั่วประเทศ พนักงานขับรถที่ประมาทจะต้องดูแลก่อนเพราะบาดเจ็บสาหัส ส่วนความผิดให้ดำเนินการไปตามขั้นตอนและระเบียบ รฟท.ขอแสดงความเสียใจกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น พร้อมดูแลช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและพนักงานรถไฟฯ อย่างเต็มที่ ขณะนี้มีผู้บาดเจ็บเหลือพักรักษาตัวที่ รพ. 3 ราย เป็นพนักงานขับรถ ผู้โดยสาร แต่ที่บาดเจ็บสาหัสมากสุด คือพนักงานช่างเครื่องที่ถูกตัดแขน ส่วนผู้โดยสารที่เหลือสามารถกลับบ้านได้หมดแล้ว พร้อมดูแลเยียวยาช่วยผู้บาดเจ็บเต็มที่ พร้อมกับกำชับให้พนักงานทุกคนปฏิบัติตามคู่มือปฏิบัติของรถไฟอย่างเคร่งครัด การกู้ซากรถไฟคาดว่าในเย็นวันที่ 27 มี.ค.จะแล้วเสร็จ ตอนนี้ค่าเสียหายยังประเมินไม่ได้ ส่วนสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้หัวรถจักร คาดว่าอาจจะเกิดจากเครื่องรถจักรเก่า และจะมีการตรวจสอบหาสาเหตุต่อไป | รถไฟไทยทำระทึกอีก แล้ว เป็นขบวนรถ 111 (กรุงเทพฯ-เด่นชัย) เกิดไฟลุกไหม้หัวรถจักรใกล้สถานี รถไฟ ท่าเรือ ผู้โดยสารกว่า 300 ชีวิตหนีตายโกลาหล ส่วนเหตุรถไฟชนท้ายกัน ผู้ว่าการ รฟท.ยัน พขร.ประมาท พร้อมสั่งคุมเข้มการเดินรถ | ข่าว,ทั่วไทย | ข่าวหน้า1,รถไฟไทย,ไฟไหม้หัวรถจักร,กรุงเทพฯ-เด่นชัย,รถไฟชนกัน,อยุธยา,เด่นคุณ งามเนตร,ช่วยเหลือคนชรา,ถ่ายทำละคร,ดอกไม้ใต้เมฆ | https://www.thairath.co.th/news/local/489628 |
มทภ.3 ฮึ่ม ผู้มีอิทธิพลขู่ฆ่า ผู้ว่าฯเพชรบูรณ์-นอภ.หล่มเก่า | เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 1 ก.ย. พล.ท.สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหม สั่งการให้ดูแลความปลอดภัย ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ และนายอำเภอหล่มเก่า ที่ถูกโทรศัพท์ข่มขู่ฆ่า หากไม่หยุดรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างภูทับเบิก ว่า ที่ผ่านมาทางฝ่ายทหารในฐานะกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยประจำจังหวัด (กกล.รส.จว.) เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างบนภูทับเบิกที่ผิดกฎหมาย โดยมีการตั้งกองอำนวยการร่วม 2 แห่ง คือ บนที่ภูทับเบิก และที่ว่าการอำเภอหล่มเก่า โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารร่วมกันดูแลรักษาความปลอดภัย และสร้างความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ ซึ่งก็มีความเข้าใจมากขึ้น โดยการรื้อถอนก็มีความคืบหน้าไปมากในแต่ละวัน รวมทั้งทหารจะช่วยสร้างความมั่นใจให้ทุกหน่วยงาน ในการบังคับใช้กฎหมาย จะไม่ปล่อยให้ผู้มีอิทธิพลมาข่มขู่คุกคาม,เมื่อถามว่า เบื้องต้นได้ตรวจสอบหรือไม่ว่า ใครเป็นคนโทรมาข่มขู่ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ และนายอำเภอหล่มเก่า พล.ท.สมศักดิ์ กล่าวว่า เราต้องตรวจสอบ แต่ไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ อย่างไรก็ตามยืนยันว่า ทหารจะดูแลทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และทุกหน่วยงานเพื่อบังคับใช้กฎหมาย และทำให้ทุกหน่วยมีความมั่นใจในการใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ ไม่ให้ผู้มีอิทธิพลมาใช้อำนาจมืดทำอะไรก็ได้. | มทภ.3 ฮึ่มผู้มีอิทธิพลมืด หลังขู่ฆ่า ผวจ.เพชรบูรณ์-นอภ.หล่มเก่า ลั่น ดูแลทุกฝ่าย ใช้ ก.ม.รื้อสิ่งปลูกสร้างภูทับเบิก เผย ปชช.พื้นที่เข้าใจมากขึ้น | null | ขู่ฆ่า,ผู้ว่าฯเพชรบูรณ์,นายอำเภอหล่มเก่า,ผู้มีอิทธพล,แม่ทัพภาค3,สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล,มทภ.3,นอภ.หล่มเก่า,รื้อภูทับเบิก,ภูทับเบิก,ประวิตร วงษ์สุวรรณ,รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง | https://www.thairath.co.th/content/709325 |
ปลัดแรงงาน แจงยังไม่ได้ข้อสรุป ปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำปี 61 | เมื่อวันที่ 27 พ.ย. นายจรินทร์ จักกะพาก ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงหลักเกณฑ์การพิจารณาการปรับค่าจ้างขั้นต่ำในปี 2561 ว่า ขณะนี้กระบวนการพิจารณายังไม่ได้ข้อสรุปสุดท้ายว่ามีการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำออกมาเป็นเท่าไร อย่างไร ซึ่งยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของของคณะอนุกรรมการวิชาการและกลั่นกรอง ที่จะต้องพิจารณาประกอบหลักเกณฑ์ต่างๆ โดยได้กำหนดแนวทางการใช้สูตรคำนวณที่มีการเพิ่มเติมตัวชี้วัดจากปัจจัยทางเศรษฐกิจให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง อาทิ ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอัตราค่าจ้างที่ลูกจ้างได้รับในปัจจุบัน ดัชนีชี้วัดค่าครองชีพ อัตราค่าเฉลี่ยเงินเฟ้อ มาตรฐานค่าเฉลี่ยค่าครองชีพ ต้นทุนการผลิตราคาสินค้าและบริการ ความสามารถในการประกอบธุรกิจ ผลิตภาพแรงงาน ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ หรือ (จีดีพี) รวมทั้งคำนึงถึงสภาพเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน,ทั้งนี้ การพิจารณาการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำในแต่ละครั้ง จะมีคณะกรรมการค่าจ้าง เป็นระบบไตรภาคี มีผู้แทนทั้งฝ่ายลูกจ้าง นายจ้าง และภาครัฐ ฝ่ายละ 5 คน โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆ จากหลายหน่วยงาน อาทิ สำนักงานคณะกรรมการการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ธนาคารแห่งประเทศไทย และกระทรวงพาณิชย์ เป็นต้น ที่จะให้ข้อมูลต่อคณะกรรมการเพื่อประกอบการพิจารณาอัตราค่าจ้างตามหลักการดังกล่าวอีกด้วย,ค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเครื่องมือในการปกป้องแรงงานแรกเข้าสู่ตลาดแรงงาน เพื่อมิให้แรงงานแรกเข้าทำงานถูกปฏิบัติจากนายจ้างอย่างไม่เป็นธรรม หรือจ่ายค่าจ้างที่ต่ำจากที่ควรจะเป็น แต่หากแรงงานได้พัฒนายกระดับฝีมือของตนเองให้มีมาตรฐาน เพื่อเพิ่มศักยภาพและผลิตภาพของงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็จะได้รับค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือแรงงานที่สูงกว่าค่าจ้างขั้นต่ำ ซึ่งขณะนี้ประกาศใช้แล้ว 67 สาขาอาชีพ และอยู่ระหว่างรอประกาศอีก 16 สาขาอาชีพ ซึ่งการจะเข้าสู่ประเทศไทย 4.0 ทุกฝ่ายควรจะให้ความสำคัญกับศักยภาพแรงงานเป็นลำดับแรก ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าว | ปลัดแรงงาน เผยยังไม่ได้ข้อสรุป ปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำปี 61 อยู่ระหว่างกลั่นกรองจากหลายปัจจัย หลังที่ผ่านมามี 67 สาขาอาชีพ ประกาศใช้อัตราค่าจ้างสูงกว่าขั้นต่ำ และรอประกาศใช้อีก 16 สาขาอาชีพ | ข่าว,เศรษฐกิจ | ค่าจ้างขั้นต่ำ,ค่าจ้างปี61,ปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ,ค่าแรง,ขึ้นค่าจ้าง,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/1137727 |
สถานการณ์แรงงานประจำสัปดาห์ 18 - 24 พ.ย. 2555 | เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 19 พฤศจิกายน 2555 ที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ ผบก.ปคม. แถลงข่าวจับกุม น.ส.ไอศิกา เคางาม หรือ มายด์ อายุ 32 ปี หุ้นส่วนร้านนวดแผนไทยแห่งหนึ่งในกรุงมัสกัต ประเทศโอมาน ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1851/2555 ลงวันที่ 16 ตุลาคม 55 ข้อหา ร่วมกันค้ามนุษย์โดยแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณี หลังถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้รับหญิงสาวผู้เสียหายซึ่งถูกหลอกว่ามีงานนวดแผนไทย รายได้ดีที่ประเทศโอมานให้ทำแต่เมื่อมาถึงกลับถูกบังคับค้าประเวณีสำหรับคดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา ผู้เสียหายสาวอายุ 30 ปี ชาวกรุงเทพฯ โทรศัพท์ทางไกลจากประเทศโอมานมายัง บก.ปคม.เพื่อขอความช่วยเหลือหลังถูกขบวนการค้ามนุษย์หลอกลวงไปค้าประเวณีที่ กรุงมัสกัต ตำรวจ ปคม.จึงประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศช่วยเหลือออกมาได้ ภายใน 24 ชั่วโมง จากนั้นได้แจ้งความดำเนินคดีกับขบวนการดังกล่าวซึ่งที่ผ่านมามีการขออนุมัติ หมายจับและติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่เป็นนายหน้าได้แล้ว 2 คน คือ นางวรรณวิภา หรือ ณัฎฐ์ธยาน์ วัฒนาพงษากุล และนายพิบูลย์ ละภักดี หรือ เจนนี่ ได้แล้วก่อนหน้านี้(เนชั่นทันข่าว 19-11-2555)ม.ล.ปุณฑริก สมิติ รองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กล่าวว่า ระหว่างวันที่ 15-19 พฤศจิกายน มีการแข่งขันฝีมือแรงงานอาเซียน ครั้งที่ 9 ที่จาการ์ตา คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ปีนี้มีชาติสมาชิกอาเซียน 9 ประเทศ ส่งเยาวชนร่วมแข่งขันประมาณ 300 คน และประเทศไทยส่งเยาวชน 34 คน ร่วมแข่งใน 17 สาขา เยาวชนไทยจำนวน 2 คน สามารถคว้า 2 เหรียญทองแรกในสาขาช่างเชื่อม ได้แก่ นายประเวศน์ บุญศรี อายุ 20 ปี จากวิทยาลัยเทคนิคพิษณุโลก และนายปรีชา หาญชนะ อายุ 21 ปี จากศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงาน จ.สระแก้ว โดยทำคะแนนนำชาติอื่นจนถึงวันสุดท้ายของการแข่งขัน และได้อีก 2 เหรียญทองแดงในสาขาเมคคาทรอนิกส์ ส่วนสาขาอื่นยังต้องรอการประกาศผลอย่างเป็นทางการ ในพิธีมอบรางวัลและปิดการแข่งขัน วันที่ 19 พฤศจิกายนนี้นายปรีชา หาญชนะ เจ้าของเหรียญทองสาขาช่างเชื่อม กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้เหรียญนี้ไปฝากคนไทย เพราะเหรียญทองสาขาช่างเชื่อมเป็นเหรียญบังคับที่ไทยต้องได้ เนื่องจากเป็นแชมป์มา 7 สมัย ทุกคนจึงคาดหวังไว้มาก ซึ่งในระหว่างแข่งขัน รู้สึกกดดันบ้างเหมือนกัน เพราะในระดับอาเซียน ถือว่าฝีมือคนไทยยังเหนือกว่าชาติอื่น โดยโจทย์ในการแข่งขันกำหนดให้ทำงานเชื่อมทั้งหมด 4 ชิ้น และทำได้ดีทุกชิ้นและได้คะแนนเต็มในงานเชื่อมอะลูมิเนียม ส่วนงานเชื่อมท่อที่ต้องมีการเอกซเรย์ดูชิ้นงานอย่างละเอียดก็ผ่านได้ด้วยดี ในขณะที่หลายชาติไม่ผ่าน ทำให้มีกำลังใจทำงานชิ้นที่เหลือจนประสบความสำเร็จ โดยก่อนหน้านี้ได้รับการฝึกฝีมือที่ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงาน จ.สมุทรปราการ นาน 5 เดือน และเคยได้รับเหรียญเงินในการแข่งขันฝีมือแรงงานแห่งชาติ ครั้งที่ 24(ประชาชาติธุรกิจ 19-11-2555)นายวีรชัย พุทธวงศ์ ประธานหลักสูตรนิติวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) ในฐานะเลขานุการเครือข่ายพนักงานในสถาบันอุดมศึกษา เปิดเผยว่า ปัจจุบันพนักงานมหาวิทยาลัยมีอยู่สองกลุ่ม คือ กลุ่มที่ได้รับการจ้างด้วยเงินงบประมาณแผ่นดินที่มหาวิทยาลัยได้รับจากสำนัก งบประมาณทุกๆ ปี และกลุ่มที่มหาวิทยาลัยจ้างโดยใช้เงินรายได้ แต่เป็นที่น่าสังเกตว่านอกจากพนักงานที่จ้างด้วยเงินงบประมาณ ซึ่งหลายมหาวิทยาลัยไม่ยอมให้เงินเดือนเต็มตามมติคณะรัฐมนตรี 1.5-1.7 เท่าแล้ว พนักงานที่จ้างด้วยเงินรายได้ ได้รับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมยิ่งกว่าด้วยสัญญาจ้างปีต่อปี และหลายคนทำงานมากว่า 15 ปี จบปริญญาโท แต่เงินเดือนไม่ถึง 15000 บาท ส่วนระดับปริญญาตรี เงินเดือนไม่เกิน 10000 บาท ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้นนายวีรชัยกล่าวต่อว่า ครม.ได้มีมติให้จ้างพนักงาน ทดแทนอัตราข้าราชการพลเรือนในมหาวิทยาลัย เพื่อรองรับการออกนอกระบบในปี 2545 โดยให้ได้รับเงินเดือนในอัตราที่มากกว่าข้าราชการ คือ เพิ่มขึ้น 1.7 เท่า สำหรับ สาย ก และเพิ่มขึ้น 1.5 เท่า สำหรับ สาย ข และ สาย ค ตามข้อเสนอของคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) ดังนั้น พนักงานไม่ว่าจะจ้างด้วยเงินงบประมาณ หรือเงินรายได้ของมหาวิทยาลัย ควรได้รับเงินเดือนเท่ากันความไม่เป็นธรรมและความเหลื่อมล้ำที่ปฏิบัติต่อพนักงาน ได้ทยอยเปิดเผยเรื่อยๆ แม้ในมหาวิทยาลัยรัฐจำนวนมากมีสัดส่วนพนักงานมากกว่า 80% แต่ผู้บริหารส่วนใหญ่ก็ยังเป็นข้าราชการ และเมื่อสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เสนอ ครม. ให้โบนัสบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษา เป็นเงินรางวัลให้กับบุคลากรที่สร้างสรรค์ผลงานให้สถาบันตนเอง โดยให้เป็นเงินพิเศษโบนัส แต่โบนัสเหล่านี้กลับห้ามแจกจ่ายให้พนักงาน ส่วนผู้บริหารรับหลักหลายแสนบาท เลขานุการเครือข่ายกล่าว(ประชาชาติธุรกิจ 19-11-2555)นายสมศักดิ์ โกศัยสุข หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ อดีตหนึ่งในห้าแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกาศเข้าร่วมชุมนุมกับองค์การพิทักษ์สยาม นำโดย พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานองค์การพิทักษ์สยาม ในวันที่ 24-25 พ.ย.นี้พร้อมทั้งจะนำสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจเข้าร่วมชุมนุมด้วย(ว๊อยซ์ทีวี 19-11-2555)นายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การไปร่วมการชุมนุมกับกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามนั้น ยังมีความเห็นที่หลากหลายต่างกันไปของแต่ละสหภาพ ซึ่งยังไม่ได้มีข้อสรุปที่ชัดเจน ว่าจะเป็นการเข้าไปร่วมในนามองค์กรสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) เพราะสหภาพแต่ละแห่งมีอิสระ ดังนั้น จะต้องไปพูดคุยกันอีกครั้งส่วนการที่ถอนตัวออกจากการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อ ประชาธิปไตยนั้น นายสาวิทย์ ชี้แจงว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการที่นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ถอนตัวก่อน เพราะเป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่บุคคลก็ขึ้นกับองค์กรอย่างไรก็ตาม นายสาวิทย์ กล่าวว่า การชุมนุมองค์การพิทักษ์สยาม ต้องสามารถตอบข้อกล่าวหาของรัฐบาลได้ เพื่อดึงมวลชน โดยควรมีเหตุผลที่ชัดเจน(ASTV ผู้จัดการออนไลน์ 19-8-2555)กรุงเทพฯ 20 พ.ย.- ก.แรงงาน เตรียมแก้ไขระเบียบการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายของบริษัทจัดหางานที่เรียกเก็บจาก คนไปทำงานต่างประเทศให้ถูกลง ลดช่องโหว่บริษัทฯ เอาเปรียบแรงงาน เตรียมนัดชี้แจงระเบียบที่แก้ใหม่ให้เจ้าหน้าที่และบริษัทฯ เข้าใจตรงกัน พร้อมสั่งทุกกรมศึกษาจุดอ่อนข้อบังคับเสร็จใน 30 วันนายสง่า ธนสงวนวงศ์ เลขานุการรัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการร้องเรียนจากแรงงานที่เดินทางไปทำงานในต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศอิสราเอล และไต้หวัน ที่บริษัทจัดหางานเรียกเก็บเงินเกินความเป็นจริง เตรียมแก้ไขระเบียบกระทรวงแรงงานว่าด้วยการกำหนดอัตราค่าบริการและค่าใช้ จ่ายที่เรียกเก็บจากคนหางาน พ.ศ.2547 โดยกระทรวงฯ ให้กฤษฎีกาตีความ ข้อความในระเบียบกระทรวงฯ เพื่อให้เกิดความมั่นใจ และเข้าใจที่ถูกต้องในการเรียกเก็บเงิน ให้เป็นบรรทัดฐานเดียวกัน เนื่องจากกฎกระทรวงและระเบียบใช้มานานหลายปีแล้ว ทำให้เนื้อหาบางส่วนไม่ทันสมัย และมีช่องโหว่ให้บริษัทจัดหางานเอารัดเอาเปรียบแรงงานไทยโดยมีการเรียกเก็บ ค่าใช้จ่าย ค่าบริการในการเดินทางไปทำงานต่างประเทศสูงเกินกว่าความเป็นจริง เดิมบริษัทจัดหางานกำหนดเรียกเก็บค่าบริการ 1 เดือน ของเงินเดือนที่แรงงานได้รับส่วนค่าใช้จ่ายอื่น ๆ บริษัทเรียกเก็บจากแรงงานถึง 4 เท่า บางแห่งเรียกเกินที่ระเบียบกำหนด ซึ่งได้รับการร้องเรียนมาเป็นจำนวนมาก แต่หลังจากกฤษฎีกาตีความได้กำหนดให้เป็นบรรทัดฐานเดียวกัน คือ ให้บริษัทเรียกเก็บค่าบริการตามที่กฎหมายกำหนด 1 เดือน ของเงินเดือนที่ได้รับ ส่วนค่าใช้จ่ายต้องเป็นเงินที่เรียกเก็บตามจริงมีเอกสารหลักฐานยืนยันได้ ทั้งนี้ มอบหมายให้อธิบดีกรมจัดหางาน เรียกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงทำความเข้าใจในระเบียบใหม่ให้เพื่อ ไม่เกิดความสับสนแล้วนายสง่า กล่าวอีกว่า ได้ให้ทุกกรมในกระทรวงกลับไปศึกษาระเบียบข้อบังคับที่แต่ละกรมใช้อยู่ว่ามี จุดอ่อนตรงไหนที่ต้องแก้ไขให้เป็นรูปธรรม ให้มีความทันสมัย โดยให้เวลาไปศึกษา 30 วัน แล้วมารายงานรัฐมนตรีรับทราบอีกครั้ง(สำนักข่าวไทย 20-11-2555)วันนี้ ( 20 พ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายวรวิทย์ จำปีรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวว่า ครม.มีมติเห็นชอบในการขึ้นค่าแรง 300 บาท ทั่วประเทศ โดยจะเริ่มในวันที่ 1 ม.ค. 2556 นี้ แล้ว พร้อมกับหามาตรการในการช่วยเหลือภาคเอกชนที่อาจจะได้รับผลกระทบจากมาตราการ ดังกล่าว โดยแต่งตั้งนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการการะทรวงการคลัง เป็นประธานคณะกรรมการในการหามาตราการช่วยเหลือ ซึ่งจะมีการประชุมเพื่อหามาตราการในการเยียวยาผู้ประกอบการต่อไปทั้งนี้ ที่ประชุมไม่ได้มีการหารือกองทุนตั้งตัวได้ 5 พันล้านบาท เพื่อสร้างผู้ประกอบการรายใหม่วานนี้(19 พฤศจิกายน) มีการประชุมคณะกรรมการติดตามเรื่องผลกระทบจากค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาททั่วประเทศ ของคณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน (กกร.) ที่เมืองทองธานี โดยนายสมเกียรติ อนุราษฎร์ รองประธานกรรมการหอการค้า ไทย เปิดเผยผลประชุมว่า เป็นการประชุมครั้งที่สองเพื่อหาทางออกต่อปัญหาดังกล่าว โดยครั้งนี้มีมติให้แยกผลกระทบจากค่าแรงเป็น 2 เรื่อง เรื่องแรกคือหามาตรการลดภาระด้านต้นทุน แบ่งเป็น 11 ข้อ และสอง เรื่องการหามาตรการช่วยเหลือด้านการเงิน เพื่อเสริมสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการ พร้อมทั้งมีการจัดกลุ่มผลกระทบเป็นระดับสูงถึงต่ำ เนื่องจากแต่ละภาคธุรกิจได้รับผลกระทบไม่เท่ากัน โดยรายละเอียดต่างๆ ที่ประชุมให้ 3 สถาบันหารือกับสมาชิกอีกครั้งหนึ่งนายสมเกียรติกล่าวว่า นอกจากนี้ ยังรอภาครัฐเรียกหารือเพื่อจัดตั้งคณะทำงานร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไข ปัญหา หลังจากเอกชนยื่นเสนอไปแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการติดต่อจากภาครัฐ มีแต่การประสานงานอย่างไม่เป็นทางการ ผ่านเวทีสัมมนาต่างๆนายสมเกียรติกล่าวถึงตัวอย่างมาตรการที่อยากให้ภาครัฐช่วยเหลือ เช่น มาตรการด้านต้นทุนอยากให้ลดอัตราเงินนำส่งประกันสังคมทั้งฝ่ายนายจ้างและ ลูกจ้าง มาตรการด้านการเงินอยากให้ภาครัฐสนับสนุนวงเงินกู้ 0% เป็นเวลา 3 ปี โดยให้เพิ่มวงเงินสนับสนุนจาก 20000 ล้านบาท เป็น 50000 ล้านบาทที่กระทรวงอุตสาหกรรม นายประเสริฐ บุญชัยสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า นโยบายค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาททั่วประเทศ ต้องเดินหน้าแน่นอน ไม่สามารถเลื่อนตามข้อเสนอของ ส.อ.ท.ได้ แต่ยืนยันว่ารัฐบาลจะมีมาตรการดูแลและเยียวยาผลกระทบผู้ประกอบการแน่นอน โดยมอบหมายให้สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) รวบรวมผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบเพื่อออกมาตรการช่วยเหลือ ส่วนความขัดแย้งภายใน ส.อ.ท.มั่นใจว่านายพยุงศักดิ์จะสามารถแก้ไขได้ ไม่จำเป็นต้องเข้าไปจัดการ แม้ว่าจะมีอำนาจปลดประธาน ส.อ.ท.ก็ตามนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวยอมรับว่า วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมจะได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าแรง ซึ่งรัฐบาลได้มีมาตรการช่วยเหลือแล้ว โดยเฉพาะมาตรการทางด้านการเงินและภาษี เช่น สินเชื่อเพื่อพัฒนาผลิตภาพการผลิต วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท โครงการค้ำประกันสินเชื่อวงเงิน 2.4 พันล้านบาท โครงการค้ำประกันสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการใหม่วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท กองทุนพัฒนาฝีมือแรงงาน วงเงินกู้ยืม 42000 บาทต่อราย ในอัตราดอกเบี้ย 0.1% ต่อปี โดยมีวงเงินในโครงการทั้งหมด 570 ล้านบาท และสินเชื่อส่งเสริมการจ้างงาน จากกองทุนประกันสังคมอีก 1 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการต้องปรับตัวเพื่อรองรับค่าแรงสูงด้วย(มติชน 20-11-2555)วันที่ 21 พ.ย.2555 นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน(รมว.รง.)กล่าวถึงกรณีที่นายชาลี ลอยสูง ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) ออกมาคาดการณ์ว่าในช่วงเดือนธันวาคมนี้จะมีการเลิกจ้างจำนวนมาก เนื่องจากนายจ้างจะเลิกจ้างงานก่อนการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทเพื่อจ่ายเงินชดเชยน้อยกว่าการหลังปรับขึ้นค่าจ้าง พร้อมทั้งเสนอให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณมาโปะเงินที่หายไปจากกองทุนประกัน สังคม เนื่องจากการขยายเวลาใช้มาตรการลดเงินสมทบทั้งฝ่ายนายจ้างและลูกจ้างเพื่อ ความมั่นคงของกองทุนประกันสังคมว่า ตนเชื่อว่าในเดือนธันวาคมนี้ มีความเป็นไปได้ที่ภาคธุรกิจต่างๆ อาจจะเลิกกิจการก่อนการปรับขึ้นค่าจ้างเป็นวันละ 300 บาทใน 70 จังหวัด เพราะนายจ้างสามารถจ่ายค่าชดเชยให้ลูกจ้างในอัตราที่น้อยกว่าเมื่อเทียบกับ ช่วงที่มีการปรับขึ้นค่าจ้างแล้ว อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ได้มีการปรับค่าจ้างเป็นวันละ 300 บาทครั้งแรกขึ้นไปแล้วใน 7 จังหวัด ภาคธุรกิจก็ได้มีการปรับตัวระดับหนึ่ง ดังนั้น ตนจึงไม่รู้สึกกังวลเกี่ยวกับปัญหาการเลิกจ้างแรงงาน อีกทั้งขณะนี้ภาคอุตสาหกรรมต่างๆประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานรวมกว่า 300000 คน และประเทศต่างๆก็มีความต้องการแรงงานไทยไปทำงานด้วยและจ่ายค่าจ้างในอัตรา ที่สูงอยากขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้ปรับค่าจ้างเป็นวันละ 300 บาทให้แก่แรงงานตามที่กฎหมายกำหนด เพราะหากบริษัทอื่นปรับค่าจ้างสูงกว่าวันละ 300 บาท จะส่งผลให้มีการย้ายงานไปทำงานในสถานประกอบการที่ได้รับค่าจ้างสูงกว่า จึงอยากให้บรรดาผู้ประกอบการเห็นใจและคำนึงด้วยว่า แรงงานคือผู้ที่ทำให้บริษัทมีความมั่นคงและมีรายได้ หากแรงงานอยู่ไม่ได้ สถานประกอบการต่างๆก็จะอยู่ไม่ได้เช่นกัน รมว.แรงงาน กล่าวนายเผดิมชัย กล่าวอีกว่า ส่วนมาตรการในการเฝ้าระวังการเลิกจ้างนั้นได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัด กระทรวงแรงงานทั่วประเทศเร่งสร้างความเข้าใจและเฝ้าระวังสถานการอย่างใกล้ ชิด โดยเฉพาะใน 29 จังหวัดที่มีการปรับค่าจ้างแบบก้าวกระโดด ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงแรงงานมีศูนย์โปร่งใสในทุกจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งคอยรับเรื่องร้องเรียนปัญหาต่างๆจากแรงงาน รวมทั้งรับเรื่องราวร้องเรียนจากผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าจ้าง ขั้นต่ำเป็นวันละ 300 บาท โดยได้สั่งการให้สำนักงานปลัดกระทรวงแรงงานเร่งรวบรวมปัญหาและสรุปผลมา รายงานตนภายในเดือนมีนาคมนี้ เพื่อเสนอรัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมนายเผดิมชัย กล่าวต่อไปว่า ส่วนกรณีการขยายเวลาใช้มาตรการการลดเงินสมทบเข้ากองทุน เพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบนั้นก็เพื่อเป็นมาตรการจูงใจและ ช่วยเหลือนายจ้างเพื่อปรับขึ้นค่าจ้างเป็นวันละ 300 บาท แต่รัฐบาลยังคงจ่ายเงินสมทบ 2.75 % เช่นเดิม รวมทั้งสิทธิประโยชน์ต่างๆที่ลูกจ้างซึ่งเป็นผู้ประกันตนได้รับไม่ได้ลดน้อย ลงและไม่ได้มีการไปลดเงินสมทบในส่วนขอสิทธิประโยชน์ในกรณีชราภาพ ทั้งนี้ โดยภาพรวมการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 300 บาท ส่งผลให้การส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมเพิ่มขึ้นถึง 45 % จึงไม่อยากให้แรงงานกังวลว่ามาตรการนี้จะกระทบต่อสถานะของกองทุนประกันสังคมนายปกรณ์ อมรชีวิน อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน(กสร.) กระทรวงแรงงาน กล่าวว่า เมื่อเร็วๆนี้ตนได้สั่งการไปยังสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานใน 70 จังหวัดให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์การเลิกจ้างอย่างใกล้ชิด รวมทั้งให้ลงพื้นที่ไปพูดคุยกับสถานประกอบการต่างๆในจังหวัดเพื่อรวบรวม ปัญหาและข้อเสนอมาตรการช่วยเหลือเสนอมายังกสร.เพื่อจะได้สรุปข้อมูลเสนอต่อ รมว.แรงงานอธิบดีกสร. กล่าวอีกว่า กสร.ได้รวบรวมข้อมูลสถานการณ์การเลิกจ้างในช่วงเดือนม.ค.จนถึงวันที่ 20 พ.ย.2555 โดยแยกเป็น 3 ประเภทกิจการได้แก่ 1.สถานประกอบการเลิกจ้างเนื่องจากได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าจ้างขั้น ต่ำเป็นวันละ 300 บาท มีสถานประกอบการได้รับผลกระทบ 5 แห่งเป็นกิจการประเภทสิ่งทอ ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปส่งออก ผลิตผลิตภัณฑ์จากไม้ยางพารามีลูกจ้างรวมทั้งหมด 1908 คนในจำนวนนี้ถูกเลิกจ้าง 1072 คน2.สถานประกอบการเลิกจ้างเนื่องจากได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจยุโรป มีสถานประกอบการได้รับผลกระทบ 12 แห่งเป็นกิจการประเภทประกอบชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ผลิตเสื้อผ้า เครื่องประดับส่งออก เครื่องปั้นดินเผา บริการขนส่ง มีลูกจ้างทั้งหมด 3747 คนในจำนวนนี้ถูกเลิกจ้าง 2524 คน3.สถานประกอบการการเลิกจ้างในกรณีอื่นๆ เช่น การขาดทุนสะสมตนต้องปิดกิจการ คำสั่งซื้อลดลง ประสบภัยน้ำท่วม มีสถานประกอบการได้รับผลกระทบ 33 แห่งเป็นกิจการประเภทโรงแรม ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูป ขนส่งสินค้า ผลิตชิ้นส่วนรองเท้า ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ รับเหมาก่อสร้าง ประกันภัย มีลูกจ้างทั้งหมด 7567 คนในจำนวนนี้ถูกเลิกจ้าง 2508 คน และสถานประกอบการที่มีแนวโน้มเลิกจ้างมี 33 แห่งเป็นกิจการประเภทโรงแรม ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ประกอบชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ พลาสติก ผลิตสิ่งทอ เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับ มีลูกจ้าง 46872 คนการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 300 บาทใน 7 จังหวัด เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา มีแรงงานถูกเลิกจ้างน้อยมาก แต่การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 300 บาทใน 70 จังหวัดซึ่งจะมีผลในวันที่ 1 ม.ค.2556 คิดว่าคงจะมีผลกระทบต่อสถานประกอบการมากกว่าครั้งที่แล้วอย่างแน่นอน แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะมีแรงงานได้รับผลกระทบถึงขั้นถูกเลิกจ้างจำนวน เท่าไหร่ แต่โดยภาพรวมของประเทศคงไม่กระทบต่อภาคธุรกิจอย่างรุนแรงเพราะนายจ้างมีเวลา ปรับตัวล่วงหน้าถึง 1 ปี สถานประกอบการบางพื้นที่เช่น จ.พระนครศรีอยุธยาก็ปรับตัวได้แล้วและให้ค่าจ้างสูงถึงวันละ 320 บาท เนื่องจากประสบปัญหาขาดแคลนแรงงาน อย่างไรก็ตาม กิจการประเภทใช้แรงงานแบบเข้มข้นอาจจะได้รับผลกระทบมากเช่น โรงงานผลิตเสื้อผ้า รองเท้า ทั้งนี้ อยากให้แรงงานปรับตัวโดยขยันทำงานมากขึ้น ไม่หยุดงานบ่อยเพื่อให้การทำงานคุ้มค่ากับการปรับค่าจ้าง นายปกรณ์ กล่าวนายปกรณ์ กล่าวต่อไปว่า หากแรงงานถูกเลิกจ้างจำนวนมาก ทางกระทรวงแรงงานได้เตรียมมาตรการรองรับไว้แล้วโดยรมว.แรงงานให้ทุกหน่วยงาน ในกระทรวงแรงงานทำร่วมกันแบบบูรณาการทั้งการเฝ้าระวังการเลิกจ้างและแก้ ปัญหา เช่น นายจ้างงดส่งเงินสมทบ หรือ แรงงานในพื้นที่ใดไปสมัครงานมากเป็นพิเศษ ก็แสดงถึงสัญญาณการเลิกจ้าง และหากแรงงานถูกเลิกจ้าง กระทรวงแรงงานก็จะเข้าไปดูแลโดยกสร.ดูแลให้ได้รับเงินชดเชยการถูกเลิกจ้าง และสิทธิประโยชน์ต่างๆ สำนักงานประกันสังคม(สปส.)จ่ายเงินสิทธิประโยชน์กรณีว่างงาน กรมการจัดหางาน(กกจ.)จัดหาตำแหน่งงานรองรับ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน(กพร.)เข้าไปพัฒนาฝีมือแรงงานเพื่อเข้าไปทำงานในสถาน ประกอบการแห่งใหม่ในเรื่องของตำแหน่งงานรองรับแรงงานถูกเลิกจ้างนั้นไม่น่าห่วงเพราะขณะ นี้ภาคอุตสาหกรรมเช่น ผลิตรถยนต์ขาดแคลนแรงงานกว่า 1 แสนคน และบริษัทญี่ปุ่นก็ต้องการแรงงานจำนวนมาก รวมทั้งนิคมอุตสาหกรรมในภาคตะวันออกก็ยังมีความต้องการแรงงานเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม หากเกิดกรณีแรงงานในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง เช่น ภาคเหนือหรืออีสาน ถูกเลิกจ้างเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเท่าที่ดูตัวเลขส่วนต่างของค่าจ้างที่ต้องปรับเพิ่มขึ้นสูงกว่า พื้นที่อื่นๆ ทางกระทรวงแรงงานคงจะต้องเคลื่อนย้ายแรงงานอย่างเป็นระบบเพราะแรงงานต้อง เคลื่อนย้ายพื้นที่ทำมาหากินโดยต้องจัดหาตำแหน่งงานรองรับ ฝึกอบรมทักษะการทำงานในตำแหน่งงานใหม่และประสานนายจ้างจัดหาที่พักรองรับ อธิบดีกสร. กล่าว(คมชัดลึก 21-11-2555)กระทรวงแรงงาน 21 พ.ย. - นายปกรณ์ อมรชีวิน อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยถึงกรณีที่อาจมีกลุ่มแรงงานเข้าร่วมชุมนุมองค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) นำโดย พล.อ บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธ. อ้าย ณ ลานพระบรมรูปทรงม้า ในวันที่ 24 พฤศจิกายนนี้ว่า เป็นสิทธิพื้นฐานของประชาชนหากกระทำในฐานะบุคคลย่อมสามารถกระทำได้ แต่หากกระทำการในฐานะกลุ่มแรงงานหรือสหภาพนั้น จะขัดกับวัตถุประสงค์ตามกฎหมายการจัดตั้งสหภาพแรงงานก่อนหน้านี้ กสร. ได้ทำความเข้าใจกับกลุ่มสหภาพแรงงานต่าง ๆ ถึงข้อระเบียบปฏิบัติแล้ว และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลว่าจะมีกลุ่มแรงงานใดเข้าร่วมการชุมนุม จึงขอประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มสหภาพแรงงานปฏิบัติอยู่ในกรอบของกฏหมาย ไม่เช่นนั้นจะถือเป็นความผิด หากกระทำการดังกล่าวและกระทรวงแรงงานมีอำนาจในการดำเนินการจัดการได้ทางด้าน นายประวิทย์ เคียงผล อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวถึงกรณีที่อาจมีแรงงานต่างด้าวเข้าร่วมชุมนุมทางการเมือง ในวันดังกล่าวว่า ไม่สามารถกระทำได้ เนื่องจากแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยส่วนใหญ่ประกอบอาชีพ กรรมกรและแม่บ้าน ซึ่งวัตถุประสงค์คือการเข้ามาทำงาน ห้ามไม่ให้เข้ามาประกอบธุรกิจหรือชุมนุมทางการเมือง ต้องมีการจำกัดพื้นที่ หากนายจ้างนำลูกจ้างซึ่งเป็นแรงงานต่างด้าวออกนอกพื้นที่ถือว่ากระทำผิด กฎหมาย ลูกจ้างต้องถูกยึดวีซ่า และถูกนำตัวส่งกลับประเทศทันที ทั้งนี้ ในส่วนของกลุ่มแรงงานทั่วไป มักมาในนามของประชน หากกระทำการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ เป็นสิทธิที่สามารถกระทำได้.(สำนักข่าวไทย 21-11-2555)(22 พ.ย.) ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) เมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ ผบก.ปคม. นายประวิทย์ เคียงผล อธิบดีกรมการจัดหางาน นายเชิดศักดิ์ วิสุทธิกุล ผอ.กองตรวจและคุ้มครองคนหางาน กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน แถลงข่าวจับกุม นายเรวัตร ผาริการ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69 หมู่ 4 ต.คึมชาด อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น ตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง ที่ ส.419/2553 และ ส.420/2553 ลงวันที่ 7 มิถุนายน 2553 ข้อหาจัดหางานให้คนงานไปทำงานในต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน โดยการหลอกลวงได้มาซึ่งเงินหรือทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวง จับกุมได้ที่ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาบางนา แขวงและเขตบางนา กทม.ทั้งนี้ เมื่อปี 2552 ผู้ต้องหามีพฤติการณ์หลอกลวงแรงงานว่า สามารถพาไปทำงานในประเทศต่างๆ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย ฯลฯ โดยเรียกเก็บเงินค่าใช้จ่ายในการดำเนินการรายละ 100000 บาท ที่ผ่านมาผู้ต้องหาได้ออกวีซ่าให้กับกลุ่มผู้เสียหายเป็นเพียงวีซ่านักท่อง เที่ยว หรือบางรายก็เป็นเพียงหนังสือเดินทางและวีซ่าปลอม จึงไม่สามารถทำงานในประเทศนั้นๆ ได้ ซึ่งมีผู้เสียหายหลงเชื่อถูกหลอกลวงกว่า 30 ราย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 3 ล้านบาทต่อมาผู้เสียหายได้เข้าร้องทุกข์ที่กรมการจัดหางาน จึงมีการประสานข้อมูลมายัง บก.ปคม.ก่อนวางแผนสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาดังกล่าว นอกจากนี้ จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาพบว่าเคยกระทำความผิดในลักษณะเดียวกันนี้มา แล้วหลายครั้ง โดยมีหมายจับของ สน.บางนา ติดตัวอยู่ 8 หมายสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ชักชวนแรงงานไปทำงานในต่างประเทศ โดยเสนอว่าจะออกค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้จริง แต่หลังจากได้เงินค่าดำเนินการแล้วก็จะลอยแพคนงานผู้เสียหายก่อนจะหลบหนี ทั้งนี้ ชุดจับกุมได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน บก.ปคม.รับไว้ดำเนินคดีต่อไป(ASTV ผู้จัดการออนไลน์ 22-11-2555)รศ.จินตนา ยูนิพันธุ์ นายกสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทย กล่าวระหว่างแถลงข่าว คุณภาพของระบบบริการกับกรณีพยาบาลลูกจ้างชั่วคราวกระทรวงสาธารณสุข ภายในการประชุมพยาบาลระดับเอเชีย และภาคพื้นแปซิฟิก ในหัวข้อปัญหากำลังคนด้านพยาบาล ว่า รัฐบาลมีนโยบายจำกัดกำลังคนข้าราชการมาตั้งแต่ปี 2547 ทำให้เกิดการจ้างงานไม่เป็นธรรม โดยเฉพาะพยาบาลวิชาชีพลูกจ้างชั่วคราวของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพราะไม่มีความไม่มั่นคง ขาดโอกาสในการพัฒนาและความก้าวหน้าในวิชาชีพ ที่สำคัญ มีภาระงานหนักมากและเป็นปัญหาสะสมยาวนาน 7-8 ปี นอกจากนี้ รัฐบาลและ สธ.ยังไม่ให้ความสำคัญ แต่กลับเปลี่ยนประเด็นให้ปรับเป็นพนักงานกระทรวงสาธารณสุข (พนักงาน กสธ.) แทน ซึ่งมองว่าแก้ปัญหาไม่ตรงจุด ทั้งนี้ หากพยาบาลลูกจ้างชั่วคราวยังไม่ได้รับความเป็นธรรม จะเกิดวิกฤตพยาบาลไหลออกนอกระบบภาครัฐ ไปอยู่โรงพยาบาลเอกชนและต่างประเทศ โดยเฉพาะหากมีการเปิดการค้าเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปี 2558 จะเกิดผลกระทบต่อประชาชนแน่นอนรศ.จินตนา กล่าวอีกว่า สมาคมพยาบาลฯ ประธานชมรมพยาบาล และหัวหน้าพยาบาลตามโรงพยาบาลต่างๆ จึงขอเรียกร้องแทนพยาบาลน้องๆ ดังนี้ 1.ต้องมีการบรรจุพยาบาลวิชาชีพลูกจ้างชั่วคราวจำนวน 17000 คน เป็นข้าราชการสังกัด สธ.ทั้งหมด ภายในเดือนมกราคม 2556 ซึ่งทางสมาคมฯ และตัวแทนพยาบาลทั่วประเทศได้ลงชื่อสนับสนุน รวมทั้งสิ้น 32874 รายชื่อ เพื่อต้องการให้รัฐบาลแก้ปัญหาให้ตรงจุด หรือกำหนดให้ชัดเจนว่า จะสามารถให้อัตราการบรรจุจำนวนเท่าไร และเมื่อใด ซึ่งจะมีการนำรายชื่อทั้งหมดเสนอให้นายกรัฐมนตรีในเร็วๆ นี้ 2.ให้ สธ.ผลักดันการกำหนดกรอบอัตรากำลังพยาบาลใหม่เป็นการเฉพาะสำหรับกลุ่มกำลังคน ด้านการพยาบาล 3.ตำแหน่งพยาบาลที่เกษียณอายุราชการทั้งหมด ขอสงวนไว้สำหรับบรรจุเฉพาะพยาบาลเท่านั้น และ 4.ให้ สธ.ทบทวนวิชาชีพพยาบาล ต้องยังคงสถานะของการเป็นวิชาชีพที่ขาดแคลนตามมติคณะรัฐมนตรีเช่นเดียวกับ แพทย์และทันตแพทย์ และยังเป็นสาขาที่รัฐบาลไทยได้ลงนามในข้อตกลงบังคับร่วมให้เป็นสาขาวิชาชีพ ที่มีการเคลื่อนย้ายพยาบาลไปทำงานในประเทศต่างๆในกลุ่มอาเซียนได้อีกด้วยขอให้เยียวยาพยาบาลลูกจ้างชั่วคราวเป็นข้าราชการทั้งหมด เพราะเป็นระบบที่มั่นคงที่สุด ส่วนที่สธ.คิดระบบใหม่ อย่างการเป็นพนักงาน กสธ.ยังไม่ชัดเจน และเป็นกระบวนการแก้ปัญหาระยะยาว เหมาะสำหรับพยาบาลจบใหม่ ไม่ใช่รวมพยาบาลรุ่นเก่า เพราะขนาดกระทรวงศึกษาธิการยังสามารถบรรจุครูได้ถึง 12000 ตำแหน่ง พยาบาลก็สำคัญเพราะเกี่ยวข้องกับสุขภาพของประชาชน จึงฝากความหวังที่รัฐมนตรี สธ.เพราะต้องข้ามหน่วยงานจากสำนักงบประมาณ และคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) นายกสมาคมพยาบาลฯ กล่าวน.ส.วรรณวิภา ศรีหอมชัย ประธานภาคกลางเครือข่ายพยาบาลวิชาชีพลูกจ้างชั่วคราว กล่าวว่า หาก สธ.ไม่สามารถบรรจุพยาบาลลูกจ้างชั่วคราวทั้งหมดเป็นข้าราชการได้หลัง ม.ค.2556 พยาบาลลูกจ้างวิชาชีพทั้ง 17000 คน จะนัดหยุดงานพร้อมกันทั่วประเทศ โดยจะทำหนังสือผ่านโรงพยาบาลต้นสังกัด ไปยัง สธ.เพื่อให้เตรียมความพร้อมรับมือผลกระทบก่อนหยุดงานด้วย ส่วนการพนักงาน กสธ.ทางเครือข่ายฯ ไม่ขอรับข้อเสนอ เพราะเป็นการแก้ปัญหาปลายเหตุนายจักรี กั้วกำจัด สมาคมศิกษ์เก่าวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี กรุงเทพฯ กล่าวว่า ปัจจุบันพยาบาลลูกจ้างชั่วคราวทำงานหนักมากประมาณ 16 ชั่วโมงต่อวัน การปฏิบัติงานก็ไม่ได้มาตรฐาน อย่างห้องไอซียูพยาบาลมีสัดส่วนต่อผู้ป่วยที่ 1 ต่อ 4 ทั้งที่ตามมาตรฐานสากลต้อง 1 ต่อ 1 ถึงจะให้บริการได้ดีที่สุด ขณะที่การบริการผู้ป่วยทั่วไปมีสัดส่วนพยาบาลต่อเตียงผู้ป่วย 1 ต่อ 8 เตียง หากในพื้นที่ชนบทอาจสูงถึง 1 ต่อ 12 เตียง ทั้งที่สัดส่วนที่เหมาะสมคือ 1 ต่อ 6 เตียง นอกจากนี้ อัตราเงินเดือนของพยาบาลลูกจ้างชั่วคราวก็ไม่เท่ากัน เพราะเป็นการให้เงินเดือนโดยใช้เงินบำรุงจากโรงพยาบาล หากโรงพยาบาลใดมีเงินบำรุงมาก ก็ได้ค่าตอบแทนสูง อาจถึงเงินเดือนขั้นต่ำ 15000 บาท แต่บางแห่งได้แค่ 12000 บาท ร้ายสุดเดือนละ 9000 บาทก็มี ส่วนค่าเวรและค่าโอทีบางแห่งจ่ายข้ามปี ซึ่งการจะเปลี่ยนสถานภาพเป็นพนักงาน กสธ.ก็ไม่ได้ช่วยอะไร เพราะเป็นแค่การเปลี่ยนแค่ชื่อเท่านั้น นังคงใช้เงินบำรุงจากโรงพยาบาลจ้างงานเหมือนเดิม การบริหารก็ไม่แตกต่าง มีความเสี่ยง และไม่มั่นคง หากยังเป็นแบบนี้สุดท้ายผลกระทบจะตกที่ผู้ป่วย เพราะพยาบาลลาออก อย่างข้อมูลปี 2548 พบลาออกมากถึงร้อยละ 48ด้าน นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา รองปลัด สธ.กล่าวว่า การบรรจุลูกจ้างชั่วคราวเป็นข้าราชการไม่สามารถทำได้หมดในครั้งเดียว เนื่องจากต้องดูแลทั้ง 21 สายงาน และขณะนี้ประเทศมีภาระหลายอย่างที่ต้องดูแล จึ่งต้องรอแต่ระหว่างรอก็จะมีการปรับสถานะเป็นพนักงาน กสธ.ซึ่งจะมีสวัสดิการที่ไม่แตกต่างจากข้าราชการ เบื้องต้นได้เสนอร่างระเบียบการปรับสถานภาพดังกล่าว โดยเน้นความมั่นคงในการทำงาน ขยายเวลาสัญญาการจ้างงาน ส่วนกรณีที่มีพยาบาลลูกจ้างชั่วคราวจะหยุดงานทั้งหมดหากไม่ได้รับการบรรจุ นั้น ถือว่าเป็นสิทธิ์ที่ทำได้ และ สธ.ก็คงไม่สามารถห้ามได้ แต่ยืนยันว่า มีแผนรองรับเอาไว้แล้ว หากหยุดงานจริง รับรองว่าไม่เกิดผลกระทบต่อโรงพยาบาลแน่นอน(ASTV ผู้จัดการออนไลน์ 23-11-2555) | จับเครือข่ายหลอกแรงงานไปค้ากามโอมาน เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 19 พฤศจิกายน 2555 ที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ ผบก.ปคม. | คุณภาพชีวิต,แรงงาน,สังคม | สถานการณ์แรงงานประจำสัปดาห์ | https://prachatai.com/journal/2012/11/43866 |
ศาลสั่งปรับ หม่อมเต่านา 500 หลัง จ้องหน้าคุกคามอัยการ คดีจำนำข้าว | อดีตนักเขียนบทภาพยนตร์เเละผู้กำกับภาพยนตร์ ซึ่งเข้าสังเกตการณ์ ได้แสดงพฤติกรรม อาทิ จ้องตา เขม่น ต่อหน้าพนักงานอัยการ ต่อมาศาลได้มีคำสั่งในคำร้องที่พนักงานอัยการ โจทก์ยื่นคำร้องกรณีถูกคุกคาม โดยองค์คณะได้มีคำสั่งให้ตั้งสำนวนไต่สวนละเมิดอำนาจศาล พร้อมทั้งออกหมายเรียก ม.ล.มิ่งมงคล และผู้ถูกกล่าวหาอีกหนึ่งรายมาไต่สวนวันนี้ (19 ม.ค.60) รายงานว่า เมื่อ 09.00 น. ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองศาล วิรุฬห์ เเสงเทียน รองประธานศาลฎีกา พร้อมองค์คณะ 3 คน ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำสั่งคดีละเมิดอำนาจศาล ที่พนักงานอัยการยื่นคำร้องขอให้ศาลฎีกาฯ ไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีกล่าวหา ม.ล.มิ่งมงคล และ ธรรศ วันพฤหัส อดีตเลขานุการคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) การศาสนา สภาผู้แทนราษฎร มีพฤติการเเสดงท่าทาง จ้องหน้า และเดินตามคณะพนักงานอัยการ ที่ว่าความคดีโครงการรับจำนำข้าว ที่อัยการสูงสุด (อสส.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 59 เวลา 12.00 น. ระหว่างการหยุดพักพิจารณาคดี ซึ่งอัยการได้ยื่นคำร้องต่อศาลเมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2559 | 19 ม.ค. 2560 จากกรณีเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 59 ระหว่างที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หยุดพักพิจารณาไต่สวนพยาน คดีจำนำข้าว นั้นม.ล.มิ่งมงคล โสณกุล หรือ หม่อมเต่านา | การเมือง | คดีจำนำข้าว,คุกคามพนักงานอัยการ,ธรรศ วันพฤหัส,มิ่งมงคล โสณกุล,ละเมิดอำนาจศาล,วิรุฬห์ เเสงเทียน,ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง,หม่อมเต่านา | https://prachatai.com/journal/2017/01/69690 |
ถึงแฟนบอลไทย มาดามแป้ง เปิดใจหลัง ชบาแก้ว จอดป้ายรอบ 8 ทีม อชก. | วันที่ 26 ส.ค. มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย โพสต์ขอโทษแฟนบอลฟุตบอลไทย หลังแข้งสาวไทยจบเส้นทางเอเชียนเกมส์ที่รอบ 8 ทีมสุดท้าย พร้อมน้อมรับทุกคำคิดเห็นเพื่อพัฒนาทีมต่อไป,การแข่งขันฟุตบอลหญิงในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ซึ่งฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยพ่ายแพ้ต่อความแกร่งของทีมชาติจีน 0-5 จบเส้นทางในมหกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์ 2018 ไว้เพียงรอบนี้เท่านั้น ซึ่งล่าสุด มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีม ได้โพสต์ข้อความผ่านไอจีส่วนตัว โดยแสดงความขอโทษต่อแฟนบอลที่ไม่สามารถไปถึงในรอบ 4 ทีมสุดท้ายตามเป้าหมาย โดยมีเนื้อความว่า,ไม่ขอมีคำแก้ตัวใดๆ สำหรับผลของเกมในวันนี้ แป้ง ผู้ฝึกสอน และน้องๆ นักกีฬาฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ขอกราบขอโทษแฟนบอลคนไทยทั้งประเทศ พวกเราขอน้อมรับทุกความคิดเห็น และพร้อมที่จะนำข้อผิดพลาดไปปรับปรุงแก้ไขเพื่อพัฒนาทีมต่อไปค่ะ กราบ #ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย,สำหรับฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย จะเดินทางกลับประเทศในวันที่ 28 สิงหาคม 2561 ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ในเวลา 20.10 น. | มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ออกมาเปิดใจหลังทัพชบาแก้ว จบเส้นทางที่รอบ 8 ทีมเอเชียนเกมส์ | กีฬา,เอเชียนเกมส์ | มาดามแป้ง,นวลพรรณ ล่ำซำ,ชบาแก้ว,ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย,เอเชียนเกมส์,นักกิฬาไทย | https://www.thairath.co.th/sport/asiangame/1362363 |
โตชิบาปรับลดพนักงานครั้งใหญ่ 6800 คน-ขาดทุนปีนี้ 162000 ล้านบาท | วันนี้ (22 ธ.ค.2558) นายมาซาชิ มูโรมาชิ ประธานและประธานกรรมการบริหารของบริษัทโตชิบา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่บริหารระดับสูง แถลงข่าวในกรุงโตเกียวของญี่ปุ่น ว่า บริษัทจะปรับลดพนักงานทั่วโลกถึง 6800 คน หลังคาดการณ์ว่าบริษัทจะประสบภาวะขาดทุนสุทธิในปีงบประมาณ 2558 ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนมีนาคม 2559 จำนวน 550000 ล้านเยน หรือประมาณ 162000 ล้านบาท โดยพนักงานที่ถูกปรับลดจะอยู่ในส่วนการผลิตคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล เครื่องเล่นวิดีโอและอุปกรณ์เครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งพนักงานที่ถูกปรับลดคิดเป็นร้อยละ 3 ของจำนวนพนักงานโตชิบาทั้งหมด 200000 คนทั่วโลกผู้บริหารโตชิบา เปิดเผยอีกว่า การปรับลดพนักงานในญี่ปุ่นจะเป็นไปในรูปแบบของการเกษียณก่อนกำหนด หรือเออร์รี่ รีไทร์ ส่วนพนักงานในประเทศอื่นๆ จะมีการดำเนินการในรูปแบบที่แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ นอกจากการปรับลดพนักงานแล้ว บริษัทโตชิบายังประกาศขายโรงงานผลิตโทรทัศน์ในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นไปตามแผนการปรับโครงสร้างองค์กรทั้งนี้ เมื่อปี 2557 บริษัทโตชิบาถูกตรวจพบว่ามีการตกแต่งบัญชีผลกำไรที่สูงเกินจริงกว่า 150000 ล้านเยน ส่งผลให้คณะผู้บริหารระดับสูงทั้งหมดและประธานบริษัทต้องลาออกเพื่อรับผิดชอบ ขณะที่การคาดการณ์ผลกำไรที่ออกมาล่าสุด ส่งผลให้บริษัทโตชิบาประสบภาวะขาดทุนติดต่อกันเป็นปีที่ 2 หลังขาดทุนเกือบ 38000 ล้านเยน เมื่อปีงบประมาณ 2557 | บริษัทโตชิบา ประกาศปรับลดพนักงานทั่วโลก 6800 คน ในส่วนการผลิตคอมพิวเตอร์ เครื่องเล่นวิดีโอและอุปกรณ์เครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ หลังคาดการณ์ว่าปีนี้จะขาดทุนสุทธิ 162000 ล้านบาท | ต่างประเทศ | โตชิบา,ปลดพนักงาน,ลดพนักงาน | https://news.thaipbs.or.th/content/6893 |
มันใช่หรือ สาวถูกหวยรางวัลที่ 4 มอบสินน้ำใจ 5 พัน แม่ค้าบอก น้อยไป | เจ้าชายกลางฝน สมาชิกเว็บไซต์พันทิป ตั้งกระทู้ว่า ,เสียความรู้สึกมาก ให้สินน้ำใจกับคนขาย ลอตเตอรี่ 5000 คนขายบอกให้น้อย, โดยระบุว่า คือเรื่องนี้ เกิดขึ้นกับพี่สาวผม แกถูกรางวัลที่ 4 จำนวน 5 ใบ พี่สาวผมก็ให้สินน้ำใจกับคนขาย 5000 แต่เรื่องมีอยู่ว่าผมก็หาซื้อเลขอยู่ คนขายกลับนินทากับคนขายด้วยกันเอง ว่าถูกรางวัลตั้ง 2 แสนให้มาได้แค่ 5000,ทั้งนี้ คนขายไม่รู้ว่าผมเป็นน้องชายเขา ผมเลยสวนไปว่าจริงๆ พี่สาวผมก็ไม่ให้ก็ได้นะ คนขายเลยเงียบ ไม่พูดอะไรต่อ คืออยากถามว่า 5000 นี้น้อยไปหรอครับ มีใครถูกรางวัลเยอะๆ แล้วให้สินน้ำใจคนขายบ้างครับ,ป.ล.คือเลขที่ถูกคือ ไม่มีเลขที่พี่สาวผมอยากซื้อ คนขายเลยให้เลขอื่นมาเลยถูก พี่สาวเลยคิดว่าเขาอุตส่าห์ให้โชคเราแล้วก็ให้สินน้ำใจไป,ทั้งนี้ สมาชิกคนอื่นๆ ก็ได้มาตอบกระทู้กันเป็นจำนวนมาก เช่น,พุด-พาโล, : ให้ก็ดีมากแล้วค่ะ แล้วเวลาเราซื้อไม่ถูก ซื้อแพงกว่าราคาที่กำหนดเขาลดให้เราไหม ไม่ต้องคิดมากหรอกค่ะ,สมาชิกหมายเลข 3858282, : 500 ก็มากไปแล้วด้วยซ้ำ ถ้าเป็นกรณีเราทำลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลตกหล่นหาย สุดท้ายเขาเก็บส่งคืนให้เราๆให้ 5,000 ก็ยังไม่น่าเกลียดเลย นี่อุตส่าห์ให้เป็นสินน้ำใจคนขาย (ที่ไม่ได้ทำประโยชน์อะไรให้เราเลย) ได้ไปห้าพันฟรีๆ นี่บุญหัวมันเท่าไรแล้ว นี่แหละคนเค้าถึงต้องแยกการเสวนากับคนอีกระดับ เพราะความต่างระดับมันทำให้รับวาจาและความคิดแบบพวกล่างๆ ไม่ได้เลยจริงๆ,PongTnT, : งง ยังมีหน้ามาพูดว่าให้น้อยได้อย่างไร คือ แบบนี้คนขายมิต้องได้แทบทุกงวดเรอะ ยิ่งถ้าขายเยอะๆ นี่ ยังไงก็ต้องมีถูกในแผงที่ตัวเองขายอยู่แล้ว แล้วคิดว่าถ้าทุกคนถูกแล้วเอาเงินมาแบ่งเป็นสินน้ำใจกันทุกคน คนขายนี่สบาย ไม่มีความเสี่ยง คนซื้อถูกได้ตังค์กับเค้าด้วย | หนุ่มฉุน แม่ค้าขายหวยนินทาเผาขน บอกพี่สาวที่ถูกรางวัลที่ 4 จำนวน 5 ใบได้เงิน 2 แสน แต่ให้สินน้ำใจตอบแทนแค่ 5,000 บาท | ข่าว,สังคม | สาวถูกหวย,สินน้ำใจ,ถูกหวย,หวย,ข่าวโซเชียล,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1161255 |
โออิชิ กรีนที ตอกย้ำผู้นำชาเขียว รุกตลาดหน้าร้อน | แต่เนื่องจากหลายปัจจัยที่ส่งผลให้ตลาดมีแนวโน้มลดลง แต่กิจกรรมการตลาดจะต้องเดินหน้าต่อไป,บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้นำชาเขียวพร้อมดื่มได้เดินหน้าทุ่มงบกว่า 160 ล้านบาท ส่งแคมเปญใหญ่แห่งปี โออิชิ รถสุดฮิพ ทริปสุดโอ บุกหนักรับซัมเมอร์ ผ่านกลยุทธ์ PENETRATION หรือการเพิ่มการบริโภคชาเขียว โดยสร้างสรรค์กิจกรรมการตลาดที่สร้างความแปลกใหม่โดนใจผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง,นางเจษฎากร โคชส์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจเครื่องดื่ม บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปีนี้ได้เปิดตัวพรีเซนเตอร์ใหม่ กับ 10 หนุ่มฮอต GMM ทีนไอดอล นำทีมโดย คริส-พีรวัส และสิงโต-ปราชญา ตามด้วยออฟ-จุมพล อดุลกิตติพร, กัน-อรรถพันธ์ พูลสวัสดิ์, เต-ตะวัน วิหครัตน์, นิว-ฐิติภูมิ เตชะอภัยคุณ, นนน-กรภัทร์ เกิดพันธุ์, ชิม่อน-วชิรวิชญ์ เรืองวิวรรธน์, ซิง-หฤษฏ์ ชีวการุณ และลี-ฐานัฐพ์ โล่ห์คุณสมบัติ,เนื่องจากโออิชิเป็นแบรนด์ที่มุ่งเน้นทำการตลาดกับกลุ่มวัยรุ่น ซึ่ง 10 หนุ่ม GMM ทีนไอดอลเป็นกลุ่มนักแสดงที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ บวกกับพลังของฐานแฟนคลับของนักแสดงกลุ่มดังกล่าวในช่องทางออนไลน์ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศมีจำนวนกว่า 15 ล้านคน ซึ่งจะสนับสนุนกลยุทธ์ PENETRATION ช่วยขยายฐานกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ได้ในวงกว้างมากขึ้น และรับรองว่าน้องๆจะมาสร้างความร้อนแรงและยิ่งใหญ่ให้กับแคมเปญนี้อย่างแน่นอน,ซัมเมอร์ปีนี้ โออิชิจัดโปรโมชันหน้าร้อนยิ่งใหญ่แห่งปีที่ทุกคนรอคอยในแคมเปญ โออิชิ รถสุดฮิพ ทริป สุดโอ กับของรางวัลสุดเร้าใจให้เลือก 2 สไตล์ ทั้งกองทัพรถ 100 คัน แบ่งเป็นรถยนต์โตโยต้ายาริส เอทีฟ จำนวน 20 รางวัล รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า QBIX จำนวน 80 รางวัล และรางวัลท่องเที่ยว ทริปโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น กับ 10 หนุ่ม GMM ทีนไอดอล จำนวน 50 รางวัล รวม 100 คน มูลค่ารวมทั้งสิ้นกว่า 27 ล้านบาท โดยจัดเต็มการสื่อสารการตลาดและสื่อสนับสนุนต่างๆ โดยรุกช่องทางออนไลน์มากขึ้น เพิ่มสัดส่วนงบประมาณของสื่อออนไลน์เป็น 30% เพื่อสื่อสารกับกลุ่มคนรุ่นใหม่และให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น ในปัจจุบัน โออิชิกรีนที มีฐานผู้ติดตามบนเฟซบุ๊ก oishidrinkstation จำนวนสูงถึง 4.5 ล้านคน ซึ่งเป็นเพจที่มียอดคนกดไลค์เพจมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งในผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องดื่มในประเทศไทย,สำหรับอีกหนึ่ง ความพิเศษของแคมเปญในปีนี้คือ นอกจากส่งรหัสจากฝาโออิชิแล้ว ปีนี้ยังเพิ่มโอกาสลุ้นรับรางวัลจากอีก 2 ช่องทาง โดยลูกค้าสามารถนำรหัสในซองอาหารพร้อมทานโออิชิ และรหัสท้ายใบเสร็จจากร้านอาหารในเครือโออิชิ นอกจากนั้น ปีนี้ยังเป็นปีแรกที่แบรนด์โออิชิ ได้ใช้ช่องทางออนไลน์ 100% ในการส่งรหัสร่วมกิจกรรม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารกับลูกค้า เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันมีความคุ้นเคยกับการบริโภคสื่อออนไลน์มากขึ้น ช่องทางออนไลน์จึงเป็นช่องทางที่มีประสิทธิภาพในการสื่อสารจากแบรนด์ถึงลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และลูกค้ายังสามารถตรวจสอบข้อมูลของแคมเปญได้อย่างครบถ้วน อีกทั้งยังเป็นการเปิดช่องทางให้ลูกค้าที่บริโภคสินค้าโออิชิ ไม่ว่าจะในประเทศไทยหรือต่างประเทศ ก็สามารถส่งรหัสเพื่อร่วมแคมเปญได้ทุกที่ทุกเวลา ผ่าน ,www.oishidrink.com, หรือ Oishi Mobile App ตั้งแต่วันนี้-31 พ.ค.2562 นี้,ในส่วนภาพรวมของธุรกิจเครื่องดื่มโออิชิในปี 2561 ที่ผ่านมา เรายังคงรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดธุรกิจชาพร้อมดื่มได้อย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่องด้วยส่วนแบ่งการตลาด 44.9% (Source: Nielsen Retail Index, MAT Dec18–ข้อมูล 12 เดือนย้อนหลัง ตั้งแต่ ม.ค.61–ธ.ค.61) แม้ต้องเผชิญกับภาวะตลาดชาพร้อมดื่มหดตัวและผลกระทบจากภาษีสรรพสามิตที่ส่งผลให้กำลังซื้อผู้บริโภคลดลง โดยในปีที่ผ่านมาตลาดชาพร้อมดื่มในประเทศไทยมีมูลค่ารวมอยู่ที่ประมาณ 12,000 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตลดลง 10% เมื่อเทียบกับปีก่อน,ดังนั้น กลยุทธ์ในปี 2562 เราจึงมุ่งเน้นไปที่ 1. PENETRATION หรือเพิ่มการบริโภคชาเขียว 2.ตอกย้ำและครองใจกลุ่มวัยรุ่นด้วยนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ 3.มุ่งเน้นสร้างการเติบโตในตลาดต่างประเทศให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในตลาดชาพร้อมดื่มให้ได้อย่างต่อเนื่อง,นี่เป็นสีสันหน้าร้อนที่จะช่วยปลุกตลาดชาเขียวพร้อมดื่มให้กลับมามีความคึกคักอีกครั้ง.,วานิชหนุ่ม,[email protected] | ตลาดชาเขียวพร้อมดื่มในประเทศไทย เป็นที่รู้กันดีว่าดีกรีการแข่งลดความรุนแรงลงมากเมื่อเทียบกับในอดีตที่ผ่านมาที่ก้าวเข้าสู่ช่วงหน้าร้อน แต่ละค่ายจะงัดกลยุทธ์และโปรโมชันมาฟาดฟันกันดุเดือด | null | ชาเขียว,โออิชิ กรีนที,โปรโมชัน,โออิชิ รถสุดฮิพ ทริปสุดโอ,เครื่องดื่ม,วานิชหนุ่ม,ตลาดนัดหัวเขียว | https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/1514186 |
ญี่ปุ่นเล็งทำฟรีไวไฟให้นักท่องเที่ยวใช้บนภูเขาไฟฟูจิช่วงหน้าร้อน | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เอ็นทีที โดโคโม และจังหวัดยามานาชิ และชิสุโอกะ มีแผนที่การที่จะติดตั้งจุดบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไร้สาย หรือ ไวไฟ ฮอตสปอต 8 แห่ง บนภูเขาไฟฟูจิ (Mount Fuji) รวมทั้ง กระท่อม 3 หลังรอบยอดเขา และ ศูนย์บริหารจัดการท่ัวไป รีสอร์ตที่พัก และสถานีบนภูเขาชั้นที่ 5 ใน จ.ยามานาชิ สำหรับบริการฟรีไวไฟ จะเริ่มให้บริการที่ สถานีบนภูเขาชั้นที่ 5 ตั้งแต่ 10 ก.ค.ไปจนถึง 14 ก.ย. และบริเวณรอบๆ ยอดเขาตั้งแต่ 10 ก.ค.-10 ก.ย.ตามที่จังหวัดยามานาชิระบุ,นักปีนเขาที่ขึ้นไปช้าอาจหมดโอกาสใช้งานบนยอดเขา เพราะหลังจากล็อกอินครั้งแรก สามารถใช้งานได้เพียง 72 ชม.เท่านั้น โดยการบริการมีไว้เพื่อนักเดินทางไกลทั้งหมด โดยทางจังหวัดหวังบว่าบริการนี้จะช่วยดึงดูดนักปีนเขาทางจากต่างประเทศด้วยการใช้งานอีเมล์ และเครือข่ายสังคมออนไลน์,ทางจังหวัดยามานาชิ และชิซุโอะกะ วางแผนจะประชาสัมพันธ์บริการนี้ด้วย การแจกแผ่นพับ 70,000 ใบ และการ์ดทำพิเศษเป็นภาษาต่างๆ ที่สถานีในชั้นที่ 5 และสถานีชั้นที่ 6 เพื่อนักท่องเที่ยวมารับบริการลงทะเบียน ขอพาสเวิร์ดเปิดใช้งานไวไฟ คาดกันว่าบริการไวไฟจะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวที่ภูเขาไฟฟูจิทุกๆ ปี หรือ ประมาณปีละ 4-5 หมื่นคน ที่จะมาปีนเขาที่นี่,อย่างไรก็ตาม บรรดานักปีนเขาจากสหรัฐอเมริกา และยุโรปต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า พวกเขาอยากใช้อินเทอร์เน็ต เพื่อแบ่งปันประสบการณ์และความประทับใจ ระหว่างที่ได้อยู่บนภูเขาฟูจิ.,ที่มา : ,อาซาฮี ชิมบุน | จังหวัดยามานาชิ และชิซุโอะกะ จับมือ เอ็นทีที โดโคโม เพื่อเปิดให้บริการฟรีไวไฟ แก่นักท่องเที่ยวและนักปีนเขาบนภูเขาไฟฟูจิในช่วงหน้าร้อนนี้ โดยสามารถใช้งานได้ 72 ชม.นับแต่ล็อกอินครั้งแรก ตั้งแต่ สถานีในชั้นที่ 5 จนถึึงยอดเขา | ข่าว,ไอที | ฟรีไวไฟ,Free WiFi,อินเทอร์เน็ตไร้สาย,ภูเขาไฟฟูจิ,Mount Fuji,ยามานาชิ,ชิซุโอะกะ,เอ็นทีที โดโคโม,นักท่องเที่ยว,นักปีนเขา,ญี่ปุ่น,ข่าวไอที,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/tech/510366 |
ราชกิจจาฯ เผยแพร่กฎหมายน้ำฉบับแรก | วันนี้ (28 ธ.ค.2561) นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศใช้ ณ วันที่ 25 ธ.ค.2561 เป็นปีที่ 3 ในรัชกาลปัจจุบัน โดยได้มีการเผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 135 ตอนที่ 112 ก แล้วเนื่องจากที่ผ่านมา ประเทศไทยประสบปัญหาเกี่ยวกับทรัพยากรน้ำหลายด้าน และมีการแก้ไขปัญหาจากหลายหน่วยงานตามอำนาจหน้าที่ ซึ่งกำหนดไว้ในกฎหมายหลายฉบับ ทำให้การดำเนินงานแก้ไขปัญหาขาดความเป็นเอกภาพกฎหมายฉบับนี้จึงเป็นกฎหมายที่จะบูรณาการเกี่ยวกับการใช้ การพัฒนา การบริหารจัดการ การบำรุงรักษา การฟื้นฟู และการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำให้เกิดความเป็นเอกภาพ กำหนดมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาภาวะน้ำแล้งและภาวะน้ำท่วม วางหลักเกณฑ์ในการประกันสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนในการเข้าถึงทรัพยากรน้ำสาธารณะ ตลอดจนจัดให้มีองค์กรบริหารจัดการทรัพยากรน้ำทั้งในระดับชาติ ระดับลุ่มน้ำ และระดับองค์กรผู้ใช้น้ำ ซึ่งสะท้อนการมีส่วนร่วมของประชาชนในการร่วมกันบริหารจัดการทรัพยากรน้ำทั้งนี้ พระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ.2561 เป็น 1 ใน 3 เสาหลักที่เป็นกลไกในการแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการน้ำของประเทศ (เสาหลักที่ 1 แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เสาหลักที่ 2 มีองค์กรกลางที่เป็นหลักเชื่อมระหว่างระดับนโยบาย ระดับชาติ จนถึงระดับท้องถิ่น และเสาหลักที่ 3 พ.ร.บ.ทรัพยากรน้ำ พ.ศ.2561) โดยโครงสร้างของพระราชบัญญัติฉบับนี้ประกอบด้วย 9 หมวด และบทเฉพาะกาล จำนวน 106 มาตรา ประกอบด้วยหมวด 1 ทรัพยากรน้ำหมวด 2 สิทธิในน้ำ หมวด 3 องค์กรบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ หมวดที่ 4 การจัดสรรน้ำและการใช้น้ำ หมวดที่ 5 ภาวะน้ำแล้งและภาวะน้ำท่วม หมวด 6 การอนุรักษ์และการพัฒนาทรัพยากรน้ำสาธารณะ หมวด 7 พนักงานเจ้าหน้าที่ หมวด 8 ความผิดทางแพ่งในกรณีเกิดความเสียหายต่อทรัพยากรน้ำสาธารณะ หมวด 9 บทกำหนดโทษและบทเฉพาะกาลทั้งนี้ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 30 นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป เว้นแต่บทบัญญัติในหมวด 4 การจัดสรรน้ำและการใช้น้ำ และมาตรา 104 ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 2 ปีนับแต่วันที่พระราชบัญญัติบังคับใช้ | สทนช.เผยราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ พ.ร.บ.ทรัพยากรน้ำ พ.ศ.2561 ฉบับแรกของประเทศไทย มีผลบังคับใช้ใน 30 วันหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา ชี้แก้ปัญหาขาดเอกภาพและแก้ปัญหาน้ำอย่างเป็นระบบ | สิ่งแวดล้อม | น้ำ,กฎหมาย,ทรัพยากรน้ำ,น้ำท่วม,น้ำแล้ง,สทนช.,นายสมเกียรติ ประจำวงษ์,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews | https://news.thaipbs.or.th/content/276619 |
คนจนทนหิว รอคลองหลอดไม่ได้กินข้าว โมโหเทศกิจห้ามแจก ฮือไล่กระทืบ | จุดแจกอาหารริมคลองหลอดหวิดจลาจล กลุ่มคนยากฉุนรอทั้งวันไม่ได้ข้าวกินฮือก่อม็อบแสดงความไม่พอใจเทศกิจเขตพระนครที่ไล่คนที่นำอาหารมาแจก อ้างนายสั่งยกเลิกจุดไปแล้ว ตำรวจสน.ชนะสงครามต้องมาระงับเหตุ สรุปให้แจกต่อได้แต่ต้องไปขออนุญาตสำนักงานเขตก่อนวันที่ 22 เม.ย. ที่บริเวณถนนริมคลองหลอดฝั่งแม่พระธรณีบีบมวยผม ซึ่งเป็น 1 ใน 71 จุด ที่ทางกทม.กำหนดให้แจกสิ่งของช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตั้งแต่ช่วงสายได้มีประชาชนยากไร้ซึ่งอาศัยอยู่บริเวณละแวกตรอกสาเกและจากที่ต่างๆ ตลอดจนกลุ่มคนไร้บ้านจำนวนกว่า 200 คน พากันเดินทางมาปักหลักรอการแจกจ่ายอาหารและข้าวของจากผู้มีเมตตาท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัดผลปรากฏว่าทันทีที่มีผู้นำรถมาจอดเพื่อเตรียมนำข้าวของมาแจกจ่าย เจ้าหน้าที่เทศกิจเขตพระนคร 3 นายซึ่งประจำอยู่ ได้ปฏิเสธและให้ไปที่บริเวณวงเวียนสิบสามห้างย่านบางลำพูแทน โดยให้เหตุผลว่าสำนักงานเขตพระนครได้ยกเลิกจุดแจกอาหารที่บริเวณพระแม่ธรณีบีบมวยผมแล้ว เหตุดังกล่าวได้สร้างความไม่พอใจให้ผู้ที่มารอรับอาหารแจกเป็นอย่างมากกระทั่งเวลาประมาณ 14.30 น. ได้เกิดเหตุวุ่นวาย ทันทีที่กลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาวจำนวนหนึ่งขับรถยนต์นำข้าวปลาอาหารเข้ามาในบริเวณเพื่อแจกจ่าย ผู้ที่มาปักหลักรอรับของพากันมีความหวังจึงลุกขึ้นต่อแถวรอสุดท้ายได้รับการปฏิเสธจากเทศกิจอีกครั้ง ทำให้กลุ่มผู้ที่มานั่งรออาหารแจกตั้งแต่เช้าต่างไม่พอใจโห่ด่าทอจนเกิดมีปากเสียงกับกลุ่มเทศกิจ ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่เทศกิจเห็นท่าไม่ดีจึงพากันเดินทางกลับ แต่ชายฉกรรจ์ที่มารอรับอาหารแจกกลุ่มหนึ่งไม่พอใจวิ่งฮือตามจะเข้าไปรุมประชาทัณฑ์ โชคดีที่เทศกิจรายนี้ขับรถจักรยานยนต์หนีได้ทัน กลุ่มผู้รอรับแจกอาหารยังก่อหวอดแสดงความไม่พอใจ และเตรียมเดินขบวนไปประท้วงที่สำนักงานเขตพระนครด้วยต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงคราม กว่า 10 นาย นำโดย ร.ต.อ. ปฐมพงษ์ แสงอรุณ รองสวป.สน.ชนะสงคราม เข้ามาควบคุมสถานการณ์ และเมื่อประสานไปยังสำนักงานเขตพระนครเพื่อหาข้อยุติ ได้ข้อสรุปว่าสำนักงานเขตพระนครจะยังคงให้มีการแจกอาหารบริเวณแม่พระธรณีบีบมวยผมต่อไปได้ แต่ให้ผู้ที่จะแจกอาหารต้องไปขออนุญาตจากทางสำนักงานเขตพระนครเท่านั้นอย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอให้แยกย้ายกันกลับเนื่องจากเริ่มมีลักษณะของการก่อหวอดชุมนุม โดยให้เริ่มการแจกจ่ายอาหารข้าวของอีกครั้งในวันที่ 23 เม.ย. | จุดแจกอาหารริมคลองหลอดหวิดจลาจล กลุ่มคนยากฉุนรอทั้งวันไม่ได้ข้าวกินฮือก่อม็อบแสดงความไม่พอใจเทศกิจเขตพระนครที่ไล่คนที่นำอาหารมาแจกอ้างนายสั่งยกเลิกจุดไปแล้ว | ข่าว,ทั่วไทย | โควิด-19,แจกข้าวสู้โควิด,จุดแจกอาหาร ริมคลองหลอด,จุดแจกอาหาร กทม.,ห้ามแจกข้าว,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1827816 |
ชี้พฤติกรรมคนไทยอ้าแขนรับ 4G พร้อมเรียนรู้บริการใหม่ | ,มีรายงานว่า บริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด บริษัทจากแนวคิดสตาร์ตอัพที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจ โดยมาร์เก็ตบัซซ ผู้ทำธุรกิจด้านนวัตกรรมการสำรวจวิจัยการตลาดรูปแบบใหม่บนสมาร์ทโฟน เปิดเผยผลการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคบนฐานข้อมูลของบัซซี่บีส์ ในหัวข้อ ประเทศไทยเข้าถึง 4G แล้ว? เมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา โดยสำรวจคนไทยทั้งชายและหญิง รวมจำนวน 2,000 คน ช่วงอายุ 15-65 ปี แบ่งสัดส่วนเป็นคนในกรุงเทพฯ 32% และต่างจังหวัด 68% พบว่า คนไทยมีความเข้าใจรับรู้เรื่อง 4G สูงถึง 91% โดยสัดส่วน 70% ของผู้เข้าร่วมสำรวจ 2,000 คน เข้าใจว่า 4G ให้ความเร็วข้อมูลแบบไร้สาย เพื่อความคล่องตัว 57% ดาวน์โหลดข้อมูลได้รวดเร็วขึ้น 53% อัพเกรดเครือข่ายมือถือ เพื่อใช้มีเดียออนไลน์ เช่น เพลง และวีดิโอ ได้รวดเร็วขึ้น และ 45% เข้าใจว่า อินเทอร์เน็ตไร้สายจะมีความเร็วเทียบเท่าระดับบรอดแบรนด์ ซึ่งสรุปได้ว่า คนไทยส่วนใหญ่เข้าใจว่า 4G ช่วยให้การติดต่อบนมือถือรวดเร็วยิ่งขึ้น รวมถึงความเร็วในการรับชมวีดิโอ การดาวน์โหลด หรือ การอัพโหลดก็ตาม,นอกจากนั้นยังพบว่า คนไทยได้ย้ายมาใช้บริการระบบ 4G แล้ว สูงถึง 65% ซึ่งคนส่วนใหญ่ในกลุ่มดังกล่าวนี้ ด้วยสัดส่วน 70% เป็นผู้ที่ใช้สมาร์ทโฟนอยู่แล้ว และมีค่าใช้จ่ายมือถือรายเดือนสูงกว่า 400 บาทต่อเดือน ถือเป็นกลุ่มที่ปรับเปลี่ยนมาใช้บริการ 4G อย่างรวดเร็วมากกว่ากลุ่มอื่นๆ นอกจากนี้ กลุ่มนี้ยังมีอัตราการใช้งานบนวีดิโอคอล โซเชียลมีเดีย บริการแผนที่ และบริการซื้อขายออนไลน์ สูงกว่ากลุ่มอื่นๆ อีกด้วย และด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้ จึงมีผลต่อการตัดสินใจให้ย้ายมาใช้บริการ 4G อย่างรวดเร็ว,จากการสำรวจยังพบว่า ผู้บริโภคยังมีเหตุผลที่ตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้บริการ 4G แตกต่างกันไป ประกอบด้วย 57% อินเทอร์เน็ตเร็วขึ้น เพื่อใช้ดาวน์โหลด 50% พูดคุยผ่านโซเชียลมีเดียได้เร็วขึ้น 42% อินเทอร์เน็ตเร็วขึ้น เพื่อใช้อัพโหลด 36% รับชมและฟังมีเดียออนไลน์ เช่น เพลง และวีดิโอ ได้ไวขึ้น 29% เครือข่ายครอบคลุมทั่วประเทศ 24% วีดิโอคอลมีคุณภาพสูงขึ้น และ 23% อัพเกรดเพราะอัตราค่าใช้จ่ายรายเดือนเท่าเดิม,ขณะเดียวกันพบว่า 75% ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนที่เปลี่ยนมาใช้บริการ 4G มีความพึงพอใจกับบริการ โดยผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า ผู้ใช้บริการ 22% บอกว่าบริการ 4G ดีมากๆ หากเทียบกับบริการก่อนหน้านี้ และอีก 50% บอกว่าดี นอกจากนี้อีก 80% ของผู้ที่ยังไม่ได้ใช้บริการ 4G ตั้งใจว่าจะอัพเกรดเป็น 4G ภายในอีก 12 เดือนข้างหน้านี้,นายแกรนท์ บาร์โทลี่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารมาร์เก็ตบัซซ กล่าวว่า ภาพรวมของตลาดมือถือประเทศไทย มีมูลค่าตลาดสูงถึง 6.7 พันล้านดอลลาห์สหรัฐฯ หรือประมาณ 237 พันล้านบาท ทุกวันนี้โทรศัพท์มือถือมีบทบาทสำคัญและกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตคนไทยไปแล้ว และคนไทยพร้อมที่จะเรียนรู้และเปิดโอกาสที่จะมองหาบริการรูปแบบใหม่ๆ บนโทรศัพท์มือถือ ซึ่งรวมถึงการดูทีวี ดิจิตอลคอนเทนต์ วีดิโอคอล ช็อปปิ้งออนไลน์ และการเข้าถึงโซเชียลมีเดียต่างๆ ทั้งด้านสาระความรู้และความบันเทิงด้วย และจากการพัฒนาสิ่งใหม่ๆ บนโซเชียลเน็ตเวิร์กนี้เอง ทำให้หลายองค์กรได้เริ่มปรับเปลี่ยน และจัดสรรงบการตลาดบนมือถือและสื่อออนไลน์มากขึ้น รวมถึงมีการเลือกใช้สื่อที่ทันสมัย เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว และครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุคดิจิตอลมากขึ้น ,นายบาร์โทลี่ กล่าวต่อว่า จุดเด่นของมาร์เก็ตบัซซแตกต่างจากการทำผลสำรวจวิจัยโดยทั่วไป โดยนำฐานข้อมูลของบัซซี่บีส์มาจัดทำผลสำรวจ ปัจจุบันมีฐานข้อมูลที่ใช้งานอยู่จริง 8 ล้านคน เป็นฐานข้อมูลที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มาร์เก็ตบัซซสามารถเจาะกลุ่มที่ยากต่อการเข้าถึงได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว แม่นยำ และสามารถสำรวจได้ทุกที่ทุกเวลา 24/7 โดยได้นำเทคโนโลยีบวกกับความชำนาญการของทีมที่มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี มาออกแบบพัฒนาโปรแกรมการทำวิจัยสำหรับลูกค้าบนเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่นเดียวกับการวิจัยแบบเจาะลึกในครั้งนี้ และจากการผสมผสานด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยนี้ ทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของลูกค้าองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังสามารถตั้งคำถามบนโทรศัพท์มือถือและสอบถามผู้บริโภคได้สูงสุดถึง 5,000 คนต่อวัน. | มาร์เก็ตบัซซ เผยผลวิจัย พฤติกรรมคนไทยอ้าแขนรับ 4G รับรู้สูงถึง 91% และ 65% หันมาใช้บริการ 4G แล้ว พร้อมเรียนรู้บริการใหม่ๆ | null | 4G,มือถือ 4G,ประมูล 4G,คลื่น 4G,มือถือ,สมาร์ทโฟน,คลื่นความถี่,3G,บริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด,ข่าว,ข่าวเศรษฐกิจ,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/593933 |
นักวิชาการห่วงปลอมปนข้าวระบาด | ภายหลังรัฐบาลเริ่มโครงการรับจำนำข้าวเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา มีรายงานความเคลื่อนไหวจากผู้เกี่ยวข้องว่าพบการลักลอบนำเข้าข้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะกัมพูชาเข้ามาพักไว้เพื่อรอเข้าโครงการรับจำนำข้าวจากการตรวจสอบของไทยพีบีเอที่ด่านศุลกากรอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ระบุว่าเดือนตุลาคมช่วงเปิดรับจำนำข้าว สามารถจับกุมการลักลอบขนข้าวเปลือกจากประเทศกัมพูชาได้จำนวนหนึ่ง แต่ในเดือนพฤศจิกายนยังไม่สามารถจับกุมเพิ่ม หลังจากการเปิดเผยคลิปการลักลอบขนข้าวจากฝั่งกัมพูชาของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรครักประเทศไทย ซึ่งทางจังหวัดได้ร่วมกับกองกำลังบูรพาเข้มงวดการเฝ้าระวังพื้นที่ตามแนวชายแดนมากขึ้นนอกจากนี้ปัญหาวิกฤตน้ำท่วมในพื้นที่เพาะปลูกและรับจำนำส่วนใหญ่ในภาคกลาง ทำให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาด้วยการเปิดให้มีการรับจำนำข้าวนอกเขต โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนืออาจจะเปิดช่องให้มีการปลอมปนข้าวได้มากขึ้นทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์อนุมัติโรงสีเปิดรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2554/55 ข้ามเขตแล้ว 122 ราย ส่วนใหญ่เป็นโรงสีภาคกลางไปเปิดข้ามเขตภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ มีโรงสีเข้าร่วมโครงการจำนวน 593 แห่ง จากจำนวนแสดงความสนใจเข้าโครงการ 743 แห่ง สำหรับปริมาณรับจำนำระหว่าง วันที่ 7 ตุลาคม- 5 ธันวาคม 2554 มีจำนวน 2380000 ตันนอกจากการปลอมปนข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านแล้วยังพบว่ามีการปลอมปนข้าวหอมปทุม ข้าวหอมจังหวัดในโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งมีคุณภาพต่างจากข้าวหอมมะลิซึ่งเป็นข้าวเกรดพรีเมียม ซึ่งปลูกในพื้นที่ภาคอีสาน เนื่องจากมีความต่างของราคาทำให้โรงสีบางแห่งนำข้าวดังกล่าวมาปน ซึ่งจะส่งผลให้เอกลักษณ์ของข้าวหอมมะลิไทยเสียหายและประเทศคู่ค้าหันไปซื้อข้าวหอมจากเวียดนามแทน | นักวิชาการจากสถาบันคลังสมองของชาติและนายกกิติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ห่วงกรณี ก.พาณิชย์ให้โรงสีเปิดรับจำนำนำข้าวเขตและจำนำแบบยุ้งฉาง อาจเปิดช่องให้โรงสีบางแห่งปลอมปนข้าวประเทศเพื่อนบ้านเข้าโครงการรับจำนำ | เศรษฐกิจ | ก.พาณิชย์,กัมพูชา,ข้าว,ชูวิทย์,ประเทศเพื่อนบ้าน,รับจำนำข้าว,โรงสี | https://news.thaipbs.or.th/content/51385 |
หลายองค์กรแถลงการณ์ ยุติรุนแรง กลับโต๊ะเจรจา | เพื่อบรรลุผลประโยชน์และเป้าหมายทางการเมือง ย้ำทุกฝ่ายต้องปฏิบัติในทุกวิถีทางเพื่อปกป้องชีวิตและสวัสดิภาพของผู้ชุมนุมและประชาชน นอกจากนี้ เรียกร้องต่อสื่อมวลชน ทั้งสื่อกระแสหลักและสื่อทางเลือก ในการลดความขัดแย้ง ลดความเกลียดชัง และเปิดพื้นที่เพื่อสร้างความเข้าใจระหว่างกลุ่มคนที่แตกต่างหลากหลาย ตลอดจนผลักดันการปฎิรูปประเทศไทยร่วมกันในอนาคตจากสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นจนถึงวันนี้ ชี้ชัดว่าการใช้ความรุนแรงไม่สามารถแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง และนำพาสังคมออกจากวิกฤตได้กป. อพช. ขอประณามการใช้กองกำลังและอาวุธผู้ที่เอาชีวิต มนุษย์มาแลก เพื่อบรรลุผลประโยชน์และเป้าหมายทางการเมือง และทุกฝ่ายต้องปฏิบัติในทุกวิถีทางเพื่อปกป้องชีวิตและสวัส ดิภาพของผู้ชุมนุมและประชาชนนอกจากนี้ กป. อพช. ยังมีข้อเรียกร้องต่อสื่อมวลชน ทั้งสื่อกระแสหลักอันได้แก่ วิทยุ โทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ รวมถึงสื่อทางเลือก อันได้แก่ วิทยุชุมชน เคเบิลทีวี ทีวีดาวเทียม ในการความขัดแย้ง ลดความเกลียดชัง และเปิดพื้นที่เพื่อสร้างความเข้าใจระหว่างกลุ่มคนที่แตกต่างหลากหลาย ตลอดจนผลักดันการปฎิรูปประเทศไทยร่วมกันในอนาคตกป.อพช. เห็นว่าการเจรจาและแนวทางสันติวิธีเป็นวิถีเดียวใน อันจะแก้ไขวิกฤตความขัดแย้งที่ดำรงอยู่ และมีข้อเรียกร้องดังต่อไปนี้1. ให้รัฐบาล และ นปช. ยุติการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบโดยทันที หยุดสร้างความเกลียดชัง และเข้าสู่กระบวนการเจรจาโดยเร็วที่สุด โดยยึดผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง พร้อมทั้งประกาศผลการเจรจาต่อสาธารณะ และยึดเป็นสัญญาประชาคมที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด2. ให้รัฐบาลและแกนนำ นปช. ต้องแสดงความรับผิดชอบต่อความรุนแรง และความสูญเสียที่เกิดขึ้น และเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างเท่าเทียม3. ให้ทุกฝ่ายในสังคมหยุดสร้างความเกลียดชัง พร้อมทั้งยึดมั่นแนวทางสันติวิธี ในการแก้ไขความขัดแย้งโดยการมีส่วน ร่วมจากทุกฝ่ายกป.อพช. เห็นว่ากระบวนการปฏิรูปทั้งทางสังคม เศรษฐกิจ การเมืองจะสามารถดำเนินการต่อไปได้ ก็ต่อเมื่อสถานการณ์การใช้ความรุนแรงในปัจจุบันยุติลง ดังนั้น ตราบใดที่ยังมีการปะทะและประหัตประหารชีวิตมนุษย์ กป.อพช. ย่อมไม่สามารถเข้าร่วมกระบวนการปฏิรูปตามโรดแม็พใดๆ ของรัฐบาลได้17 พ.ค. 2553บุญแทน ตันสุเทพวีรวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชน (ครส.) ส่งแถลงการณ์ของคณะกรรมการรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชน (ครส.) ขอให้คู่ความขัดแย้งทั้งสองฝ่าย กล่าวคือ รัฐบาล และผู้นำ นปช. หยุดเผชิญหน้าโดยทันที และให้หันหน้าเข้าสู่การเจรจา ขอให้กองกำลังติดอาวุธทั้งสองฝ่ายทั้งภาครัฐ และ กลุ่มต่อต้านรัฐ ได้หยุดยิง หยุดการก่อวินาศกรรม หยุดการสร้างความหวาดกลัวกับสาธารณชน โดยทันที รวมถึงขอให้อดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตรและพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีความใกล้ชิดและมีอิทธิพล กับแกนนำ นปช. และสนับสนุนการชุมนุมของ นปช. ดำเนินการให้ นปช. ยุติการชุมนุมโดยทันที ตลอดจนยุติการกระทำในลักษณะสั่งการ ยั่วยุ ปลุกปั่น ผู้ชุมนุมของ นปช.ทั้งนี้ ผู้ที่เห็นด้วยสามารถร่วมลงชื่อได้ที่ เนื้อหามีดังนี้ย่างเข้าวันที่ 4 ของการเผชิญหน้าระลอกใหม่ระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมภายใต้การนำของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ก่อตัวขึ้นอีกครั้งเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2553 เป็นต้นมา ยังผลให้มีผู้บาดเจ็บนับพันคน เสียชีวิตแล้วกว่า 60 ศพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหตุการณ์ปะทะเมื่อวันที่ 10 เมษายน 22 เมษายน 28 เมษายน และ ล่าสุด 13-15 พฤษภาคม (ซึ่งมีผู้เสียชีวิตแล้ว 24 ราย) เป็นที่น่าเสียใจที่เหตุโศกนาฏกรรมครั้งล่าสุดนี้ ถือเป็นความเสียหายครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์การเมืองไทยและน่าจะหลีกเลี่ยงมิให้เกิดขึ้นได้ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเป็นที่ประจักษ์ชัดว่าคู่ขัดแย้ง คือชนชั้นนำต่างยึดมั่นผลประโยชน์ของตนเป็นที่ตั้ง มากกว่าผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ โดยเฉพาะแกนนำของการชุมนุม แทนที่จะคำนึงถึงชีวิตของผู้ชุมนุมเป็นสำคัญและยึดถือแนวทางการต่อสู้แบบสันติตามที่ได้ประกาศไว้แต้ต้น กลับแสดงความไม่เป็นตัวของตัวเอง และตกอยู่ในอำนาจครอบงำของกลุ่มชนชั้นนำที่สูญเสียอำนาจ กระทั่งยินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจให้กองกำลังติดอาวุธเข้ามาเป็นตัวประกอบสำคัญในสถานการณ์ความขัดแย้งอย่างไม่ต้องสงสัย นับแต่เหตุการณ์การปะทะที่ถนนราชดำเนินเมื่อวันที่ 10 เมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากทั้งฝ่ายผู้ชุมนุม และเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของรัฐเป็นจำนวนมาก และกำลังพัฒนาเข้าสู่สถานการณ์ความขัดแย้งด้วยกำลังอาวุธ และสงครามกลางเมือง เป็นลำดับ ที่น่าเป็นห่วงในขณะนี้ ประชาชนได้ตกอยู่ในสถานะที่เสมือนถูกจับเป็นตัวประกันโดยคู่ขัดแย้งทั้งสองฝ่ายคณะกรรมการรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชน (ครส.) และเครือข่ายองค์กรสิทธิมนุษยชน ได้เรียกร้องให้คู่ความขัดแย้งได้ใช้แนวทางสันติวิธีมาโดยตลอด ระหว่างนั้นเมื่อได้เห็นว่า การเจรจาระหว่างคู่ความขัดแย้งมีอันต้องสะดุดหยุดลง ด้วยเหตุต่าง ๆ ทำให้การเผชิญหน้าได้ทวีความเข้มข้นขึ้นจนถึงการยึดพื้นที่ชุมนุมใจกลางเมือง เกิดการเผชิญหน้าหลายครั้ง เกิดเหตุวินาศกรรมหลายหน ส่งผลกระทบต่อสังคมและชุมชนอย่างถ้วนทั่ว ความขัดแย้งระหว่างรัฐบาล กับ นปช. ได้ทวีความรุนแรงมากขึ้น และในที่สุดได้แปรสภาพไปเป็นความขัดแย้งด้วยกำลังอาวุธระหว่างหน่วยงานความมั่นคงของรัฐ กับ กองกำลังติดอาวุธที่สนับสนุนการชุมนุมของ คนเสื้อแดง ไปแล้ว ดังนั้น ครส. และองค์กรเครือข่ายสิทธิมนุษยชน จึงมีข้อเสนอแนะ และเรียกร้อง ดังต่อไปนี้1. ขอให้คู่ความขัดแย้งทั้งสองฝ่าย กล่าวคือ รัฐบาล และผู้นำ นปช. หยุดเผชิญหน้าโดยทันที และให้หันหน้าเข้าสู่การเจรจา โดยไม่มีการตั้งเงื่อนไขอันเป็นอุปสรรคต่อการเจรจา ทั้งนี้การเจรจาพึงหวังผลที่การลดความสูญเสียจากการต่อสู้ด้วยกำลังอาวุธ และให้ประชาชน และสังคมได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ไม่ให้มีผู้เสียชีวิตอีกแม้แต่รายเดียว ซึ่งรวมถึงการคุ้มครองชีวิตของผู้นำ นปช. ด้วยทุกฝ่ายพึงตระหนักว่า สิทธิในการมีชีวิตเป็นสิทธิพื้นฐานและมีความสำคัญที่สุดเหนือสิ่งอื่นใดที่จะต้องได้รับการเคารพโดยผู้ถืออาวุธทั้งสองฝ่าย2. ขอให้กองกำลังติดอาวุธทั้งสองฝ่ายทั้งภาครัฐ และ กลุ่มต่อต้านรัฐ ได้หยุดยิง หยุดการก่อวินาศกรรม หยุดการสร้างความหวาดกลัวกับสาธารณชน โดยทันที การใช้อาวุธสงครามกราดยิงใส่กลุ่มประชาชนที่ไร้อาวุธเป็นสิ่งที่ไม่สมควรจะเกิดขึ้นในสังคมของเรา การก่อวินาศกรรมยิงระเบิดและปล้นสดมภ์ต่อสถานที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ราชการ ธนาคาร บริการสาธารณูปโภค โทรคมนาคม และกิจการพลังงาน การคุกคามผู้ที่มีความคิดเห็นทางการเมืองต่างจากตน และการบุกรุก คุกคาม สถานพยาบาล หรือ การทำร้ายบุคลากรด้านการแพทย์ พยาบาล และอาสาสมัครสันติ มนุษยธรรม และผู้สื่อข่าว เป็นสิ่งที่มิอาจยอมรับได้ในสายตาประชาคมโลกทุกฝ่ายพึงตระหนักว่า สิทธิที่ปลอดจาความหวาดกลัว เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่จะต้องได้รับการเคารพ ประชาชนจำนวนมากตกอยู่ในสภาวะหวาดกลัว หวาดระแวงตลอดระยะเวลากว่า 2 เดือนที่ผ่านมาว่าจะเกิดเหตุร้ายแรงขึ้นกับตน ความหวาดกลัวนำมาซึ่งการขาดสติยั้งคิด ทั้งผู้นำการชุมนุม และเจ้าหน้าที่ภาครัฐ ดังนั้นทุกฝ่ายพึงมีสติสัมปชัญญะในการแสดงออกอย่างอารยะ มีเหตุมีผล ต้องไม่ให้ความโกรธ ความเกลียด ความกลัว เข้าครอบงำจนตัดสินใจด้วยโทสะจริต และโมหะจริต นำมาซึ่งความผิดพลาดอันส่งผลร้ายต่อสังคมโดยรวม3. ขอให้คู่ความขัดแย้งทุกฝ่าย เปิดโอกาสให้ เด็ก สตรี และคนชราที่มาเข้าร่วมการชุมนุม ได้ออกจากพื้นที่ความขัดแย้งโดยทันที โดยอาจขอลี้ภัยในเขตอภัยทานบริเวณที่ใกล้ที่สุด ไม่ว่าจะเป็นวัด โรงเรียน หรือ โรงพยาบาล ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัย ของผู้ที่อาจตกเป็นเหยื่อของการปะทะกันด้วยความรุนแรง หรืออาวุธสงคราม4. ขอให้คู่ความขัดแย้งทุกฝ่าย อำนวยความสะดวกให้บุคลากรทางการแพทย์ พยาบาล และสถานพยาบาลตลอดจนอาสาสมัครด้านสันติและมนุษยธรรม สามารถปฏิบัติงานตามภารกิจของตนได้อย่างอิสระ โดยไม่ถูกรบกวน ปิดกั้น หรือถูกคุกคามด้วยวิธีการใด ๆ การปฏิบัติภารกิจของบุคคลากรทางการแพทย์ และพยาบาลได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ (International Humanitarian Laws) หรือ Geneva Convention ซึ่งจะล่วงละเมิดมิได้ ไม่ว่าจะอยู่สถานการณ์ใด5. ขอให้คู่ความขัดแย้งทุกฝ่าย เปิดโอกาสให้สื่อมวลชน นักข่าว สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามวิชาชีพได้อย่างเป็นอิสระ มีหลักประกันในด้านความปลอดภัยสำหรับเจ้าหน้าที่สื่อมวลชนทุกประเภท ทุกแขนง ปลอดจากการถูกคุกคามในการแสวงหาข้อมูลข่าวสาร หรือนำเสนอข้อมูลข่าวสารไม่ว่ากรณีใด ๆ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องและเป็นจริงได้โดยรวดเร็ว6. ขอให้ทุกฝ่ายให้ความสำคัญต่อกระบวนการปรองดองเพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง ปัญหารากฐานในเรื่องความเหลื่อมล้ำในสังคม ปัญหาความยากจน ปัญหาของกลุ่มผู้ด้อยโอกาส เช่นเกษตรกร ผู้ใช้แรงงาน คนจนเมือง กลุ่มชาติพันธุ์ คนไร้รัฐ เหยื่อจากโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ของรัฐ เด็ก สตรี คนพิการ และผู้สูงวัย จะต้องได้รับการแก้ไข กระบวนการยุติธรรมต้องมีการปฏิรูป ระบบรัฐสวัสดิการจะต้องมีการพิจารณาทบทวนและพัฒนาให้มีประสิทธิภาพ เสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชนทุกชั้นชน7. ขอให้รัฐบาลภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แสดงความจริงใจด้วยการเดินหน้าแก้ไขปัญหาทั้งระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว โดยทันที กล่าวคือในระยะสั้น ให้ตั้งคณะกรรมการอิสระจากผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับความยอมรับ มีความเป็นกลาง ได้ทำหน้าที่ตรวจสอบและแสวงหาข้อเท็จจริงในเหตุการณ์ 10 เมษายน และ 13-15 พฤษภาคม 2553 โดยมิชักช้าระยะกลาง ตามที่ได้ให้คำมั่นกับสาธารณชนในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้มีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น หาใช่เพื่อประโยชน์ของพรรคการเมืองเพียงฝ่ายเดียว หากแต่ต้องเป็นการเอื้อให้เกิดกระบวนการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐจากภาคประชาสังคมอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งหมายรวมถึงกระบวนการสรรหากรรมการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญซึ่งประชาชนต้องมีส่วนร่วม อาทิ เช่น คณะกรรมการการเลือกตั้ง คณะกรรมการปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นต้น การดำเนินการในขั้นตอนนี้ไม่ควรยาวนานเกินกว่า 6 เดือนระยะยาว การปฏิรูปประเทศไทย โดยมีเป้าหมายที่ความผาสุกของประชาชนทุกผู้คน ทั้งในด้านการพัฒนาสังคม เศรษฐกิจ การเมือง ที่มีความสมดุล พัฒนาคุณภาพชีวิต ลดปัญหาการเหลือมล้ำในสังคม ขจัดปัญหาความยากจน และสร้างความเป็นธรรมให้ปรากฏ การพัฒนาคุณภาพชีวิต และการส่งเสริมสิทธิมนุษยชน ต้องเป็นวาระแห่งชาติของรัฐบาลในทุกยุคทุกสมัยจากนี้ไป8. ขอให้อดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตรและพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีความใกล้ชิดและมีอิทธิพล กับแกนนำ นปช. และสนับสนุนการชุมนุมของ นปช. ดำเนินการให้ นปช. ยุติการชุมนุมโดยทันที ตลอดจนยุติการกระทำในลักษณะสั่งการ ยั่วยุ ปลุกปั่น ผู้ชุมนุมของ นปช. หยุดวีดีโอ-โฟนลิ้งค์ หยุดทวิตเตอร์ นอกจากนี้การแสดงความกล้าหาญทางจริยธรรมของท่าน ด้วยการยอมก้าวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและกระบวนการปรองดองแห่งชาติโดยทันที ทั้งนี้เพื่อเป็นการให้ความเคารพต่อระบบนิติธรรม จะถือเป็นความเสียสละที่น่าชื่นชมอย่างยิ่ง และเชื่อว่าน่าจะมีส่วนทำให้บ้านเมืองสงบลงได้9. ขอให้รัฐบาลสอบสวนผู้ก่อเหตุและอยู่เบื้องหลังของความรุนแรง ไม่ว่าบุคคลผู้นั้นจะเป็นผู้มีอำนาจและอิทธิพลเพียงใดก็ตามเพื่อนำตัวมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม รวมทั้งสอบสวนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่กระทำเกินสมควรแก่เหตุ โดยดำเนินการกับผู้รับผิดชอบตามกฎหมาย ตลอดจนชดเชย เยียวยาแก่ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของการกระทำดังกล่าวด้วยความเป็นธรรมองค์กรสิทธิมนุษยชน มีความเห็นใจทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงชั้นผู้น้อยที่ต้องปฏิบัติภารกิจอันหนักหน่วงซึ่งมีความสำคัญ เช่นเดียวกับประชาชนรากหญ้าที่มาร่วมชุมนุมด้วยการแสดงออกทางการเมือง ทั้งที่มีความสุ่มเสี่ยงต่อชีวิตเป็นอย่างยิ่ง บัดนี้ข้อเรียกร้องของท่านได้เป็นที่ประจักษ์ต่อสังคมแล้ว เป็นสิ่งที่ภาครัฐต้องนำไปวางแผน และนำสู่การปฏิบัติโดยพลัน นอกจากนี้เราขอแสดงความอาลัยและห่วงใยต่อญาติมิตรผู้ได้รับผลกระทบ ทั้งผู้สูญเสียชีวิต บาดเจ็บ และทุพพลภาพ ทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่รัฐ และประชาชนผู้เข้าร่วมการชุมนุม ตลอดจนสามัญชนผู้ห่วงใยในสังคมซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเหตุการณ์ความตึงเครียดทางการเมือง จะสงบลงโดยเร็วหากทุกฝ่ายใช้ขันติธรรม ปัญญาธรรม และ จริยธรรมในการแก้ไข และจัดการกับปัญหาให้เกิดสันติสุขของบ้านเมืองอย่างมีสติจากการปฏิบัติการกดดันเพื่อให้แนวร่วมประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (นปช.) ยุติการชุมนุมโดยกองกำลังทหารติดอาวุธสงครามและกระสุนจริง ซึ่งได้เริ่มปฏิบัติการมาแล้วตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคม 2553 ไม่ว่าจะเป็นมาตรการจำกัดบริการสาธารณะ การตัดการลำเลียงสาธารณูปโภค เสบียงอาหาร การจำกัดการเดินทาง อีกทั้งยังมีการประกาศใช้พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 อีก 15 จังหวัดในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน เพื่อควบคุมไม่ให้ผู้ชุมนุมซึ่งอยู่นอกพื้นที่และต่างจังหวัดเดินทางเข้ามาร่วมสบทบการชุมนุมในกรุงเทพฯ และทำให้เกิดการตอบโต้จากผู้ชุมนุมและจากกองกำลังติดอาวุธ จนนำไปสู่ความรุนแรงและการสูญเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น และอาจทำให้ประเทศไปสู่หายนะนับจากเหตุการณ์ลอบสังหาร พล.ตรี ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดงในคืนวันที่ 13 พฤษภาคม 2553 และตามมาด้วยการปะทะระหว่างทหารและผู้ชุมนุมบริเวณหน้าสวนลุมพินี มีผู้ชุมนุมถูกยิงเสียชีวิต 1 คน และการปะทะดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง มีความรุนแรงขึ้นตามลำดับ กระจายไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสามเหลี่ยมดินแดง อนุสาวรีชัยสมรภูมิ ซอยรางน้ำ แยกราชปรารภ ชุมชนบ่อนไก่ และ ถนนพระราม 4 ส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิต 33 ราย ซึ่งมีเจ้าหน้าอาสาสมัครหน่วยกู้ชีพและเด็กรวมอยู่ด้วย โดยที่หลายรายเสียชีวิตจากการถูกยิงบริเวณลำตัว หน้าอก และศรีษะ และมีผู้บาดเจ็บกว่า 230 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ ประชาชนผู้ชุมนุม ประชาชนทั่วไป นักข่าวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ดังที่ปรากฎตามรายงานข่าวองค์กรที่มีรายชื่อข้างท้ายนี้มีความเห็นว่า ปฏิบัติการปิดล้อมพื้นที่การชุมนุม โดยใช้กำลังพลและกำลังอาวุธสงครามร้ายแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้กำลังต่อพลเรือนที่ปราศจากอาวุธ จนเกิดอันตรายต่อ บุคคลากรวิชาชีพต่าง ๆ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในสถานการณ์ความขัดแย้ง ซึ่งจะต้องได้รับความคุ้มครองจากความรุนแรงและจากการตกเป้าหมายของการโจมตี จึงเป็นการใช้กำลังเกินกว่าเหตุ อีกทั้งสถานการณ์ความรุนแรงที่มีแนวโนมที่จะทวีความรุนแรงขึ้น โดยปัจจุบันสถิติผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บับแต่มีการชุมนุมเกิดขึ้น รวมทั้งเหตุการณ์เข้าสลายการชุมนุมในวันที่ 10 เมษายน 2553 นั้นมีผู้บาดเจ็บกว่า 1000 ราย และเสียชีวิตเป็นจำนวนถึง 58 ราย ซึ่งหากยังไม่สามารถยุติลงได้โดยเร็ว จึงมีความน่าห่วงกังวลอย่างยิ่ง ว่าสถานการณ์อาจลุกลามกลายเป็นการจลาจลโดยใช้กำลังอาวุธ เป็นการสู้รบระหว่างรัฐกับกลุ่มบุคคลที่รุนแรงและขยายวงกว้างออกไปถึงขั้นสงครามกลางเมือง ทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครและต่างจังหวัดจากเหตุผลข้างต้นแสดงให้เห็นว่า เจตนาของรัฐบาลในการคืนความเป็นปกติสุขและความสงบเรียบร้อยสู่บ้านเมือง โดยการใช้กองกำลังทหารและใช้อาวุธเพื่อยุติการชุมนุมเป็นมาตรการที่ไม่สามารถบรรลุผลได้ เพราะได้ก่อให้เกิดการความสูญเสียชีวิตของประชาชน และมีความรุนแรงที่มีการขยายตัวขึ้นเรื่อย ๆ รัฐบาลซึ่งมีหน้าที่ในการรับผิดชอบต่อชีวิตร่างกายของประชาชนก็ไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบนี้ ไม่ว่าความรุนแรงหรือการสูญเสียจะเกิดจากการกระทำของฝ่ายใดก็ตามดังนั้น องค์กรที่มีรายชื่อข้างท้ายจึงมีข้อเรียกร้องทั้งต่อรัฐบาลและต่อกลุ่มผู้ชุมนุมดังต่อไปนี้1. ขอให้รัฐบาลยุติการใช้กองกำลังทหารและอาวุธเข้าสลายการชุมนุมโดยทันที และหันกลับมาใช้วิธีการเจรจา เพื่อยุติไม่ให้เกิดการสูญเสียเพิ่ม ขึ้นและป้องกันความรุนแรงที่อาจขยายตัวกลายเป็นสงครามกลางเมืองได้2. ขอให้แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมยุติการชุมนุมที่ใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ ยุติการยั่วยุเพื่อให้เกิดความรุนแรงหรือตอบโต้กองกำลังฝ่ายรัฐโดยวิธีการรุนแรง ให้ดำเนินกิจกรรมโดยยึดมั่นในแนวทางสันติ อหิงสา และปราศจากอาวุธอย่างแท้จริง และหันกลับมาเข้าสู่การเจรจา ตลอดจนให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบกองกำลังอาวุธที่ปะปนอยู่ในหมู่ผู้ชุมนุม เพื่อแสดงความรับผิดชอบในการปกป้องชีวิตของผู้ชุมนุม3. ขอให้ทั้งสองฝ่ายเปิดให้มีการเจรจาอีกครั้ง ด้วยการลดเงื่อนไขที่อาจส่งผลให้การเจรจาไม่ประสบความสำเร็จ ทั้งนี้เพื่อหาทางออกร่วมกันในการยุติความรุนแรง และเข้าสู่การร่วมกันแก้ปัญหาของประชาชนในระยะยาวต่อไป4. ขอให้รัฐบาลดำเนินการจัดตั้งคณะกรรมการอิสระโดยเร่งด่วน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับเหตุการณ์รุนแรงและความสูญเสียทั้งหมดจากสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองและการชุมนุมของ นปช. เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริง และหาผู้รับผิดชอบทั้งทางการเมืองและทางกฎหมายต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากทุกฝ่ายแผนความปรองดองแห่งชาติโดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต้องเป็นอันโมฆะ และ กลับกลายมาเป็นมาตรการขั้นเด็ดขาดต่อผู้ชุมนุม หลังจากที่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าไม่ได้รับการตอบรับจากกลุ่ม นปช. ซึ่งการตัดสินใจดังกล่าวนี้เองเป็นต้นเหตุให้เกิดความสูญเสียอย่างร้ายแรงในช่วงเวลาต่อมาประกาศของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกฉิน (ศอฉ.) เมื่อวันที่ ๑๓-๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๓ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า รัฐบาลมีแผนการที่จะตัดระบบสาธารณูปโภค การติดต่อสื่อสารและ การคมนาคมทั้งหมดในบริเวณ เพื่อล้อมปราบผู้ชุมนุม โดยอ้างว่าเพื่อเป็นการกระชับพื้นที่ นอกจากนั้นยังมีการประกาศอยางชัดเจนในช่วงเวลาต่อมาว่าปฏิบัติการครั้งนี้จะใช้กระสุนจริงการสูญเสียเพิ่มขึ้นเป็นรายชั่วโมงหลังจากเหตุการณ์ลอบยิง พลเอก ขัตติยะ สวัสดิผล เมื่อช่วงเย็นวันที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๕๓ ยิ่งไปกว่านั้นผู้เสียชีวิตส่วนหนึ่งเป็นเพียงสื่อมวลชนที่กำลังปฏิบัติหน้าที่วันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๓ เวลา ๐๕.๓๐ น. มียอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการ ๓๓ คน ในจำนวนนี้มีทั้งเยาวชน ผู้หญิง และอาสาสมัครรักษาพยาบาล บาดเจ็บประมาณ ๒๓๙ คน รวมถึงสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างชาติ ในขณะที่รัฐบาลยังไม่มีท่าทีว่าจะประกาศยกเลิกคำสั่งกระชับพื้นที่ และมีแนวโน้มจะประกาศใช้กฎอัยการศึกเพื่อควบคุมสถานการณ์ศูนย์ประสานงานเยาวชนสังคมนิยมประชาธิปไตยมีข้อเรียกร้องต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ดังนี้1.รัฐบาลภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต้องหยุดการใช้อาวุธสงครามกับประชาชนทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไข ยกเลิกมาตรการกดดันทุกชนิด หยุดการปิดกั้นเสรีภาพสื่อ ถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ และประกาศยกเลิกพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อนำประเทศเข้าสู่สภาวะปกติอีกครั้ง แลกกับการตกลงหยุดชุมนุมของกลุ่ม นปช. เพื่อกลับมาสู่การเจรจา2.หลังจากนั้น รัฐบาลต้องจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่โดยเร็วเพื่อยุติความขัดแย้งด้วยวิถีทางประชาธิปไตย จะต้องมีการดูแลให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างอิสระและโปร่งใส และทุกฝ่ายต้องให้สัตยาบันว่าจะยอมรับผลการเลือกตั้งที่ปรากฏ3.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ต้องแสดงความรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยการเดินเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เช่นเดียวกับแกนนำกลุ่มนปช.4.ขอให้ทุกฝ่ายให้ความคุ้มครองกับสื่อมวลชนและเจ้าหน้าที่หน่วยแพทย์พยาบาล ผู้ปฏิบัติหน้าที่ในเขตจลาจลอย่างเต็มกำลังความสามารถ การสังหารเจ้าที่หน่วยแพทย์พยาบาลเป็นการกระทำที่สมควรถูกประณามจากทุกฝ่าย5.ตั้งคณะกรรมการอิสระตรวจสอบเหตุการณ์จลาจลและความรุนแรง ความสูญเสียที่เกิดขึ้นจะต้องมีผู้รับผิดชอบ และต้องมีมาตรการในการเยียวยาผู้เสียหายอย่างเป็นรูปธรรม๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๓ | คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) เรียกร้องให้รัฐบาลและ นปช. ยุติการใช้ความรุนแรงและเข้าสู่กระบวนการเจรจา ประณามการใช้กองกำลังและอาวุธผู้ที่เอาชีวิตมนุษย์มาแลก | การเมือง,สิทธิมนุษยชน | การชุมนุมเดือนมีนาคม - พฤษภาคม 2553,คนเสื้อแดง,นปช.,ภาคประชาชน,แถลงการณ์ | https://prachatai.com/journal/2010/05/29553 |
รมว.ตปท.สหรัฐฯ พบผู้นำทหารของอียิปต์ | การเยือนอียิปต์ในครั้งนี้ นางฮิลลารี่ คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกาได้เข้าพบกับ จอมพลฮุสเซน ตันตาวี ผู้นำคณะทหารซึ่งปกครองอียิปต์หลังจาก นายฮอสนี่ มูบารัค อดีตประธานาธิบดีถูกโค่นจากอำนาจนางคลินตันได้หารือกับ จอมพลตันตาวี ถึงการเปลี่ยนผ่านประเทศจากระบอบเผด็จการไปสู่ระบอบประชาธิปไตย และขอให้กองทัพทำงานร่วมกับรัฐบาลของ นายโมฮัมเหม็ด มูร์ซี่ ประธานาธิบดีคนใหม่ เพื่อนำพาประเทศไปสู่ระบอบประชาธิปไตย ซึ่งจอมพลตันตาวี ระบุว่ากองทัพจะทำในสิ่งที่ประชาชนต้องการ และจะทำให้เศรษฐกิจกลับเข้าสู่สภาพปกติการเดินทางเยือนอียิปต์ของนางคลินตันในครั้งนี้ มีขึ้นท่ามกลางความวุ่นวายทางการเมือง และการช่วงชิงอำนาจระหว่างกองทัพกับรัฐบาลชุดใหม่ กรณีความขัดแย้งล่าสุด คือการที่ศาลสูงสุดซึ่งมีกองทัพหนุนหลัง มีคำสั่งให้ยุบสภาผู้แทนราษฏรที่มาจากการเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้ว โดยศาลให้เหตุผลว่าเป็นสภาที่ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่นายมูร์ซีในฐานะประธานาธิบดีกลับขัดคำสั่งศาล ด้วยการเปิดประชุมสภา แต่ศาลก็มีคำสั่งให้ยุบสภาหลังเปิดประชุมได้ไม่นาน | รมต.ต่างประเทศสหรัฐอเมริกาเดินทางเยือนประเทศอียิปต์ และได้หารือกับผู้นำทหารของอียิปต์ โดยขอให้กองทัพ และรัฐบาลร่วมมือทำงานเพื่อเปลี่ยนผ่านประเทศไปสู่ระบอบประชาธิปไตย | ต่างประเทศ | กองทัพ,ประชาธิปไตย,สหรัฐฯ,อียิปต์,ฮิลลารี่ คลินตัน | https://news.thaipbs.or.th/content/98243 |
มอส แฮปปี้ลูกเริ่มพูดได้แล้วคำว่า ปาป๊า | ดีใจมากๆ ดีใจสุดๆ อดีตพระเอก นักร้องเคยฮอตฉ่า มอส ปฏิภาณ ปฐวีกานต์ เปิดใจถึงเรื่องลูกสาววัยกำลังน่ารัก น้องสวรรค์ ที่ตอนนี้เริ่มพูดคำว่า ปาป๊า ได้แล้ว คนเป็นพ่อก็เลยปลื้มปริ่มสุดๆ ส่วนลูกสาวคนโตน้องโสน ที่ก่อนหน้านี้ป่วยเป็นไข้ขึ้นสูง ตอนนี้หายดีเป็นปกติแล้ว โดยมอสได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องลูกสาว ที่สนามเทพศิรินทร์ โรงเรียนเทพศิรินทร์ ถนนกรุงเกษม กรุงเทพฯ ในงานแข่งขันฟุตบอลระหว่างทีม GOAL กับทีม Singha AllStar ในรอบ Dream Team จากรายการ Goal ทางช่องเวิร์คพอยท์ทีวี เรียลลิตี้ค้นหานักฟุตบอลเยาวชนอายุไม่เกิน 15 ปี เพื่อเป็นตัวแทนประเทศไทยไปอยู่ สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้อะคาเดมี่,น้องสวรรค์ป่วย? ครับ น้องสวรรค์ไม่สบาย หลายคนถามมาว่าน้องสวรรค์ใส่ชุดคนไข้ น้องมีไข้สูงครับ ตอนนี้มีไข้หวัดสายหลายพันธ์ุมีไข้เยอะมาก พอไข้ขึ้นสูงก็มีเชื้ออยู่ในตัวเด็ก เลยให้นอนโรงพยาบาลดีกว่า ก็ตกใจเพราะไข้ขึ้นสูง 38.5 กินยาลดไข้ก็ไม่ลง เราก็อยากจะรู้ว่าเป็นโรคอะไรกันแน่ คือเด็กอายุขวบกว่า เป็นไข้แล้วชัก ช่วยไม่ทันมันจะยุ่ง สรุปว่าไข้ขึ้นอยู่ 3 วัน เป็นส่าไข้มีผื่นด้วย ส่าไข้จะเป็นกับเด็กทุกคน คือเป็นปกติที่เด็กจะต้องเป็นครับ เพียงแต่จะเป็นเร็วหรือเป็นช้า,ตอนนี้หายดีแล้วครับ น้องโสนมาเป็นไข้หวัดแทน (ยิ้ม) ช่วงที่ฝนตกติดๆ กันสามสี่วัน ขนาดไม่ได้ออกไปโลดโผนที่ไหนยังติดเชื้อได้ ตอนแรกหมอให้แยกโสนออกจากสวรรค์ก่อน พอตอนนี้โสนเป็นไข้แทน ก็ต้องแยกโสนออกจากสวรรค์ก่อน (ยิ้ม) พี่น้องก็อยู่ด้วยกันตลอด เราก็คอยแยก โสนก็เพิ่งเป็นไข้ครับ ยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง หมอบอกว่าถ้าจะเป็นไข้หวัดพวกสายพันธ์ุต่างๆ ต้องเช็dภายใน 24 ชม.,น้องสวรรค์เริ่มพูดได้แล้ว? สวรรค์เริ่มพูดคำสองคำ มาสักเดือนสองเดือนแล้ว ก็เริ่มเรียกแม่ก่อน มาม๊าเป็นคนแรก เรียกพี่เลี้ยง เรียกแม่บ้าน เรียกคนขับรถได้หมดแล้ว เหลือพ่อปาป๊านี่แหละ ยังเรียกไม่ได้ (ยิ้มกว้าง) ก็ถามเกม (ภรรยา) เมื่อไหร่ลูกจะเรียกชื่อพี่สักทีเนี่ย (หัวเราะ) พอวันไปโรงพยาบาล เขาก็เรียกปาป๊าขึ้นมา อยู่ดีๆ ก็เรียกขึ้นมาเลย (ยิ้ม) ,ทุกคนก็สอนนะ นี่พ่อนะ นี่ปาป๊านะ แต่เขาไม่เคยพูด พอได้ยินโสนพูด โอ้โห ก็ดีใจๆ เพราะลูกเรียกเราได้ พอตอนหลังก็เรียกแต่ปาป๊าอย่างเดียว ซวยเลย (หัวเราะ) เราไม่ว่างเลย จริงๆ จะบอกว่ากับสวรรค์ว่า นี่พ่อนะลูก ไม่เคยสอนให้เรียกปาป๊าครับ เรื่องพัฒนาการ สวรรค์จะตัวเล็กหน่อย แต่ก็อยู่ตามเกณฑ์ โสนจะเป็นเด็กตัวสูง สวรรค์จะกินเก่งกว่า เป็นเด็กซนมากเลยครับ อยู่สุขไม่ได้อยากออกนอกบ้านตลอดเวลา เวลาสวรรค์เล่นอะไรอยู่โสนจะชอบไปเล่นด้วย (ยิ้ม). | ดีใจมากๆ ดีใจสุดๆ อดีตพระเอก นักร้องเคยฮอตฉ่า มอส ปฏิภาณ ปฐวีกานต์ เปิดใจถึงเรื่องลูกสาววัยกำลังน่ารักน้องสวรรค์ ที่ตอนนี้เริ่มพูดคำว่า | null | มอส ปฏิภาณ ปฐวีกานต์,มอส ลูกสาว,มอส โสน สวรรค์,มอส ลูกเรียกพ่อได้,มอส ลูกป่วยเป็นไข้,มอส นักร้อง,ข่าว,ข่าวบันเทิง,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/731600 |
หมาขาลีบสำลักควัน หลังบ้านโดนไฟไหม้ กู้ภัยกรุงเก่ารุดออกช่วยทัน | เมื่อวันที่ 3 เม.ย ร.ต.อ.กฤจติภูมิ ทาบุญ รอง สว. (สอบสวน) สภ.บางปะหัน รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชนเหตุ ใกล้เคียงวัดโคก บ้านเลขที่ 9 /4 ม.4 ต.พุทเลา อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา จึงประสานนายโอฬาร ธูปะเตมีย์ นายก อบต.พุทเลา นำรถดับเพลิงของ อบต.และใกล้เคียง พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยอยุธยารวมใจรุดให้ความช่วยเหลือ,ในที่เกิดเหตุพบเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น เพลิงกำลังลุกไหม้ อย่างรวดเร็วอยู่ชั้นบน รถดับเพลิงจาก อบต.พุทเลา อบต.บ้านป้อม มูลนิธิมิราเคิลออฟไลฟ์ และ อบต.ที่อยู่ใกล้เคียงจำนวนกว่า 5 คัน มาช่วยฉีดน้ำสกัดเพลิง ใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงเพลิงจึงสงบ,ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเข้าเคลียร์พื้นที่ ก็ได้พบกับสุนัขเพศผู้สีขาว พิการขาลีบ สำลักควันอยู่ภายในบ้านร้องเสียงดังให้คนช่วยเหลือเจ้าหน้าจึงนำสุนัขตัวดังกล่าวซึ่งเนื้อตัวเปียกน้ำ ออกมาจากทางหน้าต่างภายในบ้าน และทางนายชัช ตลาดไท เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยอยุธยาได้นำสุนัข ส่งโรงพยาบาลสัตว์เพื่อรักษาโดยได้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด,สอบถามนายเล็ก คล้ายนิล อายุ 69 ปี เพื่อนบ้านใกล้เคียง เล่าว่า ขณะนั้นตนเองขี่รถจยย.ผ่านบ้านจุดเกิดเหตุและได้เห็นไฟกำลังลุกไหม้อยู่บริเวณช่วงกลางบ้าน จึงร้องตะโกนให้ชาวบ้านช่วยกันนำน้ำมาดับและรีบโทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทำความช่วยเหลือ,ด้าน ร.ต.อ ร.ต.อ กฤจติภูมิ ทาบุญ รอง สว. (สอบสวน) สภ.บางปะหัน กล่าวว่า จากการสอบถาม นายสินชัย ยันต์พิมาย อายุ 51 เจ้าของบ้าน เบื้องต้นขณะเกิดเหตุ ไม่มีใครอยู่บ้านเนื่องจากตนและภรรยาออกไปทำงานนอกบ้าน ส่วนสาเหตุนั้นคาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ค่าความเสียหายประมาณ 5 แสนบาท. | จนท.กู้ภัยอยุธยาได้นำสุนัขพิการขาลีบที่สำลักควันไฟไปส่งสัตว์แพทย์ หลังติดอยู่ในบ้านที่ถูกเพลิงไหม้วอดหมด เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุเพลิงไหม้มาจากไฟฟ้าลัดวงจร ค่าเสียหายราว 5 แสนบาท | ข่าว,ทั่วไทย | ไฟไหม้บ้าน,ช่วยสุนัข,สุนัขพิการ,อ.บางปะหัน,พระนครศรีอยุธยา,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1247072 |
การข่าวสั่งเฝ้าระวังชายแดนใต้ หวั่นกลุ่มจ้องป่วน หลังแกนนำดับ | เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 9 ม.ค. นายโอฬาร บิลสัน ปลัดอาวุโส และผอ.ศปก.อ.เมืองยะลา พร้อม ร.ท.ชาญชัย มาลัยทอง นายทหารยุทธการ หน่วยเฉพาะกิจยะลา 16 และ พ.ต.ท.จุฬาชัย แสงกุล รอง ผกก.สส.สภ.เมืองยะลา ได้สนธิกำลังกัน 3 ฝ่าย ตำรวจ ทหาร และ อส. ปล่อยแถวออกปฏิบัติหน้าที่ทำการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย ตลอดจนตั้งด่านตรวจ และตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายตามจุดต่างๆ ในเขตเทศบาลนครยะลา และบริเวณใกล้เคียง หลังซักซ้อมแผนปฏิบัติบริเวณลานหน้าที่ทำการ สภ.เมืองยะลา ทั้งนี้ เพื่อป้องกันเหตุร้ายตามกระแสแจ้งเตือนของหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ สืบเนื่องตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ทหารพรานในท้องที่ใกล้เคียงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ตรวจค้นบ้านเป้าหมาย และวิสามัญคนร้ายหลายราย,และล่าสุดตอนสายวันเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ นปพ.ร่วม 431 และ ฉก.ทพ.43 ในพื้นที่ จ.ปัตตานี เข้าติดตามจับกุมบุคคลตามเป้าหมาย ในพื้นที่บ้านน้ำใส หมู่ 5 ต.ลุโบะยิไร อ.มายอ จ.ปัตตานี ได้เกิดการปะทะกับคนร้าย มีรายงานเบื้องต้นว่าสามารถควบคุมตัวคนร้ายได้ 3 คน และคนร้ายเสียชีวิต 2 คน ซึ่งทางการได้แจ้งเตือนให้ทุกหน่วยทั้งภาครัฐและเอกชนเฝ้าระมัดระวังเพราะคาดว่ากลุ่มก่อความไม่สงบจะลงมือปฏิบัติการล้างแค้นในเร็วๆ นี้. | หน่วยข่าวทหาร แจ้งเตือน ทุกหน่วยในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้เฝ้าระวัง กลุ่มก่อความไม่สงบจะลงมือก่อเหตุ หลังสามารถจับคนร้าย และยิงแกนนำดับ จนท. หวั่นเกิดการเอาคืน | ข่าว,ทั่วไทย | ไฟใต้,ความไม่สงบ จชต.,โอฬาร บินสัน,ปลัดอาวุโสเมืองยะลา,ชาญชัย มาลัยทอง,ฉก.ยะลา 16,ป้องกันเหตุร้าย,หน่วยงานความมั่นคง,แกนนำอาร์เคเค,ข่าวกรอง,เฝ้าระวัง,ล้างแค้น,จังหวัดชายแดนใต้,ข่าวภูมิภาค,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/local/473752 |
เตือนสาวๆ ให้ระวัง จะถูกแฟนทิ้ง | จะว่าเป็นเพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยจนทำให้แฟนเจ็บไข้ได้ป่วยก็ไม่น่าใช่ เพราะเค้าไม่ได้มีอาการไม่สบายนี่นา,แต่ที่ทำให้คุณรู้สึกแปลกใจในการกระทำของเค้า เห็นจะเป็นการที่แฟนของคุณใจจดใจจ่ออยู่กับโทรศัพท์มือถือของเค้ามาก ไม่ใช่แค่พกติดตัวไปไหนมาไหนตลอดนะ แต่คุณมักจะได้ยินเสียงข้อความจากไลน์ ซึ่งใครก็ไม่รู้มักส่งมาหาแฟนของคุณบ่อยครั้ง แล้วเค้าก็มักเช็กข้อความทางไลน์แบบละเอียดยิบซะด้วย,พอเวลาคุณสงสัยขึ้นมาว่าเค้าติดต่อพูดคุยกับใครน้อ และพยายามลองใจถามเค้าว่า ใครส่งไลน์มาหาคุณคะ? เค้ามักละล่ำละลักตอบคุณอย่างไม่ค่อยเต็มปากเต็มใจมากนักว่า ก็เป็นข้อความจากเพื่อนๆของผมเองแหละ พวกมันชอบไลน์เข้ามาถามโน่นถามนี่กัน เพราะเป็นไลน์กลุ่ม ผมจึงต้องตอบคำถามของพวกมันอยู่นี่ไง โถฟังดูเหมือนเค้าไม่ได้ปิดบังอะไรคุณอยู่นะ เอ๊ะแต่,ไอ้การที่ต้องหยิบโทรศัพท์มามองจ้องหน้าจออยู่ตลอดเวลาจนคุณ (ฝ่ายหญิง) เห็นเค้าทำอย่างนี้บ่อยจนถึงบ่อยมากที่สุด มันกลับทำให้คุณเกิดความสงสัยซึมลึกเข้าไปในใจมากกว่า เพียงเพราะฟังคำตอบของเค้าแล้วจบๆกันไป เนื่องจากถ้าเป็นแค่ไลน์กลุ่มของเพื่อน ตามปกติคนทั่วๆไปก็ไม่เห็นจะต้องจ้องหน้าจอมือถืออยู่ตลอดเวลาเลยนี่นา ดังนั้น การเอาแต่จ้องหน้าจอมือถือจึงเป็นพฤติกรรมที่ชวนสงสัยอย่างมาก และยิ่งทำให้คุณสงสัยแฟนเข้าไปใหญ่ว่าต้องมีอะไรเกิดขึ้นกับเค้าแน่ๆเลย แต่คุณไม่รู้เท่านั้นเอง,ด้วยเหตุนี้คุณจึงลองไปถามเพื่อนในกลุ่มไลน์ของแฟนดู เพราะคุณก็รู้จักเพื่อนๆของเค้าบางคน เพื่อนบอกว่า แฟนคุณพูดเป็นนัยๆว่าเบื่อ แต่ไม่ทราบเหมือนกันว่ามัน (แฟนของคุณ) เบื่ออะไรกันแน่?,เอ้า บอกให้ก็ได้ว่า ที่เค้าบ่นเบื่อน่ะ ก็คือ เบื่อคุณนั่นเอง,มาถึงตรงนี้หากเค้าเบื่อคุณจริงละก็ แสดงให้เห็นว่าเค้าอาจกำลังหาทาง บอกเลิก กับคุณก็ได้นะ ผู้สันทัดกรณีเรื่องการเลิกรา กล่าวว่า หากผู้ชายเริ่มไม่สนใจแฟน แล้วหันมาสนุกกับการพูดคุยกับเพื่อนหรือใครต่อใครทางโทรศัพท์มือถือ โดยเฉพาะสนใจเล่นไลน์คุยกับเพื่อนมากกว่าสนใจแฟนละก็ การกระทำอย่างนี้นับว่าเป็น,อันตรายอย่างหนึ่งที่สิ่งนี้แหละเป็นตัวบ่งบอกหรือเป็นสัญญาณอันตรายที่ช่วยเตือนให้คุณรู้ว่า แฟนของคุณใกล้จะขอบอกเลิกกับคุณแล้วนะห๊า มันเป็นอันตรายขนาดนั้นเชียว?ใช่แล้ว,ฉะนั้น คุณผู้หญิงทั้งหลายจึงควรสังเกตสังกา แฟนหนุ่มของพวกคุณเอาไว้ด้วยว่า หากเค้าอยากบอกเลิกกับคุณละก็ เค้าจะมีพฤติกรรมอะไรเป็นสัญญาณชี้ให้เห็นว่า เค้าจะบอกเลิกกับคุณในไม่ช้านี้แหละ,เมื่อคุณรู้อย่างนี้แล้ว หากยังรักเค้าอยู่ ก็ควรหาทางพูดจาหรือปรับปรุงแก้ไขความสัมพันธ์ของพวกคุณทั้งสองให้ดีขึ้นมาให้ได้ก็แล้วกัน เชื่อว่า หากคุณและเค้าพยายามปรับความเข้าใจกัน พร้อมทั้งทำให้เค้าไม่อยากจากคุณไปไหนได้ละก็ ความรักก็จะเบ่งบานในหัวใจของพวกคุณทั้งคู่อีกครั้ง,งั้นลองมาดู สัญญาณเตือนกันว่า ถ้าเค้าใกล้เหลืออดและอยากบอกเลิกกับคุณเต็มทีแล้ว เค้าจะมีทีท่าอย่างไร ซึ่งทำให้คุณรู้สึกได้ เช่น,1.เมื่อไหร่ที่แฟนของคุณไม่ใส่ใจที่จะเล่าเรื่องสำคัญๆที่เกิดขึ้นกับเค้าให้คุณฟัง แล้วละก็ แสดงว่าความรู้สึกอยากใกล้ชิดก็เริ่มเลือนหายไปซะแล้วล่ะ ,จำได้ไหม ตอนที่พวกคุณรักกันใหม่ๆ พวกคุณทั้งคู่อยากบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตัวเองให้อีกฝ่ายฟังเสมอ เพราะตอนนั้นแฟนคือคนที่สำคัญที่สุดของคุณนี่นะ แต่ตอนนี้รึ รู้สึกเค้าไม่อยากเล่าเหตุการณ์ใดๆที่สำคัญและเกิดขึ้นกับเค้าให้คุณฟังเลย และเค้าดูเป็นคนเงียบๆกับคุณมากกว่าเดิมซะด้วยสิ อย่างนี้ไม่ดีแน่,2. ถ้าแฟนของคุณไม่อยากพูดถึงแผนการในอนาคตของตัวเองและไม่สนใจแผนการในอนาคตของคุณด้วย นี่เป็นอีกสัญญาณหนึ่งที่บอกได้ว่า เค้าไม่สนใจที่จะมีอนาคตต่อไปกับคุณแล้ว,เช่น เมื่อก่อนยังมีการคุยกันว่า ถ้าปีนี้มีเวลาว่าง พวกเราวางแผนไปเที่ยวที่ไหนกันดีนะ แต่ระยะนี้ เค้ากลับไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้อีก ทั้งที่ปกติพวกคุณมักวางแผนเดินทางไปเที่ยวด้วยกันทุกปีอยู่แล้ว กระนั้นเชื่อมะ แม้ปีนี้จะวางแผนไว้แล้วว่าอยากไปไหนกัน? แต่เค้ากลับบอกว่าไม่อยากไปไหนกับคุณ ตรงข้ามอยากไปเที่ยวกับเพื่อนแทน เอ้า ถ้าเห็นเพื่อนดีกว่าแฟนก็ไม่ไหวน้อ,3.หากพวกคุณยังไม่แต่งงานกัน ทั้งที่ใจของฝ่ายหญิงอยากเข้าสู่พิธีวิวาห์จะตาย แต่เค้าเริ่มบอกปัดและไม่ให้ความสำคัญกับสิ่งนี้ ก็เป็นสัญญาณอันตรายอีกอย่างที่ฝ่ายหญิงไม่ควรประมาท,4.ถ้าเค้าหันไปใช้เวลาขลุกอยู่กับเพื่อนหรือญาติๆ แทนที่จะใช้เวลาว่างอยู่กับคุณ ละก็ นี่ก็เป็นสัญญาณอันตรายอีกอย่าง ที่คุณควรระมัดระวังไว้,การไม่อยากใช้เวลาร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไปช็อปปิ้งด้วยกัน, ไปเข้าฟิตเนสด้วยหรือไปดูหนัง, ดูละครเวที ทั้งที่เคยมีความสนใจร่วมกัน อย่างนี้ไม่แน่ว่า เค้ายังเหลือความรักให้คุณอยู่รึเปล่า?,@@@@,เมอร์ลิน | สมมติว่าคุณมีแฟนแล้ว และคบกันมาได้สักพักเป็นระยะเวลานานพอสมควร แต่บังเอิ๊ญ ในระยะหลังๆมานี้ คุณสังเกตแล้วรู้สึกว่า แฟนของคุณมีท่าทีพิรุธและมีคำพูดตลอดจนพฤติกรรมแปลกๆ | ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง | แฟนทิ้ง,บอกเลิก,เล่นโทรศัพท์,ร้อยแปดพันเก้า,เมอร์ลิน | https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/1343317 |
ยัดเยียดให้ซื้อ ยังถูกที่ 1 รับ 6 ล. เผย ฝันจัดงานเลี้ยงให้ครอบครัว | เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังประกาศผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 มิ.ย. 61 เสร็จสิ้น ได้มีผู้ถูกรางวัลที่ 1 และรางวัลข้างเคียง คือ น.ส.ไมล์ ยอดคำตัน อายุ 57 ปี อาชีพผู้รับเหมาก่อสร้าง มีภูมิลำเนา เลขที่ 204 ม.13 ต.สำโรงปราสาท อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ โดยสลากที่ถูกรางวัลที่ 1 หมายเลข 988117 งวดที่ 21 ชุดที่ 41 จำนวน 1 ใบ มูลค่า 6 ล้านบาท และรางวัลข้างเคียงรางวัลที่ 1 หมายเลข 988116 งวดที่ 21 ชุดที่ 36 มูลค่า 1 แสนบาท เบื้องต้น ได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.นาจอมเทียน ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี,น.ส.ไมล์ เปิดเผย กรณีถูกรางวัลที่ 1 และรางวัลข้างเคียง ด้วยความตื่นเต้น และดีใจอย่างที่สุดว่า ตนเป็นชาวจังหวัดศรีสะเกษ ได้เข้ามาทำงานรับเหมาก่อสร้างกับครอบครัวในอำเภอสัตหีบ ก่อนหน้านี้ประมาณ 1 อาทิตย์ ได้มีแม่ค้าขายลอตเตอรี่ มายัดเยียดขายลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 แต่เนื่องจากหวยรางวัลที่ 1 ชุดนี้มีจำนวน 5 ใบ เป็นชุด 30 ล้านบาท จึงได้ขอแบ่ง และซื้อเลขข้างเคียงมาอย่างละใบเท่านั้น จากนั้นก็เริ่มฝันแปลกๆ ว่า ได้จัดงานเลี้ยงฉลองเลี้ยงให้กับทุกคนในครอบครัว ติดต่อกันหลายวัน ไม่คิดว่าจะเป็นลางบอกเหตุว่า ตนจะมาถูกหวยรางวัลที่ 1 และรางวัลข้างเคียงในครั้งนี้ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ ตนและครอบครัวจะนำสลากไปขึ้นรางวัล หลังจากนั้นจะพาครอบครัวทุกคนไปร่วมทำบุญใหญ่ที่วัด เพื่ออุทิศให้แก่ดวงวิญญาณบรรพบุรุษที่ล่วงลับ ส่วนหนึ่งจะนำไปใช้หนี้ที่เป็นอยู่ประมาณ 2 แสน และเก็บไว้เป็นทุนการศึกษาให้กับลูกหลานได้ศึกษาเล่าเรียน ส่วนอาชีพรับเหมาก็จะยังดำเนินการต่อไป,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ลอตเตอรี่ในชุดรางวัลที่ 1 อีก 4 ใบ ซึ่งมีมูลค่ามากถึง 24 ล้านบาท ที่คาดว่าจะถูกขายหมดไปแล้วให้กับคนในพื้นที่อำเภอสัตหีบ แต่ยังไม่มีผู้ใดแสดงตัวออกมาว่าถูกรางวัล ซึ่งขณะนี้ปรากฏให้เห็นเพียงรายเดียวเท่านั้น | แม่ค้ายัดเยียดให้ซื้อ! สาวรับเหมาก่อสร้าง ดวงสุดเฮง! ถูกที่ 1 รับ 6 ล้าน เผย ฝันจัดงานเลี้ยงให้ครอบครัว ตื่นมาเชื่อเป็นลาง ถูกรางวัลใหญ่ พร้อมรางวัลข้างเคียงอีก 1 แสน | ข่าว,ทั่วไทย | สาวรับเหมาก่อสร้าง,ถูกรางวัลที่1,รับเงิน 6 ล้าน,ฝันจัดงานเลี้ยงให้ครอบครัว,ชลบุรี,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/east/1297232 |
ขสมก.สั่งพักงานคนขับรถหลังก่อเหตุวิวาท | วันนี้ (11 พ.ย.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังมีคลิปภาพจากกรณีคนขับรถรถเอกชนร่วมบริการ (มินิบัส) สาย 40 กับรถรถเอกชนร่วมบริการสาย 56 ขับปาดหน้ากันไปมา ก่อนที่รถสาย 56 จะมาจอดดักรอที่ป้ายหยุดรถประจำทางห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี อิสรภาพ ถ.อิสรภาพ แล้วคนขับรถจึงเดินลงมามีปากเสียงกัน ต่อมามีมินิบัสสาย 40 อีกคันหนึ่งที่ขับตามมาเห็นเหตุการณ์ จึงเข้าไปสมทบ จนก่อเหตุทะเลาะวิวาทนั้นขอบคุณภาพจาก จส.100ด้านองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ชี้แจงว่ากรณีพนักงานขับรถมินิบัส สาย 40 ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับพนักงานขับรถมินิบัส สาย 56 จำนวน 2 คัน บนถนนอิสรภาพ ในวันนี้ (11 พ.ย.) เวลา 09.30 น.ขสมก.ได้ดำเนินการสอบสวนและพบว่า รถโดยสารคันดังกล่าว เป็นรถโดยสารเอกชนร่วมบริการ สาย 56 จำนวน 2 คัน คือ รถมินิบัส หมายเลข 39 ทะเบียน 15-1747 และรถมินิบัส หมายเลข 169 ทะเบียน 15-0593 ซึ่งเป็นรถมินิบัสปรับอากาศ ของบริษัท พชร บัส จำกัด และรถมินิบัส สาย 40 หมายเลข 129 ทะเบียน 14-9461 เป็นรถมินิบัสธรรมดา ของบริษัท กิจประพล จำกัดโดยสาเหตุการทะเลาะวิวาท เนื่องจากพนักงานขับรถทั้ง 2 สาย ขับรถปาดหน้ากันเบื้องต้น ได้สั่งพักการปฏิบัติหน้าที่พนักงานขับรถคันที่ก่อเหตุ และพักการเดินรถโดยสารทั้ง 3 คัน เป็นเวลา 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 12 – 14 พ.ย.62 พร้อมลงโทษปรับบริษัท พชรบัส จำกัด และบริษัท กิจประพล จำกัด บริษัทละ 5000 บาท นอกจากนี้ ให้บริษัททั้ง 2 แห่ง ส่งพนักงานขับรถคนที่ก่อเหตุมารายงานตัว เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงในวันที่ 12 พ.ย.62 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงานใหญ่ ขสมก. ก่อนพิจารณาลงโทษตามระเบียบต่อไป | ขสมก.สั่งพักการปฏิบัติหน้าที่พนักงานขับรถสาย 40 และสาย 56 หลังก่อเหตุทะเลาะวิวาท พร้อมสั่งการให้มารายงานตัวในวันที่ 12 พ.ย.นี้ | เศรษฐกิจ | รถเมล์,ทะเลาะวิวาท,ขสมก.,คนขับรถเมล์ | https://news.thaipbs.or.th/content/285967 |
ตร.พบ 42 คนมีประวัติอาชญากรรมผ่าน 9 จุดคัดกรอง | วันนี้ (30 ต.ค.2560) มีรายงานว่า การประชุม กอร.พระราชพิธีฯ นัดสุดท้ายวันนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รายงานข้อมูลการปฏิบัติงานตามแผนรักษาความปลอดภัยพื้นที่โดยรอบสนามหลวง ด้วยมาตรการที่เข้มงวดสามารถตรวจคัดกรองผู้มีประวัติอาชญากรรมและผู้ต้องสงสัยได้รวม 42 คน จากจุดคัดกรองทั้ง 9 จุด ทั้งคดีอาญาทั่วไปและคดีที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ตำรวจได้เชิญมาสอบสวนและขยายผลทางคดี พร้อมนำไปวิเคราะห์ต่อว่า คนกลุ่มนี้ผ่านจุดคัดกรองเข้ามาโดยมีจุดประสงค์ใดขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุม กอร.พระราชพิธีฯ วันนี้ว่า เป็นการสรุปการทำงานหลังปิด กอร.พระราชพิธีฯ ก่อนส่งมอบภารกิจการดูแลพื้นที่ท้องสนามหลวงให้กองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยโดยรอบพระบรมมหาราชวัง (กอร.รส.) ซึ่งมีกองทัพภาคที่ 1 เป็นหน่วยรับผิดชอบ ระหว่างวันที่ 2-30 พ.ย.นี้ ซึ่งจะเปิดให้ประชาชนเยี่ยมชมพระเมรุมาศ และนิทรรศการขณะที่ กอร.รส.ประชุมเตรียมพร้อมอำนวยความสะดวกประชาชน โดย พล.ต.สันติพงศ์ ธรรมะปิยะ รองแม่ทัพภาคที่ 1 ผู้แทน พล.ท.กู้เกียรติ ศรีนาคา แม่ทัพภาคที่ 1 ระบุว่า เพื่อซักซ้อมความเข้าใจโดยได้กำหนดจุดคัดกรองรวม 5 จุด รอบท้องสนามหลวง พร้อมทั้งจะตั้งเต็นท์พัก รองรับประชาชนขั้นต้นได้จำนวน 10000 คน โดยจะเปิดให้ประชาชนเข้าชมนิทรรศการงานพระราชพิธีฯ ภายในท้องสนามหลวง ตั้งแต่เวลา 07.00 - 22.00 น.รอบละ 4500 - 5000 คน ประมาณวันละ 14 รอบ แต่อาจขยายเวลาเข้าชมได้ถึง 24.00 น. หรือ 24 ชม. หากรัฐบาลสั่งการลงมา โดยได้จัดวางกำลังทั้งหหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่รวมกว่า 3200 นาย | นช่วงพระราชพิธีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถตรวจคัดกรองผู้มีประวัติอาชญากรรมและผู้ต้องสงสัยได้รวม 42 คน อยู่ระหว่างเตรียมวิเคราะห์จุดประสงค์ของการเข้ามาในพื้นที่ | สังคม | พระราชพิธี,กอร.,สนามหลวง,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS,พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ,ในหลวง รัชกาลที่9,รัชกาลที่9,พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช | https://news.thaipbs.or.th/content/267321 |
ปู-ชัดแล้ว ไม่ไปศาล | วันฟังคำสั่งฟ้อง รธน.-สะเด็ดนํ้า เหลือเรื่องสตรี,ไพบูลย์ เผย กมธ.ทบทวนถ้อยคำในร่าง รธน.ใกล้เสร็จแล้ว มีแขวนไว้ประเด็นเดียวเรื่องสัดส่วนสตรี คาดเคาะจบสิ้นเดือน คสช.บี้ สปช.ปั่นงานปฏิรูป บิ๊กตู่ ส่ง วิษณุ ร่วมศึกษาร่าง รธน. มติวิป สปช.ผวาซ้ำรอย สนช.สั่งญาติ-ลูก-เมียที่มาช่วยงานไขก๊อกทันที ทนายพูดชัด ปู ไม่ไปฟังศาลฯ 19 มี.ค. อธิบดีอัยการฯเชื่อศาลจะรับฟ้อง เตือนจำเลยวันพิจารณาคดีนัดแรกต้องมาศาล หมอณรงค์ ไป ป.ป.ท. แจงงบ สปสช. ประชาคม สธ.จี้เปิดโผรายชื่อ กก.-รายละเอียดผลสอบทั้งหมด,การทบทวนถ้อยคำในร่างรัฐธรรมนูญของกรรมาธิการยกร่างฯล่าสุด ได้มีการพิจารณารายละเอียดของแต่ละมาตราใกล้ครบถ้วนแล้ว ขณะที่การนิรโทษกรรมมีความคืบหน้าไปมาก,เมื่อวันที่ 18 มี.ค. นายไพบูลย์ นิติตะวัน สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้พิจารณารายละเอียดของแต่ละมาตราครบถ้วนแล้ว เหลือเพียงประเด็นเดียวที่แขวนคือ สัดส่วนสตรี คาดว่าภายในวันที่ 31 มี.ค. น่าจะหาข้อสรุปได้ด้วยการพบกันครึ่งทางคือ หาทางออกทางที่ 3 ขึ้นมา โดยไม่น่าจะต้องถึงกับมีการลงมติ และไม่น่าจะมีความขัดแย้งเหมือนครั้งที่ผ่านมา ส่วนที่มีการวิจารณ์เกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญนี้มาก ก็เป็นธรรมชาติเพราะผู้ได้รับผลกระทบก็ต้องวิพากษ์วิจารณ์ เพราะเป็นกติกาสูงสุดของประเทศ จึงต้องมีทั้งคนได้และเสียประโยชน์ กมธ.ยกร่างฯชูหลักการเพิ่มอำนาจให้ประชาชนที่เป็นรูปธรรม จึงทำให้เกิดผลกระทบกับผู้เคยมีอำนาจไม่สามารถใช้อำนาจในส่วนนี้,เมื่อถามว่า ในประเด็นภาค 4 บททั่วไปที่บัญญัติว่า เนื้อหาในภาคนี้ก่อให้เกิดหน้าที่แก่ ครม. ฝ่ายนิติบัญญัติ ศาล และองค์กรของรัฐทุกหน่วยงาน ต้องทำตามองค์กรที่จะเกิดขึ้นตามภาค 4 จึงมีอำนาจเสมือนรัฏฐาธิปัตย์เพราะอยู่เหนืออำนาจอธิปไตย 3 ฝ่ายหรือไม่ นายไพบูลย์กล่าวว่า กมธ.ยกร่างฯไม่ได้มีเจตนาเช่นนั้น แต่การตั้งข้อสังเกตถึงอำนาจของคณะกรรมการปรองดองแห่งชาติที่ให้ร่างพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษได้ ก็เพราะเกรงว่าหากเปลี่ยนรัฐบาลซึ่งเป็นคู่ขัดแย้งอาจไม่สำเร็จ ไม่ได้คิดไปถึงขั้นว่าคณะกรรมการปรองดองที่จะเกิดขึ้นจะมีอำนาจในลักษณะรัฏฐาธิปัตย์ อยู่เหนืออำนาจอธิปไตยทั้ง 3 ฝ่ายแต่อย่างใด โดยจะได้นำประเด็นเหล่านี้ไปอภิปรายในที่ประชุม เมื่อมีการทบทวนร่างรัฐธรรมนูญหลังจากที่ ครม. คสช.และ สปช.เสนอคำแปรญัตติมาแล้ว โดย กมธ.ยกร่างฯเห็นว่าที่มาของคณะกรรมการปรองดองต้องมาจาก,ส่วนที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายที่ขัดแย้งสองฝ่ายจะมาจากการเมือง โดยภาพรวมฝ่ายการเมืองก็จะเป็นเสียงส่วนใหญ่ของคณะกรรมการชุดนี้,เจตนาของเราคือ ให้คู่ขัดแย้งที่คุยกันไม่ได้ มาคุยกันโดยมีคนกลางไกล่เกลี่ย เหมือนระบบอนุญาโตตุลาการเท่านั้น ไม่ได้คิดไปถึงขั้นให้อำนาจคณะกรรมการปรองดองฯอยู่เหนืออำนาจอื่น เช่น การเสนอพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษได้ก็เพราะต้องการให้มีผลในทางปฏิบัติเพื่อคลี่คลายความขัดแย้งได้เลย โดยไม่ไปติดขัดที่ขั้นตอนของฝ่ายการเมืองที่มีอำนาจในขณะนั้น ซึ่งอาจจะเป็นคู่ขัดแย้งก็ได้ นายไพบูลย์กล่าว,นายไพบูลย์กล่าวถึงแนวคิดนิรโทษกรรมให้กับประชาชนที่มาชุมนุมแล้วทำผิดคดีอาญาว่า ปัจจุบันยังมีกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯกรณีบุกสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที 80 กว่าคน และคดีอื่นๆ รวมกว่า 400 คน ส่วน นปช.มีเกือบพันคน และผู้ชุมนุม กปปส.ที่ถูกดำเนินคดีอาญาก็มีเป็นร้อยคน แม้แต่คดีก่อการร้าย ส่วนตัวเห็นว่า คนเหล่านี้น่าเข้าข่ายที่จะนิรโทษกรรมให้ได้ เว้นคดีอาญาที่ทำให้ถึงแก่ชีวิต วางเพลิงเผา ทุจริตคอร์รัปชันและความผิดหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ สิ่งเหล่านี้นิรโทษกรรมไม่ได้,แม้แต่คดีก่อการร้าย ผมก็คิดว่าอยู่ในข่ายที่จะนิรโทษกรรมได้ เพราะพันธมิตรฯก็โดน กปปส.ก็โดนข้อหากบฏ ซึ่งหากจะดำเนินการก็ต้องทำให้กับทุกฝ่าย โดยคณะกรรมการศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองที่นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ เป็นประธานกำลังจะทำข้อเสนอแนะไปที่รัฐบาลปัจจุบันหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการเรื่องการอำนวยความยุติธรรมในประเด็นเหล่านี้โดยไม่จำเป็นต้องรอให้มีคณะกรรมการปรองดองแห่งชาติตามรัฐธรรมนูญเกิดขึ้นก่อน เว้นแต่จะทำไม่เสร็จ นายไพบูลย์กล่าว,ที่รัฐสภา นายสิทธิศักดิ์ วนะชกิจ โฆษกคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมใน ชั้นศาล ในคณะ กมธ.ปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม สปช. แถลงผลการประชุมว่า ที่ประชุมเห็นควรให้มีการเปิดทำการศาลแขวงในพื้นที่ห่างไกลเพิ่มขึ้น และให้ทำหน้าที่เป็นสาขาของศาลจังหวัด เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ห่างไกลสามารถเข้าถึงความยุติธรรมได้โดยเสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุดและอำนวยความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ห่างไกลที่จำเป็นต้องขอหมายต่างๆจากศาล ให้สามารถดำเนินการได้ด้วยความรวดเร็ว และยังมีการปรับปรุงสถานะของดะโต๊ะ ที่มีหน้าที่พิจารณาคดีของชาวมุสลิมใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในคดีที่เกี่ยวกับครอบครัวมรดกให้ทัดเทียมกับข้าราชการตุลาการ เช่น ยกระดับในวุฒิการศึกษา ฝึกอบรมก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่ ตลอดจนค่าตอบแทนที่ไม่แตกต่างจากข้าราชการตุลาการ และอาจให้มีการอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมายอิสลามได้ด้วย,นายสิทธิศักดิ์กล่าวอีกว่า ที่เห็นว่าควรให้โอนกรมบังคับคดี กรมคุมประพฤติ และกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนมาสังกัดในสำนักงานศาลยุติธรรม จากเดิมที่สังกัดกระทรวงยุติธรรม เนื่องจากการบังคับตามคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลเป็นการดำเนินการในกรอบของฝ่ายตุลาการ จะต้องมีความเป็นอิสระ ปราศจากการแทรกแซง ไม่แตกต่างไปจากการพิจารณาพิพากษาคดี การให้หน่วยงานซึ่งทำหน้าที่บังคับตามคำพิพากษาหรือคำสั่งของฝ่ายตุลาการไปสังกัดกับฝ่ายบริหาร มีความสุ่มเสี่ยงต่อการที่จะถูกแทรกแซง โดยอาศัยอำนาจบังคับบัญชาในการบริหารงานบุคคล หรือโดยการออกระเบียบของฝ่ายบริหาร ทั้งนี้ภารกิจบางอย่างของหน่วยงานเหล่านี้จำเป็นที่จะต้องดำเนินการเพื่อความเป็นอิสระ มิเช่นนั้นจะมีผลกระทบต่อการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล,น.ส.สุภัทรา นาคะผิว โฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธาน กมธ.ยกร่างฯได้ลงนามหนังสือถึงนายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เพื่อขอให้พิจารณา 2 ประเด็นการปฏิรูปที่เป็นผลจากการหารือกันของที่ประชุม กมธ.ยกร่างฯ คือ 1.การปฏิรูปเรื่องยาเสพติด จากปัญหาการปราบปรามการค้ายาเสพติดที่ไม่มีกลไก ยุทธศาสตร์ หรือมาตรการในการดำเนินการให้ลดลงอย่างเป็นรูปธรรม ผู้ค้า ผู้เสพ มีจำนวนเพิ่มขึ้น ในเบื้องต้นอาจมีการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดคำนิยามของผู้เสพ หรือติดยาเสพติดว่าเป็นผู้ป่วยแทนกำหนดว่าเป็นผู้ที่ต้องได้รับการลงโทษ 2.การปฏิรูปหลักสูตรขององค์กรที่มีหน้าที่ดูแล กำกับ และตรวจสอบ ที่หลายฝ่ายมองว่าเป็นกระบวนการของการสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างผู้ที่มีหน้าที่ตรวจสอบ และผู้ที่ถูกตรวจสอบ ทำให้หลายครั้งถูกตั้งคำถามเรื่องความเป็นมาตรฐานในการทำงาน ทั้งนี้ยอมรับการกำหนดหลักสูตรบางเรื่อง เช่น การส่งเสริมระบอบประชาธิปไตยเป็นสิ่งที่ดี แต่ควรเป็นหน้าที่ขององค์กรหรือสถาบันทางวิชาการที่เป็นผู้ดำเนินการจะเหมาะสมกว่า,นายมานิจ สุขสมจิตร รองประธาน กมธ.ยกร่างฯ คนที่ 2 ให้สัมภาษณ์ว่า ในวันที่ 28 มี.ค. กมธ.ยกร่างฯจะจัดสัมมนาเพื่อรับฟังความเห็นพร้อมแลกเปลี่ยนความเห็นกับสื่อมวลชนทุกสาขา รวมถึงบุคลากรที่เกี่ยวข้องในวงการสื่อมวลชน อาทิ คอลัมนิสต์ นักจัดรายการทั้งสถานีโทรทัศน์ สถานีวิทยุ วิทยุชุมชนทั้งในพื้นที่ กทม. และต่างจังหวัด ประมาณ 200 คน ที่รัฐสภา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อชี้แจงและทำความเข้าใจในข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสาระสำคัญในร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่มีเจตนารมณ์หลัก คือ พลเมืองเป็นใหญ่ การเมืองใสสะอาดและสมดุล หนุนสังคมที่เป็นธรรม และนำชาติสู่สันติสุข โดยมีนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธาน กมธ.ยกร่างและคณะ กมธ.ยกร่างเข้าร่วมด้วย หลังจากนั้น กมธ.ฯจะนำข้อมูลไปพิจารณาเพื่อทบทวนและปรับปรุงตัวบทของร่างรัฐธรรมนูญต่อไป นอกจากนี้ทาง กมธ.ยกร่างฯ จะเดินสายพบสื่อมวลชนทุกประเภทในพื้นที่ กทม. เพื่อสร้างความเข้าใจต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญด้วย,นายวันชัย สอนศิริ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วิป สปช.) กล่าวถึงผลการประชุมวิป สปช.ว่า พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะเลขานุการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เป็นตัวแทน คสช.มาแจ้งข้อหารือของ คสช.ต่อที่ประชุมวิป สปช.ว่า ขอให้ สปช.ชี้แจงแนวทางการปฏิรูปด้านต่างๆให้ชัดเจนว่า จะมีการปฏิรูปอย่างไร เพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์ และใช้เวลาดำเนินการเท่าใด โดยให้ประสานการทำงานกับ ครม. และ คสช.อย่างใกล้ชิด เพื่อให้การปฏิรูปมีประสิทธิภาพ รวมถึงการเสนอกฎหมายขอให้ประสานงานกัน ไม่ให้ออกกฎหมายที่ซ้ำซ้อนหรือขัดแย้งกัน นอกจากนี้ วิป สปช.ได้เพิ่มการประชุม สปช.เป็น 3 วันต่อสัปดาห์ คือ วันจันทร์ วันอังคาร วันพุธ เพื่อให้พิจารณาแนวทางการปฏิรูปที่คณะกรรมาธิการต่างๆได้พิจารณาแล้วเสร็จ,นายวันชัยกล่าวว่า ส่วนการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญพิจารณาเสร็จแล้วและเตรียมส่งมาขอความเห็นต่อ สปช.นั้น นายกรัฐมนตรีได้สั่งให้ ครม.ร่วมศึกษาร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ด้วย โดยมอบให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าทีมศึกษา นอกจากนี้ ครม.ได้แจ้งให้วิป สปช.ทราบถึงการขอเปิดสัมปทานปิโตรเลียม รอบที่ 21 ที่ต้องมีการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาของ ครม.คาดว่าอีก 3 เดือนจะแล้วเสร็จ,พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ขู่จะล้มร่างรัฐธรรมนูญหากเถียงกันมากว่า ท่านนายกฯ ขู่ไปอย่างนั้นแหละ ใครก็อยากเห็นประเทศชาติเดินหน้า อย่ามีข้อขัดแย้งเพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งให้ได้ แต่ไม่ใช่ว่าไม่พอใจอะไรก็มาสร้างสถานการณ์ มีการลอบวางระเบิด คนที่ทำรู้ว่าเศรษฐกิจขณะนี้เดินได้,ส่วนหนึ่งมาจากภาคการท่องเที่ยว เลยสร้างเรื่องเหมือนแกล้งและลงโทษคนทั้งประเทศ เมื่อจับได้ก็ต้องดำเนินคดีกันไป เมื่อถามว่า สถานการณ์ขณะนี้เริ่มมีกลุ่มมวลชนออกมาเคลื่อนไหว พล.อ.อนุพงษ์ตอบว่า ไม่เป็นไร เป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ละคนก็มีปัญหาที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งการเคลื่อนไหวแต่ละเรื่องตนไม่ขอพูด อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือ คสช. ต้องทำให้เกิดความสงบเรียบร้อย เพื่อให้ทุกอย่างเดินหน้าได้ โดยมีหน่วยที่รับผิดชอบจะดูแลแต่ละพื้นที่ ขณะที่ทางกระทรวงต้องชี้แจงในเชิงสร้างสรรค์ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้รับทราบว่าต้องปฏิบัติอย่างไร,พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึง กรณีที่ฮิวแมนไรต์วอตช์ได้เผยแพร่แถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ ถึงการดำเนินคดีฐานละเมิดกฎอัยการศึกที่ห้ามทำกิจกรรมทางการเมือง และห้ามชุมนุมเกิน 5 คน กับนายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ นายอานนท์ นำภา นายวรรณเกียรติ ชูสุวรรณ และนายสิริวิชญ์ เสรีวิวัฒน์ ที่ถูกดำเนินคดีในศาลทหารโดยจำเลยไม่มีสิทธิอุทธรณ์ใดๆต่อคำพิพากษาศาลทหารว่า เป็นการเข้าใจที่คลาดเคลื่อน โดยรัฐบาลไม่ได้จ้องจับผู้เห็นต่าง โดยจะบังคับใช้กฎหมายเท่าที่จำเป็นต่อผู้ทำผิดกฎหมายเท่านั้น ตนไม่อยากให้มีการบิดเบือน และภาครัฐเข้าใจผู้เห็นต่างมาตลอดไม่ได้มองเป็นศัตรูหรือฝ่ายตรงข้าม,มีจัดช่องทางให้คนเห็นต่างได้แสดงออก ทำไมไม่พูดถึงเลย โดยเฉพาะเวทีรับฟังความคิดเห็นหลายจุดทั่วประเทศ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จะมีรูปแบบที่เป็นระบบ มีผลตอบสนองตามความต้องการไม่มากก็น้อย อย่ามองจากภายนอกต้องศึกษาให้ลึกและรอบ ด้าน ที่สำคัญไม่ควรให้ความเห็นตามกระแสด้วยมุมมองเชิงอคติ ผมเชื่อว่าหลายประเทศรู้ถึงบริบทความแตกต่างของประเทศไทย โดยมีความพยายามเคลื่อนไหวลักษณะแอบแฝงซ่อนเร้น เพื่อหลอกล่อให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติอย่างหนึ่งอย่างใดที่จะหยิบไปเป็นประเด็นขยายผลกดดันโจมตี พ.อ.วินธัยกล่าว,ที่รัฐสภา นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวถึงกรณีสมาชิก สปช. บางส่วนยังนำเครือญาติ มาเป็นคณะทำงานและรับเงินตอบแทนว่า ทราบข่าวนี้ทางสื่อเช่นกัน ทั้งที่เคยได้ให้นโยบายและขอความร่วมมือกับสมาชิก สปช.ไว้แล้วตั้งแต่กรณีที่เคยเกิดเรื่องในลักษณะนี้กับสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ตนกำลังนำเรื่องนี้เข้าหารือในที่ประชุมคณะกรรมการวิสามัญกิจการสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วิป สปช.) ในเวลา 11.00 น. ซึ่งหลังประชุมจะมีการชี้แจงต่อสาธารณชนอีกครั้ง,จากนั้นเวลา 15.00 น. นายวันชัย สอนศิริ โฆษกคณะกรรมาธิการกิจการสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วิป สปช.) แถลงผลการประชุมวิป สปช.ว่า ที่ประชุมได้หารือกันถึงกรณีที่มีสมาชิก สปช.ตั้งเครือญาติมาช่วยงาน โดยมีมติให้นำแนวทางของวิป สนช.ที่แนะนำให้สมาชิกปรับเปลี่ยนตัวที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญ และผู้ช่วยที่เป็นเครือญาติออกจากตำแหน่งทันที เพื่อ สนองความต้องการของสังคมที่มีความเคลือบแคลงการแต่งตั้ง ส่วนประเด็นดังกล่าวจะมีผลต่อความน่าเชื่อถือในการปฏิรูปประเทศหรือไม่ คิดว่าเป็นคนละเรื่องกัน ทั้งนี้ นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธานสปช. ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาปกปิดข้อมูลในส่วนดังกล่าว เพียงแต่นายเทียนฉายไม่มีอำนาจโดยตรงในการเปิดเผยข้อมูล แต่เป็นอำนาจของข้าราชการ โดยคณะกรรมการบริหารข้อมูลข่าวสารของสภาผู้แทนราษฎร,นายวันชัย สอนศิริ สปช. ซึ่งมีชื่อ 1 ใน 12 สมาชิก สปช.ที่ตั้งเครือญาติคือ น.ส.ฉัตรทิพย์ สอนศิริ บุตรสาวเป็นผู้ชำนาญการประจำตัว รับเงินเดือน 2 หมื่นบาท กล่าวว่า ยอมรับว่าตนได้ตั้งบุตรีมาเป็นคณะทำงานในตำแหน่งผู้ชำนาญการจริงตามที่ปรากฏเป็นข่าว และยืนยันว่าตั้งมาเพื่อให้ช่วยทำงานให้ตนจริงๆ แต่ก็พร้อมที่จะทำตามกติกาหรือแนวทางที่ประธาน สปช.ให้ไว้,นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะพิจารณารับฟ้องคดีการละเว้น ไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 19 มี.ค. ว่า ป.ป.ช.จะส่งเจ้าหน้าที่ไปรับฟัง ด้วยว่าศาลฎีกาฯจะมีคำสั่งรับฟ้องคดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์หรือไม่ ซึ่งในวันที่ 19 มี.ค. น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังไม่จำเป็นต้องเดินทางไปที่ศาลฎีกาฯ แต่ถ้าศาลฎีกาฯรับฟ้องและกำหนดวันนัดไต่สวนคดีนัดแรกเมื่อใด ในวันนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์และฝั่งอัยการสูงสุดจะต้องเดินทางไปที่ศาลฎีกาฯด้วยตัวเอง ทั้งนี้ ป.ป.ช.ได้ส่ง ข้อมูลและสำนวนในคดีทั้งหมดให้อัยการสูงสุดหมดแล้ว เพื่อทำหน้าที่ฟ้องคดีแทน ป.ป.ช. มั่นใจว่า สำนวนที่ส่งไปมีน้ำหนักแน่นหนาในการเอาผิด แต่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลฎีกาฯว่าจะเชื่อถือในพยานหลักฐานของ ป.ป.ช.หรือไม่,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการพิจารณาคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทาง การเมือง ในวันที่ 19 มี.ค. จะเป็นการพิจารณาว่าจะรับฟ้องคดีที่อัยการสูงสุดยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ในคดีโครงการรับจำนำข้าวหรือไม่ ซึ่งคดีดังกล่าวอัยการ สูงสุดได้สรุปสำนวนส่งฟ้องต่อศาลฎีกาฯ เมื่อวันที่ 19 ก.พ.2558 ตามที่ ป.ป.ช.ได้รวบรวมพยานหลักฐานสรุปสำนวนการไต่สวนให้อัยการสูงสุดในความผิดละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว จนทำให้เกิดความเสียหายในโครงการจำนำข้าวกว่า 5 แสนล้านบาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ซึ่งมีระวางโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับ 2,000-20,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ และความผิดตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติในตำแหน่งหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ซึ่งอัตราโทษดังกล่าวมีโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 10 ปี,นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำสั่งว่าจะประทับรับฟ้องคดีกรณีละเลยไม่ดำเนินการยับยั้งโครงการรับจำนำข้าวจนทำให้รัฐเสียหายกว่า 6 แสนล้านบาทหรือไม่ในวันที่ 19 มี.ค.ว่า ขั้นตอนการดำเนินการในวันดังกล่าวเป็นเรื่องระหว่างศาลกับพนักงานอัยการ ศาลจะเป็นผู้พิจารณาคำฟ้องของพนักงานอัยการว่าจะประทับรับฟ้องหรือไม่ ทั้งนี้ กฎหมายไม่ได้กำหนดให้ผู้ถูกกล่าวหาต้องไปที่ศาล ดังนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์และทีมทนายความจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางไปที่ศาล โดยเราจะรอฟังผลการพิจารณาของศาลก่อนว่าจะออกมาอย่างไร จากนั้นทีมทนายจึงค่อยมาหารือกันอีกครั้งว่าจะดำเนินการในขั้นตอนต่อไปอย่างไร,นายธนฤกษ์ นิติเศรณี ประธานแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา เปิดเผยถึงองค์คณะผู้พิพากษาจะรับฟ้องคดีที่อัยการสูงสุด (อสส.) ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ที่ไม่ระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว สร้างความเสียหายแก่รัฐ 6 แสนล้านบาทว่า ช่วงเช้าวันที่ 19 มี.ค.องค์คณะผู้พิพากษาทั้ง 9 คน จะร่วมประชุมกัน ก่อนจะมีความเห็นว่า ควรจะรับฟ้องคดีนี้ไว้พิจารณาหรือไม่ รวมทั้งการพิจารณาหาผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน 1 คนขึ้นรับผิดชอบสำนวน และหาก อสส. หรือคณะทำงานอัยการไม่มารับฟังคำสั่ง องค์คณะก็จะเขียนรายงานกระบวนพิจารณาไว้ในสำนวน แต่หากมีคณะทำงานอัยการ หรือผู้รับมอบอำนาจ หรือมีทนายความมา ศาลฎีกาก็จะเปิดห้องพิจารณา เพื่ออ่านคำสั่งจะรับฟ้องหรือไม่ รวมถึงวันนัดพิจารณาคดีครั้งแรก และรายงานกระบวนการพิจารณาให้คู่ความทราบโดยทั่วกัน ทั้งนี้ จนขณะนี้ยังไม่มีทนายความฝ่ายจำเลยมายื่นคัดค้านองค์คณะผู้พิพากษาคนใด ซึ่งสามารถยื่นคัดค้านได้จนถึงวันนัดพิจารณาคดีครั้งแรก,ส่วนคดีที่ อสส.ยื่นฟ้องนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ กับพวกรวม 21 ราย ฐานทุจริตโครงการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี นั้น นายดิเรก อิงคนินันท์ ประธานศาลฎีกา ยังไม่ได้นัดประชุมใหญ่ผู้พิพากษาศาลฎีกาทั้งหมด เพื่อเลือกองค์คณะจำนวน 9 คน ขึ้นพิจารณาสำนวนคดี อย่างไรก็ตาม กฎหมายกำหนดไว้ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 14 วัน,นายสุรศักดิ์ ตรีรัตน์ตระกูล อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน รองหัวหน้าคณะทำงานอัยการ ที่รับผิดชอบคดีโครงการจำนำข้าวและโครงการระบายข้าวแบบจีทูจี กล่าวว่า ในวันที่ 19 มี.ค. ตนและนายชุติชัย สาขากร อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานฯ และคณะทำงานรวม 6 คน จะเดินทางไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามที่ศาลกำหนดนัดฟังคำสั่งว่าจะรับฟ้องหรือไม่ ในคดี อสส.ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตนเชื่อว่าศาลจะมีคำสั่งประทับฟ้อง และให้โจทก์นำส่งหมายเรียกจำเลยภายใน 7 วัน และศาลจะกำหนดนัดวันพิจารณานัดแรก ซึ่งเป็นวันที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องมาศาล,อีกเรื่องหนึ่ง เมื่อเวลา 14.00 น. นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิด้านการวิจัยและพัฒนางานด้านสุขภาพแห่งชาติ ประจำสำนักนายกฯ ได้เดินทางไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เพื่อเข้าให้ข้อมูลกรณีการสอบข้อเท็จจริง สปสช. โดย นพ.ณรงค์ได้ให้สัมภาษณ์ว่า การมาครั้งนี้ เนื่องจาก ป.ป.ท.แจ้งว่าช่วยมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับ สปสช.ในรายละเอียดต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องที่เคยพูดไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการจัดสรรงบกองทุนหลักประกันสุขภาพหรืองบบัตรทองที่มีความเห็นแตกต่างกันอยู่ แต่โดยรายละเอียดคงไม่ขอ พูดรอให้ ป.ป.ท. เป็นผู้ชี้แจงดีกว่า,ผู้สื่อข่าวถามถึงประเด็นที่ นพ.รัชตะ รัชตะ-นาวิน รมว.สาธารณสุข ยืนยันว่าท่านไม่สนองตอบนโยบายการทำงานเรื่องต่างๆ นพ.ณรงค์กล่าวว่า เรื่องนี้ขอให้พิจารณาเนื้องานที่ผ่านมาดีกว่า ส่วนกรณีตั้งคณะกรรมการสอบตนนั้น ยินดีให้ตรวจสอบ และขณะนี้ยังไม่เห็นหนังสือที่จะให้ชี้แจง หรือรายละเอียดเกี่ยวกับการไม่สนองตอบนโยบายเลยว่ามีอะไรบ้าง,พญ.ประชุมพร บูรณ์เจริญ ที่ปรึกษาสมาพันธ์แพทย์โรงพยาบาลศูนย์โรงพยาบาลทั่วไป (สพศท.) กล่าวถึงสถานการณ์ในการแสดงออกของบุคลากรสาธารณสุข ว่า ขณะนี้โรงพยาบาลแต่ละแห่งยังคง แสดงออกเชิงสัญลักษณ์เช่นการแต่งดำ แต่อยู่ในพื้นที่ ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร ส่วนการยื่นหนังสือถึงนายกฯ เบื้องต้นได้หารือกับประชาคมสาธารณสุขว่าอาจจะยังไม่ยื่นหนังสือ เนื่องจากมองว่าเมื่อนายกฯ ตัดสินใจให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ สปสช.ด้วย แสดงว่านายกฯ ให้ความสำคัญเรื่องนี้ เพราะตั้งสอบทั้ง 2 ฝ่าย คือ ปลัด สธ. และ สปสช.แล้ว ขณะนี้ก็รอเพียงผลการสอบว่าจะเป็นอย่างไร เพราะชาวสาธารณสุขก็มีความหวังว่าระบบจะดีขึ้น อย่างไรก็ตาม สำหรับคณะกรรมการที่จะตั้งขึ้นมาเพื่อสอบ สปสช. ขอให้มีการเปิดเผยรายชื่อกรรมการและรายละเอียดในการตรวจสอบด้วย,ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ โฆษกสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานข่าวกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจสอบการใช้เงินสนับสนุนกิจกรรมภาครัฐตามข้อบังคับขององค์การเภสัชกรรม (อภ.) ที่ให้แก่ สปสช. ว่า เรื่องนี้ ดีเอสไอสอบสวนและส่งผลการสอบสวนไปให้ นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข ในขณะนั้นทราบ ซึ่ง นพ.ประดิษฐได้สั่งการให้ นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี ประธานบอร์ด อภ.ในขณะนั้น หารือกับสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เรื่องการใช้จ่ายเงินสนับสนุนกิจกรรมภาครัฐของ อภ.ที่ให้กับ สปสช.โดยทั้งดีเอสไอและ สตง.ต่างมีข้อสรุปตรงกันว่าไม่พบทุจริตการใช้เงินแต่ให้ดำเนินการให้ถูกต้องตามระเบียบ,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 19 มี.ค. เวลา 10.30 น. นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการ สปสช.จะเปิดแถลงข่าวข้อเท็จจริงการบริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ถ.แจ้งวัฒนะด้วย,นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช.กล่าวถึงกระแสข่าว คสช.จะสั่งปิดสถานีโทรทัศน์ พีซ ทีวี สถานีโทรทัศน์ของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. พร้อมกับสถานีโทรทัศน์ ทีวี 24 กระบอกเสียงพรรคเพื่อไทย เหตุเพราะมีการนำเสนอข่าวที่โจมตีการทำงานของรัฐบาลและคสช.ว่า คนที่มอนิเตอร์พวกเราอยู่นั้นไม่ทราบว่าเป็นใครบ้าง อะไรที่มีความขุ่นข้องหมองใจกัน ก็ควรที่จะปฏิบัติกันอย่างตรงไปตรงมา การปิดทีวี ถือว่าเป็นการทำร้ายหัวใจขั้นสูงสุด เพราะทำอยู่เพียงฝ่ายเดียว พวกตนไม่ใช่คนไม่สู้คน ขอเตือนสติทุกฝ่ายว่า เมื่อมีเหตุการณ์อะไร ก็ขอให้พี่น้องประชาชนใช้ความอดทนขั้นสูงสุด แม้ว่าจะโดนยั่วขั้นสูงสุดอย่างไร เหมือนกับเราเข้าไปดูหนังในโรง อย่าลุกออกกลางเรื่อง ให้ดูตั้งแต่ต้นจนจบ แล้วจะได้เห็นเรื่องราวต่างๆอย่างครบถ้วน โทรทัศน์บางช่อง ใช้ถ้อยคำสาหัสกว่าเราเยอะ แต่ก็ไม่มีปัญหา ต้องการจะบีบบังคับให้พวกเราทำอะไร,นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล (กขร.) ครั้งที่ 3/2558 โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ภายหลังประชุม นายสุวพันธุ์กล่าวว่า ในที่ประชุมส่วนราชการต่างๆได้รายงานผลการดำเนินงานในรอบเดือนที่ผ่านมา รวมถึงได้หารือการจัดทำกรอบการรายงานผลงานรัฐบาลในรอบ 6 เดือน ซึ่งจะครบรอบในปลายเดือน มี.ค. โดยกำหนดให้ส่วนราชการทุกกระทรวง รวบรวมผลงานส่งมาให้ กขร. ภายในวันที่ 20 มี.ค. และคาดว่าจะมีการแถลงผลงานในช่วงต้นเดือน เม.ย. ส่วนรูปแบบการแถลงผลงานยังไม่ได้กำหนด และที่ประชุมยังได้หารือถึงการขับเคลื่อนนโยบายต่างๆเช่น การขับเคลื่อนงบประมาณภาครัฐ ซึ่ง ผอ.สำนักงบประมาณยืนยันว่าการใช้จ่ายงบประมาณดีขึ้นและจะปรับตัวตามลำดับ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้,นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง ยังคงยืนยันว่าตราบใดที่อยู่ในตำแหน่งจะเดินหน้าเก็บภาษีดังกล่าวต่อไป โดยไม่ให้เกียรติในคำพูดของนายกรัฐมนตรีและยังบอกว่าประเทศจะล่มจมถ้าไม่ออกภาษีบ้านและที่ดินสะท้อนให้เห็นถึงความไม่เข้าใจในสภาวะเศรษฐกิจที่กำลังย่ำแย่ การเก็บภาษีใหม่ในภาวะเช่นนี้ไม่เหมาะสมอย่างแน่นอน อีกทั้งยังเห็นชัดเจนว่าขาดการเตรียม–การที่ดี เพราะมีการเปลี่ยนแปลงราคาบ้านขั้นต่ำที่จะงดเว้นจัดเก็บภาษี ทำเหมือนเด็กเล่นขายของ นายสมหมายคงเข้าใจผิดว่าการเก็บภาษีบ้านและที่ดินจะเป็นผลงานชิ้นโบแดง แต่ความจริงมันคือผลงานชิ้นโบดำ | การทบทวนถ้อยคำในร่างรัฐธรรมนูญของกรรมาธิการยกร่างฯล่าสุด ได้มีการพิจารณารายละเอียดของแต่ละมาตราใกล้ครบถ้วนแล้ว ขณะที่การนิรโทษกรรมมีความคืบหน้าไปมาก | null | ข่าวหน้า1,ข่าวการเมือง,ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร,ศาลฎีกา,นัดฟังคำสั่ง,ประทับรับฟ้อง,จำนำข้าว,ไม่ไปฟังศาล,ไม่ไปศาล,นรวิชญ์ หล้าแหล่ง,ทนายความ,ผู้ถูกกล่าวหา | https://www.thairath.co.th/content/487784 |
กกต.ปัดยื้อสอบจริยธรรม ธีรวัฒน์-หนุนปรองดอง ยุติความขัดแย้ง | เมื่อวันที่ 17 ม.ค.60 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบจริยธรรมของ นายธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์ กรรมการ กกต.ว่า ตามที่ กกต.ได้มีการขอความร่วมมือกับองค์กรอิสระให้มาร่วมเป็นคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงนั้น เบื้องต้นได้รับทราบว่าทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เตรียมที่จะพิจารณาว่าจะอนุญาตให้กรรมการมาเป็นกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่ กกต.จะตั้งขึ้นหรือไม่ ทั้งนี้ยอมรับว่ากระบวนการต้องใช้เวลา เพราะ กกต.ไม่สามารถไปบังคับหรือเร่งรัดองค์กรที่ขอความร่วมมือไปได้ แต่ยืนยันว่าการดำเนินการดังกล่าวของ กกต.ไม่ได้ต้องการยื้อเรื่องหรือดึงเวลา เพื่อให้รัฐธรรมนูญใหม่มีผลบังคับใช้ เพราะหากรัฐธรรมนูญใหม่มีผล ผู้ตรวจการแผ่นดิน ในฐานะผู้ส่งเรื่องให้ตรวจสอบจะไม่มีอำนาจการตรวจสอบจริยธรรม ซึ่งหากใครมองว่า กกต.ยื้อเรื่องหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ก็สามารถไปฟ้องร้อง กกต.ได้,นอกจากนี้ นายศุภชัย ยังกล่าวถึงเรื่องปรองดองว่า ส่วนตัวเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่รัฐบาลผลักดันเรื่องการปรองดอง ซึ่งหากเกิดขึ้นได้ จะได้แก้ปัญหาของประเทศ ถ้าเกิดคนในชาติปรองดองสมัครสมานสามัคคีกัน ไม่ทะเลาะเบาะแว้งกัน ว่ากันไปตามเหตุผลและตามกติกาก็จะเป็นสิ่งที่ดี และทำให้ กกต.สามารถจัดการเลือกตั้งได้ง่ายด้วย | ศุภชัย ปัดยื้อสอบจริยธรรม ธีรวัฒน์ ท้าฟ้องได้ หากใครมองละเว้นปฏิบัติหน้าที่ หนุนเวทีปรองดอง รบ. เชื่อหากทุกคนเคารพกติกา จัดเลือกตั้งได้ง่าย | null | กกต.,สอบจริยธรรม,ธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์,ปรองดอง,ความขัดแย้ง | https://www.thairath.co.th/content/837880 |
บารมีปู่ศรีสุทโธ ปาเจโร่ ตั้งใจไปคำชะโนด อัดเสาไฟยับ รอดปาฏิหาริย์ | วันที่ 12 ม.ค. ร.ต.อ.กิตติกวินท์ อุมาฐิติพงษ์ รอง สว.สอบสวน สภ.โนนสูง อ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุ มีรถเก๋งเสียหลักตกถนน บริเวณถนนมิตรภาพ (ถนนอุดรธานี–ขอนแก่น) ขาเข้าเมืองอุดรธานี บ้านหนองไผ่ ต.หนองไผ่ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 คน จึงพร้อมด้วยกู้ภัยทางหลวง กู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรม รุดไปตรวจสอบ,ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน ฆข 4586 กรุงเทพฯ เสียหลักชนหลักชนเสาไฟฟ้า รถพลิกตะแคงอยู่ร่องกลางถนน สภาพพังเสียหายยับเยิน พบผู้บาดเจ็บ 5 คน ประกอบด้วย คนขับรถ นายณัฐวุฒิ สระทองแก่น อายุ 53 ปี นางนภาพร สระทองแก่น อายุ 48 ปี น.ส.รินทอง สระทองแก่น อายุ 20 ปี นายวิชัย ทองดอนพุ่ม อายุ 60 ปี และ ด.ช.วีระกร เอี่ยมสุวรรณ อายุ 7 ปี ครอบครัวเดียวกัน เจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลเอกอุดร,นายณัฐวุฒิ เผยว่า ขับรถพาครอบครัวมาจาก อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม เพื่อมากราบพ่อปู่ศรีสุทโธ ที่คำชะโนด อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ รถได้เสียการควบคุม พุ่งชนเสาไฟฟ้าส่องสว่าง ป้ายจราจร และต้นสน ริมถนนด้านซ้ายมือ ก่อนรถจะพลิกตะแคงลงไปร่องกลางถนน สภาพรถเสียหายยับเยิน แต่โชคดีที่ทุกคนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ไม่มีใครบาดเจ็บสาหัส หรือเสียชีวิต,ทั้งนี้ สันนิษฐานว่า นายณัฐวุฒิ ขับรถมาเป็นระยะทางหลายร้อยกิโลเมตร ทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย และหลับใน ทำให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว รถพังเสียหายหนักแต่ทุกคนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ทำให้ชาวบ้านออกมาส่องทะเบียนรถเพื่อไปซื้อหวยกัน,อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะเกิดอุบัติเหตุ เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ซึ่งสภาพรถพังเสียหายหนัก ขับไม่ได้ แต่ทุกคนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ทำให้ชาวบ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุและมาพบเห็น ต่างฮือฮาคิดว่า พ่อปู่ศรีสุทโธ ได้ช่วยปกป้องคุ้มครอง จึงพากันถ่ายรูป และจดหมายเลขทะเบียนรถ เพื่อนำไปเสี่ยงโชคงวดนี้กัน | เชื่อบารมีปู่ศรีสุทโธ! หนุ่มใหญ่ ขับปาเจโร่ ตั้งใจพาครอบครัวไปคำชะโนด รถเกิดเสียหลักพุ่งอัดเสาไฟฟ้า สภาพรถพังยับ แต่ทุกคนได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ชาวบ้านแห่ออกมาส่องทะเบียนรถ เพื่อนำไปลุ้นโชคงวดที่จะถึง | ข่าว,ทั่วไทย | หวย,คำชะโนด,รถเสียหลัก,เลขเด็ด,ปู่ศรีสุทโธ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1175717 |
ธุรกิจอสังหาคึกช่วงโค้งสุดท้าย ผู้ประกอบการออกโปรหนุน | ของกระทรวงการคลัง หลายมาตรการ อาทิ โครงการ บ้านในฝัน รับปีใหม่ มาตรการกระตุ้นลดค่าโอนและจดจำนองเหลือ 0.01% และสินเชื่อจากธนาคาร ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) วงเงิน 50,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 2.5% คงที่ 3 ปีแล้ว ธนาคารออมสินออกสินเชื่อบ้านผ่อนต่ำ ล้านละ 10 บาทวงเงิน 25,000 บ้านบาท รวมถึงธนาคารพาณิชย์อื่นๆ ลดดอกเบี้ยเงินกู้อสังหาริมทรัพย์ลงเหลือประมาณ 2.5-3% ล่าสุดรัฐบาลมีโครงการ บ้านดีมีดาวน์ สนับสนุนเงินเพื่อลดภาระการผ่อนดาวน์ (Cash Back) 50,000 บาทต่อราย สำหรับผู้ที่มีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาทและจำกัดไว้เพียง 100,000 รายเท่านั้น,ทั้งนี้ มาตรการทั้งหมดข้างต้นน่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ในช่วงที่เหลือของปีนี้ให้เป็นไปตามที่เคยประเมินไว้ว่าจะสามารถช่วยระบายสต๊อกบ้านที่มีอยู่จำนวน 35,000 หน่วย และคาดว่าจะช่วยทำให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ในปีหน้าขยายตัวได้ 5-7% และเมื่อกลุ่มอสังหาฯได้รับผลดีก็จะทำให้ธุรกิจดีต่อเนื่องไปด้วยซึ่งส่งผลดีต่อการจ้างงาน โดยยืนยันว่ามาตรการที่ออกมานั้นไม่ได้เอื้อต่อกลุ่มนายทุน แต่เป็นการมองภาพเศรษฐกิจในภาพรวมที่ยังมีปัญหาและรัฐบาลต้องเข้าไปช่วย,ด้านบริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า โครงการ บ้านดีมีดาวน์ นับว่าเป็นผลด้านบวกต่อตลาดที่อยู่อาศัย แต่ผู้ที่จะได้รับเงินสนับสนุนจะต้องผ่านการอนุมัติสินเชื่อจากสถาบันการเงิน ซึ่งจะต้องขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของผู้ขอสินเชื่อ ภาระหนี้ครัวเรือน ภาวะรายได้และการมีงานทำ รวมถึงคุณสมบัติต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่โครงการฯ กำหนดเชื่อว่าการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลทั้งปี 2562 น่าจะขยับไปอยู่ที่ประมาณ 177,000 หน่วย หรือหดตัวประมาณ 10.0% จากกิจกรรมที่ชะลอลงในช่วงเวลาส่วนใหญ่ของปีนี้ แต่นับว่าเป็นภาพที่ดีขึ้น. | นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง) เปิดเผยว่า สถานการณ์ของภาคอสังหาริมทรัพย์ในช่วงสุดท้ายของปีนี้น่าจะได้รับผลดีจากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ | ข่าว,เศรษฐกิจ | ชาญกฤช เดชวิทักษ์,กระทรวงการคลัง,ศูนย์วิจัยกสิกรไทย,บ้านดีมีดาวน์,ภาระหนี้ครัวเรือน,อสังหาริมทรัพย์,กระตุ้นยอดขาย | https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/1713610 |
เอ-ส้ม ฉลุย ทุบสาวยุ่น ลิ่วตัดเชือกลูกยางชายหาดเอเชีย | 16,วันที่ 26 มี.ค. การแข่งขันศึกวอลเลย์บอลชายหาดชิงแชมป์เอเชียรายการ เอสเอ็มเอ็ม เอเชียน บีช วอลเลย์บอล 2016 ที่บริเวณชายหาดแมนลี เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งหลังจากในช่วงเช้าที่ผ่านมา คู่ไทย 1 วรภัสสร รดารงค์ และ ธนะรัศมิ์ฐา อุดมฉวี เอาชนะคู่ไทย 2 ขนิษฐา หงษ์พักตร์ และ รำไพพฤทธิ์ นุ่มวงศ์ มาได้ 2-0 เซตในรอบ 16 ทีมสุดท้าย และในช่วงบ่ายตามเวลาท้องถิ่น ต้องลงสนามในรอบ 8 ทีมสุดท้าย พบกับ ญี่ปุ่น นิชิโบริ ทาเคมิ และ มิโซเอะ ซายากะ ,เซตแรก ญี่ปุ่นเริ่มต้นได้ดีกว่า ด้วยการใช้เกมรับที่เหนียวแน่นและบอลโต้กลับที่ยอดเยี่ยม เอาชนะไปก่อน 21-14 แต่ในเซตที่ 2 คู่สาวไทยตั้งเกมบุกกันใหม่ เน้นการวางบอลที่หลากหลายจนทำให้ญี่ปุ่นเริ่มมีข้อผิดพลาด ก่อนเอาชนะไปด้วยคะแนน 21-18 ไล่ตามมาเป็น 1-1 เซต,เซตตัดสิน ไทยใช้การโจมตีด้วยบอลตบที่รุนแรงและการวางบอลอย่างแม่นยำไปยังทั่วสนาม บีบให้ทีมสาวญี่ปุ่นเล่นกันด้วยความยากลำบาก ก่อนเอาชนะไปด้วยคะแนน 15-10,ทำให้จบเกม ทีมสาวไทย 1 วรภัสสร รดารงค์ และ ธนะรัศมิ์ฐา อุดมฉวี พลิกแซงเอาชนะ นิชิโบริ ทาเคมิ และ มิโซเอะ ซายากะ จากญี่ปุ่นไปอย่างสนุก 2-1 เซต 14-21, 21-18, 15-10,หลังจบเกมการแข่งขัน คู่นักตบลูกยางชายหาดสาวไทย เผยว่า รู้สึกดีใจที่สามารถผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้ ซึ่งทางสตาฟฟ์โค้ชได้จัดเตรียมข้าวกะเพราให้ทั้งสองคนเป็นรางวัล ที่สามารถเอาชนะทีมญี่ปุ่นได้ในเกมนี้,สำหรับทีมไทย 1 จะผ่านเข้าสู่รอบตัดเชือกไปพบกับเจ้าภาพ เมเรีย แอททาโช และ นิกกิ เลิร์ด จากออสเตรเลีย ในวันที่ 27 มีนาคม เวลา 07.30 น. ไทยรัฐทีวี HD ช่อง 32 และ SMMTV ถ่ายทอดสดให้ชมเช่นเคย. | เอ วรภัสสร รดารงค์ และ ส้ม ธนะรัศมิ์ฐา อุดมฉวี คู่นักตบชายหาดสาวของไทยยังร้อนแรงไม่เลิก ล่าสุดแซงเอาชนะคู่นักตบสาวจากญี่ปุ่นได้อย่างสุดมัน 2-1 เซต ลอยลำเข้าสู่รอบตัดเชือกพบสาวเจ้าภาพ ในศึกวอลเลย์บอลชายหาดชิงแชมป์เอเชีย 20 | null | วอลเลย์บอลชายหาดชิงแชมป์เอเชีย 2016,รอบ 8 ทีมสุดท้าย,วรภัสสร รดารงค์,ธนะรัศมิ์ฐา อุดมฉวี,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/596713 |
ดีเอชแอล เปิดสงครามถล่ม เคอร์รี่ | ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (Same-Day Delivery) เพื่อตอบสนองความต้องการในการส่งสินค้าที่เพิ่มขึ้นจากความนิยมการซื้อสินค้าออนไลน์ของคนไทย,นายชาร์ลส์ บรูเออร์ ประธานกรรมการบริหาร ดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ กล่าวว่า อีคอมเมิร์ซในไทยเติบโตเร็วมาก และความอดทนของลูกค้าต่อการรอคอยจะลดน้อยลงเรื่อยๆ ขณะที่นายเกียรติชัย พิตรปรีชา กรรมการผู้จัดการ ดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า ตัวเลขของแมคเคนซี่ จำนวนผู้บริโภคที่ต้องการใช้บริการรับส่งพัสดุ หรือสินค้าด่วนภายในวันเดียวสูงขึ้นปีละ 43% โดยดีเอชแอลสามารถรับส่งพัสดุได้น้ำหนักสูงสุด 20 กิโลกรัม เปิดรับพัสดุถึงเวลาเที่ยงวัน ราคาเริ่มต้น 100 บาท จุดแข็งของดีเอชแอล คือการใช้เทคโนโลยีเช่น หุ่นยนต์ในการจัดแยกพัสดุ ใช้โดรนส่งสินค้า มีเครือข่ายจัดส่งครอบคลุมทั่วประเทศ ค่าบริการอยู่ในระดับแข่งขันได้ ไม่ได้สูงกว่าคู่แข่ง,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ เปิดให้บริการตั้งแต่ 2 ปีที่ผ่านมา มีคู่แข่ง ได้แก่ ไปรษณีย์ไทย และเคอร์รี่ (Kerry) ใช้เวลาส่งของถึงมือผู้รับภายใน 1-3 วัน ส่วนบริการใหม่ส่งพัสดุภายในวันเดียว ปัจจุบันเจ้าตลาดคือเคอร์รี่ การเปิดตัวของดีเอชแอลจึงเป็นการขยายตลาดชนกับเคอร์รี่โดยตรง และปัจจุบันดีเอชแอลประเทศไทย มีบริการรวม 4 กลุ่ม อาทิ ดีเอชแอล เอ็กซ์เพรส รับส่งสินค้าทางอากาศทั่วโลก, ดีเอชแอล ซัพพลายเชน. | บริษัท ดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ (DHL eCommerce) บริษัทในเครือ DHL Group ผู้นำธุรกิจโลจิสติกส์รายใหญ่ของโลก ได้เปิดตัวบริการ DHL Parcel Metro บริการรับ-ส่งพัสดุด่วนภายในวันเดียว | ข่าว,เศรษฐกิจ | ดีเอชแอล,ชาร์ลส์ บรูเออร์,เคอร์รี่,ส่งสินค้า,เกียรติชัย พิตรปรีชา | https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/1325789 |
ธ.ก.ส.ย้ำไม่มีนโยบาย ให้พนง.โทรเช็กประวัติ อ้างลงทะเบียนคนจนไม่สมบูรณ์ | วันที่ 16 มิ.ย. 60 นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏข่าวลือในพื้นที่ว่ามีบุคคลแอบอ้างเป็นพนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โทรศัพท์ไปหาประชาชน เพื่อสอบถามเลขบัตรประจำตัวประชาชน และวันเดือนปีเกิด โดยอ้างว่าการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยของบุคคลนั้นยังไม่สมบูรณ์ ,กระทรวงการคลังขอเรียนชี้แจงดังนี้ 1. ธ.ก.ส. ไม่มีนโยบายให้พนักงานดำเนินการในลักษณะเช่นนี้แต่อย่างใด จากการประสานกับ ธ.ก.ส. พบว่า ธนาคารไม่มีนโยบายให้พนักงาน ดำเนินการในลักษณะดังกล่าวแต่อย่างใด จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังการให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับบุคคลอื่น เพราะอาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพกระทำการที่ไม่ชอบตามกฎหมาย โดยใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้,2. รัฐบาลโดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จะมีการจ้างนักศึกษาลงสำรวจทั่วประเทศ คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 2560 เห็นชอบให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.) จัดทำโครงการสำรวจข้อมูลผู้มีรายได้น้อย เพื่อให้ทราบถึงสภาพความเป็นอยู่ของผู้มีรายได้น้อย โดยทำการจ้างนักศึกษาในจังหวัดต่างๆ ทั้งในระดับอุดมศึกษาและอาชีวศึกษา ที่อยู่ในจังหวัดภูมิลำเนาของตัวเอง หรือในจังหวัดใกล้เคียง หรือจังหวัดที่สถานศึกษาของตัวเองตั้งอยู่ ลงพื้นที่สำรวจทั่วประเทศในช่วง ก.ค. ถึง ส.ค. 60 และนักศึกษาที่จะลงพื้นที่นั้น ต้องมีบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่สำรวจที่ สสช. ออกให้,ดังนั้น การแอบอ้างเป็นพนักงาน ธ.ก.ส. เพื่อกระทำการดังกล่าวในช่วงนี้ จึงไม่ใช่นโยบายของรัฐบาลแต่อย่างใด จึงขอให้ประชาชนที่ลงทะเบียนในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ระมัดระวังการให้ข้อมูลส่วนบุคคล และติดตามข่าวสารจากกระทรวงการคลังอย่างใกล้ชิดต่อไป ทั้งนี้ หากพบการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าว ให้รีบแจ้งตำรวจและหน่วยงานที่ถูกแอบอ้างทันที เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีต่อไป. | สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ชี้แจงข่าวลือ ยันไม่มีนโยบายให้พนักงานโทร สอบถามเลขบัตรประชาชน ข้อมูลส่วนตัว อ้างการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยไม่สมบูรณ์ | ข่าว,เศรษฐกิจ | ธ.ก.ส.,ผู้มีรายได้น้อย,พรชัย ฐีระเวช,สำรวจข้อมูลผู้มีรายได้น้อย,สสช. | https://www.thairath.co.th/news/business/975090 |
หัวขโมยตู้น้ำมันหยอดเหรียญ ชำแหละเครื่องขายคืนเจ้าของ เลยโดนรวบ | เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 15 ธ.ค. 57 พ.ต.ต.กิตติพล ดวงศิริ สารวัตรป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองกระบี่ ประจำสถานีตำรวจภูธรย่อยอ่าวนาง พร้อมเจ้าหน้าที่แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืนและใช้ยานพาหนะ มี นายประสิทธิ์ พึ่งหล้า อายุ 30 ปี บ้านอยู่ ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ นายธวัชชัย ขยันการ อายุ 20 ปี บ้านอยู่ ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ และนายโชค (นามสมมติ) อายุ 17 ปี พร้อมของกลาง ชุดหัวจ่ายน้ำมัน ลูกลอยปั๊มน้ำมัน อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์งัดแงะ จำนวนหลายสิบรายการ และรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สี่ประตู สีบรอนซ์ ทะเบียน กง 1529 กระบี่,สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 23 พ.ย. 57 มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ขโมยยกตู้น้ำมันหยอดเหรียญ ที่ติดตั้งอยู่บริเวณหน้าร้านซ่อมรถแห่งหนึ่ง ในหมู่ 5 ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ โดยคนร้ายยกไปทั้งตู้ ขนาดความสูงเท่ากับเครื่องกดเงินสด หรือตู้เอทีเอ็ม กระทั่งสายวันที่ 15 ธ.ค. 57 ทางเจ้าของปั๊มน้ำมันหยอดเหรียญ ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าพบผู้ต้องสงสัยเป็นกลุ่มวัยรุ่น 3 คน นำอุปกรณ์หลายอย่างที่เกี่ยวกับปั๊มน้ำมันหยอดเหรียญมาขายให้ และเป็นยี่ห้อเดียวกับที่ใช้ และกระจายตู้ในย่านแหล่งท่องเที่ยวอ่าวนาง เจ้าหน้าที่จึงไปจับกุมพร้อมของกลางจำนวนมาก จากนั้นได้นำไปตรวจสอบที่บ้านพบของกลางดังกล่าวอีกหลายชิ้น,สอบสวนนายประสิทธิ์ ทราบว่า ได้ร่วมกับพวกรวม 4 คน โดยมีนายเหม ที่ยังหลบหนีอีก 1 คน ได้ขับรถตระเวนในย่านอ่าวนาง และพบปั๊มน้ำมันหยอดเหรียญติดตั้งอยู่ริมถนน จึงได้ลงไปช่วยกันงัดแล้วนำขึ้นรถ เพื่อต้องการเงินในตู้ไปซื้อยาเสพติด แต่เมื่อนำตู้มาปรากฏว่าไม่มีเงินในตู้ จึงได้นำไปทิ้งในป่า ทิ้งช่วงจากนั้นหลายวัน จึงย้อนกลับไปดูเครื่องและช่วยกันงัดเอาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อนำไปขาย แต่จุดไต้ตำตอนำมาขายให้กับเจ้าของปั๊มน้ำมัน จึงถูกจับกุมดังกล่าว พร้อมสารภาพว่าร่วมกันทำเป็นครั้งแรก | รวบ 3 หนุ่มเมืองกระบี่ ขโมยยกตู้น้ำมันหยอดเหรียญ หวังเอาเงินในตู้ไปเสพยา เปิดออกไม่พบเงินชำแหละเครื่องขาย แต่จุดไต้ตำตอดันขายให้เจ้าของปั๊มน้ำมัน รับสารภาพหาเงินไปเสพยา | ข่าว,ทั่วไทย | ตู้น้ำมันหยอดเหรียญ,ขโมยตู้น้ำมัน,สภ.เมืองกระบี่,ต.อ่าวนาง,อ.เมืองกระบี่,ปั้มน้ำมันหยอดเหรียญ,สถานีตำรวจภูธรย่อยอ่าวนาง,ภูมิภาค,ทั่วไทย | https://www.thairath.co.th/news/local/469317 |
ยาขม ของแสลงผู้มีอำนาจ | สวนดุสิตโพล ทำการสำรวจความเห็นของประชาชนว่า ด้วย 10 ว่าที่รัฐมนตรี ที่ถูกใจประชาชนที่คาดว่าจะได้เป็นรัฐมนตรีเปอร์เซ็นต์สูง,อันดับ 1 รองนายกฯ ที่ดูแลงานด้านเศรษฐกิจ คือ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ได้คะแนนสูงสุด 42.12%,อันดับ 2 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯฝ่ายกฎหมาย 37.58%,อันดับ 3 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ 30.61%,อันดับ 4 นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ว่าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ 26.82%,อันดับ 5 พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย 24.55%,อันดับ 6 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ 20.00%,อันดับ 7 ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ 19.09%,อันดับ 8 คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ 15.30%,อันดับ 9 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม 12.12%,อันดับ 10 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน 11.21%,ในจำนวน 10 คนนี้มาจากตัวแทนพรรคการเมือง 7 คน อีก 3 คน มาตามโควตาของ พล.อ.ประยุทธ์ นายกฯ,ที่น่าสนใจก็คือนายสมคิดและนายวิษณุนั้นถูกใจประชาชนมากกว่า พล.อ.ประยุทธ์ เสียอีก และเหนือกว่ารัฐมนตรีที่มาจากพรรคการเมือง,มีอีกประเด็นก็คือเมื่อถามว่า จุดแข็ง ของรัฐบาลใหม่ชุดนี้ก็เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้นำที่มีฐานอำนาจเก่าสนับสนุน,และเป็นรัฐบาลผสมที่มาจากการเลือกตั้ง มีเสียงสนับสนุนจากหลายฝ่ายและมีนักการเมืองซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนเก่า มีประสบการณ์น่าจะทำให้ทำงานร่วมกันได้,เมื่อมีจุดแข็งก็ต้องมีจุดอ่อนคือภาพของรัฐมนตรีบางคนไม่เป็นที่ยอมรับ มีแต่เรื่องผลประโยชน์มากเกินไป ไม่มีเสถียรภาพ มีแต่ความแตกแยกภายใน,ความเห็นเพิ่มเติมคืออยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ และ ครม.ชุดนี้ทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ฟังเสียงประชาชน บริหารงานอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ ทุกกระทรวงร่วมมือกันทำงานให้มีผลงานออกมาเป็นรูปธรรม พัฒนาบ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้า,ประเมินการทำงานเป็นระยะ ถ้าไม่เหมาะสมก็ต้องปรับเปลี่ยน,ซุปเปอร์โพลได้สำรวจเช่นเดียวกันด้วยหัวข้อ สิ่งที่ประชาชนอยากเห็นก็คือ อยากเห็นบ้านเมืองสงบสุขไม่วุ่นวาย 57.0%,แต่ถ้าบ้านเมืองวุ่นวายเดินต่อไปไม่ได้ ประชาชนส่วนใหญ่ 87.0% เห็นว่าต้อง ยุบสภาฯ เลือกตั้งกันใหม่,มีเพียง 7.7% ที่เห็นว่าควรยึดอำนาจและ 5.3% บอกว่าให้นายกฯลาออก,ผลสำรวจความเห็นชุดนี้ทั้ง 2 โพลที่ออกมานั้นถือว่าตรงเป้าตรงประเด็นที่ดีมาก เนื่องจากสะท้อนความเป็นจริงทางการเมืองมากที่สุด,ถือว่าเป็น ตำรา ที่นายกฯและ ครม.ชุดนี้ต้องนำไปศึกษาก่อนเริ่มงาน,หากสามารถดำเนินการได้อย่างนี้ แม้จะมีเสียงปริ่มน้ำแต่ก็จะสามารถบริหารประเทศไปได้ดีพอสมควร,แต่การที่ประชาชนถูกใจนายสมคิดมากกว่า พล.อ.ประยุทธ์นั้น ต้องเป็นเรื่องจะต้องไปสำรวจตัวเองและหาเหตุผลเอาเอง เพื่อจะได้ปรับเปลี่ยนตัวเองเสียใหม่,เพราะเป็น ยาขม ที่ผู้มีอำนาจไม่ค่อยชอบ แต่ชอบ ยาหวาน มากกว่า.,สายล่อฟ้า | สวนดุสิตโพล ทำการสำรวจความเห็นของประชาชนว่า ด้วย 10 ว่าที่รัฐมนตรี ที่ถูกใจประชาชนที่คาดว่าจะได้เป็นรัฐมนตรีเปอร์เซ็นต์สูง | null | รัฐมนตรี,10 ว่าที่รัฐมนตรี,สวนดุสิตโพล,สมคิด จาตุศรีพิทักษ์,รัฐบาลใหม่,กล้าได้กล้าเสีย,สายล่อฟ้า | https://www.thairath.co.th/news/politic/1599613 |
ศรีราชา เป็นชื่อภูมิศาสตร์ จดทะเบียนฯได้ แต่ถือสิทธิ์ผู้เดียวไม่ได้ | นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยถึงกรณีมีคลิปเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับซอสพริกศรีราชาของไทย และที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ จนทำให้เกิดความสับสนเกี่ยวกับการใช้ชื่อศรีราชาว่าเหตุใดคนต่างชาติจึงนำชื่อดังกล่าวไปจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าได้ว่า คำว่า ศรีราชา เป็นชื่ออำเภอในจังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นชื่อทางภูมิศาสตร์ ผู้ประกอบการสามารถใช้คำดังกล่าวมาเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องหมายการค้าได้ เช่น มีภาพ ชื่อ หรือข้อความประกอบกับคำว่าศรีราชา แต่ตามกฎหมายเครื่องหมายการค้าของไทยและต่างประเทศ คำว่า ศรีราชา เพียงคำเดียวโดดๆ ไม่สามารถรับจดทะเบียน และถือสิทธิ์เป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียวได้,ส่วนคำว่า Sriraja หรือ Sriracha ที่เป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะในสหรัฐฯ นั้น คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าหมายถึงซอสพริก หรือซอสที่มีรสเผ็ด และในสหรัฐฯ มีผู้ประกอบการผลิตซอสพริกนำคำว่า Sriracha พร้อมภาพโลโก้รูปไก่ไปจดทะเบียนเป็นเครื่องหมายการค้า ซึ่งเครื่องหมายการค้านั้นได้รับความคุ้มครองเพียงโลโก้รูปไก่เท่านั้น ไม่สามารถถือสิทธิ์ใช้คำว่า Sriracha แต่เพียงผู้เดียวได้ ผู้ประกอบการรายอื่น ก็สามารถใช้คำคำนี้ยื่นขอจดเครื่องหมายการค้าได้ และในไทย มีผู้ประกอบการนำคำนี้มาจดเครื่องหมายการค้าถึง 16 ราย ,ในไทยเอง มีผู้ประกอบการนำคำว่า ศรีราชา ไปใช้กับซอสพริกที่ตนเองผลิตหลากหลายยี่ห้อ และขายในราคาต่างกัน เช่นเดียวกับในสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ ที่มีผู้ประกอบการนำคำว่า Sriracha ที่ปัจจุบันคนส่วนใหญ่เข้าใจว่าเป็นชื่อสามัญ และหมายถึงอะไรที่มีรสจัด รสเผ็ด และได้นำไปใช้กับผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภท เช่น ซอสปรุงรส ขนมขบเคี้ยว บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เป็นต้น จึงแสดงให้เห็นว่าไม่มีผู้ใดเป็นเจ้าของคำว่าศรีราชา และใช้ชื่อนี้แต่เพียงผู้เดียวได้,อย่างไรก็ตาม ในไทยมีผู้ประกอบการจำนวนมาก นำคำสามัญอื่นๆ เช่น Bangkok, ภูเก็ต, สมุย เป็นต้น ซึ่งเป็นชื่อเมือง ชื่อทางภูมิศาสตร์ มายื่นจดเครื่องหมายการค้า และได้รับอนุญาตให้จดได้ แต่จะไม่สามารถถือสิทธิ์คำเหล่านี้แต่เพียงผู้เดียวได้ และยังนำชื่อเมืองของประเทศต่างๆ มาจดอีก เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ โตเกียว เป็นต้น แต่ผู้จดก็ไม่สามารถถือสิทธิ์ได้เพียงผู้เดียว และในทางกลับกัน ชื่อที่เป็นของไทย เช่น ชื่อเมือง ชื่อทางภูมิศาสตร์ ก็อาจจะมีชาวต่างชาตินำไปยื่นประกอบการจดเครื่องหมายการค้า แต่ไม่สามารถถือสิทธิ์คำที่นำไปยื่นจดเพียงคนเดียวได้เช่นกัน | กรมทรัพย์สินทางปัญญา แจง เครื่องหมายการค้าซอสพริกศรีราชา ยันคำว่า ศรีราชา เป็นชื่อทางภูมิศาสตร์ ใครจะนำมาจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าก็ได้ แต่จดแล้วจะถือสิทธิ์ผู้เดียวไม่ได้ | ข่าว,เศรษฐกิจ | ศรีราชา,กรมทรัพย์สินทางปัญญา,เครื่องหมายการค้า,ชื่อทางภูมิศาสตร์,Sriracha,ซอสพริกศรีราชา,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/1624080 |
รวบ ผู้เฒ่ากับสาวรุ่นลูก สมคบกันค้ายาบ้าในเชียงใหม่ | เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 2 ก.พ. 58 พ.ต.อ.สันติ กองสมัคร ผกก.สส.2 บก.สส.ภ.5 พ.ต.ท.นฤทธิ์ เกิดดี รอง ผกก.สส.2 บก.สส.ภ. 5 และ พ.ต.ท.พูนทรัพย์ รวมสุข สว.สส.2 บก.สส.ภ.5 พร้อมเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่ง ร่วมกันจับกุมตัว นายสุขสวัสดิ์ หรือ โกเลาะ จินดา อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82/1 หมู่ 6 ต.มะขุนหวาน อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ และ น.ส.จิรนันท์ หรือ นามี ปาหยี ชาวเขาเผ่ามูเซอ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73/1 หมู่ 13 ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยของกลางยาบ้าชนิดสีส้มจำนวน 1,200 เม็ด,เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาผู้ต้องหาทั้งสอง ร่วมกันมียาบ้าไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และพยายามจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย เหตุเกิดที่ถนนเลียบทางรถไฟ เชียงใหม่-ลำพูน บ้านปากกอง หมู่ 10 ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ หลังจากรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว นายสุขสวัสดิ์ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ขณะที่ น.ส.จิรนันท์ ภรรยาสาว ให้การปฏิเสธ, พ.ต.อ.สันติ เผยว่า ทั้งนี้ ก่อนการจับกุม ได้รับรายงานจากสายลับเข้ามาว่า มีชายสูงอายุชาวสันป่าตองคนหนึ่ง และภรรยาอายุคราวลูกเป็นชาวเขาเผ่ามูเซอ อยู่ที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ มักนำยาบ้าลงจากดอยมาจำหน่ายให้กับวัยรุ่นในพื้นราบ ในตัวเมืองเชียงใหม่ และพื้นที่ อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ อยู่เป็นประจำ และสายลับสามารถล่อซื้อยาบ้าได้ ในราคาเม็ดละ 200 บาท หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่จึงวางแผนทำการล่อซื้อ โดยนำรถยนต์ตำรวจปิดหัวปิดท้ายเส้นทางการหลบหนีบนถนน เลียบทางรถไฟดังกล่าว เนื่องจากพื้นที่นัดพบมีรถสัญจรไปมาน้อยมาก จึงง่ายต่อการสกัดจับ, จนถึงเวลานัดหมาย ผู้ต้องทั้งสองได้ขับรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีแดง สภาพเก่า ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มารอสายลับ เจ้าหน้าที่ที่ซุ่มรออยู่แล้ว บุกเข้าจับกุม แต่คนร้ายไหวตัวทัน พยายามขับรถหลบหนี จึงเกิดการไล่ล่ากันบนถนนดังกล่าว แต่สุดท้ายก็สามารถสกัดจับผู้ต้องหาไว้ได้, จากการสอบสวน นายสุขสัวสดิ์ หรือ โกเลาะ ผู้ต้องหารับสารภาพว่า มีอาชีพทำสวนอยู่ที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ จนกระทั่งมารู้จักกับ น.ส.จิรนันท์ ภรรยาสาว ซึ่งเป็นชาวเขาเผ่ามูเซอ และมีพฤติกรรมในการจำหน่ายยาเสพติดอยู่ก่อนแล้ว ด้วยความรักจึงหนีไม่พ้นบ่วงกรรม จึงร่วมค้าขายยาบ้าด้วยกันมาตลอด จนย่ามใจ นำมาขายในตัวเมืองเชียงใหม่ และ อ.สันป่าตอง หลายครั้ง จนมีฐานะดีขึ้นจากการขายยา และครั้งนี้ก็นัดส่งยาบ้าที่เกิดเหตุจนถูกจับกุมได้ในที่สุด,ส่วน น.ส.จิรนันท์ ยังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองส่งให้พนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป. | ตร.ภ.5 รวบเฒ่าสันป่าตองวัย 61 สมคบสาวมูเซอคราวลูก ตั้งก๊วนขาใหญ่ค้ายาบ้าในพื้นที่ ย่ามใจ นำมาขายในตัวเมือง สุดท้ายยังไม่ทันรวย โดนตะครุบยัดซังเตตามระเบียบ สารภาพหมดเปลือกทำมานานแล้ว ขณะที่เมียสาวให้การปฏิเสธ
| ข่าว,ทั่วไทย | พ.ต.อ.สันติ กองสมัคร ผกก.สส.2 บก.สส.ภ. 5,คดียาเสพติด,จับยาเสพติด,ชาวเขาเผ่ามูเซอ,ตำรวจเชียงใหม่,สภ.เมืองเชียงใหม่,แก๊งค้ายาเสพติด,อำเภอสันป่าตอง,จังหวัดเชียงใหม่,ภูมิภาค,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/local/478663 |
ช่างทาสีถือคัตเตอร์ ชิงเงินเซเว่นฯ กรีด พนง.เลือดกระฉูด | เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 18 ก.ย. พ.ต.อ.ภิญโญ ป้อมสถิตย์ ผกก.สส.บก.น.7 และ พ.ต.อ.อรรถวุฒิ นิวาตโสภณ ผกก.สน.บางยี่ขัน นำกำลังจับกุมตัว นายจุลพล หรือต้น ชินวรรณโณ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51/2 ซอยริมคลองบางกอกน้อย แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กทม. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชัน ข้อหาชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะและใช้อาวุธมีดทำร้ายผู้อื่นให้ได้รับอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิ๊ก สีน้ำเงินเหลือง ทะเบียน ฬจบ 616 กรุงเทพมหานคร โดยจับกุมตัวได้ในบ้านเลขที่ 148/19 หมู่ 5 ต.ศาลายา อ.ศาลายา จ.นครปฐม,พ.ต.อ.อรรถวุฒิ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา นายจุลพล ได้เข้าไปทำทีซื้อของและขอใช้แบงก์พันแลกแบงก์ย่อยกับพนักงานในร้าน 7-11 สาขาซอยจรัญสนิทวงศ์ 41 แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กทม.โดยขณะนั้นมี น.ส.กาญจนาภรณ์ ช่างกล่อม อายุ 19 ปี และ นายเอกวัฒน์ หอมระรื่น อายุ 20 ปี ปฏิบัติงานอยู่ที่เคาน์เตอร์ เมื่อพนักงานยื่นแบงก์ย่อยให้ จำนวน 1,000 บาท นายจุลพล กับกระชากเงินจากมือแล้ววิ่งหลบหนีออกจากร้านไปขึ้นรถจักรยานยนต์ของกลางที่จอดอยู่ ระหว่างจะสตาร์ตออกรถหลบหนี พนักงานร้านทั้ง 2 คน ได้วิ่งตามออกมาทันพอดี,จากนั้น นายจุลพล จึงใช้มีดคัตเตอร์กรีดทำร้ายพนักงานจนได้รับบาดเจ็บแล้วเร่งเครื่องรถหลบหนีไป โดย นายเอกวัฒน์ โดนมีดปาดเข้าที่แขนขวาลึกถึงเส้นเลือดแพทย์ต้องทำการผ่าตัด ส่วน น.ส.กาญจนาภรณ์ ที่พยายามเข้าช่วยเพื่อนก็โดนคนร้ายแกว่งคัตเตอร์มาถูกแขนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยไปด้วย หลังเกิดเหตุฝ่ายสืบสวน สน.บางยี่ขัน และ บก.สส.บก.น.7 สืบทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายจุลพล มีบ้านพักไม่ไกลจากร้าน 7-11 ที่ลงมือก่อเหตุจึงรีบนำกำลังไปติดตามจับกุม แต่ผู้ต้องหาไหวตัวทันหลบไปกบดานกับคนรู้จักในพื้นที่ จ.นครปฐม กระทั่งโดนตามตะครุบตัวได้ดังกล่าว พ.ต.อ.อรรถวุฒิ กล่าว,จากการสอบสวน นายจุลพล ให้การยอมรับว่า ก่อนหน้านี้เป็นช่างทาสีรับงานให้บริษัทรับเหมาทั่วไป ระยะหลังไม่มีงานทำให้ขาดรายได้จนเกิดอาการเครียด ต้องดื่มเหล้าย้อมใจทุกวัน ก่อนเกิดเหตุก็ดื่มเหล้าจนเมาเพราะกลุ้มที่ไม่มีเงินใช้ จากนั้นวางแผนเข้าไปทำทีขอแลกแบงก์ย่อยกับพนักงานร้าน 7-11 สาขาใกล้ๆ บ้าน กระทั่งเหตุการณ์บานปลายจนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับกุมตัวดังกล่าว. | คนร้ายบุกเดี่ยว ทำทีขอแลกเงินในเซเว่นฯ หลังพนักงานยื่นเงินให้ กระชากเงินวิ่งหนี พนักงานเซเว่นวิ่งตามทันหวังคว้าตัวไว้ ถูกคนร้ายใช้มีดคัตเตอร์กรีดตามร่างกาย เลือดกระฉูด ก่อน จนท. ตามจับตัวได้ที่บ้านพัก รับเครียด เงินไม่พอใช้ | ข่าว,ทั่วไทย | ภิญโญ ป้อมสถิตย์,อรรถวุฒิ นิวาตโสภณ,บางยี่ขัน,จุลพล หรือต้น ชินวรรณโณ,ข่าว,ข่าวออนไลน์,ข่าวทั่วไทย | https://www.thairath.co.th/news/local/526212 |
ออกหมายจับ บอยบ้านครัว คดียิงกลางบ่อนพระราม 3 | จากกรณีการดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการใช้ปืนยิงต่อสู้ในบ่อนการพนันย่านพระราม 3 ซอย 66 เมื่อคืนวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา จนมีผู้เสียชีวิต 4 คน ว่าในส่วนคดีฆาตกรรมศาลได้อนุมัติหมายจับนายพิพิธ ศรีสุวรรณ์ หรือ บอย บ้านครัว อายุ 61 ปีวันนี้ (7 ส.ค.2563) พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 เปิดเผยว่า จากเหตุการยิงปะทะกลางบ่อนนั้นมีผู้ใช้ปืนยิงฝ่ายตรงข้ามเสียชีวิตแล้ว 1 คน แต่ยังมีผู้ร่วมก่อเหตุใช้อาวุธในที่เกิดเหตุอีกแน่นอน ขณะนี้กำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอออกหมายจับผู้ร่วมก่อเหตุเพิ่มเติม โดยหลักฐานสำคัญคือ อาวุธปืนของนายบอย บ้านครัว ที่ต้องนำมาตรวจเปรียบเทียบกับหลักฐานทั้งหมดเพื่อยืนยันจำนวนและอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุส่วนคดีซ่อนเร้น ทำลายหลักฐาน ได้ตัวผู้ก่อเหตุมาแล้ว 2 คน ขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังสอบปากคำเพื่อขยายผลจับกุมผู้ร่วมก่อเหตุซึ่งคาดว่ามีอีกจำนวนมาก รวมทั้งวันนี้จะมีการนำหมายค้นเข้าตรวจยึดอุปกรณ์การพนัน ทั้งโต๊ะ เก้า และหน้าเสื่อ (ผ้าสักหลาดปูโต๊ะ) กลับมาเป็นของกลางในคดีลักลอบเล่นการพนัน ทั้งเจ้ามือ ผู้เล่น ซึ่งคดีการพนันนั้นมีผู้เล่นการพนันที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ยิงกันในบ่อน 4 คน ที่ต้องถูกดำเนินคดีขณะที่ตัวอาคารที่เกิดเหตุนั้นได้สั่งการให้ สน.ทุ่งมหาเมฆ ส่งสายตรวจคอยเฝ้าระวังป้องกันไม่ให้มีผู้ไม่ได้รับอนุญาตเข้าไปในพื้นที่เด็ดขาด ส่วนกรณีการดัดแปลงอาคารนั้น เป็นอำนาจของกรุงเทพมหานครในการดำเนินการนอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ข้อมูลว่า หลังเกิดเหตุยิง บอยบ้านครัวได้ติดต่อมาขอมอบตัว แต่ชุดสืบสวนยังคงดำเนินการอยู่ติดตามตัวต่อเนื่อง สำหรับบอยบ้านครัว เบื้องต้น สืบสวนพบว่า เป็นนักพนันและเข้าเล่นพนันที่บ่อนพระราม 3 ที่เกิดเหตุประจำส่วนการสอบปากคำพยานเมื่อวานนี้ ผู้ที่เข้าพบพนักงานสอบสวนคือชายที่ลากเก้าอี้ ตามภาพปรากฎสู่สือออนไลน์ซึ่งให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีอ่าน | ศาลอนุมัติหมายจับนายพิพิธ ศรีสุวรรณ์ หรือ บอย บ้านครัว คดีใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้กันภายในบ่อนย่านพระราม 3 จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 คน ล่าสุด เจ้าหน้าที่เร่งติดตามตัวต่อเนื่อง แม้ก่อนหน้านี้จะมีการติดต่อมาขอมอบตัว | อาชญากรรม | ยิงคาบ่อน,บ่อนพระราม3,บ่อน | https://news.thaipbs.or.th/content/295273 |
น้ำพุเต้นระบำ คลองละลม แลนด์มาร์กใหม่บุรีรัมย์ | วันนี้ (29 ม.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนชาวจังหวัดบุรีรัมย์และนักท่องเที่ยวจากจังหวัดต่างๆ พาครอบครัวบุตรหลานไปชมความสวยงามของน้ำพุดนตรี หรือ น้ำพุเต้นระบำ พุ่งขึ้น-ลงตามจังหวะดนตรีผสมผสานกับแสงสีอย่างสวยงามตระการตา ความสูงประมาณ 20 เมตร ที่บริเวณคลองละลมโบราณลูกที่ 1 ใจกลางเมืองบุรีรัมย์เทศบาลเมืองบุรีรัมย์ทุ่มงบประมาณจัดทำขึ้น เพื่อเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่และกระตุ้นส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด ซึ่งนักท่องเที่ยวที่มาชมน้ำพุดนตรีต่างตื่นตาตื่นใจ และใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก เทศบาลเมืองบุรีรัมย์จะเปิดน้ำพุดนตรีให้นักท่องเที่ยวชมเวลา 18.00 - 19.00 น.ทั้งนี้ คลองละลม หรือ คูเมืองโบราณ มีประวัติความเป็นมายาวนานในการจัดตั้งเมืองบุรีรัมย์ โดยมีการขุดคูเมืองหรือกำแพงเมือง(คลองละลม) ล้อมรอบลักษณะเป็นรูปวงรี มีความกว้างเฉลี่ย 80 เมตร ยาวประมาณ 5000 เมตร พื้นที่รวม 179 ไร่ 2 งาน 12 ตารางวาสภาพปัจจุบันแบ่งเป็น 6 ส่วน หรือ 6 คู ตามแนวถนนที่ตัดเข้าเมืองชั้นใน แต่บางส่วนได้ถูกทับถมสำหรับก่อสร้างอาคารพาณิชย์ บ้านเรือนราษฎร และถนนกรมศิลปากรได้สำรวจและประกาศให้เขตคูเมือง-กำแพงเมืองบุรีรัมย์ (คลองละลม) ซึ่งอยู่ในสมัยทวารวดี มีอายุประมาณ 1800 ปี เป็นโบราณสถาน ปัจจุบันเทศบาลเมืองได้พัฒนาปรับปรุงเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจและแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัด | ทางเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ทุ่มงบสร้างน้ำพุดนตรีเต้นระบำ บริเวณคลองละลมโบราณลูกที่ 1 เพื่อเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของจังหวัด สร้างความตื่นตาตื่นใจแก่นักท่องเที่ยว | ภูมิภาค | น้ำพุดนตรี,น้ำพุเต้นระบำ,บุรีรัมย์,กลางเมืองบุรีรัมย์,เทศบาลเมืองบุรีรัมย์,แลนมาร์กแห่งใหม่,แลนมาร์ก,คลองละลม,คูเมืองโบราณ,นักท่องเที่ยว,ส่งเสริมการท่องเที่ยว,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/269722 |
อู่ฮั่นเปลี่ยนโรงยิม-ศูนย์จัดแสดง เป็นรพ.ชั่วคราว รับผู้ป่วยไวรัสโคโรนา | เมื่อ 4 ก.พ.63 สำนักข่าวซินหัวรายงาน สำนักงานใหญ่ด้านการควบคุมโรคระบาดของจีนแถลงข่าว เมื่อช่วงเย็นวันจันทร์ที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า นครอู่ฮั่น เมืองเอกของมณฑลหูเป่ย ตอนกลางของประเทศจีน วางแผนปรับเปลี่ยนโรงยิมและศูนย์จัดแสดง 3 แห่งให้กลายเป็นโรงพยาบาลเพื่อรองรับผู้ป่วยโรคปอดอักเสบที่เกิดจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (2019-nCoV)สำนักงานใหญ่ควบคุมโรคระบาดของจีน ระบุว่าสถานที่ที่จะถูกเปลี่ยนเป็นโรงพยาบาลได้แก่ โรงยิมหงซาน (Hongshan Gymnasium) ศูนย์การประชุมและจัดแสดงนานาชาติอู่ฮั่น (WICEC) และอาคารวัฒนธรรมแห่งหนึ่งที่มีชื่อเรียกว่า ห้องนั่งเล่นอู่ฮั่น (Wuhan Livingroom) ขณะที่รายงานระบุเพิ่มเติมว่าสถานที่เหล่านี้ตั้งอยู่ในเขตเจียงฮั่น เขตอู่ชาง และเขตตงซีหู ของนครอู่ฮั่น ซึ่งศูนย์การประชุมและจัดแสดงนานาชาติอู่ฮั่น จะมีเตียงผู้ป่วยทั้งหมด 1000 เตียงโรงพยาบาลชั่วคราว 3 แห่งใหม่นี้ จะเป็นสถานที่สำหรับรักษาผู้ป่วยฉุกเฉินและการทดลองทางคลินิก (clinical test) โดยได้เริ่มดำเนินการปรับสถานที่ตั้งแต่ช่วงเย็นวันจันทร์ (3 ก.พ.) และได้ย้ายเตียงผู้ป่วยหลายร้อยหลังเข้าสู่ภายในอาคารเหล่านี้แล้ว เมื่อช่วงเช้าของวันอังคาร (4 ก.พ.)ก่อนหน้านี้นครอู่ฮั่นได้วางแผนและดำเนินการสร้างโรงพยาบาลชั่วคราว 2 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลหั่วเสินซาน และโรงพยาบาลเหลยเสินซานที่จะมีเตียงสำหรับผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่รวม 2600 เตียง ปัจจุบันโรงพยาบาลหั่วเสินซานสร้างเสร็จแล้ว และได้เปิดทำการรับผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาชุดแรกทันตามกำหนดเวลาในวันที่ 3 ก.พ. ในขณะที่โรงพยาบาลเหลยเสินซานยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง | ทางการอู่ฮั่น วางแผนปรับเปลี่ยนโรงยิมขนาดใหญ่ รวมทั้ง ศูนย์จัดแสดง 3 แห่ง เป็นโรงพยาบาลชั่วคราว รองรับผู้ป่วยจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนา ขณะที่ รพ.ชั่วคราวแห่งแรก หั่วเสินซานเปิดรับผู้ป่วยแล้ว | ข่าว,ต่างประเทศ | ไวรัสโคโรน่า,ไวรัสโคโรน่า 2019,ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่,โคโรน่าไวรัส,ไวรัสอู่ฮั่น,อู่ฮั่น | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1763733 |
จัดเต็ม | ใหญ่โตสมฐานะพรรคการเมืองที่ถูกมอบหมายให้เป็นผู้เสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีในบัญชีพรรคการเมือง,เป็นพรรคแกนนำตั้งรัฐบาล เป็นสะพานคอนกรีตให้ พล.อ.ประยุทธ์ สืบทอดอำนาจ คสช. เป็นนายกฯ หลังการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยครึ่งใบ,แม่ลูกจันทร์ กราบเรียนว่า ผลการประชุมใหญ่พรรคพลังประชารัฐออกมาตรงเป๊ะตามหวยล็อกทุกประการ,ดร.อุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม รับตำแหน่งหัวหน้าพรรค,นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ฯ เป็นเลขาธิการพรรค,ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์ฯ เป็น กก.บริหารพรรค,และ ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล รมว.สำนักนายกฯ เป็นโฆษกพรรค,เท่ากับ 4 รัฐมนตรีลูกน้องในคาถา รองนายกฯ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ แผ่พังพาน ยึดเก้าอี้สำคัญในพรรคพลังประชารัฐ ครบจตุภาคี,คณะกรรมการบริหารพรรค 25 คน ยังมีรองเลขาธิการนายกฯ ที่ปรึกษารองนายกฯ ที่ปรึกษา รมต.พาณิชย์ และผู้ช่วยรัฐมนตรีในรัฐบาล คสช.อัดเข้าไปอีก 6 คน,มีแกนนำกลุ่ม 3 ส. พลังดูดเทอร์โบ ที่ดูดอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังชล พรรคชาติไทย พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา และกลุ่มนกหวีดศิษย์ลุงกำนัน ร่วมเปิดตัวอย่างพร้อมเพรียง,ยังมีรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณบดีมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้ช่วย กก.อำนวยการใหญ่กลุ่มเบียร์ช้าง ประธานสภาอุตสาหกรรมภาคตะวันออก ประธานสมาพันธ์ เอสเอ็มอี ตัวแทนบริษัทประชารัฐสามัคคี และอื่นๆอีกมากมาย,แต่ไม่มีบิ๊กทหาร คสช.แทรกเข้ามาเป็นยาเขียวแม้แต่ชื่อเดียว,แม่ลูกจันทร์ ชี้ว่านี่เป็นแค่โหมโรงเรียกน้ำย่อยเท่านั้นเอง,ยังไม่ได้เปิดตัวอดีต ส.ส.ที่กระหน่ำดูดมาจากพรรคต่างๆ รวมเบ็ดเสร็จอีกกว่า 50 คน,ข้อสำคัญ พรรคพลังประชารัฐยังระดมดูด นายก อบจ.จังหวัดต่างๆ ซึ่งเป็นฐานคะแนนเสียงพรรคการเมืองใส่ตะกร้าล้างน้ำส่งลงสนามเลือกตั้ง ส.ส.เขต เพื่อตัด คะแนนเสียง อดีต ส.ส.เขต เจ้าถิ่นเดิม,เฉพาะกลุ่มจังหวัดภาคอีสาน มีนายก อบจ.โดนสะง่อมเข้าพรรคพลังประชารัฐไปแล้วพวงโต,เช่น ร้อยเอ็ด อุบลราชธานี อำนาจเจริญ หนองคาย นครพนม บึงกาฬ มุกดาหาร ฯลฯ,ถึงแม้เลือกตั้งแพ้ แต่เพิ่มคะแนนเสียงให้พรรคพลังประชารัฐเพิ่มขึ้นเป็นกอบเป็นกำ,เพราะกติกาการเลือกตั้ง ส.ส.แบบใหม่ ใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว ทุก 70,000 คะแนนเสียง จะได้โควตา ส.ส.บัญชีรายชื่อ 1 คน,ถ้ายิงเข้าเป้าถึง 7 ล้านคะแนน ก็จะกวาดโควตา ส.ส.บัญชีรายชื่อได้ 100 คน??,กติกานี้ พรรคพลังประชารัฐมั่นใจว่าจะคว้าโควตา ส.ส.เขตไม่น้อยกว่า 100 คน และสะง่อมโควตา ส.ส.บัญชีรายชื่ออีก 70 คน,เท่ากับพรรคพลังประชารัฐจะมี ส.ส.ในกระเป๋า 170 คน,เมื่อบวก ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย และ ส.ส.พรรคติ่งลุงตู่ทั้งหมดเอามาขยำรวมกัน จะมี ส.ส.รวมกันเกินครึ่งสภา,พล.อ.ประยุทธ์ จะนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี หลังเลือกตั้งได้อย่างสบายแฮ,โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งบริการ ส.ว.ลากตั้ง 250 คน,เมื่ออดีต ส.ส.พร้อม กระแสพร้อม กระสุนพร้อม แบ็กอัปพร้อม เครือข่ายพร้อม พรรคพลังประชารัฐก็ได้ฤกษ์เปิดตัว,แต่จะเข้าล็อกอย่างที่หวังหรือไม่ อีก 5 เดือนได้รู้กัน.,แม่ลูกจันทร์ | พรรคพลังประชารัฐเปิดตัว อย่างยิ่งใหญ่ในฐานะพรรคการ เมืองสายตรง คสช. ของแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ ใหญ่โตสมฐานะพรรคการเมืองที่ถูกมอบหมายให้เป็นผู้เสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา | ข่าว,การเมือง | ประยุทธ์ จันทร์โอชา,พรรคพลังประชารัฐ,พรรคการเมือง,สำนักข่าวหัวเขียว,แม่ลูกจันทร์ | https://www.thairath.co.th/news/politic/1387532 |
หนุ่มปริญญาตรี ขับซีวิคชนแท่งปูนดับ ไร้ร่องรอยเบรก คาดไม่หลับก็เมา | เมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 16 ก.ค. ร.ต.อ.สุรพงศ์ เหมือนศรีชัย รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งมีเหตุรถยนต์ชนแท่งแบริเออร์ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย บนถนนพิษณุโลก–บึงพระ ใกล้กับสะพานต่างระดับข้ามทางรถไฟ หมู่ 1 ต.บึงพระ ไปตรวจสอบพร้อมกับเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยข่าวภาพ,พบผู้บาดเจ็บเป็นชายอยู่ภายในรถ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงนำออกมาจากซากรถยนต์เก๋งฮอนด้า ซีวิด สีบรอนซ์ ทะเบียน ข 2500 พิษณุโลก ก่อนช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น และประสานให้หน่วยกู้ชีพเบนทูล รพ.พุทธชินราช มาช่วยผู้ได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากหัวใจหยุดเต้น สุดท้ายไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้สิ้นใจในเวลาต่อมา,ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายสิรวิชญ์ วัฒนพันธุ์ อายุ 22 ปี บ้านเลขที่ 644/3 ถ.พระองค์ดำ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก เป็นนักศึกษาปี 2 ระดับปริญญาตรี ประเภทวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก สถาบันการอาชีวศึกษาภาคเหนือ 3,สอบสวนเบื้องต้น คาดว่า นายสรวิชญ์ขับรถยนต์เก๋งเลียบทางต่างระดับจนมาถึงสามแยกไฟแดง ก่อนที่พุ่งตรงชนกับแบริเออร์คอนกรีตริมถนนพิษณุโลก-บึงพระ โดยไม่มีร่องรอยเบรกรถแต่อย่างใด โดยสาเหตุที่เกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ ตำรวจสันนิษฐานว่า นายสรวิชญ์อาจหลับในหรือมึนเมาสุรา จึงให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำศพผู้เสียชีวิตส่งให้แพทย์ รพ.มหาวิทยาลัยนเรศวร ชันสูตรศพ และจะได้ทำการสอบสวนเพื่อหาสาเหตุเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป. | หนุ่มนักศึกษาปริญญาตรีเทคโนโลยีสารสนเทศที่พิษณุโลก ขับเก๋งชนแบริเออร์กลางดึก บาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิต พบในที่เกิดเหตุไม่มีร่องรอยการเบรก คาดอาจหลับใน หรือมึนเมาสุรา | ข่าว,ทั่วไทย | ชนแบริเออร์,รถเก๋งชนแท่งปูน,หนุ่มปริญญาตรี,พิษณุโลก,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1006065 |
กลุ่ม พลังไม่เงียบ ชวนคนกทม.ใช้สิทธิ์เลือกตั้งผู้ว่าฯ | ก่อนออกเดินทางปฏิบัติภารกิจที่ประเทศเกาหลี และเยือนเขตบริหารพิเศษฮ่องกง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธประเด็นการนัดพบกับพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ฮ่องกง เพื่อหารือการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.พร้อมย้ำว่า โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยจะเน้นหาเสียงในเชิงสร้างสรรค์ และเชื่อว่า ประชาชนจะได้ประโยชน์และเคารพสิทธิตามระบอบประชาธิปไตยส่วนการหาเสียงก่อนสัปดาห์โค้งสุดท้าย น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ช่วยพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่หาเสียงตลาดวัดตะกล่ำ เขตประเวศ โดยได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน และหัวหน้าพรรค พร้อมด้วย ส.ส. และ ส.ข. ช่วยม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร หาเสียงลงพื้นที่ตลาดสัมมากร เขตสะพานสูง เช่นกัน นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงการทำหน้าที่ของผู้อำนวยการเขตภาษีเจริญ และบางแค ในการสวมชื่อผู้มีสิทธิ เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อพรรคฯว่า ไม่ได้มีการสั่งการใดๆ เพราะม.ร.ว.สุขุมพันธ์ ลาออกจากตำแหน่งทั้งหมดแล้วด้านผู้สมัครอิสระ ก็ยังลงพื้นที่หาเสียงในสุดสัปดาห์ โดยพล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ลงพื้นที่หาเสียงบริเวณ หน้าห้างสรรพสินค้า ย่านพระราม 2 โดยยอมรับคะแนนยังเป็นรองอยู่อันดับ 3 พร้อมเรียกร้องต่อการนำเสนอโพลคะแนนนิยมให้น้อยลงเพราะอาจกระทบต่อผลการลงคะแนนเสียง แต่โค้งสุดท้ายที่จะเน้นดีเบตชูนโยบายการปราบปรามคอรัปชั่นในเวทีต่างๆสำหรับช่วงเช้าที่ผ่านมา กลุ่มนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร และมหาวิทยาลัยรามคำแหง รวมตัวกันในนาม กลุ่มพลังไม่เงียบ ปล่อยรถประชาสัมพันธ์ หวังกระตุ้นให้พลังเงียบ เกิดความตื่นตัวในการออกมาใช้สิทธิ์ ในวันที่ 3 มีนาคม เพื่อไม่ให้ กทม. ถูกครอบงำจากกลุ่มอำนาจทางการเมือง | วันนี้นักศึกษากลุ่มพลังไม่เงียบ ปล่อยขบวนรถรณรงค์คนกรุงเทพฯ ให้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง เพื่อให้ได้ผู้ว่าฯ ที่ไม่ถูกครอบงำจากกลุ่มอำนาจทางการเมือง ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ปฏิเสธที่ถูกอ้างว่า ได้ใช้อำนาจสั่งสวมชื่อผู้มีสิทธิฯ เนื่องจากม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ลาออกก่อนลงสมัครผู้ว่าฯ และก่อนเดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ประเทศเกาหลีใต้ นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธกรณีกระแสข่าวที่จะพบกับ พันตำรวจโททักษิณ เพื่อหารือเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. | การเมือง | bkkelection56,กลุ่มพลังไม่เงียบ,เลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.56 | https://news.thaipbs.or.th/content/149379 |
รับถ้วยแชมป์วันนี้ บุรีรัมย์ เปิดบ้านรับมือ พัทยา ศึกไทยลีก | การแข่งขันศึกฟุตบอลไทยลีก 2018 ประจำวันเสาร์ที่ 29 ก.ย. เป็นนัดที่ 32 ของฤดูกาล มีฟาดแข้งทั้งหมด 5 คู่ โดยเกมที่ช้าง อารีนา รังเหย้าของทีมแชมป์โตโยต้าไทยลีก 2018 ทัพนักเตะ ปราสาทสายฟ้า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะรับการมาเยือนของ โลมาน้ำเงิน พัทยา ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 7 ของตาราง ในเวลา 18.00 น. ทรูโฟร์ยู และทรูสปอร์ตเอชดี 2 ถ่ายทอดสดให้ชม ซึ่งหลังเกมนัดนี้จะมีการมอบถ้วยแชมป์ฟุตบอลโตโยต้าไทยลีก ประจำฤดูกาล 2018 ให้กับทีม ปราสาทสายฟ้า ด้วย,สิริชัย กิโมโต ผช.ผจก.ทีมบุรีรัมย์ฯ กล่าวว่า ตอนนี้เรามีโปรแกรมการแข่งขันติดกันหลายนัด ทำให้นักเตะมีความล้า แม้เกมล่าสุดเราจะเอาชนะ ศรีสะเกษ เอฟซี ในศึกช้าง เอฟเอคัพ รอบรองชนะเลิศ แต่ฟอร์มการเล่นยังไม่น่าพอใจนัก ส่วนเกมนัดนี้เรายังให้เกียรติพัทยา ยูไนเต็ด เพราะพวกเขาทำผลงานได้ดี และเป็นทีมที่แข็งแกร่ง ทำให้เราจะส่งทีมที่ดีที่สุดลงสนามนัดนี้อย่างแน่นอน,ขณะที่สุภัทร อ้นทอง ผจก.ทีมพัทยาฯ กล่าวว่า เกมนี้ถือเป็นงานหนัก ตอนนี้เราไม่มีผู้เล่นเจ็บหรือติดโทษแบน และเราไม่เปลี่ยนแปลงทีมมากนัก ส่วนพีรดนย์ ฉ่ำรัศมี แม้เขาจะกลับมาลงสนามได้แล้ว แต่ยังคงต้องปรับอีกพอสมควร เราจะค่อยๆให้ เขาลงสนามบ่อยขึ้น เพื่อทำให้เขาเรียกความมั่นใจกลับมาได้อีกครั้ง,ส่วนโปรแกรมที่เหลืออีก 4 คู่ ในวันเดียวกัน เวลา 17.45 น. ชลบุรี เอฟซี พบ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี เริ่ม 17.45 น. ที่ชลบุรี สเตเดียม (ทรูสปอร์ต 2 ถ่ายทอดสด), ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด พบกับแอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล เอฟซี เริ่ม 19.00 น. ที่ทรู สเตเดียม (ทรูสปอร์ตเอชดี 3 ถ่ายทอดสด), พีที ประจวบ เอฟซี พบกับชัยนาท ฮอร์นบิล เริ่ม 19.00 น. ที่สามอ่าว สเตเดียม (ทรูสปอร์ต 6 ถ่ายทอดสด) และราชนาวี พบกับการท่าเรือ เอฟซี เริ่ม 20.00 น. สนามราชนาวี สัตหีบ กม.5 (ทรูโฟร์ยู, ทรูสปอร์ตเอชดี 2 และทรูสปอร์ต 2 ถ่ายทอดสด) | ศึกลูกหนังไทยลีก 2018 วันนี้มีฟาดแข้ง 5 คู่ ปราสาทสายฟ้า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะเปิดบ้านรับ โลมาน้ำเงิน พัทยา ยูไนเต็ด ในเวลา 1 ทุ่มตรง พร้อมกับจัดงานฉลองแชมป์หลังเกมจบด้วย | กีฬา,ฟุตบอลไทย | บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด,พัทยา ยูไนเต็ด,ไทยลีก,ฟุตบอลไทย | https://www.thairath.co.th/sport/thaifootball/1385898 |
เสี่ยฮุยสั่งน็อกได้น็อก เจ้าแหลม ฟิตเปรี๊ยะ พร้อมชนเอสตราดา | หน่วงของ ศรีสะเกษ จะกล่อมเอสตราดาลงเปลได้แบบไม่ครบ 12 ยก,ความเคลื่อนไหวศึกรีแมตช์หยุดโลก ศรีสะเกษ-เอสตราดา ซึ่ง เจ้าแหลม ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น จะขึ้นป้องกันแชมป์โลกรุ่นซุปเปอร์ฟลายเวต (115 ปอนด์) สภามวยโลก (WBC) สมัยที่ 2 ไฟต์ที่ 4 ซึ่งเป็นไฟต์บังคับกับคู่ปรับเก่า และรองแชมป์โลกอันดับ 1 ฮวน ฟรานซิสโก เอสตราดา นักชกเม็กซิกัน ในวันที่ 26 เมษายน ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเช้าวันที่ 27 เมษายน ตามเวลาประเทศไทย ที่สังเวียน เดอะ ฟอรัม อิงเกิลวูด นครลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ช่อง 23 เวิร์คพอยท์ ถ่ายทอดสด เริ่มตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป หลังจากก่อนหน้านี้ เจ้าแหลม เคยเอาชนะคะแนนเอสตราดาไปอย่างดุเดือด บนสังเวียนแห่งนี้เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ปีที่แล้ว โดยยกที่ 12 ได้รับการยกย่องจาก WBC ให้เป็นยกยอดเยี่ยมแห่งปี 2018 เลยทีเดียว,ล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 เมษายน ตามเวลาท้องถิ่น ที่ลอสแอนเจลิส ผู้จัดการของแชมป์โลกขวัญใจชาวไทย เสี่ยฮุย นายสุรชาติ พิสิฐวุฒินันท์ และเทรนเนอร์ โค้ชป็อป นายโชคชัย พิสิฐวุฒินันท์ นำ ศรีสะเกษลงซ้อมตามปกติที่ห้องฟิตเนส ภายในที่พัก โรงแรมเรเนสซองซ์ แอลเอ แอร์พอร์ต โฮเต็ล โดยให้วิ่งสายพาน 1 ชั่วโมง รวมระยะทาง 10 กิโลเมตร และลงมาซ้อมอีกครั้งเวลา 19 .00 น. แบบเดียวกับช่วงเช้า โดยในวันนี้ไม่มีการชกล่อเป้า ซึ่ง เสี่ยฮุย กล่าวว่า เนื่องจากตรงกับวันอาทิตย์ (ที่สหรัฐอเมริกา) จึงให้วิ่งบนลู่สายพานอย่างเดียว ไม่มีการชกล่อเป้า เพราะค่ายนครหลวงฯ จะหยุดลงนวมหรือชกล่อเป้าในวันอาทิตย์เป็นประเพณีของค่าย,เสี่ยฮุย เปิดเผยว่า สำหรับแผนการชกนั้น สั่งให้ศรีสะเกษเปิดเกมลุยแหลกตั้งแต่ยกแรก เพื่อทำคะแนนตั้งแต่ยกแรก ไม่ต้องดูเชิง ถ้ามีโอกาสน็อกได้ก็น็อกเลย เพราะมาชกต่างประเทศ จะวางใจกรรมการให้คะแนนไม่ได้ ต้องชกเต็มที่ทุกยก ให้เหนือทุกยก และมั่นใจด้วยว่า ศรีสะเกษฟิตซ้อมมาดี แข็งแกร่ง ฟิตเปรี๊ยะเกินร้อย ถ้าเกมยืดเยื้อก็สามารถชกได้เต็มที่ตลอด 12 ยกได้สบาย ไม่มีแผ่วแน่นอน จะเห็นว่าการเตรียมตัวไฟต์นี้ ฟิตซ้อมมากว่า 4 เดือน ลงนวมถึง 327 ยก การชกลงนวมและชกล่อเป้า จะชกยกละ 4 นาที เกินจากชกจริงที่ชกยกละ 3 นาที วิ่งออกกำลังขาเช้า-เย็น วันละ 20 กิโลเมตร จึงมีเรี่ยวแรงเหลือเฟือแน่นอน,นอกจากนั้น เสี่ยฮุย กล่าวอีกว่า จากวันแรกที่เข้ามาฟิตซ้อมที่ลอสแอนเจลิส จนถึงช่วงนี้ ผ่านไปกว่า 5 วันใกล้วันชกแล้ว ขอย้ำว่า การมาชกที่สหรัฐอเมริกาของศรีสะเกษเที่ยวนี้ มีความมั่นใจมากกว่าทุกครั้งที่ ศรีสะเกษมาชกชนะที่สหรัฐอเมริกา 3 ครั้ง เนื่องจากมีการเตรียมตัวฟิตซ้อมมาดีกว่าทุกครั้ง ครั้งล่าสุดที่ ศรีสะเกษมาเอาชนะคะแนนเอสตราดาแบบสูสีดุเดือดนั้น มีการฟิตซ้อมมาไม่ดีนัก เพราะเริ่มมีปัญหาส่วนตัวรบกวนเกี่ยวกับแฟนเก่า แต่ตอนนี้ปัญหาต่างๆ หมดไปแล้ว ศรีสะเกษแต่งงานมีครอบครัวใหม่ มีความสุข ขยันฟิตซ้อม อยู่ในระเบียบวินัย ตั้งใจทุ่มเทเพื่อสร้างความมั่นคงให้ครอบครัว จึงมีความพร้อมมากกว่าทุกครั้ง ประกอบกับทางทีมงานศึกษาเกมการชกของเอสตราดามาอย่างดีที่สุด และวางแผนแก้เกมการชกให้ ศรีสะเกษรับมือเอสตราดามาอย่างดีที่สุดด้วย เที่ยวนี้จึงมั่นใจมากว่า ศรีสะเกษจะย้ำแค้นเอสตราดาได้อย่างเด็ดขาด และมีสิทธิ์ชนะน็อกด้วย เหมือนกับที่เคยย้ำแค้น โรมัน กอนซาเลซ ด้วยการชนะน็อกยก 4 ในไฟต์รีแมตช์ มาแล้ว พลังหมัดของศรีสะเกษตอนนี้ ซ้ายนับ ขวาน็อก เอสตราดาต้านไม่อยู่แน่,อย่างไรก็ตาม เสี่ยฮุย ยังกล่าวอีกว่า ทางทีมงานไม่ประมาทเอสตราดาโดยเด็ดขาด เพราะเห็นชัดว่า เอสตราดาเป็นมวยที่เก่ง ชกได้เหนียวแน่น พละกำลังดี เป็นมวยแรงปลายด้วย ยกท้ายๆ ยิ่งแรง เที่ยวนี้ เอสตราดาก็ซ้อมมาดี และไม่มีปัญหาเรื่องคุมน้ำหนักด้วย สังเกตจากการถอดเสื้อซ้อมได้สบายๆ เพราะมวยที่คุมน้ำหนักต้องใส่เสื้อซ้อมรีดเหงื่อ ไฟต์นี้ ศรีสะเกษจึงต้องทุ่มซ้อมให้ดีที่สุด และตนก็พอใจที่ศรีสะเกษทำได้ดีมาก,ด้าน นายสุรพจน์ พงษ์จิวานิช ผู้แทนสภามวยโลก (WBC) ประจำประเทศไทย และคณะกรรมการจัดอันดับสภามวยเอเชีย (WBC ASIA) เปิดเผยว่า ทางสภามวยโลก (WBC) ได้แจ้งรายชื่อคณะกรรมการตัดสินคู่มวยโลก ศรีสะเกษ-เอสตราดา ออกมาเรียบร้อยแล้ว ประกอบด้วยสักขีพยาน มร.ปีเตอร์ อับดุล ส่วนกรรมการให้คะแนน ได้แก่ อาเลฮานโดร โรชิน ผู้ตัดสินจากรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา, เคร็ก เมตคาลเฟ จากแคนาดา และ เจอร์รัล ริทเตอร์ จากสหรัฐอเมริกา โดยมี เอ็ด โคลแลนเตส จากสหรัฐอเมริกา เป็นกรรมการห้ามบนเวที ซึ่ง เสี่ยฮุย กล่าวว่า การชกในสหรัฐอเมริกา ควบคุมด้วยคณะกรรมาธิการกีฬารัฐนั้นๆ สภามวยโลก (WBC) เพียงให้การรับรองเท่านั้น เข้าไปแทรกแซงไม่ได้ เช่นเดียวกับการแต่งตั้งกรรมการผู้ตัดสินศึกครั้งนี้ ซึ่งถือว่ามีความยุติธรรมและเป็นกลางพอสมควร แต่ทางเราต้องป้องกันไว้ก่อนด้วยการเร่งลุยทำคะแนนตั้งแต่ยกแรกไปเลย ไม่มีผ่อนเกม | เสี่ยฮุย มั่นใจ ศรีสะเกษ ฟิตซ้อมมาดี พละกำลังเหลือเฟือ สั่งลุยแหลกตั้งแต่ยกแรก เพื่อตุนแต้มทำคะแนนไว้ก่อน ป้องกันเกมการชกยืดเยื้อครบ 12 ยก แล้วมีปัญหาการให้คะแนน ระบุ พลังกำปั้นอันหนัก | กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์ | ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น,เจ้าแหลม,ฮวน ฟรานซิสโก เอสตราดา,สภามวยโลก,WBC | https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/1550436 |
ดิโอมองเด เด็ดจริง พังประตูแรกประเดิมพรีเมียร์ลีก 2016-17 | อดามา ดิโอมองเด หัวหอกชาวนอร์วิเจียนของ ฮัลล์ ซิตี้ กลายเป็นผู้ทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2016-17 หลังจากทำประตูเบิกร่องให้กับต้นสังกัด ก่อนพาทีมเก็บสามแต้มประเดิมสนามได้สำเร็จ,สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 13 ส.ค.ว่า อดามา ดิโอมองเด หัวหอกชาวนอร์วิเจียนของทีม เดอะ ไทเกอร์ส ฮัลล์ ซิตี้ ประเดิมทำประตูแรกในศึกพรีเมียร์ลีก ซีซั่น 2016-17 ได้ชนิดสะใจกองเชียร์ ด้วยการตีลังกาสุดเฉียบคมใส่แชมป์เก่า เลสเตอร์ ซิตี้ ได้อย่างสวยงามในช่วงทดเวลาครึ่งแรก ,กองหน้าดีกรีทีมชาตินอร์เวย์วัย 26 ปี ถูกส่งลงสนามลงเป็นตัวจริงในเกมประเดิมฤดูกาล 2016-17 ที่ต้องทำศึกหนักรับมือ จิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งถึงแม้จะไม่ค่อยมีโอกาสสับไกบ่อยครั้งหนัก แต่ในช่วงทดเวลาเจ็บนาทีสุดท้ายของครึ่งแรก เคอร์ติส เดวิส ก็โหม่งเสยลูกเตะมุมไปที่เสาสองให้กับ ดิโอมองเด จักรยานอากาศสุดสวยงามเบียดเสาเข้าไปให้กับ ฮัลล์ ซิตี้ ขึ้นนำแชมป์เก่า 1-0 ก่อนที่จะเอาชนะไปได้ในที่สุด 2-1,สำหรับ ดิโอมองเด หัวหอกชาวนอร์เวย์ เพิ่งย้ายจาก สตาเบก มาเล่นให้กับ เดอะ ไทเกอร์ส เมื่อปี 2015 โดยได้รับโอกาสลงสนามเพียง 15 นัดยิงได้ 4 ประตูเท่านั้นในฤดูกาลที่ผ่านมา. | อดามา ดิโอมองเด หัวหอกชาวนอร์วิเจียนของ ฮัลล์ ซิตี้ กลายเป็นผู้ทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2016-17 หลังจากทำประตูเบิกร่องให้กับต้นสังกัด ออกนำแชมป์เก่าอย่าง จิ้งจอกสยาม ได้ในช่วง 45 นาทีแรก | null | อดามา ดิโอมองเด,ฮัลล์ ซิตี้,เดอะ ไทเกอร์ส,พรีเมียร์ลีก 2016-17,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/689641 |
รู้จัก 14 สายพันธุ์สับปะรดปลูกในไทย | วันนี้ (20 มิ.ย.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประเทศไทยมีการปลูกสับปะรดอย่างแพร่หลาย โดยครอบคลุมทั้งภาคตะวันตก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ราชบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ส่วนภาคตะวันออก จังหวัดระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ตราด ขณะที่ภาคเหนือ จังหวัดลำปาง อุตรดิตถ์ เชียงราย พะเยา ภาคอีสาน จังหวัดเพชรบูรณ์ พิษณุโลก อุทัยธานี เลย หนองคาย ชัยภูมิ นครพนม บึงกาฬ และภาคใต้ จังหวัดชุมพร ภูเก็ต ปัตตานี พังงา กระบี่ สุราษฎร์ธานี และระนอง ในปี 2556-2557 มีพื้นที่ปลูกสับปะรดรวม 584473 ไร่ ผลผลิตที่ได้รวม 2087908 ตันขณะที่พันธุ์สับปะรดในประเทศไทย จากข้อมูลสายพันธุ์สับปะรดที่มีการปลูกเพื่อการบริโภคผลสด และการแปรรูปทางอุตสาหกรรมในประเทศไทยของหนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน ระบุว่ามีทั้งหมด 14 สายพันธุ์ ได้แก่1.พันธุ์ปัตตาเวียเป็นสับปะรดที่มีชื่อเรียกแตกต่างกัน เช่น สับปะรดศรีราชา สับปะรดปราณบุรี ลักกะตา พันธุ์ตาดำตาแดง ลักษณะทั่วไปมีทรงต้นใหญ่กว่าพันธุ์อื่นๆ ใบมีสีเข้ม ผิวใบด้านบนเป็นเงามัน ขอบใบเรียบอาจมีหนามที่ปลายใบเล็กน้อย ผลมีขนาดใหญ่ น้ำหนัก 2-6 กิโลกรัม ก้านผลสั้น เปลือกผลสีเขียว รูปทรงกระบอก หรืออาจมีโคนใหญ่ปลายเรียว เนื้อละเอียด สีเหลือง แกนใหญ่ รสหวานแหลม มีเยื่อใยในเนื้อ ผลเมื่อแก่จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอมเขียว เหลืองส้ม หรืออาจไม่เปลี่ยนสี ตาค่อนข้างลึกและเปลือกหนา2.พันธุ์อินทรชิตแดงสับปะรดพันธุ์นี้นับเป็นพันธุ์ดั้งเดิมของประเทศไทย ลักษณะทั่วไปใบจะมีหนามแหลมคม รูปโค้งงอ สีน้ำตาลอมแดงที่ขอบใบ ใบสีเขียวอ่อน ใบด้านไม่เป็นมัน ไม่เป็นร่องชัดเจนเหมือนกับพันธุ์ปัตตาเวีย ขอบใบทั้งสองข้างจะมีแถบสีน้ำตาลตามยาว ผลมีขนาดเล็ก ผลย่อมนูนเด่น ตาลึกเนื้อในสีเหลืองทอง รสหวานอ่อน ไม่หอมจัด มีเยื่อใยมาก ไม่เหมาะกับการทำอุตสาหกรรมเนื่องจากมีผลขนาดเล็กเกินไป3.พันธุ์อินทรชิตขาวสับปะรดพันธุ์นี้มีลักษณะของทรงพุ่มค่อนข้างเตี้ย ใบแคบและสั้นกว่าพันธุ์อินทรชิตแดง ใบสีเขียวอมเหลืองหรือเขียวใบไม้ ขอบใบหนามงอโค้งสู่ปลาบใบ เนื้อผลสีเหลืองทอง รสหวานอ่อน คุณภาพของเนื้อไม่ดีนัก ผลมีหลายจุก ขนาดผลเล็กพอ ๆ กับพันธุ์อินทรชิตแดง4.พันธุ์ภูเก็ตสับปะรดพันธุ์นี้ มีชื่อเรียกในหลายรูปแบบ ทั้งสับปะรดฝรั่ง พันธุ์สวี พันธุ์ชุมพร โดยมีลักษณะเป็นทรงพุ่มปานกลาง ใบสีชมพูปนแดง ขอบใบมีหนามเรียงตัวกันเป็นระเบียบ ขนาดของผลเล็กกว่าทุกพันธุ์ ผลเป็นรูปทรงกระบอกได้สัดส่วน น้ำหนักผล 0.5-1 กิโลกรัม ปริมาณเยื่อใยในเนื้อต่ำมาก เนื้อเหลืองสดใส รสชาติหวานหอม กรอบ ปัจจุบันนิยมปลูกทางภาคใต้ โดยจะปลูกแซมสวนมะพร้าวและยางพาราปลูกใหม่ ซึ่งแหล่งปลูกที่สำคัญ คือ จ.ภูเก็ตชุมพร และตราด5.พันธุ์นางแลบางคนเรียกพันธุ์น้ำผึ้ง อาจจัดได้ว่าเป็นพันธุ์ย่อย ของพันธุ์ปัตตาเวีย เพราะมีลักษณะของลำต้น ใบ ดอก และรูปร่างอื่นๆ คล้ายคลึงกับสับปะรดในกลุ่ม Cayenne ทรงพุ่มไล่เลี่ยกัน ขอบใบเรียบไม่มีหนาม ขนาดผลเล็กกว่า มีทรงผลกรม โดยสับปะรดพันธุ์นี้ผลย่อยค่อนข้างโปนออกมาภายนอกผลเปลือกบาง เมื่อปอกเปลือกจึงไม่มีส่วนของตาฝังอยู่ข้างใน6.สับปะรดศรีราชาเป็นสับปะรดที่ขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ เมื่อวันที่ 15 ส.ค.2558 รูปร่างกลมรี มีปลายจุกแหลม น้ำหนักผล 1.5-3.5 กิโลกรัม ก้านผลสั้น มีไส้ใหญ่ตาค่อนข้างตื้น เปลือกผิวผลดิบมีสีเขียวคล้ำ ผลสุกมีสีเขียวอิมเหลืองอมส้ม เนื้อละเอียดสีเหลืองอ่อน แต่จะเป็นสีเข้มในฤดูร้อน รสชาติหวานฉ่ำ มีกลิ่นหอม เก็บเกี่ยวผลผลิตได้เกือบทั้งปีโดยผลผลิตจะออกมากช่วงเดือน เม.ย.-มิ.ย. และเดือน ต.ค.-ธ.ค.7.สัปปะรดตราดสีทองเป็นสับปะรดสายพันธุ์ควีน ที่มีคุณภาพดี ปลูกง่าย ปลูกได้ตลอดทั้งปี มีผลขนาดใหญ่ หวาน กรอบ ใบแคบและยาวสีเขียวอ่อนมีแถบหรือเส้นสีแดงตอนกลางใย ที่ขอบใบมีหนามสีแดงรูปโค้ง จุกมีหยามเหมือนใบ ส่วนผลเป็นรูปทรงกระบอกสม่ำเสมอเปลือกบาง เปลือกสีเขียวอมส้ม ผลแก่สีเหลืองทั้งผล ตานูนและลึก ขนาดผลหนัก 1.8-1.5 กิโลกรัม เนื้อมีสีเหลืองเข้ม ละเอียด ไม่ฉ่ำน้ำ เยื่อใยน้อยมีช่องว่างในเนื้อ แกนกลางเล็กสม่ำเสมอ เนื้อและแกนกรอบ รสหวานมาก มีกลิ่นหอม สับปะรดตราดสีทองปลูกได้ทุกพื้นที่ใน จ.ตราด แต่เจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ที่เป็นที่ดอน ไม่ชอบที่ชื้นแฉะ ปลูกระหว่างแถวยางพารา ขณะที่ต้นยางพารามีขนาดเล็ก 1-3 ปี พื้นที่ที่นิยมปลูกมากอยู่ใน อ.เมือง จ.ตราด รองลงมาได้แก่ อ.เขาสมิง และ อ.บ่อไร่8.สับปะรดห้วยมุ่นเป็นสับปะรดสายพันธุ์ดีของ จ.อุตรดิตถ์ เป็นพันธุ์ปัตตาเวียจาก จ.ระยอง ชลบุรี แต่เมื่อนำมาปลูกที่ ต.ห้วยมุ่น อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งพื้นที่ปลูกส่วนใหญ่เป็นดอยสูง ที่เชิงเขา สูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 400 เมตร สับปะรดเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัดอุตรดิตถ์ มีลักษณะที่ดีหลายประการ เป็นที่ต้องการของตลาดและผู้บริโภค เช่น เนื้อเหลืองอมน้ำผึ้ง รสชาติหวานฉ่ำ ตาไม่ลึก ทำให้มีส่วนของเนื้อมาก ผลค่อนข้างเล็ก น้ำหนัก 1-3 กิโลกรัม รับประทานแล้วไม่ระคายคอ ปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกประมาณ 13000 ไร่ พื้นที่ให้ผลผลิตแล้วประมาณ 9500 ไร่ ได้ผลผลิตเฉลี่ย 6 ตันต่อไร่ ฤดูกาลปลูกอยู่ในช่วงเดือนมิ.ย.-ก.ค.9.สับปะรดภูแลเชียงรายเป็นสับปะรดในกลุ่มควีนที่ได้ ขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์เมื่อวันที่ 8 พ.ย.2548 เมื่อ พ.ศ.2520 นายเอนก ประทีป ณ ถลาง อาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ได้นำหน่อพันธุ์สับปะรดภูเก็ต จากจังหวัดภูเก็ตมาปลูกครั้งแรกที่ ต.นางแล อ.เมือง จ.เชียงราย ด้วยสภาพทางภูมิศาสตร์ทำให้สับปะรดภูแลมีลักษณะที่แตกต่างจากสับปะรดภูเก็ต คือ ขนาดผลเล็ก มีน้ำหนักตั้งแต่ 0.15-1 กิโลกรัม จุกมีลักษณะชี้ตรว ตาผลเต่งตึง โปนออกมาจากผลอย่างเห็นได้ชัด เปลือกค่อนข้างหนา เหมาะสำหรับการขนส่งระยะไกล เมื่อสุกเปลือกผลจะมีสีเหลืองหรือเหลืองปนเขียว เนื้อสีเหลือง กรอบ กลิ่นหอม แกนสับปะรดกรอบรับประทานได้ ปลูกได้ตลอดทั้งปี เก็บเกี่ยวเหลังจากออกดอกประมาณ 120-150 วัน ขึ้นกับฤดูกาล เรียกชื่อสับปะรดดังกล่าวว่า สับปะรดภูแล โดยการนำเอาชื่อ ภูเก็ต ซึ่งเป็นแหล่งปลูกเดิมมาผสมคำกับแหล่งปลูกใหม่ คือ นางแล10.สับปะรดภูเก็ตเป็นกลุ่มสายพันธุ์ควีน ซึ่งได้ขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์เมื่อวันที่ 26 ต.ค.2550 หมายถึงสับปะรดที่อยู่ในสายพันธุ์ควีน ซึ่งปลูกใน อ.เมืองกะทู้และ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ลักษณะใบมีสีเขียวอ่อน มีแถบสีแดงบริเวณกลางใบ ขอบใบเรียบ มีหนามสีแดงตลอดความยาวของใบ ผลรูปทรงกระบอกขนาดกลาง มีน้ำหนักตั้งแต่ 0.9-1.6 กิโลกรัม ตัวจุกมีลักษณะตรงหรือเอียง ตาผลลึก เนื้อมีสีเหลืองเข้มสม่ำเสมอ กลิ่นหอม เยื่อใยน้อย รสชาติหวานกรอบ แกนผลมีความกรอบมากแต่รับประทานได้11.พันธุ์เพชรบุรี 1เป็นสับปะรดกลุ่มควีนที่มีการปรับปรุงสายพันธุ์จากประเทศไต้หวัน โดยกรมวิชาการเกษตรที่ศูนย์วิจัยพืชสวนเพชรบุรี ลักษณะทั่วไปนั้นเป็นผลสับปะรดขนาดใหญ่ น้ำหนัก 1.5-2 กิโลกรัม ตาโต ร่องตาลึก คล้ายพันธุ์ตราดสีทอง เนื้อสีเหลืองเข้มตลอดผล เยื่อใยน้อย รสชาติหวาน กลิ่นหอม ขอบใบมีหนามแหลมคม จุกมีหนาม12.พันธุ์เพชรบุรี 2เป็นสับปะรดที่นำสายพันธุ์เข้ามาจากฮาวาย ผลใหญ่มาก น้ำหนักผล 2-4 กิโลกรัม อายุการบังคับดอกนานกว่าทุกสายพันธุ์ ใบไม่มีหนาม เนื้อสีขาว อ่อนนุ้ม ฉ่ำน้ำ รสชาติหวานมาก เป็นสับปะรดที่ให้จำนวนหน่อน้อยที่สุด13.พันธุ์ภูชวาหรือไซโก้เบอร์ 6เป็นสับปะรดที่พัฒนาขึ้นโดย รศ.จารุพันธ์ ทองแถม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในโครงการวิจัยที่ จ.ระยอง ขนาดผลน้ำหนัก 1.2-1.5 กิโลกรัม ผลอ่อนเปลือกสีเขียวอ่อน เมื่อสุกจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองสวยงามทั้งผล เนื้อสีเหลืองทองตลอดผล เนื้อนุ่มไม่มีเยื่อใย เคี้ยวไปไม่ติดฟัน มีกลิ่นหอม14.พันธุ์ MD2หรือคนไทยเรียกว่า พันธุ์เหลืองสายร้อยยอด หรือ พันธุ์หอมสุวรรณ เป็นสับปะรดลูกผสมจากฮาวาย สหรัฐอเมริกา ใช้บริโภคผล | ไทยพีบีเอสออนไลน์พามารู้จักสับปะรด 14 สายพันธุ์ ที่ปลูกในประเทศไทย เพื่อการบริโภคผลสด และการแปรรูปทางอุตสาหกรรมในประเทศไทย | สิ่งแวดล้อม | สับปะรด,ภูแล,ภูเก็ต,นางแล,อินทรชิตแดง,ปัตตาเวีย,ศรีราชา,ห้วยมุ่น,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/272879 |
ภูเก็ต หนุ่มรถตู้คนทุ่งใหญ่ เก็บเงิน 3300 ยูโร กว่า1.3แสน คืนเจ้าของ | ไม่สิ้นคนดีหนุ่มรถตู้คนทุ่งใหญ่เก็บเงิน 3,300 ยูโร คิดเป็นเงินไทยกว่า 1.3 แสนบาท คืนนักท่องเที่ยวชาวบังคลาเทศที่ลืมไว้ขณะขึ้นรถผิดคัน จากสนามบินภูเก็ตไปที่พักในหาดป่าตอง รับสินน้ำใจเป็นรางวัล 200 ยูโร พร้อมบอกจะกลับมาเที่ยวอีก ,เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 11 ส.ค.ร.ต.ท.ดุสิทธิ์ วรรณบวร รอง.สว.สทท.2 กก.5 บก.ทท.ได้รับการประสานจากนายพรพงษ์ คล้ายทองคำ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 148/1 หมู่ 4 ต.ทุ่งสัง อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช โชเฟอร์รถตู้โดยสาร ทะเบียนป้ายเหลือง 31-2251 ภูเก็ต ที่วิ่งรับส่งผู้โดยสารจากสนามบินภูเก็ต ไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ใน จ.ภูเก็ต ว่า พบกระเป๋าหนังสีดำ ภายในมีเงินสกุลยูโร จำนวน 3,300 ยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยกว่า 1.3 แสนบาท ของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ลืมวางไว้ขณะที่ขึ้นรถผิดคันภายในสนามบินภูเก็ต จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต ได้ประสานไปยังจุดให้บริการรถตู้โดยสารภายในสนามบินภูเก็ต เพื่อตรวจสอบเจ้าของกระเป๋าเงินดังกล่าว จนทราบว่า เจ้าของกระเป๋า คือ นาย Mohaiminur reza อายุ 32 ปี นักท่องเที่ยวชาวบังคลาเทศ และได้เข้าพักอยู่ที่โรงแรมอารยาโฮเทล หาดป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต จึงประสานรถสายตรวจตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่หาดป่าตองออกติดตามเจ้าของกระเป๋าเงินที่โรงแรมดังกล่าว,จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวได้พานาย Mohaiminur reza มายังสถานีตำรวจท่องเที่ยว 2 กก.5 บก.ทท.ที่ตั้งอยู่ในตัวเมืองภูเก็ต เพื่อรับกระเป๋าเงินคืนต่อหน้านายพรพงษ์ โชเฟอร์รถตู้โดยสารที่เก็บรักษาไว้ ขณะพบอยู่ที่เบาะนั่งภายในรถ หลังทำความสะอาดรถ โดยนาย Mohaiminur reza ได้กล่าวขอบคุณความซื่อสัตย์ของนายพรพงษ์ และได้มอบสินน้ำใจให้ 200 ยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยกว่า 7,500 บาท โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเป็นสักขีพยาน ท่ามกลางบรรยากาศที่ชื่นมื่น ซึ่งนาย Mohaiminur reza กล่าวด้วยว่า และเมื่อกลับไปยังประเทศจะบอกให้เพื่อนๆร่วมชาติได้รับรู้ความซื่อสัตย์และความมีน้ำใจของคนไทยให้รู้กันทั่ว และจะกลับมาท่องเที่ยวที่ จ.ภูเก็ต อีก. | ไม่สิ้นคนดีหนุ่มรถตู้คนทุ่งใหญ่เก็บเงิน 3,300 ยูโร คิดเป็นเงินไทยกว่า 1.3 แสนบาท คืนนักท่องเที่ยวชาวบังคลาเทศที่ลืมไว้ขณะขึ้นรถผิดคัน จากสนามบินภูเก็ตไปที่พักในหาดป่าตอง รับสินน้ำใจเป็นรางวัล 200 ยูโร พร้อมบอกจะกลับมา | ข่าว,ทั่วไทย | เก็บเงิน 3.3 พันยูโร,หนุ่มขับรถตู้คนทุ่งใหญ่,คืนเจ้าของ,ชาวบังคลาเทศ,ภูเก็ต,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1035532 |
ลำพูนไม่รอด พบชาย 2 รายมาจากต่างจังหวัด-ต่างประเทศ ติดโควิด-19 | เวลา 13.00 น. วันที่ 29 มี.ค. 63 ที่ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โควิด-19 จังหวัดลำพูน นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน พร้อมด้วย นายแพทย์พงษ์ศักดิ์ โสภณ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลลำพูน และนายวิทยา พลสีลา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำพูน ร่วมกันแถลงข่าวการตรวจพบเชื้อโควิด-19 หลังจากที่จังหวัดลำพูนไม่พบผู้ติดเชื้อมาตั้งแต่แรกล่าสุด ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูนยืนยันแล้วว่า มีผู้ป่วยติดเชื้อยืนยัน 2 ราย จากทั้งหมดที่เฝ้าระวัง 58 ราย รายแรกเป็นชาย อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่เดินทางมาจากต่างประเทศ เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2563 ถูกนำตัวเข้าสู่ระบบกักตัวตามระเบียบ จนกระทั่งทราบว่าติดเชื้อจึงได้ดำเนินการตามขั้นตอน ส่วนผู้ที่เสี่ยงหรือสัมผัสนั้นเราได้สอบสวนโรค และจะต้องเข้าสู่กระบวนการกักตัวทั้งหมดด้วยเช่นกันส่วนรายที่ 2 เป็นชาย อายุ 30 ปี เป็นกลุ่มเสี่ยงที่ติดเชื้อมาจากสถานบันเทิงจากต่างจังหวัดไม่ใช่จังหวัดลำพูน ได้กลับจากไปเที่ยวเมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2563 หลังจากนั้นกักตัวอยู่ที่บ้านแบบไม่เป็นทางการ ซึ่งหลังจากทราบว่าติดเชื้อแล้วทางจังหวัดได้เข้าดำเนินการสอบสวนโรคว่ามีใครสัมผัสบ้าง มีคนในครอบครัวใครบ้างเราดำเนินการไว้แล้ว เชื่อว่าไม่สามารถที่จะแพร่กระจายเชื้อได้ และจากนี้ไปจะต้องเข้าสู่ระบบทางการแพทย์ทางด้าน นายแพทย์พงษ์ศักดิ์ โสภณ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลลำพูน กล่าวว่า ขอให้มั่นใจในระบบการรองรับของเรา ซึ่งก่อนหน้านี้เราได้ฝึกซักซ้อมแผนไว้อย่างดี เรามีทั้ง สสจ. องค์กรต่างๆ พร้อมทำการช่วยกันอย่างเต็มที่ จึงขอให้มั่นใจว่าทีมเรามีความเข้มแข็งที่จะสามารถเผชิญกับปัญหาได้ ขอให้ประชาชนสบายใจได้ อีกทั้งผู้ป่วยทั้ง 2 ราย ยังอยู่ในอาการที่ไม่รุนแรง ขณะที่คนที่เฝ้าระวังทั้งจังหวัดลำพูนมี 58 ราย ติดเชื้อ 2 ราย ขณะนี้ยังอยู่ในการเฝ้าระวัง 8 ราย. | ผวจ.ลำพูน แถลงพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ครั้งแรก 2 คน เป็นผู้ชาย อยู่ในกลุ่มเสี่ยง เดินทางมาจากต่างจังหวัด และต่างประเทศ ยืนยันมั่นใจควบคุมเชื้อไม่ให้แพร่กระจาย | ข่าว,ทั่วไทย | โควิด-19,COVID-19,ไวรัสโคโรนา,โควิดวันนี้,ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19,โควิด-19ลำพูน,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1807206 |
หมุนเงิน 4 จีออกพันธบัตรรัฐบาล | ดอกเบี้ย 3%ซับน้ำตาคนฝาก กอช. ลุยไฟลงทุนหุ้นกู้เอกชน,นายสมพร จิตเป็นธม เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เปิดเผยว่า กอช.จะเข้าลงทุนในหุ้นกู้ภาคเอกชนที่มีเรตติ้ง (การจัดอันดับ) ที่สามารถเข้าลงทุนได้ ซึ่งขณะนี้ กอช.นำเงินกองทุนทั้งหมด 1,600 ล้านบาท ลงทุนในตราสารหนี้ที่มีความมั่นคงสูง เช่น พันธบัตรรัฐบาล สำหรับสัดส่วนเงินที่จะลงทุนในหุ้นกู้เอกชนต้องมีการพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งตามกฎหมายของ กอช.กำหนดให้นำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงไม่ต่ำกว่า 80% ของเงินลงทุนทั้งหมด เพื่อแสวงหาผลตอบแทนเหมือนกับกองทุนทั่วไป,สำหรับผลตอบแทนการลงทุน จากพันธบัตรรัฐบาลและพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุ 10 ปี ในขณะนี้อยู่ที่ 2% ต่อปี ขณะที่ อัตราเฉลี่ยผลตอบแทนการลงทุนในหุ้นกู้ภาคเอกชน 3-5 ปี อยู่ที่ 3% ต่อปี ทั้งนี้ ผลประโยชน์และผลตอบแทนทั้งหมด สมาชิกจะได้รับคืนเป็นรายเดือนเมื่อเกษียณอายุ 60 ปี หรือเมื่อครบกำหนดระยะเวลาการออม หากเป็นผู้สูงอายุที่เริ่มออมตอนอายุเลย 60 ปี โดยปีนี้ผู้ที่มีอายุเกิน 60 ปี สามารถสมัครเป็นสมาชิก กอช.ได้ไม่จำกัดเพดานอายุ ภายในวันที่ 25 ก.ย. ส่วนผู้ที่สมัครสมาชิกที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป สามารถออมเงินได้ 10 ปี นับจากอายุตัวเองในวันที่สมัครสมาชิก จะหมดเขตวันที่ 25 ก.ย. ปัจจุบัน กอช.มีสมาชิก 423,618 ราย มีเงินกองทุน 1,600 ล้านบาท และคาดว่าภายในปีนี้ จะมีสมาชิกได้ถึง 1 ล้านราย,นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า จากการเปิดประมูล 4 จี ทำให้รัฐมีรายได้ 232,730 ล้านบาท ขณะนี้ผู้ชนะประมูลนำเงินมาชำระแล้ว 56,469 ล้านบาท เหลือเงินที่ยังไม่นำมาชำระอีก 176,261 ล้านบาท จึงจะเสนอรัฐบาลว่า หากต้องการนำเงินมาใช้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็สามารถออกพันธบัตรออมทรัพย์ของรัฐบาลได้ โดยกำหนดวงเงินออกพันธบัตรไว้ 170,000 ล้านบาท ดอกเบี้ย 3% ต่อปี เชื่อว่าเรื่องนี้จะได้รับความสนใจจากประชาชน เพราะปัจจุบันดอกเบี้ยเงินฝากถือว่าต่ำมาก ใกล้จะแตะ 0% ทำให้ผู้นำเงินไปฝากขาดรายได้จากดอกเบี้ยเงินฝาก. | นายสมพร จิตเป็นธม เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เปิดเผยว่า กอช.จะเข้าลงทุนในหุ้นกู้ภาคเอกชนที่มีเรตติ้ง (การจัดอันดับ) ที่สามารถเข้าลงทุนได้ ซึ่งขณะนี้ กอช.นำเงินกองทุนทั้งหมด 1,600 ล้านบาท | null | สมพร จิตเป็นธม,กองทุนการออมแห่งชาติ,หุ้นกู้,พันธบัตรรัฐบาล,หุ้นกู้เอกชน,พันธบัตรออมทรัพย์,ประมูล 4 จี,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าว,ไทยรัฐฉบับพิมพ์ | https://www.thairath.co.th/content/638312 |
ทหารยืนยันเข้มงวดความปลอดภัย 3 จังหวัดใต้ ส่งผลคนร้ายเปลี่ยนแผนวางระเบิด | พล.ต.กัมปนาท รุดดิษฐ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส กล่าวถึงสถานการณ์เหตุระเบิดที่ อ.สุไหโก-ลก จ.นราธิวาสว่า ที่ผ่านมาการทำงานของเจ้าหน้าที่มีความเข้มงวดรัดกุมมาก ทำให้คนร้ายต้องเปลี่ยนแผนนำระเบิดมาประกอบในพื้นที่ แทนการนำระเบิดที่ประกอบเสร็จแล้วจากที่อื่นเข้ามาก่อเหตุเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา จากนั้นค่อยแฝงตัวนำระเบิดมาลอบก่อเหตุวินาศกรรมในส่วนของเดือนรอมฎอนหรือเดือนถือศีลอดของชาวไทยมุสลิมนั้น เจ้าหน้าที่ทหารทุกฝ่าย เตรียมพร้อมอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ต้องการเข้าในพื้นที่เสี่ยงภัยสำหรับประกอบศาสนกิจต่างๆ และเชื่อว่า ประชาชนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น เห็นได้จากที่มีการจับจ่ายสินค้าที่ตลาดมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเดือนรอมฎอนและในวันนี้(24 ก.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ได้ไปยังกองบังคับการหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส และเรียกประชุมผู้บังคับหน่วยของกองกำลังหน่วยที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งตัวแทนเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครอง กว่า 70 นาย เข้าร่วมประชุม เพื่อมอบนโยบายเพิ่มเติม และรับทราบการสนับสนุนกำลังในการคลี่คลาย และสกัดกั้นเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์เมื่อวันที่ 20 ที่ผ่านมา | ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาสยืนยันการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ขณะนี้ มีความเข้มงวดมาก ทำให้คนร้ายต้องเปลี่ยนแผน โดยนำระเบิดมาประกอบในพื้นที่เพื่อก่อเหตุในอำเภอสุไหงโก-ลก เมื่อวันที่ 20 ที่ผ่านมา | ภูมิภาค | 3 จังหวัด,ชายแดนใต้,ถือศีลอด,ทหาร,นราธิวาส,ยืนยัน,รอมฎอน,เข้มงวด | https://news.thaipbs.or.th/content/100282 |
ฮิลลารี-ทรัมพ์ เตรียมเปิดศึกโต้ประชันวิสัยทัศน์ชิงตำแหน่ง ปธน.สหรัฐฯ | ศึกโต้อภิปรายประชันวิสัยทัศน์ระหว่างนางฮิลลารี คลินตันกับนายโดนัลด์ ทรัมพ์ ซึ่งเป็นการเผชิญหน้ากันบนเวทีเป็นครั้งแรกจากทั้งหมด 3 ครั้ง จะเปิดฉากขึ้นในวันพรุ่งนี้ (27 ก.ย.2559) ที่มหาวิทยาลัยฮอฟสตรา (Hofstra) เมืองเฮมป์สเตด รัฐนิวยอร์ก โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่จัดเตรียมเวทีสำหรับคู่ชิงประธานาธิบดีเรียบร้อยแล้ว โดยศึกโต้อภิปรายจะเป็นโอกาสทองที่ผู้สมัครทั้ง 2 จะเรียกคะแนนจากชาวอเมริกันผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกใคร หลังจากที่ทั้งคู่หาเสียงโจมตีกันอย่างเผ็ดร้อนและพยายามใส่ไฟว่าอีกฝ่ายไม่น่าเชื่อถือและเป็นอันตรายต่อประเทศนายจอห์น โพเดสตา ประธานรณรงค์หาเสียงของนางคลินตันเปิดเผยในรายการ Meet The Press ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี ว่า นางคลินตันจะเน้นการโต้อภิปรายในประเด็นเรื่องพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อชาวอเมริกันทุกคน ไม่ใช่เพื่อกลุ่มคนระดับต้น แต่ก็ต้องเจอกับการท้าทายจากนายทรัมพ์ที่จะโต้แแย้งว่าไม่เป็นความจริง ขณะที่ พล.ท.ไมเคิล ฟลินน์ ที่ปรึกษาของทรัมพ์ชี้ว่าทรัมพ์หาเสียงแบบเข้าถึงชาวอเมริกันทุกกลุ่มทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งในผลสำรวจความนิยมศึกโต้อภิปรายซึ่งจะดำเนินไปเป็นเวลา 90 นาที มีขึ้นในขณะที่คะแนนนิยมของนายทรัมพ์กลับมาตีตื้นนางคลินตัน ซึ่งเคยมีคะแนนทิ้งห่างทรัมพ์ในก่อนหน้านี้ โดยผลสำรวจล่าสุดของสำนักข่าวรอยเตอร์ร่วมกับอิปซอส (Ipsos) ซึ่งออกมาเมื่อวันที่ 23 ก.ย.2559 ปรากฎว่านางคลินตันมีคะแนนนำทรัพม์เพียง 4 จุดบริษัทนีลเสน ซึ่งเป็นบริษัทจัดอันดับ คาดว่าศึกโต้อภิปรายในครั้งนี้จะมีผู้ชมทางทีวีมากสุดเป็นประวัติการณ์และมากกว่าเมื่อครั้งการโต้อภิปรายระหว่างประธานาธิบดีบารัค โอบามากับนายมิตต์ รอมนี่ย์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกันในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2555 ซึ่งมียอดผู้ชมทางโทรทัศน์อยู่ที่ 46.2 ล้านครัวเรือน | วันพรุ่งนี้ (27 ก.ย.2559) จะเป็นช่วงเวลาสำคัญของการเรียกคะแนนจากชาวอเมริกันที่มีสิทธิ์เลือกตั้งที่ยังไม่ตัดสินใจ เมื่อนางฮิลลารี คลินตัน ตัวแทนพรรคเดโมแครต จะเปิดศึกโต้อภิปรายประชันวิสัยทัศน์เป็นครั้งแรกกับนายโดนัลด์ ทรัมพ์ ตัวแทนพรรครีพับลิกัน | ต่างประเทศ | ประธานาธิบดีสหรัฐฯ,โต้อภิปราย,ประชันวิสัยทัศน์,ฮิลลารี คลินตัน,โดนัลด์ ทรัมพ์,เลือกตั้ง,ประธานาธิบดี,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ | https://news.thaipbs.or.th/content/256094 |
น้องเมย์ ยัน สู้เต็มที่แล้ว แต่อาการเจ็บเลวร้ายมากขึ้น | ยอมรับเกมกับคาโรลินา มาริน จากสเปน ไม่ได้ดีสักเท่าไหร่ ขอโทษแฟนๆ ทุกคนขอให้ส่งใจเชียร์ใหม่ ในรายการที่สิงคโปร์ สัปดาห์หน้า,วันที่ 9 เม.ย. หลังจาก เมย์ รัชนก อินทนนท์ นักตบลูกขนไก่สาวไทย มือ 7 ของโลก พ่ายคาโรลินา มาริน คู่ปรับคนสำคัญ มือ 3 ของโลกจากสเปน 1-2 เกม ตกรอบ 8 คนหญิงเดี่ยว ไม่สามารถป้องกันแชมป์แบดมินตันระดับซุปเปอร์ซีรีส์ พรีเมียร์ รายการ เซลคอม เอเซียตา มาเลเซีย โอเพ่น 2017 ที่มาเลเซีย เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเอาไว้ได้ ซึ่งเป็นรายการที่ 2 ต่อจากแมตช์ที่อินเดีย แล้วที่เจ้าตัวไม่สามารถรักษาแชมป์ได้สำเร็จ,ทั้งนี้ หลังจบเกมดังกล่าว รัชนกได้โพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรมของตนเอง ระบุว่า เป็นอีกครั้งที่ไม่สามารถป้องกันแชมป์ได้ เมย์รู้สึกเสียใจ แม้จะพยายามเล่นอย่างสุดความสามารถแล้วก็ตาม แต่อาการบาดเจ็บเหมือนจะเลวร้ายมากขึ้น เมย์พยายามแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่ดีที่สุด แต่เกมมันไม่ได้ดีสักเท่าไร ถ้าถามว่าทำไมถึงไม่เลือกที่จะหยุดเล่น เมย์คงตอบได้แค่ว่าแบดมินตันมันคือชีวิตของเมย์ เมย์แค่พยายามสู้ที่สุดเท่าที่จะทำได้ และยังบอกตอนท้ายด้วยว่า ขอโทษแฟนๆที่น่ารักทุกคน แล้วพบกันใหม่ที่สิงคโปร์,สำหรับรายการต่อไป เมย์ รัชนก จะไปทำศึกระดับเวิลด์ ซุปเปอร์ซีรีส์ รายการ โอยูอี สิงคโปร์ โอเพ่น 2017 ชิงเงินรางวัลรวม 350,000 เหรียญสหรัฐฯ ระหว่างวันที่ 11-16 ส.ค.นี้ ที่สิงคโปร์ ซึ่งนักตบลูกขนไก่สาวไทย เป็นแชมป์เก่ารายการนี้อีกเช่นกัน,ด้านการแข่งขันแบดมินตันสะสมคะแนนเยาวชนโลกรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี รายการ โยเน็กซ์-เชอร่า-โรซ่า-บีทีวาย จูเนียร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ชาลเลนจ์ 2017 ที่โรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด เมื่อวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา รอบรองชนะเลิศ คู่ที่น่าสนใจ หญิงเดี่ยว น้องจิว ภัทรสุดา ไชยวรรณ มือ 2 ของรายการ และมือ 4 เยาวชนโลก ใช้เวลา 1 ชั่วโมงเต็มก่อนเบียดชนะฉิ ซวน อูน จากมาเลเซีย 2-1 เกม 21-17, 17-21, 21-17 เข้าไปชิงชนะเลิศกับเกรกอเรีย มาริสกา มือ 1 ของรายการ และมือ 3 เยาวชนโลก จากอินโดนีเซีย ที่ชนะปาร์ค กา อึน จากเกาหลีใต้ 21-10, 21-17,,ส่วนชายเดี่ยว วิว กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มือ 20 เยาวชนโลก และมือ 4 ของรายการ หยุดความร้อนแรงของ บอสศรัณย์ แจ่มศรี มือ 9 ของรายการ ด้วยการตบเอาชนะ 2 เกมรวด 21-16, 21-9 เข้ารอบชิงชนะเลิศไปเจอ ฟง ฮัว ลิม มือ 21 เยาวชนโลก และมือ 5 ของรายการ จากมาเลเซีย ที่เฉือนเอาชนะ รุษฐนภัค อูปทอง 2-1 เกม 21-19, 20-22, 21-10 ด้านชายคู่ วรทัต เจียรพิพัฒน์กุล กับ วริทธิ์ สารพัฒน์ คู่มือ 7 ของรายการ ต้านทานการตบ และเคลื่อนตัวที่รวดเร็วของคัง มิน ฮยุก กับ คิม วอน โฮ คู่มือ 2 ของรายการ จากเกาหลีใต้ ไม่ไหว พ่ายไป 0-2 เกม 13-21, 10-21 ตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย สำหรับรอบชิงชนะเลิศ วันที่ 9 เม.ย. เริ่มคู่แรกเวลา 10.00 น. | เมย์ รัชนก อินทนนท์ นักตบลูกขนไก่สาวไทย โพสต์ตัดพ้อ หลังไม่สามารถป้องกันแชมป์ แบดมินตัน มาเลเซีย โอเพ่น 2017 เอาไว้ได้ ระบุ เสียใจ แม้จะพยายามเต็มที่แล้ว แต่เหมือนอาการบาดเจ็บจะเลวร้ายมากขึ้น | กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์ | น้องเมย์,รัชนก อินทนนท์,คาโรลินา มาริน,เซลคอม เอเซียตา มาเลเซีย โอเพ่น 2017,แบดมินตัน | https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/908995 |
ไทยเซิร์ต เตือนมัลแวร์ เสี่ยงถูกสวมรอยบนเฟซบุ๊กได้ หากเปิดอ่านแจ้งเตือนจากเพื่อน | 12 พ.ค.2559 สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) รายงานว่าเมื่อวันที่ 10 พ.ค. ที่ผ่านมา ไทยเซิร์ตได้รับแจ้งว่ามีการแพร่กระจายมัลแวร์ผ่าน Facebook โดยลักษณะคือผู้ใช้จะได้รับแจ้งเตือนว่าถูกพาดพิงโดยบุคคลที่สาม ดังแสดงในรูปที่ 1ชื่อไฟล์: Instalador_Cores.scr ขนาด: 3482624 bytesMD5: add95d1e66128ab488dadda469b7b377SHA-256: 52eb68b2cef481d8c0a3a6ab5a85c5be9dcf2c70a81d0b7dfe0991a83bf6755bเมื่อดับเบิ้ลคลิกไฟล์ Instalador_Cores.scr พบหน้าจอให้ติดตั้งโปรแกรมดังรูปที่ 3จากกรณีนี้ ไทยเซิร์ตพบว่าผู้สร้างมัลแวร์นำระบบแจ้งเตือนคอมเมนต์ของ Facebook มาใช้เป็นหนึ่งในวิธีการแพร่กระจาย เนื่องจาก Facebook อนุญาตให้ผู้พัฒนาเว็บไซต์สามารถติดตั้งปลั๊กอิน Facebook Comments (https://developers.facebook.com/docs/plugins/comments/) เพื่อให้ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์สามารถแสดงความคิดเห็นในหน้าเว็บไซต์ได้โดยใช้ล็อกอินของ Facebook ซึ่งในช่องคอมเมนต์ผู้ใช้สามารถพาดพิงถึงเพื่อนที่อยู่ในรายชื่อผู้ติดต่อได้ ดังรูปที่ 6 ซึ่งเมื่อผู้ที่ถูกพาดพิงได้รับแจ้งเตือนและกดอ่าน ก็จะถูกนำมาที่เว็บไซต์ที่มีคอมเมนต์ดังกล่าวอยู่ช่องทาง Facebook Comments สามารถใช้ในการหลอกให้ผู้ใช้เข้าไปยังเว็บไซต์อันตรายได้ เช่น เว็บไซต์ที่หลอกให้ดาวน์โหลดมัลแวร์ หรือหน้าเว็บไซต์ปลอมที่หลอกขโมยรหัสผ่าน (Phishing) เป็นต้นการแก้ไขหากตกเป็นเหยื่อ สำหรับผู้ใช้ที่ตกเป็นเหยื่อและเผลอติดตั้งมัลแวร์จากไฟล์ Instalador_Cores.scr สามารถแก้ไขได้ดังนี้1. ไปที่ไดเรกทอรี C:\User\[ชื่อผู้ใช้]\AppData\Local\Google\Update แล้วลบไฟล์ที่มัลแวร์สร้าง ดังนี้2. ลบไอคอน Google Chrome ที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ออกจาก Desktop การป้องกันการโจมตีลักษณะนี้ในอนาคต | รูปที่ 1 ตัวอย่างการแจ้งเตือนที่พบ 12 พ.ค.2559 ศูนย์ประสานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์ประเทศไทย (ไทยเซิร์ต) สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) รายงานว่าเมื่อวันที่ | ไอซีที | มัลแวร์,เฟซบุ๊ก,ไทยเซิร์ต | https://prachatai.com/journal/2016/05/65747 |
ตัดหน้ารถไฟ ฆ่าตัวสยอง | ทางรถไฟ เปิดประตูรถวิ่งกระโดดขวางหน้าขบวนม้าเหล็กที่วิ่งผ่านพุ่งชนร่างกระเด็น กล้องวงจรปิดหน้ารถชาวบ้านบันทึกภาพนาทีสยองชัดเจน คาดชนวนเหตุจากเรื่องปัญหาครอบครัว เผยผู้ตายมีเมีย 2 คน อยู่อยุธยากับกรุงเทพฯ ก่อนพบจุดจบ เมียที่อยู่กรุงเทพฯยังโทรศัพท์พูดคุยห้ามปรามไม่ให้คิดสั้น,เหตุสลดใจนายช่างชลประทานกระโดดให้รถไฟชนเสียชีวิตสยองในวันสุดท้ายของการทำงานก่อนเกษียณอายุราชการ เปิดเผยเมื่อเวลา 09.15 น.วันที่ 30 ก.ย. ร.ต.อ.สามารถ รักษาศักดิ์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเหตุรถไฟชนคนเสียชีวิต บริเวณจุดปิดกั้นทางรถไฟ ถนนสายวัดพนัญเชิง-วัดใหญ่ชัยมงคล หมู่ 3 ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จึง รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ นำกำลังตำรวจพร้อมแพทย์เวร รพ.พระนครศรีอยุธยา และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งศูนย์พุทไธศวรรย์ ไปตรวจสอบ,ที่เกิดเหตุบนถนนมุ่งหน้าไปทางวัดพนัญเชิงวรวิหาร ก่อนถึงจุดกั้นรางรถไฟ พบรถปิกอัพโตโยต้าวีโก้ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บม 6040 พระนครศรีอยุธยา จอดอยู่เป็นคันแรก ห่างออกไปบนรางรถไฟมีเครื่องปิดกั้นอยู่ พบศพนายฉัตรชัย เกิดพุฒิเปี่ยม อายุ 60 ปี ตำแหน่งนายช่างชลประทานอาวุโส สำนักงานชลประทานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อยู่บ้านเลขที่ 153/3 หมู่ 2 ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา สวมชุดข้าราชการ สภาพศพแหลกเหลว ศีรษะแตก กระดูกหักทั่วร่าง กระเด็นไปไกลนับสิบเมตร ห่างออกไปพบรถไฟดีเซลรางขบวนที่ 304 กรุงเทพฯ-ลพบุรี ขาเข้า กทม. จอดอยู่ มีนายปัญญา มั่นปาน เป็นพนักงานขับรถไฟ ยืนรอให้การด้วยความตื่นตระหนก,หลังตรวจที่เกิดเหตุตำรวจสอบปากคำพยานเพิ่มเติมจนได้หลักฐานเป็นคลิปวีดิโอจากกล้องวงจรปิดติดหน้ารถยนต์ของชาวบ้านที่ขับมาจอดติดที่กั้นทางรถไฟอยู่ฝั่งตรงข้ามพอดี พบภาพนายฉัตรชัย ผู้ตาย ขับรถปิกอัพมาจอดอยู่หลังที่กั้นทางรถไฟเป็นคันแรก ขณะนั้นขบวนรถไฟวิ่งใกล้จะมาถึง ผู้ตายเปิดประตูลงจากรถหันไปมองขบวนรถไฟพร้อมกับวิ่งไปทางปลายไม้กั้นแล้วกระโดดออกไปขวางหน้าขบวนรถไฟพุ่งชนร่างกระเด็นเสียชีวิตสยอง จึงมั่นใจว่าเป็นการจงใจฆ่าตัวตายเอง ทั้งนี้ จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ตายเป็นนายช่างชลประทานมานาน วันเกิดเหตุเป็นวันสุดท้ายของชีวิตข้าราชการเนื่องจากเกษียณอายุราชการในปีนี้ ก่อนเกิดเหตุไปตระเวนดูจุดรายงานสถานการณ์น้ำท่วม กระทั่งมาก่อเหตุฆ่าตัวตายในวันสุดท้ายของชีวิตการทำงาน,ร.ต.อ.สามารถ รักษาศักดิ์ รอง สว. (สอบสวน) เผยว่า ได้สอบปากคำนายสมศักดิ์ เจือจันทร์หอม อายุ 49 ปี คนขี่รถ จยย.รับจ้าง ให้การว่า ก่อนหน้านี้ขี่รถ จยย.มาจอดติดไม้กั้นทางรถไฟอยู่หน้ารถปิกอัพของผู้ตาย เห็นผู้ตายเปิดประตูรถลงมายืนดูขบวนรถไฟวิ่งผ่านไป จากนั้นตนขี่รถไปส่งผู้โดยสารเสร็จแล้วผ่านกลับมาที่เดิมอีกครั้ง พบว่าผู้ตายถูกรถไฟชนเสียชีวิต คาดว่าผู้ตายขับรถย้อนกลับมาจอดที่เดิมเพื่อรอรถไฟอีกขบวนผ่านมา แล้วเปิดประตูวิ่งไปกระโดดให้รถไฟชนตามคลิปที่มีกล้องหน้ารถยนต์ของชาวบ้านถ่ายไว้ได้,รองสารวัตรสอบสวนเจ้าของคดีเผยต่อไปว่า หลังเกิดเหตุมีโทรศัพท์เข้าเบอร์มือถือของผู้ตาย บอกว่าเป็นภรรยาอยู่กรุงเทพฯ ในช่วงเช้าก่อนเกิดเหตุยังโทร.คุยกัน ยอมรับว่ามีปัญหาเรื่องครอบครัวนิดหน่อย และยังบอกกับผู้ตายว่าอย่าคิดสั้น ขณะเดียวกัน ได้มีภรรยาผู้ตายอีกคนอยู่ที่อยุธยา พร้อมด้วยนายชลชา เกิดพุฒิเปี่ยม อายุ 22 ปี ลูกชาย มาติดต่อขอเอกสารและขอรับรถคืน นายชลชาให้ปากคำว่าไม่ติดใจการเสียชีวิตของบิดา เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานชนวนเหตุการฆ่าตัวตายน่าจะมาจากเรื่องปัญหาภายในครอบครัว ไม่น่าจะมาจากเรื่องงานเนื่องจากผู้ตายจะเกษียณอายุราชการแล้ว อย่างไรก็ตามตำรวจจะต้องสอบปากคำพยานและหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป | นายช่างชลประทานอาวุโส สำนักงานชลประทานเมืองกรุงเก่า กระโดดให้ขบวนรถไฟพุ่งชนร่างแหลกตายสยองวันสุดท้ายของชีวิตการทำงานก่อนเกษียณอายุราชการ ไปตระเวนดูจุดรายงานสถานการณ์น้ำท่วมตามปกติ จู่ๆขับรถปิกอัพมาจอดก่อนถึงเครื่องกั้น | null | ข่าวหน้า1,นายช่างชลประทาน,ตัดหน้ารถไฟ,ก่อนเกษียณอายุ,ปัญหาครอบครัว,สามารถ รักษาศักดิ์,พระนครศรีอยุธยา,วัดพนัญเชิงวรวิหาร,ฆ่าตัวตาย,หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ,ไทยรัฐ | https://www.thairath.co.th/content/740062 |
ไฟไหม้บ้านหรู กดกริ่งเรียก4ชีวิต รอดหวุดหวิด เสียหายร่วม10ล้าน | เวลา 02.30 น. วันที่ 13 มิ.ย. ร.ต.อ.เลิศวรรธ์ อุทัยนาง รอง สว.(สอบสวน) สภ.สวนพริกไทย จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้บ้าน ภายในหมู่บ้านลัดดาวัลย์ ถนนรังสิต-ปทุมธานี ม.1 ต.บ้านกลาง อ.เมืองปทุมธานี จึงประสานรถดับเพลิง ทต.บ้านกลาง และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู จากนั้นพร้อมด้วย พ.ต.อ.พงศ์พัชร์ แจ้งหมื่นไวย์ ผกก.ฯ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน รุดไปตรวจสอบ,ในที่เกิดเหตุพบว่าเพลิงกำลังลุกไหม้บ้านเลขที่ 53/6 ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นปลูกในเนื้อที่ 200 ตารางวาโดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องฉีดน้ำจากถนนฝั่งตรงข้ามที่มีลำคลองของหมู่บ้านกั้นอยู่ แต่เนื่องจากเปลวเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรงและเกรงว่าจะลุกลามไปติดบ้านใกล้เคียง จึงขอสนับสนุนรถดับเพลิงในพื้นที่ใกล้เคียงมาเพิ่มอีกร่วม 10 คัน ใช้เวลาในการดับเพลิงร่วม 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้จนสงบ เบื้องต้นพบบ้านเสียหายหมดทั้งหลัง,จากการสอบถามนายอลงกร มังกรทองสกุล อายุ 55 ปี เจ้าของบ้าน กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุในบ้านอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 คน โดยนอนอยู่ห้องนอนชั้นบน จากนั้นประมาณตีสอง ได้มีคนมากดกริ่งเรียกหลายครั้ง จึงลงมาดูก็พบว่า ชั้นล่างมีไฟลุกไหม้ควันโขมง จึงพากันหนีออกจากบ้าน และพยายามจะเข้าไปดับไฟแต่ไม่ทัน ไฟลุกไหม้อย่างรุนแรง แม้จะมีเพื่อนบ้านมาช่วยก็ไม่ทัน ทาง รปภ.ได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจและรถดับเพลิงมาช่วยดับไฟแต่บ้านวอดเสียหายทั้งหลัง ซึ่งยังโชคดีที่คนในครอบครัวไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต,ต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สันนิษฐานว่า น่าจะเกิดไฟฟ้าลัดวงจร หรือมีการเสียบปลั๊กไฟไว้ไหว้เจ้าภายในบ้าน จึงได้กั้นห้ามเข้าในที่เกิดเหตุ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (ศพฐ.1 ปทุมธานี) มาตรวจสอบในช่วงเช้าอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุของเพลิงไหม้ สำหรับค่าเสียหายไฟไหม้ครั้งนี้ ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท | ไฟไหม้บ้าน 2 ชั้น ในหมู่บ้านหรูที่ปทุมฯ กลางดึก วอดหมดทั้งหลัง ค่าเสียหายกว่า 10 ล้าน 4 ชีวิตนอนอยู่ชั้นบน มีคนกดกริ่งเรียกรัวๆ ตอนตีสอง ลงมารอดได้หวุดหวิด คาดไฟช็อต | ข่าว,ทั่วไทย | ไฟไหม้บ้าน,ไฟไหม้บ้านหรู,ไฟไหม้ ปทุทธานีั,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1590775 |
สหรัฐฯ ขู่จะค้านมติยูเอ็นต้านการข่มขืนในสงคราม อ้างภาษาสื่อสนับสนุนทำแท้ง | เหตุไม่พอใจที่จะมีการให้ความช่วยเหลือเหยื่อผู้เผชิญความรุนแรงทางเพศผ่านคลินิคการวางแผนครอบครัว โดยอ้างว่าเป็นการสนับสนุนการทำแท้ง ขณะที่ตัวแทนยุโรปบางส่วนพยายามผลักดันร่างมตินี้24 เม.ย. 2562 สื่อเดอะการ์เดียนรายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวเป็นเจ้าหน้าที่สหประชาชาติ (ยูเอ็น) และนักการทูตยุโรปว่า รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ขู่ว่าจะวีโต้ หรือคัดค้านร่างข้อมติของสหประชาชาติเรื่องการต่อต้านการใช้การข่มขืนในฐานะอาวุธทางการสงคราม เนื่องจากไม่เห็นด้วยในเรื่องการใช้ภาษาเกี่ยวกับสิทธิอนามัยเจริญพันธุ์และเพศสภาพทูตเยอรมนีหวังว่าข้อมติของยูเอ็นในเรื่องการต่อต้านความรุนแรงทางเพศในความขัดแย้งจะได้รับการรับรองในการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงเมื่อวันที่ 23 เม.ย. แต่ร่างข้อมติดังกล่าวก็ถูกตัดข้อความสำคัญออกบางส่วนคือเรื่องการจัดตั้งกลไกเพื่อตรวจสอบและรายงานการกระทำโหดร้ายป่าเถื่อน เนื่องจากประเทสสหรัฐฯ รัสเซีย และจีน คัดค้านการจัดตั้งฝ่ายตรวจสอบในเรื่องนี้แม้จะมีการตัดข้อความเกี่ยวกับการจัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบออกแล้ว แต่สหรัฐฯ ก็ยังคงโหวตคัดค้านร่างมตินี้โดยอ้างว่าไม่พอใจที่มีข้อความระบุถึงการให้ความช่วยเหลือเหยื่อผู้เผชิญความรุนแรงทางเพศผ่านทางคลินิคการวางแผนครอบครัว โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่าในช่วงสมัยรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ มีการยืนกรานต่อต้านเอกสารยูเอ็นฉบับใดก็ตามที่มีการส่งเสริมสิทธิอนามัยเจริญพันธุ์ (sexual and reproductive health) จากสาเหตุเพราะคำเหล่านั้นสื่อถึงการสนับสนุนการทำแท้ง นอกจากนี้รัฐบาลทรัมป์ยังต่อต้านการใช้คำว่า เพศสภาพ (gender) ด้วย โดยอ้างว่าเป็นการส่งเสริมสิทธิของคนข้ามเพศในแบบเสรีนิยมปรามิลา แพตเทน ผู้แทนพิเศษของยูเอ็นในประเด็นความรุนแรงทางเพศภายใต้สงครามความขัดแย้งกล่าวว่าสหรัฐฯ ขู่จะโหวตคัดค้านเนื่องด้วยสาเหตุไม่พอใจเรื่องการใช้ภาษาเกี่ยวกับสิทธิอนามัยเจริญพันธุ์ แต่ตัวร่างยังยืนยันจะมีการใช้ภาษานี้ต่อไป เธอบอกว่ามันจะเป็นเรื่องที่ขัดแย้งกันในตัวเองอย่างมากถ้าหากมีการพูดถึงแนวทางแบบเน้นผู้เผชิญการข่มขืนเป็นศูนย์กลางแต่กลับไม่มีภาษาสื่อถึงบริการเรื่องสิทธิอนามัยเจริญพันธุ์ซึ่งแพตเทนมองว่าเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดเดอะการ์เดียนระบุว่าจากเอกสารข้อมติที่พวกเขาได้รับระบุถึงเรื่องสิทธิอนามัยเจริญพันธุ์เพียงครั้งเดียวเท่านั้น โดยในเอกสารระบุว่า คณะบุคคลของสหประชาชาติและผู้บริจาคควรจะจัดหาให้มีบริการสุขภาพในแบบที่ครอบคลุมและไม่กีดกันเลือกปฏิบัติ รวมถึงสุขภาวะทางเพศ อนามัยเจริญพันธุ์ สุขภาวะทางจิตสังคม การสนับสนุนทางกฎหมายและสภาพชีวิตความเป็นอยู่ รวมถึงบริการภาคส่วนอื่นๆ หลายภาคส่วนที่จะจัดหาให้กับผู้เผชิญความรุนแรงทางเพศ โดยมีการคำนึงถึงเรื่องความต้องการเฉพาะด้านของคนพิการด้วยขณะที่สหรัฐฯ ต่อต้านการระบุถึงสิทธิอนามัยเจริญพันธุ์ หลายประเทศในยุโรปได้แก่เยอรมนี สหราชอาณาจักร และฝรั่งเศส ก็ยืนยันว่าควรจะมีการระบุถึงเรื่องนี้ ไม่ควรจะละเลยการที่จะให้ผู้เผชิญความรุนแรงทางเพศสามารถเข้าถึงการวางแผนครอบครัวหรือคลินิคสุขภาวะทางเพศได้ เพราะการละเลยในเรื่องนี้จะเป็นการทำลายความก้าวหน้าของการยอมรับเรื่องสิทธิสตรีตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาทูตที่ให้ข่าวในเรื่องนี้กล่าวว่าสหรัฐฯ เคยเป็นฝ่ายที่ปกป้องเรื่องนี้มาโดยตลอด มีเพียงรัฐบาลทรัมป์ในตอนนี้ที่หันไปอยู่ฝ่ายเดียวกับรัสเซีย ศาสนจักรแห่งวาติกัน ซาอุดิอาระเบียและบาห์เรนทำลายความก้าวหน้าที่ถูกสร้างมาโดยตลอดร่างมติฉบับล่าสุดของสหประชาชาติมีความสำคัญตรงที่ยอมรับงานของกลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่ไม่เป็นทางการด้านสตรี สันติภาพ และความมั่นคง อย่างไรก็ตามแพตเทนบอกว่าระบบในปัจจุบันยังไม่มีช่องทางที่เสมอต้นเสมอปลายมากพอในการทำให้เรื่องความรุนแรงทางเพศและการล่วงละเมิดทางเพศเป็นที่สนใจของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถ้าหากมีกลไกที่เป็นพิธีการเช่นมีการประเมินการปฏิบัติตามหลักการหรือการเสนอบทลงโทษก็จะทำให้กลุ่มที่ทำงานด้านสตรีทั้งในหน่วยงานรัฐและหน่วยงานที่ไม่ใช่รัฐมีอำนาจต่อรองมากกว่านี้ แต่ในร่างมติปัจจุบันแพตเทนมองว่ากลไกที่เป็นพิธีการถูกตัดออกไปแล้วทำให้มันเป็นร่างมติที่อ่อนมากตั้งแต่ศตวรรษที่ 20 ที่มีสงครามและความขัดแย้งย่อยๆ ปะทุในหลายภูมิภาคทั่วโลกประปราย จะเห็นการใช้การข่มขืนเป็นยุทธวิธีที่ถูกใช้ในการสงคราม พล.อ.แพทริค แคมเมิร์ต อดีตผู้บัญชาการกองกำลังรักษาสันติภาพของยูเอ็นในคองโกตะวันออกกล่าวถึงยุทธวิธีที่ใช้การข่มขืนว่ามันอาจทำให้การเป็นผู้หญิงนั้นเสี่ยงอันตรายกว่าการเป็นทหารในช่วงสงครามคุณทำลายชุมชน คุณลงทัณฑ์พวกผู้ชาย และลงโทษผู้หญิงด้วยการทำมันต่อหน้าเหล่าผู้ชายภาพสะท้อนหนึ่งของความรุนแรงทางเพศเช่นว่าคือสงครามในบอสเนียที่เริ่มเมื่อปี 2535 เมื่องกองกำลังชาวเซิร์บโจมตีบางพื้นที่ในประเทศบอสเนียโดยมีเป้าหมายจะทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวบอสเนีย หนึ่งในเครื่องมือที่จะใช้ล้างเผ่าพันธุ์คือการข่มขืน โดยให้ผู้หญิงชาวบอสเนียตั้งครรภ์กับทหารชายชาวเซอร์เบีย เหล่าผู้บังคับบัญชากองกำลังชาวเซิร์บปัจจุบันถูกนำขึ้นไต่สวนที่ศาลอาญาระหว่างประเทศไปแล้วแมนเฟรต โนวัก ผู้รายงานพิเศษของยูเอ็นในประเด็นการทรมาน การดูแลและการลงโทษที่ทารุณ ไม่มีมนุษยธรรมระบุว่า การข่มขืนเป็นการทรมานเสมอและเหยื่อก็ได้รับอันตรายทางจิตวิทยาประเด็นการทำแท้งเป็นที่ถกเถียงในสหรัฐฯ มาอย่างยาวนาน โดยมีทั้งผู้สนับสนุนและผู้คัดค้าน ปัจจุบันแต่ละมลรัฐมีแนวทางการสนับสนุนและจำกัดการทำแท้งอยู่หลายแบบ ทำให้การทำแท้งมีระดับความยากง่ายและเงื่อนไขไม่เหมือนกัน แต่ว่ายืนอยู่บนพื้นฐานต่ำที่สุดว่าการทำแท้งทำได้ในภาวะที่ผู้ตั้งครรภ์เสี่ยงต่อการมีชีวิตรอด(ที่มา: ) | รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ขู่ว่าจะวีโต้ หรือคัดค้านร่างมติสหประชาชาติที่ต่อต้านการใช้การข่มขืนเป็นอาวุธในการสงคราม | สิทธิมนุษยชน,ต่างประเทศ | สตรีนิยม,โดนัลด์ ทรัมป์,สิทธิอนามัยเจริญพันธุ์,ความรุนแรงทางเพศในสงคราม,การข่มขืน,สหประชาชาติ,สหรัฐอเมริกา,ปรามิลา แพตเทน,สงครามบอสเนีย | https://prachatai.com/journal/2019/04/82182 |
ยูเนสโก มอบทุนแก่นักเรียนตกหล่นที่กลับเข้าสู่ระบบการศึกษาชายแดนใต้ | วัยเรียนที่อยู่นอกระบบการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยได้รับงบประมาณจากองค์การยูเนสโก กรุงเทพฯ เพื่อช่วยเหลือนักเรียนตกหล่นทางการศึกษาในพื้นที่จังหวัดยะลา จำนวน 71 ทุนด้านนายอรัญ คงนวลใย ผู้อำนวยการสถาบัน กศน. ภาคใต้ เปิดเผยว่า องค์การยูเนสโก กรุงเทพฯ สนับสนุนงบประมาณวงเงิน 2100000 บาท ให้กับสถาบัน กศน ภาคใต้ ดำเนินกิจกรรมแก้ปัญหานักเรียนตกหล่นให้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษา แบ่งเป็นกิจกรรมทุนการศึกษาจำนวน 500 ทุน โดยดำเนินการจัดสรรให้จังหวัดชายแดนภาคใต้ จังหวัดละ 100 ทุน ทุนละ 3000 บาท พร้อมนี้ได้รับเกียรติจาก นายศราวุธ อรรถานุรักษ์ ศึกษาธิการจังหวัดยะลาร่วมมอบทุนการศึกษาแก่นักเรียนดังกล่าวศึกษาธิการจังหวัดยะลา กล่าวว่าจำนวนเด็กตกหล่น นอกระบบการศึกษาจังหวัดยะลา มีจำนวน 8543 คน ซึ่งข้อมูล ณ วันที่ 5 มีนาคม 2562 ได้ดำเนินการนำประชากรกลุ่มนี้ เข้าสู่ระบบการศึกษาได้แล้ว 100% ต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายโดยเฉพาะสำนักงาน กศน.จังหวัดยะลา ดำเนินการขับเคลื่อนภารกิจนี้อย่างต่อเนื่อง มอบหมายให้ครู กศน.ประจำตำบลบูรณาการทำงานกับทุกภาคส่วนในพื้นที่ในรูปแบบประชารัฐ เคาะประตูบ้านสำรวจประชากรวัยเรียน ที่มีอายุ 3-18 ปี ให้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษาตามนโยบายของพลเอกสุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นำร่องแก้ปัญหาประชากรวัยเรียนอยู่นอกระบบการศึกษาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อสร้างโอกาสส่งเสริมความเสมอภาคเท่าเทียมกันทางการศึกษา จนประสบผลสำเร็จ สร้างความโดดเด่นในเวทีอาเซียน ดังเช่นที่ นายอิชิโร มิยาซาวา ผู้แทน UNESCO ได้แสดงความชื่นชมว่าประเทศไทยเป็นผู้นำภูมิภาคอาเซียนในการดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อย่างจริงจัง เริ่มจากพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้พร้อมขยายผลดึงเด็กที่อยู่นอกระบบการศึกษาทั่วประเทศให้กลับเข้าสู่ระบบได้มากที่สุด ภายใต้หลักการ เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง | เมื่อวันที่ 5 มี.ค. 2562 ที่ห้องประชุม สำนักงาน กศน.อำเภอเมืองยะลา สถาบัน กศน.ภาคใต้ จัดพิธีมอบทุนช่วยเหลือสนับสนุนนักเรียน ตามโครงการจัดการศึกษาสำหรับประชากร | สังคม,การศึกษา,คุณภาพชีวิต | ยูเนสโก,ชายแดนใต้ | https://prachatai.com/journal/2019/03/81417 |
การุณ หมดสิทธิ์ลงชิงส.ส.ดอนเมือง | กรุงเทพฯ-3 ก.พ.48วันนี้ คณะผู้พิพากษาศาลฎีกา มีคำสั่งเพิกถอนสิทธิ์นายการุณ โหสกุล ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. กทม. เขต 14 ดอนเมือง พรรคไทยรักไทย ตามที่นายชัยณรงค์ เทียนมงคล ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง (ผอ.กกต.) กทม. เขต 14 ดอนเมือง ยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนสิทธิ์การรับสมัครเลือกตั้ง โดยปรากฏหลักฐานที่มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.) มีหนังสือสั่งเพิกถอนใบปริญญาบัตร จึงเป็นเหตุให้นายการุณ ขาดคุณสมบัติในการลงสมัครเลือกตั้ง ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ ส.ว. มาตรา 107 เพราะไม่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี นายสมจิตร์ ทองศรี ผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา ในฐานะเลขานุการคณะทำงานเตรียมความพร้อมคดีเลือกตั้ง กล่าวว่า แม้นายการุณอ้างว่าอยู่ระหว่างยื่นอุทธรณ์ต่อมหาวิทยาลัย เพื่อให้ทุเลาการบังคับคำสั่งดังกล่าว แต่มหาวิทยาลัยยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ ศาลจึงถือว่า คำสั่งเพิกถอนสถานภาพและยกเลิกปริญญาบัตรยังคงมีผลอยู่ นายสมจิตร์ กล่าวว่า สำหรับกรณีที่นายการุณต้องการใช้วุฒิปริญญาโทของมหาวิทยาลัยราม คำแหงลงสมัครรับเลือกตั้ง ศาลเห็นว่า การเข้าศึกษาระดับปริญญาโทต้องใช้วุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีรับรอง เมื่อนายการุณไม่มีสถานะเป็นผู้จบปริญญาตรี จึงถือว่า ไม่สามารถเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาโทได้ หลังจากคำตัดสินดังกล่าว ทำให้เขตดอนเมืองเหลือผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส. ประกอบด้วย น.ส.จณิสตา ลิ่วเฉลิมวงศ์ จากพรรคชาติไทย นายสุรศักดิ์ ทรงไตรรัตนกุล พรรคประชาธิปัตย์ นายพลพิสิทธิ์ แจวจันทึก พรรคประชาชนไทย นายไพโรจน์ เกี้ยวทอง พรรคความหวังใหม่ และ นายสุทธินันท์ จันทระ พรรคมหาชน | กรุงเทพฯ-3 ก.พ.48 วันนี้ คณะผู้พิพากษาศาลฎีกา มีคำสั่งเพิกถอนสิทธิ์นายการุณ โหสกุล ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. กทม. เขต 14 ดอนเมือง พรรคไทยรักไทย ตามที่นายชัยณรงค์ เทียนมงคล ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง | สิ่งแวดล้อม | null | https://prachatai.com/journal/2005/02/2602 |
รบ.อินเดียจูงใจให้คนจ่ายภาษี ผุดไอเดียให้สิทธิพิเศษเพียบ | เมื่อ 7 ก.ค.62 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การสำรวจเศรษฐกิจ (Economic Survey) ประจำปี 2019 รวบรวมโดยหัวหน้าท่ีปรึกษาด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลอินเดีย ซึ่งถูกเผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระบุว่า รัฐบาลอินเดียมีแผนจะใช้สิ่งกระตุ้นจูงใจให้ประชาชนเสียภาษีมากขึ้น โดยบุคคลตัวอย่างที่จ่ายภาษีให้รัฐอย่างซื่อสัตย์ดีเยี่ยม 10 อันดับแรกในแต่ละเขต แขวงหรือตำบลในรอบ 10 ปี จะได้รับเกียรติยศพิเศษ โดยชื่อของพวกเขาจะถูกนำไปตั้งเป็นชื่อของอนุสาวรีย์ อาคารสถานที่สำคัญ โรงเรียน ถนน ขบวนรถไฟ และอื่นๆ,ผู้จ่ายภาษียอดเยี่ยมยังจะได้สิทธิพิเศษในการขึ้นเครื่องบินท่ีสนามบินต่างๆ รวดเร็วขึ้น อีกทั้งได้รับสิทธิพิเศษในแบบ นักการทูต ขณะเข้าคิวตรวจเช็กเอกสารการเดินทางท่ีเคาน์เตอร์ตรวจคนเข้าเมือง นอกจากนี้โครงการก่อสร้างต่างๆ ของรัฐบาลยังอาจมีการปักป้ายสัญลักษณ์ ใช้เงินภาษีในการก่อสร้าง (Tax money at work) เพื่อให้ประชาชนรับรู้ชัดเจนว่าเงินภาษีของพวกเขาถูกนำไปใช้อย่างมีคุณค่าเพื่อประโยชน์สาธารณะ,รายงานระบุว่า แนวคิดดังกล่าวมีเป้าหมายสร้างสมาชิกสโมสรพิเศษของผู้จ่ายภาษีอย่างซื่อสัตย์ดีเยี่ยม ไม่เพียงแต่พวกเขาจะได้รับสถานภาพพิเศษทางสังคม แต่ยังมีเกียรติยศด้วย มาตรการนี้จะช่วยเผยแพร่บรรทัดฐานทางสังคมท่ีว่าการจ่ายภาษีอย่างซื่อสัตย์เที่ยงตรงคือ เกียรติยศ ข้อเสนอดังกล่าวได้รับแรงบันดาลใจจาก ทฤษฎีผลักดัน (Nudge Theory) ในวิชาเศรษฐศาสตร์เชิงพฤติกรรม ซึ่งกระตุ้นประชาชนอย่างสุภาพนุ่มนวลให้มีพฤติกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมท่ีดีขึ้น,อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอนี้ไม่ระบุว่าจะใช้เกณฑ์หรือบรรทัดฐานใดในการตัดสินผู้จ่ายภาษีดีเยี่ยม จากข้อมูลของสำนักงานจัดเก็บภาษีของอินเดีย ชาวอินเดียท่ีจ่ายภาษีมีจำนวนน้อยมาก โดยในปีการเงิน 2017-2018 มีบุคคลยื่นเอกสารขอเสียภาษีเพียง 41 ล้านราย จากประชากรทั้งประเทศกว่า 1,300 ล้านคน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะชาวอินเดียมากมายมีรายได้ต่ำเกินกว่าจะจ่ายภาษีได้ แต่ก็มีจำนวนมากได้รับการยกเว้นการจ่ายภาษีด้วยสาเหตุอื่นๆ นอกจากนี้ การทำธุรกิจมากมายยังไร้การควบคุมหรือทำธุรกิจด้วยเงินสดโดยเจ้าหน้าท่ีจัดเก็บภาษีไม่รู้ นอกเหนือจากมีความพยายามเลี่ยงภาษีแพร่หลาย. | รัฐบาลอินเดียจูงใจให้คนจ่ายภาษีมากขึ้น ผุดไอเดียได้สิทธิพิเศษมากมายหลายอย่าง ผู้จ่ายภาษีให้รัฐอย่างซื่อสัตย์ในแต่ละเขต 10 อันดับแรกในรอบ 10 ปี จะถูกนำชื่อไปตั้งอนุสาวรีย์ สถานที่สำคัญ
| ข่าว,ต่างประเทศ | อินเดียจ่ายภาษี,อินเดียกระตุ้นจ่ายภาษี,เสียภาษี,อินเดีย,สิทธิพิเศษคนจ่ายภาษี | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1609343 |
ระเบิดลง สโคลส์ จวก 3 แข้งแมนฯยู ชี้ซื้อเมสซีก็ไม่ดีขึ้น | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 17 ต.ค. ว่า พอล สโคลส์ อดีตกองกลางทีม ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด วิจารณ์แข้งปิศาจแดงอย่าง อเล็กซิส ซานเชซ, โรเมลู ลูกากู และ พอล ป็อกบา พร้อมแสดงความเห็นว่าซื้อ ลิโอเนล เมสซี ซุปตาร์ลูกหนังของบาร์เซโลนามาก็ไม่มีประโยชน์,สโคลส์ กล่าวว่า ผมรู้ว่า อเล็กซิส ซานเชซ มีคุณสมบัตินักเตะที่ดีนะ แต่ผมไม่เคนเห็นเขาเป็นผู้เล่นของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผมเห็นเขาเล่นบอลเห็นแก่ตัวและเล่นเพื่อตัวเองในหลายครั้ง ผมไม่คิดว่าเขาคือนักเตะที่เราต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับค่าเหนื่อยแบบนั้น แต่เราจะเขี่ยเขาทิ้งได้อย่างไรเมื่อเขาได้ค่าเหนื่อยขนาดนี้ ผมรู้สึกว่าการเซ็นสัญญากับเขามันเกิดขึ้นเพียงเพราะหยุดเขาไม่ให้ไปแมนฯซิตี้ ผมรู้สึกว่านักเตะทุกคนที่จะย้ายมาร่วมทีมจะต้องเจอความยากลำบาก แม้กระทั่งถ้าเราเซ็นสัญญากับ ลิโอเนล เมสซี ในตอนนี้ เขาก็ลำบากแน่กับทีมนี้,นอกจากนี้ สโคลส์ กล่าวต่ออีกว่า ผมไม่แน่ใจว่าคุณจะได้แชมป์ลีกด้วยการมีดาวยิงอย่างเขา (โรเมลู ลูกากู) ผมไม่คิดว่าการเล่นนอกเขตโทษของเขาจะดีพอ เขาคือหนึ่งในผู้เล่นของยูไนเต็ดที่ขาดความมั่นใจ ส่วน พอล ป็อกบา เขาโชว์ให้ทุกคนเห็นว่าเขาเจ๋งแค่ไหน ทั้งการผ่านบอลและการเลี้ยงบอล แต่ถัดมา 5 นาที เขาก็ทำเรื่องแย่ๆ | พอล สโคลส์ ตำนานนักเตะของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จวก 3 แข้งปิศาจแดง พร้อมชี้ว่าอดีตต้นสังกัดซื้อ ลิโอเนล เมสซี มาก็ไม่ช่วยอะไร | กีฬา,ฟุตบอลยุโรป | พอล สโคลส์,ลิโอเนล เมสซี,อเล็กซิส ซานเชซ,โรเมลู ลูกากู,พอล ป็อกบา | https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premiereleague/1398148 |
พรรคก้าวไกล-เพื่อไทย ชี้ ภาวะฉุกเฉินไม่ควรลามเกินควบคุมโรค ลิดรอนการรู้ข่าวสาร | การประกาศใช้ภาวะฉุกเฉินไม่แก้ปัญหาการบริหารจัดการที่ไม่รอบคอบ24 มี.ค. พรรคก้าวไกลมีแถลงการณ์สืบเนื่องจากการประกาศใช้พระราชกำหนดบริหารราชการแผ่นดินในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่ารัฐต้องใช้อำนาจในภาวะฉุกเฉินอย่างระมัดระวัง ไม่ใช้อำนาจลิดรอนสิทธิการรับรู้ข้อมูลข่าวสารและเสรีภาพสื่อ และการประกาศภาวะฉุกเฉิน ไม่สามารถแก้ไขการบริหารจัดการและการวางแผนที่ไม่รอบคอบได้ มีใจความดังนี้(1) การใช้อำนาจตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ เป็นเครื่องมือหนึ่งของรัฐบาลเพื่อรักษาความปลอดภัยของประชาชนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างไรก็ดี พรรคก้าวไกลขอย้ำว่า วิกฤตที่ประชาชนกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะว่าก่อนหน้านี้กฎหมายปกติอ่อนแอหรือคณะรัฐมนตรีมีอำนาจน้อยเกินไป แต่หัวใจของปัญหาที่นำมาสู่วิกฤตเกิดจากการที่รัฐบาลขาดยุทธศาสตร์ที่ชัดเจน ไร้ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ การวางแผนอย่างไม่รอบคอบ ขาดการประเมินผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ขาดการเตรียมความพร้อมในการรับมืออย่างเพียงพอ รวมถึงความล้มเหลวในการเปิดเผยข้อเท็จจริงและการสื่อสารกับประชาชน ซึ่งปัญหาเหล่านี้แก้ไม่ได้ด้วย พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ(2) พรรคก้าวไกลเห็นว่า รัฐบาลต้องใช้อำนาจตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ อย่างจำกัดและระมัดระวัง เพื่อมุ่งลดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยจำกัดการพบปะกันของผู้คน ควบคุมการเดินทาง และลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ-สังคมต่อประชาชนที่ต้องกักตัวเองหรือได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19(3) พรรคก้าวไกลเห็นว่า รัฐบาลต้องไม่ใช้อำนาจตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ เพื่อลิดรอนเสรีภาพของสื่อมวลชน เสรีภาพในการแสดงออกของประชาชน และละเมิดสิทธิในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชน เนื่องจากข้อมูลข่าวสารที่รอบด้านมีความสำคัญในช่วงเวลาวิกฤต เพื่อทำให้ประชาชนเท่าทันกับสถานการณ์ที่เป็นจริงและสามารถที่จะตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลได้(4) เนื่องจาก พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ ให้อำนาจรัฐบาลและพนักงานเจ้าหน้าที่ในการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนอย่างกว้างขวาง เช่น อำนาจจับกุม ควบคุมตัว ตรวจค้น ตรวจสอบการสื่อสาร และกำหนดโทษร้ายแรง โดยข้อกำหนด ประกาศ คำสั่ง หรือการกระทำตาม พ.ร.ก. นี้ไม่สามารถตรวจสอบได้โดยศาลปกครอง และพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.ก. นี้ไม่ต้องรับผิดทั้งทางแพ่ง ทางอาญา หรือทางวินัย ดังนั้น รัฐบาลต้องไม่ฉวยโอกาสใช้อำนาจตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ ตามอำเภอใจ แต่ต้องใช้อำนาจอย่างได้สัดส่วนต่อการแก้ปัญหาการระบาดของไวรัสโควิด-19 เท่านั้น และต้องให้อำนาจแก่พนักงานเจ้าหน้าที่เฉพาะเท่าที่จำเป็น เพื่อให้ประชาชนสามารถตรวจสอบได้ว่าพนักงานเจ้าหน้าที่ใช้อำนาจโดยสุจริต ไม่เลือกปฏิบัติ และสมควรแก่เหตุหรือไม่สุดท้าย พรรคก้าวไกลขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขัน ผู้ป่วยกับครอบครัว และผู้ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตครั้งนี้ พวกเราขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแสวงหาทางออกจากวิกฤตไวรัสโควิด-19 ให้ดีที่สุดเราจะฝ่าวิกฤตนี้ไปด้วยกันวันเดียวกันนี้ อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวถึงกรณีการประกาศภาวะฉุกเฉินในวันนี้ว่า การสำคัญของการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ควรมีเป้าหมายเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคเป็นสำคัญ ไม่ควรมีเป้าหมายเพื่อควบคุมสื่อ หรือลิดรอนสิทธิเสรีภาพประชาชน รวมถึงไม่ควรมีขยายขอบเขตของการบังคับใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉินออกไปเพื่อการอื่น ทั้งนี้ หลังใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน หากประชาชนจะร้องเรียนเรื่องหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ น้ำยาฆ่าเชื้อขาดตลาดหรือราคาแพง จะยังสามารถร้องทุกข์กับรัฐบาลได้หรือไม่ จะตกเป็นกลุ่มที่ฝ่าฝืน พ.ร.ก. ฉุกเฉินหรือไม่ (ที่มา: ) | พรรคก้าวไกล เพื่อไทย ส่งเสียง พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ไม่ควรใช้เพื่อลุแก่อำนาจในทางอื่นนอกจากการควบคุมไวรัส ไม่ควรลิดรอนเสรีภาพสื่อ สิทธิการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร | การเมือง,สิทธิมนุษยชน,คุณภาพชีวิต | พรรคก้าวไกล,พรรคเพื่อไทย,ภาวะฉุกเฉิน,พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ,อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด | https://prachatai.com/journal/2020/03/86897 |
เออีซี ยัน ไม่เคยให้ปากคำบรรยินนำเงินลงทุนไปสังสรรค์ไม่ทำการเมือง | ชี้ ข่าวคลาดเคลื่อน ,วันที่ 14 ส.ค. นายพิสิทธิ์ ปทุมบาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด(มหาชน) ได้ชี้แจงว่า นับตั้งแต่มีเหตุการณ์ตามข่าว บริษัทได้ให้ความร่วมมือกับพนักงานสอบสวนมาโดยตลอด แต่ด้วยเหตุที่บริษัทต้องปฏิบัติตาม มาตรา 316 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 ที่ห้ามมิให้บริษัทเปิดเผยข้อมูลของลูกค้า เว้น แต่เป็นการเปิดเผยเพื่อประโยชน์ในการสอบสวน,ดังนั้น เมื่อพนักงานสอบสวน ประสงค์จะสอบปากคำพนักงานของบริษัทคนใด หรือ ประสงค์จะเรียกเอกสาร หรือ วัตถุใด จากบริษัท บริษัทจำเป็นต้องขอให้พนักงานสอบสวน ออกหมายเรียกบุคคล เอกสาร หรือวัตถุ มายังบริษัท เพื่อเป็นหลักฐานว่า บริษัทได้เปิดเผยข้อมูลตามคำสั่งของพนักงานสอบสวน ตามที่กำหนดไว้ใน มาตรา 316 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535,ทั้งนี้ ทางบริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด(มหาชน) ยังได้ส่งเอกสารชี้แจงข้อเท็จจริง ในเรื่องการโอนหุ้น ตั้งแต่แรกว่า เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2557 นายชูวงษ์ ได้มาติดต่อที่บริษัท เปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์กับบริษัท รวม 2 บัญชี ประเภท คือ บัญชี Cash Balanceและ Cash Account ต่อมา วันที่12 ธันวาคม 2557 นายชูวงษ์ ได้โอนหุ้น BBL จำนวน 50,000 หุ้น CPN จำนวน40,000หุ้น และPTTEP จำนวน 60,000หุ้น จากบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง มายังบัญชีของตัวเองที่เปิดไว้กับบริษัท จากนั้น วันที่ 16-19 กุมภาพันธ์ 2558 นายชูวงษ์ ได้โอนหลักทรัพย์ในบัญชีของตัวเองไปยังบัญชีที่เปิดไว้กับ บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน) ซึ่งเป็นบัญชีของนายชูวงษ์ เช่นกัน,บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด(มหาชน) ชี้แจงต่อว่า การโอนหุ้นที่เป็นข่าวอยู่นั้น เป็นการโอนหลักทรัพย์ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2558 พนักงานของนายชูวงษ์ ได้นำใบคำขอถอน/โอน หลักทรัพย์ BBL จำนวน 50,000 หุ้น CPN จำนวน 40,000 หุ้น และPTTEP จำนวน 60,000 หุ้น มามอบให้กับ น.ส.อุรชา วชิรกุลฑล เจ้าหน้าที่แนะนำการลงทุน เพื่อให้ช่วยดำเนินการโอนหลักทรัพย์ดังกล่าว ให้กับ น.ส.ศรีธรา พรหมา โดยแจ้งให้ น.ส.สุรดา เที่ยงธรรม หัวหน้าสายงานปฏิบัติงานตลาด ลงนาม เพื่อส่งให้กับฝ่ายปฏิบัติการหลักทรัพย์ดำเนินการตามเกณฑ์ และระเบียบที่เกี่ยวข้อง หลังจากที่ฝ่ายปฏิบัติการหลักทรัพย์ ได้รับเอกสารดังกล่าว ได้ตรวจสอบเปรียบเทียบลายมือของนายชูวงษ์ ที่ให้ไว้ พบว่า ลักษณะถูกต้องตรงกับตัวอย่างลายมือชื่อที่ให้ไว้กับบริษัท จึงได้โทรศัพท์ติดต่อกับนายชูวงษ์ เพื่อยืนยันการโอนหลักทรัพย์ดังกล่าว แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ในวันที่ 5 มิถุนายน 2558 จึงไม่ได้ดำเนินการ จนเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2558 นายชูวงษ์ ได้โทรศัพท์ติดต่อมายังบริษัทผ่านทาง น.ส.อุรชา จากนั้น น.ส.อุรชาได้โอนสายให้ฝ่ายปฏิบัติการหลักทรัพย์ สอบถามและได้รับการยืนยันว่า เป็นนายชูวงษ์ โดยยืนยันว่า ต้องการโอนหลักทรัพย์ทั้ง 3 รายการ ให้กับ น.ส.ศรีธรา จริง พร้อมกับแจ้งว่า น.ส.ศรีธรา มีความสัมพันธ์เป็นญาติ ทางฝ่ายปฏิบัติการหลักทรัพย์จึงดำเนินการโอนให้ตามความประสงค์,ทั้งนี้ บริษัทได้ทำตามขั้นตอนการโอนหลักทรัพย์ที่กำหนดไว้ครบถ้วนทุกประการ ตามประกาศสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ผ่านมาก่อนที่จะมีการโอนหุ้น บริษัทได้ตรวจสอบทั้งลายมือชื่อว่า ตรงกับที่ลูกค้าเคยให้ไว้หรือไม่ รวมทั้งถ้าหากลูกค้าไม่ติดต่อกลับมายังฝ่ายปฏิบัติการหลักทรัพย์โดยตรง จะต้องดำเนินการติดต่อกลับไปยังลูกค้า เพื่อยืนยันการถอนโอนหลักทรัพย์ แต่ถ้าไม่ได้รับการติดต่อ บริษัทฯ ก็ไม่มีอำนาจที่จะอนุมัติการโอนหลักทรัพย์ได้ จะทำได้เพียงแค่อำนวยความสะดวกในการให้บริการ เท่านั้น.,นอกจากนี้ นายพิสิทธิ์ ปทุมบาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมบริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด มหาชน ยังชี้แจงเพ่ิมเติมว่า ตามที่นายนัฐพล เฉลิมพจน์ เจ้าหน้าที่แนะนำการลงทุนของบริษัท ได้ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ในทำนองว่าพ.ต.ท.บรรยิน เปิดพอร์ตการลงทุนของกลุ่ม วปอ. โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเงิน หรือ ผลกำไรไปสังสรรค์เท่านั้น ไม่ได้เป็นการระดมทุนตั้งพรรคการเมือง ซึ่งผู้ตายลงเงิน 10 ล้านบาท ส่วน พ.ต.ท.บรรยิน ลงเงิน 5 ล้านบาท บริษัทขอชี้แจงว่า ข่าวดังกล่าวคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง และอาจทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย เพราะ นายนัฐพล มิได้ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนตามที่กล่าวไว้แต่อย่างใด จึงใคร่ขอให้ประชาชน ได้รับทราบข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง ด้วย. | หลักทรัพย์เออีซีร่อนแถลง คดีเสี่ยชูวงษ์ทำตามพ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯปี35 เคร่งครัด ระบุผู้ตายโทรศัพท์กลับมาสั่งให้โอนหุ้นจริง ยัน ไม่ได้ให้ปากคำพนักงานสอบสวนบรรยินเปิดพอร์ตร่วมชูวงษ์นำเงินไปสังสรรค์ไม่ได้ตั้งพรรคการเมือง | ข่าว,ทั่วไทย | เออีซี,เสี่ยชูวงษ์,หลักทรัพย์,โอนหุ้น,ชูวงษ์ แซ่ตั๊ง,โทรศัพท์กลับมา,บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด,โอนหลักทรัพย์,พิสิทธิ์ ปทุมบาล,ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด,มาตรา 316,พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535,สอบปากคำ,ออกหมายเรียก,พนักงานสอบสวน,ชี้แจง,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวสังคม,ภูมิภาค | https://www.thairath.co.th/news/local/518343 |
รวบผีพนัน 38 คน คาวงไฮโล พร้อมเงินสดกว่า 3 หมื่น ที่นครปฐม | เอาทรัพย์กันโดยไม่ได้รับอนุญาต นำตัวพร้อมของกลางดำเนินคดีตาม ก.ม. ,เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 61 นายพิรุณโรจน์ นาคดนตรี ป้องกัน จ.นฐ.สนธิกำลังร่วมกับฝ่ายปกครอง อ.ดอนตูม อ.กำแพงแสน อ.บางเลน อ.พุทธมณฑล ทหาร ร้อย รส.กส.ทบ. ตำรวจ สภ.ดอนตูม พร้อมสมาชิก อส. ร่วมกันเข้าตรวจค้นบ้านไม่มีเลขที่ ม.9 ต.ห้วยพระ อ.ดอนตูม จ.นครปฐม ภายในบ้านพบของกลางอุปกรณ์การเล่นพนันไฮโล สามารถจับกุมตัวนักพนัน จำนวน 38 คน ชาย 22 คน หญิง 16 คน พร้อมเงินของกลาง จำนวน 31,200 บาท โดยมี นายธวัช นาคสุก อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 239 หมู่ที่ 5 ต.สามง่าม อ.ดอนตูม จ.นครปฐม รับเป็นเจ้ามือ เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวทั้งหมดส่ง สภ.ดอนตูม เพื่อดำเนินคดี พร้อมตั้งข้อหา ร่วมกันเล่นการพนันโดยไม่ได้รับอนุญาต,นายพิรุณโรจน์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า บ้านหลังดังกล่าวมีการเปิดลักลอบเล่นการพนัน เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงใกล้เปิดฤดูการบอลโลก อีกทั้งเฝ้าระวังไม่ให้มีการลักลอบเล่นการพนันในพื้นที่อีกด้วย นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผวจ.นฐ. จึงได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดนครปฐม เข้าตรวจสอบ ซึ่งจากการเข้าตรวจสอบพบนักพนันนั่งเล่นล้อมวงกันอย่างสนุกสนาน เจ้าหน้าที่จึงสั่งให้หยุดกิจกรรมทั้งหมดและเข้าทำการจับกุม เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ลักลอบเล่นการพนันไฮโล เอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ดอนตูม เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป | เจ้าหน้าที่สนธิกำลังบุกค้นบ้านไม่มีเลขที่ จับกุมนักพนันได้ 38 คน พร้อมอุปกรณ์เล่นไฮโล-เงินของกลางกว่า 3 หมื่นบาท ได้ที่ จ.นครปฐม หลังถูกร้องเรียน เบื้องต้นแจ้งข้อหาลักลอบเล่นพนันไฮโล | ข่าว,ทั่วไทย | ไฮโล,จับนักพนัน,นักพนันไฮโล,ผีพนัน,บุกจับบ่อนไฮโล,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1303112 |
นักวิจัยเผย ไทยติดประเทศมีคนตายจากอาวุธปืนสูงสุดในเอเชีย-มากกว่าสหรัฐ 2 เท่า | ทั้งนี้ยังมีการตั้งข้อสังเกตว่าในไทยยังมีเรื่องขอการหาอาวุธปืนได้ง่าย วัฒนธรรมกลัวเสียหน้า และปัญหาการลอยนวลของผู้ก่อเหตุ22 ก.พ. 2559 เว็บไซต์นิตยสาร Elite+ รายงานว่า ประเทศไทยมีสถิติการเสียชีวิตจากอาวุธปืนสูงที่สุดในเอเชียและมากกว่าในสหรัฐฯ ถึง 2 เท่างานวิจัยจากสถาบันเพื่อสุขภาวะและมาตรชี้วัด มหาวิทยาลัยวอชิงตัน ระบุว่าในปี 2556 ในประเทศไทยมีอัตราคนเสียชีวิต ด้วยปืน 7.48 คน ต่อประชากร 100000 คน ประเทศในเอเชียที่มีระดับสถิติผู้เสียชีวิตด้วยอาวุธปืนรองลงมาคือฟิลิปปินส์ มีอัตราคนที่เสียชีวิตด้วยปืน 4.64 คน ต่อประชากร 100000 คน เทียบกับสหรัฐฯ แล้วมีอัตราคนเสียชีวิตด้วยปืน 3.55 คน ต่อประชากร 100000 คน ทั้งนี้ในสถิติงานวิจัยดังกล่าวยังเผยให้เห็นว่าอัตราผู้เสียชีวิตจากอาวุธปืนในญี่ปุ่นและสิงคโปร์แทบจะไม่มีเลยอาลี ม็อคดัด หนึ่งในทีมนักวิจัยผู้ศึกษาด้านสุขภาวะและระบาดวิทยากล่าวว่า สิ่งที่ทำให้บางประเทศมีอัตราอาชญากรรมที่มีการใช้อาวุธปืนน้อย เนื่องจากมีการให้โอกาสทางการศึกษาแก่กลุ่มวัยรุ่นมากและมีสวัสดิการสังคมที่ดี ทำให้วัยรุ่นเหล่านี้ไม่ไปเข้ากลุ่มแก๊งอาชญากรรมหรือซื้อหาอาวุธปืนมาใช้ โดยในงานวิจัยเดียวกันมีสถิติผู้เสียชีวิตจากอาวุธปืนในแถบอเมริกากลางสูงมาก ซึ่งม็อคดัดกล่าวว่า ในประเทศเหล่านี้มีกลุ่มแก๊งอาชญากรและการค้ายาจำนวนมาก รวมถึงมีกลุ่มวัยรุ่นเข้าร่วมกลุ่มอาชญากรเหล่านี้ด้วยจึงทำให้เกิดความรุนแรงตามมาElite+ ระบุว่าไทยมีกฎหมายอนุญาตให้ครอบครองปืนได้ถ้าหากมีไว้ใช้ป้องกันตัวและป้องกันการบุกรุกทรัพย์สิน แต่การได้ใบอนุญาตครอบครองอาวุธปืนในไทยค่อนข้างง่ายถึงแม้ว่าจะมีการตรวจสอบประวัติและต้องมีอายุถึงเกณฑ์เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ Asian Correspondent รายงานเกี่ยวกับการที่ไทยมีสถิติอาชญากรรมด้วยอาวุธปืนสูงเช่นกัน โดยมีการระบุถึงเรื่องแรงจูงใจส่วนใหญ่ว่าเป็นเรื่องของ การเสียหน้า หรือ ความขัดแย้งทางธุรกิจ ซึ่งมีการขยายประเด็นในเรื่องของ การเสียหน้า ที่ดูเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับในหลายวัฒนธรรมแต่ในไทยดูเหมือนจะเป็นเรื่องจริงจังมาก จนเป็นเรื่องที่น่านำมาถกเถียงอภิปรายและหาวิธีการโต้ตอบการเสียหน้าอย่างเหมาะสมแทนการอ้างว่าการรักษาหน้าตาเป็นพฤติกรรมที่เป็นปกติทั่วไปในวัฒนธรรมนี้ทั้งนี้ในรายงานของ Asian Correspondent นักข่าวอังกฤษที่เคยประจำการในไทยชื่อ แอนดรูว์ ดรัมมอนด์ ผู้ออกจากประเทศไทยพร้อมครอบครัวหลังจากถูกข่มขู่คุกคามกล่าวว่าอีกสาเหตุหนึ่งที่อาชญากรรมในไทยสูงเพราะผู้ก่อเหตุมักจะลอยนวลไม่ต้องรับผิดได้โดยง่าย และกระบวนการสืบสวนสอบสวนของทางการไทยก็ไม่น่าเชื่อถือThe U.S. Is A World Leader In Gun Deaths NPR 08-12-2015Baffling statistics fail to hide Thailands worrying gun crime problem Asian Correspondent 16-02-2016THAILAND HAS A HIGHER RATE OF GUN-RELATED DEATHS THAN THE US Elite+ 20-02-2016 | นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยวอชิงตันสำรวจพบว่าประเทศไทยมีสถิติผู้เสียชีวิตจากอาวุธปืนสูงสุดในเอเชีย ซึ่งนักวิจัยมองว่าประเทศที่มีโอกาสการศึกษาที่ดีและมีสวัสดิการดีจะทำให้อัตราการก่ออาชญากรรมด้วยปืนลดลง | คุณภาพชีวิต,ต่างประเทศ,สิทธิมนุษยชน | การก่ออาชญากรรมด้วยปืน,ปืน,สถิติ,อาชญากรรม | https://prachatai.com/journal/2016/02/64210 |
มาร์ค ยันคน ปชป.หนุนหยั่งเสียงเลือกหัวหน้า ไม่กังวลคู่แข่งชิงเก้าอี้ | อภิสิทธิ์ เผยคุย ชวน หารือแก้ข้อบังคับ ปชป.ให้ที่ประชุมใหญ่เห็นชอบหลังคลายล็อก ชี้ทุกคนหนุนหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรค รับไม่กังวลคู่แข่งชิงเก้าอี้ ปัดเดินสายล็อบบี้หาเสียงคนหนุน หวั่นเกิดปัญหาติดขัดทาง ก.ม.หาก คสช.ไม่ปลดล็อกทั้งหมด ,เมื่อวันที่ 14 ก.ย.61 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า วันนี้ตนได้พูดคุยกับ นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อให้ช่วยแนะนำเรื่องของข้อบังคับพรรค เพราะจะต้องรีบเตรียมเพื่อจะให้กรรมการบริหาร และที่ประชุมใหญ่พรรคให้ความเห็นชอบได้เลย เมื่อมีการคลายล็อก ส่วนเรื่องการเลือกหัวหน้าพรรคด้วยการหยั่งเสียง เป็นระเบียบที่จะออกมาโดยเป็นหลักการกว้างๆ เท่านั้น พยายามดูให้รอบคอบที่สุดเพราะเป็นเรื่องใหม่ แต่ทุกคนก็สนับสนุนจะให้เดินในหลักการนี้ เพื่อให้เป็นไปตามเจตนาที่เราต้องการปฏิรูปและเปิดกว้างจริงๆ อย่างไรก็ตามนายชวนไม่ได้แนะนำอะไรเป็นพิเศษ แต่ได้ย้ำว่าการคัดกรองในกระบวนการประชาธิปไตย เป็นจุดแข็งของพรรคและระบอบประชาธิปไตย เพราะฉะนั้นนายชวนก็สนับสนุนการเปิดกว้าง เพื่อให้การคัดกรองได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น,เมื่อถามถึงรายชื่อบุคคล ที่จะลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ที่ดูเหมือนว่าจะมาแรง เช่น นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนได้คุยกับ นพ.วรงค์ แล้วเมื่อวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยที่ นพ.วรงค์ แสดงความจำนงรับการหยั่งเสียงเป็นหัวหน้าพรรค ซึ่งตนก็ไม่ได้กังวลอะไร เพราะคุยกันอย่างดี ซึ่งทุกคนในพรรคพูดตรงกันว่าอยากเห็นการแข่งขันที่เป็นแบบอย่างที่ดี สร้างสรรค์ และทำให้องค์กรเข้มแข็งขึ้น เมื่อมาแข็งขันกันแล้วใครชนะก็ทำหน้าที่ต่อไป ใครไม่ชนะก็ทำหน้าที่ช่วยพรรค ส่วนที่มีข่าวว่ามีการเริ่มเดินเกมพูดคุยกับสมาชิกพรรคและสาขาพรรค เพื่อล็อบบี้ให้เลือกตัวเองนั้น ตนเห็นว่าคงเป็นการพูดคุยธรรมดาของคนทำงานการเมือง ซึ่งตนไม่ได้กังวลอะไร,เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่า กติกาที่ออกมาใหม่นั้น จะทำให้พรรคเข็มแข็งมากกว่า ที่จะออกมาทำลายพรรค นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนบอกว่าเราทำเรื่องนี้เพราะคิดว่าเป็นแนวทางสากล และแสดงออกถึงความเป็นผู้นำของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะฉะนั้นตนยังมั่นใจว่าคนของพรรคประชาธิปัตย์ ยังต้องการกระบวนการนี้เพื่อให้ประสบความสำเร็จ ความก้าวหน้า และความเข้มแข็งขององค์กร การแข่งขันหรือการกระทำทุกอย่างย่อมมีความเสี่ยงและความไม่แน่นอนอยู่บ้าง แต่เราต้องแสดงออกให้เห็นถึงวุฒิภาวะของพรรคการเมืองที่มีประวัติยาวนานว่า สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่เราสามารถทำได้ และก้าวไปข้างหน้าได้,เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ที่คู่แข่งออกมาเปิดเผยว่า นายชวนไฟเขียวให้ลงชิงหัวหน้าพรรค นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นายชวนไฟเขียวทุกคน เพราะไม่มีใครไปขัดขวางใครเลย และผู้ใหญ่อีกหลายคนในพรรคก็บอกว่า ใครก็ตามที่ทำตามกติกาได้ก็สามารถเข้ามาได้เลย แม้กระทั่ง นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่จะมาลงแข่งขันด้วย ซึ่งตนก็ได้พูดคุยกับนายชวนในเรื่องนี้ ซึ่งนายชวนก็บอกว่ายินดี เพราะฉะนั้นก็ไม่มีอะไรผิดปกติ เมื่อเปิดให้มีกระบวนการนี้แล้ว ถ้าไม่มีการแข่งขัน แล้วจะมีประโยชน์อะไร,เมื่อถามว่า การหยั่งเสียงจะเปิดให้สมาชิกเก่าหยั่งเสียงด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จากการสอบถามหลายฝ่ายก็โน้มเอียงไปในทางที่ว่า ต้องการเปิดให้กว้างที่สุด เพราะไม่ได้มีปัญหาในข้อกฎหมาย เนื่องจากเป็นกระบวนการภายในพรรค และไม่มีกรณีที่จะไปอ้างได้ว่าเป็นการครอบงำหรือยอมให้ครอบงำ ไม่อย่างนั้นพรรคก็ฟังเสียงประชาชนไม่ได้,นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เตรียมเชิญพรรคการเมืองหารือ ในวันที่ 28 ก.ย.นี้ ว่า พรรคยังไม่ได้รับหนังสือเชิญมาอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ความเห็นของพวกเราหากรัฐบาลปลดล็อกไปทั้งหมด ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ขอแค่ให้รัฐบาลเข้มแข็งในการใช้กฎหมายความมั่นคง แต่การไม่ปลดล็อกทั้งหมด ตนเกรงว่าจะเกิดปัญหาติดขัดในการเดินหน้าตามกฎหมายพรรคการเมือง และกฎหมายการเลือกตั้ง ส.ส.เพราะหลายเรื่องจะเกี่ยวพันกัน เช่น บอกให้หาสมาชิกได้ แต่ไม่สามารถจัดกิจกรรมที่จะไปชวนให้คนมาสมัครสมาชิกได้ ก็จะมีความขัดแย้งกันเอง | อภิสิทธิ์ เผยคุย ชวน หารือแก้ข้อบังคับ ปชป.ให้ที่ประชุมใหญ่เห็นชอบหลังคลายล็อก ชี้ทุกคนหนุนหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรค รับไม่กังวลคู่แข่งชิงเก้าอี้ ปัดเดินสายล็อบบี้หาเสียงคนหนุนหวั่นเกิด | ข่าว,การเมือง | อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ,ประชาธิปัตย์,ปชป.,หัวหน้า ปชป.,เลือกหัวหน้าพรรค,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1376174 |
วิกฤติ โควิด-19 เลือดในคลังไม่พอ พระสงฆ์-แม่ชี ออกมาร่วมบริจาคโลหิต | วันที่ 13 เม.ย. 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 5 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พระศรีธรรมวงศาจารย์ เจ้าคณะอำเภอเมืองนครราชสีมา เจ้าอาวาสวัดป่าศรัทธารวม นำพระสงฆ์ และแม่ชี ร่วมบริจาคโลหิต ผ่านวิกฤติโรคระบาด ส่งต่อโลหิตที่ปลอดภัยให้กับผู้ป่วย หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ระบาด ทำให้ประชาชนไม่ต้องการออกจากบ้านรวมถึงการมาบริจาคโลหิตด้วย ทำให้เลือดในคลังไม่เพียงพอพระศรีธรรมวงศาจารย์ เจ้าอาวาสวัดป่าศรัทธารวม กล่าวว่า ในวันนี้ได้เดินทางมาพร้อมพระลูกวัดจำนวน 7 รูป และแม่ชี 1 คน ร่วมบริจาคโลหิต โดยได้รับการประสานจากภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 5 จ.นครราชสีมา สภากาชาดไทย นำรถไปรับ-ส่งถึงวัด ทำให้เกิดความสะดวกสบายในการเดินทางมาบริจาคโลหิตมากขึ้น ซึ่งจุดประสงค์ในวันนี้ก็เพื่อเป็นการทำบุญช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีความต้องการใช้โลหิตในการรักษาหลังจากสถานการณ์โควิด-19 ระบาด ทำให้ประชาชนไม่ต้องการออกจากบ้านเพื่อมาทำกิจกรรมต่างๆ ซึ่งก็ส่งผลกระทบกับการบริจาคโลหิตด้วย จึงขอเชิญชวนพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนร่วมทำบุญด้วยการบริจาคโลหิตช่วยเหลือผู้ป่วย เพราะโลหิตเป็นยารักษาโรคที่สำคัญ ต้องได้มาจากการบริจาคเท่านั้น และมีความต้องการใช้ทุกวันทางด้าน แพทย์หญิงศิริลักษณ์ เพียกขุนทด หัวหน้าภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 5 จ.นครราชสีมา สภากาชาดไทย กล่าวว่า จุดรับบริจาคโลหิตสภากาชาดไทย ทั้งภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 5 จ.นครราชสีมา สภากาชาดไทย ห้องรับบริจาคโลหิตชั้น LG เทอร์มินอล 21 โคราช และห้องรับบริจาคภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา มีการจัดพื้นที่การให้บริการแต่ละขั้นตอน เพื่อรักษาระยะห่าง สร้างความมั่นใจในความปลอดภัยและความสะอาดให้กับผู้บริจาคโลหิตสำหรับท่านใดมีความประสงค์จะจัดกิจกรรมบริจาคโลหิต หรือให้ภาคฯ นำรถไปรับ-ส่ง สามารถติดต่อได้ที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ โทร.0-4493-8938 ต่อ 1303 โดยภาคฯ จะได้นำผู้บริจาคไปบริจาคโลหิตยังภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 5 จ.นครราชสีมา สภากาชาดไทย ต.หนองบัวศาลา อ.เมือง และห้องรับบริจาคโลหิตสภากาชาดไทย ชั้น LG เทอร์มินอล 21 โคราช โดยผู้บริจาคจะได้รับแอลกอฮอล์เจล และหน้ากากผ้าเป็นที่ระลึก. | วิกฤติ โควิด-19 ระบาด ทำเลือดในคลังไม่เพียงพอ ขณะที่ พระสงฆ์-แม่ชี โคราช ออกมาร่วมบริจาคโลหิต เพื่อช่วยส่งต่อให้ผู้ป่วย | ข่าว,ทั่วไทย | โควิด-19,ไวรัสโคโรน่า,ไวรัสโคโรนา,COVID-19,โควิดวันนี้,บริจาคเลือด,บริจาคโลหิต,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1819178 |
จับตาเพจปล่อยภาพคชาชาติ-สุชาติ-50 คนโลกออนไลน์ภัยคุกคามสถาบัน | 26 ก.พ.2559 เว็บไซต์ รายงานว่า ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. กล่าวถึงกรณีที่เพจเฟชบุ๊กการเมืองชื่อดังโพสต์ภาพและข้อความระบุว่า นายคชาชาต บุญดี และนายสุชาติ พรมใหม่ อดีตนายทหารระดับสูง ผู้ต้องหาในคดีหมิ่นสถาบันฯ เครือข่ายนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือหมอหยอง หลบหนีหมายจับไปอยู่อย่างสุขสบายที่ประเทศนิวซีแลนด์ ว่าเพจที่ลงกันอยู่มีข้อมูลสื่อสารสังคมหลากหลาย โดยเฉพาะเพจที่มีการพูดถึงสถาบันฯ ตำรวจสอบสวนกลางเฝ้าระวังอยู่ เพจนี้ก็เป็นหนึ่งในหลายเพจที่เฝ้าติดตามอยู่ตำรวจเฝ้าติดตามคนผลิตประดิษฐ์เนื้อความต่างๆ ลงในโลกออนไลน์ มีประมาณ 50 คน ขณะนี้พิสูจน์ทราบได้แล้ว โดยเฉพาะเพจที่ออกมาโพสต์เรื่องนี้ก็รู้ตัวแล้ว แต่ไม่ขอเปิดเผยว่าเป็นใคร อยู่ในประเทศไทยหรือไม่ เว็บนี้เคลื่อนไหวหลายมิติ เคลื่อนไหวโจมตีทั้งทหาร ทั้งสถาบันพระมหากษัตริย์ เฝ้าระวังอยู่ ข้อมูลที่ลงที่ผ่านมาก็พิสูจน์ทราบได้ พบว่าหลายบุคคลพยายามพรางตัวเองให้ข้อมูลที่ค่อนข้างคลาดเคลื่อน อยู่อีกที่ แต่มีภาพอีกที่หนึ่งปรากฏให้คนเข้าใจผิดว่าอยู่อีกที่หนึ่งเพื่อให้เกิดความสับสนในการสืบสวนติดตามตัว ข้อมูลที่มีเชื่อมั่นว่าภาพที่แชร์ล่าสุดไม่ถูกต้อง ข้อมูลการสืบสวนล่าสุดก็ไม่สอดคล้องกัน สำหรับทั้งสองคนที่ถูกออกหมายจับนั้นเจ้าหน้าที่กำลังพยายามแสวงหาข้อมูลการสืบสวนให้ชัดเจนว่าทั้งสองคนอยู่ที่ไหน แนวโน้มว่าทั้งคู่ออกไปอยู่ต่างประเทศแล้ว แต่ขอสงวนชื่อประเทศไว้ก่อน ที่ผ่านมาพิสูจน์ทราบได้ว่าหลายเว็บเพจให้ข้อมูลผู้ต้องหาคดีต่างๆ ว่าอยู่ที่นั่นที่นี่ ทั้งที่ไม่ได้อยู่จริงเพื่อทำให้เกิดความสับสน โดยเฉพาะเจ้าของเพจจะลงภาพว่าตัวเองอยู่สถานที่ใดสักแห่ง ทั้งที่ไม่ได้อยู่จริงเพื่อสร้างความสับสน พล.ต.ท.ฐิติราชกล่าวพล.ต.ท.ฐิติราชกล่าวว่า เมื่อพบมีการลงข้อมูลที่ผิดหรือคลาดเคลื่อนก็สั่งการให้สืบสวนสอบสวนเพื่อดำเนินคดีแล้ว ขณะนี้ให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีตรวจสอบว่าเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ อย่างไรบ้าง และประสานไปยังกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรีอไอซีที เพื่อดำเนินการปิดเว็บเพจดังกล่าวต่อไป เรื่องนี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.ด้านความมั่นคง กำลังดูอยู่ส่วนการติดตามจับกุมผู้ต้องหาคดีหมิ่นสถาบันฯ รายอื่นๆ เช่นนายตั้ง อาชีวะ ทั้งนี้ คนไทยส่วนใหญ่รักและเทิดทูนสถาบันฯ มีส่วนน้อยมากจริงๆ ที่แตกต่าง โดยคนกลุ่มนี้เราพิสูจน์ทราบได้ เป็นภัยคุกคาม พยายามทำร้ายและทำลาย เป็นเรื่องไม่เหมาะสมอย่างยิ่งผมไม่ยอม กำลังสืบสวนติดตามจับกุม คนพวกนี้ใช้ความคิดตัวเองเป็นใหญ่ พยายามสื่อสารความคิดตัวเองไปสู่สังคมโดยไม่ถูกต้อง ตอนนี้รู้ตัวแล้ว คนทำเพจนี้ หลายคนก็สนใจอยู่ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการสืบสวนสอบสวน ใครทำผิดว่าตามผิด ไม่ละเว้น โดยเฉพาะกลุ่มที่เป็นภัยคุกคามสถาบันฯ ผมไม่ละเว้น ตอนนี้รู้ตัวตนทั้งหมดมี 50 คนที่ยังพยายามสร้างความวุ่นวายในรูปแบบต่างๆ ขัดแย้งกับใครไม่ว่า อย่าล่วงเกินสถาบันฯ ผบช.ก.กล่าว และว่าคนกลุ่มนี้ยังพยายามแสดงออกใช้ข้อความไม่เหมาะสม ส่วนหนึ่งเป็นกลุ่มเดิมๆ คนพวกนี้ติดต่อเชื่อมโยงสัมพันธ์ทางโซเชียลมีเดีย | 26 ก.พ.2559 เว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. | การเมือง | คชาชาติ บุญดี,ภัยคุกคามสถาบัน,เพจดัง,โลกออนไลน์ | https://prachatai.com/journal/2016/02/64301 |
แข้งบลูเวฟถึงญี่ปุ่น โค้ชหมี นำลูกทีมซ้อมทันที | วันที่ 4 ก.ค. ความเคลื่อนไหวของพีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ที่ได้รับการสนับสนุนและร่วมมือจาก สายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เดินทางไปเก็บตัวฝึกซ้อมที่ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 3-8 ก.ค.นี้ โดยจะมีโปรแกรมอุ่นเครื่อง 2 นัด กับทีมโตเกียว ฟูซู แอตเลติค วันที่ 5 ก.ค. ที่สนามฟูซู สปอร์ต เซ็นเตอร์ เวลา 08.00 น. ตามเวลาประเทศไทย และ เพสคาโดลา มาชิดะ วันที่ 6 ก.ค. ที่สนามมาชิดะ ยิมเนเซียม เวลา 08.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ก่อนเดินทางไปทำศึกฟุตซอลสโมสรชิงแชมป์เอเชีย 2017 ที่ประเทศเวีดนาม ช่วงปลายเดือน ก.ค.,ล่าสุด เมื่อเวลา 08.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง) ที่ผ่านมา ขุนพล ฉลามชลโต๊ะเล็ก ซึ่งนำทัพมาโดย บิ๊ก แปม ธัชพัทธ์ เบ็ญจศิริวรรณ ประธานสโมสร, โค้ชหมี รักพลษ์ สายเนตรงาม หัวหน้าผู้ฝึกสอน พร้อมด้วยทีมงานสตาฟฟ์โค้ชและนักเตะรวม 25 คน เดินทางมาถึงท่าอากาศยานนาริตะ ด้วยเที่ยวบิน XJ 600 จากนั้นเข้าพักต่อที่ยูบัน โฮเทล ในเมืองฟูซู และลงซ้อมมื้อแรกทันทีที่สนามซ้อมของทีมโตเกียว ฟูซู แอตเลติค,จากนั้นในเวลา 16.00 น. ซึ่งจะฝึกซ้อมประมาณ 1 ชั่วโมง โค้ชหมี รักพลษ์ หัวหน้าผู้ฝึกสอน กล่าวหลังจากเดินทางมาถึงเมืองฟูซู ว่า ในการซ้อมวันแรก คงจะไม่เน้นซ้อมหนักมาก น่าจะยืดเส้นยืดสาย และฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กับทุกคน หลังเดินทางจากไทยมาญี่ปุ่น ซึ่งใช้เวลาหลายชั่วโมง,แน่นอนว่า เป้าหมายในการเดินทางมาเก็บตัวฝึกซ้อมครั้งนี้ เรามีเวลาไม่มาก แต่ต้องใช้ให้คุ้มค่ามากที่สุด ก่อนการแข่งขันฟุตซอลสโมสรเอเชีย 2017 ปลายเดือนนี้ ที่เวียดนาม ซึ่งผมหวังว่า น้องๆ ทุกคนจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์อันล้ำค่าที่นี่กลับไปใช้ให้เป็นประโยชน์ ทั้งการพัฒนาตัวเอง และพัฒนาทีมมากที่สุด โค้ชหมี กล่าว,ส่วนการพบกับทีมโตเกียว ฟูซู แอตเลติค ในเกมอุ่นเครื่องนัดแรกนั้น โค้ชหมี กล่าวว่า เรามองไปที่เป้าหมายของเราเป็นอันดับแรก คือการหาข้อบกพร่อง และสิ่งที่ต้องแก้ไขในการลงเล่นกับทีมที่มีศักยภาพสูงๆ จากลีกญี่ปุ่นก่อน เรามาที่นี่เพื่อเตรียมทีมปรับปรุงทีม ไม่ใช่มาแข่ง ฉะนั้นเราไม่ได้คำนึงถึงผลการแข่งขันที่จะออกมาว่าจะเป็นอย่างไร แต่อย่างไรก็ตาม ทุกคนที่ลงสนามจะสู้อย่างเต็มที่แน่นอน และเชื่อว่าน่าจะเป็นเกมอุ่นเครื่องที่สนุก และมีคุณภาพอีกเกมหนึ่งครับ | คณะพีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ถึงญี่ปุ่น โค้ชหมี นำลูกทีมยืดเส้นยืดสาย และฟื้นฟูสภาพร่างกาย ก่อนลงอุ่นเครื่อง 2 นัด | กีฬา,ฟุตซอล | พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี,เก็บตัวฝึกซ้อม,ฉลามชลโต๊ะเล็ก,ฟุตซอล,โค้ชหมี | https://www.thairath.co.th/sport/futsal/994165 |
ฟีฟ่า แนะพัทยาถอนฟ้อง ขู่แบนบอลไทย | นายมาร์คุส แคทเนอร์ เลขาธิการทั่วไปของฟีฟ่า ส่งถึงสมาคมฟุตบอลไทย โดยเนื้อหาในหนังสือระบุว่า สมาคมต้องเจรจาให้บริษัทสโมสรฟุตบอลพัทยาถอนฟ้องภายในวันที่ 24 มิถุนายน หากไม่ดำเนินการตามขั้นตอนของฟีฟ่า สมาคมฟุตบอลจะต้องตัดบริษัทสโมสรฟุตบอลพัทยาออกจากสโมสรสมาชิก รวมทั้งให้สมาคมฟุตบอลใช้ธรรมนูญฟีฟ่า จัดการเลือกตั้งนายกสมาคมภายในวันที่ 30 กันยายนทั้งนี้หากไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของฟีฟ่า สมาคมฟุตบอลไทยจะถูกลงโทษตามธรรมนูญข้อ 12 ที่ว่าด้วยสิทธิ์ของสมาชิกฟีฟ่า โดยนายมาร์คุสจะส่งเรื่องต่อไปยังคณะกรรมการฉุกเฉินเพื่อหามาตรการจัดการกับไทยต่อไป ซึ่งอาจจะทำให้สโมสรฟุตบอลของไทย และทีมฟุตบอลไทยจะถูกพักการเป็นสมาชิก ห้ามเข้าร่วมกิจกรรมการแข่งขันที่ฟีฟ่า ที่ให้การรับรองทุกรายการ และภายใต้การรับรองของสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชียหรือเอเอฟซี รวมถึงถูกตัดความช่วยเหลือจากฟีฟ่าในด้านอื่น เช่น การอบรมผู้ฝึกสอน และหลักสูตรการพัฒนาของฟีฟ่าสาเหตุที่ต้องส่งหนังสือถึงสมาคมฟุตบอลฟีฟ่าอ้างว่า การประชุมใหญ่ของสมาคมฟุตบอลที่ไม่สามารถดำเนินการได้เมื่อวันเสาร์ที 15 มิถุนายนที่ผ่านมา เนื่องจากได้รับผลกระทบจากคำสั่งของศาล ซึ่งการดำเนินกิจการใดๆ ของสมาคมฟุตบอลต้องเป็นอิสระปราศจากการแซกแซงจากฝ่ายอื่นๆขณะที่บริษัท สโมสรฟุตบอลพัทยา จำกัด ซึ่งใช้ชื่อสโมสรพัทยา เอฟซี เข้าร่วมแข่งขันในฟุตบอลถ้วย ค.เป็นผู้ร้องศาลจังหวัดมีนบุรี ห้ามสมาคมฟุตบอลนำวาระการลงมติรับรองธรรมนูญฟีฟ่าเข้าสู่การประชุมใหญ่ในวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา พร้องทั้งยังยืนยันไม่ถอนฟ้องสมาคมฟุตบอล และต้องการให้ฟีฟ่าส่งหนังสือชี้แจงมายังบริษัทสโมสรฟุตบอลพัทยาโดยตรง เพื่อจะได้ทำหนังสือชี้แจงไปถึงฟีฟ่าเช่นกันโดยในสัปดาห์หน้าทางฝั่งของ นายอรรณพ สิงโตทอง รองประธานสโมสรชลบุรีจะไปยื่นหนังสือต่อสมาคมฟุตบอลขอให้มีการจัดการเลือกตั้งภายใน 21 วัน และหากสมาคมยังไม่ดำเนินการ นายอรรณพ สิงห์โตทอง จะใช้อำนาจสโมสรสมาชิกจำนวน 2 ใน 3 จัดการเลือกตั้งนายกสมาคมเองทันที | เลขาธิการทั่วไปของฟีฟ่าส่งหนังสือถึงสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย โดยสั่งให้สมาคมเจรจาให้บริษัทสโมสรฟุตบอลพัทยาถอนฟ้องสมาคมฟุตบอล และให้จัดการเลือกตั้งภายใต้ธรรมนูญฟีฟ่าภายในวันที่ 30 กันยายน หากไม่ทำตามไทยจะถูกพักสถานภาพการเป็นสมาชิก | กีฬา | พัทยา,ฟีฟ่า,ฟุตบอล,สมาคมฟุตบอล | https://news.thaipbs.or.th/content/178037 |
แตกตื่นทั้งลำ บินแอร์ฟรานซ์เครื่องยนต์ระเบิดกลางอากาศ (คลิป) | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เครื่องบินโดยสาร แอร์บัส เอ380 ของสายการบินแอร์ฟรานซ์ ซึ่งกำลังเดินทางจากกรุงปารีส เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส ไปยังนครลอสแอนเจลิส ต้องเปลี่ยนเส้นทางและลงจอดฉุกเฉิน หลังจากเครื่องยนต์เครื่องหนึ่งในนั้นได้รับความเสียหายโดยไม่ทราบสาเหตุ จนชิ้นส่วนหลุดจากกันขณะบินอยู่เหนือมหาสมุทรแอตแลนติก,ตามการเปิดเผยของโฆษกสายการบิน แอร์ฟรานซ์ เที่ยวบิน เอเอฟ 66 ลำนี้บรรทุกผู้โดยสาร 496 คน และลูกเรืออีก 24 คน ขณะที่เหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้นที่เครื่องบินกำลังบินอยู่ทางตะวันตกของเกาะกรีนแลนด์ เมื่อวันเสาร์ที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา และต้องเดินทางต่ออีกราว 1 ชั่วโมงด้วยเครื่องยนต์ 3 ตัว ก่อนจะไปลงจอดฉุกเฉินที่สนามบิน กูส เบย์ ในเมืองลาบราดอร์ ทางตะวันออกของประเทศแคนาดาในเวลาประมาณ 15.42 น. ตามเวลามาตรฐานกรีนิช โดยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้แต่อย่างใด,ด้านนายเดวิด เรห์มาร์ อดีตช่างเทคนิคอากาศยานซึ่งเป็นผู้โดยสารบนเที่ยวบินนี้ด้วย บอกกับสำนักข่าว บีบีซี ว่า เหตุการณ์นี้อาจมีสาเหตุจากใบพัดเครื่องยนต์ทำงานผิดพลาด โดยในขณะเกิดเหตุ จู่ๆ เครื่องบินก็กระตุกตามด้วยเสียงดังสนั่น สร้างความแตกตื่นให้แก่ผู้โดยสารบนเครื่อง,คุณได้ยินเสียง ตูม ดังสนั่น ซึ่งแค่แรงสั่นสะเทือนเพียงอย่างเดียวก็ทำให้ผมเชื่อว่า เครื่องยนต์มีปัญหา นายเรห์มาร์กล่าว และยอมรับด้วยว่า ชั่วครู่หนึ่ง เขากังวลว่าปีกเครื่องบินจะเสียหายและทำให้เครื่องบินตก แต่นักบินสามารถทำให้เครื่องกลับมาเสถียรได้ภายใน 30 วินาที เขาดับเครื่องยนต์ที่เสียหายอย่างรวดเร็ว.,ที่มา: ,http://www.bbc.com/news/world-europe-41454712 | เครื่องบินโดยสารแอร์บัส เอ380 ของสายการบินแอร์ฟรานซ์ ต้องลงจอดฉุกเฉิน หลังเครื่องยนต์ขัดข้องกลางอากาศ ขณะบินเหนือมหาสมุทรแปซิฟิกเมื่อวันเสาร์ แต่นักบินนำเครื่องลงจอดได้อย่างปลอดภัยที่แคนาดา | ข่าว,ต่างประเทศ | แอร์ฟรานซ์,เครื่องยนต์ระเบิด,แอร์บัส เอ380,ลงจอดฉุกเฉิน,เครื่องยนต์ขัดข้อง | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1086062 |
มาช้า อดีตนายตำรวจ โวยตกเครื่อง ทำลายทรัพย์สินพัง | วันนี้ (9 ส.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีโลกออนไลน์มีการแชร์คลิปวิดีโอ พร้อมข้อความว่ามีผู้โดยสารของสายการบินแห่งหนึ่งที่มาใช้บริการในท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง และกำลังเดินทางไปสนามบินขอนแก่น เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (8 ส.ค.) แต่เกิดมีเหตุโต้เถียงกับพนักงานต้อนรับภาคพื้น และได้ไปทำลายสิ่งของที่อยู่บนโต๊ะ ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์จนได้รับความเสียหายโดยผู้โดยสารดังกล่าว เป็นผู้หญิง 1 คน และผู้ชาย 1 คน หลังก่อเหตุทุบสิ่งของแล้วได้เดินออกมาจากสนามบิน พร้อมกับระบุว่าผู้ก่อเหตุเป็นนายตำรวจยศ พ.ต.ต.นายหนึ่งในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือสาเหตุเบื้องต้นพบว่าผู้โดยสารทั้งสองคน เดินทางมาที่สนามบินล่าช้า ทำให้ไม่ได้ขึ้นเครื่องบินจึงไปโต้เถียงกับพนักงานต้อนรับชี้ออกจากราชการแล้ว-เอาผิดตามกฎหมายได้ด้านพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่าได้รับรายงานจาก บช.ภ.4 แล้ว จากการตรวจสอบเบื้องต้นชายที่ปรากฏในคลิปวิดีโอดังกล่าวเป็นอดีตข้าราชการตำรวจ เคยดำรงตำแหน่ง ในสังกัดสภ.นามน ภ.จว.กาฬสินธุ์ ต่อมาได้ขอลาออกจากราชการไปเมื่อปี พ.ศ.2557 เพื่อไปทำธุรกิจส่วนตัวขณะนี้หน่วยงานที่ได้รับความเสียหายได้มาร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง พื้นที่เกิดเหตุ เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายกรณีนี้เป็นเรื่องส่วนตัวไม่อยากให้เหมารวมทั้งหมด และอยากให้เป็นอุทาหรณ์ในการใช้อารมณ์เหนือเหตุผล แสดงกิริยาที่ไม่เหมาะสม ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง เพราะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของท่าอากาศยาน หรือความปลอดภัยของการบิน และการทำลายสิ่ง ของอุปกรณ์ของผู้อื่นทำให้เกิดความเสียหาย ถือเป็นความผิดตามกฎหมายบ้านเมืองแจ้งความเอาผิด-ทำทรัพย์สินเสียหายด้านร.ท.สัมพันธ์ ขุทรานนท์ ผอ.ท่าอากาศยานดอนเมือง กล่าวว่า ขณะนี้ได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้โดยสารคนดังกล่าว ที่สถานีตำรวจนครบาลดอนเมือง ตั้งแต่เมื่อวานนี้ กรณีที่ทำให้ทรัพย์สินเสียหายแล้วโดยผู้โดยสารคนดังกล่าว กำลังจะขึ้นเครื่องของสายการบินแอร์เอเชีย ไปยังท่าอากาศยานขอนแก่น แต่เมื่อมาถึงที่เคาน์เตอร์ก่อนขึ้นเครื่องช้า สายการบินได้ทำการปิดเคาน์เตอร์ไปเรียบร้อยแล้วซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนปกติ ทำให้ไม่สามารถขึ้นเครื่องได้ผู้โดยสารคนดังกล่าวจึงโมโหและทำลายทรัพย์สินจนได้รับความเสียหาย | โซเชียลวิจารณ์คลิป ผู้โดยสาร โต้เถียงกับพนักงานต้อนรับภาคพื้นดินของสายการบินแห่งหนึ่งในสนามบินดอนเมือง มีการทำลายอุปกรณ์เสียหาย เหตุไม่พอใจไม่ได้ขึ้นเครื่องเพราะถึงสนามบินล่าช้า ด้านโฆษก ตร.ยืนยันเป็นอดีตนายตำรวจที่ลาออกจากราชการ ชี้เอาผิดตามกม.ได้ | อาชญากรรม | สนามบิน,สนามบินดอนเมือง,ตกเครื่อง,ตำรวจโวยตกเครื่อง | https://news.thaipbs.or.th/content/295310 |
นักเตะทีมชาติไทยคว้าแชมป์ฟุตบอลรายการพิเศษ | การแข่งขันฟุตบอลนัดพิเศษรายการ อีพีแอล มาสเตอร์ส ฟุตบอล ไทยแลนด์ คัพ 2012 ซึ่งเป็นการรวมพลนักเตะระดับตำนานจากสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลิเวอร์พูล ทีมออลสตาร์ และทีมชาติไทยสำหรับการแข่งขันครั้งนี้มีอดีตนักฟุตบอลชื่อดังลงแข่งขันอาทิ ร็อบบี ฟาวเลอร์ จอห์น บาร์นส์ จากลิเวอร์พูล วิฟ แอนเดอร์สัน เดวิด เมย์ แอนดี โคล จากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปิยะพงษ์ ผิวอ่อนเกียรติศักดิ์ เสนาเมือง โดยการแข่งขันครั้งนี้เป็นการแข่งขันแบบพบกันหมด คู่แรก ทีมอีพีแอล ออลสตาร์ เสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด 3-3 ต่อมาคู่ที่ 2 ทีมชาติไทย ชนะ ทีมลิเวอร์พูล 4-2 และคู่ 3 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ ลิเวอร์พูล 5-4 คู่ที่ 4 ทีมอีพีแอล ออลสตาร์ ชนะ ทีมชาติไทย 4-3 ส่วนคู่ที่ 5 ทีมอีพีแอล ออลสตาร์ ชนะ ลิเวอร์พูล 3-2 ส่งผลให้เข้ารอบชิงชนะเลิศแล้ว คู่สุดท้ายเป็นนัดตัดสินว่าใครจะเข้ารอบชิง ปรากฏว่า ทีมชาติไทย ชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-2 ด้านคู่ชิงชนะเลิศ ระหว่างทีมชาติไทย และทีมอีพีแอล ออลสตาร์ ผลออกมาเสมอกันในเวลา 4-4 ทำให้ต้องดวลจุดโทษชี้ขาด โดยทีมชาติ ชนะ ทีมอีพีแอล ออลสตาร์ 4-3 คว้าแชมป์อีพีแอล มาสเตอร์ส ฟุตบอล ไทยแลนด์ คัพ 2012 ไปครองเป็นสมัยแรก | อดีตนักเตะทีมชาติไทย คว้าแชมป์ อีพีแอล มาสเตอร์ส 2012 หลังดวลจุดโทษ ชนะทีมอีพีแอล ออลสตาร์ | กีฬา | จุดโทษ,ทีมชาติไทย,ทีมอีพีแอล ออลสตาร์,อดีตนักฟุตบอล,แชมป์ อีพีแอล มาสเตอร์ส 2012 | https://news.thaipbs.or.th/content/86118 |
จาก 500 เหลือ 10 ต้น ไม้พะยูงในวัดที่นครพนม พระร้อง ผวจ.เร่งแก้ | เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 59 พระอาจารย์ธานุสรณ์ ฐานุสรโณ อายุ 58 ปี พระผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดเวินพระบาทภูกระแต ต.เวินพระบาท อ.เมือง จ.นครพนม ได้นำสื่อมวลชนเข้าตรวจสอบเกี่ยวกับปัญหาลักลอบตัดไม้พะยูง ภายในพื้นที่วัดเวินพระบาทภูกระแตมาหลายครั้ง ภายหลังได้เข้าร้องทุกข์ต่อ นายสมชาย วิทย์ดำรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เพื่อเร่งประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องหาทางป้องกันแก้ไขปัญหา,พระอาจารย์ธานุสรณ์ กล่าวว่า วัดเวินพระบาทภูกระแต ถือเป็นพื้นที่มีการอนุรักษ์ต้นไม้พะยูงที่สำคัญ เนื่องจากเป็นพื้นที่ภูเขาที่มีป่าอุดมสมบูรณ์ และมีต้นไม้พะยูงจำนวนมาก โดยจากการตรวจสอบข้อมูลของวัด พบว่าในช่วง 4 -5 ปีที่ผ่านมา ภายในพื้นที่ของวัด จำนวน 247 ไร่ มีต้นไม้พะยูง จำนวนมากกว่า 500 ต้น บางต้นมีอายุ 200-300 ปี แต่ปัจจุบันพบว่ามีขบวนการค้าไม้พะยูงข้ามชาติ เข้าไปลักลอบตัด จนเหลือเพียงไม่ถึง 10 ต้น,นอกจากนี้ หลายครั้งๆ จะมีกำลังติดอาวุธเข้ามาข่มขู่พระในวัดที่ส่วนใหญ่อายุมากแล้ว จึงไม่กล้าจะออกมาขัดขวาง เกรงว่าจะได้รับอันตราย กว่าจะแจ้งเจ้าหน้าที่มาถึง แก๊งค้าไม้พะยูงได้หลบหนีไปก่อน โดยในช่วงปลายปี 2558 มีต้นไม้พะยูงในวัดขนาดใหญ่ อายุกว่า 300 ปี ถูกตัดโค่นหายไปกลางดึก มาถึงวันนี้ยังจับมือใครดมไม้ได้ และในช่วงเดือนที่ผ่านมา ยังมีการลักลอบเข้ามาตัดทำลายไม้พะยูงอีกถึง 2 ครั้ง,ทั้งนี้ ได้พยายามประสานไปยังทางหน่วยงาน ตำรวจ ทหาร ป่าไม้ มาดูแลแก้ไข จัดเจ้าหน้าที่มาเฝ้าตรวจสอบ ทำให้เงียบไป แต่พอเจ้าหน้าที่ถอนกำลัง ทางกลุ่มขบวนการค้าไม้พะยูงจะมีการเข้ามาลักลอบตัดทันที ซึ่งยืนยันว่าจากพฤติกรรมการกระทำของขบวนการค้าไม้พะยูง เชื่อว่ามีเจ้าหน้าที่รู้เห็น ทำให้ยากต่อการจับกุม และยังไม่สามารถดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดได้ , ,นายสมชาย กล่าวว่า ภายหลังได้รับเรื่องร้องทุกข์ได้ลงพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง ทหาร ตำรวจ ป่าไม้ ผู้นำชุมชน หารือวางมาตรการแก้ไขปัญหา โดยได้สั่งการให้ทาง ตำรวจ ทหาร และผู้นำชุมชน เพิ่มมาตรการเข้มในการตรวจสอบดูแล พร้อมเร่งสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี และตัดวงจรการค้าไม้พะยูงในพื้นที่ ที่สำคัญยอมรับว่าจากการตรวจสอบ มีเจ้าหน้าที่รัฐบางหน่วยงานมีเอี่ยว ทำให้ยากต่อการปราบปรามจับกุม,อย่างไรก็ตาม จะเร่งสอบสวนเชิงลึกเพื่อหาทางป้องกันปราบปรามอย่างจริงจัง ส่วนหนึ่งอาจจะมาจากความขัดแย้งในพื้นที่ และผลประโยชน์มหาศาล ทำให้ไม่เกรงกลัวกฎหมาย แต่อย่างไรก็ตามจะต้องหาทางดำเนินการขั้นเด็ดขาด หากพบเจ้าหน้าที่คนไหน หรือหน่วยงานใดมีเอี่ยว ยืนยันดำเนินการขั้นเด็ดขาดทันที นอกจากนี้ ยังต้องสร้างความร่วมมือในพื้นที่เข้ามาดูแล | พระวัดเวินพระบาทภูกระแต นครพนม สุดทนแฉโจรใจบาปลักลอบตัดไม้ะพยูงจาก 500 ต้น เหลือแค่ 10 ต้น บางต้นมีอายุ 200-300 ปี ขณะที่พระส่วนใหญ่ล้วนสูงอายุ ทำให้ไม่กล้ามีเรื่องกับคนตัดไม้ | null | ลักลอบตัดไม้พะยูง,ลักลอบตัดไม้พะยูงในวัด,วัดเวินพระบาทภูกระแต,ตัดไม้พะยูง,พระอาจารย์ธานุสรณ์ ฐานุสรโณ,แก๊งค้าไม้พะยูง,แก๊งค้าไม้พะยูงข้ามชาติ,วัดอนุรักษ์ต้นไม้พะยูง,ต้นไม้พะยูง,ไม้พะยูง,นครพนม,ข่าว,ทั่วไทย,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/679493 |
ธนาธร ยกทรัพย์สินให้เอกชนจัดการ ลุยการเมืองโปร่งใส แยกขาดธุรกิจ | วันนี้ (18 มี.ค.2562) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ แถลงข่าวกรณีการจัดการทรัพย์สินของตนเอง เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานขั้นต่ำทางกฎหมาย และเพื่อสร้างมาตรฐานจริยธรรมผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองใหม่ ให้มีความโปร่งใสมากขึ้น โดยจะนำทรัพย์สินของตนไปให้บริษัทจัดการทรัพย์สินคือ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ภัทร จำกัดนายธนาธร กล่าวว่า การที่นักธุรกิจเข้ามาทำงานการเมืองไม่ใช่เรื่องใหม่ และในต่างประเทศมีการสร้างมาตรฐานเพื่อให้สาธารณชนไว้วางใจอย่างชัดเจน ซึ่งรูปแบบที่ใช้กันแพร่หลายที่สุด คือรูปแบบของ blind trust หรือการโอนทรัพย์สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองทั้งหมด เข้าไปอยู่ในกองทุน ให้บุคคลที่สามเป็นผู้ดูแล และทำให้ blind คือ เจ้าของทรัพย์สินจะมองไม่เห็น และอำนาจในการบริหารทรัพย์สินอยู่ที่ผู้รับมอบอำนาจแต่เพียงฝ่ายเดียวเท่านั้นนายธนาธร ระบุว่า แม้ในรัฐธรรมนูญปัจจุบันระบุไว้แล้วว่าให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต้องไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนในการถือหุ้นบริษัทที่รับสัมปทานจากรัฐ และรัฐมนตรีจะต้องโอนทรัพย์สินไปให้บริษัทจัดการทรัพย์สินเป็นผู้ดูแล แต่ไม่ได้ระบุให้ต้องทำให้เป็น blind ทั้งนี้ ในต่างประเทศที่เป็นประชาธิปไตยส่วนใหญ่ นักการเมืองจะทำการเอาทรัพย์สินของตนเองเข้าไปอยู่ใน blind trust เป็นมาตรฐานทางศีลธรรมที่ไม่ได้มีการบังคับ นี่คือรูปแบบการจัดการทรัพย์สินที่จะลบข้อครหาทางสังคมได้ ทั้งนี้ ในประเทศไทยไม่มีกฎหมายที่รองรับ blind trust จึงทำเป็น blind trust ในลักษณะเดียวกันไม่ได้ แต่สิ่งที่ตนกำลังจะทำร่วมกับภัทร เป็นนวัตกรรมใหม่ เป็นการทำให้ blind ด้วยความสมัครใจโดยไม่ต้องมีกฎหมายมาบังคับนอกจากนี้ นายธนาธรยังได้ระบุถึงบางส่วนของเงื่อนไขที่อยู่ใน MOU ระหว่างตนกับภัทร คือจะต้องไม่ซื้อหุ้นไทยทุกตัว และถ้าจะลงในหุ้น ต้องจะลงทุนในหุ้นต่างประเทศอย่างเดียว เพื่อจำกัดข้อครหาทุกกรณี ว่านโยบายที่ออกไปนั้นจะเป็นนโยบายที่เอื้อต่อผลประโยชน์ส่วนตน นอกจากนี้ ยังมีเงื่อนไขที่ระบุว่าการได้กรรมสิทธิ์ในการบริหารจัดการทรัพย์สินกลับมาเป็นของตัวเอง จะต้องผ่านไปแล้วสามปี หลังจากพ้นตำแหน่งทางการเมืองเท่านั้นส่วนสาเหตุทึ่เลือกบริษัทภัทร มาเป็นผู้บริหารจัดการกองทุน ก็เพราะว่าที่ผ่านมาตนกับภัทรไม่เคยมีธุรกิจร่วมกัน มีความเป็นมืออาชีพ ได้รับการยอมรับว่าเป็นแถวหน้าของวงการการเงินในประเทศไทย และเชื่อมั่นว่าภัทรจะไม่ยอมจำนนต่อคำสั่งใด ๆ เมื่อตนมีอำนาจนอกจากนี้ นายธนาธรยังได้ประกาศถึงกรณีนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดาของตน จะทำการขายหุ้นที่ถืออยู่ในบริษัทมติชนออกไปในระยะเวลาอันใกล้นี้ พร้อมระบุว่าก่อนหน้านี้ ตนไม่เคยมีส่วนร่วมในการตัดสินใจซื้อหุ้นมติชนของครอบครัวเลย เพียงถูกส่งไปนั่งทำงานเป็นกรรมการบริหารเพียงอย่างเดียว โดยทำหน้าที่อย่างสุจริตมาตลอด และหลังจากตัดสินใจลาออกจากทุกตำแหน่งทางธุรกิจมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว ครอบครัวจึงรุ่งเรืองกิจก็ไม่เคยส่งใครไปนั่งบริหารแทนตนเลยตั้งแต่นั้นมา และที่ผ่านมาก็ไม่เคยทำการแทรกแซงหรือสั่งการใด ๆ แต่เพื่อความโปร่งใสและสบายใจของสังคม นางสมพรก็เตรียมที่จะขายหุ้นออกไปในเร็ว ๆ นี้ส่วนกรณีข้อครหาว่าการทำงานการเมืองของตน จะมีผลประโยชน์กับบริษัทไทยซัมมิทหรือไม่ ตนยืนยันว่ารายได้เกือบทั้งหมดของไทยซัมมิทมาจากคู่ค้าระดับนานาชาติทั้งหมด แทบไม่มีหน่วยงานรัฐเลย และที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ก็ไม่เคยเป็นคู่สัมปทานกับรัฐ ไม่เคยมีแนวคิดที่จะทำธุรกิจกับรัฐ และเชื่อว่าแนวคิดนี้จะดำรงอยู่ต่อไป แต่หากในอนาคตบริษัทไทยซัมมิทจะมีการทำโครงการร่วมกับรัฐ ตนจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับกระบวนการพิจารณาใด ๆทั้งสิ้น และขอให้สาธารณะร่วมกันตรวจสอบอย่างเข้มข้นด้วยโดยหลักการที่นายธนาธรทำร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน คือ นายธนาธรจะโอนสิทธิการบริหารจัดการทรัพย์สินของตนเองไปให้บริษัทจัดการแทน ซึ่งมีเงื่อนไขว่า1.นายธนาธรจะไม่สามารถกระทำการใด ๆ ที่มีลักษณะเป็นการเข้าไปบริหาร ครอบงำ หรือออกคำสั่งเกี่ยวกับการจัดการทรัพย์สินทั้งหมดของตนเองได้2.เพื่อป้องกันปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน บริษัทจะต้องไม่เปิดเผยข้อมูลรายละเอียดให้นายธนาธรหรือบุคคลอื่นใดได้รับทราบ ถึงรายละเอียดการบริหารจัดการทรัพย์สินทั้งหมด3.บริษัทจะต้องไม่เข้าไปลงทุนเป็นหุ้นส่วนในบริษัทที่เป็นคู่ค้ากับรัฐบาล รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานราชการ หรือหน่วยงานรัฐใด ๆอ่าน | หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ลงนามนำทรัพย์สินส่วนตัวทั้งหมดเข้า blind trust โอนทรัพย์สินให้บุคคลที่สามเป็นผู้ดูแล คืนทรัพย์สินหลังจากพ้นตำแหน่งทางการเมืองไปแล้วสามปี | การเมือง | ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ,พรรคอนาคตใหม่,หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่,การจัดการทรัพย์สิน,ทรัพย์สิน,blind trust,ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง,โปร่งใส,ผลประโยชน์,เลือกตั้ง62,เลือกตั้ง2562,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/278492 |
ฟาเบรกัส สุดมั่น บาร์ซา ยังมีลุ้นซิวดับเบิลแชมป์ซีซั่นนี้ | สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 19 เม.ย. ว่า เซส ฟาเบรกัส มิดฟิลด์จอมเทคนิคชาวสแปนิช ออกโรงให้กำลังใจอดีตต้นสังกัด พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่น บาร์เซโลนา ยังมีดีพอสำหรับการลุ้นสองแชมป์ทั้ง ลา ลีกา สเปน และ โกปา เดล เรย์ ในฤดูกาลนี้ ,ทีมยักษ์ใหญ่แห่งแคว้นคาตาลัน กำลังอยู่ในช่วงของการตกหลุมอากาศ หลังจากแพ้ติดต่อกันมาแล้วถึง 3 นัดในขณะนี้ ทำให้ แอตเลติโก มาดริด และ เรอัล มาดริด ขยับช่องว่างคะแนนเข้ามาจี้หายใจรดต้นคอแบบติดๆ ,อย่างไรก็ตาม อดีตดาวเตะเลือดเนื้อเชื้อไขของทีมดังแห่งแคว้นคาตาลัน ได้ออกมาแสดความเชื่อมั่นว่า บาร์ซาจะยังคงมีดีพอในการเดินหน้ากวาดอีก 2 แชมป์ที่เหลือได้อย่างไม่น่าพลาด ,ผมคิดว่าพวกเขา (บาร์เซโลนา) จะคว้าแชมป์ลีกได้ เพราะมีโปรแกรมในเกมที่เหลือง่ายกว่าทั้ง เรอัล มาดริด และ แอตเลติโก มาดริด ซึ่งมันทำให้ผมเชื่อมั่นว่า พวกเขาจะมีดีพอสำหรับการคว้าดับเบิลแชมป์ได้ด้วย แต่ทั้งหมดต้องตั้งอยู่บนเงื่อนไขที่ว่าพวกเขาจะพลาดแบบที่ผ่านมาไม่ได้อีกแล้ว ,สำหรับ บาร์เซโลนา มีคิวออกไปเยือน เดปอร์ติโว ลา คอรุนญา ในวันพุธนี้ พร้อมทั้งการลงฟาดแข้งนัดชิงชนะเลิศกับ เซบีญา ในศึกบอลถ้วยโกปา เดล เรย์ ในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ | เซส ฟาเบรกัส อดีตห้องเครื่องลูกหม้อทีมบาร์ซา ออกโรงเชื่อมั่น อดีตต้นสังกัดยังมีดีพอในการเข้าป้ายคว้าดับเบิลแชมป์มาครองในฤดูกาลนี้ ถึงแม้ขณะนี้จะอยู่ในช่วงฟอร์มตกก็ตาม | null | เซส ฟาเบรกัส,บาร์เซโลนา,ลาลีกา,โกปา เดล เรย์,ดับเบิลแชมป์,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/607787 |
GE แช่แข็งบำนาญลูกจ้าง แต่ CEO มีเงินเดือนสูงกว่าค่าเฉลี่ยกลาง 345 เท่า | และสื่ออื่นๆ ว่าทางบริษัทประกาศแช่แข็งสวัสดิการหลังเกษียณกับลูกจ้างตัวเองในขณะที่เหล่าผู้บริหารระดับสูงมีเงินเดือนรวมราว 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี10 ต.ค. 2562 บรรษัทเจเนอรัลอิเล็กทริก (GE) ประกาศเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมาว่าจะให้มีการตรึงเงินบำนาญเกษียณอายุของลูกจ้าง 20000 คน โดยที่ถึงแม้ว่าลูกจ้างเหล่านี้จะยังคงได้รับเงินในส่วนที่มีการสะสมไว้ก่อนหน้านี้จากส่วนของภาครัฐ แต่พวกเขาจะไม่ได้รับเพิ่มเติมและต้องดิ้นรนหาแผนการในการที่จะมีรายได้มากพอหลังเกษียณเอาเองGE แถลงว่าสาเหตุที่พวกเขามีมาตรการตรึงเงินบำนาญเกษียณอายุในครั้งนี้เพื่อต้องการลดการขาดดุลบำนาญ 8000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้พวกเขายังมีแผนการจะตรึงระบบบำนาญเสริมที่จะเป็นสวัสดิการของคนงาน 700 ชีวิต สำหรับผู้ที่เกษียณอายุแล้วในปัจจุบันจะไม่ได้รับผลกระทบจากการตรึงบำนาญในครั้งนี้ ขณะที่ลูกจ้างใหม่ตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมาก็ไม่ได้อยู่ในระบบบำนาญนี้เรื่องนี้ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์จาก เทเรซา กิลาร์ดุซซี นักเศรษฐศาสตร์แรงงานและผู้อำนวยการศูนย์วิเคราะห์นโยบายเศรษฐกิจชวาร์ตซแห่งเดอะนิวสคูล กิลาร์ดุชชีกล่าวว่าทุกครั้งที่พวกเขาเห็นคนสูญเสียสวัสดิการแบบแผนกำหนดประโยชน์ทดแทน (defined-benefit plans) พวกเขาเล็งเห็นว่าคนเหล่านั้นต้องสูญเสียทุกอย่างที่พวกเขาเสียสละให้ เนื่องจากคนงานในแผนการสวัสดิการหลังเกษียณแบบหนดประโยชน์ทดแทนนี้ได้สละการขึ้นค่าแรงจำนวนมากแต่พวกเขากลับต้องสูญเสียรายได้ที่ถูกรับรองไว้ไปตลอดชีวิต รวมถึงสูญเสียเงินรายได้ในอดีตที่พวกเขาต้องจ่ายให้กับระบบสวัสดิการนี้ไปด้วยเควิน คอกซ์ หัวหน้าแผนกทรัพยากรบุคคลของ GE กล่าวว่า การจะทำให้ GE กลับสู่จุดที่เข้มแข็งได้นั้นต้องมีการตัดสินใจในเรื่องที่ยากจะตัดสินใจหลายเรื่อง และการตัดสินใจตรึงสวัสดิการบำนาญก็ไม่เป็นข้อยกเว้นทั้งนี้ GM เคยกล่าวไว้เมื่อเดือนที่แล้วว่าพวกเขาจะใช้เงิน 5000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในการชำระหนี้สิน แต่นักวิเคราะห์ก็มองว่าการพยายามลดหนี้ของบริษัทก็กลับทำให้เกิดความเสียหายต่อขวัญกำลังใจของคนทำงาน และในขณะที่ลูกจ้างบริษัทต้องถูกตัดสวัสดิการ ซีอีโอของบริษัทอย่างเอช ลอว์เรน คัลป์ จูเนียร์ ก็มีเงินเดือนรวมแล้วถึง 15312165 ในปี 2562 (ราว 466 ล้านบาท) ซึ่งถือเป็นราว 345 เท่าของเงินเดือนโดยเฉลี่ยกึ่งกลางของคนงาน GE จากข้อมูลของบริษัทวิเคราะห์ข้อมูล Equilar Inc. | บรรษัทยักษ์ใหญ่สัญชาติอเมริกัน เจเนอรัลอิเล็กทริกประกาศตรึงเงินบำนาญลูกจ้าง 20000 ชีวิต ทำให้พวกเขาไม่มีสิทธิได้รับสวัสดิการเพิ่มเติมหลังเกษียณอายุ แต่ก็มีข้อวิจารณ์จากองค์กรแรงงาน Labor411 | เศรษฐกิจ,แรงงาน,ต่างประเทศ | บำนาญ,เกษียณ,สวัสดิการ,เจเนอรัลอิเล็กทริก,ความเหลื่อมล้ำ | https://prachatai.com/journal/2019/10/84705 |
ภูเก็ตระดมนักดำน้ำเก็บขยะกว่า 200 โล ใต้ท้องทะเลหาดกะรน | เมื่อเวลา 08.40 น. วันที่ 23 พ.ย.ที่บริเวณชายหาดกะรน ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดกิจกรรม ,เก็บขยะใต้ทะเล ฟื้นฟูอ่าวกะรน, ซึ่งสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 ร่วมกับสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดภูเก็ต เทศบาลตำบลกะรน นักดำน้ำอาสาสมัคร ชมรมเรือหางยาวท่องเที่ยวตำบลกะรน และผู้เกี่ยวข้องจัดขึ้น เนื่องจากมีการนำเสนอคลิปและภาพขยะใต้ทะเลกองทับถมกันเป็นจำนวนมาก บริเวณแหลมไทร ต.กะรน ที่ผ่านมา โดยพบมีปริมาณขยะกระจายอยู่เป็นวงกว้าง เนื้อที่ 400 ตารางเมตร,ทั้งนี้ มีนายเกษม สุขวารี ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดภูเก็ต นายวัชรินทร์ ถิ่นถลาง ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งที่ 6 นายทวี ทองแช่ม นายกเทศมนตรี ตำบลกะรน ผู้นำชุมชน ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม กะตะ-กะรน ชมรมเรือหางยาวท่องเที่ยวตำบลกะรน เครือข่ายอาสาสมัครนักดำน้ำ นักดำน้ำอิสระและประชาชนทั่วไปเข้าร่วม 100 คน โดยใช้เรือหางยาว ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากชมรมเรือหางยาว เพื่อการท่องเที่ยวจำนวน 3 ลำ และเรือศูนย์อนุรักษ์ฯ 1 ลำ พร้อมนักดำน้ำ 25 คน ลงดำน้ำเก็บขยะบริเวณแหลมไทร ซึ่งเป็นจุดที่พบว่ามีขยะกองรวมตัวกันอยู่เป็นจำนวนมาก,นายวัชรินทร์ ถิ่นถลาง ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 กล่าวถึง การจัดกิจกรรมเก็บขยะใต้ทะเลดังกล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมาได้มีสื่อฯ แขนงต่างๆ รายงานข่าวกรณีที่มีผู้โพสต์คลิปและภาพขยะใต้ทะเลจำนวนมาก บริเวณหาดกะรน อ.เมืองภูเก็ต และมีการส่งต่อจนเป็นที่มาของเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับเรื่องความสะอาด ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อแนวปะการัง เพราะว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดภูเก็ต อีกทั้งยังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว เพราะเป็นพื้นที่ที่มีความสวยงามทั้งผืนทราย และน้ำทะเล สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จึงร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำนักดำน้ำลงเก็บขยะใต้ทะเล เพื่อเก็บขยะบริเวณดังกล่าว เนื่องจากเกรงว่า หากมีคลื่นลมแรงกองขยะจะถูกคลื่นซัดกระจัดกระจายเข้าไปยังแนวปะการังจนได้รับความเสียหาย และยากต่อการดำเนินการ อีกทั้งขยะส่วนที่เป็นพลาสติก อาจทำให้สัตว์ทะเลหายากคิดว่าเป็นอาหารและกินเข้าไป,หลังจากนักดำน้ำลงดำเก็บขยะจุดที่มีปัญหา โดยใช้เวลา 2 ชั่วโมง ได้นำขยะกลับขึ้นฝั่ง เพื่อคัดแยกประเภท ปรากฏว่าได้ขยะจำนวน 20 ถุง ถุงละ 20 กิโลกรัม รวม 200 กิโลกรัม อาทิ เศษอวน กระป๋อง เศษเสื้อผ้า ร่มชายหาด ช้อนส้อมพลาสติก ถุงพลาสติก เครื่องมือประมง เป็นต้น จากการพูดคุยกับนักดำน้ำ คาดว่าในครั้งนี้จะสามารถจัดเก็บขยะขึ้นมาได้อย่างน้อย 80% ของปริมาณขยะที่มีอยู่ในทะเล และหลังจากนี้ในวันที่ 3 ธ.ค.จะร่วมกับเทศบาลตำบลกะรน-เครือข่ายนักดำน้ำและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดกิจกรรมดำน้ำเก็บขยะ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม นายวัชรินทร์ กล่าวย้ำ,ขณะที่นายไพรัช สิมมา หนึ่งในเครือข่ายนักดำน้ำกล่าวถึงการลงดำน้ำเก็บขยะบริเวณแหลมไทร ระดับความลึก 3-5 เมตร ว่า ภาพรวมพบขยะส่วนหนึ่งจะติดอยู่ในแนวปะการัง แต่การลงดำน้ำครั้งนี้ สามารถจัดเก็บได้เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งที่ผ่านมา กลุ่มนักดำน้ำได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงดำเก็บขยะอยู่เป็นประจำ ขยะที่พบหลากหลาย เช่น ขวดพลาสติก เศษแห อวน เศษเสื้อผ้า เป็นต้น ในส่วนปะการัง ขณะนี้ยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก และยังมีความสวยงาม แต่หากปล่อยไว้จะมีปัญหาได้ และฝากทุกคนช่วยกันดูแลไม่ทิ้งขยะลงทะเล ไม่ว่าจะเป็นขยะจากบนฝั่งหรือขยะจากเรือท่องเที่ยวต่างๆ,ด้านนายทวี ทองแช่ม นายกเทศมนตรีตำบลกะรน กล่าวว่า กิจกรรมในครั้งนี้เป็นการบูรณาการความร่วมมือของหน่วยงาน ทั้งภาครัฐ-เอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและประชาชนในพื้นที่ให้หันหน้าเข้าหากัน เพื่อดูแลทรัพยากรของจังหวัดภูเก็ต แต่ที่สำคัญ คือ การปลูกจิตสำนึกให้ทุกคนช่วยกันดูแลทรัพยากรให้ดีสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างยาวนานที่สุดที่จะทำให้จังหวัดภูเก็ตของเราเป็นไข่มุกอันดามันที่ยังงดงามตลอดไป,นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การร่วมมือกันครั้งนี้ ถือเป็นเรื่องที่ดี ทั้งนี้เพื่อพิทักษ์รักษาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งให้อยู่คู่ประเทศไทยตลอดไป และเป็นการแสดงให้เห็นถึงพลังความร่วมมือจากทุกฝ่ายในการร่วมกันทำความดีเสมือนเป็นกลไกสำคัญ ในการคุ้มครองปกป้องทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันเป็นสมบัติที่มีค่ายิ่งของชาติให้คงอยู่ให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนคนรุ่นหลัง ซึ่งเป็นอนาคตของชาติสืบไป | ภูเก็ต ระดมนักดำน้ำเก็บกวาดขยะใต้ท้องทะเลหาดกะรน ช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหายาก ไม่ให้เผลอกินขยะเป็นอาหาร และทำลายแนวปะการัง ผลการร่วมพลังปกป้องทรัพยากรทางทะเล กว่า 2 ชั่วโมง เก็บขยะได้มากถึง 200 กิโลกรัม | null | ภูเก็ต,ภูเก็ตเก็บขยะ,ดำน้ำเก็บขยะ,เก็บขยะใต้ทะเล,ระดมเก็บขยะ,ใต้ทะเล,หาดกะรน,นักประดาน้ำ,ขจรเกียรติ รักพานิชมณี,รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต,สัตว์ทะเลหายาก,พระราชกุศล,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวสังคม,ภูมิภาค,ทั่วไทย | https://www.thairath.co.th/content/541390 |
รวบแล้วโจ๋ 19 มือแทงหนุ่มวิศวะดับกลางกรุง หนีกบดานป่าเมืองคอน | จากกรณีคนร้ายใช้อาวุธมีดแทงนายนเรศ หวังทางมี อายุ 33 ปี หนุ่มวิศวกร บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งเสียชีวิต ขณะจอดรถจักรยานยนต์ รอรับแฟนสาว หน้าหมู่บ้านดัง ใกล้แยกรัชดาฯ-ลาดพร้าว เมื่อเย็นวันที่ 25 พ.ค.โดยกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายได้อย่างชัดเจน ขณะหลบหนีขึ้นรถเมล์ปรับอากาศไปลงย่านแฮปปี้แลนด์ ,กะซวกอกดับหนุ่มวิศวกร ต่อหน้าแฟน-กลางชุมชน,ล่าสุดเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 4 มิ.ย. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รรท.ผบช.น.) เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สมชาย นิตยบวรกุล รอง ผบช.น. ร่วมกับพ.ต.อ. เชาว์ศิลป์ บุญประดิษฐ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช จับกุม นายวรัญญู หรือวิว ชูมณี อายุ 19 ปี ผู้ต้องหา ขณะหลบซ่อนตัวอยู่ในป่าบนเทือกเขาหลวง ท้องที่หมู่ 2 อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช เบื้องต้นนายวรัญญู สารภาพมูลเหตุจูงใจในการกระทำผิดเพื่อประสงค์ต่อทรัพย์,มีรายงานว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังนำตัวผู้ต้องหามา กทม. เพื่อสอบสวนดำเนินคดี โดยจะแถลงผลการจับกุมในวันที่ 5 มิ.ย. เวลา 14.00 น. ที่ สน.พหลโยธิน ก่อนคุมตัวทำแผนประกอบคำรับสารภาพ,อย่างไรก็ตามระหว่างถูกควบคุมตัวไปสอบสวนที่ กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช นายวรัญญู ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่า เป็นคนลงมือใช้อาวุธมีดแทงนายนเรศ โดยวันเกิดเหตุต้องการจะยืมรถจักรยานยนต์ของผู้ตายเพื่อขี่ไปหาหมอ แต่ผู้ตายขัดยืนไม่ยอมให้ จึงชักอาวุธมีดปลายแหลมที่พกติดตัวมาจ้วงแทงนายนรเศ ไปจำนวน 1 ครั้งจนล้มฟุบเสียชีวิต แล้วพยายามจะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีแต่ถูกพลเมืองดีเข้าช่วยเหลือจึงทิ้งรถจักรยานยนต์ วิ่งหลบหนีไปทันที,พร้อมระบุหลังเกิดเหตุได้หลบหนีมาที่บ้านเกิด พื้นที่หมู่ 2 ต.ลานสกา อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราชในเช้าวันรุ่งขึ้น และเล่าความจริงกับญาติ ซึ่งญาติได้ให้ตนเข้ามอบตัว แต่ตนไม่ยอมมอบตัวจึงหลบหนีไปซ่อนตัวบนภูเขาสูงภายในหมู่บ้านจนกระทั่งมาถูกตำรวจ. | รวบได้แล้วโจ๋ 19 มือแทงหนุ่มวิศวะดับกลางกรุง หนีกบดานป่าในอ.ลานสกา เมืองคอน สารภาพหวังชิงจยย. ตำรวจหิ้วตัวมากทม. ก่อนแถลงข่าว คุมตัวทำแผนวันอาทิตย์นี้ | null | แทงวิศวะดับ,แทงหนุ่มวิศวะ,ฆ่าวิศวกร,แทงวิศวะดับกลางกรุง,จับแล้วมือแทงวิศวะ,มือแทงวิศวะหนีกบดานเมืองคอน,นเรศ หวังทางมี,วิว ชูมณี,ลานสกา,กบดานเมืองคอน,หนีกบดานนครศรีธรรมราช,ศานิตย์ มหถาวร,ข่าวอาชญากรรม,ข่าว,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/631899 |
ศุภชัย ดันไทยสู่ฮับไอซีที | จังหวะเหมาะนั่งนายกสมาคมโทรคมฯ,ศุภชัย เผยนั่งตำแหน่งนายกสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย หวังช่วยดันไทยเป็นฮับไอซีที สอดรับเปิดเสรีเออีซีปลายปีนี้ เตรียมหารือเอกชนในสมาคม เสนอแผนเต็มรูปแบบช่วยผลักดันสุดกำลัง เชื่อทำแผนเสร็จในวาระ 2 ปี พร้อมผนึกเอไอเอส-ดีแทค ดันประมูล 4 จีให้เร็วที่สุด,นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร (ซีอีโอ) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในฐานะนายกสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์คนล่าสุด เปิดเผยว่า การเข้าแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งนายกสมาคมโทร-คมนาคมฯในครั้งนี้ นับเป็นโอกาสเหมาะในการช่วยผลักดันโครงสร้างไอซีทีของประเทศ สอดรับกับนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอล (Digital Economy) ซึ่งถือเป็นนโยบายหลักของรัฐบาล,ผมถือว่านี่คือโอกาสทอง ในการผลักดันให้ไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลาง (ฮับ) ไอซีทีแห่งภูมิภาคอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งจะรวมทั้งการเป็นศูนย์กลางด้าน,ดาต้าเซ็นเตอร์, คลาวด์คอมพิวติ้ง, เวนเจอร์แคปปิตอล (ผู้สนับสนุนด้านการเงิน) และแรงงานด้านไอซีที ซึ่งแผนทั้งหมดจะต้องรวมถึงการสร้างโครงข่ายโทรคมนาคมใต้น้ำเชื่อมต่อแบบครบวงจร หากไม่ทำตอนนี้ อานิสงส์จากนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอลของไทยก็จะตกเป็นประโยชน์แก่สิงคโปร์อีกครั้ง เนื่องจากปัจจุบันสิงคโปร์ถือเป็นฮับไอซีทีในภูมิภาคนี้อยู่ การใช้งานทั้งหมดก็จะไหลไปที่สิงคโปร์เหมือนเดิม ทำให้ไทยสูญเสียโอกาสครั้งแล้วครั้งเล่า,นายศุภชัยกล่าวว่า ด้วยนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอลของรัฐบาลและกำหนดการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ที่กำลังจะมาถึงในสิ้นปีนี้ รวมทั้งการใช้งานอินเตอร์เน็ตของผู้บริโภคในประเทศไทยที่ติดอันดับต้นๆของโลก ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานเฟซบุ๊ก (face book), ยูทูบ (YouTube) ตลอดจนสภาพภูมิประเทศ ซึ่งอยู่ใกล้ทั้งเมียนมาและจีน จะทำให้ไทยมีโอกาสเป็นฮับไอซีทีได้ไม่ยาก เพียงแต่ต้องมีการทำแผนที่ชัดเจนและมีการร่วมมือกันอย่างเข้มข้นระหว่างภาครัฐและเอกชน ซึ่งในฐานะนายกสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศ ไทยฯก็พร้อมที่จะผลักดันเต็มที่ โดยหวังว่าภายในวาระของตนคือระยะ 2 ปีจากนี้ จะสามารถทำคลอดแผนขับเคลื่อนที่เป็นรูปธรรมเสนอต่อรัฐบาลได้,ส่วนเรื่องการผลักดันการประมูลใบอนุญาต 4 จี ซึ่งตามกำหนดจะมีขึ้นในเดือน พ.ย.นี้นั้น ในฐานะสมาคมฯ ก็เตรียมที่จะหารือกับผู้ประกอบการหลักอีก 2 ราย ประกอบด้วย บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส และบริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค เพื่อหาจุดยืนร่วมกันในการผลักดันให้การเปิดประมูล 4 จีเกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด และไม่ควรที่จะยืดเยื้อออกไปอีก,อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวในฐานะซีอีโอของทรู มองว่าการเปิดประมูลไม่ควรกีดกันรายใดรายหนึ่ง จึงควรเปิดประมูล 3 ใบอนุญาต ใบอนุญาตละ 10 MHz หลังดีแทคและ กสท โทรคมนาคมยินยอมที่จะให้คลื่นมาประมูลเพิ่มอีก 5 MHz รวมเป็น 30 MHz แต่แม้ที่สุดจะเปิดประมูลเพียง 2 ใบ ทรูก็จะสู้เต็มที่ เพราะถึงมีบริการ 4 จีอยู่แล้ว แต่คลื่นก็ไม่เพียงพอ เพราะบริการ 4 จีต้องใช้คลื่นอย่างน้อย 20 MHz ทางทรูจึงต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ได้คลื่นเพิ่ม. | ศุภชัย เผยนั่งตำแหน่งนายกสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย หวังช่วยดันไทยเป็นฮับไอซีที สอดรับเปิดเสรีเออีซีปลายปีนี้ เตรียมหารือเอกชนในสมาคม เสนอแผนเต็มรูปแบบช่วยผลักดันสุดกำลัง เชื่อทำแผนเสร็จในวาระ 2 ปี | null | ศุภชัย เจียรวนนท์,ดาต้าเซ็นเตอร์,คลาวด์คอมพิวติ้ง,เวนเจอร์แคปปิตอล,ไอซีที,เฟซบุ๊ก,ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน,ไทยรัฐฉบับพิมพ์ | https://www.thairath.co.th/content/510358 |
อนค. เปิดตัวเลขเลิกจ้าง สูงกว่าช่วงวิกฤต ศก.ปี 52 ถึงร้อยละ 24 | วันนี้ (4 ต.ค.2562) น.ส.วรรณวิภา ไม้สน และนายสุเทพ อู่อ้น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ แถลงข่าวกรณีปัญหาจากภาวะเศรษฐกิจ ส่งผลต่อผู้ใช้แรงงาน จากเศรษฐกิจโลกกำลังเข้าสู่สภาวะถดถอยรุนแรง ปัญหาการเลิกจ้างงาน การไม่ปรับค่าแรง และปัญหาการจ้างงานที่ไม่เป็นธรรม ที่ขยายตัวในปี 2562 พร้อมเรียกร้องรัฐบาลออกมาตรการให้ความช่วยเหลือทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวน.ส.วรรณวิภา กล่าวว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจชะลอตัวอย่างรุนแรงในปี 2562 นี้ ไม่ว่าจะเป็นภาคส่งออก ท่องเที่ยวหรืองานด้านบริการ ส่งผลให้ไม่มีการปรับเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำ ขณะที่ผู้ใช้แรงงานทั่วประเทศกำลังประสบปัญหาความไม่มั่นคงในการทำงาน จากข้อมูลที่ผู้ประกันตนตามสิทธิประกันสังคม ขึ้นทะเบียนขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานจากสาเหตุการเลิกจ้าง เดือน ม.ค. - ก.ค.2552 ที่เกิดวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เปรียบเทียบกับปี 2562 ในช่วงเดือนเดียวกัน พบว่าปี 2562 มีผู้ถูกเลิกจ้างสูงกว่าปี 2552 ถึง 24% โดยในปี 2552 มีผู้ถูกเลิกจ้างจำนวน 152751 คน ในขณะที่ปี 2562 มีผู้ถูกเลิกจ้างจำนวน 190002 คนนอกจากนี้ น.ส.วรรณวิภา ยังระบุข้อมูลจาก สำนักงานสถิติแห่งชาติ ว่าในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2552 มีอัตราผู้ว่างงาน 436000 คน ส่วนปี 2562 มีผู้ว่างงานถึง 490000 คน ซึ่งมากกว่าช่วงวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ถึง 54000 คน สถานการณ์เช่นนี้ พบว่ามีการเลิกจ้างอย่างต่อเนื่องในหลายกรณี และอาจเป็นการเลิกจ้างโดยละเมิดกฎหมายแรงงาน เช่น เลิกจ้างโดยไม่แจ้งล่วงหน้า ไม่จ่ายค่าชดเชย หรือสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ที่ลูกจ้างควรได้รับ นอกจากนี้ ยังมีการปรับเปลี่ยนสภาพการจ้างงานที่ขัดกับเงื่อนไขการจ้าง หรือ ลดทอนสวัสดิการของแรงงาน เป็นต้นด้าน นายสุเทพ ระบุว่า ภาครัฐเป็นตัวอย่างของการไม่คุ้มครองสิทธิแรงงาน ไม่ปฏิบัติตามแนวทางการจ้างงานที่มีคุณภาพ เห็นได้ว่าการส่งเสริมการจ้างงานแบบเหมาช่วง เหมาค่าแรง ซึ่งจ่ายค่าแรงที่ต่ำกว่าค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นการจ้างงานที่ต่ำกว่าพื้นฐาน มีการเลิกจ้างจากภาครัฐอย่างไม่เป็นธรรม โดยอ้างถึงงบประมาณ นอกจากนี้ การเลิกจ้างยังส่งผลถึงแรงงานนอกระบบ กลุ่มอาชีพอิสระ ซึ่งมีอำนาจในการต่อรองที่น้อยอยู่แล้วกมธ.ที่เกี่ยวข้อง เสนอแนวทาง 3 ระยะสำหรับการผลักดันประเด็นดังกล่าว ในส่วนของคณะกรรมาธิการการแรงงาน และคณะกรรมาธิการการสวัสดิการสังคม สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมี ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ ทำหน้าที่เป็นประธาน กมธ. และรองประธาน กมธ. นั้น มีรายงานว่า มีการผลักดันเรื่องนี้ทั้งแนวทางระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ดังนี้ผลักดันการปฏิรูปภาษี ทำลายกลุ่มทุนผูกขาด สร้างรัฐสวัสดิการถ้วนหน้าครบวงจร จากครรภ์มารดาถึงเชิงตะกอน เพื่อเพิ่มอำนาจให้ประชาชนอย่างแท้จริง | ส.ส.อนาคตใหม่ เปิดตัวเลขแรงงานถูกเลิกจ้าง และสถิติคนว่างงานปี 2562 เข้าขั้นวิกฤต เหตุสูงกว่าปี 2552 ช่วงวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ เหตุ เศรษฐกิจแย่ พร้อมจี้รัฐคุ้มครองแรงงาน เสนอแนวทางระยะสั้น กลาง ยาว | สังคม | ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,แรงงาน,ปัญหาเศรษฐกิจ,พรรคอนาคตใหม่ | https://news.thaipbs.or.th/content/284857 |
ปิยบุตร ชี้ กกต. แจกใบส้มธนาธรยัน ทำไม่ได้ เหตุกฎหมายกำหนดชัด | วันที่ 23 เม.ย. นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แถลงท่าทีหากคณะกรรมการการเลือกตั้งจะแจกใบส้มให้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค ว่า ตามขั้นตอนของกฎหมายไม่สามารถจะทำได้ไม่ว่าจะเป็นในขั้นตอนใด ที่จะแสดงให้เห็นว่าหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่มีคุณลักษณะต้องห้ามและขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส. เนื่องจากเลยช่วงระยะเวลาของการตรวจสอบคุณสมบัติเพราะผ่านการเลือกตั้งมาแล้ว และตอนนี้ยังไม่มีการประกาศรับรองให้นายธนาธรเป็น ส.ส. อย่างเป็นทางการ,เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ระบุอีกว่า มีแนวทางเดียวที่ กกต. จะสามารถดำเนินการแจกใบเหลือง ใบแดง หรือใบส้ม ได้ คือ การให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าเป็นการกระทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นไปด้วยความสุจริตเที่ยงธรรม ซึ่งจะมีการตั้งข้อสงสัยภายหลังว่า เรื่องของการตรวจสอบคุณสมบัติของ ส.ส. ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกระทำให้การเลือกตั้ง ไม่เป็นไปด้วยความสุจริตเที่ยงธรรม และเป็นคนละเรื่องกัน แต่หาก กกต. ยืนยันจะแจกใบส้ม หรือชี้มูลความผิดในวันนี้ ต้องเรียกให้นายธนาธร เข้าชี้แจงตามกระบวนการไต่สวน แต่ส่วนตัวยังมั่นใจว่า ไม่สามารถทำได้อย่างแน่นอน เพราะจะผิดกระบวนการขั้นตอนที่กำหนดไว้ตามกฎหมายทั้งหมด และจากการกระทำของ นายธนาธร เรื่อง การโอนหุ้นบริษัทวีลัค มีเดีย ก็ไม่ปรากฏความผิด ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนที่ถูกต้อง และมีหลักฐานยืนยันชัดเจน จึงไม่เข้าข่ายขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส. และไม่มีคุณลักษณะต้องห้ามตามที่กลุ่มคนบางกลุ่มพยายามจะยัดเยียดให้นายธนาธร พร้อมยืนยันว่า การเดินทางกลับจากจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อมาจัดการเรื่องโอนหุ้น มีหลักฐานชัดเจน และสิ้นสุดตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม แล้ว จากนี้สามารถนำหลักฐานทุกอย่างมาดีเบต และตอบทุกประเด็นที่สื่อบางสำนักพยายามเสนอทำให้สังคมเกิดความสับสน ทั้งเรื่องเวลา, ชื่อเจ้าของบัตรอีซีพาส และระยะเวลาการเดินทางจากจังหวัดบุรีรัมย์ถึง กรุงเทพฯ,ขณะเดียวกัน นายปิยบุตร ยังแสดงความเป็นห่วงและเห็นใจ การทำงานของ กกต. ชุดนี้ ที่พยายามทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปด้วยความสุจริตยุติธรรม แต่ขอให้พิจารณาในเรื่องที่มีผู้มาร้องเรียนกับนายธนาธร และพรรคอนาคตใหม่ อย่างเป็นธรรม เพราะเกรงว่า กกต. ที่เป็นองค์กรอิสระจะถูกมองว่ามีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดครอบงำการทำงาน หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ พร้อมขอให้ กกต. แสดงจุดยืนในฐานะองค์กรอิสระทำงานตามกระบวนการที่โปร่งใสยุติธรรม | ปิยบุตร ชี้ หาก กกต.จะแจกใบส้ม ธนาธร ยัน ไม่สามารถทำได้ เพราะกฎหมายกำหนดไว้ชัด ทำได้เพียงชี้มูลความผิด แต่ส่วนตัวเชื่อธนาธร ทำทุกอย่างตามขั้นตอนกฎหมาย ขอ กกต. ให้ความเป็นธรรม | เลือกตั้ง | เลือกตั้ง62,กกต.,แจกใบส้ม,ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ,ปิยบุตร แสงกนกกุล,ศาลรธน.,เลือกตั้ง | https://www.thairath.co.th/news/politic/1551015 |
วิ่งรอบโลก ปั่นทั่วไทย 23/06/62 | สุขภาพดี ไม่มีขาย อยากได้ต้องออกกำลัง ซึ่ง มีนักวิ่งเหยียบครึ่งหมื่น ไปร่วมจารึกความประทับใจบนผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติสไตล์ชนบทขนานแท้แบบ Original ปราศจากสิ่งใดเจือปน,ทำเอาเจ้าของงานที่ปลุกปั้นงานนี้จากรายการวิ่ง Cross Country เล็กๆ ชมสวนมวลไม้ในวรรณคดี ที่ถือกำเนิดขึ้นมาเมื่อ 31 ปีก่อน จนเติบใหญ่กลายมาเป็นงานวิ่งเทรลที่ทุกคนใฝ่ฝันจะมาร่วมแจมให้ได้สักครั้ง อย่าง อ.ณรงค์ เทียมเมฆ ยิ้มแก้มปริด้วยความภาคภูมิใจ,โดยเจ้าตัวขอเชิญชวนเพื่อนๆชาวปอดเหล็กผู้นิยมการวิ่งเทรลทั้งหลายล่วงหน้าไว้เลยว่าพบกันใหม่กับ KPTC 2020 ปีที่ 32 แน่นอน ในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนมิถุนายน 2563 รับรองคุณภาพการจัดงานยังคงคับแก้วไม่มีผิดหวังกันเหมือนเดิม,พูดถึงเรื่อง การวิ่งเทรล วันก่อนเห็นข่าว ลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีคนใหม่ (แต่หน้าเก่า) ของเรา ไม่ยอมตกเทรนด์กับเค้า เมื่อ ปิ๊งไอเดียที่จะให้ภาครัฐเข้าไปช่วยหนุนงานวิ่งผจญภัยตะลุยป่าฝ่าดง หรือ เทรลรันนิ่ง ซึ่งกำลังเป็นกระแสนิยมไปทั่วโลกอย่างจริงจัง,และจะมอบให้ทาง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไปศึกษาดูว่าจะเปิดให้วิ่งกันในพื้นที่อุทยานได้หรือไม่? โดยชูจุดขายส่งเสริมการท่องเที่ยวธรรมชาติอันสวยสดงดงามในเมืองไทย หวังดึงเม็ดเงินจากนักแข่งไทยและเทศทั่วโลกเข้าประเทศให้ได้เป็นกอบเป็นกำ,อโรคยา ปรมาลาภา ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ รู้สึกใจหายแว้บขึ้นมาทันที เมื่อได้รู้ข่าวของท่านเลขาฯคนเก่งชมรมวิ่งแบงก์ทหารไทย พรชัย เอกฤทัยเจริญสุข ป่วยด้วยอาการเส้นเลือดสมองแตก ต้องพักฟื้นร่างกายอยู่ที่บ้านในเวลานี้,เช่นเดียวกับ เมฆ วินัย ไกรบุตร พระเอกหนุ่มใหญ่ ผู้หลงใหลการวิ่งเป็นชีวิตจิตใจ ที่กำลังเผชิญกับโรคหายาก ตุ่มน้ำพอง เล่นงานจนล้มหมอนนอนเสื่ออยู่ที่ รพ.จุฬาฯ ซึ่งยังไง จ๊อกกิ้งบอย ก็ต้องขอเป็นกำลังใจให้ทั้งคู่ ต่อสู้เอาชนะโรคภัยร้ายนี้ไปให้ได้โดยเร็วที่สุด,จ๊อกกิ้งบอย,[email protected] | เป็นอีกปีที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม สำหรับงานวิ่งสายลุยป่าเขาลำเนาไพร KPTC Trail 2019 ที่เขาประทับช้าง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา | null | วิ่งรอบโลก ปั่นทั่วไทย,จ๊อกกิ้งบอย,นักวิ่ง,งานวิ่ง,วิ่งออกกำลังกาย,วิ่งเพื่อสุขภาพ,วิ่งเทรล | https://www.thairath.co.th/sport/others/1597826 |
วุฒิสภา พิจารณา พ.ร.ก. 4 ฉบับ แก้ปัญหาโควิด-19 | วันนี้ (1 มิ.ย.2563)หลังสภาผู้แทนราษฎร ลงมติเห็นชอบ ก็ส่ง พ.ร.ก.ทั้ง 4 ฉบับ คือ พ.ร.ก.กู้เงิน พ.ร.ก.ซอฟต์โลน พ.ร.ก.ซื้อตราสารหนี้ และ พ.ร.ก.ประชุมออน์ไลน์ ให้วุฒิสภา พิจารณาให้ความเห็นตามกระบวนการพิจารณากฎหมาย ที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 172 กำหนดไว้ คือเห็นชอบ เพื่อให้มีผลบังคับใช้เทียบเท่า พ.ร.ก.โดยนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เปิดเผยว่า วุฒิสภาฯจะใช้เวลาอภิปรายและลงมติให้แล้วเสร็จภายใน 2 วัน และจะต้องลงมติแล้วเสร็จก่อน 20.00 น. โดยเฉพาะ พ.ร.ก.3 ฉบับแรก ที่เกี่ยวกับการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจ จะใช้เวลาอภิปรายประมาณ 9 ชั่วโมง 30 นาที ซึ่งคาดว่าจะลงมติได้ ภายในเที่ยงวันพรุ่งนี้แม้ว่า ส.ว.ส่วนหนึ่งจะถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องบทบาทหน้าที่ด้วยหมวก 2 ใบ แต่นายคำนูณ สิทธิสมาน เชื่อมั่นว่าทุกคนจะมาประชุมอย่างพร้อมเพรียง และการอภิปรายก็เป็นไปอย่างมีเหตุมีผล ไม่ได้สนับสนุนเพียงอย่างเดียว น่าจะมีข้อสังเกตเพิ่มเติมต่อรัฐบาลได้และด้วยเหตุผลความจำเป็น-เร่งด่วน ก็เป็นที่คาดการณ์ว่า วุฒิสภาจะลงมติเห็นชอบไม่ต่างกับสภาฯ แต่การผลักดันตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ เพื่อติดตามและตรวจสอบการใช้งบประมาณจาก พ.ร.ก.ทั้ง 3 ฉบับนั้น ยังไม่มีท่าทีใดๆ จากวุฒิสภาวุมิสภาการอภิปราย พ.ร.ก. ได้เริ่มอภิปรายตั้งแต่เวลา 09.30 น. โดย นายอุตตม สาวนายน รมว.กระทรวงการคลัง ชี้แจงถึงความจำเป็น-เร่งด่วนของกฎหมาย และเป็นที่สังเกตของทุกฝ่าย วันนี้ ผู้บัญชาการเหล่าทัพ เข้าร่วมประชุมในฐานะ ส.ว.ด้วยทั้งนี้ตลอดการอภิปรายของสมาชิกวุฒิสภา ส่วนใหญ่คล้ายกับที่สภาผู้แทนราษฎรตั้งข้อสังเกต ถึงผลการบรรลุวัตถุประสงค์ แผนงานที่สุ่มเสี่ยงการทุจริต และเสนอให้ประชาชนมีส่วนส่วนตรวจสอบโดยนายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ สมาชิกวุฒิสภา ตั้งข้อสังเกตถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจระยะยาว คนไทยร้อยละ 71 รายได้ลดลง มีโอกาสทำให้หนี้สาธารณะเกินเพดานร้อยละ 60 ต่อ GDP จึงต้องเร่งรัดปฏิรูปโครงสร้างภาษีอย่างจริงจังขณะที่นายถวิล เปลี่ยนศรี สมาชิกวุฒิสภา อภิปรายถึงงบประมาณฟื้นฟูเศรษฐกิจ 400000 ล้านบาท ต้องถึงมือประชาชน เน้นการมีส่วนร่วม เตรียมความพร้อมระบบเพื่อรองรับวิกฤตในอนาคตส่วนนายอำพน จินดาวัฒนะ สมาชิกวุฒิสภา ตั้งข้อสังเกตถึงวิธีเสนอโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ เอื้อให้นำเสนอโครงการเก่ามาดำเนินการใหม่ พร้อมเสนอจัดตั้งคณะกรรมการอิสระติดตามตรวจสอบการใช้เงินกู้ จากผู้ที่น่าเชื่อถือและแม้จะคาดการณ์กันว่าวุฒิสภาส่วนใหญ่อภิปรายสนับสนุนหลักการ แต่จากประเด็นก็เห็นได้ว่ามีข้อเสนอหลายอย่างที่ชี้ถึงจุดบกพร่องของพระราชกำหนด ขณะที่การอภิปรายก็ยังเป็นไปตามกรอบเวลาที่วางไว้ | หลังสภาผู้แทนราษฎร ลงมติเห็นชอบ ก็ส่งกฎหมายให้วุฒิสภา พิจารณาตามกระบวนการต่อ ซึ่งวุฒิสภากำหนดพิจารณา พ.ร.ก.4 ฉบับ จำนวน 2 วัน โดยวันแรกวันนี้จะเปิดประชุมและอภิปรายกัน 9 ชั่วโมง 30 นาที | การเมือง | วุมิสภาอภิปราย พ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับ | https://news.thaipbs.or.th/content/293165 |
โอนีล ประกาศเลิกเล่นบาสเอ็นบีเอแล้ว | ชาคีล โอนีล เซ็นเตอร์ร่างยักษ์วัย 39 ปี โพสต์วีดีโอลงบนทวิตเตอร์ของตัวเองประกาศเลิกเล่นบาสเกตบอลอาชีพแล้ว หลังจากประสบความสำเร็จในชีวิตการเล่นบาสเกตบอลเอ็นบีเอด้วยการคว้าแชมป์เอ็นบีเอ 4 สมัย โดยในวีดีโอดังกล่าวโอนีลได้กล่าวว่า คงถึงเวลาสิ้นสุดการเล่นจากช่วงเวลา 19 ปีที่ผ่านมา และอยากจะขอบคุณทุกคน และเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงอยากจะบอกกับแฟนบาสเกตบอลให้รู้เป็นคนแรกว่าเขากำลังจะเลิกเล่นสำหรับโอนีลเริ่มชีวตการเล่นบาสเกตบอลอาชีพด้วยการถูกคัดตัวในรอบแรกเข้าร่วมทีมออร์แลนโด เมจิคส์ในปี 1992 ก่อนที่จะย้ายมาเล่นให้กับแอลเอ เลกเกอร์สในอีก 4 ปีต่อมา ซึ่งในช่วงที่เล่นให้กับเลกเกอร์สถือเป็นช่วงเวลาที่เขาประสบความสำเร็จมากที่สุดด้วยการคว้าแชมป์เอ็นบีเอ 3 สมัย พร้อมทั้งความรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมในรอบชิงชนะเลิศเอ็นบีเอทั้ง 3 ครั้งอีกด้วยหลังจากนั้นโอนีลได้ย้ายไปร่วมทีมไมอามี่ ฮีทในปี 2004 ก่อนจะประสานงานกับดเวน เหวด ช่วยให้ฮีทคว้าแชมป์เอ็นบีเอในปี 2006 ก่อนจะย่ายไปร่วมทีมฟีนิกซ์ ซันส์ คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส และบอสตัน เซลติกส์ โดยโอนีลมีสถิติทำคะแนนเฉลี่ย 23.7 คะแนน และ 10.9 รีบาวน์ดต่อนัด | ชาคีล โอนีล เซ็นเตอร์ร่างยักษ์ในศึกบาสเกตบอลเอ็นบีเอ ประกาศเลิกเล่นบาสเกตบอลอาชีพผ่านทวิตเตอร์ | กีฬา | บาส,เลิก,เอ็นบีเอ,โอนีล | https://news.thaipbs.or.th/content/13726 |
กองทัพนักร้องดัง เตรียมบุกขนอม | ตูน บอดี้สแลม, สล็อตแมชชีน, แม็กซ์ เจนมานะ, วี วิโอเลต, โอ๊ต ปราโมทย์, นนท์ ธนนท์, LazyLoxy, OG-ANIC, HIGHHOT ช้าหมดอดฟิน เปิดจองบัตร 15 พ.ค.นี้ พร้อมกันทั่วประเทศ,ถึงเวลากลับมากระหึ่มอีกครั้ง คอนเสิร์ตริมชายหาดของภาคใต้ Chang music connection Present Khanom Festival ครั้งที่ 7 : Seven Paradise (ช้าง มิวสิค คอนเนคชั่น พรีเซนต์ ขนอม เฟสติวัล ครั้งที่ 7 : เซเว่น พาราไดซ์) จัดโดยสมาคมท่องเที่ยวขนอม อำเภอขนอม นครศรีธรรมราช ทุ่มงบจัดใหญ่ติดต่อกันเป็นปีที่ 7,มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของอำเภอ ปีนี้ Chang music connection Present Khanom Festival ครั้งที่ 7 : Seven Paradise ยกทัพศิลปินขึ้นเวทีเพียบเช่นเคย พิเศษสุดเมื่อวง บอดี้สแลม ตอบรับร่วมโชว์ความมันส์ เป็นคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบครั้งแรกของบอดี้สแลม ที่พี่น้องชาวใต้จะได้มันส์ ร่วมด้วยวงสล็อตแมชชีน, แม็กซ์ เจนมานะ, วี วิโอเลต, โอ๊ต ปราโมทย์, นนท์ ธนนท์, LazyLoxy, OG-ANIC, HIGHH, DJ LP X MC P-RADA, DJ A-TIP X DJ BIRDKID X MC Marco, DJ YUKIE X MC PAM ฯลฯ,ย้ำความสนุก ด้วยเวทียิ่งใหญ่กว่าทุกปี พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศ สู่อำเภอเล็กๆ ที่มีเสน่ห์ ในวันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม 2562 ณ ชายหาดหน้าด่าน อำเภอขนอม นครศรีธรรมราช ตลอด 8 ชั่วโมงเต็ม บัตรราคาเดียว 1,500 บาท เปิดขายบัตรพร้อมกันทั่วประเทศ ในวันที่ 15 พฤษภาคม 2562 ทาง ,https://www.ticketmelon.com/khanomnakhonsri/khanomfest7 ,ติดตามรายละเอียดได้ทาง facebook : Go Khanom และ สมาคมท่องเที่ยวขนอม: 08-5909-0583 #KhanomFestival7 | ขนมาเยอะมากๆ เยอะสุดๆ กับงานนี้ ช้างมิวสิค คอนเนคชั่นพรีเซนต์ ขนอมเฟสติวัล ครั้งที่ 7 : เซเว่น พาราไดซ์ กองทัพศิลปิน นำทีมโดย | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | ช้างมิวสิค คอนเนคชั่นพรีเซนต์ ขนอมเฟสติวัล ครั้งที่7เซเว่น พาราไดซ์,Chang music connection Present Khanom Festival,สล็อต แมชชีน,บอดี้สแลม,คอนเสิร์ต | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1567315 |
ดูเตร์เต เปรย โรครุม อาจอยู่เป็นปธน.ปินส์ไม่ครบวาระ | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต แห่งฟิลิปปินส์ กล่าวในวันอังคาร (13 ธ.ค.) ว่า เขาอาจจะไม่ได้อยู่ในตำแหน่งจนครบวาระการดำรงตำแหน่งของเขาซึ่งจะสิ้นสุดในปี 2022 เนื่องจากมีปัญหาสุขภาพหลายอย่าง และกล่าวด้วยว่า เขารู้ตัวช้าไปว่าเขาไม่ได้ต้องการตำแหน่งประธานาธิบดีทั้งที่มีอายุขนาดนี้,เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นายดูเตร์เตกล่าวในที่ประชุมผู้นำธุรกิจในฟิลิปปินส์ว่า เขามีอาการปวดหลัง, ไมเกรน และโรคหลอดเลือดอักเสบทั้งหลอดเลือดแดงและดำที่แขนและขา ร่วมกับอาการที่เกิดจากการสูบบุหรี่ในวัยหนุ่มของเขา,ล่าสุดในวันอังคาร ดูเตร์เตกล่าวต่อหน้าชาวฟิลิปปินส์หลายพันคนในกรุงพนมเปญ เมืองหลวงของกัมพูชาว่า ผมแก่แล้ว นี่เป็นการทำหน้าที่ช่วงสุดท้ายของผม หลังจากนี้ (ครบวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี) ผมจะมีอายุ 77 ปี ผมไม่แน่ใจว่าผมจะยังอยู่ไปจนสิ้นวาระการดำรงตำแหน่งของผมหรือไม่,ผู้นำฟิลิปปินส์ระบุด้วยว่า เขารู้ตัวช้าไปว่าเขาไม่ได้ต้องการตำแหน่งประธานาธิบดีที่อายุขนาดนี้ คำถามเรื่องการเสียใจภายหลัง ซึ่งไม่มีเลยสักนิด เพราะผมเข้าหามันเอง ตอนนี้ผมรู้ตัวแล้ว ไม่ได้ต้องการมันในช่วงเวลานี้ของชีวิต แต่จะบอกให้ สุดท้ายแล้วผมรู้สึกยินดี นั่นเป็นเรื่องปล่อยใจเพียงอย่างเดียว ผมมีงานทำ ผมกำลังทำสิ่งที่ถูกต้อง,ทั้งนี้ นายดูเตร์เตดำเนินนโยบายปราบปรามยาเสพติดอย่างแข็งกร้าว โดยนับตั้งแต่เขารับตำแหน่งประธานาธิบดีและเริ่มนโยบายดังกล่าวในเดือนก.ค. จนถึงตอนนี้มีผู้เสียชีวิตในสงครามยาเสพติดไปแล้วกว่า 5,000 คน ในจำนวนนี้มี 2,004 รายที่ถูกสังหารระหว่างปฏิบัติการของตำรวจ ส่วนที่เหลือกำลังอยู่ระหว่างการสืบสวนหาสาเหตุ ขณะที่ ดูเตร์เตบอกกับผู้นำธุรกิจเมื่อวันจันทร์ด้วยว่า เขาไม่กลัวการถูกถอดถอนออกจากอำนาจหรือการลอบสังหารจากฝีมือของ ผู้ต่อต้านการทำสงครามยาเสพติด | โรดริโก ดูเตร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์เผยว่า ตอนนี้เขามีอาการเจ็บป่วยหลายอย่างรวมทั้งโรคหลอดเลือด และกล่าวด้วยว่า เขาอาจอยู่ในตำแหน่งผู้นำไม่ครบวาระ 6 ปี | null | ฟิลิปปินส์,โรดริโก ดูเตร์เต,ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์,โรคหลอดเลือดอัดเสบ,อยู่ไม่ครบวาระ | https://www.thairath.co.th/content/810437 |
ฝนถล่มทั่วไทย หลายจังหวัดโดนอ่วม กาฬสินธุ์ลำน้ำชีสูง ต้องปักธงแดงอีกรอบ | วันที่ 7 ต.ค.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำตามลำน้ำสายหลักในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ หลังจากก่อนหน้านี้มีฝนตกลงมาในหลายพื้นที่ ส่งผลให้ระดับน้ำกลับเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะลำน้ำชี ในพื้นที่ อ.ฆ้องชัย, อ.กมลาไสย และ อ.ร่องคำ ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จากการตรวจสอบที่ฝายวังยาง ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย พบว่าวันนี้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีก 20 ซม. ระดับน้ำสูงประมาณ 140 เมตร ระดับน้ำทะเลปานกลาง ทำให้ฝายวังยางต้องแขวนประตูระบายน้ำทั้ง 6 บานเพื่อให้น้ำไหลผ่านวันละ 84 ล้านลูกบาศก์เมตร ต้องปักธงแดงอีกรอบ เนื่องจากเข้าสู่จุดวิกฤติต้องเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง,นายพัฒนะ พลศรี ผู้อำนวยการฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 3 โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพัฒนาลุ่มน้ำชีตอนกลางหรือฝายวังยาง เผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำในลำน้ำชีกลับเพิ่มสูงขึ้นอีกรอบ เนื่องจากมีฝนตกลงมาสะสม อีกทั้งนำ้เหนือจาก จ.ชัยภูมิ จ.ขอนแก่น ไหลลงมาสมทบ ทำให้ระดับน้ำชีเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งขณะนี้เข้าสู่จุดวิกฤติอีกครั้ง จึงต้องทำการปักธงแดงเพื่อเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ 3 อำเภอ ซึ่งติดอยู่ลำน้ำชี ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้ต้นข้าวของชาวบ้านกำลังพร้อมที่จะเก็บเกี่ยว จึงต้องเฝ้าระวังไม่ให้น้ำเอ่อท่วมพื้นที่การเกษตรตลอด 24 ชั่วโมง หากประชาชนพบจุดเสี่ยงจุดเปราะบางให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันทีเพื่อที่จะสามารถแก้ไขป้องกันน้ำท่วมได้ทันท่วงที,ส่วนระดับน้ำแม่น้ำน้อย จ.สิงห์บุรี เริ่มเพิ่มระดับขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากฝนที่ตกติดต่อกันหลายวัน ส่วนในพื้นที่ อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี ประชาชนที่อาศัยตามริมแม่น้ำน้อยเริ่มได้รับผลกระทบจากน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น ร้านค้าที่อยู่บริเวณริมแม่น้ำน้อย ได้รับผลกระทบคือน้ำท่วมพื้นสูงถึงข้อเท้าแต่ก็ยังคงขายของอยู่ แม้กระทั่งร้านขายข้าวขายก๋วยเตี๋ยวถึงแม้น้ำจะท่วมถึงข้อเท้าลูกค้าก็ยังคงนั่งทานอาหารที่โต๊ะโดยเท้าแช่น้ำอยู่อย่างนั้น,ทางด้าน สถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.สุพรรณบุรี นายประเชิญ จีนขจร ผอ.โครงการส่งน้ำและกำลังบำรุงรักษาโพธิ์พระยา เผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีน ตั้งแต่หน้าประตูน้ำโพธิ์พระยา ยาวไปจนถึงประตูระบายน้ำบางสาม อ.สองพี่น้อง ความยาวประมาณ 40 กม. ระดับน้ำสูงขึ้นประมาณ 50-70 ซม. จึงทำให้น้ำเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำ แต่มวลน้ำส่วนใหญ่มาจากปริมาณฝนที่ตกลงมาต่อกันหลายวัน จึงทำให้มีปริมาณน้ำสะสม ทำให้บ้านเรือนที่อยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำท่าจีนมีระดับน้ำสูงประมาณ 30-40 ซม.,ขณะที่ จ.ลำพูน ชาวบ้านในพื้นที่บ้านท่าหลุก ต.หนองล่อง อ.เวียงหนองล่อง ได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากน้ำในอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำผึ้ง บ้านท่าหลุก หมู่ 4 ต.หนองล่อง อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูน ล้นสปิลเวย์ ไหลเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านเป็นบริเวณกว้าง เบื้องต้นชาวบ้านและวัด ได้รับผลกระทบจากน้ำเอ่อล้นดังกล่าวประมาณ 15 หลังคาเรือน หลังจากได้รับแจ้ง จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ทหารร่วมกับผู้นำหมู่บ้าน และชาวบ้านนำกระสอบทรายกั้นน้ำที่เอ่อล้นเพื่อผันน้ำให้ไหลลงสู่ลำเหมืองเวียงปาน ไม่ให้ท่วมบ้านเรือนราษฎรขยายเป็นวงกว้าง. | ฝนถล่มหนักทั่วไทย ส่งผลให้ลำน้ำชี จ.กาฬสินธุ์ สูงขึ้น 20 เซนติเมตร ต้องปักธงแดงจุดวิกฤติอีกรอบ ส่วน จ.สิงห์บุรี น้ำเพิ่มระดับขึ้นอย่างรวดเร็วจากฝนตกติดหลายวัน ทำให้ร้านค้าบริเวณริมแม่น้ำน้อย น้ำท่วมสูงถึงข้อเท้า | ข่าว,ทั่วไทย | น้ำท่วม,ฝนตกหนัก,ปักธงแดง,ฝนถล่ม,กาฬสินธุ์,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/1092335 |
แข้งชบาแก้วไหว้สวยขอบคุณกำลังใจ กาญจนา เปิดใจหลังลั่นสกอร์แรกบอลโลก | วันที่ 16 มิ.ย. ทัพชบาแก้วนำโดย มิรันดา ไหว้ขอบคุณแฟนบอลชาวไทยหลังเกมฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก 2019 นัดสองที่พ่ายต่อสวีเดน 1-5 ขณะที่ กาญจนา สังข์เงิน กองหน้าตัวเก่งของทีมชาติไทย ดีใจสุดๆหลังสามารถยิงประตูแรกให้กับทีมได้ในศึกฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก,ดีใจค่ะ ที่เราทำผลงานได้ดี และสามารถยิงประตูแรกในฟุตบอลโลกให้กับทีมชาติไทย กาญจนา กล่าวเริ่ม,เกมนี้ถือเป็นเกมที่หนัก แต่ก็หนักไม่เท่ากับสหรัฐอเมริกา คืออเมริกา จะเน้นความรวดเร็ว แต่สวีเดนจะค่อยๆทำ และมีความแม่นยำกว่า เราก็ทำดีที่สุดแล้วค่ะ,สำหรับตัวเนตรขอบคุณแฟนบอลชาวไทยที่ให้กำลังใจและติดตามเชียร์พวกเรามาโดยตลอด พวกเราจะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดในเกมนัดต่อไป,ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย จะทำการแข่งขันฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอฟ นัดที่ 3 พบกับ ชิลี ที่สนาม โรอาซอง ปาร์ค ในเมือง แร็งส์ ในวันที่ 21 มิถุนายน 2562 (คืนวันที่ 20 มิถุนายน 2562) เวลา 02.00 น. ตามเวลาประเทศไทย,ภาพไหว้สวยๆของสาวไทยหลังเกม | ทัพชบาแก้วไหว้สวยขอบคุณทุกกำลังใจแม้จะพ่ายสองเกมรวดในศึกฟุตบอลโลกหญิง 2019 ขณะที่ กาญจนา สังข์เงิน ปลื้มช่วย ชบาแก้ว เบิกสกอร์แรกในศึกฟุตบอลโลกได้สำเร็จ
| กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์ | กาญจนา สังข์เงิน,ชบาแก้ว,ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย,ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก 2019 | https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/1593355 |
พล.อ.ประวิตร เตือนอย่าหาเสียงล่วงหน้า ชี้คำสั่งคสช.ยังไม่ปลดล็อก | วันนี้ (9 มี.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนากยรัฐมนตรี และรองหัวหน้า คสช. เตือนพรรคการเมืองใหม่อย่าหาเสียงล่วงหน้า เนื่องจากคำสั่ง คสช. โดยเฉพาะฉบับที่ 57/2557 และฉบับที่ 3/2558 ยังคงมีผลบังคับใช้ในทางปฏิบัติอยู่สำหรับคำสั่งคสช. ฉบับที่ 3/2558 กรณีห้ามชุมนุมเกิน 5 คน และคำสั่ง คสช.ฉบับที่ 57/2557 กรณีห้ามกลุ่มการเมือง และพรรคการเมืองจัดกิจกรรมทางการเมือง ซึ่งพล.อ.ประวิตร กล่าวย้ำว่าทุกความเคลื่อนไหวนั้น คสช. ยังคงจับตาดูอยู่ทั้งนี้ มีกลุ่มการเมืองเข้าแจ้งความจำนงขอจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองแล้ว รวม 50 กลุ่ม และมีรายงานว่า คสช. ได้จัดเก็บฐานข้อมูลของแต่ละกลุ่มไว้ เพื่อเตรียมรับมือกับการเคลื่อนไหวต่างๆโดยจำแนกที่มาของกลุ่มที่จัดตั้งพรรคไว้ 3 กลุ่ม คือพรรคที่ก่อตั้งโดยอดีตทหารพรรคที่ก่อตั้งโดยอดีต ส.ส. หรือผู้เกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง หรือกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง และสุดท้าย คือพรรคที่ก่อตั้งโดยบุคคลที่ต้องการเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมือง แต่ยังไม่เคยได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส.มาก่อนขณะที่ รศ.สมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง โพสต์เฟซบุ๊กเตือนพรรคการเมืองใหม่อย่าชะล่าใจ ควรเร่งดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย และแม้กรอบเวลาจะมีมาก แต่ร่างกฎหมายลูกอาจเสร็จเร็วกว่าที่คาดไว้และเป็นไปได้ที่วันเลือกตั้งจะขยับเร็วขึ้น | พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนากยรัฐมนตรี และรองหัวหน้า คสช. ย้ำเตือนพรรคการเมืองใหม่อย่าหาเสียงล่วงหน้า ขณะที่ในวันนี้มีกลุ่มการเมืองแจ้งความจำนง ขอจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ รวม 50 กลุ่ม | การเมือง | เลือกตั้ง,กกต.,พรรคการเมือง,พล.อ.ประวิตร,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/270860 |
กลุ่มประสาร ชงขอเพิ่มแก้ 10 ประเด็น | เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 3 มิ.ย. 58 ที่รัฐสภา นายประสาร มฤคพิทักษ์ และตัวแทนคณะ 26 คน กล่าวถึงข้อเสนอแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญ ว่า ได้เสนอให้มีการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น รวม 93 ประเด็น โดยขอเพิ่มเติมใหม่ 10 ประเด็น คือ เพิ่มมาตรา 50/1 ให้ปิโตรเลียมเป็นทรัพยกรของปวงชนชาวไทย และให้มีบริษัทพลังงานแห่งชาติ เข้ามาบริหารจัดการ มาตรา 63/1 ให้พลเมืองสามารถใช้สิทธิทางศาล ฟ้องร้อง เพื่อติดตามสาธารณสมบัติของชาติคืนจากผู้ครอบครองโดยมิชอบ มาตรา 70/1 จัดตั้งกองทุนสนับสนุนป้องกันปราบปรามการทุจริตโดยประชาชน มาตรา 241/1 จัดตั้งศาลคดีทุจริตเป็นศาลชำนัญการพิเศษ มาตรา 246/1 การตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ ต้องกำหนดเวลาที่ชัดเจนเพื่อให้รวดเร็วยิ่งขึ้น มาตรา 274/1 ให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐเป็นองค์กรอิสระ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 275/1-5 ให้แยกผู้ตรวจการแผ่นดินออกเป็นการเฉพาะ,มาตรา 276/1-2 ให้แยกคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเป็นการเฉพาะ มาตรา 281/1 ปฏิรูปการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ และมาตรา 295/1 ปฏิรูประบบการคุ้มครองผู้บริโภคทั้งระบบเพื่อเพิ่มสิทธิพลเมือง สิทธิชุมชน สิทธิสตรี สิทธิผู้บริโภค รวมถึงสิทธิเสรีภาพสื่อสารมวลชน ไม่ใช่ประชาธิปไตย 4 วินาที ผ่านการเลือกตั้งอย่างที่ผ่านมา,ขณะที่ น.ส.รสนา โตสิตระกูล สปช. หนึ่งในกลุ่มกล่าวว่า ตนจะเสนอการเลือกตั้ง ส.ว.ให้เป็นการเลือกตั้งแบบกลุ่มจังหวัด โดยคัดผู้สมัครแต่ละจังหวัดมาจากฐานอาชีพต่างๆ โดยให้ผู้สมัครมาจากสาขาอาชีพต่างๆ และคัดเลือกกันเองให้เหลือกลุ่มละ 30-33 คน เชื่อว่า จะสามารถป้องกันการทุจริตซื้อขายเสียง และป้องกันการล็อบบี้จัดคนมาจากระบบอุปถัมภ์,ด้านนายวสันต์ ภัยหลีกลี้ สปช.ในกลุ่มเดียวกัน กล่าวว่า ตนเสนอให้มีการปฏิรูป ป.ป.ช.ครั้งใหญ่ โดยเฉพาะวาระดำรงตำแหน่ง 6 ปี และที่มากรรมการ ป.ป.ช.ต้องมีความหลากหลายขึ้น พร้อมกำหนดระยะเวลาดำเนินกระบวนการในแต่ละคดีการทุจริตให้มีระยะเวลาที่ชัดเจน ไม่ให้เกิดความล่าช้าและคดีค้างจำนวนมาก สารี ตัด 3 คณะกรรมการควบรวมเป็นคณะเดียว,ส่วน น.ส.สารี อ๋องสมหวัง สปช. กล่าวว่า จะเสนอให้ตัดคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ และคณะกรรมการสร้างความปรองดองแห่งชาติ โดยควบรวมเข้าด้วยกันจาก 3 คณะกรรมการ ให้เป็นชุดเดียวในชื่อ สมัชชาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศและการสร้างความปรองดองแห่งชาติ และขอให้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน | สปช. กลุ่มประสาน ชงขอแก้ไขเพิ่มเติมร่าง รธน. 10 ปม เพิ่มอำนาจ ปชช. ของจริง ด้าน รสนา ขอเลือกตั้ง ส.ว.จากฐานอาชีพ ขณะวสันต์ เสนอปฏิรูป ป.ป.ช.
| null | สปช.,ชงแก้รธน.,แก้ไขเพิ่มเติม,ประสาร,ประสาร มฤคพิทักษ์,ร่างรัฐธรรมนูญ,10ปม,รสนา,ปฏิรูป ป.ป.ช.,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง,สารี อ๋องสมหวัง,วสันต์ ภัยหลีกลี้,รสนา โตสิตระกูล | https://www.thairath.co.th/content/502812 |
หล่อใหญ่ ซื้อใจสมัชชาคนจน รับปากช่วยเต็มที่ | ประชาไท-16 มี.ค.48แกนนำพรรคประชาธิปัตย์เริ่มสานสัมพันธ์กับองค์กรภาคประชาชน โดยเช้าวันนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคและนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์เดินทางมาพบปะกลุ่มสมัชชาคนจนและขึ้นเวทีปราศรัย ซึ่งเป็นที่สนใจของชาวบ้านเป็นอย่างมาก โดยนายอภิสิทธิ์ยืนยันจะให้ความช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ แก่ภาคประชาชนอย่างเต็มที่ นายอภิสิทธิ์กล่าวกับแกนนำกลุ่มสมัชชาคนจนว่า ปัญหาทั้งหมดที่ชาวบ้านเรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือนั้น ทางพรรคแบ่งออกเป็น 2 ส่วนด้วยกันคือ ในส่วนแรกจะเป็นปัญหาเฉพาะเรื่อง ซึ่งส่วนมากจะเป็นปัญหาเฉพาะในพื้นที่ที่มีมานานและยากที่จะแก้ไขให้จบได้ในวันนี้หรือพรุ่งนี้ ทางพรรคจะเป็นสื่อกลางผ่านในการส่งข้อเรียกร้องของประชาชนไปยังรัฐบาล และจะใช้สิทธิ์ในการเป็นสส. แก้ไขปัญหาของชาวบ้านให้ดีที่สุด ในส่วนที่เป็นปัญหาเชิงนโยบาย พรรคประชาธิปัตย์จะนำเรื่องนี้ไปพิจารณาว่านโยบายของพรรคจะสามารถช่วยเหลือได้อย่างไรบ้าง และจะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับภาคประชาชนเพิ่มมากขึ้นเพื่อบรรเทาปัญหาความเดือนร้อนของประชาชน จากการที่ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์นั้น ผมมีความตั้งใจตั้งแต่แรกแล้วว่าจะทำงานร่วมกับภาคประชาชนให้มากที่สุด บทบาทของนักการเมืองกับบทบาทของภาคประชาชนมีสิ่งที่เหมือนกันอยู่ก็คือ ต้องการขจัดความเดือดร้อนต่าง ๆ ที่ประชาชนประสบอยู่ แต่ส่วนที่ต่างกันก็มี เพราะพรรคประชาธิปัตย์เป็นผู้ที่มีส่วนได้เสียทางการเมือง ดังนั้นการทำงานร่วมกับภาคประชาชนจึงต้องระวัง เพราะผมรู้ดีว่ากำลังมีบุคคลบางกลุ่มต้องการดึงภาคประชาชนที่ไม่มีส่วนได้เสียมาเล่นเกมทางการเมือง ผมจึงอยากให้ประชาชนมีอิสระในการแสดง ความคิดเห็น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว ก่อนหน้าที่นายอภิสิทธิ์จะมาถึง พระกิตติศักดิ์ กิตติโสภโณ ประธานเครือข่ายเสขิยธรรมได้แสดงธรรมเทศนาแก่สมัชชาคนจนในหัวข้อ ศาสนากับประชาธิปไตย โดยพระกิตติศักดิ์ เทศนา ว่า การมาชุมนุมของสมัชชาครั้งนี้ไม่ได้เป็นครั้งแรกที่ประชาชนจะต้องเดินทางเข้ามาทวงถาม ถึงการแก้ปัญหาที่รัฐบาลมีให้กับประชาชน หลายครั้งมีคำถามว่าประชาชนเดินทางมาเพื่ออะไรให้แกะกะวุ่นวายคนอื่นเขา มันต้องมีอะไรบางอย่างที่ทำให้ความจริงไม่ปรากฏ หากพูดอย่างรวบรัดก็คือระบอบนี้ทำให้เกิดความเป็นธรรมในสังคมไม่ได้ มันทำให้คนทุกข์ยาก ไม่ได้รับการเหลียวแล ไม่ได้รับการแก้ปัญหา พระกิตติศักดิ์กล่าวต่อไปว่าการที่ประชาชนยังต้องมาชุมนุมเสนอปัญหานั้น คือสิ่งที่ทำให้ต้องยอมรับความบกพร่องของระบอบประชาธิปไตยแบบตัวแทน ปัจจุบันผู้ที่บอกว่าตัวเองนั้นเป็นตัวแทนของประชาชนไปสังกัดมุ้ง สังกัดวัง สังกัดคอกของนายทุน ต่างก็หันไปรับใช้นายทุน โดยลืมไปว่าอำนาจที่ประชาชนให้ไปนั้นมันมีความถูกต้องและเป็นธรรมประกอบอยู่ด้วย การที่เรามอบอำนาจให้กับคนที่ขาดสติสัมปชัญญะ ขาดมโนธรรมสำนึก ขาดความรับผิดชอบก็เหมือนกับการยื่นอาวุธให้กับคนบ้า คนเมา โดยเฉพาะคนที่มัวเมาอำนาจ จนกลายเป็นว่าเรายื่นใบอนุญาตให้คนบางคณะที่ปราศจากมโนธรรมสำนึกเอาอำนาจไปใช้อย่างมัวเมา พระกิตติศักดิ์ เทศน์ทิ้งท้ายด้วยพุทธพจน์บทว่า ที่ใดไม่ประกอบไปด้วยสัตบุรุษ ที่ปฏิบัติตนอยู่ในศีล อยู่ในธรรม อยู่ในครรลองที่ถูกต้อง ที่นั่นไม่ใช่สภาฯ | ประชาไท-16 มี.ค.48 แกนนำพรรคประชาธิปัตย์เริ่มสานสัมพันธ์กับองค์กรภาคประชาชน โดยเช้าวันนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคและนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ | สิ่งแวดล้อม | null | https://prachatai.com/journal/2005/03/3193 |
ซาร์รี รับยากทำแต้มจี้หัวตาราง แม้เพิ่งเปิดบ้านไล่ทุบแมนฯ ซิตี้ | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 9 ธ.ค.ว่า เมาริซิโอ ซาร์รี นายใหญ่ของทีมเชลซี ยอมรับว่าแม้จะเพิ่งเอาชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-0 แต่ก็เป็นเรื่องยากที่จะทำแต้มไล่ขึ้นมาท้าชิงแชมป์ในซีซั่นนี้,โดย ซาร์รี กล่าวหลังจบเกมนัดล่าสุดว่า อย่างที่ผมเคยพูดไปและพวกคุณก็รู้อยู่แล้ว ผมคิดว่าช่องว่างคะแนนตอนนี้ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะลดลงได้ในซีซั่นเดียว มันเป็นเพียงแค่หนึ่งเกมเท่านั้น แต่นี่คือการแข่งขันที่ยาวนานถึง 10 เดือน มันเป็นเรื่องยากที่จะลดช่องว่าง ผมคิดว่าในตอนนี้พวกเขา (แมนฯ ซิตี้) ยังเป็นยอดทีมของยุโรปเช่นเดิม,ที่เราชนะในวันนี้ แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีโชคเล็กน้อยใน 25 นาทีแรก เพราะพวกเขามีโอกาสพังประตูได้ มันเป็นโชคเล็กๆ น้อยๆ ในช่วงครึ่งแรก และเราเล่นยอดเยี่ยมมากในครึ่งหลัง,นอกจากนี้ กุนซือชาวอิตาเลียนยังกล่าวถึงการเผชิญหน้ากับคู่แข่งชาวสแปนิชว่า ผมมีความสุขที่ชนะในวันนี้ เพราะมันเป็นเรื่องยากที่คว้าชัยเหนือทีมของกวาร์ดิโอลา ผมรู้ดีว่าพวกเขาเหนือกว่าอยู่หนึ่งก้าวในตอนนี้ และเรามีงานหนักที่ต้องทำเพื่อลดช่องว่าง ผมไม่รู้หรอกว่าจะทำยังไงได้บ้าง แต่จะพยายามให้ถึงที่สุด,โดยจากชัยชนะในเกมนัดล่าสุด ทำให้ เชลซี รั้งอันดับ 4 ของตาราง มีแต้มตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อันดับ 2 อยู่เพียง 7 แต้มเท่านั้น หลังผ่านไป 16 นัดแรกของซีซั่น. | นายใหญ่พลพรรคสิงห์บลูยังถ่อมตัว ยอมรับแม้จะเพิ่งเปิดบ้านสอยเรือใบสีฟ้า แต่ก็ยังไม่กล้าคิดถึงการก้าวขึ้นไปท้าชิงแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ | กีฬา,ฟุตบอลยุโรป | เมาริซิโอ ซาร์รี,แมนเชสเตอร์ ซิตี้,เชลซี,พรีเมียร์ลีก | https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premiereleague/1440836 |
ออสเตรเลีย เชือด เวียดนาม 2-0 ศึกยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย | การแข่งขันฟุตบอล ยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย 2016 กลุ่มดี นัด 2 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 17 ม.ค. ที่สนาม แกรนด์ ฮาหมัด สเตเดียม กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ เป็นการพบกันระหว่าง เวียดนาม กับ ออสเตรเลีย ซึ่งทั้งคู่ต่างแพ้มาในนัดแรก,เปิดฉากครึ่งแรก นาทีที่ 2 ออสเตรเลีย ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะลูกเตะมุมเปิดเข้ามาในกรอบเขตโทษ บอลชุลมุนก่อนจะมาเข้าทาง เจมส์ โดนาชี ได้วอลเลย์ด้วยซ้ายเน้นๆ บอลพุ่งเสียบใต้คานเข้าไปอย่างสวยงาม ก่อนจะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้,กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง ถึงนาทีที่ 60 ออสเตรเลีย หนีเป็น 2-0 จากจังหวะที่ กองหลังเวียดนามสกัดบอลไปโดนผู้เล่นออสเตรเลีย บอลกระดอนกลับมาในเขตโทษด้านซ้าย ก่อนที่ แอนดริว ฮูลี จะจ่ายให้ เจมี แม็คลาเรน แปด้วยซ้ายจ่อๆ หน้าประตูเข้าไป,ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม ออสเตรเลีย เอาชนะ เวียดนาม ไป 2-0 เก็บ 3 แต้มแรกในการแข่งขันครั้งนี้ได้แล้ว อยู่อันดับ 3 ของกลุ่ม ส่วน เวียดนาม แพ้ 2 นัดติด จมบ๊วยของกลุ่ม,ผลอีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เสมอ จอร์แดน 0-0 | ทีมชาติออสเตรเลีย เอาชนะ ทีมชาติเวียดนาม ไป 2-0 คว้า 3 แต้มแรกในศึกฟุตบอลเอฟเอซี ยู-23 แชมเปียนชิพ 2016 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มดี ได้แล้ว | null | ฟุตบอลเอฟเอซี ยู-23 แชมเปียนชิพ 2016,เวียดนาม,ออสเตรเลีย,ผลบอล,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/564094 |
Subsets and Splits
No community queries yet
The top public SQL queries from the community will appear here once available.