title
stringlengths 2
223
| body
stringlengths 496
195k
| summary
stringlengths 34
1.83k
| type
stringlengths 4
98
⌀ | tags
stringlengths 2
1.52k
⌀ | url
stringlengths 27
112
|
---|---|---|---|---|---|
ตะลึงทั้งโลก โกลโบลิเวีย ซัดไกลจากประตูตัวเอง บอลทะยานฟ้าตุงตาข่าย (คลิป) | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 26 เม.ย. ว่า มาติอัส ติตูโร นายด่านของทีมคลับ โบลิวาร์ ทีมจากโบลิเวีย เรียกเสียงฮือฮาต่อคอลูกหนัง หลังโชว์เพลงแข้งตะบันไกลจากโกลตัวเองบอลลอยโด่งกระเด้งพื้น 4 ครั้งค่อยๆไหลไปตุงตาข่ายฝั่งตรงข้ามแบบตะลึงทั่วโลก,เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในลีกสูงสุดของโบลิเวียเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาระหว่าง โบลิวาร์ ทีมของประตูรายนี้ พบกับ ซาน โฮเซ ซึ่งขณะเกมการแข่งขันล่วงเลยมาถึงช่วงทดเจ็บ โบลิวาร์ สกอร์นำอยู่ 2-1 นายประตูชาวอาร์เจนไตน์รายนี้รับบอลจากลูกบอมบ์ยาวของทีมเยือนซึ่งมือกาวของพวกเขาก็เติมเกมมาด้วย ก่อนสาดไกลบอลลอยโด่งกระดอนพื้นพุ่งเข้าประตูไปเลย,ประตูนี้ส่งผลให้เป็นประตูตอกฝาโลงพา โบลิวาร์ เปิดบ้านเอาชนะ ซาน โฮเซ 3-1 เก็บสามคะแนนได้สำเร็จ พร้อมกับเรียกรอยยิ้มให้กับแฟนบอลที่เข้ามาเชียร์ติดขอบสนามเป็นอย่างมาก,>>> ,คลิกชมคลิป โกลโบลิวาร์ยิงจากเขตโทษตัวเอง, <<< | นายประตูจากทีม คลับ โบลิวาร์ สโมสรจากลีกโบลิเวีย สร้างความฮือฮาไปทั่วโลกหลังซัดประตูจากเขตโทษตัวเองบอลลอยโด่งเสียบตาข่ายฝั่งตรงข้ามแบบเหลือเชื่อ | กีฬา,ฟุตบอลยุโรป | คลับ โบลิวาร์,โบลิเวีย,มาติอัส ติตูโร,ซาน โฮเซ,ข่าวกีฬา | https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/924066 |
กวีประชาไท: ชมเชยฮูบปั้นหล่อเจ้าอะนุวง | ทอดแขนชี้ลงสู่เบื้องน้ำแม่ของอะโหสิลบโสกหมองพะยาบาดตายยากแสน ท่ละมานการฮวมชาดสงคามเพื่อเอกะลาดปดป่อยลาวอะโหสิเดลัดสานหมู่ช้างม้าคบเลี้ยวกินชิ้นมังสาข้าพะเจ้าเฮือล่องของหลายเติบนำหัวลาวเฮาไผจุดเผานะคอนหลวงเวียงจันสุดอาลัย พะแก้วพากหอพะแต่ก่จะอดไจย่างอึดกั้นส้างสามิดคตะพาบไหม่ฮ่วมกันข้ามก่ายความคัดง้างบั้นตะกี้เพื่อนำพา สากนสู่สะไหมไหม่ลึกสึ้งไกกว้างกะแสแผ่ฮังสีอินดูจีนแจ้งขะหยายมั่นไมตีสามักคีพูมิพากสู่ฮักแพงเจ้าอะนุวง มื้อนี้ยืนตะหง่านตอกย้ำพีละกำอาดหานเพิ้นก้าแก่นโฮมดินดอนต้อนเหย้าพิกพื้นแดนลาวอิดสะหละแม่นปึกแผ่นสิวิไล | ทอดแขนชี้ลงสู่เบื้องน้ำแม่ของ อะโหสิลบโสกหมองพะยาบาด ตายยากแสน ท่ละมานการฮวมชาด สงคามเพื่อเอกะลาดปดป่อยลาว อะโหสิเดลัดสานหมู่ช้างม้า คบเลี้ยวกินชิ้นมังสาข้าพะเจ้า เฮือล่องของหลายเติบนำหัวลาวเฮา | การเมือง,ต่างประเทศ | กวีประชาไท,บัวละพา ไชยะวาปี,ลาว,เจ้าอะนุวง | https://prachatai.com/journal/2010/11/31982 |
สมศักดิ์ เสนอนำกำไล EM ติดนักโทษมีอาการทางจิต | วันนี้ ( 18 ธ.ค.2562)นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แถลงข่าวแนวทางเรื่องความคืบหน้าในส่วนของกระทรวงยุติธรรมกรณีการจับกุมตัว นายสมคิด พุ่มพวง ฆาตกรต่อเนื่องโดยระบุว่า วันนี้กระทรวงยุติธรรมได้ประชุมเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหานักโทษที่มีความไม่ปกติ มีสภาวะทางจิตหรือมีพฤติกรรมทางเพศรวมถึงการเป็นฆาตกรต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อสังคมอย่างมากและกำลังเป็นกระแสข่าวในขณะนี้ โดยได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง พร้อมทั้งได้สั่งการให้ดูแนวทางของการแก้ปัญหาในระยะสั้น และระยะยาวคือการออกกฎหมายเบื้องต้นทราบว่าในบัญชีของกรมราชทัณฑ์ มีผู้ต้องขังประเภทนี้จำนวนไม่มากซึ่งทำให้มีการปล่อยปละละเลย ก่อให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ซึ่งการแก้ปัญหาในระยะสั้นจะมีมาตรการป้องกันเพื่อความปลอดภัยในสังคม โดยผู้ต้องขังคนใดที่จะพ้นโทษและมีพฤติกรรมทางจิต โดยได้ประเมินจากทางการแพทย์ก็จะเสนอให้อัยการส่งเรื่องขอให้ศาลควบคุมตัวไว้ก่อนส่วนมาตรการระยะยาวนั้นได้ศึกษาแนวทางจากกฎหมายประเทศสหรัฐฯ จากกรณีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งวัย 7 ขวบ ถูกกระทำชำเราทางเพศจนเหตุเสียชีวิต ซึ่งสหรัฐอเมริกาก็ได้ออกกฎหมายให้กำหนดโทษ ฆาตกรประเภทนี้ไว้หนัก เมื่อมีการพ้นโทษก็จะต้องติดเครื่อง EM ตลอด เพื่อให้มีการแจ้งเตือนกับสังคม ในบริเวณที่นักโทษผู้นั้นเข้าไปอยู่แม้ว่าจะมีการพ้นโทษแล้วก็ตามก็จะต้องมีการควบคุมตัวตลอดชีวิต โดยกระทรวงยุติธรรมจะนำเสนอร่างเป็นกฎหมายต่อไปส่วนกระแสสังคมที่ต้องการให้ประหารชีวิตนายสมคิด พุ่มพวง ฆาตกรต่อเนื่องนั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เท่าที่ประเมินดูมีนักโทษลักษณะนี้ไม่ถึงร้อยคนในกรมราชทัณฑ์ ทั้งฆาตกรต่อเนื่องและอาการโรคจิต ถ้าหากสามารถทำการประหารชีวิตได้ก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ขอบข่ายของกฎหมายก็ไม่ทราบว่าจะดำเนินไปจุดนั้นได้อย่างไร | รมว.ยุติธรรม เล็งเสนอกฎหมายนำเครื่องมือ EM ติดนักโทษมีอาการทางจิตช่วงระยะปล่อยตัว พร้อมเเจ้งพื้นที่ให้รับทราบ แม้ว่าจะพ้นโทษแล้วก็ตาม | การเมือง | EM,สมศักดิ์ เทพสุทิน,รมว.ยุติธรรม | https://news.thaipbs.or.th/content/287190 |
ปลัดคลังเชื่อผู้มีรายได้น้อย 5.3 ล้านคนพ้นเกณฑ์ยากจนปี 61 | เหน็ง คำจำรัส ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ถือเป็นคนแรกที่ถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 1 ล้านบาท จากการรูดซื้อสินค้าในร้านธงฟ้าประชารัฐ หลังรัฐบาลขยายสิทธิ์การจับรางวัลจากเดิมเฉพาะผู้ใช้บัตรเดบิตทั่วไป ให้ครอบคลุมถึงบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 11.4 ล้านใบ เป็นงวดแรก เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนตื่นตัวในการใช้จ่ายเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์แทนเงินสด ตามนโยบายแนทชันนอล อีเพย์เมนท์ ซึ่งจะสุ่มจับรางวัลทั้งผู้ถือบัตรและร้านค้า ไปจนถึงเดือนพฤษภาคม 2561 รวมเงินรางวัล 84 ล้านบาทโดยผู้ได้รับรางวัล กล่าวว่า รู้สึกโชคดีที่เงินในบัตรสวัสดิการ 300 บาท เปลี่ยนเป็นเงิน 1 ล้านบาท และหลังจากได้รับรางวัลก็มีเพื่อนบ้านและญาติแวะเวียนมาหามากขึ้นส่วนความคืบหน้าการออกมาตรการสวัสดิการแห่งรัฐ เฟสที่ 2 นั้น นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณามาตรการดังกล่าวในสัปดาห์หน้า ซึ่งประกอบไปด้วยมาตรการสนับสนุนให้ผู้ถือบัตรมีงานทำ ทั้งในและต่างประเทศ หรือเลือกอบรมอาชีพเป็นเจ้าของกิจการเอง สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน การศึกษาและมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง หรือได้รับการแบ่งเบาค่าเช่าบ้านและจะส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่พบผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีรายได้ต่ำกว่าเส้นยากจน หรือปีละ 30000 บาท จำนวน 5.3 ล้านคน เพื่อแก้ปัญหาอย่างตรงจุด และหลุดพ้นจากเกณฑ์ความยากจนในปี 2561 เนื่องจากการดำเนินมาตรการสวัสดิการ เฟสที่ 2 บูรณาการทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างสมบูรณ์เป็นครั้งประวัติศาสตร์ ก่อนย้ำว่าโครงการดังกล่าวไม่ใช่นโยบายหาเสียงและไม่ว่าพรรคการเมืองใดเป็นรัฐบาลก็ต้องสานต่อปลัดกระทรวงการคลัง ยังเปิดตัวตลาดไร้เงินสด บริเวณตลาดนัดหลังกระทรวงการคลัง เพื่อขยายการให้บริการคิวอาร์โค้ดของธนาคารกรุงไทย ตามนโยบายสร้างถนนไร้เงินสดตามตลาดนัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ ภายในปี 2561 พร้อมประเมินว่าประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมไร้เงินสดเต็มรูปแบบภายใน 3-4 ปีข้างหน้า หลังรัฐบาลเตรียมแผนผลักดันตามนโยบายแนทชันนอล อีเพย์เมนท์อย่างต่อเนื่อง | กระทรวงการคลังเชื่อว่าผู้มีรายได้น้อยกว่า 5.3 ล้านคนจะหลุดพ้นเกณฑ์ความยากจน ภายในปี 2561 หลังบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกชุดมาตรการสวัสดิการ ระยะที่ 2 เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณสัปดาห์หน้า | เศรษฐกิจ | กระทรวงการคลัง,ผู้มีรายได้น้อย,เกณฑ์ความยากจน,มาตรการสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 2,ตลาดไร้เงินสด,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/268879 |
นายอำเภอครบุรี เร่งหาสาเหตุไฟไหม้ป่าอุทยานฯ ทับลาน เสียหาย 500 ไร่ | วันที่ (19 ก.พ.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุไฟป่าในพื้นที่อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา บนภูเขาทั้ง 3 ลูก ในเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน เมื่อวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา ทำให้พื้นที่ป่าถูกไฟไหม้เสียหายเป็นบริเวณกว้างรวมกว่า 500 ไร่ ขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว เบื้องต้นจากการสำรวจความเสียหายส่วนใหญ่พบว่าเป็นพืชพันธุ์ไม้ที่งอกขึ้นใหม่ ส่วนไม้ยืนต้นได้รับความเสียหายเล็กน้อยนายสุรพันธ์ ศิลปสุวรรณ นายอำเภอครบุรี เปิดเผยว่า ไฟป่าที่เกิดขึ้นบนภูเขาทั้ง 3 ลูกเกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกันแต่ไม่ใช่เป็นการลุกลามต่อเนื่อง เนื่องจากภูเขาแต่ละลูกอยู่ห่างกัน พร้อมกับสันนิษฐานว่าสาเหตุของการเกิดไฟป่าครั้งนี้เชื่อมาจากฝีมือมนุษย์ที่อาจต้องการจุดไฟเผาป่าเพื่อล่าสัตว์ หาของป่า หรืออาจเป็นการจุดไปเผาป่าเพื่อเปิดทางลำเลียงไม้หวงห้ามออกจากพื้นที่ เบื้องต้นได้ประสานไปยังผู้นำชุมชนให้ชี้แจงกับชาวบ้าน เพื่อให้ช่วยกันดูแลรักษาทรัพยากรป่าไม้พร้อมกับสร้างเครือข่ายอาสาสมัครควบคุมไฟป่าในพื้นที่ | นายอำเภอครบุรี จ.นครราชสีมา สั่งเจ้าหน้าที่เร่งหาต้นตอไฟไหม้ป่าในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติทับลาน คาดฝีมือมนุษย์เผาป่าเพื่อล่าสัตว์ หรือลำเลียงไม้หวงห้ามออกจากพื้นที่ | เศรษฐกิจ | ไทยพีบีเอส,ThaiPBS,ไฟไหม้ป่า,อุทยานแห่งชาติทับลาน,นายสุรพันธ์ ศิลปสุวรรณ | https://news.thaipbs.or.th/content/260307 |
เพชรบูรณ์ยังมีน้ำท่วมสูง | ชาวบ้านหมู่ที่ 6 ตำบลกำแพงดิน อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร ประกอบพิธีฌาปนกิจศพ ผู้เสียชีวิตที่วัดศรีศรัทธาราม ด้วยความยากลำบาก หลังในพื้นที่ถูกน้ำท่วมสูงประมาณ 50 เซนติเมตร โดยสถานการณ์น้ำท่วมหลายอำเภอยังขยายวงกว้าง ส่วนการจราจรบนถนนหลายสายในเขตตำบลปากแคว และตำบลปากพระ เขตอำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย ยังเป็นไปด้วยความยากลำบาก หลังแม่น้ำยมไหลเข้าท่วม ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นรอบที่ 6 แล้วในปีนี้ เช่นเดียวกับทางเข้าพื้นที่ 8 หมู่บ้าน ของตำบลท่าด้วง อำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ถูกน้ำท่วมสูง ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านกว่า 1200 หลัง รวมทั้งพื้นที่ปลูกข้าวโพดแหล่งใหญ่ส่วนเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองหนองคายต้องเสริมความแข็งแรงพนังกั้นแม่น้ำโขงที่มีรอยร้าว เพื่อป้องกันตลิ่งพังและป้องกันน้ำท่วมในเขตเมือง เนื่องจากระดับน้ำโขงเหลือเพียง 75 เซนติเมตรจะล้นตลิ่ง ขณะที่ผู้อำนวยการส่วนอุทกวิทยาหนองคายระบุว่าระดับน้ำโขงขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำที่ไหลมาจากประเทศจีนและลาว ดังนั้นจังหวัดที่อยู่ติดแม่น้ำโขงยังต้องเฝ้าระวังระดับน้ำอย่างใกล้ชิดขณะที่จังหวัดชัยภูมิ หน่วยกู้ภัยช่วยกันค้นหาร่างนายอุดม สีมาวงค์ ชาวตำบลหนองบัวบาน ซึ่งจมน้ำขณะออกไปหาปลาบริเวณบึงละหาน ต้องใช้เวลาค้นหากว่า 1 ชั่วโมง จึงพบศพ ขณะที่ระดับน้ำในแม่น้ำชีที่อำเภอจัตุรัสและอำเภอบ้านเขว้า ยังสูงขึ้น บางส่วนไหลเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่เกษตร | สถานการณ์น้ำท่วมในอำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ ยังสูง ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านและพื้นที่การเกษตร | ภูมิภาค | ชัยภูมิ,น้ำท่วม,พิจิตร,หนองคาย,เพชรบูรณ์,แม่น้ำโขง | https://news.thaipbs.or.th/content/29984 |
นรข.ยึดไม้พะยูง จ.บึงกาฬ กว่า 100 ท่อน | หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง หรือ นรข. ยึดไม้พะยูงกว่า 100 ท่อน ได้ที่บ้านหาดแฮ่ ตำบลโคกกว้าง อำเภอบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ หลังสืบทราบว่า ขบวนการค้าไม้พะยูงเตรียมลักลอบขนไม้ลงเรือ เพื่อส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน แต่ระหว่างจับกุม ผู้ต้องหากว่า 10 คน ที่กำลังขนไม้พะยูง อาศัยความมืด หลบหนีไป สำหรับของกลางทั้งหมด เจ้าหน้าที่นำไปเก็บไว้ที่สถานีตำรวจภูธรบุ่งคล้า เพื่อติดตามเจ้าของมาดำเนินคดีขณะที่ตำรวจชุดเฉพาะกิจ สืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ยึดไม้พะยูง 22 ท่อน รถกระบะ 2 คัน ยาไอซ์ และเงินสด 370000 บาท ที่ใช้ติดสินบนเจ้าหน้าที่ จากขบวนการค้าไม้พะยูง ในตำบลห้วยติ๊กชู อำเภอภูสิงห์ พร้อมจับกุมผู้ต้องหา 3 คน นอกจากนี้ยังเตรียมขอหมายจับผู้ต้องหาอีก 1 คน หลังพบหลักฐานเชื่อมโยงส่วนที่จังหวัดมหาสารคาม ขบวนการค้าไม้พะยูง ลักลอบตัดไม้พะยูง อายุกว่า 60 ปี ริมทางหลวง บริเวณบ้านสว่าง ตำบลท่าสองคอน อำเภอเมือง จำนวน 2 ท่อน ความยาวกว่า 7 เมตร แต่ถูกหน้าที่แสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมยึดของกลาง ส่วนผู้ต้องหาหลบหนีไปได้ | หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง จังหวัดบึงกาฬ ยึดไม้พะยูง กว่า 100 ท่อน ขณะผู้ต้องหากำลังขนไม้ลงเรือ เพื่อเตรียมส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน | ภูมิภาค | บึงกาฬ,มหาสารคาม,ลำน้ำโขง,ศรีสะเกษ,ไม้พะยูง | https://news.thaipbs.or.th/content/185379 |
ทีมกฎหมายไทยสู้คดีปราสาทพระวิหาร เข้าพบนายกฯ วันนี้ | วานนี้ (21 เม.ย.)คณะทำงานและทีมกฎหมายไทย นำโดย นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยทีมกฎหมายไทยมั่นใจในการทำหน้าที่แถลงด้วยวาจาต่อสู่คดีพระวิหารอย่างเต็มที่ด้านนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้พูดคุยกับนายฮอร์ นัม ฮง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาก่อนเดินทางกลับ และได้ทำความเข้าใจกันว่าไม่ว่าคำตัดสินของศาลเป็นอย่างไร จะไม่กระทบต่อความสัมพันธ์ไทย กัมพูชา เพราะได้แยกแยะเรื่องคดีและเรื่องความสัมพันธ์คนละส่วน และหลังจากนี้จะนำคำแถลงต่อศาลโลกมาตีพิมพ์อธิบายความให้ประชาชนเข้าใจขึ้นทั้งนี้ทนายความชาวต่างชาติซึ่งทยอยเดินทางมาในช่วงบ่ายวานนี้ ( 21 เม.ย.)คือ ศาสตราจารย์ โดนัลด์ เอ็ม แม็คเรย์ศาสตราจารย์ เจมส์ ควอร์ฟฟอร์ด ส่วนศาสตราจารย์อแลงต์ แปลเล่ต์ และนางสวอลินา มิรอง จะเดินทางถึงในช่วงเช้าวันนี้ (22 เม.ย.) ก่อนที่ทั้งหมดจะเข้าพบนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อสรุปการแถลงด้วยวาจาต่อศาลโลกในช่วงบ่ายก่อนที่จะแถลงข่าวร่วมกันด้านนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ทางพรรคขอชื่นชมการทำงานของทีมทนายฝ่ายไทย ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ และ ข้าราชการทหารที่ทำงานด้านแผนที่ ตลอดจนผู้ทำงานเบื้องหลัง ที่มีการเตรียมข้อมูลต่อสู้คดีเป็นอย่างดี ภายใต้การนำของเอกอัครราชทูตวีรชัย จากนี้ ขอให้รัฐบาลเร่งดำเนินการใน 3 กรณี คือ กระทรวงการต่างประเทศต้องให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในทุกแง่มุม ต่อประชาชน ต้องระมัดระวัง ท่าทีของรัฐบาล เพื่อไม่ให้มีการนำพฤติกรรมใด ๆ ทั้งตรง ทางอ้อม ไปเป็นเหตุผลในการวินิจฉัยของศาลโลก และถึงแม้ว่าผู้นำไทย และกัมพูชา จะมีความสัมพันธ์พิเศษต่อกันก็ตามก็ต้องระมัดระวังท่าทีของกัมพูชา เป็นพิเศษด้วย ซึ่งนับจากนี้ จนถึงวันพิพากษา ขอให้นายกรัฐมนตรีตระหนักถึงท่าที เพื่อให้การพิจารณาคดีออกมาในทางที่เหมาะสม | คณะทำงานและหัวหน้าทีมกฎหมายไทยต่อสู้คดีปราสาทพระวิหาร ได้เดินทางมาถึงไทยแล้ว และย้ำว่าทีมทำหน้าที่ได้ดีที่สุด พร้อมทั้งขอบคุณชาวไทยที่ให้กำลังใจ ขณะที่รองนายกรัฐมนตรียืนยันว่า ไม่ว่าคำตัดสินของศาลโลกจะออกมาอย่างไร ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ยังคงเหมือนเดิม | การเมือง | ทนาย,นายกฯ,วีรชัย,ศาลโลก,อลินา มิรอง,อแลงต์ แปลเล่ต์,เจมส์ ควอร์ฟฟอร์ด,โดนัลด์ เอ็ม แม็คเรย์ | https://news.thaipbs.or.th/content/163816 |
มาดามแป้ง จัดให้ หมอผี ขอคิวอุ่นแข้งสาวไทย | นางนวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย กล่าวเปิดเผยถึงความเคลื่อนไหวของแข้งสาว ช้างศึก ทีมชาติไทย ชุดเตรียมทีมสู้ศึกฟุตบอลหญิง ชิงแชมป์โลก 2015 ที่แคนาดา ซึ่งจะระเบิดการชิงชัยในช่วงกลางปีนี้ ซึ่งรอบแรกทีมแม่เนื้อนิ่มไทย จับสลากแบ่งสายอยู่ร่วมกับอดีตแชมป์โลกทั้งเยอรมนี และนอร์เวย์ รวมถึงตัวแทนแอฟริกา อย่างไอวอรีโคสต์,โดย มาดามแป้ง เผยว่า จากการติดตามความเคลื่อนไหวของนักกีฬาทั้ง 32 คนที่เข้ามาเตรียมทีมลุยศึกบอลหญิงโลก ตนรู้สึกพอใจอย่างมากกับพัฒนาการด้านสมรรถภาพร่างกายและจิตใจที่ดีมากขึ้น น้องๆนักกีฬามีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงและแกร่งมากขึ้น โดยเฉพาะความแข็งแรงของกล้ามเนื้อที่เราจัดทดสอบเป็นระยะๆ ประกอบกับโปรแกรมด้านโภชนาการและจิตวิทยายังคงต้องปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง,นอกเหนือจากความแข็งแกร่งด้านร่างกายและจิตใจแล้ว ดิฉันได้กำชับทีมงานผู้ฝึกสอนให้เริ่มโปรแกรมด้านเทคนิคและทักษะด้านฟุตบอลแก่นักกีฬาทันที พร้อมกับการลงสนามหญ้าเทียม ซึ่งคงต้องพิจารณาสนามที่เหมาะสมและมีความพร้อมสำหรับนักกีฬา เพราะเชื่อว่าต้องใช้เวลาในการฝึกฝน สักระยะ เพื่อให้คุ้นเคยกับสนาม และไม่เกิดการบาดเจ็บระยะฝึกซ้อม ซึ่งก็จะดีและทันต่อการเตรียมตัวที่จะเดินทางไปเก็บตัวในต่างประเทศต่อไป ผจก.ทีมแข้งสาวคนสวยกล่าว,ขณะเดียวกัน มาดามแป้ง ยังเผยอีกว่า สำหรับโปรแกรมการอุ่นเครื่องล่าสุด ทีมชาติฟุตบอลหญิงของแคเมอรูนได้ส่งหนังสือขอเดินทางมาลับแข้งกับทีมชาติไทย ซึ่งเราเองไม่มีปัญหาอยู่แล้ว เพราะแคเมอรูนถือเป็นทีมที่มีสไตล์คล้ายไอวอรีโคสต์ เพื่อนร่วมสายของเราในบอลหญิงโลกที่แคนาดา ดังนั้น จึงถือเป็นคู่อุ่นเครื่องที่ดีมากๆ อย่างไรก็ตามจะหารือกับนายกสมาคมฟุตบอลฯ นายวรวีร์ มะกูดี เพื่อจะเชิญอีก 2 ทีม คือ 1 ทีมในเอเชีย และ 1 ทีมจากยุโรป มาอุ่นเครื่องด้วยเพื่อจัดทัวร์นาเมนต์ 4 เส้า คาดว่าในเร็ววันนี้น่าจะได้ข้อสรุป | ทีมบอลหญิง หมอผีสาว แคเมอรูน ร่อนหนังสือขออุ่นเครื่องกับแข้งสาว ช้างศึก ทีมชาติไทย ชุดเตรียมสู้ศึกฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก 2015 ที่แคนาดา โดย มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีม โอเคทันที | null | ฟุตบอลหญิง,หมอผีสาว,แคเมอรูน,ช้างศึก,ทีมชาติไทย,ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก 2015,มาดามแป้ง,นวลพรรณ ล่ำซำ,ข่าวกีฬา | https://www.thairath.co.th/content/470683 |
ททท.หนุนคนเจนวาย-วัยเกษียณ เที่ยวภาคเหนือ สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ | เมื่อคืนวันที่ 27 พ.ย. 2560 ที่ไร่แม่ฟ้าหลวง อ.เมือง จ.เชียงราย น.ส.สมฤดี จิตรจง ผอ.ททท.ภูมิภาคภาคเหนือ แถลงข่าว เปิดฤดูกาลท่องเที่ยวภาคเหนือ ประจำปี 2561 ภายใต้แนวคิด แอ่วเหนือครั้งใหม่ ไม่เหมือนเดิม ในปี 2561 ททท.ตั้งเป้าจะสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวประมาณ 1,016,500 ล้านบาท โดยภาคเหนือจะต้องสร้างรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.7 หรือประมาณ 134,800 ล้านบาท โดยจะเน้นเพิ่มมูลค่าแหล่งท่องเที่ยวและบริการ นำเสนอสินค้า Local Experience ผ่านวิถีการกิน แอ่วเหนือครั้งใหม่ ไม่เหมือนเดิม,นักท่องเที่ยวจะได้รับรู้ว่าแท้จริงแล้ว แหล่งท่องเที่ยวภาคเหนือมีหลากหลายสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ในทุกฤดูกาล และจะพบเจอความสุข ความประทับใจใหม่ๆ ไม่เหมือนเดิมทุกครั้งที่ไปสัมผัส โดยจะขยายบริการกลุ่มนักท่องเที่ยววัยเก๋าที่เกษียณหรือมีเวลา ไม่ต้องรอวันหยุด ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ และกลุ่ม Gen Y วัยทำงานที่นิยมเซลฟี่ เขียนบล็อก เล่นโซเชียลเน็ตเวิร์กที่บอกกันปากต่อปาก กลุ่มเที่ยวแบบครอบครัว ผู้พิการ และผู้หญิงที่ออกท่องเที่ยวกันเอง เน้นบริการความสะดวก ปลอดภัย,มีเส้นทางท่องเที่ยวต่อเนื่องไปเมืองรองได้ มีทิวทัศน์ชมภูเขา ทะเลหมอก และดอกไม้ โครงการหลวงและเกษตรบนดอยสูง วิถีชุมชน ดอยสเตอร์ หรือวิถีชาวดอยชมศิลปวัฒนธรรมประเพณีเอกลักษณ์เฉพาะชนเผ่า การเลือกช็อปสินค้าท้องถิ่น งานผ้าพื้นเมืองเลื่องชื่อ อาหารพืช ผัก ผลไม้เมืองเหนือ สดสะอาด ปลอดภัย ลิ้มรสอาหารถิ่นพื้นเมืองและท้องถิ่นอันเลื่องชื่อ ผลผลิตจากจากไร่และสวน เช่น ผลไม้ประจำถิ่น เครื่องดื่ม ชา และกาแฟ ท่องเที่ยวสายบุญเที่ยววัด กิจกรรมซอฟต์แอดเวนเจอร์ เส้นทางทดสอบกำลังใจ สนุกมัน กลางแจ้ง ผจญภัย ตื่นเต้น สนุกและท้าทาย อย่างปลอดภัยท่ามกลางธรรมชาติที่งดงาม และท่องเที่ยวแบบผ่อนคลายท่ามกลางธรรมชาติ สถานที่หลบพักผ่อนเงียบๆ แต่สะดวกสบาย. | ททท.เปิดฤดูกาลท่องเที่ยวปี 61 ในคอนเซ็ปต์ แอ่วเหนือครั้งใหม่ ไม่เหมือนเดิม ขยายกลุ่มนักท่องเที่ยววัยเกษียณไม่รอวันหยุด และคนเจนวายวัยทำงานนิยมเที่ยวแล้วแชร์ผ่านโซเชียล สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ | ข่าว,ทั่วไทย | เที่ยวดอย,เที่ยวเหนือ หน้าหนาว,การท่องเที่ยว,แอ่วเหนือ,ฤดูกาลท่องเที่ยวภาคเหนือ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1137950 |
ปิดสะพานข้ามแยกเกษตร ประเดิมเช้าวันจันทร์ จราจรติดหนึบ | วันที่ 14 ก.ย. หลังจากตำรวจจราจร สน.บางเขน สน.พหลโยธิน และเจ้าหน้าที่จากบริษัทรับเหมาก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วยกันเคลียร์พื้นผิวจราจรถนนพหลโยธินฝั่งมุ่งหน้าห้าแยกลาดพร้าว เพื่อดำเนินการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต โดยห้ามรถทุกชนิดขึ้นใช้สะพานข้ามแยกเกษตรตั้งแต่ 22.00 น. วันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งจะมีการเริ่มรื้อถอนตั้งแต่วันจันทร์ที่ 14 ก.ย.เป็นต้นไปนั้น,เช้าวันนี้( 14 ก.ย) เป็นวันเริ่มทำงาน และเปิดเรียนวันแรกของสัปดาห์ ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า จากการปิดการจราจรบริเวณดังกล่าว จะส่งผลให้การจราจรในบริเวณนี้ติดขัดอย่างหนัก ตั้งแต่หน้าเมเจอร์รัชโยธิน จนถึงหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เนื่องจากช่องการจราจรบนถนนพหลโยธินบริเวณดังกล่าว จะเหลือฝั่งละ 1 ช่อง จากเดิมที่มี 9 ช่องการจราจร โดยเมื่อเวลา 06.28 น. พบว่าปริมาณรถเริ่มหนาแน่น และการจราจรเริ่มติดขัด ท้ายแถวไปอยู่บริเวณอุโมงค์หลักสี่แล้ว,ล่าสุดเวลาประมาณ 07.40 น.พบว่า รถเริ่มติดหนัก ท้ายแถวกระจุกหน้ากรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ เช่นเดียวกับบริเวณหน้ากรมส่งเสริมการเกษตร ก่อนถึงแยกเสนามุ่งหน้าแยกรัชโยธิน พบว่า รถเคลื่อนตัวได้ช้า นอกจากนี้ ยังได้ส่งผลกระทบต่อการจราจรในถนนที่เชื่อมต่อในหลายสาย อาทิ ถนนประเสริฐมนูกิจ (เกษตร-นวมินทร์) ถนนงามวงศ์วาน ถนนลาดพร้าว เป็นต้น,ทั้งนี้ การวางแผนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีการปรับการปล่อยไฟแดงให้สัมพันธ์กับการจราจร เพื่อเป็นการระบายรถ ส่วนการประเมินของเจ้าหน้าที่นั้น เจ้าหน้าที่จะเก็บข้อมูลจนถึงวันศุกร์ เพื่อทำการวางแผนปรับจังหวะสัญญาณไฟแดง ,อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใช้เส้นทาง เลี่ยงเส้นทางไปใช้ถนนวิภาวดีรังสิต ถนนรามอินทรา ลาดปลาเค้า เสนา-วังหิน และในเส้นทางใหม่ ใช้ซอยพหลโยธิน 50-52 แทน ทั้งนี้ จะยังมีเจ้าหน้าที่จาก 5 สน. คอยอำนวยความสะดวกในการระบายรถ และให้ผู้ใช้รถเผื่อเวลาในการเดินทางด้วย. | เริ่มต้นสัปดาห์ เจ้าหน้าที่ปิดสะพานข้ามแยกเกษตร เพื่อรื้อถอน เตรียมก่อสร้างรถไฟฟ้าแล้ว ส่งผลการจราจรเช้านี้สาหัส! จาก 9 ช่องจราจรเหลือเพียง 1 ช่อง ตั้งแต่ หน้าเมเจอร์รัชโยธิน จนถึงหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แนะเลี่ยง | ข่าว,ทั่วไทย | ปิดสะพานข้ามแยกเกษตร,รถติด,การจราจร,ทางเลี่ยง,รถไฟฟ้าสายสีเขียว,ปิดสะพาน,สะพานข้ามแยกเกษตร,ถนนพหลโยธิน,เลี่ยงเส้นทาง,เมเจอร์รัชโยธิน,มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์,ช่องจราจร,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/local/525028 |
อนุทิน เตรียมเสนอ ศบค.พิจารณา TRAVEL BUBBLE 26 มิ.ย.นี้ | วันนี้ (23 มิ.ย.2563) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงความคืบหน้าการผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 ว่า ขณะนี้คณะแพทย์ศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้ผลิตเอกชน เดินหน้าค้นคว้าวิจัย และทดลองฉีดในสัตว์ ซึ่งผลเป็นที่น่าพอใจ และเตรียมหารือกับคณบดีคณะแพทย์ศาสตร์จุฬาฯ และสถาบันวัคซีนแห่งชาติ พร้อมย้ำว่า ที่ผ่านมาได้จัดสรรงบประมาณดำเนินการอย่างเต็มที่ เพื่อเร่งรัดให้เกิดผลโดยเร็วที่สุดเมื่อถามถึงแนวโน้มจะทันก่อนเวลาที่กำหนดเดิมหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า จะผลิตได้ทันหรือไม่ คงไม่สำคัญเท่ากับความปลอดภัย ซึ่งในการผลิตมีกระบวนการ และขั้นตอนทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ไม่สามารถก้าวล่วงได้ แต่จะสนับสนุนให้เกิดประสิทธิภาพในการพัฒนาวัคซีนในประเทศไทยให้สำเร็จเมื่อถามว่า การพิจารณาจับคู่นักท่องเที่ยวจากประเทศที่ควบคุมการระบาดโควิด-19 ได้ดี หรือ Travel Bubble นั้น นายอนุทิน กล่าวว่ากระทรวงสาธารณสุขได้พูดคุยกับสถานทูตหลายประเทศแล้ว และได้มีการร่างเงื่อนไขที่แต่ละประเทศจะยอมรับได้ ซึ่งหลักเกณฑ์แรก ๆ คือการจับคู่กับประเทศที่มีความสามารถในการควบคุมสถานการณ์ในระดับที่ยอมรับได้ มีจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศน้อย หรือไม่มีเลยรวมถึงมีธุรกิจที่จะต้องเข้ามาเร่งด่วน เช่น ภาคธุรกิจที่จะมาลงทุนในประเทศ และจะต้องเป็นการต่างตอบแทนต่อกัน คือคนไทยสามารถเข้าไปในประเทศนั้นด้วย แต่จะยังไม่มีการนำเข้าในที่ประชุม ครม.วันนี้ เนื่องจากต้องเข้าสู่การพิจารณาของ ศบค.ก่อน ซึ่งคาดการณ์จะพิจารณาได้ศุกร์นี้ และย้ำว่าไม่ต้องกังวล เพราะไม่ใช่เปิดรับนักท่องเที่ยวเป็นวงกว้าง แต่จำกัดเฉพาะกลุ่มตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้นายอนุทิน ยังไม่ให้ความชัดเจนในการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เนื่องจากจะต้องหารือในที่ประชุม ศบค. ซึ่งหากพูดไปจะเป็นการชี้นำ ไม่เหมาะสมนายอนุทิน ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ยังกล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ตอบรับนั้่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ว่าทราบข่าวผ่านสื่อ แต่ขอแสดงความยินดีถ้าเป็นจริงเมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร เป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐแล้ว จะทำให้การประสานงานกับพรรคร่วมรัฐบาลราบรื่นขึ้นหรือไม่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า พรรคร่วมรัฐบาลไม่เคยแสดงปัญหาอะไร ไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่มีการเปลี่ยนแปลง และทุกวันนี้ก็ทำงานร่วมกันเป็นอย่างดี อย่าไปมองว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะต้องทำงานกับพรรคแกนหลักเท่านั้น | นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี เตรียมเสนอ Travel Bubble เข้าสู่ที่ประชุม ศบค.ศุกร์นี้ ย้ำไม่ต้องกังวล เนื่องจากเปิดเฉพาะกลุ่ม ไม่ใช่การนักท่องเที่ยวทั่วไป ย้ำหนุนผลิตวัคซีนให้สำเร็จโดยเร็ว โดยยึดหลักความปลอดภัยเป็นหลัก | การเมือง | อนุทิน,travel bubble | https://news.thaipbs.or.th/content/293912 |
รุจ ลุยญี่ปุ่นถ่ายทอด หนังสือที่ไม่เคยอ่าน | รุจ ศุภรุจ เตชะตานนท์, ค่าย ,NEVERMIND RECORDS, บินไปเก็บภาพสวยตามแหล่ง ,UNSEEN, ของญี่ปุ่นมาใส่ในมิวสิกวีดิโอ, หนังสือที่ไม่เคยอ่าน, โดยรุจเผย เพลงนี้ยังเป็นป๊อปร็อกเหมือนเดิม แต่เนื้อหามีความลึกซึ้งมากขึ้น เพลงนี้ ,พี่โจ-เหมือนเพชร อำมะระ, แต่งให้ เปรียบเทียบว่าเรามีหนังสือเล่มหนึ่งแต่ไม่เคยอ่านเลย จนวันหนึ่งเราต้องการจะอ่านมันแต่กลับหาไม่เจอ เหมือนความรักที่เราไม่เห็นค่าคนที่อยู่ข้างๆเราจนเค้าจากไปถึงได้รู้สึก คล้ายจะเตือนสติว่ามีอะไรที่เราไม่ค่อยรักษาหรือเปล่า,มิวสิกวีดิโอไปถ่ายที่ญี่ปุ่น ไปสถานที่อันซีน เรื่องราวประมาณว่าผมกับแฟนวางแพลนที่จะไปเที่ยวญี่ปุ่นกัน แต่ดันมาเลิกกันซะก่อน แต่ผมก็ยังไปอยู่ดีแม้ว่าจะต้องไปคนเดียว ก็สะพายกล้องเก็บภาพทุกที่ ถ่ายกันที่จังหวัด ,Hyogo, (เฮียวโกะ) ภูเขาแถว ,Norwegian Wood, เป็นป่าสนที่เค้าใช้ถ่ายหนังดังมากที่ญี่ปุ่น ทุ่งดอกหญ้า ,Tonomine, (โทโนมิเนะ) เกาะ, Osaka IE Shima, นอกจากเพลงที่มีเนื้อหาลึกกินใจแล้ว ก็จะได้เห็นธรรมชาติของแหล่งอันซีนที่สวยงาม. | คัมแบ็กกลับทำงานเพลงในรอบ 3 ปี รุจ ศุภรุจ เตชะตานนท์ ค่าย NEVERMIND RECORDS บินไปเก็บภาพสวยตามแหล่ง UNSEEN ของญี่ปุ่นมาใส่ในมิวสิกวีดิโอ หนังสือที่ไม่เคยอ่าน | null | ข่าวบันเทิง,ศุภรุจ เตชะตานนท์,หนังสือที่ไม่เคยอ่าน,ญี่ปุ่น,รุจ-ศุภรุจ,สะพายกล้องเก็บภาพ,มิวสิกวีดิโอ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ,ไทยรัฐ | https://www.thairath.co.th/content/694158 |
ภาคใต้ฝนลดลง ทะเลฝั่งอันดามันตอนบนคลื่นยังแรง | วันที่ 12 มกราคม 2560 จากการตรวจสอบสภาพอากาศ กับไทยรัฐทีวี เดอะเวตเตอร์คอมพานี เผยภาพถ่ายดาวเทียมแสดงกลุ่มก้อนเมฆที่ปกคลุมท้องฟ้าเมืองไทยตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาจนถึง ณ ขณะนี้ พบว่าพื้นที่ภาคใต้ท้องฟ้าเริ่มโล่งโปร่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด กลุ่มเมฆฝนที่ปกคลุมก่อนหน้านี้บางตาลง แต่ในพื้นที่ทางตอนบนยังคงมีกลุ่มเมฆฝนปกคลุมอยู่ในหลายจุด ซึ่งพื้นที่ที่มีโอกาสเกิดฝนในเช้านี้ ได้แก่ จ.ลำปาง ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี ขอนแก่น และตราด,ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดฝนในพื้นที่ภาคใต้ก่อนหน้านี้ อย่างหย่อมความกดอากาศต่ำ ตอนนี้ได้เคลื่อนปกคลุมบริเวณอ่าวเมาะตะมะแล้ว และคาดว่าวันนี้จะเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศเมียนมา และจะอ่อนกำลังลงในระยะต่อไป ซึ่งลักษณะเช่นนี้จึงทำให้พื้นที่ภาคใต้มีฝนลดลง แต่คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน ตั้งแต่จังหวัดระนองขึ้นไปยังคงมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งต่อไปอีก 1 วัน,สำหรับพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ที่มีฝนเพิ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อวานนี้ต่อเนื่องไปจนถึงวันพรุ่งนี้นั้น ก็เนื่องมาจากได้รับอิทธิพลของลมตะวันออกเฉียงใต้ ที่พัดเข้าปกคลุมประเทศไทยตอนบนจากการเหนี่ยวนำของหย่อมความกดอากาศต่ำที่เลื่อนขึ้นมาเข้าใกล้ประเทศเมียนมา จึงทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยจะเป็นลักษณะของฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงในระยะแรก,หลังจากนั้นในช่วงสุดสัปดาห์นี้ไปจนถึงต้นสัปดาห์หน้า วันที่ 14 - 17 มกราคม พบว่าบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นลง โดยภาคเหนืออุณหภูมิจะลดลงได้ประมาณ 3-6 องศาเซลเซียส, ภาคอีสาน อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลาง และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลงได้ 1-3 องซาเซลเซียส,ในขณะเดียวกันในช่วงวันที่ 16-17 มกราคม ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้ และอ่าวไทย ก็จะมีกำลังแรงขึ้นด้วย จึงทำให้ภาคใต้มีกลับมามีฝนตกเพิ่มขึ้น และคลื่นลมก็มีกำลังแรงขึ้นเช่นกัน ดังนั้นประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ต้องระวังอันตรายจากฝนที่จะกลับมาตกหนัก และปริมาณฝนที่ตกสะสม ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าว,ส่วนภาพรวมสภาพอากาศในวันนี้แต่ละภาค, เป็นดังนี้,ภาคเหนือ อากาศเย็น กับมีฝน ร้อยละ 80 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-15 องศาเซลเซียส,ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีฝน ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-17 องศาเซลเซียส,ภาคกลาง มีเมฆมาก กับมีฝน ร้อยละ 60 ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ ชัยนาท กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 องศาเซลเซียส,ภาคตะวันออก มีเมฆมาก กับมีฝน ร้อยละ 60 ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดชลบุรี และระยอง อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร,ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร,ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง และพังงา อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดระนองขึ้นไป ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2-3 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 3 เมตร ตั้งแต่จังหวัดพังงาลงมา ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร,กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนเล็กน้อยถึงปานกลาง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 องศาเซลเซียส | ภาคใต้ฝนเริ่มลดลง ทะเลฝั่งอันดามันตอนบนคลื่นยังแรง สูง 2-3 เมตร เรือเล็กควรงดออกฝั่งต่ออีกวัน ขณะที่ไทยตอนบน รวมทั้งกรุงเทพฯ มีฝนต่อถึงพรุ่งนี้
| null | พยากรณ์อากาศ,อุตุนิยมวิทยา,ฝนตก,ภาคใต้,ทะเลอันดามัน | https://www.thairath.co.th/content/833906 |
iLaw: 7 เรื่องจริง ที่ประเทศกูมี | ได้มอบหมายให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) พิจารณาเนื้อหาของเพลงว่าเข้าข่ายขัดคำสั่ง คสช. หรือไม่ ส่วนคนที่อยู่ในคลิปจะต้องเชิญตัวมาให้ปากคำว่า มีเจตนาทำให้เกิดความวุ่นวายหรือขัดคำสั่ง คสช.หรือไม่ต่อมา พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษก บก.ปอท. กล่าวว่า มิวสิควิดีโอ ประเทศกูมี น่าจะเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(2) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ เพราะความเสียหายที่ปรากฎในเนื้อเพลงอาจกระทบกระเทือนกับเศรษฐกิจ อาจทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่น สำหรับผู้ที่ส่งต่อโพสต์ก็อาจเข้าข่ายความผิด มาตรา 14(5) ของพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯด้วยเช่นกันเพลง ประเทศกูมี โดยกลุ่มศิลปิน RAP AGAINST DICTATORSHIP เผยแพร่ทางเว็บไซต์ยูทูปตั้งแต่วันที่ 22 ตุลาคม 2561 โดยวันที่ 26 ตุลาคม 2561 เวลา 11.00 น. มีผู้เข้าชมประมาณ 800000 ครั้ง และเพิ่มสูงขึ้นเกิน 2000000 ครั้งในเวลา 19.00 น. ของวันเดียวกัน เนื้อหา ประเทศกูมี ว่าด้วยการนำข้อเท็จจริงของสังคมการเมืองไทยร่วมสมัยมาร้อยเรียงเป็นบทเพลง โดยขับร้องออกมาในสไตล์ Rap กล่าวได้ว่าเพลง ประเทศกูมี นั้นเปิดบาดแผลของสังคมไทยที่พยายามซุกซ่อนมานานกว่าสี่ปี ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งแยกขั้วทางการเมือง การใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุม การบังคับใช้กฎหมายอย่างไม่เป็นธรรมและการจำกัดเสรีภาพของประชาชน รวมถึงเสียดสีผู้มีอำนาจ นอกจากนี้บรรยากาศในมิวสิควิดีโอยังปรากฏภาพคล้ายเหตุการณ์นองเลือด 6 ตุลา 2519 อีกด้วยแม้เนื้อหาเพลงไม่ได้กล่าวถึง คสช.หรือระบุชื่อบุคคลหนึ่งบุคคลใดโดยตรง แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า บางเนื้อความก็เป็นข้อเท็จจริงที่มีการถกเถียงในสังคมและสร้างความหวั่นไหวต่อ คสช.มาตลอดเดือนกุมภาพันธ์ 2561 เจ้าหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จับกุมเปรมชัย กรรณสูตร ประธานบริหารและกรรมการ บมจ.อิตาเลียนไทยฯ และพวก พร้อมซากเสือดำ ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง จนนำไปสู่การฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อมามีการเผยแพร่เสียงระหว่างการจับกุมในลักษณะต่อรองการจับกุม และท่าทีพินอบพิเทาของเจ้าหน้าที่รัฐในชุดสีกากี ที่มีต่อเปรมชัยก็ทำให้เรื่องราวของเสือดำตกอยู่ภายใต้กระแสการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วงจากประชาชน ขณะเดียวกันความไม่พอใจในเรื่องดังกล่าว นำไปสู่การแสดงออกของประชาชนอย่างการเรียกร้องที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2561โดยกลุ่มทีชาล่าจัดกิจกรรม รวมพลคนพันธุ์เสือดำ ที่หอศิลป์ฯ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับ เสือดำ ที่ถูกล่าสังหารในทุ่งใหญ่นเรศวร ภายในงานยังจำลองเหตุการณ์การสังหารเสือดำและแจกหน้ากากเสือดำให้แก่ประชาชนที่มาร่วมงาน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบประมาณสิบนายคอยสังเกตการณ์ ผู้จัดงานระบุว่า งานดังกล่าวสามารถจัดได้เนื่องจากเป็นการใช้พื้นที่หอศิลป์ฯ ซึ่งได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง แต่เจ้าหน้าที่ขอให้พูดในเรื่องเสือดำเท่านั้น ไม่เลยเถิดไปวิพากษ์วิจารณ์ คสช.เดือนธันวาคม 2561 เพจ CSI LA เผยแพร่ภาพนาฬิกาข้อมือของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รวมทั้งสิ้น จำนวน 25 เรือน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นนาฬิกาแบรนด์หรูราคาระหว่าง 400000-360000 บาท แต่ทรัพย์สินดังกล่าวกลับไม่ปรากฎในบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินที่ได้รายงานไว้ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ในตอนที่เข้ารับตำแหน่งทางการเมืองเมื่อเดือนตุลาคม 2557ช่วงเวลานั้น ชายเจ้าของเพจ Headache Stencil ที่ก่อนหน้าเขาจะ โพสต์ภาพกราฟิตีหรือสติกเกอร์ตามที่สาธารณะต่างๆ แต่ละภาพมีเนื้อหาเกี่ยวกับ คสช. และความไม่ชอบธรรมบางอย่างในสังคมไทย ครั้งนี้เขาก็ไม่พลาดที่จะออกมาแสดงความคิดเห็นเรื่องนาฬิกา เขาพ่นกราฟิตีนาฬิกาปลุกหน้าพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่สะพานลอยย่านซอยสุขุมวิท 39 เป็นเหตุให้เขาถูกติดตามจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ตลอด 24 ชั่วโมง จนต้องหลบออกจากที่พักไปอาศัยอยู่ที่จังหวัดอื่นชั่วคราว หลังจากนั้น ภาพดังกล่าวก็ถูกลบออกโดยใช้สีขาวทากลบทับ ท้ายที่สุด เขาและเพื่อนเข้าพบตำรวจสน.พระโขนง และยินยอมเสียค่าปรับจำนวน 3000 บาทจากการพ่นกราฟิตีในที่สาธารณะวันที่ 3 มกราคม 2561 เอกชัย หงส์กังวาน นักเคลื่อนไหวเดินทางมาที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อมอบนาฬิกาให้กับ พล.อ.ประวิตร แต่เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบกว่าสิบนายควบคุมตัวเขาไปไว้ที่อาคารสำนักงานข้าราชการพลเรือน กพ. และให้ยื่นเรื่องร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม ต่อมาวันที่ 19 มกราคม 2561 เอกชัยเดินทางมามอบนาฬิกาให้กับ พล.อ.ประวิตร อีกครั้งระหว่างที่รอมีชายรายหนึ่งเข้ามาจะทำร้ายเอกชัย แต่ก็ห้ามปรามได้ทัน จากการตรวจสอบพบว่า ชายคนดังกล่าวพกพามีดพับใส่กระเป๋ามาด้วย ทั้งนี้ก่อนหน้านี้เอกชัยเคยมารอพบพล.อ.ประวิตรหลายครั้งวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2561 ที่สกายวอล์ค อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ธัชพงศ์ และพวกรวมสี่คน นักกิจกรรมจากศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อสังคมนิยมประชาธิปไตย หรือ YPD ร่วมกันทำกิจกรรมตามใจป้อม ใส่หน้ากากเป็นรูปเคนท์ เจิ้ง นักแสดงชาวฮ่องกงที่มีใบหน้าคล้ายกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ต่อมาถูกตำรวจจับกุมและกล่าวหาว่า ละเมิดมาตรา 10 ไม่แจ้งการชุมนุมก่อนเริ่มการชุมนุม ตามพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะฯ ก่อนที่ 6 กุมภาพันธ์ 2561ที่สกายวอล์กบีทีเอส ช่องนนทรีย์ ธัชพงศ์ แสดงละครใบ้คัดค้านการคอร์รัปชัน แต่ยังไม่ทันได้เริ่มตำรวจก็ควบคุมตัวเขาไปที่สน.ยานนาวา อ้างว่า การกระทำของเขาอาจเข้าข่ายผิดพ.ร.บ.ชุมนุมฯ แต่ยังไม่มีการตั้งข้อหาปัจจุบันประเทศไทยมี สภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. คอยทำหน้าที่ออกกฎหมาย และคอยตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล สมาชิก สนช. มีจำนวน 266 คน ทั้งหมดมาจากการแต่งตั้งของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. และนายกรัฐมนตรี จากสมาชิกทั้งหมดทหารมีสัดส่วนมากที่สุดคือ 142 คน คิดเป็นร้อยละ 58 ของทั้งสภาตั้งแต่รัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 ถึง 26 ตุลาคม 2561 สนช. ออกกฎหมายไปแล้วอย่างน้อย 300 ฉบับ แต่ละฉบับได้รับความเห็นชอบอย่างเอกฉันท์ เช่น พ.ร.บ.ขึ้นเงินเดือนทหาร ศาลและองค์กรอิสระ ฯลฯ และมีกฎหมายอย่างน้อย 19 ฉบับ เช่น พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณสามฉบับ ซึ่ง สนช. ใช้เวลาพิจารณาอย่างรวดเร็วเพียงแค่วันเดียวเสร็จ นอกจากนี้ สนช. ยังมีอำนาจเห็นชอบบุคคลให้เป็นองค์กรอิสระ เช่น คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ศาลรัฐธรรมนูญ ฯลฯย้อนกลับไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2560 ยังปรากฎข่าวฉาวของสภาแห่งนี้ว่ามีสมาชิก สนช. อย่างน้อยเจ็ดคน ขาดการลงมติในที่ประชุมสภาเกินกำหนดซึ่งจะต้องถูกให้ออกจากตำแหน่ง แต่สุดท้ายสมาชิก สนช. ทั้งเจ็ดคน ก็ยังสามารถนั่งในสภาต่อไปได้จนถึงทุกวันนี้รัฐธรรมนูญ คือ กฎหมายหมายสูงสุดของประเทศ การเข้ามาบริหารประเทศของ คสช. ก็ด้วยการฉีกรัฐธรรมนูญ 2550 แล้วทำการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ในยุค คสช. การร่างรัฐธรรมนูญคืออุตสาหกรรมที่สร้างรายได้ให้กับคนจำนวนมาก ปัจจุบันรัฐธรรมนูญ 2560 คือกฎหมายสูงสุดที่ คสช. ทิ้งไว้ให้กับคนไทยทั้งประเทศกว่าจะเป็นรัฐธรรมนูญ 2560 ได้ต้องใช้เวลาถึงสามปี ช่วงแรก คสช. ใช้เวลาร่างรัฐธรรมนูญประมาณหนึ่งปีกว่า ด้วยการแต่งตั้งคน 35 คน ทำหน้าที่ร่างรัฐธรรมนูญ แต่งตั้งคน 250 คน เป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ทำหน้าที่เห็นชอบรัฐธรรมนูญ แต่สุดท้ายเมื่อร่างรัฐธรรมนูญเสร็จ สปช. ที่ถูก คสช. แต่งตั้งมาคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ แล้วเริ่มร่างกันใหม่ช่วงที่สองของการร่างรัฐธรรมนูญ คสช. ตั้ง 21 คน เป็นคนร่างรัฐธรรมนูญ และแต่งตั้ง 220 คน เป็นสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ทำหน้าที่เสนอความเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนูญฉบับนี้ถูกนับไปออกเสียงประชามติและผ่านความเห็นชอบจากประชาชนส่วนใหญ่ แม้การออกเสียงประชามติครั้งนี้จะถูกกังขาถึงความไม่บริสุทธิ์และความไม่ยุติธรรม เพราะมีประชาชนอย่างน้อย 195 คน ถูกตั้งข้อหาดำเนินคดีจากการรณรงค์ไม่เห็นชอบ และตรวจสอบจับตาการลงประชามติอย่างไรก็ตามหลังจากรัฐธรรมนูญผ่านประชามติแล้ว ยังถูกแก้ไขเพิ่มเติมอีกถึง 4 ครั้ง คือหนึ่ง ใช้ ม.44 กำหนดให้เรียนฟรี 15 ปี จากที่เดิมเขียนไว้ 12 ปี สอง ใช้ ม.44 กำหนดให้รัฐอุปถัมภ์ทุกศาสนาจากเดิมให้สนับสนุนแค่พุทธศาสนา นิกายเถรวาท สาม แก้ไขให้ ส.ว.มีสิทธิเลือกนายกฯ ร่วมกับ ส.ส. และยัง แก้ไขร่างรัฐธรรมนูญตามข้อสังเกตพระราชทานรัฐบาล คสช. บริหารประเทศยาวนานเกินสี่ปี หากเปรียบเทียบกับรัฐบาลจากการเลือกตั้งไม่มีรัฐบาลไหนสามารถทำได้ เพราะถูกจำกัดวาระให้ไม่เกินสี่ปี ทั้งนี้ คสช. เริ่มต้นบริหารประเทศด้วยคำสัญญาว่า ขอเวลาอีกไม่นาน อย่างไรก็ตามคำสัญญาที่ว่าจะคืนอำนาจให้ประชาชนด้วยการเลือกตั้งกลับถูกเลื่อนแล้วเลื่อนอีก ตลอดการยึดอำนาจ คสช. เลื่อนเลือกตั้งไปแล้วห้าครั้ง และสัญญารอบล่าสุดที่จะเลือกตั้งเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ก็ยังไม่มีความแน่นอนว่าจะเป็นไปตามสัญญาหรือไม่ เพราะ คสช. ยังมีอำนาจพิเศษตามมาตรา 44 ในเลื่อนเลือกตั้งได้ และอำนาจพิเศษนี้จะอยู่ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะตั้งรัฐบาลใหม่ได้และเมื่อมีกลุ่มนักเคลื่อนไหวออกมาเรียกร้องการเลือกตั้ง สิ่งที่ คสช. กระทำคือ การใช้กฎหมายปราบปรามการใช้เสรีภาพของผู้เรียกร้อง นับตั้งแต่เดือนมกราคม 2561 กลุ่มคนอยากเลือกตั้งได้ออกมาเรียกร้องให้ คสช. จัดการเลือกตั้งภายในเดือนพฤศจิกายน 2561 มีการจัดชุมนุมทั้งหมดไม่น้อยกว่าหกครั้ง และ คสช.ก็ดำเนินคดีผู้จัดการชุมนุมและผู้เข้าร่วมชุมนุมในทุกครั้งต่างกรรมต่างวาระเช่น ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 พ.ร.บ.ชุมนุมฯ และคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 เป็นต้นหลังรัฐประหาร คสช. ใช้อำนาจพิเศษออกประกาศหรือคำสั่งเพื่อควบคุมสถานการณ์ทางการเมือง จำนวนมาก นับถึงวันที่ 21 กันยายน 2561 คสช. ออกประกาศ 128 ฉบับ ออกคำสั่ง 213 ฉบับ และออกคำสั่งหัวหน้า คสช. 194 ฉบับ รวมแล้วมีจำนวนมากถึง 535 ฉบับ ในจำนวนนี้มีการออกคำสั่งจำกัดสิทธิและเสรีภาพของประชาชนโดยตรงอย่างน้อย 35 ฉบับ คำสั่งที่สำคัญ คือ คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 เป็นเครื่องมือให้อำนาจทหารเข้าปราบปรามผู้เห็นต่างได้แทนกฎอัยการศึก ให้ทหารมีอำนาจเรียกบุคคลมารายงานตัวและคุมขังได้เจ็ดวันหรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า เป็นการปรับทัศนคติในข้อ 12 ของคำสั่งนี้ยังสั่งห้ามการชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปด้วย ซึ่งกลายเป็นข้ออ้างที่เจ้าหน้าที่รัฐนำมาใช้ในการแทรกแซงหรือจำกัดเสรีภาพการแสดงออกมาตลอดกว่าสามปีนับแต่มีการประกาศใช้ โดยมีประชาชนไม่น้อยกว่า 421 คนถูกดำเนินคดีฐานฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. ข้อนี้ เนื้อหาการแสดงออกส่วนใหญ่ที่ถูกห้ามจะเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่ออำนาจเบ็ดเสร็จของ คสช. อย่างมีนัยสำคัญ เช่น การแสดงความคิดเห็นต่อเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญฉบับลงประชามติตลอดเวลากว่าสี่ปีที่ผ่านมา คสช. ใช้กฎหมายทั้งที่มีการบัญญัติใช้ไว้ก่อนหน้ารัฐประหารและตราขึ้นใหม่โดย คสช.ในการปราบปรามการใช้เสรีภาพการแสดงออกของประชาชน จากการเก็บข้อมูลพบว่า มีผู้ถูกกล่าวหาว่า หมิ่นประมาทพระกษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ไม่น้อยกว่า 94 คน ยุยงปลุกปั่น ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ไม่น้อยกว่า 91 คน และชุมนุมทางการเมืองตามประกาศ คสช.ที่ 7/2557 และคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 ไม่น้อยกว่า 421 คนในส่วนของการวิพากษ์วิจารณ์ คสช. ก็มีตั้งแต่วิจารณ์การทำงานและผลงานของ คสช. การคอร์รัปชั่น คำพิพากษาคดีจำนำข้าวของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไปจนถึงการแชร์ภาพกระเป๋าของนราพร จันทร์โอชา ภรรยาหัวหน้า คสช. ข้อกฎหมายหลักที่นำมาใช้คือ ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เช่น คดีพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ของวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย จากการวิจารณ์บ้านเมืองในยุค คสช.และการให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.ประวิตร กรณีทหารไปตามถ่ายรูปยิ่งลักษณ์ ชินวัตรว่า ไม่ให้เกียรติและเหยียดหยามทางเพศ คดีนี้ศาลชั้นต้นยกฟ้อง หรือคดียุยงปลุกปั่นประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ของ 8 แอดมินเพจเรารักพลเอกประยุทธ์ ที่มีการโพสต์ภาพเสียดสีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และการโพสต์ภาพวิพากษ์วิจารณ์แนวขำขันต่อกรณีข้อกล่าวหาการคอร์รัปชั่นในโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์อาจกล่าวได้ว่า การบังคับใช้กฎหมายอย่างหนักหน่วง ของ คสช.ที่มีต่อผู้เห็นต่างที่วิพากษ์วิจารณ์ ทำให้ คสช.กลายเป็นสถาบันที่แตะต้องไม่ได้โดยปริยาย | วันนี้ (26 ตุลาคม 2561) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีการเผยแพร่เพลง ประเทศกูมี ทางเว็บไซต์ยูทูปว่า | การเมือง,วัฒนธรรม,สิทธิมนุษยชน | iLaw,โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน,ประเทศกูมี | https://prachatai.com/journal/2018/10/79317 |
เหนือ-อีสาน-กลาง-ตะวันออก ร้อนจัด ฝนฟ้าคะนอง-ลมกระโชก ใต้มีฝนต่อเนื่อง | พายุไซโคลน ฟานิ บริเวณอ่าวเบงกอลตอนล่าง กำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้ ศรีลังกา-อินเดีย ไม่มีผลกระทบต่อไทย ,เมื่อวันที่ 29 เม.ย.62 กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด กับมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ในภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากลมกระโชกแรง ควรอยู่ห่างจากต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง รวมถึงฟ้าผ่า สำหรับภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นในระยะนี้,ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าว มีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในระยะนี้ อนึ่งเมื่อเวลา 01.00 น. พายุไซโคลน ฟานิ (FANI) บริเวณอ่าวเบงกอลตอนล่าง มีศูนย์กลางอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองเจนไน ประเทศอินเดีย ประมาณ 890 กิโลเมตร กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเข้าใกล้ประเทศศรีลังกาและประเทศอินเดีย ซึ่งพายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย,พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.,ภาคเหนือ อากาศร้อนถึงร้อนจัด โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง ส่วนมากบริเวณจังหวัดตาก กำแพงเพชร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-30 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 39-43 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.,ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อนถึงร้อนจัด โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครพนม สกลนคร มุกดาหาร ชัยภูมิ ขอนแก่น อุดรธานี กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 39-41 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.,ภาคกลาง อากาศร้อนถึงร้อนจัด โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี ,อุทัยธานี นครสวรรค์ และลพบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 39-42 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ภาคตะวันออก อากาศร้อนและร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 25-30 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร,ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) อากาศร้อน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร,ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) อากาศร้อน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ,อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร,กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 28-30 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-39 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 15-20 กม./ชม. | อุตุฯเผยไทยตอนบนร้อนจัด มีฝนฟ้าคะนอง-ลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ภาคเหนือตอนล่าง-อีสาน-กลาง-ตะวันออก เตือนประชาชนบริเวณไทยตอนบนระวังอันตรายจากลมกระโชกแรง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองต่อเนื่องระยะนี้ | ข่าว,ทั่วไทย | กรมอุตุฯ,อุตุนิยมวิทยา,พยากรณ์อากาศ,อากาศวันนี้,อากาศประเทศไทย,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1555613 |
คลุกวงในไทยลีก 16/08/62 | But He doesnt throw it into its nest. พระเจ้ามอบอาหารให้นกทุกตัว แต่ไม่เคยโยนให้ถึงรังของมัน นสพ.ไทยรัฐ ฉบับประจำวันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม 2562,เป็นที่น่ายินดีว่า ท่านอดีตผู้อำนวยการ นสพ.ไทยรัฐ คุณ กำพล วัชรพล จะได้รับการประกาศเกียรติคุณให้เป็น บุคคลสำคัญของโลก จาก องค์การยูเนสโก (UNESCO) ในวันที่ 19 สิงหาคมที่จะถึงนี้ aจากผลงานและความสำเร็จในด้านสื่อสาร มวลชน จนได้รับการเรียกขานเป็น จอมพลคนหนังสือพิมพ์ และตลอดจนการอุทิศตนให้กับ การศึกษาของชาติ รวมทั้งการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ต่าง ๆต่อสังคมและประเทศชาติจนเป็นที่ประจักษ์,ในปีนี้อีกเหมือนกัน คือในวันที่ 27 ธันวาคม จะเป็นวันครบรอบ 100 ปีชาตกาล ของท่านอดีต ผอ.กำพล วัชรพล นับเป็นข่าวดีที่มีความประจวบเหมาะกันอย่างยิ่ง,ไทยลีก 2019 กลับมาสู่โหมดของการช่วงชิงที่สนุกตื่นเต้นอีกครั้ง เมื่อ 4 ทีมหัวตารางอย่าง บุรีรัมย์ฯ, เชียงรายฯ, การท่าเรือ และ แบงค็อกฯ ใครพลาดที่เหลืออีก 6 นัดก็มีสิทธิ์วืดแชมป์ ในขณะที่ทีมใน โซนท้ายตาราง ก็มีโอกาสไล่เขี่ย พวกกลางตาราง ได้ไม่ยาก ห้ามมองข้ามเด็ดขาด,สรรเสริญกันระงมอีกครั้ง เมื่อทีมชาติไทยทั้ง ยู 15 และ ยู 18 สร้างความผิดหวังให้แฟนบอลแบบรับไม่ได้ โดยเฉพาะทีมยู 18 แพ้แม้กระทั่ง กัมพูชา ชนิดที่ช็อกกองเชียร์ งานนี้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ปวดใจเมื่อถูกย้อนศรด้วยประโยคอมตะ เราต้องก้าวข้ามอาเซียน,ไทยลีก สุดสัปดาห์นี้ วันเสาร์ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เจ้าบ้านยังเหนือกว่า ราชบุรี มิตรผล ส่วน เชียงราย ยูไนเต็ด เล่นในบ้านก็น่าจะดีกว่า สุโขทัย เอฟซี บอลเปลี่ยนโค้ช และคู่วันอาทิตย์น่าคิดเหมือนกันเพราะ สุพรรณบุรี เอฟซี เล่นในบ้านต้องการแต้มสุดๆ จะยัน การท่าเรือฯ ที่กำลังคึกอยู่หรือเปล่า,สำหรับ พรีเมียร์ ลีกมี 2 คู่ วันเสาร์ เบิร์นลีย์ เหนียวแน่นแต่ไปเยือนคงต้าน ปืนใหญ่ ไม่ไหวและ แมนฯซิ ยังเหนือกว่า สเปอร์ส ส่วนคู่เอกวันอาทิตย์ ใครที่คิดว่า แมนฯยู จะชนะ วูล์ฟส์ ได้ง่ายๆ น่าจะคิดผิด,วีเออาร์,[email protected] | God gives every bird its food, But He doesnt throw it into its nest. พระเจ้ามอบอาหารให้นกทุกตัว แต่ไม่เคยโยนให้ถึงรังของมัน นสพ.ไทยรัฐ ฉบับประจำวันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม 2562 | null | คลุกวงในไทยลีก,วีเออาร์,ไทยลีก,ทีมชาติไทย,แฟนบอล | https://www.thairath.co.th/sport/thaifootball/1638641 |
เติมรสชาติ | สำหรับรายการวาไรตี้ข่าวอย่าง ข่าวใส่ไข่ ที่มีการนำข่าวเด็ดข่าวดังข่าวที่อยู่ในความสนใจจากหน้าหนังสือพิมพ์ไทยรัฐและจากสื่อต่างๆ มาบอกกล่าวและวิจารณ์,โดยผู้ดำเนินรายการฝีปากกล้าอย่าง คุณม้า–อรนภา กฤษฎี, คุณเหมี่ยว–ปวันรัตน์ นาคสุริยะ, คุณหนุ่ม–กรรชัย กำเนิดพลอย, คุณมดดำ–คชาภา ตันเจริญ,และผู้ดำเนินรายการที่มากด้วยความสวยงาม สดใสและน่ารัก คุณรถเมล์–คะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์ ขวัญใจของคนดูรายการ,ทั้งห้าท่านนี้จะสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาทำหน้าที่ผู้ดำเนินรายการข่าวใส่ไข่,อีกคนหนึ่งที่อดกล่าวถึงไม่ได้ เพราะเป็นส่วนหนึ่งอันทำให้รายการข่าวใส่ไข่ได้รับความนิยมอยู่จนทุกวันนี้ นั่นคือ น้องแองจี้ โปรดิวเซอร์ของรายการ,นอกจากจะทำหน้าที่สรรหาข่าวดีๆแล้ว ยังจะได้เห็นความน่ารักของน้องแองจี้ในชุดแต่งกายแปลกๆ ปรากฏตัวให้ผู้ชมรายการได้เห็นอยู่เสมอ เป็นอีกหนึ่งสีสันของรายการที่ชวนติดตามยิ่ง,ใครที่ชื่นชอบความสามารถ ความสวยสดใสน่ารัก ความสุภาพอ่อนโยนของ คุณรถเมล์–คะนึงนิจ อยากให้ลองมาติดตามดู ข่าวใส่ไข่ แล้วคุณจะรักและชื่นชมเธอมากยิ่งขึ้น,ข่าวใส่ไข่ นำข่าวสารต่างๆทั้งการเมือง สังคม ข่าวชาวบ้าน และที่ขาดไม่ได้คือข่าวในวงการบันเทิงที่คนไทยนิยมกันมาก มาเล่าให้ผู้ชมได้รับรู้ด้วยความสนุกสนาน สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะแทบตลอดทั้งรายการ,ทั้ง คุณม้า คุณเหมี่ยว คุณหนุ่ม คุณมดดำ ชื่อเหล่านี้เป็นเครื่องการันตีว่ารายการสนุกและเข้มข้นแน่นอน,ก็เพราะรายการได้รับความชื่นชอบจากคนดูเปิดศักราชใหม่ 2561 จึงได้เพิ่มเวลาการออกอากาศเพื่อสนองความต้องการของผู้ชม,โดยวันจันทร์ถึงวันพฤหัสบดี จะออก อากาศในเวลา 18.20–19.10 น. และวันศุกร์ เวลา 18.00–18.50 น. ทางไทยรัฐทีวีช่อง 32 ความคมชัดสูง.,วีระชัย ฉัตรใบโพธิ์,แจ๋วริมจอ,[email protected] | ออกอากาศมาเป็นระยะเวลาพอสมควร แต่ยังคงได้รับความนิยมและชื่นชอบจากคนดูทีวีไม่เสื่อมคลาย สำหรับรายการวาไรตี้ข่าวอย่าง ข่าวใส่ไข่ ที่มีการนำข่าวเด็ดข่าวดังข่าวที่อยู่ในความสนใจจากหน้าหนังสือพิมพ์ไทยรัฐและจากสื่อต่างๆ | null | ทีวีบันเทิง,แจ๋วริมจอ,ข่าวใส่ไข่,ไทยรัฐทีวี,หนุ่ม กรรชัย | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1175723 |
ต่างด้าวกว่า 2 ล้านคนรับอานิสงส์ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ | การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำรอบนี้อีก 5-22 บาท เป็นวันละ 308-330 บาท มีผลวันที่ 1 เม.ย.นี้ นอกจากแรงงานไทยได้เฮแล้ว ยังมีแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยจำนวนมาก จนปัจจุบันมีแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมายแล้วกว่า 2 ล้านคน ก็ได้อานิสงส์จากการขึ้นค่าแรงครั้งนี้ด้วย ,ไล่เรียงการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา ที่ทำให้มีแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานในไทยจำนวนมาก เริ่มตั้งแต่ช่วงปี 2554 ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หาเสียงในการเลือกตั้ง ประกาศว่าถ้าได้เสียงข้างมากเพื่อจัดตั้งรัฐบาล จะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็นวันละ 300 บาททั่วประเทศ จนได้เป็นรัฐบาลและทำแคมเปญหาเสียงเป็นจริงได้ในปี 2556,ช่วงปี 2554 นั้นมีแรงงานต่างด้าว ที่ขึ้นทะเบียนกับสำนักบริหารต่างด้าว กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน จำนวนเกือบ 2 ล้านคน หรือ 1,950,650 คน เพิ่มจากปี 2553 ที่มีจำนวน 1,335,155 คน ถึง 615,495 คน แต่สถานการณ์น้ำท่วม เศรษฐกิจซบเซาช่วงปลายปี 2554 ทำให้แรงงานจำนวนหนึ่งกลับบ้าน และกลับมาทำงานกันมากขึ้นอีกครั้งในช่วงปี 2558 จนปี 2559 มีจำนวน 1,476,841 คน,พอมาถึงต้นปี 2560 รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็นวันละ 305-310 บาท ทำให้มีแรงงานต่างด้าวเพิ่มขึ้นเป็น 2,062,807 คน จนกลางปี 2560 มีการจัดระเบียบ โดย ณ สิ้นเดือนธ.ค. 2560 มีกลุ่มที่พิสูจน์สัญชาติ และกลับมาทำงานได้ถูกกฎหมาย 1,248,611 คน ยังเหลืออีกประมาณ 8-9 แสนคนที่รัฐบาลขยายเวลาการให้พิสูจน์สัญชาติไปจนถึงกลางปีนี้,นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย เปิดเผยว่า การปรับค่าแรงขั้นต่ำรอบนี้ จะไม่ทำให้แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามามากขึ้นเหมือนที่ผ่านมา เพราะกฎหมายมีบทลงโทษรุนแรง คือค่าปรับนายจ้างที่นำเข้าแรงงานผิดกฎหมายในหลักหลายแสนบาท แต่กลุ่มอาชีพที่เจ้าหน้าที่รัฐอาจควบคุมดูแลไม่ถึง เพราะจำนวนเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ คือกลุ่มงานเกษตรที่อยู่พื้นที่ห่างไกล เมื่อแรงงานต่างด้าวเข้ามา ก็หลบทำงานอยู่แต่ในสวนในไร่,หากการพิสูจน์สัญชาติแรงงานต่างด้าวที่เหลืออีกประมาณ 9 แสนคนเรียบร้อย ก็จะมีแรงงานต่างด้าวในไทยประมาณ 2.1 ล้านคน ที่ได้รับผลดีจากค่าแรงที่เพิ่มขึ้น เพราะค่าแรงขั้นต่ำของไทยสูงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน และจำนวนกว่า 2 ล้านคนนี้ ถือว่าเพียงพอต่อความต้องการงานต่างๆ ที่ช่วยขับเคลื่อนภาคการผลิต แม้ปัจจุบันมีแรงงานไทยอยู่ประมาณ 10 ล้านคน แต่ก็มีงานบางประเภทที่แรงงานไทยไม่อยากทำ เช่น งานก่อสร้าง เกษตร งานในโรงงานอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังมีงานอื่นๆ อย่าง แม่บ้านทำความสะอาด สระผม ลูกจ้างขายของ ขายผัก ผลไม้ ขายปลา ในตลาดสด ที่ยังจำเป็นต้องใช้แรงงานต่างด้าวที่พร้อมทำงานหนักด้วย | เปิดสถิติแรงงานต่างด้าวในไทยทะลุ 2 ล้านคน ได้เฮ ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ จับตาแรงงานผิดกฎหมายแฝงในภาคเกษตรเพิ่มขึ้น | ข่าว,เศรษฐกิจ | แรงงานต่างด้าว,ค่าแรงขั้นต่ำ,ค่าจ้างขั้นต่ำ,สถิติ,กระทรวงแรงงาน | https://www.thairath.co.th/news/business/1191140 |
แกนนำ นปช. วางดอกไม้รำลึก นวมทอง ไพรวัลย์คนขับแท็กซี่ประท้วง รัฐประหาร | แกนนำวางดอกไม้รำลึก 13 ปี นวมทอง ไพรวัลย์ คนขับแท็กซี่ผู้ใช้ชีวิตประท้วงรัฐประหารลบคำสบประมาทประชาชนของ นายทหาร คมช. ที่ว่า ไม่มีใครมีอุดมการณ์มากขนาดยอมพลีชีพได้31 ต.ค.2562 เนื่องในวาระครบรอบ 13 ปีนวมทอง ไพรวัลย์ คนขับแท็กซี่ วัย 60 ปี (ขณะนั้น)ผูกคอตายกับราวสะพานลอย บริเวณถนนวิภาวดีรังสิตฝั่งขาออก เยื้องกับที่ตั้งสำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ โดยในจดหมายลาตายระบุว่า ต้องการลบคำสบประมาทของ พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ รองโฆษก คปค. (ซึ่งแปรสภาพเป็นคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือคมช.) ที่ว่า ไม่มีใครมีอุดมการณ์มากขนาดยอมพลีชีพได้ โดยก่อนหน้านั้น 1 เดือนนวมทอง ได้ขับรถแท็กซี่เครื่องมือทำมาหากินของเขาพุ่งชนรถถังของ คมช. ที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เพื่อประท้วงการทำรัฐประหารของคมช.ช่วงสาย วันนี้ (31 ต.ค.62) ที่สดมภ์นวมทองไพรวัลย์สะพานลอยหน้าสำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ถนนวิภาวดีรังสิตฝั่งขาออก ซึ่งเป็นจุดที่พบร่าง นวมทอง ผูกคอเสียชีวิตเมื่อ 13 ปีที่แล้วแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติหรือ นปช. นำโดยณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ธิดา ถาวรเศรษฐ นพ.เหวง โตจิราการ ฯลฯ เดินทางมาวางดอกไม้รำลึก 13 ปี นวมทองร่าง นวมทอง ที่เสียชีวิต สวมเสื้อที่สกรีนข้อความเป็นบทกวี ที่ถูกใช้ในการการต่อสู้ทางการเมือง โดยด้านหลังเป็นบทกวีของศรีบูรพา (กุหลาบ สายประดิษฐ์) ที่ว่าขณะที่ จดหมายลาตายของนวมทอง นอกจากระบุถึงความต้องการลบคำสบประมาทของ รองโฆษก คปค. แล้ว ยังมีใจความว่าปัจจุบัน ยังมีกลุ่มประชาชน นักกิจกรรมมาทำพิธีรำลึกถึงลุงนวมทอง ที่สดมภ์นวมทองอยู่ทุกปี ทั้งในช่วงวันที่นวมทองขับรถแท็กซี่พุ่งชนรถถัง และวันที่นวมทองฆ่าตัวตาย โดยนอกจาก แกนนำ นปช. แล้ว ช่วงเย็นก็มีกลุ่มกิจกรรมประกาศว่าจะไปร่วมรำลึกด้วย | แกนนำวางดอกไม้รำลึก 13 ปี นวมทอง ไพรวัลย์ คนขับแท็กซี่ผู้ใช้ชีวิตประท้วงรัฐประหาร ลบคำสบประมาทประชาชนของ นายทหาร คมช. ที่ว่า ไม่มีใครมีอุดมการณ์มากขนาดยอมพลีชีพได้ 31 ต.ค.2562 เนื่องในวาระครบรอบ | การเมือง | นวมทอง ไพรวัลย์,รัฐประหาร,นปช.,กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย,มัลติมีเดีย | https://prachatai.com/journal/2019/10/84965 |
รวันดา อำนาจทางการเมืองกับวิกฤตด้านมนุษยธรรม (2) | จุดกำเนิดของความขัดแย้งระหว่างสองชาติพันธุ์ ได้ฝังรากลึกในประวัติศาสตร์รวันดามาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ในช่วงระหว่างปี 1959 ถึง 1973 ชาวตุ๊ดซี่หลายพันคนถูกเนรเทศออกจากประเทศ โดยรัฐบาลที่มีชาวฮูตูเป็นผู้นำ ประชาชนที่ถูกเนรเทศออกนอกประเทศนี้รู้จักในชื่อว่า Banyarwanda ซึ่งแปลว่า ประชาชนชาวรวันดา (ภาษาเคินยารวันดา) คนเหล่านี้ได้อาศัยอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น อูกันดา เบอรันดี และแทนเซเนีย การเนรเทศชาวตุ๊ดซี่ นับเป็นสาเหตุหลักของสงครามกลางเมืองได้ถือกำเนิดในปี 1990ในยุค 1980 ชาวตุ๊ดซี่ที่ถูกเนรเทศออกนอกประเทศได้ก่อตั้งกลุ่มแนวหน้ารักชาติรวันดา (RPF) โดยมีวัตถุประสงค์ในการแทรกแซงและรุกรานรวันดา เพื่อให้ชาวตุ๊ดซี่ที่ถูกเนรเทศได้กลับเข้าไปอยู่ในประเทศ เพื่อให้รัฐบาลยกเลิกการเลือกปฏิบัติต่อชาวตุ๊ดซี่อย่างไม่เป็นธรรม และที่สำคัญเพื่อเรียกร้องกดดันให้รัฐบาลได้ปฏิรูประบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ที่สามารถทำให้ทั้งสองชาติพันธุ์ได้มีโอกาสปกครองประเทศร่วมกันก่อนหน้าที่จะมีข้อตกลงสงบศึก ปี 1993 ประธานาธิบดีจูเวินนอล ฮาเบียริมานา (Juvenal Habyarimana) และพรรคปฏิรูปเพื่อการพัฒนา (MRND) ได้ต่อต้านการกลับเข้าประเทศของชาวตุ๊ดซี่ ที่ถูกเนรเทศ และต้องการอำนาจการปกครองให้คงอยู่กับชาวฮูตูต่อไป ชาวฮูตูหัวรุนแรงในรัฐบาล พรรค MRND และพรรคการเมืองอื่นๆได้ก่อตั้งกลุ่มทหารกองหนุนเพื่อที่จะสอบสวนความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากชาวตุ๊ดซี่และประนีประนอมกับชาวฮูตูบางส่วนที่ต่อต้านรัฐบาล กลุ่มทหารกองหนุนนี้รู้จักในนามของ The Interahamwe หมายถึง บุคคลซึ่งอยู่เคียงข้างกัน (ภาษาเคินยารวันดา) และมีบทบาทสำคัญในการต่อสู้สงครามกลางเมืองซึ่งเกิดขึ้นในเดือนเมษายน 1994ผู้นำทางการเมืองและการทหาร สมาชิกของกลุ่มหัวรุนแรงและประชนในรวันดาต่างก็มีความคิดในการปกครองประเทศไม่เหมือนกัน ชาวฮูตูหัวรุนแรงต้องการที่จะกำจัดชาวตุ๊ดซี่ออกจากประเทศ และรักษาอำนาจเหนือที่ดินและรัฐบาล ชาวฮูตูทั่วไปซึ่งเหยียดเชื้อชาติน้อยกว่าพวกหัวรุนแรงต้องการที่จะมีส่วนในการปกครองประเทศร่วมกับชาวตุ๊ดซี่ เช่นเดียวกันกับชาวตุ๊ดซี่ซึ่งชื่นชอบความคิดให้มีรัฐบาลพรรคร่วมที่ทำให้ชาวตุ๊ดซี่และฮูตูมีส่วนในรัฐบาลและในการปกครองประเทศด้วยกัน แต่ยังมีชาวตุ๊ดซี่บางส่วนกลับเห็นตรงกันข้ามว่าชาวตุ๊ดซี่ควรจะเป็นชนเผ่าที่ปกครองประเทศแต่ผู้เดียว แต่โดยทั่วไปแล้วชาวฮูตูและตุ๊ดซี่เชื่อกันว่าหลังจากที่อาศัยอยู่ในรวันดาร่วมกันเป็นเวลา 1000 ปี ทั้งสองชนเผ่าจะต้องแบ่งที่ดินให้กันและกันเพื่ออยู่ร่วมกันชาวรวันดาที่ต้องการความสงบไม่เห็นด้วยกับกลุ่มทหารหรือกลุ่มการเมืองไหนที่สร้างความขัดแย้งแตกแยก พวกเขาเชื่อว่าความขัดแย้งของประเทศนั้นเกิดขึ้นเนื่องมาจากการเมืองมากกว่าความแตกต่างของชาติพันธุ์ เพราะเมื่อสงครามได้ถือกำเนิดขึ้น ชาวฮูตูและตุ๊ดซี่บางส่วนเพิกเฉยต่อคำโฆษณาชวนเชื่อของพวกหัวรุนแรงและหันมาช่วยชีวิตซึ่งกันและกันในสงครามกลางเมือง มีเพียงบางส่วนที่หลงผิดตามคำโฆษณาชวนเชื่อได้รุกฆาตฆ่าฟันเพื่อนของตนและคนใกล้ชิดรวมทั้งเพื่อนบ้านเพียงแค่เพราะคนเหล่านี้ต่างกันทางชาติพันธุ์เท่านั้นในปี 1990 สภาพปัญหาทางชนเผ่าได้ขยายตัวเติบโตกลายเป็นสงครามกลางเมือง ผู้เข้าร่วมสงครามประกอบด้วย กลุ่มกองกำลังติดอาวุธชาวฮูตู หรือมีชื่อย่อเป็นภาษาฝรั่งเศสว่า FAR และกลุ่มกองกำลังชาวตุ๊ดซี่ ที่เคยถูกเนรเทศจากรวันดาซึ่งรู้จักในนามของกลุ่มแนวหน้ารักชาติรวันดา หรือ RPF ความขัดแย้งนี้ยังคงรุนแรงต่อเนื่องจนกระทั่งปี 1993 ซึ่งเป็นปีที่ทั้งสองกลุ่มได้ลงนามในข้อตกลงสงบศึก แต่เมื่อเดือนเมษายน 1994 หลังจากเกิดความสงบสุขได้เพียง 8 เดือน สงครามกลางเมืองกลับประทุรุนแรงขึ้นอีกครั้งซึ่งรุนแรงจนเป็นที่จับตามองของประชาคมโลกอย่างต่อเนื่องและใกล้ชิดการรุกฆาตต่อสู้และฆ่าฟันต่อกันใช้เวลายาวนานถึง 14 สัปดาห์ได้คร่าชีวิตประชาชนไปกว่า 500000 คน ความขัดแย้งเหล่านี้ทำให้ชาวรวันดาถูกกดดันให้ต้องละทิ้งถิ่นฐานบ้านเกิด ไปตั้งถิ่นฐานใหม่ที่คิดว่าปลอดภัย แต่สุดท้ายประชาชนกลุ่มนี้ลงเอยด้วยการไปอยู่ในแคมป์ผู้ลี้ภัย ซึ่งตั้งอยู่นอกรวันดาหรือไม่ก็ไปรวมในแคมป์ผู้ไม่มีถิ่นฐาน ในสถานที่พักชั่วคราวแห่งนี้ได้รวมผู้ลี้ภัยจำนวนมากทุกกลุ่มทุกวัย บางกลุ่มได้สร้างที่พักขึ้นมาใหม่มีลักษณะคล้ายเต๊นท์ ได้รับบริจาคอาหาร น้ำ ยารักษาโรคและเครื่องใช้อื่นๆ เท่าที่จำเป็นในการดำรงชีพเท่านั้น การใช้ชีวิตในแคมป์ผู้ลี้ภัยต้องประสบกับภาวะอดยาก เนื่องจากการขาดแคลนทั้งอาหาร ยารักษาโรคส่วนใหญ่จึงมีสุขอนามัยที่เลวร้าย ส่งผลให้ชาวรวันดาในหลายๆแคมป์เสียชีวิตลงจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง แม้ภายหลังที่สงครามได้สิ้นสุดลงไปแล้วหลายเดือนแต่ผู้อพยพในแคมป์ก็ยังเสียเสียชีวิตลงอย่างต่อเนื่องตลอดมาที่เมือง Goma – Zaire ซึ่งตั้งอยู่ที่เขตแดนทางตะวันตกเฉียงเหนือของรวันดา มีร่างของผู้เสียชีวิตและร่างที่กำลังเน่าเปื่อย ได้ทับถมกันแนวยาวตลอดช่วงถนน เพื่อรอรถบรรทุกขนลำเลียงไปยังสุสาน ขนาดใหญ่ และหากมองไปยังกลางถนนอีกหลายเส้นยังคลาคล่ำไปด้วยกลุ่มคนชาวรวันดาที่รอดชีวิตจากโรคภัยและสงครามกลางเมือง แต่ต้องพบกับสภาพเป็นผู้หิวโหยและอ่อนล้าอีกหลายพันคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวฮูตู ที่เดินทางไกลร่วม 150 ไมล์เพื่อหลบหนีกองกำลังของชาวตุ๊ดซี่ ที่ต่อสู้เพื่อจะได้ปกครองรวันดา กองกำลังชาวตุ๊ดซี่ รู้จักในนามของ RPF ได้ตระเวนไปทั่วรวันดาเพื่อค้นหากลุ่มบุคคลที่รุกฆาตเข่นฆ่าชาวตุ๊ดซี่ ที่ได้เกิดขึ้นในเดือนเมษายน ปี 1994 ซึ่งได้ทำให้ชาวตุ๊ดซี่ไม่ต่ำกว่า 5 แสนคนและชาวฮูตูจำนวนหนึ่งเสียชีวิตการหลบหนีของชาวรวันดาได้รวมประชาชนทุกเพศทุกวัยและทุกอาชีพ บางคนแต่งกายด้วยชุดสูทและกระโปรงราคาแพง บางคนสวมใส่เสื้อผ้าขาดรุ่งลิ่ง เพราะถูกฉีกกระชาก หลายคนเปื้อนดินจากการทำงานในทุ่งนา หลายๆคนเดินเท้าเปล่า จนบวมและเจ็บปวดอันเนื่องมาจากจากการเดินทางไกลอย่างยาวนาน ด้วยความยากลำบาก บางคนถือของส่วนตัวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่มีอะไรเหลือนอกจากเสื้อผ้าที่อยู่บนหลัง บ่อยครั้งที่บางคนเหนื่อยอ่อนจากการแบกของส่วนตัวและต้องยอมทิ้งระหว่างทาง และบางครั้งก็ละทิ้งลูกหลาน ผลที่ตามมาคือนำไปสู่การจัดตั้งสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าตั้งอยู่ที่ใจกลางรวันดารับเลี้ยงเด็กประมาณ 250 คน ส่วนใหญ่แล้วเป็นชาวตุ๊ดซี่ ต้องพบกับสภาวะอดอยาก มื้อเย็นมีแต่ข้าวต้มแข็งๆสีเขียว หลังจากทานมื้อเย็นและอาบน้ำเสร็จ หมออาสาสมัครจะเข้าไปตรวจเด็ก ซึ่งเด็กบางคนต้องทุกข์ทรมานจากการติดโรค ทั้งเอดส์ วัณโรค และมาเลเรีย นี่เป็นกิจวัตรประจำวันของเด็กกำพร้าในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าหนึ่งในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าอื่นๆอีกประมาณ 100 แห่งในรวันดา ส่วนในประเทศเพื่อนบ้าน สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเหล่านี้ก็เช่นเดียวกับแคมป์ผู้ลี้ภัยที่มีอยู่รายรอบรวันดา กลายเป็นบ้านของเด็กๆราว 1 ล้านคน ในช่วงวิกฤตสงครามกลางเมือง เด็กกำพร้าหลายคนที่หนีจากรวันดา ไปพร้อมๆกับญาติพี่น้อง แต่ก็มีหลายร้อยคนจากหลายพันคน ที่กลายเป็นเด็กกำพร้าหรือถูกแยกจากพ่อแม่ของตนในช่วงสงคราม เด็กบางคนเห็นพ่อแม่ของตนถูกฆ่าในขณะที่เด็กบางคนถูกพ่อแม่ทอดทิ้งเนื่องจากไม่สามารถเลี้ยงหรือดูแลเด็กเหล่านี้ได้อีกเป็นเวลาเกือบ 20 ปี ที่ ประธานาธิบดี Juvenal Habyarimana มีอำนาจปกครองเหนือรวันดาในฐานะพรรคการเมืองพรรคเดียว รัฐบาลนี้ได้เลือกปฏิบัติต่อชาวตุ๊ดซี่และชาวฮูตูที่ไม่ได้มาจากบ้านเกิดของตน และยังกีดกันไม่ให้ชาวตุ๊ดซี่ที่ถูกเนรเทศจากประเทศเบอรันดี อูกันดา และแทนเซเนีย กลับเข้ามาในรวันดา ดังนั้นนับตั้งแต่ปี 1990 RPF (กองกำลังชาวตุ๊ดซี่) ได้ต่อสู้กับรัฐบาลของประธานาธิบดี Juvenal Habyarimanaไม่เพียงแต่มุ่งให้ประชาชนที่ถูกเนรเทศได้กลับมาประเทศเท่านั้น แต่ยังมุ่งหมายที่จะก่อตั้งรัฐบาลผสมที่นำมาซึ่งการปฏิบัติที่เท่าเทียมกันต่อสมาชิกของทั้งสองชนเผ่าสามปีผ่านไปหลังจากการต่อสู้ซึ่งมักจะเกิดขึ้นในภูมิภาคห่างไกล ทำให้สมาชิกของ RPF(กองกำลังชาวตุ๊ดซี่) และฝ่ายรัฐบาลของประธานาธิบดี Habyarimana ได้ลงนามสัญญาสงบศึก เรียกว่า ข้อตกลงความสงบอรูชา (Arusha Peace Agreement) ข้อตกลงนี้มีผลบังคับ เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 1993 กำหนดการวางแผนอนุญาตให้ชาวตุ๊ดซี่ที่เคยถูกเนรเทศให้กลับมาบ้านและให้รวมกองกำลัง RPF ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวตุ๊ดซี่กับกองกำลังรวันดา (FAR) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวฮูตูเป็นกองกำลังเดียวกัน นอกเหนือจากนั้น ข้อตกลงได้สร้างแผนซึ่งนำไปสู่การเลือกตั้งหลายพรรคการเมืองในปี 1995 หรือจะพูดอีกอย่างก็คือ ประชาชนชาวรวันดาสามารถเลือกรัฐบาลซึ่งประกอบไปด้วยชาวฮูตูและตุ๊ดซี่ ได้เพื่อให้ปกครองประเทศร่วมกันชาวรวันดาบางคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกหัวรุนแรงชาวฮูตูภายในรัฐบาล Habyarimana และ พรรคการเมือง MRND ไม่พอใจกับข้อตกลงสงบศึกนี้ กลุ่มหัวรุนแรงชาวฮูตูนั้นต่อต้านที่จะแบ่งอำนาจให้ประชาชนรวันดาที่เป็นชาวตุ๊ดซี่ หรือพรรคการเมืองอื่นๆ ทั้งๆที่ประชาชนรวันดาส่วนใหญ่จากทั้งสองชนเผ่าหวังว่าข้อตกลงความสงบนี้ จะยุติความขัดแย้งที่รุนแรง ระหว่างชาวตุ๊ดซี่และฮูตูลงได้ ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว ในครั้งนี้ Faustin Twagiramungu นักการเมืองชาวฮูตูซึ่งไม่ได้เป็นพวกหัวรุนแรงได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นการชั่วคราวในช่วงเวลา 18 เดือน ซึ่งเป็นระยะเปลี่ยนผ่านทางการเมือง เพื่อเดินเข้าสู่การเลือกตั้งที่มีพรรคการเมืองผสมจะเกิดขึ้น ผู้คนหวังว่า Faustin Twagiramungu จะเป็นผู้นำรัฐบาลที่สามารถนำพาประเทศไปสู่สันติสุข และยุติความขัดแย้งของชนเผ่าลงได้ การลงนามในข้อตกลงความสงบอรูชา ดูเหมือนว่ารวันดาเกือบจะแก้ปัญหาความขัดแย้งทางชนเผ่าได้สำเร็จ แต่ด้วยเหตุบังเอิญหรืออะไรก็แล้วแต่ เพราะเมื่อเดือนเมษายน 1994 ประธานาธิบดี Habyarimana เสียชีวิตลงเพราะเครื่องบินตกอย่างปริศนา ซึ่งมองกันว่าเป็นการปองร้ายของอีกฝ่ายหนึ่ง ด้วยเหตุดังกล่าวส่งผลทำให้สงครามกลางเมืองปะทุกลับมาอีกครั้ง ความรุนแรงครั้งใหม่นี้ได้ขยายไปทั่ว ประเทศ ทั้งพลเรือน ทั้งกองกำลัง และทหารจำนวนมาก มีส่วนร่วมในการต่อสู้ที่รุนแรงครั้งนี้ด้วยหลังจากการเสียชีวิตของประธานาธิบดี Habyarimana กลุ่มหัวรุนแรงชาวฮูตูได้ยึดอำนาจรัฐบาล และได้กล่าวหาในทันทีทันใดว่าเหตุการณ์เครื่องบินตกนั้นมีสาเหตุมาจากการกระทำของ RPF(กองกำลังชาวตุ๊ดซี่) และอาศัยการเสียชีวิตของประธานาธิบดีเป็นข้ออ้างในการก่อสงครามกลางเมืองและยั่วยุให้ใช้ความรุนแรงต่อชาวตุ๊ดซี่และศัตรูทางการเมืองขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากเหตุการณ์เครื่องบินตก กลุ่มคนหัวรุนแรง Interahamwe ได้ก่อตั้งและตั้งตนเป็นผู้นำการรณรงค์ให้ใช้ความรุนแรง เพื่อต่อชาวตุ๊ดซี่และชาวฮูตูที่มีความคิดประนีประนอมและกลุ่มคนที่ให้การสนับสนุนข้อตกลง อรูชา หลังจากนั้นเป็นเวลากว่า 14 สัปดาห์ที่กองกำลังที่มีสมาชิก FAR พลเรือนผู้มีอำนาจและพลเรือนชาวฮูตูได้เข่นฆ่าชาวตุ๊ดซี่และชาวฮูตูไม่ต่ำกว่าห้าแสนคนการสังหารอย่างรุนแรงนี้ได้มุ่งเป้าไปที่บุรุษ สตรี และเด็ก หลายๆคนที่หนีการสังหารนี้เข้าไปในโบสถ์ สนามกีฬา โรงเรียน และมหาวิทยาลัย ในบางกรณีกองกำลังฮูตู จงใจที่จะไล่ต้อนให้ประชาชนเข้าไปรวมกันอยู่ในสถานที่เหล่านี้เพื่อที่จะสังหารในคราวเดียวไม่ละเว้นแม้แต่ศาสนสถาน ตัวอย่างเช่น ใน Kibuye กลุ่มทหารชาวฮูตูและกองกำลังได้บอกกล่าวให้ชาวตุ๊ดซี่หลายพันคนว่าพวกเขาจะปลอดภัยหากหลบอยู่ในสนามกีฬาของเมือง เมื่อสนามกีฬาเต็มไปด้วยผู้คน ทหารเหล่านั้นกลับกราดยิงชาวตุ๊ดซี่ราว 7000 คนที่อยู่ในนั้น แม้บางคนที่ไม่เสียชีวิตเพียงได้รับบาดเจ็บจากการยิงทหารก็จะมาฆ่าด้วยมีดในเวลาต่อมา ในโบสถ์ห่างจากเมือง Kigali ไปประมาณ25 ไมล์ทางตะวันออก กองกำลังชาวฮูตูได้สังหารหมู่ชาวตุ๊ดซี่ 1200 คน ครึ่งหนึ่งเป็นเด็ก โดยใช้อาวุธกึ่งอัตโนมัติ มีด กระบองและหอก ชาวตุ๊ดซี่หลายคนได้สร้างสถานที่หลบภัยในบ้านหรือใกล้ๆบ้านและอาศัยอยู่ในนั้นหลายเดือนซึ่งส่วนใหญ่แล้วไม่มีน้ำหรืออาหารที่เพียงพอในการดำรงชีวิต บางครั้งถูกค้นพบและเสียชีวิตในเวลาต่อมากลุ่มคนหัวรุนแรงชาวฮูตูทั่วประเทศใช้คำโฆษณาชวนเชื่อเพื่อยั่วยุให้ชาวฮูตูฆ่าเพื่อนบ้านของตนที่เป็นชาวตุ๊ดซี่ วิทยุของรัฐบาลและกลุ่มคนหัวรุนแรงชาวฮูตูประกาศเตือนอย่างต่อเนื่องว่าพวก RPF ต้องการสร้างอำนาจปกครองของชาวตุ๊ดซี่ขึ้นมาใหม่และใครก็ตามที่น่าสงสัยว่าเป็นพวกสนับสนุน RPFต้องจัดการให้หมด บ่อยครั้งที่กองกำลังชาวฮูตูชี้แนะและบังคับผู้นำชุมชนและเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจ จัดการสั่งฆ่าชาวตุ๊ดซี่ในพื้นที่ของตน โดยใช้ทั้งมีดยาว มีดสั้นและไม้พลอง บางครั้งคนที่กำลังจะถูกฆ่ามีทางเลือกวิธีการตาย นั่นคือพวกเขาสามารถจ่ายค่ากระสุนเพื่อที่ตนจะได้ถูกยิงโดยไม่ทรมาน เพราะมิฉะนั้นจะถูกฆ่าโดยมีดยาวหรืออาวุธที่ทำขึ้นมาเอง เนื่องจากว่ากระสุนมีราคาแพง นอกจากนั้นทหารชาวฮูตูและสมาชิกกองกำลังยังข่มขืนผู้หญิงชาวตุ๊ดซี่อีกหลายพันคนในช่วงเวลาของความขัดแย้งนี้ ชาวรวันดาทั้งหมดจำต้องพกบัตรประจำตัวประชาชนซึ่งระบุว่าพวกเขาเป็นชาวฮูตูหรือชาวตุ๊ดซี่ เพราะสมาชิกกองกำลังจะตรวจบัตรประจำตัวของบุคคลที่พยายามหนี ประชาชนที่มีบัตรประจำตัวระบุว่าเป็นชาวตุ๊ดซี่จะถูกดึงตัวออกจากรถและถูกฆ่าสมาชิกกองกำลังและเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจบังคับและในบางกรณีขู่เข็ญพลเรือนให้มีส่วนร่วมในการสังหารชาวตุ๊ดซี่ ดังนั้นชาวฮูตูบางคนฆ่าชาวตุ๊ดซี่ซึ่งเคยเป็นเพื่อนหรือเพื่อนบ้านมายาวนาน แต่ก็มีบางคนกลับเสี่ยงชีวิตของตนเพื่อช่วยชีวิตชาวตุ๊ดซี่โดยให้ที่หลบซ่อนในบ้านของตนทั้งๆที่การกระทำเช่นนั้นเสี่ยงต่อชีวิต ประชาชนชาวรวันดาบางคนเชื่อว่าความขัดแย้งระหว่างชาวฮูตูและชาวตุ๊ดซี่เป็นเรื่องปัญหาทางการเมืองมากกว่าเป็นผลมาจากความเกลียดชังทางด้านชาติพันธุ์ ความกังวลหลักๆของประชาชนคือห่วงเรื่องการดูแลที่ดินและครอบครัวของตน ในช่วงเวลาแห่งความกลัวและหวาดผวา หลายคนต้องยอมจำนนต่อความรุนแรงเวลาไม่นานหลังจากการเริ่มเข่นฆ่าชาวตุ๊ดซี่และชาวฮูตูผู้ประนีประนอม ฝ่ายกองกำลังRPF แก้แค้นโดยโจมตีจากทางตอนเหนือของประเทศ ทหาร RPF ไล่ตามกองกำลังชาวฮูตูและทหาร FAR ไปที่ทางตอนใต้และทางตะวันตกของรวันดา ในการโจมตีนี้ RPF ได้ใช้ AK-47 และปืนใหญ่ ภายในไม่กี่สัปดาห์ทหาร RPF ได้ต่อสู้ตั้งแต่ทางตอนใต้ของรวันดาและจากฐานที่ตั้งภายในประเทศจนเอาชนะได้ในเมือง Kigali กระทั่งกรกฎาคม ปี 1994 RPF ก็สามารถควบคุมส่วนใหญ่ของประเทศไว้ได้ และในกลางเดือนกรกฎาคมสงครามกลางเมืองได้ยุติลง อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่า RPF จะได้ยุติความรุนแรงลงไปแล้ว แต่พลเรือนชาวฮูตูบางส่วนที่กลัวการแก้แค้นของทหารได้ละทิ้งบ้านเรือนถิ่นที่อยู่และประเทศของตนไปเป็นจำนวนมากเนื่องจากรัฐบาลรวันดาและ ชาวรวันดาเกือบ 1 ล้านคนในจำนวนนี้มีชาวตุ๊ดซี่มากกว่า 5 แสนคนและชาวฮูตูหัวไม่รุนแรงซึ่งถูกสังหารโดยกองกำลังชาวฮูตูได้เสียชีวิตไปภายในระยะเวลาเพียง 14 สัปดาห์ระหว่างการต่อสู้ ซึ่งองค์กรช่วยเหลือหลายองค์กรคาดว่าตัวเลขของยอดผู้เสียชีวิตอย่างไม่เป็นทางการน่าจะสูงถึง 2.7 ล้านคน จริงๆแล้วนั้นไม่มีทางที่จะรู้ได้ว่ายอดผู้เสียชีวิตแท้จริงแล้วมีจำนวนเท่าใด เพราะการเข่นฆ่าเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและผู้ที่เข้ามาช่วยเหลือก็มักจะฝังศพผู้เสียชีวิตครั้งละมากๆโดยไม่ได้นับจำนวน ในบางกรณีผู้ที่สังหารได้ปิดบังและทิ้งศพไว้เพื่ออำพรางจำนวนที่ตนได้ฆ่านอกเหนือจากนั้นแล้ว กองกำลัง RPF บังคับผลักใสให้ชาวฮูตูจำนวนประมาณ 2.3 ล้านคนให้หนีไปแซร์ เบอรันดี และแทนเซเนีย ส่วนชาวฮูตูคนอื่นๆอีกประมาณ 2.1ล้านคนกลับตั้งรกรากในอีกพื้นที่หนึ่งของประเทศที่ไม่ใช่พื้นที่ขัดแย้งซึ่งพวกเขาก็หวังว่าจะปลอดภัย เนื่องจากว่า RPF ได้โจมตีจากทางเหนือของประเทศและได้ใช้เส้นทางไปจนถึงทางตะวันตกเฉียงใต้ ผู้ลี้ภัยส่วนใหญ่จึงลงเอยหลบภัยอยู่ที่เบอรันดี ในแซร์หรือทางตอนใต้หรือทางตะวันตกของประเทศแซร์เป็นภูมิภาคที่รองรับกลุ่มผู้ลี้ภัยจำนวนมหาศาลไว้ เมืองบูคาวูซึ่งตั้งอยู่ที่ทะเลสาบคิวูทางตอนใต้ของแซร์ได้รับผู้ลี้ภัยจำนวน 3 แสน 6 หมื่นคนเอาไว้ เมื่อเจ้าหน้าที่ของแซร์ได้ปิดเขตแดนที่บูคาวูเพียงหนึ่งวัน ผู้ลี้ภัยซึ่งสิ้นหวังกับการหนีออกนอกรวันดาถึงกับกระโดดลงทะเลสาบและว่ายน้ำข้ามมาที่แซร์ ในขณะที่บางส่วนข้ามมาโดยใช้เรือแคนู ในขณะเดียวกันชาวรวันดาประมาณ 1 แสน 8 หมื่นคนหนีไปที่เบอรันดีและผู้ลี้ภัยจำนวน 6 แสนคนได้หนีไปที่แทนเซเนีย ในครั้งนี้ในเดือนเมษายน มีผู้ลี้ภัยเกือบ 2 แสน 5 หมื่นคนหนีไปที่เมืองงารา แทนเซเนีย เมืองเล็กที่เขตชายแดนรวันดาภายในยี่สิบสี่ชั่วโมง เหตุการณ์นี้เป็นการอพยพของประชาชนจำนวนมหาศาลที่เร็วที่สุดเท่าที่เคยบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์โลก หลังจากนั้นหลายเดือนต่อมา แซร์ได้รับผู้ลี้ภัยจำนวน 8 แสนคนในเวลาไม่กี่วัน การอพยพของประชาชนจำนวนมากล้นหลามนี้ได้กลายเป็นวิกฤตทางด้านมนุษยธรรมตามมาภายในแคมป์ผู้ลี้ภัยผู้คนจำนวนมาก ที่ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะอยู่รอด นอกเหนือจากก่อสร้างที่พักพิงแล้ว ผู้ลี้ภัยได้สร้างโรงอาหาร โบสถ์และร้านค้าเล็กๆ ที่สามารถขายทุกอย่างตั้งแต่ผลผลิตจากพืช บุหรี่ ไม้ขีดไฟ ไปจนถึงโซดา บางคนปลูกข้าวโพดเป็นหย่อมๆในพื้นที่เล็กๆ ในขณะที่คนอื่นๆเก็บไม้ ไม้ไผ่ และของอื่นๆเพื่อขาย แม้ธุรกิจผิดกฎหมายยังคงอยู่รอดในแคมป์ผู้ลี้ภัย ผู้ลี้ภัยในบูคาวู และ แซร์ มักจะเดินทางไปไคยานกูซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของรวันดาเพื่อจะปล้นทรัพย์สินตามท้องถนน ตามร้านค้าหรือบ้านเรือนแถบนั้น หลังจากที่รวบรวมทรัพย์สิน เช่นยางรถ เบาะนั่งรถ ชิ้นส่วนยนต์ ชิ้นส่วนห้องน้ำ และประตูได้แล้ว ก็จะเอาทรัพย์สินเหล่านั้นจำหน่ายภายในแคมป์ คนกลุ่มนี้ใช้เงินจากธุรกิจผิดกฎหมายเพื่อซื้ออาหารและสิ่งของอื่นในการอยู่รอด ในขณะที่ผู้ลี้ภัยที่ใช้ชีวิตปกติและพยายามอยู่รอด จากการช่วยเหลือขององค์กรการกุศล องค์กรช่วยเหลือเอกชนได้สร้างห้องน้ำ หลุมฝังศพ และจัดหาเสื้อผ้า อาหาร น้ำและยาให้ผู้อพยพแต่ก็ไม่เพียงพอน้ำสะอาดเป็นสิ่งที่หาได้ยาก และเป็นไปไม่ได้ที่จะหามาได้ในช่วงวิกฤตของผู้ลี้ภัย ผู้ลี้ภัยส่วนใหญ่ในแซร์ได้ตั้งถิ่นที่อยู่ชั่วคราวของตนริมทะเลสาบคิวู อย่างไรก็ตามทะเลสาบเป็นพิษเนื่องจากก๊าซมีเทนจำนวนมากและได้คร่าชีวิตสัตว์ป่าทั้งหมดที่อยู่แถบนั้น ก๊าซพิษถูกสร้างขึ้นจากการเน่าเปื่อยของอินทรีย์วัตถุในท้องทะเลสาบ นอกจากนั้นทะเลสาบคิวูก็ยังปนเปื้อนด้วยซากศพและอุจจาระของมนุษย์ซึ่งก่อให้เกิดแบคทีเรียที่เป็นอันตรายต่อชีวิตมนุษย์และสัตว์ องค์กรที่ดูแลแคมป์ที่พักพิงของผู้ลี้ภัย ไม่สามารถสรรหาน้ำสะอาดให้ได้จำนวนเพียงพอกับการอุปโภคและบริโภคของทุกคน ดังนั้นถึงแม้ว่าผู้ลี้ภัยจะรับรู้ถึงอันตรายของน้ำในทะเลสาบ แต่ความสิ้นหวังดังกล่าวจากทำให้ผู้ลี้ภัยจำนวนมากก็ยังคงดื่มน้ำจากทะเลลาบต่อไปโดยไม่มีทางเลือกการขาดแคลนน้ำสะอาดในแคมป์ผู้ลี้ภัยทำให้เกิดโรคระบาด ทั้งอหิวาตกโรคและโรคบิด อหวิตกโรคซึ่งเป็นโรคเกิดจากแบคทีเรียส่งผลให้ร่างกายมนุษย์เกิดการสูญเสียน้ำอย่างรุนแรงและหากไม่ได้รับการรักษาในทันท่วงทีส่วนใหญ่จะถึงแก่ชีวิต อหิวาตกโรคได้รับการรักษาในแคมป์นี้โดยใช้วิธีแบบง่ายๆกล่าวคือโดยการใช้น้ำและเกลือเท่านั้น ส่วนโรคบิดเป็นโรคเกี่ยวกับลำไส้เล็กทำให้เกิดอาการท้องเสียอย่างรุนแรงและต้องการการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะอย่างน้อยห้าวันติดกัน แต่เนื่องจากแคมป์ไม่สามารถรักษาทั้งสองโรคดังกล่าวนี้ได้ผู้ลี้ภัยหลายพันคนจึงเสียชีวิตลง เมื่อถึงช่วงฤดูฝนซึ่งมีระยะเวลาอันยาวนาน โรคภัยต่างๆลุกลามในหมู่ประชาชนอย่างรวดเร็ว เพราะมีการเบียดเสียดยัดเยียดอย่างแออัดจึงทำให้มีการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น การระบาดของอหิวาตกโรคและโรคบิดได้คร่าชีวิตประชากรประมาณ 2000 คนต่อวัน โดยรวมแล้วโรคภัยทั้งหลายได้คร่าชีวิตผู้ลี้ภัยไปประมาณไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นคนในปี 1994ความหิวโหย ร่างกายขาดน้ำ ความอ่อนล้าของร่างกายและโรคภัย เช่น อหิวาตกโรค โรคบิด ได้ก่อให้เกิดความสิ้นหวังภายในแคมป์ เพราะได้คร่าชีวิตผู้ลี้ภัยไปแล้วหลายหมื่นคน มีการฝังศพอย่างรวดเร็วเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค การที่ผู้ลี้ภัยเสียชีวิตจำนวนมาก ทำให้องค์กรช่วยเหลือได้แต่รวมและกองศพไว้ในหลุมศพขนาดใหญ่ โดยไม่มีเวลาที่จะกลบฝังให้มิดชิด แต่เมื่อจำนวนผู้เสียชีวิตลดลงจนเหลือจำนวนน้อยกว่า 200 คนต่อวัน ศพจะถูกห่อในเสื่อและใช้ดินและปูนขาวทับปกคลุม หลุมศพขนาดใหญ่ยักษ์นี้มีขนาดใหญ่กว่าสนามฟุตบอล ตั้งอยู่กึ่งกลางแคมป์มูกันกา อันเป็นสถานที่ฝังศพเหยื่อจากโรคภัย โดยมีธงสีขาวปักอยู่ใกล้กับหลุมศพเป็นสิ่งระลึกผู้ลี้ภัยและสมาชิกองค์กรช่วยเหลือ และที่สำคัญเพื่อระลึกถึงหายนะที่โหมกระหน่ำและการรุกฆาตชีวิตมนุษย์ในภูมิภาคนี้ตั้งแต่สงครามสิ้นสุดลงรวันดาพยายามที่จะกลับมาอยู่ได้ด้วยตัวเอง รัฐบาลได้กระตุ้นให้ผู้ลี้ภัยกลับเข้าประเทศ ในเดือนสิงหาคม และในปลายปีของปี 1994 รถประจำทางได้วิ่งระหว่างโกมา และคิกาลีเพื่อขนส่งผู้ลี้ภัยกลับบ้าน ภายในฤดูใบไม้ร่วงของปี 1995 ประชาชนจำนวน 3 แสนคนได้กลับสู่ถิ่นฐาน แต่การดำเนินการยังคงเป็นไปอย่างช้าๆ จนกระทั่งปลายปี 1996 ผู้ลี้ภัยจำนวนมหาศาลได้กลับประเทศจากแซร์และแทนเซเนีย รัฐบาลหวังว่าการกลับมาของผู้ลี้ภัยจะทำให้ปิดที่พักพิงผู้ลี้ภัย(แคมป์)ลงได้ ซึ่งแคมป์เหล่านี้เป็นที่หลบภัยของกองกำลังชาวฮูตูที่หลงเหลืออยู่ ตั้งแต่การยุติของสงครามกลางเมือง สมาชิกกองกำลังได้ใช้แคมป์ในการรวมกลุ่มและวางแผนการโจมตีครั้งใหม่ต่อรัฐบาล การปิดแคมป์จะทำให้การวางแผนโจมตีนี้หมดสิ้นไปรัฐบาลรวันดาได้ต้อนรับการกลับมาของผู้ลี้ภัยแต่ก็ยังคงมีความรุนแรงเกิดขึ้นระหว่างการอพยพคืนถิ่นฐาน ชาวรวันดาบางคนเชื่อว่าการกลับมาของชาวฮูตูที่หนีไปก็ เพราะว่าพวกเขารู้สึกผิดที่มีส่วนร่วมในการสังหารชาวตุ๊ดซี่ และชาวฮูตูหัวไม่รุนแรง ชาวเมืองได้จู่โจมการกลับมาของชาวฮูตูก็เพราะด้วยเหตุนี้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ก็ตาม นอกเหนือจากปัญหาของประเทศที่มีอยู่แล้วการไหลทะลักของชาวตุ๊ดซี่กลับเข้ามาประเทศจากอูกันดาและเบอรันดีหลังจากชัยชนะของ RPF ก็เป็นปัญหาสำคัญ ประชาชนเหล่านี้ได้เข้าครอบครองบ้าน ธุรกิจและที่ดินที่ถูกทอดทิ้งและไม่คิดจะคืนแก่เจ้าของที่แท้จริง ผู้ลี้ภัยจำนวนมากที่กลับเข้าประเทศหวาดกลัวเกินกว่าจะกลับบ้านเพราะพวกเขากลัวว่าหากพวกเขาพยายามที่จะอ้างสิทธิในทรัพย์สินของตนกลับคืนมาแล้วพวกเขาจะถูกทำร้าย ขณะนั้นประชาชนหลายคนยังคงถูกพลัดพรากจากที่อยู่ของตนภายในประเทศปัญหาที่ยังโต้เถียงกันอีกเรื่องคือความยุติธรรม รัฐบาลรวันดาต้องการให้บุคคลที่รับผิดชอบต่อความรุนแรงถูกลงโทษและได้จับกุมชาวฮูตูหลายพันคน เพื่อบรรลุถึงเป้าหมายดังกล่าว และเมื่อปี 1998 รัฐบาลได้จับกุมประชาชนเกือบ 1แสน 2 หมื่นคน ในการมีส่วนร่วมการใช้ความรุนแรงต่อชาวตุ๊ดซี่และชาวฮูตูหัวไม่รุนแรง เมื่อปี 1994 หลายคนที่ถูกจับยังไม่ได้ถูกตั้งข้อหาอย่างเป็นทางการว่ากระทำผิดในขณะที่คนอื่นๆต้องรอเป็นเวลาหลายปีเพื่อตัดสินคดี นอกเหนือจากนั้นการจับกุมจำนวนมากได้ก่อให้เกิดปัญหาอีกอย่างตามมานั่นคือ นักโทษล้นคุกซึ่งนักโทษที่อยู่ในนั้นต้องอยู่ในลักษณะที่ไม่ถูกสุขลักษณะ กลุ่มนักส่งเสริมสิทธิมนุษยชนก็เริ่มมีความกังวลกับปัญหาที่เกิดขึ้นนี้สงครามกลางเมืองนั้นยุติอย่างเป็นทางการแล้วแต่การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไประหว่างกองกำลังของรัฐบาลรวันดาชุดใหม่กับกองกำลังชาวฮูตูที่เหลือ การโจมตีอย่างทันควัน การลุกขึ้นก่อจลาจลและการซุ่มโจมตีเป็นสิ่งที่รัฐบาล ทหารและพลเรือนผู้ที่ต้องการแก้แค้นหรือไม่ก็พยายามทวงสิทธิในทรัพย์สินของตนคืนพยายามปลุกปั่นขึ้น ความรุนแรงต่อเนื่องนี้ได้คุกคามความคาดหวังต่างๆของขบวนการการเจรจาประนีประนอมระหว่างชาวฮูตูและชาวตุ๊ดซี่ เช่นกันรวันดานั้นเป็นหนึ่งในประเทศที่ยากจนที่สุดในโลกมานานแล้ว โดยเมื่อปี 1997 รวันดาได้รับการพิจารณาให้เป็นประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุดอันดับที่ 2 ของโลก ด้วยอาณาเขตบางส่วนถูกทิ้งรกร้าง ถนนและทุ่งหญ้านั้นก็ปกคลุมด้วยหญ้ารก จำเป็นจะต้องใช้กำลังแรงงานสำคัญเพื่อที่จะทำให้ใช้งานได้อีกครั้ง ในขณะที่ประชาชนกลับมาตั้งรกรากอีกครั้ง ก็ต้องเผชิญกับปัญหาในการเตรียมผืนดินจากทุ่งหญ้ารกและต้องรอคอยเป็นเวลาหลายฤดูกาลเพื่อที่จะปลูกและเก็บเกี่ยวผลผลิต ในบางพื้นที่เกิดการขาดแคลนอาหารและความอดอยาก โดยเฉพาะเด็กต้องทุกข์ทรมานอย่างที่สุด หลายคนที่ถูกพบในใจกลางทุ่งสังหารได้รับบาดเจ็บสาหัส เด็กเหล่านั้นจึงเป็นประจักษ์พยานได้พบเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบตัว ทั้ง การเข่นฆ่าเพื่อนและสมาชิกของครอบครัวตน เด็กบางคนที่หนีไปได้แต่ต้องดำรงชีวิตอยู่กับภาพความทรงจำเลวร้ายมาหลอกหลอน องค์กรช่วยเหลือองค์กรหนึ่งได้รายงานว่าจนถึงปี 1998 เด็กชาวรวันดาประมาณ 3 แสนคนกลายเป็นเด็กกำพร้าหรือถูกทอดทิ้งโดยไม่มีผู้ใหญ่ปกครองเหตุการณ์เมื่อปี 1994 ได้ทำลายรวันดาลงอย่างย่อยยับ ผู้สังเกตการณ์นานาชาติได้ประเมินว่าสงครามกลางเมืองและวิกฤตผู้ลี้ภัยได้ทำให้ประชาชนในรวันดา เหลือเพียง 5 ล้านคน จากที่มีอยู่ 8 ล้านคน ยิ่งกว่านั้นความขัดแย้งได้ทำลายโครงสร้างพื้นฐานของประเทศและเหลือไว้เพียงแต่ซากแห่งความหายนะทางสังคมและเศรษฐกิจตามมา ปัญหาของชนชั้น และชาติพันธุ์ได้กลายเป็นเงื่อนไขที่ผู้มีอำนาจใช้เป็นเครื่องมือในการทำลายล้างกัน เพื่อแสวงหาอำนาจให้กับฝ่ายตน อำนาจจึงเป็นเมฆหมอกอุปสรรคปกคลุมบดบังความสัมพันธ์ของทั้งสองชาติพันธุ์ลงหมดสิ้น กระทั่งได้นำไปสู่การเลือกปฏิบัติและการใช้ความรุนแรงตลอดศตวรรษที่ยี่สิบ ดังนั้นการที่จะเข้าใจรากเหง้าของการใช้ความรุนแรงได้ดียิ่งขึ้น จึงมีความจำเป็นที่จะค้นหาจุดเริ่มต้นของตำนานและการตีความผิดๆของชาวรวันดาซึ่งได้สร้างประวัติศาสตร์ในระยะเวลาที่ผ่านมา*บทความแบ่งเป็น 10 ตอน โดยแปลสรุปจาก World in conflict. Rawanda : country torn apart. และนำมาเรียบเรียงใหม่เพิ่มเติมเนื้อหาบางส่วนเพื่อความเข้าใจง่ายขึ้น Bodnarchuk Kari. World in conflict. Rawanda : country torn apart .Manufactured in the United States of America.By Lerner Publications Company. | สงครามกลางเมืองจุดกำเนิดของความขัดแย้งระหว่างสองชาติพันธุ์ ได้ฝังรากลึกในประวัติศาสตร์รวันดามาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ในช่วงระหว่างปี 1959 ถึง 1973 ชาวตุ๊ดซี่หลายพันคนถูกเนรเทศออกจากประเทศ | ต่างประเทศ,สิทธิมนุษยชน | ธนชาติ แสงประดับ ธรรมโชติ,รวันดา | https://prachatai.com/journal/2012/12/44062 |
สองแถวรับ-ส่ง นร. เสียหลัก เจ็บระนาวเกือบ 20 ยังดี ไร้สาหัส-ตาย | เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 7 ส.ค.เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสงขลา ไปตรวจสอบอุบัติเหตุมีรถสองแถวสายสงขลา-ม่วงงาม ทะเบียน 10-3610 สงขลา ซึ่งบรรทุกนักเรียนมาเต็มคันรถ เกือบ 30 คน เสียหลักพุ่งตกลงไปในคูน้ำข้างทาง ริมถนนกาญจวนิช เส้นทางสงขลา-หาดใหญ่ หน้าร้านอาหารขามคู่ ต.เขารูปช้าง อ.เมือง จ.สงขลา เป็นเหตุให้นักเรียนทั้งหญิงและชายได้รับบาดเจ็บกว่า 20 คน และบางคนกระเด็นตกจากรถ เจ้าหน้าที่ศูนย์นเรนทร และหน่วยกู้ชีพสงขลา ต้องช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลสงขลา โดยบาดเจ็บคนละเล็กคนละน้อย บางคนหัวแตกจากแรงกระแทก มีแผลถลอก และฟกช้ำ แต่โชคดีที่ไม่มีนักเรียนคนใด ได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังปฐมพยาบาลเสร็จแล้ว แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้,จากการสอบสวน นายไฝ่ศร โพธิรักษ์ อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถสองแถวรับส่งนักเรียน และได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย บริเวณริมฝีปาก เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ขณะเกิดเหตุได้รับนักเรียนทั้งหมดจากหลายโรงเรียน กลับจากสนามกีฬาติณสูลานนท์ เขตเทศบาลนครสงขลา เพื่อจะไปส่งในพื้นที่ ต.ม่วงงาม อ.สิงหนคร,เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นจุดกลับรถ ได้มีรถกระบะเลี้ยวตัดหน้าในระยะกระชั้นชิด ตนจึงได้หักหลบเพื่อไม่ให้ไปชน เพราะ อาจะทำเกิดอุบัติเหตุรุนแรง แต่รถได้เสียหลักพุ่งตกลงไปในคูน้ำข้างถนน ทำให้เด็กนักเรียนที่นั่งมากับรถได้รับบาดเจ็บดังกล่าว อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสงขลา ได้มาตรวจที่เกิดเหตุและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และจะเชิญคู่กรณีทั้งสองฝ่าย มาสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้งหนึ่ง | สงขลาอุบัติเหตุรถสองแถวรับส่งนักเรียน หักหลบรถคู่กรณี จนเสียหลักตกคูน้ำข้างทาง ทำนักเรียนเจ็บระนาว กว่า 20 คน โชคดีไม่มีใครอาการสาหัสหรือเสียชีวิต | ข่าว,ทั่วไทย | สองแถว,รับ-ส่ง,นักเรียน,นร.,สงขลา,อุบัติเหตุ,เสียหลัก,ตกคูน้ำข้างทาง,เจ็บระนาว20คน,สาหัส,ตาย,เสียชีวิต,โชคดี,ตำรวจ สภ.เมืองสงขลา,กาญจวนิช,สงขลา-หาดใหญ่,เขารูปช้าง,ไฝ่ศร โพธิรักษ์,รถตัดหน้า,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวสังคม,ภูมิภาค | https://www.thairath.co.th/news/local/516875 |
สพฐ.ยืนยันไม่มีนโยบายสอบเข้า ป.1 แต่ยอมรับ ร.ร.แข่งขันสูงใช้คัดเลือกเด็ก | วันนี้ (9 พ.ย.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา มีข้อเสนอให้ยกเลิกการสอบคัดเลือกนักเรียน เข้าเรียนต่อในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานระบุว่า ในหลักการไม่ควรที่จะมีการสอบคัดเลือกเพราะการศึกษาในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถือเป็นการศึกษาภาคบังคับที่เด็กทุกคนจะต้องได้เรียนสำหรับกรณีนี้กระทรวงศึกษาธิการ และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ไม่ได้มีนโยบายในเรื่องการสอบคัดเลือกเด็กเพื่อเข้าเรียนต่อในชั้น ป.1 แต่วิธีการสอบคัดเลือก อาจจะเป็นวิธีการของบางโรงเรียนที่มีการแข่งขันสูง เพราะต้องยอมรับว่าโรงเรียนมีความอิสระที่จะบริหารจัดการเกี่ยวกับงานวิชาการ แต่ไม่ใช่นโยบายจากทางส่วนกลางว่าจะต้องมีการสอบเพื่อคัดเลือกเด็กเข้าเรียนต่อดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องมีการศึกษาในรายละเอียดว่า มีโรงเรียนในสังกัด สพฐ.ที่ดำเนินการในลักษณะดังกล่าวอยู่หรือไม่ จำนวนมากน้อยเพียงใด แล้วจะมีการหารือเกี่ยวกับการดำเนินการต่อไป | เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ยืนยันว่า สพฐ.ไม่มีนโยบายการสอบคัดเลือกเด็กเข้าเรียนต่อ ป.1 แต่ยอมรับว่าเป็นวิธีการของโรงเรียนบางแห่งที่มีการแข่งขันสูง | สังคม | สอบคัดเลือก,สอบเข้าป.1,ไม่มีนโยบาย,กระทรวงศึกษาธิการ,สพฐ.,การศึกษาภาคบังคับ,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/267577 |
ผบ.สูงสุด การันตี พ.ร.บ.คอมฯ เจ๋ง มีเจตนาปกป้องคนดี | เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 28 ธ.ค. ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ ผบ.ทหารสูงสุด กล่าวหลังการประชุมผบ.เหล่าทัพ ถึงการป้องกันการแฮกข้อมูลทางไซเบอร์ว่า ต้องเข้าใจว่าเรื่องไซเบอร์ ซึ่งกองทัพดำเนินการมาหลายปี ซึ่งกองทัพทั่วโลกให้ความสำคัญเรื่องนี้มากจากสมัยก่อนที่รบด้วยกำลังทั้งปืนใหญ่และรถถัง แต่ปัจจุบันไซเบอร์ถือเป็นการรบรูปแบบหนึ่ง ซึ่งเป็นการรบระหว่างกองทัพที่ต้องพัฒนาควบคู่มาเรื่อยๆ แต่ที่เป็นปัญหาในสังคมไทยก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง โดยผู้เกี่ยวข้องได้ชี้แจงทำความเข้าใจแล้วว่า พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2559 ที่จะบังคับใช้ออกมาเพื่ออะไรและมีประโยชน์อย่างไร,พล.อ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ในมุมมองของตนจะขออ้างงานเขียนของ โทมัส ฟรีดเเมน เรื่อง Thank you for being late หรือชื่อภาษาไทยว่า ขอบคุณที่มาช้าไปหน่อย ซึ่งระบุถึงการเปลี่ยนเทคโนโลยีแต่ละครั้ง ใช้เวลา 7-15 ปี ซึ่งก็ต้องพัฒนากฎกติกาป้องกันและควบคุมรองรับไว้ ส่วนคอมพิวเตอร์มีการพัฒนารวดเร็วมาก ดังนั้น กฎกติกาก็ต้องพัฒนาตามให้ทันด้วย ซึ่งมีเจตนาเพื่อปกป้องคนดีคนบริสุทธิ์จากพวกอาชญากรรมที่แสวงหาประโยชน์ในเทคโนโลยีใหม่ๆ ฉะนั้นต้องหามาตรการคุ้มครองคนดีไม่ให้เดือดร้อน จึงต้องออกกฎหมายฉบับนี้มา ซึ่งทั่วโลกก็ทำกัน ถ้าไม่ทำผู้ไม่หวังดีจะขยายผล สุดท้ายกลไกในการลงโทษก็จะตามไม่ทัน,กฎระเบียบต่างๆ เหล่านี้มีการชี้แจงแล้วว่าสามารถแก้ไขหรือเพิ่มเติมได้ ถ้าเรารู้เจตนากฎหมายนี้ จะทำให้ทุกคนมีความเข้าใจว่าออกมาเพื่อปกป้องคนบริสุทธิ์จากพวกอาชญากรทางเทคโนโลยี พล.อ.สุรพงษ์ กล่าว,เมื่อถามว่าในส่วนกองทัพมีนักรบไซเบอร์หรือไม่ พล.อ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ทุกกองทัพทั่วโลกมีนักรบไซเบอร์ อย่างเช่นในกองทัพสหรัฐอเมริกา ตั้งหน่วยบัญชาการไซเบอร์ขึ้นมา มีนายทหารระดับพล.อ.เป็นผู้บังคับบัญชา ซึ่งเป็นหน่วยงานขนาดใหญ่ มีนักรบไซเบอร์เป็นหมื่นๆ คน แต่ของกองทัพเราเพิ่งเริ่มต้นเทคโนโลยีก็พัฒนาไม่มากนัก ดังนั้นงานพวกนี้เราก็ไม่เยอะ จึงจำเป็นต้องพัฒนาควบคู่กันไป อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้แยกแยะมิติด้านความมั่นคงกับปัญหาในโซเชียลมีเดียนั้นแตกต่างกัน. | ผบ.สูงสุด มั่นใจ พ.ร.บ.คอมฯ เจ๋ง มีเพื่อปกป้องคนดี ชี้กองทัพเตรียมเผชิญหน้าสงครามไซเบอร์ พร้อมยกตัวอย่างกองทัพทั่วโลกมีนักรบไซเบอร์ โดยเฉพาะมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ มีระดับ พลเอก เป็นผู้บังคับบัญชา | null | พรบ.คอม,กฏหมายคอมพิวเตอร์,แฮกข้อมูล,นักรบไซเบอร์,สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ | https://www.thairath.co.th/content/823574 |
ศาลเชียงใหม่รับฟ้องคดี เวทีวิชาการไม่ใช่ค่ายทหาร นัดต่อไป 14 ส.ค.นี้ | ด้านจำเลยชี้ตีความป้ายผ้า-ชูสามนิ้วเป็นต่อต้านรัฐบาลสะท้อนสังคมและสภาวะที่ไม่ปกติ4 ก.ค. 2561 รายงานว่า ศาลแขวงเชียงใหม่รับฟ้องของอัยการในกรณีที่เจ้าหน้าที่ทหารกล่าวหาว่าชยันต์ วรรธนะภูติ ผู้อำนวยการศูนย์ภูมิภาคศึกษาด้านสังคมศาสตร์และการพัฒนาอย่างยั่งยืน คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ภัควดี วีระภาสพงษ์ นักแปลและนักเขียนอิสระ นลธวัช มะชัย นักศึกษาปริญญาตรีคณะการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ชัยพงษ์ สำเนียง นักศึกษาปริญญาเอกคณะสังคมศาสตร์ มช. และธีรมล บัวงาม นักศึกษาปริญญาโทคณะการสื่อสารมวลชน มช. และบรรณาธิการสำนักข่าวประชาธรรม ฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 3/2558 ข้อ 12 เรื่องการร่วมกันมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ ที่มีจำนวนตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปโดยไม่ได้รับอนุญาตจากหัวหน้า คสช. หรือผู้ได้รับมอบหมายคำฟ้องระบุว่า จำเลยทั้งห้าได้ร่วมกันมีจำนวนตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป ร่วมกันมั่วสุมและชุมนุมการเมืองโดยแสดงแผ่นป้ายข้อความว่า เวทีวิชาการ ไม่ใช่ค่ายทหาร และปิดแผ่นป้ายนั้นไว้บริเวณห้องประชุมสัมมนาในงานประชุมไทยศึกษาครั้งที่ 13 ที่ จ.เชียงใหม่เมื่อเดือน ก.ค. 2560 พร้อมกับการชูนิ้วสามนิ้ว (นิ้วชี้ นิ้วกลาง และนิ้วนาง) อันเป็นการแสดงสัญลักษณ์ในทางการเมืองต่อต้านรัฐบาลที่บริหารประเทศอยู่ในขณะนั้น และถ่ายภาพกับป้ายข้อความซึ่งปิดไว้ที่บริเวณหน้าห้องประชุมสัมมนา เพื่อให้ประชาชนที่พบเห็นเข้าใจว่ารัฐบาล และทหารจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน ซึ่งก่อให้เกิดภาพลักษณ์ในเชิงลบกับรัฐบาล เป็นการยุยงปลุกปั่น สร้างความแตกแยกระหว่างประชาชนที่เห็นต่างกับรัฐบาลศาลได้ประทับรับฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำที่ 6792/2561 และได้กำหนดวันนัดฟ้องในวันที่ 14 ส.ค. 2561 เวลา 9.00 น. หลังรับฟ้อง จำเลยทั้งห้ายื่นขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นศาลโดยไม่ใช้หลักทรัพย์ประกันตัวเนื่องจากไม่ได้มีพฤติการณ์จะหลบหนี และคดีไม่ได้มีโทษร้ายแรง ซึ่งศาลได้อนุญาตให้ปล่อยตัวจำเลยทั้งหมดไปโดยให้สาบานตัวว่าจะมาตามนัดศาลที่กำหนดศูนย์ทนายฯ รายงานว่า ระหว่างกระบวนการรับฟ้องคดี มีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบคอยติดตามสังเกตการณ์อยู่ภายในบริเวณศาล นอกจากนั้นยังมีนักวิชาการ นักศึกษา และประชาชนเดินทางมาให้กำลังใจจำเลยทั้งห้าคนที่ศาลอีกราว 40 คนสุมิตรชัย หัตถสาร หนึ่งในทีมทนายความจำเลยกล่าวว่า ต่อจากนี้จะมีการประชุมทีมทนายและจำเลยทั้งห้าก่อนวันที่ 14 ส.ค. ซึ่งเป็นวันนัดของศาล โดยอาจมีการนัดพยานที่เป็นนักวิชาการที่เคยเสนอไว้ตั้งแต่ชั้นพนักงานสอบสวนว่าจะเตรียมเนื้อหาหลักฐานไปเสนอศาลอย่างไร โดยวันที่ 14 ส.ค.นั้น จะเป็นวันที่จำเลยทั้งห้าจะยื่นคำให้การว่าจะต่อสู้คดีในประเด็นใดบ้างข้อกังวลคงเป็นเรื่องว่าทางศาลจะรับฟังพยานหลักฐานในเรื่องสิทธิเสรีภาพประชาชนอย่างไร เพราะเนื้อหาของคำฟ้องมีสองส่วน หนึ่ง เกี่ยวกับป้ายใจความว่า เวทีวิชาการไม่ใช่ค่ายทหาร อีกกรณีที่อัยการบรรยายคือการยกนิ้วสามนิ้ว เขาก็เขียนในคำฟ้องว่าลักษณะเหล่านี้เป็นการต่อต้านรัฐบาลและอาจนำไปสู่ความแตกแยกในสังคม เราก็คงต้องโต้แย้งว่าพฤติการณ์เหล่านี้ที่่ถูกอ้างมาไม่ได้เป็นการต่อต้านรัฐบาล การชุมนุมทางการเมือง แต่เป็นการแสดงความคิดเห็นของประชาชนปกติ และเป็นเวทีวิชาการ ไม่ใช่การชุมนุมเรียกร้องทางการเมืองอะไร สุมิตรชัยกล่าวธีรมล หนึ่งในจำเลยกล่าวว่าคดีนี้สะท้อนถึงความผิดปกติในสังคมไทยที่การแสดงออกของประชาชนในเวทีวิชาการกลายเป็นเรื่องใหญ่โตไปเป็นเรื่องการเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านรัฐบาล และรู้สึกยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้เพื่อยืนหยัดในเรื่องสิทธิ เสรีภาพในการพูด การแสดงออกและเสรีภาพทางวิชาการแม้จะถูกดำเนินคดีก็ตาม ทั้งขอให้สังคมตระหนักว่าอย่าลืมประชาชนกลุ่มอื่นๆ ที่ถูกดำเนินคดีในลักษณะเดียวกันที่ไม่ได้มีสถานะทางวิชาการหรือสังคมปกป้องเหมือนพวกตนที่ผ่านมาก็มีกระบวนการที่จะให้เรื่องนี้จบลงง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้วรรค 12 ในกฎหมาย 3/2558 ให้ไปรับการอบรม เซ็นเอ็มโอยู หรือเจรจาต่างๆ เยออะแยะมากมายที่จะแยกพวกเราออกจากกัน แต่พวกเราก็ยืนหยัดทั้งห้าคนที่จะสู้ไปด้วยกันก็ยืนยันว่าพวกเราไม่ได้ผิด คดีไม่ได้เป็นคดีตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว เราไม่ได้รู้สึกว่าเราผิดอะไรก็เลยขอพึ่งกระบวนการยุติธรรมแล้วกัน เพราะเราเชื่อว่ากระบวนการยุติธรรมจะช่วยทำให้เห็นว่าข้อความ เวทีวิชาการไม่ใช่ค่ายทหาร ไปถ่ายกับป้าย ชูไม้ชูมือทำสัญลักษณ์จะถูกตีความว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง ทำให้เกิดการยุยงปลุกปั่น กระด้างกระเดื่องหรือเกิดภาพลักษณ์ต่อรัฐบาล คสช. ก็เห็นว่าเป็นอะไรที่ถูกลากไปเชื่อมโยงมากไป เพราะทั้งหมดทั้งมวลเป็นกิจกรรมหรือการแสดงออกที่ต่อเนื่องจากตรงนั้น ไม่ได้มุ่งหมายที่จะคเลื่อนไหวทางการเมืองอย่างที่ผู็มีอำนาจทางการเมืองในรัฐบาลขณะนี้มอง เราเลยคิดว่าเราไม่ผิด และจะยืนยันใช้สิทธิ์ของเราปกป้องคุณค่าในการแสดงออกถ้าเทียบกับเคสอื่นๆ แล้วเคสพวกเราก็ง่าย ไม่อยากให้คนที่มาสนับสนุนเราไม่เห็นกลุ่มอื่นที่โดนแบบเดียวกันกับเราที่เขาไม่มีต้นทุนไปสู้ได้ เราไม่ได้เป็นพระเอกแบบนั้น แต่เรามีโอกาสในการใช้สิทธิ ใช้โอกาสเหล่านี้ในการแสดงออกและต่อสู้ร่วมกันกับคนอื่น เพราะเป็นสภาวะไม่ปกติที่พวกเราต้องเจอร่วมกันทั้งประเทศ เพราะสิ่งที่พวกเราทำคือการแสดงออกในพื้นที่เวทีวิชาการเท่านั้นเองแล้วมันก็ถูกขยายความใหญ่โต มันสะท้อนความไม่ปรกติของสังคมเองต่างหากที่สิ่งเล็กน้อย เรียบง่ายและธรรมดามากในพื้นที่ของพวกเราในการนำเสนอจะกลายเป็นการเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านรัฐบาล ก็สะท้อนสิ่งที่สังคมนี้ รัฐบาลทหารชุดนี้มองอยู่และพยายามจะควบคุม จัดการ ธีรมลกล่าวภัควดีกล่าวว่า หากศาลยกฟ้องคดีนี้ก็อยากให้เป็นบรรทัดฐานกับคดีลักษณะเดียวกันที่ประชาชนคนอื่นถูกฟ้องด้วย และระยะเวลาที่ยาวนานเกือบหนึ่งปีก่อนจะสั่งฟ้องทำให้ทั้งจำเลยและทนายความเสียเวลาไปกับคดีที่ไม่มีสาระคาดหวังว่าศาลจะยกฟ้องหากดูจากมูลเหตุ หลักฐาน แรงจูงใจและสภาพแวดล้อม ในขณะเดียวกันอยากให้เป็นบรรทัดฐานว่าถ้ามีชาว้บ้านทั่วไปที่ไม่มีนักศึกษา ปัยญาชน นักวิชาการถูกคดีแบบนี้ก็อยากให้ได้รับการยกฟ้องเช่นกัน ถ้าคดีเราได้รับการยกฟ้อง หังว่ากฎหมายจะพิทักสิทธิ เสรีภาพในการแสดงความเห็นของประชาชนทั่วไปก็เสียเวลาไปตามนัด แต่ละคนที่โดนคดีบางคนเป็นนักวิชาการ เป็นสื่อ ก็มีธุระต้องไปต่างประเทศบ้าง ที่นู่นที่นี่บ้างก็มีผลกระทบเรื่องเวลาที่ต้องไปรายงานตัว ทนายความก็เสียเวลามาทำคดีแบบนี้ที่เป็นคดีที่ไม่มีสาระเท่าไหร่ชัยพงษ์ อีกหนึ่งจำเลยแสดงความเห็นว่าคดีนี้ยังไม่อยู่ในองค์ประกอบที่พอจะรับฟ้องแต่ศาลก็รับฟ้อง และระบุว่าการรายงานตัวต่ออัยการเชียงใหม่ทุกเดือนเป็นภาระ เพราะการรายงานตัวหนึ่งครั้งก็กินเวลาทั้งวัน ถ้าอยู่ต่างจังหวัดก็ต้องกลับมาผมคิดว่าคดีนี้ โดยกระบวนการมันก็แปลกๆ เราคิดว่าคดีก็ยังไม่อยู่ในองค์ประกอบที่พอจะรับฟ้องหรือสั่งฟ้องได้ แต่ก็เป็นคดี เพราะคดีนี้ต้องมีองค์ประกอบชุมนุมเกินห้าคน ที่จริง 3-4 คนที่โดนฟ้องก็ต่างกรรมต่างวาระ ไม่ได้รวมตัวกันห้าคนเลย ชัยพงษ์กล่าวข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 3/2558 ข้อ 12 เรื่องการมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป กำหนดโทษจำคุกไว้ไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับสถิติจากโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน () รายงานเมื่อเดือน ก.พ. 2561 ระบุว่ายอดจำนวนคนที่ถูกตั้งข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 มีจำนวน 333 คน ต่อมามีผู้ถูกตั้งข้อหาเพิ่มอีกในกรณีคนอยากเลือกตั้งที่ชุมนุมที่รอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ที่หน้ากองทัพบก ที่พัทยา และหน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่วันนี้ ได้ออกแถลงการณ์สืบเนื่องจากกรณีคดีไทยศึกษา ขอให้ยุติการปิดกั้น คุกคามการแสดงความเห็นของประชาชนและเสรีภาพทางวิชาการ และให้ คสช. เร่งจัดการเลือกตั้งตามกำหนด โดยมีใจความดังนี้นอกจากนั้น คณะกรรมการนักนิติศาสตร์สากล (International Commission of Jurists หรือ ไอซีเจ) ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ผู้ดำเนินคดีในไทยยุติการดำเนินคดีต่อจำเลยทั้งห้า และเรียกร้องให้มีการยกเลิกหรือแก้ไขกฎหมาย คำสั่ง และประกาศทั้งหลาย ที่ไม่สอดคล้องกับพันธกรณีทางด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศของประเทศไทยมูลเหตุของคดีในวันนี้ ต้องย้อนกลับไปราวหนึ่งปีกว่าๆ เมื่อช่วงวันที่ 15-18 ก.ค. 2560 ที่มีการจัดการประชุมวิชาการไทยศึกษา ซึ่งเป็นเวทีวิชาการนานาชาติที่มีนักวิชาการทั้งไทยและต่างประเทศมาร่วมนำเสนอและรับฟังการเสนอผลงานทางวิชาการด้านไทยศึกษา งานจัดขึ้นที่ศูนย์ประชุมและแสดงนิทรรศการนานาชาติ จ.เชียงใหม่18 ก.ค. 2560 มีนักกิจกรรมและนักศึกษานำป้ายที่มีข้อความ เวทีวิชาการ ไม่ใช่ค่ายทหาร มาติดบริเวณหน้าห้องสัมมนาวิชาการ เนื่องจากเห็นว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐนอกเครื่องแบบเข้ามาบันทึกกิจกรรมต่างๆ ในงานโดยไม่มีการลงทะเบียนเข้าร่วมงานและไม่ได้ขออนุญาตผู้จัดงาน โดยที่ระหว่างที่ป้ายดังกล่าวติดอยู่และมีผู้ร่วมถ่ายรูปกับป้ายดังกล่าวเป็นจำนวนมากด้วย โดยจำเลยทั้งห้าก็ได้ถ่ายภาพในท่าชูสามนิ้ว ซึ่งทั้งการติดป้ายและการชูสามนิ้วกลายเป็นเหตุที่นำไปสู่การตั้งข้อกล่าวหาในอนาคตต่อมา ร.ท.เอกภณ แก้วศิริ อัยการผู้ช่วยศาลมณฑลทหารบกที่ 33 จังหวัดเชียงใหม่ รับมอบอำนาจจาก พ.อ.สืบสกุล บัวระวงศ์ รองผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดเชียงใหม่ ให้มาแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีต่อนักวิชาการ นักศึกษา และนักแปลทั้งห้าคน ในข้อหาร่วมกันมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใด ๆ ที่มีจำนวนตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป โดยไม่ได้รับอนุญาตจากหัวหน้า คสช.เมื่อ 15 ส.ค. 2560 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือก ได้ออกหมายเรียกนักวิชาการและนักศึกษา 5 คน ที่ปัจจุบันกลายสภาพเป็นจำเลยไปแล้ว ให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า (คสช.) ที่ 3/2558 เรื่องการมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ ที่มีจำนวนตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป โดยไม่ได้รับอนุญาตจากหัวหน้าคสช. หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย จากกรณีเกี่ยวข้องกับกิจกรรมในการประชุมวิชาการไทยศึกษาเมื่อ 21 ส.ค. 2560 พ.ต.ท.อินทร แก้วนันท์ และคณะพนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก แจ้งข้อหาต่อนักวิชาการ นักศึกษา และนักแปลทั้งห้าคน ทั้งยังแจ้งว่าหากผู้ต้องหาทั้งห้าสมัครใจเข้ารับการอบรมจากเจ้าพนักงานรักษาความสงบเรียบร้อยเป็นระยะเวลาไม่เกิน 7 วัน และเจ้าพนักงานรักษาความสงบเรียบร้อยเห็นสมควรปล่อยตัวโดยอาจจะมีเงื่อนไขหรือไม่มีเงื่อนไขก็ได้ ให้ถือว่าคดีเลิกกัน แต่ผู้ต้องหาทั้งห้าให้การปฏิเสธข้อหา และยื่นคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรต่อพนักงานสอบสวนในวันที่ 1 ก.ย. ปีเดียวกัน11 ก.ย. 2560 สืบเนื่องจากมติที่ประชุมของจังหวัดเชียงใหม่ (8 ก.ย.) กรณีกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดเชียงใหม่แจ้งความผู้ต้องหาทั้งห้า และได้นัดหมายให้ผู้ต้องหาไปที่สำนักงานอัยการคดีศาลแขวงเชียงใหม่ ซึ่งผู้ต้องหาก็ไปตามนัด จากนั้นอัยการศาลแขวงเชียงใหม่ก็เลื่อนฟังคำสั่งคดีจนรับฟ้องในวันนี้คดีนี้เป็นที่จับตามองจากองค์กรระหว่างประเทศ ประชาสังคมและนักวิชาการจำนวนมาก มีแถลงการณ์หลายฉบับที่ออกมาเพื่อเรียกร้องให้ถอนการแจ้งข้อกล่าวหาต่อผู้ต้องหาทั้งห้าข้อมูลเพิ่มเติม: | ศาลแขวงเชียงใหม่รับฟ้องกรณี กอ.รส.เชียงใหม่แจ้งความนักวิชาการ นักแปล นักศึกษา 5 คน ถ่ายภาพชูสามนิ้วกับป้าย เวทีวิชาการไม่ใช่ค่ายทหาร ข้อหาฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. 3/58 | การเมือง,คุณภาพชีวิต,สิทธิมนุษยชน,การศึกษา | คดีไทยศึกษา,คสช.,ชยันต์ วรรธนะภูติ,ชัยพงษ์ สำเนียง,ธีรมล บัวงาม,นลธวัช มะชัย,ภัควดี วีระภาสพงษ์,เวทีวิชาการไม่ใช่ค่ายทหาร,เสรีภาพการแสดงออก,เสรีภาพทางวิชาการ,แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล | https://prachatai.com/journal/2018/07/77690 |
ฝนถล่มตราด น้ำป่าทะลักท่วมบ้าน 100 หลัง | วันนี้ (14 ส.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อิทธิพลมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่เกิดขึ้นทำให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนัก และน้ำท่วมฉับพลัน โล่าสุดเกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านกว่า 100 หลังคาเรือนในพื้นที่หมู่ที่ 2 หมู่ที่ 3 หมู่ที่ 5 และหมู่ที่ 10 ต.ประณีต อ.เขาสมิง จ.ตราดจากการลงพื้นที่ ต.ประณีต พบว่าฝนได้หยุดตกแล้ว แต่ปริมาณน้ำฝนที่ตกติดต่อกันมานานหลายชั่วโมงตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ (13 ส.ค.) ทำให้น้ำป่าไหลหลากไหลเข้าท่วมตามชุมชนต่างๆ โดยเฉพาะพื้นที่หมู่ที่ 5 บ้านดอนสูง ถูกมวลน้ำเข้าท่วมได้รับความเสียหายประมาณ 20 หลังคาเรือน และหมู่บ้านอื่นอีกกว่า 100 หลังคาเรือนเบื้องต้นทางอบต.ประณีต และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสมาคมสว่างบุญช่วยเหลือธรรมสถานตราด ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมเรือท้องแบนเข้าไปช่วยชาวบ้านขนย้ายสิ่งของเครื่องใช้ไฟฟ้าไปไว้ที่สูงแล้วนางปรียา รุ่งเรื่อง ชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วม กล่าวว่า ฝนตกหนักนานหลายชั่วโมง จนช่วงเวลา 18.00 น.น้ำหลากเข้าท่วมบริเวณบ้าน ระดับน้ำเริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จึงช่วยกันยกของที่พอจะยกได้ขึ้นที่สูงแต่ก็มีข้าวของเครื่องใช้อีกเป็นจำนวนมากถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายนายสมนึก เครงปั้น ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 บ้านดอนสูง บอกว่า บ้านดอนสูงมีลักษณะเป็นที่ลุ่มและฝนได้ตกลงมาอย่างต่อเนื่องทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก อีกทั้งน้ำยังระบายไม่ทันทำให้เกิดน้ำท่วมขังในหลายหมู่บ้าน | ฝนถล่มหลายชั่วโมง 4 หมู่บ้าน ต.ประณีต อ.เขาสมิง จ.ตราด น้ำป่าทะลักกลางดึกรวมมากกว่า 100 หลังคาเรือนน้ำขัง ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัวเก็บของวุ่น ระบุเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ฝนตกน้ำขังระบายไม่ทัน วอนภาครัฐช่วยแก้ปัญหาห่วงซ้ำรอย | ภัยพิบัติ | น้ำท่วมตราด,ตราด,น้ำท่วม | https://news.thaipbs.or.th/content/295472 |
ตำรวจทางหลวง เปลี่ยนไฟท้ายรถฟรีทั่วพื้นที่อีสาน ลดอุบัติเหตุ เจ็บ-ตาย | เปลี่ยนไฟท้ายจักรยานยนต์ฟรี ช่วยชีวิตชาวบ้าน ตำรวจทางหลวงบุรีรัมย์ ขยายเขตพื้นที่ เปลี่ยนฟรีในภาคอีสาน ตามแนวทาง พล.ต.ต.ชัช สุกแก้วณรงค์ ลดบาดเจ็บ ล้มตายจากการใช้รถ ใช้ถนน,จากสถิติอุบัติเหตุ ประเทศไทยมีสถิติการสูญเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเป็นลำดับที่ 2 ของโลก รัฐบาลจึงได้กำหนดให้การแก้ไขปัญหาด้านการจราจรเป็นนโยบายเร่งด่วน ที่ทุกภาคส่วนต้องบูรณาการร่วมมือกันแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะอุบัติเหตุบนท้องถนน โดยกำหนดเป้าหมายในการลดการบาดเจ็บและเสียชีวิต การดำเนินการตามยุทธศาสตร์ของรัฐบาลมีหลายด้านทั้งการบังคับใช้กฎหมาย การประชาสัมพันธ์ การช่วยเหลือและให้บริการ,กองบังคับการตำรวจทางหลวง ถือเป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบงานจราจรของผู้ใช้รถใช้ถนนบนทางหลวง จึงได้จัดทำยุทธศาสตร์ด้านการป้องกัน และลดอุบัติเหตุในพื้นที่ โดยเน้นการให้ความรู้ ความเข้าใจให้กับประชาชน การให้บริการและบังคับใช้กฎหมายเพื่อเสริมสร้างวินัยจราจร เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ทางหลวงร่วมกันอย่างปลอดภัย มีการแสวงหาความร่วมมือกับภาคประชาชน เพื่อสร้างเครือข่ายรักษาความปลอดภัยในการใช้ทางหลวง เข้ามามีส่วนร่วมในการทำงานการจราจรร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง,พ.ต.ต.วิษณุ คำโนนม่วง สารวัตรตำรวจทางหลวงบุรีรัมย์ ได้ข้อมูล และวิเคราะห์อุบัติเหตุ พบว่าอุบัติเหตุส่วนใหญ่ในพื้นที่เกิดจากปัญหาการชนท้ายรถจักรยานยนต์ที่ไม่มีไฟท้าย ซึ่งเกิดขึ้นมากบนท้องถนนในช่วงเวลากลางคืน โดยได้ขับรถตรวจตราในพื้นที่ช่วงกลางคืน พบว่ารถจักรยานยนต์ส่วนใหญ่ไม่มีไฟท้าย เห็นว่าการแก้ไขปัญหาโดยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเดียว ไม่สามารถให้เกิดผลเป็นรูปธรรมในการลดอุบัติเหตุในพื้นที่ จึงได้จัดทำโครงการเปลี่ยนไฟท้ายฟรี ช่วยชีวิตชาวบ้าน,ซึ่งบางครั้งหลอดไฟท้ายเพียง 5-10 บาท แต่ประชาชนมักจะละเลยไม่สนใจ หรือประชาชนตามพื้นที่ชนบทไม่มีเงินที่จะเปลี่ยนและไม่ได้ใส่ใจ เห็นเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่นำมาซึ่งความสูญเสียของตนเองและผู้อื่นที่ใช้รถใช้ถนน การบังคับใช้กฎหมายเพื่อปรับก็คงไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ จึงได้ร่วมกับภาคเอกชนเปลี่ยนไฟท้ายให้ฟรี เพื่อช่วยชีวิตของประชาชนที่ใช้รถใช้ถนน รวมทั้งตระหนักให้เห็นถึงความสำคัญของรถจักรยานยนต์ที่ไม่มีไฟท้าย เพื่อร่วมกันป้องกันอุบัติเหตุ,การดำเนินการตามโครงการจะมี 2 รูปแบบ คือ 1. ออกไปตรวจเจอแล้วเปลี่ยนฟรีให้ทันที 2. ประชาสัมพันธ์ชาวบ้านสามารถมาเปลี่ยนไฟท้ายฟรี ได้ที่ หน่วยบริการตำรวจทางหลวงทุกแห่ง แต่ทุกครั้งที่ได้ดำเนินการ จะแจ้งเตือนชาวบ้านว่ารถจักรยานยนต์ดังกล่าวที่ไม่มีไฟท้าย เป็นความผิดตามกฎหมาย ข้อหาอุปกรณ์ส่วนควบไม่สมบูรณ์ มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท แต่ตำรวจทางหลวงจะไม่เปรียบเทียบปรับ ครั้งนี้จะว่ากล่าวตักเตือน แล้วทำการเปลี่ยนให้ฟรี แต่ขอให้กลับไปดูแลรถของตัวเองให้ดีก่อนออกมาขับขี่ทุกครั้ง โดยเฉพาะในเวลากลางคืน หากรถไม่มีไฟท้ายจะเกิดอันตรายกับคนใช้รถใช้ถนน รวมทั้งตัวผู้ขับขี่เองด้วย หลังจากทำโครงการนี้มาตั้งแต่เดือน ม.ค. 2560 เปลี่ยนหลอดไฟท้ายใน จ.บุรีรัมย์ ไปกว่า 400-500 คัน หลังโครงการเริ่ม ได้รับผลตอบรับโครงการที่ดีจากประชาชนในพื้นที่,,พ.ต.อ.จตุพล เร่งถนอมทรัพย์ ผู้กำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจทางหลวง จึงสั่งการให้ขยายโครงการไปยังทุกจังหวัดในพื้นที่ภาคอีสาน ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ดี ช่วยลดอุบัติเหตุ เปลี่ยนไฟท้ายฟรี การบริการด้วยใจจริงจากตำรวจทางหลวง ในยุคของ พ.ต.อ.ชัช สุกแก้วณรงค์ รักษาการผู้บังคับการตำรวจทางหลวง | เปลี่ยนไฟท้ายจักรยานยนต์ฟรี ช่วยชีวิตชาวบ้าน ตำรวจทางหลวงบุรีรัมย์ ขยายเขตพื้นที่ เปลี่ยนฟรีในภาคอีสาน ตามแนวทาง พล.ต.ต.ชัช สุกแก้วณรงค์ ลดบาดเจ็บล้มตายจากการใช้รถ ใช้ถนน | ข่าว,ทั่วไทย | ตำรวจทางหลวง,ตำรวจทางหลวงบุรีรัมย์,เปลี่ยนไฟท้ายฟรี,อุบัติเหตุ,ชัช สุกแก้วณรงค์,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1215290 |
50 ส.ส.รัฐบาลญี่ปุ่น เตรียมลาออกไปตั้งพรรคใหม่ | นายอิชิโร่ โอซาวะ นำสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรภายในสังกัดเข้ายื่นใบลาออกจากพรรคประชาธิปไตย ซึ่งเป็นรัฐบาลญี่ปุ่นอยู่ในเวลานี้ โดยนายโอซาวะ แถลงว่านายกรัฐมนตรีโยชิฮิโกะ โนดะ ทรยศต่อประชาชนผู้เลือกตั้ง เพราะรัฐบาลจะเพิ่มจัดเก็บภาษีการขายขึ้นเป็น 2 เท่า ซึ่งนายกรัฐมนตรี อ้างว่าการเพิ่มภาษีการขายเพิ่ม เพื่อนำเงินมาชดเชย รายได้ที่เสียไปจากเหตุการณ์ภัยพิบัติแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สีนามิเมื่อปี 2554ทั้งนี้ นายโอซาวะ เคยเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปไตยและในการแทรกขึ้นมาเป็นรัฐบาลเมื่อปีพ.ศ.2552 ซึ่งปกติญี่ปุ่นจะมีพรรคอนุรักษ์นิยมเป็นผู้ครองอำนาจมาตลอดนั้นก็นับว่านายโอซาวะผู้นี้มีส่วนอย่างมาก โดยนายโอซาวะ กล่าวว่าจะพา ส.ส.ประมาณ 50 คนไปตั้งพรรคการเมืองใหม่ที่ยึดหลักการเดิม โดยคาดว่าจะมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอีกจำนวนหนึ่งจะลาออกตามไปตั้งพรรคใหม่กับนายโอซาวะ แต่รัฐบาลญี่ปุ่นชุดนี้ ยังอยู่ได้เพราะยังมีเสียงข้างมากในสภา เว้นเสียแต่จะมีผู้ลาออก 54 คน | สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเทศญี่ปุ่น ภายในพรรครัฐบาล 50 คนเตรียมลาออกไปตั้งพรรคใหม่ เพราะไม่พอใจที่รัฐบาลจะเพิ่มจัดเก็บภาษีการขายขึ้นเป็น 2 เท่า | ต่างประเทศ | ญี่ปุ่น,ตั้งพรรคใหม่,ภาษีการขาย,รัฐบาล,ลาออก,ส.ส. | https://news.thaipbs.or.th/content/95256 |
ปรับเส้นทางฟีดเดอร์ กทม. ชัตเติ้ลบัสบี 2 ดินแดง-BTS สนามเป้า หลังผู้โดยสารน้อย | เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.63 ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษก กทม. แถลงว่า ภายหลัง กทม.ได้ให้บริการทดลองเดินรถ Shuttle Bus นำส่งผู้โดยสารจากสถานที่สำคัญเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนหลัก (ระบบราง) BMA FEEDER 3 เส้นทาง คือ 1.เส้นทาง B1 สถานีขนส่งสายใต้-BTS บางหว้า เมื่อวันที่ 17 มี.ค.63 มีผู้โดยสารรวม 5811 เที่ยว/คน เฉลี่ยวันละ 68 เที่ยว/คน 2.เส้นทาง B2 ดินแดง-BTS สนามเป้า เมื่อวันที่ 31 มี.ค.63 ผู้โดยสารรวม 2517 เที่ยว/คน เฉลี่ยวันละ 35 เที่ยว/คน และ 3.เส้นทาง B3 ชุมชนเคหะร่มเกล้า-ARL ลาดกระบัง เมื่อวันที่ 24 มี.ค.63 ผู้โดยสารรวม 5763 เที่ยว/คน (78 วัน) เฉลี่ยวันละ 73 เที่ยว/คน โดยให้บริการฟรีเป็นเวลา 6 เดือน กำหนดการเดินรถตั้งแต่เวลา 05.00-21.00 น. โดยในเวลาเร่งด่วนระหว่างเวลา 05.00-09.00 น. และเวลา 15.00-19.00 น. รถจะออกทุก 15 นาที ส่วนในช่วงเวลาปกติเวลา 09.00-15.00 น. และเวลา 19.00-21.00 น. รถจะออกทุก 30 นาทีร.ต.อ.พงศกรกล่าวอีกว่า จากสถิติพบว่าเส้นทาง B2 ดินแดง-BTS สนามเป้า มีผู้ใช้บริการน้อย กทม.จึงปรับเปลี่ยนเส้นทางเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการ เป็นอาคารธานีนพรัตน์ (กทม.2)-โรงพยาบาลทหารผ่านศึก-สถานี BTS สนามเป้า-สำนักงาน ป.ป.ส.-โรงพยาบาลทหารผ่านศึก-โรงเรียนรักษาดินแดน (รด.)-มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย-กระทรวงแรงงาน-สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น (ดินแดง) หรือสามารถลงทะเบียนใช้งานผ่านทาง link website ของสำนักการจราจรและขนส่ง http://www.bangkok.go.th/traffic/ | โดยจะเริ่มปรับเปลี่ยนเส้นทางให้บริการตั้งแต่วันที่ 12 มิ.ย.นี้ เป็นต้นไป ทั้งนี้ ประชาชนสามารถลงทะเบียนใช้งานและเช็กตำแหน่งรถได้แบบ Real Time เพียงใช้แอปฯ Viabus หรือสแกน QR Code | ข่าว,ทั่วไทย | BMA FEEDER,ชัตเติ้ลบัสบี 2,Shuttle Bus,ดินแดง,BTS สนามเป้า,พงศกร ขวัญเมือง,ดินแดง-BTS สนามเป้า | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1868055 |
รวบหนุ่มแสบต้มตุ๋นสารพัด ฟาดไป 180 ล้าน | เตรียมประสานตำรวจกองปราบฯ มาอายัดตัว ในคดีฉ้อโกง 180 ล้านบาทบริษัททัวร์ต่างประเทศ ย่านสาทรรวบหนุ่มแสบหลอกตุ๋นเหยื่อหลายคดีความเสียหายกว่า 180 ล้านบาท เปิดเผยเมื่อเวลา 16.00น. วันที่ 21 เม.ย. พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.พร้อมชุดสืบสวน กก.สส.2 บก.สส.บช.น. จับกุมนายธนนท์ รักสนิท หรือนายภทรธร หรือพีช ภัทรธรพชร์ อายุ 30 ปี ตามหมายจับของศาลแขวงพระนครใต้ ที่ จ177/2562 ลงวันที่ 24 ก.ค.62 จับกุมได้ภายในซอยอารีย์ แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม.สืบเนื่องจากตำรวจ บก.สส.บช.น. ได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายรายหนึ่งว่า เมื่อประมาณกลางปี 62 ถูกนายพีชออกอุบายสามารถหารถเบนซ์ รุ่น E 350e ไฮบริด มาขายในราคาถูกกว่าท้องตลาด ในราคา 2470000 บาท ปรากฏว่าพอถึงกำหนดไม่สามารถนำรถเบนซ์มาให้ได้ตามที่ตกลงไว้ จากนั้นได้หลอกลวงผู้เสียหายรายนี้อีกว่าจะทำการหักหนี้เงินจำนวนดังกล่าว ด้วยการให้ร่วมลงทุนธุรกิจรับแลก เปลี่ยนสกุลเงินดอลลาร์ฮ่องกงและค่าวางระบบคอมพิวเตอร์ในการทำธุรกิจ ผู้เสียหายหลงเชื่อ มอบเงินให้อีก 2 ล้านบาท แต่กลับถูกนายพีชเชิดเงินไป คดีนี้ผู้เสียหายแจ้งความไว้ที่ สน.ยานนาวา กระทั่งถูกชุดสืบสวน กก.สส.2 บก.สส.บช.น. จับกุมตัวได้ตรวจสอบประวัติของนายพีช พบกระทำความผิดหลายคดี อาทิ เปิดบริษัททัวร์ ชื่อสกายไมล์ พาท่องเที่ยวตามประเทศเกาหลี ญี่ปุ่น จีน พม่า โดยจัดเป็นกรุ๊ปทัวร์ในราคาพิเศษ เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อได้โอนเงินไปให้ แต่กลับไม่ได้เดินทางแต่อย่างใด ผู้เสียหายจึงรวมตัวแจ้งความดำเนินคดีฐานฉ้อโกงในหลายพื้นที่ได้แก่ สน.ยานนาวา สน.ปทุมวัน สน.พญาไท สน.ลุมพินี สน.สำราญราษฎร์ สน.ทุ่งมหาเมฆ และกองปราบฯ อีกทั้งยังมีหมายจับตาม พ.ร.บ.เช็คฯ ของ สน.ปทุมวัน อีก 2 หมายแต่คดีหมดอายุความไปแล้ว คุมตัวส่ง สน.ยานนาวา ดำเนินคดีตามหมายจับ พร้อมประสานตำรวจกองปราบฯ มาอายัดตัวในคดีฉ้อโกงบริษัทท่องเที่ยวต่างประเทศ และขายตั๋วเครื่องบินแห่งหนึ่งย่านสาทร เหตุเกิดเมื่อเดือน มิ.ย.62 โดยมีมูลหนี้กว่า 180 ล้านบาท | ตำรวจสืบสวนนครบาล ตามจับหนุ่มแสบมีหมายจับติดตัวเกือบสิบหมาย ออกอุบายตุ๋นเหยื่อ ทั้งเปิดบริษัทท่องเที่ยว หลอกขายรถเบนซ์ ให้ร่วมลงทุนแลกเปลี่ยนสกุลเงินดอลลาร์ฮ่องกง ก่อนเชิดเงินหนี | ข่าว,ทั่วไทย | ข่าวหน้า1,หลอกต้มตุ๋น,รวบหนุ่มแสบ,ธนนท์ รักสนิท,บริษัทท่องเที่ยว,หลอกขายรถเบนซ์,ข่าววันนี้,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1826913 |
ปปป. แจ้งข้อหาทุจริตเงินอุดหนุนวัดแล้ว 5 จาก 10 ราย มาตรา 147 และ 157 | เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป. ) กล่าวถึงการเรียกประชุมชุดสืบสวนสอบสวนเพื่อสรุปผลการดำเนินงานปราบทุจริตเงินอุดหนุนงบประมาณวัดทั่วประเทศ มูลค่าความเสียหายกว่า 60 ล้านบาท ว่า คดีเงินทอนวัดมีทั้งหมด 12 คดี และจะส่งสำนวน 7 คดีให้ ป.ป.ช.ทันที ส่วนสำนวนอีก 5 คดี จะดำเนินการให้เสร็จ และจะส่งภายในวันที่ 19 มิ.ย.นี้ โดยพบว่ามีผู้กระทำความผิดที่ยุ่งเกี่ยวกับเงินทอนวัด รวม 10 คน แจ้งข้อกล่าวหาแล้ว 5 ราย ในฐานความผิดมาตรา 147 และ 157 ส่วนอีก 5 คน ซึ่งมีอดีต ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาฯร่วมกระบวนการอยู่ระหว่างการติดตามตัว,สำหรับคดีของวัดที่จังหวัดสงขลาเมื่อปี 2558 ที่อัยการไม่สั่งฟ้องนั้น ทราบจากสำนักงาน ป.ป.ช. ขณะนี้กำลังดำเนินการเรื่องนี้อยู่ รวมถึง พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง กรรมการ ป.ป.ช. ต้องการเอกสารหลักฐานที่ทาง ปปป. ทำในคดีเพื่อนำไปใช้ประกอบการรื้อคดีดังกล่าวใหม่ เนื่องจากผู้ต้องหามีการกระทำผิดเชื่อมโยงกันและน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกัน แต่ไม่ได้ยืนยันว่า ผอ.สำนักพุทธฯทุกจังหวัด จะต้องเกี่ยวข้องในคดี เพราะว่างบประมาณบางเรื่องต้องผ่านสำนักพุทธศาสนาจังหวัดก่อน แต่บางวัดสามารถโอนเงินตรงไปวัดได้เลย หากผ่านแล้วต้องมีการรายงานความคืบหน้าให้ ผอ.สำนักพุทธทุกจังหวัด แล้วจึงส่งกลับมา พศ. นั้นยังเป็นเรื่องที่ต้องตรวจสอบในอนาคต,ส่วนการขยายผลได้ให้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการพิจารณา ระบุตำแหน่งวัดที่น่าเชื่อว่าจะทำผิด ว่าจุดไหนเป็นจุดสำคัญ โดยจะมีการร่วมมือจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง อาทิ กองปราบปราม (บก.ป.) กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท) กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) อย่างไรก็ตาม วันที่ 27 มิ.ย.นี้ จะนัดประชุมเพื่อวางกรอบแบ่งพื้นที่หน่วยงานลงตรวจสอบ หากทาง สตง. ป.ป.ช. ปปท. เข้าร่วมด้วยทาง ปปป.ก็ยินดี เพื่อหาคำตอบมาบอกต่อสังคมให้ได้เร็วที่สุด. | ปปป. เรียกประชุมคดีเงินทอนวัด ส่งสำนวนให้ป.ป.ช. 7 คดี อีก 5 คดี จะส่งใน 19 มิ.ย. พบผู้กระทำผิด 10 คน แจ้งข้อหาแล้ว 5 คน ความผิดมาตรา 147 และ 157 ส่วน 5 คน อยู่ระหว่างติดตามตัว | ข่าว,ทั่วไทย | ทุจริตเงินอุดหนุนวัด,คดีเงินทอนวัด,อดีตผอ.สำนักพุทธ,เงินวัด,งบวัด,การศึกษา | https://www.thairath.co.th/news/local/975232 |
สภานิสิตจุฬาฯ แถลงจุดยืนชุมนุม หนุน 3 ข้อเรียกร้อง ขอรัฐบาลฟังเสียงประชาชน | แฟนเพจ สภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย I Student Council of Chulalongkorn University เผยแพร่แถลงการณ์สภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรื่อง จุดยืนของสภานิสิตฯ ต่อการชุมนุมในปัจจุบันโดยระบุว่า จากสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน ปรากฏการชุมนุมทางการเมืองเพื่อยื่นข้อเรียกร้องสามประการต่อรัฐบาล ซึ่งประกอบด้วย การเรียกร้องให้ยุติการคุกคามผู้เห็นต่างทางการเมือง ดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และยุบสภาผู้แทนราษฎร จนเป็นเหตุให้มีความพยายามจากเจ้าหน้าที่ภาครัฐในการติดตามตัวแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมและคุกคามผู้แสดงออกทางการเมือง ดังกรณีที่เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอย่างกว้างขวางน้ันสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีความกังวลเกี่ยวกับท่าทีของรัฐบาลต่อประชาชนผู้เข้าร่วมการชุมนุมดังกล่าว เนื่องจากการรวมตัวกันเพื่อชุมนุมสาธารณะนั้นเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของพลเมืองในการปกครองระบอบประชาธิปไตยและเป็นกลไกสำคัญที่เปิดโอกาสให้ผู้เห็นต่างจากรัฐบาลในทางการบริหารราชการแผ่นดินได้แสดงความคิดเห็นในฐานะประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย รัฐบาลในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากประชาชนผ่านสภาผู้แทนราษฎรจึงต้องเคารพและตระหนักถึงสิทธิเสรีภาพดังกล่าวนี้ไว้ มิใช่ปิดกั้น คุกคาม หรือปราบปรามผู้ ชุมนุมเหมือนเช่นที่เคยปฏิบัติมานอกจากนี้ สภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยยังมีความกังวลต่อสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันที่เริ่มมีการเผชิญหน้าระหว่างผู้เห็นต่างทางการเมืองกับเจ้าหน้าที่รัฐและการใช้วาทกรรมที่สร้างความเกลียดชัง (Hate Speech) ซึ่งอาจนำไปสู่ความรุนแรงทางการเมืองในอนาคตโดยทางสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยขอเสนอให้ คณะรัฐมนตรี ในฐานะผู้มีอำนาจและหน้าที่ในการบริหารราชการแผ่นดิน ดำเนินการรับฟังความเห็นกลุ่มผู้ชุมนุม กลุ่มนักเรียน นิสิต นักศึกษา กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ และกลุ่มอื่นๆ โดยตรง เพื่อแสดงถึงความไม่นิ่งนอนใจและความจริงจังของรัฐบาลในการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เพื่อลดการเผชิญหน้า (deescalation) และเพื่อลดโอกาสที่จะเกิดความรุนแรงทางการเมือง อันอาจก่อให้เกิดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน เหมือนเช่นเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองในอดีตที่ผ่านมาทั้งนี้ สภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขอสนับสนุนข้อเรียกร้องสามประการดังกล่าว คือ การยุติการ คุกคามประชาชน เพื่อให้ประชาชนสามารถแสดงออกทางการเมืองได้อย่างอิสระ การริเริ่มกระบวนการแก้ไข เพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 เพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยองค์กรและกระบวนการที่ประชาชนสามารถมีส่วนร่วมได้อย่างกว้างขวางเพื่อให้รัฐธรรมนูญเป็นฉันทามติร่วมกันของคนในสังคมอย่างแท้จริง และการยุบสภาผู้แทนราษฎรและจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่เป็นการทั่วไปเพื่อเป็นการเปิดทางให้ได้รัฐบาลจากสภาผู้แทนราษฎร อันมีที่มาอย่างชอบธรรมตามวิถีทางแห่งระบอบประชาธิปไตยต่อไป.(โพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่) | สภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ออกแถลงการณ์จุดยืนต่อการชุมนุม พร้อมหนุน 3 ข้อเรียกร้อง ขอรัฐบาลรับความฟังคิดเห็นของประชาชน | ข่าว,สังคม | สภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,ชุมนุม,ชุมนุมประชาธิปไตย,ข้อเรียกร้อง 3 ข้อ,รัฐบาล,ข่าวโซเชียล,มอนิเตอร์,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1907923 |
ซินดี้ สิรินยา พร้อมเปิดตัวนิทรรศการ Don’t tell me how to dress ปลุกพลังสังคมยุติการคุกคามทางเพศ | เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา กลายข่าวใหญ่เมื่อ ซินดี้-สิรินยา บิชอพ ออกมาโพสต์คลิปเกี่ยวกับสิทธิสตรี และการแต่งกายอย่างเหมาะสมในช่วงวันสงกรานต์ และทำให้เกิดปรากฏการณ์แฮชแท็ก #DontTellMeHowToDress และ #TellMenToRespect ซึ่งถูกแชร์บนอินสตาแกรมของบุคคลมีชื่อเสียงมากมายที่ออกมาร่วมสนับสนุนแนวคิดดังกล่าวแต่หลังจากจบช่วงสงกรานต์ไปแล้ว ประเด็นของสิทธิสตรีที่เราควรพูดถึง และถูกจุดประเด็นขึ้นมาอย่างร้อนแรงอาจจะเงียบหายไป นั่นทำให้ ซินดี้ สิรินยา เลือกที่จะเดินหน้าประชาสัมพันธ์เรื่องสิทธิสตรี สิทธิการแต่งกายของผู้หญิง ความเท่าเทียมทางเพศ ไปจนถึงการรับมือคดีล่วงละเมิดทางเพศ โดยร่วมมือกับมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้จริงในสังคมไทยชมวิดีโอต้นฉบับได้ที่:www.facebook.com/CindySirinyaBishop/videos/1971579239826655ซินดี้ ได้เล่าถึงที่มาและเหตุผลว่าทำไมเธอจึงสนับสนุนประเด็นดังกล่าวอย่างเต็มตัว ซึ่งภายหลังก็ได้รับแรงสนับสนุนจากมูลนิธิหญิงชายก้าวไกลอีกด้วยจุดเริ่มต้นมาจากคลิปที่ได้รับการตอบรับ รวมถึงการแชร์ที่ค่อนข้างกว้างไกล มันสะท้อนว่าผู้หญิงหลายๆ คนรู้สึกเหมือนกัน ที่ไม่ใช่แค่ตัวซินดี้เอง ว่าเออ ทำไมเราไม่มาพูดเรื่องปัญหาการคุกคามทางเพศกันจริงๆ เสียทีว่าเกิดมาจากอะไร และมีวิธีอื่นอีกไหมที่จะลดปัญหาตรงนี้ได้ โดยที่ไม่เกี่ยวกับการแต่งกายของผู้หญิง ซินดี้ก็เลยตัดสินใจใช้โอกาสที่คนพูดถึงเรื่องนี้ ตั้งแฮชแท็กที่ว่า #DontTellMeHowToDress #TellMenToRespect ขึ้นมา กลายเป็นข่าวทั่วโลกเลย ซึ่งพอหลังจากช่วงนั้นเสร็จแล้ว หมดช่วงสงกรานต์แล้ว ซินดี้ก็ไม่อยากให้มันหายไปจากการพูดถึง เพราะมันเป็นเรื่องที่เราต้องพูดกันอีกนาน และมันก็เป็นโอกาสที่ดีที่มีคนมาร่วมมือกัน ถ้าผู้หญิงเราลุกขึ้นมากล้าพูดเรื่องนี้มากขึ้น อาจจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่ดี ทำให้สังคมเราน่าอยู่มากขึ้น และปลอดภัยมากขึ้นสำหรับผู้หญิง หลังจากเป็นข่าว ทาง มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ก็เชิญให้ไปเสวนาเรื่องนี้ เพราะทางมูลนิธิเองก็รณรงค์เรื่องนี้อยู่แล้ว แค่อาจจะไม่ค่อยมีสื่อรู้จักมากนัก พอได้พูดคุยกันแล้ว มุมมอง นโยบาย อะไรทั้งหมดของเขาดี เขาทำจริงจัง ทำอย่างใกล้ชิดกับผู้ที่ได้มีผลกระทบตรงนี้มากๆ ซินดี้จะสานต่อประเด็นดังกล่าวผ่านการจัด Dont tell me how to dress นิทรรศการพลังสังคมหยุดคุกคามทางเพศ ร่วมกับทางมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล และเปิดโอกาสให้ประชาชนที่สนใจเข้าชมงานได้ฟรี ซึ่งภายในนิทรรศการจะมีการจัดแสดงเสื้อผ้าที่สวมใส่โดยผู้หญิงที่โดนลวนลาม เพื่อแสดงให้เห็นว่าการแต่งตัวของผู้หญิงไม่ใช่ทางแก้ปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศเลยวันที่ซินดี้ไปเสวนา ก็เห็นว่าทางมูลนิธิเขาเอาเสื้อผ้าของผู้หญิงที่โดนลวนลามมาจัดแสดงด้วย ซึ่งเขาได้แรงบันดาลใจมากจากนิทรรศการ What were you wearing? จัดที่ University of Kansas สหรัฐอเมริกาปีที่แล้ว ขนาดเขาแค่เอาเสื้อผ้าเหล่านี้มาแขวนในห้องประชุม มันยังทรงพลังมากๆ แค่มองก็ขนลุกแล้ว เพราะสุดท้ายแล้ว เสื้อผ้ากับกรณีผู้หญิงโดนคุกคามทางเพศมันไม่เกี่ยวกันเลย ซินดี้คิดว่าถ้าเราจัดนิทรรศการให้คนในสังคมได้เห็นชุดพวกนี้ ก็อาจจะเปลี่ยนความคิดได้ไม่มากก็น้อย แล้วเราค่อยมาร่วมกันหาทางออกของปัญหานี้ หรืออย่างน้อยๆ มันก็ช่วยแก้ไขมายาคติที่เกี่ยวกับกรณีลวนลามหรือคดีข่มขืน ซินดี้เลยติดต่อไปทางมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ให้เขาช่วยมาเป็นที่ปรึกษาให้ เพราะซินดี้ไม่เคยเคลื่อนไหวเรื่องนี้มาก่อน แต่เมื่อได้เข้ามาทำแล้วก็อยากจะพูดสิ่งที่ถูกต้องจริงๆ วิธีพูดที่ถูกต้องจริงๆ โดยทำงานร่วมกับองค์กรที่เขาทำหน้าที่ตรงนี้อยู่แล้ว เพื่อให้เสียงของพวกเราดังยิ่งขึ้นPhoto: huffingtonpost.comPhoto: huffingtonpost.comนี่คือภาพส่วนหนึ่งจากนิทรรศการ What were you wearing? รวบรวมเสื้อผ้าของเหยื่อล่วงละเมิดทางเพศ 18 เรื่องมาจัดแสดงใน University of Kansas โดย Jen Brockman และ Dr. Mary A. Wyandt-Hiebertสำหรับ Dont tell me how to dress นิทรรศการพลังสังคมหยุดคุกคามทางเพศ ที่ซินดี้กำลังจัดขึ้นในประเทศไทย จะเป็นการจัดแสดงเสื้อผ้าของเหยื่อที่ถูกลวนลามเป็นนิทรรศการหลัก และยังมีผลงานภาพถ่ายของช่างภาพแถวหน้าอย่าง ณัฐ ประกอบสันติสุข โดยเป็นภาพถ่ายเซเลบริตี้ในวงการบันเทิงกว่า 15 คน อาทิ ปอย ตรีชฎา ลูกเกด เมทินี นก สินจัย ใหม่ ดาวิกา งานนิทรรศการจะจัดขึ้นที่ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน ถึง 1 กรกฎาคมที่จะถึงนี้แน่นอนว่าประเด็น #MeToo กำลังโด่งดังไปทั่วโลก และทรงอิทธิพลจนทำให้หลายประเทศมีความกระตือรือร้นต่อประเด็นดังกล่าวมากขึ้น อย่างเช่นที่ประเทศเกาหลีใต้เพิ่งออกมาเพิ่มมาตรการลงโทษคดีล่วงละเมิดทางเพศ หลังจากที่มีผู้หญิงออกมาฟ้องร้องเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศในที่ทำงานมากขึ้น รวมถึงข่าวการลาออกของ จุนอิจิ ฟุคะดะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังประเทศญี่ปุ่น เพื่อรับผิดชอบต่อการโดนข้อกล่าวหาล่วงละเมิดทางเพศ แต่สำหรับประเทศไทยแล้ว การรับผิดชอบต่อคดีดังกล่าวอาจยังไม่ถูกพูดถึงมากนัก ซินดี้ได้ให้ความเห็นในประเด็นนี้ว่ากฎหมายบ้านเรายังไม่มีไปถึงขนาดนั้น เพราะฉะนั้นเราต้องเริ่มต้นจากการลุกขึ้นมาต่อต้าน หรือลุกมาขอร้องให้มีกฎหมายตรงนี้เสียก่อน แต่เอาจริงๆ แค่กฎหมายที่มันมีอยู่ตอนนี้ ขอให้ได้ใช้จริงก่อน ซินดี้รู้มาว่า จากสถิติการข่มขืน 4000 กว่ารายปีที่แล้ว มีน้อยกว่า 100 รายที่มีการดำเนินคดี มันน่ากลัวมาก เพราะพอผู้หญิงไปแจ้งความก็จะเจอเจ้าหน้าที่ผู้ชาย ต้องเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหลายๆ รอบจนท้อใจ รู้สึกว่าตัวเองถูกข่มขืนซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากการเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันหดหู่นะ ซึ่งเรื่องนี้เป็นปัญหามานานแล้ว เป็นเรื่องสำคัญมาก แต่ยังไม่ค่อยเป็นที่พูดถึง เพราะฉะนั้นมันก็ควรได้รับการแก้ไขไปจนถึงระบบและเจ้าหน้าที่ภาครัฐ ส่วนอีกประเด็นที่สำคัญคือการเปลี่ยนทัศนคติของสังคมโดยรวมที่ยังมีความคิดว่าผู้ชายเป็นใหญ่ในประเทศไทย กฎหมายหรือหน่วยงานที่ดูแลกรณีการล่วงละเมิดทางเพศยังมีน้อยเกินไป ทั้งยังไม่ได้รับการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบอย่างแพร่หลาย ทำให้ผู้ตกเป็นเหยื่อไม่สามารถหาที่ปรึกษาหรือช่วยเหลือได้ จึงไม่น่าแปลกใจที่ผู้ถูกล่วงละเมิดทางเพศส่วนใหญ่ในประเทศไทยจะไม่มีการแจ้งความดำเนินคดีแต่อย่างใดซินดี้ได้แนะนำว่า หากพบเหยื่อหรือตกเป็นเหยื่อในการล่วงละเมิดทางเพศ ข่มขืน หรือปัญหาอื่นที่เกี่ยวข้อง สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้จากอย่างไรก็ตามซินดี้ยังให้ข้อมูลว่า เร็วๆ นี้อาจมีการรวมตัวกันของหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดตั้งแคมเปญ Safe City Bangkok กรุงเทพฯ เมืองปลอดภัยสำหรับผู้หญิง ซึ่งจะเริ่มดำเนินงานภายในกรุงเทพฯ เป็นที่แรก ก่อนที่จะขยายไปยังจังหวัดอื่นๆ ของประเทศ มีคนรณรงค์เรื่องสิทธิสตรีเยอะมากนะ แต่ทำกันแบบเงียบๆ ไม่ได้หวือหวา ไม่ได้มีแสงแฟลชนู่นนี่นั่น แต่พอซินดี้มาอยู่ตรงนี้ คือเราสามารถเรียกสื่อ เรียกความสนใจได้บ้าง เมื่อมาเจอกัน ร่วมมือกันก็เป็นเรื่องที่ดี ทำให้เราเดินหน้าต่อไปได้อย่างมีความหวัง จากจุดเริ่มต้นที่เราของขึ้น ออกไปพูดในประเด็นที่เราต้องพูด จนถึงตอนนี้เราได้ลงมาทำจริงแล้ว ในปีนี้มีหลายอย่างที่จะทำ ทั้งการเวิร์กช็อป หนังสือ สอนเด็กๆ ว่าอะไรคือการถูกเนื้อต้องตัวที่ถูกต้องซินดี้ ได้ทิ้งท้ายประเด็นการถูกเรียกว่าเป็น เฟมินิสต์ ในยุคนี้เอาไว้ว่าซินดี้ไม่ชอบการใช้คำนี้มาอธิบายทุกสิ่งอย่างที่เราเป็น เพราะ เฟมินิสต์ หมายความถึงการเป็นคนคนหนึ่ง ผู้หญิงคนหนึ่งที่เห็นพลังของผู้หญิงคนอื่น และก็เห็นคุณค่าของความเป็นผู้หญิง ซึ่งเป็นคุณค่าที่ควรได้รับเกียรติ สุดท้ายแล้วเรามีความรู้สึกว่าผู้หญิงไม่ได้เหนือกว่าผู้ชาย เราเท่าเทียมกัน และควรได้รับเกียรติเหมือนกัน อ้างอิง: ข้อ 1. การล่วงละเมิดทางเพศทางคำพูด ได้แก่ ข้อ 2. การล่วงละเมิดทางเพศทางการกระทำที่ไม่ถูกเนื้อต้องตัว ได้แก่ ข้อ 3. การล่วงละเมิดทางเพศที่เป็นการกระทำชัดแจ้ง ได้แก่ | ถ้าผู้หญิงเราลุกขึ้นมากล้าพูดเรื่องนี้มากขึ้น อาจจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่ดี ทำให้สังคมเราน่าอยู่มากขึ้น และปลอดภัยมากขึ้นสำหรับผู้หญิงภายในนิทรรศการ Dont tell me how to dress จะมีการจัดแสดงเสื้อผ้าที่สวมใส่โดยผู้หญิงที่โดนลวนลาม เพื่อแสดงให้เห็นว่าการแต่งตัวของผู้หญิงไม่ใช่ทางแก้ปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศเลยเฟมินิสต์ หมายความถึงการเป็นคนคนหนึ่ง ผู้หญิงคนหนึ่งที่เห็นพลังของผู้หญิงคนอื่น และก็เห็นคุณค่าของความเป็นผู้หญิง ซึ่งเป็นคุณค่าที่ควรได้รับเกียรติ | null | null | https://thestandard.co/cindy-sirinya-dont-tell-me-how-to-dress/ |
ก่อนถึงวันจากลา ชวนรู้ 10 เรื่องยิ่งใหญ่ พ่อหลวง ร.9 คิงออฟคิงส์ | ก่อนจะถึงวันจากลาตลอดกาล ,ไทยรัฐออนไลน์, สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ขอน้อมนำพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจอันสำคัญของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาเตือนใจชาวเราให้ได้ซาบซึ้งกันอีกครั้ง,1. วันที่ยิ่งใหญ่ 5 ธันวาคม,พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชสมภพที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2470 โรงพยาบาลเมาต์ออเบิร์น เมืองเคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระเจ้าพี่ยาเธอ เจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช กรมขุนสงขลานครินทร์ (ภายหลังคือสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก) กับหม่อมสังวาลย์ ตะละภัฏ (ภายหลังดำรงพระยศเป็นสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี),2. ราชสกุลยิ่งใหญ่ มหิดล,พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระราชสมภพในราชสกุล มหิดล อันเป็นสายหนึ่งในราชวงศ์จักรี เป็นพระราชนัดดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า,3. ครองราชสมบัติ เมื่อปี 2489,พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 ทรงเป็นพระมหากษัตริย์องค์ที่ 9 แห่งพระบรมราชวงศ์จักรีทั้งที่ยังทรงพระเยาว์ พระชนมายุของพระองค์ยังไม่เต็ม 19 พรรษา,4. ไม่ทรงรู้พระองค์มาก่อน,พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ไม่ทรงรู้พระองค์มาก่อนว่าจะได้เป็นพระเจ้าแผ่นดินไทย สืบแทนสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล ซึ่งเสด็จสวรรคตโดยกะทันหัน และขณะนั้นพระบาทสมเด็จพระปรมินทรฯ กำลังทรงศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยโลซาน ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์,5. การตัดสินพระทัยครั้งสำคัญ,ณ ห้วงเวลาที่โศกเศร้าที่สุดที่ต้องสูญเสียพระเชษฐา แต่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ก็ต้องตัดสินพระทัยอย่างเด็ดเดี่ยว ขึ้นเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 9 แห่งแผ่นดินไทย,ไม่เพียงแต่จะทำให้ประเทศไทยและคนไทยคลายความโศกเศร้า ที่ต้องเสียพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลไปเท่านั้น แต่ยังทำให้ประเทศไทยและคนไทยได้พระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่ ผู้ทรงมีพระราชปณิธานอันแน่วแน่ที่จะอุทิศทั้งพระวรกายและพระหฤทัย เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนชาวไทย,6. ทรงครองแผ่นดินโดยธรรม,เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม เป็นวลีทองที่ยังคล้องใจของปวงชนชาวไทยทั้งประเทศได้ตราบจนถึงทุกวันนี้,โดยวลีนี้ก่อเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 9 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ทรงเปล่งเสียงพระปฐมบรมราชโองการว่า เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม หลังจากนั้น มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ สถาปนาสมเด็จราชินีสิริกิติ์ ขึ้นเป็น สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี,7. ทรงเปลี่ยนหลักสูตรที่ทรงศึกษา,ทันทีที่ทรงตอบรับราชสมบัติสืบแทนพระเชษฐา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ก็ทรงเปลี่ยนหลักสูตรการศึกษาของพระองค์ จากเดิมที่เคยทรงศึกษาวิชาวิทยาศาสตร์ ไปเป็นวิชาสังคมศาสตร์ รัฐศาสตร์ และนิติศาสตร์ โดยทรงเห็นว่าเป็นวิชาที่สำคัญและจำเป็นต่อการดำรงในฐานะประมุขของประเทศ,8. ในหลวงไม่ทิ้งประชาชน,เดิมที พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงตั้งพระราชหฤทัยไว้ว่า จะทรงครองราชสมบัติเพียงชั่วระยะเวลาจัดงานพระบรมศพพระบรมเชษฐาให้สมพระเกียรติเท่านั้น แต่ความจงรักภักดีของเหล่าอาณาประชาราษฎร์ที่มีต่อพระองค์อย่างแน่นแฟ้น ยังผลให้ตัดสินพระราชหฤทัยรับราชสมบัติสืบมายาวนาน ,มีเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นในวันเสด็จพระราชดำเนินกลับประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อกลางเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2489 เพื่อทรงศึกษาวิชาการเพิ่มเติม ระหว่างประทับรถพระที่นั่งไปสู่สนามบินดอนเมือง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ยินเสียงราษฎรคนหนึ่งตะโกนลั่นว่า ในหลวง อย่าทิ้งประชาชน ทำให้ทรงนึกตอบบุคคลผู้นั้นในพระราชหฤทัยว่า ถ้าประชาชนไม่ทิ้งข้าพเจ้าแล้ว ข้าพเจ้าจะทิ้งประชาชนอย่างไรได้,9. พระราชกรณียกิจอันยิ่งใหญ่,ตลอดระยะเวลาที่ทรงครองราชย์ พระราชกรณียกิจทั้งปวงที่ทรงปฏิบัติมานั้น เป็นเครื่องพิสูจน์อย่างชัดแจ้งว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงใช้เวลาคิดถึงแต่การที่จะบำบัดทุกข์และบำรุงสุขให้แก่ประชาชน เนื่องจากคนไทยส่วนใหญ่ยึดอาชีพเกษตรกรทำมาหากิน อาศัยดินและน้ำเป็นปัจจัยสำคัญในการประกอบอาชีพ ด้วยเหตุนี้พ่อหลวง ร.9 จึงทรงสนพระราชหฤทัยเป็นพิเศษในเรื่องดินและน้ำ ยังทรงคิดค้นหาวิธีที่จะใช้ประโยชน์จากพื้นดินและแหล่งน้ำในประเทศไทยอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเสด็จพระราชดำเนินไปสารทิศใดก็ตาม ทรงศึกษาทั้งสองเรื่องอย่างละเอียดลึกซึ้ง,10. ทรงครององค์ในทศพิธราชธรรม,ทศพิธราชธรรม หรือ ราชธรรม 10 เป็นธรรมสำหรับพระเจ้าแผ่นดิน หรือคุณสมบัติของนักปกครองที่ดี สามารถปกครองแผ่นดินโดยธรรมและยังประโยชน์สุขให้เกิดแก่ประชาชน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงมีครบถ้วนสมบูรณ์ มีด้วยกัน 10 ประการ คือ,1.ทาน การให้ทรัพย์สินสิ่งของ,2.ศีล ความประพฤติดีงาม,3.ปริจจาคะ ความเสียสละ,4.อาชชวะ ความซื่อตรง,5.มัททวะ ความอ่อนโยน,6.ตปะ ความทรงเดชเผากิเลสตัณหา ไม่หมกมุ่นในความสุขสำราญ,7.อักโกธะ ความไม่กริ้วโกรธ,8.อวิหิงสา ความไม่ข่มเหงเบียดเบียน,9.ขันติ ความอดทนเข้มแข็ง ไม่ท้อถอย,10.อวิโรธนะ ความไม่คลาดธรรม,
ที่มา : หนังสือ พระเจ้าอยู่หัว กระทรวงศึกษาธิการ | ล่วงเข้าสู่เดือนที่โศกเศร้าที่สุดของปี 2560 เนื่องจากวันที่ 26 ตุลาคมนี้ กำลังจะมีงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พ่อหลวง ร.9 ของปวงชนชาวไทย | ไลฟ์สไตล์,ไลฟ์ | ในหลวง ร.9,พระราชประวัติ,พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ,ในหลวงรัชกาลที่ 9,พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช | https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/1085540 |
เรืองวิทย์ เกษสุวรรณ: สูตรเตี๋ยว กกต. | จากข่าวเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2562 กกต. ได้ประกาศรับรอง ส.ส.บัญชีรายชื่อไปเรียบร้อยแล้ว ปรากฏว่ามีพรรคที่ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 26 พรรค ตามที่คอการเมืองคาดไว้ไม่ผิดแต่ในคราวนี้ (อ้างจาก เดลินิวส์ออนไลน์ วันที่ 8 พฤษภาคม 2562 ) กกต. ชี้แจงวิธีคำนวณเอาไว้ด้วย ผู้เขียนขอแบ่งวิธีคำนวณตามคำชี้แจงของ กกต. เป็นข้อๆ ดังนี้จากผลคะแนนที่พรรคการเมืองส่งผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ 349 เขต รวม 74 พรรคการเมือง เป็นคะแนนทั้งสิ้น 35441920 คะแนน ซึ่งเมื่อกกต.ประกาศ ส.ส.เขต 349 เขต จึงต้องเอาจำนวน ส.ส.เขตเต็ม 350 มาคำนวณ จะได้ค่าเฉลี่ย 0.9971 จากนั้นนำจำนวนดังกล่าวมาคูณด้วย ส.ส.ทั้งสภา ได้จำนวน ส.ส.ที่จะประกาศผลทั้งหมด 498.5714 คน ซึ่งกฎหมายกำหนดให้ถือเอาเฉพาะจำนวนเต็ม จึงเหลือ 498 คน เมื่อหัก ส.ส.เขต 349 คน จึงเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ 149 คน จากนั้นนำคะแนนรวมที่ 74 พรรค ได้รับ คือ 35441920 คะแนน มาหารด้วย 498 ที่นั่ง ก็จะได้ค่าเฉลี่ยต่อ ส.ส. 1 คน คือ 71168.5141 คะแนน หลังจากนั้น นำจำนวนดังกล่าวมาหารคะแนนรวมของแต่ละพรรค ก็จะได้จำนวน ส.ส.พึงมีเบื้องต้น จากนั้นนำจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อที่จะได้ในเบื้องต้น เมื่อรวมแล้ว พบว่า จำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อที่จะได้ในเบื้องต้นเกิน คือ ได้ 174.2629 คน ซึ่งถือว่าเกินจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อที่จะจัดสรรแค่ 149 คน ทั้งนี้ เป็นผลมาจากพรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.เขตเกินกว่าจำนวน ส.ส.ที่พึงมีได้ ดังนั้น จึงต้องนำมาปรับและใช้การคำนวณใหม่ โดยนำจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อแต่ละพรรคได้ในเบื้องต้นมาคูณด้วย 149 และหารด้วย 174.2629 ก็จะได้จำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อที่ปรับให้เหลือ 149 คน ซึ่งจะต้องจัดสรรที่นั่งให้กับพรรคตามจำนวนเต็มก่อน ส่งผลให้การจัดสรรรอบแรกมีพรรคการเมืองได้รับการจัดสรร ส.ส.บัญชีรายชื่อ 15 พรรค เมื่อรวมแล้วจะจัดสรร ส.ส.บัญชีรายชื่อได้เพียง 129 ที่นั่ง ยังขาดอีก 20 ที่นั่ง จึงต้องนำเศษทศนิยมมาจัดสรรให้พรรคการเมืองโดยเรียงตามทศนิยมจากมากไปหาน้อยจนได้ครบ 20 ที่นั่ง ซึ่งจะมีผลให้พรรคอนาคตใหม่ ภูมิใจไทย เสรีรวมไทย เศรษฐกิจใหม่ และประชาชาติ ซึ่งได้รับการจัดสรรในรอบแรกไปแล้ว ได้รับการจัดสรรเพิ่มอีกพรรคละ 1 ที่นั่ง และมีพรรคการเมืองที่คะแนนต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ส.ส. 1 คน ได้รับการจัดสรร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคละ 1 คน อีก 11 พรรค การคำนวณในข้อ 1 ของ กกต. เป็นกรณีการคำนวณตามมาตรา 129 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ. 2561 คือ ประกาศยังไม่ครบทุกเขต แต่มีจำนวนถึง 95% แล้ว ตามมาตรานี้ ให้เอา ส.ส.เขตที่จะประกาศผล (349 คน) หารด้วย 350 ผลที่ได้ คือ 0.9971 ตามมาตรา 129(1)จากนั้นมาตรา 129(2) ให้เอา 0.9971 ไปคูณ 500 ได้ 498.5714 และท้ายมาตรานี้ ให้ถือเอาเฉพาะจำนวนเต็ม ที่นั่ง ส.ส. รวม เมื่อตัดทศนิยมออกแล้วจึงเหลือ 498 คนวิธีการคำนวณของกกต.ในข้อ 1 นับว่าถูกแล้ว การคำนวณในข้อ 2 ของ กกต. ที่ นำ ส.ส.ทั้งหมด 498 ที่นั่ง ตั้ง ลบด้วย 349 ( ส.ส.เขตที่ประกาศผล) ผลที่ได้ คือ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 149 คน ตามมาตรา 129(3)ต่อจากนั้น นำไปจัดสรรให้พรรคตามมาตรา 128 ซึ่งในทางทฤษฎีการเลือกตั้ง เรียกว่า Hares Quota อันเป็นทฤษฎีหลักที่ไทยนำมาใช้อยู่ในขณะนี้โดยใช้สูตร (1)Total valid votes (คะแนนเสียงทั้งหมด แต่ไม่นับบัตรเสีย) / Total seats (ที่นั่งทั้งหมด)ผลของการคำนวณ คือ35441920 / 498= 71168.514171168.5141 คะแนน จึงเป็นโควตาที่นั่ง ส.ส. 1 ที่นั่งการคำนวณในข้อ 2 ของ กกต. นี้เป็นไปตามมาตรา 128(2) ประกอบมาตรา 129 วรรคสอง ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ. 2561 ซึ่งนับว่าถูกต้องแล้วในการคำนวณข้อ 3 ของ กกต. นำเอา 71168.5114 ไปหารคะแนนของแต่ละพรรค ผลที่ได้ คือ จำนวน ส.ส.รวมของพรรคนั้น หลังจากนั้นเอาจำนวน ส.ส.รวมตั้ง เสร็จแล้วลบด้วย ส.ส.เขตที่ได้แล้ว โดยสูตร (2) คือส.ส.รวมของพรรค ก. – ส.ส.เขตของพรรค ก. = ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค ก.ทั้งนี้ ตามมาตรา 128(3) ประกอบมาตรา 129 วรรคสองตรงนี้แหละครับที่เกิดข้อกังขา เพราะ กกต.คำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค ก. ข. ค. ง. จนถึงพรรค iผลปรากฏว่า กกต.คำนวณได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อทั้งหมด 174.2629 คน เนื่องจากมี surplus seats (ที่นั่ง ส.ส.เขตเกินจำนวน ส.ส.รวมของพรรคเพื่อไทย)เหตุผล คือ surplus seats ทำให้พรรคเพื่อไทยไม่ได้ที่นั่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และคะแนนเสียงของพรรคเพื่อไทยถูกนำไปคิดเป็น total valid votes ด้วย แต่ก็ถูกล็อคไว้ด้วยที่นั่ง 498 ที่นั่ง ผลออกมาจึงปรากฏว่าคะแนนต่อที่นั่งสูงถึง 71168.5141 คะแนนเมื่อเอาคะแนนนี้ไปหารคะแนนเสียงพรรค ที่นั่งรวมของแต่ละพรรคเมื่อรวมกันแล้วก็ต้องได้ 498 ที่นั่งและเมื่อที่นั่งรวมมี 498 ที่นั่ง เอา ส.ส.เขต 394 ที่นั่ง ไปหักออกก็ต้องได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 149 ที่นั่งหรือน้อยกว่านั้น(equal to or lesser than) ไม่น่าจะเกินไปมากมายขนาดนั้นแต่ กกต.คำนวณได้ ส.ส.เขต 394 + ส.ส.บัญชีรายชื่อ 174.2629 = 568.2629 (เกินจำนวน ส.ส.รวม 498 ที่นั่ง)สรุปว่า การเอาคะแนนเสียงพรรคเพื่อไทยไปเป็นตัวตั้งและหารด้วยจำนวน ส.ส.รวมนั้น น่าจะยิ่งทำให้ค่าคะแนนเสียงต่อ 1 ที่นั่งสูงตามไปด้วย เพราะ total valid votes เป็นตัวตั้ง ไม่ใช่ตัวหารคะแนน ส.ส.บัญชีรายชื่อจะได้ 174.2629 ไม่ได้ เพราะการคิดคะแนน ส.ส.บัญชีรายชื่อจะไม่นำเอาทศนิยมมาคิด จำนวนรวมของ ส.ส.บัญชีรายชื่อจึงต้องเท่ากับหรือน้อยกว่าจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อรวม ในการคำนวณข้อ 4 ของ กกต. ที่นำ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 174.2629 มาปรับลดให้เหลือ 149 ที่นั่ง โดยใช้วิธีคิดบัญญัติไตรยางศ์ แต่พอปรับแล้ว กลับปรากฏว่ายังขาดอีก 20 ที่นั่ง จึงนำเศษทศนิยมมาปัดเพิ่ม เป็นผลให้พรรคที่มี ส.ส.เขตในรอบแรกได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อเพิ่มพรรคละ 1 ที่นั่งจำนวน 5 พรรค และมีพรรคเล็กที่ได้คะแนนต่ำกว่าโควตา 71168.5114 ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อเพิ่มพรรคละ 1 ที่นั่งจำนวน 11 พรรค รวมแล้วมีพรรคที่ได้รับการปัดเศษทศนิยม 16 พรรค การคิดบัญญัติไตรยางศ์จาก 174.2629 ปรับลดให้เหลือ 149 นั้น เป็นการคิดคำนวณย่อสัดส่วนลงตามขนาด (proportion to size) ไม่น่าจะขาดไปถึง 20 ที่นั่ง แม้ว่าจะตัดทศนิยมออกก่อนในรอบแรกก็ตามการปัดเศษทศนิยมให้พรรคเล็ก ผู้เขียนเคยอธิบายหลายรอบแล้วว่า ระบบการคำนวณแบบ Hares quota นั้นจะต้องได้คะแนนเสียงอย่างต่ำตามโควตา ซึ่ง กกต.คิดเองแล้ว เท่ากับค่าเฉลี่ยต่อ ส.ส. 1 คน คือ 71168.5141 คะแนนที่ถูกนั้น กกต.ต้องปัดเศษให้กับพรรคที่ผ่านเกณฑ์โควตาเท่านั้น โดยวิธี คือ(1) ปัดเศษทศนิยมให้กับพรรคที่มีทศนิยมมากที่สุดก่อน ไล่ลงมาเรื่อยๆ จนครบ และโดยเงื่อนไขว่า เฉพาะพรรคที่ผ่านโควตา(2) แต่ถ้าไม่ครบ เนื่องจากกรณีที่ปัดทศนิยมแล้ว เกินหรือขาดจำนวนก็ย่อส่วนลงมาโดยใช้วิธีเทียบบัญญัติไตรยางศ์ โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 128(6) และ (7)(3) ข้อที่น่าสังเกตมาก คือ ทำไมพรรคที่ผ่านเกณฑ์โควตามีเพียง 5 พรรค พรรคที่เหลือ เช่น พรรคพลังประชารัฐ พรรคอนาคตใหม่ หรือพรรคอื่นๆ คิดคำนวณแล้วได้เลขจำนวนเต็ม โดยไม่มีเศษทศนิยมหรืออย่างไร หรือว่ามีเศษทศนิยมเหลืออยู่ แต่มีจำนวนต่ำกว่าพรรคที่ได้คะแนนไม่ถึงโควตา แล้ว กกต.ไปจัดลำดับ (ranking) ทศนิยมพรรคที่ได้คะแนนไม่ถึงโควตาอยู่เหนือทศนิยมของพรรคที่ผ่านโควตา ซึ่งน่าสงสัยมากว่า กกต.ทำด้วยเหตุผลอะไร และใช้อำนาจอะไร???ตรงนี้แหละที่พรรคที่ผ่านเกณฑ์โควตาเขาเสียสิทธิไป ซึ่งแน่นอนว่า เขาคงใช้สิทธิโต้แย้งแน่ศาสตราจารย์ ดร.เรืองวิทย์ เกษสุวรรณ เป็นผู้อำนวยการโครงการจัดตั้งและคณะบดีวิทยาลัยรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี รวมถึงยังเป็นอดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎชัยภูมิ | จากข่าวเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2562 กกต. ได้ประกาศรับรอง ส.ส.บัญชีรายชื่อไปเรียบร้อยแล้ว ปรากฏว่ามีพรรคที่ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 26 พรรค ตามที่คอการเมืองคาดไว้ไม่ผิดแต่ในคราวนี้ (อ้างจาก เดลินิวส์ออนไลน์ | การเมือง | เรืองวิทย์ เกษสุวรรณ,เลือกตั้ง 62 | https://prachatai.com/journal/2019/05/82448 |
หนุ่มพม่าปั่นจักรยานบนถนน ถูกนายก อบต.ซิ่งปาเจโร่พุ่งชน คาที่ | เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 17 ม.ค.62 ร.ต.ท.ปิยาอร คำหวาน รอง สว.(สอบสวน) สภ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถชนกัน มีผู้เสียชีวิต บริเวณจุดกลับรถ เลยแยกจรเข้สามพัน ถนน 324 กาญจนบุรี-อู่ทอง หมู่ 4 ต.จรเข้สามพัน จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมหน่วยกู้ภัยจักรนารายณ์ ,ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยาน สีชมพูสภาพพังยับเยิน ห่างไปประมาณ 30 เมตร พบศพ ทราบชื่อต่อมา นาย KO KO CHIT อายุ 31 ปี สัญชาติเมียนม่าร์ ทำงานในโรงงานรับซื้อขี้ไก่ ในละแวกที่เกิดเหตุ สภาพแขน-ขาหัก ห่างออกไปเล็กน้อยพบรถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สีขาว หมายเลขทะเบียน กน-6147 พระนครศรีอยุธยา สภาพหน้ารถพังยับเยิน,สอบสวน นายอมร ขมิ้นสน อายุ 53 ปี คนขับรถ ให้การว่าตนเป็น นายก อบต.แห่งหนึ่งใน อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนเกิดเหตุเดินทางกลับจากมาร่วมงานบวชลูกชายของเพื่อนที่เป็นนายก อบต. ด้วยกัน ใน อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ จู่ๆ ก็ไม่ทราบว่ารถชนอะไร แล้วถุงลมนิรภัยแตกออกมา ตนได้แต่บังคับพวงมาลัยให้ตรงแล้วค่อยๆเบรกรถ จากนั้นลงมาดูจึงพบมาชนจักรยานปั่น จนมีผู้เสียชีวิตดังกล่าว และแจ้งตำรวจพร้อมรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะได้สอบสวนดำเนินการตามกฏหมายต่อไป. | นายก อบต.วัย 53 ปี ซิ่งปาเจโร่กลับจากงานบวช พุ่งชนหนุ่มพม่าขณะกำลังปั่นจักรยานบนท้องถนน เสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดที่บริเวณจุดกลับรถ เลยแยกจรเข้สามพัน จ.สุพรรณบุรี | ข่าว,ทั่วไทย | นายก อบต.,ชนจักรยาน,ปาเจโร่ชนจักรยาน,พุ่งชน,สุพรรณบุรี,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1472526 |
ยกหลักฐานทุจริตสู้คดีโฮปเวลล์ | ว่า ขณะนี้ทางคณะทำงานพิจารณาความเสียหายในโครงการโฮปเวลล์ที่มีนายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคม ได้สรุปรายละเอียดและรายงานว่า ได้พบหลักฐานใหม่อีก 8 ประเด็นที่จะสามารถฟ้องร้องต่อศาลอาญาในคดีทุจริต ซึ่งทางคณะทำงานจะเสนอกลับมายังตนภายในสัปดาห์นี้,ขณะเดียวกันที่จะมีการยื่นฟ้องต่อศาลอาญา ทางคณะทำงานก็จะยังคงเดินหน้าในการยื่นอุทธรณ์ ต่อศาลปกครองสูงสุด ก่อนวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ด้วย โดยเนื้อหาการยื่นอุทธรณ์ขอให้ศาลพิจารณาอีกครั้งนี้นั้น ทางคมนาคม และ รฟท. ตามหลักการจะไม่สามารถที่จะนำเสนอข้อมูลรายละเอียดใหม่ให้ศาลพิจารณาได้ เพราะการพิจารณาศาลจะดูจากรายละเอียดเดิม,นอกจากนั้นขณะเดียวกันทางคณะทำงานก็ต้องพิจารณาหาแนวทางการชดเชยความเสียหายจากการบอกเลิกสัญญาโฮปเวลล์ ตามที่ศาลมีคำสั่งให้กระทรวงคมนาคม และ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ชดใช้กว่า 11,888 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ยด้วย ว่าเงินที่จะนำมาชดใช้จะนำมาจากส่วนไหนบ้างอย่างไร ซึ่งทุกแนวทางทางกระทรวงคมนาคมจะทำควบคู่กันไปทั้งทุกแนวทางที่ทำ,ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงคมนาคมว่า การสู้คดีในหลักฐานการทุจริต ก่อนหน้านี้กระทรวงคมนาคมเคยหยิบยกประเด็นดังกล่าว และต่อสู้จนชนะคดีมาแล้ว คือกรณีบูรพาวิถี เกิดขึ้นจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ถูกฟ้อง จากบริษัทต่างชาติขอเรียกค่าเสียหายทั้งหมดประมาณ 8,000 ล้านบาท แต่เมื่อรวบรวมข้อมูลตรวจสอบคุณสมบัติของอนุญาโตตุลาการที่เป็นคณะของอัยการผู้ตรวจสอบสัญญา และคณะของเจ้าหน้าที่ กทพ.แล้วพบว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐหลายรายได้กระทำการเอื้อประโยชน์ให้แก่บริษัทต่างชาติ คณะทำงานจึงได้นำข้อมูลดังกล่าวเสนอต่อศาล ศาลจึงมีคำพิพากษายกฟ้องในกรณีบูรพาวิถีในที่สุด. | นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการในโครงการระบบการขนส่งทางรถไฟยกระดับในกรุงเทพมหานคร (โฮปเวลล์) | ข่าว,เศรษฐกิจ | ศักดิ์สยาม ชิดชอบ,โฮปเวลล์,การสู้คดี,การทุจริต,พิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน,ถูกฟ้อง,ศาลอาญา | https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/1667438 |
ศรัทธาล้น ชาวพุทธหลวงพระบาง ร่วมตักบาตร พระสงฆ์ 5 แผ่นดิน | เมื่อวันที่ 24 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าโครงการธรรมยาตรา 5 แผ่นดินลุ่มน้ำโขง ที่กำลังธรรมยาตราอยู่ในนครหลวงพระบาง เมืองมรดกโลกที่สำคัญของ สปป.ลาว ล่าสุด พระธรรมวรนายก ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา และพระอาจารย์อ่อนแก้ว กิตติภัทโท เจ้าคณะแขวงหลวงพระบาง และเจ้าอาวาสวัดเชียงทอง นำคณะสงฆ์คณะธรรมยาตราและคณะสงฆ์ของนครหลวงพระบางรวมแล้วเกือบ 500 รูปออกบิณฑบาต โดยเริ่มต้นที่วัดเชียงทอง ไปบนถนนหลวง ผ่านพระราชวัง ไปสิ้นสุดที่วัดทาดน้อย ด้วยระยะทางกว่า 4 กิโลเมตร ใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง,ขณะที่ฝ่ายฆราวาส นายสุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย, ดร.สมอก กิ่งสะดา รองประธานศูนย์กลางแนวลาวสร้างชาติ, นายสายสมร คมทะวง รองเลขาธิการพรรคแขวงหลวงพระบาง นำประชาชนชาวนครหลวงพระบาง แต่งกายด้วยชุดพื้นเมือง หอบลูกจูงหลาน พร้อมนักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินับพันคน ปักหลักใส่บาตรพระสงฆ์จาก 5 ประเทศ ที่ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของชาวนครหลวงพระบาง ทำให้ปรากฏภาพที่สุดงดงามจากประเพณีอันดีงามด้วยวิถีพุทธที่แท้จริงซึ่งมีมาแต่โบราณของชาวนครหลวงพระบาง,หลังจากนั้น คณะธรรมยาตราได้เคลื่อนขบวนอัญเชิญ เสาเสมาธรรมจักร ธงฉัพพรรณรังสี ธงธรรมยาตรา 5 แผ่นดินลุ่มน้ำโขง เดินนำคณะสงฆ์ อุบาสก อุบาสิกา จาก 5 ประเทศไปประกอบพิธีปลูกหน่อต้นพระศรีมหาโพธิ์ ที่บริเวณหอพระไตรปิฎกของวัดผาโอ เสร็จแล้วจึงนำคณะธรรมยาตราฯ เข้าสู่ศาลาประกอบศาสนพิธี,ทั้งนี้ นายสุภชัย วีระภุชงค์ และคณะธรรมยาตรา 5 แผ่นดิน ได้ร่วมถวายผ้าป่าเป็นปัจจัยกว่า 600,000 บาท เพื่อการศึกษาพระปริยัติธรรมของภิกษุสามเณรโรงเรียนวิจิตรศิลป์สงฆ์วัดผาโอ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวเขาจากชนเผ่าต่างๆ รวมทั้งยังถวายหนังสือธรรมยาตรา ครั้งที่ 1 ยาและเวชภัณฑ์ของบริษัทไทยนครพัฒนาจำกัด และบริษัทไทยเน็ท จำกัด ให้อีกด้วย | เป็นภาพที่ต้องบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ ธรรมยาตรา 5 แผ่นดินลุ่มน้ำโขง ชาวเมืองมรดกโลก นครหลวงพระบาง ปักหลักยาวกว่า 4 กม.รอตักบาตรพระสงฆ์ 5 แผ่นดินเกือบ 500 รูป ด้วยความศรัทธาในพระพุทธศาสนา | ข่าว,ทั่วไทย | ธรรมยาตรา,ธรรมยาตรา 5 แผ่นดิน,ธรรมยาตรา หลวงพระบาง,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1689598 |
ฟ้าใส ยิ้มทําฝันเป็นจริง คว้ามงกุฎ | เปิดใจหลังคว้าตำแหน่งมิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ 2019 มาครองเป็นผล สำเร็จ จากที่เคยได้รองอันดับ 2 เวทีนี้เมื่อสองปีก่อน ยํ้าเพราะมีเป้าหมายชัดเจนที่จะทำความฝันให้เป็นจริง โดยกลับไปพัฒนาตัวเองในหลายด้านที่เคยบกพร่องจนประสบความสำเร็จ พร้อมพกความมั่นใจเต็มเปี่ยม เป็นตัวแทนสาวไทยไปทำสิ่งที่ดีที่สุดบนเวทีระดับโลก เพื่อสร้างความภาคภูมิใจให้แก่คนไทย,หลังจากทราบผลการประกวดสาวงาม มิส ยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ 2019 ที่จัดประกวดอย่างอลังการที่ธันเดอร์ โดม เมืองทองธานี เมื่อดึกวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดย ฟ้าใส น.ส.ปวีณสุดา ดรูอิ้น สาวลูกครึ่งไทย-แคนาดา ผู้เข้าประกวดหมายเลข 19 สามารถเอาชนะใจคณะกรรมการ คว้ามงกุฎมาครองเป็นผลสำเร็จ ต่อมาเมื่อช่วงสายวันที่ 30 มิ.ย. มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ คนใหม่ ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนช่วงสั้นๆ ที่ชั้น 7 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ พร้อมกับ น.ส.แคทรีโอนา เกรย์ มิสยูนิเวิร์ส 2018,กล่าวถึงการเข้ามาประกวดในเวทีนี้อีกครั้ง ยอมรับว่าเคยไม่ประสบความสำเร็จมาก่อน แต่เพราะมีเป้าหมายที่ชัดเจนและมุมานะพยายาม การไม่ประสบความสำเร็จทำให้เรารู้ว่าเราต้องพิจารณาตัวเองว่ามีข้อบกพร่องในส่วนไหนบ้าง แล้วอย่ายอมแพ้ พัฒนาในจุดที่บกพร่องนั้น เพื่อที่จะกลับมาใหม่และนี่คือสิ่งที่ตนมาลงประกวดในปีนี้ และมาด้วยความพร้อมในหลายๆด้าน เช่น รู้ว่าจะต้องพัฒนาด้านการเดิน การพูดภาษาไทยให้มีความชัดเจนและเข้าใจภาษาไทยได้ดีมากขึ้น ก็พัฒนาในจุดต่างๆเหล่านั้น,ต่อข้อซักถามที่ว่าทำไมต้องเป็นเวทีมิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ ฟ้าใส ปวีณสุดา มิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ คนล่าสุด ตอบว่า ตัวเธอเองตั้งเป้าหมายและเวทีนี้ก็เป็นเวทีที่เป็นความใฝ่ฝันของตนมาโดยตลอด เป็นเวทีที่เป็นที่สุดที่ดึงความสามารถและศักยภาพของผู้หญิงในด้านต่างๆ ออกมาและเวทีนี้เป็นเวทีใหญ่ที่จะเป็นแพลตฟอร์มให้ตนสามารถทำความฝันต่างๆความคิดต่างๆให้เป็นจริงได้มากขึ้น,ส่วนประเด็นที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมสาวผู้ครองมงกุฎมิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ หมายถึงต้องเป็นตัวแทนสาวไทยไปประกวดมิสยูนิเวิร์ส ถึงมีเค้าโครงหน้าเป็นลูกครึ่งฝรั่งนั้น ฟ้าใสกล่าวว่า ใครจะคิดอย่างไรก็ได้ แต่ว่าตราบใดที่ฟ้าใสรู้ว่า ฟ้าใสเป็นคนไทย ฟ้าใสพูดภาษาไทย ฟ้าใสรู้ว่าฟ้าใสมีความเป็นไทยอยู่ที่หัวใจ หัวใจของฟ้าใสเป็นไทย ดังนั้นสิ่งใดที่ฟ้าใสได้ทำฟ้าใสก็รู้ว่าสามารถที่จะเป็นตัวแทนของประเทศไทยของคนไทย เพื่อไปทำสิ่งที่ดีที่สุดที่มีความภาคภูมิใจที่สุดบนเวทีระดับโลก เพื่อสร้างความภาคภูมิใจให้แก่คนไทยได้อย่างแน่นอน,ทั้งนี้ ฟ้าใส มีชื่อเต็มว่า เจนนิเฟอร์ ปวีณสุดา แซ่ตั่น ดรูอิ้น แต่เป็นที่รู้จักในชื่อ ปวีณสุดา ดรูอิ้น หรือปวีณสุดา แซ่ตั่น เกิดเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2536 ปัจจุบันอายุ 26 ปี ส่วนสูง 180 เซนติเมตร อาชีพก่อนหน้าการประกวดคือนางแบบ พิธีกร และดีเจ และยังมีความสามารถพิเศษในการเป็นล่าม การเล่านิทาน และการร้องเพลง ส่วนทางด้านการศึกษานั้น ฟ้าใส สำเร็จการศึกษา International Baccalaureate (IB) Certificate จาก St. Marys High School ประเทศแคนาดา และยังคว้าปริญญาตรี ด้วยเกรดเฉลี่ย 3.635 (เกียรตินิยมอันดับ 1) จากคณะวิทยาศาสตร์การเคลื่อนไหว (Kinesiology) ศาสตร์ด้านการเคลื่อนไหวของทั้งมนุษย์และสัตว์ ที่เกี่ยวกับความหลากหลายทางสรีรวิทยา การฟื้นฟู จิตวิทยาการกีฬา สรีรวิทยาไฟฟ้าของกิจกรรมกล้ามเนื้อและสมอง ที่ University of Calgary ประเทศแคนาดา,สำหรับการเข้าประกวดนางงามนั้น ฟ้าใส ปวีณสุดา เคยเข้าประกวดเวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ เมื่อปี 2017 ได้รับตำแหน่งรองอันดับ 2 ปีที่ มารีญา พูลเลิศลาภ คว้ามงกุฎไปครอง นอกจากนี้ ยังเคยมีตำแหน่งมิสไทยแลนด์ ไชนิส คอสมอส 2013 และรองอันดับ 1 นางสาวไทย 2013 หลังจากนั้นได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งมิสไทยแลนด์เอิร์ธปี 2017 เพื่อเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมประกวดมิสเอิร์ธ ปี 2017 การกลับมาคว้าตำแหน่ง มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2019 ในครั้งนี้ นอกจากจะได้สวมมงกุฎแห่งความเลอค่า ได้รับรางวัลเงินสด 1.5 ล้านบาท มีรถยนต์ประจำตำแหน่ง โฟล์กสวาเกน รุ่น The New Caravelle T6 มูลค่า 3.83 ล้านบาท คอนโดมิเนียม A Space I.D. อโศก-รัชดา มูลค่ากว่า 12 ล้านบาท และของรางวัลอีกมากมายแล้ว ฟ้าใส ยังคว้าตำแหน่ง Miss Popular Vote by Bangkok Airways, รางวัล Best Swimsuit by BSC Streamline และรางวัล Perfect Pose by SHU พร้อมเป็นตัวแทนประเทศไทยก้าวสู่เวที Miss Universe 2019 ที่เป็นการจัดประกวดครั้งที่ 68 ด้วย | ฟ้าใส-ปวีณสุดา เปิดใจหลังคว้าตำแหน่งมิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ 2019 มาครองเป็นผล สำเร็จ จากที่เคยได้รองอันดับ 2 เวทีนี้เมื่อสองปีก่อน ยํ้าเพราะมีเป้าหมายชัดเจนที่จะทำความฝันให้เป็นจริง | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | ฟ้าใส ปวีณสุดา,มิสยูนิเวิร์ส,ฝันที่เป็นจริง,การประกวด,ปวีณสุดา ดรูอิ้น,มารีญา พูลเลิศลาภ,ข่าวหน้า1 | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1603915 |
มาแล้ว Mica กำไลดิจิตอลพร้อมโชว์ตัวจริง ที่งานคอมมาร์ตฯ 2015 | อุปกรณ์เทคโนโลยีสวมใส่ได้ หรือ Wearable Technology อย่าง กำไลอัจฉริยะสุดเก๋ที่มีชื่อว่า มิก้า หรือ My Intelligent Communication Accessory: MICA ของอินเทล ที่จะทำให้สาวๆ ทั้งหลายอดใจไม่ไหว ด้วยการออกแบบรูปทรงที่สวยงาม และ มีความไฮเทค มีลักษณะการทำงานทั่วๆ ไปเหมือนกันกับบรรดาสมาร์ทวอตช์ โดยทางอินเทล เน้นย้ำว่าไม่ใช่ แค่สมาร์ทวอตช์ธรรมดาๆ แต่ที่โดดเด่นกว่า คือ รูปทรงและการออกแบบให้เหมือนกับเครื่องประดับ ที่สามารถสวมใส่ไปได้ทุกที่ MICA มาพร้อมกับความสามารถในการใส่ SIM Card เหมือนกับอุปกรณ์อย่าง Gear S ของซัมซุง ,แต่ที่ต่างคือ MICA ไม่สามารถโทรออกได้ด้วยตัวเองแต่รับสายเฉพาะสายที่เราอนุญาตให้ติดต่อผ่าน MICA หรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็นบุคคล VIP ที่เราให้เบอร์ MICA ของผู้ใช้งานไปนั่นเอง นอกจากรับสายแล้ว MICA ยังสามารถรับ-ส่ง SMS ได้ เพียงแต่ข้อความที่เราจะส่งออกไปนั้นจะเป็นข้อความที่เราเซ็ตผ่านคอมพิวเตอร์เอาไว้ก่อนแล้ว เพราะเจ้า MICA ไม่ได้มีแป้นพิมพ์ในตัว ,ส่วนการใช้งานด้านอื่นๆ ที่น่าสนใจก็ยังมีอีก เช่น การเช็ครายการแจ้งเตือนต่างๆ และการตอบรับหรือปฏิเสธ กิจกรรมต่างๆ ใน เฟซบุ๊ก และการเชื่อมต่อข้อมูลกับปฏิทินได้ด้วย ทั้งนี้ผู้ที่สนใจสามารถเจอตัวจริงของ มิก้าได้ที่งานคอมมาร์ต ซัมเมอร์ เซล 2015 ระหว่างวันที่ 19 – 22 มีนาคม 2558 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์. | ผู้ที่ชื่นของเทคโนโลยีชาวไทยเตรียมพบกับ Mica กำไลดิจิตอล อุปกรณ์สวมใส่ได้ สวยสุดหรูจากอินเทล ออกแบบให้เหมือนกับเครื่องประดับ แต่ใส่ซิมการ์ดได้เพื่อใช้รับสายเฉพาะสายวีไอพีที่เลือกไว้ ที่งานคอมมาร์ต ซัมเมอร์ เซล 2015 | null | มิก้า,MICA,อุปกรณ์สวมใส่ได้,นาฬิกาอัจฉริยะ,สมาร์ทวอตช์,อินเทล,คอมมาร์ต ซัมเมอร์ เซล,Wearable Technology,ข่าวไอที,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าว | https://www.thairath.co.th/content/487752 |
อนุทิน เผย นาที วูบ ไม่เกี่ยวคดีถูกชี้มูลแจ้งทรัพย์สินเท็จ | วันนี้ (5 ก.ค.2562) นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงอาการของนางนาที รัชกิจประการ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ที่มีอาการความดันสูง ทำให้วูบ หลังการประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า ขณะนี้ อาการของนางนาทีดีขึ้นแล้ว สาเหตุน่าจะมาจากการพักผ่อนน้อย ไม่เกี่ยวข้องกับความเครียดในคดีที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเป็นเท็จ โดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนในวันที่ 9 กรกฎาคมนี้หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวอีกว่า ขณะนี้พรรคได้รวบรวมนโยบายส่งไปให้พรรคพลังประชารัฐบางส่วนแล้ว รอเรียกประชุมอีกครั้ง พร้อมเตรียมทีมงานของพรรค เพื่อไปร่วมร่างนโยบายรัฐบาลแล้วเช่นกัน โดยนโยบายที่ส่งไปเป็นนโยบายที่หาเสียงไว้กับประชาชน โดยเฉพาะการผลักดันกัญชาเสรีทางการแพทย์แบบถูกกฎหมาย เศรษฐกิจแบ่งปันผลกำไร และพักชำระหนี้ กยศ. ทั้งนี้ ไม่มีนโยบายใดที่เกี่ยวข้องกับประเด็นการเมือง เพราะพรรคภูมิใจไทยต้องการเข้ามาทำงาน เพื่อแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชนมากกว่าส่วนการที่พรรคเพื่อไทยเตรียมยื่นญัตติซักฟอกนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ หากเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะทำให้รัฐบาลอายุสั้นหรือไม่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า หากอยู่ในกลไกของรัฐสภาก็สามารถทำได้ และถือเป็นเรื่องดีที่จะใช้เป็นกลไกในการตรวจสอบ โดยเฉพาะคนที่จะไปทำหน้าที่เป็นแกนนำรัฐบาล บริหารประเทศ ก็ต้องพร้อมให้ถูกตรวจสอบด้วยเช่นกัน ถือเป็นเรื่องปกติ | หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เผยนางนาที รัชกิจประการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ มีอาการวูบจากความดันสูง คาดว่ามาจากการพักผ่อนน้อย และไม่ได้เครียดคดีที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเป็นเท็จ | การเมือง | อนุทิน ชาญวีรกูล,ภูมิใจไทย,นาที รัชกิจประการ,ป.ป.ช.,พลังประชารัฐ,เพื่อไทย,อุตตม สาวนายน,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส | https://news.thaipbs.or.th/content/281446 |
ห้างดังยโสธร แจกไข่ไก่ ปลาดุก สู้โควิด คนต่อแถวรับยาวเหยียด | ชาวบ้านต่อแถวยาว 1.5 กิโสเมตร รับแจกไข่ไก่ ปลาดุก เส้นหมี่ ยากันยุง จากคหบดีเจ้าของห้างฯ ดังยโสธร สู้ภัยโควิด-19เวลา 08.00 น. วันที่ 27 เม.ย. ที่บริเวณลานจอดรถด้านหน้าห้างนานาภัณฑ์พลาซ่า เขตเทศบาลเมืองยโสธร น.ส.ศิริวรรณ แจ่มจำรัส ผู้จัดการห้างสรรพสินค้านานาภัณฑ์พลาซ่า ร่วมกับบริษัท แคทวัน จำกัด ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าของคนยโสธรและเก่าแก่เปิดบริการคู่ชาวจังหวัดยโสธรมานานหลายสิบปี ได้จัดโครงการคนไทยไม่ทิ้งกัน นานาภัณฑ์ไม่ทิ้งคุณ โดยได้มีการแจกชุดยังชีพ หรือเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นให้กับประชาชนฟรี จำนวน 1000 ชุด เช่น ไข่ไก่ 30000 ฟอง เส้นหมี่ ปลาดุก ยากันยุง และขนม เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19ทั้งนี้ มีประชาชนชาวยโสธรที่ทราบข่าวการแจกสิ่งของในครั้งนี้ต่างพากันไปเข้าแถวรอคิวเข้ารับแจกชุดยังชีพมากกว่า 2000 คน โดยมีประชาชนต่อแถวเข้าคิวยาวกว่า 1.5 กิโลเมตรเพื่อรอรับชุดยังชีพขณะเดียวกัน พ.ต.อ.มังกร กวีกรณ์ ผกก.สภ.เมืองยโสธรพร้อมด้วย นายอภิรัตน์ ป้องกัน นายอำเภอเมืองยโสธร เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองยโสธร เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอเมืองยโสธรและเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองยโสธร ไปคอยตรวจคัดกรองประชาชนรวมทั้งคอยอำนวยความสะดวก และจัดระเบียบในการรับชุดยังชีพ โดยประชาชนที่มารอรับแจกชุดยังชีพต้องมีการป้องกันตนเองโดยการสวมหน้ากากอนามัยทุกคน เว้นระยะห่างระหว่างกันในช่วงที่เข้าแถวรอรับแจก เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการในการป้องกันโรคติดเชื้อโควิด-19 ที่ทางจังหวัดได้วางไว้ ซึ่งประชาชนที่มารอรับแจกก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยใช้เวลาแจกชุดยังชีพอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมงเศษชุดยังชีพก็หมดนางแสนเทียน ผาผง อายุ 50 ปี แม่ค้าตลาดสดยโสธร เผยว่าต้องขอขอบคุณเจ้าของห้างสรรพสินค้านานาภัณฑ์พลาซ่าที่แจกชุดยังชีพให้กับชาวบ้านที่เดือดร้อนในช่วงวิกฤติโควิด-19 โดยตนได้ไข่ 1 แผงจำนวน 30 ฟอง ปลาดุก 2 ตัว เส้นหมี่ 1 ห่อ พร้อมยากันยุง | ชาวบ้านต่อแถวยาว 1.5 กิโลเมตร รับแจก ไข่ไก่ ปลาดุก เส้นหมี่ ยากันยุง จากคหบดีเจ้าของห้างฯ ดังยโสธร สู้ภัยโควิด-19 | ข่าว,ทั่วไทย | โควิด-19,แจกของ,แจกของสู้โควิด,แจกไข่ไก่,โควิด-19 ยโสธร,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1831663 |
ชาวอุดรฯ ก้มกราบขบวนรถ เถ้าอัฐิ หลวงพ่อคูณ ขณะนำไปลอยอังคารน้ำโขง | เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 30 ม.ค. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขบวนรถแห่เถ้าอัฐิของ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ รวม 56 คัน มุ่งหน้าไปลอยอังคารที่แม่น้ำโขง อ.เมืองหนองคาย ตามพินัยกรรมของท่านที่ระบุไว้ โดยขบวนรถแห่ใช้เส้นทางถนนมิตรภาพจาก อ.เมือง จ.ขอนแก่น เข้าสู่ตัวเมืองอุดรธานี โดยไม่ผ่านเข้าในเขตตัวเมืองอุดรธานี ซึ่งมีลูกศิษย์ที่เคารพนับถือท่านมาคอยกราบอยู่ริมถนนที่ผ่านเป็นระยะ,นายวารินทร์ พิลาชัย อายุ 78 ปี อดีตข้าราชการพัฒนาชุมชน นำครอบครัวและเพื่อนบ้านตั้งโต๊ะบูชา จุดธุปเทียน และนำหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับพิเศษที่มีภาพของหลวงพ่อคูณ และประวัติความดีของท่านที่ทำคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติ นำมาติดไว้บนแผ่นป้ายตั้งอยู่ริมถนนบริเวณหน้าบ้าน เพื่อรอกราบเถ้าอัฐิหลวงพ่อคูณ ตั้งแต่เวลา 07.30 น. หลังทราบข่าวว่าขบวนรถแห่จะผ่านหน้าบ้าน เพื่อสักการะขอพรท่านเป็นครั้งสุดท้าย และเพื่อเป็นสิริมงคลแก่คนในครอบครัวและเพื่อนบ้าน,ขณะที่ นายวารินทร์ เล่าว่า เมื่อประมาณ 20 ปีที่ผ่านมา เคยไปกราบหลวงพ่อคูณ ที่วัดบ้านไร่ เมื่อครั้งท่านมีชีวิตอยู่ และฝากตัวเป็นลูกศิษย์ท่านตั้งแต่นั้นมา หลังจากท่านปลุกเสกวัตถุมลคลให้ พร้อมกับใช้ไม้เคาะหัวหลายครั้ง เพื่อให้ทำมาค้าขึ้น และเป็นสิริมงคลในการค้าขายที่เป็นอาชีพหลักของครอบครัว โดยในวันนี้หลังจากขบวนรถเถ้าอัฐิหลวงพ่อคูณผ่านไป มีแม่ค้าลอตเตอรี่เดินมาขาย ตนได้ซื้อ 1 ใบ เป็นหมายเลข 658393 เนื่องจากเลขลงท้าย 29, 92 ไม่มี จึงขอเสี่ยงโชคซื้อเลขลงท้าย 93 เผื่อท่านจะเมตตาให้โชคลาภ. | ขบวนรถ 56 คัน นำเถ้าอัฐิ หลวงพ่อคูณ ผ่านเมืองอุดรธานี ไปลอยอังคารแม่น้ำโขง โดยมีชาวบ้านรอก้มกราบอยู่ริมถนน ขณะที่ลูกศิษย์เผย ได้ซื้อลอตเตอรี่เลขใกล้เคียงหลวงพ่อคูณหวังเสี่ยงโชค | ข่าว,ทั่วไทย | หลวงพ่อคูณ,หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ,เถ้าอัฐิ,ลอยอังคาร,อุดรธานี,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1483456 |
ยาร์ดิม เชื่อมั่นคุณภาพแข้งโมนาโก หลังจับติ้วชนเรือใบสีฟ้า | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 12 ธ.ค. ว่า เลโอนาร์โด ยาร์ดิม ผู้จัดการทีมโมนาโก สโมสรแกร่งในศึก ลีก เอิง ฝรั่งเศส เผย เชื่อมั่นในคุณภาพของลูกทีมเต็มที่ หลังต้องถูกจับสลากมาเจอกับ เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรแกร่งจากศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย,สำหรับ โมนาโก ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายมาในฐานะแชมป์กลุ่มอี และถูกจับสลากมาเจอกับ แมนฯซิตี้ ซึ่งเป็นรองแชมป์กลุ่ม ซี ซึ่ง ยาร์ดิม ยกย่อง เรือใบสีฟ้าว่าเป็นทีมใหญ่ แต่เชื่อมั่นในคุณภาพของทีมว่าจะสู้ได้อย่างแน่นอน,แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คือทีมใหญ่ พวกเขาผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศในฤดูกาลที่ผ่านมา และมีนักเตะคุณภาพมากมาย ฤดูกาลนี้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องการคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก เราไม่ใช่ตัวเต็ง แต่ผมมีความเชื่อมั่นในคุณภาพของเรา เรามีเวลาตั้ง 60 วันกว่าจะถึงเกมนี้ และในวงการฟุตบอล นี่คือเวลาที่ยาวนาน ทุกอย่างสามารถเปลี่ยนแปลงได้ เป๊ป กวาร์ดิโอลา (ผู้จัดการทีมแมนฯซิตี้) คือหนึ่งในโค้ชที่เก่งที่สุดในโลก แต่สำหรับผมสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าโค้ชก็คือคุณภาพของทีม นั่นคือเหตุผลว่าทำไมโค้ชที่ดีที่สุดต้องมีนักเตะที่ดีที่สุด แชมเปียนส์ ลีก ไม่ใช่ลีกฝรั่งเศส ตอนนี้ในฝรั่งเศสเราเป็นทีมที่เล่นดีและยิงประตุได้มากมาย แต่แชมเปียนส์ลีกมันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างแตกต่างกัน ยาร์ดิม กล่าว | เลโอนาร์โด ยาร์ดิม กุนซือทีมโมนาโก เชื่อมั่นในคุณภาพของลูกทีม หลังถูกจับสลากมาเจอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย | null | เลโอนาร์โด ยาร์ดิม,โมนาโก,แมนเชสเตอร์ ซิตี้,ยูฟ่า แชใเปียนส์ลีก,ข่าวกีฬา | https://www.thairath.co.th/content/809272 |
อัพเดต ปอ วันที่ 4 นาทีต่อนาทีที่นี่ สัญญาณชีพ-ม่านตาตอบสนองคงที่ | เข้าสู่วันที่ 4 กับข่าวอาการป่วยไข้เลือดออกขั้นวิกฤติของ ปอ ที่ทุกคนลุ้นเอาใจช่วย ล่าสุด รพ.รามาธิบดี ออกแถลงการณ์ ฉ.5 ปอ ยังต้องใช้ยากระตุ้นความดันต่อเนื่อง สัญญาณชีพ-ม่านตาตอบสนองคงที่ ปอดขวาดีขึ้น ตับและไตวายยังคงที่,08.45 น. บุ๋ม ปนัดดา และแฟนหนุ่ม มาเยี่ยม โดยตนได้บอกว่า ได้เฝ้าติดตามอาการของปอจากอาน้ำอ้อยตั้งแต่วันแรก แต่เพิ่งมีโอกาสได้มาวันนี้ จริงๆ ตนต้องบินไปฮันนีมูน แต่แวะมาเยี่ยมปอก่อน ได้มีโอกาสไปถวายพระสมเด็จวัดระฆัง 3 พันองค์ให้วัดพระบาทน้ำพุ ยกบุญทั้งหมดให้กับปอ และสวดมนต์ทุกคืนเผื่อให้ปอหายไวๆ,09.00 น. แถลงการณ์ ฉบับ 5 รพ.รามาธิบดี เรื่อง ชี้แจงอาการป่วยของปอ ทฤษฎี สหวงษ์ ,ความคืบหน้าอาการป่วยจากไข้เลือดออกของ ปอ ทฤษฎี สหวงษ์ อาการโดยทั่วไปคงที่ตลอดคืน สัญญาณชีพจรโดยทั่วไปคงที่ แต่ยังใช้ยากระตุ้นความดันอย่างต่อเนื่อง การตอบสนองของม่านตาคงที่ ปอดขวามีลักษณะดีขึ้นจากภาพรังสีทรวงอก แต่ยังมีเลือดออกในช่องเยื่อหุ้มปอดด้านซ้าย ต้องได้รับเลือดและส่วนประกอบของเลือดเป็นระยะ ,การทำงานของตับและภาวะไตวายคงที่ ยังต้องใช้เครื่องฟอกไตและเครื่องพยุงการทำงานของปอดและหัวใจ (Extracorporeal Membrane Oxygenator : ECMO) และให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำอย่างต่อเนื่อง,ค่าออกซิเจนในเลือด เกลือแร่ และความเป็นกรดในเลือดอยู่ในเกณฑ์ปกติ โดยสรุปผู้ป่วยยังอยู่ในภาวะวิกฤติ และยังต้องได้รับการเฝ้าระวังใน CCU อย่างต่อเนื่อง,โรงพยาบาลรามาธิบดี,วันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558,เวลา 09.00 น. ,10.00 น. ที่หออภิบาลผู้ป่วยวิกฤตโรคหัวใจ โรงพยาบาลรามาธิบดี ยังคงมีแฟนคลับทยอยเดินทางมาให้กำลังใจพระเอก ปอ ทฤษฎี อย่างต่อเนื่อง รวมถึงเพื่อนดาราในวงการบันเทิง แหม่ม จินตหรา, เบนซ์ พรชิตา, มิค บรมวุฒิ โดยภายหลังจากการเข้าเยี่ยม ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า,แหม่ม จินตหรา วันนี้พี่แหม่มไม่ได้เข้าไปเยี่ยมน้องปอนะคะ เพราะเขาไม่ได้เข้าไปค่ะ แต่ได้ให้กำลังใจคุณพ่อคุณแม่ค่ะ เท่าที่ทราบคุณหมอเก่งมาก ทุกคนก็สบายใจ ดีใจที่ทราบว่าอาการของน้องดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างน้อยไม่แย่ไปกว่าเดิมค่ะ,เบนซ์ ตอนแรกไม่คิดว่าจะเป็นเยอะค่ะ พอรู้ข่าวก็เชื่อว่าพี่ปอก็น่าจะมีกำลังใจที่จะกลับมาได้อีก เพราะว่าอย่างที่เราเห็นกัน พอรู้ข่าวทุกคนก็ช่วยกันมาบริจาคเลือด มาเยี่ยม ก็เลยคิดว่าพี่ปอน่าจะมีแรงกลับมาได้(ยิ้ม) กำลังใจล้นหลามเพราะเค้าเป็นคนดี เห็นเลยว่าเวลาเค้าไม่สบาย คนรักเค้าเยอะมากจริงๆ,มิค บรมวุฒิ เมื่อกี้คุยกับคุณพ่อคุณแม่ ผมก็ให้กำลังใจ พ่อก็ทักว่าเจอเราตั้งแต่ละครเรื่องแรก ลิขสิทธิ์หัวใจ และหลังจากนั้นก็เจอกันมาตลอดจริงๆ พอเจอข่าวก็ตกใจครับ แต่อย่างที่เบนซ์บอก เราเห็นแฟนๆ รวมถึงเพื่อนๆ นักแสดงทุกคนเป็นกำลังใจให้ขนาดนี้ ก็ชัดแล้วว่าพี่ปอเป็นคนที่น่ารัก ทุกคนรักเป็นห่วง และคอยสวดมนต์ให้ ก็ชัดเจนแล้วว่าพี่ปอเป็นคนที่น่ารัก พี่ปอกลับมาแน่นอน แข็งแรงเหมือนเดิมเร็วๆนี้แน่นอน,12.35 น. สุนารี ราชสีมา และแฟนหนุ่มชาวเนเธอร์แลนด์ วาวเตอร์ เดินทางมาบริจาคเลือด และเยี่ยมปอ ทั้งคู่ให้สัมภาษณ์ว่า ,สุนารี : ตั้งแต่พอรู้ข่าวว่าน้องต้องการเลือด ก็ตั้งใจคุยกับแฟนว่าเดี๋ยวว่างจะต้องมา พอดีวันนี้ว่าง เมื่อคืนทำงานก็เสร็จตี 2 พี่นอนก็ตี 3 พี่ไม่เคยไปบริจาคเลือดนะ ก็ไม่รู้ว่าการบริจาคเลือดมันต้องอดอาหารเหมือนเราจะไปตรวจร่างกายอะไรรึเปล่า ก็ชวนแฟนอดอาหารตั้งแต่เที่ยงคืนไม่ให้กินอะไร จนถึงตอนนี้ยังไม่กินอะไรเลย (หัวเราะ) เสร็จแล้วพอไปห้องตรวจเลือดพี่ความเข้มข้นของเลือดไม่ได้ เพราะเรานอนไม่พอ แต่ของเค้าไม่รู้ว่าเลือดกรุ๊ปอะไรนะ แต่มาคือเราอยากบริจาค ปอใช้ไม่ได้ก็ให้คนอื่นใช้ ไม่เป็นไร ทีนี้ของเขาตรวจเลือดมาเป็นกรุ๊ปเอ กรุ๊ปเดียวกับน้องปอเลย สุขภาพเขาดีเลยผ่านหมดเลย เค้าโอเคค่ะ เขารู้จักปอมั้ย? รู้ค่ะ เพราะปอเหมือนน้องชายเรา เราเคยเล่นละครกับเค้า ก็โชว์รูปเก่าๆ ให้ดู ตอนนั้นเล่นเป็นแม่นางเอก คุณแม่ของชมพู่ ก็เล่าให้ฟังเค้าเป็นคนดีมาก นิสัยดีกมาก และปอรักแมวรักหมา ช่วยหมาจรจัด เราเป็นคนรักสัตว์ ปอก็รักหมาด้วย ให้กำลังใจอะไรคุณพ่อบ้าง? พ่อก็เหนื่อยนะ เราก็บอกไปว่าคนทั่งประเทศเป็นห่วงน้องปอนะ เพราะว่าปอเป็นคนดี ขอให้น้องหายเร็วๆ พอทราบข่าวว่าป่วยรู้สึกยังไง? พี่ช็อกเลย ทำงานก็จะพูดถึงเรื่องปอตลอดเวลา อัพเดตข่าวตลอดเวลา รับเมสเสจ อยากรู้ข่าวสารตลอด โทรหาน้องที่รู้จักกันว่าข่าวเป็นอย่างไรบ้าง อัพเดตแถลงการณ์ว่าเป็นไง ภาวนาให้น้องหายไวๆ,วาวเตอร์ : ถ้าสามารถช่วยได้ก็อยากช่วย บริจาคแล้วก็รู้สึกโอเค,12.45 มะปราง วิรากานตร์ เสณีตันติกุล และ อัทธิ์ นักร้องนำวงเยสเตอร์เดย์ หลังจากที่ได้เข้าไปเยี่ยมแล้ว ก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่า,มะปราง : ยังไม่ได้เข้าไปถึงตัวพี่ปอนะคะ แล้วก็เข้าไปเจอคุณพ่อคุณแม่ญาติๆ และคุณอาน้ำอ้อยผู้จัดการ แล้วก็คือตอนนี้ทุกคนกำลังใจดีขึ้นนะคะ ทุกคนบอกว่าทุกคนได้รับแรงใจจากทุกคนทั่วประเทศมา แล้วบอกอยู่ตลอดเลยว่าเห็นมั้ยมะปราง ว่ามีคนแต่งเพลงให้พี่ปอด้วยนะ ก็อยากจะบอกทุกคนว่าญาติๆ และทุกคนรับรู้นะคะว่าความรู้หมดทุกอย่างค่ะ ใครแต่งเพลงให้ปอ? ไม่ทราบค่ะ เป็นการแชร์ทางโซเชียลมีเดีย แต่งเพลงให้พี่ปอ ให้พี่ปอสู้ๆ ลุกขึ้นมาได้แล้ว ให้กำลังใจคุณพ่อคุณแม่ยังไงบ้าง? ก็ให้กำลังใจ ก็บอกว่ายังไงกำลังใจที่ดีที่สุดก็ต้องมาจากญาติๆ ก็ต้องให้คุณพ่อคุณแม่ดูแลตัวเองให้ดีที่สุดอ่ะค่ะ เพราะว่าเป็นพลังที่ดีที่สุดของลูกก็คือพี่ปอ ยังไงก็อยากให้เค้าแข็งแรง โดยส่วนตัวเป็นห่วงพี่ปอแค่ไหน? เป็นห่วงพี่ปอมาก (ลากเสียง) ตั้งแต่รู้ข่าววันแรกแทบจะอยู่ไม่ติดเพราะทำงานมาตั้งแต่เด็ก ก็อยากจะมาให้เร็วที่สุด ก็ดีใจมาก แต่ยังไม่มีโอกาสได้เข้าไปหาพี่ปอใกล้ๆ มั้ย ปรางว่าให้โควตานั้นเป็นของญาติดีกว่า อย่างน้อยกำลังใจที่ดีที่สุดก็ต้องมาจากญาติ เราก็เป็นกำลังใจที่อย่างน้อยอยู่บ้านก็สวดมนต์ได้ เป็นกำลังใจแบบนี้ดีกว่า ก่อนทราบข่าวได้เจอพี่ปอมั้ย? ได้เจอพี่ปอตามงานค่ะ แต่พอทราบข่าวว่าป่วยก็ตกใจค่ะ,อัทธิ์ : โดยส่วนตัวไม่ได้รู้จักพี่ปอนะครับ น้องสาวเคยเป็น พอเข้าใจได้ว่าอาการมันเป็นอย่างไรบ้าง ก็ส่งกำลังใจให้ครับ อยากให้พี่ปอหายไวๆ เพราะพี่ปอเป็นคนดี เป็นคนเก่งด้วย อย่างไรขอให้สู้ๆ,14.07 นายสงวน สหวงษ์ คุณพ่อของปอ ทฤษฎี กล่าวขอบคุณทุกกำลังใจ พร้อมบอกว่า ให้ฟังความเปลี่ยนแปลงจากหมอ ก็ขอขอบคุณนะครับ สำหรับวันนี้สิ่งที่อยากจะทราบคงเกี่ยวกับความคืบหน้า ความเปลี่ยนแปลงของปอ ถ้าฟังจากคุณหมอ ฟังจากแถลงการณ์คงจะชัดเจน พ่อคิดว่าคงจะเป็นไปตามรายละเอียดที่คุณหมอแจ้งในลักษณะของอาการนะครับ ตามสภาพ แต่โดยสภาพรวมๆแล้วปอก็ดีขึ้นมาในระดับหนึ่งที่เราสบายใจ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเรายังจะต้องรอดูเรื่อยๆ มันมีหลายสิ่งที่มันทั้งดี และบางส่วนที่ไม่ดี หมอก็ยังสู้กับตรงนั้นอยู่ ส่วนที่ไม่ดีคือส่วนไหน? ผมยังไม่ทราบรายละเอียดครับ ทราบแต่รวมๆ ในลักษณะที่ผมดูตามสภาพคนไข้ ครอบครัวมีกำลังใจดี เพราะเรารู้ว่าโอกาสวิกฤตเช่นนี้ เราจะต้องตั้งหลักให้ได้ เรามารวมตัวกันทั้งหมดของครอบครัวอยู่ที่นี่ พร้อมที่จะเผชิญกับสิ่งที่มันจะมา ต่างให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ได้พักผ่อนบ้าง อย่างตัวพ่อเองก็เริ่มจะไม่สบาย ไม่ได้สบายเพราะความอ่อนเพลีย เห็นสื่อมวลชน เห็นประชาชน เห็นผู้หลักผู้ใหญ่ให้ความเมตตาดีๆ กับปอ ส่งแต่สิ่งดีๆงามๆ คิดแต่สิ่งดี ทำแต่สิ่งดีเพื่อเพิ่มพลังมาเสริมให้ปอให้พ้นจากวิกฤต เราก็ยินดีและดีใจครับ เมื่อวานได้เข้าไปเยี่ยมปออาการเป็นไงบ้าง? ก็ดีขึ้นนะครับ,14.20 น. คณะสงฆ์ 5 รูป จากวัดยานนาวา พร้อมนำพระพุทธรูป 1 องค์ เจ้าคุณพระสิริธีรคุณ (เจ้าคุณพรหมา ชยานนโท) เจ้าคณะแขวงยานนาวา เขต 1 ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดยานนาวา มอบพระพุทธรูปให้ครอบครัวและบทสวดต่อดวงชะตาเสริมบารมีบทสวดต่อดวงชะตา เสริมบารมี,14.15 น. แยม มทิรา ตันติประสุต ได้เดินทางมาเยี่ยมปอและครอบครัว แยมเผยว่า ได้เข้าไปเยี่ยมแค่อาของพี่ปอและครอบครัวของพี่ปอแค่นั้น หนูคุยกับอา เช้านี้ทุกอย่างก็คงที่แล้ว ก็เริ่มดีขึ้น ก็ตามที่เห็นในข่าว ทุกอย่างก็เหมือนเดิม ก็เป็นห่วงตั้งแต่เห็นข่าว ใจเสียมาก ช่วงนั้นทำงานและเรียนหนังสือ พึ่งได้มาเยี่ยมกับพี่สายไหม คืออย่างที่ทุกคนรู้พี่เขาเป็นคนที่น่ารักมาก เป็นคนดีมากๆ คนนึงนะคะ พี่เขาเป็นคนที่ติดดินมากๆ หนูเชื่อว่าความดีของพี่เขาจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น ไม่ได้เจอพี่ปอมานานสักพักแล้วค่ะ และก็เชื่อมันเลยค่ะว่าพี่ปอจะต้องกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม หนูก็สวดมนต์ตามที่เค้าแชร์กันในกรุ๊ปนี่แหละค่ะ แต่สวดไม่ค่อยเป็น อ่านไม่ค่อยออก สวดตามที่อ่านได้ค่ะ,15.12 น. น้ำฝน พัชรินทร์ พร้อมด้วยผู้จัดละคร กอบ กอบสุข จารุจินดาอายุ, ยุ ยุวดี ไทยหิรัญ ยุวดี และนฤมล นิลวรรณ ได้เดินทางมาเยี่ยม ปอ ทฤษฎี,น้ำฝน พัชรินทร์ วันนี้ก็มาให้กำลังใจคุณพ่อคุณแม่ของพี่ปอ เท่าที่เห็นท่านทั้งสองก็มีกำลังใจมากขึ้น วันที่ทราบข่าวว่าพี่ปอป่วยหนักตกใจมาก แต่เห็นว่าเขาก็ยังสู้ ฉะนั้นก็ต้องส่งกำลังใจให้เยอะๆ ที่ผ่านมาก็สวดมนต์ให้ตลอด ตอนแรกที่ทราบข่าวก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากสวดมนต์ให้คุ้มครองพี่ปออย่างเดียว,ยุวดี ทำได้คือให้กำลังใจนะคะกับสวดมนต์ให้แก่ปอ เพราะอย่างน้อยพึ่งเคยร่วมงานกัน แต่ก็เป็นนักแสดงที่ดีและมีวินัยมาก อาว่าคุณพ่อคุณแม่แข็งแรง เข้าใจและก็ด้วยความที่โตมากแล้วก็เข้าใจสภาพสถานการณ์ทุกอย่าง ทุกคนอยากให้แกหายและกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม,กอบสุข ว่างเมื่อไหร่ก็มาให้กำลังใจกันค่ะ เพราะปอเป็นน้องรักค่ะ รวมงานกันตั้งแต่ปอเป็นเด็กๆ ตั้งแต่เจ้าสาวบ้านไร่ เราก็รักเค้า ว่างเมื่อไหร่ก็จะมาเยี่ยมเค้า อาการตามแถลงการณ์ก็ดีขึ้นนะ ดีใจ อยากให้ดีขึ้นทุกวันค่ะ(น้ำตาคลอ),นฤมล ในฐานะนักแสดงด้วยกัน ปอเป็นน้องที่ดี ที่ดีมาก มีความรับผิดชอบ มีความสามารถ และที่สำคัญมีน้ำใจกับทุกๆ คน ก็คิดว่าสถานการณ์ครั้งนี้ก็คงเป็นแค่อุปสรรคนึงแล้วน้องเค้าจะผ่านไป แล้วก็มีพวกเราและประชาชนเยอะๆ คอยให้กำลังใจปอ รอเสมอ เล่นละครด้วยกันน้อย แต่ปอเป็นคนน่ารักมาก,16.00 น. โรงพยาบาลรามาธิบดี ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 6 ปอ ทฤษฎี มีอาการคงที่ ความเป็นกรดในเลือดอยู่ในเกณฑ์ปกติ ยังไม่พบการติดเชื้อแทรกซ้อนเพิ่มเติม ต้องใช้เครื่องฟอกไตและเครื่องพยุงการทำงานของปอดและหัวใจอย่างต่อเนื่อง,ความคืบหน้าอาการป่วยจากไข้เลือดออกของนายทฤษฎี สหวงษ์ (ปอ),อาการโดยทั่วไปคงที่ตั้งแต่ช่วงเช้า สัญญาณชีพ และการตอบสนองของม่านตาคงที่ การทำงานของตับ และภาวะไตวายคงที่ ค่าออกซิเจนในเลือด เกลือแร่ และความเป็นกรดในเลือดอยู่ในเกณฑ์ปกติ ยังไม่พบการติดเชื้อแทรกซ้อนเพิ่มเติม ระดับเกล็ดเลือดคงที่ ภาวะเลือดออกในช่องเยื่อหุ้มปอดด้านซ้ายเท่าเดิม แต่ยังต้องได้รับเลือดและส่วนประกอบของเลือดเป็นระยะ,ขณะนี้ยังต้องได้รับการรักษาด้วยยากระตุ้นความดันเลือด เครื่องฟอกไต และเครื่องพยุงการทำงานของปอดและหัวใจ (Extracorporeal Membrane Oxygenator: ECMO) อย่างต่อเนื่อง,โดยสรุป ผู้ป่วยยังอยู่ในภาวะวิกฤติ และยังต้องได้รับการเฝ้าระวังใน CCU อย่างต่อเนื่อง,18.01 น. หลังจากที่ โบว์ แวนด้า แฟนสาว ปอ ทฤษฎี สหวงษ์ มีการอุ้มเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเข้าไปเยี่ยม ปอ ถึงห้อง ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามไปทาง อาน้ำอ้อย ศรมนตรา ผู้จัดการส่วนตัวของ ปอ และจากการสอบถามผู้จัดการส่วนตัวของปอ ทฤษฎี ก็ได้ทราบว่า เด็กผู้หญิงที่ สาวโบอุ้มอยู่นั้น เป็นลูกสาวของปอและโบจริงๆ ชื่อน้องมะลิ ด.ญ.พาขวัญ สหวงษ์ อายุ 2 ขวบ ที่วันนี้สาวโบได้พามาเยี่ยมพ่อถึงขอบเตียง โดยชื่อ พาขวัญ ปอเป็นคนตั้งให้ลูกเอง. | เข้าสู่วันที่ 4 กับข่าวอาการป่วยไข้เลือดออกขั้นวิกฤติของ ปอ ที่ทุกคนลุ้นเอาใจช่วย ล่าสุด รพ.รามาธิบดี ออกแถลงการณ์ ฉ.5 ปอ ยังต้องใช้ยากระตุ้นความดันต่อเนื่อง สัญญาณชีพ-ม่านตาตอบสนองคงที่ ปอดขวาดีขึ้น ตับและไตวายยังคงที่ | null | ปอ ทฤษฎี สหวงษ์,ปอ ทฤษฎี ป่วยหนัก,ปอ ทฤษฎี ป่วยโคม่า,ปอ ทฤษฎี ไข้เลือดออก,ปอ ทฤษฎี โคม่า,ปอ ทฤษฎี บริจาคเลือด,บริจาคเลือดให้ปอ ทฤษฎี,ปอ ทฤษฎี ร.พ.รามา,ปอ ทฤษฎี เลือดกรุ๊ปเอ,บริจาคเลือดให้ ปอ ทฤษฎี ที่ไหน,ปอ ทฤษฎี ป่วย,ข่าว,ข่าวบันเทิง,ไทยรัฐออนไลน์,ปอ เป็นไข้เลือดออก,ไข้เลือดออก,ภาวะไตวาย,ปอ ไตวาย,ไตวายเฉียบพลัน,ปอ ทฤษฎีขอบริจาคเลือด,บริจาคเลือดกรุ๊ป เอ,เลือดกรุ๊ป เอ,ปอ ทฤษฎี เสียชีวิต,ลือ ปอ ทฤษฎี เสียชีวิต,แถลงการณ์,ฉบับ5,รามาธิบดี | https://www.thairath.co.th/content/539155 |
แผน หนองบัวลำภูโมเดล สำรวจผลกระทบสารเคมีกำจัดศัตรูพืช | วันนี้ (26 ก.พ.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การผลักดันการแก้ปัญหาการตกค้างของสารเคมีกำจัดศัตรูพืชปนเปื้อนใน จ.หนองบัวลำภู กำลังขยับจากพื้นที่เล็กๆ ที่ ต.บุญทัน อ.สุวรรณคูหา ครอบคลุมไปทั้งจังหวัด ผ่านแผนการสำรวจและฟื้นฟูผลกระทบภายใต้ หนองบัวลำภูโมเดล ซึ่งตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีการหารือเพื่อเตรียมแผนสำรวจและฟื้นฟูผลกระทบจากการตกค้างของสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ระหว่างนายแพทย์สาธารณสุข จ.หนองบัวลำภู พร้อมด้วยตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึง รศ.พวงรัตน์ ขจิตวิชยานุกูล นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยนเรศวรนพ.สุรพงษ์ ผดุงเวียง นายแพทย์สาธารณสุข จ.หนองบัวลำภู เปิดเผยว่า ในพื้นที่ ต.บุญทัน มีการติดตั้งถ่านกำมันต์กรองสารปนเปื้อนในระบบน้ำประปา และสนับสนุนให้ท้องถิ่นออกข้อบัญญัติในการลด ละ เลิกการใช้สารพาราควอต ซึ่งอยู่ในระหว่างการติดตามผลการดำเนินการ แต่ถ้าจะแก้ปัญหาในระยะยาวให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์จังหวัด หรือหนองบัวลำภูโมเดล ที่ต้องการเปลี่ยนเป็นพื้นที่เกษตรอินทรีย์ เกษตรปลอดภัย จะต้องมีการสำรวจการปนเปื้อนและทำข้อมูลผลกระทบด้านสุขภาพทั้งจังหวัดทั้งนี้ ตั้งแต่ความเชื่อมโยงของสถานการณ์โรคเนื้อเน่าที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายน ที่มีการใช้ยาฆ่าหญ้าอย่างเข้มข้น รวมถึงความกังวลเรื่องการตกค้างในเลือดหญิงตั้งครรภ์และในสายสะดือเด็ก ซึ่งจะได้มีการนำเสนอ เพื่อของบประมาณในการสนับสนุนจาก พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ที่จะเดินทางมาในพื้นที่ในช่วงบ่ายวันนี้ขณะที่ รศ.พวงรัตน์ ขจิตวิชยานุกูล ผู้อำนวยการสถานวิจัยเพื่อความเป็นเลิศทางวิชาการด้านการวิจัยและนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวร กล่าวถึงความคืบหน้าในการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ ต.บุญทัน อ.สุวรรณคูหา ที่สำรวจพบสารพาราควอตปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา ทีมวิจัยได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบการติดตั้งถังกำมันต์กรองสารเคมีในพื้นที่นำร่องประปาหมู่บ้านคลองเจริญ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพขณะเดียวกัน ได้นำตัวอย่างน้ำในพื้นที่ดังกล่าว และพื้นที่ต้นน้ำอย่างอ่างเก็บน้ำห้วยไฮ รวมถึงตัวอย่างดิน นำไปทดสอบการกำจัดสารพาราควอต หาความเหมาะสมในการคัดเลือกเทคโนโลยีที่ได้ค้นคว้าวิจัยมาแล้วในห้องปฏิบัติการ ที่มีแนวโน้มในการกำจัดสารพาราควอตได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดสารเคมีตกค้างในดินและน้ำให้กับพื้นที่ชุมชนและพื้นที่เกษตรกรรมต่อไปก่อนหน้านี้ ทางจังหวัด โดยผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมระหว่างหน่วยงานต่างๆ และโรงพยาบาลหนองบัวลำภู เพื่อส่งเสริมการดำเนินโครงการโรงพยาบาลอาหารปลอดภัย เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนนโยบายแก้ปัญหาสารกำจัดศัตรูพืชตกค้างในร่างกายและสิ่งแวดล้อม ตามยุทธศาสตร์หนองบัวลำภูโมเดลผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าจับตา และติดตามถึงท่าทีของรองนายกรัฐมนตรี ที่จะลงพื้นที่ในช่วงบ่ายวันนี้ว่าในระดับนโยบายจะมีการเดินหน้าสนับสนุนและแก้ไขปัญหานี้อย่างไร โดยเฉพาะความกังวลของคนในพื้นที่ต่อผลกระทบสารกำจัดศัตรูพืชที่อาจส่งผลต่อเด็กในพื้นที่ ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีเองก็กำกับดูแลทางด้านการพัฒนาเด็กด้วย ที่สำคัญโมเดลที่เกิดขึ้นใน จ.หนองบัวลำภู หากได้รับการสนับสนุน จนนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ ก็จะเป็นต้นแบบของการแก้ไขปัญหาในระดับประเทศต่อไป | จ.หนองบัวลำภู เตรียมเสนอแผนเพิ่มเติมในการแก้ปัญหาการตกค้างของสารเคมีกำจัดศัตรูพืชปนเปื้อนใน ต.บุญทัน อ.สุวรรณคูหา ต่อ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ที่จะลงพื้นที่ในช่วงบ่ายของวันนี้ | สังคม | พาราควอต,หนองบัวลำภูโมเดล,หนองบัวลำภู,สารเคมี,โรคเนื้อเน่า,ยาฆ่าหญ้า,ยาฆ่าแมลง,ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส | https://news.thaipbs.or.th/content/270570 |
คึกคัก ค่ายมวยเปิดซ้อมวันแรก หลังหยุดเกือบ 3 เดือนจาก COVID-19 | วันนี้ (1 มิ.ย.2563) ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศที่ค่ายมวย เสถียรมวยไทยยิม ย่านรามคำแหงซอย 88 นักมวยไทย หลังมีการผ่อนปรนมาตรการระยะ 3 โดบได้กลับมาฝึกซ้อมครั้งแรกในรอบเกือบ 3 เดือน หลังปิดชั่วคราวเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19จับคู่ซ้อมโดยเน้นการชกเตะเป้าซ้อม แต่ยังไม่อนุญาตให้เข้าคู่ปล้ำกอดรัดตีเข่ากันได้บรรดานักมวยไทย นำโดย บอล แสงมณี คลองสวนพลู มวยไทยค่าตัวเงินแสน ระบุว่า ดีใจที่ได้กลับมาเตะกระสอบ ชกเป้า และกลับมาฝึกซ้อมในค่าย หลังจากได้แต่วิ่งรักษาความฟิตของร่างกาย โดยหลังจากนี้อยากให้ รัฐบาลปลดล็อกให้มวยกลับไปแข่งขันในเวทีได้ เพื่อให้นักมวยมีรายได้แสงมณี คลองสวนพลู นักมวยไทยค่าตัวเงินแสน (เสื้อขาว)ด้าน เสถียร สมขาว หัวหน้าค่ายมวยไทย เผยว่า หลังมีการผ่อนปรน ค่ายมวยได้เตรียมมาตรการดูแลความปลอดภัยให้กับบรรดานักมวยหรือผู้ที่จะฝึกซ้อมมวยในค่าย ขณะที่การกลับมาแข่งขันชกมวยนั้น เมื่อรัฐบาลประกาศอนุญาตเมื่อไหร่ก็พร้อมจะปฏิบัติตาม เสถียร สมขาว หัวหน้าค่ายมวยไทย สำหรับค่ายมวยไทย ที่เปิดให้นักมวยฝึกซ้อมได้ เบื้องต้นกำหนดให้ฝึกซ้อมได้ไม่เกิน 10 คน สามารถเตะต่อยเป้ากับ ครูมวยได้ แต่ยังไม่อนุญาตให้เข้าคู่ปล้ำกอดรัดตีเข่ากันได้ฝึกซ้อมแบบเว้นระยะห่าง | ค่ายมวยไทย เปิดฝึกซ้อมวันแรกหลังรัฐบาลผ่อนปรนในระยะที่ 3 หลังปิดไปนานกว่า 3 เดือน ด้าน แสงมณี คลองสวนพลู นักมวยไทยชื่อดัง อยากให้ ศบค.ปลดล็อกให้มวยกลับไปชกได้เร็ว ๆ | กีฬา | COVID-19,โควิด-19,ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019,COVID19,โควิด19,ค่ายมวย,แสงมณี | https://news.thaipbs.or.th/content/293176 |
วิษณุ เครืองาม ระบุการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในอีก 1 ปีข้างหน้า | หากไม่ทำอาจเข้าข่ายบกพร่องทางวินัย8 ก.พ. 2559 ช่วงบ่ายของวันนี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวตอนหนึ่งในการปาฐกถาพิเศษ เรื่อง ปฏิรูปกฎหมาย บริบทประเทศไทยบนเวทีโลก โดยระบุว่า จะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นในอีก 1 ปีข้างหน้านับจากวันนี้ไป โดยเป็นการประมาณล่วงหน้า แต่ไม่ได้หมายความจะต้องได้วันที่แน่นอน เพราะทุกอย่างต้องดำเนินไปตามโรดแมป ที่ระบุไว้ในร่างรัฐธรรมนูญที่ผ่านการลงประชามติ อีกทั้งหลังจากที่ร่างรัฐธรรมนูญประกาศใช้แล้วจะต้องมีกระบวนการร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญอีก 10 ฉบับ ซึ่งร่างรัฐธรรมนูญระบุไว้ในมาตรา 77 ว่า การตรากฎหมายทุกฉบับให้รัฐเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้อง รวมถึงวิเคราะห์ผลกระทบอย่างรอบด้าน ซึ่งจะทำให้การออกกฎหมายมีขั้นตอนที่มากขึ้น แต่เพื่อประโยชน์ประชาชน ระยะเวลาอาจไม่ได้มากขึ้น เพียงแต่ขั้นตอนมากขึ้นเท่านั้น ทุกหน่วยงานต้องคิดวิธีการรับฟังความเห็น เช่น เปิดช่องทางรับฟังผ่านเว็บไซต์ หรือให้ประชาชนสามารถแจ้งโดยตรงไปยังหน่วยงานนั้น ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้เป็นแนวทางที่เคยปฏิบัติมาแล้ว ซึ่งทุกหน่วยงานต้องดำเนินการหลังรัฐธรรมนูญประกาศใช้ ไม่เช่นนั้นถือว่ามีความผิด แต่ไม่ถึงขั้นเข้าข่ายปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เป็นเพียงความบกพร่องทางวินัยเมื่อรัฐธรรมนูญฯ ประกาศใช้ หลายอย่างต้องดำเนินการทันที ที่ใช้คำว่า 1 ปี ไม่ได้ต้องการให้รู้สึกว่าเมื่อร่างรัฐธรรมนูญฯ ประกาศใช้ กว่าจะทำอะไรได้อีกตั้งนาน ซึ่งมันไม่ใช่ เพราะมีเรื่องที่ต้องทำทันทีอีกหลายเรื่อง เช่นในร่างรัฐธรรมนูญฯ มาตรา 77 ที่บัญญัติไว้ว่าการตรากฎหมายทุกฉบับให้รัฐเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้อง รวมถึงวิเคราะห์ผลกระทบอย่างรอบด้าน ที่จะทำให้ขั้นตอนการออกกฎหมายต่อไปมีขั้นตอนที่มากขึ้น วิษณุกล่าวผู้สื่อข่าวประชาไท รายงานเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับที่ผ่านการลงประชามติ เสร็จเรียบร้อยแล้ว และจะมีการนำร่างรัฐธรรมนูญขึ้นทูลเกล้าฯ ไม่เกินวันที่ 18 ก.พ. 2560 โดยพระมหากษัตริย์ทรงมีระยะเวลาในการลงพระปรมาภิไธยไม่เกิน 30 วัน และเมื่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวได้ประกาศใช้เป็นกฎหมาย จะมีขั้นตอนในการร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ 10 ฉบับ จากนั้นก็จะนำไปสู่การเลือกตั้ง รวมระยะเวลาตามโรดแมปในร่างรัฐธรรมนูญในบทเฉพาะกาลทั้งสิ้นไม่เกิน 450 วัน หลังจากรัฐธรรมนูญประกาศใช้ในกรณีที่ร่างรัฐธรรมนูญได้รับการลงพระปรมาภิไธย แล้วพระมหากษัตริย์ทรงพระราชทานกลับคืนมา เมื่อรัฐธรรมนูญได้ประกาศใช้เป็นกฎหมายโดยการเผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษา ตามมาตรา 267 ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับผ่านการลงประชามติ กำหนดให้ กรธ. จัดทำร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป) ทั้งสิ้น 10 ฉบับ ในระยะเวลา 240 วัน พ.ร.ป.ทั้งหมดประกอบด้วย(1) พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (2) พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (3) พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (4) พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง(5) พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ (6) พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง (7) พ.ร.ป.ว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน (8) พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (9) พ.ร.ป.ว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน(10) พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติโดย พ.ร.ป. ทั้ง 10 ฉบับ อาจแบ่งออกเป็นสองประเภท คือ (1)-(4) เป็นพ.ร.ป. ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ถ้าไม่มีกฎหมายทั้ง 4 ฉบับนี้การเลือกตั้งอาจจะจัดทำขึ้นไม่ได้ หรือได้โดยไม่มีกฎกติกาที่ระบุอย่างชัดเจน ส่วน (5)-(10) เป็นกฎหมายที่จะกำหนดอำนาจหน้าที่ขององค์กรอิสระที่ทำหน้าที่ตรวจสอบอำนาจรัฐ แม้ยังไม่มี (5)-(10) ก็จัดการเลือกตั้งได้ทั้งนี้ใน มาตรา 268 กำหนดมีการให้ดำเนินการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญนี้ ให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งร้อยห้าสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญตามมาตรา 267 (1) (2) (3) และ (4) มีผลใช้บังคับแล้วซึ่งหมายความว่า กรธ. สามารถเร่งจัดทำ พ.ร.ป หลักทั้ง 4 ฉบับให้เสร็จก่อนได้ เพื่อที่จะนำไปเสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติให้พิจารณาและประกาศใช้ก่อน พ.ร.ป. ฉบับอื่นๆ เพื่อเดินหน้าสู่การเลือกตั้งต่อไปได้ โดยไม่จำเป็นที่จะต้องรอให้มีการร่าง พ.ร.ป. ครบก่อนทั้ง 10 ฉบับ ทั้งนี้ในช่วงเวลาที่ผ่านมาทาง กรธ. ได้เผยแพร่ร่าง พ.ร.ป.แล้วทั้งสิ้น 2 ฉบับคือ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง และ พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงของการรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อปรับปรุงแก้ไข ก่อนที่จะนำเสนอต่อ สนช. หลังจากมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญตามที่ได้ระบุไว้ในขั้นตอนของการร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญโดย กรธ. แล้วว่า ในช่วงกรอบระยะเวลาทั้งสิ้น 240 วัน หรือ 8 เดือน หาก กรธ.จัดทำร่างกฎหมายฉบับใดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถนำเสนอต่อ สนช. เพื่อพิจารณาได้เลย โดยไม่ต้องรอให้มีการจัดทำครบทั้งสิ้น 10 ฉบับ แล้วส่งเพื่อพิจารณาพร้อมกันฉะนั้นหากภายในระยะเวลา 1-2 เดือน หลังจากรัฐธรรมนูญประกาศใช้ กรธ. สามารถจัดทำร่าง พ.ร.ป. หลัก ทั้ง 4 ฉบับจนเสร็จสิ้น ตามมาตรา 268 ก็จะสามารถยนย่อระยะเวลาที่จะนำไปสู่การเลือกตั้งได้ทั้งนี้เมื่อ ร่าง พ.ร.ป. ถูกส่งมายัง สนช. เพื่อพิจารณาบัญญัติเป็นกฎหมาย สนช. จะมีระยะเวลาทั้งสิ้น 2 เดือนต่อ 1 ฉบับในการพิจารณา โดยกรอบระยะเวลาสองเดือนเป็นกรอบเวลาที่วางไว้เพื่อเป็นกรอบกำหนดกว้างๆ ในทางปฏิบัติ สนช. ไม่จำเป็นตั้งใช้เวลานานถึง 2 เดือนในการพิจารณากฎหมายก็ได้ เช่นการแก้ไข มาตรา 7 ใน พ.ร.บ.สงฆ์ ซึ่ง สนช. มีความสามารถในการพิจารณา 3 วาระรวด ภายใน 1 วันภายหลังจาก สนช. พิจารณา พ.ร.ป.หลักทั้ง 4 ฉบับเสร็จสิ้น แล้วศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วว่าไม่ขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ให้เตรียมการดำเนินการจัดการเลือกตั้งภายใน 150 วัน นับจากวันที่ พ.ร.ป. หลักทั้ง 4 ฉบับประกาศใช้เป็นกฎหมายเรียบเรียงบางส่วนจาก: | รองนายกรัฐมนตรีระบุ การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในปี 2561 ชี้ทุกอย่างต้องเป็นไปตามโรดแมป อีกทั้งร่างรัฐธรรมนูญระบุให้ การร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญต้องรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน ซึ่งต้องใช้เวลา | การเมือง | กฎหมายลูก,การเลือกตั้ง,ร่างรัฐธรรมนูญ,วิษณุ เครืองาม,เลื่อนเลือกตั้ง,โรดแมปเลือกตั้ง | https://prachatai.com/journal/2017/02/69986 |
ศุลกากรร่างปฏิญญาเขมราฐ จับมือเอกชนลุยล้างบางทุจริต | นายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้ทำปฏิญญากับข้าราชการในกรมศุลกากรว่า จะเลิกรับผลประโยชน์จากผู้ประกอบการ รวมถึงจะไม่รับผลประโยชน์ที่ไม่ควรได้ทุกกรณี สมาคมธนาคารไทยและสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ให้มาลงนามในความร่วมมือเลิกจ่ายผลประโยชน์ ส่วนในต่างจังหวัดจะมีการหารือกับสภาหอการค้าจังหวัด รวมถึงเอกชนในพื้นที่ให้มาร่วมลงนามเลิกการจ่ายผลประโยชน์ให้เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรที่ประจำจังหวัด และตามด่านชายแดนอีกด้วย,ผมได้ออกคำสั่งอย่างจริงจังไปยังข้าราชการในกรมแล้วว่า ห้ามรับผลประโยชน์ใดๆกับผู้ประกอบการ โดยหลังเทศกาลสงกรานต์นี้ จะลงนามความร่วมมือกับผู้ประกอบการ และจะขอความร่วมมือในการแจ้งเบาะแสการเรียกรับผลประโยชน์ของเจ้าหน้าที่ และหากพบว่าเจ้าหน้าที่คนใดยังเรียกรับผลประโยชน์จะถูกลงโทษทันที,ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา ตนได้เดินทางไปที่ด่านศุลกากรเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี โดยได้หารือถึงการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประพฤติมิชอบของข้าราชการกรมศุลกากร โดยมีที่ปรึกษาของกรมรองอธิบดี และข้าราชการที่เกี่ยวข้องได้ร่วมประชุมด้วย ทุกคนเห็นร่วมกันว่า ข้าราชการ พนักงานราชการ ลูกจ้างชั่วคราว ทุกระดับและทุกคนควรเลิกรับผลประโยชน์ที่มิควรจะรับ จึงเกิดเป็นปฏิญญาเขมราฐขึ้นมา โดยกรมศุลกากรเองจะเตรียมจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมให้กับด่านศุลกากร และจัดสรรเงินให้ส่วนงานที่ต้องใช้งบประมาณจะได้ไม่ต้องมาอ้างว่าที่ต้องรับเงินจากผู้ประกอบการ เพราะมีภารกิจของหน่วยงานที่ต้องใช้เงิน. | พร้อมกันนี้ยังร้องขอไปยังภาคเอกชนและผู้ที่เกี่ยวข้องให้เลิกจ่ายผลประโยชน์หรือสินบนให้แก่คนในกรมศุลกากร โดยได้เตรียมหารือกับหน่วยงานภาคเอกชน เช่น สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย | null | ข่าวเศรษฐกิจ,สมชัย สัจจพงษ์,ศุลกากรร่างปฏิญญา,จับมือเอกชน,ล้างบางทุจริต,เลิกรับผลประโยชน์,ไม่รับผลประโยชน์ | https://www.thairath.co.th/content/493236 |
ผบ.สส.ชี้ภาพนักข่าวไทยกระทำไม่เหมาะสมในงานพระบรมศพ สมเด็จนโรดมสีหนุ ไม่กระทบความสัมพันธ์ | พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ยังระบุถึงกรณีประชาชนกัมพูชาไม่พอใจภาพการรายงานข่าวพระราชพิธีพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระนโรดมสีหนุของผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ที่เผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ต ว่า ไม่น่าส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาเพราะทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ได้ออกแถลงการณ์แก้ไขในสิ่งที่เกิดขึ้นทันที และทางการกัมพูชาก็ได้ออกแถลงการณ์ในเรื่องดังกล่าวแล้ว ขณะที่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็เดินทางไปถวายสักการะพระบรมศพในวันนี้ส่วนความสัมพันธ์ทางทหารไทย-กัมพูชา มีความแน่นแฟ้น และมีความร่วมมือที่ดีทุกด้าน โดยสามารถใช้ช่องทางการสื่อสารประสานงานทุกระดับ ซึ่งล่าสุดเมื่อวานนี้ ( 18 ต.ค.) พล.อ.เตีย บัณห์ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชาได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของไทย แต่หากจะมีบุคคลที่เข้ามาแทรกแซงความสัมพันธ์ก็คงเป็นผู้ไม่ประสงค์ดีผู้บัญชาการทหารสูงสุด ยังระบุถึงสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า มีกลไกภาครัฐดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ ภายใต้กรอบของกอ.รมน.และนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.รมน.ก็ได้ให้อำนาจผู้เกี่ยวข้องและบูรณาการทำงาน ทุกด้าน ซึ่งเชื่อว่า ทุกหน่วยงานพร้อมในการร่วมมือแก้ไขสถานการณ์ โดยในส่วนของตำรวจ ซึ่งถือเป็นหน่วยงานพื้นฐานในการดูแลความเรียบร้อยอยู่แล้วก็น่าจะพร้อมดำเนินการร่วมกัน เพราะทั้งทหาร ตำรวจ และทุกหน่วยงานมีความร่วมมือตามแผนงาน และ แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารอยู่แล้ว | ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ยืนยันว่ากรณีประชาชนกัมพูชาไม่พอใจการปฏิบัติหน้าที่ของผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ในพระราชพิธีพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระนโรดมสีหนุไม่กระทบความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา พร้อมเชื่อมั่นการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายใต้นโยบายนายกรัฐมนตรีที่เน้นบูรณาการการทำงาน | การเมือง | กระทำ,ความสัมพันธ์,งานพระศพ,นักข่าว,ผบ.สส.,สมเด็จนโรดมสีหนุ,ไทย,ไม่เหมาะสม | https://news.thaipbs.or.th/content/119599 |
พบผัก 6 ชนิดนำเข้าจาก จีน - เมียนมา มีสารตกค้าง | วันนี้ (1 พ.ย.2562) น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า หลังลงพื้นที่ด่านตรวจพืช อ.เชียงแสน จ.เชียงรายเมื่อ วันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมาพบว่า ด่านแห่งนี้สามารถตรวจสอบหาสารตกค้างได้ 32 ชนิดสาร ใน 3 กลุ่ม คือ ออร์กาโนคลอรีน 3 ชนิดสาร ไพรีทรอยด์ 7 ชนิดสาร และออร์กาโนฟอสเฟต 22 ชนิดสารน.ส.มนัญญา ระบุว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ด่านตรวจพืชได้สุ่มตรวจตัวอย่างผักและผลไม้นำเข้าจากจีนและเมียนมาพบว่า มีผักและผลไม้มีสารตกค้างเกินค่ามาตรฐาน ซึ่งบางส่วนก็พบว่ามีสารตกค้างที่ประเภทวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 หรือ วอ.4จึงได้ย้ำให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอย่างเข้มงวด เพราะส่งผลต่อสุขภาพผู้บริโภค แต่การตรวจสอบหาสารตกค้างยังมีอุปสรรคในเรื่องเครื่องมือที่ยังไม่ทันสมัยเพราะตรวจได้เฉพาะบางสารเท่านั้นทำให้ใช้เวลาในการตรวจสอบทั้งนี้ จะมีการหารือกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ขอให้ตรวจสารตกค้างเข้มงวด และเสนอให้มีการตั้งห้องปฏิบัติการกลางหนือแล็ปร่วมกันที่ด่าน อ.เชียงของ ซึ่งเป็นแล็ปที่ทันสมัย มีศักยภาพตรวจสารตกค้างได้กว่า 100 สารข้อมูลจากด่านตรวจพืช อ.เชียงแสน ระบุว่า ในปี 2562 มีการสุ่มตรวจตัวอย่างผักและผลไม้นำเข้ากว่า 1535 ตัวอย่าง จาก 5 ด่านหลักในพื้นที่ภาคเหนือ พบเกินค่า MRLs 106 ตัวอย่าง จากตัวอย่างสุ่มเก็บทั้งหมด 1535 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 6.9แต่ที่น่ากังวลคือ การตรวจพบกลุ่มตัวอย่าง 14 ตัวอย่างในผัก 6 ชนิด มีสารตกค้างประเภท วอ.4 คือ ห้ามผลิต นำเข้า ส่งออก หรือมีไว้ในครอบครองโดยมาจากจีน 7 ตัวอย่าง คือ กะหล่ำปลีม่วง 3 ตัวอย่าง ขึ้นฉ่าย พริก แรดิช บรอกโคลี อย่างละ 1 ตัวอย่างส่วนเมียนมามี 7 ตัวอย่าง พบใน พริก 6 ตัวอย่าง พริกหยวก 1 ตัวอย่าง คิดเป็น 0.9 จากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด และที่พบเกินค่า MRLs 100% คือส้ม จากเมียนมา ที่ผ่านด่านตรวจพืชแม่สายน.ส.อัชลี นามวงษ์ นายด่านตรวจพืช ด่านเชียงแสน ระบุว่า หากตรวจพบสารตกค้างจะมีการรายงานไปยังด่านตรวจพืชที่ไปเก็บตัวอย่างทุกเดือน และรายงานไปยังกรมวิชาการเกษตรทุก 3 เดือนทั้งนี้ กรมวิชาการเกษตรไม่มีสิทธิทางกฎหมายที่จะห้ามนำเข้า เป็นส่วนของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบเพราะตามกฎหมายสารตกค้างในพืชผักผลไม้โดยแต่ละปี จะสามารถตรวจสอบกลุ่มตัวอย่างได้ประมาณ 1500 ตัวอย่างเท่านั้นตามงบประมาณและบุคลากรที่มี หากมีการจัดซื้อเครื่องตรวจหาสารตกค้างใหม่ที่มีประสิทธิภาพจะทำให้การตรวจหาสารตกค้างทำได้เร็วขึ้นสามารถตรวจวิเคราะห์สารพิษตกค้างได้หลายชนิดในการตรวจวิเคราะห์เพียงครั้งเดียวสำหรับปริมาณการนำเข้าผักผลไม้สด ผ่านด่านเชียงแสน ปี 2561 มีปริมาณ 119 ตัน มูลค่า 1.35 ล้านบาท ส่วนปี 2562 ตั้งแต่เดือนม.ค. - 23 ก.ย.มีการนำเข้ามันฝรั่งปริมาณ 1650 ตัน มูลค่า 31 ล้านบาทส่วนสินค้าเกษตรแห้ง เช่น กระเทียม กระเทียมอบแห้ง เมล็ดทานตะวัน ปี 2561 ปริมาณนำเข้า 38808 ตัน มูลค่า 643 ล้านบาท และปี 2562 ม.ค. - 23 ก.ย. ปริมาณนำเข้า 23420 มูลค่า 373 ล้านบาท | รมช.เกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจ ด่านตรวจพืชใน จ.เชียงราย พบมีผักจากจีนและเมียนมา 6 ชนิด มีสารตกค้างจากยาฆ่าแมลงประเภท วอ. 4 ขณะที่ส้มจากเมียนมา พบการตกค้างของสารสูงถึง 100 เปอร์เซ็นต์ เตรียมหารือสาธารณสุขตั้งห้องปฏิบัติการกลางตรวจหาสารตกค้างร่วมกัน | เศรษฐกิจ | สารตกค้าง,ผักจีน,นำเข้า,ด่านเชียงแสน,มนัญญา | https://news.thaipbs.or.th/content/285725 |
คืน 2 แสน-ลาออก เชษฐ์ ยันไม่เกี่ยว ส.ท.อมเงินบริจาค รพ.ชลบุรี | กรณีเพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้รีเทิร์น ได้ออกมาเปิดเผยถึงการเรียกร้องให้ ส.ท.คนหนึ่งนำเงินที่ได้จากการบริจาคในการวิ่งการกุศล หารายได้ให้ รพ.ชลบุรี โดยมี เชษฐ์ สไมล์บัฟฟาโล ได้รับเชิญมาร่วมวิ่งด้วยนั้น และต่อมาเพจดังกล่าวก็ได้นำข้อความที่อ้างว่าเป็นคำพูดของ ส.ท.ต้น ได้ยอมรับว่านำเงินจำนวนดังกล่าวไปใช้จ่ายส่วนตัวจริง และจะนำมาคืนให้เต็มจำนวน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ระบุว่าเป็นการหักค่าใช้จ่ายในการจัดงานวิ่ง ซึ่งผู้สื่อข่าวพยายามโทรศัพท์ติดต่อไปยัง ส.ท.ต้น เพื่อให้ออกมาชี้แจง เพราะไปพูดว่า ได้ให้รายละเอียดกับสื่อไปแล้ว แต่ไม่สามารถติดต่อ ส.ท.ต้น ได้,ขณะเดียวกัน เวลา 12.00 น. วันที่ 14 ส.ค. ที่ที่ว่าการอำเภอเมืองชลบุรี นายวรเชษฐ์ เอมเปีย หรือ เชษฐ์ สไมล์บัฟฟาโล พร้อมด้วย นายกฤษณพันธ์ เดชครุธ นายอำเภอเมืองชลบุรี นายจักรวาล ตั้งประกอบ นายกเทศมนตรีเมืองบ้านสวน และนายแพทย์อนุพงษ์ สุธรรมนิรันดร์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลชลบุรี ได้ร่วมกันเปิดเผยถึงรายละเอียดการวิ่งการกุศลของโครงการวิ่งด้วยใจมอบให้โรงพยาบาลชลบุรี ซึ่งมี ส.ท.เมืองบ้านสวนคนหนึ่งเป็นคนจัดและหลังโครงการเสร็จสิ้นได้สรุปยอดเงินทั้งหมด 401,500 บาท ปรากฏว่าไม่มีการนำเงินไปให้ทางโรงพยาบาลชลบุรี จนทำมีการทวงถาม จึงได้มีการนำมาให้ก่อน 2 แสนบาท ,นายวรเชษฐ์ เอมเปีย กล่าวว่า ตนเองได้รับการติดต่อให้มาช่วยวิ่งเท่านั้น ไม่ใช่โครงการวิ่งร้อยล้านของตน ไม่มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับเงิน และไม่เกี่ยวข้องกับคนอื่นทั้งสิ้น เพราะ ส.ท.คนนี้ได้ให้ทางธนาคารแห่งหนึ่งที่มาร่วมนับเงิน โอนเข้าชื่อของตัวเอง ขณะนี้ได้ออกมาเปิดเผยแล้วว่าจะนำเงินที่เหลือมาคืนคือ 201,500 บาท และจะลาออกจากตำแหน่ง ส.ท.บ้านสวน ซึ่งในส่วนนี้ตนเองจะไม่แจ้งความดำเนินคดี เพราะเห็นแก่ครอบครัว แต่ก็อยากให้มีการกำหนดวันเวลาคืนเงินอย่างแน่ชัด เพื่อให้สังคมรับรู้ด้วย เนื่องจากเป็นเงินของประชาชนที่ตั้งใจบริจาคมอบให้กับทางโรงพยาบาลซื้อเครื่องมือช่วยเหลือผู้ป่วย,ด้านนายจักรวาล ตั้งประกอบ นายกเทศมนตรีเมืองบ้านสวน เผยว่า เรื่องนี้ทำให้ทางเทศบาลได้ความเสื่อมเสีย เบื้องต้นได้มีการแจ้งไปให้ทางประธานสภาเทศบาลเมืองบ้านสวนรับทราบแล้ว และจะนำเรื่องเข้าประชุมสภาเทศบาลในวันศุกร์ที่ 17 สิงหาคม นี้. | เชษฐ์ สไมล์บัฟฟาโล ออกมายืนยัน ไม่เกี่ยวข้องกับ ส.ท.บ้านสวน ที่นำเงินจากการวิ่งการกุศลช่วย รพ.ชลบุรี ไปใช้จ่ายส่วนตัว จี้ให้กำหนดวันคืนเงินกว่า 2 แสน เพื่อที่สังคมจะให้อภัย
| ข่าว,ทั่วไทย | วิ่งการกุศล,อมเงินวิ่ง,เงินบริจาค,รพ.ชลบุรี,วรเชษฐ์ เอมเปีย,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/east/1354277 |
พรินซ์ ตำนานนักร้อง-นักดนตรีดังมะกัน เสียชีวิตแล้วในวัย 57 ปี | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า พรินซ์ นักดนตรี นักร้องชาวอเมริกัน ผู้มีชื่อเสียงและได้รับการยกย่องว่า มีอิทธิพลต่ออุตสาหกรรมดนตรีของสหรัฐฯ เสียชีวิตแล้วที่ เพสลีย์ พาร์ค สตูดิโอและบ้านของเขาในเมือง แชนแฮสเซน รัฐมินเนสโซตา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 เม.ย. ขณะมีอายุได้ 57 ปี,โฆษกหญิงของตำนานนักดนตรีรายนี้ออกมาเปิดเผยข่าวการเสียชีวิตของ พรินซ์ เป็นเรื่องที่น่าเศร้าอย่างที่สุด ที่ฉันต้องยืนยันว่า ตำนาน, สัญลักษณ์ และนักแสดง พรินซ์ โรเจอร์ส เนลสัน เสียชีวิตแล้ว และในตอนนี้ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องอื่นๆ เช่น สาเหตุการเสียชีวิต เป็นต้น,ด้านนายอำเภอ จิม โอลสัน ของเขต คาร์เวอร์ เคาน์ตี ระบุในแถลงการณ์ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการโทรแจ้งขอความช่วยเหลือทางการแพทย์จาก เพสลีย์ พาร์ค ในเวลา 09.43 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงก็พบ พรินซ์ นอนไม่ตอบสนองอยู่ภายในลิฟต์ เจ้าหน้าที่พยายามทำ ซีพีอาร์ แต่ไม่อาจยื้อชีวิตของเขาไว้ได้ และประกาศการเสียชีวิตในเวลา 10.07 น.,ทั้งนี้ พรินซ์เกิดในปี 1958 ในวัยหนุ่มเขาเป็นนักเขียนและนักแสดงที่มีผลงานมากมาย มีรายงานด้วยว่า เขาแต่งเพลงแรกตอนอายุ 7 ขวบ และผลงานเพลงของเขาเกือบทั้งหมด แต่ง, ปรับแต่ง, ผลิต และเล่นด้วยตัวของเขาเอง,ช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขามาพร้อมกับวง The Revolution วงแรกของเขา (1979-1989) ซึ่งในช่วงนั้น พรินซ์แต่งเพลงร็อคคลาสสิกมากกว่า 24 เพลง รวมทั้งเพลงฮิตของเขา Kiss, Lets Go Crazy และ When Doves Cry และตลอดชีวิต เขาบันทึกเสียงมากกว่า 30 อัลบั้ม พรินซ์ยังแต่งเพลงให้ศิลปินหลายคนด้วย เช่น Nothing Compares 2U ของ ชิเนด โอคอนเนอร์ ที่โด่งดังไปทั่วโลกในปี 1990,พรินซ์ประสบความสำเร็จในชีวิตมากมาย เช่น ในปี 1984 พรินซ์ได้รับรางวัลออสการ์สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่อง Purple Rain ซึ่งเขาก็ร่วมแสดงด้วย ในปี 2004 เขาได้รับการบรรจุชื่อลงในทำเนียบ หอเกียรติยศร็อคแอนด์โรล,อัลบั้มสุดท้ายของพรินส์คือ HITnRUN Phase Two ออกเมื่อช่วงปลายปีก่อน และเขากำลังอยู่ระหว่างทัวร์คอนเสิร์ตจนกระทั่งสัปดาห์ก่อน ในวันที่ 15 เม.ย. พรินซ์ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลหลังจากเครื่องบินส่วนตัวของเขาลงจอดฉุกเฉินในรัฐอิลลินอยส์ ไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่เขาจะขึ้นแสดงที่รัฐจอร์เจีย แต่สามารถกลับบ้านได้หลังจากเข้ารับการรักษาไม่กี่ชั่วโมง,อนึ่ง หลังจากข่าวการเสียชีวิตของพรินซ์ได้รับการเปิดเผยออกมา แฟนๆ ทั่วโลกของเขาต่างร่วมแสดงความเสียใจและความอาลัยลงบนโลกออนไลน์ เช่นเดียวกันกับเหล่าดาราคนดังในวงการดนตรี เช่น มาดอนนา ออกมาระบุว่า พรินซ์เป็นคนมีวิสัยทัศน์ผู้เปลี่ยนโลก เคที เพอร์รี ระบุว่า โลกสูญเสียสิ่งมหัศจรรย์มากมาย หรือ บอย จอร์จ ซึ่งออกมาระบุว่า วันนี้เป็นวันที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยมี พรินซ์ หลับให้สบาย ฉันกำลังร้องไห้.,,เผยผลชันสูตรศพ พรินซ์ เบื้องต้น ไม่พบร่องรอยทำร้ายร่างกาย - ฆ่าตัวตาย | พรินซ์ ตำนานนักดนตรี นักร้องชาวอเมริกัน ผู้เปลี่ยนอุตสาหกรรมดนตรีสหรัฐฯ เสียชีวิตแล้วในวัย 57 ปี เมื่อวันพฤหัสบดี โดยขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิตของเขา | null | พรินซ์เสียชีวิต,พรินซ์,ตำนานนักร้อง,นักดนตรี,อุตสาหกรรมดนตรี,สหรัฐ,เพสลีย์ พาร์ค,รัฐมินเนสโซตา,พรินซ์ โรเจอร์ส เนลสัน,Kiss,Let's Go Crazy,When Doves Cry,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวต่างประเทศ | https://www.thairath.co.th/content/609317 |
ยูเอ็นรับรองสถานะ ผู้ลี้ภัยพม่า ในมาเลเซียเพิ่มขึ้น | - สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ได้ให้การรับรองสถานะแก่ผู้ลี้ภัยชาวชิน มอญ ไทยใหญ่และคะฉิ่นจากพม่าที่อาศัยอยู่ในมาเลเซีย จำนวนกว่า 11 000 คนในปีนี้ทั้งนี้ ตัวเลขผู้ลี้ภัยทั้งหมดประกอบด้วย ชาวชินจำนวน 5000 คน ชาวมอญ 1800 และชาวคะฉิ่นและไทยใหญ่อีกจำนวน 1000 คน รวมถึงผู้ลี้ภัยกลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง ในขณะที่ชาวอาระกันยังไม่ได้รับการรับรองสถานะในปีนี้ อย่างไรก็ตาม นับเป็นปีแรกที่ทาง UNHCR ให้การยอมรับผู้ลี้ภัยจากพม่าในจำนวนมากขนาดนี้ด้านสมาชิกสหพันธ์ผู้ลี้ภัยชาวชิน (The Alliance of Chin Refugees หรือ ACR) เปิดเผยว่า ต้นปีที่ผ่านมา ผู้ลี้ภัยจากพม่าต้องประสบกับความยากลำบาก หลังรัฐบาลไทยใช้มาตรการปราบปรามแรงงานจากพม่า ที่พยายามลักลอบเข้าไทยผ่านชายแดนไทย – มาเลเซีย ขณะที่ ACR เปิดเผยว่า มีชาวชินอาศัยอยู่ในมาเลเซียจำนวนกว่า 50000 คน และได้รับการรับรองจาก UNHCR นับตั้งแต่ปี 2544 จำนวน 20000 คนนายรอยมอน เจ้าหน้าที่จากสำนักงานผู้ลี้ภัยชาวมอญ (Mon Refugee Office - MRO) ในมาเลเซียเปิดเผยว่า ทางองค์กรกำลังดำเนินการขอสถานะผู้ลี้ภัยจาก UNHCR ให้กับชาวมอญจำนวน 3000 คน ทั้งนี้ ในปี 2550 ทาง UNHCR ไม่รับรองสถานะผู้ลี้ภัยแก่ชาวมอญแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ในปี 2551 มีชาวมอญจำนวน 500 คนที่ได้รับการรับรองตัวเลขจาก MRO ระบุว่า มีชาวมอญอาศัยอยู่ในมาเลเซียประมาณ 20000 คน ส่วนใหญ่ยังไม่มีสถานะที่ถูกต้องตามกฎหมายนายรอยมอนกล่าวอีกว่า ผู้ที่ได้รับการรับรองสถานะผู้ลี้ภัยจาก UNHCR ส่วนใหญ่เป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี โดยเฉพาะเด็กจากครอบครัวที่มีลูกมากแต่กำพร้าพ่อ รวมถึงชายอายุ 50 ปีทั้งนี้ หากผู้ลี้ภัยมีบัตรประจำตัวที่ UNHCR ออกให้และถูกจับจะได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ UNHCR ในระหว่างที่ถูกควบคุมตัว ขณะที่ผู้ลี้ภัยที่ได้รับการรับรองสถานะอาจต้องรอถึง 1 ปีหรือนานกว่านั้นก่อนที่จะถูกส่งตัวไปประเทศที่สามเมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา มีการจดทะเบียนให้แก่ผู้ลี้ภัยในมาเลเซียจำนวนกว่า 67800 คน ซึ่งพบว่าในจำนวนนี้ราว 62000 คนมาจากพม่า อย่างไรก็ตาม UNHCR ระบุว่า ยังคงมีผู้ลี้ภัยจากพม่าในมาเลเซียที่ยังไม่ได้รับการสำรวจและจดทะเบียน ซึ่งอาจมีมากถึง 30000 คนทั้งนี้ ผู้ลี้ภัยจากพม่าในไทยจำนวนมากต้องการเดินทางเข้ามาเลเซียเพื่อยื่นขอรับรองจาก UNHCR ซึ่งผู้ลี้ภัยบางคนต้องจ่ายเงินจำนวน 18000 บาท หรือมากกว่านั้นเพื่อลักลอบเข้ามาเลเซีย ขณะที่พบว่า รัฐบาลมาเลเซียร่วมมือกับ UNHCR ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมมาตั้งแต่ปี 2518 แม้มาเลเซียลงนามในสนธิสัญญาว่าด้วยการให้สถานะแก่ผู้ลี้ภัยร่วมกับยูเอ็นก็ตามอนึ่ง ประเทศที่สามซึ่งผู้ลี้ภัยจากพม่าได้รับการส่งตัวไป อาทิ อเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส นิวซีแลนด์ สวีเดน เดนมาร์ก นอร์เวย์ที่มา: แปลจาก Irrawaddy 2 ธ.ค.52 | Irrawaddy 2 ธ.ค.52 - สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ได้ให้การรับรองสถานะแก่ผู้ลี้ภัยชาวชิน มอญ ไทยใหญ่และคะฉิ่นจากพม่าที่อาศัยอยู่ในมาเลเซีย จำนวนกว่า 11 000 คนในปีนี้ ทั้งนี้ | คุณภาพชีวิต,ต่างประเทศ,สิทธิมนุษยชน | UNHCR,คะฉิ่น,ผู้ลี้ภัย,พม่า,มอญ,สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ,ไทใหญ่ | https://prachatai.com/journal/2009/12/26854 |
ภาคเอกชนเสนอขยายถนนทำบัสเลนลดอุบัติเหตุทางลงเขาป่าตอง จ.ภูเก็ต | วันนี้ (10 ส.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพของถนนที่คดเคี้ยวและสูงชันบริเวณทางขึ้นและลงเขาปาตอง อ.กระทู้ จ.ภูเก็ต ทำให้ในช่วงปี 2560 มีอุบัติเหตุใหญ่เกิดขึ้นแล้ว 3 ครั้ง คือวันที่ 29 มิถุนายน 10 กรกฎาคม และวันที่ 6 สิงหาคม ทำให้เกิดความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวและประชาชนที่สัญจรไปมา รวมถึงบ้านเรือนและสถานประกอบการที่อยู่ในบริเวณดังกล่าว ซึ่งก่อนหน้านี้ ภาคเอกชนได้เสนอให้มีการสร้างอุโมงค์ทางลอดเขาป่าตอง โดยได้ศึกษาความเป็นไปได้หลายครั้ง และล่าสุด รัฐบาลได้มอบหมายให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทยเข้ามาดูแล ซึ่งได้ข้อสรุปว่าอาจจะต้องใช้เงินลงทุนกว่า 14000 ล้านบาท จึงเป็นไปได้ยากในการที่จะดำเนินโครงการ เนื่องจากอาจไม่คุ้มทุนด้านนายภูริต มาศวงศ์ศา คณะกรรมการพัฒนาพื้นที่การท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดอันดามัน เปิดเผยว่า โครงการก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดป่าตองอาจเป็นไปได้ยาก เพราะใช้งบประมาณจำนวนมหาศาล แต่เบื้องต้นได้เสนอให้ยกเลิกกำแพงภาษีรถนำเข้า เพื่อให้มีรถประกอบนอกแบบสมบูรณ์ปลอดภัย มาใช้แทนรถจดประกอบที่ไม่มีดิสก์เบรกไฟฟ้า และให้รัฐบาลเร่งเวนคืนที่ดินเพื่อปรับระดับถนนใหม่ตลอดเส้นทางขึ้นและลงเขา พร้อมทั้งบังคับให้รถโดยสารประจำทางวิ่งในช่องจราจรที่กำหนดด้วยการจำกัดความเร็ว | ภาคเอกชนใน จ.ภูเก็ต เสนอแนวทางแก้ปัญหาอุบัติเหตุทางขึ้นและลงเขาป่าตอง โดยให้รัฐบาลเวนคืนที่ดินเพื่อขยายแนวเขตเส้นทาง และจัดทำช่องจราจรสำหรับรถโดยสารประจำทางขนาดใหญ่ ระหว่างการพิจารณาอนุมัติก่อสร้างอุโมงค์ลอดเขาป่าตอง ซึ่งใช้งบประมาณกว่า 14000 ล้านบาท | ภูมิภาค | ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ภาคเอกชน,ขยายถนน,บัสเลน,อุบัติเหตุ,ทางลงเขาป่าตอง,ป่าตอง,ภูเก็ต,อุโมงค์ลอดเขาป่าตอง,อุโมงค์ | https://news.thaipbs.or.th/content/265110 |
ไปฟัง คอนเต พูดถึง กูร์กตัวส์ หลังตะบันจุดโทษพลาด | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 7 ส.ค. ว่า อันโตนิโอ คอนเต ผู้จัดการทีมชาวอิตาลีของ สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี ทีมดังแห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกมาพูดถึงกรณีที่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูมือหนึ่งชาวเบลเยียมของทีม ที่อาสายิงจุดโทษแต่ก็พลาดไปในศึก คอมมิวนีตี ชิลด์ เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา,โดยในเกมดังกล่าว สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี มาได้ขึ้นนำไปก่อนในนาทีที่ 46 จากการทำประตูของ วิคเตอร์ โมเสส แต่ในช่วงท้ายเกมนาทีที่ 82 ปืนใหญ่ อาร์เซนอล ก็มาตีเสมอได้สำเร็จจากการโหม่งของ เซอัด โคลาซินัค ส่งผลให้เสมอในเวลาปกติ 90 นาทีต้องตัดสินด้วยการยิงลูกจุดโทษ ซึ่งทาง กูร์กตัวส์ เป็นหนึ่งในมือปืนสังหารด้วยแต่เจ้าก็ยิงพลาดหลังซัดโด่งออกไปแบบไม่มีลุ้น,ล่าสุด อันโตนิโอ คอนเต ก็ออกมากล่าวถึงลูกทีมคนนี้ว่า ถ้าคุณมีผู้เล่นที่แสดงให้เห็นว่าคุณเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีสำหรับการทำหน้าที่นั้นๆ ในระหว่างการฝึกซ้อมคุณก็ควรเลือกเขา (ติโบต์) ไม่ใช่หรอ เช่นเดียว อัลบาโร เขาก็รับโอกาสนั้น กุนซือวัย 47 ปีระบุ | อันโตนิโอ คอนเต กุนซือคนเก่งของ เชลซี ออกโรงพูดถึงกรณีที่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ นายด่านมือหนึ่งของทีมชาวเบลเยียม ตะบันจุดโทษข้ามคานออกไปไกลลั่นทุ่ง | กีฬา,ฟุตบอลยุโรป | อันโตนิโอ คอนเต,ติโบต์ กูร์กตัวส์,เชลซี,คอมมิวนีตี ชิลด์ | https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/1029555 |
เปิดใจ วินมอเตอร์ไซค์ฮีโร่ ช่วยตำรวจ รอดตายเหตุกราดยิง (คลิป) | จากกรณีเหตุคนร้ายกราดยิงที่โคราชส.ต.ท.กรกต อ่ำพันเงิน ผบ.หมู่ ป.สภ.เมืองฯ ถูกคนร้ายยิงบาดเจ็บ ขณะเข้าไปลำเลียงเด็กออกจากโรงเรียนบุญวัฒนา และนำยางรถยนต์มาปิดทาง ซึ่งหลังจากถูกยิง มีวิน จยย. เข้ามาช่วยเหลือจนรอดชีวิตมาได้ ทราบชื่อต่อมาคืออส.ทพ.พัทธพล พรมอ่อน สังกัด ร้อย.ฉก.ทพ.2212 ที่อยู่ในห้วงลาพักร้อน และใช้เวลาว่างมาขับวิน จยย.หน้าทางเข้าโรงเรียนบุญวัฒนา เพื่อหารายได้ช่วยเหลือครอบครัวอส.ทพ.พัทธพล เล่าว่า ขณะเกิดเหตุตนนั่งอยู่ที่วิน หน้าโรงเรียนบุญวัฒนา เห็นเหตุการณ์ที่คนร้ายกราดยิง มีเจ้าหน้าที่ตำรวจตะโกนให้ตนและเพื่อนที่ขับวินให้ช่วยกันนำเด็กนักเรียนออกไปให้หลบในที่กำบัง จึงได้เข้าไปช่วยเหลือร้องบอกให้เด็กที่กําลังจะเดินออกมาจากโรงเรียนเพื่อกลับบ้าน ให้หลบเข้าที่กําบัง ไม่นานตนก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด และเห็นเจ้าหน้าที่ตํารวจถูกยิงล้มลงอยู่ด้านหน้า ตนเองจึงได้วิ่งเข้าไปพยุง เอาตัวออกมาจากจุดเกิดเหตุ เพราะประเมินว่าถ้าอยู่ตรงนั้นคนร้ายต้องเข้ามายิงซ้ำแน่เมื่อเห็นบาดแผลถูกยิงที่ขามีเลือดออกมาก จึงใช้เสื้อของตำรวจมาผูกรัดห้ามเลือดไว้ก่อนตามหลักการปฐมพยาบาลที่เคยอบรมมา จากนั้นก็ประสานชุดกู้ชีพเข้าช่วยเหลือ จนคนร้ายขับรถหนีไปจากบริเวณดังกล่าวส่วนทางด้านบริเวณประตูวัดป่าศรัทธารวม ซึ่งเป็นบริเวณที่มีผู้ถูกค้นร้ายยิงเสียชีวิต 9 ราย ก็มีประชาชนนำดอกไม้มาวางเพื่อเป็นการไว้อาลัยเป็นจำนวนมาก. | เปิดใจ วินมอเตอร์ไซค์ฮีโร่ ช่วยชีวิตตำรวจถูกยิงจากเหตุการณ์จ่าทหารกราดยิงโคราช ประชาชนนำดอกไม้วางหน้าประตูวัด ไว้อาลัยให้ผู้เสียชีวิต | ข่าว,สังคม | กราดยิงโคราช,คนร้ายกราดยิง,วิสามัญ คนร้ายกราดยิงโคราช,ฮีโร่,วินจักรยานยนต์,ช่วยตำรวจ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1769583 |
เตือนเล่นน้ำทะเลอ่าวไทยระวัง แมงกะพรุนพิษ | วันนี้ (22ส.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่เทศบาลหาดเจ้าสำราญ จ.เพชรบุรี ประกาศเสียงตามสายเตือนให้นักท่องเที่ยว ที่ลงเล่นน้ำทะเลริมชายหาด เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะเป็นช่วงมรสุม แมงกะพรุนจำนวนมากถูกน้ำทะเลซัดเข้าหาฝั่งตลอดแนวทะเลอ่าวไทย โดยเฉพาะในเขตจังหวัดเพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งพบว่า 1-2 วันนี้มีนักท่องเที่ยวหลายคนได้รับบบาดเจ็บเพราะพิษของแมงกะพรุนนายบุญยอด มาคล้าย นายกเทศมนตรีเทศบาลหาดเจ้าสำราญ จ.เพชรบุรี บอกว่า ในช่วงสัปดาห์นี้มีแมงกะพรุนเยอะขึ้น และมีนักท่องเที่ยว 10 กว่าคนที่โดน แต่เป็นเล็กๆน้อยๆ ซึ่งไม่มากนัก เนื่องจากทางเทศบาลมีการประกาศเสียงตามสายตลอดเวลาเพื่อเตือน โดยเฉพาะกลุ่มเด็กๆ เราไม่ให้จับเล่นโดยที่ชายหาดเจ้าสำราญ เจ้าหน้าที่ห้ามไม่ให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำขณะฝนตก เพราะแมงกะพรุนจะชุกชุม และใช้อวนล้อมกันพื้นที่เพื่อป้องกันแมงกะพรุนเข้ามายังพื้นที่เล่นน้ำ พร้อมทั้งเตรียมน้ำส้มสายชูไว้ตามจุดบริการเพื่อให้นักท่องเที่ยวใช้ราดบาดแผลกรณีที่ถูกพิษแมงกะพรุนทั้งนี้ แมงกะพรุนที่พบริมชายหาดทะเลอ่าวไทยในเวลานี้ส่วนใหญ่เป็นแมงกะพรุนหนัง ไม่มีพิษร้ายแรง ซึ่งจะพบมากในช่วงที่มีฝนตกหนัก โดยเฉพาะในเดือนส.ค.ไปจนถึงปลายเดือนธ.ค.น.ส.ดวงทิพย์ อู่เงิน นักวิทยาศาสตร์ สถานีวิจัยย่อยชะอำ มหาวิทยาลัยบูรพา บอกว่า แมงกะพรุนที่เจอมาก พบเป็นแมงกะพรุนหนังเป็นแมงกะพรุนที่เขานำมาทำอาหาร และมีแมงกะพรุนไส้ไก่ ทั้งนี้แมง กะพรุนทุกสายพันธุ์ส่วนใหญ่มีพิษ แต่ไม่ร้ายแรง และที่มีพิษคือแมงกะพรุนไฟ จะมีหนวดสายยาวๆ ตัวแดงๆ และให้สังเกตว่าที่หมวกที่ของมันจะไม่มีพิเษ แต่พิษจะอยู่ด้านล่าง ปวดแสบปวดร้อน ถ้าไม่ใช้น้ำส้มสายชูราดเขาแพ้มากจนเสียชีวิตได้แต่ชายทะเลอ่าวไทย นอกจากแมงกะพรุนหนังแล้ว ยังพบแมงกะพรุนที่มีพิษร้ายปนอยู่ด้วย 2 ชนิด คือแมงกะพรุนไฟ ที่มีลักษณะคล้ายร่ม ลำตัวสีขาว หรือสีส้ม หากสัมผัสแล้วจะปวดแสบปวดร้อน เช่นเดียวกับลักษณะคล้ายหัวขวดหรือทุ่นลอย ซึ่งมีพิษรุนแรงกว่า ใครที่แพ้อาจทำให้เสียชีวิตได้อีกชนิดคือแมงกะพรุนกล่อง มีทั้งที่มีหนวดเส้นเดียวและหลายเส้น แต่พิษจะรุนแรงกว่าแมงกะพรุนไฟ ผิวหนังที่สัมผัสจะเป็นรอยไหม้ เป็นตะคิว และหากได้รับพิษในปริมาณมากจะทำให้หมดสติและเสียชีวิตได้ด้านนางเสาวภา สวัสดิ์พีระ ผอ.สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเลแห่งมหาวิทยาลัย บอกว่าแมงกะพรุนกล่อง ไม่ใช่แมงกะพรุนที่แท้จริงแต่มีพิษแรง ที่มีข่าวว่านักท่องเที่ยวโดนแล้วเสียชีวิต เพราะแต่จะสายของแมงกะพรุนจะมีพิษอยู่ ตั้งแต่ปี 2542 จนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตจากพิษแมงกะพรุนในไทยแล้ว 8 คน บาดเจ็บจนถึงขั้นหมดสติอีก 12 คน ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากประเทศแถบยุโรป โดยพื้นที่ที่เกิดเหตุมากสุดคือจังหวัดสุราษฎร์ธานี | เตือนนักท่องเที่ยวเล่นน้ำทะเลฝั่งอ่าวไทย โดยเฉพาะ จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเพราะมีแมงกะพรุนจำนวนมาก บางชนิดมีพิษร้ายแรงอาจทำให้เสียชีวิตได้ จนท.ต้องคอยประกาศเสียงตามสายแจ้งเตือนเด็กๆและนักท่องเที่ยว | ภูมิภาค | ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,แมงกะพรุน,อ่าวไทย,ทะเล,ประจวบคีรีขันธ์,เพชรบุรี | https://news.thaipbs.or.th/content/265437 |
สาวบุกยิงเจ้าอาวาส6นัด อ้างถูกสั่งไปทำแท้ง จึงอยากให้รู้ถึงความเจ็บปวด | ว่าความเจ็บปวดเป็นอย่างไร ,เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 27 มี.ค. 2560 ร.ต.อ.วิโชคชัย อ่อนละมัย รอง สว.(สอบสวน) สภ.สรรคบุรี รับแจ้งเหตุใช้อาวุธปืนยิงพระที่วัดอารีทวีวนาราม บ้านหนองอีดุก หมู่ 5 ต.ดงคอน อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท ได้รับบาดเจ็บสาหัส รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญญูจังหวัดชัยนาท,ที่เกิดเหตุพบพระณัฐพล จิตรจำนงค์ อายุ 42 ปี เจ้าอาวาสวัดอารีทวีวนาราม ได้รับบาดเจ็บสาหัสหลังถูกยิงเข้าที่ท้อง 2 นัด และที่ขาขวาอีก 1 นัด นอนจมกองเลือดอยู่ที่บริเวณใต้ศาลาวัด เริ่มหายใจติดขัด จึงรีบประสานแพทย์โรงพยาบาลสรรคบุรี เร่งนำตัวไปทำการรักษาอย่างเร่งด่วน ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 5 เมตร พบปลอกกระสุน .38 ซุปเปอร์ ตกอยู่ 6 ปลอก ส่วนคนร้ายถูกจับกุมพร้อมอาวุธปืนในที่เกิดเหตุทันที ชื่อ น.ส.บุ๋ม(นามสมมติ) อายุ 31 ปี อยู่หมู่ 1 ต.บางขุด อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท,จากการสอบสวนชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่า วันนี้เป็นวันพระใหญ่ ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า วันตรุษ จะมีการทำบุญ 3 วัน วันนี้เป็นวันแรก ทำให้ชาวบ้านมารวมตัวกันหลายร้อยคน พอหลังจากทำบุญเสร็จชาวบ้านกำลังจะแยกย้ายกันกลับบ้าน พระณัฐพลได้เดินเอาข้าวมาให้สุนัขที่ใต้ศาลา จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 6 นัด ชาวบ้านรีบวิ่งมาดูและช่วยกันจับตัวคนร้ายไว้ได้,สอบสวน น.ส.บุ๋ม คนร้ายยิงเจ้าอาวาสคาวัด ให้การ โดยอ้างว่า ก่อนที่จะก่อเหตุนั้น ตนฟังเพลง มือปืน ของพงษ์สิทธิ์ คำภีร์ แล้วเกิดความฮึกเหิม ผสมโรงกับความแค้นที่ พระณัฐพล ตัดความสัมพันธ์ที่มีต่อกัน รวมไปถึงความโกรธ ที่พระณัฐพล ให้ตนไปทำแท้ง เอาลูกออก จึงซุ่มรอให้พระณัฐพลเสร็จกิจของสงฆ์ จึงนำปืนกระหน่ำยิง เพื่อให้พระณัฐพลได้รู้ถึงความเจ็บปวดที่สั่งให้ตนไปทำแท้งบ้างว่า มันเป็นเช่นไร เจ็บปวดและทรมานขนาดไหน,ขณะที่อาการพระณัฐพล ขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เนื่องจากกระสุนไม่ถูกจุดสำคัญ ส่วนเรื่องที่คนร้ายกล่าวหานั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรอให้พระณัฐพลอาการดีขึ้นก่อน จึงจะสอบปากคำว่า ที่ผู้ต้องหาพูดมานั้น เป็นความจริงหรือไม่ เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาคดีต่อไป. | สาววัย 31 ปีที่ชัยนาทฟังเพลงของพี่ปู พงษ์สิทธิ์ แล้วฮึกเหิม พก .38 มาที่วัดรอจนเจ้าอาวาสหนุ่มวัย 42 เสร็จกิจทางสงฆ์ลงมาใต้ถุนศาลา ชักปืนออกมาซัลโว 6 นัด ล้มฟุบบาดเจ็บสาหัส อ้างถูกฝ่ายชายตัดสัมพันธ์ ทั้งสั่งให้ไปทำแท้ง จึงอยากให้รู้ | ข่าว,อาชญากรรม | ยิงพระ,ยิงเจ้าอาวาส,สาวบุกยิงเจ้าอาวาส,วัดอารีทวีวนาราม,ชัยนาท | https://www.thairath.co.th/news/crime/896980 |
แพนเค้ก พา พี่หมี เที่ยวบ้านสวนของครอบครัว กว้างขวางและน่าอยู่สุดๆ | ช่วงนี้ต้องเก็บตัวอยู่บ้านกัน เลยทำให้ดาราคนดังหลายคนในวงการบันเทิงที่เคยมีงานชุกแบบไม่มีว่างเว้น ต้องพักงานชั่วคราวเพื่ออยู่บ้านให้ห่างไกลจากโควิด-19 เช่นเดียวกับ แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์ ที่ช่วงนี้ว่างๆ หน่อยหลังจากทำงานทุกวันเจ้าตัวเลยใช้เวลาว่างหากิจกรรมทำหลายอย่าง ทั้งเปิดแคตวอล์กเดินโชว์เล่นกันในบ้านกับน้องสาว ออกกำลังกาย เล่นกับน้องหมาและล่าสุด แพนเค้ก กับหวานใจหนุ่ม สารวัตรหมี พ.ต.ต.ศักดิ์สุนทร เปรมานนท์พร้อมด้วยครอบครัวของแพนเค้ก รวมไปถึงน้องหมาอีก 3 ตัว ก็ได้ไปเที่ยวบ้านสวน สูดอากาศบริสุทธิ์ พร้อมกับปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบ ทั้งปลูกดอกบัว จัดกองฟาง ปรับพื้นที่ใหม่ ปลูกผัก พร้อมบอกว่า ถึงจะมีพื้นที่มากหรือน้อย แต่ก็ทำ เพราะมันมีความสุขนอกจากนี้ แพนเค้ก และสารวัตรหมี จูงน้องหมาทั้ง 3 ตัววิ่งออกกำลังกายอย่างสนุกสนาน เรียกเหงื่อได้มากทีเดียว | แพนเค้ก เขมนิจ พาครอบครัวรวมถึง สารวัตรหมี หวานใจหนุ่ม ไปเที่ยวบ้านสวน ช่วยกันปรับปรุงภูมิทัศน์ บอกถึงจะมีพื้นที่มากหรือน้อยแต่ก็อยากทำ เพราะมันมีความสุข | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | แพนเค้ก,แพนเค้ก เขมนิจ,แพนเค้ก สารวัตรหมี,แพนเค้ก บ้าน,ข่าวบันเทิง,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1843173 |
มิตร มิตรชัยเข้าเรือนจำ ส่อซึมเศร้า กำชับ จนท.แดนแรกรับคอยดูแล | ผบ.เรือนจำอำเภอธัญบุรี เผยส่งตัว มิตร มิตรชัย เข้าเรือนจำ หลังศาลฎีกามีคำพิพากษาจำคุก 6 ปี โดยมีอาการซึมบ้างเหมือนผู้ต้องขังอื่น ที่เข้าเรือนจำวันแรก แต่เชื่อว่าจะมีการปรับตัวได้ และหลังจากนี้ 30 วันจะแยกไปแดนอื่น,จากกรณี มิตร มิตรชัย หรือ นายคีรีรัก สมณะบารมี น้องชายของลิเกชื่อดังอย่าง เอ ไชยา มิตรชัย และ แอน มิตรชัย ถูกอดีตแฟนสาวคือ นางสาวรัญชิตา หรือ คุณปุ้ย อายุ 43 ปี ฟ้องร้องในคดีฉ้อโกงทรัพย์ หลัง มิตร มิตรชัย ขอยืมเงินไปตั้งคณะลิเกออนไลน์แล้วไม่ยอมคืน เมื่อปี 2559 ศาลฎีกาแล้ว เมื่อวันที่ 25 ก.ค. ที่ศาลจังหวัดธัญบุรี มีคำพิพากษา กระทั่งศาลฎีกาตัดสินให้ยืนตามศาลชั้นต้น โดยพิพากษาให้ มิตร มิตรชัย มีความผิดฐานฉ้อโกง และตัดสินให้จำคุกเป็นเวลา 9 ปี โดยให้ชดใช้เงิน น.ส.รัญชิตา เป็นจำนวนเงิน 27 ล้านบาท แต่เนื่องจากจำเลยรับสารภาพ จึงลดโทษให้ 1 ใน 3 เหลือจำคุก 6 ปี ไม่รอลงอาญา พร้อมชดใช้เงิน 27 ล้านบาทโดยมีการส่งตัว มิตร มิตรชัย ไปยังเรือนจำอำเภอธัญบุรี ในช่วงเย็นวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา,เมื่อเวลา 17.00 น. นายบุญมี วิบูลย์จักร ผบ.เรือนจำอำเภอธัญบุรี เผยว่า นายคีรีรัก หรือมิตร มิตรชัย เข้ามาเรือนจำวันแรก ก็เหมือนผู้ต้องขังรายอื่นๆ จะต้องการปรับตัว และทำใจในช่วงแรก และอาการซึมเศร้าบ้าง แต่ได้กำชับเจ้าหน้าที่ในแดนแรกรับให้คอยดูแล พูดคุยให้คลายกังวลลงบ้าง ทั้งนี้ ในช่วงเช้าวันที่ 26 ก.ค.ได้ให้นายคีรีรักปฏิบัติเหมือนผู้ต้องขัง มีการอาบน้ำ กินข้าว สวดมนต์ และออกกำลังกาย เพื่อนจะได้ปรับตัวให้ได้เร็วๆ หลังจากนี้ประมาณ 30 วันถึงจะจำแนกไปแดนอื่น. | ผบ.เรือนจำอำเภอธัญบุรี เผยส่งตัว มิตร มิตรชัย เข้าเรือนจำ หลังศาลฎีกามีคำพิพากษาจำคุก 6 ปี โดยมีอาการซึมบ้างเหมือนผู้ต้องขังอื่น ที่เข้าเรือนจำวันแรกแต่เชื่อว่าจะมีการปรับตัวได้ และหลังจาก | ข่าว,ทั่วไทย | มิตร มิตรชัย,จำคุกมิตร มิตรชัย,คีรีรัก สมณะบารมี,เรือนจำธัญบุรี,แดนแรกรับ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1623853 |
ปุ๊กลุก ปัดช็อปออนไลน์หลักล้าน ยันไม่ติดหรูของถูก ของมือสองก็ใช้หมด | ปุ๊กลุก-ฝนทิพย์ วัชรตระกูล, หลังทุ่มเทให้กับงานละครอย่างหนัก ล่าสุดเจอ ปุ๊กลุก มาร่วมงานแถลงข่าว Grand Opening of BULEZE Brand ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เลยถามว่าช่วงนี้ไม่ค่อยเจอปุ๊กลุกออกงานเลย? ช่วงที่ถ่ายละครเรื่อง นายฮ้อยทมิฬ จะมีช่วงท้ายๆที่ต้องถ่ายไปออนแอร์ ไป เราเลยต้องเทคิวและพอปิดกองไป ต้องเทให้กับละครเรื่อง นางทิพย์ เพราะที่ผ่านมาแทบไม่ได้ให้คิวเค้าเลย ทำให้กระแสอีเวนต์หายไปเลย? ใช่ค่ะ แฟนๆก็บ่นคิดถึงเยอะ ถ้าติดต่อล่วงหน้านานๆ ก็จะได้คิว แต่ถ้ากระชั้นมันจะยากนิดหนึ่ง เพราะเราบอกทางกองแล้วว่าเราจะเทคิวให้เต็มที่เลย เสียดายงานอีเวนต์ที่ไม่ได้รับมั้ย? เสียดายมากๆค่ะ ถ้าบอกไม่เสียดายมันก็จะดูเป็นนางเอกไป คือเวลาที่เค้าติดต่อมาเราก็จะได้เห็นตัวเงินเนอะ แต่เราต้องนึกถึงบางทีถ้าเราหยุดกองไปแล้วเราเป็นตัวหลัก อีกอย่างเรื่อง นางทิพย์ ถ่ายค่อนข้างยาก วันหนึ่งถ่ายได้ไม่กี่ฉากเอง กังวลมั้ยที่หลายคนมองว่าเรากระแสหายไปแล้ว? ไม่นะ หนูรู้สึกว่าแฟนๆ สามารถติดตามเราได้ผ่านทางไอจี ถ้าถามว่าเราอยากรับงานมั้ย เราอยากรับอยู่แล้ว แต่ถ้าสมมติมันไม่สามารถจริงๆ ก็ต้องให้ละครก่อน หนูเชื่อว่าถ้ามีช่วงก็มีโอกาสได้เจอกัน แต่ถ้าจะให้เราไปฟาดฟันคิวละครเพื่อให้ได้มางานอีเวนต์ หนูคงจะอยู่ได้ไม่นาน เอาที่มันเหมาะสมดีกว่าค่ะ,ล่าสุดมีกระแสเม้าท์มาว่าเราช็อปปิ้งออนไลน์หมดเงินเป็นหลักล้าน? หนูช็อปปิ้งจริงๆ แต่หนูไม่ได้ช็อปถึงล้าน มันมีโอนเรื่อยๆ แต่ไม่ถึงค่ะ มันไม่ได้ขนาดนั้น แต่ถ้าถามว่าเยอะมั้ย คือของมีราคาบางชิ้นมันก็แพงแต่ไม่ถึงล้านนะคะ บางทีมันคาบเกี่ยวกันต่อเดือนรึเปล่า อย่าไปคิดมันเดี๋ยวเราจะเสียดายเงิน (หัวเราะ) คือช่วงไหนที่เราซื้อเราก็จะซื้อ อย่างช่วงปลายปีก็จะมีการลดราคา แต่ไม่ได้ช็อปแบบนี้ ทุกเดือนค่ะ ส่วนใหญ่ที่ซื้อเป็นของแบรนด์เนมรึเปล่า? ก็ปะปนกันไปค่ะ มากสุดที่ซื้อของออนไลน์หมดไปเดือนละเท่าไหร่? หนูว่าหลักแสนแต่ไม่ถึงหลักล้าน ไม่เคยช็อปถึงหลักล้านเลย ผู้ปกครองเคยเอาสลิปการใช้จ่ายแต่ละเดือนที่เราใช้มาให้ดูบ้างมั้ย? เราดูแลการเงินเอง เพราะฉะนั้นเรื่องจะไม่ถึงหูคุณพ่อคุณแม่ แต่แม่ถามมาว่าช็อปเป็นล้านเลยเหรอลูก เราก็ตอบ บ้า เสียงสูงใส่แม่ ไม่จริงแม่ไม่ถึงๆ (ยิ้ม) แม่มีเตือนให้ลดการใช้เงินบ้างมั้ย? หนูว่ามันเป็นช่วงๆ ช่วงไหนเราชอบอะไร อยากได้อะไรก็ซื้อ คุณแม่ก็มีเบรกบ้างเวลาของมาส่งที่บ้าน จะถามว่าซื้ออะไรอีกแล้ว แต่บางทีเราก็ให้ไปส่งที่กองถ่าย (หัวเราะ) อ้าว แม่รู้เลยทีนี้ เรามีลิมิตในการช็อปปิ้งของตัวเองมั้ย? มีค่ะ อย่างตอนเด็กๆ เรายอมรับเลยว่าไม่ได้คิด บางทีซื้อรองเท้ารุ่นเดียวกัน 5 คู่ 10 คู่ เดี๋ยวนี้จะคิดแล้วว่าสีอะไรเราได้ใช้ จะไม่ซื้อเหมือนสมัยเด็กๆแล้วที่อยากได้อะไรแล้วซื้อทันที บางทีอยากได้อะไรก็จะแคปเก็บไว้ก่อนยังไม่สั่ง คิดประมาณ 3 วัน ถ้าอยากได้จริงๆค่อยเอาแล้วกัน ช่วงนี้ก็เบาๆ ลงแล้วค่ะ แต่ก็มีเรื่อยๆ ไม่ได้หยุด แต่ไม่เยอะ,มีการแบ่งเงินในส่วนต่างๆไว้มั้ย? มีค่ะ หนูจะแบ่งครึ่งหนึ่งคือเป็นเงินเก็บ อีกส่วนหนึ่งให้คุณพ่อคุณแม่ อีกส่วนเราถึงได้ใช้ กลัวจะถึงขั้นเสพติดการช็อปปิ้งไปแล้วเลยมั้ย? แพลตินัมก็ยังสั่งอยู่นะคะในอินเตอร์เน็ต ปลอมตัวไปสั่ง หนูใช้ได้หมดเลย แต่บางอย่างเช่น รองเท้า กระเป๋า เราก็ต้องสั่ง ทางผู้จัดการส่วนตัวเรามีปรามๆเรื่องการใช้เงินบ้างมั้ย? มันไม่ได้เยอะขนาดนั้น มันยังอยู่ในลิมิต หนูจะเน้นซื้อของที่ใช้ได้นานๆ ไม่ได้ติดหรูใช่มั้ย? ไม่ค่ะ ยังทานข้าวข้างทางอยู่นะคะ จะมีเอาเสื้อผ้ามือสองมาขายราคาถูกเหมือนคนอื่นมั้ย? หนูจะไปขอซื้อเสื้อผ้ามือสองต่อจาก พี่อั้ม-พัชราภา มาใส่ในละครอยู่ค่ะ เพราะหนูจะไม่ค่อยได้ซื้อเสื้อผ้า ส่วนใหญ่จะซื้อกระเป๋า รองเท้าค่ะ. | ห่างหายจากการรับงานอีเวนต์มาพักใหญ่ สำหรับนางเอกสาว ปุ๊กลุก- ฝนทิพย์ วัชรตระกูล หลังทุ่มเทให้กับงานละครอย่างหนัก | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | ปุ๊กลุก,ช็อปออนไลน์,หลักล้าน,กระเป๋า,รองเท้า,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1158270 |
ส.ยิมนาสติก เล็งส่งนักกีฬาเก็บตัวต่างประเทศ สู้ 3 ศึกใหญ่ | ชิงแชมป์เอเชีย ที่ไทย และกีฬาซีเกมส์ที่มาเลเซีย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชุดเดิม เน้นที่มีประสบการณ์ พร้อมส่งทุกประเภทไปเก็บตัวต่างประเทศ 1 เดือนเต็ม ตั้งแต่ปลายเดือน ม.ค.นี้เป็นต้นไป โดยเฉพาะยิมนาสติกศิลป์ชาย ไปญี่ปุ่น ยิมนาสติกศิลป์หญิง ไปออสเตรเลีย และยิมนาสติกลีลา ไปบัลแกเรีย,วันที่ 6 ม.ค.60 ดร.กุสุมาลย์ ประเสริฐศรี อุปนายกสมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในปี พ.ศ. 2560 ได้มีการประชุมคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ พร้อมวางกรอบการทำทีมชาติด้วยการเก็บตัวนักกีฬายิมนาสติกศิลป์, ยิมนาสติกลีลา และยิมนาสติกแอโรบิก เพื่อส่งเข้าร่วมแข่งขันรายการนานาชาติซึ่งจะเริ่มขึ้นอย่างน้อย 3 รายการ โดยล่าสุดทางสมาคมฯ ได้เรียกเก็บตัวนักกีฬาทีมชาติยิมนาสติกศิลป์ชาย จำนวน 8-10 คน, นักกีฬายิมนาสติกศิลป์หญิง จำนวน 7 คน แบ่งเป็นนักกีฬาที่ซ้อมอยู่ในเมืองไทย 3 คน และที่ซ้อมอยู่ต่างประเทศอีก 4 คน ขณะที่นักกีฬายิมนาสติกลีลา อีก 5 คน นำทีมโดย ลูกน้ำ ปัญญารัตน์ ประวัติโยธิน นอกจากนี้ ยังได้เรียกนักกีฬายิมนาสติกแอโรบิก เข้าเก็บตัวอีกจำนวนหนึ่งด้วย,อุปนายกสมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย กล่าวต่อว่า การเรียกเก็บตัวครั้งนี้ นักกีฬาทั้งหมดได้คัดจากผู้ที่มีผลงานรายการออมสินชิงแชมป์ประเทศ ไทย ที่เพิ่งจะจบไปเมื่อกลางเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยการเก็บตัวฝึกซ้อมใช้ศูนย์ฝึกเพื่อการแข่งขัน ซอยเพชรเกษม 81 แห่งเดียว เพื่อง่ายและสะดวกต่อการควบคุมดูแลในการฝึกซ้อม ตั้งแต่เวลา 16.00 น. จนถึงเวลา 21.00 น. (แบ่งเวลาการฝึกซ้อมแต่ละชุด) ทั้งนี้เพื่อไม่ให้กระทบต่อการเรียนของนักกีฬาทุกคน แต่ในเดือน มี.ค.-พ.ค. เป็นช่วงปิดภาคเรียนใหญ่ จะซ้อมวันละ 3 เวลา เช้า-กลางวัน-เย็น เพื่อให้นักกีฬามีความแข็งแกร่ง ทบทวนในท่ายาก และเกิดความมั่นใจมากที่สุด รวมทั้งได้ดึงนักจิตวิทยา และนักกายภาพบำบัด ดูแลอย่างใกล้ชิดอีกทาง,สำหรับโปรแกรมการแข่งขันในช่วงครึ่งปีนี้ มีอยู่ 3 รายการใหญ่ ประกอบด้วย ยิมนาสติกศิลป์ รายการฮ่องกง โอเพ่น ระหว่างวันที่ 12-17 พ.ค. 2560 ที่เขตปกครองพิเศษฮ่องกง, รายการยิมนาสติกชิงแชมป์เอเชีย ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในเดือน พ.ค. 2560 ส่วนสถานที่ยังไม่กำหนด และการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ระหว่างวันที่ 19-31 ส.ค. 2560 ที่ประเทศมาเลเซีย,โดยก่อนการแข่งขัน 2 รายการใหญ่ ทางสมาคมฯ ได้มีแผนงานส่งนักกีฬาไปเก็บตัวฝึกซ้อมต่างประเทศ ซึ่งยิมนาสติกศิลป์ชาย จะไปเก็บตัวฝึกซ้อมที่ประเทศญี่ปุ่น, ยิมนาสติกศิลป์หญิง ไปเก็บตัวฝึกซ้อมที่ประเทศออสเตรเลีย และยิมนาสติกลีลา จะเดินทางไปเก็บตัวฝึกซ้อมที่ประเทศบัลแกเรีย ในปลายเดือน ม.ค.นี้ เป็นเวลา 1 เดือนเต็ม ส่วนยิมนาสติกแอโรบิก จะเก็บตัวฝึกซ้อมที่ประเทศไทยเหมือนเดิม | สมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทยวางแผนงานเก็บตัวนักกีฬาทีมชาติไทย เพื่อสู้ 3 ศึกใหญ่ ประกอบด้วย ฮ่องกง โอเพ่น ที่ฮ่องกง, ชิงแชมป์เอเชีย ที่ไทย และกีฬาซีเกมส์ที่มาเลเซีย | null | ดร.กุสุมาลย์ ประเสริฐศรี,สมาคมกีฬายิมนาสติก,ยิมนาสติก,ปัญญารัตน์ ประวัติโยธิน,นักกีฬาไทย | https://www.thairath.co.th/content/829269 |
พี่น้องไทใหญ่เชียงใหม่รวมใจบริจาคช่วยภัยน้ำท่วม | พี่น้องชาวไทใหญ่ในจังหวัดเชียงใหม่หลายสาขาอาชีพรวมใจกันร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย มอบผ่านนายกฯ เทศบาลนครเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 16 พ.ย. ที่ผ่านมา พี่น้องชาวไทใหญ่ในจังหวัดเชียงใหม่จากหลายสาขาอาชีพทั้งกลุ่มเยาชน นักเรียน นักศึกษา และแรงงานพลัดถิ่น นำโดยพระอธิการอินตา อินทวีโร เจ้าอาวาสวัดป่าเป้า ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้รวมกันนำเงินสมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมซึ่งได้จากการร่วมบริจาคของพี่น้องชาวไทใหญ่ที่อาศัยอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียง มอบให้กับทางเทศบาลนครเชียงใหม่เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยโดยเงินที่กลุ่มพี่น้องไทใหญ่รวมกันนำมามอบในครั้งนี้มีจำนวน 121560 บาท ซึ่งได้จากการร่วมกันจัดงานคอนเสิร์ตภายใต้ชื่อ คอนเสิร์ตพี่น้องไทใหญ่รวมใจ ช่วยภัยน้ำท่วม จัดขึ้นเมื่อวันที่ 9 – 10 พ.ย. 53 ที่ผ่านมา โดยเก็บค่าเข้าชมคนละ 50 บาท และส่วนหนึ่งได้จากการร่วมบริจาคของพี่น้องไทใหญ่จากที่ต่างๆ โดยมีนายทัศนัย บูรณูปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่เป็นผู้รับมอบ และได้กล่าวขอบคุณชื่นชมการรวมน้ำใจของพี่น้องไทใหญ่ครั้งนี้ จากนั้นได้นำเงินบริจาคส่งมอบต่อให้กับตัวแทนครอบครัวข่าวช่วยเหลือผู้ประสบภัย 2553 ของทีวีช่อง 3 นำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่อไปด้าน น.ส.แสนหญิง จากกลุ่มเยาวชนไทใหญ่ที่เดินทางไปร่วมมอบเงินบริจาคด้วยกล่าวว่า พี่น้องไทใหญ่มีความรู้สึกเห็นใจผู้ประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งทุกคนเดือดร้อนกันจริงๆ โดยตนและเพื่อนๆ ได้ชักชวนกันร่วมบริจาคด้วย แม้ว่าเงินที่ได้จากการบริจาคของพี่น้องไทใหญ่ครั้งนี้อาจมีจำนวนไม่มากเมื่อเทียบกับความต้องของผู้ประสบภัย แต่คิดว่าจะสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยและช่วยแบ่งเบาภาระรัฐบาลได้บ้าง | พี่น้องชาวไทใหญ่ในจังหวัดเชียงใหม่หลายสาขาอาชีพรวมใจกันร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย มอบผ่านนายกฯ เทศบาลนครเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 16 พ.ย. | คุณภาพชีวิต,สิทธิมนุษยชน | น้ำท่วม,พม่า,ไทใหญ่ | https://prachatai.com/journal/2010/11/31935 |
คนดีมีแต่หมอชนบท | ไชโย ในที่สุดท่านนายกฯ ก็ใช้อำนาจเด็ดขาดเด้งปลัดสาธารณสุข ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ไปปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี หลังจาก หมอรัชตะ รัชตะนาวิน โลกสวย มา 6 เดือน นี่ถ้ารออีก 6 เดือน หมอณรงค์ก็เกษียณพอดีท่านตัดสินใจถูกต้องแล้วครับ ถ้ำเดียวจะมีเสือสองตัว คนดีสองขั้ว อยู่ร่วมกันไม่ได้ ต่อให้เป่านกหวีดทั้งสองฝ่าย คนดีต้องมีหนึ่งเดียวเท่านั้น จะดีทั้งคู่แล้วทะเลาะกันได้ไง หนังไทยต้องมีพระเอกผู้ร้าย ผู้ร้ายตายตอนจบ ยังไงพระเอกก็ต้องเป็นหมอชนบท เขาชื่อกานต์ ผู้เสียสละไปทำงาน ถิ่นทุรกันดาร (เช่น อ.ชุมแพ) โดยได้เบี้ยเหมาจ่ายเพิ่มจากเงินเดือนเพียงไม่กี่ (หมื่น) บาทความขัดแย้งในกระทรวงสาธารณสุขต้องตัดสินแบบนี้ พระเอก ผู้ร้าย ต้องแยกกันให้ชัด พระเอกก็คือแพทย์ชนบท ผู้สืบสานอุดมการณ์ 14 ตุลา อย่าง พี่หมอวิชัย โชควิวัฒน หมอสงวน นิตยารัมภ์พงศ์ บิดา 30 บาท หมอชูชัย ศุภวงศ์ หมอสมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ หมออำพล จินดาวัฒนะ หมอสุวิทย์ วิบุลผลประเสริฐ ซึ่งรวมตัวเป็น กลุ่มสามพราน มี อ.ประเวศ วะสี ขับเคลื่อนผลักดัน สร้างอำนาจต่อรองรัฐบาลทุกยุคสมัย โดยไม่แยแสว่าประชาธิปไตยหรือรัฐประหาร จนได้องค์กรและงบประมาณของตัวเองที่เรียกว่า 5 ส. โดยเฉพาะ สสส.มีภาษีบาปให้ใช้ปีละ 4 พันล้านอ๊ะอ๊ะ ใครอย่าบังอาจกล่าวหาเชียวนะ ว่าการใช้จ่ายเงินภาษีองค์กรตระกูล ส.ไม่โปร่งใส เพราะไม่เคยมีนักการเมืองชั่วยุ่มย่าม ผู้บริหารมีแต่คนดีในเครือข่าย อ.ประเวศเวียนเทียน กัน ยกตัวอย่าง สวรส.รัฐบาลที่แล้วเสือกแทรกแซง สุดท้าย ผอ.ก็โดนปลด ผลการสรรหาหมาดๆ ที่หมอสุวิทย์เป็นประธาน ได้รองเลขาฯ สปสช.ทั้งคู่ (แข่งขันดุเดือดน่าดู)ความขัดแย้งในกระทรวงที่คุกรุ่นมาตลอดก็ถึงจุดเดือด ผู้บริหารกระทรวงเสียอำนาจจัดสรรงบประมาณ ร.พ.ชุมชนเบิกบาน ร.พ.ใหญ่บุคลากรเยอะต้องรัดเข็มขัด มีการต่อสู้ต่อรองจนแยกเงินเดือนออกจากงบฯ เหมาจ่าย ซึ่งก็กลับไปทำให้ ร.พ.ชุมชนถูกตัดงบฯ เกิดปัญหา ร.พ.ขาดทุน ที่นู่นบ้างที่นี่บ้างท่ามกลางการต่อสู้ก็เกิดแยกขั้วพระเอก ผู้ร้าย ซึ่งฝ่ายหลังไม่ใช่ใคร ได้แก่พวกหมอกระทรวง หมอ ร.พ.ใหญ่ ซึ่งถูกชี้หน้าว่าหวงอำนาจ อยากสบาย อยากอยู่ในเมืองแล้วทำคลินิก ชอบจ่ายยาแพงตามที่ดีเทลยาสาวๆ แนะนำ พอต้องรัดเข็มขัดบ้างก็โวยวาย ฯลฯพูดอีกก็ถูกอีกนะครับ เพราะนโยบาย 30 บาทมีคุณูปการ รัฐประหารกี่ครั้งก็ล้มไม่ได้ พระเอกเลยได้ใจ รัฐประหาร 49 แพทย์ชนบทก็ใหญ่ พี่หมอวิชัยได้เป็นประธานบอร์ดองค์การเภสัช สร้างโรงงานวัคซีนพันกว่าล้านป่านนี้ยังไม่เสร็จย้อนไปสมัยรัฐบาลพลังประชาชน เฉลิมเป็นรัฐมนตรี แพทย์ชนบทไปขอเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย เฉลิมก็ให้ในอัตราตั้งแต่ 2-7 หมื่น พวกผู้ร้ายก็เป็นเดือดเป็นแค้นกันใหญ่ ทั้งที่แพทย์ ร.พ.ชุมชนตกระกำลำบาก ต้องขี่ม้าขี่เกวียนหรือนั่งเรือไป อ้าว ไม่ใช่ นั่นมันสมัยสรพงศ์ ชาตรี 40 ปีที่แล้วมีแต่รัฐบาลเพื่อไทย ทายาทไทยรักไทย เข้าข้างผู้ร้ายเล่นงานพระเอก หมอประดิษฐ สินธวณรงค์ ตั้งหมอณรงค์เป็นปลัดงัด P4P มาแทนเบี้ยเหมาจ่าย จะให้ตั้ง เขตสุขภาพ รวมงบฯ แต่ละเขตไว้ในมือผู้ตรวจ อ้างว่าช่วยเหลือกันยามขาดทุน หมอชนบทฮือประท้วงใหญ่ยังไม่ทันเห็นดำเห็นแดงก็เกิดนิรโทษสุดซอย ชมรมแพทย์ชนบทขับรถพยาบาลฉุกเฉินราคา 10 ล้าน เข้าม็อบเคียงข้างลุงกำนันตั้งแต่วันแรกๆ ที่ไหนได้ ปลัดก็เล่นบทพระเอกเป็นเหมือนกัน นำประชาคมสาธารณสุขไล่รัฐบาลจนได้นกหวีดทองคำ หลังรัฐประหารหวิดได้เป็นรัฐมนตรีด้วยซ้ำ แต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้นสัจธรรม คนดีมีแต่หมอชนบทนสพ.ข่าวสด วันที่ 13 มีนาคม 2558 | ไชโย ในที่สุดท่านนายกฯ ก็ใช้อำนาจเด็ดขาดเด้งปลัดสาธารณสุข ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ไปปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี หลังจาก หมอรัชตะ รัชตะนาวิน โลกสวย มา 6 เดือน นี่ถ้ารออีก 6 เดือน หมอณรงค์ก็เกษียณพอดี | การเมือง,คุณภาพชีวิต | ณรงค์ สหเมธาพัฒน์,รัชตะ รัชตะนาวิน,สาธารณสุข,ใบตองแห้ง | https://prachatai.com/journal/2015/03/58363 |
อื้ออึง ช็อปช่วยชาติ กลับมาแล้ว บิ๊กตู่ สั่งคลังจัดสิ้นปีเล็งยืดเวลานานกว่าปีกลาย | ส่วนมาตรการกระตุ้นเพิ่มมองว่าควรให้ผู้มีรายได้น้อยซื้อเสื้อผ้า ของใช้ ของกินมากว่าให้คนรวยซื้อสินค้าคงทน,พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ได้สั่งการให้กระทรวงการคลังไปพิจารณาแนวทางการดำเนินโครงการช็อปช่วยชาติ ว่าจะทำอย่างไรในช่วงปลายปีนี้ หลังจากที่ได้เคยทำมาทุกปี โดยมองวาปีนี้ต้องมีการศึกษารายละเอียด และจัดทำให้รัดกุมขึ้น โดยอาจจะกำหนดให้มีระยะเวลาของโครงการยาวออกไปกว่าเดิมได้หรือไม่ จะได้เป็นการเพิ่มการซื้อสินค้าและหมุนเวียนเงินมากขึ้นด้วย,ผมก็สั่งการให้กระทรวงการคลังไปพิจารณาหาทาง ว่า ช็อปช่วยชาติจะทำอย่างไรในปีนี้ เพราะปีที่แล้วก็ทำ และก็ทำมาทุกปี โดยปีนี้ก็ต้องมาศึกษารายละเอียดแล้วก็จัดทำให้มันรัดกุมขึ้น ให้มันยาวออกไปได้ไหม,ขณะที่ภาพรวมของเศรษฐกิจมหภาคในขณะนี้นั้นนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลายอย่างดีขึ้น โดยเฉพาะการส่งออก ซึ่งประชาชนก็ได้ประโยชน์จากส่วนนี้เช่นกัน จะบอกว่าไม่มีใครได้ประโยชน์เลยคงไม่ใช่ เพราะทั้งหมดรัฐบาลไม่ได้เป็นคนทำ คนที่ผลิต คนที่แปรรูป คนที่ขายสินค้าก็เป็นของเอกชน เป็นภาคธุรกิจ ซึ่งมีคนจำนวนมากที่ถูกจ้างงาน เช่น ในกลุ่มรัฐวิสาหกิจมีจำนวนแรงงานอยู่ประมาณ 10 ล้านคน ที่ได้ประโยชน์ เพราะฉะนั้นอะไรที่ดีขึ้น คน 10 ล้านตรงนี้ก็ได้รับประโยชน์แล้วเช่นกัน และในหลายกิจกรรมก็ได้ไปด้วย เว้นแต่คนที่ไม่ได้อยู่ในนี้ เกษตรกร ผู้ผลิตต้นทาง เขาก็ขายของของเขา ส่วนกรณีที่ราคาตก ก็มีปัจจัยมาจากหลาประเด็นด้วยกัน,ในส่วนของราคายางเป็นเรื่องกลไกตลาดเปลี่ยนแปลงไปมาก ผลผลิตในระดับโลกเพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาน้ำมันลดลง ส่งผลต่อราคายางสังเคราะห์ลดลงตาม เกิดการลดการซื้อยางธรรมชาติ โดยขณะนี้ราคาน้ำมันยังอยู่แค่บาร์เรลล์ละ 50 เหรียญสหรัฐฯ ดังนั้น ประเด็นคือ ต้องสร้างการรับรู้เชิงมหภาค และต้องแก้ตั้งแต่ต้นทางว่า จะทำอย่างไรยางจะไม่มีปริมาณเกินความจำเป็น พยายามรับซื้อยางในประเทศให้ได้ วันนี้เราอยู่ในขั้นตอนเสริมสร้างตรงนี้,ขณะที่วันเดียวกัน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ประเมินภาวะเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 3 โดยนายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยอาวุโสฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธปท.กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่ 3 ปีนี้ว่า ภาพรวมของเศรษฐกิจไทยปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเทียบกับไตรมาสที่ 2 โดยคาดว่าจะเห็นการขยายตัวในไตรมาที่ 3 สูงกว่า 4% ผลจากการส่งออกที่ขยายตัวดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ และคาดว่าจะดีต่อเนื่องในไตรมาสที่ 4 โดยมองว่าครึ่งปีหลังของปีนี้จะขยายตัวได้ประมาณ 4.1% และหากตัวเลขจริงที่ออกมาในไตรมาสที่ 4 ของคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ออกมาสูงกว่าที่คาด ก็มีความเป็นไปได้ที่จะปรับเป้าประมาณการเศรษฐกิจสูงขึ้นจาก 3.8% ที่คาดการณ์ไว้ขึ้นกับสถานการณ์ใน 2 เดือนหลังของปี ซึ่งบรรยากาศการใช้จ่ายและการลงทุนน่าจะปรับดีขึ้น,ส่วนความจำเป็นในการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมนั้น นายดอนกล่าวว่า หากมองเศรษฐกิจในภาพรวมเห็นว่า การขยายตัวมีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยมูลค่าการส่งออกของเดือน ก.ย. อยู่ที่ 21,900 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทำลายสถิติสูงสุดในประวัติการณ์อีกครั้ง ขยายเพิ่มขึ้น 13.4% จากระยะเดียวกันของปีก่อน ขณะที่การท่องเที่ยวถือเป็นอีกปัจจัยที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจในขณะนี้ ทำให้ภาพรวมและแรงส่งของเศรษฐกิจระยะต่อไปจึงไม่น่าห่วงมากนัก,ยอมรับว่า การกระจายตัวของการขยายตัวที่ดีขึ้นไปสู่เศรษฐกิจฐานรากนั้น ยังไม่ดีเท่าที่ควรเห็นได้จากการยอดซื้อสินค้าไม่คงทนที่ยังไม่ดี ดังนั้น หากรัฐบาลจะมีมาตรการช่วยให้คนผู้มีรายได้น้อยเพิ่มขึ้นก็มีความเป็นไปได้แต่ควรจะเน้นไปที่กรซื้อสินค้าไม่คงทนมากกว่าสินค้าคงทนที่ส่วนใหญ่คนซื้อเป็นคนมีรายได้สูง โดยสินค้าที่ยังขายไม่ดี คือ เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม เครื่องหนัง ฯลฯ นอกจากนั้น จะกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหรือไม่ขึ้นอยู่กับรัฐบาลด้วยว่า ต้องการที่จะเร่งการขยายตัวเศรษฐกิจแค่ไหน เพราะตอนนี้เศรษฐกิจขยายตัวเป็นแบบค่อยเป็นต่อไป ขณะที่ผลจากมาตรการบัตรคนจนถือว่าตรงจุด แต่รัฐบาลต้องพยายามอุดรูรั่วไหลการให้สิทธิกับคนที่ไม่ควรได้มากกว่าที่เป็นอยู่,นายดอนกล่าวต่อว่า สำหรับภาพรวมการใช้จ่ายของประชาชนนั้น ดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนเดือน ก.ย.ขยายตัวเพิ่มขึ้น 2.8% เนื่องจากรายได้ภาคการเกษตรกลับมาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.5% หลังจากติดลบมาตลอดในไตรมาส 3 แต่กำลังซื้อโดยรวมยังไม่เข้มแข็งและไม่ทั่วถึง ขณะที่รายได้นอกภาคการเกษตรยังคงทรงตัว ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัว 4.2% ในเดือน ก.ย.ตามกำลังซื้อในประเทศและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น และการลงทุนภาคเอกชนขยายตัว 0.9% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้า โดยการว่างงานเป็นอีกประเด็นที่ต้องตาม โดยเดือน ก.ย. ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 1.3% โดยการจ้างงานที่ลดลงมาจาก 2 สาเหตุคือ การใช้เครื่องจักรทดแทนแรงงานในหลายหลายอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น รวมทั้ง นักศึกษาที่จบใหม่มีอัตราการได้งานที่ช้าลงและลดลง. | บิ๊กตู่ สั่งคลังจัด โครงการช็อปช่วยชาติ ปลายปี กระตุ้นการใช้จ่ายและหมุนเงินสู่เศรษฐกิจเพิ่ม โดยอาจจยืดเวลาให้ยาวกว่าปีที่ผ่านมา ด้านแบงก์ชาติ ระบุ เศรษฐกิจไทยดีขึ้น ไตรมาส 3 ทะลุ 4% | ข่าว,เศรษฐกิจ | ประยุทธ์ จันทร์โอชา,บิ๊กตู่,โครงการช็อปช่วยชาติ,ขายสินค้า | https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/1113347 |
สุริยะ ชูพักหนี้กองทุนฯ สานต่อบัตรคนจน มัดใจประชาชน เลือก พปชร. | เมื่อวันที่ 12 มี.ค.62 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคอีสาน พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วย นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ กรรมการบริหารพรรค ลงพื้นที่ จ.นครพนม และ จ.สกลนคร ช่วยผู้สมัคร ส.ส.หาเสียง ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น มีประชาชนจำนวนมากมาให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น,โดย นายสุริยะ กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า จากการลงพื้นที่รับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชนพบว่า ยังมีชาวบ้านไปกู้เงินนอกระบบร้อยละ 20 เพื่อนำเงินไปจ่ายกองทุนหมู่บ้าน เพราะชาวบ้านกลัวจะกู้เงินกองทุนหมู่บ้านไม่ได้ เมื่อได้ฟังเช่นนั้นตนรู้สึกแย่มาก ที่เห็นนายทุนมาเอาเปรียบกับชาวบ้าน ตนและพรรคพลังประชารัฐจะไม่ยอม หากประชาชนเลือกพรรคพลังประชารัฐเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เราจะให้มีการพักชำระหนี้กองทุนหมู่บ้าน 3 ปี เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน,นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ปัญหาความยากจนของประชาชนตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เกิดจากความขัดแย้งของ 2 พรรคใหญ่ในอดีต ที่เอาเวลาไปต่อสู้กัน ไม่ยอมแก้ปัญหาให้ประชาชน ซึ่งพรรคพลังประชารัฐก็พร้อมเข้าไปแก้ไขปัญหาความยากจน นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ในฐานะที่เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค เป็นผู้ผลักดันให้มีบัตรคนจนหรือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จนเป็นที่ชื่นชอบไปทั่ว,วันหนึ่งเมื่อเรามีโอกาสกลับมาเป็นรัฐบาล เราจะเดินหน้าต่อไป และจะทำให้ดีขึ้น ครอบคลุมคุณภาพชีวิตมากขึ้นกว่าปัจจุบัน และจะพิจารณาย้อนหลังสำหรับประชาชนที่ยังตกหล่นในเวลานี้ นายสุริยะ กล่าว. | สุริยะ ควง พงศ์กวิน ลุย นครพนม-สกลนคร ชูนโยบาย พักชำระหนี้กองทุนหมู่บ้าน 3 ปี-เดินหน้าบัตรคนจนครอบคลุม อ้อนประชาชนเลือก พลังประชารัฐ เพื่อแก้ปัญหาความยากจน | เลือกตั้ง | เลือกตั้ง62,หาเสียง,พลังประชารัฐ,สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ,เลือกตั้ง | https://www.thairath.co.th/news/politic/1517583 |
ยิ่งลักษณ์ ปัดควบเก้าอี้ รมว.กลาโหม | น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ยืนยันจะไม่รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอีกตำแหน่งเนื่องจากมีภารกิจมาก แต่อาจจะให้คนอื่นที่รับตำแหน่งนี้แทน ส่วนการตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ยอมรับว่ายังไม่ลงตัวในหลายตำแหน่งจึงขอให้จัดทำนโยบายให้ชัดเจนก่อน พร้อมระบุไม่จำเป็นต้องให้บุคคลที่จะรับตำแหน่งรัฐมนตรีแสดงวิสัยทัศน์ต่อคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย เพราะหลายคนกมีผลงานชัดเจนอยู่แล้ว ขณะเดียวกัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวย้ำว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดโผคณะรัฐมนตรีแต่อย่างใด ทั้งนี้ยอมรับว่าขณะนี้ได้ทาบทามคนนอกหลายคนมารับตำแหน่งรัฐมนตรีแล้ว โดยให้ความมั่นใจว่าคณะรัฐมนตรีชุดนี้จะไม่ขี้เหร่และออกมาดูดีเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ สำหรับความชัดเจนในการจัดตั้ง ครม.ชุดใหม่ คาดว่า 1 สัปดาห์หลัง กกต.รับรองผลเลือกตั้ง ส.ส.จะมีความคืบหน้า พร้อมยืนยั กรณีผัดหมี่ที่จังหวัดนครราชสีมาไม่ผิดกฎหมาย เพราะไม่ได้แจกจ่าย สำหรับนโยบายเพิ่มค่าแรง 300 บาทต่อวัน หลังจากรับฟังความเห็นจากข้าราชการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภาคเอกชน โดยเฉพาะธุรกิจขนาดย่อม หรือ เอสเอ็มอี ที่ได้รับผลกระทบ และฟังความเห็นจากประชาชน ก่อนกำหนดเป็นนโยบายเพื่อผลักดันให้เป็นรูปธรรมในต้นปี 2555 ส่วนที่ฝ่ายงบประมาณเป็นกังวลต่อการใช้จ่ายเงินคงคลังนั้นยืนยันว่าเป็นหน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังที่จะดำเนินการ | ยิ่งลักษณ์ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ปัดควบตำแหน่ง รมว.กลาโหม ชี้ภารกิจมากแล้ว พร้อมยอมรับทาบทามคนนอกนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีหลายกระทรวง | การเมือง | Election54,ครม.,ทักษิณ,ยิ่งลักษณ์,รมว.กลาโหม | https://news.thaipbs.or.th/content/22452 |
วี เปลี่ยนไปให้งานนำหัวใจ ลุยเป็นผู้กำกับ | ถามเรื่องความรัก?,เอาจริงๆนะ ตอนนี้มีคุยบ้าง แต่ไม่ได้หวือหวา ตามวัย ปีนี้อายุ 39 ปีแล้วไม่ได้โลดโผนเหมือนตอนเด็กแล้ว คุยกันแบบผู้ใหญ่ๆ พฤหัสฯ-อาทิตย์ต้องออกกอง วันจันทร์ประชุม อังคาร-พุธต้องอัดรายการ ศึกร่วมชายคา เวลาแทบจะหายไปแล้ว,แต่เรามีคนคุยอยู่มั้ย?,มีครับ ด้วยวัยคงไม่ได้เปิดตัวหวือหวา,ผู้หญิงเข้าใจใช่มั้ย?,ครับ ถ้าไม่เข้าใจก็คงไม่ได้คุยกัน,คนนี้ทำอะไรให้เรารู้สึกสบายใจที่จะคุยด้วย?,พอวัยโตขึ้น เราต้องการความง่ายในชีวิตมากขึ้น ด้วยภาระหน้าที่ ถ้าความรักมันทำให้สิ่งพวกนี้มันปวดหัวอีกก็อย่ามีดีกว่า,คาดหวังกับความรักวัย 39 ปียังไง?,เรามองแบบผู้ใหญ่เลย ไม่ได้หวือหวา ฉาบฉวย คุยกันแบบเข้าใจ เราเองก็ผ่าน อะไรมาเยอะ มันเลยทำให้จิตใจและความคิดมันตกผลึกได้เยอะครับ,ส่วนตัวอยากแต่งงานมั้ย?,เอาจริงๆนะ ใจผมเป็นช่วงๆ อยากแต่งมาก อีกช่วงนึงก็คิดว่าน้องชายแต่งงานแล้วด้วย ก็คลายกดดัน บ้านผมพ่อมีลูกชาย 3 คน ตอนแรกพ่อก็คาดหวังว่าจะให้ลูกชาย คนโตแต่ง แต่ตอนนี้ประมาณว่าผมแต่งก็ได้ ไม่แต่งก็ได้,คบกันนานรึยัง?,อย่าเรียกว่าคบเลยครับ ก็เรียกว่าพูดคุยศึกษา ดูใจกันไปครับ ไม่ได้เรียกว่าเป็นแฟนกันนะ ด้วยงานตอนนี้ผมไม่มีสิทธิ์ไปเป็นเจ้าของใคร,วัยห่างกันเยอะมั้ย?,ก็ห่างครับ คือผมชอบผู้หญิงอายุเด็กกว่าครับ,เรื่องการมีครอบครัวล่ะ?,ไม่ซีเรียสเลย ผมก็ปล่อยให้เป็นตามธรรมชาติไปครับ ไม่ได้ต้องแต่งอายุเท่านี้นะ อีกกี่ปีต้องมีลูกนะไม่ได้ขนาดนั้น,ตอนนี้ปรับบทบาทมาเป็นผู้กำกับ?,เริ่มจากผมทำค่ายละคร ผู้จัดมาหลายเรื่องแล้ว กีต้าร์ก็บอกว่าถึงเวลาที่ผมจะต้องกำกับได้แล้ว ดูเพื่อนรุ่นเดียวกันอย่างเติ้ล ตะวัน, พี่วุธ-อัษฎาวุธ, โอลิเวอร์ ก็ทำกันเองแล้ว บิลต์ผมมาตั้งแต่ เรื่องที่แล้ว แต่ตอนนั้นผมติดละครเรื่อง ระบำมาร แล้วก็ทำพิธีกรรายการด้วย ก็เลยบอกเค้าว่าเรื่องหน้าแล้วกัน เพราะเป็นเรื่องที่ผมอยากทำด้วย จะทำเรื่องแรกทั้งทีก็ต้องเป็นฝาแฝด ก็ลงตัวที่ เจ้าสัวมั่วนิ่ม ครับ,ยากแค่ไหนกับการกำกับครั้งแรก?,ตอนนี้ผมสวมหมวก 2 ใบ ผู้จัดและผู้กำกับละคร เราต้องมองภาพรวมแล้วก็มองเหนือภาพรวมไปอีก บางทีในใจผู้กำกับเราอยากได้นักแสดงประกอบ 20 คน แต่อีกหมวกที่เป็นผู้จัดก็ถามตัวเองว่าจะเกินงบมั้ย,คาดหวังเรื่องแรกที่เรากำกับยังไง?,ตอนแรกผมคิดว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด แต่เชื่อว่าลึกๆแล้วคนทำงานก็ต้องแอบหวัง แต่ที่กดดันคือบริษัทผมทำละครเรตติ้งดีทุกเรื่อง เราจะพลาดไม่ได้นะ,เวลาคนเรียกเราว่าผู้กำกับเขินมั้ย?,ก็มีบ้างครับ แต่ด้วยความเป็นผู้กำกับเราต้องมีสมาธิกับงานมากๆ ต้องคุมทุกอย่าง ใครถามอะไรก็ต้องตอบได้หมด คิวแรกๆนี่ทำให้ผมนอนไม่หลับเลย แต่พอตอนนี้ก็เริ่มปรับตัวได้. | ช่วงหลังดูเงียบเหงาไร้ข่าวสาวๆ จนถูกแซว วี-วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ ลบลายคาสโนวาไปแล้วแน่เลย ล่าสุดเจอ วี งานบวงสรวงละครเรื่อง เจ้าสัวมั่วนิ่ม ที่ ช่อง 7 ในฐานะผู้จัดและผู้กำกับ | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | วี วีรภาพ,วี วีรภาพ สุภาพไพบูลย์,วีรภาพ สุภาพไพบูลย์,เจ้าสัวมั่วนิ่ม,ผู้จัดละคร,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1524328 |
จับสึก หลวงเจ๊ แต่งหญิงโพสต์โชว์เฟซบุ๊ก อ้างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ | ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 17 ม.ค.63 พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบช.ก.สั่งการให้ พล.ต.ต.ชัช สุกแก้วณรงค์ ผบก.ทล. และพ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบก.ทล.เข้าตรวจสอบกรณีที่มีผู้เผยแพร่ภาพทางสื่อโซเชียลหลายแห่ง ซึ่งเป็นภาพของผู้แต่งกายคล้ายพระสงฆ์ แต่มีการแสดงออกด้วยท่าทางไม่เหมาะสม คล้ายสตรี ตามที่ปรากฎจริงหรือไม่ต่อมา พ.ต.อ.จรูเกียรติ ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ศิลา ขำเพชร สว.ส.ทล.กก.6. (อุบลราชธานี) บก.ทล ว่า ตรวจสอบแล้วพบว่า บุคคลที่เห็นตามภาพที่มีการเผยแพร่ เป็นพระภิกษุจริง ทราบชื่อคือ พระโชคชัย สุภาจาโร หรือ ร่มโพธิ์ อายุ 26 ปี เป็นพระอยู่ที่วัดพลแพน อ.เมืองอุบลราชธานี จากนั้นได้เข้าพบพระครูอดุลธรรมประจักษ์ เจ้าอาวาสวัดพลแพน สอบถามข้อเท็จจริง เบื้องต้นทราบว่า พระโชคชัย บวชเป็นสามเณร ตั้งแต่ปี 2550 ตอนแรกจำพรรษาอยู่ที่วัดสว่างหนองแสง อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี ก่อนจะย้ายมาอยู่ที่วัดพลแพน เมื่อปี 2554 เมื่ออายุครบบวช ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ พร้อมกับศึกษาจนเรียนจบการศึกษาระดับปริญาตรีอีกด้วย ที่ผ่านมาไม่เคยพบว่ามีปัญหาใดๆมาก่อน จนกระทั่งมาเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้นหลังจากนั้นเจ้าอาวาส ได้เรียกพระโชคชัย จากกุฎิ มาสอบถาม จนยอมรับว่า เป็นบุคคลตามภาพที่เป็นข่าวจริง สิ่งที่กระทำลงไปเป็นเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่เหมาะสมในสมณเพศ เป็นสิ่งที่ไม่ควรประพฤติ จึงได้ขอลาสิกขา ต่อเจ้าอาวาสทันที โดยมีนายอัครพันธ์ นนทา เจ้าหน้าที่พศ.อุบลราชธานี และเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมเป็นพยาน หลังจากลาสิกขาแล้ว นายโชคชัย ได้เดินทางออกจากวัดไป โดยไม่ได้บอกว่าจะไปทำอะไรต่อ. | ตำรวจทางหลวงตามเจอแล้ว หลวงเจ๊ แพร่ภาพฉาวผ่านโซเชียล ปรากฏว่าเป็นพระจริง อยู่วัดดังเมืองอุบลราชธานี เจ้าตัวรับว่าผิดพลาด อ้างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ยอมสึกแต่โดยดี | ข่าว,อาชญากรรม | หลวงเจ๊,จับสึก,จับพระ,จับพระแต่งหญิง,พระฉาว,ตำรวจทางหลวง,จับหลวงเจ๊,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1750208 |
ติดแฮชแท็กแฮปปี้มาก ตู่ ภพธร สุขล้นใจหลังแต่ง น้องนุช | ตู่ ภพธร ควง นุช นุชนันท์ ออกงานเป็นครั้งแรกหลังแต่งงาน เผยชีวิตข้าวใหม่ปลามันแฮปปี้มาก ส่วนงานฉลองสมรสจัดช่วง 12 ธ.ค. ตอนนี้ยังไม่คืบหน้าอะไรมาก แค่จองสถานที่ไปก่อน ธีมงานเป็นแบบมิวสิกเฟสติวัล หลังแต่งงานของทั้งคู่ก็ยังทำงานในวงการบันเทิงเหมือนเดิม,ควงคู่รับทรัพย์กันเป็นครั้งแรกหลังแต่งงาน สำหรับคู่ของนักร้องหนุ่มเสียงอบอุ่นขวัญใจสาวๆ ตู่ ภพธร สุนทรญาณกิจ กับภรรยาสาว นุช นุชนันท์ อรัณยะนาค เมื่อครั้งที่ทั้งคู่แต่งงานกันไป บอกเลยว่าสาวพากันติดแฮชแท็ก #ร้องไห้หนักมาก กันเป็นแถว ล่าสุด ในงาน GARNIER AGELESS WHITE – Beauty Untouched by Time ณ แฟชั่นฮอลล์ ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ที่หนุ่มตู่มาร้องเพลงเปิดงาน และยังชวนสาวนุชมาร่วมงานด้วย ผู้สื่อข่าวเลยได้มีโอกาสอัพเดตชีวิตหลังแต่งงานว่าเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งทั้งคู่บอกเลยว่า แฮปปี้สุดๆ จ้า ,รับงานคู่เป็นครั้งแรก? ตู่ งานแรกใช่ครับ จริงๆ ไม่เคยมีงานคู่กันแบบนี้ ตัดสินใจนานไหม? ตู่ นุชตัดสินใจมากกว่างานนี้ นุชบอกมีงานบ้างก็ดีนะ ก็ดีครับ ตื่นเต้นไหม? นุช ตื่นเต้นเหมือนกันค่ะ ไม่เคยได้มางานแบบนี้เลย ตู่ ตื่นเต้นจุดนี้มากที่สุดครับ จุดที่ยืนสัมภาษณ์ ทำเอาสาวๆ อิจฉา นุชเป็นไง ฟีดแบ็กที่เกิดขึ้น? นุช ร้องไห้หนักมาก (ยิ้ม) จริงๆ ก็รู้สึกดีนะคะ เพราะว่ารู้สึกว่าอย่างน้อยก็พี่ตู่ก็มีคนที่รักอยู่เยอะเหมือนกัน คิดว่าตัวเองเป็นสาวที่โชคดีที่สุดไหม? นุช ก็ดีแหละ ชีวิตหลังแต่งงานเป็นไง? นุช เหมือนเดิม ตู่ ก็ยังเหมือนเดิม ถ้ามีลูกน่าจะเปลี่ยน แต่ตอนนี้ยังเหมือนเดิมครับ เริ่มลองใช้ชีวิตคู่หรือยัง? ตู่ ก็มีบ้าง แต่จริงๆ ยังไปๆ มาๆ คุณพ่อคุณแม่น้องก็ยังไม่ค่อยชินเท่าไหร่ กับคุณพ่อพี่ตู่เองหายงอน เรื่องที่ไม่ได้มาร่วมงานแต่งงานหรือยัง? ตู่ คุณพ่อหายแล้วครับ ตั้งแต่วันนั้นที่บอกก็คุยกับคุณพ่อทันที ก็หายงอนแล้ว เห็นว่าคุณพ่อคุณแม่ของนุชก็ห่วงอยู่ตอนนี้? นุช ตอนนี้หรอคะ ก็ปล่อยมากขึ้นค่ะ เหมือนกับว่าดีใจเหมือนคุณพ่อคุณแม่ ก็อยากให้แต่งงานกับพี่ตู่มาก,ต้องปรับเปลี่ยนตัวเองขนาดไหน? นุช ไม่เลย ตู่ ยังไม่ขนาดนั้น เพราะจะมีงานปลายปีอีกทีนึง ทำบ้านใหม่ด้วย ก็เลยรู้สึกว่าช่วงนั้นเหมือนงานหลักที่ตัวเราอยากจะมีกันเอง งานช่วงแรกเหมือนเพื่อคุณพ่อคุณแม่น้องด้วย เป็นพิธีแบบไทยๆ อีกพิธีหนึ่งจะเป็นแบบอีกแบบหนึ่งที่เราอยากจัดกันเอง ซึ่งหลังงานนั้นเองก็จะเริ่มย้ายเข้าบ้านช่วงนั้นด้วย จะได้ใช้ชีวิตคู่จริงๆ ช่วงนั้นด้วย บ้านที่จะย้ายจะทันฉลองงานแต่งไหม? ตู่ น่าจะทันครับ งานฉลองมงคลสมรส คืบหน้าถึงไหนแล้ว? นุช ก็มีแค่จองสถานที่อย่างเดียวค่ะ ธีมงานล่ะ? นุช กะว่าะจเป็นธีมมิวสิกเฟสติวัล ตู่ น้องบอกมิวสิกเฟสติวัล ผมบอกประมาณมิวสิกอินเดอะการ์เด้นก็พอ ธีมคิดกันทั้งคู่เองไหม? นุช ใช่ เหมือนเราเจอกันที่มิวสิกเฟสติวัลด้วย ก็เลยแบบมีเพื่อนเป็นนักร้องอะไรแบบนี้เยอะ ก็เลยเป็นมิวสิกเลย ตู่ หลักๆ ก็คือจะใช้เพื่อนมาช่วยกันร้องเพลงนี่แหละครับ เลยตั้งธีมนี้ขึ้นมา เรื่องชุดจะเป็นออกแนวไหน? นุช ยังไม่ได้คิดเลย คงดูกันไว้ว่า เป็นอะไรที่สบายๆ ค่ะ ง่ายๆ ไม่อู้ฟู่ ลิสต์รายชื่อแขกหรือยัง? ตู่ ก็มีเริ่มคิดบ้างแล้วครับ เยอะอยู่เหมือนกัน แต่พยายามไม่ต้องเยอะมาก แบบคนสนิทๆ,ตู่ต้องเบรกงานช่วยดูรายละเอียดงานไหม? ตู่ จริงๆ ยังทำงานกันอยู่ทั้งคู่ แต่ว่าจะต้องใช้เวลากับตรงนั้นมากขึ้น เราก็ช่วยกันดูนิดนึง เพราะงานมันเยอะเหมือนกัน นุช ก็ครั้งที่แล้วก็โซโลไปคนเดียวค่ะ ดีที่เพื่อนมาช่วยเยอะ เพื่อนทำละครเวที หรือทำออแกไนซ์อยู่แล้ว ก็จะมาช่วยก็โอเค มีเวลาสวีตกันไหม? ตู่ มีครับๆ มีแพลนฮันนีมูนไปไหนกัน? ตู่ น่าจะหลังงานปลายปีถึงจะมี คิดว่าอาจจะไปฮาวาย อยากไปฮาวาย ผมไม่เคยไป ไปเยี่ยมครอบครัวอีกทีหนึ่งที่อเมริกา ปีใหม่เลยใช่ไหม? ตู่ ใช่ ครับ เพราะว่างานปลายปี อยากให้คุณพ่อมาให้ได้ แต่ช่วงกลางปีคุณพ่อยังติดธุระ คุณพ่อมาไม่ได้ถ้าช่วงปลายปีคุณพ่อเกิดมาไม่ได้จริงๆ จะพาเจ้าสาวไปไหว้คุณพ่อที่โน้น คุณพ่อเค้าได้เคลียร์คิวเพื่อมาไหม? ตู่ จริงๆ แฟนคุณพ่อไม่ค่อยสบายด้วยครับ ท่านเลยมายาก แล้วอยู่ในช่วงการทำกรีนการ์ดด้วยก็เลยยังเดินทางมาไม่ได้ เรางอนไหม? ตู่ ไม่งอนครับ จริงๆ เราก็เข้าใจ เราพยายามจะไม่บอกอะไรเขามาก เพราะเรารู้ว่าเขาอยู่ในสถานการณ์อะไรตอนนั้น เราก็เลยไม่กล้าไปยุ่งกับเค้ามาก แต่กลัวเขาจะรู้สึกว่างานคอนเสิร์ตครั้งแรกของลูกก็มาไม่ได้ กลัวเขาจะเสียใจ แต่พอโทรไปบอกกลับ เขาก็งอนเรา ซึ่งก็เข้าใจได้ครับ. | ตู่ ภพธร ควง นุช นุชนันท์ ออกงานเป็นครั้งแรกหลังแต่งงาน เผยชีวิตข้าวใหม่ปลามันแฮปปี้มาก ส่วนงานฉลองสมรสจัดช่วง 12 ธ.ค. ตอนนี้ยังไม่คืบหหน้าอะไรมาก แค่จองสถานที่ไปก่อน ธีมงานเป็นแบบมิวสิคเฟสติวัล หลังแต่งงานของทั้งคู่ | null | ตู่,ตู่ ภพธร,ภพธร สุนทรญาณกิจ,น้องนุช,แฟนตู่ ภพธร,นุช นุชนันท์,นุชนันท์ อรัณยะนาค,ตู่ภพธรแต่งงาน,ตู่ นุช,ข่าว,ข่าวบันเทิง,ไทยรัฐออนลไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/494550 |
นายกฯ บ่นสื่อ ไม่แจงสถานการณ์น้ำ จ้องเสนอเขื่อนพัง-น้ำท่วมทำคนตระหนก | เมื่อวันที่ 6 ส.ค. เวลา 14.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดเพชรบุรี ว่า เดี๋ยวจะไป ซึ่งขั้นตอนวันนี้ได้ให้ส่วนราชการลงพื้นที่ไปก่อน ไม่ใช่นายกฯ จะไปก่อน จะไปให้วุ่นวายทำไม ต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดูเรื่องการบริหารจัดหารน้ำ โดยมีพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ลงไปดูในพื้นที่ จากนั้นตนถึงจะลงไปดู เขาต้องทำงานแบบนั้นไม่ใช่หรือ ส่วนนายกฯ ลงไปดูเพื่อให้ทราบว่าจะต้องเสริมอะไรให้กับเขา ตอนนี้คาดว่าสถานการณ์น้ำเรายังรับมือได้ แต่ตนไม่อยากจะบอกว่า มันต้องร้อยเปอร์เซ็นต์ หรือร้อยห้าสิบเปอร์เซ็นต์ เพราะมันเป็นเรื่องของธรรมชาติ ถ้าฝนตกมากกว่าเกณฑ์ ก็ต้องเตรียมการแก้ปัญหา จะแก้กันอย่างไร และจากการตรวจสอบเขื่อน ขณะนี้ก็ยังแข็งแรงอยู่ และในวันหน้าถ้าปริมาณน้ำมากกว่านี้ หรือใช้เวลานานกว่านี้จะปลอดภัยหรือไม่ ก็ต้องไปว่ากันอีกที,ฉะนั้น สิ่งที่วันนี้อยากจะขอร้องคือ ขอให้สื่ออย่าทำให้ประชาชนตื่นตระหนก บางทีก็วิพากษ์วิจารณ์ นำไปพูดจนภาคประชาชนตื่นไปหมด สิ่งที่เราควรจะช่วยกันในวันนี้ ควรจะศึกษามาตรการของทางรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า เตรียมการอะไรไว้บ้าง ต้องสร้างความเข้าใจกับประชาชนให้ทุกคนร่วมมือ ตรงไหนที่เป็นพื้นที่ความเสี่ยง ต้องมีการเก็บข้าวของ ย้ายสัตว์เลี้ยงหรือไม่ หรือต้องอพยพไปอยู่กับเพื่อนกับญาติ สื่อต้องแนะนำแบบนี้ ไม่ใช่บอกแต่เพียงว่า สถานการณ์น้ำขยายไปอำเภอนั้น อำเภอนี้น้ำจะท่วม สื่อได้แนะนำอะไรไปบ้าง ข้าราชการ รัฐบาล พูดปากเปล่าไปกับสื่อทุกวัน แต่เรื่องเหล่านี้ไม่ได้รับการขยาย แล้วจะเกิดอะไร ก็ตายเจ็บเหมือนเดิม สรุปว่า ไม่ช่วยอะไรกันเลย เหมือนเดิมว่ากันข้างเดียว เดี๋ยวเขื่อนจะพัง ประชาชนจะเดือดร้อน ผมถามว่า วันนี้รัฐบาลทำอะไรหรือเปล่า หรืออยู่เฉยๆ นายกฯ กล่าวด้วยอารมณ์หงุดหงิด | บิ๊กตู่ บ่นสื่อไม่ช่วยแจง สถานการณ์น้ำ จ้องเสนอ เขื่อนพัง-น้ำท่วม วอน อย่าวิจารณ์จน ปชช.ตระหนก เตรียมลง เมืองเพชรบุรี เสริมมาตรการช่วยเหลือ | ข่าว,การเมือง | นายกฯ,บ่นสื่อ,ไม่แจงสถานการณ์น้ำท่วม,เขื่อนพัง น้ำท่วม,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1349395 |
ปินส์สวนมะกันชี้ไม่มีสงครามในทะเลจีนใต้ | นายเดลฟิน โลเรนซานา รมว.กลาโหมฟิลิปปินส์ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวบลูมเบิร์กเมื่อ 6 ก.พ.ว่า รัฐบาลฟิลิปปินส์เชื่อมั่นจะไม่มีสงครามระหว่างสหรัฐฯ กับจีนในพื้นที่ทะเลจีนใต้ สืบเนื่องจากการแย่งกรรมสิทธิ์เหนือหมู่เกาะหลายแห่งในทะเลจีนใต้ระหว่างจีนกับหลายประเทศในภูมิภาค นายโลเรนซานาให้เหตุผลว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เป็นนักธุรกิจ เขารู้ดีว่าถ้าสงครามอุบัติขึ้นจะส่งผลเสียหายต่อเศรษฐกิจด้วยกันทุกฝ่าย,ความคิดเห็นของโลเรนซานามีขึ้นหลังนายสตีฟ แบนนอน หัวหน้าคณะที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์ของทรัมป์ให้สัมภาษณ์สื่อสหรัฐฯเมื่อช่วงเดือน มี.ค.ปีที่แล้ว ก่อนหน้าทรัมป์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากคำถามของสื่อมวลชนว่า ช่วง 5 ถึง 10 ปีข้างหน้าจะมีสงครามในทะเลจีนใต้หรือไม่ ซึ่งนายแบนนอนตอบว่า ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสงครามจะเกิดขึ้นหรือไม่ มันแน่นอนอยู่แล้ว เพราะจีนเตรียมพร้อมทั้งเรือบรรทุกเครื่องบินรบและประจำการขีปนาวุธบริเวณนั้นมากมายเพื่อพร้อมเผชิญหน้าสหรัฐฯ พวกคุณต้องเข้าใจว่าน่านน้ำทะเลจีนใต้มีความสำคัญยิ่งต่อการเดินเรือ ซึ่งจีนพยายามอ้างความเป็นเจ้าของพื้นที่มาตั้งแต่ยุคโบราณ,ขณะเดียวกัน รัฐบาลจีนพยายามย้ำเตือนสหรัฐฯมาตลอดให้ออกไปจากความขัดแย้งเหนือทะเลจีนใต้ เพราะสหรัฐฯไม่ได้มีส่วนได้เสียในการอ้างกรรมสิทธิ์ แต่สหรัฐฯต้องการควบคุมเส้นทางการเดินเรือด้วยข้ออ้างสิทธิเสรีภาพการเดินเรือตามกฎหมายสากล. | เดลฟิน โลเรนซานา รมว.กลาโหมฟิลิปปินส์ ระบุว่าพวกเขาเชื่อมั่นว่าจะไม่มีสงครามระหว่างสหรัฐฯ กับจีนในพื้นที่ทะเลจีนใต้ ตอบโต้คำพูดของที่ปรึกษายุทธศาสตร์ของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ระบุว่าสงครามจะเกิดขึ้นแน่นอน | null | ฟิลิปปินส์,สงคราม,ทะเลจีนใต้,โดนัลด์ ทรัมป์,แย่งชิงหมู่เกาะ | https://www.thairath.co.th/content/852737 |
พี่น้อง อยู่วิทยา เรียกร้อง วรยุทธ แสดงความกระจ่างต่อสังคม | วันนี้ (29 ก.ค.2563)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากกระแสสังคมวิพากษ์วิจารณ์ในคดีที่อัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้องคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ทายาทกระทิงแดง ในข้อหาขับรถชนตำรวจเสียชีวิตเมื่อ 5 ปีก่อน จนกระทั่งต้องมีการตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง เมื่อวานนี้ (29 ก.ค.2563) ครอบครัวอยู่วิทยา ได้ส่งหนังสือเพื่อขอโทษต่อสังคมกรณีดังกล่าวหนังสือดังกล่าวระบุว่า จากกรณีข่าวของ วรยุทธ อยู่วิทยา พี่น้องครอบครัวอยู่วิทยาต้องขอโทษสังคมเป็นอย่างสูง ที่ข่าวของบุคคลในครอบครัวได้สร้างความรู้สึกโกรธ เกลียด ไม่พอใจ จนเป็นเหตุของกระแสการเรียกร้องของสังคมที่เกิดขึ้นในครั้งนี้พวกเราไม่อาจจะปฏิเสธความสัมพันธ์ของการเป็น อยู่วิทยา คนหนึ่งของวรยุทธได้ อย่างไรก็ตาม พี่น้องครอบครัวอยู่วิทยาก็ขอเรียนให้ทุกท่านทราบด้วยความจริงใจว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตั้งแต่วันเกิดเหตุ ครอบครัววรยุทธไม่ได้หารือ หรือบอกเล่าการตัดสินใจหรือการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งกับพี่น้องเลย และพวกเราก็ไม่ได้เห็นด้วยกับการตัดสินใจหลายเรื่องของ วรยุทธที่เราติดตามจากข่าวแต่พี่น้องก็ไม่เคยออกมาให้ความเห็นในเรื่องนี้ ด้วยเพราะให้เกียรติครอบครัวของวรยุทธ และคาดหวังว่าครอบครัวของวรยุทธ จะทำทุกอย่างให้เป็นที่ยอมรับของสังคมในที่สุด แต่ในวันนี้กระแสทางลบที่มากระทบกับสมาชิกทุกคนในครอบครัวมีมากจนเกินกว่าจะแบกรับเหมือนทุกครั้ง ได้ทำให้เราจำเป็นต้องออกจดหมายฉบับนี้พี่น้องทุกคนขอเรียกร้องให้วรยุทธ ออกมาแสดงความกระจ่างและความบริสุทธิ์ใจให้ครอบครัวอยู่วิทยาที่เหลือ รวมทั้งสังคมและสื่อมวลชนให้เร็วที่สุด และดำเนินการให้ถูกต้องตามครรลองของสังคมพี่น้องทุกคนขอแสดงจุดยืนของครอบครัวอยู่วิทยา จุดยืนที่พวกเรายึดถือและปฏิบัติมาตลอด คือการเดินตามปณิธานและคำสอนของ เฉลียว อยู่วิทยา ผู้เป็นพ่อ และเป็นต้นแบบของการใช้ชีวิต ที่สอนให้พวกเรายึดมั่นในการกตัญญูต่อแผ่นดิน โดยพี่น้องครอบครัวอยู่วิทยาทุกคนจะยังคงมุ่งมั่นสร้างสิ่งดีๆ ให้กับประชาชน ชุมชน และสังคมไทย ตามวิถีและปณิธานที่ เฉลียว อยู่วิทยา ได้วางไว้ต่อไปสำหรับพี่น้องอยู่วิทยา ที่ร่วมในหนังสือดังกล่าวคือ สายพิณ พหลโยธิน (อยู่วิทยา) สุทธิรัตน์ อยู่วิทยาปนัดดา อยู่วิทยา สราวุฒิ อยู่วิทยา ศักดิ์ชาย อยู่วิทยา จิรวัฒน์ อยู่วิทยา สุปรียา อยู่วิทยา และนุชรี อยู่วิทยา | ครอบครัวอยู่วิทยา ออกจดหมายเปิดผนึกขอโทษสังคม คดีอัยการสั่งไม่ฟ้องทุกข้อหานายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ทายาทกระทิงแดง ที่ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต พร้อมขอเรียกร้องให้นายวรยุทธ ออกมาแสดงความกระจ่างและดำเนินการตามครรลองของสังคม | อาชญากรรม | บอส,บอสอยู่วิทยา,บอสกระทิงแดง | https://news.thaipbs.or.th/content/295003 |
ตราหมีปาดเหงื่อ บุกเฉือน เรอุสฯ 2-1 ศึก 32 ทีมโกปาฯ | การแข่งขันฟุตบอล โกปา เดล เรย์ ฤดูกาล 2015-16 เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. เป็นการดวลกันในรอบ 32 ทีมสุดท้าย นัดแรก เกมที่น่าสนใจ ณ สนามคัมป์ นู มูนิซิปัล เรอุส เดปอร์ติอู ทีมจากลีก เซกุนตา เบ เปิดบ้านรับการมาเยือนของ ตราหมี แอตเลติโก มาดริด ทีมจากลาลีกา สเปน,ออกสตาร์ตเพียง 7 นาที ตราหมี ที่จัดทีมผสมลงสนามก็มีโอกาสลุ้นประตูก่อนจากจังหวะที่ โอลิเบร์ ตอร์เรส จ่ายให้ ลูเซียโน เวียตโต ซัดโล่งๆ ในกรอบเขตโทษ แต่ไม่ผ่านมือ เอ็ดการ์ด บาเดีย นายด่านเจ้าถิ่น,หลังจากนั้น น.26 แอต.มาดริด ก็ได้ลองอีกที โกเก ได้บอลกลางสนามก่อนจะจ่ายเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายให้ อังเกล คอร์เรอา หวดด้วยซ้ายแต่ไม่เข้ากรอบ,มาถึง น.30 กลายเป็นเจ้าถิ่นที่ได้เฮขึ้นนำก่อน 1-0 จากจังหวะที่ เฟร์นานโด โรดริเกซ ยกบอลเข้ากรอบเขตโทษให้ ฟรานซิสโก บาร์เรรา วิ่งไปเบียดเอาชนะ ลูกาส์ เอร์นานเดซ แล้วซัดนิ่มๆ เข้าไป,แต่หลังจากนั้นเพียง 6 นาทีทีมเยือนก็ตามตีเสมอทันควัน โอลิเบร์ ตอร์เรส วางบอลให้ ลูเซียโน เวียตโต โหม่งในกรอบเขตโทษเสียบมุมเสาเข้าไปช่วยให้จบเกมครึ่งแรก แอตเลติโก มาดริด เสมอกับ เรอุส เดปอร์ติอู ไปก่อน 1-1,กลับมาเล่นในครึ่งหลัง น.63 ตราหมี พลิกแซงนำได้สำเร็จจากจังหวะเตะมุมฝั่งซ้าย โกเก เปิดเตะมุมมาที่เสาแรกให้ ซาอูล นิเกซ พุ่งมาโขกเสยเสียบเสาสองเข้าไปช่วยให้ทีมนำ 2-1,น.78 เจ้าบ้านมีโอกาส เอ็ดการ์ เอร์นานเดซ ตัวสำรองเปิดให้ ริการ์โด วาซ โหม่งโล่งๆ แต่คุมบอลไม่อยู่ลูกหลุดออกหลังไป จากนั้นในช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมก็ไม่มีประตูเพิ่มเติมทำให้จบการแข่งขัน แอตเลติโก มาดริด บุกไปเอาชนะ เรอุส เดปอร์ติอู 2-1 กุมความได้เปรียบก่อนกลับไปเตะเลกที่สองในบ้าน.,ผลคู่อื่น,เลกาเนส ชนะ กรานาดา 2-1 | ซาอูล นิเกซ โหม่งประตูสำคัญช่วย ตราหมี แอตเลติโก มาดริด บุกไปพลิกแซงเอาชนะ เรอุส เดปอร์ติอู 2-1 ในศึกรอบ 32 ทีมสุดท้าย โกปา เดล เรย์ นัดแรก | null | โกปา เดล เรย์,รอบ 32 ทีม,นัดแรก,ลาลีกา,สเปน,ตราหมี,แอตเลติโก มาดริด,เรอุส เดปอร์ติอู,ผลบอล,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/543395 |
มหาดไทยย้ำจังหวัดต้องเป็นหลักแก้ COVID-19 ตามบริบทพื้นที่ | วันนี้ (16 เม.ย.2563) นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมด่านตรวจคัดกรอง COVID-19 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา พร้อมมอบสิ่งของที่จำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่ให้แก่เจ้าหน้าที่ เช่น เจลแอลกอฮอล์ สเปรย์แอลกอฮอล์ หน้ากากอนามัย และน้ำดื่มบรรจุขวด โดยมี ว่าที่ร้อยตรี อภินันท์ เผือกผ่อง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยข้าราชการ บุคลากรทางการแพทย์ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่การประปาส่วนภูมิภาค และเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับนายทรงศักดิ์ได้กำชับการปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และมาตรการของทางรัฐบาล การสร้างความรู้ ความเข้าใจแก่ประชาชนผู้ใช้ทางสัญจร ให้คำแนะนำควรรู้ควรปฏิบัติ โดยเน้นย้ำใช้กลไกท้องที่ท้องถิ่นในการดำเนินงาน พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเข้มแข็ง เสียสละความสุขส่วนตัว เพื่อส่วนรวมภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อ และหวังว่าจะกลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติโดยเร็วผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ นายทรงศักดิ์ยังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมด่านตรวจควบคุมการแพร่ระบาดโรค COVID- 19 บริเวณ ถ.มิตรภาพ ขาเข้า อ.พล จ.ขอนแก่น พร้อมชื่นชมการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ที่คัดกรองประชาชนเป็นอย่างดี | รมช.มหาดไทย ตรวจด่านคัดกรองโรค COVID-19 โคราช-ขอนแก่น พร้อมกำชับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตามกลไก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และบริบทของแต่ละพื้นที่ โดยเน้นสร้างความร่วมมือกับประชาชน | การเมือง | COVID-19,โควิด19,ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019 | https://news.thaipbs.or.th/content/291258 |
สมเด็จพระเทพฯ เสด็จฯ บำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ | วันที่ 28 ตุลาคม เมื่อเวลา 19.00 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินยัง พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระพิธีธรรม 8 รูป จากวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร และวัดบวรนิเวศวิหาร สวดพระอภิธรรม,ก่อนหน้านี้ เวลา 15.00 น. นายเหวียน ซวน ฟุก นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เดินทางมาวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง จากนั้น ลงนามแสดงความอาลัย ณ ศาลาว่าการพระราชวัง ในพระบรมมหาราชวัง และเวลา 15.22 น. นายราตู เอเปลี ไนลาติเกา อดีตประธานาธิบดีสาธารณรัฐฟิจิ เดินทางมาลงนามแสดงความอาลัย ณ ศาลาว่าการพระราชวัง ในพระบรมมหาราชวัง,วันเดียวกัน สำนักราชเลขาธิการ ชี้แจงถึงกรณีที่มีการอัญเชิญบทเพลงพระราชนิพนธ์ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ไปขับร้องในสถานที่ต่างๆ ว่า หากอัญเชิญไปขับร้อง หรือเผยแพร่ในที่สาธารณะนั้น สามารถอัญเชิญไปเปิดหรือขับร้องได้ทันที เพราะเป็นการเผยแพร่ถึงพระอัจฉริยภาพของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทางด้านดนตรี แต่สำหรับสถานีโทรทัศน์ หรือรายการต่างๆ ของสถานี ที่ได้นำบทเพลงพระราชนิพนธ์ไปเปิดนั้น ก็ขึ้นอยู่ที่ดุลพินิจของสถานีโทรทัศน์ช่องนั้นๆ ว่า ควรขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตก่อนหรือไม่ ทั้งนี้ ต้องดูเจตนาของแต่ละสถานีว่าเปิดเพลงพระราชนิพนธ์ หรืออัญเชิญนำไปขับร้องนั้นเพื่อวัตถุประสงค์ใด ถ้าเพื่อเผยแพร่พระอัจฉริยภาพก็สามารถทำได้ แต่หลังจากนี้ทางสำนักราชเลขา จะได้มีการกำหนดเงื่อนไขในการอัญเชิญบทเพลงพระราชนิพนธ์ต่อไป | สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จฯ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ | null | ในหลวงสวรรคต,พระเจ้าอยู่หัวสวรรคต,รัชกาลที่ 9 สวรรคต,สิ้นรัชกาลที่ 9,พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช,พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ,ประวัติในหลวง,รูปในหลวง,ภาพในหลวง,พระราชดำรัส,พระราชกรณียกิจ,สมเด็จพระเทพฯ,สวดพระอภิธรรมพระบรมศพ | https://www.thairath.co.th/content/767411 |
ชาวบ้านรวมพลกว่า 2000 โค่นยูคาฯ เพิ่มพื้นที่ป่าชุมชนดงเค็ง ร้อยเอ็ด | เล่าถึงการต่อสู้กว่าจะได้พื้นที่ป่าชุมชนกลับคืนมาว่า ช่วงปี 2533 สำนักงานส่งเสริมการปลูกป่า (กรมป่าไม้) ได้เข้ามาปลูกไม้ยูคาลิปตัส เนื้อที่ 300 ไร่ ภายใต้โครงการพัฒนาป่าไม้ทุ่งกุลาร้องไห้ โดยเจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะปลูกต้นไม้พื้นบ้านเพื่อช่วยฟื้นฟูป่าดงเค็ง และจะเป็นประโยชน์ต่อการบำรุง รักษาป่าให้มีความอุดมสมบูรณ์ ก่อนที่จะปลูกเจ้าหน้าที่สวนป่าได้ทำการไถป่าธรรมชาติออกจนโล่งเตียน แต่กลับกลายนำต้นยูคาลิปตัส เข้ามาปลูกแทนที่ ต่อมาในปี พ.ศ. 2535 ได้ดำเนินการปลูกเพิ่มอีก 1700 ไร่ และปี พ.ศ. 2536 ปลูกเพิ่มอีก 700 ไร่ รวมพื้นที่กว่า 2857 ไร่นอกจากชาวบ้านถูกกำจัดสิทธิห้ามเข้าไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ และห้ามเข้าไปเลี้ยงสัตว์ ทั้งที่ก่อนหน้านั้นพื้นที่ป่าดงเค็ง เป็นทำเลเลี้ยงสัตว์ แล้วนั้น นอกจากนี้ป่ายูคาฯเริ่มโตขึ้น ได้สร้างผลกระทบต่อสภาพของหน้าดินที่เกิดความเสื่อมโทรม รวมทั้งทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมถูกทำลาย ในช่วงปี 2536 ชาวบ้านจึงเริ่มเคลื่อนไหว เรียกร้องต่อหน่วยงานราชการ ให้ยกเลิกโครงการ เมื่อไม่ได้รับการตอบสนอง ในเดือนกันยายนปีเดียวกัน ชาวบ้านกว่า 2000 คน จึงร่วมกันชุมนุมคัดค้าน และร่วมแรงร่วมใจกันบุกเข้ารื้อถอนยูคาลิปตัส ออกหมดจนโล่งเตียน และร่วมกันฟื้นฟูป่าชุมชนดงเค็ง ให้กลับมาสมบูรณ์ดังเดิมปัจจุบันในป่าชุมชนดงเด็ง กว่า 2857 ไร่ มีพืชสมุนไพรเติบโตขึ้นมามากกมาย สามารถนำมาต้มเป็นยาบำรุงเลือด บำรุงร่างกาย แก้ปวดเมื่อย เป็นต้น เช่น ต้นไม้ดินเดียวหมายถึงในต้นลำเดียวจะมีสูตร 5 กษัตริย์ คือ 1.ราก 2.ลำต้น 3.ใบ 4.หมาก และ 5.เกสร นำทั้งหมดในต้นเดียวมาต้มกินเป็นยาบำรุงเลือด บำรุงร่างกายต้นกำลังเลือดม้า ซึ่งยางของต้นจะมีลักษณะคล้ายเลือด ชาวบ้านจึงเรียกกันว่ากำลังเลือดม้าต้นดูกใส คือเนื้อในจะเป็นสีขาวต้นตาไก้ หรือกำแพง 7 ชั้น คือเนื้อในจะมีหลายสีขึ้นเรียงกันเป็นชั้นๆ เหมือนกับขนมชั้นและต้นเอี่ยนค่อน หรือปลาไหลเผือก พันธุ์หยิกบ่ถอง ไม่นานพ่อใหญ่ชอบให้ลองใช้เล็บมือหยิกลงไปที่ใบ ปรากฏว่าแรงเล็บที่กดลงไปหยิกตรงใบเท่าไรก็ไม่ขาด สำหรับปลาไหลเผือก สรรพคุณนำไปต้มเป็นยาบำรุงกำลัง อีกทั้งนำรากส่วนหนึ่งไปผสมกับตัวยาสมุนไพรอื่นๆ(ไม่ระบุเคล็ดลับ) ทำให้สามารถยิงฟันแทงไม่เข้าพ่อใหญ่ชอบ บอกอีกว่า ชุมชนจะร่วมอนุรักษ์ป่าทุกชนิดไว้ไม่มีการซื้อขายในเชิงธุรกิจ แต่ชาวบ้านสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ทั้งนี้ต้องผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการ 9 หมู่บ้าน ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่รอบป่าชุมชนดงเค็งใน 3 ตำบล คือ ตำบลแสนสุข ตำบลชาณุวรรณ และตำบลกุดน้ำใสนี่แหล่ะครับ การเพิ่มพื้นที่ป่า หรือการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หัวใจหลักต้องเริ่มจากชุมชน เพราะชุมชนเป็นเจ้าของ หาใช่ว่ารัฐจะมียุทธการทวงคืนผืนป่า แล้วดำเนินการอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ เพียงฝ่ายเดียว โดยไม่เคารพสิทธิชุมชน หรือศึกษาประวัติศาสตร์ความเป็นมาของชุมชนแต่อย่างใดเลย | เมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา ผู้เขียน ได้ลงพื้นที่บ้านพนัส ต.ชาณุวรรณ อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด มีโอกาสพบกับ ชอบ สุดบ่อนิจ อายุ 71 ปี ประธานป่าชุมชนดงเค็ง | สิ่งแวดล้อม | ชอบ สุดบ่อนิจ,ป่าชุมชน,ร้อยเอ็ด,สิทธิชุมชน | https://prachatai.com/journal/2016/08/67463 |
สุเทพ บุกถิ่น ป๋าเหนาะ เดินคารวะแผ่นดิน เชิญคนอรัญฯ เป็นสมาชิก | เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 4 พ.ย.61 ที่ จ.สระแก้ว นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ในฐานะประธานคณะทำงานรณรงค์ รมว.จัตุมงคล โสณกุล หัวหน้าพรรคฯ พร้อมด้วย นายสุริยะใส กตะศิลา, นายอุทัย ยอดมณี, นายสำราญ รอดเพชร, นายจอมเดช ตรีเมฆ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรค และนายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ โฆษกพรรค รปช. ออกเดินคารวะแผ่นดิน พร้อมเชิญชวนประชาชนใน อ.อรัญประเทศ ให้เข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรค ในถิ่นของนายเสนาะ เทียนทอง,ซึ่งก่อนออกเดินรณรงค์เชิญชวนประชาชน นายสุเทพพร้อมคณะฯ ได้เข้ากราบไหว้สักการะองค์พระสยามเทวาธิราชจำลอง ที่มณฑปพระสยามเทวาธิราช ถนนมหาดไทย หน้าเทศบาลเมืองอรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อกราบไหว้ขอพร โดยมีนายสาวิตร ธรรมศิริ ประธานชุมชนบริเวณด่าน ในฐานะผู้ประสานงานพรรค รปช. ให้การต้อนรับ และพาคณะเดินรอบตลาดเทศบาลเมืองอรัญประเทศฯ โดยมีประชาชนมาร่วมต้อนรับและมอบพวงมาลัยดอกดาวเรืองกันเป็นจำนวนมาก,โดยนายสุเทพได้จับมือ กอด และถ่ายรูปกับแฟนคลับอย่างเป็นกันเอง พร้อมทั้งได้ทำการเชิญชวนประชาชนชาวอรัญประเทศมาสมัครเป็นสมาชิกพรรค รปช. ตลอดเส้นทางการเดิน โดยมีการแจกใบสมัครสมาชิกพรรคฯ ตามเส้นทางซึ่งก็มีเสียงตะโกนสนับสนุนและให้กำลังใจนายสุเทพตลอดเส้นทาง
,ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อรัญประเทศ ได้สนธิกำลังร่วมกับทหารและฝ่ายปกครอง กว่า 50 นาย แบ่งกระจายกำลังเฝ้าติดตามสังเกตการณ์และรักษาความปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา ซึ่งการเดินคารวะแผ่นดินของนายสุเทพครั้งนี้ไม่มีเหตุการณ์รุนแรง หรือกลุ่มต่อต้านออกมาคัดค้านแต่อย่างใด
,นายสุเทพ ได้พูดถึงการเดินทางมาบุกถิ่นป๋าเหนาะ นายเสนาะ เทียนทอง ในวันนี้ว่า ไม่มีปัญหาอะไรที่ต้องกลัวกัน เพราะที่นี่ประเทศไทย เราทุกคนก็เป็นเจ้าของพรรค เป็นเจ้าของประเทศด้วยกันทั้งนั้น เพราะผมมาคารวะประชาชน ไม่ได้มาทะเลาะกับใคร และผมก็ไม่ได้มาเพื่อไปท้าทายใคร สำหรับพื้นที่จังหวัดสระแก้วมีความเชื่อมั่นว่าประชาชนมีความมุ่งมั่นศรัทธาที่มีต่อระบอบประชาธิปไตย ที่จะเห็นประเทศไทยดีขึ้น และเชื่อว่านี่จะนำไปสู่ความเป็นปึกแผ่นในการเมืองวันข้างหน้า. | เทพเทือก นำแกนนำ รปช. เดินคารวะแผ่นดิน บุกอรัญประเทศ ถิ่น ป๋าเหนาะ ถึงตลาดอรัญฯ พร้อมเชิญชวน อ้อนคนสระแก้วสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรค รปช.
| ข่าว,ทั่วไทย | สุเทพ เทือกสุบรรณ,คารวะแผ่นดิน,รปช.,หาสมาชิกพรรค,อรัญประเทศ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/east/1411703 |
ลำปางระทึก รถบรรทุกน้ำมันพลิกคว่ำ ดีเซลกว่า 4 หมื่นลิตรทะลัก | เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 12 พ.ย.61 ร.ต.อ.ไพโรจน์ ธิแจ้ รอง สว.(สอบสวน) สภ.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง รับแจ้งเหตุรถบรรทุกน้ำมันเสียหลักชนแท่งปูนกั้นกลางถนนได้รับความเสียหาย ก่อนพลิกคว่ำ ที่บริเวณถนนสายลำปาง-งาว ช่วงกม.ที่ 742 หมู่ที่ 3 ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ ส่งผลให้มีน้ำมันรั่วไหลออกมาเป็นจำนวนมาก จึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมรถดับเพลิง อบต.บ้านดง และรถบรรทุกสารเคมีดับเพลิงของบริษัทน้ำมันรายดังกล่าว เพื่อฉีดสกัดไม่ให้เกิดเพลิงไหม้,ที่เกิดเหตุบนถนนสายดังกล่าว พบรถบรรทุกน้ำมันของบริษัทแห่งหนึ่ง หมายเลขทะเบียน 61-4707 กทม.ซึ่งบรรทุกน้ำมันมาจำนวน 4.2 หมื่นลิตร เสียหลักชนแท่งปูนกั้นกลางถนน ทำให้ถังบรรจุน้ำมันส่วนท้าย 1 ห้องได้รับความเสียหาย ส่งผลให้มีน้ำมันดีเซลรั่วไหลออกมา เจ้าหน้าที่เร่งฉีดสารเคมีสกัดเป็นระยะๆ เพื่อไม่ให้เกิดเพลิงลุกไหม้ โดยมีรถดับเพลิง อบต.บ้านดง และรถของ ปภ.ลำปาง คอยให้การสนับสนุน,ทั้งนี้เบื้องต้นช่วงเวลา 11.00 น. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ประสานรถบรรทุกน้ำมันอีกคัน เพื่อเตรียมเร่งขนถ่ายน้ำมันที่ส่วนเหลือ พร้อมปิดกั้นถนนช่วงดังกล่าว โดยให้รถวิ่งสวนเลนกันและคาดว่าอีกไม่นานน่าจะสามารถขนถ่ายน้ำมันส่วนที่เหลือและเคลื่อนย้ายรถน้ำมันคันดังกล่าวออกจากถนนได้,อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้คนขับรถน้ำมัน ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลลำปาง ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวน. | ระทึก เกิดเหตุรถบรรทุกน้ำมันขนาด 4.2 หมื่นพันลิตร เสียหลักชนแท่งปูนกั้นกลางถนน ก่อนพลิกคว่ำ ส่งผลให้ดีเซลรั่วไหลทะลัก เจ้าหน้าที่เร่งฉีดโฟมสกัด ปิดกั้นบริเวณหวั่นไฟลุก | ข่าว,ทั่วไทย | รถบรรทุกน้ำมัน,รถบรรทุกน้ำมันคว่ำ,ดีเซล,น้ำมันทะลัก,ลำปาง,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1418930 |
น้ำตาผู้หญิง น้ำตาผู้ชาย… : ใครว่าผู้หญิงอยากใช้น้ำตาเป็นอาวุธ? | เมื่อชีวิตมีคำถามเช่นนี้ ผมก็เลยส่งโทรจิตกลับไปถาม อีพริ้ง เมียของผมเมื่อชาติภพที่แล้ว เธอตอบกลับมาหาผมอย่างรวดเร็วราวกับใช้ hi-speed internet ว่า อย่าโง่นักเลยไอ้แก่ การร้องไห้มันมีประโยชน์นะเว้ย เพราะมันเป็นต้นทุนที่ถูกที่สุดในทางการเมือง ไม่ต้องเสียตังค์สักบาท แถมถ้าร้องบ่อยๆ แล้วคนเชื่อว่ามีเมตตาธรรมแบบเล่าปี่ ก็ซื้อใจคนทั้งแผ่นดินได้ อ่านข้อความของอีพริ้งจบ ผมก็กระจ่างราวกับตื่นจากภวังค์ เพราะถ้าคุณเป็นแฟนพันธุ์แท้สามก๊กจริง คุณก็จะรู้ว่าจริงๆแล้ว เล่าปี่ เป็นผู้นำก๊กที่จนที่สุด เมื่อเทียบกับ โจโฉ และ ซุนกวน เพราะโจโฉจะชั่วดีอย่างไรเสียก็เป็นทหาร มีอำนาจวาสนาพอสมควร ซุนกวนเล่าก็เป็นลูกเจ้าเมืองเก่าสืบต่อสมบัติพี่ชายและบิดา ในขณะที่เล่าปี่เป็นแค่คนทอเสื่อขาย แต่ความอ่อนโยนและน้ำตาของเล่าปี่นี่เอง ทำให้ได้ ใจ ของประชาชน และแม่ทัพนายกองมากมายที่พร้อมพลีกายถวายหัวชนิดที่ว่าแทบไม่คิดถึงชีวิตตัวเอง กลับมาที่การเมืองไทย เมื่อสัปดาห์ที่แล้วนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของเราลงพื้นที่ไปตรวจความเรียบร้อยในการฟื้นฟู จ.นครสวรรค์ หลังน้ำลด ในขณะที่กำลังปราศรัยทักทายพ่อแม่พี่น้องอยู่ดีๆ เธอก็กล้ำกลืนร้องไห้น้ำตาไหลออกมา ชนิดที่เรียกได้ว่า อึ้งกิมกี่ กันไปหมด ทั้งรัฐมนตรี ทั้งประชาชน จนสื่อมวลชนต้องเอามาทำข่าว ในโลกไซเบอร์อินเตอร์เน็ตก็แชร์กันให้ว่อน ทั้งชมทั้งด่า มีตั้งแต่ เห็นใจนายกฯจังเลยนะคะ จนไปถึงขั้นที่ว่า ดัดจริต แต่ที่เด็ดดวงกว่านั้น คือ การที่ ส.ส.ของ ปชป. สามคน อันได้แก่ ศิริวรรณ ปราศจากศัตรู มัลลิกา บุญมีตระกูล และ คุณหญิงกัลยา โสภณพานิชย์ พร้อมหน้ากันออกมาอัดนายกฯ รวมใจความสั้นๆ ได้ว่า อ่อนแอ ขี้แยมารยาหญิง ไร้ภาวะผู้นำ อัดกันแรงมากจน ส.ส.ชาย ได้แต่นั่งทำตาปริบๆ เพราะคิดไม่ถึงว่าผู้หญิงด้วยกันจะอัดกันแรงซะขนาดนี้ แถมประเด็นที่เล่นก็ไม่ใช่ประเด็นการทำงานซะด้วย แต่เป็นเรื่องหยุมหยิมสุดๆ เช่น เรื่องน้ำตา ผมกลับมานั่งคิดว่า จริงๆแล้วปัญหาที่ทำให้คุณยิ่งลักษณ์ โดนด่า นี่คืออะไร? มันไม่ใช่ความซวยของคุณยิ่งลักษณ์ที่ดันเกิดมาเป็นน้องสาวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรเท่านั้น แต่มันเป็นปัญหาสากลของโลก ที่ผู้หญิงมักจะโดนด่าเช่นนี้เป็นประจำ นั่นเป็นเพราะสังคมให้คุณค่า (value) กับการกระทำของผู้หญิง และผู้ชายแตกต่างกัน สังคมมองบุรุษเพศว่าเป็นเพศที่เข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว มีภาวะผู้นำ ห้าวหาญ เหนือกว่าผู้หญิงทุกๆด้าน ดังนั้นการร้องไห้ของบุรุษเพศ จึงถูกบรรยายออกมาในทำนองว่า น้ำตาลูกผู้ชาย น้ำตาสุภาพบุรุษ น้ำตานักสู้ ในขณะที่น้ำตาของผู้หญิงกลับถูกมองว่าเป็นเรื่องของ ความอ่อนแอ ไร้ภาวะผู้นำ มารยาหญิง บ้างก็ไปถึงขั้นว่า หวังจะใช้น้ำตาเป็นอาวุธละสิ เพื่อยืนยันว่าทฤษฎีนี้ถูกต้อง ผมจำได้ว่าก่อนหน้าที่คุณยิ่งลักษณ์จะร้องสักสองอาทิตย์ คุณกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี ก็เคยกอดคอร้องไห้กับนักลงทุนชาวญี่ปุ่นมาแล้วเนื่องจากไม่สามารถปกป้องนิคมอุตสาหกรรมโรจนะเอาไว้ได้ ครั้งกระนั้นก็ไม่เห็นมีใครว่าอะไร ไม่เห็นมี ส.ส.หญิง ส.ส.ชายหน้าไหนออกมาโวยวาย เท่ากับกรณีของคุณยิ่งลักษณ์ คุณว่ามันแปลกไหมละ? ให้สรุปสั้นๆ ง่ายๆ ก็คือ น้ำตาของผู้ชาย มันอาจจะใช้เป็นอาวุธทางการเมืองได้ไม่ยากนัก แต่สำหรับผู้หญิงแล้ว น้ำตา นอกจากจะไม่ได้ช่วยให้ได้แต้มต่อในทางการเมือง ยังกลับเป็นตัวทำลายภาพลักษณ์ ความเป็นผู้นำ ของตัวผู้หญิงเองด้วยซ้ำไป ดังนั้นใครที่คิดว่าผู้หญิงอยากจะร้องเพื่อเรียกคะแนนทางการเมือง อาจจะต้องกลับไปคิดใหม่อีกหลายๆรอบ เพราะขืนใช้วิธีนี้ จะมีแต่เสียกับเสีย ที่ผมกล้าพูดเช่นนี้ เพราะหลายปีก่อน อีพริ้ง เคยตั้งข้อสังเกตกับผมว่า สิ่งที่เรียกกันว่า ความเป็นผู้นำ มักจะถูกเชื่อมโยงกับ บุคลิกความเป็นชาย แทบจะทั้งหมด เช่น แข็งกร้าว เด็ดเดี่ยว ใจแข็ง มีบุคลิกความเป็นผู้นำ พูดจาฉะฉาน กล้าตัดสินใจ ฯลฯ ทั้งหมดนี่เป็นเพื่อจะกีดกันผู้หญิง (ซึ่งแน่นอนว่ามีลักษณะตรงข้าม) ให้ออกไปจากการเมือง ส่วนผู้หญิงบางคนที่แทรกตัวเข้ามาในการเมืองได้ และประสบความสำเร็จ ก็จำต้องทิ้งบทบาทความเป็นผู้หญิงเสีย แล้วสวมบทบาทข้างต้นแบบผู้ชาย เมื่อไปมองดูผู้นำหญิงทั้งในประวัติศาสตร์และในปัจจุบันที่มีชื่อติดอยู่ในสมอง ได้แก่ บูเช็คเทียน ซูสีไทเฮา มากาแร๊ต แทชเชอร์ อองซาน ซูจี กอเรีย อาโร ฮิลลารี่ คลินตัน ก็เป็นจริงดั่งที่ อีพริ้ง ได้พูดไว้ นั่นคือ เธอเหล่านี้แทบจะไม่เหลือบุคลิกผู้หญิงเอาไว้เลย นอกจากเสื้อผ้าหน้าผม เพราะเธอสวมบทผู้นำเด็ดเดี่ยว ซะจนผู้ชายต้องเดินตามหลังต้อยๆ สุดท้ายคิดไปคิดมาก็น่าเสียดายมาก ที่ ส.ส.หญิง แห่งค่าย ประชาธิปัตย์ ทั้ง 3 ท่านนั้น ไม่มีใครเห็นประเด็นเหล่านี้ แต่กลับดับเครื่องชนเดินหน้าออกมาผลิตซ้ำ วาทกรรม ที่ลดทอน/ทำลายพื้นที่ทางการเมืองของผู้หญิงด้วยกัน เพียงเพราะมุ่งหวังแต้มต่อทางการเมืองเล็กๆ น้อยๆ ในขณะที่ ส.ส.ผู้ชายทั้งหลายก็ นกรู้ เลือกที่จะนิ่งเฉย เงียบ ไม่ตอบโต้อะไรในเรื่องนี้ รอดูผู้หญิงทะเลาะกันเองจะดีกว่า เพราะในโลกนี้คนที่จะกดขี่ หรือเอาเรื่อง ความเป็นหญิง มาด่าผู้หญิงได้เจ็บแสบที่สุด คงไม่ใช่ผู้ชายหน้าไหน แต่เป็นผู้หญิงด้วยกันเองนี่แหละ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้หญิงที่เรียกตัวเองว่าเป็นผู้ดี มีการศึกษาสูง… | น้ำตา มักถูกใช้เป็นอาวุธทางการเมืองบ่อยๆ ถ้าคุณอ่านสามก๊กคุณจะพบว่าแม่ทัพนายกองทั้งหลาย ร้องไห้กันเกือบทั้งเรื่อง อะไรนิดอะไรหน่อยก็ร้อง จะซาบซึ้งจะอะไรกันหนักหนา ทั้งๆที่เป็นชายชาตินักรบกันแท้ๆ | การเมือง | น้ำตา,น้ำท่วมปี 2554,ภาวะผู้นำ,ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร | https://prachatai.com/journal/2011/11/37857 |
ยิงทอมดับ แค้นตีท้ายครัว เสี่ยรับเหมา มอบตัว | จับได้-แชตจีบภรรยา เลือดขึ้นหน้าบุกถึงที่ ลั่นไกจ่อยิงหัวกระจุย,บุกจ่อยิงโหดสาวทอมดับคาที่ ฝีมือหนุ่มรับเหมา แค้นที่เหยื่อแอบสนิทสนมกับเมีย ล่าสุดตรวจสอบ โทรศัพท์ของเมียรักพบข้อความที่เหยื่อส่งมาให้หวานซึ้ง เกิดเลือดขึ้นหน้าเข้าไปตักเตือนห้ามมายุ่ง ก่อนเตะ 2 ที ภายหลังยังไม่หายแค้นพกปืนบุกตามยิงจนเหยื่อดับสยอง,หนุ่มแค้นสาวทอมมาพัวพันเมียรักจ่อยิงหัวดับอนาถรายนี้เปิดเผยเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 18 ธ.ค. ร.ต.ท.ขวัญชัย ปานคง รอง สว. (สอบสวน) สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี รับแจ้งมีเหตุยิงกันตายที่บ้านเลขที่ 177 หมู่ 3 ซอยจันทร์ทองเอี่ยม ต.บางรักพัฒนา รีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จ.นนทบุรี พ.ต.อ.ศราวุธ สวัสดิชัย รรท.ผกก.สภ.บางบัวทอง พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ โมรานนท์ ผกก.สส.ภ.จ.นนทบุรี พ.ต.ท.สมุทร เกตุยา รอง ผกก. (สอบสวน) พ.ต.ท.วรพัฒน์ วัฒนชัยนันท์ รอง ผกก. (สส.) พ.ต.ท.พล พื้นพรม สวป. พ.ต.ท.ณัฐยุทธ์ แก้วปาน สว.สส. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน แพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์และมูลนิธิร่วมกตัญญู,ที่เกิดเหตุเป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ 2 ชั้นไม่มีเลขที่เป็นโรงงานรับทำปกไดอารี พบศพ น.ส.รัชนีกร แดงทน อายุ 32 ปี ชาว อ.พระยืน จ.ขอนแก่น ทำงานในที่ดังกล่าว นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตบนพื้นมีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 1 นัด กระสุนฝังในเลือดไหลนองเต็มพื้น ห่างออกไปจากที่เกิดเหตุประมาณ 50 เมตร พบนายวิทยากร แก้วมา อายุ 36 ปี ชาว จ.นครสวรรค์ ผู้ก่อเหตุนั่งรอมอบตัวในบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงคุมตัวไปเอาปืน .22 ที่ใช้สังหารหลังนำไปซ่อนไว้บริเวณหลังบ้าน,สอบสวนนายวิทยากรให้การว่า มีอาชีพรับจ้างและรับเหมาทั่วไป ยอมรับว่าได้ใช้ปืนยิง น.ส.รัชนีกรซึ่งเป็นสาวทอมจริง สาเหตุเพราะจับได้ว่าแอบมีความสนิทสนมกับภรรยาตน ซึ่งทำงาน รง.ทำปกไดอารีที่เดียวกับผู้ตาย และสงสัยมานานแล้ว ก่อนเกิดเหตุได้ตรวจดูโทรศัพท์ของภรรยาพบข้อความต่างๆ ที่ผู้ตายส่งมาให้ส่อไปทางชู้สาวจึงเดินไปสอบถาม น.ส.รัชนีกรในที่เกิดเหตุพร้อมบอกให้เลิกยุ่งกับภรรยา ผู้ตายได้ยกมือไหว้ขอโทษและรับปากว่าจะไม่ยุ่งกับภรรยาของตนอีก ด้วยความโมโหเลยเตะไป 2 ทีแล้วเดินกลับบ้าน,นายวิทยากรให้การอีกว่า ช่วงบ่ายหลังไปส่งภรรยากลับบ้านที่ จ.สุรินทร์ ได้หยิบเอาปืนเดินเข้าไปหา น.ส.รัชนีกรที่เกิดเหตุเพื่อขอเงินค่าแรงของภรรยาจากเจ้าของกิจการ พบ น.ส.รัชนีกรนั่งทำงาน ด้วยความแค้นที่ น.ส.รัชนีกรแอบคบหากับภรรยาเลยชักปืนที่เตรียมมายิงใส่ น.ส.รัชนีกร นัดแรกไม่โดน ยิงใส่อีก 2 นัดจน น.ส.รัชนีกรล้มลงกองกับพื้น มันหยามศักดิ์ศรีกันเกินไป ผมบอกดีๆก็แล้ว ผู้ตายยังไม่ยอมเลิกยุ่งกับเมียผม มันทนไม่ไหว นายวิทยากรกล่าว ขณะที่ พล.ต.ต.ไพศาลกล่าวว่า สาเหตุมาจากเรื่องหึงหวง เนื่องจากนายวิทยากรทราบว่าผู้ตายซึ่งมีลักษณะคล้ายทอมแอบมายุ่งกับภรรยาเลยโมโหก่อนบุกไปยิงดับคาที่ | บุกจ่อยิงโหดสาวทอมดับคาที่ ฝีมือหนุ่มรับเหมา แค้นที่เหยื่อแอบสนิทสนมกับเมีย ล่าสุดตรวจสอบ โทรศัพท์ของเมียรักพบข้อความที่เหยื่อส่งมาให้หวานซึ้ง | ข่าว,ทั่วไทย | สาวทอม,ถูกยิงตาย,ตีท้ายครัว,บางบัวทอง,ข่าวหน้า1 | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1448493 |
โจ๋ศรีสะเกษ ปฏิเสธฆ่าหมา อ้างพบซากที่ถูกชนเลยเก็บมาทำกับแกล้ม | ไม่ได้ฆ่าตายแต่อย่างใด,เมื่อวันที่ 19 เม.ย. 60 พ.ต.ท.วิโรจน์ ปัญญาสุวรรณกุล รอง ผกก.ป.สภ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ร่วมกับ นายจำนง ยอดย้อย ปลัดอำเภอขุขันธ์ ร.ต.สุวิทย์ ไชยวงศ์ หน.ชป.กกล.รส. จ.ศรีสะเกษ และ นายวิสิทธิชัย มณีสาร ปศุสัตว์อำเภอขุขันธ์ นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบ้านหลังหนึ่งใน ตำบลโสน อ.ขุขันธ์ หลังได้รับแจ้งเรื่องราวจากประชาชนว่า บ้านหลังดังกล่าวมีกลุ่มวัยรุ่นมามั่วสุมดื่มสุรา และฆ่าสุนัขกินแกล้มเหล้าแทบทุกวัน,เบื้องต้น เจ้าหน้าที่พบกับ นายไก่ (นามสมมติ) อายุ 45 ปี ซึ่งนายไก่ให้การว่า ไม่รู้ไม่เห็นถึงเรื่องดังกล่าว แต่พอเจ้าหน้าที่ได้ไปตรวจค้นบริเวณรอบๆ บ้านก็พบจุดต้องสงสัยมีร่องรอยคุ้ยดินฝังกลบใหม่ คาดว่าจะเป็นจุดที่ใช้ฝั่งซากศพของสุนัข พอเจ้าหน้าที่ขุดลงไปก็พบซากสุนัขถูกฝังอยู่ในจุดดังกล่าวจริง สภาพเหมือนเพิ่งนำมาฝังได้ประมาณ 1-2 วัน โดยนายไก่อ้างว่า ซากสุนัขดังกล่าว มีลูกชายของตนกับเพื่อนที่มากินเหล้าด้วยกันช่วงสงกรานต์,นายโต้ง (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ลูกชายนายไก่ ให้การว่า ตนพร้อมเพื่อนนำซากสุนัขที่ตายจากการถูกรถชนมาประกอบอาหารทำกับแกล้มกินกันจริงในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา แต่ไม่ได้ฆ่าสุนัข และก็ไม่ได้กินสุนัขเป็นประจำ ตอนสงกรานต์ได้กินเหล้ากับเพื่อน จึงคิดหากับแกล้มจนกระทั่งเจอสุนัขตายจึงนำมากิน,ทั้งนี้ หากเป็นการนำซากสุนัขที่ถูกรถชนตายมาทำอาหารกิน ตามที่นายโต้งให้การก็ไม่มีความผิด เจ้าหน้าที่ได้ลงบันทึกคำให้การของนายโต้งไว้เป็นหลักฐานแล้วปล่อยตัวไป และจะได้สอบปากคำพยานรอบข้าง ถ้ามีคนมายืนยันว่านายโต้งพร้อมเพื่อนนำสุนัขมาฆ่ากิน ก็จะได้เรียกตัวนายโต้งมาดำเนินคดีทีหลังได้ แต่ก็จะให้ความเป็นธรรมกับทุกๆ ฝ่าย | เจ้าหน้าที่รัฐ บุกบ้านแห่งหนึ่งใน อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ หลังชาวบ้านร้องวัยรุ่นมั่วสุมดื่มสุราและฆ่าสุนัขเอามากินเป็นกับแกล้มทุกวัน ตอนแรกเจ้าของบ้านปฏิเสธเสียงแข็ง เจ้าหน้าที่ขุดพบซากเพิ่งถูกฝัง เสียงอ่อยบอกเป็นซากที่ถูกรถชน | ข่าว,ทั่วไทย | กินหมา,กินสุนัข,ซากสุนัข,สุนัข,ศรีสะเกษ | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/917581 |
ทีมจัด วิ่งไล่ลุง แจง ค่าสมัครนำไปบริจาค-ทำกิจกรรมหน้า หลังหักภาษี-ค่าใช้จ่าย | สน.บางซื่อส่งกำลังมาดูแล ด้านการขอจัดงานวิ่งไล่ลุงที่ต่างจังหวัดหลายแห่งไม่ได้รับอนุญาต7 ม.ค. 2563 ผู้สื่อข่าวสอบถามธนวัฒน์ วงศ์ไชยหนึ่งในแกนนำของคณะกรรมการแนวร่วมสมาพันธ์ผู้จัดงานวิ่งไล่ลุงเพื่อประโยชน์ประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนแห่งประเทศไทย ผู้จัดงาน วิ่งไล่ลุง ที่จะมีขึ้นที่สวนรถไฟ จตุจักร ในเช้าวันที่ 12 ม.ค. ที่จะถึงนี้ ถึงความคืบหน้าเรื่องการใช้เงินธนวัฒน์ระบุว่าจากรายรับที่ได้จากค่าสมัครนั้นได้เตรียมการเสียภาษีเอาไว้แล้ว ส่วนการจัดการรายรับ จะนำไปใช้เป็นต้นทุนทั้งเรื่องค่าจัดงาน ค่าใช้จ่ายของทีมงาน ค่าเวที แสงสีเสียง โครงคัต ป้ายแบ็คดรอป ค่าประสานงาน ยืมแผงกั้น รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจะเอาไปบริจาค เบื้องต้นได้ประสานกับทางมูลนิธิกระจกเงาและมูลนิธิดวงประทีปในการบริจาคเงิน ทั้งนี้ ถ้าหลังจากงานวิ่งแล้วทีมงานยังมีแรงเหลือ คิดโครงการอื่นได้ก็จะดำเนินการจัดทำโครงการร่วมกับมูลนิธิข้างต้น แต่ในส่วนตัวเงินนั้นจะให้เข้ามูลนิธิไปเลย อย่างไรก็ดี ทีมผู้จัดจะเก็บเงินไว้จำนวนเล็กน้อย เนื่องจากมีแผนจะจัดกิจกรรมในหัวเมืองใหญ่ ซึ่งยังไม่บอกว่าจะเป็นอะไรส่วนความคืบหน้าในการติดต่อกับ สน.บางซื่อ เจ้าของท้องที่เพื่อให้มาดูแลพื้นที่ในวันจัดงานนั้น ธนวัฒน์ระบุว่าได้ติดต่อไปทาง สน. และได้รับคำตอบว่าวันงานจะมีการจัดกำลังมาดูแลอนึ่ง ผู้สื่อข่าวพบว่า งาน วิ่งไล่ลุง และลักษณะการแสดงออกทางการเมืองด้วยการวิ่งถูกจัด และมีแผนจะถูกจัดในหลายที่ทั้งในไทยและในกลุ่มคนไทยที่อาศัยอยู่ต่างประเทศ รายงานว่า มีการจัดงานวิ่งไล่ลุงทั้งสิ้น 14 จังหวัด และอีก 6 แห่งในต่างประเทศวันเดียวกันนี้ รายงานว่า ว่าที่ร้อยตรีประเสริฐ หงวนสุวรรณ ประธานเครือข่ายผู้รักประชาธิปไตย และเครือข่ายจำนวน 8 คน เข้าพบ พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ สว่างประเสริฐ ผกก.สภ.เมืองแพร่ เพื่อแจ้งกำหนดการและขอจัดกิจกรรม วิ่งไล่ลุง ในตัวเมือง จ.แพร่ โดยระบุว่า จะมีคนไปร่วมราว 500 คน ตั้งแต่ตลาดแพร่ปรีดา มารวมตัวกันที่สนามหลวงเมืองเก่าแพร่ หลังจากนั้นจะมีข้อเสนอแนะให้กับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยทรงศักดิ์ได้แจ้งกลุ่มผู้จัดงานว่าขอตรวจสอบหลักฐานที่ยื่นมาก่อนจะให้คำตอบในช่วง 16.00 น. ของวันนี้ข่าวสดยังรายงานว่า ทางจังหวัดพยายามระงับการจัดกิจกรรมดังกล่าว มีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบไปบ้านของแกนนำที่จัดงานวิ่ง พร้อมถ่ายรูปบ้านไว้ ทางผู้ชุมนุมเตรียมขอเข้าพบกานต์เปรมปรีย์ ชิตานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อขอให้อำนวยความสะดวก หากไม่เป็นไปตาที่ตกลงไว้ เครือข่ายผู้รักประชาธิปไตยจังหวัดแพร่ อาจปักหลักชุมนุมตั้งแต่วันนี้สำหรับความเคลื่อนไหวในต่างจังหวัด เมื่อ 6 ม.ค. 62 รายงานว่า นิสิตจากมหาวิทยาลัยพะเยาจำนวน 3 คน ที่เข้ายื่นหนังสือเตรียมจัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุงต่อผู้กำกับ สภ.เมืองพะเยา ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ โทร. ติดต่อให้ไปให้ถ้อยคำเพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจกรรมต่อพนักงานสอบสวน โดยนิสิตทั้ง 3 เข้าไปให้ถ้อยคำในวันที่ 5 ม.ค. โดยใช้เวลาตอบคำถามนานกว่า 5 ชั่วโมง โดยผู้กำกับการ สภ. พะเยา มีหนังสือตอบกลับ ไม่ให้ความอนุเคราะห์แก่นิสิตทั้ง 3 คน โดยให้เหตุผลว่า ด้านนิสิตยังไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้พื้นที่จากเทศบาลเมืองพะเยา และไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานจราจรในการใช้ผิวถนน อีกทั้งระบุในตอนท้ายว่าหากจัดกิจกรรมต่อจะเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะที่ จ.อุบลราชธานี มติชนรายงานว่า วันนี้ (7 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุบลราชธานี ไม่อนุญาตให้ชุมนุมสาธารณะ วิ่งไล่ลุง ตามหนังสือที่ได้ยื่นแจ้งการชุมนุมสาธารณะ ณ หน้าศาลหลักเมือง ข้างทุ่งศรีเมือง และวิ่งไปตามเส้นทางถนนชยางกูร ในวันที่ 12 ม.ค. 63 ทั้งที่ในวันที่ 6 ม.ค.พ.ต.ท.ปราโมทย์ ชื่นตา รักษาราชการแทนผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองอุบลราชธานี กล่าวว่า ที่ได้อนุญาตไปนั้นเดิมที เบื้องต้นเห็นว่าเป็นการวิ่งเพื่อสุขภาพ ตามวัตถุประสงค์เดิมเป็นการวิ่งเพื่อเก็บขยะตามถนน แต่เมื่อผู้มีอำนาจโดยตรงพิจารณา ก็เห็นว่าจะเป็นการแสดงออกที่มีเจตนามุ่งหมายทางการเมือง หรือแสดงสัญลักษณ์ต่อต้านรัฐบาล ซึ่งอาจผิดกฎหมาย ทั้งนี้ ผู้จัดสามารถอุทธรณ์คำสั่งไม่อนุญาตให้ชุมนุมได้ภายใน 30 วันฉัตรชัย แก้วคำปอด ผู้จัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุง จ.อุบลราชธานี เปิดเผยกับว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกมาคุยเพิ่มเติม โดยอ้างว่าการจัดงานวิ่งนั้นไปกระทบสิทธิผู้อื่น จึงไม่อนุญาตให้จัดกิจกรรม โดยข่าวสดยังรายงานคำกล่าวจากปราโมทย์ว่า ได้รับแจ้งจากฝ่ายปกครองว่าทุกเช้าวันอาทิตย์ของทุกสัปดาห์ จังหวัดมีการจัดกิจกรรมทำบุญตักบาตรบริเวณสวนสาธารณะทุ่งศรีเมือง ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเดียวกันกับศาลหลักเมือง และทุกสัปดาห์มีประชาชนจำนวนมากมาร่วมกิจกรรมตักบาตร อาจจะทำให้เกิดการกีดขวางการสัญจรของประชาชนในพิธีตักบาตรทำบุญของพุทธศาสนิกชนดังกล่าวทั้งนี้ คณะกรรมการสมาพันธ์ฯ ผู้จัดงานวิ่งไล่ลุงที่สวนรถไฟ กรุงเทพฯ ได้ระบุไว้ตั้งแต่ 19 ธ.ค. 2562 ว่าเป็นผู้จัดงานวิ่งไล่ลุงที่เดียว คือที่สวนรถไฟ แต่หากหากคณะจัดงานตามต่างจังหวัด ประสงค์ที่จะได้เสื้อ และเหรียญวิ่ง (ผลิตโดยวัสดุพิเศษ) แบบเป็นหมู่คณะ สามารถติดต่อที่เราได้ทางแชทของเพจ | ธนวัฒน์ วงศ์ไชย หนึ่งในผู้จัดงาน วิ่งไล่ลุง ระบุ เตรียมจ่ายภาษีเอาไว้แล้ว หลังรับโอนค่าสมัครจากนักวิ่งไล่ลุง เบื้องต้นประสานมูลนิธิกระจกเงา-ดวงประทีป รับบริจาค วันงานจะมีตำรวจ | การเมือง,สิทธิมนุษยชน | วิ่งไล่ลุง,ธนวัฒน์ วงศ์ไชย,เสรีภาพการแสดงออก | https://prachatai.com/journal/2020/01/85812 |
รองผบช.น.ยืนยันลูกฆ่าแม่ใช้ค้อน-มีด มีเวลา 16 ชั่วโมง | เวลา 17.00 น. วันที่ 26 พ.ย. พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รอง ผบช.น. กล่าวภายหลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุลูกฆ่าหั่นศพแม่ยัดตู้เย็น ว่า ที่มาตรวจที่เกิดเหตุ เนื่องจากทางนิติเวชยืนยันว่ามีกระสุนปืน 1 นัดบริเวณศีรษะลูกชาย เมื่อเข้าตรวจสอบภายในบ้านก็พบรอยกระสุนที่ทะลุจากศีรษะไปตกอยู่บริเวณใต้บันไดเพียงนัดเดียวเช่นกัน สำหรับอาวุธปืนของกลางเป็นของ น.ส.ยุรีย์ ผู้ตาย ซึ่งมีใบ ป.4 ยืนยันการครอบครอง เนื่องจากงานที่ทำบางครั้งเขาต้องพกเงินไปมาและเก็บที่บ้านด้วยจำนวนมากจึงกลัวอันตรายจนต้องหาปืนมาครอบครองเอาไว้ป้องกันตัว,ทั้งนี้ จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตั้งแต่วันเสาร์ที่ 23 พ.ย. พบภาพนายศิระ ลูกชายและ น.ส.ยุรีย์ ผู้เป็นแม่เข้ามาที่บ้าน จากนั้นก็ยังไม่พบว่ามีใครเข้ามาในบ้านอีก จนกระทั่งวันจันทร์ที่ 25 พ.ย.ช่วงบ่ายมีดาบตำรวจ สน.ท่าข้าม ชื่อหน่องและน.ส.วรนุช วงษ์ชัย ผู้พบศพเข้ามาที่บ้าน เพราะนายจ้างพยายามติดต่อ น.ส.ยุรีย์ แต่ติดต่อไม่ได้จนต้องมีการตามมาหาตัวที่บ้าน,ส่วนสาเหตุที่ดาบหน่อง สายตรวจสน.ท่าข้าม มาด้วยนั้น เนื่องจากรู้จักกับ น.ส.วรนุช และอยู่หมู่บ้านเดียวกัน ตอน น.ส.วรนุช เข้าไปเจอลูกผู้ตายพูดไม่รู้เรื่อง และพยายามที่จะหนี เมื่อรู้สึกผิดสังเกตจึงโทรตามดาบหน่อง ให้เข้ามาช่วยดูเหตุการณ์ ทั้งนี้ ตำรวจยืนยันว่าเห็นลูกชายใช้ปืนจ่อศีรษะบริเวณบันได และยิงตัวเอง,รองผบช.น. กล่าวอีกว่า ยืนยันร้อยเปอร์เซ็นต์ ว่าลูกชายเป็นคนฆ่าแม่ คาดว่าจะมีการทะเลาะกันก่อน เพราะผู้เสียชีวิตมีรอยแผลที่คิ้วด้านขวา แต่ยังไม่ทราบสาเหตุการทะเลาะ นอกจากนี้ จากการที่ พฐ.ตรวจที่เกิดเหตุ โดยใช้น้ำยาหาคราบเลือดฉีดในห้องน้ำ พบรอยเรืองแสงรอยเลือดจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าเป็นจุดที่ใช้หั่นศพ แต่มีการล้างทำลายหลักฐานจนสะอาด ทาง พฐ. ได้เก็บอาวุธมีด ค้อน ที่เชื่อว่าใช้เป็นอาวุธในการชำแหละอวัยวะไปตรวจสอบ เบื้องต้น มีพยานหลักฐานค่อนข้างแน่ชัดว่าลูกชายใช้อุปกรณ์ดังกล่าวก่อเหตุ,พบรอยตอกบนพื้น คาดว่าเขาใช้มีดวางบนร่าง ก่อนเอาค้อนตอกด้านบนให้ชิ้นส่วนขาดออกจากกัน จากนั้นล้างคราบเลือดในห้องน้ำ แล้วเอาชิ้นส่วนใส่ในถุง ก่อนแช่ช่องฟรีซที่สำคัญเขามีเวลาค่อนข้างเยอะ ตั้งแต่เวลา 20.00 น. วันอาทิตย์ จนถึง 12.00 น. วันจันทร์ มันพอมีเวลา สำหรับเด็กที่อายุ 20 ปี สามารถทำได้ ทั้งนี้ อยากตอบกระแสโซเชียลว่า การพิสูจน์หลักฐานต้องใช้เวลา ก่อนเกิดเหตุจนถึงหลังเกิดเหตุ เป็นอย่างไร รอง ผบช.น. กล่าว | รองผบช.น.ยืนยัน100%ลูกชายฆ่าหั่นศพแม่ เป็นเรื่องในครอบครัว ไม่มีคนอื่นเกี่ยวข้อง ทุกอย่างเคลียร์ เผยพบรอยตอกบนพื้นห้องน้ำ คาดใช้ ค้อนกับมีด มีเวลา 16 ชั่วโมงเพียงพอสำหรับเด็กหนุ่มวัย 20 ปี | ข่าว,อาชญากรรม | ลูกฆ่าแม่,ข่าวเด่น,ลูกฆ่าหั่นศพแม่,ฆ่ายัดตู้เย็น,หั่นศพ,ฆ่าหั่นศพ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1712501 |
ตั้งอนุไต่สวนคดีทุจริตเงินคนไร้ที่พึ่ง เพิ่ม ผอ.ศูนย์โกงกระจาย |
เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 6 เม.ย. 61 พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) กล่าวภายหลังจากที่ วานนี้ (5 เม.ย.) ได้เสนอคณะกรรมการ หรือ บอร์ด ป.ป.ท.พิจารณาสำนวนการตรวจสอบข้อเท็จริงการทุจริตเบิกจ่ายเงินสงเคราะห์ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จำนวน 25 จังหวัด เพื่ออนุมัติตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีอาญา ซึ่งหลังการประชุมบอร์ด ป.ป.ท.มีมติตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนเพิ่มอีก 16 จังหวัด ได้แก่ 1. ปัตตานี 2. สตูล 3. สงขลา 4. ชุมพร 5. ภูเก็ต,6. ระนอง 7. แม่ฮ่องสอน 8. ลำปาง 9. พิษณุโลก 10. พิจิตร 11. กำแพงเพชร 12. จันทบุรี 13. สระบุรี 14. ลพบุรี 15. สมุทรสงคราม และ 16. ศรีสะเกษ รวมมีผู้ถูกกล่าวหา 60 คน แบ่งเป็น ผอ.ศูนย์ 18 คน และเจ้าหน้าที่และผู้สนับสนุน 42 คน
,นอกจากนี้ ยังอนุมัติตั้งอนุกรรมการไต่สวนทุจริตงบอื่นๆ เพิ่มอีก 2 จังหวัด คือ นิคมสร้างตนเองเชียงพิณ จ.อุดรธานี และศูนย์ประสานงานโครงการหมู่บ้านสหกรณ์สันกำแพง จ.เชียงใหม่ หลังจากนี้จะค่อยๆทยอยนำจังหวัดที่เหลือเข้าบอร์ด ป.ป.ท. เพื่ออนุมัติอนุกรรมการไต่สวนจากพยานหลักฐานที่รวบรวมมาได้ตามขั้นตอน,
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากทั้งหมด 76 จังหวัด เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. 15 ชุด ลงตรวจสอบขณะนี้มี 56 จังหวัด พบการทุจริตงบศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ประกอบด้วย ขอนแก่น เชียงใหม่ บึงกาฬ หนองคาย สุราษฎร์ธานี ตราด น่าน สระแก้ว อุดรธานี สระบุรี อยุธยา กระบี่ ตรัง ร้อยเอ็ด ยะลา พัทลุง ชุมพร สุรินทร์ อ่างทอง พิษณุโลก ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สงขลา นราธิวาส มหาสารคาม ลำพูน นครราชสีมา อำนาจเจริญ ยโสธร อุบลราชธานี นครพนม กาฬสินธุ์ พิจิตร ราชบุรี นครปฐม มุกดาหาร ลำปาง เชียงราย แม่ฮ่องสอน ตาก อุทัยธานี สตูล ลพบุรี หนองบัวลำภู ศรีสะเกษ กำแพงเพชร พังงา สกลนคร จันทบุรี เลย ชลบุรี ภูเก็ต ปัตตานี เพชรบูรณ์ สมุทรสงคราม และระนอง
,โดยบอร์ด ป.ป.ท. อนุมัติไต่สวนทุจริตงบศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งรวม 33 จังหวัด คือ เชียงใหม่ ขอนแก่น บึงกาฬ หนองคาย น่าน ตราด สุราษฎร์ธานี เชียงราย อุบลราชธานี ตรัง กระบี่ บุรีรัมย์ สุรินทร์ อำนาจเจริญ กาฬสินธุ์ นครพนม ชัยภูมิ ปัตตานี สตูล สงขลา ชุมพร ภูเก็ต ระนอง แม่ฮ่องสอน ลำปาง พิษณุโลก พิจิตร กำแพงเพชร จันทบุรี สระบุรี ลพบุรี สมุทรสงคราม และ ศรีสะเกษ
,โดยมีผู้ถูกกล่าวหาเป็น ระดับ ผอ.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งฯ (เก่า 17 + ใหม่ 18) = 35 คน (มี 2 จังหวัด รวม ผอ.คนเก่าด้วย) และระดับเจ้าหน้าที่และผู้สนับสนุน (เก่า 81 + ใหม่ 42) = 123 คน รวม (เก่า 35 + ใหม่ 123) = 158 คน
,นอกจากนี้ ป.ป.ท.ยังตรวจสอบงบอื่นๆ คู่ขนานไปด้วย ขณะนี้บอร์ด ป.ป.ท.อนุมัติตั้งอนุกรรมการไต่สวนการทุจริต 4 เรื่อง 1. สหกรณ์สันกำแพง จ.เชียงใหม่ 2. นิคมสร้างตนเอง จ.บุรีรัมย์ 3. นิคมสร้างตนเองเชียงพิณ จ.อุดรธานี และ 4. ศูนย์ประสานงานโครงการหมู่บ้านสหกรณ์สันกำแพง จ.เชียงใหม่ โดยมีผู้ถูกกล่าวหาโครงการละ 2 คน รวมทั้งหมด 8 คน
,หากรวมผู้ถูกกล่าวหาศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง (158) กับสหกรณ์ฯ และนิคมฯ (8) รวม 166 คน. | บอร์ด ป.ป.ท. เคาะตั้งอนุไต่ส่วนข้อเท็จจริงคดีทุจริตเงินคนไร้ที่พึ่งเพิ่มอีก 16 จังหวัด รวมของเดิมเป็น 33 จังหวัด มีผู้ถูกกล่าวหา 158 ราย ระดับ ผอ.ศูนย์ 35 ราย | ข่าว,อาชญากรรม | โกงเงินคนจน,ทุจริตเงินคนจน,ทุจริตเงินคนไร้ที่พึ่ง,ผอ.ศูนย์,ทุจริต,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1249816 |
มาตรการรองรับ การแบน สารเคมีเกษตร | ร่นระยะเวลาเข้ามาอีก 1 เดือน กับการประกาศเดินหน้ายกเลิกสารเคมีเกษตรที่มีความเสี่ยงสูง 3 ชนิด ที่ตอนนี้ ไม่เพียงแต่พรรคร่วมรัฐบาลจะต้องกำกับเสียงข้าราชการประจำที่เข้าไปนั่งอยู่ในคณะกรรมการวัตถุอันตรายเท่านั้น แต่ยังมีมาตรการอื่น ๆ ที่รัฐบาลจะต้องทำควบคู่กันไปพร้อมกัน เพื่อลดผลกระทบต่อเกษตรกร ในช่วงการเปลี่ยนผ่านไปสู่การเกษตรแบบยั่งยืนตามนโยบายที่วางไว้ฝ่ายการเมืองประสานเสียงค้านสารเคมีหากเป็นไปตามข้อสรุปของคณะทำงานที่ตั้งขึ้นตามบัญชาของนายกรัฐมนตรีเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เท่ากับว่าเส้นตายในการยกเลิกสารเคมีเกษตร 3 ชนิด จะขยับมาเร็วขึ้นอีกหนึ่งเดือน เป็นภายในวันที่ 1 ธ.ค.ที่จะถึงนี้ แต่เส้นเวลาที่สั้นลง ทำให้แรงกดดันทั้งหมดจะตกไปที่ ที่มีอำนาจตามกฎหมายในการพิจารณา ซึ่งก็ไม่ได้แยกขาดออกจากพรรคร่วมรัฐบาลแต่ละพรรค ว่าจะสามารถกำกับข้าราชการประจำในแต่ละกระทรวงที่ถูกแต่งตั้งเป็นกรรมการวัตถุอันตราย ไม่ให้โหวตสวนทางกับนโยบายได้หรือไม่ที่ผ่านมา จึงเห็นปรากฏการณ์ที่หลายพรรคการเมืองออกมาแสดงจุดยืนต่อสาธารณะในการสนับสนุน ตั้งแต่ ที่เดินเรื่องนี้อย่างเต็มสูบ เช่นเดียวกับ ที่เป็นต้นสังกัดถึง 2 กระทรวงในคณะกรรมการวัตถุอันตราย คือ และ ก็เปิดแถลงข่าวสนับสนุนการยกเลิกใช้สารเคมีเกษตร พร้อมส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ โดยตั้งเป้าส่งเสริมขยายพื้นที่เกษตรอินทรีย์ ร้อยละ 25 หรือ 1 ล้านไร่ต่อปีส่วนเจ้า จาก ก็ส่งเสียงผ่านข้าราชการระดับสูงว่า สนับสนุนอย่างเต็มที่ พร้อมยืนยัน จะให้ลงมติอย่างเปิดเผย ขณะที่ ที่มีรัฐมนตรีดูแล ก็แสดงจุดยืนที่ชัดเจนต่อเรื่องนี้ หลังเครือข่ายภาคประชาชนเข้าพบด้าน 7 พรรคการเมืองฝ่ายค้าน แม้ไม่ได้เป็นฝ่ายบริหาร แต่ก็แสดงท่าทีสนับสนุนการยกเลิกสารเคมีทั้ง 3 ชนิด มาตั้งแต่ตอนหาเสียงเลือกตั้ง และยังร่วมกับ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลขับเคลื่อนเรื่องนี้ผ่าน ที่กำลังรวบรวมข้อมูลปัญหาของสาร 3 ชนิด ข้อมูลสารเคมีเกษตรในภาพรวม และการเปลี่ยนผ่านไปสู่เกษตรอินทรีย์ของไทยการทำงานเรื่องยกเลิกสารเคมีเกษตรของฝ่ายการเมือง ทั้ง ส.ส. รัฐมนตรี และพรรคการเมืองในสภาฯ ช่วงเวลานี้ ได้รับการชื่นชมจากหลายฝ่ายว่า เป็นตัวอย่างของการทำงานร่วมกันของฝ่ายการเมืองที่คำนึงถึงสุขภาพ และผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง และทำให้สังคมไทยมีความหวังกับการแก้ปมปัญหาที่ยาก ๆ ร่วมกันอะไรที่รัฐบาล ยังไม่ได้ทำ หรือ ทำน้อยเกินไปหากเปรียบเทียบกับมาตรการจัดการสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างบุหรี่ ที่หลายประเทศนำไปใช้แล้วได้ผล ที่เรียกว่า M-POWER (Monitor / Protect / Offer / Warn / Enforce / Raise taxes) รัฐบาลคงต้องกำหนดนโยบายและมาตรการเสริม เพื่อจัดการปัญหาสารเคมีเกษตรที่มีความเสี่ยงสูงทั้งหมดเริ่มต้นด้วยการวางกลไกกำกับติดตาม การนำเข้า การกระจายสินค้า และการใช้ รวมถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสารเคมีต่อเกษตรกร ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม ซึ่งที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นแล้วว่า แต่ละกระทรวงแม้มีกลไกทำงานเรื่องนี้ แต่ก็แยกส่วนกันและไม่มีความต่อเนื่อง การพัฒนากลไกกำกับในเชิงนโยบาย และแก้ปัญหาตามบริบทพื้นที่ โดยทำงานอยู่บนฐานข้อมูลกลางที่ทุกหน่วยเข้าถึงได้ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องทำให้เกิดขึ้นทันทีการประกาศพื้นที่ปลอดการใช้สารเคมีเกษตร ซึ่งเดิม นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เคยเสนอให้ใช้พระราชบัญญัติพัฒนาที่ดิน พ.ศ.2551 เป็นกลไกในการแก้ปัญหาการปนเปื้อนสารเคมีเกษตร แต่ก็ไม่มีการสานต่อในระดับนโยบายต่อมาล่าสุด มีเพียงประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตามมติคณะกรรมการวัตถุอันตราย ที่ระบุให้ดำเนินการในเรื่องนี้ไว้เฉพาะ 3 สารที่เป็นประเด็นปัญหาใน 3 พื้นที่หลัก ๆ คือ พื้นที่ปลูกผักและสมุนไพร พื้นที่ต้นน้ำ และพื้นที่สาธารณะ แต่ก็ไม่มีความชัดเจนว่า เพียงแค่ 3 พื้นที่นี้ จะเพียงพอต่อการปกป้องสุขภาพของประชาชนหรือไม่ และจะกำกับติดตามให้มีประสิทธิภาพได้อย่างไรอีกมาตรการที่สำคัญและมีการเรียกร้องมาตลอดคือ การพัฒนากลไกช่วยเหลือเกษตรกรที่ต้องการเลิกใช้สารเคมี ตัวอย่างชัดเจนที่เพิ่งเกิดขึ้นที่ ตำบลบึงพระ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกผักรองรับตลาดภายในจังหวัดและต่างจังหวัด ที่ผ่านมาพื้นที่นี้มีการใช้สารเคมีการเกษตร มากถึงร้อยละ 90 ของพื้นที่ แต่ก็มีเกษตรกรหลายรายที่ต้องการเปลี่ยนมาทำเกษตรอินทรีย์ แต่กลไกรัฐในพื้นที่ก็ยังไม่สามารถรองรับได้การจะเดินหน้าตามมาตรการนี้ รัฐบาลคงต้องออกแบบกลไกการทำงานร่วมกับเครือข่ายภาคประชาชนหรือภาคธุรกิจเพื่อสังคมในพื้นที่ เพราะการเปลี่ยนไปสู่เกษตรอินทรีย์ ต้องใช้เวลาและการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ การพื้นฟูบำรุงดิน จัดการแหล่งน้ำ เมล็ดพันธุ์ การดูแล ตลอดจนเงินทุน ไม่ว่าจะเป็นการพักชำระหนี้เดิม และสนับสนุนทุนใหม่ที่เหมาะสมการเตือนให้ตระหนักถึงพิษภัยสารเคมีเกษตร มาตรการนี้มีการผลักดันให้บังคับใช้กับฉลากคำเตือนในสารทั้ง 3 ชนิดแล้ว แต่ยังไม่ครอบคลุมสารเคมีเกษตรตัวอื่น และยังไม่มีการห้ามโฆษณาประชาสัมพันธ์ และการส่งเสริมการขายในรูปแบบใหม่ ๆเรื่องสุดท้ายที่ต้องวัดใจรัฐบาลแต่เป็นมาตรการที่หลายประเทศทั่วโลกใช้แล้วได้ผล คือ การใช้มาตรการทางภาษี เพราะการนำเข้าและส่งออกสารเคมีเกษตรของไทย ยังมีการยกเว้นภาษี เนื่องจากมีการนิยามว่า สารเคมีเกษตรไม่ใช่สินค้าที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ แต่ในหลายประเทศมีวิธีการในการจัดเก็บภาษีสารเคมีเกษตรในหลายรูปแบบ เช่น เก็บจากผู้นำเข้าและผู้จำหน่าย รวมถึงการนำเงินภาษีที่เก็บได้ไปจัดตั้งกองทุนเพื่อฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม เยียวยาสุขภาพ หรือสนับสนุนเกษตรอินทรีย์ ขณะเดียวกันก็สามารถใช้มาตรการทางภาษีมาลดราคาสินค้าและนวัตกรรม ที่ใช้ทดแทนสารเคมีเกษตร เพื่อส่งเสริมให้มีการทำเกษตรอินทรีย์ เพิ่มขึ้นได้ดังนั้น นอกจากจับตาว่าในเวลาที่เหลืออีกไม่ถึง 2 เดือนนี้ คณะกรรมการวัตถุอันตรายจะมีการประชุมพิจารณา จะยกเลิกสารเคมีเกษตรที่มีความเสี่ยงสูงทั้ง 3 ชนิดหรือไม่แล้วนั้น เราอาจต้องติดตามทวงถามสิ่งที่รัฐบาลต้องทำและไม่อาจเพิกเฉยได้ คือ การกำหนดนโยบาย และมาตรการต่าง ๆ ที่จะทำให้การจัดการปัญหาสารเคมีเกษตร และการเปลี่ยนผ่านไปสู่เกษตรอินทรีย์เป็นจริงและยั่งยืน | รอลุ้นมติ คณะกรรมการวัตถุอันตราย หลัง กรรมการ 4 ฝ่าย ยกระดับวัตถุอันตราย 3 สาร ห้ามผลิต ห้ามนำเข้า และห้ามมีไว้ครอบครอง ด้าน รมต.เจ้ากระทรวงที่เกี่ยวข้องขานรับแบนสารเคมี ส่องมาตรการ สินค้าอันตรายอื่น ๆ เทียบเคียงใช้แก้ปัญหา | สิ่งแวดล้อม | ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,เส้นทางแบนสารเคมี,สารเคมีอันตราย | https://news.thaipbs.or.th/content/284996 |
5 วิธีดูแล สุขภาพผิว ให้พร้อมสู้แดดเล่นน้ำ สงกรานต์ | ก่อนจะออกไป ,เล่นน้ำสงกรานต์, ให้สุดมันชื่นฉ่ำใจ ,ผู้หญิง, อย่างเราๆ ไม่ควรละเลยเกราะป้องกันผิว ดูแล ,สุขภาพผิว, ทั้งภายในและภายนอก เพื่อลดโอกาสที่จะทำให้ผิวเสื่อมสภาพจากแสงแดดแรงๆ กลางแจ้ง ,ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ, มีวิธีดูแล ,สุขภาพผิว, มากฝากสาวๆ ในช่วง,เทศกาลสงกรานต์,นี้กันค่ะ ,5 วิธีดูแล สุขภาพผิว ช่วง สงกรานต์,1. วิตามินซี+คอลลาเจน ช่วยได้,ไม่ว่าคุณจะต้องออกไปเจอกับมลภาวะ เช่น แสงแดด ควัน แป้ง สี ดินสอพอง ในช่วง,สงกรานต์,มากแค่ไหนก็ตาม อย่าปล่อยให้สิ่งเร้าเหล่านี้มาทำร้าย,สุขภาพผิว,ของคุณ นอกจากการเสริม,สุขภาพ,ร่างกายให้แข็งแรงด้วยอาหารดีๆ มีประโยชน์ต่างๆ แล้ว ก็ควรกิน ,วิตามินซี, (วิตามิน C) และคอลลาเจนเสริม เพื่อให้ผิวแข็งแรง สดใส ไม่ให้ผิวอ่อนแอง่ายจนเกินไป,2. ระวังอย่าให้เกิด Dehydration,ในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ ,ผู้หญิง, อาจเกิดภาวะ Dehydration ขึ้นมาได้ง่าย เป็นภาวะที่ร่างกายสูญเสียน้ำมากกว่าที่ได้รับเข้ามา ทำให้กระหายน้ำ และปัสสาวะมีสีเข้ม ส่งผลให้ผิวพรรณแห้ง ไม่ชุ่มชื้น เหี่ยวย่น แสบ แดง เกิดริ้วรอยได้ง่าย วิธีที่ดีที่สุดของการ,ดูแลสุขภาพ,ผิว คือ สาวๆ ต้องดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ เพื่อลดภาวะการขาดน้ำ,3. ทากันแดดสูตรกันน้ำ,นอกจากดูแลผิวจากภายในแล้ว ก็ต้องดูแลภายนอกด้วย ก่อนจะออกไป,เล่นน้ำสงกรานต์ ,สาวๆ ควรทาครีมกันแดดที่มี SPF 50 ขึ้นไป และควรใช้ครีมกันแดดที่สามารถกันน้ำได้ด้วย ควรทาก่อนออกไปกลางแจ้ง 30 นาที เพื่อปกป้องผิวจากแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด,4. หมวก+แว่นกันแดดต้องมี,สาวๆ น่าจะรู้กันอยู่แล้วว่า การทาครีมกันแดดสามารถช่วยปกป้องแสงแดดได้เพียงทางหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่ว่าทากันแดดแล้วจะสามารถออกไปท้าแดดแรงๆ เป็นเวลานานๆ ได้ แต่ควรเสริมการปกป้องแสงแดดด้วยวิธีอื่นๆ ด้วย เช่น สวมหมวกกันแดด สวมแว่นตากันแดด เป็นต้น เพื่อปกป้อง,สุขภาพผิว,ไว้ ไม่ให้ถูกแสงแดดทำร้าย,5. เล่นน้ำในที่ร่ม,นอกจากนี้สาวๆ ก็ควรเลือกหาทำเลที่เหมาะในการ,เล่นน้ำสงกรานต์, เช่น จุดที่มีเงาตึกช่วยบังแดด หรือเลือกเวลาช่วงเย็นๆ ที่แสงแดดเริ่มอ่อนลง แล้วค่อยออกมาเล่นน้ำสงกรานต์ เป็นการหลีกเลี่ยงแดดอีกวิธีหนึ่ง เพื่อดูแล ,สุขภาพผิว, ไม่ให้โดนทำร้ายจากช่วงกลางวันที่มีแดดแรงเกินไป,เพียงเท่านี้ก็มีส่วนช่วยดูแล ,สุขภาพผิว, ของคุณให้แข็งแรง สวย สดใส พร้อมสู้แดด และสู้สงครามปืนฉีดน้ำในช่วง,เทศกาลสงกรานต์,นี้แล้วจ้า,ติดตามเรื่องราว สุขภาพ ดีๆ สำหรับผู้หญิงกันต่อได้ที่นี่ : ,ประโยชน์ของ คอลลาเจน ต่อสุขภาพผู้หญิง, และ ,วิตามิน เพื่อ ผู้หญิง แต่ละช่วงวัย | แนะนำวิธีดูแล สุขภาพผิว ให้แข็งแรงจากภายในสู่ภายนอก และวิธีปกป้องผิวจากแสงแดด ไม่ให้ผิวหมองคล้ำ ขณะที่สาวๆ ออกไป เล่นน้ำสงกรานต์ กลางแดดร้อนๆ ในช่วงซัมเมอร์นี้ | ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง | สุขภาพผิว,ดูแลผิว,ป้องกันแสงแดด,สงกรานต์,เล่นน้ำสงกรานต์ | https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/health/1535571 |
จับชาวมาเลเซียลักลอบเล่นการพนันในไทย | วันนี้ (26 มิ.ย.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง พร้อมด้วยกำลังตำรวจกว่า 30 นาย สนธิกำลังเข้าจับกุมบ่อนการพนัน ซึ่งเป็นโกดังเก็บของบริเวณซอยแกรนด์วิลล่า กลางตัวเมืองเบตง จ.ยะลา โดยระหว่างที่เจ้าหน้าที่เข้าจับกุม นักพนันส่วนใหญ่กำลังเคร่งเครียดกับการเล่นพนัน และไม่ได้คิดว่าจะถูกจับกุม เพราะสถานที่เป็นโกดังอยู่ติดสวนยางพารา ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนักพนันได้จำนวน 55 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย พร้อมของกลางอุปกรณ์การเล่นพนันไฮโล โต๊ะเล่นพนันรูเล็ต และเงินสดอีกจำนวนหนึ่งโดยการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่สืบทราบว่ามีชาวมาเลเซียที่มีภรรยาเป็นคนไทย อาศัยช่วงจังหวะซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ อ.เบตง ยุ่งอยู่กับการเตรียมจัดงาน THAI FIGHT เบตง ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์นี้ เข้ามาลักลอบเปิดบ่อน เพื่อให้นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวใน อ.เบตง ได้เข้ามาเล่นการพนัน | เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานใน อ.เบตง จ.ยะลา สนธิกำลังจับผู้ลักลอบเล่นการพนันในโกดังเก็บของ ได้ผู้ต้องหาเกือบ 60 คน พร้อมของกลางอุปกรณ์การเล่นพนันหลายรายการ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่านักพนันส่วนใหญ่เป็นชาวมาเลเซีย | อาชญากรรม | เล่นพนัน,พนัน,เบตง,ยะลา,มาเลเซีย,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส | https://news.thaipbs.or.th/content/281183 |
กระทิงเกือบพังคาบ้าน โมราตา ขวิดกู้ชีพเจ๊า โคลอมเบีย 2-2 | การแข่งขันฟุตบอลนัดกระชับมิตรประจำวันที่ 7 มิ.ย. เป็นการพบกันในคู่ระหว่าง กระทิงดุ สเปน เปิดสนามเอสตาดิโอ นูเอบา คอนโดมินา พบกับ โคลอมเบีย,เจ้าบ้านส่งสามผสานตัวจิ๋วเล่นแผงหน้านำโดย ดาบิด ซิลบา, เปโดร โรดริเกซ และ ยาโก อัซปาส ขณะที่ทีมเยือนมี ฮาเมส โรดริเกซ, ฮวน กัวดราโด และ ราดาเมล ฟัลเกา เป็นตัวชูโรง,เกมในครึ่งแรกเป็น สเปน ทำได้ดีกว่าก่อนจะมาได้ประตูออกนำ 1-0 นาทีที่ 22 อันเดรียส อิเนียสตา จ่ายให้กับ เปโดร หลุดเดี่ยวก่อนตวัดให้ ดาบิด ซิลบา ยิงโล่งๆเข้าไป,แต่ทว่านาทีที่ 40 โคลอมเบีย ทีมเยือนก็ตามตีเสมอ 1-1 อัซปิลิกวยตา กับ เรนา ไม่เข้าใจกันเอง ก่อนที่ เอ็ดวิน คาร์โดนา จะชิพบอลข้ามหัว เรนา เข้าประตูไปเลยและครึ่งแรกก็จบลงที่สกอร์นี้,เข้าสู่ครึ่งหลัง นาทีที่ 55 กลายเป็น โคลอมเบีย พลิกขึ้นนำ 2-1 จากลูกเตะมุมทางฝั่งขวา ฮาเมส โรดริเกซ เปิดไปเสาสอง เรนา ทำพลาดอีกแล้วตัดบอลผิดจังหวะบอลไปเข้าหัว ฟัลเกา โขกเต็มๆเข้าไป,สเปน ลุยหนักแต่เจาะแนวรับของทีมเยือนไม่ได้ เกมทำท่าจะจบลงด้วยชัยชนะของ โคลอมเบีย แต่แล้วก่อนหมดเวลา 3 นาที สเปน มาได้ประตูตีเสมอ 2-2 ซาอูล นิเกซ เปิดไปหน้าประตู อัลบาโร โมราตา ตัวสำรองโฉบมาขวิดผ่านมือ ออสปินา เข้าไป,จากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกมการแข่งขัน สเปน เปิดบ้านเสมอกับ โคลอมเบีย 2-2,ส่วนผลการแข่งขันคู่อื่นมีดังนี้,อิตาลี ชนะ อุรุกวัย 3-0 | อัลบาโร โมราตา สวมบทซุปเปอร์ซับโขกประตูก่อนหมดเวลา 3 นาทีช่วย กระทิงดุ สเปน เปิดบ้านเสมอกับ โคลอมเบีย ไปแบบสนุก 2-2 ในศึกนัดกระชับมิตรเมื่อคืนที่ผ่านมา | กีฬา,ฟุตบอลยุโรป | ฟุตบอลนัดกระชับมิตร,สเปน,โคลอมเบีย,ผลบอล,กระทิงดุ | https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/966008 |
สผ. ชี้ อีเอชไอเอ โรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ยังไม่ผ่านสิ่งแวดล้อม | วันนี้ (18 ก.พ.2560) นางรวีวรรณ ภูริเดช เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยา กรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือสผ. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ขณะนี้โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินจังหวัดกระบี่ และโครงการท่าเทียบเรือคลองรั้ว ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ถอดรายงานการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ หรืออีเอชไอเอ ออกจากการพิจารณาของคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณาโครงการหรือคชก.ตั้งแต่ปี 2558 หลังจากเครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน และชาวบ้านที่ไม่เห็นด้วย เรียกร้องให้ สผ.ตรวจสอบข้อบกพร่องรายงาน ที่ยังไม่สมบูรณ์ในหลายประเด็น ทั้งผลกระทบต่อพื้นที่ชุ่มน้ำปากแม่น้ำกระบี่ และผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยว จนที่สุดพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีข้อเสนอให้การตั้งคณะกรรมการไตรภาคีขึ้นเป็นขั้นตอนส่วนหนึ่งในการหารือร่วมกัน ซึ่งจะมีตัวแทนจากทุกฝ่ายเข้าร่วม เพื่อหาทางออก เลขาธิการ สผ.ยืนยันว่า จนถึงขณะนี้ผ่านมากว่า 1 ปี เจ้าของโครงการยังไม่มีการส่งรายงานอีเอชไอเอ เข้ามาพิจารณารอบใหม่ และถึงแม้ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน วานนี้(17 ก.พ.) จะมีมติให้เดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ได้ก็ตาม แต่กฟผ. ยังต้องส่งเสนอรายงานอีเอชไอเอ มาที่ สผ. และต้องนำเข้าพิจารณาในคชก.ตามขั้นตอนของกฎหมาย เมื่อถามว่าการที่นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน กพช. จะสั่งการให้เดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน จะกดดันหรือส่งสัญญาณมายัง สผ.ซึ่งเป็นหน่วยงานพิจารณาทางด้านสิ่งแวดล้อมหรือไม่ นางรวีวรรณ บอกว่าเป็นคนละส่วนกัน พร้อมทั้งยืนยันยังไม่มีแรงกดดันจากฝ่ายการเมือง ทั้งนี้ การพิจารณารายงานอีไอเอโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และยิ่งมีการต่อต้านจากภาคประชาชน จะทำให้คชก.ต้องหาข้อมูลมากขึ้นผู้สื่อข่าวรายงาน ขณะนี้มีความเคลื่อนไหวจากกลุ่มนักอนุรักษ์ ที่ออกมานำเสนอข้อมูลผ่านสื่อสังคมออนไลน์ให้รัฐบาลได้มีการยกเลิกมติ กพช. ที่ได้มีความเห็นชอบในการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน จังหวัดกระบี่ และเทพาจังหวัดสงขลา เพราะโครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่จะส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของประชาชนในพื้นที่ รวมไปถึงส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศโดยเฟชบุ๊กของนายหาญณรงค์ เยาวเลิศ ได้แสดงความเป็นห่วงกรณีเส้นทางขนส่งโรงไฟฟ้าถ่านหินที่อยู่ในพื้นที่แรมซาร์ไซต์เนื้อที่กว่า 130000 ไร่ปากแม่น้ำกระบี่ ที่ขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศเช่นเดียวกับเฟชบุ๊กของ กลุ่มกรีนพีช ประเทศไทย Greenpeace Thailand โพสต์ข้อเขียนว่า อัปยศ วันที่ผู้นำประเทศไทยเลือกเดินหน้าถ่านหิน ซึ่งเนื้อหาตอนหนึ่งระบุว่าพลังชุมชนท้องถิ่นและภาคประชาชนขับเคลื่อนค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่มากว่า 3 ปี แต่พล.อ.ประยุทธ์ ประธานกพช. กลับให้เดินหน้าโดยไม่ฟังเสียงคัดค้านของประชาชนที่รอฟัง ซึ่งไม่เห็นด้วยและกังวลต่อผลกระทบของโครงการเราไม่ได้ประท้วงอย่างไร้เหตุผล เราเป็นประชาชน เราอยากให้นายกฯฟังเสียงเรา | กระทรวงทรัพยากรฯยืนยันกฟผ.ถอดรายงานสิ่งแวดล้อม โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ กลับไปตั้งแต่ปี 2558 หลังชาวบ้านคัดค้าน จนนายกรัฐมนตรี สั่งตั้งคณะกรรมการไตรภาคี ระบุหากส่งเข้าพิจารณา ยังยืนตามขั้นตอนกฎหมาย | สิ่งแวดล้อม | ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,กรีนพีช,โรงไฟฟ้าถ่านหิน,กระบี่,พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา,นายกรัฐมนตรี,กพช.,นางรวีวรรณ ภูริเดช,เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม,ปากแม่กระบี่,ถ่านหิน | https://news.thaipbs.or.th/content/260298 |
บิ๊กตู่ อวยพรปีใหม่ ขอปชช.สามัคคีเดินหน้าร่วมปฏิรูปประเทศ | เมื่อวันที่ 1 ม.ค.59 เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยแพร่คำปราศรัย ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2559 โดยข้อความระบุว่า , ,เนื่องในศุภวาระขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2559 ผมในนามของรัฐบาลขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวไทยร่วมใจกันตั้งจิตอธิษฐาน อาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลพิภพ โปรดดลบันดาลประทานพรให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ ทุกพระองค์ ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญ พระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง ทรงสถิตเป็นพระมิ่งขวัญปกเกล้าแก่เหล่าพสกนิกรชาวไทยตราบกาลนาน , ,ปี 2559 ที่กำลังจะผ่านพ้นไป ได้มีสถานการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นมากมายทั่วโลก ทั้งปัญหาด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม สำหรับประเทศไทยของเราเองได้ประสบกับปัญหาจนเกิดผลกระทบในหลายด้าน ซึ่งตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้ดำเนินงานด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ พยายามเร่งแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน รวมทั้งการปฏิรูประยะที่ 1 และมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาระยะยาวอย่างยั่งยืน โดยมีมาตรการและนโยบายต่างๆ ในการขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศ ดูแลเกษตรกรและผู้มีรายได้น้อยอย่างเป็นระบบ เพื่อสร้างความเข้มแข็งและให้สอดรับกับสถานการณ์สังคมโลกที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ตลอดจนเตรียมความพร้อมในการรับมือกับผลกระทบจากสภาพอากาศโลกเปลี่ยนแปลง , ,การบริหารงานในยุคปัจจุบันนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยภายในประเทศไทย เท่านั้น แต่ต้องดูสภาวะแวดล้อมของประเทศเพื่อนบ้าน และสถานการณ์ของโลกเป็นองค์ประกอบด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง องค์กรระหว่างประเทศ กลุ่มประชาคมต่างๆ ซึ่งอาจไม่เข้าใจบริบทของการเมืองและสังคมไทยมากนัก , ,ในปี 2559 ที่กำลังจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน จำเป็นต้องมีความร่วมมือกันในด้านต่างๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถแข่งขันกับภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลกได้ ในส่วนของการดำเนินการไปตาม Road Map ระยะที่ 1 และ 2 ในปัจจุบันเพื่อไปสู่ระยะที่ 3 ซึ่งมีรัฐบาลเลือกตั้งที่มีธรรมาภิบาล รัฐบาลมีความตั้งใจที่จะดำเนินงานให้บรรลุเป้าหมายในการเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง ทั้งการร่างรัฐธรรมนูญและการทำประชามติ เพื่อสร้างความพร้อมที่จะก้าวสู่สังคมประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ไม่อยากให้ทุกอย่างกลับไปที่เดิม ทั้งนี้ องค์ประกอบสำคัญในการสร้างความมั่นคงของประเทศชาตินั้นต้องอาศัยความร่วมมือ จากทุกฝ่าย ทั้งภาครัฐ ภาคการเมือง ภาคประชาสังคม ภาคธุรกิจเอกชน และภาคประชาชน ที่จะยืนหยัดต่อสู้กับปัญหาอุปสรรคต่างๆ เพื่อความสำเร็จในการพัฒนาประเทศให้มีความมั่นคงอย่างยั่งยืนตลอดไป , ,ผมขอให้ปีใหม่ 2559 ที่กำลังจะมาถึง เป็นปีแห่งอนาคต ปีแห่งความร่วมมือด้วยความเข้าใจ ปีแห่งการสร้างความเข้มแข็งของพวกเราชาวไทย ปีแห่งความรักความสามัคคีกัน และเป็นปีที่สร้างสรรค์และพัฒนาบ้านเมืองให้มีความเข้มแข็งอย่างถาวร ซึ่งนั่นหมายถึงประชาชนทุกคนคือฟันเฟืองสำคัญที่ร่วมกันขับเคลื่อนประเทศให้เจริญรุดหน้าในทุกด้าน เพื่อก้าวสู่การเป็นประเทศที่มีขีดความสามารถ มีทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพและมีความพร้อม มีศักยภาพในการร่วมกันดูแลบ้านเมืองของเราให้มีเสถียรภาพ มีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน และมีความสุข , ,ในวันขึ้นปีใหม่พุทธศักราช 2559 ผมขออัญเชิญคุณพระศรีรัตนตรัยและอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทุกท่านเคารพ นับถือ อีกทั้งพระบารมีแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โปรดดลบันดาลพระราชทานพรให้พี่น้องประชาชนคนไทยทุกท่าน ข้าราชการทุกฝ่าย ทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร อาสาสมัคร และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จงประสบแต่ความสุข ความเจริญ มีสุขภาพพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง ปราศจากภัยอันตรายทั้งปวง คิดหวังสิ่งใดขอจงสัมฤทธิผลดังใจปรารถนา ร่วมกันพัฒนาบ้านเมืองและสร้างประวัติศาสตร์ของชาติไปด้วยกัน สวัสดีปีใหม่ 2559 | นายกฯ อวยพรปีใหม่ ย้ำโรดแม็ป 3 ระยะ เดินหน้ารัฐบาลเลือกตั้งที่มีธรรมาภิบาล หวังปี 59 เป็นปีแห่งอนาคต ความร่วมมือเข้าใจ คนไทยมีความรักสามัคคี | null | ปีใหม่ 2559,นายกฯ อวยพรปีใหม่,บิ๊กตู่อวยพรปีใหม่,นายกรัฐมนตรี,บิ๊กตู่,วันขึ้นปีใหม่,คำปราศรัย,รัฐบาล,พัฒนาประเทศ,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,ปฏิรูปประเทศ,สามัคคี,ขับเคลื่อนประเทศ,ข่าว,ข่าวการเมือง,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/556911 |
ทั่วโลกรอชม การปรากฏตัวของดาวหางนีโอไวส์ | การค้นพบดาวหางดวงใหม่ นีโอไวส์ ( NEOWISE ) ที่กำลังจะพุ่งเข้าใกล้โลกมากที่สุด ทำให้เหล่าบรรดานักวิทยาศาสตร์ และผู้ที่หลงใหลในดาราศาสตร์ทั่วโลกต่างเฝ้าจับตามอง เพื่อรอชมการปรากฏตัวของดาวหางนีโอไวส์ ที่องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกา หรือ นาซา (NASA) ระบุว่า จะส่องแสงสว่างมากกว่าทุกครั้ง ซึ่งดาวหางจะเข้าใกล้โลกมากที่สุด ในวันที่ 23 กรกฎาคม 2563 นี้การปรากฏตัวของ ดาวหางนีโอไวส์ดาวหางนีโอไวส์ ถูกค้นพบครั้งแรกโดยยานอวกาศ NEOWISE ซึ่งเป็นอดีตกล้องโทรทัศน์อวกาศที่ถูกส่งขึ้นไปตั้งแต่เดือนธันวาคม 2552 ก่อนจะเข้าสู่ภาวะจำศีลในเดือนกุมภาพันธ์ 2554 ต่อมาถูกปลุกขึ้นมาในเดือนกันยายน 2556 ในภารกิจช่วยเหลือ NASA สำรวจวัตถุใกล้โลกดาวหางนีโอไวส์ถูกค้นพบอีกครั้ง จากภาพถ่ายในโครงการค้นหาดาวเคราะห์น้อยใกล้โลก (NEOWISE ย่อมาจาก Near-Earth Object Wide-field Infrared Survey Explorer) ขณะค้นพบ ดาวหางที่มีความสว่างโชติมาตร 17 เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมาต่อมา ดาวหางนีโอไวส์ปรากฏให้เห็นอีกครั้ง ในภาพถ่ายจากยานโซโฮ ซึ่งเป็นยานสังเกตการณ์ดวงอาทิตย์และสภาพแวดล้อมรอบดวงอาทิตย์ เมื่อวันที่ 22-28 มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา และพบว่าดาวหางมีความสว่างมากขึ้นกว่าเดิม และยังอยู่ในสภาพที่ดี ทำให้ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า มีแนวโน้มที่ดาวหางจะมีความสว่างเพิ่มขึ้นทุกวัน จนอาจสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่ารู้จักดาวหางนีโอไวส์ดาวหางนีโอไวส์ (NEOWISE) หรือ ดาวหาง C/2020 F3 เป็นดาวหางคาบยาว ที่มีหางที่เห็นได้ชัดถึง 2 แฉก โดยจะมีหาง 2 ส่วน หางส่วนบน เรียกว่า หางไอออน จะมีความยาวมากกว่าหางส่วนล่าง แต่จะสว่างน้อยกว่า เกิดจากการรวมตัวของกลุ่มแก๊สที่อยู่รอบดาวหาง แล้วแตกตัวออกเป็นไอออน เนื่องจากได้รับพลังงานจากลมสุริยะ ส่งผลให้เกิดการเรืองแสงเป็นแนวยาวออกมาหางส่วนล่างจะมีความฟุ้ง สะท้อนรับกับแสงของดวงอาทิตย์ได้เป็นอย่างดี เรียกว่า หางฝุ่น ซึ่งเกิดจากอนุภาคฝุ่นที่ฟุ้งกระจายจากนิวเคลียสขณะที่เคลื่อนตัวเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ ทำให้ปรากฏเป็นแถบโค้งสว่างไปในทิศทางเดียวกับการโคจรนอกจากนี้ ล่าสุดทาง NASA ได้เผยภาพดาวหางนีโอไวส์ จากยานพาร์กเกอร์ โซลาร์ โพรบ (Parker Solar Probe) เผยให้เห็นหางไอออน ที่เเยกออกเป็น 2 ส่วน อย่างชัดเจน นั้นหมายความว่า ดาวหางนีโอไวส์มีหางไอออนถึง 2 หางด้วยกัน ทั้งนี้นักวิทยาศาสตร์กำลังอยู่ในขั้นตอนศึกษาและการรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อยืนยันความเป็นไปได้ของทฤษฎีนี้อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้ดาวหางนีโอไวส์จะส่องสว่างจนสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าได้จากบนโลก สำหรับใครที่มีความหลงใหลในดวงดาวและดาราศาสตร์ หรืออาจจะอยากจะชมความงามของดาวหางดวงนี้ด้วยตาตัวเองให้ชัดๆ สักครั้งในชีวิต ก็สามารถเข้าไปอ่าน 3 เทคนิคหาตำแหน่งดาวหางนีโอไวส์ ที่ทาง NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ได้แชร์ข้อมูลไว้ให้แล้วที่นี่เฟซบุ๊กของสถาบันวิจัยดาราศาสตร์ที่มาhttps://www.nasa.gov/feature/goddard/2020/nasa-s-parker-solar-probe-spies-newly-discovered-comet-neowise/https://www.space.com/comet-neowise-visibility-july-2020.htmlhttps://www.bbc.com/news/uk-england-wiltshire-53383007?at_custom4=D1CBCF5A-C45A-11EA-8474-AA554D484DA4&at_custom2=twitter&at_custom1=%5Bpost+type%5D&at_custom3=%40BBCNews&at_campaign=64&at_medium=custom7 | NASA เผยภาพดาวหางนีโอไวส์ปรากฏให้เห็นได้ด้วยตาเปล่าจากโลก ชัดสุด 23 กรกฎาคมนี้ | ข่าว,ต่างประเทศ | ดาวหาง,ดาวหางนีโอไวส์,ดาวหาง neowise,ดาวหางนีโอไวท์,นาซ่า,ไฮไลต์ข่าวต่างประเทศ,ข่าวต่างประเทศ | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1888207 |
เที่ยวไทยแบบมาดาม | พาเที่ยวไทยแบบมาดาม, ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับการบินไทย จัดขึ้นเพื่อเอาใจสาวน้อยสาวใหญ่ ให้ได้เพลิดเพลินกับการเที่ยวไทยแบบติดลมบน ประเดิมทริปเลิศๆ ด้วยการเยือน ภูเก็ต เมืองไข่มุกแห่งอันดามัน เกาะขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยหาดทรายขาว น้ำทะเลใส สวรรค์ที่ใครๆ ก็ฝันหา,กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ทันทีที่ล้อแตะรันเวย์ ชาวคณะก็มุ่งหน้าไปชิม แกงปูใบชะพลู ร้านระย้า เนื้อปูเน้นๆ หอมกลิ่นพริกแกงรสชาติเข้มข้น กินกับเส้นหมี่ลวกเข้ากันดี ตัดรสเผ็ดด้วย หมูฮ้อง คล้ายๆ หมูพะโล้แต่จะเข้มข้นกว่า ไม่มีกลิ่นเครื่องพะโล้ เนื้อหมูนิ่มจนแทบละลายในปาก,หลังจากอิ่มท้อง ก็พาล่องเรือหัวโทงไปสัมผัสวิถีชีวิตของชาวอูรักลาโว้ย ชุมชนชาวเลเล็กๆ บนเกาะโหลน เกาะ ที่เงียบสงบอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองภูเก็ต เดินทางง่าย จากท่าเรืออ่าวฉลอง ใช้เวลาเพียง 20 นาที บ้านเกาะโหลนราไวย์ มีชุมชนชาวเลไทยมุสลิมอาศัยอยู่ 99 ชีวิต ชาวเกาะนี้ยังคงรักษาวัฒนธรรมประเพณีของชุมชนท้องถิ่น ส่วนใหญ่ทำประมงและปลูกยางพารา หลังเจอสึนามิก็หันมาสร้างรายได้ด้วยการท่องเที่ยวชุมชน พัฒนาเป็นกลุ่มอาชีพ และกลายเป็นชุมชนต้นแบบไปแล้ว,มาเที่ยวบ้านเกาะโหลนมีกิจกรรมให้ทำเยอะแยะ อาทิ การปลูกป่า, ตกปลาแบบโบราณ, ดำน้ำดูประการัง น้ำตื้น, สอนทำผ้าบาติก และสาธิตวิธีทำขนมท้องถิ่น ปิดท้ายทริปนี้ด้วยร้านอาหารฟิวชั่นไทย-ฝรั่งเศส Dibuka ซึ่งเหมาะกับมาดามมากๆ เพราะตกแต่งทันสมัย มีความเป็นสตรีทฟู้ดผสมผสานกับกลิ่นอายของอาหารใต้สูตรดั้งเดิม,สำหรับสาวๆที่ยังไม่มีแพลนในช่วงวันหยุดสั้นๆ อยากให้ลองสัมผัสการท่องเที่ยวแนวใหม่ เที่ยวไทยแบบมาดาม พร้อมลุ้นรับตั๋วเครื่องบินและที่พัก ตั้งแต่วันนี้ ถึงสิ้นเดือน ส.ค.2560 คลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ ,http://www.thaiairways.com/th_TH/plan_my_trip/Special_fare/Offers_Booking/PackageLady.page?utm_source=&utm_medium=website&utm_campaign=click-LadayPackage-Thairath | เที่ยวสนุกสุดชิล ชมวิถีชีวิตชาวเลบนเกาะโหลน อิ่มอร่อยไปกับอาหารพื้นเมืองของภูเก็ตคอนเซปต์ทั้งหมดนี้เป็นไอเดีย พาเที่ยวไทยแบบมาดาม ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับการบินไทย | ไลฟ์สไตล์,ท่องเที่ยว | แหล่งท่องเที่ยว,เกาะโหลน,ภูเก็ต,เที่ยวไทยแบบมาดาม,ทำกิจกรรม | https://www.thairath.co.th/lifestyle/travel/thaitravel/974708 |
เชลซี เล็งสอยนายด่านมิลาน หากเสีย คูร์ตัวส์ ซัมเมอร์นี้ | สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 29 มี.ค. ว่า สโมสรเชลซี เตรียมแผนการสำรองในช่วงซัมเมอร์นี้เอาไว้เรียบร้อยแล้ว หากต้องเสีย ติโบต์ คูร์ตัวส์ นายทวารตัวหลักออกจากทีม ด้วยการเล็งตะครุบตัว จิอันลุยจิ ดอนนารุมมา ผู้รักษาประตูอนาคตไกลชาวอิตาเลียน ของทีม เอซี มิลาน มาเป็นตัวแทนในซีซั่นหน้า,ทีมสิงห์บลูประสบปัญหาเป็นอย่างมากในฤดูกาลนี้ เมื่อออกสตาร์ตด้วยผลงานสุดย่ำแย่ จนทำให้ โชเซ มูรินโญ ต้องกระเด็นออกจากตำแหน่ง พร้อมทั้งข่าวลือที่ว่านักเตะตัวหลักหลายรายทั้ง ดิเอโก คอสตา, จอห์น เทอร์รี, เอเดน อาซาร์ด รวมทั้งคูร์ตัวส์ พร้อมตบเท้าย้ายออกจากถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ หลังจบซีซั่น ทำให้ผู้บริหารต้องพยายามอย่างหนักเพื่อรั้งตัวเอาไว้ รวมถึงเร่งหาแผนการสำรองเตรียมเอาไว้,ล่าสุด เดลี เมล์ สื่อในอังกฤษรายงานว่า บอร์ดของทีมเชลซีเตรียมแผนการสำรองเอาไว้เรียบร้อยแล้ว หากต้องเสียคูร์ตัวส์ออกจากทีม ด้วยการเล็งดึงตัวดอนนารุมมา ผู้รักษาประตูร่างโย่งเจ้าของส่วนสูง 197 เซนติเมตร วัยเพียง 17 ปี จากทีมเอซี มิลาน มาเป็นตัวตายตัวแทนในฤดูกาลหน้า พร้อมเตรียมเงินค่าฉีกสัญญาเอาไว้ที่ 30 ล้านปอนด์,สำหรับ ดอนนารุมมา ได้สร้างสถิติในศึกกัลโช เซเรีย อา เอาไว้ในซีซั่นนี้ ด้วยการเป็นผู้รักษาประตูอายุน้อยที่สุด ที่ได้ลงสนามเป็น 11 ตัวจริง ในเกมที่ เอซี มิลาน เอาชนะ ซัสซูโอโล 2-1 | เชลซีเล็งแผนสำรอง หากต้องเสีย ติโบต์ คูร์ตัวส์ ออกจากทีมหลังจบฤดูกาลนี้ ด้วยการตะครุบ จิอันลุยจิ ดอนนารุมมา ผู้รักษาประตูอนาคตไกล ชาวอิตาเลียน แห่งค่ายปิศาจแดงดำ มาเป็นตัวแทนในระยะยาว | null | จิอันลุยจิ ดอนนารุมมา,ติโบต์ คูร์ตัวส์,เชลซี,เอซี มิลาน,พรีเมียร์ลีก,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/597878 |
สมุด บันทึกความสุข น้อมรำลึกรัชกาลที่9 จำหน่ายเล่มละ199บ. | โดยภาพปกสะท้อนถึงการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ แด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ขณะที่ด้านในและปกหลังเป็นภาพการ์ตูนฝีพระหัตถ์สื่อถึงครอบครัวที่อิ่มเอิบมีความสุขกับการเป็นจิตอาสา เราทำความดีด้วยหัวใจ สะท้อนพระราชปณิธานที่มุ่งหวังให้ทุกคนมีความสุข เริ่มต้นจากความสุขในครอบครัว พร้อมภาพการ์ตูนฝีพระหัตถ์พระราชทานในการจัดทำเป็นบัตรอวยพรปี 2561 รวมถึงตารางเปรียบเทียบปีศักราชต่างๆ ตั้งแต่ พ.ศ.2411-2648 เริ่มจำหน่าย 1 ก.พ.นี้,เมื่อวันที่ 31 ม.ค. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานภาพการ์ตูนฝีพระหัตถ์ จัดทำเป็นสมุดบันทึกแห่งความสุข ประจำปีพุทธศักราช 2561 เพื่อนำรายได้โดยเสด็จพระราชกุศลในการช่วยบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ราษฎรที่ได้รับความทุกข์ยากเดือดร้อนในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ โดยหน้าปกเป็นภาพการ์ตูนฝีพระหัตถ์ที่สะท้อนถึงการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ แด่องค์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่ได้พระราชทานพระราชดำริในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ผ่านโครงการพระราชดำริต่างๆ ที่เป็นพื้นฐานแนวความคิดในการบริหารจัดการและแก้ไขปัญหาทรัพยากรต่างๆ ที่เหมาะสมกับวิถีชีวิตและสภาพแวดล้อมของคนในชาติ ซึ่งทฤษฎีใหม่ ที่ได้พระราชทานให้สามารถใช้ได้กับการประกอบการและการดำเนินชีวิต การประกอบสัมมาอาชีพที่เหมาะสมกับตนและส่วนรวม,สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานภาพ ฝีพระหัตถ์ที่เป็นภาพโครงการในพระราชดำริ เป็นภาพการจัดการพื้นที่การเกษตรตามแบบทฤษฎีใหม่ประกอบกับพระราชดำริเรื่องการบริหารจัดการน้ำ ตั้งแต่ต้นน้ำ ป่าไม้ โครงการฝนหลวงไปจนถึงการ นำไปใช้ในพื้นที่การเกษตร ครัวเรือน ภาพกังหันชัยพัฒนาเพื่อการบำบัดและการรักษาสภาพน้ำ ไว้รวมอยู่ในภาพเขียนฝีพระหัตถ์ และภาพครัวเรือนที่ทุกคนในครอบครัวต่างสวมเครื่องแต่งกายจิตอาสา เราทำความดีด้วยหัวใจ โครงการพระราชดำริในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภาพใบหน้าที่มีความสุขของทุกคนที่ร่วมกันทำความดี เริ่มต้นที่ครอบครัวของตนอย่างมีความสุขออกไปถึงชุมชน และชาติบ้านเมืองที่เราอาศัย ด้วยมีพระราชหฤทัยตั้งมั่นในพระราชปณิธานที่จะทรงสืบสาน รักษา ต่อยอดทุกแนว พระราชดำริในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขของอาณาประชาราษฎร์ขององค์บูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์ เพื่อประโยชน์และความสุขร่วมกันของคนในชาติบ้านเมืองต่อไป ซึ่งได้พระราชทานภาพวาด พร้อมทรง ลงพระปรมาภิไธยไว้ ณ วันที่ 1 มกราคม 2561,ส่วนปกรองด้านใน เป็นภาพการ์ตูนฝีพระหัตถ์สื่อถึงครอบครัวที่เป็นสัญลักษณ์ของโครงการพระราชดำริจิตอาสาด้วยใบหน้ายิ้มอิ่มเอิบอย่างมีความสุขและข้อความ เราทำความดีด้วยหัวใจ และ บันทึกแห่งความสุข ด้วยการทำความดี เปิดมาด้านในเป็นภาพการ์ตูนฝีพระหัตถ์ 4 ภาพ ที่สื่อความหมายถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 และพระราชโอรส พระราชธิดาขณะทรงพระเยาว์ ถัดมาเป็นภาพการ์ตูนที่สื่อถึง พระบารมี และพระราชกรณียกิจยังคงสถิตอยู่ทั่วผืนแผ่นดิน ตราบชั่วนิจนิรันดร์ และสืบสาน รักษา ต่อยอด, หน้าต่อมา เป็นภาพการ์ตูนสื่อถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พร้อมสุนัขทรงเลี้ยงทรงโปรด และภาพทรงคล้องกล้องถ่ายภาพ และมีแผนที่ เพื่อทรงงานบำบัดทุกข์ บำรุงสุข อาณาประชาราษฎร์ รวมถึงภาพถวายความรักวันพ่อ,หน้าต่อไปมีภาพการ์ตูนฝีพระหัตถ์ที่ทรงพระ กรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานจัดทำเป็นบัตรอวยพรปีพุทธศักราช 2561 ชุด การละเล่นไทย 4 แบบ มีการเล่นมอญซ่อนผ้า รีรีข้าวสาร ขี่ม้าก้านกล้วย และกระโดดเชือก จากนั้นจึงเป็นหน้าบันทึกข้อมูลส่วนบุคคล แผนงานประจำปี และไดอารี่จดบันทึกทั้ง 12 เดือน รวมถึงตารางเปรียบเทียบปีจุลศักราชรัตนโกสินทร์ศก พุทธศักราช และคริสต์ศักราช ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2411 จนถึงปีพุทธศักราช 2648 ถัดไปเป็นหน้าสำหรับจดบันทึก โดยทุกหน้าจะมีภาพการ์ตูนฝีพระหัตถ์เป็นภาพเล็กๆ อยู่ที่มุมต่างๆของหน้ากระดาษและคั่นด้วยภาพการ์ตูนฝีพระหัตถ์ที่แสดงความอบอุ่นของครอบครัวที่ทำกิจกรรมต่างๆร่วมกัน และด้านหลังเป็นหน้าสำหรับจดบันทึกที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ ส่วนปกหลังเป็นภาพวาดการ์ตูนฝีพระหัตถ์ที่ทุกคนมีความสุขที่ได้ร่วมกันทำกิจกรรมต่างๆร่วมกันเดินทาง นับถอยหลังกลับบ้าน และอยู่ในบ้านกันอย่างมีความสุข สะท้อนถึงพระราชปณิธานที่จะมุ่งหวังให้ทุกคนมีความสุข เริ่มต้นจากความสุขในครอบครัว,ทั้งนี้ผู้สนใจร่วมโดยเสด็จพระราชกุศลได้ในราคาเล่มละ 199 บาท หาซื้อได้ที่ร้านโกลเด้น เพลซ, ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น, ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน), ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน), ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน), บ.เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน), บ.เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) และ บ.คิง เพาเวอร์ จำกัด ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.2561 เป็นต้นไป และร้านจิตอาสาในงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว ณ สนามเสือป่าระหว่าง วันที่ 8 ก.พ.-11 มี.ค.2561 | สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานภาพการ์ตูนฝีพระหัตถ์ จัดทำ สมุดบันทึกแห่งความสุข ปี 2561 เพื่อนำรายได้โดยเสด็จพระราชกุศลในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขแก่ราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อน | ข่าว,พระราชสำนัก | สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว,ภาพการ์ตูนฝีพระหัตถ์,สมุดบันทึกแห่งความสุข ปี 2561,น้อมรำลึกรัชกาลที่9,ข่าวหน้า1,ข่าวรัชกาลที่9 | https://www.thairath.co.th/news/royal/1192347 |
วิเคราะห์พฤติกรรม ‘กอล์ฟ ประสิทธิชัย’ ผู้ต้องหาคดีชิงทองลพบุรี ปัจจัยการก่อเหตุที่แท้จริงคืออะไร? | เมื่อเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดเหตุสะเทือนขวัญคนไทยทั้งสังคม กับคดีชิงทองที่จังหวัดลพบุรี โดยในที่เกิดเหตุ คนร้ายได้ลงมือใช้อาวุธยิงใส่ผู้คนในบริเวณใกล้เคียง จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บอีก 4 ราย ขณะที่คนร้ายหลบหนีลอยนวลอยู่ช่วงเวลาหนึ่งต่อมาไม่นาน เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย ซึ่งสืบทราบภายหลังคือ ประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือกอล์ฟ อายุ 38 ปี อาชีพครู เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดสิงห์บุรี โดยเจ้าตัวสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือจริง อ้างว่า ทำไปเพราะปัญหาส่วนตัวและปัญหาการเงินของตัวเอง พร้อมแสดงความเสียใจต่อผู้สูญเสียทั้งหมดคดีดังกล่าวได้สร้างความประหลาดใจให้กับผู้คนที่ติดตามข่าวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกับบุคคลที่อยู่ใกล้ตัวที่คาดไม่ถึงว่าผู้ก่อเหตุจะเป็นผู้อำนวยการโรงเรียน เนื่องจากตลอดการทำงานที่ผ่านมา ผอ.กอล์ฟ แสดงพฤติกรรมเชิงบวกอยู่เสมอ เป็นคนอัธยาศัยดี ไม่เคยดุ ก้าวร้าว หรือรุนแรงกับใครทั้งสิ้น จนเกิดวลีหนึ่งขึ้นมาบนสื่อโซเชียล เพื่อเปรียบเทียบเหตุการณ์ดังกล่าวว่า คนสมัยนี้รู้หน้าแต่ไม่รู้ใจล่าสุดในรายการ THE STANDARD Daily ได้มีการหยิบยกคดีชิงทองที่จังหวัดลพบุรีมาพูดคุยกับ ผศ.ร.ต.อ.ดร.จอมเดช ตรีเมฆ นักอาชญาวิทยา มหาวิทยาลัยรังสิต ผู้ที่เคยพูดคุยและสัมภาษณ์นักโทษคดีฆาตกรรมมานับร้อยชีวิต เพื่อมาวิเคราะห์เกี่ยวกับพฤติกรรมของ ผอ.กอล์ฟ ว่าการกระทำดังกล่าวเกิดจากอะไรมองคำสารภาพของกอล์ฟ ประสิทธิชัย มีความจริงใจหรือไม่ผศ.ร.ต.อ.ดร.จอมเดช ตรีเมฆ บอกว่า ผมคิดว่าตอนนี้มันยังเร็วเกินไปที่จะคิดว่าเขาตอบออกมาแล้วทุกอย่าง เราต้องมองผ่านวิธีการคิดของเขาให้ได้ หรือพูดง่ายๆ คือคิดในมุมมองของผู้ก่อเหตุ เพราะถ้าเราอยากจะเข้าใจอาชญากร เราต้องคิดแบบอาชญากรให้ได้ฉะนั้น ผมจะสมมติตัวเองขึ้นมา ถ้าสมมติผมเป็นเขา (ประสิทธิชัย) วันหนึ่งผมปล้นทองมา และหลบหนีเป็นเวลา 2 สัปดาห์ วันนี้เกิดถูกจับ ผมจะพูดอะไรบ้าง ผมก็จะพยายามพูดอะไรก็ได้ที่ไม่พันตัวเองให้มากที่สุด เพราะเรารู้อยู่แล้วว่า กระแสสังคมบนโซเชียลเป็นอย่างไร เพราะฉะนั้นเขารู้ว่าตอบแบบไหนจะไม่ถูกใจใคร ตอบแบบไหนจะเข้าตัวเองดังนั้น ผมเชื่อว่า สิ่งที่เขาตอบวันนี้ไม่ใช่สิ่งที่เป็นตัวเขาทั้งหมด เราจะรู้ก็ต่อเมื่อเขาถูกตัดสินเรียบร้อย ผ่านการรับโทษพอสมควรแล้ว หลังจากนั้นค่อยย้อนกลับไปถาม ซึ่งส่วนใหญ่นักจิตวิทยาจะเข้าไปสัมภาษณ์หลังจากเวลานั้น เพราะเมื่อถึงเวลานั้น เขาอาจจะตอบอะไรที่เป็นความจริงมากกว่านี้มองผู้ต้องหาคนนี้เป็นคนอย่างไรสิ่งที่ผมวิเคราะห์ไว้อันดับแรกเลยคือ อาชญากรคดีนี้ไม่ได้เป็นเหมือนคนร้ายปกติทั่วไปแบบที่ก่อเหตุในร้านทอง ตัวผมเองเคยทำงานวิจัยเกี่ยวกับคดีในร้านทองและร้านทองออโรร่าโดยเฉพาะ ซึ่งเคสของร้านทองออโรร่าที่ผ่านมาไม่มีการตายเกิดขึ้นเลย ครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกที่มีผู้เสียชีวิตจากการชิงทองที่ร้านทองแห่งนี้โดยปกติผู้ที่ก่อเหตุชิงทองจะเข้าไปขู่ บางทีก็ยังไม่มีการหยิบอาวุธขึ้นมาด้วยซ้ำ หรือจะหยิบอาวุธก็จะยังไม่ยิงจนกว่าจะมีการต่อสู้เกิดขึ้น แต่กรณีนี้ต้องบอกว่า ไม่เหมือนเลย บุคลิกคนละแบบกับผู้ก่อเหตุชิงทองทั่วไป อย่างที่เห็นในคลิปว่า เขาเดินมาเจอคนยืนเลือกทองอยู่ก็ยิงใส่เขาเลย ยิงเปิดทางตั้งแต่เข้าห้าง และที่สำคัญที่สุดคือ ลักษณะตอนวิ่งหนี จะเห็นว่า มี รปภ. คนหนึ่งมาปิดประตูเพื่อไม่ให้เขาหนีออก แต่พอ รปภ. จะเดินหนี เขาก็เลือกที่จะหันกลับไปยิง รปภ. คนนั้น มันเหมือนเป็นการแสดงให้เห็นว่า เขากำลังสนุกกับการก่อเหตุครั้งนี้อีกอันที่ผมวิเคราะห์ก็คือ การแต่งกายของเขา อาวุธปืนที่เขาใช้ถือว่าเข้าขั้นไฮโซพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการแต่งตัว รองเท้า เสื้อผ้า วิธีการทำให้เห็นว่า เลือกการแต่งตัวมาเป็นอย่างดี จนเดินทางมาถึงวันนี้ เราได้เห็นแล้วว่า ผู้ก่อเหตุทำอาชีพอะไร มันก็เป็นการบอกได้อย่างหนึ่งว่า ตัวของเขาไม่ได้เป็นกลุ่มอาชญากรที่มีเรื่องราวภูมิหลังแบบปกติทั่วไปอย่างการถูกรังแก ถูกกระทำ บ้านไม่มีเงิน หรือหมดหนทาง หรือพูดง่ายๆ คือเขาไม่ใช่อาชญากรที่มาจากการถูกบีบคั้นให้กระทำเรื่องผิดกฎหมาย หากแต่เขาเป็นคนที่มีความสมบูรณ์ในชีวิตด้วยซ้ำคำกล่าวอ้างที่ว่า พลาดไปยิงเด็ก พลาดไปยิงพนักงานซ้ำ เป็นคำโกหก?คำพูดที่อ้างว่า พลาดไปยิงเด็ก ส่วนตัวเป็นคำพูดที่ผมค่อนข้างเชื่อนิดหนึ่ง แน่นอนว่าเดินเข้ามา มันไม่มีความจำเป็นต้องยิงเด็กเลย เขาอาจจะยิง รปภ. แล้วมันแฉลบไปโดนเด็ก ซึ่งมีการวิเคราะห์แล้วว่า มันมีโอกาสพลาดไปโดนเด็กได้ เพราะถ้าเขาตั้งใจจะยิงเด็กจริงๆ วิถีของกระสุนจะมาจากมุมกดของศีรษะ แต่ถ้ากระสุนสวนขึ้นอย่างในรูปคดี แสดงว่ามันแฉลบขึ้นมา แต่ที่สำคัญที่สุดคือ รปภ. คนสุดท้ายที่เข้ามาปิดประตู แต่ผู้ก่อเหตุยังหันกลับไปยิงซ้ำ อันนี้ดูเป็นสิ่งที่ใจร้ายที่สุดผมใช้คำว่า เขาสนุกกับการก่อเหตุในครั้งนี้ เพราะเขาทำเหมือนกำลังสนุกกับสิ่งที่เขาก่อขึ้น อย่างกรณีที่บอกว่า ถุงมือเข้าไปพันในไกปืน แล้วเผลอทำปืนลั่น อันนี้ผมไม่เชื่อ แต่กรณีที่ปืนลั่นใส่พนักงานสาว มีคนเอามาตั้งข้อสันนิษฐานหลายอย่างว่า การยิงพนักงานสาวนี้เกิดจากคดีชู้สาวหรือเปล่า ซึ่งก็อาจเป็นไปได้ เพราะการยิงของเขามันดูตั้งใจกว่าปกติ หรือเขากำลังสนุกกับช่วงเวลานั้นจริงๆ เหมือนคนที่กำลังมีความสนุกกับสิ่งเหล่านี้ เช่น กลุ่มคนที่ชอบเล่นบีบีกัน หรือกลุ่มคนที่ชอบอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับตำรวจ ทหาร ซึ่งก็จะมีกลุ่มคนที่มีบุคลิกประมาณนี้ หรืออาจจะเกิดขึ้นเพราะว่าเขาเป็นคนชอบเล่นปืนจริงๆจากความชอบยิงปืน สู่แรงผลักอยากยิงคนอยู่ในใจความน่าสนใจอยู่ตรงที่เขามีความชอบและบุคลิกในกิจกรรมยิงปืน มีแฟชั่นส่วนตัวเกี่ยวกับด้านนี้โดยเฉพาะ ซึ่งความชอบเหล่านี้สามารถสั่งสมมาแปรเปลี่ยนเป็นความเชี่ยวชาญ จนกระทั่งถึงวันที่เกิดเหตุ อาจมีปัจจัยอื่นผนวกด้วย จนนำไปสู่เหตุการณ์ดังกล่าวรู้จักประเภทฆาตกรกับนักอาชญาวิทยากอล์ฟ ประสิทธิชัย เข้าข่ายประเภทไหนมีคนเคยบอกว่า กอล์ฟ ประสิทธิชัยเข้าข่ายในข้อ 2 กับข้อ 3 มากกว่า แต่ถ้าถามผมคิดว่า เป็นข้อ 3 มากกว่า ก็คือเกิดจากสภาวะความกดดัน อาจจะมีเรื่องของหนี้สิน เรื่องทางอารมณ์ด้วย ซึ่งถึงตอนนี้เรายังไม่แน่ใจว่าเขามีปัญหาอื่นด้วยหรือไม่ ซึ่งอาจจะมีเรื่องของประเด็นทางชู้สาว โดยส่วนตัวผมยังไม่ได้ตัดประเด็นนี้ทิ้ง เพราะอาจมีเหตุผลซ่อนอยู่ซึ่งเรื่องการชิงทองก็ถือเป็นภาวะความกดดันทางอารมณ์อย่างหนึ่ง เพราะเราอาจจะมองว่า เขามีอาชีพการงานที่ดี แต่ไม่ได้แปลว่า เขาจะไม่มีหนี้สิน เขาอาจจะมีความกดดันเรื่องนี้อยู่พอสมควร ประจวบเหมาะกับช่วงที่เขาอาจจะอยากลองสร้างเรื่องราวแฟนตาซีในชีวิตจริง แต่ถึงตรงนี้ เรายังไม่มีการวิเคราะห์ออกมาว่า สาเหตุที่แท้จริงเกิดจากอะไร เพราะคนที่จะวิเคราะห์ได้จริงๆ ต้องใช้แบบทดสอบทางจิตแพทย์ เพื่อทดสอบว่า เจ้าตัวมีความผิดปกติทางสภาพจิตในระดับไหน ป่วยด้วยโรคอะไรหรือไม่ในตอนนี้การที่ผู้กระทำผิดติดคุกเป็นเวลานาน สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมได้จริงไหมเปลี่ยนได้ครับ อย่างของ หมอเสริม สาครราษฎร์ ก็สามารถเปลี่ยนได้ แต่ทั้งนี้ การจะเปลี่ยนคนคนหนึ่งมันต้องใช้ระยะเวลาที่นานพอสมควร ซึ่งขึ้นอยู่กับกระบวนการภายในของทัณฑสถานด้วย ที่ผ่านมาเรามองผู้ต้องขังคือผู้ที่ถูกลงโทษ ต้องถูกลงโทษเท่านั้น แล้วเราไม่สนใจในเรื่องของการแก้ไขปัญหาเขาเลย แต่หลังจาก 4-5 ปีที่ผ่านมา ผมคิดว่า แนวทางในการช่วยแก้ไขชีวิตของคนเริ่มดีขึ้น เพราะเราเริ่มมองเห็นวิธีแก้ไขปัญหาชีวิตผู้ต้องขังแต่ละคนให้ดีขึ้นแต่ทุกอย่างกลับมาพัวพันอยู่ที่ปัญหาเดิมคือ การที่นักโทษคดียาเสพติดเข้าไปแออัดอยู่ในเรือนจำประมาณ 3 แสนคน จะให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่มีอยู่ไม่มากมาดูแลผู้ต้องขังด้วยจุดประสงค์เปลี่ยนให้นักโทษเป็นคนดี มันเป็นสิ่งที่ทำได้ยากมาก ฉะนั้น มันก็จะเข้าทฤษฎีเดียวกับการที่ครูดูแลนักเรียนดังนั้น ต้องเริ่มจากการคัดแยกนักโทษคดียาเสพติดออกไปก่อน แล้วค่อยมาโฟกัสกับนักโทษคดีฆาตกรรม ว่าเขาต้องแก้ไขอย่างไร แล้วค่อยดูแลเป็นเคสต่อเคสไปสุดท้าย การนำเคสคดีชิงทองจังหวัดลพบุรีมาพูดคุย เป็นเพียงการวิเคราะห์และเพื่อศึกษาแรงจูงใจของผู้ก่อเหตุเท่านั้น ซึ่งข้อเท็จจริงคาดว่าจะเกิดขึ้นหลังจบกระบวนการในชั้นศาล เพราะเมื่อถึงวันนั้น ความลับบางอย่างที่ถูกปกปิดภายในใจของผู้ก่อเหตุ อาจถูกเปิดเผยเพิ่มเติมมากกว่าที่ได้ฟังจากงานแถลงข่าวล่าสุดก็เป็นได้พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล | หลังเกิดคดีอุกฉกรรจ์เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้แล้ว โดยทราบชื่อภายหลังคือ ประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือกอล์ฟ อายุ 38 ปี มีอาชีพครู เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งการปรากฏชื่อและตำแหน่งของผู้ต้องหา ทำให้ผู้คนในสังคมต่างประหลาดใจ ว่าอะไรคือแรงจูงใจที่แท้จริงที่ทำให้ชายวัย 38 ปี เลือกก่อเหตุสะเทือนขวัญในครั้งนี้ผศ.ร.ต.อ.ดร.จอมเดช ตรีเมฆ นักอาชญาวิทยา มหาวิทยาลัยรังสิต ให้สัมภาษณ์ผสมหลักการวิเคราะห์หลายรูปแบบที่ชวนให้คิดตามว่า แรงผลักดันที่แท้จริงที่ทำให้ กอล์ฟ ประสิทธิชัย ตัดสินใจก่อเหตุ มีเหตุผลอะไรบ้าง | null | null | https://thestandard.co/lopburi-gold-shop-robbery-24/ |
ทหารเรือนำศพชายปริศนา ลอยอืดในทะเลกลับฝั่ง ตร.สัตหีบคาดตกจากเรือประมง | เมื่อเวลา 13.00 น. ของวันที่ 23 มิ.ย.62 พลเรือโทบรรจบ โพธิ์แดง ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ในฐานะ ผอ.ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 1 กองทัพเรือ จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งจาก นายพงษ์ศักดิ์ อนันติ ผู้ควบคุมเรือประมง ศ.เศษรวัฒน์ ว่าพบศพลอยน้ำอยู่ บริเวณ แลต 12 องศา 25 ลิปดาเหนือ ลอง 100 องศา 55 ลิปดาตะวันออก แบริ่ง 150 ระยะ 17 ไมล์ จากยอดเขาแหลมปู่เจ้า อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จึงสั่งการให้เรือ ต.111 ออกเรือค้นหาและตรวจสอบ พร้อมกับให้ หมวดบินเฉพาะกิจ ทัพเรือภาคที่ 1 ปรับแผนบิน นำเฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำแบบที่ 1 (S-70B ซีฮอว์ก) สนับสนุนขึ้นบินลาดตระเวนค้นหาเพื่อชี้เป้าหมาย,จนกระทั่ง เฮลิคอปเตอร์ บินลาดตระเวนค้นหาจนพบศพลอยในทะเล จึงได้ให้สัญญาณพลุควันในทะเล ให้เรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง 111 ( เรือ ต.111) โดย เรือเอกโสรัจ ลดเลี้ยว ผู้บังคับการเรือ ต.111 นำเจ้าหน้าที่เข้าเก็บศพดังกล่าว นำขึ้นที่ท่าเรือเหลมเทียน การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จากการตรวจสอบสภาพศพ พบว่าเป็นเพศชาย ไม่ทราบสัญชาติ สภาพขึ้นอืดนอนหงาย ลอยเหนือผิวน้ำ ไม่สวมกางเกง สวมเสื้อสีน้ำเงินแขนยาว และจากการชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น พบว่า สภาพศพไม่มีเค้าโครงใบหน้าเดิมหลงเหลือ ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบบาดแผล หรือร่องรอยการถูกฆาตกรรมแต่อย่างใด คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3-6 วัน,ร.ต.ท.พัฒนนันท์ สมนวล รองสารวัตรสอบสวน สภ.สัตหีบ อ.สัตหีบ เปิดเผยว่าเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ดจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถาน นำศพส่งชันสูตรยัง รพ.สัตหีบ กม.10 ขณะนี้ได้ประสานยัง ศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้า-ออก (PIPO) ตามจังหวัดต่างๆ ในเขตภาคตะวันออกและภาคใต้ว่า มีการแจ้งลูกเรือประมงพลัดตกน้ำทะเลสูญหายหรือไม่ เพื่อติดต่อเจ้าของเรือ มาสอบสวนของการเกิดอุบัติเหตุและติดตามญาติผู้ตายมารับศพไปดำเนินพิธีทางศาสนาต่อไป พร้อมกับจะประสานกลุ่มเรือประมงให้รับทราบ หากมีลูกเรือประมงสูญหายในทะเล จะได้มารับศพเพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป. | เรือ ต.111 นำศพชายปริศนา หลัง ฮ.บินค้นหาพบลอยกลางทะเลสัตหีบกลับเข้าฝั่ง ตร.สัตหีบตรวจสอบพบเป็นชายไม่ทราบสัญชาติตายมา 3-6 วัน ประสานศูนย์ PIPO ค้นข้อมูลคาดเป็นลูกเรือประมงตกจากเรือ | ข่าว,ทั่วไทย | เรือตรวจการณ์ ต.111,กองทัพเรือ,ศพลอยกลางทะเล,ชายปริศนา,อ.สัตหีบ,ชลบุรี,ลูกเรือประมง,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1598465 |
นิพิฏฐ์ ไม่เข้าใจ นายกฯ ไม่ปลดล็อกการเมืองสุดซอย ฟันธง เลือกตั้ง | นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์บอก ยังไม่เข้าใจ นายกฯ ไม่ปลดล็อกการเมืองสุดซอย ฟันธง การเมืองจากนี้มุ่งหน้าไปสู่เลือกตั้ง เหตุมองไปข้างหน้าไร้ปาฏิหาริย์ทางกฎหมาย ปัด ออกความเห็น เทพ เทือก ตัดสินใจร่วมตั้งพรรครปช.,วันที่ 6 มิ.ย. นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ออกมากล่าวว่า ยังไม่อาจปลดล็อกการเมืองแบบสุดซอยได้ เวลาหาเสียงอาจต้องมาขออนุญาตเป็นครั้งคราว ว่า ส่วนตัวยังไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่ท่านนายกฯ พูดเท่าไรนัก เพราะเมื่อมีการปลดล็อกแล้ว การหาเสียงทุกอย่างก็จะเป็นไปตามอัตโนมัติ ถ้าให้ตนทำความเข้าใจในเบื้องต้น ท่านนายกฯ อาจหมายถึง ในระยะแรก เมื่อปลดล็อกการเมืองแล้ว อาจจะอนุญาตให้มีการประชุมพรรคเพื่อทำกิจกรรม เช่น เลือก และตั้งกรรมการบริหารพรรค แล้วจึงให้พรรคการเมืองหาเสียงได้ ,นายนิพิฏฐ์ เห็นว่า จากนี้ไปการเมืองจะมุ่งไปสู่การเลือกตั้งในเดือน ก.พ.ปี 62 อย่างแน่นอน เนื่องจากดูแล้วเมื่อเงื่อนไขทางกฎหมายทุกอย่างที่เคยมีมา ขณะนี้ได้หมดไปแล้วทั้งหมด จึงมองไม่เห็นเหตุผลว่าจะมีการเลื่อนการเลือกตั้งอีก เรียกได้ว่าคงไม่เกิดปาฏิหาริย์ทางกฎหมาย ได้อย่างที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้เคยตั้งข้อสังเกตไว้อีก ,ส่วนกรณี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ซึ่งช่วงนี้ถูกโจมตีอย่างหนัก กรณีถูกกล่าวหาว่าตระบัดสัตย์กลับไปตั้งพรรคการเมืองนั้น ส่วนตัวมีแนวคิดว่า ท่านเองคงมีเหตุผลที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนั้น ตนคงไม่ขอออกความคิดเห็นใดๆ หากให้ตนเดาก็น่าจะเป็นเรื่องยังปฏิรูปประเทศไม่เสร็จ ทำให้ท่านสุเทพต้องตัดสินใจทำเช่นนั้น | นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์บอก ยังไม่เข้าใจ นายกฯ ไม่ปลดล็อกการเมืองสุดซอย ฟันธง! การเมืองจากนี้มุ่งหน้าไปสู่เลือกตั้ง เหตุมองไปข้างหน้าไร้ปาฏิหาริย์ทางกฎหมาย | เลือกตั้ง | ปลดล็อกการเมือง,ปลดล็อกพรรคการเมือง,เลือกตั้ง,ปชป.,นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1301201 |
การรถไฟ-กทม.หารือ 3 ประเด็นก่อนส่งมอบพื้นที่ ตลาดนัดสวนจตุจักร | แกนนำผู้ค้าตลาดนัดจตุจักรมารอให้กำลังใจ และ ฟังผลการหารือร่วมกันระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. กับกรุงเทพมหานคร ท่ามการมาตรการรักษาความปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนจำนวน 150 นาย เพื่อดูแลความเรียบร้อย ก่อนดำเนินการส่งมอบพื้นที่ตลาดนัดจตุจักรให้ รฟท.รับผิดชอบ โดยมีนายประเสริฐ อัตตะนันทน์ รองผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศ ในฐานะคณะกรรมการเตรียมการตลาดนัดจตุจักร เป็นตัวแทน หารือกับนายอรุณ ศรีจรูญ ผู้อำนวยการตลาดนัดจตุจักรทั้งนี้จะมีการหารือใน 3 ประเด็นได้แก่ การรักษาความปลอดภัยในช่วงรอการส่งมอบพื้นที่ การจัดเก็บขยะภายในตลาดนัดจตุจักรและการจัดการกับทรัพย์สินของกรุงเทพมหานคร ที่อยู่ในพื้นที่ตลาดนัดจตุจักร โดยเฉพาะอาคารที่ทำการ และ แผงขายของที่เป็นทรัพย์สินของกรุงเทพมหานครเพราะต้องให้เป็นที่เข้าใจตรงกันระหว่าง รฟท. และ กรุงเทพมหานครว่า จะดำเนินการอย่างไรเนื่องจากตามสัญญาเช่าเดิมนั้น ระบุชัดเจนว่า กรุงเทพมหานคร ยังมีเวลารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างเป็นเวลา 6 เดือน หรือ หาก รฟท.ต้องการใช้ในกิจการต่ออาจต้องตกลงราคาซื้อขายกัน | ในวันนี้ ( 2 ธ.ค.) การรถไฟแห่งประเทศไทยเข้าหารือกับกรุงเทพมหานครถึงรายละเอียดใน 3 ประเด็นหลัก ทั้งการดำเนินการรักษาความปลอดภัยช่วงส่งมอบพื้นที่ตลาดนัด การจัดเก็บขยะ และการจัดการทรัพย์สินในพื้นที่ตลาดนัดจตุจักร ก่อนมีการรับมอบพื้นที่ตลาดนัดจตุจักรมาดูแลต่อจากกรุงเทพมหานคร | สังคม | กทม.,การรถไฟ,ตลาดนัดสวนจตุจักร,รฟท.,ส่งมอบพื้นที่ | https://news.thaipbs.or.th/content/56866 |
Subsets and Splits
No community queries yet
The top public SQL queries from the community will appear here once available.