title
stringlengths 2
223
| body
stringlengths 496
195k
| summary
stringlengths 34
1.83k
| type
stringlengths 4
98
⌀ | tags
stringlengths 2
1.52k
⌀ | url
stringlengths 27
112
|
|---|---|---|---|---|---|
ธนาธร-ปิยบุตรแถลง จะมุ่งมั่นทำงานต่อ มั่นใจรอดคดีเงินกู้ นักร้องอย่าจ้องแต่จะยุบ | จะเดินหน้าผลักดันญัตติ กมธ.วิสามัญศึกษาการป้องกันรัฐประหาร ธนาธร หัวหน้าพรรคระบุ จะมุ่งมั่นทำงานใน-นอกสภาต่อ ร่วมวิ่งไล่ลุงไม่เกี่ยวเรื่องยุบพรรค ถ้ามีกิจกรรมไหนเป็นประโยชน์ต่อสังคมก็จะไปต่อ21 ม.ค. 2563 ณ ที่ทำการพรรคอนาคตใหม่ หลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติยกคำร้อง ไม่ยุบพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการ อนค. และธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้นำแถลงข่าว โดยมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ร่วมเวทีด้วยธนาธรกล่าวว่า คำวินิจฉัยของศาลในวันนี้ให้พรรคเดินต่อไป ดังนั้น จึงขอสัญญากับประชาชนว่า งานในสภาผู้แทนราษฎร เขาและ ส.ส. อนาคตใหม่จะเดินหน้าทำงานในสภาอย่างสร้างสรรค์ มีคุณภาพ ตรวจสอบรัฐบาลอย่างแข็งขันให้สมกับที่ประชาชนไว้ใจ จะมุ่งมั่นให้นโยบายของพรรคที่เป็นคำสัญญาระหว่างพรรคการเมืองกับประชาชนเป็นจริงให้ได้ และจะเดินหน้าทำงานอย่างจริงจังต่อไปภายใน 2-3 เดือนข้างหน้านี้ อนค. จะรณรงค์อย่างต่อเนื่องต่อไป ไม่ว่าจะเป็น พ.ร.บ. ยกเลิกประกาศคำสั่ง คสช. 17 ฉบับ ร่างฯ คุ้มครองสิทธิแรงงาน ยกเลิกการเกณฑ์ทหารแบบบังคับ รวมถึง ร่าง พ.ร.บ. สุราก้าวหน้าในขณะที่อีกด้าน ก็จะทำงานกับประชาชนอย่างต่อเนื่องนอกสภาฯ ตนจะไปพบปะประชาชนทั่วทุกภูมิภาค ปัญหาอะไรที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ในฐานะตัวแทนประชาชน หากมีช่องทาง มีอำนาจแก้ปัญหาอะไรได้ก็จะเอาปัญหาต่างๆ เหล่านั้นไปฝากให้เพื่อน ส.ส. ผลักดันให้นำไปสู่การแก้ไขต่อไปเราจะทำงานกับประชาชน รณรงค์ให้พี่น้องประชาชนเข้าใจถึงความสำคัญของกาแก้ไข รธน ที่จะนำมาซึ่งโอกาสของคนในังคมเข้ามาพูดคุย แลกเปลี่ยนกัน ที่สังคมไทย ประเทศไทยแบบไหนที่เราอยากอยู่ร่วมกัน ซึ่งจะเป็นวิถีทางเดียวที่จะพาสังคมไทยออกจากความขัดแย้งยาวนานได้พรรคอนาคตใหม่คือการเดินทางและผู้คน การเดินทางนี้เพิ่งเริ่มต้น ยังเป็นการเดินทางที่สั้น ยังเป็นการเดินทางที่เยาว์วัยมากนัก จากวันที่เราจดจัดตั้งพรรคจนถึงวันนี้ยังไม่ถึง 2 ปีดี ยังมีสิ่งที่เราอยากทำอีกเยอะ ยังมีสิ่งที่เราอยากผลักดันอีกเยอะ สัญญากันไว้ที่นีจะทำให้เต็มที่เท่าศักยภาพที่มี เพื่อผลักดันให้สิ่งต่างๆ เหล่านั้น นโยบายเหล่านั้นเป็นจริง ให้เราเป็นตัวแทนความฝันของประชาชน ของผู้คนที่ต้องการเห็นประเทศไทยก้าวไปข้างหน้า ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจที่ผลักดันให้เรามาถึงที่นี่ ธนาธรกล่าวการร่วมกิจกรรมวิ่งไล่ลุงนั้นเข้าร่วมด้วยความบริสุทธิ์ใจ กิจกรรมทางสังคมใดที่เห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติก็พร้อมเข้าร่วมในฐานะประชาชนคนธรรมดาคนหนึ่งต่อไป เป็นสิทธิ เสรีภาพของประชาชน ไม่มีความเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้หรือวันต่อไปอย่างใด อย่างไรก็ตาม ยังมีการข่มขู่คุกคาม ปิดกั้นการแสดงออกซึ่งสิทธิเสรีภาพของประชาชนหลายจังหวัดด้วยกัน อนค. ยืนยันมาตลอดว่าสิทธิ เสรีภาพการแสดงออกและการชุมนุมเป็นสิทธิของประชาชนที่ได้รับการรับรองตามรัฐธรรมนูญ โดยในชั้นกรรมาธิการ จะมีการเชิญอธิการบดีมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ และมหาวิทยาลัยพะเยาที่ดำเนินการกับนักศึกษาที่เข้าร่วมกิจกรรมวิ่งไล่ลุงที่ผ่านมาปิยบุตรกล่าวขอบคุณสื่อมวลชนที่เดินทางมาทำข่าวและมวลชนที่มาให้กำลังใจ และกล่าวว่า คดีนี้ กรณีนี้ไม่ควรเป็นคดีตั้งแต่แรก ธนาธร เขา และ อนค. ไม่ได้มีความคิดล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขสิ่งที่เรากำลังคิด กำลังดำเนินการกันอยู่นั้นคือการรักษาระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขให้มั่นคง ให้ยั่งยืน เพราะว่าระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขนั้น ไม่มีที่อยู่ที่ยืนให้กับการรัฐประหาร ให้กับเผด็จการสืบทอดอำนาจ การรัฐประหารต่างหากที่เป็นการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ปิยบุตรกล่าวการยึดอำนาจ ประกาศยกเลิกรัฐธรรมนูญ ฉีกรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ตั้งต้นเองเป็นรัฐถาธิปัตย์ต่างหากคือการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขจึงมิใช่ประชาชน จึงไม่ใช้พรรคการเมืองที่คิดล้มล้างการปกครอง แต่เป็นกลุ่มคน กลุ่มบุคคล กองทัพที่ถืออาวุธและก่อการรัฐประหารยึดอำนาจ ฉีกรัฐธรรมนูญต่างหากที่เป็นการล้มล้างการปกครองปิยบุตรกล่าวต่อไปว่า เขาและ ส.ส. พรรคอนาคตได้ยื่นญัตติเข้าไปในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่จะมาถึงในวันพุธและพฤหัสบดีนี้ ขอให้สภาฯ ตั้ง กมธ. วิสามัญศึกษาแนวทางการป้องกันรัฐประหาร เพราะเชื่อมั่นว่า ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จะยั่งยืนอย่างมีเสถียรภาพไม่ได้ถ้ายังอยู่ภายใต้วงจรรัฐประหารอยู่ร่ำไปวันนี้ สมาชิก อนค. และ ส.ส. ยังยืนยันการเดินหน้าทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ต่อไป นอกจากญัตติดังกล่าว ยังจะมีเรื่องการพิจารณากรณีเลื่อนการใช้บังคับกฎหมายการเก็บภาษีโรงเรือนที่ดินออกไปก่อน เพราะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประสบความยากลำบาก ทำให้รายได้ลด เกิดความเหลือมล้ำระหว่างคนมีรายได้น้อยแต่เสียภาษีมาก แต่คนมีรายได้มากกลับเสียภาษีน้อยกว่า ญัตติสำคัญๆ ที่รอเข้าพิจารณาคือกรณีผลกระทบจากฝุ่น PM 2.5 และจะเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีที่จะยื่นญัตติในสัปดาห์หน้าปิยบุตรกล่าวในกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นคำร้องยุบพรรค อนค. ต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณีกู้เงินธนาธรว่า พร้อมที่จะสู้คดีตามที่ชี้แจงไป ทั้งนี้ กระบวนการพิจารณาของ กกต. ไม่ถูกต้องตามระเบียบ ข้อบังคับของ กกต. เพราะทาง กกต. ได้เดินหน้าร้องยุบพรรค ทั้งที่อนุกรรมการหลายชุดได้ยกคำร้องไปแล้ว โดยได้ฟ้องกรณีนี้ต่อศาลคดีอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ในฐานะคดีอาญาแล้ว และศาลก็กำลังเรียกเอกสารจาก กกต. ไปเพื่อชี้ขาดว่าจะรับคำฟ้องหรือไม่ อย่างไรในส่วนการต่อสู้คดีในศาลรัฐธรรมนูญ จะยื่นเอกสาร คำให้การต่างๆ และขอให้ศาลเปิดกระบวนการไต่สวน เรียกเอกสารและพยานบุคคลต่างๆ เข้ามาพิจารณาร่วมกัน มั่นใจว่าคดีการกู้เงินนั้นไม่ผิด ไม่เป็นเหตุให้ยุบพรรค เพราะการกู้เงินไม่มีกฎหมายใดห้าม ในอดีตและปัจจุบัน ตามกฎหมายใหม่ก็มีพรรคการเมืองที่กู้กัน เงินกู้ไม่ใช่รายได้ เป็นหนี้สิน ไม่ใช่เงินบริจาค รับมาแล้วต้องใช้คืน ทยอยคืนแล้วบางส่วน และกู้เงินมาทำพรรคการเมือง ไม่ใช่ทำธุรกิจในเมื่อกฎหมายมันไม่เข้า ผมอยากฝากไปถึงบรรดานักร้องว่า ถ้ากฎหมายไม่เข้า พิจารณาแล้วว่ายังไงก็ไม่เข้า ต้องยอมรับและยุติ ถ้ามัวแต่จะหาช่องกันแบบนี้ ความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ ก็จะไม่เกิด ท่านต้องยอมรับว่าเรื่องมันไม่ผิด ข้อเท็จจริงมันไม่เข้า มันไม่เข้าองค์ประกอบความผิด ไม่เข้าองค์ประกอบทางกฎหมายก็หยุดเสียเราไม่เคยปฏิเสธการถูกตรวจสอบ อยู่ในที่แจ้ง พร้อมที่จะถูกตรวจสอบตลอดเวลา แต่เมื่อตรวจสอบแล้วเราไม่ผิด ท่านต้องยอมรับ ไม่ใช่หาช่องทางร้องเรียนให้ไปสู่การยุบพรรคให้ได้ ปิยบุตรกล่าว | หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไม่ยุบ อนค. ปิยบุตร เลขาธิการพรรคแถลง มีแต่รัฐประหาร เผด็จการสืบทอดอำนาจเท่านั้นที่ล้มล้างการปกครอง มั่นใจคดีเงินกู้ไม่ผิด วอนนักร้องอย่าจ้องแต่จะยุบพรรค | การเมือง | พรรคอนาคตใหม่,มัลติมีเดีย,ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ,ปิยบุตร แสงกนกกุล,พรรคการเมือง,ศาลรัฐธรรมนูญ,ยุบพรรค,คดียุบพรรค,ล้มล้างการปกครอง | https://prachatai.com/journal/2020/01/86021 |
ลงขันบอลโลก รัฐหนุนงบ 500 ล้าน บิ๊กเสือ ย้ำไม่เกี่ยวภาษี | ซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2018 ประเมินเบื้องต้น รัฐบาลพร้อมสนับสนุนที่ตัวเลข 500 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 800 ล้านบาท เปิดให้เอกชนร่วมลงทุน ซึ่งตอนนี้มีหลายหน่วยงานให้ความสนใจเข้ามาแล้ว บิ๊กเสือ สกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการ กกท. ระบุแหล่งเงินของรัฐจะต้องเป็นเงินที่ไม่เกี่ยวกับภาษีของประชาชนโดยตรง เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนอีกส่วนที่ไม่อยากดูทวงถามได้ ซึ่ง กสทช. จะเป็นผู้ดำเนินการในการซื้อลิขสิทธิ์ ส่วนการลงนามในการซื้อลิขสิทธิ์อาจจะเป็น กกท. หรือสถานีโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 หรือ อสมท ก็ได้ เพราะต่างเป็นหน่วยงานของรัฐทั้งนั้น โดยจะต้องรีบดำเนินการให้เรียบร้อยภายในเดือน ม.ค.2561 ถ้าไม่มีถ่ายทอดสด ถือเป็นเรื่องที่น่าอาย,บิ๊กเสือ นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย ที่รัสเซีย ว่า เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการลงนามในหนังสือ ซึ่งเป็นแนวทางการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2018 เพื่อให้นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เสนอให้นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพิจารณา ก่อนที่จะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติต่อไปตามลำดับ,โดยเนื้อหาในหนังสือที่ได้ลงนามไปนั้น หน่วยงาน รัฐจะเป็นผู้ติดต่อเรื่องการซื้อลิขสิทธิ์ และให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในเรื่องของเงินลงทุน เนื่องจากฟุตบอลโลกเป็นกีฬาที่อยู่ในข้อบังคับ มัสต์แฮฟ ของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ทำให้ภาคเอกชนไม่กล้าที่จะไปซื้อลิขสิทธิ์ด้วยตัวเองเหมือนเมื่อก่อนแล้ว จึงจะให้เป็นไปในแนวทางการร่วมมือกัน,ผู้ว่าการ กกท.กล่าวต่อว่า จากการประเมินค่าลิขสิทธิ์ ที่จะต้องจ่ายให้สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) อยู่ที่ 1,300 ล้านบาท ในส่วนของภาครัฐนั้น กกท.และ กสทช. จะเป็นหน่วยงานตั้งต้นในเรื่องของค่าลิขสิทธิ์ ตั้งงบประมาณที่จะสนับสนุนเบื้องต้นไว้ที่ 500 ล้านบาท ส่วนอีก 800 ล้านบาทที่เหลือให้ภาคเอกชนร่วมลงทุน ซึ่งตอนนี้มีหลายหน่วยงานของภาคเอกชนที่ให้ความสนใจ อย่างไรก็ตามในส่วนของงบประมาณจากภาครัฐ จะต้องใช้เงินในส่วนที่ไม่เกี่ยวกับภาษีของประชาชนโดยตรงเข้ามาซื้อลิขสิทธิ์ เพื่อป้องกันปัญหาที่ประชาชนบางส่วนที่ไม่ได้สนใจฟุตบอลโลก แต่กลับต้องใช้ภาษีของคนกลุ่มนั้นมาซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก จะมีการทวงถามถึงเรื่องนี้ได้,การซื้อลิขสิทธิ์ควรจะเสร็จสิ้นภายในเดือน ม.ค. 2561 เนื่องจากใกล้จะหมดเวลาในการซื้อแล้ว รวมทั้งสถานีโทรทัศน์ต่างๆ ที่สนใจจะถ่ายทอดสดจะได้มีเวลาในการเตรียมความพร้อมด้านต่างๆ ให้ทันเวลา ซึ่ง กสทช.จะเป็นผู้ดำเนินการในการซื้อลิขสิทธิ์ ส่วนการลงนามในการซื้อลิขสิทธิ์อาจจะเป็น กกท. หรือสถานีโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 หรือ อสมท ก็ได้ เพราะต่างเป็นหน่วยงานของรัฐทั้งนั้น หลังจากซื้อมาแล้วก็ยังเอามาสร้างรายได้ด้านต่างๆ ได้อีกมากมาย ไม่ใช่ซื้อมาเฉยๆ กกท.ในฐานะองค์กรของรัฐ ที่ดูแลเรื่องกีฬาเป็นหลัก จึงอยากให้ประชาชนมีความสุขกับการดูฟุตบอลโลก ถ้าไม่มีถ่ายทอดสดขึ้นมาถือเป็นเรื่องที่น่าอาย นายสกล กล่าว. | ซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2018 ประเมินเบื้องต้น รัฐบาลพร้อมสนับสนุนที่ตัวเลข 500 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 800 ล้านบาท เปิดให้เอกชนร่วมลงทุน บิ๊กเสือ ระบุแหล่งเงินของรัฐไม่เกี่ยวกับภาษีของประชาชนโดยตรง | กีฬา,กีฬาอื่นๆ | สกล วรรณพงษ์,บิ๊กเสือ,ลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก,การกีฬาแห่งประเทศไทย,กสทช. | https://www.thairath.co.th/sport/others/1160633 |
ฎีกาแก้โทษคดีรื้อบาร์เบียร์ชูวิทย์-พวกจำคุก5ปีเหลือ2ปี ไม่รอลงอาญา | เมื่อวันที่ 28 ม.ค.2559 เวลา 09.00 น. ศาลอาญากรุงเทพใต้ นัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดี นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ กับพวกรื้อบาร์เบียร์ย่านสุขุมวิท เมื่อปี 2546 คดีหมายเลขดำ ด.2150/2546 ตามที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ และกลุ่มผู้ค้า รวม 44 ราย ร่วมกันเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายชูวิทย์, พ.ท.หิมาลัย ผิวพรรณ หรือ เสธ.หิ และ พ.ต.ธัญเทพ ธรรมธร หรือ เสธ.แอ๊ป และพวกรวม 130 คน เป็นจำเลยที่ 1-130 ในความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์, บุกรุกในเวลากลางคืน และกักขังหน่วงเหนี่ยวข่มขืนใจให้บุคคลปราศจากเสรีภาพ โดยเมื่อช่วงเช้า นายชูวิทย์ ได้ทำพิธีไหว้ศาลเจ้าแม่จำเนียรในบ้านพัก หลังโรงแรมเดวิส ก่อนที่จะเดินทางไปศาล,เมื่อนายชูวิทย์ มาถึงศาลได้สักการะศาลพุทธธรรมาภินายก สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ประจำศาลอาญากรุงเทพใต้ พร้อมกล่าวว่า พร้อมน้อมรับคำตัดสินของศาล เนื่องจากอยากเป็นตัวอย่างให้กับนักการเมืองและประชาชนทั่วไปว่าจะต่อสู้คดีไม่หลบหนี แม้ว่าจะถอนคำให้การที่เคยปฏิเสธ มาเป็นการยอมรับสารภาพ ก็เป็นวิธีทางกฎหมายที่ตนได้สู้จนนาทีสุดท้าย,พร้อมเชื่อว่า ปาฏิหาริย์มีจริง และหากถูกพิพากษาลงโทษให้จำคุก จะขอใช้ชีวิตในคุก ไม่ขออภัยโทษ จะขึ้นรถบัส ไปใช้ชีวิตนักโทษในเรือนจำ ตามปกติ เพราะเคยเป็นมาหมดแล้วทั้งเจ้าพ่อ หัวหน้าพรรค ตนเป็นได้ทุกอย่าง,ขณะที่ เมื่อเวลา 10.20 น. เจ้าหน้าที่ศาล ได้ดำเนินการเช็คชื่อจำเลยที่มาศาล เบื้องต้นยังขาดจำเลยอีก 20 คน ซึ่ง 1 ในนั้น คือ พ.ท.หิมาลัย,สำหรับคดีดังกล่าว ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2549 ศาลชั้นต้นยกฟ้องผู้ต้องหาเกือบหมด แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2555 ตัดสินให้นายชูวิทย์, เสธ.หิ และ เสธ.แอ๊ป กับพวกรวม 66 คน มีความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ และใช้กำลังประทุษร้าย จำคุกคนละ 5 ปี โดยไม่รอลงอาญา ส่วนจำเลยอีก 64 คน ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนยกฟ้องตามศาลชั้นต้น จากนั้น พ.ท.หิมาลัย และ พ.ต.ธัญเทพ ได้ยื่นเงินสด 5 แสนบาท เพื่อประกันตัว ขณะที่นายชูวิทย์ได้รับการปล่อยตัว เพราะมีเอกสิทธิ์การเป็น ส.ส.ในขณะนั้นคุ้มครอง,จากนั้นศาลฎีกาได้นัดอ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 13 ส.ค. 2558 ซึ่งนายชูวิทย์เดินทางมาศาล ประกาศขอน้อมรับทุกคำตัดสิน แต่เนื่องจากวันดังกล่าวทนายจำเลยบางคนและนายประกันได้แจ้งต่อศาลว่ามีจำเลยบางคนเสียชีวิตแล้ว ศาลจึงต้องใช้เวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงจากทนายความและนายประกัน ศาลจึงเลื่อนอ่านคำพิพากษาเป็นช่วงเช้าวันที่ 15 ต.ค. 2558 แทน แต่นายชูวิทย์ ได้ยื่นคำร้องขอถอนคำให้การเดิม เปลี่ยนเป็นรับสารภาพตามฟ้องเพื่อขอให้ศาลลงโทษสถานเบา จึงมีการเลื่อนนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกามาเป็นวันที่ 28 ม.ค. 2559,สำหรับคดีรื้อบาร์เบียร์ย่านสุขุมวิท เกิดขึ้นเมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 26 ม.ค. โดยมีกลุ่มชายฉกรรจ์หลายร้อยคนแต่งกายชุดซาฟารี พร้อมรถแบ็กโฮบุกเข้าทำลายร้านบาร์เบียร์ 60 ร้าน ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 10 ไร่ บริเวณสุขุมวิทสแควร์ ซอยสุขุมวิท 10 ถนนสุขุมวิท แขวงและเขตคลองเตย จนเสียหาย จากกลุ่มนายทุนกลุ่มใหม่ได้ว่าจ้างให้เข้าไปรื้อร้านค้าของผู้เช่าเดิมเพื่อจะใช้พื้นที่ทำประโยชน์ จนต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการสอบสวนดำเนินคดีต่อผู้ต้องหา 131 คน มีการส่งฟ้องเมื่อวันที่ 13 มี.ค. 2546 ซึ่งทั้งหมดให้การปฏิเสธ,ต่อมา พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ และกลุ่มผู้ค้ารวม 44 ราย ได้ยื่นฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 131 คนต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้แก่ จ.ส.อ.อภิชาติ ริมมสาร หรือรัมมะสาร, นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย และอดีตผู้บริหารบริษัท สุขุมวิท ซิลเวอร์สตาร์, พ.ท.หิมาลัย ผิวพรรณ หรือ เสธ.หิ นายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการทหารสูงสุด (บก.สส.) ตำแหน่งในขณะนั้น, พ.ต.ธัญเทพ ธรรมธร หรือ เสธ.แอ๊ป นายทหารสังกัดกองพันทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ตำแหน่งในขณะนั้น เป็นจำเลยในความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์, บุกรุกในเวลากลางคืน และกักขังหน่วงเหนี่ยวข่มขืนใจให้บุคคลปราศจากเสรีภาพ,ทั้งนี้ เมื่อถึงเวลาอ่านคำพิพากษา ศาลฎีกา ได้พิพากษาแก้โทษ นายชูวิทย์และพวก จากจำคุก 5 ปี เหลือจำคุกคนละ 2 ปีไม่รอลงอาญา โดยที่นายชูวิทย์ ได้ชดใช้เงินแก่ผู้เสียหายจนพอใจแล้ว ส่วนที่ดินได้ให้ทำประโยชน์เพื่อการสาธารณะ. | ศาลอาญากรุงเทพใต้อ่านคำพิพากษาฎีกาคดี ชูวิทย์ และพวก รื้อบาร์เบียร์ย่านสุขุมวิทเมื่อ 13 ปีก่อน จบลงที่ แก้โทษจากจำคุก5ปี เหลือคนละ2ปี ไม่รอลงอาญา หลังยื่นคำร้องถอนคำให้การเดิม เปลี่ยนเป็นรับสารภาพตามฟ้อง ขอให้ลงโทษสถานเบา | null | รื้อบาร์เบียร์,คดีบาร์เบียร์,ซอยสุขุมวิท 3,ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์,ศาลอาญากรุงเทพใต้,อ่านคำพิพากษา,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/569289 |
มิตซูฯเครียด รบ.ญี่ปุ่นเอาจริง ส่งจนท.บุกค้นโรงงาน ตกแต่งตัวเลขรถกว่า6แสนคัน | ทางการญี่ปุ่นส่งเจ้าหน้าที่บุกค้นโรงงานมิตซูฯทันที หลังยอมรับมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลอัตราบริโภคเชื้อเพลิงของรถกว่า 6 แสนคันเพื่อให้ดูดี ขณะที่รัฐบาลญี่ปุ่นขีดเส้นตายให้ บ.มิตซูฯ ส่งรายงานข้อมูลแท้จริงภายใน 27 เม.ย.ด้านนักวิเคราะห์ยานยนต์ชี้งานนี้ บ.มิตซูฯอาจต้องจ่ายเงินกว่าหมื่นล้าน,เมื่อ 21 เม.ย.59 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน เจ้าหน้าที่ทางการญี่ปุ่นบุกบริษัทมิตซูบิชิ มอตอร์ส ที่เมืองโอกาซากิ หลังจากคณะผู้บริหารบริษัทมิตซูบิชิ ได้สร้างความตกตะลึง ออกมาขอโทษต่อสาธารณชนเมื่อ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยยอมรับผิดว่า พนักงานของบริษัทได้มีการเปลี่ยนแปลงตัวเลขข้อมูลอัตราบริโภคเชื้อเพลิง (Fuel Economy Data) ของรถยนต์กว่า 600,000 คัน ที่จำหน่ายในประเทศ,โฆษกรัฐบาล กล่าวต่อผู้สื่อข่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังปฏิบัติต่อเหตุการณ์ของบริษัทมิตซูบิชิในครั้งนี้ เป็นเรื่องซีเรียสจริงจังมาก และได้มีคำสั่งขีดเส้นตายให้ทางบริษัทมิตซูบิชิส่งรายงานข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับผลการทดสอบอัตราบริโภคเชื้อเพลิงที่แท้จริงของรถยนต์เหล่านี้ ให้แก่ทางการภายในวันที่ 27 เม.ย.ที่จะถึง,นายโยชิฮิเดะ ซูกะ เลขาธิการสำนักนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ชี้ว่า ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เจ้าหน้าที่พบในการบุกค้น และรายงานจากบริษัทมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ซึ่งจะทำให้รัฐบาลสามารถเปิดเผยข้อมูลที่ถูกต้องในเรื่องนี้โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อสร้างความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยในการใช้รถ,ด้านนายอาคิระ คิชิโมโตะ นักวิเคราะห์ด้านยานยนตร์ของเจพี มอร์แกน เปิดเผยกับนักข่าวรอยเตอร์ว่า เขาคาดว่า ความผิดในครั้งนี้ จะทำให้บริษัทมิตซูบิชิ ต้องเสียเงินมหาศาลกว่า 50,000 ล้านเยน หรือประมาณ 450 ล้านดอลลาร์ (ราว 15,750 ล้านบาท) รวมถึงการจ่ายเงินชดเชยให้แก่ลูกค้า, ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนชิ้นส่วนอุปกรณ์รถยนต์ ตลอดจน เงินชดเชยค่าเสียหายให้แก่บริษัทนิสสัน,ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 20 เม.ย.59 คณะผู้บริหารบริษัทมิตซูบิชิ นำโดยนายเท็ดสึโระ ไอคาวะ ประธานบริษัทได้ออกมาขอโทษต่อสาธารณชนที่มีพนักงานกลุ่มหนึ่งได้เปลี่ยนแปลงค่าความดันลมยาง เพื่อให้อัตราค่าบริโภคเชื้อเพลิงของรถยนต์กว่า 600,000 คันให้ตัวเลขดีว่าความเป็นจริง โดยในจำนวนรถยนต์กว่า 600,000 คัน นี้ บริษัทมิตซูบิชิ ผลิตให้บริษัทนิสสัน รุ่นต่างๆ จำนวน 468,000 คัน และเป็นรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ เอง 157,000 คัน ซึ่งผลจากเรื่องอื้อฉาวครั้งนี้ ส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทมิตซูบิชิร่วงหนักทันทีถึง 15%,,งานเข้า มิตซูบิชิ ยอมรับผิด โกงผลทดสอบวัดอัตราการบริโภคเชื้อเพลิง | เจ้าหน้าที่ทางการญี่ปุ่นบุกค้นโรงงานมิตซูฯทันที หลังยอมรับทางบริษัทเปลี่ยนแปลงข้อมูลอัตราบริโภคเชื้อเพลิงของรถกว่า 6 แสนคันเพื่อให้ดูดี ขณะที่รัฐบาลญี่ปุ่นขีดเส้นตายให้ บ.มิตซูฯ ส่งรายงานข้อมูลแท้จริงภายใน 27 เม.ย | null | บริษัทมิตซูบิชิ,บุกค้นโรงงานมิตซุฯ,รัฐบาลญี่ปุ่น,มิตซูบิชิตกแต่งตัวเลข,อัตราการบริโภคเชื้อเพลิง,ตกแต่งตัวเลขกินน้ำมัน,รถยนต์,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวต่างประเทศ | https://www.thairath.co.th/content/609030 |
ชาว อ.หนองเรือ โวย 10 ล้อใช้ถนนหมู่บ้านหนีด่านชั่ง ฝุ่นตลบ-พังเสียหาย | เมื่อวันที่ 28 ส.ค.59 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านหลายตำบลในเขต อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ได้มีรถยนต์บรรทุกจำนวนมาก โดยเฉพาะรถพ่วงบรรทุกหิน 18 ล้อ ที่มีการลักลอบใช้เส้นทางถนนสายรองลัดตัดผ่านระหว่างอำเภอ ส่งผลให้ถนนได้รับความเสียหายเนื่องจากมีการบรรทุกน้ำหนักเกิน ทั้งยังขับขี่ด้วยความเร็วสูง เสี่ยงให้เกิดอันตรายกับชาวบ้าน เกิดฝุ่นฟุ้งคลุ้งกระจายในย่านชุมชน,ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปตรวจสอบในเส้นทางถนนสายหนองแก-ภูเวียง ซึ่งเป็นถนนเส้นทางถนนสายรอง ตัดจาก ถ.มะลิวัลย์ จาก อ.หนองเรือ ไปยัง อ.ภูเวียง และเป็นเส้นทางลัดตัดผ่านไปในเขต จ.เลย-หนองบัวลำภู และ จ.อุดรธานี ระยะทาง 14 กิโลเมตร,จากการสอบถาม พ.จ.อ.กฤษฎิ์ หาญวงษ์ษา นายกเทศมนตรีตำบลโนนสะอาด อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ปัญหารถบรรทุกและรถบรรทุกหินมาวิ่งในเส้นทางดังกล่าวนั้นมีมานานกว่า 10 ปี ซึ่งมีหลายบริษัทที่วิ่งในเส้นทางดังกล่าวเพื่อรับจ้างขนส่งสินค้า จากบริษัทต้นทางไปส่งให้กับลูกค้า ทั้งในเขตขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคียง รวมถึงรถบรรทุกหินทั้งรถพ่วง 18 ล้อ และรถบรรทุก 10 ล้อ มาในเส้นทางนี้วิ่งตลอดทั้งวัน เพราะเป็นเส้นทางสายรองที่หลีกเลี่ยงการตรวจสอบของทางเจ้าหน้าที่ และการไม่ต้องผ่านด่านชั่งน้ำหนักของกรมทางหลวงที่ตั้งอยู่ห่างจากถนนเส้นนี้เพียง 10 กิโลเมตร เพราะในเมื่อรถบรรทุกหินที่บรรทุกน้ำหนักเกินไม่ต้องผ่านด่านตรวจหรือด่านชั่งน้ำหนัก พอใช้เส้นทางนี้ก็จะไม่ถูกเจ้าหน้าที่เรียกตรวจ แต่ก็ไม่คำนึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับชุมชนรวม 4 ตำบล หลายสิบหมู่บ้านที่ต้องประสบกับปัญหาดังกล่าว,รถบรรทุกหินจะเริ่มวิ่งในช่วงเย็นจนถึงเช้าของอีกวัน คือตั้งแต่ 5 โมงเย็นเป็นต้นไปจนถึงเช้า จะเริ่มวิ่งกันครั้งละ 5-10 คัน มองด้วยตาเปล่าก็รู้ว่าแต่ละคันบรรทุกน้ำหนักมาเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดอยู่แล้ว ถนนเส้นหนองแก-ภูเวียง เป็นถนนในความรับผิดชอบของ อบจ.ขอนแก่น ในส่วนของเทศบาลของผม ก็ซ่อมแซมตามสิ่งที่จะทำได้ เพราะชาวบ้านเดือดร้อนมาก โดยเฉพาะในเขตบ้านหนองไฮ และบ้านโนนสะอาด ที่ถนนพังแล้วเป็นจุดๆ และถ้าหากขับรถตามเส้นทางนี้ตั้งแต่เขต ทต.หนองแก ทต.โนนสะอาด อบต.นาชุมแสง ผ่าน อบต.สงเปือย ตัดเข้า อ.ภูเวียง รวม 14 กิโลเมตร ถนนชำรุดมาก เพราะถนนเส้นนี้มีการติดป้ายประกาศห้ามรถบรรทุกน้ำหนักเกิน 21 ตันวิ่งผ่าน แต่รถบรรทุกหินน่าจะเกินกว่านี้อยู่แล้ว ไม่นับรวมรถบรรทุกประเภทต่างๆ ที่ใช้เส้นทางดังกล่าวนี้วิ่งตลอดทั้งวันทั้งคืน,พ.จ.อ.กฤษฎิ์ กล่าวต่ออีกว่า ชาวบ้านมีการส่งเรื่องร้องเรียนไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งที่ สภ.หนองเรือ และ สภ.ภูเวียง และมีการร้องเรียนไปยังตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น เรื่องก็เงียบหายไป ไปสอบถามถึงโรงพัก ก็ได้รับคำตอบว่าให้ไปแจ้งกรมทางหลวง แจ้งตำรวจทางหลวง และกรมการขนส่งทางบก คือมีการโยนกันไปมา ชาวบ้านตาดำๆ ก็ไม่รู้จะพึ่งหน่วยงานไหน ก็จะต้องทนกับรถบรรทุกหินและรถขนส่งที่วิ่งกันตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง ทั้งบรรทุกเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ขับรถเร็ว ทั้งยังคงส่งผลถึงฝุ่นละอองที่คลุ้งกระจายอย่างมาก,ทั้งนี้มีการหารือร่วมกับชาวบ้านทุกหมู่บ้านตลอดแนวถนนเส้นทางนี้ในการเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรม และให้เกิดการแก้ไขปัญหากับทางศูนย์ดำรงธรรม เพื่อหวังพึ่งบารมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อคลายความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านที่เรื้อรังมานานกว่า 10 ปีให้สำเร็จเสียที. | ชาวบ้าน อ.หนองเรือ โวย รถบรรทุกหินน้ำหนักเกินขับรถหนีด่านชั่ง ใช้ถนนสายรองตัดผ่านระหว่างหมู่บ้าน ฝุ่นตลบ-ถนนพัง วอน บิ๊กตู่ แก้ไขปัญหา | null | รถบรรทุกหนีด่านชั่งน้ำหนัก,รถ10ล้อใช้ถนนหมู่บ้าน,หนีด่านชั่งน้ำหนัก,หนองแก-ภูเวียง,ขอนแก่น | https://www.thairath.co.th/content/704699 |
ทางการรัสเซียไม่พบซากอุกกาบาต-สั่งนักประดาน้ำหยุดค้นหาแล้ว | ทางการรัสเซียสั่งให้ทีมนักประดาน้ำ 6 คน หยุดค้นหาซากอุกกาบาตในทะเลสาบน้ำแข็งบนเทือกเขาอูราล หลังจากพบรอยแตกกว้าง 6 เมตรบริเวณผิวน้ำแข็ง แต่กลับไม่พบหลักฐานชิ้นสำคัญ พบเพียงวัตถุชิ้นเล็กๆ ขนาดประมาณ 1 เซนติเมตร ซึ่งเชื่อว่าอาจเป็นชิ้นส่วนของอุกกาบาตหลังจากไม่พบซากอุกกาบาต ทำให้ชาวรัสเซียสงสัยว่าเหตุการณ์ที่มีกลุ่มควันพุ่งพาดผ่านบนท้องฟ้าแคว้นเชลยาบินส์ ซึ่งเป็นเมืองอุตสาหรรมที่มีโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์และโรงเก็บกากนิวเคลียร์นั้น อาจเกิดจากทฤษฎีสมคบคิด โดยนายวลาดิเมียร์ ซิรินอฟสกี้ ซึ่งมีแนวคิดชาตินิยม กล่าวว่าน่าจะเป็นการทดสอบอาวุธชนิดใหม่ของสหรัฐฯ ไม่ใช่อุกกาบาตตกส่วนองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติคาดว่าก่อนเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลก อุกกาบาตน่าจะมีขนาดประมาณ 17 เมตร และมีน้ำหนักกว่า 10000 ตัน รวมทั้งปล่อยพลังงาน 500 กิโลตัน หรือมากกว่าแรงระเบิดปรมาณูที่ถล่มเมืองฮิโรชิมาของญี่ปุ่นถึง 30 เท่า แต่เมื่ออุกกาบาตเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลกแล้ว กลับมีน้ำหนักประมาณ 10 ตันทางการรัสเซียประเมินความเสียหายเบื้องต้นไว้ที่ 1000 ล้านรูเบิ้ล หรือ ประมาณ 1000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เกิดจากกระจกประตูหน้าต่างแตก ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 1200 คน ส่วนใหญ่ถูกกระจกบาดและยังคงรักษาตัวในโรงพยาบาลราว 50 คน ขณะที่ชาวแคว้นเชลยาบินส์กลับมาใช้ชีวิตตามปกติแล้วอย่างไรก็ตาม ชาวเชลยาบินส์กำลังประสบปัญหาราคากระจกแพงขึ้นมาก เพราะมีความต้องการใช้กระจกจำนวนมาก เนื่องจากกระจกหน้าต่างและประตูพังเสียหายเนืองจากแรงกระแทกของอุกกาบาต คาดว่ามีอาคารบ้านเรือนได้รับความเสียหายกว่า 3700 หลัง และมีกระจกแตกกินบริเวณกว้างกว่า 200000 ตารางเมตรส่วนรัฐบาลรัสเซียประกาศจะให้เงินชดเชยแก่ผู้ที่ต้องซื้อกระจกมาซ่อมแซม ซึ่งสื่อท้องถิ่นรายงานว่ามีบางคนทำกระจกแตกเสียเองเพื่อจะได้รับเงินชดเชย แต่ผู้ขายกระจกบอกว่าไม่น่าเป็นไปได้เพราะราคากระจกแพงกว่าเงินชดเชยที่จะได้รับนอกจากนี้ ที่สหรัฐฯ ยังพบลำแสงสีฟ้าพุ่งพาดผ่านท้องฟ้าบริเวณอ่าวซานฟรานซิกโกเมื่อคืนวันศุกร์(15 ก.พ)ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าเป็นวัตถุชนิดใด รายงานนี้มีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังเกิดเหตุการณ์ที่เชื่อว่าอุกกาบาตตกแถบเทือกเขาอูราลของรัสเซีย | ชาวรัสเซียเริ่มตั้งข้อสงสัยว่าเหตุการณ์กลุ่มควันพาดผ่านบนท้องฟ้าและเกิดแรงระเบิดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา(15 ก.พ.) อาจเป็นการทดลองอาวุธของสหรัฐฯ เนื่องจากยังไม่พบซากอุกกาบาต ขณะที่ประชาชนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตตามปกติแล้ว | ต่างประเทศ | ซากอุกกาบาต,ทดลองอาวุธ,ทางการ,รัสเซีย,หยุดค้นหา | https://news.thaipbs.or.th/content/147699 |
ด.ญ.11ขวบ ป่วยประหลาด เลือดออกตามตัว - หน้า หมอยังหาสาเหตุไม่ได้ | เด็กน้อยวัย 11 ปี เมืองกรุงเก่า มีเลือดไหลตามตัว แต่ไม่พบบาดแผลตามผิวหนัง แม่เผยก่อนหน้านี้ลูกมีอาการชักกระตุก ต่อมามีเลือดออกตามลำตัวและใบหน้า หมอยังหาสาเหตุไม่ได้ ต้องหยุดเรียนชั่วคราว เพราะเลือดเปื้อนเสื้อทั้งวัน ,เมื่อวันที่ 17 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งว่าภายในบ้านเลขที่ 38/4 หมู่ 3 ต.ปากกราน อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา มีเด็กเลือดออกทางผิวหนัง จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบว่าบ้านปลูกเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น พบ ด.ญ.ณัฐพิมล หรือน้องเชียร์ ส้มหวาน อายุ 11 ปี นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนวัดช้าง นั่งเล่นอยู่ภายในบ้าน มีอาการปกติ หลังจากนั้นไม่นานอยู่ๆ เด็กก็เลือดไหลออกมาโดยไม่มีบาดแผลแต่อย่างใด ตามหน้าผาก เล็บมือ และยังมีกลิ่นคาวเลือดจนเป็นที่น่าตกใจ,สอบถาม นางสายพิณ ส้มหวาน อายุ 42 ปี แม่ของน้องเชียร์ กล่าวว่า ลูกสาวมีอาการเลือดออกมานานกว่า 3 เดือนแล้ว แต่ก่อนก็ไม่เคยเป็นแบบนี้ ซึ่งช่วงประมาณปีใหม่น้องเชียร์ไม่สบาย มีอาการชักกระตุก และเมื่อช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา น้องเชียร์เริ่มมีอาการผิดปกติ มีเลือดออกตามบริเวณใบหน้าและลำตัว จนทุกคนในบ้านตกใจกันหมด ตนจึงได้เอาสำลีเช็ดดูก็ไม่พบบาดแผลใดๆ ,ครอบครัวได้พาน้องเชียร์ไปหาหมอที่โรงพยาบาลเด็กราชวิถี กรุงเทพมหานคร แต่หมอก็ยังหาสาเหตุไม่พบ จึงพาน้องเชียร์กลับมาบ้าน ช่วงนี้รู้สึกเครียด สงสารลูกมากเวลามีเลือดออกมาเยอะร่างกายก็จะเพลีย หน้าซีดไม่มีแรง ตัวเองก็ต้องทำงานโรงงานไม่มีเวลาที่จะมาดูแลลูก รู้สึกเป็นห่วง อยากให้ลูกหาย จึงได้พาไปรักษาตามหมอต่างๆ ทั้งพระ ทั้งร่างทรง ก็ไม่หาย จนไม่รู้จะพาไปรักษาตัวที่ไหนแล้ว และตอนนี้เวลาไปโรงเรียนเลือดก็ยังออกอยู่ ทำให้ชุดนักเรียนที่สวมใส่เปื้อนเลือดกลับมาบ้านทุกวัน คุณแม่กล่าว ,คุณแม่กล่าวต่อว่า ตนเองจำเป็นต้องให้ลูกหยุดพักการเรียนไปก่อน เพื่อคิดว่าจะพาน้องเชียร์ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ คลองหลวง ปทุมธานี เพื่อให้แพทย์เฉพาะทางตรวจหาสาเหตุของเลือดที่ออกมาอย่างละเอียด และอยากวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือครอบครัวของตนด้วย. | เด็กน้อยวัย 11 ปี เมืองกรุงเก่า มีเลือดไหลตามตัวไม่ทราบสาเหตุ ตรวจตามผิวหนังไม่พบบาดแผล แม่เผยก่อนหน้านี้ลูกมีอาการชักกระตุก ต่อมามีเลือดออกตามลำตัวและใบหน้า หมอหาสาเหตุไม่ได้ ต้องหยุดเรียนชั่วคราวเพราะเลือดเปื้อนเสื้อทั้งวัน | null | เลือดออก,เลือดออกตามตัว,หมอหาสาเหตุไม่ได้,เด็กป.6,นักเรียนหญิง,เลือดออกใบหน้าลำตัว,แม่ให้หยุดเรียนชั่วคราว,หมอหาสาเหตุไม่เจอ,ปากกราน,พระนครศรีอยุธยา,ข่าว,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย | https://www.thairath.co.th/content/666172 |
ฝรั่งน้อยใจตำรวจไม่รับแจ้งความพาสปอร์ตหาย ผูกคอลาโลกดับคาโรงแรม | หาย แจ้งความที่พัทยา ตำรวจไม่รับ จึงเดินทางมาหวังพึ่งคนบุรีรัมย์ คาดน้อยใจจึงผูกคอตาย,เมื่อวันที่ 16 ก.ย.62 ตำรวจ สภ.เมือง บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งมีชาวต่างชาติผูกคอเสียชีวิตภายในโรงแรมแห่งหนึ่ง ใกล้กับสถานีขนส่งบุรีรัมย์ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรม ที่เกิดเหตุบนชั้น 3 ห้องที่ 32 ของโรงแรม พบชาวต่างชาติใช้เชือกไนลอนผูกคอ ทราบชื่อ นาย Padinga Edward อายุ 68 ปี เป็นชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตมาประมาณ 3 ชม.,ภายในห้องพักไม่พบร่องรอยการต่อสู้ หรือมีการรื้อค้นทรัพย์สินแต่อย่างใด บริเวณฝาผนังห้อง พบจดหมายเขียนเป็นภาษาอังกฤษ พร้อมกับเงินสดไทย 3,000 บาท,ต่อมาได้มี น.ส.จิราพร ติดใจดี อายุ 29 ปี ชาว ต.สองห้อง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เดินทางมาหลังมีตำรวจโทรสอบถามตามเบอร์ที่ค้างในโทรศัพท์ของผู้ตายคนสุดท้าย,โดย น.ส.จิราพร เล่าว่า ก่อนหน้านี้ตนกับครอบครัวมีสามี ลูก และตนรวม 4 คน ไปเที่ยวที่พัทยา เห็น นาย Padinga Edward มีอาการโศกเศร้า ลักษณะหมดอาลัยตายอยาก จึงเข้าไปสอบทราบจนทราบว่า เอกสารการเดินทาง และของอื่นๆ ในกระเป๋า ได้หายไปทั้งหมด ไปแจ้งความที่ สภ.เมืองพัทยา แต่ตำรวจไม่รับแจ้ง ไม่มีที่พึ่ง ตนและครอบครัวแสดงความเห็นใจกระทั่งผู้ตายขอเบอร์โทรศัพท์ และติดต่อกันมาเป็นระยะ,จนกระทั่ง นาย Padinga จะมาขอพึ่งคนบุรีรัมย์ โดยต่อมาหน่วยกู้ภัยในพัทยาได้รวบรวมเงินเป็นค่ารถให้เดินทางมาจังหวัดบุรีรัมย์ ตนก็พาไปแจ้งความที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ตำรวจก็รับแจ้งความให้ จนกระทั่งมาทราบจากตำรวจว่า ได้ผูกคอเสียชีวิตแล้ว ส่วนตัวคาดว่าผู้ตายอาจจะเครียดหลายเรื่องจนไม่มีทางออก และคิดสั้นดังกล่าว. | ฝรั่งออสเตรเลียเครียด ผูกคอตายคาโรงแรมกลางเมืองบุรีรัมย์ พบจดหมายเขียนติดผนังกับเงิน 3 พัน ขณะที่สาวบุรีรัมย์ เผยไปเที่ยวพัทยากับครอบครัว เห็นฝรั่งเศร้าจึงเข้าสอบถาม ก่อนทราบว่าเอกสารเดินทาง | ข่าว,ทั่วไทย | ผูกคอ,ผูกคอตาย,ฝรั่งผูกคอ,พาสปอร์ตหาย,บุรีรัมย์,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1662073 |
พี่เบคส์ ย่องเงียบแวะไทย ก่อนไป เนปาล ทำศึกฟุตบอลการกุศล | วันที่ 6 พ.ย. ,เดวิด เบคแคม, อดีตกองกลางเท้าชั่งทองของทีมชาติอังกฤษ และสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ทำเรื่องสุดเซอร์ไพรส์แฟนคลับชาวไทย เมื่อย่องเงียบแวะพักระหว่างการเดินทางที่ไทย ก่อนมุ่งหน้าไปยังประเทศเนปาล เพื่อร่วมเตะฟุตบอลการกุศลในโครงการของยูนิเซฟ,อดีตมิดฟิลด์รูปงามวัย 40 ปี อดีตเด็กปั้นของสโมสรปิศาจแดง มีกำหนดลงเตะฟุตบอลนัดพิเศษจำนวน 7 นัดทั่วโลก ตามโครงการของยูนิเซฟ ซึ่งเจ้าตัวดำรงตำแหน่งทูตอยู่ในขณะนี้,ล่าสุดเมื่อช่วงค่ำของวันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เดวิด เบคแคม ได้เดินทางมายังประเทศไทย ด้วยเครื่องบินเจ็ตแบบเช่าเหมาลำเป็นการส่วนตัว โดยไม่มีสื่อมวลชนหรือบุคคลภายนอกล่วงรู้มาก่อน แต่มีกลุ่มแฟนคลับบางส่วน ได้ไปดักรอและถ่ายรูปของเจ้าตัวซึ่งมาในชุดลำลอง พร้อมหมวกและกระเป๋าอีกหนึ่งใบ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของการ์ดอีกจำนวนหนึ่ง,จากนั้นอดีตกองกลางของทีมปิศาจแดง เดินทางไปยังร้านอาหารสไตล์อินเดียชื่อดังแห่งหนึ่งในย่านหลังสวน ถนนวิทยุ เพื่อรับประทานอาหารค่ำ พร้อมร่วมถ่ายรูปกับบรรดาพนักงานในร้านเป็นที่ระลึกอย่างเป็นกันเองด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม ก่อนจะเหินฟ้าสู่ประเทศเนปาล ซึ่งเป็นจุดหมายต่อไป,สำหรับ เดวิด เบคแคม กำลังอยู่ในช่วงตระเวนลงเล่นฟุตบอลนัดการกุศล เพื่อหาเงินสนับสนุนกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูนิเซฟ จำนวน 7 นัด จาก 7 ทวีปทั่วโลก. | เดวิด เบคแคม เซอร์ไพรส์แฟนบอลด้วยการย่องเงียบแวะไทย ในระหว่างออนทัวร์ทำศึกฟุตบอลนัดการกุศลของยูนิเซฟ พร้อมทั้งรับประทานอาหารสไตล์อินเดียชื่อดังย่านหลังสวน ก่อนเหินฟ้าสู่ประเทศเนปาลเป็นจุดหมายต่อไป | null | เดวิด เบคแคม,ทีมชาติอังกฤษ,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,ฟุตบอลการกุศล,ทูตยูนิเซฟ,ยูนิเซฟ,กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/537597 |
ตามหาทองคำหนัก 3 พันบาท สุวิระเปิดเซฟเจ๊หมิงฝากธนาคาร เจอแต่เอกสาร | เวลา 15.00 น. วันที่ 18 พ.ค. พล.ต.อ.ดร.สุวิระ ทรงเมตตา ที่ปรึกษา สบ 10 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำเจ้าหน้าที่พร้อมหมายศาลจังหวัดนนทบุรี เดินทางมาที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งอยู่ในอาคารจัสมิน ทาวเวอร์ ถนนแจ้งวัฒนะ ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ให้ช่างเข้าเปิดตู้เซฟของ นางสิริการย์ กุลวัฒน์ หรือ เจ๊หมิง เจ้าของบริษัท พาวเวอร์ เอ็กเชนจ์ จำกัด เลขที่ 47, 47 1-2 ถนนราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. ผู้ต้องหาคดีฟอกเงิน ซึ่งเปิดธุรกิจรับแลกเปลี่ยนเงินตรามาเช่ากับตู้เซฟกับทางธนาคาร 2 ตู้ เพื่อตรวจสอบทรัพย์สิน และหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด เชื่อมโยงกับเครือข่ายนายภูซะนะ สิงห์นะวงศ์ ชาวลาว,ทั้งนี้ การขอเปิดเซฟครั้งนี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่คาดว่า จะมีทรัพย์สินของมีค่าซุกซ่อนไว้ โดยขณะที่เจ้าหน้าที่ทำการเปิดเซฟทางธนาคารไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปบันทึกภาพ เนื่องจากเป็นข้อมูลความลับของทางธนาคาร จากการตรวจสอบภายในตู้เซฟทั้ง 2 ใบ ไม่พบทรัพย์สินของมีค่าของนางสิริการย์แต่อย่างใด มีเพียงเอกสารบางส่วนเท่านั้น ทางเจ้าหน้าที่จึงยึดไว้ตรวจสอบ,พล.ต.อ.ดร.สุวิระ กล่าวว่าตามแนวทางการสืบสวนทราบว่านายยศวัฒน์หรือเฮียนนท์ ชัยภัคสิริ ไปซื้อทองคำน้ำหนัก 3,000 บาท ซึ่งเคยฝากไว้ที่ร้านขายทองแห่งหนึ่งแล้วได้ไปนำออกมา โดยเจ้าหน้าที่กำลังติดตามว่าทองคำจำนวนมากนี้ไปเก็บซุกซ่อนที่ใด กระทั่งทราบว่านายยศวัฒน์ได้มาเช่าตู้เซฟที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาถนนแจ้งวัฒนะ ร่วมกับนางสิริการย์ จึงคาดว่าอาจถูกนำมาเก็บไว้แต่ปรากฏว่าไม่พบทองคำ มีเพียงเอกสารบางส่วนเท่านั้น ซึ่งเป็นเอกสารที่เป็นประโยชน์ต่อทางคดี ทั้งนี้ จากการตรวจสอบทราบว่านายยศวัฒน์ และนางสิริการย์ ได้เข้ามาเปิดตู้เซฟไปก่อนแล้วเมื่อช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา อาจเป็นได้ว่าจะมีการโยกย้ายทรัพย์สินของมีค่านำไปไว้ที่อื่น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งสืบหาข้อมูลว่าทองคำหนัก 3,000 บาท ถูกนำไปไว้ที่ใด และใครเป็นผู้ครอบครอง.,ตะลึง เปิดเซฟ เจ๊หมิง ส่งเงินแก๊งยาภูซะนะ พบแบงก์เป็นฟ่อนกว่า 7 ล้าน | สุวิระ เดินหน้าตามหาทรัพย์สิน เจ๊หมิง ที่เชื่อว่าได้มาจากเครือข่ายนายภูซะนะ สิงห์นะวงศ์ พ่อค้ายาเสพติดชาวลาว ขอเปิดเซฟ 2 ใบที่ธ.กรุงเทพ สาขา ถ.แจ้งวัฒนะ หาทองคำ 3 พันบาท ที่มีข้อมูลว่า เฮียนนท์ สามีเจ๊หมิง นำมาฝากไว้เจอแต่เอกสาร | ข่าว,ทั่วไทย | เปิดเซฟ,เจ๊หมิง,เปิดเซฟเจ๊หมิง,สุวิระ ทรงเมตตา,นนทบุรี | https://www.thairath.co.th/news/local/central/945373 |
สถานการณ์แรงงานประจำสัปดาห์ 16 - 22 ธ.ค. 2555 | นายณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ อาจารย์ประจำหลักสูตรเศรษฐศาสตร์การเมือง คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวในการเสวนา เรื่อง วิกฤติหนี้นอกระบบ - ทางออกของสังคมไทย? จัดโดยกระทรวงยุติธรรมว่า ปัจจุบันปัญหาหนี้นอกระบบเปลี่ยนจากปัญหาที่เคยแพร่หลายในชนบทและในภาค เกษตรกรรมมาเป็นปัญหาของผู้ที่มีรายได้ประจำในสังคมเมืองโดยเฉพาะแรงงานใน ภาคอุตสาหกรรมทั้งนี้ จากตัวเลขของผู้ที่รับค่าจ้างในรูปแบบเงินเดือนประมาณ 17 ล้านคนในปัจจุบัน มีจำนวน 14 ล้านคนที่ทำงานกับภาคเอกชน และมีกว่า 8-9 ล้านคน ที่มีรายได้ประจำเพียง 8000-9000 บาทต่อเดือน รายได้ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ และเลี้ยงครอบครัวดังนั้นหากในเดือนใดที่ไม่มีรายได้จากการทำงานล่วงเวลา (เงินโอที) คนกลุ่มนี้ก็จะต้องกู้เงินนอกระบบ โดยส่วนใหญ่เป็นการกู้จากหัวหน้างานหรือเพื่อนร่วมงาน โดยเสียดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 8-10 ต่อเดือนนายณรงค์ กล่าวว่า หนี้นอกระบบที่กำลังคุกคามภาคแรงงาน ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง เพราะปัจจุบันเศรษฐกิจของประเทศไทยพึ่งพาการผลิตในภาคอุตสาหกรรมคิดเป็น 88-90 % ของจีดีพี ขณะที่การผลิตในภาคเกษตรคิดเป็น 10 -12 % ของจีดีพีเท่านั้นอย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมามีหลายรัฐบาลที่มุ่งแก้ปัญหาหนี้นอกระบบในภาคชนบท โดยใช้วิธีให้เงินสินเชื่อผ่านกองทุนต่างๆเพื่อให้เป็นสินเชื่อภายในชุมชน เช่น กองทุนหมู่บ้าน กองทุนของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) กองทุนเอสเอ็มแอล เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันมีอยู่กว่า 15 กองทุน ที่ให้ความช่วยเหลือเกษตรกรซึ่งปัจจุบันมีแรงงานที่อยู่ในภาคเกษตรเพียง 8 ล้านคน ทำให้ภาคเกษตรมีปัญหาหนี้นอกระบบลดลง แต่ในทางตรงกันข้ามหนี้นอกระบบในกลุ่มแรงงานภาคอุตสาหกรรมกลับเพิ่มขึ้น เรื่อยๆ ซึ่งเป็นอันตรายต่อภาคการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมของประเทศในระยะยาวขณะนี้ต้องเข้าใจว่าหนี้นอกระบบเป็นปัญหาที่เข้ามาคุกคามสังคมเมืองมาก ขึ้น หากไปแถวโรงงานอุตสาหกรรม เช่น สมุทรปราการ ปราจีนบุรี จะเห็นโฆษณา ใบปลิวเรื่องเงินด่วนเป็นจำนวนมาก ขณะที่แรงงานเหล่านี้ยังขาดโอกาสในการเข้าถึงเงินทุน ที่ผ่านมารัฐบาลช่วยเหลือสินเชื่อให้กับนายจ้างและผู้ประกอบการเท่านั้นแต่ ลืมเรื่องการให้เงินกู้ที่มีอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมเพื่อช่วยเหลือแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของภาคอุตสาหกรรมเช่นกันนายณรงค์ กล่าวเขากล่าวว่า สำหรับแนวทางการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบให้กับผู้ใช้แรงงานในภาคอุตสาหกรรม ตนเสนอว่ารัฐบาลควรจะมีการออกพันธบัตรวงเงิน 5 หมื่นล้านบาท เพื่อให้ธนาคารกรุงไทย และธนาคารออมสินปล่อยกู้รายย่อยตามความจำเป็นให้กับแรงงานในภาคอุตสาหกรรม โดยมีเงื่อนไขว่าคนที่จะกู้จะต้องฝากประจำ 10% ของมูลค่าเงินที่กู้ โดยอาจให้เจ้าของกิจการเป็นผู้หักเงิน ณ ที่จ่ายคืนธนาคารพร้อมเงินฝากประจำ จากนั้นภายใน 3 ปี จะมีเงินทุนประมาณ 1 หมื่นล้านบาท จากเงินฝากประจำของผู้ใช้แรงงาน ซึ่งเงินทุนจำนวนนั้นจะสามารถนำมาจัดตั้งธนาคารเพื่อแรงงานซึ่งเป็นธนาคาร ที่จะเข้ามาดูแลเรื่องการปล่อยเงินกู้ให้กับผู้ใช้แรงงาน โดยไม่เป็นภาระกับเงินงบประมาณ(กรุงเทพธุรกิจ 17-12-2555)ที่ทำเนียบรัฐบาล ชมรมพนักงานราชการครูผู้สอนแห่งประเทศไทย จำนวนประมาณ 40 คน นำโดย นายปัญญา คิดชัย ประธานชมรม และ นายรัษฎา วิชัยดิษฐ ที่ปรึกษาสมาพันธ์พนักงานราชการปละครูอัตราจ้างแห่งประเทศไทย ได้ยื่นหนังสือถึง นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อขอให้พิจารณา ให้พนักงานราชการที่มีประสบการณ์การสอนไม่ต่ำกว่า 10 ปี มีใบประกอบวิชาชีพครู ได้รับการตัดโอนตำแหน่ง จากพนักงานราชการเป็นตำแหน่งครูผู้ช่วย เพื่อสร้างขวัญกำลังใจในการทำงาน ทั้งนี้ พนักงานราชการที่ปฏิบัติงานสอนมานานกว่า 10 ปี ขึ้นไปจำนวนมาก ยังไม่ได้รับการพิจารณาคัดเลือกบรรจุเป็นข้าราชการครู เนื่องจากเงือนไขในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประจำเขตพื้นที่การศึกษาไม่เป็นไปในแนวทางเดียวกัน ทำให้พนักงานราชการที่ทำงานมานานไม่มีความก้าวหน้าทั้งที่ทำงานด้วยความ ตั้งใจมาโดยตลอด และเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงานและความมั่นคงในอาชีพจึงขอให้ พิจารณาในเรื่องนี้ โดยนายพงศ์เทพ ได้เป็นผู้รับหนังสือดังกล่าวด้วยตนเองพร้อมกับระบุว่าจะนำเรื่องดังกล่าวไป พิจารณาร่วมกับข้าราชการที่รับผิดชอบในเรื่องนี้เพื่อพิจารณาเหตุผลต่างๆ และคาดว่าจะใช้เวลาในการพิจารณาไม่เกิน 1 เดือนจะได้ความชัดเจนในเรื่องดังกล่าว.(เดลินิวส์ 17-10-2555)18 ธ.ค. 55 - นพ.สมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ด สปส.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ด สปส.ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของภาคเอกชนที่ต้องการให้ลดส่งเงินสมทบในอัตรา ร้อยละ 2 ในปี 2556 และร้อยละ 1 ในปี 2557 เพื่อลดผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าแรง 300 บาท จึงยืนยันตามมติเดิม ในการลดส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมทั้งฝ่ายของนายจ้างและลูกจ้างใน อัตราที่เท่ากัน คือ ร้อยละ 1 ในปี 2556 เนื่องจากจะกระทบต่อความมั่นคงของกองทุนในระยะยาว ทั้งนี้ หากลดเงินสมทบตามข้อเสนอรวม 2 ปี คือร้อยละ 3 กองทุนจะสูญเงินกว่า 90000 ล้านบาทขณะเดียวกันในที่ประที่ชุมยังเสนอให้ สปส.ไปปรับปรุงหลักเกณฑ์การกู้เงินในโครงการสินเชื้อเพื่อเสริมสภาพคล่องให้ กับภาคธุรกิจ ที่มีวงเงินเหลืออยู่กว่า 9000 ล้านบาท โดย สปส.จะหารือร่วมธนาคารพาณิชย์ที่เข้าร่วมโครงการ และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ในวันที่ 25 ธันวาคมนี้ เพื่อหารือว่า บสย .จะสามารถทำตามข้อเสนอของภาคธุรกิจในการมาค้ำประกันเงินกู้ให้ภาคธุรกิจเอส เอ็มอีได้หรือไม่(สำนักข่าวไทย 18-12-2555)(18 ธ.ค.) ที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดชลบุรี พนักงานบริษัท ไมเออร์ อินดัสตรีส์ จำกัด ในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ประมาณ 1000 คนชุมนุมที่หน้าสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด เพื่อรอผลการเจรจาระหว่างตัวแทนพนักงานกับนายจ้าง หลังเจรจากันมาหลายครั้งแล้ว แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ โดยวันนี้จะเป็นการรอฟังคำตอบเป็นครั้งสุดท้าย เพราะพนักงานต้องเสียเวลาและเสียค่าใช้จ่ายในการหยุดงานและเดินทางมาชุมนุมนายฐิติพงษ์ ประยูรพาณิชย์ ตัวแทนพนักงานที่ร่วมเจรจา กล่าวว่า การเจรจาที่ผ่านมา ใกล้ประสบผลสำเร็จแล้ว เหลือเพียงเงื่อนไขเล็กน้อยเท่านั้น โดยอยู่ระหว่างหาข้อสรุป เพื่อให้เกิดความพึงพอใจด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งที่ผ่านมาฝ่ายนายจ้างและลูกจ้างต่างยืนยันในหลักการของตนเอง แต่เมื่อทั้ง 2 ฝ่ายถอยกันคนละก้าว ทำให้การเจรจาเป็นไปด้วยดี ล่าสุดบริษัทยินดีจ่ายโบนัสให้กับพนักงาน 2 เดือน พร้อมเงินอีก 6500 บาท ซึ่ง เงิน 6500 บาทจะจ่ายให้กับพนักงานรายวันในวันที่ 24 มีนาคม 2556 ส่วนพนักงานรายเดือน จะจ่ายในวันที่ 31 มีนาคม 2556 เพื่อนำเงินกลับไปให้ทางบ้านหรือญาติพี่น้องใช้ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทำให้ยุติลงด้วยดีทั้งนี้ บริษัท ไมเออร์ อินดัสตรีส์ จำกัด ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง เป็นโรงงานผลิตอลูมิเนียมแผ่น-ม้วนเครื่องครัวอลูมิเนียม เครื่องครัวสแตนเลส มีพนักงานกว่า 3000 คน(ASTV ผู้จัดการออนไลน์ 18-12-2555)18 ธ.ค.-นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ได้สั่งการให้กรมการจัดหางาน (กกจ.) ระงับการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานที่ไต้หวันชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคมนี้ เนื่องจากได้รับร้องเรียนว่าบริษัทจัดหางานเรียกค่าใช้จ่ายการเดินทางไปทำ งานที่สูงเกินจริงตั้งแต่ 30000-100000 บาท ทั้งที่มีการกำหนดให้เรียกเก็บค่าใช้จ่ายได้เพียง 14000 บาท ขณะเดียวกันยังพบว่าสัญญาจ้างมีการเปลี่ยนแปลงหลายครั้ง ทำให้แรงงานไทยต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปทำงานไต้หวันและไม่ได้รับ สวัสดิการและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ตามที่สัญญาจ้างกำหนดไว้ เช่น ค่าตั๋วเครื่องบินแรงงานไทยต้องจ่ายเองทั้งที่ในสัญญาจ้างกำหนดให้นายจ้าง เป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย รวมถึงค่าที่พัก ค่าอาหาร และวันหยุดต่างๆ จึงต้องตรวจสอบรายละเอียดสัญญาจ้างให้ชัดเจนและให้เป็นมาตรฐานและให้นายจ้าง ปฏิบัติตามสัญญาจ้าง โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปทั้งหมดไม่เกินเดือนมกราคมปี 2556 หลังจากนั้นจะยกเลิกการสั่งระงับการจัดส่งแรงงานทันทีทั้งนี้ ปัจจุบันมีแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศกว่า 310000 คน นำรายได้เข้าประเทศโดยโอนเงินผ่านธนาคารประมาณ 84300 ล้านบาทโดยในส่วนของไต้หวันปัจจุบันมีแรงงานไทยไปทำงาน 71340 คน และล่าสุดเดินทางไป 700 คน(สำนักข่าวไทย 18-12-2555)19 ธ.ค. 55 – คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย แถลงคัดค้านการขึ้นราคาก๊าซแอลพีจีด้วยเหตุผล 3 ประการ คือ 1.จากข้อมูลของกระทรวงพลังงานระบุว่าปี 2554 ประเทศไทยมีการใช้ก๊าซแอลพีจีทั้งประเทศรวม 6.9 ล้านตันใน 4 กลุ่ม คือ ภาคครัวเรือน เป็นภาคที่ใช้มากที่สุด คือ 2.6 ล้านตัน รองมาเป็นภาคอุตสาหกรรมปิโตรเคมี (วัตถุดิบสำหรับอุตสาหกรรมปิโตรเคมี) 2.4 ล้านตัน ภาคยานยนต์ 0.9 ล้านตัน และภาคอุตสาหกรรม 0.7 ล้านตัน ทั้งนี้ พบว่าราคาก๊าซแอลพีจีที่หน้าโรงกลั่นเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2555 มีราคาเท่ากัน คือ 10.26 บาทต่อกิโลกรัม แต่กระทรวงพลังงานขายก๊าซให้กับกลุ่มผู้ใช้ในราคาที่แตกต่างกัน คือ ภาคครัวเรือน 18.13 บาท ภาคยานยนต์ 21.38 บาท และภาคอุตสาหกรรม (ที่ไม่รวมอุตสาหกรรมปิโตรเคมี) 30.13 บาท แต่ภาคปิโตรเคมีที่มีสัดส่วนการใช้ค่อนข้างสูงเป็นลำดับ 2 กลับได้ใช้ก๊าซในราคาที่ถูกมาก คือ 16.20 บาทเท่านั้น ซึ่งถูกกว่ากลุ่มผู้ใช้กลุ่มอื่นทั้งนี้ กระทรวงพลังงานใช้หลักการและเหตุผลใดในการกำหนดราคาที่แตกต่างกัน รวมทั้งยังมีข้อมูลที่ชัดเจนว่า ภาคอุตสาหกรรมปิโตรเคมีมีการใช้ก๊าซแอลพีจีเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 34 ต่อปี ขณะที่ภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้นปีละร้อยละ 9 เท่านั้น จากข้อมูลนี้จึงแสดงให้เห็นว่าภาคครัวเรือน ภาคยานยนต์ และภาคอุตสาหกรรมไม่ใช่ต้นเหตุหลักที่ทำให้ประเทศไทยต้องนำเข้าก๊าซแอลพีจี เพราะต้นเหตุที่แท้จริงมาจากอุตสาหกรรมปิโตรเคมี2.ประเทศไทยผลิตก๊าซแอลพีจีได้โดยตรง 5.5 ล้านตัน และมีการนำเข้าอีก 1.4 ล้านตัน แต่หลายปีที่ผ่านมามีการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ซึ่งส่วนใหญ่บริษัทที่ทำอุตสาหกรรมปิโตรเคมีทั้งหมดเป็นบริษัทในเครือของ บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) โดยใช้ก๊าซแอลพีจีถึง 2.1 ล้านตันต่อปี ดังนั้นจึงเป็นเหตุให้ต้องมีการนำเข้าก๊าซจากต่างประเทศ ทั้งๆ ที่ประเทศไทยมีโรงแยกก๊าซหน่วยที่ 6 ซึ่งเป็นโรงแยกก๊าซที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย แต่กลับไม่มีการขายก๊าซที่แหล่งผลิตแห่งนี้ให้กับภาคครัวเรือน ยานยนต์ และอุตสาหกรรม แต่ขายให้กับอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ ปตท.เพียงแห่งเดียวเท่านั้น แต่ภาคการผลิตอื่นต้องซื้อก๊าซที่มีการนำเข้าจากต่างประเทศแทน มีข้อมูลแสดงชัดเจนว่าในช่วงปี 2551 - 2554 ผู้ใช้น้ำมันต้องแบกรับภาระของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีประมาณ 23300 ล้านบาท ขณะที่ประชาชนใช้ก๊าซแอลพีจี เพื่อความจำเป็นในการดำเนินชีวิต แต่อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกลับใช้ก๊าซแอลพีจีเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในกิจการของ ตัวเอง3.นโยบายนี้เป็นการผลักภาระให้กับประชาชน แต่กลับไปช่วยเหลือกลุ่มทุนหรือกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมีแทน สำหรับกลุ่มแรงงาน แม้ว่าวันที่ 1 มกราคม 2556 จะมีการปรับค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 300 บาททั่วประเทศ แต่ค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นจะไร้ความหมายทันที เพราะการขึ้นราคาก๊าซอีกกิโลกรัมละ 50 สตางค์ เท่ากับขึ้นถังละ 7.50 บาทต่อเดือน โดยปี 2556 ราคาจะเพิ่มขึ้นอีกถังละ 100 บาท และในปี 2557 เพิ่มขึ้นอีกถังละ 200 บาท แสดงว่าก๊าซหุงต้มถังละ 15 กิโลกรัม จะมีราคาสูงถึงถังละ 400-500 บาท ในอนาคตอย่างแน่นอน ยังไม่รวมค่าโดยสาร ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา หรือค่าครองชีพอื่นๆ ที่เพิ่มขึ้นตามมา จนทำให้ค่าแรง 300 บาทไร้มูลค่าตามจำนวนเงินที่เพิ่มขึ้นอย่างไรก็ตามเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย จึงมีข้อเสนอต่อรัฐบาล และกระทรวงพลังงาน โดยรัฐบาลต้องยุติการปรับขึ้นราคาแก๊สแอลพีจีในภาคครัวเรือนกับภาคยานยนต์ใน ปี 2556 รวมทั้งจำเป็นต้องทบทวนการแบ่งสรรสัดส่วนการใช้ก๊าซแอลพีจี โดยเฉพาะในกลุ่มภาคครัวเรือน ภาคยานยนต์ และภาคอุตสาหกรรม ที่ควรต้องได้รับการจัดสรรจากแหล่งผลิตภายในประเทศไทยเป็นลำดับแรก ส่วนภาคอุตสาหกรรมปิโตรเคมีมีความสามารถในการเข้าถึงทรัพยากรอยู่แล้ว จึงควรเป็นภาคส่วนที่ต้องใช้ก๊าซนำเข้าแทน เนื่องจากก๊าซแอลพีจีที่ใช้ทั้งหมดในประเทศไทยมาจากแหล่งภายในประเทศถึงร้อย ละ 55 หรือประมาณ 3.5 ล้านตันต่อปี ซึ่งเพียงพอต่อการใช้สำหรับภาคครัวเรือนและภาคขนส่งที่ใช้ก๊าซปีละ 2.6 ล้านตัน และ 900000 ตันตามลำดับ.(สำนักข่าวไทย 19-12-2555)กรุงเทพฯ 20 ธ.ค. - กลุ่มผู้นำแรงงาน บมจ.ทีโอที เข้ายื่นหนังสือต่อผู้ตรวการแผ่นดิน ให้เร่งยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด กรณีศาลปกครองกลางไม่รับคำฟ้องของผู้ตรวจการแผ่นดินที่ขอให้เพิกถอนการ ประมูลคลื่น 3 จี ด้านผู้ตรวจฯ ยืนยันยื่นอุทธรณ์แน่ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ว่า เวลา 13.30 น. กลุ่มผู้นำแรงงาน บมจ.ทีโอที นำโดยนายนราพล ปลายเนตร พร้อมนายพิราม เกษมวงศ์ ได้เข้ายื่นหนังสือต่อผู้ตรวจการแผ่นดินผ่านนายรักษเกชา แฉ่ฉาย โฆษกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ยื่นอุทธรณ์กรณีศาลปกครองกลางมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องของผู้ตรวจการแผ่น ดินที่ขอให้เพิกถอนการประมูลคลื่น 3 จี ต่อศาลปกครองสูงสุด และให้เสนอเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญตีความว่า คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐในความหมายตามรัฐธรรมนูญมาตรา 244 (1)(ก) ที่อยู่ในอำนาจผู้ตรวจการแผ่นดินสามารถตรวจสอบได้หรือไม่นายนราพล กล่าวว่า กลุ่มผู้นำแรงงานทีโอที ไม่เห็นฟ้องกับคำสั่งไม่รับคำฟ้องของศาลปกครองกลางที่เห็นว่าผู้ตรวจฯ ไม่มีสิทธิที่จะฟ้องคดีนี้เป็นอย่างมาก โดยเห็นด้วยกับตุลาการเสียงข้างน้อยในคดีนี้ที่มองว่า กสทช.อยู่ในอำนาจที่ผู้ตรวจการแผ่นดินสามารถตรวจสอบได้ตามรัฐธรรมนูญ จึงขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินเร่งยื่นอุทธรณ์โดยเร็ว พร้อมทั้งเสนอเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อตีความข้อกฎหมายกรณีที่ศาลปกครองกลางเห็นว่า กสทช.ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่อยู่ในอำนาจฟ้องของผู้ตรวจการฯ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 244(1)(ก)นายรักษเกชา กล่าวว่า ผู้ตรวจการฯ เห็นพ้องในการยื่นอุทธรณ์อยู่แล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่างการยกร่างคำอุทธรณ์ ซึ่งมีประเด็นที่ที่จะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดอย่างแน่นอน ขณะนี้อยู่ระหว่างร่างคำฟ้องโดยประเด็นขมวดเข้ามากแล้ว แต่ยังไม่ต้องการเปิดเผย แต่คิดว่าจะสามารถเสนอต่อที่ประชุมผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาได้ในการประชุม วันที่ 25 ธ.ค.นี้ ก่อนจะยื่นอุทธรณ์ให้ทันกรอบเวลา 30 วันที่จะครบกำหนดในวันที่ 2 ม.ค.56(สำนักข่าวไทย 20-12-2555)นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รมว.แรงงาน กล่าวภายหลังนายเฮนรี่ เอ็ม. เจ. เซน ผู้อำนวยการสำนักงานใหญ่ สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป และคณะเข้าพบว่า จากการหารือข้อได้สรุปว่าไต้หวันต้องการแรงงานไทยไปทำงานเพิ่มขึ้น จึงจะให้โควตาแรงงานเพิ่มขึ้นอีกปีละ 30000 คน จากปัจจุบันมีแรงงานไทยไปทำงานที่ไต้หวันในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น ก่อสร้าง สิ่งทอ อิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งหมดกว่า 70000 คนสำหรับข้อเรียกร้องที่ให้ช่วยตรวจสอบเรื่องลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางไป ทำงานนั้นไต้หวันจะช่วยดูแลให้ เนื่องจากแรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานไต้หวันโดยผ่านบริษัทจัดหางานนั้นถูก เรียกเก็บค่าบริการต่างๆ 30000-100000 บาท ซึ่งสูงกว่าที่กรมการจัดหางาน(กกจ.)กำหนดไว้ไม่เกินคนละ 14000 บาท รวมทั้งช่วยตรวจสอบเก็บค่าใช้อื่นๆ เช่น ค่าล่าม ค่าอาหาร ค่าที่พักว่ามีความจำเป็นต้องเรียกเก็บจากแรงงานไทยหรือไม่กระทรวงแรงงานจะยังไม่มีการระงับการจัดส่งแรงงานไปไต้หวัน โดยนายเฮนรี่ก็ยืนยันที่จะช่วยตรวจสอบบริษัทจัดหางานของไต้หวันให้เข้มงวด มากขึ้น และคัดเลือกบริษัทจัดหางานของไต้หวันที่ได้มาตรฐานมาดำเนินการดูแลแรงงานไทย ที่จะเดินทางไปทำงานที่ไต้หวัน นายเผดิมชัยกล่าว(ข่าวสด 21-12-2555)มีรายงานข่าวว่า กลุ่มสหภาพแรงงานธนาคารกรุงเทพจำนวน 20-30 คน ได้เดินทางมายื่นข้อเรียกร้องต่อผู้บริหารธนาคาร ณ บริเวณด้านหน้าอาคารสำนักงานใหญ่ สีลม เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ เรื่องการได้รับผลตอบแทน และการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมของพนักงานใน 4 ประเด็นหลัก คือ 1.การจ่ายเงินโบนัสที่ไม่สอดคล้องกับผลกำไรของธนาคาร โดยเรียกร้องให้มีการจ่ายโบนัสประจำปีเพิ่มเติมอีก 1 เท่า หรือเพิ่มจาก 2 เดือนเป็น 4 เดือน2.เรื่องการจ่ายเงินช่วยเหลือหลังการเกษียณอายุของพนักงานที่ในปีนี้มี การปรับลดลงจากเดิม 4.5 แสนบาทต่อคน เหลือเพียง 3 แสนบาทต่อคน ซึ่งทำให้พนักงานรู้สึกขาดความมั่นคง จึงอยากเรียกร้องให้กลับไปใช้อัตราเดิม3.สหภาพต้องการให้ธนาคารเพิ่มเงินสมทบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident fund) ให้แก่พนักงาน พร้อมปรับเปลี่ยนเงื่อนไขการจ่ายเงินสมทบที่ปัจจุบันคำนวณตามอายุงานโดยแบ่ง เป็นชั้น (Tier) ให้กลับมาคิดคำนวณในอัตราเดียวกันทั้งหมดตามเดิม4.สหภาพต้องการให้ธนาคารพิจารณาปรับเงินเดือนพนักงานในทุกแผนกอย่างเท่า เทียมกัน เนื่องจากปัจจุบัน ธนาคารให้ความสำคัญกับพนักงานด้านการตลาดมากกว่าพนักงานสินเชื่อ หรือเงินฝากแบงก์มีผลกำไรมหาศาลเราต้องการให้ผู้บริหารเหลียวแลพนักงานบ้าง เมื่อกำไรดีโบนัสต้องเท่าเทียมกับองค์กรอื่นๆ ขณะที่เรื่องเงินช่วยเหลือหลังเกษียณจะต้องเป็นธรรม พนักงานวัยเกษียณส่วนใหญ่อยู่กับแบงก์มากว่า 30 ปี ผู้แทนสหภาพแรงงาน ธนาคารกรุงเทพ กล่าวทั้งนี้ ผู้แทนสหภาพแรงงาน ธนาคารกรุงเทพ ระบุว่า หากข้อเสนอของสหภาพไม่ได้รับการพิจารณาจากผู้บริหาร กลุ่มสหภาพจะเดินทางต่อไปยังกระทรวงแรงงาน เพื่อยื่นเรื่องเป็นข้อพิพาท และร้องขอให้กระทรวงแรงงานเข้ามาทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ยต่อไปด้านผู้บริหารธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า การเรียกร้องต่างๆ ถือเป็นสิทธิที่พนักงานสามารถทำได้ โดยเรื่องนี้จะอยู่ในความรับผิดชอบของตัวแทนในการเจรจาที่ได้รับการแต่งตั้ง จากธนาคาร ซึ่งคงต้องพิจารณาตามความเป็นจริง อย่างไรก็ดี ยืนยันว่า ปัจจุบันธนาคารได้ดูแลพนักงานด้วยความเท่าเทียม และเป็นมาตรฐานเดียวกับธนาคารอื่นๆ(ASTV ผู้จัดการออนไลน์ 21-12-2555) | ลูกจ้างรายได้ต่ำกว่าหมื่นติดหนี้นอกระบบบาน นายณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ อาจารย์ประจำหลักสูตรเศรษฐศาสตร์การเมือง คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวในการเสวนา เรื่อง วิกฤติหนี้นอกระบบ - | คุณภาพชีวิต,แรงงาน,สังคม | สถานการณ์แรงงานประจำสัปดาห์ | https://prachatai.com/journal/2012/12/44368 |
ยานยนต์พลังสะอาด เทรนด์การคมนาคมแนวใหม่แห่งโลกอนาคต | ปัจจุบันทุกประเทศต่างกำลังประสบปัญหาการขาดแคลนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะน้ำมันและแก๊สธรรมชาติที่นับวันจะร่อยหรอลงไปทุกที จึงทำให้หลายประเทศจำเป็นจะต้องนำเข้าน้ำมันและแก๊สในราคาสูง ส่งผลกระทบต่อภาคส่วนต่างๆในสังคม โดยเฉพาะภาคครัวเรือน อีกทั้งยังต้องเผชิญกับภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ อันเนื่องมาจากก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gas) โดยสาเหตุหนึ่งที่สำคัญมาจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงของเครื่องยนต์ในยานพาหนะประเภทต่างๆ ที่มีจำนวนมากเกินไป จนทำให้หลายพื้นที่ได้รับผลกระทบจากปัญหามลพิษทางอากาศ ก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพตามมา นอกเหนือไปจากข้อตกลงความร่วมมือระหว่างประเทศ (International Agreements/Treaties) เช่น พิธีสารเกียวโต ข้อตกลงโคเปนเฮเกน และความตกลงปารีส ที่ผู้นำหรือตัวแทนจากรัฐบาลของประเทศต่างๆ จะมาประชุมหารือร่วมกันถึงประเด็นปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวพันกันประหนึ่งห่วงโซ่นี้แล้ว ภายในแต่ละประเทศยังจะต้องเตรียมแผนจัดการต่อปัญหานี้ที่นานวันอาจจะรับมือได้ยากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ผู้นำและรัฐบาลในหลายๆ ประเทศจึงเริ่มวางแผน กำหนดทิศทางและเป้าหมายในอนาคตเกี่ยวกับการคมนาคมและการสัญจรภายในประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด และปัญหามลพิษทางอากาศ ที่ล้วนส่งผลต่อคุณภาพ ความยั่งยืนของสภาพแวดล้อม และชั้นบรรยากาศโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้สหราชอาณาจักร รัฐบาลสหราชอาณาจักรตั้งเป้าจะยุติการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ใหม่ รวมถึงยานพาหนะชนิดอื่นๆ ที่ใช้น้ำมันดีเซลและเบนซินตั้งแต่ปี 2040 เป็นต้นไป เพื่อแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศที่เกิดจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์เหล่านี้ อันเป็นสาเหตุหนึ่งของภาวะโลกร้อน รัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ จะจัดสรรงบประมาณที่ใช้ในการปรับปรุงคุณภาพอากาศราว 11000 ล้านบาท นำมาจัดตั้งกองทุนเพื่อใช้สนับสนุนกิจกรรมหน่วยงานหรือองค์กรต่างๆ ในการแก้ไขปัญหามลพิษของประเทศ รวมทั้งยังจะจัดสรรงบประมาณอีกกว่า 8700 ล้านบาทให้ทางการท้องถิ่นดำเนินมาตรการจำกัดการใช้ยานพาหนะที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง โดยเฉพาะในเส้นทางที่ประสบปัญหาเรื่องควันพิษและมลภาวะทางอากาศอยู่แล้ว นอกจากนี้รัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ ยังได้ร่วมกันร่างแผนงานเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และคาดว่าจะแล้วเสร็จในอีกไม่กี่วันข้างหน้า (31 ก.ค.) ทางด้านนางเทเรซา เมย์ (Theresa May) นายกรัฐมนตรีจากพรรคอนุรักษนิยม ได้ออกมาย้ำจุดยืนของตนต่อเรื่องนี้ โดยตนจะทำตามนโยบายที่เคยได้ประกาศไปแล้วว่า จะพยายามทำให้รถยนต์และยานพาหนะเกือบทั้งหมดบนท้องถนนในอังกฤษไม่สร้างมลพิษ (Zero emission) ให้ได้ภายในปี 2050 แต่อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันสหราชอาณาจักรมีผู้ใช้รถยนต์พลังงานทางเลือก (รถยนต์พลังไฟฟ้า) เพียง 5% เท่านั้น ผู้ขับขี่หลายรายแสดงความกังวลใจต่อเรื่องของราคา รวมถึงจุดชาร์จไฟที่มีเพียง 12000 จุดทั่วประเทศเท่านั้น ซึ่งอาจจะยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน หากผู้ขับขี่ต้องการที่จะชาร์จไฟหลายคนพร้อมกัน สเตฟานี เบรนลีย์ (Stephanie Brinley) นักวิเคราะห์จากสถาบันจัดหาข้อมูล เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจในการดำเนินธุรกิจชื่อดังของเกาะอังกฤษอย่าง IHS Markit เห็นสอดคล้องกับ คาร์ลอส ทาเวเรส (Carlos Tavares) หัวเรือใหญ่ของบริษัทผลิตรถยนต์ PSA Group ว่า ในปีที่ผ่านมาคนอังกฤษซื้อรถใหม่ถึง 2.7 ล้านคัน นับเป็นตลาดค้ารถที่ใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลก ดังนั้น การจะยกเลิกรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงอาจจะทำได้ค่อนข้างยาก แต่ถ้าหากรัฐบาลหรือนักการเมืองให้ความสำคัญต่อประเด็นนี้จริงๆ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ต่างพร้อมที่จะปรับตัว แต่อาจจะต้องอาศัยเวลาสักระยะเนเธอร์แลนด์ นอกจาก กังหันลม จะเป็นกลายเป็นสัญลักษณ์หนึ่งที่สำคัญของประเทศนี้แล้ว ภาพที่ผู้คนต่างพากันใช้จักรยานในการเดินทาง ก็กลายเป็นอีกหนึ่งภาพจำที่ใครหลายคนนึกถึงเมื่อได้ยินชื่อประเทศนี้ จนอาจจะเรียกได้ว่าเนเธอร์แลนด์เป็นประเทศที่มีคนใช้จักรยานมากที่สุดในโลกก็ว่าได้ ประเทศนี้ก็เป็นประเทศยุโรปอีกแห่งที่ต้ังเป้าหมายไว้ว่าจะยุติการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ใหม่ที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง นับตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป โดยจะหันมาพึ่งพาพลังงานทางเลือกมากยิ่งขึ้น ในปัจจุบันพลเมืองชาวฮอลแลนด์นิยมเดินทางด้วยจักรยาน หรือใช้บริการขนส่งสาธารณะเป็นส่วนใหญ่หากต้องเดินทางระยะไกล และมีผู้ใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าเพียง 10% เท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ได้จัดตั้งโครงการ One Huge Living Lab for Smart Charging of Electric Vehicles ขึ้น เพื่อที่จะสนับสนุนให้ผู้ขับขี่ทุกคนหันมาใช้รถยนต์พลังงานสะอาดกันมากยิ่งขึ้น โดยเมืองสำคัญๆ อย่าง อัมสเตอร์ดัม รอตเทอร์ดัม กรุงเฮก และเมืองอื่นๆ อีกกว่า 325 เมือง ซึ่งต่างก็ให้ความร่วมมือแก่รัฐบาลเป็นอย่างดี โดยความพิเศษของโครงการนี้อยู่ตรงที่รัฐบาลเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นประชาชนทั่วไป นักศึกษา ข้าราชการ กลุ่มงานเอกชนต่างๆ เข้ามามีส่วนในการผลักดันและลดปัญหามลภาวะและสิ่งแวดล้อมของประเทศร่วมกัน โดยจะมีการจัดตั้งจุดชาร์จไฟตามจุดต่างๆ ทั่วประเทศ ในระยะแรกจะมีการทดลองใช้ วิเคราะห์ และประเมินผลร่วมกัน ที่สำคัญคือ พลังงานไฟฟ้าจากแหล่งจ่ายนั้น ถูกผลิตขึ้นจากพลังงานสะอาด อย่างพลังงานลมและพลังงานความร้อนที่ได้จากดวงอาทิตย์อีกด้วย ไม่แน่ว่าเนเธอร์แลนด์อาจจะเป็นประเทศแรกในโลกที่ประสบความสำเร็จในการผลักดันให้บนท้องถนนมีแต่รถยนต์พลังงานสะอาดก็เป็นได้จีน ประเทศพี่ใหญ่แห่งทวีปเอเชียนี้ได้ชื่อว่าเป็น ประเทศที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศมากที่สุดในโลก จึงทำให้จีนประสบปัญหาหมอกควันและอากาศเป็นพิษในหลายพื้นที่ จากการรายงานเกี่ยวกับมลภาวะทางอากาศขององค์การอนามัยโลก (WHO) ครั้งล่าสุด (2012) พบว่า คนจีนเสียชีวิตจากการสูดอากาศที่มีคุณภาพต่ำสูงถึง 1 ล้านคนต่อปี รองลงมาคือ อินเดียและรัสเซีย ตามลำดับ (ในขณะที่ไทยมีผู้เสียชีวิตจากปัญหานี้เฉลี่ย 22375 คนต่อปี หรือคิดเป็นสัดส่วน 33 คนต่อประชากร 1 แสนคน) จากปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้พรรคคอมมิวนิสต์และรัฐบาลจีน ทุ่มงบประมาณกว่า 735 ล้านดอลลาร์ ในการสนับสนุนอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้า การตั้งเป้าให้ผู้ขับขี่ใช้รถยนต์พลังงานสะอาด 100% เหมือนประเทศอื่นๆ อาจจะเป็นเป้าหมายที่ยากเกินไปสำหรับจีนในตอนนี้ รัฐบาลจึงตั้งเป้าเพียงว่าจะพยายามสนับสนุนให้มีการผลิตและใช้รถยนต์ประเภทนี้เพิ่มมากขึ้นราว 60% ของผู้ใช้รถใช้ถนนทั้งหมด ภายในปี 2030 นอกจากนี้ทางการจีนจะออกมาตรการจำกัดจำนวนรถยนต์ใหม่ที่ยังใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงในเมืองใหญ่ๆ อย่างกรุงปักกิ่งหรือเซี่ยงไฮ้ เพื่อลดปัญหามลพิษทางอากาศและการจราจรติดขัด ทั้งนี้ Xinhua News สำนักข่าวทางการของจีนยังระบุว่า ปัจจุบันจีนมีจุดชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถยนต์พลังงานทางเลือกนี้กว่า 1 แสนจุดทั่วประเทศ เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าเมื่อเทียบกับตอนต้นปี 2016 เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีคมนาคมที่ทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น โดย Bloomberg New Energy Finance คาดการณ์ว่า รัฐบาลจีนจะใช้งบประมาณทั้งหมด (2016-2020) ราว 4.3 หมื่นล้านดอลลาร์ในการผลักดันเรื่องนี้อินเดีย หากพูดถึงประเทศจีนแล้ว แต่จะไม่กล่าวถึงอินเดียก็คงจะไม่ได้ เพราะนอกจากประเทศนี้จะมีจำนวนประชากรมากที่สุดติดอันดับต้นๆ ของโลกเหมือนกันแล้ว อินเดียเองก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ประสบปัญหาอากาศเป็นพิษ จากรายงานการสำรวจมลภาวะทางอากาศในอินเดียของ Greenpeace (2017) พบว่า เมื่อปีที่ผ่านมามีคนอินเดียเสียชีวิตจากปัญหามลพิษทางอากาศเฉลี่ยสูงถึง 1.2 ล้านคนและมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละปี อีกทั้งยังมีการกล่าวว่า การสูดอากาศที่อินเดียเพียงไม่กี่นาทีเท่ากับการสูบบุหรี่ 10 มวนต่อวันเลยทีเดียว รัฐบาลอินเดียได้จัดตั้งแผนการ National Electric Mobility Mission Plan ขึ้น โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะจำหน่ายรถยนพลังงานไฟฟ้าหรือรุ่นไฮบริดให้ได้ 6-7 ล้านคันต่อปี ภายในอีก 3 ปีข้างหน้า และตั้งเป้าให้บนท้องถนนของอินเดียมีแต่รถที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ (Zero emission) 100% ภายในปี 2030 อีกทั้งอินเดียเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่เป็นของตัวเอง จึงทำให้ราคารถยนต์ภายในประเทศไม่แพงมากนัก กลายเป็นสินค้าที่ชนชั้นกลางในอินเดียมีกำลังซื้อได้ ยิ่งถ้าหากครอบครัวใดตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์พลังงานสะอาดเป็นรถยนต์คันแรก ก็อาจจะยิ่งทำให้อินเดียแซงหน้าประเทศพัฒนาแล้วบางประเทศในการตอบรับและปรับตัวต่อเทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้น การตัดสินใจสนับสนุนรถยนต์พลังงานไฟฟ้า แทนที่รถยนต์เผาไหม้เชื้อเพลิงแบบเก่าของหลายๆ ประเทศ โดยเฉพาะสหราชอาณาจักร อาจจะส่งผลกระทบต่อตำแหน่งงานภายในประเทศผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของโลกอย่างเยอรมนีโดยตรง เนื่องจากในปีที่ผ่านมา เยอรมนีส่งออกรถยนต์ไปขายยังสหราชอาณาจักรสูงถึง 8 แสนคัน หรือคิดเป็น 20% ของรถยนต์ที่มีการซื้อขายกันในตลาดโลก แผนการในครั้งนี้อาจทำให้คนงานกว่า 6 แสนคนตกงาน การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้จึงต้องอาศัยการปรับตัวและระยะเวลาพอสมควร นอกจากประเทศที่กล่าวไปแล้วข้างต้น ยังมีประเทศอื่นๆ อย่างออสเตรเลีย เดนมาร์ก ไอร์แลนด์ ฝรั่งเศส นอร์เวย์ โปรตุเกส ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสเปน เป็นต้น ที่ผู้นำและคณะรัฐบาลเห็นความสำคัญในการพัฒนาประเทศ ปรับกลยุทย์ในการบริหารจัดการประเทศด้านคมนาคมให้สอดรับกับเทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้น และในขณะเดียวกันก็มีส่วนช่วยให้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ ของโลกทุเลาลง สำหรับประเทศไทยเองที่อาจจะยังคงตื่นตัวต่อเรื่องนี้ช้า เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ที่กล่าวมาข้างต้น แต่เราสามารถศึกษาและเรียนรู้จากแนวทางเหล่านั้นได้ โดยเริ่มต้นหันหน้าคุยกันถึงเรื่องนี้อย่างจริงจังตั้งแต่วันนี้Photo: Shutterstockอ้างอิง: | ผู้นำและรัฐบาลในหลายๆ ประเทศอย่างสหราชอาณาจักร เนเธอร์แลนด์ จีน อินเดีย ต่างเริ่มวางแผนกำหนดทิศทางและเป้าหมายในอนาคตเกี่ยวกับการคมนาคมและการสัญจรภายในประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดและปัญหามลพิษทางอากาศ รัฐบาลสหราชอาณาจักรตั้งเป้าจะยุติการผลิต จำหน่าย และนำเข้ารถยนต์ใหม่ รวมถึงยานพาหนะชนิดอื่นๆ ที่ใช้น้ำมันดีเซลและเบนซินตั้งแต่ปี 2040 เป็นต้นไป เนเธอร์แลนด์ต้ังเป้าหมายไว้ว่า ตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป จะยุติผลิตและจำหน่ายรถยนต์ใหม่ที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง โดยจะหันมาพึ่งพาพลังงานทางเลือก (โดยเฉพาะรถยนต์พลังไฟฟ้า) มากยิ่งขึ้น | null | null | https://thestandard.co/new-tech-alternative-energy/ |
3 ผู้ต้องหา ขนไอซ์ 300 กิโล ซุกรถไฟ ส่งหาดใหญ่จ่อข้ามประเทศ จนมุม ตร. | พล.ต.ต.อนุภาพ ศรีนวล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี พร้อมตำรวจกองปราบปราม ตำรวจรถไฟ ร่วมกันจับกุม นายวิศรุต ตราชัย อายุ 23 ปี, นายพลธวัช มะละ อายุ 20 ปี และนายจักรพัชร พุ่มพวง อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาร่วมกันลักลอบขนไอซ์น้ำหนักร่วม 300 กิโลกรัม มูลค่ารวมกว่า 900 ล้านบาท หลังคนร้ายขนมากับขบวนรถเร็วที่ 171 กรุงเทพฯ-สุไหงโก-ลก แต่คนร้ายไหวตัวทัน กระโดดหนีจากรถไฟกลางทางช่วงสถานีรถไฟบ้านโป่งจังหวัดราชบุรี แต่ถูกติดตามจับกุมตัวกลับมาได้ ส่วน นายสุริยันต์ บุญเทียม อายุ 32 ปี หลบหนีไปได้,จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ไอซ์ทั้งหมดถูกนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านริมฝั่งแม่น้ำโขง และได้รับคำสั่งให้ไปรับไอซ์ที่ บ้านเหล่าสวนกล้วย ต.หนองเทา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม รวม 10 กระสอบ จากนั้นแยกใส่กระเป๋าเดินทางเพื่อความสะดวกและไม่เป็นจุดสนใจ แล้วนั่งโดยสารมาลงที่กรุงเทพฯ ก่อนขึ้นรถไฟที่สถานีรถไฟหัวลำโพง ปลายทางหาดใหญ่ และจะมีคนมารับของต่อ เพื่อส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งนี้ ผู้ต้องหายังยอมรับอีกว่า ไอซ์ทั้งหมดมี 500 กิโลกรัม แบ่งการขนเป็น 2 รอบ รอบละ 250 กิโลกรัม โดยรอบแรก ส่งไปแล้วเมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา และในครั้งนี้หากส่งไอซ์สำเร็จจะได้ค่าจ้างคนละ 1 แสนบาท. | ตำรวจรถไฟ กองปราบ รวบ 3 ผู้ต้องหาขนไอซ์ 300 กิโลกรัม จากนครพนม ปลายทางหาดใหญ่ เตรียมส่งต่อประเทศที่ 3 อ้างลอตแรกส่งแล้ว 250 กก. ได้ค่าจ้าง 1 แสนบาท | ข่าว,ทั่วไทย | ขนยา,ยาเสพติด,ตำรวจรถไฟ,ยาไอซ์,กองปราบปราม,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1196600 |
เคน เหมา ไก่ อุ่นแข้งเฉือน มาเลเซีย XI 2-1 | การแข่งขันฟุตบอลนัดกระชับมิตร เอไอเอ ชาลเลนจ์ คัพ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 27 พ.ค. ที่ผ่านมา ที่สนาม ชาห์ อาลาม สเตเดียม คู่ระหว่าง มาเลเซีย ออลสตาร์ (มาเลเซีย XI) พบกับ ไก่เดือยทอง ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ทีมดังจากศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ,เปิดฉากครึ่งแรกมาถึง น.19 สเปอร์ส ได้ประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะที่ คริสเตียน อีริคเซน พาบอลมาในเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจ่ายย้อนมาให้ ทอม คาโรลล์ ซัดเต็มข้้อบอลไปแฉลบผู้เล่นมาเลเซียไปชนเสามาเข้าทาง แฮร์รี เคน ซ้ำจ่อๆเข้าไป,จากนั้น น.31 มาเลเซีย XI ได้ฟรีคิกระยะ 35 หลา มูห์ยิดดิน ยาสซิน เปิดโค้งเข้าเขตโทษให้ ติอาโก จูนินโญ โขกเข้าไปตุงตาข่าย ,ถึง น.43 สเปอร์ส ขึ้นนำ 2-1 จากจังหวะทำชิ่งสุดสวย ก่อนที่ คริสเตียน อีริคเซน จะจ่ายเข้าเขตโทษด้านขวาให้ แฮร์รี เคน ยิงเสียบเสาไกลเข้าไปอย่างเฉียบขาด แล้วก็จบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้,กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง เป็น สเปอร์ส ที่เปิดเกมรุกอย่างหนัก แต่บวกประตูเพิ่มไม่ได้ ทำให้จบเกม ทอตแนม ฮอตสเปอร์ เอาชนะ มาเลเซีย XI ไป 2-1 โดย สเปอร์ส มีโปรแกรมอุ่นเครื่องนัดต่อไปที่ออสเตรเลีย โดยจะพบกับ ซิดนีย์ เอฟซี ในวันที่ 30 พ.ค. นี้ | แฮร์รี เคน รองดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซีซั่นล่าสุด เหมาคนเดียวสองประตู ช่วยให้ ไก่เดือยทอง ทอตแนม ฮอตสเปอร์ส บุกชนะ มาเลเซีย XI ไป 2-1 ในเกมฟุตบอลกระชับมิตร ที่ประเทศมาเลเซีย | null | พรีเมียร์ลีก,ทอตแนม ฮอตสเปอร์,มาเลเซีย ออลสตาร์,แฮร์รี เคน,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/501537 |
ผบ.ทบ.เผย หากปฏิบัติตามพระบรมราโชวาท บ้านเมืองจะเรียบร้อย ยันกองทัพเป็นกลาง | เมื่อเวลา 08.05 น.วันที่ 24 มี.ค. พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.พร้อม รศ.ดร.กฤษติกา คงสมพงษ์ และ ร้อยเอก แพทย์หญิง อมรัชต์ คงสมพงษ์ เดินทางมาลงคะแนนที่หน่วยเลือกตั้งที่ 18 บริเวณเต็นท์หน้าอาคารสวัสดิการกองบัญชาการกองทัพไทย แยกประชานุกูล ซึ่งทั้งสามคนได้ต่อคิวเพื่อตรวจสอบรายชื่อ โดยมีประชาชนกล่าวทักทายและให้เข้าไปลงคะแนนก่อน แต่ พล.อ.อภิรัชต์ บอกว่าไม่เป็นไร วันนี้ว่าง ไม่มีงาน ,พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. กล่าวระหว่างมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ถึงการน้อมนำพระราชดำรัส เมื่อคืน 23 มี.ค. ว่าเรียกว่าเป็นสิ่งที่ดีๆ ที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเตือนจิตใจให้กับคนไทยทุกคนอีกครั้งหนึ่ง โดยน้อมนำพระบรมราโชวาท รัชกาลที่ 9 เอามาเตือนสติ ทำให้เช้านี้รู้สึกสดชื่น,เมื่อถามว่า มีข่าวเรื่องมีการเคลื่อนกำลังพล จะพูดอย่างไรให้ประชาชนสบายใจ พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ก็ปฏิบัติตามพระบรมราโชบาย ถ้าปฏิบัติตามพระบรมราโชบายบ้านเมืองก็จะเรียบร้อย,เมื่อถามว่า กองทัพจะวางตัวอย่างไรในการจัดตั้งรัฐบาลเพราะถูกจับตามอง พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า เราก็วางตัวเป็นกลางสบายๆ. | ผบ.ทบ.เผยเป็นสิ่งดีที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเตือนคนไทยทุกคนอีกครั้งหนึ่ง โดยนำพระบรมราโชวาทในหลวง ร.9 มาเตือนสติจะทำให้บ้านเมืองสงบยันกองทัพวางตัวเป็นกลางจัดตั้งรัฐบาล | เลือกตั้ง | พระบรมราโชบาย,การเลือกตั้ง,ผบ.ทบ.,เลือกตั้ง 62,พระบรมราโชวาท ในหลวง ร.9,เลือกตั้ง | https://www.thairath.co.th/news/politic/1527555 |
ไฟไม่ไหม้ พระบรมฉายาลักษณ์ ในร้านเซเว่นฯ ถูกวางระเบิดเผาวอดที่ปัตตานี | จากเหตุคนร้ายก่อเหตุป่วนเมือง เมื่อคืนวันที่ 2 พ.ย. ที่ผ่านมา ในที่พื้นที่ติดชายแดนของ จ.สงขลา จ.นราธิวาส และ จ.ปัตตานี ที่มีเหตรุนแรงวางระเบิดใน 4 อำเภอ คือ อำเภอเมือง สายบุรี ยะหริ่ง และหนองจิก ,ทั้งนี้ จุดใหญ่ที่ อ.หนองจิก คนร้าย 2 คน ได้บุกเข้าไปในร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น ตั้งอยู่ภายในปั๊ม ปตท.บ้านดอนยาง ริมถนนสายปัตตานี-หาดใหญ่ ม.4 ต.บางเขา อ.หนองจิก ยิงปืนขู่ไล่พนักงานออกนอกร้าน ก่อนวางระเบิด จนเกิดระเบิดขึ้นไฟลุก เผาผลาญร้านสะดวกซื้อเสียหายทั้งหมด รวมไปถึงร้านที่อยู่ติดกันด้วย,อย่างไรก็ตาม หลังเพลิงสงบ เจ้าหน้าที่อีโอดี ทหาร ตำรวจ ได้ร่วมกันเข้าเคลียร์พื้นที่ ต้องถึงกับตะลึงยืนนิ่งอยู่กับที่ เมื่อพบว่า ท่ามกลางกองเถ้าถ่าน ได้พบพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่อยู่ในร้าน ไม่ไหม้ไฟ ซึ่งภาพพระบรมฉายาลักษณ์ดังกล่าว ไม่ได้พบเพียงใบเดียว แต่มีจำนวนหลายสิบใบ ทั้งที่แผ่นกระดาษที่อยู่รอบพระบรมฉายาลักษณ์นั้น ถูกไหม้หมด เหลือเพียงตรงกลางที่เป็นภาพพระบรมฉายาลักษณ์ ในหลวง รัชกาลที่ 9 และพระบรมวงศานุวงศ์เท่านั้นที่ไม่ไหม้,ร.ต.ท.สุภาส พรหมมณี รอง สว.เก็บกู้วัตถุระเบิด จ.ปัตตานี ได้เล่าถึงเหตุการณ์ขณะเข้าไปตรวจสอบเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ภายในปั๊มน้ำมัน ปตท.ดอนยาง ม.9 ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี จนทำให้ได้รับความเสียหายทั้งหมด เหตุเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา | ทหาร ตำรวจ ตรวจที่เกิดเหตุคนร้ายวางระเบิด เผาร้านสะดวกซื้อในปั๊ม ปตท.หนองจิก ปัตตานี เมื่อคืนวันที่2พ.ย.59 ถึงกับยืนตัวแข็ง เมื่อพบพระบรมฉายาลักษณ์ ในหลวง รัชกาลที่9 หลายสิบแผ่นอยู่ท่ามกลางกองเถ้าถ่าน ซึ่งภาพนั้น ไฟไม่ไหม้ | null | ในหลวงสวรรคต,พระเจ้าอยู่หัวสวรรคต,รัชกาลที่ 9 สวรรคต,สิ้นรัชกาลที่ 9,พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช,พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ,ประวัติในหลวง,รูปในหลวง,ภาพในหลวง,พระราชดำรัส,พระราชกรณียกิจ,ไฟไม่ไหม้พระบรมฉายาลักษณ์ | https://www.thairath.co.th/content/773666 |
คนดวงเฮง มารำแก้บนที่อาศรมฤาษีเณร ไม่พลาด เลขเด็ด อ่างน้ำมนต์ลุ้นโชค | พ่อปู่พญานาคราช มาเข้าฝันครู จ.นครสวรรค์ บอกให้มารำแก้บนที่อาศรมฤาษีเณร ธาตุพุทธคุณ หลังเคยขอให้โชคมาแล้วหลายครั้ง ขณะที่ คอหวยไม่พลาด เลขเด็ด อ่างน้ำมนต์วันที่ 8 มี.ค. 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่อาศรมฤาษีเณร ธาตุพุทธคุณ ได้มีคุณชญานุศภัฒค์ ทวีสุข อายุ 46 ปี ครูศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเขาชายธง และคุณปฏิญาญา ริตนันท์ อายุ 41 ปี สองพี่น้องได้เดินทางมาจาก จ.นครสวรรค์ ได้นำเครื่องบูชาองค์พญานาคราช พร้อมมารำแก้บนบูชาพ่อปู่พญานาคราช ตามสัจจะวาจา ที่เคยให้ไว้หลายปีก่อนคุณชญานุศภัฒค์ เล่าว่า เมื่อกลางคืนของวันที่ 27 ก.พ. 2563 ตนได้ฝันเห็นองค์พ่อปู่พญานาคราช มาบอกให้ไปรำแก้บนตามที่เคยขอไว้ คือตนเคยขอให้ได้เป็นครูอยู่ที่ครูศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเขาชายธง และขอให้ถูกหวย แบบคนอื่นบ้าง พอได้ตามขอแล้วตนยังไม่มีเวลาที่จะไปแก้บน โดยในฝันบอกให้เดินทางมาที่อาศรมแห่งนี้ ซึ่งตนก็ไม่เคยรู้จักหรือไม่เคยเดินทางเข้ามาที่นี้เลย วันนี้เป็นวันหยุดจึงชวนน้องสาวรีบมารำแก้ทันที โดยรำแก้บนจำนวน 3 ชุด เพื่อเป็นสิริมงคลกับตัวเองและครอบครัวทั้งนี้ หลังตื่นมาจากความฝัน ก็ได้นำเรื่องความฝันไปเล่าให้สองสาวฟังแล้วตีเป็นตัวเลข ได้เลข 98 จึงนำไปเสี่ยงโชค งวดวันที่ 1 มี.ค. 2563 ที่ผ่านตนและน้องสาวถูกหวย เลข 98 จำนวน 5 ใบ รับเงิน 10000 บาท ถือว่าเป็นความโชคดีที่พ่อปู่พญานาคราช มาให้โชคลาภเพื่อมีเงินมาแก้บนในครั้งนี้อย่างไรก็ตาม ที่บริเวณอ่างน้ำมนต์ฤๅษีเณร ธาตุพุทธคุณ ก็มีประชาชนนับพันคนได้เดินขึ้นไปส่องดูตัวเลขที่ลอยเหนือผิวน้ำภายในอ่างน้ำมนต์ฤๅษีเณร ธาตุพุทธคุณ ซึ่งปรากฏเป็นตัวเลขลอยอยู่เหนือน้ำ คือเลข 1 2 4 5 7 8 ซึ่งอาจารย์ฤๅษีเณร ธาตุพุทธคุณ ได้ทำพิธีจรดตัวเลขเรียกว่า เลขโสฬสสะระตะ เป็นพิธีกรรมโบราณ โดยประชาชนได้นำโทรศัพท์มือถือบันทึกภาพภายในอ่างน้ำมนต์หลายๆ มุมเอาไว้ดูเพื่อเสี่ยงโชคงวดนี้.อ่าน ตรวจหวยตรวจหวย 16 มีนาคม 2563 ตรวจผลสลากกินแบ่งรัฐบาล | ตรวจหวย 16/3/63สำรวจ 10 อันดับ เลขเด็ด ขายดี แม่ค้าหวยยิ้ม เลขดัง โดนเหมาหมดแล้วคอหวยรุมส่อง เลขเด็ด รถแห่ หลวงพ่อโต หลังเคยมีคนถูกรางวัลที่ 1แห่ส่อง ขันน้ำมนต์ เกาะคำชะโนด คอหวยยิ้มหวานได้ เลขเด็ด สมใจลุ้นเฮเบิ้ล ตะเคียนทอง วัดอ่างทองพัฒนา เพิ่มอีก 7 หึ่งทรงเลขเด็ดเน้นๆ | พ่อปู่พญานาคราช มาเข้าฝันครู จ.นครสวรรค์ บอกให้มารำแก้บนที่อาศรมฤาษีเณร ธาตุพุทธคุณ หลังเคยขอให้โชคมาแล้วหลายครั้ง ขณะที่ คอหวยไม่พลาด เลขเด็ด อ่างน้ำมนต์ | ข่าว,สังคม | หวยไทยรัฐ16-3-63,ตรวจหวย 16 มีนาคม 2563,เลขเด็ด,หวย 16 มีนาคม 2563,ฤๅษีเณร,หวยฤๅษีเณร,หวย | https://www.thairath.co.th/news/society/1789824 |
4 นางเอกงานเข้า คนชี้เป้าเป็นมือที่สาม | โดยเฉพาะเรื่องความรัก,และแน่นอนว่า ทุกครั้งที่มีข่าวคราวของดาราเลิกกัน ก็ต้องมีเรื่องของมือที่ 3 ออกมา และดาราบางคนก็ถูกหาว่าเป็นมือที่ 3 ซึ่งมีทั้งคนที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ จนทำให้เกิดปัญหาตามมามากมาย และมีการวิจารณ์สนั่นทั่วโลกออนไลน์และออฟไลน์เลยทีเดียว,ลูกน้ำ ทิดาลัด ,กำลังเป็นประเด็นเลย สำหรับนางเอกสาวชาวลาว ลูกน้ำ ทิดาลัด ที่ถูกมองว่าเป็นมือที่สามแย่ง ตูมตาม ยุทธนา ไปจาก ญิ๋งญิ๋ง ศรุชา เพราะคู่นี้ได้อันฟอลโลว์ IG กันและกัน แถมไม่มีรูปคู่ให้ได้ติดตามมาพักใหญ่ และยังมีข้อความปริศนาจากฝ่ายหญิงบอกว่า ความรักที่ดีควรมีเป็นคู่ ไม่ใช่คี่ จนคนจับตาว่าเป็นเพราะมีมือที่สามหรือเปล่า ซึ่งก่อนหน้านี้ฝ่ายชายก็เผยว่าเลิกกันแล้วจริงๆ เพราะไม่ค่อยได้เจอกัน ทะเลาะกันเรื่องนี้ค่อนข้างบ่อย ฝ่ายหญิงก็บอกว่าเหนื่อย หยุดไหม กระทั่งฝ่ายชายเป็นฝ่ายบอกเลิก แต่ไม่เกี่ยวบุคคลอื่น,และ ญิ๋งญิ๋ง ก็ได้บอกว่า ตนเองนั้นไปเจอข้อความที่ ตูมตาม คุยกับผู้หญิงอื่น และฝ่ายชายก็ได้ขอห่างเลย แม้ว่า ญิ๋งญิ๋ง จะพยายามขอเคลียร์แต่ตูมตาม ก็ไม่มาเคลียร์ และยังได้ยอมรับอีกว่า ไปรับส่งผู้หญิงอื่นที่สนามบิน แต่เป็นแค่พี่น้องกัน ซึ่งผู้หญิงคนนั้นก็คือ ลูกน้ำ ทิดาลัด นางเอกละครที่เล่นเรื่องเดียวกัน ,จนกระทั่งได้มีภาพที่ ตูมตาม กับ ลูกน้ำ จุ๊บแก้มกันออกมา และตัว ลูกน้ำ นั้นก็ได้โพสต์รูปตัวเองที่ใส่เสื้อผ้าชุดเดียวกันกับภาพที่หลุดออกมาในอินสตาแกรม พร้อมแคปชั่น คิดฮอดเขาติ งานนี้ชาวเน็ตต่างไปถล่มเละทั้งคู่ ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้ ด้าน ตูมตาม และ ลูกน้ำ ยังไม่ได้ออกมาพูดใดๆ ส่วนทาง ญิ๋งญิ๋ง เอง ก็บอกเพียงแค่ว่า รักครั้งนี้เธอเจ็บหนักมาก เพราะไม่คิดว่าจะถูกกระทำเช่นนี้จากคนที่เคยรัก ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่า ตูมตาม และ ลูกน้ำ จะออกมาให้สัมภาษณ์ถึงข่าวที่เกิดขึ้นหรือไม่,จ๋า ณัฐฐาวีรนุช ,วีเจจ๋า ณัฐฐาวีรนุช โดนผลกระทบเรื่องมือที่สาม สุดท้าย ตุ๊ ธนานันต์ ที่ถูกกล่าวถึงว่า จ๋า ไปแย่ง ตุ๊ มาจากภรรยานั้น ก็ได้ออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และรับผิดชอบในสิ่งที่ได้ทำลงไป ,โดย ตุ๊ ได้ยอมรับว่า ได้คบหากับวีเจจ๋าจริง โดยยังไม่ได้หย่ากับภรรยา แต่ว่าไม่ได้อยู่ด้วยกันมาเกือบ 2 ปีแล้ว และกำลังดำเนินการเรื่องการหย่า โดย ตุ๊ ยังได้ยอมรับว่า ได้ไปเที่ยวฮ่องกงกับวีเจจ๋าจริง แต่อย่างไรก็ตามหลังเป็นข่าวออกมาตอนนี้ ตนกับวีเจจ๋าได้ลดระดับความสัมพันธ์เป็นเพื่อนกันไปก่อน,ด้าน จ๋า เองนั้น ก็ได้ออกมายอมรับว่า ตอนนี้ตนเองกับ ตุ๊ กำลังศึกษาดูใจกันอยู่ และตัว ตุ๊ เองนั้นก็ได้หย่ากับทางอดีตภรรยาเรียบร้อยแล้ว และพร้อมที่จะพิสูจน์ตัวเอง ,ไอซ์ ปรีชญา,ถูกมองเป็นมือที่สามอีกเช่นกัน สำหรับนางเอกหน้าใส ไอซ์ ปรีชญา พงษ์ธนานิกร ที่อดีตนักแสดง-เน็ตไอดอลสาว คุกกี้ อรนลิน ชัยพร โพสต์ให้ไอซ์อ่านไดเรกไอจี และโพสต์ไอจีสตอรี่เป็นภาพไลน์แชตระหว่าง ไอซ์ และ ไฟท์ ชิตพล มั่งพร้อม นักธุรกิจหนุ่ม ซึ่งเป็นแฟนของคุกกี้ โดยในแชตสนทนานั้น ฝ่ายสาวไอซ์เป็นคนชวนฝ่ายชายไปช็อปปิ้ง,ซึ่งไอซ์ได้ให้สัมภาษณ์ยอมรับว่ารู้จักกับไฟท์จริง โดยเริ่มแรกคุยกันเรื่องงานก่อน แต่ตนก็รู้สึกว่าอีกฝ่ายเอาเรื่องงานมาอ้างเพื่อจะจีบตนมากกว่า พร้อมทั้งบอกว่าไม่มีสถานะ และไม่ได้คุยกันถึงขั้นว่าต้องไปสืบว่ามีแฟนแล้วรึเปล่า แต่จากนั้นกลับมีแชตไลน์หลุดอีกครั้ง ซึ่งในแชตไลน์เป็นข้อความที่ฝ่ายหญิงแชร์โลเคชั่นกองละครให้ฝ่ายชายมารับ แต่เปลี่ยนใจเพราะคนเยอะ,รวมไปถึงข้อความที่ฝ่ายหญิงบอกจะฝากซื้อน้ำหอมเพื่อลองใจฝ่ายชาย แต่สุดท้ายฝ่ายหญิงก็หาน้ำหอมได้ และบอกว่าฝ่ายชายไม่กระตือรือร้นอะไรเลย ก่อนที่ฝ่ายหญิงจะบอกว่าตนไม่ใช่คนคุยเผื่อเลือก และอยากให้เกียรติคนที่คุยอยู่,ที่ผ่านมาฝ่ายชายเหมือนไม่ชัดเจนกับตน ทำเอาเพื่อนของสาวไอซ์เดือด ถึงขั้นโพสต์ไอจีสตอรี่แฉกลับว่าแท้จริงแล้วฝ่ายชายอยากเลิก แต่คุกกี้ต่างหากที่ไม่อยากเลิก พร้อมทั้งบอกให้คุกกี้กลับไปเคลียร์กับฝ่ายชายเองดีกว่าด้วย,พิม พิมประภา,พิม พิมประภา ก็เป็นอีกหนึ่งสาว ถูกมองว่าเป็นมือที่สาม ทำรักของ ยิปซี คีรติ กับ ฌอห์ณ จินดาโชติ ต้องจบลง ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงที่ละครกำลังออนแอร์ และทั้งคู่ต้องโปรโมตละครด้วยกัน ซึ่งภาพในไอจีที่ออกมานั้น ดูหวานกันสุดๆ ชนิดที่ว่า หวานแบบเกินพี่เกินน้องหนักมาก มีทั้งเสื้อคู่ และโมเมนต์มุ้งมิ้งต่อกัน นอกจากแฟนคลับจะจิ้นกันในจอแล้ว ยังจิ้นนอกจออีกด้วย ,ซึ่ง พิม ก็ให้สัมภาษณ์ว่า เป็นแค่พี่น้องกันเท่านั้น และทุกอย่างที่เห็นมันเป็นแค่การโปรโมตละคร ถ้าเจอกันก็จะได้เจอกันเฉพาะตอนทำงานเท่านั้นเอง อีกทั้งยังยืนยันว่า บริสุทธิ์ใจ ,ส่วนทางด้าน ฌอห์ณ นั้น ก็ยอมรับว่า ได้ห่างกับ ยิปซี แล้ว เพราะคุยกันน้อยลง เจอกันน้อยลง และ ยิปซี ก็ได้บอกว่า ตนเองนั้นโสดแล้ว ส่วนสาเหตุที่เลิกกับ ฌอห์ณ นั้น ขอไม่ลงรายละเอียด ส่วนเลิกกันเพราะมือที่สามหรือไม่ ให้ดูที่การกระทำ และอาจจะมีเรื่องมือที่สามเข้ามาเกี่ยวด้วย และยอมรับว่า ในตอนนั้นรู้สึกแย่มาก ที่เห็นคนที่เรารักไปสนิทกับอีกคนหนึ่ง. | เป็นดาราคนดัง คนของสังคม นอกจากจะได้ชื่อเสียง และเงินทองที่ไหลเข้ามาแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องแลกกลับไป ก็คือ ความเป็นส่วนตัว เพราะไม่ว่าจะทำอะไร ที่ไหน อย่างไร ก็จะเป็นที่ถูกจับตามองอยู่เสมอ | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | ดารามือที่สาม,มือที่สาม,ความรักดารา,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1520771 |
พบเงื่อนงำใหม่เกี่ยวกับการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ (คลิป) | โลกของเรามีปรากฏการณ์หนึ่งที่น่าสะพรึงไม่ใช่น้อย นั่นคือการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ (Mass Extinction) เมื่อเกิดขึ้นในยุคใดก็หมายถึงว่าสิ่งมีชีวิตนานาชนิดในยุคนั้นจะสูญสิ้นพันธุ์กันไปเกือบหมด ส่วนที่เหลือรอดก็เฉพาะพวกที่ปรับตัวได้กับความเปลี่ยนแปลง ดังเช่น ไดโนเสาร์ขนาดยักษ์ที่หายไปจากโลกเมื่อ 66 ล้านปีที่แล้ว,แต่การสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ที่อยู่ในความสนใจของนักวิทยาศาสตร์มากที่สุด ก็คือเหตุการณ์สูญพันธุ์ปลายยุคเพอร์เมียน (End-Permian extinction) นับว่าเป็นครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 250 ล้านปีก่อน จากการปะทุของภูเขาไฟใหญ่ในแถบไซบีเรียของรัสเซีย โดยส่งผลให้เกือบ 90% ของสิ่งมีชีวิตต้องม้วยมรณาอย่างมโหฬาร (Great Dying) นักธรณีวิทยาเรียกการปะทุนี้ว่าการไหลท่วมของลาวาหินบะซอลต์แห่งไซบีเรีย (Siberian Flood Basalts) และไหลแผ่ขยายไปเป็นเวลาเกือบล้านปี ซึ่งนักธรณีวิทยาจากศูนย์วิจัยทางธรณีวิทยาเกี่ยวกับหินและธรณีเคมี เมืองวองเดิฟร์ แลส์ น็องซี ในฝรั่งเศส เผยว่า เหล่านักวิทยาศาสตร์มีความสงสัยตลอดมาว่าเหตุใดการไหลท่วมของลาวาหินบะซอลต์ครั้งนั้น จึงร้ายแรงกว่าการปะทุอื่นๆที่ใกล้เคียงกัน,จากการวิเคราะห์ตัวอย่างของหินแปลกปลอม (xenoliths) ที่อยู่ในชั้นธรณีภาค (Lithosphere) บริเวณชั้นเนื้อโลกส่วนบนกับชั้นเปลือกโลก พบว่าก่อนเกิดการไหลท่วมของลาวาหินบะซอลต์นั้น ธรณีภาคแถบไซบีเรียเต็มไปด้วยสารคลอรีน โบรมีน และไอโอดีน ซึ่งเป็นองค์ประกอบทางเคมีจากกลุ่มฮาโลเจน (Halogen) และสารเหล่านี้ดูเหมือนจะหายไปหลังจากการปะทุของภูเขาไฟ นักธรณีวิทยาจึงคาดว่าแหล่งฮาโลเจนที่ถูกเก็บกักไว้ในชั้นหินที่ไซบีเรียได้กระจายขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศของโลกในช่วงการระเบิดของภูเขาไฟ สารกลุ่มนี้กลายเป็นตัวทำลายชั้นโอโซนได้อย่างทรงประสิทธิภาพจนเกิดการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ของสิ่งมีชีวิตนั่นเอง. | โลกของเรามีปรากฏการณ์หนึ่งที่น่าสะพรึงไม่ใช่น้อย นั่นคือการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ (Mass Extinction) เมื่อเกิดขึ้นในยุคใด | ข่าว,ต่างประเทศ | หินแปลกปลอม,สูญพันธุ์ครั้งใหญ่,นักวิทยาศาสตร์,สูญพันธุ์,ทันโลก,การศึกษา | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1374781 |
เข้าง่ายออกยาก | เป็นวีซ่าชนิดพิเศษ สามารถอยู่ได้นานกว่าวีซ่าปกติที่อนุญาตให้คนต่างชาติอยู่ในประเทศไทยได้ไม่เกิน 60 วัน,แม่ลูกจันทร์ กราบเรียนว่า ชาวต่างชาติที่มีสิทธิยื่นขอ สมาร์ทวีซ่า จากรัฐบาลไทย แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้คือ,กลุ่มที่ 1, ชาวต่างชาติที่มีความเชี่ยวชาญด้านต่างๆ เช่น แพทย์ วิศวกร การบิน หรือผู้มีทักษะด้านอื่นๆ ที่ประเทศไทยยังขาดแคลน,กลุ่มที่ 2, ชาวต่างชาติที่จะเข้า มาลงทุนในอุตสาหกรรม 10 ประเภท ที่รัฐบาลส่งเสริมให้เกิดขึ้นในเมืองไทย,กลุ่มที่ 3, ชาวต่างชาติ กลุ่มสตาร์ทอัพ ที่เข้ามาทำธุรกิจเริ่มต้นในประเทศไทย,เป็นโปรโมชั่นล่าสุดของรัฐบาล นายกฯบิ๊กตู่ เพื่อดึงดูดชาวต่างชาติให้เข้ามาทำมาหากินบนแผ่นดินไทยอย่างสะดวกสบายไร้กังวล,โดยไม่ต้องมีเวิร์กเปอร์มิต ไม่ต้อง ขอใบอนุญาตทำงาน,แถมเงื่อนไขพิเศษให้ขนลูกขนเมียเข้ามาด้วยทั้งครอบครัว,เรียกว่าเอาใจกันสุดติ่งกระดิ่งแมว,แม่ลูกจันทร์ ชี้ว่า นี่ไม่ใช่,ครั้งแรกที่รัฐบาล คสช.จัดโปรโมชั่นเชื้อเชิญชาวต่างชาติเข้ามาอยู่ในประเทศ ไทยได้ยาวๆ,ย้อนกลับไปเดือนพฤศจิกายน,ปีที่แล้ว รัฐบาลจัดโปรโมชั่นให้ชาวต่างชาติที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป,และมีเงินฝากในบัญชีไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาท,สามารถอยู่อาศัยในประเทศ ไทยระยะยาว 10 ปี,เสียค่าธรรมเนียม วีซ่าลองสเตย์ จิ๊บๆ แค่ 1 หมื่นบาทต่อคน,เพื่อจูงใจให้ผู้สูงอายุชาวต่างชาติย้ายถิ่นฐานเข้ามาอยู่อาศัยในเมืองไทยเป็นบ้านที่ 2 ของตัวเอง,ย้อนกลับไปเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ รัฐบาล คสช.ก็เปิดโปรโมชั่นพิเศษให้ชาวต่างชาติสามารถเข้ามาอยู่อาศัย หรือพักผ่อนในประเทศไทยระยะยาว,เพียงซื้อบัตรสมาชิกอีลิทการ์ด ราคา 1 ล้านบาท ก็สามารถขนสมาชิก ครอบครัวเข้ามาปักหลักพักอาศัยในเมืองไทยได้ยาวถึง 20 ปี,ยังยังไม่จบ ยังมีโปรโมชั่นพิเศษที่เพิ่งเปิดคิกออฟโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจตะวันออก หรืออีอีซี ของรัฐบาล,โดยรัฐบาลเสนอสิทธิพิเศษสุดๆ ให้ชาวต่างชาติที่สนใจลงทุนในโครงการอีอีซี ถึง 5 ประการ,1,อนุญาตให้ครอบครองกรรมสิทธิ์ที่ดินยาวถึง 90 ปี,2,สามารถอยู่อาศัยและทำงานในประเทศไทยได้ 5 ปี,3,สามารถนำชาวต่างชาติเข้ามาทำงานเพิ่มเติม,4,ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 13 ปี,5,ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ส่วนบุคคลอีก 15 ปี,รับประกันซ่อมฟรี ไม่มีประเทศ ไหนจะมีของแจกของแถมเยอะเท่าประเทศไทย,แม่ลูกจันทร์ ไม่อยากเปรียบ เทียบให้หัวใจคันคะเยอ,คนไทยจะไปต่างประเทศแค่ไม่กี่วัน ต้องเข้าคิวขอวีซ่าสุดแสนยุ่งยากลำบากลำบน,แต่คนต่างชาติแค่มีเงินฝาก 3 ล้านบาท มาโชว์,สามารถเข้ามานอนเกาสะดือในเมืองไทยได้ 10 ปี.,แม่ลูกจันทร์ | ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมปีหน้าเป็น ต้นไป รัฐบาล คสช.จะออกวีซ่าพิเศษ เรียกว่า สมาร์ทวีซ่า ให้ชาวต่างชาติสามารถเข้ามาทำมาหากินในเมืองไทยเป็นเวลานาน 4 ปี เป็นวีซ่าชนิดพิเศษ สามารถอยู่ได้นานกว่าวีซ่าปกติ | สกู๊ปไทยรัฐ | สำนักข่าวหัวเขียว,แม่ลูกจันทร์,สมาร์ทวีซ่า,ชาวต่างชาติ,การลงทุน | https://www.thairath.co.th/scoop/1043805 |
คิมมีหนาว ชมวินาทีมะกันยิงมิสไซล์สกัดขีปนาวุธข้ามทวีปนอกชั้นบรรยากาศ (คลิป) | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สหรัฐฯ ประสบความสำเร็จในการทดสอบระบบป้องกันขีปนาวุธข้ามทวีปแบบมีการยิงขีปนาวุธจำลองสถานการณ์จริงเป็นครั้งแรก เมื่อวันอังคารที่ 30 พ.ค. โดยล่าสุดในวันพุธ เพนตากอน หรือ กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอช่วงเวลาที่มิสไซล์ทั้ง 2 ลูกถูกปล่อยและปะทะกันนอกชั้นบรรยากาศโลก เหนือมหาสมุทรแปซิฟิกออกมาให้สาธารณชนได้ชมกันแล้ว,ภาพจากคลิปแสดงให้เห็นการปล่อยขีปนาวุธข้ามทวีปซึ่งเป็นเป้าหมายในการทดสอบ ออกจากฐานบนเกาะปะการัง ควาเจลีน ของหมู่เกาะมาร์แชล ในมหาสมุทรแปซิฟิก ตามด้วยภาพการปล่อยมิสไซล์เข้าสกัดจากฐานทัพอากาศ วานเดนเบิร์ก ในรัฐฟลอริดา และภาพจับความร้อนแสดงการปะทะกันระหว่างมิสไซล์ทั้ง 2 ลูกนอกชั้นบรรยากาศ,พลเรือโท จิม ไซริง หัวหน้าสำนักงานป้องกันขีปนาวุธสหรัฐฯ บอกกับผู้สื่อข่าวในวันพุธว่า ขีปนาวุธข้ามทวีปที่เป็นเป้าหมาย ซึ่งถูกจำลองสถานการณ์ให้เป็นมิสไซล์ที่ถูกยิงออกมาโดยเกาหลีเหนือหรืออิหร่าน ถูกทำลายลงอย่างสิ้นเชิง และพวกเขาจะใช้เวลาตลอด 1 เดือนข้างหน้าเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ จากการทดสอบที่ใช้งบประมาณถึง 244 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 8,300 ล้านบาท) นี้ รวมทั้งระบุพิกัดมิสไซล์ซึ่งถูกเรียกว่า พาหนะสังหารนอกชั้นบรรยากาศ (exo-atmospheric kill vehicle: อีเควี) ปะทะกับขีปนาวุธข้ามทวีปนี้ด้วย,ทั้งนี้ พาหนะสังหารนอกชั้นบรรยากาศ เป็นมิสไซล์ความยาว 5 ฟุต ซึ่งถูกยิงจากระบบป้องกันขีปนาวุธในอวกาศจากภาคพื้น (Ground-based Midcourse Defense: จีเอ็มดี) โดยเซนเซอร์บนจรวดรวมทั้งข้อมูลจากภาคพื้น และเครื่องยนต์ไอพ่น ในการคำนวณทิศทางและความเร็วอย่างฉับไว เพื่อค้นหาและทำลายหัวรบที่กำลังใกล้เข้ามา และทำล้ายเป้าหมายด้วยพลังงานจลน์ไม่ใช่ระเบิด.,ชมคลิปที่นี่,ข่าวที่เกี่ยวข้อง,มะกันเฮลั่น ทดสอบระบบสกัดขีปนาวุธข้ามทวีปสำเร็จครั้งแรก | กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เผยแพร่คลิปวิดีโอแสดงให้เห็นช่วงจังหวะที่มิสไซล์ของพวกเขาประสบความสำเร็จในการทำลายขีปนาวุธข้ามประเทศ ระหว่างการฝึกซ้อมเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา | ข่าว,ต่างประเทศ | ขีปนาวุธข้ามทวีป,ระบบป้องกันขีปนาวุธ,สหรัฐ,เกาหลีเหนือ,ทดสอบขีปนาวุธ | https://www.thairath.co.th/news/foreign/959010 |
ประจิน ปลื้ม วช. หนุนนักวิจัยไทย คว้ารางวัลในเวทีนานาชาติ | และจัดแสดงผลงาน,เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมา ศ.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า วช. ได้ส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมที่จะผลักดันการพัฒนาศักยภาพด้านการวิจัยและด้านการประดิษฐ์คิดค้นให้นักวิจัยและนักประดิษฐ์ไทยผ่านการดำเนินกิจกรรมหลายรูปแบบ ที่ผ่านมา วช.ได้นำนักวิจัยและนักประดิษฐ์ไทยไปคว้ารางวัลเกียรติยศจากหลายประเทศ ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมการสนับสนุนให้นักวิจัยและนักประดิษฐ์ไทยได้นำเสนอผลงานในเวทีระดับนานาชาติ และนอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้มีการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในประเทศและต่างประเทศแล้ว และยังเป็นช่องทางในการสร้างโอกาสแก่นักวิจัยและนักประดิษฐ์ของไทย สำหรับการรับรองมาตรฐานแก่ผลงานประดิษฐ์คิดค้น และผลงานเป็นที่ยอมรับในทางการตลาด และสามารถพัฒนสู่เชิงพาณิชย์ได้,ล่าสุด ได้ไปสร้างชื่อเสียงที่สาธารณรัฐประชาชนจีน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และสาธารณรัฐเกาหลี ดังนี้,งาน The 10th International Exhibition of Inventions & The 3rd World Invention and Innovation Forum (IEI & WIIF 2018) จัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 – 15 กันยายน 2561 ณ Guangdong Tanzhou International Convention and Exhibition Center เมืองฝอซาน สาธารณรัฐประชาชนจีน,โดยการสนับสนุนจากรัฐบาลเมืองฝอซาน (Foshan City Government) และสหพันธ์สมาคมนักประดิษฐ์นานาชาติ หรือ The International Federation of Inventors Associations (IFIA) ซึ่งทาง วช. ได้นำผลงานที่มีคุณภาพของนักวิจัยและนักประดิษฐ์ไทยเข้าร่วมประกวด จำนวน 43 ผลงาน จาก 12 องค์กร/หน่วยงาน ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยมหิดล เทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย ปทุมธานี และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ภายในงานมีหน่วยงานจากประเทศต่างๆ เข้าร่วมกว่า 40 ประเทศ และมีผลงานเข้าร่วมประกวดและจัดแสดงกว่า 4,000 ผลงาน,โดยในครั้งนี้ ผลงานของนักวิจัยและนักประดิษฐ์ไทยได้รับรางวัล IFIA Best Invention Medal จากผลงาน เรื่อง ระบบเฝ้าระวังการเกิด flash over จากฝุ่นเกาะลูกถ้วย ด้วยระบบโทรมาตรความชื้นของอากาศในแนวสายส่ง ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ซึ่งถือเป็นรางวัลสำคัญของงานนี้ นอกจากนี้ผลงานของนักวิจัยและนักประดิษฐ์ไทยยังได้รับรางวัลเหรียญทอง จำนวน 19 ผลงาน รางวัลเหรียญเงิน จำนวน 20 ผลงาน รางวัลเหรียญทองแดง จำนวน 4 ผลงาน และรางวัลพิเศษ Special Prize จากประเทศต่างๆ จำนวน 22 รางวัล จาก 9 ประเทศ ได้แก่ สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน จำนวน 1 รางวัล ประเทศโรมาเนีย จำนวน 1 รางวัล สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ จำนวน 1 รางวัล สาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ จำนวน 1 รางวัล สหพันธรัฐมาเลเซีย จำนวน 2 รางวัล สาธารณรัฐเกาหลี จำนวน 3 รางวัล สาธารณรัฐอินโดนีเซีย จำนวน 3 รางวัล สาธารณรัฐสิงคโปร์ 4 รางวัล และสาธารณรัฐอินเดีย จำนวน 6 รางวัล,งาน The International Trade Fair – Ideas, Inventions and New Products (iENA 2018) จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 – 4 พฤศจิกายน 2561 ณ Exhibition Centre Nuremberg เมืองนูเรมเบิร์ก สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี โดยได้รับการสนับสนุนจาก AFAG Messen und Ausstellungen GmbH,วช. ได้ร่วมกับหน่วยงานเครือข่ายพันธมิตรในการนำผลงานเข้าร่วมนำเสนอในงานดังกล่าว โดยมีผลงานจำนวน 45 ผลงาน จาก 12 องค์กร/หน่วยงาน ภายในงานมีหน่วยงานจากประเทศต่างๆ เข้าร่วมกว่า 30 ประเทศ และมีผลงานเข้าร่วมประกวดและจัดแสดงกว่า 800 ผลงาน โดยผลงานของนักวิจัยและนักประดิษฐ์ไทยได้รับรางวัล iENA Fairmanagement จากผลงาน เรื่อง เครื่องดันสาย & ชุดคันโยกสาย Over Head ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ซึ่งถือเป็นรางวัลสำคัญของงานนี้ นอกจากนี้ยังได้รับรางวัลเหรียญทอง จำนวน 11 ผลงาน รางวัลเหรียญเงิน จำนวน 11 ผลงาน รางวัลเหรียญทองแดง จำนวน 16 ผลงาน และรางวัลพิเศษ Special Prize จากประเทศต่างๆ จำนวน 17 รางวัล โดยแบ่งออกเป็น รางวัลพิเศษ Special Prize ที่ได้รับบนเวที (On Stage) จำนวน 3 รางวัล ได้แก่ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี สาธารณรัฐโปแลนด์ และไต้หวัน,งาน Seoul International Invention Fair 2018 (SIIF 2018) จัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 – 9 ธันวาคมที่ผ่านมา ณ กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งจัดขึ้นโดยองค์กรส่งเสริมด้านการประดิษฐ์คิดค้นของสาธารณรัฐเกาหลี หรือ Korea Invention Promotion Association (KIPA) วช. ได้ร่วมกับหน่วยงานเครือข่ายพันธมิตรในการนำผลงานเข้าร่วมนำเสนอ โดยมีผลงานจำนวน 85 ผลงาน จาก 25 องค์กร/หน่วยงาน ภายในงานมีหน่วยงานจากประเทศต่างๆ เข้าร่วมกว่า 35 ประเทศ และมีผลงานเข้าร่วมประกวดและจัดแสดงกว่า 600 ผลงานโดยผลงานของนักวิจัยและนักประดิษฐ์ไทยได้รับรางวัลระดับ Grand Prize จำนวน 1 รางวัล จากผลงาน สมุนไพรพลังงานฟาร์อินฟาเรด สำหรับต้านเชื้อแบคทีเรียและลดกลิ่นในช่องปาก ของบริษัท เซน อินโนเวชั่น กรุ๊ป จำกัด ซึ่งถือเป็นรางวัลชนะเลิศของงานนี้,และนอกจากนี้ ยังได้รับรางวัลเหรียญทอง จำนวน 18 ผลงาน รางวัลเหรียญเงิน จำนวน 24 ผลงาน รางวัลเหรียญทองแดง จำนวน 41 ผลงาน และรางวัลพิเศษ Special Prize จากประเทศต่างๆ จำนวน 31 รางวัล จาก 14 องค์กร/หน่วยงาน โดยแบ่งออกเป็น รางวัลพิเศษ Special Prize ที่ได้รับบนเวที (On Stage) จำนวน 5 รางวัล. | ประจิน แถลงข่าว วช. จัดนำผลงานวิจัยและสิ่งประดิษฐ์ไทยร่วมประกวดและจัดแสดงนิทรรศการในเวทีนานาชาติ พร้อมมอบประกาศนียบัตรเพื่อประกาศเกียรติคุณและแสดงความขอบคุณนักวิจัยที่เข้าร่วมประกวด | ข่าว,ทั่วไทย | ประจิน จั่นตอง,วช.,นักวิจัยไทย,เวทีนานาชาติ,สิ่งประดิษฐ์ไทย,การศึกษา | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1452400 |
จากดราม่านักท่องเที่ยวจีนหดตัว สู่คำตอบเรื่องเที่ยวเมืองรองของ ‘วีระศักดิ์ โควสุรัตน์’ รมว. การท่องเที่ยวและกีฬา | แย่แล้ว นักท่องเที่ยวจีนหายไปหมดเลยเราอาจได้ยินประโยคดังกล่าวมาบ้าง หลังจากเหตุการณ์เรือล่มที่จังหวัดภูเก็ต ตามมาด้วยแรงกดดันจากสงครามการค้าสหรัฐอเมริกาและจีน จำนวนนักท่องเที่ยวแดนมังกรลดลงอย่างชัดเจน ทั้งจากความขุ่นข้องหมองใจกับเรื่องบางเรื่อง และเงินในกระเป๋าที่ไม่ได้เยอะเหมือนแต่ก่อน จนบางส่วนเริ่มเกิดความกังวลต่อเรื่องดังกล่าว และพากันมองว่าวิกฤตการณ์ได้เกิดขึ้นแล้ววีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ปฏิเสธและชี้ว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดที่ต้องอธิบายให้ชัดเจน นอกจากนี้ยังชูประเด็นเรื่องเมืองรอง ซึ่งเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะผลักดันอย่างจริงจังต่อเนื่องด้วย นี่คือบทสัมภาษณ์พิเศษจากรายการ THE STANDARD BizKlass ของสำนักข่าว THE STANDARDเข้าใจไฮซีซันแบบจีนและก้าวใหม่ของการท่องเที่ยวไทยเรือล่มที่ภูเก็ตเป็นปฐมเหตุ ไม่มีใครอยากให้มันเกิด แต่มันเกิดขึ้นแล้วอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยในขณะนี้ คาดการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะแตะ 35 ล้านคนในสิ้นปี 2561 ถือเป็นจำนวนที่สูงติดอันดับโลก หนึ่งในกลุ่มที่สำคัญกับภาคการท่องเที่ยวไทยหนีไม่พ้นนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ทุกประเทศต่างต้องการตัว สำหรับเหตุกาณณ์เรือล่มนั้น วีระศักดิ์ชี้ว่ามีผลกระทบกับภาพลักษณ์ของประเทศไทย และต้องรีบแก้ไขโดยเร็วยอมรับว่านักท่องเที่ยวจีนมีหายไปบ้างช่วงหนึ่ง แต่ตอนนี้ทยอยกลับเข้ามาแล้ว ยอดนักท่องเที่ยวจีน 10 เดือนแรกของปีนี้ยังเติบโต 10% ในตลาดอื่นโตขึ้น 20-25% อย่างฮ่องกงก็โต 15% ไต้หวันขยายตัว 12% ตลาดผู้ที่พูดภาษาจีนโดยรวมถือว่าโตขึ้นสิ่งที่รัฐบาลต้องทำคือการแก้ไขที่ต้นเหตุ เพราะนี่ถือเป็นเหตุการณ์รุนแรงที่มีชาวจีนเสียชีวิตนอกประเทศเกือบ 50 ชีวิต สูงเป็นอันดับที่สองในประวัติศาสตร์ เป็นรองจากเหตุการณ์ช็อกโลกที่เครื่องบิน MH370 ของมาเลเซียแอร์ไลน์หายไปจากน่านฟ้าอย่างไม่มีวันหวนกลับเท่านั้น ซึ่งทางรัฐบาลจีนจำเป็นต้องตอบคำถามประชาชนให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ถ้าบอกว่านักท่องเที่ยวหาย อย่างนั้นเรารีบลดราคาเพื่อดึงคนกลับมาเถอะ มันทำไม่ได้ ยังไม่ได้แก้ที่เหตุเลย จะไปแก้ที่ผลแล้ว ถ้าพากันกลับมามากๆ แล้วเกิดเหตุอีกจะทำยังไง คนที่ตายไปเราจะอธิบายเขายังไง อย่าเพิ่งรีบใช้นโยบายด้านราคา เพราะมันตอบที่ผล ไม่ใช่เหตุ คำถามคือเราจะรื้อระบบการดูแลรักษาความปลอดภัยของการท่องเที่ยวไทยได้อย่างไรต่างหาก ขณะนี้เรือที่เกิดเหตุถูกกู้ขึ้นมาแล้ว ซึ่งทางการไทยสั่งอายัดเด็ดขาด ห้ามไม่ให้ใครแตะต้องหรือเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรือแม้แต่ทางตำรวจเอง ซึ่งกรณีนี้มีรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นหัวหน้าชุดเอง พร้อมกับติดกล้องวงจรปิดติดตาม 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการทำลายหลักฐาน ซึ่งรัฐบาลกำลังเร่งหาคำตอบเรื่องเรือล่มเพื่อตอบคำถามรัฐบาลจีนโดยด่วนที่สุดสิ่งที่น่าสนใจของกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนคือ ช่วงไฮซีซันและโลว์ซีซันที่ไม่ตรงกับประเทศตะวันตก วีระศักดิ์ชี้ว่าหลังจากเดือนตุลาคมของทุกปี จะไม่ใช่เทศกาลท่องเที่ยวของจีนแล้ว ซึ่งแตกต่างจากชาวตะวันตกที่เดินทางท่องเที่ยวช่วงเทศกาลคริสต์มาส นักท่องเที่ยวจีนจะเริ่มกลับมาท่องเที่ยวอีกครั้งในเดือนกุมภาพันธ์ ช่วงเทศกาลตรุษจีนของทุกปี และขยายตัวต่อเนื่องไปจนสิ้นไตรมาส 3 เป็นวัฏจักรแบบนี้มาหลายปีแล้วเข้าใจผิด คนที่พูดเขาไม่เห็นภาพรวม ที่ผ่านมามีดราม่าเยอะ บางคนไปถ่ายคลิปสนามบินแล้วก็บอกว่ามันร้างแล้ว ไปถ่ายเชียงใหม่ก็บอกว่าไม่มีคนมาเที่ยวแล้ว แต่พอเราไปตรวจจริง มันก็ไม่ได้ผิดปกติ คิวก็ยังแน่นอยู่ สิ่งที่เราเห็นชัดเจนคือนักท่องเที่ยวจีนมาไทยคิดเป็นสัดส่วน 30% ขณะที่นักท่องเที่ยวจากอาเซียนก็สูงถึง 30% หรือประมาณ 10 ล้านคน ชาวสิงคโปร์เดินทางมาไทยครบ 1 ล้านคนเป็นปีแรกในประวัติศาสตร์ แสดงว่ามากันคนละหลายรอบ เช่นเดียวกัน คนอเมริกันก็บินมาเที่ยวไทยแตะ 1 ล้านคนแล้ว ถือว่ามีลูกค้าท่องเที่ยวเยอะและเป็นตลาดที่มีศักยภาพวีระศักดิ์ขยายความประเด็นนักท่องท่องเที่ยวจีนหดตัว กลุ่มที่หายไปคือกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษและเลือกเดินทางกับกรุ๊ปทัวร์ ซึ่งกลุ่มนี้มีรายได้เฉลี่ยต่ำกว่า 2 หมื่นเหรียญสหรัฐ หรือราว 6.6 แสนบาทต่อปี ขณะที่กลุ่ม FIT (Free Independent Travellers) ที่เดินทางท่องเที่ยวเองกำลังเติบโตอย่างมาก และกลุ่มคนจีนที่ฐานะดี รายได้เฉลี่ยสูงกว่า 2 หมื่นเหรียญสหรัฐ ตัวเลขก็ยังนิ่งขึ้นไป ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญแต่อย่างใดตลาดจีนก็มีเซกเมนต์ที่แตกต่างกัน เขาชอบทะเลไทย เราอยากได้กลุ่มคนจีนที่รักทะเลมากกว่ากลุ่มที่อยากมาดูเฉยๆ มาแล้วต้องไม่ทิ้งขยะหรือสูบบุหรี่ในสถานที่ท่องเที่ยว เราไม่ต้องการให้คนมาเหยียบย่ำที่เที่ยวมากเกินไป นักท่องเที่ยวคุณภาพไม่ได้แปลว่าคนมีเงิน คนมีเงินไปทำลายธรรมชาติมีเยอะแยะ เราต้องการนักท่องเที่ยวที่รักษาสิ่งแวดล้อม ไม่อยากให้เห็นว่าการท่องเที่ยวคือช้อนเงินช้อนทองทางเศรษฐกิจ อยากให้เห็นการท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือในการลดความเหลื่อมล้ำต่างหาก ถ้าเราทำให้เขาจ่ายในที่ที่ควรจะจ่าย จ่ายกับคนที่ควรจะได้รับ ก็จะทำให้คนในชุมชนมีรายได้ แม้จะไม่มากแต่ก็เป็นรายได้เสริมที่สำคัญโจทย์ค่อนข้างชัดเจนทีเดียว เรื่องคุณภาพและปริมาณสำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยจากนี้ต่อไปมองกลยุทธ์มัดใจนักท่องเที่ยวและคำแนะนำถึงผู้ประกอบการสำหรับปี 2562 ถือเป็นปีที่ต้องคิดใหม่ทำใหม่สำหรับการจัดการเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจำนวนกว่า 35 ล้านคน ซึ่งเท่ากับครึ่งหนึ่งของประชากรไทย วีระศักดิ์ตั้งคำถามเรื่องปริมาณนักท่องเที่ยว ประเทศไทยยังอยากให้มีนักท่องเที่ยวเยอะๆ แต่กระจุกเหมือนเดิมหรือไม่ หากมีมากเกินกว่าความสามารถที่จะรองรับจะมีผลต่อความประทับใจ และประสบการณ์ของทั้งนักท่องเที่ยวและเจ้าบ้านหรือไม่เราต้องเปลี่ยนจากกระจุกเป็นกระจาย ต้องให้พวกเขาไปเที่ยวเมืองรองมากขึ้น เดินทางผ่านสนามบินตามหัวเมืองต่างๆ ตอนนี้โครงสร้างพื้นฐานอย่างรถไฟรางคู่เป็นสิ่งที่รัฐบาลเร่งทำอยู่ สำหรับสัดส่วนนักท่องเที่ยว บ้านเราถือว่าหลากหลาย อย่าพึ่งพาใครคนใดคนหนึ่งเท่านั้น นักท่องเที่ยวยุโรปตะวันออกตั้งแต่รัสเซียจนถึงออสเตรียปีนี้โตเกือบ 20% หรือจากเอเชียใต้ก็เพิ่มขึ้นเยอะ มีคุณภาพด้วย นอกจากมาแต่งงานแล้วก็มาเที่ยวเชิงกีฬา เที่ยวกับครอบครัว หรือทำกิจกรรมพิเศษต่างๆ ด้วยมาตรการล่าสุดที่น่าสนใจ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางมาประเทศไทยจะต้องซื้อประกันการเดินทางเป็นของตัวเอง เช่นเดียวกับหลายประเทศในขณะนี้ เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงด้านภาระของประเทศ กรณีที่นักท่องเที่ยวไม่สบายหรือประสบอุบัติเหตุ ซึ่งได้รับการคุ้มครองจากบริษัทประกันภัย ปัจจุบันใช้งบประมาณของกระทรวงสาธารณสุขปีละกว่า 200 ล้านบาท สำหรับค่ารักษาพยาบาลของนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้ซื้อประกันเอาไว้ ขณะเดียวกันวีระศักดิ์เชื่อว่าระบบประกันภัยจะช่วยกระตุ้นผู้ประกอบการเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในธุรกิจท่องเที่ยวด้วยการท่องเที่ยวเชิงกีฬาของเราโตมาก เราจัดงานวิ่งและปั่นจักรยานปีละ 600 ครั้ง มีสัดส่วนชาวต่างชาติโตขึ้นเรื่อยๆ บางกิจกรรมมีคนต่างประเทศถึง 30% งานวิ่งมาราธอนบางงานเขาก็ลงทุนบินตรงเพื่อมาวิ่ง ตอนนี้มีมติคณะรัฐมนตรีแล้ว นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยแล้วสามารถข้ามแดนไปเที่ยวชายเแดนหรือประเทศเพื่อนบ้านและกลับเข้ามาใหม่ได้ นอกจากนี้ยังเสนอเรื่อง Double Entry Visa กรณีที่ต้องเดินทางไปกลับประเทศไทยบ่อยๆ เสนอให้ประทับตรา 1 ครั้ง จะเข้าไทยได้ 2 ครั้งใน 6 เดือน เหมาะกับคนที่มาเรียนทำกับข้าว เรียนมวยไทย มาประชุม พบทันตแพทย์ หรือศัลยกรรมความงาม ซึ่งต้องมามากกว่า 1 ครั้งอยู่แล้ววีระศักดิ์เน้นว่าสถานที่ท่องเที่ยวของไทยนั้นยังมีเสน่ห์ซ่อนอยู่อีกมาก โดยเฉพาะเมืองรองทั่วประเทศ กระทั่งกรุงเทพมหานครบางพื้นที่ก็ยังมีพื้นที่รองที่คนทั่วไปไม่รู้จัก เรารู้จักของกินที่เยาวราช แต่รู้ไหมว่าบึงกุ่มมีอะไรให้กิน เมืองรองก็มีระดับที่แตกต่างกันออกไป บางเมืองยังไม่มีกำลังที่จะรองรับนักท่องเที่ยว อาจจะเป็นเที่ยวเช้าเย็นกลับ บางที่ก็อาจจะค้างคืนได้ บางที่ก็ต้องทำกิจกรรมต่อเนื่องไปกับจังหวัดอื่น เดี๋ยวนี้คนไปเที่ยวป่าไม่ใช่ไปเพื่อดูป่าทั้งผืน แต่ไปดูต้นไม้เพียงต้นเดียว เช่น ต้นรังที่อายุร้อยปี ชาวบ้านก็ดูแลต้นไม้นี้เป็นอย่างดี เป็นชีวิตของพวกเขา ดูต้นไม้ก็สวยอยู่หรอก แต่สิ่งที่สวยงามไม่แพ้กันคือ วิถีชุมชนและน้ำใจของชาวบ้านในพื้นที่สำหรับคำแนะนำจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ถึงผู้ประกอบการคือ การสร้างความแตกต่างให้ชัดเจน โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเฉพาะด้านที่มีจุดขาย เช่น โรงแรมที่อนุญาตให้สัตว์เลี้ยงเข้าพักกับเจ้าของได้ หรือโรงแรมที่มีรูปปั้นหรือสิ่งดึงดูดใจที่เด็กๆ ชอบจนต้องขอให้ผู้ปกครองพาไป ไม่ควรเน้นการกดราคาขายให้ต่ำ แต่ต้องเน้นความพิเศษและแตกต่างที่ตัวผู้ประกอบการเชี่ยวชาญ ขณะเดียวกันต้องมีมาตรฐานและปลอดภัยด้วย การท่องเที่ยวเชิงคุณภาพของไทยไม่ควรเป็นการท่องเที่ยวราคาถูกอย่างเดียว ต้องมีพรีเมียมบ้าง ไม่ใช่ทำให้มันแพงจนคนไทยไปเที่ยวไม่ได้นะ คนไทยเป็นเจ้าของแผ่นดินต้องไปเที่ยวได้ด้วยถึงเวลามองการท่องเที่ยวของไทยในมุมใหม่ถึงเวลาที่ต้องสนใจเรื่องเที่ยวอย่างไร มากกว่ามีนักท่องเที่ยวอยู่เท่าไรเสียทีภาพประกอบ:พิสูจน์อักษร: อ้างอิง: | วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว. การท่องเที่ยวและกีฬา ให้สัมภาษณ์แบบเอ็กซ์คลูซีฟกับสำนักข่าว THE STANDARD ตอบตรงไปตรงมาเรื่องนักท่องเที่ยวจีนหดตัวส่วนที่หายไปคือนักท่องเที่ยวกรุ๊ปทัวร์บางกลุ่ม ขณะที่กลุ่มรายได้สูงและกลุ่ม FIT ยังเลือกมาเที่ยวประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง คาดนักท่องเที่ยวจีนทะลุ 10 ล้านคนแน่นอนเมืองรองเป็นกลยุทธ์สำคัญในการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนผ่านการท่องเที่ยวแบบกระจุกเป็นกระจายตัว | null | null | https://thestandard.co/chinese-tourist-case-to-second-city-travel/ |
สุดสัปดาห์พาแฟนเที่ยว เสิร์ฟ 7 งานกินดื่มเที่ยวสุดฟินรับสิ้นเดือน | พร้อมแล้ว เข้ามาเช็กลิสต์ทางนี้จ้า,1. Lalalove x Pa Kao Ma,ดับเบิ้ลยู ดาส บรั้นช์ สำหรับเดือนเมษายนถึงมิถุนายน เตรียมพบกับ Lalalove (ลาลาเลิฟ) แบรนด์เสื้อผ้าสตรีทผู้หญิงที่ทั้งเปรี้ยวและแตกต่าง ในสไตล์ที่ไม่เหมือนใคร มาพร้อมกับคอลเลกชั่นล่าสุด Lalalove x Pa Kao Ma ที่ได้หยิบเอาผ้าพื้นบ้านอย่าง ผ้าขาวม้า มาดัดแปลงให้มีความสนุกสนานและทันสมัยมากขึ้น ณ ห้องอาหาร เดอะคิทเช่นเทเบิ้ล โรงแรมดับเบิลยู,และยังจะได้พบกับลวดลายผ้าขาวม้าที่จะมาสร้างสีสันบนโต๊ะอาหาร พร้อมของตกแต่งแบบเก๋ๆ จากแบรนด์ Lalalove และพิเศษยิ่งขึ้นกับเมนูและเครื่องดื่มในสไตล์ไทยโมเดิร์น เช่น ข้าวห่อใบบัว และค็อกเทลยาดอง นอกจากนี้คุณยังได้สัมผัสคอลเลกชั่นใหม่ล่าสุดนี้อีกด้วย, ,ดับเบิ้ลยู ดาส บรั้นช์ มี 2 แพ็กเกจให้เลือกระหว่าง จัส ฟอร์ ฟู้ด (Just For Food) ราคาเริ่มต้น 2,500 บาทต่อท่าน (สำหรับอาหารพร้อมซอฟต์ดริ้งค์และน้ำผลไม้) และดิ เอ็กซ์พีเรียนส์ (The Experience) ราคาเริ่มต้น 3,100 บาทต่อท่าน (สำหรับอาหารพร้อมค็อกเทล ไวน์ เบียร์ และ สปาร์คลิ่งไวน์แบบไม่อั้น) เวลา 12.30-16.30 น. (วันที่ 22 เมษายน / 6 และ 20 พฤษภาคม / 3 และ 17 มิถุนายน)
,2. โปรโมชั่นห้องพักราคาพิเศษ,โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 ซึ่งโรงแรมฯ จะเปิดให้บริการครบ 5 ปี ในปี พ.ศ. 2560 ในโอกาสพิเศษนี้ ทางโรงแรมจึงประกาศเปิดสำรองห้องพักราคาพิเศษ โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 5,555 บาทต่อคืน สำหรับการเข้าพัก 1 ท่านในห้องพักแบบดีลักซ์ (Deluxe),ผู้สนใจสามารถสำรองห้องพักได้ที่แผนกสำรองห้องพัก โทร. 02 687 9000 หรือ เว็บไซต์ www.okurabangkok.com ระหว่างวันที่ 7-14 พฤษภาคม 2560 เท่านั้น โดยสามารถเลือกวันเข้าพักได้จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2560,สำหรับลูกค้าที่เลือกสำรองห้องพักแบบ คลับ (Club) เป็นต้นไป จะได้รับบริการที่คลับ เลาจน์ (Club Lounge) บนชั้น 33 ของโรงแรม ซึ่งให้บริการของว่างและเครื่องดื่มตลอดทั้งวัน เครื่องดื่มค็อกเทลยามเย็น เวลา 17.30-19.30 น. นอกจากนั้นยังได้รับบริการพิเศษอีกหลายรายการ อาทิ บริการซัก รีด เสื้อผ้า 2 ชิ้นต่อวันระหว่างที่เข้าพัก บริการ เช็กอิน (Check in) และ เช็กเอาต์ (Check out) ภายใน คลับเลาจน์ และบริการอื่นๆ อีกมากมาย,3. วันธรรมดาน่าเที่ยว 2560,ชวนมาพบกับงานมหกรรมท่องเที่ยวยิ่งใหญ่ประจำปี 2560 วันธรรมดาน่าเที่ยว และ Outdoor Fest โดย ททท. มีนโยบายในการการพลิกวันว่างเป็นวันเศรษฐกิจ ด้วยการส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วยการกระจายนักท่องเที่ยวออกสู่ช่วงนอกฤดูกาลหรือวันธรรมดาให้มากยิ่งขึ้น ระหว่างวันที่ 11-14 พฤษภาคม 2560 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ,ภายในงานพบกับ ผู้ประกอบการท่องเที่ยวรวมกว่า 500 แห่ง เช่น โรงแรมในเครือเซ็นทารา, Spring Field Group ชะอำ เพชรบุรี, Holiday Inn Pattaya ชลบุรี, Peace Laguna Resort & Spa ภูเก็ต, Sand Dunes Chaolao Beach จันทบุรี, เมอร์เคียว ไอบิส, Royal Cliff Hotels Group, Movenpick Resort & Spa ภูเก็ต,Banyan the Resort หัวหิน, Serenata Hotels & Resort Group, Cape & Kantary Hotels เป็นต้น,ร่วมโปรโมชั่นสุดพิเศษลดราคาวันธรรมดากว่า 50% สำหรับแพ็กเกจท่องเที่ยววันธรรมดานอกจากนั้นก็ยังมีสายการบิน สถานที่ท่องเที่ยว บริษัทนำเที่ยวเชิงผจญภัย ทัวร์ล่องแก่ง รวมไปถึงอุปกรณ์เพื่อกิจกรรม Outdoor และ Adventure แบบครบครัน ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ปีนเขา เดินป่า ตั้งแคมป์ จักรยาน และอีกมากมาย,4. ซินนาบอน ชิบส์ วิสต์ โฟร์สติ้ง ดิบ,วันนี้ - 30 มิถุนายน 2560 ชวนมาอร่อยสุดคุ้มกับ ซินนาบอน (Cinnabon) ขนมซินนามอนโรลรสชาติดีที่สุดในโลก ส่งขนมรูปแบบใหม่ล่าสุด ให้คนรักซินนามอนได้อร่อย ฟินสุดๆ ไปกับ ซินนาบอน ชิบส์ วิสต์ โฟร์สติ้ง ดิบ ซินนามอนรูปแบบใหม่ ชิ้นพอดีคำ อบกรอบ หอมกลิ่นซินนามอน พร้อมสนุกไปกับการจิ้มทานคู่กับ โฟร์สติ้ง ดิบ ครีมชีส นุ่ม หอม หวาน นุ่มละมุนสูตรลับเฉพาะของแบรนด์ซินนาบอน ให้คุณได้ อร่อย สนุกกรุบกรอบ กันไปทั้งวัน ในราคาเพียง 89 บาท เท่านั้น,5. คริสปี้ ครีม แมงโก้ โดนัท,วันนี้ - 31 พฤษภาคม 2560 ชวนมาอร่อยกับโดนัท คริสปี้ ครีม แมงโก้ โดนัท ที่เป็นการผสานอย่างลงตัวของโดนัทแสนอร่อยกับผลไม้มหัศจรรย์ของซีซั่นนี้ ทั้ง แมงโก้ ครีม เค้ก โดนัทเคลือบครีมมะม่วงเนียนนุ่ม โรยด้วยบิสกิตครัมบ์กรุบกรอบ และอร่อยเน้นๆ ด้วยมะม่วงเต็มคำพร้อมตกแต่งลวดลายด้วยคัสตาร์ด แมงโก้ ครีม โอริง โดนัทสูตรออริจินัล เพิ่มความมันจากครีมมะม่วงเข้มข้นและเนยครีมชีสพร้อมเนื้อมะม่วงสด และแมงโก้ แพสชัน โดนัทเคลือบด้วยเยลโล่ช็อคโกแลต ท็อปปิ้งด้วยพายชิพพร้อมลวดลายของคัสตาร์ด สอดไส้ด้วยครีมชีสมะม่วงสุดละมุน ในราคาเพียงชิ้นละ 35 บาท ณ ร้านคริสปี้ ครีม ทั้ง 26 สาขา,6. Thailand Comic Con 2017,วันที่ 21-23 เมษายน 2560 ชวนมาลุยร้อยเดียวเที่ยวทั้งงาน ชวนคุณมาสนุกกับกิจกรรมทั้งวันในงาน Thailand Comic Con 2017 ณ รอยัลพารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน พบกับของเล่นของสะสมจากทั่วโลก สนุกกับคอนเสิร์ตของศิลปินชื่อดังจากญี่ปุ่น และการประกวดการแข่งขัน ใกล้ชิดกับแขกรับเชิญและไอดอลคอสเพลย์เยอร์ที่คุณชื่นชอบ ช็อปปิ้งสบายกระเป๋ากับสินค้าโปรโมชั่นพิเศษภายในงาน พบกับกิจกรรมสนุกจากบูธต่างๆ อีกมากมาย พิเศษบัตรค่าเข้าเพียง 100 บาทเท่านั้น เที่ยวทั้งงาน สนุกทั้งวัน,7. Tasty Summer,วันนี้-26 เมษายน 2560 ชวนมาเที่ยวชิมอิ่มอร่อยในงาน Tasty Summer ณ ณ Market Hall, B1 Floor EmQuartier ภายในงานพบกับอาหารเด็ดหลากหลายเมนู เช่น อาหารไทยรสแซ่บจี๊ดอย่าง ส้มตำปู เผ็ดร้อน, ไก่ย่างหนังกรอบๆ และ อื่นๆ อีกมากมาย | มาเจอกันเป็นประจำทุกวันหยุดสุดสัปดาห์แบบนี้ ปฏิทิน ไทยรัฐออนไลน์ สรรหางานกิน ดื่ม เที่ยว น่าสนใจมาเสิร์ฟให้คุณถึงบ้าน มีโปรโมชั่นขนม เครื่องดื่ม มากมายมาให้เลือกกัน แล้วก็มีงานท่องเที่ยวและอีเวนต์ดีๆ อีกเพียบ | ไลฟ์สไตล์,อาหาร | ปฏิทินเที่ยว,โปรโมชั่นลดราคา,โปรโมชั่นร้านอาหาร,อีเวนท์ 2017,เที่ยวกรุงเทพ | https://www.thairath.co.th/lifestyle/food/promotion/919537 |
กลับจากถือศีลเข้าพรรษา สาวใหญ่เจอบ้านถูกงัด สูญทรัพย์สินเกือบ 4 ล้าน | เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 12 ก.ค.60 ร.ต.ท.(หญิง) พรพรรณ ปานประทีบ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งจาก ร.ต.ท.ประเนตร จานแก้ว ตำรวจประจำจุดบริการประชาชนตำบลปากแพรกฯ ว่ามีประชาชนมาแจ้งให้ทราบว่า ที่หลังหนึ่ง หมู่ 4 ต.ปากแพรก อ.เมืองฯ ถูกคนร้ายเข้าไปทำการโจรกรรมทรัพย์สินของมีค่าไปหลายรายการ มีมูลค่าเกือบ 4 ล้านบาท ขอให้ช่วยไปทำการตรวจสอบด้วย,หลังรับแจ้งจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท.ภุชงค์ ณรงค์อินทร์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ต.วิทวัช น้อยพานิช สว.สส.ฯ และกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนฯ ร่วมกับตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดฯ ร่วมเก็บหลักฐาน,ที่เกิดเหตุ เป็นบ้านแบบทาวน์เฮาส์ สูง 2 ชั้น รั้วรอบขอบชิด เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดพบว่า ที่บานประตูและหน้าต่างทุกบานภายในบ้าน ไม่มีร่องรอยการงัดแงะแต่อย่างใด รวมถึง ห้องนอนบนชั้น 2 ของตัวบ้าน บานประตูก็ไม่มีร่องรอยการถูกงัดแงะเช่นกัน แต่พบเพียงบานหน้าต่าง 1 บาน ที่อยู่บริเวณชั้นล่างซึ่งไม่สามารถลงกลอนได้ ส่วนที่ลิ้นชักช่องเก็บข้างที่นอน มีร่องรอยถูกงัดแงะข้าวของถูกรื้อค้น เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจเก็บหลักฐานลายนิ้วมือแฝงเพื่อติดตามหาเบาะแสของคนร้าย,เบื้องต้นจากการสอบสวนปากคำ นางเอ (นามสมมติ) อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านทราบว่า ก่อนหน้าที่จะรู้ตัวว่าบ้านถูกโจรกรรมทรัพย์สิน ตนได้เดินทางไปทำบุญถือศีลที่วัดในช่วงเทศกาลวันเข้าพรรษา และเดินทางกลับมาบ้านเมื่อช่วงเย็นวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา จนกระทั่งช่วงเช้าไปเปิดประตูห้องนอนก็พบว่าข้าวของภายในห้องและลิ้นชักช่องเก็บของมีร่องรอยรื้อค้น ทรัพย์สินหายไป 10 รายการ ได้แก่ 1.สร้อยเพชร 2 ชุด 2. สร้อยทองหนัก 1 บาท 2 เส้น 3.สร้อยข้อมือหนัก 1 บาท 1 เส้น 4.กำไลข้อมือหนัก 1 บาท 1 เส้น 5. พระเลี่ยมทอง 10 องค์ 6.แหวนเพชร 10 วง 7.จี้เพชร 10 อัน 8.ตุ้มหูเพชร 3 คู่ 9.นาฬิกาฝังเพชร 2 เรือน 10.แหวนเพชรแบบผู้ชาย 1 วง รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ถูกโจรกรรมไปเกือบ 4 ล้านบาท,หลังจากนั้น พล.ต.ต.คำรณ บุญเลิศ ผบก.ตร.ภ.จว.กาญจนบุรี ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ไพบูลย์ แพรสีนวล ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี ลงพื้นที่ประสานงานกับ ตร.สืบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อติดตามคนร้ายนี้แล้ว. | อาศัยช่วงเจ้าของบ้านไปถือศีลเข้าพรรษา ตีนแมวบุกบ้านสาวใหญ่ ที่กาญจนบุรี ยกเค้าทรัพย์สินทองรูปพรรณ เครื่องเพชร กว่า 10 รายการ มูลค่าเกือบ 4 ล้านบาท | ข่าว,อาชญากรรม | ยกเค้า,ขโมย,ถือศีลเข้าพรรษา,กาญจนบุรี,ขโมยขึ้นบ้าน,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1002765 |
รองผู้การนครสวรรค์ เผย สารวัตรแย้ เข้าให้ข้อมูลมีประโยชน์ต่อคดีมาก (คลิป) | ที่จังหวัดนครสวรรค์ ล่าสุดเมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 26 มิ.ย.2562 พ.ต.ท.พิเชษฐ เสาแบน หรือสารวัตรแย้ ได้เดินทางออกจากการให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน สภ.พยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ ได้เดินลงจากห้องประชุมเพื่อไปขึ้นรถยนต์ โดยระหว่างเดินไปที่รถยนต์ให้สัมภาษณ์ว่าอยู่ในกระบวนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และยืนยันว่าตัวเองบริสุทธิ์ เนื่องจากถูกกลั่นแกล้ง ด้านรูปคดีได้ให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนทั้งหมดแล้วคงต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่สอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามข้อมูลกว่า 3 ชั่วโมง แล้วก็ขึ้นรถยนต์ขับออกจาก สภ.พยุหะคีรี ไป,พ.ต.อ.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ ให้สัมภาษณ์ว่า สารวัตรแย้ได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อคดีมาก หลังจากนี้ก็จะต้องนำข้อมูลไปตรวจสอบที่ทางสารวัตรแย้ให้มา ไปตรวจสอบกับแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาใดๆ กับทางสารวัตรแย้ เนื่องจากสารวัตรแย้ยังอยู่ในสถานะพยาน ส่วนรูปคดีต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำงานซึ่งจะนำข้อมูลในวันนี้ไปรวมกับ เจ้าหน้าที่ ปส. เพื่อสรุปสำนวนให้เร็วที่สุด ,รองผู้การนครสวรรค์ กล่าวด้วยว่า ในด้านการสอบสวนสารวัตรแย้ได้ให้การถึงรายละเอียดเกี่ยวกับความขัดแย้ง แต่ทางเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง คาดว่าจะสรุปสำนวน และความคืบหน้าได้เร็วๆ นี้ | สารวัตรแย้ให้ข้อมูลกับตำรวจนครสวรรค์ ว่าตนเองถูกกลั่นแกล้งใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงก่อนรีบเดินทางกลับ ด้าน รองผู้การฯ เผยได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาก จะรีบรวบรวมเร่งสรุปสำนวนให้เสร็จโดยเร็ว | ข่าว,อาชญากรรม | สภ.พยุหะคีรี,นครสวรรค์,สารวัตรแย้,พิเชษฐ เสาแบน,ส่งยาบ้าทางไปรษณีย์,ถูกใส่ร้าย,แก๊งยาเสพติด,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1600680 |
ผู้ปกครอง ด.ญ.ถูกเพื่อนถีบตกน้ำดับ หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม | สืบเนื่องจากกรณีการจมน้ำเสียชีวิตของ ด.ญ.ปิยาพัชร หรือน้องเมย์ เปิดโปง อายุ 11 ขวบ สัญชาติไทย กับ ด.ญ.สุภาวดี หรือแหวน วาระทุม อายุ 12 ขวบ สัญชาติกัมพูชา ซึ่งถูกเพื่อนนักเรียนชาย วัย 11 ขวบ ถีบตกคลองประเวศบุรีรมย์ หน้ามัสยิดอัลเอี๊ยะติซอม ซอยอ่อนนุช 43 ถนนสุขุมวิท 77 แขวงและเขตสวนหลวง กทม. ต่อมา ครอบครัวผู้เสียชีวิตได้ประสานขอความช่วยเหลือ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี (องค์กรสาธารณะประโยชน์) พร้อมมอบเงินช่วยเหลือจำนวนหนึ่ง ตามปรากฏเป็นข่าวเสนอไปแล้วนั้น,ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (30 มี.ค.59) ที่กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม นายปิยะปวัต เปิดโปง อายุ 46 ปี นางรัตนา ชาวเขมร อายุ 24 ปี บิดามารดา ด.ญ.ปิยาพัชร พร้อมด้วย ตัวแทนมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เดินทางร้องเรียนต่อ นางกรรณิการ์ แสงทอง อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เพื่อขอความช่วยเหลือเยียวยาค่าเสียหายและเข้ารับคำปรึกษาข้อกฎหมาย,นางกรรณิการ์ เปิดเผยว่า การเดินทางมาวันนี้ของครอบครัวผู้เสียหายเนื่องจากไม่ทราบว่าข้อกฎหมายมีอะไรบ้างจึงมาเพื่อรับคำปรึกษา โดยทางกระทรวงยุติธรรมมีทนายความคอยให้คำแนะนำหรือข้อสงสัยต่างๆ เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรมในคดี เริ่มจากขั้นตอนเจรจาก่อนช่วยเหลือเยียวยาแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตแต่หากตกลงกันไม่ได้ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนเรื่องเงินชดเชยเยียวยาความเสียหายในคดีอาญานั้นเตรียมส่งเรื่องให้คณะกรรมการพิจารณาเพื่ออนุมัติเงินช่วยเหลือในลำดับต่อไป สำหรับผู้ที่กระทำความผิดเป็นขั้นตอนตามกฎหมายซึ่งเป็นคนละส่วนกัน,นางกรรณิการ์ กล่าวอีกว่า ตัวแทนมูลนิธิปวีณาหงสกุลฯ ได้มีการประสานงานพูดคุยกันตลอดเพื่อให้ความช่วยเหลือได้เร็วที่สุด นอกจากนี้ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ มีงบประมาณ 300 ล้านบาทต่อปี โดยหน่วยงานมีการทำงานเชิงรุกรับคำร้องเยียวยาค่าเสียหายจากผู้เดือดร้อนทำให้มีค่าตอบแทนสูงมาก มีจำนวนเงินติดค้างกว่า 200 ล้านบาทและกำลังขอสนับสนุนงบประมาณส่วนนี้ในการช่วยเหลือผู้เสียหายในรายต่อไป,ด้าน นายปิยะปวัต กล่าวว่า ตนขอความช่วยเหลือมูลนิธิปวีณาหงสกุลฯ เมื่อสัปดาห์ก่อนเพราะเกรงว่าอาจไม่ได้รับความเป็นธรรมในคดีความหลังทราบข่าวว่าเด็กก่อเหตุศาลอนุญาตปล่อยตัวไปแล้ว จึงมาติดต่อเพื่อปรึกษาข้อกฎหมายกับเจ้าหน้าที่กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ในวันนี้. | พ่อแม่เด็กหญิงถูกเด็กชายถีบตกน้ำดับ พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ เข้าขอคำปรึกษากฎหมาย-เงินเยียวยากับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรมทางคดี
| null | เด็กจมน้ำ,จมน้ำ,จมน้ำตาย,เพื่อนถีบตกคลอง,คลองประเวศบุรีรมย์,ร้องกรมคุ้มครองสิทธิฯ,ไม่ได้รับความเป็นธรรม,ขอคำปรึกษากฎหมาย,เงินเยียวยา,พ่อแม่,ผู้ปกครอง,เหยื่อ,มูลนิธิปวีณาฯ,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/598633 |
ก.พลังงานชี้ไทยเสี่ยงเผชิญปัญหาขาดก๊าซผลิตไฟฟ้า แนะห้างใช้ให้น้อยลง | วันนี้ (20 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสรายงานว่า ในการสัมมนาเรื่อง ผลกระทบและทางออกสัมปทานปิโตรเลียมหมดอายุ จัดโดย สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบาย และแผนพลังงาน หรือ สนพ. เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มีมติเปิดประมูลผู้รับสัมปทานผลิตก๊าซธรรมชาติในแหล่งบงกช และเอราวัณ ที่กำลังจะหมดอายุในปี 2565 เพื่อรักษาภาพลักษณ์ความโปร่งใส ทั้งที่ตระหนักถึงความเสี่ยงพลังงาน หลังจากประเมินว่า ช่วงรอยต่อการส่งผ่านระหว่างผู้รับสัมปทานรายเดิม ที่จะทยอยลดกำลังการผลิต และการลงทุน เพื่อส่งมอบให้ผู้รับสัมปทานรายใหม่ ส่งผลให้ ตั้งแต่ปี 2561-2565 คนไทย อาจเผชิญความเสี่ยงด้านปริมาณก๊าซไม่เพียงพอ กับประมาณการณ์ความต้องการใช้ก๊าซสำหรับผลิตไฟฟ้าขณะเดียวกัน การนำเข้าก๊าซแอลเอ็นจี เพื่อชดเชยปริมาณก๊าซที่หายไปจากระบบ อาจประสบปัญหาลงทุนสถานีขนถ่าย อาจไม่ทันต่อความต้องการใช้ไฟฟ้า ส่งผลให้อาจกระทบความเชื่อมั่นนักลงทุน ด้านการจัดหาไฟฟ้า และต้นทุนการผลิตไฟฟ้าแพงขึ้น จึงเตรียมแผนรับมือทั้งรณรงค์ประหยัดไฟอย่างจริงจัง โดยเบื้องต้นจะขอความร่วมมือเปลี่ยนอุปกรณ์ไฟฟ้าประหยัดพลังงาน หรือถึงขั้นบังคับให้เปลี่ยน รวมทั้งห้างสรรพสินค้า อาจกำหนดเวลาเปิดปิด เพื่อลดการใช้พลังงาน ตลอดจน นำเข้าก๊าซแอลพีจี เพื่อทดแทนการผลิต เป็นต้นขณะที่ นายฐิตินันท์ บุญปราโมทย์ หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมเหมืองแร่ และปิโตรเลียม คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ระบุว่า กพช.ควรกำกับให้ผู้รับสัมปทานรายใหม่ ต้องผลิตก๊าซต่อเนื่อง หลังมีมติยกเลิกสัมปทานและเปิดประมูลใหม่ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการขาดแคลน แต่เชื่อว่าการประมูลดังกล่าว จะได้ผู้รับสัมปทานรายเดิมก่อนหน้านี้เครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังไทย หรือ คปพ. ได้เรียกร้องให้รัฐบาลเปิดประมูลสัมปทานปิโตรเลียมอย่างโปร่งใส และแก้ไขกฎหมายปิโตเลียม 2 ฉบับ ก่อนจะมีการประมูล | กระทรวงพลังงาน ประเมินคนไทยเสี่ยงเผชิญปัญหา ด้านการจัดหาก๊าซเพื่อผลิตไฟฟ้า ช่วงรอยต่อสัมปทานปิโตรเลียมหมดอายุ และเปิดประมูลหารายใหม่ ในอีก 2 ปีข้างหน้า อาจต้องมีมาตรการบังคับอุปกรณ์ไฟฟ้า หรือ กำหนดเวลาเปิดปิดห้างสรรพสินค้า เพื่อลดการใช้พลังงาน | เศรษฐกิจ | ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,พลังงาน,ก๊าซธรรมชาติ | https://news.thaipbs.or.th/content/253377 |
อภิสิทธิ์ ย้ำจุดยืนพรรคเคารพเสียงข้างมากของประชาชน ยันไม่ขัดแย้งกับ กปปส. | อภิสิทธิ์ ย้ำจุดยืนตนเองและพรรคเคารพเสียงข้างมากของประชาชน ใครรวมเสียงเกินครึ่งจัดตั้งรัฐบาลได้ วุฒิสภาไม่ควรที่จะไปขัดขวางการจัดตั้งรัฐบาล ชี้เป็นการสร้างเงื่อนไขความขัดแย้งขึ้นใหม่ในสังคม 9 มิ.ย. 2560 รายงานว่า เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมาอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมพูดคุยในรายการ คนเคาะข่าว ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมนิวส์วันภายใต้หัวข้อ อนาคตการเมืองไทย อนาคตประชาธิปัตย์ ในมุมมองอภิสิทธิ์ ดำเนินรายการโดย เติมศักดิ์ จารุปราณอภิสิทธิ์กล่าวถึงกรณีมีสองขั้วความคิด สองแนวทางในการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง แนวแรกคือพรรคการเมืองจับมือกันไม่เอานายกฯ คนนอก อีกแนวหนึ่งคือบางพรรคไปจับมือกับ 252 ส.ว.ชูมือให้ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าค่อนข้างเร็วเกินไปที่จะไปพูดสูตรสำเร็จแบบนี้เพราะยังไม่ได้เลือกตั้ง เท่ากับว่าเราไม่เคารพเจ้าของประเทศที่จะใช้สิทธิเลือกตั้ง จุดยืนของตนและของพรรคก็คือเคารพเสียงข้างมากของประชาชน เพราะฉะนั้นถ้าพรรคการเมืองในสภาผู้แทนราษฎรรวบรวมเสียงได้ 250 เขาอาจจะเลือกตั้งก็ได้ เขาอาจจะได้จากการที่เขาเจรจา พูดคุยกับพรรคการเมืองก็ได้ แล้วเกิน 250 ตนเห็นว่าสมาชิกวุฒิสภาไม่ควรที่จะไปขัดขวางการจัดตั้งรัฐบาล เพราะเท่ากับเป็นการสร้างเงื่อนไขความขัดแย้งขึ้นใหม่ในสังคม พูดง่ายๆ ก็คือว่า คนเกินครึ่งเขาให้คะแนนเสียง คนกลุ่มนี้มาจัดตั้งรัฐบาลแล้ว ไปฝืนความต้องการของประชาชนมีแต่จะสร้างปัญหามากขึ้นในอนาคต ส่วนพรรคการเมืองจะจับได้ถึง 250 เสียงหรือไม่ 1. ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชนผลของการเลือกตั้ง 2. พรรคการเมืองที่จะจับมือกันเป็นรัฐบาล ก็ควรที่จะต้องมีอุดมการณ์ ความคิดที่นโยบายที่ไปด้วยกันได้ ไม่ใช่อยากจะเป็นรัฐบาลก็ไปรวมกันเพื่อจะเป็นโดยที่ไม่คำนึงถึงความแตกต่างในเชิงอุดมการณ์ เพราะฉะนั้นสำหรับพรรคประชาธิปัตย์ ข้อที่ 1 ภารกิจเรา เราต้องพัฒนาตัวเอง เสนอตัวให้เป็นทางเลือก ให้เป็นที่พึ่งที่หวังของคน มุ่งหวังที่จะให้คะแนนเสียงให้ได้มากที่สุดเกิน 250 ยิ่งดี ถ้าได้ไม่ถึงก็จะไปดูมีพรรคการเมืองไหนที่คิดว่ามีแนวคิดนโยบาย อุดมการณ์ที่จะไปด้วยกันได้ ถ้าเราสามารถรวบรวมเสียงได้ เราคิดว่าเราควรที่จะตั้งรัฐบาล ถ้าคนอื่นเขาทำได้เขาควรได้จัดตั้งรัฐบาลเมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยนี่ตัดออกไปเลยไหมสำหรับการร่วมรัฐบาลกับประชาธิปัตย์ อภิสิทธิ์ตอบว่า ตราบเท่าที่พรรคเพื่อไทยยังเป็นเครื่องมือของครอบครัวชินวัตร แล้วก็มีวาระในการที่จะปกป้องประโยชน์ของครอบครัวชินวัตรคงจะร่วมงานไม่ได้ อันนั้นเป็นเงื่อนไขแบบชนิดที่เรียกว่าไม่ต้องพูดอย่างอื่นเลย แต่สมมติว่าเกิดหลุดจากตรงนั้นมาได้ก็ต้องมาดูต่อว่านโยบายไปด้วยกันได้ไหม เพราะว่าถ้านโยบายไปด้วยกันไม่ได้ ไปเป็นรัฐบาลก็เป็นปัญหาอีก เท่ากับว่าทรยศประชาชน สมมติเรานโยบายไปทางซ้าย เขาบอกนโยบายไปทางขวา ถึงเวลามาเป็นรัฐบาลด้วยกัน แล้วประชาชนที่เขาจะเลือกมาเพราะพรรคหนึ่งบอกว่าไปทางซ้าย ประชาชนที่เขาเลือกบอกไปทางขวา เขาจะคิดอย่างไรอภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า 250 เสียงของวุฒิสภาควรที่จะมีบทบาทในเชิงของการไปเลือกก็ต่อเมื่อ 250 เสียงในสภาล่างมันไม่มี คือมันจับกันไม่ได้ ก็แปลว่าเหมือนกับปล่อยสภาผู้แทนราษฎรไป มันค้นหาไม่ได้ว่าใครควรที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ใครควรที่จะเป็นรัฐบาล อย่างนั้นคุณก็มาช่วยในฐานะสภาสูง แต่ถ้าพอ 250 แล้ว ส.ว.ไปตัดสินใจที่มันฝืนกับเสียงข้างมากของสังคม จะรับผิดชอบไหม ถ้ามีความขัดแย้งตามมาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ยังกล่าวด้วยว่า ตอนนี้ต้องยืนยันว่าไม่มี 2 ขั้วความคิดในพรรค ไม่มีขัดแย้งกับคนที่เคยไปทำงานกับ กปปส. วันนั้นทั้ง 8 ท่านมาที่พรรคเเล้วคุยกันอย่างนี้ แล้วไม่ใช่ตนพูดก่อน 1 ใน 8 พูดเองว่าวันนี้เมื่อเขามาทำงานกับพรรคประชาธิปัตย์ ในพรรคประชาธิปัตย์ในระบบพรรคการเมือง เขาต้องสนับสนุนแนวทาง เพราะนั่นคือแนวทางของพรรคการเมืองและแนวทางของพรรคประชาธิปัตย์ คนที่พูดคือคุณถาวร เสนเนียม แล้วตนก็บอกคุณถาวรเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์มาก่อนตน 20 กว่าปี เพราะฉะนั้นทราบดีว่าพรรคประชาธิปัตย์คืออะไร | อภิสิทธิ์ ย้ำจุดยืนตนเองและพรรคเคารพเสียงข้างมากของประชาชน ใครรวมเสียงเกินครึ่งจัดตั้งรัฐบาลได้ วุฒิสภาไม่ควรที่จะไปขัดขวางการจัดตั้งรัฐบาล ชี้เป็นการสร้างเงื่อนไขความขัดแย้งขึ้นใหม่ในสังคม แฟ้มภาพ | การเมือง | กปปส.,การเลือกตั้ง,นายกคนนอก,อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ,เสียงข้างมาก | https://prachatai.com/journal/2017/06/71862 |
ร้านค้าแบบออนไลน์-ออฟไลน์ ผสมกันแบบไหนถึงจะได้เปรียบคู่แข่ง | ช่วงที่ผ่านมาหลายปี เราจะได้ยินว่าธุรกิจที่มีหน้าร้านนั้นมีปัญหาเรื่องยอดขาย เพราะเจอคู่แข่งที่ทำธุรกิจออนไลน์มาแย่งจนหลายที่ต้องปิดกิจการไปเราเห็นข่าวแบบนี้มาหลายปีแล้ว โดยเฉพาะถ้ามาจากสหรัฐอเมริกา จะได้ยินมากเป็นพิเศษและเกือบทุกครั้งที่มีข่าวแบบนี้ หนีไม่พ้นที่ Amazon จะถูกยกชื่อขึ้นมาเกี่ยวข้องด้วยเกือบทุกครั้งจริงๆ ไม่ใช่เฉพาะธุรกิจค้าปลีก แต่ว่าธุรกิจอื่นๆ ที่มีข่าวว่า Amazon จะเข้าไปช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดเมื่อไร ทันใดนั้นมูลค่าบริษัทก็จะตกลงทันทีข้อมูลจาก Bloomberg QuickTake บอกว่า รวมๆ แล้วมูลค่าที่หายไปมีกว่า 50000 ล้านเหรียญสหรัฐวันก่อนผมได้อ่านรายงานของ CB-insights ชื่อ We analyzed 6 E-commerce Brands Breaking Into Brick-And-Mortar to understand the secrets to their success แล้วคิดว่ามีมุมที่น่าสนใจของเรื่อง Offline/Online ที่อยากมาเล่าต่อครับเราค่อนข้างจะคุ้นชินกับข่าวที่ Amazon เข้ามา Disrupt ธุรกิจต่างๆ ที่มีหน้าร้านให้หายไปเยอะแล้ว แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ ในงบไตรมาส 1 ของปี 2018 ที่เพิ่งผ่านมานี้ Amazon มียอดจากร้านที่ขายแบบออฟไลน์อยู่ถึง 4.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ จากยอดขายรวม 3.1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น 13% ซึ่งไม่น้อยทีเดียวโดยยอด 4.2 พันล้านเหรียญสหรัฐที่มาจากร้านค้าออฟไลน์อย่างเดียวในไตรมาสนี้นั้น มากกว่ายอดขายของห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ที่มีอายุยาวนานมากๆ อย่าง Sears หรือ JCPenney เสียอีกหรือถ้าจะมองในมุมนี้ก็ได้ครับผู้เล่นที่เคยทำตลาดออฟไลน์ปั่นป่วนไปหมดอย่าง Amazon วันนี้กลับมาทำตลาดออฟไลน์โดยมียอดขายจากตลาดนี้ดีมากๆ เรียกว่าเป็นหนึ่งในผู้นำของตลาด Brick and Mortar Store (ร้านค้าที่มีหน้าร้าน) เลยก็ว่าได้ครับจะว่าไปไม่ใช่เฉพาะ Amazon ครับ แต่ว่าพื้นที่ตามห้างระดับ Top 300 แห่งทั่วประเทศ สำหรับร้านค้าที่เดิมขายออนไลน์ แต่ตอนนี้มาขายออฟไลน์ด้วย มียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 1000% ในช่วงตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมาวันนี้ไม่อยากมาเล่าเรื่อง Amazon ครับ เพราะมีให้อ่านเยอะมากแล้วแต่วันนี้ขอมาเล่าเรื่องแบรนด์เสื้อผ้าผู้ชายแบรนด์หนึ่งชื่อ Bonobos ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี 2007 โดยมีเป้าหมายให้ผู้ชายเลิกซื้อของหน้าร้านแล้วเปลี่ยนมาซื้อออนไลน์แทน โดย Andy Dunn ซีอีโอและผู้ก่อตั้งเคยบอกไว้ว่า การมีหน้าร้านนั้นค่าใช้จ่ายสูงมากๆ ทำให้กำไรแทบไม่เหลือในบรรดาเคสของ Offline/Online Integration ทั้งหลายที่เคยอ่านมา ผมชอบเคสของ Bonobos มากเป็นพิเศษตัว Bonobos ก็ขายของได้ดีทีเดียวครับ เพราะย้อนกลับไปในปี 2010 บริษัทมียอดขายถึง 10 ล้านเหรียญ ซึ่งแน่นอนมาจากออนไลน์ล้วนๆแต่พอทำไปเรื่อยๆ เริ่มได้ฟีดแบ็กจากลูกค้าเยอะขึ้น จนพบว่ามีคนประมาณครึ่งหนึ่งของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของ Bonobos ที่อยากจะลองหรือจับเสื้อผ้าก่อนซื้อจริงๆForrester Research เคยทำข้อมูลพบว่า การซื้อสินค้าที่เกี่ยวกับธุรกิจแฟชั่นเกือบ 90% ยังเกิดขึ้นที่ร้านค้าที่มีหน้าร้านด้วยหลายสาเหตุทำให้ในปี 2011 Bonobos ตัดสินใจเปิดหน้าร้านของตัวเองเพื่อให้ลูกค้าได้มีโอกาสลองเสื้อผ้า โดยใช้ห้องโถงของออฟฟิศที่นิวยอร์กนี่แหละเพื่อทดลองดู และประหยัดดีด้วยโดยพวกเขาเรียกร้านนี้ว่า Guideshop เพราะมีไว้ให้ลอง และในร้านก็มีคนแนะนำลักษณะเสื้อผ้าให้ลูกค้าอย่างละเอียดด้วยปรากฏว่าเสียงตอบรับดีเกินคาด ลูกค้าที่มาซื้อมีจำนวนการซื้อต่อครั้ง (Basket Size) ขนาดใหญ่ โดยมียอดการซื้อเฉลี่ยอยู่ที่ 500-1000 เหรียญสหรัฐ ที่ตัวเลขค่อนข้างสูงอาจจะเป็นเพราะผู้ชายส่วนใหญ่ไม่ได้ซื้อของบ่อย ซื้อทีเลยซื้อเยอะแต่ทีเด็ดอยู่ตรงนี้ครับ ลูกค้าทุกคนไม่สามารถเอาของกลับบ้านได้วันนั้น ต้องรอ 1-2 วัน เดี๋ยวของจะถูกดำเนินการจัดส่งไปให้ที่ต้องทำแบบนี้เพราะที่ Guideshop ไม่มี Inventory ครับ มีแต่ของโชว์ปรากฏว่าคนโอเคกับโมเดลนี้ Bonobos เลยเปิดเพิ่มอีก ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และทยอยเปิดหน้าร้านเพิ่มเติม โดยปี 2018 นี้จะมีครบ 50 ร้านแล้วยอดขายโตไม่ต่ำกว่า 30% ต่อปีต่อเนื่องกันมาตลอด และล่าสุด Bonobos เพิ่งถูกซื้อกิจการไปโดย Walmartทีนี้ร้านที่ว่านี้ทำงานอย่างไรอันดับแรกเลยคือทาง Bonobos สนับสนุนให้คุณจอง ไกด์ ผ่านเว็บไปก่อน (แต่ไม่จองก็ได้) โดยเมื่อไปถึงแล้ว ไกด์คนนี้จะช่วยคุณเลือกเสื้อผ้า บอกทุกอย่างเกี่ยวกับการแต่งตัวให้คุณรู้ แนะนำเสื้อผ้าที่เหมาะกับรูปร่างของคุณให้ ฯลฯ โดยจะใช้เวลากับคุณแค่คนเดียวประมาณ 30-60 นาทีจุดนี้แหละครับที่ผมว่าเป็นจุดแข็งมากๆ เพราะว่าผู้ชายจำนวนมากไม่ค่อยได้ช้อปปิ้งและหาความรู้เกี่ยวกับเรื่องแฟชั่น เลยไม่ได้สนใจมากเรื่องการแต่งตัว พอมีคนแนะนำสูทที่เหมาะกับรูปร่าง กางเกงที่ดูดีไม่ลีบหรือหลวมเกินไป ขนาดของเสื้อที่เหมาะกับรูปร่าง ฯลฯ บางทีลุคเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลยครับเป็นประสบการ์แบบ 1-on-1 ที่มีลูกค้าจำนวนมากบอกว่า พวกเขาไม่เคยมีประสบการณ์ในการเลือกซื้อเสื้อผ้าที่ดีเท่านี้มาก่อนในชีวิตเลือกของเสร็จ ยังไม่ได้รับของนะครับ เพราะอย่างที่บอกครับ Guideshop ไม่มีสต็อก ไม่มีระบบแคชเชียร์แบบเป็นเรื่องเป็นราว มีแต่ไกด์ที่หน้าที่หลักคือการทำให้ลูกค้าเข้าใจเสื้อผ้าที่เหมาะกับตัวเอง เพื่อให้ไกด์ทุกคนทำงานอย่างอื่นน้อยๆ จะได้มีเวลาอยู่กับคนที่สำคัญที่สุดคือ ลูกค้า ครับการไม่มีสต็อกทำให้ร้านไม่ต้องใหญ่มากครับ และพอร้านไม่ใหญ่มันก็สามารถอยู่ในโลเคชันที่ดีมากๆ ได้เพราะค่าเช่ามันคุ้ม ทำให้สามารถเปิดร้านในพื้นที่ที่คู่แข่งอย่าง H&M อยู่ได้สบายๆ โดยมีต้นทุนค่าเช่าที่ต่ำกว่ามากH&M เพิ่งมีข่าวว่ากำลังปวดหัวมากกับ Inventory มูลค่า 4.3 พันล้านเหรียญ (ตามงบไตรมาส 1 ปี 2018) ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 8% ในขณะที่ยอดขายลดลงเล็กน้อย เรื่องนี้จึงต้องรีบจัดการ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวของที่มีอยู่จะตกเทรนด์ ซึ่งสินค้าคงคลังจำนวนมากนี้อยู่ที่หน้าร้านของ H&M ซึ่งมีกว่า 4700 สาขาทั่วโลกจะว่าไปร้านค้าของ Bonobos มีขนาดเล็กมากเมื่อเทียบกับคู่แข่ง อย่างร้านที่ใหญ่ที่สุดของ H&M นั้นมีพื้นที่ 63000 ตารางฟุต ในขณะที่ร้านที่ใหญ่ที่สุดของ Bonobos มีขนาดแค่ 4000 ตารางฟุตเท่านั้นเองเพราะฉะนั้นต้องบอกว่าโมเดลนี้ของ Bonobos ลดทั้งพื้นที่ ลดทั้ง Inventory ถือว่าทำได้ดีมากครับการที่ลูกค้ามาลองที่ร้านยังมีข้อดีมากอีกอย่างหนึ่ง เทียบกับการทำออนไลน์คือ ลูกค้าไม่ได้ความมั่นใจในการสั่งซื้อเฉพาะครั้งที่มาลองเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการสั่งซื้อในรอบต่อๆ ไปด้วย (เพราะรู้ไซส์และทรงแล้ว) จึงเป็นผลให้รอบการขายของ Bonobos นั้นเร็วกว่าคู่แข่งที่ทำออนไลน์อย่างเดียวกว่า 30% และมียอดจำหน่ายต่อคนต่อปีมากกว่าคู่แข่งที่ทำออนไลน์อย่างเดียวเกินสองเท่าจะว่าไปร้านค้าที่เริ่มต้นมาจากออนไลน์แล้วมามีหน้าร้านที่ใช้ความได้เปรียบด้านออนไลน์และใช้ประโยชน์ของหน้าร้านควบคู่กันนั้นมีจำนวนเยอะครับ และสิ่งที่เห็นได้ชัดคือยอดขายต่อตารางฟุตของร้านเหล่านี้สูงกว่าร้านที่มีหน้าร้านอย่างเดียว (Brick and Mortar Store) มากอย่างร้านแว่นออนไลน์ Warby Parker ตอนนี้ก็มีหน้าร้าน 74 แห่ง และมียอดขายต่อตารางฟุตอยู่ที่ 3000 เหรียญ ซึ่งมากกว่า Tumi (981 เหรียญ) หรือ Ralph Lauren (1061 เหรียญ) และสูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ราว 700 เหรียญต่อตารางฟุตอย่างมากล่าสุดเครื่องสำอางแบรนด์ดังอย่าง Glossier ที่เริ่มจากการขายออนไลน์อย่างเดียว ก็เปิดหน้าร้านที่นิวยอร์ก ที่มียอดขายต่อตารางฟุตอยู่ที่ 5000 เหรียญ รายนี้ได้พื้นที่สื่อไปเพียบ เพราะว่าโค่นแชมป์อย่าง Apple Store (4568 เหรียญ) ไปได้ผมเชื่อว่าตัวอย่างเหล่านี้น่าจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับหลายๆ ท่านในการปรับธุรกิจเพื่อนำทั้งออนไลน์และออฟไลน์มาใช้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าของท่านให้ดีที่สุดได้ครับ พรนภัส ชำนาญค้า | ในรายงานของ CB-insights ระบุว่า ในงบไตรมาส 1 ของปี 2018 Amazon มียอดจากร้านที่ขายแบบออฟไลน์อยู่ถึง 4.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ จากยอดขายรวม 3.1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น 13% ซึ่งไม่น้อยทีเดียวผู้เล่นที่เคยทำตลาดออฟไลน์ปั่นป่วนไปหมดอย่าง Amazon วันนี้กลับมาทำตลาดออฟไลน์โดยมียอดขายจากตลาดนี้ดีมากๆ เรียกว่าเป็นหนึ่งในผู้นำของตลาด Brick and Mortar Store (ร้านค้าที่มีหน้าร้าน) เลยก็ว่าได้ในบรรดาเคสของ Offline/Online Integration ทั้งหลาย เคสของ Bonobos มีความน่าสนใจมากเป็นพิเศษ เพราะเป็นหนึ่งตัวอย่างของร้านค้าที่เริ่มต้นมาจากออนไลน์แล้วมามีหน้าร้าน โดยใช้ความได้เปรียบด้านออนไลน์และใช้ประโยชน์ของหน้าร้านควบคู่กันได้อย่างมีประสิทธิภาพ | null | null | https://thestandard.co/offline-online-integration/ |
หนึ่ง ส่งซิงเกิล ล้ม ออดอ้อนคน อินเลิฟ | หนึ่ง-อภิวัฒน์ พงษ์วาท, มาพร้อมเพลงใหม่ล่าสุด, ล้ม, ภายใต้สังกัด โมโนมิวสิค ที่เจ้าตัวมาออดอ้อนแฟนเพลงให้อินเลิฟไปพร้อมๆกัน ,หนึ่ง, เผยว่า ที่ผ่านมางานค่อนข้างรัดตัวเลยไม่มีเวลาทำเพลงเดี่ยวของตัวเอง กว่าเพลงนี้จะเสร็จสมบูรณ์ก็ใช้เวลาค่อนข้างนานเลย ตอนนี้ผมพร้อมแล้วกับผลงานเพลงใหม่ ชื่อเพลงว่า ,ล้ม, เพลงนี้เล่าถึงประสบการณ์ความรักของผมเอง สมัยที่เริ่มมีความรักใหม่ๆ ก็เก็บเอาอารมณ์ช่วงนั้นมาเล่าให้ฟังเป็นเพลงครับ ซึ่งจะเล่าถึงเรื่องราวถ้าเรารักใครสักคนเราจะทุ่มเทจนหมดใจ เปรียบเทียบเหมือนเราล้มตัวไปหาคนที่เรารัก เพราะมั่นใจว่าคนคนนั้นจะสามารถรับเราได้ หรือเป็นที่พักพิงให้เราได้ เพลงนี้เป็นเพลงรักที่น่ารักๆ เหมือนเราอยากอ้อนคนรักให้อยู่กับเรา ฟังเพลงนี้แล้วอมยิ้มไปกับเพลงนี้แน่ๆ สำหรับดนตรีเพลงนี้เป็นแนวเพลงที่ผมอยากทำ รวมถึงดนตรีที่ผมร้องอัดเล่นด้วยตัวเองทั้งหมด อยากฝากให้แฟนเพลงได้สัมผัสผลงานที่เป็นตัวตนของผมอีกเพลงหนึ่งด้วยครับ. | กลับมาอีกครั้งตามคำเรียกร้อง หนึ่ง-อภิวัฒน์ พงษ์วาท มาพร้อมเพลงใหม่ล่าสุด ล้ม ภายใต้สังกัด โมโนมิวสิค ที่เจ้าตัวมาออดอ้อนแฟนเพลงให้อินเลิฟไปพร้อมๆกัน | null | หนึ่ง อภิวัฒน์,อภิวัฒน์ พงษ์วาท,เพลง ล้ม,เพลงใหม่,ฟังเพลง | https://www.thairath.co.th/content/888810 |
ศิลปินหลั่งน้ำตาแห่งอาลัย บุรินทร์ นำทัพขับขาน บทเพลงของพ่อ | ด้วยความอาลัยรักที่มีต่อพระองค์ท่าน บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์ พร้อมผองเพื่อน และ บมจ.เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ ร่วมกันขับขานและถ่ายทำมิวสิกวีดิโอ บทเพลงของพ่อ เพื่อแสดงความรักที่มีต่อพระองค์ และส่งมอบความรักเป็นกำลังใจให้คนไทยทุกคน,บทเพลงของพ่อ เนื้อร้องและทำนองโดย บอย ตรัยภูมิรัตน เรียบเรียงและควบคุมการผลิต โดย บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์ และ กันต์ รุจิ ณรงค์ โปรเจกต์เพลงพิเศษที่ได้เพื่อนศิลปินกว่า 20 เสียงคุณภาพ อาทิ ปุ๊ อัญชลี จงคดีกิจ, บี พีระพัฒน์ เถรว่อง, บอย พิษณุ นิ่มสกุล, สงกรานต์ รังสรรค์ ปัญญาเรือน, เก่ง ธชย ประทุมวรรณ, ปั่น ไพบูลย์-เกียรติ เขียวแก้ว, บิลลี่ โอแกน, โย่ง อนุสรณ์ มณีเทศ, กบ ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี, ทอม อิศรา กิจนิตย์ชีว์, ลุลา กันยารัตน์ ติยะพรไชย, เทียรี่ สุทธิยงค์ - เจสซี่ เมฆ เมฆวัฒนา, แปม ศิรภัสรา สินตระการผล, เพลง ธนิสสา อินทฤทธิ์, สปาย ภาสกรณ์ รุ่งเรืองเดชาภัทร์, ตุล ไวฑูรเกียรติ, วิน ศิริวงศ์, เป้ บดินทร์ เจริญราษฎร์, เต้ง พิชัย จิราธิวัฒน์, ดุ๋ง พาที สารสิน, อะตอม ชนกันต์ รัตนอุดม, เควิน กวิน อินทวงษ์, กานต์ นิภัทร์ กำจรปรีชา เข้าร่วม ถ่ายทอดบทเพลง,โดย บุรินทร์ ในฐานะ Executive Producer เผยว่า ดีใจและปลาบปลื้มมากๆที่โปรเจกต์ที่เราทำขึ้นมา โทร.หาเพื่อนๆ พี่ๆ ศิลปินทุกคนเพียงแค่ 2 วันเท่านั้นเอง แต่ทุกคนเสียสละร่วมใจกันมาทำให้สำเร็จให้ได้ ซึ่งจุดมุ่งหมายของโปรเจกต์นี้ เราเป็นศิลปินและในหลวงของเราก็ถือว่าเป็นคีตราชา ดังนั้นสิ่งที่ศิลปินไทยทุกคนทำได้ คือการทำเพลงขึ้นมาเพื่อเทิดพระเกียรติท่าน และอีกอย่างผมคิดว่าในช่วงเวลานี้ เราน่าจะมีเพลงเพลงหนึ่งที่เรามาร่วมกันร้องแสดงความรักที่มีต่อพระองค์ครับ บอย ตรัย ในฐานะผู้แต่งคำร้องและทำนอง เผยว่า เพลงนี้ความตั้งใจคือ อยากจะให้เป็นเพลงที่พูดถึงบทเพลงพระราชนิพนธ์ทั้งหลายของ ในหลวง ที่เมื่อเราฟังเมื่อไหร่ก็รู้สึกอบอุ่นใจทุกครั้งที่ฟัง และรู้สึกว่ายังใกล้ชิดกับท่าน และอยากให้เพลงนี้เป็นเพลงที่แทนความ รู้สึกของทุกคนในช่วงเวลานี้ว่า เราอยากจะส่งความรู้สึกที่ดีๆในมุมที่อบอุ่น ความจงรักภักดีต่อท่านผ่านเพลงนี้ครับ ปุ๊ อัญชลี เผยว่า รู้สึกว่าถ้าทำอะไรได้ให้กับพระองค์ท่านเป็นครั้งสุดท้ายก็อยากทำ เพราะว่าพระองค์ท่านยังคงอยู่ในใจเรา แม้เรายังเศร้าโศกอยู่ แต่เราควรจะทำอะไรบางอย่างที่ให้กำลังใจซึ่งกัน และกัน และส่งมอบความรักให้กับพระองค์ท่าน และเราเชื่อว่าบทเพลงนี้จะเป็นตัวแทนความรักของคนไทยทุกคน. | หลากหลายบทเพลงที่แต่งเพื่อแสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช แม้เนื้อร้องและท่วงทำนองจะต่างกัน มีสิ่งที่เหมือนกันคือ เหล่าศิลปินถ่ายทอดบทเพลงด้วยความรู้สึกเดียวกันคือ น้ำตาคลอเบ้า | null | บทเพลงของพ่อ,บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์,เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์,มิวสิกวีดิโอ,บอย ตรัยภูมิรัตน | https://www.thairath.co.th/content/764272 |
พลิกล็อก วาริกซ์ ทุ่ม 400 ล้าน คว้าลิขสิทธิ์ชุดแข่งช้างศึก | วันที่ 9 ก.ย. 59 บริษัท แพลนบี มีเดีย จํากัด (มหาชน) ผู้บริหารสิทธิประโยชน์สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ แถลงว่า ตามที่สมาคมฯได้ประกาศเชิญชวนให้ผู้สนใจเสนอแผนบริหารสิทธิประโยชน์พร้อมผลตอบแทน เงื่อนไขสินค้า และสินค้าที่ระลึกของสมาคมฯ จํานวน 3 กลุ่มสินค้า และมีผู้เสนอแผนฯจํานวน 4 ราย ที่มีคุณสมบัติครบถ้วน ได้เข้านําเสนอรายละเอียดของแผนและตอบข้อซักถามแก่คณะกรรมการฯ เมื่อวันที่ 8 กันยายน ที่ผ่านมานั้น ,ล่าสุด คณะกรรมการฯได้พิจารณาคัดเลือกเป็นที่เรียบร้อยและได้รายงานให้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ทราบแล้วดังนี้,1. บริษัท วาริกซ์ สปอร์ต จํากัด ได้รับสิทธิ์เป็นผู้ผลิตสินค้าและสินค้าที่ระลึก กลุ่มที่ 1 ประกอบด้วย ชุดแข่ง, ชุดซ้อม, ชุดลําลอง, ชุดเดินทาง, ถุงเท้า และ รองเท้า ของนักกีฬาทีมชาติไทยทุกชุด และเสื้อเชียร์ทีมชาติไทย เสื้อที่ระลึก ของสมาคมฯ เพื่อจำหน่ายแก่ประชาชนทั่วไป ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560-31 ธันวาคม 2563,2. บริษัท แกรนด์สปอร์ต กรุ๊ป จํากัด ได้รับสิทธิ์เป็นผู้ผลิต และจําหน่ายฟุตบอลสําหรับการแข่งขันฟุตบอลทุกรายการ ที่สมาคมฯให้การรับรอง และฟุตบอลที่ระลึกของสมาคมฯ เพื่อจําหน่ายแก่ประชาชนทั่วไป ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560-31 ธันวาคม 2563,3. สินค้าที่ระลึกอื่นๆ ไม่มีผู้เสนอแผนเพื่อขอรับสิทธิ์,การพิจารณาคัดเลือกผู้รับสิทธิ์ฯในครั้งนี้ คณะกรรมการใช้หลักเกณฑ์พิจารณาโดยให้ความสําคัญแผนงานที่นําเสนอ ควบคู่กับผลตอบแทน และได้เปิดโอกาสให้ผู้เสนอแผนได้นําเสนอข้อมูลแผนการผลิต แผนการจําหน่าย แผนการสนับสนุนสมาคมฯ และการมีส่วนร่วมพัฒนาฟุตบอลไทย เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการ ซึ่งการพิจารณาเป็นไปด้วยความเป็นธรรมแก่ผู้เสนอแผนทุกราย,สําหรับผลตอบแทนที่ บริษัท วาริกซ์ สปอร์ต จํากัด ผู้รับสิทธิ์สินค้าและสินค้าที่ระลึก กลุ่มที่ 1 เสนอให้แก่สมาคมฯ เป็นวงเงินรวมทั้งสิ้น 400 ล้านบาท แบ่งเป็นปีละ 100 ล้านบาท (เงินสด 40 ล้านบาท ผลิตภัณฑ์ 60 ล้านบาท) และ บริษัท แกรนด์สปอร์ต กรุ๊ป จํากัด ผู้รับสิทธิ์สินค้ากลุ่มที่ 2 เสนอให้แก่สมาคมฯ ฃเป็นวงเงินรวมทั้งสิ้น 44 ล้านบาท แบ่งเป็น ปีละ 11 ล้านบาท (เงินสด 1 ล้านบาท และ ผลิตภัณฑ์ 10 ล้านบาท) ซึ่งเป็นผลตอบแทนโดยรวมที่น่าพึงพอใจสําหรับคณะกรรมการ เมื่อเทียบกับผลตอบแทนที่สมาคมฯ เคยได้รับในอดีต,ขั้นตอนต่อไป บริษัท แพลนบี มีเดีย จํากัด (มหาชน) จะเชิญผู้ได้รับสิทธิ์ทั้ง 2 ราย เข้าทำสัญญาภายใน 7 วัน ตามที่สมาคมฯได้กําหนดไว้ หากผู้ได้รับสิทธิ์ไม่เข้าทําสัญญาตามกําหนด บริษัทฯจะถือว่าสละสิทธิ์ และจะเชิญผู้ที่ได้รับคะแนนเป็นลําดับถัดไปมาเจรจา เพื่อเข้าทําสัญญาแทนต่อไป ทั้งนี้ เพื่อให้การดําเนินงานของสมาคมฯเป็นไปตามแผนงานที่ได้วางไว้ | พลิกล็อกมโหฬาร! เมื่อ วาริกซ์ สามารถคว้าลิขสิทธิ์ชุดแข่งทีมชาติไทย หลังจ่ายหนักจัดเต็ม 4 ปี ทุ่มทุนมหาศาลถึง 400 ล้านบาท | null | วาริกซ์,วาริกซ์ สปอร์ต,นายกสมาคมกีฬาฟุตบอล,ประมูลเสื้อแข่งทีมชาติไทย,แกรนด์สปอร์ต กรุ๊ป,สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง,แพลนบี มีเดีย,สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย | https://www.thairath.co.th/content/717408 |
ศาลรับฟ้อง ผู้สมัคร ส.ส.สุราษฎร์ฯ ฟ้องกกต.ละเว้นปฎิบัติหน้าที่ | ศาลรับฟ้อง ผู้สมัคร ส.ส.สุราษฎร์ฯ พรรคเพื่อไทย ฟ้องกกต.กลางละเว้นปฎิบัติหน้าที่ ไต่สวน 21 เม.ย.นี้ ขณะที่ไม่รับฟ้อง จิตรา-ชาวดินแดง เตรียมอุทธรณ์-เดินสายฟ้องต่อ28 มี.ค.2557 หลังจากเมื่อวันที่ 21 มี.ค. นายชุมสาย ศรียาภัย สมาชิกพรรคเพื่อไทย และอดีตผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เขต 6 สุราษฎร์ธานี ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา เป็นโจทก์เดินทางมาที่ศาลอาญา รัชดา ยื่นฟ้องนายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. นายธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์ นายบุญส่ง น้อยโสภณ นายประวิช รัตนเพียร และนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. เป็นจำเลยที่ 1-5 ตามลำดับ ในความผิดฐานร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 พ.ร.บ.คณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2550 และพ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ. 2550 จากกรณีการรับสมัครรับเลือกตั้งในเขตดังกล่าวล่าสุดเมื่อวันที่ 27 มี.ค. นายโชคชัย อ่างแก้ว ทนายความนายชุมสาย แจ้งว่า ศาลรับคำฟ้องแล้วและนัดไต่สวนวันที่ 21 เม.ย.นี้โดยเหตุผลที่ยื่นฟ้องสรุปได้ว่า เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 56 - 1 ม.ค. 57 เป็นวันรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต จำเลย มีหน้าที่ที่จัดการและควบคุมดูแลการเลือกตั้งให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม และรักษาความปลอดภัยเพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมทำการขัดขวางการรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งจำเลยรู้อยู่แล้วว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมขัดขวางการรับสมัครเลือกตั้งทั้ง 6 เขต โดยวันเวลาตามฟ้องจำเลยจงใจไม่ออกประกาศหรือวางระเบียบที่จำเป็นต่อการจัดการเลือกตั้งตามที่กฎหมายกำหนด เช่น การออกคำสั่งไปยัง กกต.ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี หรือ ผอ.ประจำเขตเลือกตั้งจังหวัดสุราษฎร์ธานีให้ย้ายสถานที่รับสมัครไปยังที่ปลอดภัย เพื่อไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมทำการขัดขวาง โดยจำเลยมีอำนาจตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 มาตรา 236 (1) ประกอบ 235 และพ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ฯ มาตรา 36 ที่จะสั่งการและกำหนดสถานที่รับเลือกตั้งแห่งใหม่ เพื่อให้โจทก์และผู้ประสงค์สมัครรับเลือกตั้งสามารถทำการสมัครได้ และภายหลังจากระยะเวลาการรับสมัครดังกล่าวได้สิ้นสุดลง จำเลยที่รู้ดีอยู่แล้วว่าโจทก์และผู้สมัครอื่นไม่อาจสมัครรับเลือกตั้งดังกล่าวได้ แต่จำเลยก็ยังไม่ใช้อำนาจในหน้าที่ตามกฎหมายออกประกาศเพื่อขยายวันรับสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งการที่พวกจำเลยไม่ดำเนินการดังกล่าวทำให้โจทก์ไม่สามารถใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งที่เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญได้ และเมื่อมีการลงคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.เป็นการทั่วไปในวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมาแล้ว จำเลยก็ยังไม่ดำเนินการหรือสั่งการใดๆ ให้ กกต.ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี หรือ ผอ.ประจำเขตเลือกตั้งจังหวัดสุราษฎร์ธานี ดำเนินการรับสมัคร ส.ส.สุราษฎร์ธานี เขต 6การกระทำของพวกจำเลยจึงเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ และตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค. 56 นับจนถึงวันฟ้องจำเลยทั้งห้าก็ยังไม่ดำเนินการให้ กกต.ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี หรือ ผอ.ประจำเขตเลือกตั้งจังหวัดสุราษฎร์ธานี แจ้งความต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีหรือฟ้องคดีแพ่งและอาญาต่อกลุ่มผู้ชุมนุมที่กระทำความผิดโดยการขัดขวางการรับสมัครเลือกตั้ง ขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาลงโทษจำเลยตามกฎหมายต่อไป และให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นกำหนด 10 ปีหลังจากเมื่อวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่ศาลอาญารัชดา น.ส.จิตรา คชเดช ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชาธิปไตย พร้อมด้วยผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตดินแดง 4 คน ยื่นฟ้องกกต.เขต 6 ในพื้นที่ดินแดง ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่มีความพยายามในการจัดการเลือกตั้งให้สำเร็จล่าสุดเมื่อวันที่ 26 มี.ค. น.ส.จิตรา แจ้งว่า ศาลไม่รับฟ้อง ในคดีดังกล่าว โดยศาลเห็นว่าโจทก์ทั้ง 5 คน ไม่ได้บรรยายฟ้องถึงพฤติการณ์การกระทำความผิดหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือโดยทุจริตอย่างไร และจำเลยมีเจตนาพิเศษเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์หรือไม่อย่างไร จึงเป็นการบรรยายฟ้องที่ไม่แจ้งชัดถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยกระทำความผิดน.ส.จิตรา กล่าวด้วยว่าจะยื่นอุทธรณ์ต่อ พร้อมทั้งจะนำกรณีนี้เป็นบทเรียนในการยื่นฟ้องครั้งต่อไป โดยจะฟ้อง กกต.เขตราชเทวี ในข้อหาเดียวกัน และจะฟ้อง กกต.กลาง ด้วย | ศาลรับฟ้อง ผู้สมัคร ส.ส.สุราษฎร์ฯ พรรคเพื่อไทย ฟ้องกกต.กลางละเว้นปฎิบัติหน้าที่ ไต่สวน 21 เม.ย.นี้ ขณะที่ไม่รับฟ้อง จิตรา-ชาวดินแดง เตรียมอุทธรณ์-เดินสายฟ้องต่อ 28 มี.ค.2557 หลังจากเมื่อวันที่ 21 | การเมือง | กกต.,การเลือกตั้ง 2 ก.พ. 2557,จิตรา คชเดช,ชุมสาย ศรียาภัย,ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157,พรรคพลังประชาธิปไตย,ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่,โชคชัย อ่างแก้ว,ส.ส. | https://prachatai.com/journal/2014/03/52485 |
หนุ่มกระทุ่มแบน ขับกระบะตัดหน้าม้าเหล็ก ดวงเฮงรอดปาฏิหาริย์ | เมื่อเวลาประมาณ 14.30 น. ของวันที่ 3 ส.ค.58 ร.ต.ท.ชัยวัฒน์ ตุนชัยภูมิ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร รับแจ้งเหตุรถไฟชนรถกระบะที่ถนนเดิมบาง ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร รุดตรวจสอบ,ที่เกิดเหตุ เป็นถนนข้ามทางรถไฟ ซึ่งไม่มีเครื่องกีดขวางหรือสัญญาณเตือนแต่อย่างใด พบรถยนต์กระบะสีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน บธ 1581 กาญจนบุรี จอดอยู่ข้างรางรถไฟ สภาพรถกระโปรงด้านหน้าข้างขวามีรอยยุบ และโครงหลังคาพังยับเยิน คนขับทราบชื่อ นายองอาจ บุญเรือน อายุ 36 ปี ชาวบ้าน ม.2 ต.ดอนไก่ดี อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร,จากการสอบสวน นายองอาจ คนขับรถกระบะคันดังกล่าว ให้การว่า ตนนำสินค้ามาส่งที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร เมื่อขับรถมาถึงจุดเกิดเหตุได้เลี้ยวรถและตนก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย หันมาอีกทีก็ถูกรถไฟชนแล้ว โชคดีที่ตนไม่ได้รับบาดเจ็บ,ด้านพนักงานสอบสวน กล่าวว่า รถไฟคู่กรณีเป็นขบวนหมายเลข 4315 วิ่งระหว่างวงเวียนใหญ่ - มหาชัย ที่รถจะเข้าสถานีมหาชัย และก็บีบแตรให้สัญญาณมา แต่คนขับรถกระบะไม่ได้ยินจึงเกิดอุบัติเหตุขึ้น ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่คนขับรถกระบะว่าขับรถโดยประมาททำให้ทรัพย์สินเสียหาย ซึ่งจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป. | หนุ่มกระทุ่มแบน ขับกระบะข้ามทางรถไฟ ไม่มีเครื่องกั้น และไม่มีสัญญาณเตือน เจอรถไฟขบวน 4315 วงเวียนใหญ่ - มหาชัย ชนตกข้างทางอยู่ริมถนนสภาพพังยับเยิน เคราะห์ดี! คนขับรอดตายปาฏิหาริย์ | ข่าว,ทั่วไทย | กระบะโดนรถไฟชน,รถไฟขบวน 4315,อุบัติเหตุ,ประมาท,ข่าวทั่วไทย,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,รถไฟชนรถกระบะ,รอดตายปาฏิหาริย์,รถไฟชน,ข่าวสังคม,มหาชัย,สมุทรสาคร | https://www.thairath.co.th/news/local/515875 |
คลื่นซัดเรือล่ม ร่องน้ำเกาะไก่ นทท.ลอยคอ จนท.ช่วย-ปลอดภัยแล้ว | เวลา 12.30 น. วันที่ 1 มี.ค. 59 นายศรายุทธ ตันเถียร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ รับแจ้งมีเหตุเรือล่มบริเวณร่องน้ำเกาะไก่ ใกล้กับทะเลแหวกประมาณ 1 กม. หลังรับแจ้งมอบให้ นายปรารภ ยอดแก้ว หัวหน้าศูนย์บริการข้อมูลข่าวสารทะเลแหวก และเจ้าหน้าที่ประจำทะเลแหวก นำเรือหางยาวพร้อมด้วยเรือเอ 17 สังกัดสหกรณ์เรือหางยาวอ่าวนาง ที่อยู่บริเวณดังกล่าวออกไปให้การช่วยเหลือ ที่เกิดเหตุจุดเรือล่ม พบนักท่องเที่ยวลอยคออยู่ในทะเลกว่า 10 คน จึงช่วยกันนำขึ้นเรือเอ 17 ได้อย่างปลอดภัย จากนั้นนำนักท่องเที่ยวทั้งหมดกลับเข้าฝั่งที่ท่าเรืออุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่,จากการสอบถามทราบว่า เรือเกิดเหตุชื่อเรือกีต้า นำนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติไปเที่ยวตามโปรแกรมทัวร์ 4 เกาะ ที่ทะเลแหวก เกาะปอดะ แต่ระหว่างที่นำนักท่องเที่ยวไปถึงจุดดังกล่าวซึ่งเป็นร่องน้ำลึกและมีคลื่นลมแรง เรือถูกคลื่นซัดจนน้ำเข้าเรือและพลิกคว่ำ โชคดีที่มีเรือผ่านมา แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ออกไปให้การช่วยเหลือจนปลอดภัย ส่วนเรือลำเกิดเหตุไม่ได้จมเนื่องจากเป็นไม้ ทางชาวเรือได้ลากไปไว้ในที่ปลอดภัยป้องกันเรือลำอื่นชนแล้ว. | เรือทัวร์ 4 เกาะ ถูกคลื่นซัดน้ำเข้าเรือ บริเวณร่องน้ำเกาะไก่ ใกล้ทะเลแหวก ทำอับปาง นักท่องเที่ยวกว่า 10 คนลอยคอ ด้าน จนท.รุดเข้าช่วยเหลือทันทีหลังรับแจ้ง ปลอดภัยทุกคน | null | เรือล่ม,เรืออับปาง,เกาะพีพี,ศรายุทธ ตันเถียร,ทะเลแหวก,ร่องน้ำเกาะไก่,กระบี่,คลื่นซัดเรือล่ม,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย,ข่าวไทยรัฐ | https://www.thairath.co.th/content/584550 |
เพื่อนเก่า วิเอรา หวังหนีบ โคล ลุยศึกเมเจอร์ลีก | สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน วันที่ 9 ธ.ค. ว่า ปาทริก วิเอรา ว่าที่กุนซือป้ายแดงของทีม นิวยอร์ก ซิตี้ เอฟซี สโมสรชั้นนำของศึก เมเจอร์ลีก ซอกเกอร์ เตรียมหวนร่วมงานกับอดีตเพื่อนเก่าในทีม อาร์เซนอล อย่าง แอชลีย์ โคล เพื่อหวังโน้มน้าวให้ย้ายไปค้าแข้งบนดินแดนลุงแซมในฤดูกาลหน้า,โดยอดีตแบ็กซ้ายทีมชาติอังกฤษ วัย 34 ต้องกลายเป็นส่วนเกินของทีมหมาป่ากรุงโรม เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา หลังจากบอร์ดบริหารของทีมโรมา ตัดสินใจยอมปล่อยเจ้าตัวออกจากทีม แต่กลับยังไม่สามารถหาสโมสรใหม่เล่นได้ในฤดูกาลนี้,ล่าสุด สำนักข่าว เดลี เมล์ รายงานว่า ปาทริก วิเอรา ซึ่งตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งกุนซือทีมเยาวชนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพื่อย้ายไปคุมทัพ นิวยอร์ก ซิตี้ เอฟซี ในสหรัฐฯ และเตรียมเดินหน้าทาบทามอดีตเพื่อนร่วมทีมในทัพปืนโต เพื่อย้ายไปหาประสบการณ์ใหม่ที่ เมเจอร์ลีก ซอกเกอร์ ในฤดูกาลหน้า ซึ่งหากเจ้าตัวตอบตกลง ก็จะได้กลับไปร่วมงานอีกครั้งกับ แฟรงค์ แลมพาร์ด ซึ่งย้ายมาร่วมทีมก่อนหน้านี้,สำหรับ แอชลีย์ โคล ตกเป็นข่าวกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ แอสตัน วิลลา ในช่วงก่อนหน้านี้ เพื่อเข้ามากอบกู้วิกฤติ หลังจากแบ็กซ้ายคนสำคัญของทั้งสองทีมอย่าง ลุค ชอว์ และ จอร์แดน อมาวี ได้รับบาดเจ็บหนักด้วยกันทั้งคู่. | ปาทริก วิเอรา จ่อทาบทาม แอชลีย์ โคล อดีตเพื่อนชี้ในทีมปืนใหญ่ เพื่อย้ายมาร่วมทัพ นิวยอร์ก ซิตี้ เอฟซี ในซีซั่นหน้า หลังจากอดีตมิดฟิลด์ชาวฝรั่งเศสตัดสินใจเข้ารับงานเฮดโค้ชของทีมดังในศึกเมเจอร์ลีก เป็นที่เรียบร้อยแล้ว | null | ปาทริก วิเอรา,นิวยอร์ก ซิตี้ เอฟซี,เมเจอร์ลีก ซอกเกอร์,แอชลีย์ โคล,โรมา,แมนเชสเตอร์ ซิตี้,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์,แฟรงค์ แลมพาร์ด,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,แอสตัน วิลลา | https://www.thairath.co.th/content/546422 |
แรงงานนอกระบบ ภายใต้วิกฤตโควิด 19 เราไม่ทิ้งกัน จริง ๆ นะ | เพราะมาตรการหยุดการแพร่กระจายของโควิด19 ของรัฐบาลนั้น ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจใหญ่น้อย ต้องหยุดตามไปด้วย แรงงาน ที่เป็นคนเล็กคนน้อยเดือดร้อนกันไปทั่วหน้า ต้องกลัวทั้งโรคระบาด และกลัวอดตายไปพร้อมๆ กัน เมื่อกระทรวงการคลังประกาศมาตรการดูแลและเยียวยาผลกระทบจากไวรัสโคโรนา (COVID-19) ต่อเศรษฐกิจไทยทั้งทางตรงและทางอ้อม ระยะที่ 2 เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมาจึงนำความดีใจมาสู่ กลุ่มแรงงานนอกระบบโดยทั่วกัน สำหรับมูลนิธิเพื่อการพัฒนาแรงงานและอาชีพ และสมาพันธ์แรงงานนอกระบบ ประเทศไทย ซึ่งเกิดจากการรวมตัวกันขององค์กร และเครือข่ายแรงงานนอกระบบอาชีพต่างๆ เช่น หาบเร่แผงลอย มอไซด์รับจ้าง ลูกจ้างทำงานบ้าน ผู้รับงานไปทำที่บ้าน และผู้ผลิตสินค้าเพื่อขาย ช่างเสริมสวย และอาชีพอื่นๆ มีสมาชิกอยู่ประมาณสองหมื่นคน นั้นก็ไม่ต่างจากคนอื่นๆ พวกเราดีใจมาก ไม่ใช่แค่การได้รับเงินเยียวยา คนละ ห้าพันบาท เป็นเวลาสามเดือนเท่านั้น แต่ความยินดีของพวกเรามีมากกว่านั้น เพราะมาตรการที่ออกมาแสดงว่ารัฐบาลไทยตระหนัก และยอมรับถึงการมีอยู่ของแรงงานนอกระบบ หรือแรงงานอิสระว่าเป็นส่วนหนึ่งของสายพานเศรษฐกิจของประเทศ เพราะที่ผ่านมาถึงแม้ว่าสำนักงานสถิติแห่งชาติ จะรายงานว่าในปี 2562 ประเทศไทยมีผู้มีงานทําทั้งสิ้น 37.5 ล้านคนแบ่งเป็นแรงงานในระบบ 17.1 ล้านคน หรือร้อยละ 45.7 และเป็นแรงงานนอกระบบ 20.4 ล้านคน หรือร้อยละ 54.3 แต่ที่ผ่านมาแรงงานกลุ่มนี้ไม่ได้รับการกล่าวถึงจากภาครัฐ จึงแทบไม่พบอยู่ในแผนงานหรือนโยบายการพัฒนาของประเทศ การที่รัฐบาลมีมาตรการดูแลและเยียวยาแรงงานกลุ่มนี้ เช่นเดียวกับแรงงานในระบบ จึงถือเป็นเรื่องที่พิเศษ จริงๆ ที่รัฐ เห็นเขามีตัวตนอยู่ในสังคมและเห็นความเดือดร้อนของพวกเขาเช่นเดียวกับคนกลุ่มอื่นๆด้วยการสื่อสารที่ไม่ชัดเจนของรัฐบาล ประกอบกับความรู้เรื่องแรงงานนอกระบบที่มีจำกัด และการทำงานแบบต่างคนต่างทำ ของกระทรวงการคลัง กระทรวงแรงงาน และสำนักงานประกันสังคม ทำให้สังคมเกิดคำถามตามมามากมายว่า แรงงานนอกระบบหรือแรงงานอิสระนั้นคือใคร มีคุณสมบัติอย่างไร ผู้สูงอายุ ผู้ถือบัตรสวัสดิการของรัฐ เกษตรกร อยู่ในกลุ่มนี้หรือไม่ ผู้ประกันตนในมาตรา 39 และมาตรา 40 จะมีสิทธิไหม ทำไมรัฐจึงกำหนดจำนวนคนที่จะได้รับการช่วยเหลือไว้ 3 ล้านคน ตัวเลขนี้มาอย่างไร และการลงทะเบียนออนไลน์นั้นเขาจะทำได้ไหม? เพราะสำนักงานสถิติบอกว่าจำนวนร้อยละ 58 ของแรงงานนอกระบบจบการศึกษาไม่เกินประถมศึกษา และที่ผ่านมาขนาดเปิดให้ลงทะเบียนแบบปกติ ยังมีผู้ตกหล่นจำนวนมาก ถ้าลงทะเบียนออนไลน์คนเดือดร้อนจริงๆ จะตกหล่นมากแค่ไหน การใช้ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เป็นคนตรวจสอบว่าใครควรจะได้รับการช่วยเหลือ จะถูกต้องกว่าจริงหรือ ?ต้องยอมรับว่าเราผ่านความโกลาหลวุ่นวายจากการลงทะเบียนมาได้แบบไทยๆ ทั้งภาวะที่เวปล่มตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงแรกของการเปิดให้ลงทะเบียน หลายกรณีนายจ้างไม่ยอม ให้ลูกจ้างเอาชื่อของตนไปลงทะเบียนเพราะกลัวจะถูกไล่บี้เรื่องภาษี จนสรรพากรต้องออกมาชี้แจงตามหลังว่าจะไม่ทำเช่นนั้น ตัวแรงงานต่างดิ้นรนหาคนช่วยลงทะเบียน เท่าที่จะทำได้ และยังไม่รู้ว่าเมื่อผลการคัดกรองออกมา AI จะทำคนตกหล่นอีกเท่าไรณ 2 เมษายน มีคนติดเชื้อโควิด 19 ยังไม่ถึง สองพันคน แต่มีคนลงทะเบียนในเว็บไซด์ เราไม่ทิ้งกัน ถึง 23.4 ล้านคน แสดงว่า มีคนเดือดร้อนจากการขาดรายได้ และรายได้ลดลงจำนวนมาก และคนเหล่านั้นเชื่อว่าตนเองเป็นแรงงานนอกระบบและผู้ประกอบอาชีพอิสระตามที่รัฐกำหนด จนรัฐต้องออกมาประกาศขยายฐานการช่วยเหลือจาก 3 ล้านคน เป็น 9 ล้านคนณ เวลานี้ สิ่งที่แรงงานนอกระบบและสังคมไทยควรจะได้รับจึงไม่ใช่แค่งบประมาณหนึ่งแสนสามหมื่นห้าพันล้านบาทเท่านั้น แต่เราควรจะได้อะไรมากกว่านี้ อาทิเช่น กระทรวงแรงงานต้องแสดงบทบาทที่สำคัญในการออกมาอธิบายให้สังคมเข้าใจว่าแรงงานนอกระบบคือใคร เขามีบทบาทต่อเศรษฐกิจของประเทศอย่างไร ใหญ่ขนาดไหน ทำไมรัฐจึงต้องเข้ามาดูแล ฐานข้อมูลของคน 23.4 ล้านคนควรที่หน่วยงานของรัฐจะได้นำมาเป็นฐานข้อมูลเพื่อโอกาสข้างหน้าคนเหล่านี้จะได้เข้ามาอยู่ในระบบข้อมูลการพัฒนาของภาครัฐ ไม่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังอีกต่อไป ในภาวะปกติกระทรวงแรงงานควรเปิดให้มีการลงทะเบียนของแรงงานนอกระบบทั่วประเทศ เพื่อใช้ตรวจสอบว่า จริงๆ แล้วมีคนตกหล่นไปในครั้งนี้เท่าไร และเพื่อร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ กำหนดแผนงานและนโยบายในการพัฒนาอาชีพและคุ้มครองสิทธิและสวัสดิการที่เขาควรจะได้รับต่อไปในอนาคต บทบาทการดูแลแรงงานนอกระบบนั้น คงไม่ใช่รวมศูนย์อยู่ที่รัฐบาลกลางเพียงอย่างเดียว หน่วยงานอื่นๆก็มีบทบาทส่งเสริม พัฒนา และช่วยเหลือแรงงานเหล่านี้ในภาวะปกติและภาวะวิกฤตเช่นที่เกิดขึ้นนี้ได้เช่นกัน หน่วยงานที่ว่านี้ก็ไม่ใช่มีแต่กระทรวงแรงงานเท่านั้น กระทรวงอื่นๆ ทั้งกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สำนักงานกรุงเทพมหานคร ก็ควรจะมาแสดงบทบาทร่วมด้วยช่วยกันพัฒนาแรงงานนอกระบบที่มีมากกว่าครึ่งหนึ่งของกำลังแรงงานของไทยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าที่เป็นอยู่นี้ | เพราะมาตรการหยุดการแพร่กระจายของโควิด19 ของรัฐบาลนั้น ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจใหญ่น้อย ต้องหยุดตามไปด้วย แรงงาน ที่เป็นคนเล็กคนน้อยเดือดร้อนกันไปทั่วหน้า ต้องกลัวทั้งโรคระบาด และกลัวอดตายไปพร้อมๆ กัน | สังคม,แรงงาน,สิทธิมนุษยชน,คุณภาพชีวิต | แรงงานนอกระบบ,โควิด-19,พูลทรัพย์ สวนเมือง ตุลาพันธุ์ | https://prachatai.com/journal/2020/04/87130 |
เพื่อนผู้กำกับโชค | พ.ต.อ.โชคดี รักษ์วัฒนพงษ์ ผกก.สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ทำเสนอถึง ผอ.ศปก.ตร. ตามที่มีภาพแชร์กระฉ่อนสังคมออนไลน์,เหตุตั้งด่านตรวจบริเวณหน้าป้อมสายตรวจจราจร ต.ท่ายาง อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อเวลา 19.50 น. วันที่ 2 พ.ค.2562 ได้มีรถเก๋งฮอนด้า แอคคอร์ด ที่ปรากฏในคลิปผ่านมา ส.ต.ท.ธีรพงศ์ เพชรจันทร์ทอง ได้เรียกให้หยุดเพื่อขอตรวจสอบ, ,ภายในรถมีผู้นั่งมาด้วยกัน 2 คน เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ทราบภายหลังเป็น อธิบดีศาลอาญาทุจริตภาค 8 แจ้งกับ ส.ต.ท.ธีรพงศ์ว่า ได้กลับมาจากรับประทานอาหาร บ้านอยู่แถวนี้,เมื่อ ส.ต.ท.ธีรพงศ์จะขอดูบัตร เจ้าตัวเลยแจ้งให้ไปเรียกหัวหน้าชุดมา ระหว่างนั้น ส.ต.ต.เอกพล จุ้ยส่องแก้ว เข้ามาถ่ายคลิปและแจ้งแก่หัวหน้าชุดว่า รถคันนี้ไม่ยอมให้ดูใบขับขี่,พูดสำทับว่า ผมมีอำนาจเต็มนะครับ,เจ้าของรถเก๋งฮอนด้าแสดงตัวเป็นอธิบดีศาลอาญาทุจริตภาค 8 และระบุเป็น เพื่อนผู้กำกับโชค,ร.ต.อ.ไพศาล ใจห้าว หัวหน้าชุดเข้ามาถามว่า ผู้กำกับโชคไหน คู่ความยืนยันว่า ผู้กำกับโชคคนปัจจุบัน ไม่เชื่อไปถามดู,การจราจรเริ่มติดขัด ญาติผู้หญิงที่นั่งมาด้วยกำลังจะล้วงใบขับขี่แสดงตัว แต่ ร.ต.อ.ไพศาลไม่ได้ตรวจสอบเนื่องจากเข้าใจกันดีแล้ว และไม่มีการตรวจค้นแต่อย่างใด,พ.ต.อ.โชคดีทราบในเวลาไล่เลี่ยกันจึงประสานไป เพื่อขอโทษ พร้อมเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรมาทำความเข้าใจในการปฏิบัติหน้าที่ กำชับให้ใช้หลักรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ควบคู่กันไป ตลอดจนให้มีปฏิภาณไหวพริบในการตรวจค้นบุคคลและยานพาหนะ,อย่าให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการและหน่วยงาน,ต่อมาเมื่อวันที่ 7 พ.ค.2562 ผกก.สภ.ทุ่งใหญ่นำตำรวจทั้ง 2 นาย ไปพบเพื่อปรับความเข้าใจในการปฏิบัติหน้าที่ เจ้าตัวไม่ติดใจอะไร,ทว่าเรื่องไม่ได้จบแค่ตรงนั้น.,สหบาท | รายงานข้อเท็จจริงคลิปตำรวจในโลกโซเชียล พ.ต.อ.โชคดี รักษ์วัฒนพงษ์ ผกก.สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ทำเสนอถึง ผอ.ศปก.ตร. ตามที่มีภาพแชร์กระฉ่อนสังคมออนไลน์ | null | เพื่อนโชค,เพื่อน ผกก.,อธิบดีศาล,เพื่อนผู้กำกับโชค,ตำรวจทุ่งใหญ่,ส่องตำรวจ,สหบาท | https://www.thairath.co.th/news/local/1565925 |
นพ.วรงค์ร้องกระทรวงพาณิชย์ ตั้งกก.สอบเหตุเผาข้าวทิ้ง ในจ.พิษณุโลก | นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกับไทยพีบีเอส กรณีข้าวในโครงการรับจำนำปี 2551 ถูกนำไปเผาทิ้งหลายพันกระสอบ บริเวณริมคลองชลประทานส่งน้ำพญาแมน ต.วัดโบถส์ อ.วัดโบถส์ จ.พิษณุโลก โดยตั้งข้อสังเกตุถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นว่าอาจเป็นการทำลายหลักฐาน เพราะเป็นการทิ้งที่ผิดธรรมชาติ อีกทั้งยังเร่งรีบขนย้าย ด้วยการใช้รถแบ็คโฮเข้าไปตักออก และการที่กระสอบข้าวส่วนใหญ่ถูกผ่าออก ตั้งข้อสังเกตุที่อาจมีความเป็นไปได้ว่า มีการนำข้าวไปเวียนเทียนส่วนที่หัวหน้าคลังสินค้า อ.ต.ก. จังหวัดพิษณุโลก ชี้แจงว่า ได้จ่ายข้าวสารให้ผู้ซื้อ คือ บริษัทไพศาลธัญกิจ จำกัด เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2555 จำนวน 13000 ตัน แต่พบข้าวสารเปียกน้ำจำนวน 1300 ตันเศษ จึงไม่ได้ขนย้ายข้าวสารออกจากโกดัง การชี้แจงดังกล่าวยิ่งทำให้มีข้อสงสัยมากขึ้น จึงไม่มั่นใจในกระบวนการขายข้าวว่าเป็นไปอย่างถูกต้อง มีการลักลอบขายหรือไม่ เพราะ ปกติการขายข้าวของรัฐบาลต้องมีการประกาศอย่างเปิดเผยน.พ.วรงค์เรียกร้องไปยังกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการรับจำนำข้าว ให้ดำเนินการตรวจสอบกรณีที่เกิดขึ้นและชี้แจงต่อสังคม และควรตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าว เพื่อให้เกิดความโปร่งใสขณะกรณีที่ชาวนาภาคกลาง เคลื่อนไหวเรียกร้องให้รัฐบาลขยายเวลารับจำนำข้าวรอบใหม่นั้น เห็นด้วยกับข้อเรียกร้องดังกล่าว เพราะไม่เช่นนั้นชาวนาที่เก็บเกี่ยวข้าวไม่ทันภายในวันที่ 15 กันยายนถูกตัดสิทธิ ซึ่งไม่เป็นธรรมกับชาวนา ดังนั้นรัฐบาลจึงควรขยายเวลารับจำนำข้าวรอบใหม่ออกไป | ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ชี้กรณีพบข้าวหลายพันกระสอบถูกเผาทิ้งในจ.พิษณุโลก อาจเป็นการทำลายหลักฐาน และเป็นไปได้ที่นำข้าวไปเวียนเทียน พร้อมเรียกร้องกระทรวงพาณิชย์ให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ เพื่อความโปร่งใส | การเมือง | จำนำข้าว,พิษณุโลก,วรงค์ เดชกิจวิกรม,เผาข้าว | https://news.thaipbs.or.th/content/196067 |
ไอซ์ อามีนา เลิกแล้ว แฟนไฮโซ | สวยคมจนสะดุดตา ไอซ์ อามีนา กูล เป็นลูกครึ่งไทย-ปากีสถานนางเอก ดั่งพรหมลิขิตรัก ช่อง 3 งามสะดุดหัวใจขนาดนี้ มาลัยไทยรัฐไม่ปล่อยให้คนสวยลอยนวล มาส่องความสาวสวยคมของ ไอซ์-อามีนา มองให้ลึกในแววตา เชื่อว่าหนุ่มๆต้องมีสะท้านหัวใจกันมั้งล่ะวุ้ย,ไอซ์ มีดีกรีมิสมอเตอร์โชว์ ปี 2010 การันตีความสวย สูง หุ่นดี เข้าวงการมาแล้ว 5 ปี ไอซ์ ฝากผลงานการแสดง ในเรื่อง พลับพลึงสีชมพู โดยไอซ์รับบทเป็นนางเอกเต็มตัวครั้งแรก และละครเรื่อง พิรุณพร่ำรัก เมื่อไม่นานมานี้ พิมลแข จากละคร เกมเสน่หา จนมาถึงเรื่อง ล่าสุด ดั่งพรหมลิขิตรัก ปีนี้ ไอซ์อายุ 25 ปี ฮอตงานชุกขนาดนี้ ดวงในปีเบญจเพสของไอซ์ นั่นแสนปัง,แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ดวงงานรุ่ง แต่รักร่วง ไอซ์ อัปเดตสถานะหัวใจกับไฮโซนักธุรกิจหนุ่ม ไผ่-พงศ์วรุฒน์ ปังศรีวงศ์ ทายาทหนุ่มหล่อแห่งเครือเกษมกิจ เจ้าของอสังหาริมทรัพย์หลายแห่ง รวมทั้งโรงแรมในเครือเคปและแคนทารี่ รับลดสถานะเหลือแค่เพื่อนมาร่วม 4 เดือนแล้ว อั้ยย่ะ สวยแล้วโสด โปรดอดใจรอสักครู่ ดูสิว่าหนุ่มคนไหนจะอาสามาดามหัวใจ ไอซ์ ให้กลับมาสดใสแข็งแรงเช่นเคย ส่งภาพ ไอซ์ สวม ชุดสวยๆจาก Bchu Runway และ SENAES STUDIO ให้หนุ่มๆยลความงาม เดี๋ยวก็มารุมขายขนมจีบเพียบเองแหละ (อิอิ),แต่ต้องบอกก่อน ไอซ์ ออกตัวเธอเป็นคนหน้านิ่ง จะกล้าเล่นกับเพื่อนที่สนิทๆ จริงๆไอซ์ดูนิ่ง เพราะคิดเยอะและเกรงใจ กลัวคนอื่นไม่อยาก คุยด้วยเลยไม่กล้าเข้าหาใคร จน ไอซ์ โดนว่า นิ่งไปนะ แต่ ไอซ์ ยืนยัน นิ่งแต่ไม่ได้คิดอะไร เวลาต้องร่วมงานคนอื่นๆ เช่นเป็นละครเรื่องใหม่ ไอซ์ จะพยายามทำความรู้จักทุกคน เพื่อทลายกำแพงหน้านิ่งแต่สวยลงให้ได้,ถูกถามว่า ตัวจริงเป็นสายมโนเหมือน ในละครมั้ย? ไอซ์ บอก ณ ตอนนี้เป็นค่ะ เป็นสายมโนว่าเป็นนางเอกเกาหลี จะไม่ได้มโนเป็นนางเอกคนไหนแต่จะมโนกับพระเอกเกาหลีคนไหนมากกว่า อีจงซอก เพื่อนทุกคนรู้ชอบคนนี้ เพื่อนถามว่าอยากไปเจอมั้ย คงไม่ ขอชอบแบบห่างๆก็พอ ชอบแบบเงียบๆก็พอค่ะ ถ้าเกิดได้คงกรี๊ดสลบและขอถ่ายรูปก่อน มีความฝันอยากจะเจอเหมือนกัน แต่พอรู้ว่าชอบพระเอกเกาหลีคนนี้ เพื่อนจะบอกว่าหนูเด๋อค่ะ อย่างหนูอยู่ในแก๊งป้า จะมี ณิชา-ณัฏฐณิชา, แยม-มาทิรา, น้ำตาล-พิจักขณา, วาววา,สวยแต่ชื่อแก๊งป้า? ชื่อแก๊งเริ่มมาจากทุกคนเป็นคนเอื่อยๆ เฉื่อยๆ ทำตัวแบบป้าๆ ป้าวาแก่สุดทุกคนเลยเรียกว่าป้าวา พอเรามีทริปไปทะเลกัน ไม่รู้จะใช้ชื่อแก๊งว่าอะไรเลยใช้แก๊งป้าแล้วกัน ตั้งแต่นั้นเลยเป็นแก๊งป้ามาตลอด แต่ถ้าถามถึงอาการเด๋อ ไอซ์ยกมือรับ ทำอะไรเด๋อๆ พูดเด๋อๆ คือหนูเป็นคนเข้าใจอะไรยากใครคุยอะไรมา เล่นมุกอะไรมาจะเข้าใจอะไรช้า ต้องเตี้ยมกันก่อนที่จะเล่นมุก ถ้ายิงมาแล้วให้หนูยิงกลับรับรองแป้กไม่สนุกหรอกเพราะหนูไม่ค่อยทัน จะ แกล้งอะไรต้องบอกก่อนนะ ก็อยากจะทันนะแต่ไม่ทันก็ได้จะได้เป็นคนไม่ต้องคิดเยอะไง (หัวเราะ),สถานภาพโสด แล้วคนเข้ามาจีบล่ะ? ไม่มีเลยค่ะ อาจจะไม่เจอใครช่วงนี้ละครออนแอร์ โปรโมตนั่นนี้ไม่ได้ไปเจอใคร เจอเพื่อนก็กลุ่มเดิมๆ ไม่ได้มีใครเพิ่มเติม เพื่อนสนิทไม่มีใคร แนะนำใครเพราะรู้ว่าหนูจะต้องเจอเอง แนะนำได้แต่ถ้าหนูไม่ชอบคือไม่ชอบ ไม่คุยเพราะไม่อยากให้คนอื่นเสียเวลา ไม่ได้มีกำแพงตอนนี้แค่ติดซีรีส์ ไม่มีเวลาจริงๆ ไม่มีเวลาให้ใคร แค่เอนจอยกับเพื่อนกับมาดูซีรีส์แค่นี้ก็หมดเวลาแล้ว,โสดมาแล้ว 6 เดือนค่ะ ไอซ์ ชักเริ่มชิน แต่เธอยอมรับ ตรงๆ เริ่มเหงานิดนึง ตอนนี้เวลาเรามีเรื่องให้เราโฟกัส มีแว้บๆบ้าง เหงาก็เจอ เพื่อน หาอะไรทำ ไอซ์ ยืนยันโสดไม่ได้แย่ขนาดนั้น | สวยคมจนสะดุดตา ไอซ์ อามีนา กูล เป็นลูกครึ่งไทย-ปากีสถานนางเอก ดั่งพรหมลิขิตรัก ช่อง 3 งามสะดุดหัวใจขนาดนี้ | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | ไอซ์ อามีนา,ไอซ์ อามีนา กูล,ดั่งพรหมลิขิตรัก,พงศ์วรุฒน์ ปังศรีวงศ์,มาลัยไทยรัฐ,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1376819 |
บุกรวบคารีสอร์ต บรรยิน ร่วมฆ่าเสี่ยชูวงษ์ | แฉพนักงานสอบสวนเพิ่งรวบรวมหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับได้ก่อนเข้าจับกุมวันเดียว ขณะที่เจ้าตัวเครียด ขอให้การชั้นศาล ยืนยันว่าตัวเองบริสุทธิ์ ด้านพี่สาวและภรรยาเหยื่อเดินทางมาขอบคุณตำรวจถึงกองปราบฯ รับโล่งใจที่จับคนร้ายได้ หลังรอความยุติธรรมมาเป็นปี,กรณีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ขณะนั่งมาในรถยนต์เลกซัส สีดำ ทะเบียน ภฉ 1889 กรุงเทพมหานคร ที่มี พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ เป็นผู้ขับขี่ เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สน.อุดมสุข มีความเห็นว่าเป็นคดีอุบัติเหตุ แต่ญาติไม่เชื่อเข้าร้องเรียน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.ขณะนั้น ให้รื้อฟื้นคดี เนื่องจากยังติดใจสาเหตุการเสียชีวิต รวมทั้งพิรุธการโอนหุ้นให้กับ น.ส.ศรีธรา พรหมา พริตตี้สาวคนสนิท และ น.ส.อุรชา หรือป้อนข้าว วชิรกุณฑล โบรกเกอร์ผู้ดูแลหุ้นกว่า 300 ล้านบาท จึงแจ้งความร้องทุกข์กองปราบปรามดำเนินคดีกับหญิงสาวทั้ง 2 คน และ พ.ต.ท.บรรยิน ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ไปแล้ว และเริ่มตรวจสอบหาข้อพิรุธการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ โดยใช้หลักฐานทางวิทยาศาสตร์และการตรวจพิสูจน์ของผู้เชี่ยวชาญตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น,ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 28 มิ.ย. พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รรท.ผบก.ป. และ พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย รอง ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.รัชภูมิ กุสุมาลย์ รองผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.มนูญ แก้วก่ำ สว.กก.1 บก.ป. พ.ต.ต.กิติเมศร์ โชติปิติเจริญรัฐ สว.กก.1 บก.ป. พร้อมกำลังนำหมายจับศาลจังหวัดพระโขนงที่ จ401/59 ลงวันที่ 27 มิ.ย. เข้าจับกุม พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์ อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่น เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้บริเวณลานจอดรถหน้าทาวสแควร์ สวีท รีสอร์ตเขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ขณะเดินอยู่กับ น.ส.อุรชา หรือป้อนข้าว วชิรกุณฑล โบรกเกอร์สาวคนสนิท ซึ่งเป็นผู้ต้องหาร่วมกับ พ.ต.ท.บรรยิน ในคดีโอนหุ้นของนายชูวงษ์,พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1 บก.ป. กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากชุดคลี่คลายคดีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ กระทั่งศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ควรออกหมายจับ พ.ต.ท.บรรยิน ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์ อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่นเพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ ต่อมาชุดสืบสวนสืบทราบว่า พ.ต.ท.บรรยินมาพักที่รีสอร์ตดังกล่าวจึงนำกำลังเข้าจับกุม ก่อนนำตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติม และจะมีการแถลงข่าวในเวลา 13.00 น. ที่กองบังคับการปราบปราม,ต่อมาเวลา 12.30 น. ชุดสืบสวนกองปราบปรามควบคุมตัว พ.ต.ท.บรรยินมาถึงกองบังคับการ ปราบปราม โดย พ.ต.ท.บรรยินถูกคุมตัวมาในรถยนต์นิสสัน เทียน่า สีขาว หมายเลขทะเบียน 2 กท 2151 กรุงเทพมหานคร ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยของตำรวจ ทันทีที่ พ.ต.ท.บรรยินมาถึง มีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด ถูกคุมตัวไปพิมพ์ลายนิ้วมือและทำประวัติ ก่อนถูกนำตัวมาให้ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. รองผบช.ก. และ พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รรท.ผบก.ป.สอบปากคำใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง ก่อนให้พนักงานสอบสวนนำตัวไปสอบปากคำต่อ พ.ต.ท.บรรยินกล่าวเพียงสั้นๆว่า ไม่รู้สึกเครียดอะไร ตนไปตีกอล์ฟกับกลุ่มเพื่อนเท่านั้น และยืนยันว่าตนไม่ได้เป็นคนทำ,พล.ต.ท.ฐิติราชเผยว่า ตำรวจกองปราบปรามมีหลักฐานสำคัญ อาทิ ภาพจากกล้องวงจรปิดหลายส่วนประกอบกัน ที่ชุดสืบสวนได้หลักฐานมาแต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ชุดคลี่คลายคดีได้นำไปให้ศาลพิเคราะห์ก่อนศาลพิจารณาออกหมายจับ และนำไปสู่การจับกุมเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทั้งนี้ จากการสอบปากคำเบื้องต้น พ.ต.ท.บรรยินยืนยันว่า ขอให้การในชั้นศาลซึ่งเป็นสิทธิของผู้ต้องหา หลังจากนี้จะนำผู้ต้องหาไปขออำนาจศาลฝากขังที่ศาลจังหวัดพระโขนง ส่วนสำนวนคดีชุดคลี่คลายคดีจะรวบรวมสำนวนส่งอัยการพิจารณา อย่างไรก็ตามขณะนี้พบว่ามีผู้เกี่ยวข้องเพียงคนเดียว ที่เหลือเป็นหน้าที่ของชุดสืบสวนและพนักงานสอบสวนในรายละเอียดยังไม่ขอระบุ,มีรายงานว่า สำหรับหลักฐานที่นำมาสู่การจับกุม พ.ต.ท.บรรยินครั้งนี้คือ ภาพกล้องวงจรปิดในวันที่เกิดเหตุ ตามเส้นทางตั้งแต่สนามกอล์ฟถึงจุดเกิดเหตุ จากการตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่า ห้วงเวลาการออกจากสนามกอล์ฟมายังจุดเกิดเหตุมีช่วงเวลาหายไปเกือบ 1 ชั่วโมง นอกจากนี้ ผลการจำลองเหตุการณ์อุบัติเหตุพบว่า ความเร็วของรถขณะเกิดเหตุจากการจำลองเหตุการณ์ขัดแย้งกับคำให้การของ พ.ต.ท.บรรยิน จากการทดสอบความเร็วดังกล่าวไม่สามารถทำให้นายชูวงษ์เสียชีวิตได้ สอดคล้อง กับพิรุธในเรื่องของบาดแผลตามร่างกาย รวมกับความเชื่อมโยงธุรกรรมการโอนหุ้นของกลุ่มผู้ต้องหา นำมาสู่จิ๊กซอว์สำคัญในการที่พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานชี้แจงศาล ก่อนศาลพิเคราะห์เห็นควรออกหมายจับ,ต่อมาเวลา 13.20 น. นางวันเพ็ญ ธนธรรมศิริ พี่สาว นางศิริรัตน์ แซ่ตั๊ง ภรรยานายชูวงษ์ เดินทางมาที่กองบังคับการปราบปราม หลังทราบข่าวการจับกุม พ.ต.ท.บรรยิน นางวันเพ็ญกล่าวว่า ตนและครอบครัวดีใจ หลังรอคอยมานานกว่า 1 ปี และเข้าร้องเรียนต่อหน่วยงานต่างๆจนตำรวจกองปราบปรามสามารถจับผู้ก่อเหตุไว้ได้ ขณะอยู่กับ น.ส.อุรชา วชิรกุลฑล โบรกเกอร์สาวที่มีชื่อรับโอนหุ้นของนายชูวงษ์ด้วย ตนถือว่าคงเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าแท้จริงแล้ว น.ส.อุรชาสนิทกับบุคคลใด และเป็นผู้หญิงของใครกันแน่ นั่นคงเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา นายชูวงษ์ถูกใส่ร้ายว่าโอนหุ้นให้หญิงอื่นซึ่งไม่เป็นความจริง ปมการฆ่าครั้งนี้ตนเชื่อว่ามาจากความโลภ เพราะอยากได้เงิน อยากได้หุ้น จึงทำเรื่องต่างๆขึ้นมา แต่เกรงว่าความลับจะถูกเปิดเผย เนื่องจากหลังโอนหุ้นเมื่อต้นเดือน มิ.ย.58 พอวันที่ 26 มิ.ย. เลยรีบก่อเหตุ เพราะรู้ว่าทุกสิ้นเดือนจะมีสรุปผลความเคลื่อนไหวของหุ้น และจะถูกนายชูวงษ์จับได้ จึงรีบฆ่าก่อน,ฉันมั่นใจว่าตำรวจมีพยานหลักฐานเพียงพอ จึงออกหมายจับ พ.ต.ท.บรรยินได้ และเชื่อว่าจะสามารถสรุปสำนวนส่งอัยการได้เร็วๆนี้ ทั้งนี้แท้จริงแล้วพวกฉันเชื่อมาตลอดว่าจะต้องจับผู้ต้องหาได้ แค่รอวันว่าเมื่อใดที่หลักฐานปรากฏ หากถามว่ามั่นใจว่า พ.ต.ท.บรรยินเป็นผู้ก่อเหตุหรือไม่นั้น ต้องถามตำรวจ แต่เชื่อว่าการเสียชีวิตของนายชูวงษ์มีการวางแผนฆาตกรรม มีผู้ร่วมกระทำความผิดมากกว่า 1 คน แต่ต้องรอตำรวจสืบสวนข้อเท็จจริงก่อน อย่างไรก็ตาม หาก พ.ต.ท.บรรยินไม่ยอมรับ ตนก็ไม่รู้สึกอะไร เพราะเขาก็ไม่เคยยอมรับอะไรอยู่แล้ว ส่วนที่พวกฉันถูกข่มขู่คุกคามแจ้งความไว้นานแล้วหลายครั้ง แต่ตำรวจระบุว่าไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าคนที่ข่มขู่ใช่เขาหรือไม่ เมื่อเขาถูกจับกุม ก็ถือว่ายิ้มและอุ่นใจได้อย่างเต็มที่ นางวันเพ็ญกล่าว,พี่สาวเสี่ยชูวงษ์กล่าวต่อไปว่า พวกเรามาวันนี้ไม่ได้ต้องการคุยกับ พ.ต.ท.บรรยิน แต่อยากมาขอบคุณ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รรท.ผบก.ป. โดยเฉพาะ พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1 บก.ป. และตำรวจทุกนาย ที่เกี่ยวข้อง สำหรับการทำงานอย่างเต็มที่ ทำงานหนัก จนนำไปสู่การจับกุมคนร้าย ทำให้เชื่อว่ากองปราบเป็นที่พึ่งของประชาชนจริงๆ,ด้านนางศิริรัตน์ ภรรยานายชูวงษ์ กล่าวว่า อยากถาม พ.ต.ท.บรรยินว่า จิตใจทำด้วยอะไร เหตุใด ต้องทำกับนายชูวงษ์ด้วย ต้องถึงกับฆ่ากันเลยหรือ นี่หรือกัลยาณมิตร นี่หรือที่บอกเป็นเพื่อนกัน อย่างนายชูวงษ์เสียชีวิตจากเพื่อนสนิท อยากให้ทุกคนจำเป็นอุทาหรณ์ว่า ก่อนจะคบใครเป็นเพื่อน ก่อนจะเชื่อใจใคร ให้ตรวจสอบประวัติให้ดี อย่าไว้ใจใครเกินไป อย่าคิดว่าเขาเป็นอดีต รมช. มีหน้าตาทางสังคม คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ อย่างไรก็ตาม วันนี้ พวกเราดีใจ และพอใจกับการทำงานของตำรวจที่ช่วยกันกู้ชื่อเสียงและเกียรติยศของนายชูวงษ์ให้ได้แล้ว,หลังจากนั้น เวลา 17.15 น. ตำรวจกองปราบปราม คุมตัว พ.ต.ท.บรรยินลงมาจากห้องสอบสวน ก่อนนำตัวเข้าห้องควบคุมผู้ต้องหากองปราบปรามทันที ระหว่างที่ พ.ต.ท.บรรยินเดินลงมาถึงชั้นล่าง มีสีหน้ายิ้มแย้มและทักทายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกับพูดสั้นๆกับสื่อมวลชนว่า เคลียร์แล้ว ก่อนเจ้าหน้าที่นำตัวอดีตรัฐมนตรีเข้าห้องควบคุม เสมียนห้องขังขอให้ พ.ต.ท.บรรยินถอดสิ่งของมีค่าและเข็มขัดฝากไว้ เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน ทั้งนี้ตำรวจกองปราบฯจะคุมตัวไว้ 1 คืน ก่อนส่งฝากขังศาลจังหวัดพระโขนงในวันที่ 29 มิ.ย. เวลา 09.00 น.,มีรายงานด้วยว่า เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.บรรยินและ น.ส.อุรชา หรือป้อนข้าว วชิรกุลฑล โบรกเกอร์สาวคนสนิท ขับรถปอร์เช่ พานาเมร่า สีดำ ทะเบียนป้ายแดง ท-6832 กรุงเทพมหานคร ไปเปิดห้องที่ทาวสแควร์ สวีท รีสอร์ต อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ก่อนที่ช่วงเช้า พ.ต.ท.บรรยิน นัดกลุ่มเพื่อนออกรอบตีกอล์ฟกระทั่งถูกจับกุม อย่างไรก็ตาม หลังการจับกุม พ.ต.ท.บรรยิน คุมตัวมาที่กองปราบปราม ได้ประสานตำรวจทางหลวงสกัดรถปอร์เช่คันดังกล่าวได้บนถนนมิตรภาพมุ่งหน้ากรุงเทพฯ จึงอายัดรถไว้ตรวจสอบ ส่วน น.ส. อุรชา ผู้ขับรถได้ปล่อยตัวไป ขณะเดียวกัน กำลังอีกชุดเข้าตรวจค้นบ้าน พ.ต.ท.บรรยิน ภายในหมู่บ้านกลางกรุง-รัชวิภา และบ้านของ น.ส.อุรชา ย่านสะพานสูง เบื้องต้นยึดเครื่องคอมพิวเตอร์และโน้ตบุ๊ก 2 เครื่อง และเอกสารที่คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับคดีมาตรวจสอบ | ชุดสืบสวนกองปราบฯ ปฏิบัติการสายฟ้าแลบ บุกรวบ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ คารีสอร์ตที่เขาใหญ่ ขณะควงโบรกเกอร์สาวคนสนิทไปตีกอล์ฟ แจ้งข้อหาตามหมายจับ ฆ่า เสี่ยชูวงษ์ โดยไตร่ตรองไว้ก่อน | null | ข่าวหน้า1,คดีเสี่ยชูวงษ์,ฆาตรกรรมเสี่ยชูวงษ์,ฆ่าเสี่ยชูวงษ์,จับบรรยิน,จับ บรรยิน ตั้งภากรณ์,ชูวงษ์ แซ่ตั๊ง,บรรยิน ตั้งภากรณ์,อดีตรมช.พาณิชย์,หมายจับศาลจังหวัดพระโขนง,รีสอร์ททาวน์ สแคว สวีท,อุรชา วชิรกุลฑล,สาวโบรกเกอร์คนสนิท,หมายจับ บรรยิน,ฆ่า ชูวงษ์ แซ่ตั๊ง,ข่าวทั่วไทย,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ,ไทยรัฐ | https://www.thairath.co.th/content/650066 |
สนธิรัตน์ ซัด ปล่อยข่าวบิดเบือนบัตรคนจน บิ๊กตู่ ดีเบต รอคำตอบ กกต. | วันที่ 23 ก.พ. ที่ตลาดนวลจันทร์ 36 นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ระหว่างลงพื้นที่ช่วย นายณริช ผลานุรักษา ผู้สมัคร ส.ส. เขตบึงกุ่ม-คันนายาว เบอร์ 9 หาเสียง และไปจนถึงตลาดหัวมุม ถึงผลสำรวจกรุงเทพโพล ล่าสุด คะแนนประชาชนเลือก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. มาเป็นอันดับ 1 แต่ส่วนของพรรคเลือกพรรคเพื่อไทย ว่า ผลสำรวจกรุงเทพโพล พรรคพลังประชารัฐมีคะแนนพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว แสดงให้เห็นว่า พรรคมีคะแนนนิยมที่สูงขึ้น ถือเป็นกำลังใจให้กับผู้สมัครของพรรคทุ่มเทการทำงานในช่วง 4 สัปดาห์สุดท้ายนี้ ที่จะออกมาขอคะแนนจากพี่น้องประชาชน และเป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนที่พี่น้องประชาชนให้ความไว้วางใจ โดยได้รับความนิยมสูงสุดที่จะให้เป็นนายกรัฐมนตรี,ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้มีข่าวออกมาในแง่ลบ เพื่อดิสเครดิตรัฐบาลและพรรคพลังประชารัฐ โดยเฉพาะเรื่องของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ก็เป็นเกมการเมือง จะเห็นได้ว่า พรรคพลังประชารัฐ จะเป็นเป้าที่ใครๆ ต่างหยิบเอาไปเป็นประเด็นต่างๆ ขึ้นมา อย่างเรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรประชารัฐ ต้องขอเรียนว่า พี่น้องประชาชนให้ความนิยมอย่างสูง เพราะเป็นที่ชื่นชอบ เพราะฉะนั้นจะเกิดกรณีต่างๆ ที่จริงแล้วไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคเลย โดยมีการสร้างเรื่องราวขึ้นมา อ้างว่าจะมีการโอนเงิน 3,000 บาทผ่านธนาคารออมสิน ให้ผู้ถือบัตร ซึ่งเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วในหลักการ เมื่อมีการเข้าไปตรวจสอบ ก็พบว่าไม่เป็นความจริง เป็นความพยายามที่จุดประเด็นเพื่อทำลายความนิยมพรรคพลังประชารัฐ เพราะความเป็นพรรคที่ชัดเจนเรื่องของรัฐสวัสดิการ ที่เรียกว่า บัตรประชารัฐและเชื่อมั่นว่า บัตรประชารัฐซึ่งเป็นนโยบายของพรรค จะเป็นที่ชื่นชอบของประชาชนในการสนับสนุน,เมื่อถามว่า หลายพรรคยังคงเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นเวทีดีเบต พรรคจะส่ง พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นเวทีดีเบตของ กกต.เลยหรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เรื่องการดีเบตพรรคได้ทำเรื่องขอความชัดเจนด้านกฎหมายจาก กกต. ดังนั้นเราต้องดูในแง่ของกฎหมายด้วย และความจริงแล้วทัศนะของพรรคเอง เรื่องของการดีเบต ไม่ใช่เรื่องที่พรรคต้องไปกังวลใจอะไรมาก และ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกฯ แตกต่างจากพรรคการเมืองอื่น และประชาชนรู้จักท่านดีอยู่แล้ว หรือว่าท่านตั้งใจทำงานให้บ้านเมือง ท่านทุ่มเทแค่ไหน มีแนวคิดในการทำงานให้ชาติบ้านเมืองอย่างไร คิดว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีความชัดเจนในตัวอยู่แล้ว และพี่น้องประชาชนก็รู้จักท่าน โดยที่ท่านไม่ต้องพูดอะไร เพียงแต่ว่าถ้า พล.อ.ประยุทธ์ มีโอกาสพูดกับพี่น้องประชาชน ในความรู้สึกของท่าน หลังจากการเลือกตั้งแล้วว่า มีความคิดอย่างไร น่าจะเป็นประโยชน์ พรรคจะพยายามหาเวที ถ้าเป็นไปได้ในทางกฎหมาย เพื่อให้ท่านได้มีโอกาสพูดกับพี่น้องประชาชน และพรรคให้ความสำคัญมากๆ กับเรื่องกฎหมาย จะเห็นได้ว่า พรรคอยู่ในกฎเกณฑ์กติกาเสมอ และเพื่อให้เรื่องนี้มีความชัดเจน ซึ่งก็ต้องรอคำตอบจาก กกต. เมื่อได้ผลมาอย่างไรพรรคก็จะมาดู ว่า สามารถทำได้มากน้อยแค่ไหน พล.อ.ประยุทธ์ จะแสดงบทบาทได้อย่างไร ขอรอความชัดเจนเป็นลายลักษณ์อักษรจาก กกต.ก่อน ตอนนี่มีแต่การพูดกันลอยๆ,เมื่อถามว่า เหลือเวลาอีกไม่ถึง 30 วัน พรรคพลังประชารัฐ มีไม้เด็ดที่จะเรียกคะแนนแซงทางโค้งอย่างไร นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า มีแน่นอน พรรคได้เตรียมแคมเปญในช่วงของเวลา 4 สัปดาห์ที่เหลือจะได้เห็น พรรคมีความมั่นใจว่า จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนให้ตัดสินใจเลือกพรรคพลังประชารัฐ ที่จะให้โอกาสทำให้ประเทศเดินหน้าต่อไป และเมื่อถึงวันนี้พรรคยังมีความมั่นใจว่า จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้อย่างแน่นอน | สนธิรัตน์ ซัด ปล่อยข่าวบิดเบือนบัตรคนจน หวังตี รัฐบาล พ่วง พลังประชารัฐ หลัง โว มีไม้เด็ด ทำพรรคแซงโค้ง ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ส่วน บิ๊กตู่ดีเบต รอคำตอบลายลักษณ์อักษรจาก กกต.ก่อน | เลือกตั้ง | เลือกตั้ง62,พลังประชารัฐ,บัตรคนจน,บิ๊กตู่ดีเบต,รอคำตอบกกต.,เลือกตั้ง | https://www.thairath.co.th/news/politic/1503375 |
ปล่อยตัวอดีต ผอ.ไอเอ็มเอฟ | นายโดมินิค สเตราส์ คาห์น อดีตผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟวัย 62 ปี เดินออกจากศาลในนครนิวยอร์กของสหรัฐฯด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม หลังจากได้รับอิสรภาพจากการถูกกักบริเวณในบ้านพักโดยไม่ต้องประกันตัว เนื่องจากคณะอัยการมีความเห็นว่าแม่บ้านโรงแรมที่กล่าวหาสเตราส์ คาห์น พยายามล่วงละเมิดทางเพศ ให้การเท็จกับคณะลูกขุนและให้ข้อมูลที่ขัดกับความเป็นจริงในอีกหลายประเด็น แต่คดีความของสเตราส์ คาห์นยังไม่สิ้นสุด ทางอัยการจะดำเนินการสอบสวนข้อกล่าวหาที่มีต่อนายสเตราส์ คาห์น ต่อไป ขณะที่ ทนายความ เปิดเผยว่า จะพยายามยื่นขอให้ศาลยกฟ้องคดีเหล่านี้ทั้งนี้นายสเตราส์ คาห์น สามารถเดินทางไปทั่วสหรัฐฯได้อย่างอิสระ แม้ยังคงถูกยึดพาสปอร์ตไว้ นอกจากนี้ยังจะได้เงินประกันตัว 1 ล้านดอลลาร์และพันธบัตรอีก 5 ล้านดอลลาร์กลับคืน ซึ่งการพลิกกลับของคดีสร้างความหวังให้กับกลุ่มฝ่ายค้านของฝรั่งเศสว่าคดีจะเป็นโมฆะในที่สุดและนายสเตราส์คาห์น จะได้กลับเข้าสู่สนามการเมืองของฝรั่งเศสเพื่อลงทำศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีกับประธานาธิบดีนิโคลาส์ ซาร์โกซี่ ในปีหน้า | อดีต ผอ.ไอเอ็มเอฟที่ถูกกล่าวหาว่าล่วงละเมิดทางเพศ แม่บ้านโรงแรมแห่งหนึ่งในสหรัฐฯได้รับการปล่อยตัวจากการถูกกักบริเวณในบ้านพัก หลังจากอัยการระบุว่าแม่บ้านโรงแรมที่กล่าวหาอาจจะให้การเท็จกับคณะลูกขุน | ต่างประเทศ | ผอ.ไอเอ็มเอฟ,ล่วงละเมิดทางเพศ,แม่บ้าน,โดมินิค สเตราส์ คาห์น,ไอเอมเอฟ | https://news.thaipbs.or.th/content/20010 |
อิตาลีจับผู้ลี้ภัยฆ่าคนต่างศาสนา | ตำรวจในเมืองพาร์เลอร์โม บนเกาะซิซิลี เขตปกครองตนเองของอิตาลี จับกุมผู้ลี้ภัยจากประเทศไอวอรีโคสต์, เซเนกัล, มาลี และกินีบิสเซา รวม 15 ราย ในฐานะผู้ต้องสงสัยฆาตกรรมผู้อื่นด้วยความเกลียดชังเพราะความต่างทางศาสนา เมื่อ 16 เม.ย. โดยเจ้าหน้าที่หน่วยลาดตระเวนชายฝั่งของอิตาลีเผยผลสอบปากคำผู้มีชีวิตรอดบนเรือและพบว่าผู้ต้องสงสัยทั้ง 15 รายเป็นชาวมุสลิมซึ่งทะเลาะวิวาทกับผู้ลี้ภัยชาวคริสต์จากประเทศไนจีเรียและกานา กลุ่มผู้ต้องสงสัยจึงได้จับชาวคริสต์ รวม 12 ราย โยนลงทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทำให้เหยื่อทั้งหมดเสียชีวิต ส่วนชาวคริสต์ที่เหลือต้องตั้งแถวพร้อมจับมือเรียงกันเป็นโซ่มนุษย์ ทำให้คู่กรณีไม่อาจจับโยนลงทะเลได้,ทั้งนี้ เรือประมงลำเกิดเหตุมีชื่อว่า เอลเลนบอร์ก มีผู้โดยสารบนเรือประมาณ 105 ราย ออกจากเมืองท่าในประเทศลิเบียตั้งแต่วันที่ 14 เม.ย. เพราะสภาพภูมิอากาศในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนสงบและปราศจากคลื่นลมในช่วงเวลาดังกล่าว ส่วนองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM) ระบุว่า ก่อนหน้าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวเพียง 1 วัน มีเรือบรรทุกผู้ลี้ภัยรุกล้ำเข้ามาในน่านน้ำทะเลใกล้ฝั่งเมืองทราปานี บนเกาะซิซิลี แต่เจ้าหน้าที่ชายฝั่งพบผู้รอดชีวิตเพียง 4 ราย จากจำนวนผู้โดยสารราว 45 รายที่เคยอยู่บนเรือดังกล่าว. | โดยเจ้าหน้าที่หน่วยลาดตระเวนชายฝั่งของอิตาลีเผยผลสอบปากคำผู้มีชีวิตรอดบนเรือและพบว่าผู้ต้องสงสัยทั้ง 15 รายเป็นชาวมุสลิมซึ่งทะเลาะวิวาทกับผู้ลี้ภัยชาวคริสต์จากประเทศไนจีเรียและกานา กลุ่มผู้ต้องสงสัยจึงได้จับชาวคริสต์ | null | ข่าวต่างประเทศ,อิตาลี,ผู้ลี้ภัย,ฆ่าคนต่างศาสนา,เกาะซิซิลี,เรือประมงเอลเลนบอร์ก,เกลียดชัง,ความต่างทางศาสนา,โยนลงทะเล,ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าว | https://www.thairath.co.th/content/493573 |
ชาวพม่าเตรียมเดินทางกลับไปเลือกตั้งซ่อม | แรงงานพม่ากว่า 1000 คนเข้ายื่นเอกสารกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดตาก บริเวณด่านพรมแดนแม่สอด - เมียวดี บริเวณสะพานมิตรภาพไทย - พม่า เพื่อกลับไปใช้สิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้งซ่อมที่ประเทศพม่า ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 1 เมษายนนี้ ซึ่งหลายคนถือโอกาสกลับไปเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์ล่วงหน้ากับครอบครัวด้วยส่วนเหตุระเบิด 2 ครั้งภายในสนามกอล์ฟ์ของโรงแรมเรจิน่าแอนด์กอล์ฟคลับ จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ระหว่างการแข่งขันกอล์ฟเนื่องในวันกองทัพพม่าเมื่อวานนี้ ส่งผลให้ทหารหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารม้าที่ 3 กองกําลังผาเมืองยังคงตรวจค้นยานพาหนะ ที่ผ่านเข้าออกด่านพรมแดนแม่สาย จังหวัดเชียงราย อย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันกลุ่มผู้ไม่หวังดีลักลอบนำอาวุธ หรือวัตถุอันตรายเข้ามาในประเทศไทยจากการตรวจค้นยังไม่พบสิ่งผิดปกติ ขณะที่ทางการพม่าเร่งตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุระเบิดอีกครั้ง โดยพบวัตถุระเบิดอีก 1 ลูก ซึ่งเก็บกู้ได้เรียบร้อยแล้ว | เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงยังคงเข้มงวดตรวจสอบบุคคล และรถยนต์ที่ผ่านเข้าออกบริเวณด่านพรมแดนแม่สาย จังหวัดเชียงราย หลังเกิดเหตุระเบิดที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า เมื่อวานนี้ ขณะที่ชาวพม่าที่เดินทางมาทำงานในจังหวัดตาก ทยอยเดินทางกลับประเทศ เพื่อไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งซ่อมในวันที่ 1 เมษายนนี้ | ภูมิภาค | พม่า,เลือกตั้ง,แรงงาน | https://news.thaipbs.or.th/content/74952 |
เคพกูสเบอร์รี่ ของดี โครงการหลวง 58 | ในฐานะโต้โผการจัดงาน ลักขณา นะวิโรจน์ บอกเล่าว่า เทศกาลสินค้าโครงการหลวง58 จัดขึ้นเพื่อสานต่อแนวพระราชดำริที่ต้องการแก้ไขปัญหาให้ชาวเขาอย่างยั่งยืน พร้อมสนับสนุนการวิจัยพืชผลเขตหนาว ให้มีช่องทางการจำหน่าย และเป็นที่รู้จักของผู้บริโภค โดยผ่านการส่งเสริมผลผลิตงานวิจัยใหม่ๆจากโครงการหลวง ภายใต้มาตรฐานชั้นเลิศของโครงการหลวง ที่การันตีคุณภาพ ดี อร่อย พร้อมจัดส่งทุกวัน รับประกันความสดใหม่เหมือนเก็บจากยอดดอย,สำหรับ เคพกูสเบอร์รี่ เป็นผลไม้เมืองหนาวรูปทรงกลมขนาดเท่าลูกเชอร์รี่ ห่อหุ้มด้วยกลีบเลี้ยงคล้ายเยื่อกระดาษ เมื่อแก่เต็มที่ผลจะมีสีเหลืองปนส้ม รสชาติหวานอมเปรี้ยว มีถิ่นกำเนิดอยู่ในบราซิล จะให้ผลผลิตในช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคม ส่วนมากจะนิยมทานเป็นผลสดๆ หรือไม่ก็นำมาชุบช็อกโกแลต และ จุ่มน้ำผึ้ง ใส่ในสลัด ทำน้ำผลไม้ หรือแยม นอกจากจะหน้าตาสวยน่าทานสุดๆ ผลไม้ชนิดนี้ยังอุดมด้วยคุณประโยชน์มากมาย ทั้งวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา และวิตามินซี ช่วยป้องกันไข้หวัด ขณะเดียวกัน ยังเป็นแหล่งธรรมชาติที่ดีของสารต้านอนุมูลอิสระ เมื่อเทียบกับผลไม้ชนิดอื่นๆ มีรายงานการวิจัยพบว่า อุดมไปด้วยสาร Anthocyanins สามารถลดการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งประเภท HT-29 และ HCT-116 ตลอดจนหยุดยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์เนื้องอก,ภายในงานยังมีผลไม้หลากหลายสายพันธุ์ พร้อมทั้งผลิตภัณฑ์แปรรูปต่างๆจากโครงการหลวง มาให้แฟนๆ ได้อุดหนุน ไม่ว่าจะเป็น สตรอเบอรี่พันธุ์พระราชทาน 80 หวานฉ่ำลูกโต, เนยงาดำ ผลิตจากงาคั่วบดผสมน้ำมันงาและน้ำผึ้ง รสชาติหวานหอมดีต่อสุขภาพ, เส้นพาสต้าสด ผลิตจากแป้งเซโมลินาไข่สด ผสมน้ำผักสดโครงการหลวง อาทิ แครอท บีทรูท และผักขม เพื่อให้ได้รสชาติที่มีเอกลักษณ์, ชาสมุนไพรสด 7 ชนิด ผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของโครงการหลวง ช่วยลดความตึงเครียด เสริมประสิทธิภาพระบบการย่อยอาหาร และพีชลอยแก้วจากแปลงพีชอ่างขาง. | ผลผลิตสดๆจากยอดดอย ทั้งผักสด ผลไม้เมืองหนาว และสินค้าแปรรูปคุณภาพ กลับมาให้ชาวกรุงเลือกสรรอย่างละลานตาอีกครั้ง ในงาน เทศกาลสินค้าโครงการหลวง58 : ดีอร่อย From DOI to TABLE ตั้งแต่ วันนี้ ถึง 4 มี.ค.2558 | ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง | เคพกูสเบอร์รี่,ผลไม้,เทศกาลสินค้าโครงการหลวง,โครงการหลวง,ลักขณา นะวิโรจน์,สตรอเบอรี่พันธุ์พระราชทาน 80,ข่าว,ข่าวสตรี,ข่าวไลฟ์สไตล์ | https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/483036 |
ฉก.พยัคฆ์ไพร-พญาเสือ บุกทวงคืนผืนป่า300ไร่ บนเกาะพะงัน พร้อมดำเนินคดี | เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 26 พ.ค. 60 นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ พร้อมด้วย นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช สั่งการให้ชุดเฉพาะกิจทั้ง 2 ชุดลงพื้นที่เกาะพะงัน ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.), ศปป4 กอ.รมน., บก.ปทส., ตำรวจ, ทหาร ชุดเฉพาะกิจ กองกำลังรักษาความสงบ กองทัพภาค 4 พื้นที่เกาะพะงัน, ศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพลฯ สปป.4 ภาคใต้, สบอ.ที่ 4, ฝ่ายปกครอง เพื่อเข้าตรวจสอบและดำเนินคดีกับกลุ่มผู้บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ รวมทั้งพื้นที่ป่าของรัฐ,ทั้งนี้ นายศุภชัย สุกใส ผอ.ส่วนป้องกันและปราบปรามภาคใต้ กรมป่าไม้ นำทีมชุดปฏิบัติการประชุมร่วมกันที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอเกาะพะงัน เพื่อสรุปผลการปฏิบัติงานที่ผ่านมา รวมทั้งกำหนดแผนเข้าตรวจสอบพื้นที่ต้องสงสัยเพิ่มเติม โดยที่ผ่านมาชุดปฏิบัติการได้จับกุม และดำเนินคดีกับผู้บุกรุกพื้นที่ป่าบนเกาะพะงันไปแล้วรวม 10 ราย เป็นคดีบุกรุกพื้นที่ป่า 8 ราย รวมเนื้อที่กว่า 100 ไร่ และเป็นการตรวจยึดไม้จากการลักลอบตัดไม้ในพื้นที่เกาะพะงัน และเกาะเต่า จำนวน 2 ราย และกำลังตรวจสอบอีก 1 ราย ซึ่งสงสัยเรื่องการถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดิน น.ส.3ก. ว่าอาจจะเป็นการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ,ต่อมา ชุดปฏิบัติการนำกำลังเข้าพื้นที่เขาแม่หาด หมู่ 7 บ้านวังตะเคียน ต.เกาะพะงัน ซึ่งเป็นพื้นที่ขุดทำลายหน้าดิน โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ตรวจสอบเอกสารสิทธิ์พบว่าที่ดินแปลงดังกล่าว ซึ่งมีเนื้อที่ 27 ไร่ อาจจะออกเอกสารโดยมิชอบ เนื่องจาก ส.ค.1 ฉบับเดิมที่นำมาออกเป็น น.ส.3 ก เป็นเอกสารจากที่ดินอีกแปลงในพื้นที่หมู่ 6 ต.เกาะพะงัน โดยเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบแนวเขตที่ดินอีกครั้ง ก่อนจะสรุปสำนวนพร้อมเอกสารการสอบพยาน ส่งให้กับคณะกรรมการระดับจังหวัด พิจารณาเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ดังกล่าว ก่อนจะแจ้งความดำเนินคดี,นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่บริเวณหาดเทียน หมู่ 4 ต.บ้านใต้ ซึ่งเป็นที่ดินเนื้อที่ 307 ไร่ ซึ่งสงสัยว่าจะมีการบุกรุกป่า ทั้งนี้ ผู้ครอบครองที่ดินอ้างเอกสารสิทธิ์ ส.ค.1 แต่ตรวจสอบตามเอกสารสิทธิ์แล้ว พบว่ามีพื้นที่ครอบครองรวม 66 ไร่ เป็นการบุกรุกพื้นที่ป่ากว่า 200 ไร่ โดยพื้นที่ทั้งหมดอยู่ในเขตป่าสงวน 125 ไร่ เป็นป่าของรัฐ 182 ไร่ โดยเจ้าหน้าที่ประสานให้เจ้าหน้าที่ สนง.ที่ดิน อ.เกาะพะงัน เข้าตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ดังกล่าว ก่อนจะดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ครอบครอง. | ฉก.พยัคฆ์ไพร พร้อมชุด ฉก.พญาเสือ นำกำลังลงพื้นที่เกาะพะงัน ปฏิบัติการตามยุทธการทวงคืนผืนป่าบนพื้นที่ของรัฐ และจะดำเนินคดีกับกลุ่มผู้บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ | ข่าว,ทั่วไทย | รุกป่าเกาะพะงัน,เกาะพะงัน,ทวงคืนผืนป่า,ฉก.พญาเสือ,ฉก.พยัคฆ์ไพร | https://www.thairath.co.th/news/local/south/952962 |
อธิบดีกรมอุทยานฯตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง จนท. เอี่ยวเหตุช้างป่าตายหลายตัวในช่วง 2 ปี | ความคืบหน้าเหตุพบซากช้างที่บริเวณอ่างเก็บน้ำกะหร่าง 3 ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี โดยเบื้องต้น นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และนายขจรศักดิ์ สมบูรณ์ นายอำเภอแก่งกระจาน ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เกิดในพื้นที่ อำเภอแก่งกระจาน และ ร้อยโทวรภาส เบ็ญจชาติ หัวหน้าชุดประสานงานอนุรักษ์ช้างป่า บ้านป่าเด็ง เข้าตรวจสอบแล้วสันนิษฐานว่า ช้างตายมาแล้ว 15-20 วัน เป็นช้างเพศผู้ เป็นช้างงา เพราะถูกเปิดหน้าผาก แล้วตัดกะโหลกออก ซึ่งเป็นวิธีของพรานล่าช้างทำเพื่อเลาะโคนงา หลังพบซากช้างดังกล่าว เมื่อวานนี้ (10 เม.ย.) นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมด้วยนายชัยวัฒน์ ตำรวจ และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ร่วมกันเดินทางเข้าไปตรวจสอบและพิสูจน์พื้นที่ที่พบซากช้างป่า โดยหลังจากเจ้าหน้าที่ทำการผ่าซากท้องช้างพบซากลูกช้างอยู่ภายในท้องช้างตัวที่ตายจากการตรวจสอบลูกช้างที่ผ่าพิสูจน์ พบว่า ลูกช้างมีฟันงอกแล้ว และมีเส้นขนขึ้นตามตัว แสดงว่า ช้างตัวที่ตายเป็นช้างท้องแก่ เมื่อตรวจร่องรอยของแม่ช้าง พบหัวกระสุนขนาด .22LR ที่ลำตัว 1 หัว ภายในกะโหลก 1 หัว กระสุนลูกซองเบอร์ 9 จำนวน 7 หัว และกระสุนลูกปราย 1 หัว โดยส่วนหัวกะโหลกช้างเจ้าหน้าที่ได้นำเอาไปเข้าเครื่องสแกนที่โรงพยาบาลสัตว์หัวหิน เพื่อหาหัวกระสุนปืนว่ามีอีกหรือไม่นายธีรภัทธ กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากนายมโนพัศ หัวเมืองแก้ว อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ให้ลงมาตรวจสอบทั้งหมด 3 ประการ คือ 1.การตรวจสอบร่วมกับพนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เกี่ยวกับสาเหตุที่ช้างตาย 2.กำชับให้เจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และอุทยานใกล้เคียง วางมาตรการเข้มข้นในการลาดตระเวนในพื้นที่ที่มีช้างหากินอย่างเข้มแข็งเพื่อป้องกันเหตุ และ 3.ตรวจดูพื้นที่ที่ช้างเข้าไปหากินในพื้นที่ทำกินของชุมชนต่างๆ เพื่อจะหาแนวทางป้องกันและแก้ไขไม่ให้เกิดปัญหากระทบกระทั่งกันระหว่างช้างกับคน ในส่วนของซากช้างที่ทำการผ่าพิสูจน์แล้ว เจ้าหน้าที่จะฝังกลบและเผาเพื่อเป็นการฆ่าเชื้อ เนื่องจากสภาพพื้นที่อยู่ใกล้แหล่งน้ำด้าน นายมโนพัศ เปิดเผยว่า กรณีช้างป่าตัวเมียตั้งท้องถูกฆ่าตายในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ขณะนี้ได้มอบหมายให้นายสมพงษ์ จีราระรื่นศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ เป็นประธานสอบข้อเท็จจริง นายชัยวัฒน์ ในฐานะหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ในหลายประเด็น โดยเฉพาะกรณีช้างป่าตายหลายตัวในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ว่ามีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่รวมทั้งปัญหาความขัดแย้งกับชุมชนในพื้นที่หรือไม่ เพราะเป็นสาเหตุของการลักลอบฆ่าช้าง ส่วนจะมีการโยกย้ายหรือไม่ ขึ้นกับผลการสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการที่ตั้งขึ้น เพราะประเด็นหลักต้องขึ้นกับการอยู่รอดของสัตว์ป่า ขณะที่นายชัยวัฒน์ ยืนยันว่า การทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกคน ทำเต็มกำลัง และความสามารถ ในพื้นที่ที่มีช้างป่าถูกฆ่าตายคือ พื้นที่เขต 5 ป่าละอู-ป่าเด็ง มีพื้นที่กว่า 5 ไร่ เป็นทั้งพื้นที่เพื่อการท่องเที่ยว คือ มีน้ำตกป่าละอู พื้นที่ที่มีการบุกรุกพื้นที่ป่า การทำไม้ การลักลอบจุดไฟเผาป่าเพื่อเปิดพื้นที่ ขณะที่ผู้ปฏิบัติงานมี 2 ชุด ชุดละ 8 คน รวมเป็น 16 คน ส่วนพื้นที่ทางด้านฝั่งตะวันออก มีชุมชนที่ไปตั้งอาศัยอยู่แล้วเกิดการกระทบกระทั่งระหว่างคนกับช้าง มีกลุ่มล่าช้างเกิดขึ้นเป็นเรื่องจริง เพราะมีการจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คน ศาลพิพากษาลงโทษจำคุกไปแล้ว ที่ยังดำเนินคดีในศาลในส่วนของผู้จ้างวานก็มีอยู่ ส่วนการถูกตั้งกรรมการสอบสวน ไม่รู้สึกหนักใจ เพราะเป็นข้อเท็จจริงของการทำงาน | ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาที่พบว่ามีช้างป่าตายหลายตัว ทำให้อธิบดีกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืชสั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงว่า มีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ ส่วนผลผ่าพิสูจน์ซากช้างแก่งกระจาน พบว่าภายในท้องของช้างตัวดังกล่าว มีลูกช้างเริ่มมีฟันและขนงอกแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นช่วงที่ช้างท้องแก่ นอกจากนี้ ยังพบหัวกระสุนที่ลำตัว และที่หัวกะโหลก | สิ่งแวดล้อม | กรมอุทยานฯ,จนท.,ช้างป่า,ตั้ง คกก.,สอบข้อเท็จจริง,อธิบดี | https://news.thaipbs.or.th/content/161481 |
จนท.ตรวจดีเอ็นเอช้างถูกฆ่าเผานั่งยาง | เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 นครปฐม และศูนย์พิสูจน์หลักฐานจังหวัดเพชรบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานร่วมกับทหารค่ายทัพพระยาเสือที่ได้รับคำสั่งพิเศษให้เข้าร่วมคลี่คลายคดีฆ่าช้างป่า 2 ตัว ในอำเภอแก่งกระจานการตรวจสอบครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ต้องย้อนกลับไปขุดซากช้างกลับมาพิสูจน์ใหม่ทั้งหมด เนื่องจากหลังเกิดเหตุยังไม่ได้บันทึก และชันสูตรบาดแผลอย่างละเอียด เพราะช้างที่ถูกฆ่าตาย นอกจากถูกตัดงาที่คาดว่ามีความยาวประมาณ 80 เซนติเมตร ยังถูกตัดอวัยวะเพศ และปลายหาง นอกจากนี้ผู้ก่อเหตุยังได้ใช้ยางรถยนต์เผาทำลายซากช้าง เพื่อปกปิดร่องรอยบาดแผลกระสุนปืนมีรายงานผลการตรวจชัณสูตรในเบื้องต้นว่า บริเวณกกหูด้านซ้าย มีร่องรอยถูกยิงเป็นรูขนาดใหญ่ เจ้าหน้าที่จึงได้ผ่าหัวช้าง เพื่อค้นหาหัวกระสุนปืน แต่ไม่พบ นอกจากนี้ ยังได้นำเครื่องตรวจหาวัตถุโลหะเข้าไปสแกนในสถานที่เกิดเหตุ เพื่อค้นหาปลอกกระสุนปืนจากจุดซุ่มยิง ซึ่งผู้ก่อเหตุผูกผ้าทำเป็นนั่งร้านบนต้นไม้ แต่ไม่พบหลักฐานเพิ่มเติมการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ยังพุ่งประเด็นไปที่ยางรถยนต์ ซึ่งผู้ก่อเหตุใช้มากกว่า 10 เส้น เพื่อต้องการเผาซากช้างทำลายบาดแผลอำพรางรอยกระสุน เจ้าหน้าที่จึงเก็บตัวอย่างยางรถยนต์ และขดลวดที่เหลืออยู่ไปตรวจสอบ พร้อมชิ้นส่วนช้างไปตรวจสอบดีเอ็นเอสำหรับการเก็บดีเอ็นเอของช้าง เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับงาช้าง หรือชิ้นส่วนอื่น ที่อาจพบในภายหลัง และหาความเชื่อมโยงไปสู่ตัวผู้กระทำผิด หลังจากนี้ขั้นตอนการตรวจดีเอ็นเอช้างจะนำชิ้นส่วนกระดูกซี่โครง สะบัก และข้อต่อ ที่เหลืออยู่จากการเผา ประมาณ 10 ชิ้น ไปบดให้ละเอียด ใช้เวลาประมาณ 1 วัน แล้วเข้าสู่ขั้นตอนการตรวจหาดีเอ็นเอ อีกประมาณ 1 สัปดาห์ เบื้องต้นคาดว่าช้างตัวนี้น่าจะมีอายุประมาณ 2 - 3 ปี | คดีฆ่าแล้วผาช้างป่า อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี วันนี้เจ้าหน้าที่ต้องขุดซากช้างที่ฝังไปแล้วเมื่อ 2 วันก่อน ขึ้นมาตรวจพิสูจน์หลักฐานบาดแผลจากรอยกระสุนปืน และหาหัวกระสุน เพื่อเชื่อมโยงไปขึ้นกลุ่มผู้ใช้อาวุธ | ภูมิภาค | ฆ่า,ชันสูตร,ช้าง,ดีเอ็นเอ,ตรวจ,เผานั่งยาง | https://news.thaipbs.or.th/content/58732 |
รถชนซ้ำซ้อนกลางสมุทรสงคราม จยย.ชนท้ายตุ๊กๆดับ-ทัวร์คว่ำNGVรั่ว เจ็บ14 | ผู้โดยสารหนีตาย เจ็บ 14,เมื่อเวลา 04.35 น. วันที่ 8 ธ.ค. ขณะฝนตกลงมาอย่างหนัก ได้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนบนถนนพระราม 2 เชิงสะพานสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ข้ามแม่น้ำแม่กลอง พื้นที่หมู่ 6 ต.แหลมใหญ่ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ขาเข้ากรุงเทพฯ โดยรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า สีเหลืองดำ ทะเบียน คขล 723 ราชบุรี ขับมาด้วยความเร็วชนท้ายรถตุ๊กๆ ทะเบียน สก 94 สส ซึ่งเปิดสัญญาณไฟ จอดชิดซ้ายเนื่องจากยางล้อหลังด้านขวาแตก ทำให้ชายคนขับรถจักรยานยนต์ อายุประมาณ 45 ปี ซึ่งใส่กางเกงขาสั้นลายพราง สวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีเทา ร่างกระเด็นไปไกล 50 เมตร เสียชีวิตคาที่ จากนั้นรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีเทา ทะเบียน บข 5930 เพชรบุรี ซึ่งบรรทุกปูทะเลมาเต็มคันรถ แตะเบรกกะทันหันพลิกคว่ำอยู่เลนซ้าย,ระหว่างนั้น ร.ต.อ.วรบูรณ์ บุญมาก รอง สว.สภ.เมืองสมุทรสงคราม พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างเบญจธรรม นำรถกู้ชีพเปิดไฟสัญญาณเตือน กระทั่งรถร่วม บขส. สายระยอง-ดอนสัก ทะเบียน 10-3796 ชลบุรี มีนายนิคม คำโอสัจจา อายุ 46 ปี เป็นคนขับ ซึ่งมาจาก อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมผู้โดยสาร จำนวน 22 คน ได้วิ่งมาด้วยความเร็วสูงทางเลนขวา เจอรถยนต์เก๋งคันหน้าเบรก จึงแตะเบรกเสียหลักชนแบริเออร์ด้านขวา พลิกคว่ำกลางถนน จนแก๊สเอ็นจีวีรั่วไหล ทำให้พลเมืองดีและหน่วยกู้ภัยได้เร่งช่วยกันทุบกระจกหน้ารถ ตะโกนให้ผู้โดยสารในรถทัวร์เปิดช่องระบายลมบนหลังคารถและปีนออกมา,ทั้งนี้ได้มีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บศีรษะแตก บวมช้ำ จำนวน 14 คน ถูกนำส่ง รพ.สมเด็จพระพุทธเลิศหล้า จำนวน 8 คน และ รพ.มหาชัยแม่กลอง จำนวน 6 คน โดยนางศศิธร บัวศรี อายุ 26 ปี ได้รับบาดเจ็บตามลำตัว ใบหน้าด้านซ้ายบวมช้ำ ปวดศีรษะรุนแรง แพทย์ขอดูอาการทางสมอง,สำหรับอุบัติเหตุซ้ำซ้อนในครั้งนี้ ได้ทำให้การจราจรติดขัดหลายกิโลเมตร เจ้าหน้าที่ต้องให้ใช้เส้นทางบายพาสเลี่ยงเมือง เพื่อระบายรถออก พร้อมนำรถเครนขนาดใหญ่ยกรถในที่เกิดเหตุออกไป. | ฝนถล่มรถชนซ้ำซ้อน แถวสมุทรสงคราม หนุ่มซิ่งมอเตอร์ไซค์ดับคาที่ ชนท้ายตุ๊กๆ กระบะขนปูทะเล เบรกไม่ทันคว่ำ ส่วนรถทัวร์ระยอง-ดอนสัก เจอเก๋งเบรก จึงหักหลบ คว่ำกลางถนนอีกคัน เอ็นจีวีรั่ว | ข่าว,ทั่วไทย | รถทัวร์ดอนสัก-ระยองคว่ำ,รถชนซ้ำซ้อน,สะพานสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า,อุบัติเหตุซ้ำซ้อน,สมุทรสงคราม,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1440178 |
น้ำป่าท่วมตลาดอ.พาน สูงสุดรอบ 10 ปี-ตลาดอ.แม่จันโดนด้วย | เมื่อ 18 ส.ค. 2561 เวลาประมาณ 16.00 น. ที่จ.เชียงราย ฝนที่ตกทั้งวันทั้งคืนต่อเนื่อง ทำให้น้ำจากเทือกเขาดอยหลวงไหลลงแม่น้ำส้าน เป็นจำนวนมาก ทำให้น้ำไหลเอ่อท่วมถนนสายหลักย่านธุรกิจในตลาดอ.พาน ในต.ป่าหุ่ง อย่างรวดเร็ว ทำให้ชาวบ้านต้องรีบปิดร้าน นำกระสอบทรายวางกั้นน้ำหน้าบ้าน และติดตั้งเครื่องสูบน้ำออกจากตัวบ้าน เนื่องจากยังคงมีระดับน้ำสูงขึ้นเรื่อยๆ คาดว่าคืนนี้ระดับน้ำอาจเพิ่มสูงขึ้นอีก,นางแสงดาว ศรีชัยโรจน์ เลขที่ 595 หมู่ที่ 1 กล่าวว่าระดับน้ำได้ท่วมสูงขึ้นตั้งแต่ตอนประมาณสี่โมงเย็น จนไหลเข้าไปท่วมห้องนอนของตน ซึ่งเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว ติดกับที่ทำการชุมชนแม่ส้าน ทางประธานชุมชนจึงแจ้งให้ไปพักอาศัยชั่วคราวบนชั้นสองของที่ทำการชุมชนได้ ขณะที่นางภัทราวดี ปัญญาบุญ นายอำเภอพาน กล่าวว่าปีน้ำมีปริมาณน้ำท่วมในเขตเทศบาลมากกว่าช่วง 10 ปีที่ผ่านมา,ขณะที่ระดับน้ำบริเวณถนนหลังตลาดหลวงปรีชา ได้ท่วมสูงจนแม่ค้ารีบปิดร้านเร็วขึ้นเพราะเกรงจะมีน้ำไหลเพิ่มขึ้นมา และเตรียมหากระสอบทรายมากั้นไว้หน้าร้าน และบางส่วนได้ไปขอรับกระสอบทรายที่ทางเทศบาลจัดเตรียมไว้ โดยทางเทศบาลตำบลเมืองพานได้นำรถติดตั้งเครื่องกระจายเสียง เพื่อแจ้งร้านค้าตลาดเมืองพาน ให้เตรียมรับมือกับระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น และกู้ภัยพานร่วมใจ ได้ออกเยี่ยมเยียนชาวบ้านช่วยยกสิ่งขอขึ้นที่สูง ,ส่วนที่ อ.แม่จัน น้ำป่าจากบนยอดดอยสูงตำบลป่าตึง ไหลหลากลงแม่น้ำจัน อย่างต่อเนื่องรวดเร็ว ทำให้ล้นตลิ่งเข้าท่วมไร่นาชาวบ้าน และเข้าท่วมตลาดสดนวลจัน กลางเมืองแม่จัน บ้านที่อยู่ริมแม่น้ำจัน หลังที่ว่าการอำเภอแม่จันและหลัง สภ.แม่จัน มีระดับน้ำท่วม สูงประมาณ 50 เซนติเมตร นอกจากนั้นน้ำที่ล้นเอ่อได้ไหลเข้าท่วมบ้านพักนางวันดี ราชมภู นายอำเภอแม่จัน ต้องรีบเรียก อาสาสมัครมาช่วยขนของหนีน้ำ ส่วนที่สะพานข้ามบ้านป่าบง ต.ป่าตึง น้ำท่วมพื้นสะพานสูงกว่า 50 ซม. และมีกอวัชพืชไหลมากับน้ำเข้าไปอุดตันที่ใต้สะพาน เจ้าหน้าที่ต้องอยู่เฝ้าคอยเขี่ยออก ที่ถนนพลโยธินแยกแม่อายน้ำได้ไหลเอ่อท่วมพื้นถนน 1 เลน เจ้าหน้าที่ได้ตั้งกรวยแผงเหล็กกั้นปิดไว้ ,และที่ถนนระหว่างบ้านสันมงคล ต.แม่จัน –บ.แม่เฟือง ต.ป่าตึง ถูกน้ำแม่จันไหลเจาะใต้ถนนเป็นโพลงกว้างกว่า 4 เมตร ตอนแรกเจ้าหน้าที่ห้ามรถยนต์วิ่งผ่าน ให้วิ่งได้เฉพาะรถ จยย.แต่ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ถนนเกิดยุบพังขาดเป็นบริเวณกว้างประมาณ 4 เมตร ตัดขาดกันระหว่างหมู่บ้าน สันมงคล-บ.แม่เฟือง ชาวบ้านต้องหันไปใช้เส้นทางอื่นเข้าตัวอำเภอแม่จัน เจ้าหน้าที่ต้องรีบนำแผงเหล็กมาปิดกั้นห้ามรถทุกชนิดวิ่งผ่าน และคอยเตือนชาวบ้านไม่ให้เข้าใกล้เกรงจะเกิดอันตราย เพราะน้ำขุนสีแดงไหลเชี่ยวกรากรุนแรง | พื้นที่ 2 อำเภอในเชียงรายถูกน้ำท่วมอย่างหนัก ตลาดในอ.พานเกิดน้ำท่วมสูสุดในรอบ 10 ปี ส่วนน้ำท่วมที่อ.แม่จัน ซัดถนนขาด | ข่าว,ทั่วไทย | น้ำท่วม,อ.พาน,เชียงราย,น้ำท่วมตลาด,ฝนตกหนัก,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1357431 |
กระบะขนญาตินับ 10 แหกโค้งตกเหวลึกกว่า 20 ม. ดับ 1 | วันที่ 26 มี.ค. ร.ต.ท.เอกพันธ์ ดีเลิศวุฒิกร พงส.สภ.แม่ลาหลวง อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน พร้อม นพ.ทศพล ดิษฐศิริ รพ.แม่ลาน้อย ไปตรวจสอบอุบัติเหตุรถเสียหลักแหกโค้ง ตกลงไปในเหวลึกประมาณ 20 เมตร บนถนนสายบ้านแม่สะแมง 1 - บ้านแม่สะแมง 2 ต.แม่นาจาง อ.แม่ลาน้อย พบรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีดำ หมายเลขทะเบียน ผย 9064 ชลบุรี พลิกตะแคงตกลงไปข้างทาง สภาพรถได้รับความเสียหาย และข้างๆ รถพบร่าง นายโชคชัย ชาญชัยวรกิจ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36/1 หมู่ 1 ต.สันติคีรี อ.แม่ลาน้อย เสียชีวิตแล้ว ร่างมีเลือดไหลออกบริเวณศีรษะด้านหลังและหูทั้งสองข้าง,จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายวีระศักดิ์ ทองพรมแสง อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100/71 หมู่ 3 ต.เสนัด อ.เมือง จ.ชลบุรี ได้ขับรถกระบะคันเกิดเหตุ พาญาติพี่น้องนั่งโดยสารมาด้วย 10 คน เพื่อเดินทางไปยัง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ พอมาถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นทางโค้งหักศอกและขึ้นเขา รถได้เสียหลักแหกโค้งตกลงข้างทาง เป็นเหตุให้นายโชคชัยเสียชีวิตทันที ส่วนญาติๆ ที่นั่งมาด้วยกัน บาดเจ็บ แต่ไม่สาหัส พาส่งรักษาที่ รพ.แม่ลาน้อย แล้ว ทางตำรวจจะสอบสวนข้อเท็จจริงเจ้าของรถกระบะ มาดำเนินคดีต่อไป. | กระบะขนญาติพี่น้อง นั่งโดยสารรวม 10 คน รถเกิดเสียหลัก แหกโค้งหักศอก ตกลงข้างทางลึกกว่า 20 เมตร มีผู้เสียชีวิต 1 ที่เหลือบาดเจ็บไม่สาหัส ที่แม่ฮ่องสอน | ข่าว,ทั่วไทย | โค้งหักศอก,ตกเหว,ข่าว,ข่าวสังคม,ไทยรัฐออนไลน์,รถเสียหลัก,รถกระบะเสียหลัก,รถแหกโค้ง,รถกระบะแหกโค้ง,แม่ลาน้อย,รถตกเหว | https://www.thairath.co.th/news/local/489246 |
สุวรรณภูมิถูกโวย-ยอมชะลอขึ้นค่าจอดรถ นัดถกตัวแทนผู้ประกอบการหาข้อยุติพรุ่งนี้ | วันนี้ (18 พ.ย.2558) น.ส.ดาลัด อัศเวศน์ รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายการพาณิชย์) กล่าวถึงกรณีผู้ประกอบการขนส่งสินค้าในเขตปลอดอากรที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ประท้วงปิดทางเข้า-ออก เพื่อร้องเรียนปัญหาการขึ้นอัตราภาระสำหรับการบริการค่าที่จอดรถสำหรับบุคคลทั่วไป เมื่อเวลาประมาณ 11.30 น. วันนี้ ว่า ภายหลังรับทราบเรื่อง ทสภ.ได้ลงไปชี้แจงทำความเข้าใจกับกลุ่มผู้ประท้วง โดยในเบื้องต้นได้รับข้อร้องเรียนดังกล่าวไปพิจารณา เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการแล้ว และยินดีที่จะชะลอการขึ้นอัตราค่าจอดรถใหม่ออกไปก่อน ซึ่งเมื่อผู้ประท้วงรับทราบจึงยินยอมเปิดทางเข้า-ออกเพื่อให้รถยนต์ทุกประเภทได้เข้าไปดำเนินการขนส่งสินค้าได้ตามปกติ สำหรับการประท้วงครั้งนี้ใช้เวลาประมาณชั่วโมงเศษ และสลายตัวเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการให้บริการด้านการขนส่งสินค้าของ ทสภ. ซึ่ง ทสภ. จะเชิญตัวแทนกลุ่มผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน มาเจรจาเพื่อหาข้อยุติอีกครั้งในวันที่ 19 พ.ย. และจะนำข้อสรุปไปเร่งดำเนินการแก้ไขต่อไปทั้งนี้ ทสภ. ได้มีการเรียกเก็บอัตราค่าบริการจอดรถในเขตปลอดอากร โดยรถยนต์จะคิดอัตรา ชม.ละ 10 บาท รถจักรยานยนต์ ชม.ละ 5 บาท และ ทอท. ได้มีการปรับอัตราค่าภาระการใช้ท่าอากาศยาน ทรัพย์สิน บริการ และความสะดวกต่าง ๆ ในกิจการของท่าอากาศยาน มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.2557 เป็นต้นมา ซึ่งรวมถึงการปรับอัตราค่าบริการจอดรถในเขตปลอดอากรด้วย จึงทำให้อัตราค่าจอดรถยนต์ในเขตปลอดอากรถูกปรับขึ้นเป็น ชม. ละ 20 บาท รถจักรยานยนตร์ ชม. ละ 10 บาท แต่ที่ผ่านมา ทสภ. ได้ผ่อนผันอัตราค่าจอดรถในเขตปลอดอากรให้ใช้อัตราเดิมไปก่อน และเริ่มเก็บอัตราใหม่ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 16 พ.ย.2557 ตั้งแต่เวลา 07.00 น. เป็นต้นไป | ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เจรจาหาข้อสรุปในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนจากการขึ้นค่าจอดรถในเขตปลอดอากร หลังเกิดการประท้วงในวันนี้ เบื้องต้นชะลอการขึ้นอัตราใหม่ไปก่อนและนัดตัวแทนผู้ได้รับผลกระทบเจรจาหาข้อยุติในวันพรุ่งนี้ (19 พ.ย.) เพื่อเร่งดำเนินการแก้ไขต่อไป | สังคม | ขึ้นค่าจอดรถ,ขึ้นค่าจอดรถสุวรรณภูมิ,ดาลัด อัศเวศน์,ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ,สุวรรณภูมิ,เขตปลอดอากร | https://news.thaipbs.or.th/content/6146 |
จงมาสิงไลฟ์ เปิ้ล ไอริณ กล้าบอกโสดนาน 2 ปีแล้ว | หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า อีกอาชีพหนึ่งที่เปิ้ลทำมานานกว่า 1 ปีแล้ว คือการไลฟ์ Live ขายของโน่น นั่น นี่ อยู่เรื่อยๆ ได้เงินเยอะอยู่นะ แน่นอนว่า ไลฟ์ขายของมานานขนาดนี้ ต้องมีฐานแฟนคลับชอบซื้ออยู่แล้ว ต้องไว้ใจเชื่อใจได้ว่า เปิ้ล ไอริณ จะคัดของดีมีคุณภาพ มาให้ได้ช็อปแหลกทางออนไลน์บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ จะพาไปคุยๆ กับเปิ้ล ไอริณ กันหน่อย โสดมานานกี่เดือนแล้ว? โสดมาสองปี แต่ก็มีมาคุยๆ บ้าง ยังไม่รีบค่ะ ไม่โฟกัสมาก ชอบการอยู่กับตัวเองค่ะไลฟ์ขายของมานานกี่เดือนแล้ว? ไลฟ์ขายมาปีหนึ่งได้แล้วค่ะ เคยไลฟ์ขายได้เยอะสุดต่อครั้งกี่บาท? เยอะสุด น่าจะเกือบสองแสนค่ะ แต่ทุนก็พอๆ กันนะคะเคยไลฟ์แล้วขายของไม่ได้เลย มีมั้ย? ไม่มีนะคะ ของที่เลือกสรรมา บอกเลย ใครอยากได้อะไร จงมาสิง มาให้ยืมใช้วิญญาณ ฉันหาให้ (หัวเราะ) คือเดาใจลูกค้าถูกค่ะ ขายด้วยความรักจริงๆ ใช้หัวใจและเซ้นส์หาของมาขายด้วยค่ะหุ่นดีมากๆ มีวิธีกิน ฟิตหุ่นอย่างไรบ้าง? เปิ้ลเชื่อว่า โฟกัสสิ่งใดสิ่งนั้นขยายผล เราชื่นชมตัวเองให้เป็น เวลาเรารักตัวเองมากๆ เราก็จะอยากจะดูแลตัวเองดีๆ เองค่ะ ปัจจุบันเข้าฟิตเนส อาทิตย์ละสามวันเรื่องทานไม่ตึงมากนะคะ ทานตามใจปาก ให้รางวัลตัวเองบ่อยๆ ว่างๆ ก็จะไปหากิจกรรมทำนอกบ้าน เล่นกีฬาเอาต์ดอร์ กอล์ฟ เจ็ตสกี ว่ายน้ำ ชอบการเดินทางค่ะ เปิ้ลว่าเรื่องสุขภาพ ไม่เครียด ทำตัวสดใสกระตือรือร้น ร่าเริง ทุกอย่างดีตามเองค่ะ. | อีกหนึ่งเซ็กซี่สตาร์ อวดอึ๋มให้ชวนชมบ่อยอยู่นะในไอจี เปิ้ล ไอริณ ชอบเซ็กซี่ไม่หยุด | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | เปิ้ล ไอริณ ศรีแกล้ว,เปิ้ล ไอริณ เซ็กซี่,เปิ้ล ไลฟ์ขายของ,ดาราไลฟ์ขายของ,เปิ้ล Live,กอสซิป | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1899497 |
แฟนคลับ ปลื้มจิตร์ ทุ่มเงินประมูลเสื้อพร้อมลายเซ็น | ฝ่ายจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลสโมสรหญิงชิงแชมป์เอเชีย จัดกิจกรรมการประมูลเสื้อทีมชาติ พร้อมลายเซ็นของ 4 นักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ไม่ว่าจะเป็น วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์ กัปตันทีม อรอุมา สิทธิรักษ์ ตัวตบ นุศรา ต้อมคำ ตัวเซต และปลื้มจิตร์ ถินขาว ตัวตบบอลเร็วซึ่งผลปรากฎว่า เสื้อของ ปลื้มจิตร์ มีแฟนวอลเลย์บอลให้ความสนใจยื่นข้อเสนอประมูลเป็นอย่างมาก ก่อนที่น้องหนึ่ง-พธู ขามาลา จะคว้าไปได้ด้วยราคาประมูลสูงสุดที่ 3700 บาท โดย น้องหนึ่ง-พธู บอกว่า เป็นแฟนคลับของปลื้มจิตร์มานาน และ เพิ่งจะเคยมีโอกาสเข้ามาชมการแข่งขันของปลื้มจิตร์เป็นครั้งแรกในการแข่งขันรายการนี้ส่วนเสื้อที่ถูกแฟนวอลเลย์บอลประมูลในราคาสูงสุดรองลงมาคือ เสื้อของวิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์ กัปตันทีมจบประมูลที่ 2600 บาท เสื้อของ อรอุมา จบที่ 2000 บาท และเสื้อของนุศรา จบที่ 1700 บาท ก่อนที่ผู้ที่ประมูลได้จะนำเสื้อของ นุศรา มาขายให้แก่แฟนวอลเลย์บอลในราคา 1000 บาท พร้อมกับมอบเงินทั้งหมดให้กับสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทยทำให้จากกิจกรรมในครั้งนี้มีเงินเข้าสมาคมวอลเลย์บอลจำนวนทั้งสิ้น 11000 บาทส่วนผลการแข่งขันของ สโมสรช้าง ซึ่งลงเล่นเป็นนัดสุดท้ายในรอบแบ่งกลุ่ม ชนะ ทีมเอเชีย เวิลด์ วีซี จากเมียนม่าร์ 3 เซตรวด ด้วยคะแนน 25-7 25-16 และ 25-14 ทีมช้างผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายเป็นที่สองของสาย โดยจะเข้าไปพบกับมาเลเซียในวันศุกร์นี้ | แฟนวอลเลย์บอลของปลื้มจิตร์ ถินขาว นักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยทุ่มเงินถึง 3700 บาท เพื่อประมูลเสื้อ พร้อมลายเซ็นของปลื้มจิตร์ | กีฬา | ทีมชาติไทย,ประมูลเสื้อ,ปลื้มจิตร์ ถินขาว,วอลเลย์บอล | https://news.thaipbs.or.th/content/81099 |
ระวังของเข้าตัว อาจารย์แป๊ะ เตือนขโมยชุดไทยแม่ตะเคียน ใส่ตามกระแสบุพเพฯ | เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 เม.ย.61 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายสราวุธ ไปล่นรินทร์ ไวยาวัจกร วัดสว่างอารมณ์ แคแถว ต.ขุนแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา มีคนร้ายเข้ามาขโมยชุดไทย ที่สาธุชนนำมาแก้บนถวายแม่ตะเคียนเงินแม่ตะเคียนทอง หายไปกว่า 30 ชุด จึงเดินทางไปตรวจสอบ,โดยนายสราวุธ ได้ชี้ให้ดูที่ราวแขวนผ้าชุดไทย ซึ่งแต่เดิมจะมีชุดแขวนไว้แน่นเป็นร้อยชุด ที่สาธุชนนำมาถวายแก้บนให้เจ้าแม่ตะเคียนทอง ที่แขวนไว้เป็นราวยาวแน่นหนา เป็นรอยโหว่หายไปครึ่งราว และยังพบว่าที่ด้านหน้าหุ่นแม่ตะเคียนยังมีชุดไทยและผ้าห่มสไบหลากสี ทั้งเขียว แดง ส้ม ซึ่งถูกรื้อมาเป็นชุดผ้าเก่าและมีตำหนิถูกวางกองทิ้งอยู่ ใกล้กันยังพบถุงสีดำขนาดใหญ่วางทิ้งไว้ 1 ถุง,นายสราวุธ เผยว่า ในช่วงเย็นวานนี้ยังเห็นชุดไทยแขวนเต็มในราวแขวนผ้า จากนั้นในช่วงค่ำจนถึงเช้าวันนี้ ฝนได้ตกลงมาทั้งคืน สันนิษฐาน ว่าโจรแสบ ได้ฉวยโอกาสช่วงดังกล่าวเข้ามาลักขโมยชุดไทยไป ประกอบกับในช่วงนี้กระแสละคร บุพเพสันนิวาส มาแรง ดูตามข่าวเห็นว่ามีโจรเข้ามาลักหายกันหลายวัด อาจเป็นเพราะผลิตไม่พอจำหน่าย จึงต้องมาลักขโมยกัน,ตรวจสอบในเบื้องต้น ผ้าไทย ชุดไทยสไบเฉียง ชุดไทยประยุกต์ ในตู้ที่พับเก็บไว้ก็หายไปหลายชุด และเครื่องประดับชุดมุกและสร้อยที่เก็บไว้เพื่อตกแต่งให้กับหุ่นเจ้าแม่หลายชิ้นถูกลักหายไป ส่วนชุดไทยที่แขวนไว้ในราวหายไปไม่ต่ำกว่า 30 ชุด แล้วยังมีกองผ้าทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้าอีก อาจเป็นเพราะใส่ไม่ได้ หรือเนื้อผ้าดูเก่าเกินไปจึงวางทิ้งไม่เอาไป คาดว่าคนร้ายน่าจะนำไปขายต่อตามตลาดนัดขายราคาถูก ก็เป็นได้,ด้านพระครูยติธรรมานุยุติ หรืออาจารย์แป๊ะ เจ้าอาวาสวัดสว่างอารมณ์ เผยว่า ชุดไทยเหล่านี้เป็นของสาธุชนที่นำมาแก้บนถวายแม่ตะเคียนเงินแม่ตะเคียนทอง ส่วนใหญ่แล้วจะมีคนมากราบไหว้ขอพรตามความเชื่อของคนไทย เมื่อมาขอพรแม่ตะเคียนเงินแม่ตะเคียนทอง ไม่ว่าจะเขย่าติ้ว เสี่ยงเซียมซี ขอเลขเด็ดจากต้นตะเคียนอายุกว่า 200 ปี ที่ตั้งอยู่ด้านข้างในศาลาเดียวกัน เมื่อได้โชคได้ลาภ จากการขอจากสิ่งเหล่านี้ จะเอาชุดมาแก้บนตามประสาคนโบราณได้รับโชค แล้วแต่ความเชื่อของแต่ละคน,สำหรับชุดเหล่านี้ถือเป็นของวัด ของเทวดา บางคนมาขออาตมายังไม่กล้าให้ใครไป อย่างไรอาตมาก็ขออนุโมทนาบุญเถอะ เรื่องที่ไม่เป็นมงคล อย่าทำ เอาไปใส่แล้วก็ไม่ได้เป็นมงคล อาจจะเป็นสิ่งไม่ดีกับตัวเองก็ได้ บรรดาพ่อค้าแม่ค้าหัวใส หรือพวกรับซื้อก็ต้องระมัดระวัง ประเภทลักขโมยของวัดไปขายก็ขอบอกเตือนว่าอย่าทำมันไม่เป็นมงคลเลย ไม่เชื่ออย่าลบหลู่. | ออเจ้าฟีเวอร์ ลามมาถึงวัดดัง ถูกขโมยชุดไทยที่สาธุชนนำมาแก้บนถวายแม่ตะเคียนเงินแม่ตะเคียนทอง หายไปกว่า 30 ชุด อาจารย์แป๊ะ เตือน ขโมยไปใส่ ไม่เป็นมงคล อาจจะเป็นสิ่งไม่ดีกับตัวเอง | ข่าว,ทั่วไทย | ขโมยชุดไทย,วัดสว่างอารมณ์,นครปฐม,อาจารย์แป๊ะ,เจ้าแม่ตะเคียน,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1250336 |
งาน ทุ่งทานตะวัน ณ บ้านระไซร์ ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรแก่ท้องถิ่น | เศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาเป็นแนวทางในการดำเนินงาน และเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ จึงมีพระดำริให้จัดงาน ทุ่งทานตะวัน ณ บ้านระไซร์ ครั้งที่ 3 พร้อมกับได้เสด็จไปทรงเปิดงานด้วยพระองค์เอง ณ ศูนย์เรียนรู้การเกษตรอทิตยาทร บ้านระไซร์ ต.ตั้งใจ อ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์,โอกาสนี้ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ได้ทอดพระเนตรการจัดกิจกรรมภายในงาน อาทิ กิจกรรมเวิร์กช็อป การจัดสวนของขวัญ การจักสานหัตถกรรมท้องถิ่น การทำกังหันลมทานตะวัน การทำผ้ามัดย้อม และการแต่งหน้าคัพเค้กทานตะวัน โดยใช้ผลผลิตจากต้นทานตะวัน ซึ่งได้รับความร่วมมือจากสถาบันการศึกษาในจังหวัดสุรินทร์ร่วมดำเนินงาน เพื่อให้ผู้มาเที่ยวงานได้มีกิจกรรมทำร่วมกันพร้อมทั้งครอบครัว จากนั้นได้ทอดพระเนตรการจัดแสดงของสัตว์เลี้ยงน่ารัก ประกอบด้วยกระต่าย ลูกหมู ลูกแพะ และกิจกรรมอื่นๆ อาทิ หอคอยทานตะวัน 360 องศา จุดถ่ายภาพต่างๆ ในทุ่งทานตะวัน การออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์โอทอป ผ้าไหม เครื่องเงิน ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของกลุ่มสมาชิก, ,งานนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นตัวอย่างการส่งเสริมการปลูกพืชหลังจากการเก็บเกี่ยวแก่สมาชิกศูนย์เรียนรู้การเกษตรอทิตยาทร และเกษตรกรในพื้นที่ เป็นการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรให้กับชุมชนท้องถิ่นในจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งจะจัดถึงวันที่ 28 ก.พ.ศกนี้. | เพื่อให้ศูนย์เรียนรู้การเกษตรอทิตยาทร จ.สุรินทร์ ที่จัดตั้งขึ้นตามแนวพระดำริของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ตั้งแต่ปี 2558 เป็นที่รู้จักแก่บุคคลทั่วไปได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้วิถีการเกษตร โดยน้อมนำหลักปรัชญา | ไลฟ์สไตล์,ไลฟ์ | เศรษฐกิจพอเพียง,บ้านระไซร์,ศูนย์เรียนรู้การเกษตรอทิตยาทร,ทุ่งทานตะวัน,ท่องเที่ยวเชิงเกษตร,อื่นๆ | https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/1209183 |
สาวพริตตี้รักขมโดดปิ่นเกล้า ส่งข้อความไปหาแฟน เจอศพลอยเจ้าพระยา | แฟนผู้ตายเผย ผู้หญิงขี้หึงหนักทำให้ทะเลาะกัน รุนแรงไม่ยอมพบหน้าและขาดการติดต่อไป 3 วัน ไม่คิดว่าจะกล้าไปก่อเหตุฆ่าตัวตายรู้สึกเสียใจอย่างมาก ด้านญาติผู้เสียชีวิตไม่ติดใจสาเหตุการตาย เพราะกล้องวงจรปิดจับภาพขณะก่อเหตุสลดได้อย่างชัดเจน,กรณีเหตุสลดใจ สาวปริศนา นั่งรถแท็กซี่จากศูนย์การค้าเดอะเซ้นส์ ปิ่นเกล้า จะข้ามไปฝั่งพระนคร ขณะโชเฟอร์แท็กซี่ขับรถอยู่บนสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า หญิงดังกล่าวเปิดประตูยื่นเงินค่าโดยสารให้โชเฟอร์ตกใจจอดรถให้แล้วไปกระโดดสะพานลงแม่น้ำเจ้าพระยา เหตุเกิดกลางดึกวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ระดมค้นหาแต่ยังไม่พบตัว ระหว่างนั้นมีหญิงสาวคู่หนึ่งมาดูที่เกิดเหตุให้การว่า เป็นพี่สาวและเพื่อนชาย น.ส.ณิชาภา หรือหมู โพธิ์ใหญ่ อายุ 33 ปี ชาว จ.แพร่ คาดว่าเป็นผู้หญิงกระโดดสะพานสูญหายไปในน้ำ ก่อนเกิดเหตุนั่งดื่มกินด้วยกันร้องไห้บอกว่าคงไม่ได้เจอกันอีกและหายตัวไป สาเหตุเครียดทะเลาะกับแฟนหนุ่ม,ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 16 ต.ค. ร.ต.อ.วิรัตน์ เมฆกูล รอง สว.(สอบสวน) สน.บวรมงคล รับแจ้งเหตุพบศพหญิงลอยในแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงน้ำท่าช้าง ลอยมาติดที่ท่าเรือเทเวศร์ ประสานอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนำเรือไปโยงลากศพขึ้นที่ใต้สะพานพระราม 8 แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กทม. พบเป็นศพหญิงสาว สภาพศพนอนคว่ำหน้า สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว กางเกงยีนส์ขาสั้นสีน้ำเงิน ไม่มีร่องรอยการถูกทำร้าย เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2 วัน ญาติ น.ส.ณิชาภา หรือหมู โพธิ์ใหญ่ ทราบข่าวพบศพลอยน้ำเดินทางไปดูศพยืนยันศพหญิงดังกล่าวคือ น.ส.ณิชาภา หรือหมู โพธิ์ใหญ่ อยู่บ้านเลขที่ 163 หมู่ 7 ต.บ้านเลา อ.สูงเม่น จ.แพร่ ที่กระโดดลงมาจากสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า,จากการสอบสวนญาติผู้เสียชีวิตทราบว่า น.ส.ณิชาภา หรือหมู โพธิ์ใหญ่ ทำงานเป็นพนักงานเสมียน บริษัทแห่งหนึ่งย่านห้วยขวาง และยังรับงานเป็นสาวพริตตี้รับงานโชว์ตัวตามงานอีเวนต์ต่างๆ ก่อนเกิดเหตุไปดื่มกินกับพี่สาวและเพื่อนที่ห้างเดอะเซ้นส์ ปิ่นเกล้า นั่งร้องไห้ตลอดเวลา เพราะติดต่อแฟนหนุ่มไม่ได้โทรศัพท์ไปก็ไม่รับสาย ไลน์ไปก็ไม่ตอบ เนื่องจากทะเลาะกัน เพื่อนอ่านไลน์ในโทรศัพท์ผู้ตายทิ้งไว้ก่อนหายตัวไป พบข้อความส่งถึงแฟนหนุ่ม ถ้าไม่รับสายจะไปกระโดดสะพานฆ่าตัวตายให้เป็นตราบาปกับผู้ชายตลอดไป จากนั้นเจ้าหน้าที่ส่งศพไปชันสูตรที่ รพ.ศิริราช เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป,ด้าน พ.ต.ท.พัฒนพงษ์ วิฤทธิ์เตชะ รอง ผกก.สส.สน.บางยี่ขัน พื้นที่เกิดเหตุกล่าวว่า จากการสอบสวนญาติผู้เสียชีวิตยืนยันตำรวจ สน.บวรมงคลพบศพหญิงลอยน้ำ คือ น.ส.ณิชาภา หรือหมู โพธิ์ใหญ่ สาเหตุที่ก่อเหตุฆ่าตัวตาย เพราะทะเลาะกับแฟนหนุ่มและติดต่อไม่ได้ เบื้องต้นตำรวจโทรศัพท์ติดต่อแฟนหนุ่มผู้ตายได้แล้วให้การเบื้องต้นว่า คบหาเป็นแฟนกันมาระยะหนึ่ง ผู้หญิงเป็นคนขี้หึงและชอบตามไปอาละวาดตามสถานที่ต่างๆจึงทะเลาะกันอย่างรุนแรงทำให้แฟนหนุ่มไม่ยอมพบหน้าและขาดการติดต่อไป 3 วัน ไม่คิดว่าจะสร้างความเสียใจให้แฟนกล้าไปก่อเหตุฆ่าตัวตายรู้สึกเสียใจอย่างมาก ส่วนญาติผู้เสียชีวิตไม่ติดใจการตาย เนื่องจากเห็นภาพจากกล้องวงจรปิดชัดเจน ผู้เสียชีวิตเปิดประตูรถแท็กซี่ลงไปกระโดดสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าก่อเหตุสลดดังกล่าว | พบแล้วศพสาวกระโดดสะพาน สมเด็จพระปิ่นเกล้า ปลิดชีพตัวเอง เป็นสาวพริตตี้และทำงานเป็นเสมียนบริษัทแห่งหนึ่งย่านห้วยขวาง ญาติดูศพยืนยันหลังตำรวจพบศพหญิงลอยน้ำ | ข่าว,ทั่วไทย | ฆ่าตัวตาย,กระโดดสะพาน,สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า,พริตตี้ฆ่าตัวตาย,ข่าวหน้า1 | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1398094 |
กระแสการสร้างหนังภาษาอังกฤษของผู้สร้างหนังเมืองคานส์ | เรื่องราวในโลกอนาคตที่คนโสดถูกบังคับให้หาคู่ภายในเวลา 45 วัน เพื่อเลี่ยงจากการถูกรัฐบาลจับแปรสภาพให้เป็นสัตว์ คือ เนื้อหาตลกร้ายของ The Lobster ผลงานชิงปาล์มทองคำของผู้กำกับชาวกรีซ ยอร์กอส ลันธิมอส ที่ผันตัวมาสร้างหนังในภาษาอังกฤษเป็นครั้งแรก ไม่ต่างจากเปาโล ซอร์เรนติโน ผู้กำกับแถวหน้าของอิตาลี ที่ส่ง Youth ภาพยนตร์ภาษาอังกฤษที่ได้สองนักแสดงรุ่นใหญ่อย่างไมเคิล เคน และ ฮาร์วีย์ ไคเทล เข้าชิงเช่นกันผลงานชิงปาล์มทองคำทั้ง 20 เรื่องในปีนี้ มีถึง 10 เรื่องที่ถ่ายทำในภาษาอังกฤษ โดยกว่าครึ่งเป็นผลงานของผู้กำกับจากชาติที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ โดยเธียร์รี เฟรโมซ์ ประธานจัดเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ยอมรับว่าแต่ละปีมีผู้สร้างหนังนานาชาติส่งหนังภาษาอังกฤษมาพิจารณานับไม่ถ้วน ส่วนเจเรมี โธมัส ผู้อำนวยการสร้างผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของหนังต่างประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร ทั้ง The Last Emperor และ Merry Christmas Mr. Lawrence ชี้ว่าผู้กำกับหลายคนต้องการสร้างหนังในภาษาอังกฤษ เพราะสามารถเข้าถึงผู้ชมจำนวนมาก และยังเปิดทางไปสู่การร่วมงานกับนักแสดงจากหลากหลายเชื้อชาติอีกด้วยหนึ่งในผู้กำกับที่ส่งหนังภาษาอังกฤษชิงปาล์มทองคำปีนี้ยังรวมถึงมัตเทโอ การ์โรเน เจ้าของรางวัล Grand Prix เมื่อปี 2008 ที่นำนิทานเก่าแก่ของอิตาลีมาถ่ายทอดในภาษาอังกฤษโดยทีมนักแสดงนานาชาติในเรื่อง The Tale Of Tales โดยการ์โรเนจำเป็นต้องใช้ล่ามแปลภาษาระหว่างถ่ายทำไปด้วย ซึ่งผู้กำกับยืนยันว่าการสร้างหนังในภาษาอังกฤษจะทำให้หนังที่เล่าถึงนิทานพื้นบ้านของอิตาลี เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากกว่าสร้างในภาษาอิตาเลียนอั้งลี่ คือ ตัวอย่างของผู้กำกับต่างชาติที่ประสบความสำเร็จในการสร้างหนังในภาษาอังกฤษ ทั้งจาก Sense and Sensibility และ Life Of Pi แต่ที่ผ่านมา มีผู้กำกับแนวอาร์ทเฮาส์ไม่น้อยที่ล้มเหลวจากการสร้างหนังเอาใจผู้ชมที่ใช้ภาษาอังกฤษ ทั้งเฟอร์นานโด เมไรเลส ผู้กำกับชาวบราซิลผู้โด่งดังจาก City of God แต่หนังภาษาอังกฤษในยุคต่อมาทั้ง Blindness และ 360 กลับไม่เป็นที่ยอมรับของนักวิจารณ์ ส่วนผู้กำกับใหญ่จากวงการหนังจีนทั้งหว่องกาไว และ เฉินข่ายเก๋อ ต่างเสียเครดิตจากการทำหนังภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะ Killing Me Softly ของเฉินข่ายเก๋อ กลายเป็นหนังไม่กี่เรื่องที่ได้รับ 0 คะแนนจากเว็บไซต์วิจารณ์หนัง Rotten Tomatoesการหันมาสร้างหนังภาษาอังกฤษของผู้กำกับนานาชาติ ส่วนทางกับกระแสของคนดูหนังในปัจจุบันที่หันมาสนับสนุนภาพยนตร์ที่ผลิตในประเทศ นอกจากการเติบโตของตลาดภาพยนตร์ในประเทศของชาติในเอเชียแล้ว แฟนหนังในฝรั่งเศส เจ้าภาพจัดเทศกาลภายนตร์เมืองคานส์ก็หันมาสนับสนุนภาพยนตร์ฝรั่งเศสกันมากขึ้น จนปี 2014 กลายเป็นปีที่วงการภาพยนตร์ฝรั่งเศสทำเงินได้สูงที่สุดในรอบ 50 ปี ด้วยยอดจำหน่ายตั๋วกว่า 209 ล้านใบ | แม้ปีนี้จะไม่มีหนังอังกฤษเข้าชิงปาล์มทองคำ แต่ครึ่งหนึ่งของผลงานที่ชิงรางวัลสูงสุดในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ปีนี้ คือ หนังที่สร้างในภาษาอังกฤษ แต่การหวังใช้ภาษาอังกฤษคอยส่งเสริมให้ภาพยนตร์เป็นที่สนใจของแฟนหนังนานาชาติ กลับสวนทางกับกระแสปัจจุบันที่แฟนหนังสนับสนุนภาพยนตร์ท้องถิ่นมากขึ้น | ศิลปะ-บันเทิง | ข่าว19.00,ข่าวศิลปบันเทิง,คานส์,ปาล์มทองคำ,หนังภาษาอังกฤษ,เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์,เทศกาลหนัง,ไทยบันเทิง | https://news.thaipbs.or.th/content/1934 |
มังกรไฟ ดับโทษ ซางัน 4-3 คว้าแชมป์โตโยต้า พรีเมียร์คัพ | การแข่งขันศึกฟุตบอลโตโยต้า พรีเมียร์คัพ 2015 ที่สนามศุภชลาศัย เวลา 16.00 น. เป็นการเจอกันของทีมบีอีซี เทโรศาสน แชมป์โตโยต้า ลีกคัพ จากประเทศไทย พบกับ ซางัน โตสุ จากประเทศญี่ปุ่น,เริ่มเกมในครึ่งแรกเป็นทีมเยือนจากญี่ปุ่นที่ครองเกมทำเกมรุกได้ดีกว่า ขณะที่บีอีซี เทโร ศาสน พยายามใช้ทีเด็ดของ เมสซีเจ ชนาธิป สรงกระสินธ์ เป็นอาวุธเด็ดในแนวรุก และเป็นทีมมังกรไฟ ที่มีโอกาสทักทายก่อนในนาที 6 จากการปั่นฟรีคิกของรังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค แต่ถูกผู้รักษาประตูของซางัน โตสุ ปัดออกไปได้,จากนั้นในนาที 34 จากจังหวะการเปิดของชนาธิป สรงกระสินธ์ ทางฝั่งซ้าย เข้ามาที่หน้าประตูให้กับ อดิศักดิ์ ไกรษร ซัดด้วยขวาข้างถนัด แต่บอลหลุดกรอบออกไปอย่างเสียดาย ทำให้จบครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0,เกมในครึ่งหลัง เป็นทีมจากแดนปลาดิบที่มีโอกาสได้ประตูขึ้นนำในช่วงนาที 48 เมื่อ นาโอกิ ฟูจิตะ ปั่นฟรีคิกบริเวณหน้ากอรบเขตโทษบอลเกือบเสียบเสาเข้าไป แต่สมพร ยศ นายทวานของทีมมังกรไฟ ปัดออกไปได้อย่างหวุดหวิด,กระทั่งในช่วงท้ายเกมนาทีที่ 64 ซางัย โทสุ ก็มาเหลือผู้เล่นเพียงแค่ 10 คนเมื่อ ยูาทกะ โยชิดะ เจตนาทำแฮนด์ ทำให้โดนใบเหลืองที่สอง โดนไล่ออกจากสนาม,และในนาทีที่ 70 บีอีซี เทโร ศาสน เกือบได้ประตูชัย จากจังหวะทำชิ่งอย่างสุดสวย จากการซ้ำจ่อ ๆ ของ โบยาน เบลิซ แต่บอลหลุดกรอบออกไป,ทำให้จบ 90 นาที เสมอกันอย่างสนุก 0-0 ต้องตัดสินกันด้วยการยิงจุดโทษ และเป็นทีมมังกรไปที่ทำได้ดีกว่า เอาชนะไปด้วยสกอร์ 4-3 ในช่วงซัดเดนเดธ คว้าแชมป์โตโยต้า พรีเมียร์ คัพ ไปครองได้เป็นสมัยแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร บเงินรางวัลกว่า 1 ล้านบาท พร้อมรถยนต์โตโยต้า อัลติส ส่วนทีมซางัน โทสุ รับเงินรางวัลปลอบใจไป 5 แสนบาท | บีอีซีฯ แม่นเป้า ! ดวลจุดโทษเอาชนะ ซางัน โทสุ จากญี่ปุ่น ไปอย่างสนุก 4-3 คว้าแชมป์โตโยต้า พรีเมียร์คัพ ไปครองได้เป็นครั้งแรกของสโมสร พร้อมเงินรางวัลอีก 1 ล้านบาท และรถยนต์โตโยต้า อัลติส ไปครอง | null | บีอีซี เทโรศาสน,มังกรไฟ,ซางัน โทสุ,เจลีก,ญี่ปุ่น,ดวลจุดโทษ,โตโยต้าพรีเมียร์ คัพ 2015,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/482879 |
ถาวร สอนมวยรัฐ แก้ยางตกต่ำ วอน นายกฯ ใช้ 3 มาตรการหลัก | วันที่ 6 ม.ค. นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตแกนนำ กปปส. กล่าวถึง แนวทางการแก้ไขปัญหาราคายางตกต่ำ ว่า ที่จริงรัฐบาลมีเครื่องมือในการแก้ไข แต่กลับมองข้าม มัวแต่โทษสถานการณ์ ขณะนี้ยางแผ่นดิบราคาเหลือเพียงประมาณ 30 บาท/กิโลกรัม น้ำยางสด ประมาณ 25 บาท/กิโลกรัม และมีแนวโน้มจะปรับต่ำลงไปอีก แม้รัฐจะอ้างเหตุผลเศรษฐกิจโลกที่ยังซบเซา ราคาน้ำมันที่ตกต่ำ อัตราการเจริญเติบโตของจีนมีปัญหา แต่โดยบทบาทและหน้าที่ของรัฐบาล ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี และรมว. เกษตรฯ ที่เป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง ต้องใช้ความรู้ความสามารถ ,หนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่รัฐไม่เคยคิดจะนำมาใช้อย่างจริงจัง คือ การอาศัยความร่วมมือของประเทศผู้ผลิตยางพารารายใหญ่สามประเทศ ซึ่งมีผลผลิตรวมกันมากกว่า 70% ของผลผลิตยางทั้งโลก โดยผลักดันให้ปัญหาราคายางตกต่ำเป็นปัญหาระดับภูมิภาค ถือเป็นความเดือดร้อนร่วมกันของเกษตรกรชาวสวนยางทั้งสามประเทศ คือ ไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย และจะต้องแก้ไขปัญหาผ่านทางบริษัทร่วมทุนไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย (IRCo) ซึ่งดูแลโดยคณะกรรมการอำนวยการ (BoDs:Boards of Directors) และคณะกรรมการกำหนดกลยุทธ์ (CSMO) ที่มีตัวแทนทั้งสามประเทศเป็นกรรมการ โดยการควบคุมด้านนโยบายจากคณะกรรมการร่วมสภาไตรภาคียางพารา (ITRC),นายถาวร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ รัฐมนตรีร่วมของสามประเทศ ได้ตกลงร่วมกันที่บาหลี เรียกว่า ข้อตกลงบาหลี (Bali Declaration 2001) ได้รับการรับรองถูกต้องตามกฎหมายผ่านทางรัฐสภาของทั้งสามประเทศแล้ว ในสัดส่วนการร่วมทุน IRCo 4:3:2 (ไทย:อินโดนีเซีย:มาเลเซีย) มีสำนักงานอยู่ในกรุงเทพฯ ประเทศไทย และการตั้งบริษัทร่วมทุนนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นองค์กรบริหารจัดการราคายางพาราในตลาดโลก ให้อยู่ในระดับที่เกษตรกรผู้ผลิตได้รับผลตอบแทนคุ้มการลงทุน ราคามีเสถียรภาพ หากมีปัญหาราคายางตกต่ำ IRCo จะเข้าไปป้องกันแก้ไขปัญหาราคายางตกต่ำทันที และไม่ผิดกฎเกณฑ์ WTO โดยใช้ 3 มาตรการสำคัญ คือ 1. มาตรการการบริหารจัดการการผลิต 2. มาตรการการบริหารจัดการการส่งออก และ 3. กลยุทธ์ด้านการตลาด ไทยในฐานะเป็นผู้ผลิตยางพารารายใหญ่ที่สุดของโลก ควรจะเป็นผู้เริ่มต้นหาความร่วมมือโดยทันที เพื่อเรียกประชุมฉุกเฉินและเสนอให้มีการระดมทุนนำเงินเข้ามาซื้อยางฯ ดูดซับออกจากระบบตามมาตรการกลยุทธ์ด้านการตลาดทันที,นายถาวร กล่าวอีกว่า ช่วงนี้กำลังจะปิดกรีดอีกไม่กี่วันข้างหน้า ดังนั้นโอกาสที่จะผลักดันให้ราคาขยับขึ้นได้แน่นอน ข้อดีที่คาดว่า จะเกิดขึ้นทันทีหากใช้มาตรการข้างต้น คือ 1. ราคายางจะปรับตัวสูงขึ้นเป็นผลดีต่อเกษตรกรชาวสวนยางฯ 2. เป็นการรับผิดชอบร่วมกันของสามประเทศ 3. เกิดความโปร่งใสในการดำเนินการมากกว่า 4. ประหยัดงบประมาณ 5. การดำเนินการภายใต้บริษัทร่วมทุนไม่ผิดกฎเกณฑ์ WTO จึงขอร้องรัฐบาลอีกครั้งหนึ่งว่า จะมัวแต่โทษสถานการณ์ไม่ได้อีกแล้ว เพราะเป็นเรื่องของคนจนและเกษตรกรชาวสวนยาง 20 ล้านคน แต่รัฐบาลได้ช่วยคนรวยและคนชั้นกลางในโครงการช็อปช่วยชาติไปเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งโครงการนี้คนจนไม่ได้รับประโยชน์อะไร ตนจึงขอกราบวิงวอนนายกฯ อีกครั้งหนึ่ง อย่าปล่อยให้ชาวสวนยางฯ ทั่วประเทศทนไม่ได้กับราคาที่ตกต่ำเช่นนี้ | ถาวร สอนมวยรัฐ มองข้ามเครื่องมือแก้ยางตกต่ำ แนะ ใช้ 3 มาตรการหลักไม่ผิดกฎ WTO เทียบ รบ. ใช้ช็อปช่วยชาติได้ต้องช่วยชาวสวนยางฯ ด้วย | null | ถาวร,แก้ยางตกต่ำ,ถาวร เสนเนียม,รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์,อดีตแกนนำกปปส.,ราคาน้ำมัน,ราคายางตกต่ำ,ไทย,อินโดนีเซีย,มาเลเซีย,สภาไตรภาคียางพารา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง | https://www.thairath.co.th/content/558884 |
อดีตครูลำปางเครียด ผูกคอกับสะพานข้ามลำห้วยดับ | เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 22 ม.ค. พ.ต.ท.สืบสกุล ขุนเพิ่ม พนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปาง รับแจ้งเหตุมีคนผูกคอตายที่ราวสะพานข้ามลำห้วยแม่ตุ๋ย ริมถนนเลียบแม่น้ำวัง บ้านดงไชย ต.สบตุ๋ย อ.เมือง จึงรุดตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 5 ลำปาง นายแพทย์กัมพล เครือคำขาว แพทย์นิติเวช รพ.ลำปางและเจ้าหน้าที่มูลนิธิ อพปร.เทศบาลนครลำปางจำนวนหนึ่ง,ที่เกิดเหตุ บริเวณสะพานคอนกรีต พบศพชายใช้เชือกไนลอนผูกคอ ห้อยติดอยู่กับราวสะพาน สูงจากผิวน้ำประมาณ 9 เมตร สภาพศพนุ่งกางเกงสแลกสีดำ สวมเสื้อกันหนาวสีดำ สวมกันน็อกดึงกระจกปิดใบหน้า ใกล้กันพบรถ จยย.ฮอนด้า รุ่นสกู๊ปปี้ไอ สีแดง ทะเบียน 1กก 4282 ลำปาง จอดอยู่ มีรองเท้าแตะวางอยู่ 1 คู่ คาดเป็นของผู้ตาย,เวลาต่อมา นายอรรถ สถาปัตย์ อายุ 36 ปี เดินทางมาที่เกิดเหตุแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่า ผู้ตายคือบิดาของตนเอง ชื่อนายสนิท หรือ ครูสนิท สถาปัตย์ อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1382 – 1383 ถนนไปรษณีย์ ต.หัวเวียง อ.เมือง จ.ลำปาง และเป็นอดีตครูโรงเรียนเขลางค์นคร หรือโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนานครปัจจุบัน,จากการสอบสวน นายอรรถ การว่า ตนเองไม่ทราบถึงสาเหตุการตายของพ่อ เพราะพ่อกับแม่แยกกันอยู่มานานหลายปีแล้ว ขณะที่ชาวบ้านที่อยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ เผยว่า เวลาเช้ามืด ประมาณ 04.00 น. ได้ยินเสียงผู้ชายกับผู้หญิงมีปากเสียงกัน จนกระทั่งรุ่งเช้า มีคนมาพบศพนายสนิทผู้ตาย เป็นศพผูกคอตายกับราวสะพาน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้เก็บหลักฐานอย่างละเอียดเอาไว้ ส่วนสาเหตุการตายตั้งข้อสันนิษฐานอาจเกิดจากความเครียดปัญหาส่วนตัว ก่อนจะมอบศพให้แพทย์นิติเวชนำไปตรวจสอบหาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง. | อดีตครูโรงเรียนดังเมืองลำปาง วัย 65 เครียดปัญหาส่วนตัว ตัดสินใจหนีปัญหา จบชีวิตตัวเอง ใช้เชือกผูกคอตายกับราวสะพานข้ามลำห้วย ชาวบ้านได้ยินเสียงชาย-หญิงทะเลาะกัน ก่อนมาพบศพตอนเช้า | ข่าว,ทั่วไทย | ฆ่าตัวตาย,ผูกคอตาย,ฆ่าแขวนคอ,โรงเรียนเขลางค์นครเหนือ,ร.ร.เตรียมอุดมศึกษาพัฒนานคร,สภ.เมืองลำปาง,จังหวัดลำปาง,ภูมิภาค,ไทยรัฐออนไลน์,คิดสั้น,ทะเลาะวิวาท,ผูกคอกับราวสะพาน,สะพานข้ามห้วย | https://www.thairath.co.th/news/local/476398 |
ตร.ชุมพรจับแก๊งค้ากัญชา ยึด 1.3 พันกก. ค่ากว่า 20 ล้าน | จากกรณีที่ พ.ต.ท.ฉลาด พลนาการ รอง.ผกก.ป. ทำหน้าที่หัวหน้าด่านตรวจบ้านพละ ต.เขาไชยราช อ.ปะทิว จ.ชุมพร นำกำลังตั้งด่านบนถนนเพชรเกษม จับกุม นายสมชาย เกตุศรี อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37 หมู่ 6 ต.บ้านนา อ.วชิรบารมี จ.พิจิตร พร้อมกัญชาอัดแท่ง จำนวน 614 กก. รถยนต์กระบะมิตซูบิชิ สีขาว ทะเบียน ฒฬ 4563 กรุงเทพมหานคร ได้เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 57 ที่ผ่านมา และสอบสวนขยายผลจนทราบถึงต้นตอและพฤติการณ์ ของการลักลอบขนกัญชาลอตใหญ่นั้น,วันที่ 2 ก.พ. เมื่อเวลา 11.00 น. ที่หน้ากองกำกับการตำรวจภูธร จ.ชุมพร นายวงศศิริ พรหมชนะ ผวจ.ชุมพร พร้อมด้วย พล.ต.ต.กิตติสัณห์ เดชสุนทรวัฒน์ รอง.ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.สมชาย นิตยบวรกุล รอง.ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.วิศิษฐ์ ศุกรเสพย์ ผบก.ภ.จว.ชุมพร พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช ผบก.สส.ภ.8 และตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดภูธรจังหวัดชุมพร แถลงข่าวจับกุมผู้ค้ารายใหญ่ ได้แก่ นายเชิดชัย คงฟู อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72/38 หมู่ 11 ต.ไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม นายศรัณยู จั่นจีน อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 94 หมู่ 3 ต.แม่สิน อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย นายฉลาด เหล็กช้าง อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39 หมู่ 6 ต.แม่สิน อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย นายจักรกฤษ แพทย์รักษา อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84 หมู่ 2 ต.ท่าคอย อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี นายสุชาติ ศรีแก้ว อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 หมู่ 19 ต.แตล อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์,พร้อมของกลางเป็นกัญชาอัดแท่ง จำนวน 1,362 กิโลกรัม รถกระบะ 4 คัน ประกอบด้วย รถยนต์กระบะนิสสัน รุ่นนาวาร่า สีเทาตอนเดียว ทะเบียน ถท 2735 กรุงเทพมหานคร รถกระบะโตโยต้า วีโก้ ตอนครึ่ง สีเทา ติดหลังคาแครี่บอย ทะเบียน ณต 7153 กรุงเทพมหานคร รถกระโตโยต้า วีโก้ ตอนครึ่ง สีเทา ติดหลังคาแครี่บอย ทะเบียน ฒฬ 286 กรุงเทพมหานคร และรถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ ตอนครึ่ง สีเทา ทะเบียน ฒร 3963 กรุงเทพมหานคร และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 9 เครื่อง,โดย พล.ต.ต.กิตติสัณห์ กล่าวว่า หลังจากจับกุมนายสมชายและทำการขยายผล สายลับตำรวจแจ้งมาว่า ในวันที่ 28-29 ม.ค. 58 นายเชิดชัย หรือ น้อง คงฟู อายุ 37 ปี พร้อมพวก ได้ใช้รถยนต์กระบะที่จับกุมได้ข้างต้นทั้ง 4 คัน ทำการขนกัญชาทั้งหมด จากฝั่งประเทศลาว เดินทางออกมาจาก จ.หนองคาย มุ่งหน้าไป อ.สามพราน จ.นครปฐม ต่อจากนั้นเช้าวันที่ 31 ม.ค. 58 กลุ่มของนายเชิดชัยได้เดินทางมุ่งหน้าลงสู่ภาคใต้,จึงนำกำลังตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด จ.ชุมพร ซึ่งจัดแบ่งกองกำลังเป็น 5 ชุด นำโดย พ.ต.อ.เสริมศักดิ์ พ่วงพิศ ผกก.สส.ภ.จว.ชุมพร เข้าสกัดทุกเส้นทาง และทำการจับกุมขบวนการขนกัญชาอัดแท่งกลุ่มนี้ได้ ในเวลา 12.30 น. บนถนนสายบางสะพาน-ชุมพร เส้นเลียบชายทะเล หมู่ 15 ต.ดอนยาง อ.ปะทิว จ.ชุมพร พร้อมควบคุมตัวผู้ต้องหาและของกลางทั้งหมด ไปสอบสวน ที่ สภ.มาบอำมฤต อ.ปะทิว,จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ลักลอบนำกัญชาทั้งหมดเข้ามาจากประเทศลาว เตรียมไปส่งขายยังจังหวัดภาคใต้ และประเทศมาเลเซีย หากส่งถึงประเทศมาเลเซีย จะมีมูลค่าประมาณกว่า 20 ล้านบาท รอง.ผบช.ภ. 8,ซึ่งภายหลังจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด ทาง ปปส.ภ.8 ได้ประสานกับจ้าพนักงาน ปปส.ภาค 7 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ทำการอายัดทรัพย์สินของนายเชิดชัย ที่บ้าน จ.นครปฐม ไว้แล้ว รวมมูลค่าทรัพย์สินที่อายัดไว้ ประมาณ 10 ล้านบาท ก่อนจะควบคุมคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป. | ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดภูธร จ.ชุมพร จับแก๊งค้ากัญชาอัดแท่ง ยึดของกลาง 1,362 กก. ค่ากว่า 20 ล้านบาท สารภาพนำเข้าจากประเทศลาว เตรียมส่งขายภาคใต้ตอนล่างและประเทศเพื่อนบ้าน ขยายผลจับกุม อายัดทรัพย์เพิ่มอีก 10 ล้านบาท | ข่าว,ทั่วไทย | จับกัญชามูลค่า 20 ล้านบาท,กัญชาอัดแท่ง,เครือข่ายยาเสพติด,กิตติสัณห์ เดชสุนทรวัฒน์,รอง.ผบช.ภ.8,วงศศิริ พรหมชนะ,ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร,เชิดชัย คงฟู,ปราบปรามยาเสพติด,สถานีตำรวจภูธร,สภ.ภูธร,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวสังคม | https://www.thairath.co.th/news/local/478632 |
สมศักดิ์ ฟิต ลุยสำรวจเรือนจำ ลั่นหลังถวายสัตย์ฯ พร้อมทำงานทันที | วานนี้ (13 ก.ค.) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ลงพื้นที่ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนชายบ้านกรุณา และเรือนจำกลางสมุทรปราการ เพื่อรับฟังปัญหาและเก็บข้อมูล ก่อนทำเป็นข้อสรุปและแผนในการทำงาน,โดย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนชายบ้านกรุณา อยู่ในความดูแลของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรม ซึ่งวันนี้ตนได้มารับข้อมูล ภาพรวมการดำเนินการและสถานที่ถือว่าดี มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยและสะอาด ผู้คนอาจจะสงสัยว่าบ้านกรุณานั้นจะแออัดหรือไม่ ซึ่งตนได้รับข้อมูลรวมทั้งได้พูดคุยกับผู้ที่เข้ารับการฝึกในศูนย์ และสำรวจสถานที่แล้วพบว่า สะอาด ปลอดเชื้อ และไม่แออัด นอกจากนี้ในศูนย์ฯ ยังมีการเรียนการสอนตามหลักสูตรปกติ และการฝึกอาชีพในด้านต่างๆ หากเยาวชนในศูนย์ฝึก สามารถปรับตัวปรับใจ มุ่งเน้นหาวิชาความรู้ ตนเชื่อว่าพวกเขาเหล่านั้น จะกลับมาเป็นคนดีมีความพร้อม มีคุณภาพได้ในวันข้างหน้า,นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า จากนั้นตนได้ไปรับข้อมูลที่เรือนจำกลางสมุทรปราการ ที่อยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ ซึ่งอยู่ไม่ห่างกันมากนัก โดยได้ลองชิมอาหารและขนมเบเกอรี่พบว่า รสชาติดี อร่อยทีเดียว รวมถึงได้ดูงานฝีมือ หัตถกรรม เช่น กระเป๋าหนัง งานที่บรรดานักโทษทำนั้น ฝีมือดีสวยงาม ได้คุณภาพ และนักโทษชายและหญิงยังได้รับค่าจ้างรายเดือน จากการจำหน่ายสินค้าที่พวกเขาทำด้วย นอกจากนี้ยังมีงานด้านการก่อสร้างและโยธา ที่สามารถนำนักโทษออกไปทำงานนอกสถานที่ได้อีกด้วย สิ่งต่างๆ เหล่านี้ถือเป็นเรื่องที่ดี ที่ทำให้นักโทษสามารถกลับตัวกลับใจเป็นคนดี และนำวิชาความรู้ไปประกอบอาชีพได้ในอนาคต,สิ่งที่ดูแล้วยังไม่ค่อยเป็นไปตามธรรมชาติของคนปกติ คือ การขึ้นเรือนนอนที่เร็ว เพราะจำนวนสัดส่วนผู้คุมต่อนักโทษนั้นอยู่ที่ผู้คุม 1 คนต่อนักโทษประมาณ 300 กว่าคน จึงต้องให้นักโทษเข้าเรือนนอนเร็ว เพราะหากเข้าช้าจะไม่เรียบร้อย นอกจากนี้อัตราเฉลี่ยของพื้นที่คือ นักโทษ 1 คนต่อพื้นที่ 1.4 ตารางเมตร อาจจะต้องนอนชิดกันมาก แต่บางที่อาจจะทำเป็นเตียงนอน 2 ชั้น สวนโครงสร้างของเรือนจำสมุทรปราการนั้นเป็นคอนกรีต แต่เรือนจำบางแห่งที่เก่าหน่อยก็จะเป็นไม้ ซึ่งจะต้องมีการปรับปรุงให้ดีขึ้น โดยจากนี้ตนจะต้องทยอยลงพื้นที่สำรวจและเก็บข้อมูลไปเรื่อยๆ ให้ครบทุกกรมในสังกัด เพื่อนำไปเป็นข้อมูล เพราะหลังจากที่ ครม.เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนแล้ว จะได้เริ่มทำงานได้ทันที นายสมศักดิ์ กล่าว | สมศักดิ์ ตรวจเยี่ยม บ้านกรุณา-เรือนจำสมุทรปราการ ผุดไอเดียทำเตียงนอน 2 ชั้น แก้ปัญหานักโทษแออัด ลั่นหลังถวายสัตย์ฯ พร้อมทำงานทันที | ข่าว,การเมือง | เลือกตั้ง,เลือกตั้ง62,สมศักดิ์ เทพสุทิน,สามมิตร,รมว.ยุติธรรม,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1614688 |
เจมส์ ทำ 22 แต้ม คลีฟแลนด์ บุกทุบ นักเกตส์ 110-101 | สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 8 พ.ย. ว่า การแข่งขันบาสเกตบอล เอ็นบีเอ สหรัฐฯ ฤดูกาล 2014-15 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น) คู่ที่น่าสนใจ เดนเวอร์ นักเกตส์ ทีมจากกลุ่ม เวสเทิร์น นอร์ทเวสต์ เปิดสนาม เป็ปซี เซ็นเตอร์ รับการมาเยือนของ คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส ทีมจากกลุ่ม อีสต์เทิร์น เซ็นทรัล ,เปิดเกมควอเตอร์แรก คาวาเลียร์ส เครื่องสุดร้อนแรงทำแต้มออกนำไปก่อน 38-20 จากนั้นควอเตอร์ที่ 2 นักเกตส์ เล่นได้ดีขึ้น ทำแต้มเป็น 25-20 แต่ยังเป็น คาวาเลียร์ส ที่นำอยู่ 58-45 ,จากนั้น ควอเตอร์ที่สาม ทั้งสองทีมผลัดกันทำแต้มอย่างสนุก แต่เป็น คาวาเลียร์ส ที่ยังนำ 85-71 ,เข้าสู่ควอเตอร์สุดท้าย นักเกตส์ แก้เกมมาดี ไล่บี้ทำคะแนนไล่มา แต่ก็ไม่ทัน จบเกม คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส บุกไปเอาชนะ เดนเวอร์ นักเกตส์ ไปได้ 110-101 คว้าชัยเป็นนัดที่ 2 ของฤดูกาล อยู่อันดับ 3 ของกลุ่ม อีสต์เทิร์น เซ็นทรัล ส่วน เดนเวอร์ นักเกตส์ แพ้เป็นนัดที่ 4 อยู่อันดับ 4 ของกลุ่ม เวสต์เทิร์น นอร์ทเวสต์,สำหรับผู้เล่นที่ฟอร์มดีที่สุดของเกมนี้ คือ แรนดี้ ฟอย ของ เดนเวอร์ นักเกตส์ ที่ทำไป 28 แต้ม 2 รีบาวด์ 9 แอสซิสต์ ส่วน เลบรอน เจมส์ ของ คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส ทำไป 22 แต้ม 7 รีบาวด์ และ 11 แอสซิสต์,ส่วนผลคู่อื่น มีดังนี้,มินเนโซตา ทิมเบอร์วูล์ฟ แพ้ ออแลนโด เมจิกส์ 103-112,ชิคาโก บูลส์ ชนะ ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตีซิกเซอร์ 118-115,แอนแลนตา ฮอว์กส์ แพ้ ชาร์ลอตส์ ฮอร์เนตส์ 113-122,อินเดียนา เพเซอร์ส แพ้ บอสตัน เซลติกส์ 98-101,มิลวอร์กี บักส์ แพ้ ดีทรอยต์ พิสตัน 95-98,นิวยอร์ก นิกส์ แพ้ บรุคลิน เนตส์ 99-110,วอชิงตัน วิซาร์ดส์ แพ้ โตรอนโต แร็ปเตอร์ส 84-103,เมมฟิส กริซลีย์ ชนะ โอกลาโฮมา ซิตี้ ธันเดอร์ส 91-89,ซาคราเมนโต คิงส์ ชนะ ฟีนิกส์ ซันส์ 114-112,ดัลลัส มาฟเวอร์ริกส์ ชนะ ยูทาห์ แจ๊ส 105-82 | เลบรอน เจมส์ ทำ 22 แต้ม กับ 11 แอสซิสต์ ช่วยให้ คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส บุกไปเอาชนะ เดนเวอร์ นักเกตส์ 110-101 คว้าชัยเป็นนัดที่ 2 ของฤดูกาล ในศึกบาสเกตบอลเอ็นบีเอ สหรัฐฯ | null | คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส,เดนเวอร์ นักเกตส์,บาสเกตบอลเอ็นบีเอ,ผลเอ็นบีเอ | https://www.thairath.co.th/content/462136 |
แรงงานคนละกึ่ง | กระป๋องแล้วกระป๋องเล่าบนสายพานที่ถูกเติมเบียร์ ปิดฝา จุ่มล้าง แพ็กห่อ 6 กระป๋อง และบรรจุลงกล่องเรียบร้อยทันเวลา 1,500กป. ต่อ 1 นาทีเป๊ะ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นฝีมือของเครื่องจักร ที่ทำทุกสิ่งอย่างภายในโรงงานของ บริษัท อาซาฮี บริวเวอรี่ ผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รายใหญ่สุดของญี่ปุ่น,พนักงานมีหน้าที่แค่เช็กความเรียบร้อยว่า เครื่องจักรทำงานเป็นปกติหรือเปล่า? คุณภาพของระบบเซ็นเซอร์เสื่อมหรือยัง? ซึ่ง มร.ชินอิชิ อูโนะ ผู้จัดการ รง. บอกว่า แม้เครื่องจักรจะทำหมดทุกอย่าง ยังไงก็ต้องมีคนคอยควบคุมอยู่ดี ท่ามกลางข้อถกเถียงเรื่องเครื่องจักรที่เข้าไปแย่งงานมนุษย์ ทั้งที่อัตราการเกิดประเทศนี้ ห่อเหี่ยว มานาน หลายสิบปี จนเริ่มกลัวว่าต่อไปจะไม่มีแรงงานคนป้อนตลาด,ทำให้ญี่ปุ่น ซึ่งเริ่มลุยใช้หุ่นยนต์มาตั้งแต่ยุค90 จนกลายเป็นผู้นำโลกที่ใช้งานหุ่นยนต์ในอุตสาหกรรมยานยนต์ต่อคนงาน 10,000 คนมากถึง1,562 ตัว เทียบกับอเมริกา 1,091 ตัว และในเยอรมนี 1,133ตัว ไม่เท่านั้น สายการผลิตทั่วๆไปใช้หุ่นยนต์ 219 ตัวต่อแรงงาน 10,000 คน เทียบกับอเมริกา 76 ตัว และเยอรมนี 147 ตัว,ดูๆไปก็น่าจะกลืนกินตำแหน่งงานของ คนอย่างเบ็ดเสร็จ แต่จากข้อมูล องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาเศรษฐกิจ (OECD) ตั้งแต่ พ.ศ.2545-2558 กลายเป็นว่า การจ้างงานในญี่ปุ่นแทบไม่เปลี่ยนเลย,มร.โคอิชิ อิวาโมโต นักวิจัยระดับ อาวุโส ประจำสถาบันศึกษาค้นคว้าด้านเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมญี่ปุ่น แจงว่า บริษัทใหญ่ๆหลายแห่งยังไม่คิดใช้หุ่นยนต์แทนคนอย่างเห็นได้ชัดเท่าอเมริกา เช่น ตำแหน่งเสมียน และถึงศักยภาพของ พนักงานจะถดถอยไปบ้าง นายจ้างก็ให้ย้ายไปทำงานส่วนอื่น,ขนาด มร.คิโยชิ ซากาอิ พนักงานที่อยู่ กับอาซาฮีมานาน 29 ปี ก็ไม่ได้รู้สึกว่าหุ่นยนต์หรือเครื่องจักรทำให้ตัวเองไม่มีงานทำ แต่มองว่ามาช่วยให้ตัวเองทำงานเบาลง ไม่ต้องออกแรงเยอะเหมือนสมัยก่อน,ลักษณะแรงต้านการปรับระบบบริการ ไปสู่ระบบเทคโนโลยีดิจิตอลนี้ยังสะท้อนถึงวิถีสังคมชาวญ่ีปุ่น ที่ยังคงนิยมโบกรถแท็กซี่ทั่วไป แทนที่จะย้ายเข้าสู่โหมดออนไลน์เปิดแอพฯเรียกใช้บริการรถโดยสาร,เป็นสังคมที่หลอมรวมความเป็นมนุษย์กับเครื่องจักรกลให้อยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืนนั่นเอง,ฤทัยรัช จันทร์เพ็ญ | กระป๋องแล้วกระป๋องเล่าบนสายพานที่ถูกเติมเบียร์ ปิดฝา จุ่มล้าง แพ็กห่อ 6 กระป๋อง และบรรจุลงกล่องเรียบร้อยทันเวลา 1,500กป. ต่อ 1 นาทีเป๊ะ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นฝีมือของเครื่องจักร | null | หน้าต่างโลก,ฤทัยรัช จันทร์เพ็ญ,หุ่นยนต์,แรงงานคน,เครื่องจักร,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1055557 |
ฝนมา เตือนระวังลมกระโชกแรง อยู่ห่างต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา | ลักษณะอากาศทั่วไป บริเวณประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงอากาศร้อนจัดโดยทั่วไป โดยมีฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ในบริเวณจังหวัดน่าน แพร่อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร นครราชสีมา และชัยภูมิ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุลมแรงที่จะเกิดขึ้น รวมถึงอยู่ห่างจากต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา และสิ่งก่อสร้างที่ไม่แข็งแรงไว้ด้วย,ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน กับมีแนวลมพัดสอบของลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง,พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้,ภาคเหนือ, อากาศร้อนจัดโดยทั่วไป โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรง ส่วนมากบริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 25-31 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 39-43องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.,ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, อากาศร้อนและมีอากาศร้อนจัดหลายพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ชัยภูมิ นครราชสีมา อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 22-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.,ภาคกลาง, อากาศร้อนจัดโดยทั่วไปโดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ ชัยนาท ลพบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 28-30 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 39-41 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.,ภาคใต้, (ฝั่งตะวันออก) อากาศร้อนในตอนกลางวัน กับมีอากาศร้อนจัดในบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร,ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก), อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นประมาณ 1 เมตร,กรุงเทพมหานครและปริมณฑล, อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง อุณหภูมิต่ำสุด 29-30 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. | ลักษณะอากาศทั่วไป บริเวณประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงอากาศร้อนจัดโดยทั่วไป โดยมีฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ระวังอันตรายจากพายุลมแรงที่จะเกิดขึ้น รวมถึงอยู่ห่างจากต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา และสิ่งก่อสร้างที่ไม่แข็งแรงไว้ด้วย | null | อากาศ,พยาการณ์อากาศ,อากาศวันนี้,สภาพอากาศวันนี้,กรมอุตุ,รายงานอากาศ,รายงานสภาพอากาศ,ฝนฟ้าอากาศ,ฝนตกวันนี้,อากาศทั่วไทย,ข่าว,ข่าวพยากรณ์อากาศ,ข่าวทั่วไทย,ข่าวสังคม,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/620180 |
สั่งดูแลแรงงานกระทุ่มแบนถูกเลิกจ้างเกือบ 1 พันคนก่อนสิ้นปี | วันนี้ (24 ธ.ค.2562) จากเหตุการณ์โรงงานชิ้นส่วนรถยนต์ย่านกระทุ่มแบน ประกาศปิดกิจการไม่แจ้งล่วงหน้าให้มีผลตั้งแต่วันที่ 23 ธ.ค.2562 ส่งผลให้ต้องจ่ายเงินชดเชยลูกจ้างกว่า 114 ล้านบาท กระทรวงแรงงาน สั่งการให้นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม(สปส.) เข้าดูแลตรวจสอบข้อเท็จจริงนางสุจิต กิ่งเกล้า หัวหน้าสำนักงานประกันสังคมจังหวัดสมุทรสาคร สาขากระทุ่มแบน เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2562 ที่ บริษัท พงศ์พาราโคดันรับเบอร์ จำกัด พบว่า กำลังจัดคิวจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมายให้แก่ลูกจ้าง 999 คน จึงได้ชี้แจงสิทธิประโยชน์ตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ.2533 ให้ลูกจ้างผู้ประกันตนทราบว่า สำนักงานประกันสังคมยังคุ้มครองต่ออีก 6 เดือน ผู้ประกันตนสามารถเข้าใช้บริการโรงพยาบาลตามสิทธิ์ในกรณีเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุ และใช้สิทธิกรณีคลอดบุตร กรณีทุพพลภาพ กรณีเสียชีวิต ทั้งยังได้แนะนำการขอรับเงินว่างงาน ดังนี้นางสุจิตกล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า เดิมบริษัทมีลูกจ้างพันหนึ่งกว่าคน แต่เนื่องจากบริษัทมีโครงการร่วมใจจาก โดยมีการจ่ายค่าชดเชยทำให้บริษัทเหลือพนักงานเพียง 999 คน และประวัติการนำส่งเงินสมทบต่อสำนักงานประกันสังคมนั้นถูกต้องไม่มีหนี้สมทบค้างชำระแต่อย่างใดจากนั้น พนักงานเจ้าหน้าที่ยังเดินทางต่อไปยังสหภาพแรงงานผลิตภัณฑ์ยานยนต์ไทย ซึ่งตั้งอยู่ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เพื่อชี้แจงสิทธิ์ให้แก่ลูกจ้างผู้ประกันตน ปรากฏว่าลูกจ้างส่วนใหญ่ติดใจในเรื่องการเลิกจ้างโดยมิได้บอกกล่าวล่วงหน้า ซึ่งหัวหน้าส่วนราชการกระทรวงแรงงานได้ชี้แจงกับลูกจ้างและสหภาพแรงงานว่า นายจ้างได้ปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมาย | โรงงานชิ้นส่วนรถยนต์ย่านกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เลิกจ้างกระทันหันก่อนสิ้นปี แต่ยอมจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมายประกันสังคม ขณะที่เจ้าหน้าที่สำนักงานประกันสังคมจังหวัด เร่งทำความทำเข้าใจเรื่องสิทธิประโยชน์ | สังคม | เลิกจ้าง,แรงงาน,โรงงานกระทุ่มแบน | https://news.thaipbs.or.th/content/287356 |
มาเรียม สุขภาพแข็งแรงดี กินนมได้มากขึ้น | วันนี้ (24 มิ.ย.2562) นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวว่า ได้รับรายงานจากศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน (ภูเก็ต) ว่า วันนี้ มาเรียม พะยูนน้อยที่ดูแลที่เกาะลิบง จ.ตรังมีสุขภาพแข็งแรง ร่าเริงดี อัตราการเต้นหัวใจ 63 ครั้งต่อนาที การหายใจ 1-2 ครั้งต่อนาที ช่วงว่ายน้ำ 1 ครั้งใน 3-5 นาที กินได้ดี ปริมาณนมที่ให้ 3.4 ลิตร โดยให้นมตั้งแต่เวลา 08.40-18.30 น. เริ่มให้นมช้าเนื่องจากฝนตกหนัก ป้อนหญ้าทะเลชนิดใบมะกรูด ประมาณ 100 กรัม มีการขับถ่ายได้ดี ทั้งช่วงเช้าและบ่าย ลักษณะอุจจาระปกตินายจตุพร กล่าวว่า ขณะนี้มีทีมสัตวแพทย์ 2 กรมทั้ง ทช.และกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ร่วมกันดูแล ไม่น่าจะมีปัญหาในการดูแลสุขภาพของมาเรียมและแข็งแรง ก่อนออกไปใช้ชีวิต ซึ่งล่าสุดเตรียมจะลงพื้นที่ในช่วงปลายสัปดาห์นี้ เพื่อหารือร่วมกับทางจังหวัดตรัง และเครือข่าย ในการรวมกลุ่มเพื่อจัดหากองทุนดูแลมาเรียมแบบยั่งยืนต่อไปอ่านขณะที่ ดร.ก้องเกียรติ กิตติวัฒนวงศ์ ผอ.ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน จ.ภูเก็ต โพสต์เฟซบุ๊กKongkiat Kittiwatanawong ระบุว่าสุขภาพของมาเรียมดีขึ้นตามลำดับ หลังจากได้รับการดูแลอย่างถูกวิธีในธรรมชาติอันเป็นที่คุ้นเคยของมาเรียม ร่องรอยความเครียด ซึ่งพบเห็นได้จากรอยด่างขาวบริเวณลำตัวในช่วงแรก หายไปในช่วงเวลาที่ทีมอนุบาลและฟื้นฟูมาเรียมทำงานอย่างแข็งขัน ปัจจุบันมาเรียมมีน้ำหนักและรอบเอวที่เพิ่มมากขึ้นขณะนี้มาเรียมอายุเกือบ 7 เดือนแล้ว ความเข็งแรงประกอบกับพฤติกรรมความอยากรู้อยากเห็นในการสำรวจสภาพแวดล้อมตามประสาเด็ก อาจทำให้เจ้าหน้าที่หาตัวได้ยากบางครั้ง และอาจยากมากไปอีกเราอาจแก้ปัญหาโดยการใช้เครื่องมือติดตามขนาดจิ๊วติดบริเวณคอดหาง เพื่อตามตัวมากินนมได้ง่ายขึ้น ร่วมกับการใช้แม่พะยูนปูนจำลองวางใต้น้ำ และมีแม่ส้ม (เรือคายัคสีส้ม) เพื่อให้มาเรียมรู้สึกอบอุ่นและอยู่ในพื้นที่ๆต้องการเราสามารถช่วยดูแลให้มาเรียมอยู่อย่างปลอดภัยในธรรมชาติได้ถ้าทุกคนช่วยกัน ผมเชื่อว่านั่นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับอนาคตของมาเรียม ซึ่งต้องเรียนรู้และฝ่าฟันอุปสรรคเพื่อใช้ชีวิตต่อไปให้ได้ด้วยตนเองและอยู่ร่วมกับพะยูนตัวอื่นๆ โดยมีเราเฝ้าระวังและดูแลอยู่ห่างๆอ่าน | สัตวแพทย์ ทช.ยืนยัน มาเรียม สุขภาพแข็งแรงดี หลังจากดูแลตามวิธีในธรรมชาติ พบร่องรอยความเครียดที่แผ่นหลังหายไป พบกินนมได้มากขึ้น 3.4 ลิตร ระบุยังต้องปรับแผนดูแลแบบรายวันตามสถานการณ์ ขณะที่อธิบดี ทช.เตรียมลงพื้นที่ปลายสัปดาห์นี้ | สิ่งแวดล้อม | มาเรียม,พะยูน,กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง,พะยูนมาเรียม,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews | https://news.thaipbs.or.th/content/281115 |
ฎีกาเจอ 37 ปี 4 เดือน มือปืนป๊อปคอร์น กลับตามศาลชั้นต้น | มือปืนป๊อปคอร์น, ชายชุดดำสวมหมวกไอ้โม่งก่อเหตุใช้ปืนสงครามกราดยิงกลุ่มคนเสื้อแดง จากเหตุการณ์ชุมนุมกลุ่ม กปปส.ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต โดยตำรวจมีพยานหลักฐานกล้องวงจรปิด คลิปในโลกออนไลน์ และพี่ชายจำเลย ใช้เปรียบเทียบและยืนยันตัวผู้ก่อเหตุได้อย่างชัดเจน ศาลพิจารณาแล้วกลับคำตัดสินศาลอุทธรณ์ที่ยกฟ้องให้ลงโทษจำเลยตามศาลชั้นต้น,ศาลฎีกาตัดสินลงโทษจำคุกมือปืนป๊อปคอร์น เปิดเผยขึ้นที่ศาลอาญา วันที่ 7 พ.ย. ที่ห้องพิจารณา 806 ศาลอ่านคำพิพากษาฎีกาคดีที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ และ น.ส.เอื้องฟ้า แซ่ลิ้ว บุตรสาวของนายอะแกว แซ่ลิ้ว ผู้เสียชีวิตเป็นโจทก์ร่วม ยื่นฟ้องนายวิวัฒน์ ยอดประสิทธิ์ อายุ 29 ปี คนร้ายใส่ชุดดำสวมไอ้โม่งใช้ปืนกลซ่อนในกระสอบ เม็ดข้าวโพดคั่วยิงใส่กลุ่มผู้ชุมนุมจนได้ฉายาว่า มือปืนป๊อปคอร์น เป็นจำเลย ในความผิดฐานร่วมกันฆ่า พยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมืองที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และนำอาวุธปืนออกนอกเคหสถานภายในพื้นที่ที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 371 พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 4, 7, 8, และ 72 และ พ.ร.ก.บริหารราชการใน สถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาตรา 5, 6, 11, และ 18,อัยการฟ้องและนำสืบว่า เมื่อวันที่ 1 ก.พ.57 จำเลยกับพวกมีปืนเล็กยาวไม่ทราบขนาดและชนิด ติดตัวไปที่ทางแยกถนนพหลโยธิน หรือแยกหลักสี่ เขตหลักสี่ กทม. ขณะนั้นรัฐบาลประกาศให้เป็นพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร จำเลยยิงปืนเข้าไปในอาคารศูนย์การค้าไอทีสแควร์ในการชุมนุมกลุ่ม กปปส. เพื่อสกัดผู้ชุมนุมกลุ่ม นปช. ที่จะเข้ามาปะทะกัน กระสุนถูกนายอะแกว แซ่ลิ้ว บาดเจ็บและเสียชีวิตในภายหลัง น.ส.สมบุญ สักทอง นายนครินทร์ อุตสาหะ และนายพยนต์ คงปรางค์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดพื้นที่แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม. โดยจำเลยให้การปฏิเสธ,ทั้งนี้ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า พยานหลักฐานของโจทก์ปราศจากข้อสงสัย นายวิวัฒน์เป็นคนเดียวกับคนร้ายที่สวมชุดดำและในมือสวมถุงกระสอบข้าวโพดสีเขียวเหลือง จำเลยกระทำความผิดตามฟ้องศาลลงโทษจำคุก 37 ปี 4 เดือน ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง เนื่องจากเห็นว่าคดีมีพยานโจทก์หลายปากแต่ไม่มีประจักษ์พยานมายืนยัน จึงยังมีข้อสงสัยว่าจำเลยกระทำผิดหรือไม่ ศาลให้ขังจำเลยไว้ระหว่างฎีกา จากนั้นอัยการโจทก์และโจทก์ร่วมยื่นฎีกา ขอให้ศาลลงโทษจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ศาลเบิกตัวจำเลยจากเรือนจำมาฟังคำพิพากษา,ศาลฎีกาพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนพยานหลักฐาน ได้แก่ วงจรปิดหลายจุดของการรถไฟแห่งประเทศไทยที่บริเวณแยกหลักสี่ และภาพเคลื่อนไหวบันทึกเหตุการณ์ที่แชร์กันในอินเตอร์เน็ตบางส่วนโดยไม่ทราบว่าใครถ่าย เป็นภาพเหตุการณ์ต่อเนื่องเชื่อมโยงกัน จนทราบว่า มีคนร้ายร่างอ้วนใส่ชุดดำสวมหมวกไหมพรมสีดำปะปนกับพวกรวม 22 คน ใช้อาวุธปืนยิงเร็วซุกซ่อนสวมด้วยถุงกระสอบข้าวโพดสีเขียวเหลืองปิดบังไว้ ยิงใส่กลุ่มผู้สนับสนุนการเลือกตั้งบริเวณห้างไอทีแสควร์ จากการเปรียบเทียบคนร้ายที่ยิงปืนดังกล่าวกับภาพจำเลยที่ถอดหมวกไหมพรม นำมาประกอบกับภาพตามทะเบียนราษฎรนั้นชัดเจนว่าเป็นจำเลย และพี่ชายของจำเลยให้การว่า บุคคลตามภาพมีลักษณะตรงกับจำเลย อีกทั้งสวมกางเกงยีนส์ รองเท้า และรูปร่างตรงกับคนร้ายซึ่งสอดคล้องฟังได้หนักแน่น,จำเลยใช้อาวุธปืนยิงเข้าไปในกลุ่มประชาชนหลายนัด เป็นเหตุให้มีคนตายและได้รับบาดเจ็บ แสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าโดยย่อมเล็งเห็นผลได้ว่า กระสุนที่ยิงเข้าไปต้องถูกบุคคลในกลุ่มประชาชนทำให้ตายหรือบาดเจ็บ แม้ว่านายอะแกวได้รับบาดเจ็บนอนเป็นอัมพาตถึง 8 เดือนแล้วเสียชีวิต ก็ถือว่าความตายเป็นผลมาจากการกระทำของจำเลยโดยตรง จำเลยมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและพาอาวุธปืนยิงอาวุธปืนในที่ทางสาธารณะ พยานหลักฐานที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยให้ยกฟ้องจำเลยยังคลาดเคลื่อนไปจากพยานหลักฐานที่โจทก์และโจทก์ร่วมนำสืบมา ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย จึงพิพากษาให้จำคุกตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นเวลา 37 ปี 4 เดือน มีรายงานว่าจำเลยถูกจำคุกระหว่างดำเนินคดีมาแล้วประมาณ 4 ปี | ศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 37 ปี 4 เดือน มือปืนป๊อปคอร์น ชายชุดดำสวมหมวกไอ้โม่งก่อเหตุใช้ปืนสงครามกราดยิงกลุ่มคนเสื้อแดง | ข่าว,ทั่วไทย | มือปืนป๊อปคอร์น,จำคุก,ยิงเสื้อแดง,ศาลฎีกา,ข่าวหน้า1,กฏหมาย | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1415186 |
ทนายแจ้งความลงบันทึก ธัมมยโช ไม่เคยเห็น เช็คร้อยล้าน | เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 28 เม.ย.59 นายสัมพันธ์ เสริมชีพ ทนายความผู้ได้รับมอบอำนาจจากพระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ได้เข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน ที่ สภ.คลองหลวง ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี,ทั้งนี้ ผู้แจ้งระบุว่า เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2558 พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ โดย พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล สำนักงานสอบสวนคดีพิเศษ และคณะ ได้นำเอกสารสำเนาเช็คธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาการเคหะแห่งชาติ เลขที่ 0104455 ลงวันที่ 15 ตุลาคม 2552 สั่งจ่ายพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ชื่อเดิมหลวงพ่อธัมมชโย) จำนวนเงิน 100,000,000.00 บาท (หนึ่งร้อยล้านบาทถ้วน) มาแสดง ต่อหน้าพระเทพญาณมหามุนี เพื่อสอบถามว่า พระเทพญาณมหามุนีได้เคยเห็นเช็คหรือได้รับเช็คฉบับดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งพระเทพญาณมหามุนีได้แจ้งแก่พนักงานสอบสวนคดีพิเศษทราบว่า ไม่เคยเห็นและไม่เคยได้รับเช็คฉบับดังกล่าว,อย่างไรก็ตาม กรณีที่เกิดขึ้น จึงทำให้ทราบว่าได้มีการนำเช็คฉบับดังกล่าวไปเรียกเก็บเงิน และมีลายเซ็นกำกับหลังเช็ค ซึ่งพระเทพญาณมหามุนีได้ปฏิเสธลายเซ็นที่ปรากฏด้านหลังเช็คว่า ไม่ใช่ลายเซ็นของท่าน และไม่มีการนำเช็คฉบับดังกล่าวไปเข้าบัญชีพระราชภาวนาวิสุทธิ์หรือพระเทพญาณมหามุนี และพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้บันทึกการให้ปากคำไว้แล้ว,นายสัมพันธ์ กล่าวว่า เมื่อพระเทพญาณมหามุนีได้ทราบว่ามีการนำเช็คฉบับดังกล่าวไปใช้ในนามท่าน เป็นเหตุให้พระเทพญาณมหามุนีได้รับความเสียหาย ตนในฐานะทนายความ ผู้รับมอบอำนาจจาก พระเทพญาณมหามุนี จึงมาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนไว้ หากมีผู้ใดได้นำเช็คฉบับดังกล่าวไปใช้เป็นหลักฐานหรืออ้างอิงทำให้พระเทพญาณมหามุนีได้รับความเสียหาย ผู้แจ้งขอสงวนสิทธิที่จะร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อไป. | ทนายพระธัมมชโย เข้าแจ้งพงส.ให้ลงบันทึกว่า สำเนาเช็คสั่งจ่าย100ล้าน ที่ดีเอสไอเอามาให้พระธัมมชโยดู และปฏิเสธไปแล้วว่า ไม่เคยเห็น ไม่ได้เซ็นชื่อ ไม่ได้นำเข้าบัญชี หากมีการนำเช็คดังกล่าวไปใช้เป็นหลักฐาน จะแจ้งดำเนินคดีต่อไป | null | ธัมมชโย,พระเทพญาณมหามุนี,วัดพระธรรมกาย,เช็คร้อยล้าน,ทนายแจ้งความ,คดีธัมมชโย,สภ.คลองหลวง,ปทุมธานี,ข่าว,ไทยรัฐ,ข่าวภูมิภาค,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/612767 |
น้องเมียยิงพี่เขยดับ ฉุนถูกต่อว่า ไม่ช่วยทำงาน | วันที่ 14 มิถุนายน 2560 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตภูมิ ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.สิทธินันท์ สังฆพันธุ์ ผกก.สภ.มะนัง จ.สตูล รักษาราชการแทน ผกก.สภ.รัตภูมิ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ สภ.รัตภูมิ ร่วมกันจับกุมนายสุวัฒน์ หรือ วัฒน์ โกมล อายุ 29 ปี ชาว ต.กำแพงเพชร อ.รัตภูมิ จ.สงขลา พร้อมด้วยของกลาง อาวุธปืนพกสั้นยี่ห้อ HK สีดำ จำนวน 1 กระบอก, กระสุนปืนขนาด 7.65 จำนวน 1 นัด, แมกกาซีนชนิดบรรจุ 7 นัด จำนวน 1 อัน,สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.รัตภูมิ ว่าเกิดเหตุยิงกันที่บ้านเลขที่ 222 ถนนสายบ้านหนองกวางข้อง-บ้านเขารักเกียรติ ม.13 ต.กำแพงเพชร อ.รัตภูมิ จ.สงขลา จึงเดินทางไปที่เกิดเหตุ พบผู้ตายคือ นายสมพร นวลปาน ,จากการสอบถาม นางผอบ โกมล แม่ และนางเจวรี โกมล ภรรยาผู้ตาย ซึ่งเป็นพยานในที่เกิดเหตุ ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสุวัฒน์ หรือวัฒน์ โกมล ซึ่งเป็นลูกของนางผอบ และน้องของนางเจวรีหลังจากก่อเหตุได้หลบหนีไป เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมออกติดตามจนเจอตัว,โดยนายสุวัฒน์ ให้การรับสารภาพ ว่าเป็นคนยิงนายสมพร จริง เนื่องจากโกรธแค้นที่นายสมพร มักต่อว่าตนไม่ช่วยทำงาน เมื่อถามถึงอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ นายสุวัฒน์ อ้างว่าหลังจากก่อเหตุได้วิ่งหนีด้วยความตกใจ โดยโยนปืนทิ้งไว้ใต้ต้นมะขาม ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 300 เมตร ซึ่งอาวุธปืน ได้ซื้อมาในราคา 12,000 บาท,เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา นายสุวัฒน์ ผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนคุมตัวพร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.รัตภูมิ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป. | น้องเมียยิงพี่เขย 6 นัดรวด เข้าชายโครง ก่อนวิ่งหนีแต่ไม่รอด ตร.รัตภูมิ ตามจับกุมได้ สารภาพแค้นถูกต่อว่า ไม่ช่วยทำงาน | ข่าว,อาชญากรรม | น้องเมียยิงพี่เขย,สงขลา,แค้นส่วนตัว,ถูกต่อว่า,ไม่ช่วยทำงาน | https://www.thairath.co.th/news/crime/972918 |
จี้นักวิจัยไทยพัฒนาผลงานช่วยประเทศ | เผยโควิดกระทบการสำรวจ รุก อว.ปรับเกณฑ์ขยายเวลาส่งเล่มรศ.ดร.ธีร เจียศิริพงษ์กุล คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (TSE) กล่าวว่า และ นวัตกรรมเพื่อเศรษฐกิจ ที่ได้ รับการผลิตและพร้อมปรับใช้ในบริบทต่างๆของสังคม ทั้งนี้ TSE มีนโยบายในการผลักดันงานวิจัย ให้เกิดขึ้นจริงเป็นรูปธรรม ตลอดจนสอดรับความ ต้องการสังคมและภาคอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่องอาทิ Tham-Robot หุ่นยนต์จัดส่งเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ลดความเสี่ยงสัมผัสผู้ป่วย Tham-UV Clean ตู้ฆ่าเชื้อหน้ากากอนามัยใน 5 นาที ใช้ซ้ำสูงสุด 10 ครั้ง นวัตกรรมการออกแบบระบบห้องและการปรับอากาศความดันลบสำหรับการกักตัวผู้ติดเชื้อโควิด-19 โมเดลคอมพิวเตอร์ที่สามารถจำลองการเคลื่อนที่ของละอองฝอย Space Walker อุปกรณ์ช่วยเดินแบบมีระบบพยุงน้ำหนักบางส่วน สำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง และนวัตกรรมอาหารแช่แข็งอบร้อนไมโครเวฟศ.ดร.ผดุงศักดิ์ รัตนเดโช อาจารย์ประจำภาควิชาเครื่องกล TSE และนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีงานวิจัยเชิงประยุกต์ หรือนวัตกรรมเพื่อแก้ปัญหาสังคมในมิติต่างๆ ร้อยละ 30 เท่านั้น ซึ่งขัดแย้งกับยุทธศาสตร์ชาติที่เน้นนวัตกรรมขับเคลื่อนประเทศ ดังนั้น เพื่อเป็นการเติมเต็มนวัตกรรมขานรับยุทธศาสตร์ชาติ นักวิจัยไทย ต้องเร่งเดินหน้าพัฒนางานวิจัยยุคใหม่ใน 2 รูปแบบ ดังนี้1.วิจัยตรงความต้องการประเทศ ที่พร้อมสนับสนุนการทำงานในภาคส่วนต่างๆ โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรม เช่น นวัตกรรมที่ช่วยลดต้นทุนภาคการผลิต เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ รวมถึงยกระดับสิ่งเหลือทิ้งจากภาคอุตสาหกรรม2.วิจัยทันกระแส พร้อมแก้ปัญหาสังคม เช่น ปัญหาสุขภาพคนไทย ปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อมจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ได้ส่งผลกระทบต่อกระบวนการพัฒนาวิจัย ในขั้นตอนเก็บผลสำรวจจากกลุ่มตัวอย่าง การอ้างอิงผลวิจัยจากห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์หรือวิศวกรรมศาสตร์ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ควรยื่นมือให้การช่วยเหลือนักวิจัยไทยและบัณฑิตศึกษา โดยปรับเกณฑ์พิจารณางานวิจัยชั่วคราว เช่น ควรมีมาตรการผ่อนปรนหรือขยายช่วงเวลาการพัฒนาและส่งเล่มวิจัยเพิ่มขึ้น และปรับเกณฑ์ประเมินวิจัยใหม่ ในกรณีที่นักวิจัยสามารถสร้างสรรค์งานวิจัยหรือนวัตกรรม ที่สอดคล้องกับกระแสสังคม อว.ก็ควรพิจารณาให้งานวิจัยดังกล่าว สามารถเก็บเครดิตทดแทนวิจัยเดิมได้ ศ.ดร.ผดุงศักดิ์กล่าว. | ปัจจุบันนักวิจัยไทยยังเผชิญปัญหาการทำวิจัยอย่างครบวงจร ด้วยข้อจำกัดด้านกระบวนการวิจัยและพัฒนาในการผลักดัน งานวิจัยหรือนวัตกรรมต้นแบบ (Prototype) สู่ นวัตกรรมเพื่อสังคม | ข่าว,สังคม | งานวิจัย,นักวิจัยไทย,นวัตกรรมเพื่อสังคม,กระบวนการพัฒนาวิจัย,ผลสำรวจจากกลุ่มตัวอย่าง,ผลกระทบโควิด-19,การศึกษา | https://www.thairath.co.th/news/society/1854384 |
อาชญากรรมรัฐในอุษาคเนย์: คุยหลังฉายหนัง The Act of Killing/The Look of Silence | เมื่อวันที่ 13 ก.พ. ที่ผ่านมา ที่ SFW CentralWorld ระหว่างการฉายภาพยนตร์ The Act of Killing และ The Look of Silence โดย Documentary Club มีการเสวนาหัวข้อ อาชญากรรมรัฐในอุษาคเนย์ จัดโดยฟิล์ม กาวัน อภิปรายโดย ชาญวิทย์ เกษตรศิริ และพวงทอง ภวัครพันธุ์ ดำเนินรายการโดย ชนม์ธิดา อุ้ยกูล สำหรับรายละเอียดการอภิปราย สามารถติดตามได้จากสูจิบัตรของฟิล์ม กาวัน การเสวนาดังกล่าวจัดประกอบการฉายภาพยนตร์สารคดี The Act of Killing (2012) และ The Look of Silence (2014) โดย Documentary Club สารคดีผลงานกำกับของ โจชัว ออพเพนไฮเมอร์ โดยเรื่องราวเกี่ยวข้องกับเรื่องการสังหารหมู่ในปี ค.ศ.1965-1966 เพื่อกวาดล้างสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์อินโดนีเซีย (PKI) ในช่วงหลังรัฐประหารโดยสุฮาร์โต จนทำให้มีผู้เสียชีวิตนับล้านคน โดยในเรื่อง The Act of Killing โจชัว ออพเพนไฮเมอร์ เชิญกลุ่มคนที่เคยก่อเหตุสังหารมา แสดงหนัง เพื่อแสดงให้เห็นว่า ประวัติศาสตร์แห่งการสังหารหมู่ มีหน้าตาอย่างไรในความทรงจำของพวกเขา โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ในปี 2013ส่วน The Look of Silence นำเสนอเรื่องของอาดี ชายหนุ่มอาชีพวัดสายตาและประกอบแว่น ที่พี่ชายถูกฆ่าในยุคกวาดล้างสมัยซูฮาร์โต เป็นผู้เข้าไปสัมภาษณ์ผู้ลงมือสังหารด้วยตัวเอง ทั้งในฐานะคนรุ่นหลัง และในฐานะผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงสำหรับภาพยนตร์ทั้ง 2 เรื่องคือ The Act of Killing และ The Look of Silence สามารถติดตามโปรแกรมฉายได้ในเพจ | คลิปส่วนหนึ่งของการเสวนา อาชญากรรมรัฐในอุษาคเนย์ หลังฉายภาพยนตร์สารคดีสะท้อนยุคฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในอินโดนีเซียสมัยซูฮาร์โตปี 1965 The Act of Killing และ The Look of Silence จัดโดย Documentary Club | ต่างประเทศ,สิทธิมนุษยชน | การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์,ชนม์ธิดา อุ้ยกูล,ชาญวิทย์ เกษตรศิริ,ซูฮาร์โต,พรรคคอมมิวนิสต์อินโดนีเซีย,พวงทอง ภวัครพันธุ์,ภาพยนตร์,มัลติมีเดีย,อาชญากรรมโดยรัฐ,อินโดนีเซีย,เสวนา,เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ | https://prachatai.com/journal/2016/02/64102 |
จวกรัฐบาลแก้ไม่ตรงจุด เศรษฐกิจแย่ลง ของแพง เงินไม่พอใช้ | เมื่อวันที่ 1 ก.ค. ศูนย์สำรวจความคิดเห็น นิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจไทย จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพ จำนวน 1,250 หน่วยตัวอย่าง โดยเมื่อถามถึงภาพรวมเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 54.88 ระบุว่า ภาพรวมเศรษฐกิจแย่ลง เพราะราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ รายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย และราคาสินค้าเพิ่มสูงขึ้น รองลงมา ร้อยละ 30.24 ระบุว่า ภาพรวมเศรษฐกิจเท่าเดิม เพราะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเลย และร้อยละ 14.88 ระบุว่า ภาพรวมเศรษฐกิจดีขึ้น เพราะมีรายได้เพิ่มขึ้น ในขณะที่บางส่วนระบุว่า ราคาพืชผลทางการเกษตรมีการขยับตัวสูงขึ้น,ด้านข้อเสนอเกี่ยวกับนโยบายที่อยากให้รัฐบาลนำไปใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 45.68 ระบุว่า นโยบายรับซื้ออุดหนุนพืชผลทางการเกษตร รองลงมา ร้อยละ 42.80 ระบุว่า นโยบายควบคุมราคาสินค้า ร้อยละ 19.84 ระบุว่า นโยบายเพิ่มงานเพิ่มอาชีพ ลดปัญหาการว่างงาน และแรงงานนอกระบบ ร้อยละ 17.44 ระบุว่า นโยบายลดอัตราดอกเบี้ยและคงอัตราภาษี ร้อยละ 17.04 ระบุว่านโยบายเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ ร้อยละ 12.64 ระบุว่า นโยบายมอบเงินช่วยเหลือให้แก่ผู้ที่มีรายได้น้อยเพิ่มมากขึ้น,ร้อยละ11.68 ระบุว่า นโยบายในการสร้างความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างชาติ รวมถึงการจัดการเลือกตั้ง ร้อยละ 8.80 ระบุว่า นโยบายที่สนับสนุนธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(SME) ร้อยละ 7.28 ระบุว่า นโยบายที่ส่งเสริมประสิทธิภาพในการส่งออกของประเทศไทย ร้อยละ 5.12 ระบุว่า นโยบายพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ (EEC) และร้อยละ 2.88 ระบุว่า อื่น ๆ ได้แก่ นโยบายการลดราคาน้ำมัน การปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน และนโยบายต่าง ๆ ที่รัฐบาลดำเนินการก็ดีอยู่แล้ว ขณะที่บางส่วนระบุว่า ไม่มีนโยบายที่จะนำเสนอ , ,สำหรับความเชื่อมั่นในการบริหารงานของรัฐบาลและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ในช่วงครึ่งปีหลังจะทำให้เศรษฐกิจไทยดีขึ้น พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 56.64 ระบุว่า ไม่มีความเชื่อมั่น เพราะ นโยบายและโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลไม่ได้ช่วยประชาชนทุกระดับอย่างแท้จริง เป็นปัญหาที่แก้ไขได้ยาก รัฐบาลแก้ปัญหาไม่ตรงจุด ขณะที่บางส่วนระบุว่า เป็นโครงการที่ไม่ต่อเนื่อง และเป็นโครงการระยะสั้น รองลงมา ร้อยละ 38.32 ระบุว่า มีความเชื่อมั่น เพราะ นโยบายและโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลมีความน่าเชื่อถือเป็นโครงการที่ดี ทำให้หลาย ๆอย่างดีขึ้น ขณะที่บางส่วนระบุว่า มีผู้นำที่ดีและมีความเข้มแข็ง และร้อยละ 5.04 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ, ,ท้ายที่สุด เมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับเมื่อมีการเลือกตั้งและได้รัฐบาลชุดใหม่ จะทำให้เศรษฐกิจไทยดีขึ้นหรือไม่ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 60.64 ระบุว่า เศรษฐกิจไทยจะดีขึ้น ต่างชาติจะเข้ามาลงทุนมากขึ้น เนื่องจากมีความมั่นใจต่อรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง รัฐบาลชุดใหม่น่าจะมีแนวทางในการบริหารและพัฒนาประเทศได้ดีกว่า รองลงมา ร้อยละ 22.40 ระบุว่า เศรษฐกิจของไทยจะเหมือนเดิม เพราะปัญหาเศรษฐกิจเป็นปัญหาที่แก้ยาก ต้องใช้เวลาในการแก้ไขปัญหา และต้องอาศัยปัจจัยหลายๆ อย่างร่วมด้วย ขณะที่บางส่วนระบุว่า ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลชุดไหนก็เหมือนเดิม ร้อยละ 2.00 ระบุว่า เศรษฐกิจไทยจะแย่ลง เพราะ เป็นปัญหาที่แก้ไขได้ยาก และจะไม่มีความต่อเนื่องในการดำเนินการแก้ไขปัญหา และร้อยละ 14.96 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ. | นิด้าโพล ชี้คนส่วนใหญ่ 54.88% มองเศรษฐกิจแย่ลง ของแพง รายได้ไม่พอใช้ ไม่เชื่อมือรัฐบาลบิ๊กตู่ จะทำให้ดีขึ้น เพราะแก้ไม่ตรงจุด หวังเลือกตั้ง มีรัฐบาลชุดใหม่ ต่างชาติเข้ามาลงทุนมากขึ้น | ข่าว,เศรษฐกิจ | เศรษฐกิจแย่,มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ,ไม่เชื่อมั่นรัฐบาลแก้เศรษฐกิจ,ของแพง,รายได้ไม่พอ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/business/1324027 |
โจรติดยาใจบาป ขโมยเงินปิดทององค์พระ วัดพระนอนจักรสีห์ สิงห์บุรี | เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 9 มกราคม 2559 เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุเมืองสิงห์บุรี ได้รับแจ้งจากตู้ยามพักสายตรวจจักรสีห์ ว่า กำลังตามจับผู้ต้องหาขโมยเงินที่องค์พระนอนจำลองของวัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร หมู่ที่ 2 ต.จักรสีห์ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี,ที่เกิดเหตุ เป็นทุ่งนาบริเวณไหล่ทางถนน ห่างจากวัดพระนอนจักรสีห์ ประมาณ 500 เมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาสาสมัครกู้ภัย เจ้าหน้าที่อปพร. ได้ช่วยกันล้อมจับกุมผู้ต้องหาที่วิ่งหลบหนี และสามารถควบคุมตัวได้ ทราบชื่อภายหลัง คือ นายหทัยวุฒิ คล้ายศรี อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49 ม.1 ต.ต้นโพธิ์ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี สภาพถอดเสื้อหลบซ่อนอยู่ในป่าข้างทาง พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า สแปช สีดำแดง หมายเลขทะเบียน กทน 670 สิงห์บุรี ที่ใช้เป็นพาหนะก่อเหตุ,หลังการสอบสวน นายหทัยวุฒิ ให้การว่า ได้พาแฟนสาว คือ นางวีนา ประทิตย์ มากินข้าวต้มกับไอศกรีมที่โรงทานของวัดพระนอน และให้แฟนสาวรออยู่ด้านใน ตนเองจะไปไหว้พระปิดทอง พอเห็นตำรวจจึงได้วิ่งหลบหนีเนื่องจากตนเองเสพยามากลัวถูกจับ แต่ให้การปฏิเสธว่า ไม่ได้ขโมยเงินจากองค์พระเลย จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ไปตรวจสอบเส้นทางที่ นายหทัยวุฒิ ใช้วิ่งหนีไปหลบซ่อน พบหลักฐาน คือ เงินเหรียญที่มีคราบทองคำเปลวติดอยู่จำนวนหลายเหรียญ,ทางด้าน ร.ต.ท.หญิง ศิวลักษณ์ ไล้เลิศ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสิงห์บุรี จึงได้แจ้งข้อหาว่า กับ นายหทัยวุฒิ 2 กระทง คือ เสพยาเสพติดชนิดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) และข้อหาลักทรัพย์ในสถานที่บูชาสาธารณะ และนำตัวไปดำเนินคดีต่อไป. | โจรติดยาใจบาป ขโมยเงินปิดทององค์พระนอนจำลอง วัดพระนอนจักรสีห์ วรวิหาร สิงห์บุรี แต่โดนจนท.ไล่ติดตามจนสามารถตะครุบตัวไว้ได้ ขณะหลบซ่อนอยู่ในป่าข้างทาง | null | โจรติดยาใจบาป,ขโมยเงิน,ปิดทอง,องค์พระนอนจำลอง,วัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร,สิงห์บุรี,ทุ่งนา,ล้อมจับ,หทัยวุฒิ คล้ายศรี,หลบซ่อนในป่า,เสพยา,ยาเสพติด,ลักทรัพย์,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวสังคม,ภูมิภาค,ทั่วไทย | https://www.thairath.co.th/content/560475 |
ร้านกาแฟสมุทรสาคร ชูเมนูเด่นใช้ มะพร้าวอ่อน วัตถุดิบในท้องถิ่น | วันที่ 11 พ.ค.59 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร พบร้านกาแฟขึ้นชื่อแห่งหนึ่ง ที่นำวัตถุดิบที่ขึ้นชื่อในท้องถิ่นมาแปรรูป โดยมี นางสาวยุพาพรรณ นุชชาติ วัย 29 ปี ชาวบ้าน ม.13 ต.หลักสาม เจ้าของร้าน เดอ ไปป์ คอฟฟี่ กาแฟสดมะพร้าวอ่อน ผู้ที่ได้นำมะพร้าวมาแปรรูปผสมรวมกับกาแฟ ทำเป็นกาแฟสดมะพร้าวอ่อน สร้างรายได้อย่างงดงาม,นางสาวยุพาพรรณ กล่าวว่า ตนเรียนจบปริญญาตรี ด้านจิตวิทยา หลังจากจบมาก็มาช่วยครอบครัวดูแลกิจการ เรื่องการทำท่อ PVC แต่ช่วงหลังเศรษฐกิจไม่ดี เลยมาหาอาชีพเสริม จึงได้เปิดร้านกาแฟแห่งนี้ นานประมาณ 4 เดือนแล้ว สำหรับตนนั้น มีใจรักอาชีพค้าขายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงไปเรียนสูตรการชงกาแฟ รวมทั้งอยากมีอะไรแปลกๆ เป็นจุดขาย จึงนึกถึงมะพร้าว ที่ถือว่าเป็นวัตถุดิบของ อำเภอบ้านแพ้ว มาเป็นจุดเด่นในการผสมกับกาแฟ เพราะว่ามะพร้าวน้ำหอมบ้านแพ้ว จะมีรสชาติหอมหวาน เนื่องจากปลูกในดินกร่อย รสชาติจึงไม่เหมือนมะพร้าวที่อื่น,เจ้าของร้าน เดอ ไปป์ คอฟฟี่ กล่าวต่อว่า จากนั้น ก็ได้คิดค้นสูตรขึ้นมา โดยผสมผสานระหว่างน้ำมะพร้าวกับกาแฟคั่วบด นำนมสดผสมกับน้ำมะพร้าวอ่อน เทใส่แก้ว จากนั้นเทกาแฟสดตาม พร้อมโรยหน้าด้วยเนื้อมะพร้าวอ่อน ซึ่งใครหลายคนอาจคิดว่ารสชาตินั้นจะเข้ากันได้หรือไม่ แต่เมื่อชิมแล้ว ต้องบอกเลยว่าอร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ ส่วนเทคนิคการดื่มกาแฟสดมะพร้าวอ่อนนั้น ให้ใช้หลอดคนน้ำมะพร้าวที่ผสมนมสดชั้นล่างกับกาแฟคั่วบดชั้นบน และเมื่อดูดเข้าไป จะรู้สึกได้ถึงกลิ่นและรสชาติของน้ำมะพร้าวกลมกล่อม สดชื่นถึงใจ,นางสาวยุพาพรรณ กล่าวอีกว่านอกจากเมนูยอดฮิตอย่าง กาแฟสดน้ำมะพร้าวอ่อนแล้ว ยังมีเครื่องดื่มอีกหลากหลาย อาทิ ชาเย็น ชาเขียว นมสด บ๊วยแดงโซดา อีกทั้งยังมีเมนูขนมปังปิ้งหน้าต่างๆ ให้เลือกทานอีกด้วย และที่สำคัญ การจัดบรรยากาศภายในร้านนั้น มีทั้งจัดมุมเป็นสวนร่มรื่นหน้าร้าน โดยนำของเหลือใช้มาประดับ โดยมีทั้งยางรถทำเป็นที่นั่งเล่น อีกทั้งนำรถเก่ามาออกแบบเป็นที่นั่งสำหรับทานกาแฟอีกด้วย หรือสามารถเข้ามาในร้านนั่งได้แบบสบายๆ ตามต้องการก็ได้เช่นเดียวกัน,นางสาวยุพาพรรณ กล่าวด้วยว่า ตั้งแต่เปิดร้านมา ลูกค้าติดใจในรสชาติเป็นอย่างมาก รายได้จึงพุ่งขึ้นตาม และปัจจุบันนี้ต้องใช้มะพร้าวน้ำหอมประมาณ 20-30 ลูกต่อวัน ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถสอบถามเส้นทางมาร้านได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 08-4800-7330 หรือ เฟซบุ๊ก เดอ ไปป์ คอฟฟี่ ร้านเปิดทุกวัน ไม่มีวันหยุด. | ไอเดียเก๋! ร้านเดอ ไปป์ คอฟฟี่ ชูจุดขายนำมะพร้าวน้ำหอม ผลไม้ขึ้นชื่อใน อ.บ้านแพ้ว สมุทรสาคร มาต่อยอดผสมกาแฟ กลายเป็น กาแฟสดมะพร้าวอ่อน ลูกค้าติดใจ สร้างรายได้งาม | null | เดอไปป์ คอฟฟี่,กาแฟสดมะพร้าวอ่อน,มะพร้าวแปรรูป,มะพร้าวผสมกาแฟ,น้ำมะพร้าว,กาแฟคั่วบด,มะพร้าวน้ำหอม,มะพร้าวน้ำหอมบ้านแพ้ว,บ้านแพ้ว,สมุทรสาคร,รายได้งาม,วัตถุดิบท้องถิ่น,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย | https://www.thairath.co.th/content/618791 |
ซันนี่ ร้อนแรง เข้ารอบ 64 คน ศึกสอยคิวโลกที่ไอร์แลนด์เหนือ | ซันนี่ อาร์แบค อรรคนิธิ์ ส่งเสริมสวัสดิ์ โชว์เพลงคิวต้อน ฟาน เซงยี่ ดาวรุ่งดวงใหม่ 4-0 เฟรม ผ่านเข้ารอบ 2 หรือ 64 คนสุดท้าย ไปเจอกับเซียะ กั๊วะตง ตัวอันตรายจากแดนมังกร ศึกสนุ้กเกอร์โลก รายการ นอร์ธเทิร์น ไอร์แลนด์ โทรฟี่ ที่ไอร์แลนด์เหนือ ขณะที่ หมู ปากน้ำ นพพล แสงคำ กับ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย รัชพล ภู่โอบอ้อม พลาดท่าร่วงตกรอบ,การแข่งขันสนุ้กเกอร์โลกรายการ นอร์ธเทิร์น ไอร์แลนด์ โทรฟี่ ซึ่งเป็น 1 ใน 4 รายการโฮมซีรีส์ ของสหราชอาณาจักร ชิงเงินรางวัลรวม 365,000 ปอนด์ ที่วอเตอร์ฟรอนท์ ฮอลล์ กรุงเบลฟาสต์ ประเทศไอร์แลนด์เหนือ ใช้ระบบการดวลคิว 4 ใน 7 เฟรม,ซันนี่ อาร์แบค อรรคนิธิ์ ส่งเสริมสวัสดิ์ นักสอยคิววัย 23 ปี ดีกรีแชมป์เยาวชนเอเชียปี 2015 ออกคิวได้อย่างเฉียบคมต่อเนื่อง หลังจากเพิ่งผ่านเข้ารอบ 8 คน ศึกอินเตอร์เนชันแนล แชมเปียนชิป เมื่อไล่ต้อนฟาน เซงยี่ ดาวรุ่งดวงใหม่ วัย 17 ปี จากจีนไปได้อย่างขาดลอย 4-0 เฟรม สกอร์ 63-55, 80-1, 63 (55)-57 และ 64-1 ผ่านเข้ารอบ 2 หรือ 64 คนสุดท้ายไปเจอกับเซียะ กั๊วะตง ตัวอันตรายจากแดนมังกร มือ 26 ของโลก พร้อมกันนี้ ซันนี่ รับเงินตุนไปแล้ว 2,500 ปอนด์ หรือประมาณ 107,000 บาท,ขณะที่ หมู ปากน้ำ นพพล แสงคำ มือ 35 ของโลก พลาดท่าพ่ายให้กับมาร์ค เดวิส มือ 34 จากอังกฤษ ไปอย่างน่าเสียดาย 3-4 เฟรม ทั้งที่หมูออกคิวกดเซ็นจูรี่เบรก 2 ไม้ โดยแทง 101 ในเฟรมที่ 2 และแทง 136 ในเฟรมที่ 5 แถมขึ้นแท่นนำ 3-2 แต่มาโดนเดวิสกดเบรก 85 ตีเสมอ 3-3 และในเฟรมตัดสิน เดวิสแทงไม้เดียวขาด 88 แต้ม ทำให้ หมูตกรอบไปพร้อมกับ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย รัชพล ภู่โอบอ้อม ที่พ่ายให้กับเลียม ไฮจฟิลด์ 2-4 ซึ่งการดวลคิวหนนี้ต๋องกดเซ็นจูรี่เบรก 127 ในเฟรมที่ 4แต่ไม่เป็นผล. | ซันนี่ อาร์แบค โชว์เพลงคิวต้อน ฟาน เซงยี่ ดาวรุ่งดวงใหม่ 4-0 เฟรม ผ่านเข้ารอบ 2 หรือ 64 คนสุดท้าย ศึกสนุ้กเกอร์โลก รายการ นอร์ธเทิร์น ไอร์แลนด์ โทรฟี่ ที่ไอร์แลนด์เหนือ | กีฬา,กีฬาอื่นๆ | ซันนี่ อาร์แบค,อรรคนิธิ์ ส่งเสริมสวัสดิ์,นอร์ธเทิร์น ไอร์แลนด์ โทรฟี่,สนุ้กเกอร์,หมู ปากน้ำ | https://www.thairath.co.th/sport/others/1420558 |
เด็ก ปชป.กระตุกต่อมสำนึก ปู ชี้ สังคมต้องรู้เท่าทันนักการเมือง | เมื่อวันที่ 21 พ.ย.2558 นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต ส.ส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ระบุ ไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังรัฐบาลกำลังดำเนินการเรียกค่าเสียหายหลายแสนล้านบาท ว่า เคยมีหลายฝ่ายเตือน น.ส.ยิ่งลักษณ์ แล้ว โดยเฉพาะช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล แม้แต่ตั้งกระทู้ถามสด แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ฟัง หากเป็นเงินของบริษัทในเครือชินวัตร คงไม่มีใครว่า แต่นี่เป็นเงินงบประมาณแผ่นดิน ซึ่งหาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ คิดว่านโยบายนี้เป็นประโยชน์ต่อชาวนา อยากถามว่า,1. หลังโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ทำไมชาวนาไทยกลับมีหนี้สินเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม 2. ความเสียหายร่วม 7 แสนล้านบาท จากการปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตของคนใกล้ชิด และพวกพ้อง รัฐบาลต้องเก็บภาษีจากกระเป๋าประชาชนทั้งประเทศเพื่อมาใช้หนี้แทน ทั้งที่ควรนำไปพัฒนาประเทศ,นายชาญชัย กล่าวอีกว่า ถือเป็นบทเรียนของสังคมไทยที่ต้องตระหนักรู้เท่าทันพรรคการเมือง นักการเมืองบางประเภท ว่า ต้องเลือกคนที่มีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อนโยบาย ไม่ใช่แค่หวังสร้างกระแสเพิ่มคะแนนนิยมเข้าสู่อำนาจรัฐเพื่อกอบโกย หรือ เอื้อประโยชน์ โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายของชาติ จากการเปิดช่องให้ทุจริตในเกือบทุกขั้นตอน ทั้งยังทำลายตลาดส่งออกข้าวไทยพังยับสร้างหนี้สินให้แผ่นดิน ยังไม่รวมถึงครอบครัวชาวนาที่ต้องฆ่าตัวตาย และการทำลายความหลากหลายของพันธุ์ข้าวหายากของไทย | ชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต ส.ส.นครนายก ปชป. กระตุกต่อมสำนึกยิ่งลักษณ์ 2 ข้อ ตอกย้ำสังคมต้องรู้เท่าทันนักการเมือง ต้องเลือกคนที่มีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อนโบาย ไม่ใช่หวังแต่คะแนนเสียง | null | จำนำข้าว,ชาญชัย อิสระเสนารักษ์,กระตุกต่อมสำนึก,ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร,ปู,นโยบายรัฐบาล,อดีตนายกรัฐมนตรี,อดีต ส.ส.นครนายก,ชาวนาไทย,เรียกค่าเสียหาย,โกงจำนำข้าว,เด็กปชป.,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง | https://www.thairath.co.th/content/541004 |
สนช.ผนึก สสส.สานต่อจิตอาสา ร่วมทำดี ปลูกฝั่งเด็ก-เยาวชนให้มีจิตสาธารณะ | เมื่อวันที่ 24 ต.ค.60 น.ส.จินตนันท์ ชญาต์ร ศุภมิตร สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) และประธานกรรมการประกวดผลงานเรื่อง ความดี ตามพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร กล่าวถึงพลังจิตอาสาในงานพระราชพิธี ว่า ความจริงเป็นเรื่องเก่ามานานแล้ว เป็นศัพท์ใหม่ volunteer เป็นเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น ความจริงเป็นเรื่องเก่า เป็นเรื่องโบราณ เหมือนการลงแขกเกี่ยวข้าวสมัยโบราณ เพื่อนบ้านมีเกี่ยวข้าวก็ไปช่วยเขาเกี่ยว พอถึงเวลาเราเกี่ยวข้าวเขาก็มาช่วยเรา เป็นการเอื้อเฟื้อเพื่อแผ่ซึ่งกันและกัน ซึ่งทางฝรั่งตะวันตกเขาก็มีจิตอาสาทำประโยชน์แก่สาธารณะมานาน เราก็พยายามจะทำกัน แต่ว่าด้วยปัจจัยอะไรหลายๆ อย่างไม่เป็นที่นิยม จนกระทั่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ดูเหมือนว่าเป็นการปลุกจิตสำนึกของคนขึ้นมา จำได้ไหมว่าช่วงที่รัชกาลที่ 9 สวรรคตใหม่ๆ เราไปที่สนามหลวงก็จะมีคนนำยาดม น้ำ ข้าวสาร อาหาร ไปแจก หรือช่วยกันเก็บขยะ ทุกคนมีความรู้สึกว่าอยากจะทำ เพราะพระองค์ทรงทำเพื่อประชาชนมามากมาย และเพื่อเป็นการทำอะไรตอบแทนพระองค์ จึงทำให้ปลุกจิตสำนึกของคน ดังนั้นจึงอยากให้พลังจิตอาสาดำรงต่อไป,น.ส.จินตนันท์ กล่าวต่อว่า สนช.ได้ทำโครงการความดีตามพระบรมราโชวาท โดยจับมือกับ สสส.ที่มีโครงการจิตอาสาพลังแผ่นดินที่เปิดให้ลงชื่อในเรื่องต่างๆ ในธนาคารจิตอาสา ต่อไปมีโครงการอะไรก็จะติดต่อคนที่มาลงชื่อตามโครงการต่างๆ เพื่อที่จะติดต่อกันมาทำต่อไปความดี ซึ่งทาง สนช และ สสส.และภาคีเครือข่ายก็มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพราะมีคนอยากให้เราทำ เพราะคนไทยเมื่อมีใจก็มาร่วมงานกันอย่างท่วมท้น ซึ่งเราก็จะพยายามทำให้เหมือนเป็นจิตสำนึก ถ้าว่างก็จะมาช่วยกัน ถือว่าเป็นการปลูกฝังเด็กและเยาวชนด้วย รู้สึกว่าการทำจิตอาสาเป็นเรื่องที่ดี และทำความดีได้ทุกวัน ดังนั้นโครงการของ สสส.ที่ทำอยู่แล้วควรดำเนินการต่อไปอย่างต่อเนื่อง และทาง สนช.ก็ทำเรื่องนี้อยู่แล้วจึงนำมารวมกัน ซึ่งจากนี้ไปจะมีโครงการใหม่ชื่อ ทำดี ทำได้ทุกวัน เริ่มต้นวันนี้ จิตอาสาพลังแผ่นดิน | สนช.ปลื้มพลังจิตอาสาช่วยปลุกจิตสำนึกคนไทยร่วมทำเพื่อในหลวง หนุน สนช.ผนึก สสส.ทำต่อ ทำดี ทำได้ทุกวัน เริ่มต้นวันนี้ จิตอาสาพลังแผ่นดิน เพื่อปลูกฝังเด็กเยาวชนให้มีจิตสาธารณะเพื่อประโยชน์ส่วนรวม | ข่าว,ทั่วไทย | จิตอาสา,ทำความดี,จิตสาธารณะ,จิตสำนึกคนไทย,สสส.,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1106957 |
เหมียวที่พญาเต่างอย ให้โชคถูกหลายงวด รอบนี้กัดสลาก จนเลขท้าย 3 ตัวหลังขาด | วันที่ 12 มกราคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สวนสาธารณะพญาเต่างอย อ.เต่างอย จ.สกลนคร มีชาวบ้านละแวกใกล้เคียง และนักท่องเที่ยว เดินทางมากราบไหว้อย่างไม่ขาดสาย เนื่องจากเป็นวันหยุด โดยคนที่มาก็หวังจะมาทำบุญเพื่อเป็นสิริมงคล ที่จะมีทั้งการทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อก่อสร้างสะพานบุญจากพญาเต่างอย ข้ามลำน้ำพุงไปยังวัดพระธาตุเต่างอยเฉลิมพระเกียรติพระเจ้าอยู่หัวนอกจากนี้ยังบูชาดอกไม้ ธูป เทียน น้ำแดง ผักบุ้ง ไปกราบไหว้เจาพ่อพญาเต่างอยอันศักดิ์สิทธิ์ ส่งผลให้การจำหน่ายอาหารและจำหน่ายของที่ระลึกเป็นไปอย่างคึกคัก มีเงินหมุนเวียนวันละนับล้านบาทหลังจากทำบุญ นักท่องเที่ยวก็จะนิยมมาหาซื้อเลขเด็ดที่แผงขายลอตเตอรี่ที่มีอยู่จำนวนมากนับร้อยแผง ซึ่งเลขขายดีก็จะเป็นเลขประจำของพญาเต่างอย นั่นก็คือ 25 35 45 และ 55 ขณะที่บางคนก็หาซื้อเลข 16 เพราะตรงกับวันครูแต่ที่ได้รับความนิยมอีกแผง คือ แผงของนายสมบัติ เภาโพธิ์ อายุ 42 ปี พ่อค้าลอตเตอรี่ที่นำแมวมาเป็นจุดขาย โดยระบุด้วยว่า แมวตัวนี้ให้โชคถูกมาแล้วหลายงวด มีคนถูกรางวัลที่ 1 ได้รับเงิน 12 ล้านมาแล้วนายสมบัติ บอกอีกว่า งวดนี้แมวกัดลอตเตอรี่ คราวนี้เป็นเลข 851560 และกัดเป็นครั้งที่ 3 จนเลขท้าย 560 ขาดหายไป พอพูดให้นักเสี่ยงโชคฟัง ก็หาซื้อเลข 560 กันจนเกลี้ยงแผง รวมถึงแผงอื่นๆด้วยอย่างไรก็ตามหากเลข 851560 ถูกรางวัลที่ 1 จริง ตนยังหวั่นวิตกว่าการไปขึ้นเงินที่กองสลากฯ จะมีปัญหาหรือไม่ เพราะเลข 560 ถูกเจ้าเหมียวกัดจนขาดไปแล้ว จึงต้องการหาพยานมายืนยัน ก่อนวันที่หวยจะออก พร้อมบอกด้วยว่า เรื่องนี้ยากกว่าคดีครูปรีชาอีก. | แมวขายลอตเตอรี่ ที่รูปปั้นพญาเต่างอย สกลนคร ให้โชคมาแล้วหลายงวด คนขายรวยตามๆ กัน งวดนี้กัดสลากเลขท้าย 3 ตัว 560 จนขาด เจ้าของหวั่นขึ้นเงินไม่ได้ รีบหาพยานมายืนยัน | ข่าว,สังคม | หวยไทยรัฐ17-1-63,เลขเด็ด 17 ม.ค. 63,เลขเด็ดไทยรัฐ,หวยไทยรัฐ,สลากกินแบ่งรัฐบาล 17 มกราคม 2562,หวยออกวันศุกร์,หวย,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1745793 |
แม่สาวเบลเยียมขอคำตอบ ลูกกลายเป็นศพในป่าเกาะเต่า-ไม่เชื่อฆ่าตัวตาย | (ภาพจากเฟซบุ๊ก / Elise Dallemagne),เอลิส ดาลล์มาจ์น หญิงชาวเบลเยียม วัย 30 ปี ถูกพบเป็นศพถูกสัตว์กัดแทะบนเกาะเต่าของไทย เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจระบุเป็นการฆ่าตัวตาย ขณะที่แม่ผู้ตายออกมาเรียกร้องขอข้อมูล และไม่เชื่อว่าลูกสาวจะปลิดชีพตัวเอง,จากกรณี น.ส.เอลิส ดาลล์มาจ์น ชาวเบลเยียม วัย 30 ปี ถูกพบเป็นศพบนเกาะเต่า ในเขตจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประเทศไทย เมื่อ 27 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งตำรวจสรุปว่าเป็นการฆ่าตัวตายนั้น ล่าสุด มิเชล มารดาของเธอออกมาโพสต์ข้อความบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ เฟซบุ๊ก เมื่อ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับการเสียชีวิตของลูกสาว เพราะไม่ได้รับข้อมูลจากตำรวจ และไม่คิดว่าลูกสาวจะฆ่าตัวตาย,ตามการสืบสวนของตำรวจไทยพบว่า น.ส.ดาลล์มาจ์น เดินทางจากเกาะพะงันไปเกาะเต่า ในวันที่ 19 เม.ย. แต่บังกะโลที่เธอพักอยู่เกิดไฟไหม้ เนื่องจากไฟฟ้าลัดวงจร ทำให้เธอต้องหนีออกจากที่เกิดเหตุ และเดินไปหลายกิโลเมตรจนถึงอ่าวโตนด เพื่อรับประทานอาหาร และจองตั๋วเดินทางไปกรุงเทพมหานครผ่านจังหวัดชุมพร ในวันที่ 24 เม.ย. ซึ่งในวันดังกล่าว กระเป๋าเดินทางของเธอถูกส่งถึงจังหวัดชุมพรแล้ว แต่ตัวเธอกลับไม่มา ก่อนจะมีข่าวว่าเธอถูกพบเป็นศพอยู่บนก้อนหินในป่าใกล้อ่าวโตนด สภาพศพถูกคลุมด้วยเสื้อเชิ้ต มีร่องรอยถูกสัตว์กัดแทะ ตำรวจระบุว่าเหตุการณ์นี้เป็นการฆ่าตัวตาย ด้วยการแขวนคอกับต้นไม้,อย่างไรก็ตาม ตามรายงานของเว็บไซต์ samuitimes นางมิเชล มารดาของ น.ส.ดาลล์มาจ์น ว่า เธอยังรอผลการชันสูตรศพขั้นสุดท้ายว่าลูกสาวเธอเสียชีวิตเพราะอะไร และไม่ได้รับการติดต่อจากตำรวจไทยอีกเลย นับตั้งแต่พิธีฌาปนกิจศพลูกสาวของเธอถูกจัดขึ้นในกรุงเทพมหานคร 14 วันหลังพบศพ,ทั้งนี้ ตามการเปิดเผยของ นางมิเชล ลูกสาวของเธอเดินทางไปอินเดีย, ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ เมื่อกว่า 2 ปีก่อน และเดินทางไปยังประเทศไทยเป็นประจำ โดยอาศัยอยู่บนเกาะพะงันนานกว่า 1 ปี ก่อนที่ในวันที่ 17 เม.ย. เธอได้คุยกับลูกสาวผ่านทางสไกป์ ซึ่ง น.ส.เดลมานจ์ ให้สัญญาว่าจะเดินทางกลับบ้าน ทำให้มิเชลไม่เชื่อว่าลูกสาวของเธอจะฆ่าตัวตาย โดยตั้งข้อสังเกตว่า ลูกสาวเธอจะซื้อตั๋วเดินทางไปกรุงเทพฯ ทำไม หากตั้งใจจะเข้าไปฆ่าตัวตายในป่า | เอลิส ดาลล์มาจ์น หญิงชาวเบลเยียม วัย 30 ปี ถูกพบเป็นศพถูกสัตว์กัดแทะบนเกาะเต่าของไทย เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจระบุเป็นการฆ่าตัวตาย ขณะที่แม่ผู้ตายออกมาเรียกร้องขอข้อมูล และไม่เชื่อว่าลูกสาวจะปลิดชีพตัวเอง | ข่าว,ต่างประเทศ | เกาะเต่า,ฆ่าตัวตาย,เกาะพะงัน,เอลิส ดัลเลอมาเน,เอลิส เดลมานจ์ | https://www.thairath.co.th/news/foreign/987381 |
ตามไปดู รถไฟใต้ดินสถานีสนามไชย ตกแต่งได้อย่างสวยงามตามเอกลักษณ์ไทย | เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในปี 2561 สถานีรถไฟใต้ดินสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง-ท่าพระ จะใช้งานได้ โดยรถไฟใต้ดินสายนี้ มีสถานีที่ถูกออกแบบและตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมไทยสมัยโบราณ นั่นก็คือ สถานีสนามไชย โดยการตกแต่งเกือบจะเสร็จสมบูรณ์แล้ว,ทั้งนี้ การออกแบบนั้นจะมีเสาสดุมภ์ ที่ตั้งตระหง่านอยู่ระหว่างทางเดิน มีองค์และฐานเสาตามทำเนียบของสถาปัตยกรรมไทย ลงลายกระเบื้องเป็นดอกพิกุล ปลายเสาประดับด้วยบัวจงกลปิดทองคำเปลว พื้นและผนังจำลองมาจากกำแพงเมือง ถูกออกแบบบริเวณชั้นจำหน่ายตั๋วโดยสารของสถานีสนามไชย หนึ่งใน 4 สถานีของโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. เชื่อว่าจะเป็นอีกแลนด์มาร์กสำคัญที่ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวได้,สำหรับลวดลายไทยที่งดงาม สื่อถึงความทรงคุณค่าและเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมไทย ทั้งหมดนี้ ถูกออกแบบโดย ภิญโญ สุวรรณคีรี ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ ซึ่งต้องการให้ผู้ที่เดินทางเข้ามามีความรู้สึกเสมือนได้เดินเข้าสู่พระราชวัง หรือท้องพระโรงในสมัยรัตนโกสินทร์,ในส่วนของสถานีสนามไชย เป็นหนึ่งในสถานีของเส้นทางโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน อยู่ในส่วนต่อขยายบางซื่อ-ท่าพระ และหัวลําโพง–บางแค ระยะทาง 27 กิโลเมตร เป็นโครงสร้างทางวิ่งใต้ดิน ระยะทาง 5 กิโลเมตร มีสถานีใต้ดินจำนวน 4 สถานี และเป็นสถานีตกแต่งพิเศษ,ส่วนทางวิ่งยกระดับในช่วงท่าพระ-บางแค ระยะทาง 9 กิโลเมตร มีสถานียกระดับจำนวน 7 สถานี มีสถานีท่าพระเป็นจุดเชื่อมต่อเส้นทางบางซื่อ-ท่าพระ และสิ้นสุดโครงการสายสีน้ำเงินที่สถานีหลักสอง โดยมีบริษัท ช.การช่าง จํากัด (มหาชน) เป็นผู้ดําเนินการออกแบบก่อสร้าง และตกแต่งในช่วงสนามไชย-ท่าพระ,ทั้งนี้ การตกแต่งและก่อสร้างใกล้จะเสร็จสมบูรณ์ และเตรียมส่งมอบพื้นที่ให้ รฟม. ซึ่งมีแผนเปิดเดินรถ 2 ระยะ โดยระยะแรก จะเปิดเดินรถสายใต้ช่วงหัวลำโพง-ท่าพระ-หลักสอง ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 และระยะที่ 2 เปิดเดินรถสายเหนือช่วงเตาปูน-ท่าพระ ตลอดสายทาง เดือนตุลาคม 2562 | ช.การช่าง เตรียมส่งมอบ สถานีสนามไชย ของรถไฟใต้ดินสายสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นส่วนต่อขยายหัวลำโพง-ท่าพระ ที่ถูกออกแบบตกแต่งตามเอกลักษณ์ของไทยคล้ายท้องพระโรงในสมัยรัตนโกสินทร์ ขณะที่รฟม.เชื่อจะเป็นแลนด์มาร์กสำคัญที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว | null | บริษัท ช.การช่าง จํากัด (มหาชน),รถไฟฟ้าใต้ดินสถานีสนามไชย,รถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย,รฟม.,เศรษฐกิจ | https://www.thairath.co.th/content/810262 |
เขตปกครองพิเศษในจีน : บทเรียนจากความขัดแย้งในอุรุมฉี | ในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ปัจจุบันมีการปกครองที่มีการกระจายอำนาจการปกครองสู่ท้องถิ่นอยู่จำนวน 157 เขตการปกครอง ซึ่งคิดเป็น 65% ของพื้นที่ประเทศ และมีประชาชนที่อยู่ภายใต้การปกครองรูปแบบพิเศษนี้กว่า 190 ล้านคน (ไม่นับรวมเขตปกครองอิสระคือเกาะไต้หวัน) รูปแบบของเขตปกครองพิเศษในจีนนั้นแบ่งได้เป็น 2 รูปแบบคือการกระจายอำนาจแบบเขตบริหารพิเศษนั้นจะเป็นการกระจายอำนาจที่แท้จริงในเกือบทุกมิติของการปกครอง รัฐจีนเรียกว่าเป็นการปกครองแบบ หนึ่งประเทศสองระบบ เป็นการปกครองตนเองโดยมีอำนาจสูงสุดอยู่เขตบริหารพิเศษ หนึ่งประเทศสองระบบหมายถึง ในประเทศจีน ดินแดนใช้ระบบสังคมนิยม แต่ในเขตบริหารพิเศษใช้ระบบทุนนิยม และไม่มีการเปลี่ยนแปลงภายใน 50 ปี ยกเว้นเฉพาะอำนาจในด้านการรักษาความมั่นคงทางทหาร และการต่างประเทศเท่านั้นที่จะขึ้นกับรัฐบาลกลาง ส่วนรูปแบบการปกครองตนเองของชนกลุ่มน้อยนั้นแม้ว่ารัฐธรรมนูญจะเขียนให้มีการกระจายอำนาจไปสู่ท้องถิ่นในทุกมิติเช่นกัน แต่อำนาจในการบริหาร การปกครองที่สำคัญทั้งหลายต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการถาวรสภาประชาชนแห่งชาติหรือได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมสภาประชาชนแห่งชาติก่อน จึงจะมีผลบังคับใช้ซึ่งหากเราย้อนกลับไปศึกษาดูประวัติการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ เราก็จะไม่พบว่า มีความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลกลาง กับผู้ปกครอง หรือตัวแทนสภาประชาชนที่เป็นชนกลุ่มน้อย ก็เพราะว่ามีการวางตัวแทนผู้บริหารปกครอง หรือตัวแทนสภาประชาชนมาก่อนแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ หรือผู้ที่อยู่ฝ่ายรัฐบาลนั่นเองอย่างไรก็ตามความสงบกว่า 60 ปี ที่เกิดขึ้นในเขตของชนกลุ่มน้อย 55 ชนเผ่าก็มาจากการที่รัฐมีนโยบาย ยอมรับในภาษา และวัฒนธรรมที่แตกต่างกันของชนกลุ่มน้อย ไม่สร้างชาติให้เป็นรัฐนิยมหรือรัฐเอกนิยมในสังคมพหุวัฒนธรรม เหมือนกับรัฐบาลสาธารณรัฐของจอมพลเจียงไคเช็ค ความสำเร็จในการปฏิวัติของพรรคคอมมิวนิสต์ส่วนหนึ่งก็มาจากความช่วยเหลือของชนกลุ่มน้อยโดยมีข้อตกลงร่วม เช่นเขตการปกครองตนเองมองโกเลียในซึ่งก่อตั้งโดยพรรคคอมมิวนิสต์เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ปี ค.ศ. 1947 ก่อนการล่มสลายของรัฐบาลเจียงไคเช็คถึง 2 ปีเศษ ความสำเร็จของการปฏิวัติของประธานเหมา เจ๋อ ตุง ส่วนหนึ่งจึงมาจากการมีนโยบายที่วางอยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจในสังคมพหุวัฒนธรรมดังนั้นจะเห็นได้จากกฎหมายรัฐธรรมนูญของจีนได้บัญญัติอย่างให้เกียรติกับชนกลุ่มน้อยทุกกลุ่มค่อนข้างมาก เช่นเขตปกครองตนเองสามารถออกกฎหมายหรือระเบียบที่ใช้ภาษาของชนกลุ่มน้อย หนึ่งหรือหลายภาษาเพื่อใช้ในการปฏิบัติราชการได้ หน่วยงานราชการหรือรัฐวิสาหกิจในเขตปกครองตนเองต้องมีข้าราชการหรือพนักงานที่เป็นชนกลุ่มน้อยในสัดส่วนที่เหมาะสม และมีสิทธิพิเศษในการรับเข้าทำงานก่อนผู้อื่น เป็นต้นส่วนการกระจายอำนาจของเขตปกครองตนเองที่ไม่สมบูรณ์ก็คือการกระจายอำนาจในมิติของการจัดการทรัพยากรนั้นรัฐยังไม่เปิดโอกาสให้ชนกลุ่มน้อยได้บริหารจัดการกันเอง อีกทั้งการที่รัฐยังมีการจำกัดสิทธิบางประการของการนับถือศาสนา ทำให้เป็นสาเหตุหลักของความไม่สงบในมณฑลซินเจียงและธิเบต เพราะประชาชนในสองมณฑลนี้มีต่างมีความศรัทธาในศาสนาที่ตนนับถือส่วนมณฑลซินเจียงนั้นจะแตกต่างจากธิเบต คือซินเจียงเป็นแหล่งที่มีทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์มาก เช่นเป็นแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติขนาดใหญ่ที่สุดของจีน เป็นแหล่งถ่านหินคุณภาพดีจำนวนมหาศาล อีกทั้งยังเป็นแหล่งปลูกฝ้าย ข้าวโพด ดอกน้ำมัน (Rapeseed) ที่สำคัญของจีน ทรัพยากรพลังงานในซินเจียงจึงเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญในการพัฒนาประเทศของจีน รัฐจึงใช้นโยบายอพยพคนฮั่น (คนจีนแท้) เข้าไปในซินเจียงจำนวนมากเพื่อสร้างความสมดุลกับคนพื้นเมืองจนทำให้ปัจจุบันคนจีนฮั่นในซินเจียงมีสัดส่วนของประชากรที่ใกล้เคียงกับคนพื้นเมือง อาศัยอยู่ในเขตเมืองมีรายได้สูงกว่าคนพื้นเมือง คนในพื้นที่ก็ยังคงดำรงชีวิตอยู่ท่ามกลางความยากจนถึงแม้รัฐบาลจีนจะพยายามแก้ปัญหาดังกล่าวด้วยการบรรจุแผนพัฒนาซินเกียงในแผนพัฒนาประเทศหลายแผน แต่ทว่าการกระจายรายได้มักจะให้โอกาสให้กับชาวฮั่นที่อพยพเข้าไปมากกว่าคนพื้นเมืองความไม่สมดุลของการกระจายรายได้ก็ยังคงเป็นปัญหาต่อไปเพราะอำนาจการปกครองที่สำคัญก็เป็นของเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์มณฑลซึ่งเป็นชาวฮั่นและยังมีปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นของเจ้าหน้าที่รัฐ ทำให้เกิดขบวนการต่อสู้ด้วยอาวุธ องค์การปลดปล่อยเตอร์กิสถานตะวันออก (East Turkistan Liberation Organization : ETLO) ทำการต่อสู้เพื่อต้องการปลดปล่อยซินเจียงให้เป็น รัฐอิสลามแห่งเตอร์กิสถานตะวันออก (IslamEastern Turkistan Republic)ส่วน เหตุจลาจลทางเชื้อชาติ เมื่อต้นเดือน ก.ค.2009 เมืองอุรุมฉี เมืองหลวงของเขตปกครองตนเองซินเกียงของจีน จนเกิดเหตุจลาจลและปะทะนองเลือดระหว่าง ชนกลุ่มน้อยชาวอุยเกอร์ กับ ชาวจีนฮั่น เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตไม่น้อยกว่า 184 คน และบาดเจ็บอีกกว่าพันคนก่อนการปะทะ ชาวอุยเกอร์หลายร้อยคนชุมนุมกันอย่างสงบ เรียกร้องให้มีการสอบสวนกรณีการเสียชีวิตของชาวอุยเกอร์ 2 คนและบาดเจ็บ 118 คนในปัญหาการทะเลาะวิวาทกันระหว่างคนงานฮั่นกับคนงานชาวอุยเกอร์ ที่โรงงานผลิตของเล่นใน มณฑลกวางตุ้งเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.2009 แต่การชุมนุมอย่างสงบก็บานปลายกลายเป็นเหตุการณ์ความรุนแรงครั้งใหญ่ของประเทศ โดยทางการจีนอ้างว่าผู้ชุมนุมชาวอุยเกอร์เป็นฝ่ายสร้างความวุ่นวาย แต่ต้นเหตุที่แท้จริงก็คือการที่รัฐไม่จัดการลงโทษกับอาชญากรและผู้กระทำผิดในมณฑลกวางตุ้งอย่างยุติธรรมและรวดเร็ว และเหตุการณ์ดังกล่าวก็สะท้อนให้เห็นถึงความไม่ไว้วางใจในประสิทธิภาพและความยุติธรรมในการดำเนินงานของรัฐต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาจีนจึงใช้นโยบายกระจายอำนาจให้ชนกลุ่มน้อยปกครองตนเองได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งอาจจะเหมาะสมกับชนกลุ่มน้อยที่มีความแตกต่างทางภาษาและวัฒนธรรมกับคนฮั่นไม่มากนัก แต่อาจไม่เหมาะกับชนกลุ่มน้อยในมณฑลซินเจียงและธิเบต เพราะประชาชนในสองมณฑลนี้มีความแตกต่างทั้งภาษา ศาสนา และวัฒนธรรม กับชาวฮั่น ทำให้ปัญหาความขัดแย้งยังคงอยู่รัฐจีนยังไม่กล้าหาญพอที่จะกระจายอำนาจให้มากกว่านี้ จีนจึงต้องเร่ง ยกระดับความสำคัญของเศรษฐกิจซินเจียงและวัฒนธรรมท้องถิ่น ด้วยการส่งเสริมบทบาทให้ชาวมุสลิมในซินเจียง เป็นศูนย์กลางของจีนในการร่วมมือ และติดต่อกับประเทศสมาชิกองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Cooperation Organization : SCO) ซึ่งเป็นองค์การความร่วมมือของประเทศในภูมิภาคเอเชียกลาง ที่จีนและรัสเซียร่วมกันก่อตั้งกับประเทศคาซัคสถาน ทาจิกิสถาน คีร์กิซสถาน และอุซเบกิสถาน ซึ่งล้วนเป็นประเทศมุสลิมทั้งสิ้น จีนอาศัยลักษณะพิเศษของชาวซินเกียงที่มีเชื้อสาย ภาษา และศาสนา เหมือนคนในประเทศเอเชียกลางให้เป็นประโยชน์ ในการร่วมมือทางเศรษฐกิจ โดยฟื้นฟูการค้าชายแดน และส่งเสริมให้มณฑลซินเจียง เป็นเขตอุตสาหกรรมผลิตอาหารฮาลาล ส่งออกไปยังประเทศใกล้ๆ ในเอเชียกลาง รวมทั้งส่งเสริมให้ซินเจียงมีบทบาทในการติดต่อด้านการค้า และการลงทุนกับอิหร่าน และประเทศอื่นๆ ในตะวันออกกลางโดยหวังว่าจะทำให้คุณภาพชีวิตของพวกเขาดีขึ้น ทำให้ลดปัญหาความรุนแรงในเขตปกครองตนเองลงได้ระยะหนึ่งชั่วคราว หากแต่รากเหง้าของปัญหาก็ยังคงอยู่หากหลายประเทศที่ประสบปัญหาในการปกครองท้องถิ่นลักษณะคล้ายกับจีน จะนำปัญหาของจีนไปเป็นกรณีศึกษาเพื่อประยุกต์ใช้ ก็อาจทำให้ปัญหาในประเทศของตน บรรเทาลงได้ไม่น้อย | ชื่อบทความเดิม เขตปกครองพิเศษในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ปัจจุบันมีการปกครองที่มีการกระจายอำนาจการปกครองสู่ท้องถิ่นอยู่จำนวน 157 เขตการปกครอง ซึ่งคิดเป็น 65% | ต่างประเทศ,สิทธิมนุษยชน,เศรษฐกิจ | จีน,ซินเจียง,อุรุมฉี,เขตปกครองพิเศษ | https://prachatai.com/journal/2009/12/26956 |
เลือกตั้งโอเพนลิสต์ รอก่อน10ปี ตอนนี้ไม่มีเครื่อง | ตอนนี้-ไม่มีเครื่อง ยิ่งลักษณ์ปล่อยนก เอาเคล็ดครบ4รอบ,กมธ.ยกร่างฯจัดคิว 24 มิ.ย. ลุยรื้อ รธน.รายมาตรา เลิศรัตน์ เชื่อรื้อปมร้อนซื้อใจพรรคการเมือง คำนูณ แจงไม่ตัดทิ้งโอเพนลิสต์ อ้างประชาชนเห็นด้วยกำหนดเองได้ลำดับ ส.ส.บัญชีรายชื่อ โยกไปเขียนไว้ในบทเฉพาะกาล รอใช้ พร้อมลงคะแนนแบบอิเล็กทรอนิกส์ สมชัย ระบุต้องรออย่างน้อย 10 ปีถึงได้ใช้ แถมต้องทุ่ม 5 พันล้าน เปลี่ยนเครื่องกาบัตรใหม่ วันชัย เขย่าร่าง รธน.ส่อร่วง ปูด สปช.จ่อผนึกกำลังพรรคการเมืองต้านนายกฯคนนอก สมบัติ ซัดถอยหลังสุดกู่ย้อนยุค รธน.ปี 2511 เทียนฉาย กุมหัว สปช.ออฟไซด์ วิปฯเตือนให้ยับยั้งชั่งใจ ยิ่งลักษณ์ ควงลูก-สามีเข้าวัดแสนสุข ทำบุญเบิร์ธเดย์ 48 ปี ขอพรคืนรอยยิ้มคนไทยและให้อภัยกัน สมชาย นำทีมอดีต ส.ส.แห่ให้กำลังใจไม่ทอดทิ้ง,จากกรณีที่คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญวางแนวทางปรับแก้ร่างรัฐธรรมนูญในหลายประเด็น แต่จะยังไม่ตัดทิ้งระบบการเลือกตั้งแบบโอเพนลิสต์ ล่าสุดได้เตรียมจะนำไปเขียนไว้ในบทเฉพาะกาลกำหนดให้นำมาใช้เมื่อมีการเลือกตั้งแบบลงคะแนนด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์,กมธ.ยกร่างฯลุยรื้อ รธน.รายมาตรา,เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาปรับแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญว่า การทำงานของ กมธ.ยกร่างฯต่อ จากนี้ในวันที่ 24 มิ.ย. จะเป็นการพิจารณาเป็นรายมาตรา จะเริ่มตั้งแต่มาตราที่ 1 ไล่เรียงไปทีละมาตรา โดยนำคำขอแก้ไขจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) และสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนมาประกอบการพิจารณา ซึ่ง กมธ.ยกร่างฯจะพยายามเร่งการยกร่างฯให้เสร็จภายในเดือน ก.ค. เพื่อให้มีเวลาเหลือในการทบทวนอีกครั้ง เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์และถูกต้องมากที่สุด เพราะนี่คือช่วงสุดท้ายแล้ว จะผิดพลาดไม่ได้ นอกจากนี้ จะเชิญผู้ขอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญทั้ง 9 กลุ่มมาชี้แจงเหตุผลด้วยว่าเหตุใดถึงแก้หรือไม่แก้ไขตามคำขอที่ส่งมาให้ กมธ.ยกร่างฯ,ซุกโอเพนลิสต์ไว้ในบทเฉพาะกาล,นายคำนูณกล่าวอีกว่า ขณะนี้เรื่องระบบการเลือกตั้งแบบโอเพนลิสต์ กมธ.ยกร่างฯมีแนวความคิดที่จะไม่ตัดทิ้ง แต่จะนำไปบัญญัติไว้ในบทเฉพาะกาลว่า เมื่อมีการเลือกตั้งแบบลงคะแนนโดยระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ จะนำระบบการเลือกตั้งแบบโอเพนลิสต์มาใช้ ทั้งนี้ ในการเลือกตั้งครั้งนี้จะใช้ระบบการเลือกตั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อแบบเดิมโดยให้ผู้มีสิทธิ์เลือกพรรคที่ชอบแต่ไม่มีการเลือกคน สาเหตุที่ กมธ.ยกร่างฯยังไม่ตัดระบบโอเพนลิสต์ทิ้งเพราะเราเห็นว่าเป็นระบบที่ดี ประชาชนสามารถกำหนดลำดับ ส.ส.บัญชีรายชื่อเองได้ แตกต่างจากแบบเก่าที่พรรคการเมืองเป็นผู้กำหนด รวมทั้งประชาชนจำนวนมากก็ให้การสนับสนุนและเห็นด้วยกับระบบนี้,แก้ระบบเลือกตั้งโอ๋พรรคการเมือง,ด้าน พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช โฆษก กมธ.ยกร่างฯ กล่าวถึงสาเหตุการปรับสัดส่วนบัญชีรายชื่อเหลือ 150 คน และให้ใช้ประเทศเป็นเขตเลือกตั้งว่า เพื่อให้สอดคล้องกับข้อเสนอขอแก้ไขจากทุกฝ่าย อีกทั้งยังไม่กระทบกับหลักการเดิม ที่จะใช้วิธีนับคะแนนแบบสัดส่วนผสม ขณะที่การเลือกตั้งแบบโอเพนลิสต์ก็จะยังไม่นำมาใช้ ตลอดจนมีการตัดทิ้งในส่วนของกลุ่มการเมืองด้วย เชื่อว่าการปรับแก้นี้จะทำให้พรรคการเมืองสบายใจมากขึ้น เพราะ จำนวน ส.ส.เขต 300 คน ไม่ต่างไปจากเดิมที่ให้มี 375 คน มากนัก ทั้งหมดนี้คือการตกลงร่วมกันเบื้องต้นของ กมธ.ยกร่างฯ ที่จะนำไปใช้เป็นหลักพิจารณาปรับแก้ไขเป็นรายมาตราตั้งแต่วันที่ 24 มิ.ย.ต่อไป,ป้อง บวรศักดิ์ เจตนาบริสุทธิ์,พล.อ.เลิศรัตน์กล่าวถึงกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่ม นปช. เรียกร้องให้นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธาน กมธ.ยกร่างฯ ออกมาขอโทษ หลังระบุว่ามวลชน นปช.รับเงินมาชุมนุม ว่า คงตอบแทนไม่ได้ แต่คงไม่ถึงขั้นนั้น ข้อความอย่างสั้นที่ปรากฏออกมาอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด เพราะส่วนตัวเท่าที่ได้ฟังคลิปเสียงขนาดยาว ก็เข้าใจว่า นายบวรศักดิ์มีเจตนาบริสุทธิ์ ต้องการจะชี้ให้เห็นว่า ประเทศไทยมีความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมอยู่มาก พร้อมทั้งยกตัวอย่างม็อบที่ออกมาชุมนุม เพื่อจะทำให้เห็นภาพว่าความเหลื่อมล้ำนี้คือ หลักการสำคัญอย่างหนึ่ง ที่จะต้องมีบรรจุไว้ในร่างรัฐธรรมนูญด้วย,วันชัย เขย่าไม่เลิก รธน.ส่อสาหัส,นายวันชัย สอนศิริ สมาชิก สปช. กล่าวถึงการปรับแก้รัฐธรรมนูญของ กมธ.ยกร่างฯ ว่า เท่าที่ฟังขณะนี้สมาชิก สปช.เริ่มส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าว ออกมาคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญแต่ละประเด็นแล้ว เช่น ประเด็นที่มาของนายกฯ ที่จะคงไว้ตามเดิมคือ นายกฯอาจจะมาจากคนนอกก็ได้ มี สปช.บางกลุ่มเริ่มประกาศชูธงว่าอย่างไรก็ไม่เอาด้วย เพราะเป็นการเปิดช่อง เตรียมการให้คนนอกมาเป็นนายกฯ อาจเริ่มกรุ่นๆ จะชักชวนทั้งคนใน สปช.และนอกสปช. เช่น พรรคการเมืองออกมาคัดค้านประเด็นนี้ด้วยท่าทีแข็งขัน ส่วน ส.ส.บัญชีรายชื่อที่กลับไปใช้แบบเก่าของปี 50 ก็มี สปช.คัดค้าน เพราะการจัดลำดับรายชื่อ ส.ส.ยังอยู่ในมือหัวหน้าพรรค ประชาชนไม่ได้จัดลำดับเอง ที่มา ส.ว.ที่ กมธ.ยกร่างฯ จะให้มาจากการสรรหาอย่างเดียว พวกต่างจังหวัดที่ต้องการเลือกตั้งก็ไม่พอใจ มีการประชุมปรึกษาหารือวางแผนจะคัดค้านไม่เอาด้วย,ขู่ชุดยกร่างเตรียมรับกระสุนตก,สถานการณ์วันนี้ยิ่งใกล้วันโหวตรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญมากเท่าไหร่ ยิ่งมีคนคัดค้านมากขึ้น พุ่งเป้าไม่เอารัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพราะมีรอยตำหนิแม้แต่เรื่องเดียวมาตราเดียวก็จะไม่ยอมให้ผ่านไป เมื่อเวลางวดเข้ามาทุกที เชื่อว่าประเด็นปัญหาของรัฐธรรมนูญแต่ละมาตราจะมีคนชูข้อเสีย จุดอ่อนเพิ่มเรื่อยๆ จนกลบสิ่งดีๆไปหมดด้วยรอยตำหนิ อนาคตของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ คงอาการสาหัสเป็นแน่ และเมื่อนั้น กมธ.ยกร่างฯ จะเป็นยิ่งกว่าตำบลกระสุนตก เมื่อเอาการแก้รัฐธรรมนูญไม่ถูกทางมาบวกกับสถานการณ์ทางการเมืองแล้ว สองอย่างนี้จะเป็นปัจจัยให้รัฐธรรมนูญถูกคว่ำ นายวันชัยกล่าว,ซัดคงนายกฯ คนนอกถอยหลังลงคลอง,ขณะที่นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ ประธาน กมธ.ปฏิรูปการเมืองของ สปช.กล่าวถึงการปรับแก้ร่างรัฐธรรมนูญของ กมธ.ยกร่างฯ ว่า ความจริงไม่อยากวิจารณ์ ต้องรอให้เห็นภาพรวมการแก้ไขรัฐธรรมนูญเรียบร้อยเสียก่อนจะบอกว่ารับได้หรือไม่ได้ แต่ล่าสุดที่ กมธ.ยกร่างฯ ให้แขวนประเด็นระบบเลือกตั้งแบบโอเพนลิสต์ไว้ โดยยังไม่ตัดออกไป แสดงว่า กมธ.ยกร่างฯ ยังมีแนวคิดอยากให้มีรัฐบาลผสมที่อ่อนแอ ไร้อำนาจมาบริหารประเทศ ถ้ายังคงไว้แบบนี้ จะไม่ช่วยการเดินหน้าปฏิรูปประเทศในอนาคต การแก้ปัญหาให้ประชาชนเป็นไปได้ยาก ส่วนประเด็นที่มานายกฯ ที่ยังคงเดิม ให้คนนอกมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้นั้น จะกลายเป็นการย้อนถอยหลังกลับไปยังรัฐธรรมนูญปี 2511 ที่ไม่ยึดหลักประชาธิปไตย มีที่มาผู้นำฝ่ายบริหารที่ไม่ยึดโยงประชาชนอย่างแท้จริง เกิดปัญหาความไม่สมบูรณ์ขึ้นระหว่างสามเสาหลักประชาธิปไตย สำหรับกระแสข่าวที่สมาชิก สปช.จะโหวตคว่ำรัฐธรรมนูญ ก็เป็นความเห็นส่วนบุคคล ไม่ขอก้าวล่วง ต้องรอให้รัฐธรรมนูญแก้เรียบร้อยก่อน,รอดูร่างสมบูรณ์ก่อนรับหรือคว่ำ,นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธาน กมธ.ปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม สปช. กล่าวว่า ต้องรอดูว่า กมธ.ยกร่างฯ จะปรับแก้อะไรบ้าง โครงสร้างในรัฐธรรมนูญจะต้องมีเนื้อหาที่กระชับและครอบคลุม ขณะนี้ทางกลุ่มจะขอรอดูจนกว่าการร่างรัฐธรรมนูญเสร็จสมบูรณ์ ยังไม่ได้ตัดสินใจชัดเจนว่าจะรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ประเด็นไม่ใช่อยู่ที่เรื่องการเมืองเรื่องเดียว ยังมีเรื่องอื่นๆที่ต้องมีความเชื่อมโยงกัน ทั้งนี้ กลุ่มเราไม่ได้คาดหวังให้ กมธ.ยกร่างฯ ปรับแก้ตามข้อเสนอของเราทั้งหมด ที่ได้เสนอไปก็เป็นแนวทางเลือกหนึ่งเท่านั้น หาก กมธ.ยกร่างฯจะแก้หรือไม่แก้ประเด็นใด ก็ต้องมีเหตุผลอธิบายให้ชัดเจน ถ้ามีเหตุผลที่ฟังแล้วยอมรับได้เราก็ไม่ติดใจ แต่หากอธิบายไม่ดี ไม่มีเหตุผลเราคงยอมไม่ได้,วิป สปช.เตือนสมาชิกยับยั้งชั่งใจ,นายอลงกรณ์ พลบุตร เลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วิป สปช.) กล่าวถึงกรณี สปช.บางส่วนออกมาระบุจะโหวตคว่ำร่างรัฐธรรมนูญว่า ยังเร็วไปที่จะบอกว่ารับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ การออกมาให้ข่าวผ่านสื่อจะทำให้สังคมสับสน สร้างความกดดันให้ กมธ.ยกร่างฯ การเคลื่อนไหวใดๆ อาจถูกตีความว่าเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่ง สปช.ไม่ใช่สภาการเมือง แต่เป็นสภาวิชาการที่ทำงานโปร่งใส ขอร้องให้บรรดาสมาชิกยับยั้งชั่งใจ คำนึงถึงความรับผิดชอบ ต้องให้โอกาส กมธ.ยกร่างฯ ทำงานจนถึงวันส่งร่างสุดท้าย 22 ส.ค. เวลานี้ขอความร่วมมือให้สมาชิก สปช.โฟกัสไปที่แผนแม่บทการปฏิรูปให้เสร็จตามโรดแม็ปก่อน,เทียนฉาย กังวลบางคนชอบออฟไซด์,เท่าที่พูดคุยกับบรรดาสมาชิก สปช.ในประเด็นนี้ มีความกังวล เท่าที่ได้พูดคุยกับนายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธาน สปช.เอง กังวลต่อการเคลื่อนไหวของสมาชิก สปช.บางท่านที่ออกจะออฟไซด์ สปช.มีหลักการทำงานชัดเจน คือตามโรดแม็ป ไม่ว่าเรื่องใดๆ สปช.จะให้อิสระแต่ละคน ไม่มีการกำหนดแนวทางให้ทำตามว่าจะเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ ส่วนจะมีการพูดคุยหารือนอกรอบหรือไม่นั้นไม่ทราบ เป็นสิทธิแต่ละคน นายอลงกรณ์ กล่าว,กกต.ระบุรอ 10 ปีโอเพนลิสต์ถึงใช้ได้,นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวถึงกรณีที่จะเลือกตั้งแบบโอเพนลิสต์กับการลงคะแนนเลือกตั้งแบบอิเล็กทรอนิกส์ว่า อย่างน้อยคงต้องใช้เวลาอีก 10 ปี ข้างหน้า เนื่องจากเครื่องลงคะแนนแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ กกต.มีอยู่ขณะนี้ไม่สอดรับกับการเลือกตั้งแบบโอเพนลิสต์ มีเพียงการให้เลือกตั้งแบบเขตและระบบบัญชีรายชื่อปกติ ยังไม่มีการเชื่อมโยงว่าหากเลือกพรรคการเมืองแล้วจะเลือกตัวบุคคลในบัญชีรายชื่อได้อย่างไร คงต้องใช้เวลาพอสมควร อีกทั้งต้องใช้งบประมาณถึง 4,000-5,000 ล้านบาท จัดซื้อเครื่องลงคะแนนแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่รองรับการลงคะแนนแบบโอเพนลิสต์ คำนวณจากหน่วยเลือกตั้งในประเทศที่มีประมาณ 100,000 หน่วย แต่ละหน่วยต้องใช้ 4 เครื่อง ราคาเครื่องละประมาณ 10,000 บาท อย่างไรก็ตาม อีก 10 ปีข้างหน้าก็ไม่แน่ใจว่ารัฐธรรมนูญฉบับที่กำลังยกร่างฯอยู่นี้จะปรับแก้อะไรหรือไม่ ส่วนกรณีที่นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธาน สนช. ระบุว่าอาจต้องมีการประชามติในเดือน ก.พ.นั้น กกต.ยังยืนยันว่าสามารถจัดการลงประชามติได้ภายในวันที่ 10 ม.ค.59 เช่นเดิม เพราะได้เตรียมการสำรวจโรงพิมพ์ต่างๆไว้หมดแล้ว,ห่วงถามเยอะงบฯประชามติบาน,นายสมชัยยังกล่าวถึงกรณีการตั้งคำถามประชามติว่า ที่มีการเสนอว่าควรมีเพียงคำถามเดียวคือรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญเท่านั้น กกต.ไม่มีความเห็น ขึ้นอยู่กับ สปช.และ สนช.จะมีมติตั้งคำถามหรือไม่ ในเชิงเทคนิคไม่ว่าจะมีกี่คำถาม กกต.จัดการได้ เพียงแต่ถ้ามีคำถามเพิ่มขึ้นจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นตามมา เช่น 1 คำถาม อาจเสียค่าพิมพ์บัตร 50 ล้านบาท 2 คำถาม ก็ 100 ล้านบาท หาก 3 คำถามจะใช้เงิน 150 ล้านบาท เป็นต้น ยังไม่รวมค่าหีบบัตร และค่าอื่นๆ ที่จะขึ้นตามมาด้วย,ด้านนายประวิช รัตนเพียร กกต.ด้านกิจการการมีส่วนร่วม กล่าวว่า รูปแบบการทำประชามติมีทั้งคำถามเดียวและหลายคำถาม แต่ไม่ว่าจะมีกี่คำถาม ประเด็นต้องชัดเจน และประชาชนต้องมีความเข้าใจในสิ่งที่จะต้องนำมาตอบ เช่น การทำประชามติรัฐธรรมนูญปี 2550 ก็มีการสรุปสาระสำคัญให้เพื่อให้ประชาชนมีความเข้าใจ นอกเหนือจากการพิมพ์ร่างรัฐธรรมนูญแจก เป็นต้น อย่างไรก็ตามคำถามที่จะเพิ่มมานอกเหนือจากการรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญขณะนี้ก็ยังไม่ชัดว่าจะมีหรือไม่มี,ปชป.ขวางชงถามเอื้อคนเฉพาะกลุ่ม,นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการตั้งคำถาม 1 คำถามควบคู่ไปกับการทำประชามติรับไม่รับร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่ของ สปช.และ สนช.ว่า ถ้าจะตั้งคำถาม ผู้ตั้งควรคำนึงถึงความเหมาะสม แม้กฎหมายจะไม่กำหนดกรอบชัดเจน แต่กรณีการจะถาม เช่น จะถามให้อยู่ต่ออีก 2 ปี เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ไม่ใช่คำถามของกลไกประชาธิปไตย แม้วันนี้จะอยู่ในสถานการณ์ไม่ปกติก็ตาม ต้องถามสิ่งที่มีผลผูกพันประเทศ เป็นประโยชน์ประเทศ ไม่ใช่ถามเพื่อคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง,บี้ พรเพชร ปลด 2 สนช.พ้น กมธ.งบฯ,นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตามที่นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธาน สนช.คนที่ 2 ออกมาปกป้องนายชาญวิทย์ วสยางกูร อดีตผู้ว่าฯ มุกดาหารและนายพรศักดิ์ เจียรนัย อดีตผู้ว่าฯ ชัยภูมิ ที่ถูกกล่าวหามีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตยาปราบศัตรูพืช ทั้ง 2 คนยังไม่เคยถูกสอบ ไม่น่าเชื่อว่ารองประมุขฝ่ายนิติบัญญัติแห่งชาติน้ำเน่า รีบออกมาปกป้อง สนช.พวกเดียวกัน ขอเรียกร้องให้ 2 สนช.ที่มีประวัติด่างพร้อยลาออกจาก กมธ.งบประมาณ ตนไม่ไว้วางใจให้บุคคลทั้งสองทำหน้าที่พิจารณางบประมาณแผ่นดินของพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ดังนั้นวันที่ 22 มิ.ย. เวลา 10.00 น. จะไปยื่นหนังสือต่อนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.ที่รัฐสภา เพื่อให้พิจารณาเรื่องสำคัญนี้,พท.ฉุนปลุกรากหญ้าสู้ถูกหยาม,นายสมคิด เชื้อคง อดีต ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการที่นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธาน กมธ.ยกร่างฯ เปรียบเทียบการชุมนุมของกลุ่ม กปปส.กับ นปช.หรือกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นการเปรียบเทียบทำให้ความแตกแยกเพิ่มขึ้น ยิ่งนายบวรศักดิ์อยู่ในฐานะประธาน กมธ.ยกร่างฯ ซึ่งต้องสร้างกติกาให้ทุกกลุ่มอย่างเป็นธรรมยิ่งไม่สมควรอย่างยิ่ง มีหน้าที่ร่างรัฐธรรมนูญให้เป็นธรรม เป็นประชาธิปไตย แต่ยังมะงุมมะงาหราอยู่เลย อย่าวิจารณ์ยกย่องอีกฝ่ายแล้วเหยียบย่ำอีกฝ่าย มีแต่สร้างความเจ็บช้ำน้ำใจ วันนี้คนรากหญ้า เกษตรกรทั้งหลายทุกข์ยากจากราคาพืชผลเกษตรตกต่ำทุกตัวแถมเจอกับธรรมชาติที่ไม่เป็นใจอีก ลำบากมากพอแล้ว หรือจะให้เขาลุกขึ้นสู้กับนายบวรศักดิ์อีก ขอเตือนสติระดับด็อกเตอร์อย่าเหิมเกริม การพูดจาหัดถนอมน้ำใจคนอื่น ไม่อยากให้บรรยากาศที่หลายฝ่ายพูดในแนวสันติ ปรองดองมีปัญหา คนระดับนายบวรศักดิ์รู้เรื่องประชาธิปไตยดี แต่เขียนรัฐธรรมนูญหน้ามือเป็นหลังมือนั้น ปราชญ์เขาไม่ทำกัน,ยะใส สะกิด กมธ.อย่าถอยจนเสียของ,นายสุริยะใส กตะศิลา ผอ.สถาบันปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่ กมธ.ยกร่างฯ อาจถูกบีบให้ถอยหรือตัดประเด็นหลายประเด็นทิ้ง เพราะเริ่มมีการปล่อยกระแสคว่ำร่างรัฐธรรมนูญจาก สปช.หลายส่วน กมธ.ยกร่างฯ อยากเข็นร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ให้ผ่าน เพื่อจะได้ไม่ถูกครหาจากประชาชนว่าเสียของ จึงจำเป็นที่ กมธ.ยกร่างฯ จะต้องรักษาและยึดมั่นหลักการสำคัญหรือหัวใจของการปฏิรูปในร่างรัฐธรรมนูญไว้ให้มากที่สุด แม้ในที่สุดจะถูกคว่ำโดย สปช.จะไม่มีใครตำหนิได้ เพราะได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่แล้ว,แต่ถ้า กมธ.ยกร่างฯ ยอมถอยหรือยอมตัดประเด็นสำคัญทิ้ง เพียงเพื่อให้ร่างรัฐธรรมนูญผ่านจะเกิดความเสียหายตามมา หากกระบวนการปฏิรูปกลายเป็นเกมการเมืองหรือถูกจับเป็นตัวประกันแบบนี้ อาจส่งผลให้การปฏิรูปเป็นแค่เกมซื้อเวลาของกลุ่มอำนาจบางกลุ่ม หรือใช้เป็นเพียงเครื่องมือบริหารอำนาจ อาจทำให้ประชาชนไม่พอใจถึงตอนนั้นอาจสายเกินจะแก้ตัว,ยิ่งลักษณ์ ควงลูก–สามีทำบุญ 48 ปี,เมื่อเวลา 09.30 น. ที่อุโบสถวัดแสนสุข เขตมีนบุรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมนายอนุสรณ์ อมรฉัตร สามี และ ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร หรือน้องไปก์ บุตรชาย รวมทั้งอดีตรัฐมนตรี แกนนำพรรคเพื่อไทย และอดีต ส.ส. อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว.คมนาคม นายนิวัติธำรงค์ บุญทรงไพศาล อดีตรองนายกฯ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล อดีต รมว.พลังงาน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีต รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีต รมว.ศึกษาธิการ น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ อดีต รมต.ประจำสำนักนายกฯ นายวิชาญ มีนชัยนันท์ นายการุณ โหสกุล อดีต ส.ส.กทม. ได้ร่วมทำบุญถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ จำนวน 9 รูป และถวายสังฆทานเนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบ 4 รอบ อายุ 48 ปี ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยมีพระครูโกศลวิมลกิจ เจ้าคณะเขตมีนบุรี เจ้าอาวาสวัดแสนสุข เป็นประธานฝ่ายสงฆ์,ยันต่อหน้าพระไม่หนีไปไหนแน่,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างสนทนาพระครูโกศลวิมลกิจ ได้เชิญ น.ส.ยิ่งลักษณ์มาร่วมเฉลิมฉลองที่วัดได้รับความเห็นชอบเป็นวัดอารามหลวงด้วย โดยกระเซ้าว่าอย่าหนีไปไหนก่อนเสียล่ะ ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ยืนยันหนักแน่นว่าจะไม่หนีไปไหนแน่นอน และพร้อมจะมาร่วมเฉลิมฉลองด้วย,เจ้าอาวาสให้พรพ้นจากทุกข์,จากนั้นพระครูโกศลวิมลกิจพร้อมพระสงฆ์ ได้ร่วมกันสวดพระปริยัติและให้พร พร้อมประพรมน้ำมนต์เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ น.ส.ยิ่งลักษณ์และครอบครัว พร้อมมอบพระพุทธรูปจำลองหลวงพ่อแสนสุข ขนาดหน้าตัก 9 นิ้ว ให้เพื่อเป็นสิริมงคล พร้อมอวยพรให้อายุยืนยาว มีความสุขตลอดชีวิต ปราศจากโรคภัยและอุปสรรคต่างๆ และขอให้ความทุกข์ทั้งมวลไหลลงสู่คลองแสนแสบและไม่ไหลย้อนกลับมา และขอให้ได้กลับมาเพื่อพัฒนาประเทศชาติสืบต่อไปด้วย โดยช่วงหนึ่งพระครูโกศลวิมลกิจกล่าวถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯว่า ยังระลึกถึง พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ ก่อนที่ยังไม่เข้ามาชาวบ้านต้องปีนกำแพงเอายามาให้พระ แต่พอ พ.ต.ท.ทักษิณมาชาวบ้านก็ไม่ต้องปีนกำแพงแล้ว ชาวบ้านเองก็มีช่องทางในการรักษาพยาบาลอย่างทั่วถึง,ปล่อยนก 3 พันตัวเอาเคล็ด,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศงานวันเกิดของ น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นไปอย่างคึกคัก โดยทันทีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์พร้อมครอบครัวเดินทางมาถึงวัดแสนสุข ด้วยรถตู้โฟล์คสีเทา ทะเบียน ฮพ 3621 กรุงเทพมหานคร บรรดาสมาชิกพรรค และประชาชนละแวกใกล้เคียงที่ทราบข่าวได้มาต้อนรับและส่งเสียงร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์อย่างกึกก้อง พร้อมมอบดอกไม้และให้กำลังตลอดทาง โดยก่อนเดินทางกลับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ปล่อยนก 3,000 ตัว เพื่อเป็นสิริมงคล โดยชาวบ้านได้พร้อมใจกันตะโกนว่าขอให้มีอิสรภาพเหมือนนกที่ถูกปล่อยในวันนี้,ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าบริเวณหน้าโบสถ์ มีการตั้งโต๊ะให้ประชาชนร่วมอวยพรวันเกิด และมีการ จัดโครงการ Yingluck for Ever ให้ประชาชนที่ชื่นชอบการปลูกต้นไม้ ได้นำไปปลูกที่บ้านพร้อมติดรูป น.ส.ยิ่งลักษณ์ และถ่ายรูปลงเฟซบุ๊กยิ่งลักษณ์ ให้ได้ยอดกดไลค์ที่ 5 ล้าน ซึ่งปัจจุบันมียอดอยู่ที่ประมาณ 3 ล้าน โดยจะมีการสุ่มรายชื่อผู้โชคดีที่เข้าร่วมกิจกรรม แจกของที่ระลึก อาทิ หนังสือคิดอย่าง ยิ่งลักษณ์ ส่วนคอหวยก็ยังให้ความสนใจจดและถ่ายเลขทะเบียนรถโฟล์คของอดีตนายกรัฐมนตรีเพื่อนำไปเสี่ยงโชคเช่นเคย ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าบริเวณสถานที่จัดงานไม่พบเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือทหาร เข้ามาตรึงกำลังหรือควบคุมสถานการณ์ เนื่องจากก่อนหน้านี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ประสานขออนุญาต คสช.แล้ว จึงมีเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่และทหารที่รับผิดชอบพื้นที่ในชุดนอกเครื่องแบบประมาณ 10 นาย มาเฝ้าสังเกตการณ์ ถ่ายรูปในงานบ้างประปราย,ขอพรคืนรอยยิ้ม–ให้อภัยกัน,น.ส.ยิ่งลักษณ์ตอบคำถามสื่อมวลชนภายหลังทำบุญเสร็จสิ้นว่า พรวันเกิดปีนี้อยากได้รอยยิ้ม ความอบอุ่นและความรักจากทุกคน อยากเห็นบรรยากาศนี้ในประเทศไทย ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นสยามเมืองยิ้ม เป็นเมืองที่มีความรักความอบอุ่นให้อภัยซึ่งกันและกัน ถ้าเราได้บรรยากาศนี้คงทำให้คนไทยทุกคนมีความสุข ก็ขอให้พี่น้องชาวไทยมีความสุขด้วยเช่นกัน เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ พี่ชาย ได้ อวยพรอะไรหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ตอบว่า มีโทร.มาวานนี้ แต่เดี๋ยววันนี้คงโทร.มาอีก อวยพรวันคล้ายวันเกิด ทุกวันนี้ไม่ได้ทำงานการเมืองกลับมาใช้ชีวิตปกติ ก็ถือว่าดี ช่วงดำรงตำแหน่งมีภาระที่ต้องดูแลประชาชนมากมาย ก็รู้สึกสมองตื่นตลอดเวลา แต่วันนี้ถือโอกาสให้เวลากับตัวเองและครอบครัว พักผ่อน ได้เจอเพื่อนฝูงเก่าๆและออกกำลังกายบ้าง ในฐานะคนไทยคนหนึ่งที่ต้องติดตามข่าวสาร ก็ได้ติดตามข่าวสารทุกประเภทอยู่แล้ว ส่วนบทบาทด้านสังคมคงยัง ตอนนี้ให้เวลาครอบครัว มีเวลาก็ทำบุญพบปะเพื่อนฝูง กลับมาเป็นราษฎรเต็มขั้น ใช้ชีวิตเหมือนคนปกติก็มีความสุขดี,สมชาย ร่ายทวงความยุติธรรม,ต่อมาเวลา 12.30 น. ที่โรงแรมเซ็นทารา วอเตอร์เกต ประตูน้ำ น.ส.ยิ่งลักษณ์เดินทางมารับประทานอาหารกลางวันกับครอบครัว อดีตรัฐมนตรีในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ แกนนำและอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย โดยก่อนเริ่มงาน มีการเปิดคลิปวีดิโอประกอบเพลง เพลงของเธอ ประมวลภาพในตำแหน่งนายกฯของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ถึงกับน้ำตาคลอ จากนั้นนายสมชาย ผู้เป็นพี่เขย ได้เป็นตัวแทนกล่าวอวยพรวันเกิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า วันนี้เป็นวันดีเราจะพูดแต่สิ่งที่ดีและสวยงาม แม้วันข้างหน้าไม่ว่าจะเป็นอย่างไรอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม เราทุกคนจะเป็นกำลังใจให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เราจะไม่ทอดทิ้งท่าน แต่ต้องถามท่านว่าจะทอดทิ้งเราหรือไม่ ยังมีพี่น้องทั่วประเทศอีกหลายท่านที่ไม่ได้มาที่นี่ แต่มีความปรารถนาดีต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จึงขอให้ช่วยนำเจตนารมณ์ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่จะ ทำให้บ้านเมืองนี้เดินไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองไปด้วย ไม่ว่าผู้ใดจะเข้ามาบริหารก็ตาม น.ส.ยิ่งลักษณ์จะมีความสุขมากถ้าเห็นประชาชนมีความสุข ส่วนใครที่ไม่รักไม่ชอบเราก็ไม่ว่า เพียงแต่เราต้องการความถูกต้องและยุติธรรม เพื่อให้บ้านเมืองสวยงามน่าอยู่กว่านี้ เพราะตอนนี้บ้านเมืองไม่ค่อยน่าอยู่เท่าไหร่,อดีต ส.ส.หญิงมอบเพลงเธอผู้ไม่แพ้,ด้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวความในใจว่า ตอนแรกคิดเพียงว่าจะจัดเลี้ยงทำบุญแบบเรียบง่าย อย่างน้อยวันหนึ่งในปีหนึ่งแม้อายุเราจะมากขึ้น แต่ความรู้สึกรักและผูกพันกับทุกคนยังมีเหมือนเดิม โดยถือวันนี้เป็นวันแห่งความอบอุ่นที่ได้มาเจอกัน ประทับใจและซึ้งใจเป็นอย่างมาก ทุกคนทำให้วันเกิดปีนี้มีความหมายเป็นกำลังใจทำให้ตนมีความสุขมาก และหากถามว่าอยากได้อะไรในวันเกิด ตนอยากได้เพียงรอยยิ้ม ความอบอุ่นที่มีให้กันตลอดไป และขอให้ประชาชนคนไทยมีแต่ความสุข พบแต่สิ่งที่ดีๆ มีความรัก ความเมตตา และให้อภัยกัน ซึ่งถือความสุขอย่างยั่งยืน จากนั้นบรรดาผู้ร่วมงานได้มอบของขวัญแก่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก่อนที่อดีต ส.ส.หญิงจะร่วมกันร้องเพลงเธอผู้ไม่แพ้ เพลงสุขขีวันเกิด และเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์แก่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ขณะเดียวกัน ยังมีการอู้คำเมืองอวยพร น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นภาษาเหนือ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. ได้แหล่อวยพรวันเกิดให้ด้วย,จตุพร เชียร์ลั่นไม่มีทางติดคุก,ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ กล่าวว่า เชื่อว่าระยะเวลาอันใกล้นี้เราจะมีความสุข เชื่อว่าอดีตนายกฯที่มีอายุ 48 ปีในวันนี้จะมีอนาคตที่ยาวไกล เชื่อว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะไม่มีทางติดคุก เพราะไม่เคยคิดหนี ทั้งๆที่เขาคิดว่าจะหนี แต่เมื่อไม่หนี ก็ไม่มีอะไรมาทำร้ายท่านได้ และไม่มีคุกใดที่จะรับคนชื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพราะไม่แข็งแรงพอ คุกจะแตกอย่างแน่นอน ประชาชนจะไม่มีทางยอม ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้ล้วนมาจากการเมืองทั้งสิ้น ดังนั้น ประชาชนจะเป็นผู้ทำให้ท่านรอดพ้น เชื่อว่าอีกไม่กี่วันจะสว่างไสว และกลับมายิ่งใหญ่เช่นเดิม นายกฯยิ่งลักษณ์เคยยิ่งใหญ่แค่ไหน แต่จะเล็กกว่าเมื่อได้เป็นนายกฯครั้งต่อไป เพราะประชาชนทุกคนจะยืนหยัดอยู่เคียงข้าง วันนี้ไม่ว่าจะเป็นเพื่อไทย นปช. หรือประชาชน เราจะเป็นคนที่มีหัวใจเดียวกัน และอยู่เคียงข้างกันตลอดไป,สุวพันธุ์ ปราม นศ.ต้องอยู่ในกรอบ,วันเดียวกัน นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ ในวันที่ 24 มิ.ย. ซึ่งเป็นวันครบรอบ 83 ปี การเปลี่ยนแปลงการปกครองของไทยว่า คงจะมีกลุ่มเห็นต่างบางกลุ่มทำกิจกรรม และแสดงความคิดเห็นทางการเมือง เป็นโอกาสที่เราจะได้มุมมอง ของเขา และต้องทำความเข้าใจกัน ส่วนนักศึกษาเป็นพลังกลุ่มหนึ่งที่เคลื่อนไหวเรื่องประชาธิปไตย ที่ยึดมั่นประชาธิปไตยอย่างเต็มรูปแบบ ตอนนี้อยู่ในช่วงสถานการณ์พิเศษ ดังนั้นเชื่อว่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบและเอาพลังมาใช้ในทางที่ถูกต้อง,ฉะแก๊งปั่นข่าว ปว.เสี้ยม คสช.–รัฐบาล,นายสุวพันธุ์กล่าวว่า ส่วนกรณีการปล่อยข่าวปฏิวัติซ้อน คิดว่ามีขบวนการพยายามสร้างความหวาดระแวง ความแตกแยกขึ้นในรัฐบาลและ คสช. มีตั้งแต่คนคิดและปล่อยข่าว ชั้นที่ 1 ชั้นที่ 2 ลงมาเรื่อยๆ ทำกันเป็นขบวนการ ซึ่งรัฐบาลรู้หมด เขาใช้นามแฝง ข่าวลือพวกนี้บางอันรู้ว่ามาจากไหน บางอันยังพิสูจน์ทราบตัวตนไม่ได้ บางอันมันก็โชว์ว่ามาจากต่างประเทศ มีไม่มาก แต่กระจายออกไป วัตถุประสงค์ของเขาคือ ต้องการให้มวลชนของเขาเข้าใจไปอีกอย่างหนึ่ง และต้องการให้อีกกลุ่มหนึ่งตั้งคำถามว่า จะปฏิวัติซ้อนจริงหรือ อยู่ฝ่ายไหนกันแน่ ซึ่งเป็นข้อความและเรื่องราวที่บิดเบือน ไม่ใช่ความจริง ดังนั้นต้องป้องกันทำความเข้าใจกับสังคม บังคับใช้กฎหมาย ทำหลายมิติด้วยกัน ขณะนี้การเมืองเข้มข้นมากขึ้น ต่อสู้กันทางความคิด สู้กันในเรื่องประเด็นการเมือง เหมือนกับพรรคฝ่ายค้านกับพรรคฝ่ายรัฐบาล เป็นเรื่องปกติ เพียงแต่ต้องสู้กันแบบแฟร์เพลย์ เราต้องยืนอยู่บนความจริง และเอาความจริงเข้าสู้ หากความจริงต้องแพ้ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ดังนั้นต้องทำความเข้าใจกับประชาชนให้เข้าใจ และช่วยกันทำอนาคตบ้านเมืองให้ดี | กมธ.ยกร่างฯจัดคิว 24 มิ.ย. ลุยรื้อ รธน.รายมาตรา เลิศรัตน์ เชื่อรื้อปมร้อนซื้อใจพรรคการเมือง คำนูณ แจงไม่ตัดทิ้งโอเพนลิสต์ อ้างประชาชนเห็นด้วยกำหนดเองได้ลำดับ ส.ส.บัญชีรายชื่อ | null | ข่าวหน้า1,คำนูณ สิทธิสมาน,โอเพนลิสต์,เลิศรัตน์ รัตนวานิช,จตุพร พรหมพันธุ์,ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร,พระครูโกศลวิมลกิจ,ทักษิณ ชินวัตร,ข่าว,ไทยรัฐฉบับพิมพ์ | https://www.thairath.co.th/content/506633 |
The TOYS พูดจากันแบบไม่งง กับศิลปินที่มีคนรักและข้องใจกับ ‘ตัวตน’ มากที่สุดในเวลานี้ | จากรางวัลมากมายที่ได้รับ อัลบั้มเต็ม SUN ที่มีแต่คำวิจารณ์ในแง่บวก ยอดวิวในยูทูบที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งการเล่นกีตาร์ที่ไม่เคยซ้ำแบบในทุกๆ คอนเสิร์ตที่ขึ้นไปเล่น ทำให้ไม่มีใครสงสัยในตัวของศิลปินที่ชื่อ ธันวา บุญสูงเนิน หรือ The TOYS ได้ง่ายๆ แต่อีกด้านหนึ่ง ในขณะที่เขากำลังยืนอยู่ท่ามกลางสปอตไลต์ มีแฟนคลับมากมายที่ชื่นชอบทั้งผลงาน หน้าตา สไตล์การแต่งตัว ไปจนถึงความตลกปนความมึนงงในทุกๆ ครั้งที่เขาปรากฏตัวต่อหน้าสื่อ แต่ในขณะเดียวกันก็มีกระแสสังคมอีกจำนวนไม่น้อย ที่กำลังตั้งข้อสงสัยใน ตัวตน แท้จริงที่เขากำลังเป็นอยู่ THE STANDARD POP มีโอกาสนั่งพูดคุยกับ The TOYS เป็นเวลาเกือบ 2 ชั่วโมง ถึงแม้ว่าเขาดูจะมีสกิลการตอบคำถามที่พัฒนามากขึ้น แต่ทอยก็ยังเป็นทอยแบบที่เรารู้จัก บางคำถามเขาต้องหลับตานิ่งคิดอยู่นาน บางคำถามเขาก็ตอบสั้นจนน่าใจหาย บางคำตอบก็ทำให้เราประทับใจกับมุมมองที่มีต่อโลกอย่างไม่เหมือนใคร และบางคำตอบก็สุดแสนจะธรรมดาและน่าหมั่นไส้ บอกตรงๆ เราไม่แน่ใจว่าคนอ่านบทสัมภาษณ์ชิ้นนี้จะยืนอยู่ฝั่งไหนของความรู้สึกที่มีต่อ The TOYS แต่อย่างน้อยที่สุด อยากให้ลองเปิดใจฟังความคิดลึกๆ ของเขา และมองเขาในฐานะคนธรรมดาคนหนึ่ง ที่มีอะไรน่าค้นหามากกว่าท่า มินิฮาร์ต ที่กำลังเป็นกระแสข่าว จากนั้นค่อยตัดสินใจอีกครั้งว่าคุณจะรักเขามากขึ้น หรือจะตั้งแง่โจมตีเขาแบบนี้ต่อไป ไปฝึกพิเศษอะไรมาหรือเปล่า เห็นว่าช่วงหลังๆ ทอยเริ่มตอบคำถามเวลาสัมภาษณ์สื่อดีขึ้นกว่าเดิมมากผมคิดว่าเหมือนเดิมนะครับ แต่คงเพราะได้ไปสื่อต่างๆ มีคนถามคำถามมากขึ้น แล้วคงมีหลายๆ เรื่องอย่างเรื่องคำวิจารณ์ เรื่องแฟนคลับ ที่พอถูกถามมากๆ เข้า ผมเริ่มเข้าใจเริ่มปรับตัวได้ เลยเห็นว่าผมตอบคำถามได้เยอะกว่าเมื่อก่อน แต่ทุกวันนี้ถ้ายังเจอบางคำถาม เช่น เรื่องทางสังคมหรือเรื่องที่ผมไม่เคยคิดกับตัวเองมาก่อน ที่ผมไม่ถนัด แล้วทำให้คิดว่าจะพูดออกไปดีไหม เลยพยายามหาคำตอบที่ออกมากลางๆ อาจจะไม่ต้องถูกก็ได้ แต่อย่างน้อยขอให้ไม่ผิดก็เลยใช้เวลานาน เคยคิดว่าเรื่องการพูด การตอบคำถาม เป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วนบ้างไหม เคยครับ เพราะมีหลายคนไม่เข้าใจผม งงว่าทำไมบางครั้งผมพูดได้ บางครั้งก็พูดไม่ได้ สุดท้ายมันอยู่ที่เราคุยเรื่องอะไรกันอยู่เท่านั้นเอง สมมติถ้าชวนผมคุยเรื่องเครื่องดนตรี การเลือกใช้เทคนิคในการทำเพลง ผมคิดว่าผมตอบได้ กลับกันถ้าไปคุยเรื่องนี้กับคนที่ไม่ถนัด ต่อให้เขาเป็นคนพูดเก่งที่สุด แต่เขาก็อาจจะตอบคำถามแบบนี้ไม่ได้เหมือนกันพอเจอปัญหาเยอะขึ้น ทางค่าย What the Duck ก็ให้ผมไปเรียนกับครูซอ (สทาศัย พงษ์หิรัญ) ซึ่งในค่ายมีแค่ผมกับโบกี้ไลอ้อน (พิชญ์สินี วีระสุทธิมาศ) ที่ต้องมาเรียน (หัวเราะ) เป็นคอร์สสอนทักษะการพูดคุย การสื่อสารขั้นพื้นฐานเลย แต่จนทุกวันนี้พวกเราก็ยังเรียนคอร์สนั้นไม่จบและไม่ได้เจอครูซออีกเลย เคยคิดไหมว่าทำไมเราต้องถูกจับให้มาเรียนเรื่องการสื่อสาร ซึ่งถือว่าเป็นทักษะพื้นฐานมากๆ แบบนี้ สำหรับคนอื่นมันเป็นเรื่องพื้นฐานมากๆ จริงๆ ครับ (หัวเราะ) แต่ผมเชื่อว่ามันจะมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่เป็นคล้ายๆ ผม ที่มีสังคมค่อนข้างส่วนตัว ไม่ค่อยอยากเจอใคร ซึ่งแค่การพูดธรรมดาก็เป็นเรื่องไม่พื้นฐานแล้วสำหรับพวกเรา เริ่มรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไร ตั้งแต่ช่วงประถมที่ทอยก็เคยเป็นเด็กติดเกมที่ใช้ชีวิตอยู่ในโลกออนไลน์อย่างเดียวเลยหรือเปล่า ตอนนั้นไม่ได้คิดว่าแปลก คิดแค่ว่าผมอยู่ตรงนั้นได้ เรามีเพื่อน มีสังคมในเกม ยังมีอีกหลายคนที่เป็นแบบเราอยู่ แต่พอเริ่มทำเพลง จริงๆ ก็เริ่มตั้งแต่ช่วงที่เป็นโปรดิวเซอร์ ที่ต้องทำงาน พูดคุยกับคนอื่น แล้วได้เห็นศิลปินหลายคนเขาจะมีสกิลในการสื่อสารหมดเลย แต่ผมกลับไม่มีสกิลนั้นเลย ก็เริ่มรู้สึกแปลก แล้วมันกดดันนะครับ สมมติขึ้นไปรับรางวัลหรืองานอะไรก็ตามที่ต้องขึ้นไปพูดกับคนเยอะๆ มันทำให้คนแบบผมอึดอัดมากเลยที่ต้องเป็นแบบนี้ ตามปกติ การขึ้นไปพูดบนเวทีก็ถือว่าเป็นเรื่องยากสำหรับคนพูดเก่งอยู่แล้ว กับคนพูดไม่เก่งแบบทอยต้องเตรียมตัวมากขนาดไหนเวลาขึ้นไปพูดบนเวทีแต่ละครั้งตอนรับรางวัล Overdrive ครั้งแรก ผมไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย เพราะไม่คิดว่าจะได้รางวัลจริงๆ พอรับรางวัลเสร็จดีใจมาก พอลงมาจากเวทีก็มีไมค์เยอะแยะ มีคนถามคำถามเต็มไปหมด แล้วผมก็ช็อกไปเลย จำอะไรไม่ได้นอกจากแสงแฟลชที่ยิ่งเข้ามา ทีนี้ก็คิดว่าคงต้องเตรียมตัวมากขึ้น พอได้ยินว่าผมมีชื่อเข้าชิงรางวัลของนิตยสาร The Guitar Mag ผมทำการบ้านเลยนะ อยู่กับตัวเองสักพัก คิดว่าจะพูดอะไรดี จดโน่นจดนี่ได้ประมาณ 4 บรรทัด แล้วฝึกท่องหน้ากระจกในห้องน้ำ เออ มันก็พอทำได้นะ สรุปวันนั้นเกิดอะไรขึ้นไม่รู้ พอขึ้นไปบนเวที ผมพูดแค่ ขอบคุณครับ แล้วก็เดินลงเวทีเลย (หัวเราะ) บรรยากาศมันต่างจากที่ซ้อมในห้องน้ำมากมีคนแชร์คลิปตอนทอยรับรางวัลงาน JOOX Thailand Music Awards 2018 เยอะมาก ไม่ว่าทอยจะขึ้นไปทำอะไรบนเวทีคนก็ขำกันหมดเลย คราวนี้เริ่มมีประสบการณ์เลยพอพูดได้ครับ แต่จากครั้งที่แล้วคิดว่าตัวเองคงมาทางซึ้งไม่ได้ ก็ตั้งใจให้มันฮาเลยแล้วกัน แต่ที่ผมเซ็งมากคือที่คนเขาขำกันมากๆ แค่ผมเดินขึ้นเวที หยิบรางวัลเขาก็ขำกันแล้ว ยิ่งพอผมพูดว่า ผมยังไม่ได้พูดอะไรเลย พวกคุณตลกอะไร อันนั้นผมถามจริงๆ นะ ไม่ได้ต้องการให้คนขำเลย แต่กลายเป็นว่าคนก็ยิ่งตลกกันเข้าไปอีก ซึ่งผมอยากให้คนตลกในมุกที่ผมเตรียมมากกว่า เพราะผมเชื่อว่าทุกมุกผมตลกอยู่แล้วครับ (หัวเราะ) เคยได้ยินไหมที่เขาพูดกันว่า ใครก็ตามที่บอกว่าตัวเองเป็นคนตลก จริงๆ แล้วไม่ใช่คนตลก เขาแค่คิดว่าตัวเองตลกเฉยๆ นี่ไงครับ แค่ผมเป็นคนคิดแบบที่พี่พูดก็ฮาแล้วไง (หัวเราะ) คือบางทีมันไม่จำเป็นต้องตลกด้วยมุกที่เราตั้งใจทั้งหมดหรอก ยกตัวอย่าง เวลาผมต้องการให้คนขำกัน ผมก็ตั้งใจพูดเลยว่า วันนี้ผมอาจจะพูดไม่ค่อยเก่งนะครับ…เพราะว่าผมรักหมดใจ อะไรแบบนี้ ซึ่งผมเชื่อว่ามันตลกมาก แต่พูดออกไปแล้วเงียบกริบ ในใจผมเซ็งนะที่มันไม่ตลก แต่สุดท้ายมันจะสร้างเสียงหัวเราะจากความแป้กของเราตามมา เริ่มคิดว่าตัวเองเป็นคนตลกตั้งแต่เมื่อไรตั้งแต่เด็กๆ แล้วครับ เพราะที่บ้านเป็นคนตลกหมดเลย พ่อแม่ป้าพี่น้อง ไม่มีใครไม่ตลกเลย ไปเอามุกตลกแบบนั้นมาจากไหน (คิดนาน) ผมว่ามุกพวกนี้มันเกิดจากความเหงานะ จริงๆ แล้วเราอาจจะไม่ได้ต้องการให้คนอื่นขำหรอก แต่อย่างน้อยการได้พูดอะไรออกไปมันอาจจะช่วยให้บรรยากาศไม่เงียบ ต่อให้ไม่ตลกคนก็จะเห็นความพยายามของเราแค่นั้นก็โอเคแล้วในความคิดของทอย ใครคือมนุษย์ที่ตลกมากที่สุดถ้าเป็นคนคิดไม่ออก แต่ตอนเด็กๆ ผมคิดว่าใบไม้คือสิ่งที่ตลก ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน อาจเพราะเด็กๆ จิตใจไม่ได้คิดอะไร ไม่เครียด แค่เล่นอยู่กับเพื่อน แล้วเห็นใบไม้ปลิวลงมาก็ขำกับเพื่อนแล้ว แต่พอโตขึ้นบางทีเราเครียด ต่อให้เจอมุกที่ตลกมากๆ ยังทำให้เราตลกไม่ได้เลยทุกวันนี้เห็นใบไม้ปลิวลงมาแล้วยังขำอยู่ไหมไม่แล้วครับ เพราะรู้จักความเครียดแล้ว คราวนี้คิดว่า มึงจะตกลงมาทำไมวะ พื้นสกปรกหมดเลย (หัวเราะ) ล้อเล่นนะครับ ถ้าไม่ตลกกับใบไม้ ทุกวันนี้มีอะไรที่ทำให้ทอยตลกได้บ้าง (คิดนาน) โอ้โห นึกเป็นเรื่องเลยครับ เหมือนฟลุกๆ เจอเดี๋ยวก็ขำเอง ผมไม่ใช่คนเครียดตลอดเวลา หรือต้องพยายามหาความตลกให้กับตัวเองขนาดนั้น ถ้าไม่ขำ เราอยู่เฉยๆ ก็ได้ หรือถ้าจะเหงาก็ให้มันเหงาไป ปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปแบบไม่ต้องฝืนธรรมชาติ คือผมชอบความตลก ชอบพูดตลกนะ แต่ก็ไม่ได้ซีเรียสว่าจะต้องทำทุกอย่างเพื่อให้มันเป็นแบบนั้นตลอดเวลาในชีวิตทอยเคยทำอะไรที่ฝืนธรรมชาติของตัวเองมาบ้าง ฝืนเป็นนักเรียนที่ดีตอนเด็กๆ ทั้งๆ ที่รู้ว่าตัวเองไม่ใช่คนเรียนเก่งและไม่มีทางเป็นไปได้ แต่ก็พยายามจะเป็นเพื่อให้คนที่บ้าน เพื่อให้ครูที่โรงเรียนสบายใจ ฝืนทำในสิ่งที่หลายๆ คนคาดหวัง เช่นท่องสคริปต์เวลาไปสัมภาษณ์ช่วงแรกๆ ไม่ใช่ว่าผมอยากหาคำพูดที่มันดีๆ หรืออะไร แต่เพราะผมรู้ว่าผมพูดไม่ได้ ก็เลยพยายามท่องไปก่อน อยากให้ทีมงานเขาไม่ลำบากเวลาต้องคุยกับเรา ถึงมันจะไม่ได้ทั้งหมด แต่อย่างน้อยให้เขาเห็นความพยายามของเราก็ดี แต่สุดท้ายก็ท่องได้ไม่นานนะครับ สุดท้ายก็ปล่อยเลย (หัวเราะ) แล้วก็ฝืนตัวเองเพื่อตื่นเช้ามาฝึกอะไรหลายๆ อย่างในช่วงดรอปเรียนแล้วมาฝึกกีตาร์หนักๆ อยู่กับดนตรีวันละ 10-12 ชั่วโมง ทั้งๆ ที่ปกติผมเป็นคนตื่นสายมาก แต่ถ้าฝืนเพื่อฝึกดนตรีมันยอมได้ ทุกวันนี้ยังมีโมเมนต์ฝึกกีตาร์หนักๆ อยู่กับดนตรีทั้งวัน วันละ 10-12 ชั่วโมงอยู่ไหมไม่มีเลยครับ ห่างจากโมเมนต์แบบนั้นไปนานมาก ผมคิดถึงมันมากเลยนะ คิดถึงทุกวันเลย เพราะเป็นช่วงเวลาที่ผมมีความสุขมากๆ คิดว่ามันคือความสุขที่มากกว่าการประสบความสำเร็จ ความมีชื่อเสียงอีกนะรู้สึกอย่างไรที่ทอยฝึกตัวเองอย่างหนักเพื่อทำเพลง จนขึ้นมาเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียง แล้วพอถึงวันหนึ่ง ชื่อเสียงหรือการทำงานในฐานะศิลปิน ทำให้กลับไปมีความสุขแบบเดิมไม่ได้อีกแล้วความสุขแบบนั้นอาจจะหายไปนะ แต่มันก็ได้ความสุขอีกแบบเข้ามาแทน มันเป็นความสุขที่มีแฟนเพลง มีเพื่อนๆ มีทีมงาน มีทุกคนเข้ามาเป็นส่วนร่วม แทนที่เราจะมีความสุข มีความสนุกอยู่ในโลกของเรา วันนี้เราก็ชวนให้คนอื่นมามีความสุขไปพร้อมๆ กับเราด้วย พอไม่มีเวลาฝึกกีตาร์วันละ 10-12 ชั่วโมงเหมือนเดิม ทุกวันนี้ทอยใช้ช่วงเวลาไหนในการพัฒนาตัวเองในโชว์ที่ออกไปเล่นนี่แหละครับ อย่างกีตาร์ที่ผมเล่นจะไม่เคยซ้ำกันเลย คิดว่าไหนๆ ไม่มีเวลาฝึกก็ไปฝึกบนเวทีแทน แล้วคนดูจะสอนเราเองว่าแบบไหนดีหรือไม่ดี ถ้าดีก็เก็บไว้ใช้ ถ้ายังไม่ดีก็ฝึกเพื่อหาแบบที่ดีต่อไปเรื่อยๆ จำความรู้สึกตอนที่ขึ้นไปเล่นคอนเสิร์ตในฐานะศิลปินที่ชื่อ The TOYS ครั้งแรกได้ไหม จำได้ครับ งาน Cat Expo เวที Babb Bed Bed มีคนมาฟังประมาณ 200 คน ตอนแรกผมคิดว่าเขาน่าจะมารอฟังวงอื่นด้วยซ้ำ เลยไม่ได้โฟกัสที่คนดู ก็ตั้งใจโชว์ของเราไป พอท่อนโซโล่ก็หันไปเล่นกับมือกลอง ไม่อยากสบตาใคร เพราะคิดว่าเขาไม่สนเราหรอก แต่พอหันกลับมากลายเป็นว่าคนเขาร้องเพลงเราได้เยอะมากๆ แล้วมันรู้สึกดีมากเลยนะครับ เป็นโมเมนต์ที่ผมจำได้ และจะจำไปตลอดเลย จำเวทีที่ขึ้นไปเล่นแล้วมีคนดูน้อยที่สุดได้ไหม จำจังหวัดไม่ได้นะครับ แต่นั่งรถจากกรุงเทพฯ ไปไกลเหมือนกันประมาณ 7 ชั่วโมง ทุกวันนี้ก็ยังงงอยู่เลยว่าเป็นงานอะไร เหมือนเป็นงานเลี้ยงอะไรสักอย่าง แต่มีอยู่ 2 โต๊ะ มีคนฟังทั้งหมด 5 คน แล้วฝนก็ตกทำให้ทุกอย่างยิ่งลำบากขึ้นไปอีก แต่เชื่อไหม มันกลายเป็นความรู้สึกแปลกๆ ที่ดีเหมือนกันนะ เพราะ 5 คนนั้นเขาไม่รู้จักด้วยซ้ำมั้งว่าผมคือใคร แต่ผมรู้สึกได้ว่าเขาตั้งใจและเอ็นจอยกับการฟังเพลงของผมจริงๆ เวลามีงานมากขึ้น มีคนฟังมากขึ้น แน่นอนว่าก็ต้องมีบางส่วนที่เขามางานแต่ไม่ได้ตั้งใจฟังเพลงของเรามากขึ้นไปด้วย เวลาเห็นภาพแบบนั้นแล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง ผมไม่ค่อยรู้สึกอะไรนะ เพราะเหมือนสายตาของผมจะรู้ว่าแฟนเพลงของเราอยู่ตรงไหน มีใครที่ตั้งใจฟังเพลงของเราอยู่บ้าง แต่สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกจริงๆ คือเวลาคนหยิบกล้องมาถ่ายวิดีโอนะครับ ไม่ใช่บอกว่าการทำแบบนี้ไม่ดีนะ แต่เพราะผมเป็นคนกลัวกล้องมาก ถ้าถามว่าระหว่างคนไม่ฟังเพลง กับคนฟังเพลงแต่ถือกล้องถ่ายวิดีโอไปด้วย อันไหนส่งผลกับผมมากกว่ากัน นี่ผมเลือกกล้องวิดีโอแบบไม่ต้องคิดเลย (หัวเราะ) มีโอกาสได้ไปดูคอนเสิร์ตของศิลปินคนอื่นๆ บ้างไหม ช่วงมัธยมต้นไปบ่อยมากครับ เพื่อนชวนไปไหนก็ได้ แล้วก็จะชอบวงบอดี้สแลมมาก ผมโตมากับเพลงเขานะ ยังเก็บปิ๊กของพี่ยอดเอาไว้อยู่เลย แล้วผมชอบความรู้สึกเวลาไปดูคอนเสิร์ตนะ ยิ่งเป็นตอนเด็กๆ ไม่คิดอะไรมาก ไม่รู้หรอกว่าดนตรีที่ดีคืออะไร รู้แต่ว่ามันสนุกแค่นั้นเลย เวลาสนุกกับคอนเสิร์ตมากๆ ทอยจะแสดงออกมาแบบไหนเห็นผมเป็นแบบไหน ในคอนเสิร์ตก็แบบนั้นแหละครับ (หัวเราะ) สมมติถ้ามองจากด้านบน แล้วทุกคนกำลังกระโดดกันหมด ตรงที่ของผมก็จะเป็นหลุมดำอยู่จุดเดียว (หัวเราะ) แต่ไม่ใช่ว่าไม่สนุกนะ ผมสนุกจริงๆ ในใจนี่โคตรมันเลย แค่ไม่แสดงออกมา เออ แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร ทุกวันนี้ทอยมีเกณฑ์ในการเลือกรับงานบ้างหรือเปล่า เรื่องนี้ผมไม่รู้เลยครับ ถ้าเป็นงานดนตรีก็แล้วแต่ค่ายจะให้ไปเล่นที่ไหนเลย ผมไปเล่นได้ทุกที่ ไม่ค่อยเห็นทอยไปออกอีเวนต์โชว์ตัวเท่าไรนะ ทั้งๆ ที่น่าจะมีคนติดต่อมาเยอะเหมือนกันอีเวนต์นี่คืองานที่ต้องไปพูดเยอะๆ ใช่ไหมครับ ผมคิดว่าทางค่ายคงรู้แล้วมั้งครับว่าคงไม่เหมาะกับผม (หัวเราะ) แล้วถ้าเป็นงานเปิดตัวอะไรสักอย่าง ก็จะเป็นงานที่ผมต้องไปเล่นดนตรีด้วยอยู่แล้วนะ เลยคิดว่าเป็นงานเล่นคอนเสิร์ตนี่ล่ะ ไม่ได้เป็นงานโชว์ตัวอะไร มีงานแสดงติดต่อมาบ้างหรือเปล่าน่าจะมีประมาณ 2-3 เรื่องนะครับ แต่ค่ายยังไม่รับ แต่จริงๆ ผมสนใจงานนี้มากเลยนะครับ เป็นความฝันอีกอย่างหนึ่งเลยว่าอยากเห็นตัวเองไปเล่นละครแบบนี้บ้าง แล้วการแสดงก็ไม่ต้องมองกล้องแบบที่ผมกลัวมากเท่าไร อันนี้ผมพูดจริงๆ เลยนะครับ ถ้าใครมีบทต้นไม้ ก้อนหินอะไรแบบนี้ลองติดต่อมาดูก่อนนะครับ ถ้าไม่นับก้อนหินกับต้นไม้ ไม่ต้องคิดถึงสกิลการแสดง คิดว่าบทแบบไหนที่ทอยอยากเล่นมากที่สุด ตัวร้ายมั้งครับ ตัวร้ายแบบไหนก็ได้เลย ทำไมถึงอยากรับบทแบบนั้น(คิดนาน) ผมคิดว่าในชีวิตจริงผมเป็นคนดี ผมอยากลองเปลี่ยนบรรยากาศเป็นคนเลวบ้าง (หัวเราะ) คิดว่าตัวเองเป็นคนดีในด้านไหนมากที่สุดอันนี้มองในมุมผมล้วนๆ นะครับ ผมไม่ใช่คนที่เลิศประเสริฐอะไรหรอก แต่อย่างน้อยคิดว่าผมไม่ได้มีพิษมีภัยต่อใครแน่นอน ทุกอย่างที่เป็นความสุขที่ผมทำ ต้องเกิดบนความถูกต้อง และไม่กระทบ ไม่เบียดเบียนให้ใครเดือดร้อน ผมจะไม่สนุกบนความทุกข์ของใคร ผมจะไม่ส่งเสียงรบกวนเวลาไปไหน ทุกคนต้องรู้สึกเหมือนว่าไม่มีผมอยู่ตรงนี้ด้วยซ้ำ คือทำยังไงก็ได้ให้คนอื่นไม่เดือดร้อนเพราะเรา อันนี้หมายถึงการทำงานด้วยนะครับ ผมเลยเลือกที่จะทำงานคนเดียว รู้สึกอย่างไรบ้าง จากคนที่ชอบดนตรีมากๆ แบบทอย ตั้งใจนำเสนอดนตรีทุกอย่างออกมาอย่างดีที่สุด จนวันหนึ่งที่ทอยเริ่มมีชื่อเสียง แต่กลายเป็นว่า ตอนนี้คนเริ่มมองไปที่หน้าตาของทอย มองที่ความตลกของทอย บางคนถึงขนาดคิดว่า ถ้ามีคลิปของทอยออกมานี่เตรียมตัวตลกได้เลย แฮปปี้มากเลยครับ ผมเคยคาดหวังว่า คนต้องมาฟังเพลงเรา ประทับใจในเพลง ในโชว์ของเรา แล้วสุดท้ายมันก็เฟล เพราะเราก็ตั้งใจเล่นดนตรีที่ออกจะมีคุณภาพที่ดีขนาดนี้ (หัวเราะ) คิดว่าเรายังไม่พอเหรอ บางทีผมเล่นตั้งนานนะ แต่ไม่มีคนฟัง แต่พอตั้งสายอยู่แล้วตัวหนีบมันหลุด คนมอง คนตลกกันทั้งงาน ผมก็งงว่า เฮ้ย เมื่อกี๊ไม่เห็นมองกันเลย แต่ในเมื่อมันทำให้คนชอบ คนสนใจ คนมีความสุข อะโอเค ยังไงก็ได้ครับ ว่าตามกัน มีเรื่องอะไรที่ทำให้ทอยโกรธ หรือไม่พอใจได้บ้าง เพราะเท่าที่คุยกันมาทั้งหมด เหมือนทอยจะมีความรู้สึกสบายๆ กับทุกอย่างในชีวิตไปหมดเลย ผมโกรธคนยากครับ พูดจริงๆ เลยนะ ถ้ามีปัญหาหรืออะไรผมจะโทษตัวเองก่อน บางเรื่องอาจไม่เกี่ยวกับเราเลยนะ แต่มาลองดูก่อนว่า เฮ้ย เราพลาดตรงไหนหรือเปล่า ควรแก้อะไรไหม แล้วถ้าแก้มันจะมีผลอะไรบ้าง ก็ค่อยๆ ไล่ไปทีละอย่าง ถ้าหงุดหงิดนิดๆ หน่อยๆ อาจะมีบ้าง แต่ยังนึกไม่ออกเลยว่าโกรธคนครั้งสุดท้ายเมื่อไรเวลาขับรถแล้วถูกปาดหน้าล่ะอันนี้คิดว่าผมน่าจะทำให้คนอื่นโกรธมากกว่านะ (หัวเราะ) ที่สักคำว่า fuck social ไว้ที่แขนนั่นไม่ได้โกรธใครเหรอไม่ได้โกรธใครครับ อันนี้ไม่ได้พูดถึงใครเลยจริงๆ นะ ผมเอาไว้เตือนตัวเองว่าให้มองทุกอย่างเป็นเรื่องปกติ ง่ายที่สุดก็คือเราก็แค่สนใจในสิ่งที่เราสนใจ เหมือนเวลาไม่กินผัก เราก็แค่เขี่ยมันออก ไม่ต้องไปโทษคนทำว่า เขาจะใส่ผักมาทำไม เพราะผักมันก็ไม่ได้ทำผิดอะไร ก็ปล่อยไว้เฉยๆ ก็พอร้องไห้บ้างไหมถ้าเพราะเสียใจผมไม่เคยร้องเลยนะ แต่จะร้องไห้กับบางเรื่องที่มันอึดอัด หรือไม่ก็ดีใจสุดๆ เท่านั้นเอง แต่ถ้าเสียใจผมเฉยๆ มาก เพราะคิดว่าคนเรามันมีเรื่องให้ต้องเสียใจทุกวันอยู่แล้ว แต่จะเป็นเรื่องเล็กหรือใหญ่เท่านั้นเอง เวลาอกหักก็ไม่ร้องไห้เหรอ อันนี้โคตรเล็กเลยครับ (ตอบทันที) การอกหักน่าจะเป็นเรื่องสุดท้ายในชีวิตที่จะทำให้ผมเสียใจได้ ผมยังงงอยู่เลยว่าอกหักคืออะไร อะไรคือเหตุผลที่ทำให้เราต้องเสียใจจากการอกหัก ผมไม่เข้าใจจริงๆ นะ เพราะความผิดหวังไง ถ้าผิดหวังแสดงว่าเราหวังให้เขารักเราถูกไหมครับ ซึ่งอันนี้ผมไม่เคยหวัง อย่างตอนเด็กๆ ผมเคยถูกเพื่อนบิลด์ให้ไปบอกชอบคนที่ผมแอบชอบ ผมก็เดินไปบอกเขาว่า เราชอบเธอนะ เขาก็ อ๋อ โอเค แล้วก็จบ แยกย้ายกลับบ้าน ไม่ได้ผิดหวัง เพราะเราแค่อยากบอกเขาเฉยๆ ไม่ได้คิดว่าเขาจะรักเราเวลาเห็นคนที่เรารักไปรักคนอื่นล่ะ ก็ยิ่งดีสิครับ ถ้าชีวิตเขามีความสุข มันก็เป็นเรื่องดีไม่ใช่เหรอครับ นี่ผมคิดแบบนี้จริงๆ นะ อาจจะมีคนไม่เชื่อก็ได้ แต่ดูจากประวัติศาสตร์ในชีวิตผมได้เลย แต่จีบผู้หญิงตามปกติใช่ไหมตอนเด็กๆ ก็มีบ้าง เห็นเพื่อนทำกันแล้วคิดว่าเท่ก็ลองจีบดู ตอนนี้ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไปทำไม ไม่รู้อ่ะ ผมคิดว่ามันฟังดูเขินมากเลยนะ เวลาพูดคำว่าจีบผู้หญิง ไม่เคยมีคำนี้อยู่ในหัวเลย อย่างแฟนของผมเราก็รู้จักกันมาตั้งแต่ ป.2 ก็เริ่มจากเป็นเพื่อนกันแล้วก็พัฒนามาเป็นแฟน มันก็ไม่ได้ให้ความรู้สึกของการจีบอะไรนะเวลาทะเลาะกับแฟนล่ะ เรื่องนี้ทำให้เสียใจได้หรือยังเอาจริงๆ นะครับ ผมไม่เคยทะเลาะกับแฟนเลยครับ คบกันมา 4 ปี ไปถามแฟนผมได้เลย มันจะมีเถียงกันเป็นเรื่องๆ อย่างเรื่องงานก็ต้องคุยกันตลอดเพราะผมกับแฟนทำงานด้วยกัน มันก็จะเป็นอีกโหมดหนึ่งที่มีความคิดไม่ตรงกันบ้าง แต่ถ้าเรื่องส่วนตัวนี่ (คิดนาน) เออ ไม่เคยเลยจริงๆ นะ ถ้าโกรธกันแบบจะเป็นจะตายนี่ไม่มีแน่นอน หลายคนจะคิดว่า คนที่เป็นแฟนกัน ไม่ควรทำงานด้วยกัน เออ ได้ยินมาเยอะเหมือนกันครับ แต่สำหรับผมมันคือคนละพาร์ตกัน เวลาคุยเรื่องงานก็คืองาน เปิดใจฟังซึ่งกันและกัน อย่าคิดว่าเราถูกเสมอ หรือเขาผิดเสมอ ทำยังไงก็ได้เพื่อหาข้อสรุปให้เร็วที่สุด แล้วต้องเคลียร์ให้จบให้ได้ก่อนนะใครจะเป็นฝ่ายยอมมากกว่ากัน ทั้งคู่เลยครับ วิธีของเราคือ จะฟังเหตุผลของกันและกันก่อน ถ้าเหตุผลใครหนักแน่นกว่า กางมาเลยว่าถ้าทำแบบนี้ๆๆ แล้วมันจะมีผลอะไรบ้าง ถ้ามีเหตุผลมากพอจนอีกคนเถียงไม่ได้เมื่อไร อีกคนจะยอมเอง ตอนคุยจะดูดุดันมากเลยนะ ถามคนที่ค่ายก็ได้ (หัวเราะ) แต่มันคือการคุยกันด้วยเหตุและผล ซึ่งไม่ใช่ว่าความคิดของใครถูกหรือผิดด้วยนะ มันแค่เป็นความคิดที่ไม่ตรงกัน แล้วมันสนุกมากเลยนะที่เป็นแบบนี้ ทอยเป็นคนรักที่จำวันสำคัญของคนรักได้ดีขนาดไหน บางครั้งก็จำได้ บางครั้งก็จำไม่ได้ครับ (หัวเราะ) คิดว่าตัวเองเป็นคนรักที่โรแมนติกหรือเปล่าในมุมมองของผมนะ ถ้าไปถามแฟนผมอาจจะได้อีกคำตอบหนึ่ง (หัวเราะ) ผมคิดว่าผมโรแมนติกที่สุดในโลก แต่โรแมนติกในที่นี้มันไม่ใช่การให้ดอกไม้ หรือการทำช็อกโกแลตให้แน่ๆ แต่คือการที่ผมจะดูแลเขาตลอดไป คิดว่าแค่นี้ก็น่าจะโรแมนติกแล้วนะ พิสูจน์อักษร: | ธันวา บุญสูงเนิน หรือ The TOYS คือตัวอย่างของศิลปินเพลงยุคใหม่ที่ใช้ความสามารถเป็นแรงขับเคลื่อนความสำเร็จ (โอเค หน้าตาดีด้วย) ขณะเดียวกันในแง่บุคลิกส่วนตัว เขาก็มีปัญหาในด้านการสื่อสารกับสังคมพอสมควร เนื่องจากเป็นคน พูดต่อหน้าสาธารณชนไม่เก่ง และจุดนี้เองที่ดูเหมือนว่ามันจะค่อยๆ สร้างปัญหาจนเกิดความสับสนด้าน ตัวตน ของเขาในหมู่แฟนเพลงจำนวนหนึ่งอยู่ในเวลานี้ พอเจอปัญหาเกิดขึ้นบ่อยๆ เนื่องจากหลังๆ เขาได้รับรางวัลบ่อยขึ้นเรื่อยๆ What the Duck ค่ายเพลงต้นสังกัดจึงส่งทอยให้ไปเข้าคอร์ส ทักษะการพูดคุยและการสื่อสารขั้นพื้นฐาน แต่จนถึงทุกวันนี้ทอยก็ยังเรียนคอร์สนั้นไม่จบ และไม่ได้เจอครูผู้สอนอีกเลย สำหรับคนอื่นมันเป็นเรื่องพื้นฐานมากจริงๆ ครับ แต่ผมเชื่อว่ามันจะมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่เป็นคล้ายๆ ผมที่มีสังคมค่อนข้างส่วนตัว ไม่ค่อยอยากเจอใคร ซึ่งแค่การพูดธรรมดาก็เป็นเรื่องไม่พื้นฐานแล้วสำหรับพวกเรา ศิลปินเจ้าของรางวัล Best New Asian Artist Thailand จากเวที 2018 Mnet Asian Music Awards (MAMA) ประเทศเกาหลีใต้ และเจ้าของท่า มินิฮาร์ต อันโด่งดัง เผยถึงเบื้องลึกในตัวตนไว้กับ THE STANDARD POP | null | null | https://thestandard.co/the-toys-interview/ |
ค้นยิบ 3 จุดยูฟัน ได้หลักฐานเพิ่ม (ชมคลิป) | เกย์นทีปัด ร่วมแก๊งโกง ยันแค่เหยื่อ,ตำรวจคุมผู้ต้องหาคนล่าสุดตรวจค้น 3 จุด เครือข่ายแชร์ลูกโซ่ยูฟัน พบทรัพย์สินและเอกสารหลักฐานจำนวนมาก ขณะที่ สคบ.แจง ที่สั่งปิดบริษัทแชร์ลูกโซ่ช้า เพราะยื้อเวลาให้ตำรวจและ ปปง.รวบรวมหลักฐานสำคัญ เลยต้องรอไม่ให้ไหวตัวทัน ส่วนที่จังหวัดขอนแก่นตำรวจบุกค้นสาขายูฟัน รวบรวมเอกสารหลักฐานเข้ากรุงเทพฯให้พนักงานสอบสวนชุดใหญ่ตรวจสอบ ด้าน เกย์นที รับร่วมเครือข่ายบริษัทแชร์ลูกโซ่ข้ามชาติ แต่อยู่ในฐานะเหยื่อ ถ้าถูกแจ้งข้อหาขอสู้คดีถึงที่สุด ขณะที่เหยื่อเริ่มทยอยเข้าแจ้งความเพิ่ม ทั้งที่จังหวัดสระแก้วและขอนแก่น,กรณีตำรวจ ปคบ.ประสาน ปปง. และ สคบ.จู่โจมทลายเครือข่ายบริษัทยูฟันสโตร์ จำกัด ทำธุรกิจขายเครื่องสำอาง อาหารเสริมและผลิตภัณฑ์อื่นๆ เนื่องจากตรวจสอบพบว่า ดำเนินธุรกิจลักษณะแชร์ลูกโซ่ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งคนไทยและมาเลเซียแล้ว 12 คน ดำเนินคดีข้อหาร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน เบื้องต้นอายัดทรัพย์สินทั้งบ้าน ที่ดิน รถหรู บัญชีธนาคาร และทรัพย์สินอื่นๆของเครือข่ายรวมมูลค่า 500 ล้านบาท และยังขยายผลการสืบสวนดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องต่อไป,ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 เม.ย. พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พ.ต.อ.อังกูร คล้ายคลึง รอง ผบก.ปคบ. ควบคุมตัว น.ส.ณมนพรรณ์ ธาราบัณฑิต ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมที่ จ.หนองคาย นำหมายค้นศาลจังหวัดธัญบุรีที่ 352/2558 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 40/10 หมู่บ้านอภิญญา หมู่ 5 อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ของ น.ส.หรรษา ธารา-บัณฑิต อายุ 36 ปีผู้ต้องหาคนที่ 12 คดีร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ตามหมายจับศาลอาญาเลขที่ 742/2558 ลงวันที่ 15 เม.ย.58 พบว่า น.ส.หรรษา เป็นน้องสาวของ น.ส.ณมนพรรณ์ ทั้งยังทำหน้าที่เป็นแม่ข่ายของบริษัทยูฟันฯด้วย จากการตรวจสอบพบ น.ส.หรรษา โอนเงินเข้าไปที่บริษัทยูฟัน พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ของนายอาทิตย์ ปานแก้ว ครั้งสุดท้ายจำนวน 6 ล้าน 3 แสนบาท,บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ปิดล็อกอย่างแน่นหนา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงประสานนำช่างกุญแจมาเปิดประตูพบรถกระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน สีดำเลขทะเบียน ชบ 7430 กรุงเทพมหานคร และรถเก๋ง ฮอนด้า ซิตี้ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน ฌน 3218 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่หน้าบ้าน ตรวจค้นภายในบ้านพบฮาร์ดดิสก์ คอมพิวเตอร์ ปืนบีบีกัน พาสปอร์ต เอกสารโอนเงิน กระเป๋ากล้อง บัญชีรายรับรายจ่าย และหลักฐานเอกสารอีกจำนวนหนึ่งจึงยึดไปตรวจสอบ,พล.ต.ท.สุวิระเผยว่า วันนี้เข้าตรวจค้นบ้าน น.ส.หรรษา แม่ข่ายที่ชักชวนสมาชิกพบว่า เคยโอนเงินเข้าบริษัทยูฟัน พร็อพเพอร์ตี้ กว่า 6 ล้านบาท ทั้งนี้ น.ส.หรรษา เป็นน้องสาวของ น.ส.ณมนพรรณ์ ซึ่งสืบทราบมาว่าเอกสารสำคัญของ น.ส.ณมนพรรณ์ ถูกขนย้ายมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ นอกจากนี้ น.ส.หรรษา ยังประกอบธุรกิจอีกหลายอย่างรวมทั้งร้านขายโทรศัพท์ มือถือด้วย ขณะเข้าตรวจค้นนั้นไม่พบตัวผู้ต้องหาและไม่มีใครอยู่บ้าน เชื่อว่ายังหลบหนีอยู่ในประเทศไทย จากการตรวจสอบพบหลักฐานการโอนเงิน ตู้เซฟ รวมทั้งรถยนต์ 2 คัน แต่จากข้อมูลการสืบสวน น.ส.หรรษา ยังมีรถหรูอีก 1 คันแต่หายไป จึงต้องติดตามว่าหายไปไหน,ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวต่อไปว่า ส่วนการโอนเงินในชื่อนายศิริชัย พลีการ มีความเชื่อมโยงอย่างไรนั้น ตามการสืบสวนสอบสวนขณะนี้ยังไม่พบความเชื่อมโยง แต่ในอนาคตยังไม่ทราบ หากพบว่าเกี่ยวข้องจะดำเนินการต่อไป ส่วนนายประมาณ เลืองวัฒนะวณิช ทนายความ ที่ตรวจค้นสำนักงานใหญ่ของบริษัทยูฟันฯพบเป็นจดหมายร้องเรียนของนายประมาณ ขอความกรุณาอย่าให้บริษัทยูฟันฯอ้างชื่อตนเนื่องจากไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทดังกล่าว จึงคาดว่านายประมาณ ไม่น่าจะเชื่อมโยงกับคดีนี้ อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบด้วยตาเปล่ายังไม่พบเอกสารอะไรที่เชื่อมโยงกับบริษัทยูฟันฯ จึงต้องนำเอกสารต่างๆไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง,ต่อมาเจ้าหน้าที่นำหมายศาลเข้าตรวจค้นจุดที่ 2 บ้านเลขที่ 1/36 หมู่บ้านคาซ่า รีเจ้นท์ เกษตร-นวมินทร์ ซอยรามอินทรา 14 แยก 11/1 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน ของ น.ส.ณมนพรรณ์ เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น เนื้อที่ 100 ตารางวา มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท มีการโอนเมื่อเดือนที่ผ่านมา พล.ต.ท.สุวิระ กล่าวว่า จากการสอบปากคำ น.ส.ณมนพรรณ์ เมื่อคืนให้การเป็นประโยชน์ ทราบว่าบริษัทยูฟันฯมีการกระทำความผิดจริง และ น.ส.ณมนพรรณ์ มีทรัพย์สินใหม่อยู่ที่ใดบ้าง จึงอายัดเพื่อส่งให้ ปปง.ดำเนินการต่อไป ส่วนการตรวจค้นยังไม่พบเอกสารที่เชื่อมโยงกับบริษัทยูฟันฯ ยืนยันจะนำทรัพย์สินกลับคืนมาให้ผู้เสียหายมากที่สุด สำหรับผู้ต้องหาที่ออกหมายจับ 12 คน จับกุมได้แล้ว 5 คน อีก 7 คน อยู่ระหว่างติดตามตัว ส่วนผู้ต้องหาที่หลบหนีไปต่างประเทศ ตำรวจกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะออกหมายจับในวันที่ 17 เม.ย. ส่วนการติดตามทรัพย์ที่โอนไปต่างประเทศ ปปง.จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง,หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น เลขที่ 688/73-75 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน ซึ่ง น.ส.ณมนพรรณ์ เช่าเตรียมไว้เปิดบริษัทย่อย ชั้นล่างมีเครื่องคอมพิวเตอร์ 6 เครื่อง ชั้น 2 มีรองเท้าใหม่จำนวนมาก น.ส.ณมนพรรณ์ ระบุว่า เตรียมจำหน่ายในอินเตอร์เน็ต ส่วนชั้น 3 เป็นห้องขนาดใหญ่มีกระดานไวต์บอร์ด โต๊ะและเก้าอี้สำหรับบรรยายให้สมาชิกใหม่ เจ้าหน้าที่อายัดเอกสารและเครื่องซีพียูคอมพิวเตอร์นำส่ง ปปง. น.ส.ณมนพรรณ์ เผยว่า สถานที่ดังกล่าวยังไม่เปิดเพราะบริษัทฯ ถูก สคบ.ยกเลิกการรับรองเมื่อเดือนธันวาคม 2557 แต่ยอมรับว่าเงินที่ใช้ซื้อบ้านที่หมู่บ้านคาซ่า รีเจ้นท์ เกษตร-นวมินทร์ ส่วนหนึ่งมาจากธุรกิจยูฟันฯ,น.ส.ณมนพรรณ์ เผยถึงรายละเอียดธุรกิจยูฟันฯ ว่า จุดเริ่มต้นมาจากการซื้อขายสินค้าผ่านอินเตอร์เน็ตให้ผู้ร่วมลงทุนซื้อแพ็กเกจและแปลงแพ็กเกจเป็นพีพอยซ์ใช้ซื้อสินค้าของบริษัท จากนั้นจะได้เอสพอยซ์เพื่อใช้เป็นส่วนลดซื้อสินค้า มีระบบยูโทเคนสกุลเงินของบริษัทยูฟันฯ ที่ตั้งขึ้นมาและมีปริมาณยูโทเคนจำกัดให้สมาชิกนำพีพอยซ์ไปแลกซื้อ ถึงจะเปลี่ยนเป็นเงินจริงได้ ตนเห็นว่า การลงทุนจะได้กำไรจากการขายยูโทเคนถึง 1 พันเปอร์เซ็นต์ เพราะยูโทเคนจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงร่วมลงทุนซื้อยูโทเคนและชักชวนสมาชิกเพิ่ม ส่วนของตนมีสมาชิก 30 คน แต่เมื่อวันที่ 8 พ.ย.บริษัทยูฟันฯ ประกาศยกเลิกพีพอยซ์และเอสพอยซ์โดยให้น้ำดื่มมาแทน จึงเหลือแต่การแลกซื้อยูโทเคน,นอกจากนี้ ยังมีการเปลี่ยนบัญชีการโอนเงินจากบัญชีของบริษัทโดยตรง ไปเข้าบัญชีบุคคลธรรมดาที่ฉันไม่รู้จัก เห็นว่าผิดสังเกต ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ถูกยกเลิกการรับรองจาก สคบ. จึงตัดสินใจเลิกทำธุรกิจยูฟันฯ และชี้แจงสมาชิกที่เคยชวนมาร่วมลงทุนด้วย บริษัทยูฟันฯ จึงล็อกรหัสของฉัน ให้เหตุผลว่า ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง พนักงานเสียกำลังใจและไม่ไว้ใจบริษัท ขณะนี้ยังมีเงินตกค้างในยูฟันฯ กว่า 22 ล้านบาท ยังถอนไม่ได้ น.ส.ณมนพรรณ์กล่าว,พ.ต.อ.อังกูร กล่าวว่า จากการรวบรวมพยานหลักฐานชัดเจนว่า น.ส.ณมนพรรณ์ มีส่วนร่วมในการกระทำความผิด มีการจัดหาสมาชิกใหม่เพื่อรับผลตอบแทน แต่ น.ส.ณมนพรรณ์ อ้างว่า เป็นผู้เสียหายเช่นกัน เบื้องต้นทราบว่า มีการว่าจ้างทนายความเพื่อฟ้องร้องต่อบริษัทยูฟันฯ ในส่วนผู้เสียหายแล้ว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัว น.ส.ณมนพรรณ์ ไปฝากขังผัดแรกต่อศาลอาญาเวลา 10.00 น. วันที่ 18 เม.ย.แต่ไม่คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และเวลา 14.00 น. จะนำทรัพย์สินที่อายัดได้ทั้งหมดส่งมอบให้ ปปง.,ขณะที่นายอำพล วงศ์ศิริ เลขาธิการ สคบ.เผยว่า เหตุผลที่ สคบ.เพิ่งถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจขายตรงของบริษัทยูฟันฯ เมื่อวันที่ 9 เม.ย. เนื่องจาก สคบ.ทำงานร่วมกับ สตช.และ ปปง.เห็นว่า หากถอนใบอนุญาตตั้งแต่ช่วงที่มีผู้บริโภคมาร้องเรียนปลายเดือน พ.ย. 2557 จะทำให้บริษัทยูฟันฯ รู้ตัวและหลบหนี จึงประชุมวางแผนร่วมกันมา 3-4 เดือน และได้รับการร้องขอจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า อย่าเพิ่งถอนใบอนุญาต ไม่เช่นนั้นจะไม่รู้เส้นทางการเงินของกระบวนการ ทำให้ ปปง.ไม่สามารถอายัดทรัพย์สินมาคืนผู้เสียหายได้ เรารู้พฤติกรรมบริษัทยูฟันฯ เมื่อปลายเดือน พ.ย.57 ว่า ไม่ได้ขายสินค้า 3 ชนิดตามที่จดทะเบียนทำธุรกิจขายตรงไว้ และเป็นกระบวนการแชร์ลูกโซ่ แต่ขณะนั้น ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีให้นโยบายว่า จะต้องแก้ปัญหาอย่างเบ็ดเสร็จ อย่าแก้แล้วไปสร้างปัญหาใหม่อีก และ สคบ.คือหน่วยงานที่ไปแจ้งความตำรวจและยังเป็นเจ้าของเรื่องตั้งแต่ต้น จึงเป็นไปไม่ได้ที่ตำรวจจะมาแจ้งความดำเนินคดี สคบ.ด้วยสาเหตุเพิ่งถอนใบอนุญาตบริษัทยูฟันฯ,ที่ จ.เชียงใหม่ นายนที ธีระโรจนพงษ์ หรือฉายา เกย์นที เลขาธิการกลุ่มเชียงใหม่อารยะ เผยว่า ตนมีรายการวิทยุเลือกข้างกับเกย์นทีเดือนละ 2 ครั้ง ต่อมามีคนชวนทำธุรกิจยูฟันฯ ที่สำคัญธุรกิจนี้ สคบ.อนุญาต เท่าที่ติดตามด้วยความระมัดระวังในรายการจะพูดเสมอว่า อันนี้ได้รับการยอมรับจาก สคบ. เมื่อ สคบ.อนุมัติ ตนถือว่าเป็นเรื่องดีที่จะทำได้ เพราะเราเป็นประชาชนจะไปรู้ได้ยังไงว่าเป็นมันนี่เกมส์หรือไม่ใช่มันนี่เกมส์ ทั้งมีการจัดงานใหญ่โตทุกครั้งที่ไบเทคบางนามีคนเรือนหมื่น จัดงานที่ไหนคนเยอะแยะ จัดมวยตามทีวีก็มียูฟันไปเป็นสปอนเซอร์ใหญ่ จึงเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่าธุรกิจถูกต้อง ตลอดเวลาที่อยู่ในธุรกิจนี้ตรวจสอบอยู่เช่นกัน เชิญคนมาถามว่าเชื่อมั่นได้แค่ไหน แต่ไม่เคยโฆษณา ชวนเชื่อให้คนมาลงเพราะถือว่าเป็นสื่อคนหนึ่ง และมีความบริสุทธิ์ใจที่จะปกป้องคนไทยจำนวนไม่น้อยที่เข้ามาพัวพัน และมีคนเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเป็นเส้นทางที่ทำให้คนได้ทอง,นายนทีกล่าวด้วยว่า ตนรู้แต่ว่าบริษัทขายน้ำผลไม้ ไม่รู้ว่าขั้นตอนการขายมีผลประโยชน์อย่างไร ผ่านมา 2 ปี สคบ.เพิ่งมาบอกว่า มันผิด ยังตกใจว่ามันเกิดความผิดพลาดอะไรจึงไม่สามารถแจ้งประชาชนทราบได้ในระยะเวลาที่สั้น ความเสียหายจึงเกิดขึ้นมากมาย รู้สึกกังวลใจจึงไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 12 เม.ย. หลังจากทราบว่ามีการจับกุมผู้บริหารระดับสูง ยืนยันว่าตนไม่มีเจตนาฉ้อโกงใคร ตนมองว่าหากเป็นแชร์ลูกโซ่ตนเป็น 1 ในคนที่เป็นลูกโซ่ จะอยู่ช่วงไหนไม่รู้แต่เป็นผู้เสียหายเช่นกัน เพราะเอาของมาขายและรับเป็นยูโทเคน ตนยังพูดในรายการว่าทำไมภาครัฐไม่เก็บภาษีเพราะได้เงินมาก ภาษีที่เก็บได้จะนำมาดูแลคนจน เชื่อว่าคนที่เข้ามาในวงการยูฟันเกือบทั้งหมดในปัจจุบันไม่คิดเลยว่าตัวเองฉ้อโกงใคร คิดว่าทำธุรกิจธุรกรรมตามที่ สคบ. อนุญาต ดังนั้น ควรให้คนที่อยู่มาเลเซียรับผิดชอบ หากตำรวจจะเรียกตัวไปให้ปากคำก็พร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่ หากจะจับก็ยินดีแต่จะไม่รับข้อกล่าวหา เพราะว่าชีวิตนี้จะไม่ยอมตายกับสิ่งที่ถูกกล่าวหาโดยที่ไม่ได้ทำเด็ดขาด,ที่ สภ.คลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว นายทอง สลิม ชาวกัมพูชา พ่อค้าขายเสื้อตลาดโรงเกลือบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เข้าแจ้งความ พ.ต.ท.ไพศิลป์ แก้วสีขาว พงส.สภ.คลองลึก หลังถูกหลอกให้ร่วมเป็นสมาชิกบริษัทยูฟันฯ นายทองเผยว่า เมื่อต้นเดือน ม.ค. มีคนชื่อกิ่งกาน ชาว อ.อรัญประเทศ ชวนให้สมัครเป็นสมาชิกบริษัทยูฟันฯจะได้ค่าตอบแทนอย่างดี ตนหลงเชื่อสมัครสมาชิกระดับ 2 ดาวเป็นเงิน 35,000 บาท จากนั้นได้ค่าตอบแทน 121 ดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 5,000 บาท แล้วไม่ได้ค่าตอบแทนอีกเลย หลังเห็น ข่าวว่าบริษัทยูฟันฯเป็นแชร์ลูกโซ่มีผู้บริหารถูกจับ จึงโทรศัพท์ไปสอบถามคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำ จ.สระแก้ว ได้รับคำแนะนำให้ไป แจ้งความ นำหลักฐานไปร้องที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.สระแก้ว เพื่อตามเรื่องต่อไป,พ.ต.อ.เสกสรร วัฒนพงษ์ ผกก.สภ.คลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เปิดเผยว่า หลังจากทราบเรื่องว่ามีพ่อค้าชาวกัมพูชาถูกหลอกลวงได้ประสานกับ พ.ต.อ.สุพล แสงทอง ผกก.หัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก ให้กำกับคดีเรื่องนี้ เนื่องจากอาจจะเป็นคดีอาชญากรรมข้ามชาติและเกี่ยวข้องกับคดีเศรษฐกิจอีกด้วย และให้สรุปคดีนี้แล้วให้รายงานผู้บังคับบัญชาระดับสูงต่อไป,ที่ จ.ขอนแก่น เวลา 15.30 น. พ.ต.อ.นพดล เพ็ชรสุทธิ์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น นำกำลังพร้อมหมายค้นศาลจังหวัดขอนแก่นที่ 184/2558 เข้าตรวจค้นบริษัทยูฟันฯ สาขาขอนแก่น เลขที่ 670/93 ถนนกลางเมือง ต.เมืองเก่า อ.เมืองขอนแก่น พบเป็นอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น ด้านหน้าติดป้ายหยุดทำการตั้งแต่วันที่ 12-17 เม.ย. ตรวจค้นชั้นล่างพบทีวี พัดลม และเก้าอี้วางอยู่ประมาณ 30 ตัว นอกจากนี้ พบปากกา นามบัตร โบรชัวร์ และรายชื่อสมาชิกจำนวนมาก ส่วนบริเวณชั้น 2 เป็นห้องพัก พ.ต.อ.นพดลเผยว่า พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา มีคำสั่งให้ตรวจค้น คาดว่าน่าจะเชื่อมโยงกับคดีจับกุมผู้บริหารบริษัทยูฟัน สโตร์ จำกัด จะส่งหลักฐานที่ได้ไปยังส่วนกลาง ขณะนี้มีผู้เสียหาย 6 รายเข้าแจ้งความพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ให้ตรวจสอบบริษัทยูฟันฯเนื่องจากเกรงว่าจะถูกหลอกลวง,ต่อมาเย็นวันเดียวกันมีจดหมาย 2 ฉบับชี้แจงเกี่ยวกับการเดินทางไปต่างประเทศของ พล.ท.อธิวัฒน์ สุ่นปาน ซึ่งเป็นประธานบริหารระหว่างประเทศของยูฟันและเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาข้อหาร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ฉบับแรกเขียนถึงสื่อมวลชนและฉบับที่สองเขียนถึงสมาชิกยูฟัน โดยมีใจความว่า กระผม พล.ท.อธิวัฒน์ สุ่นปาน เป็นสมาชิกยูฟันคนหนึ่งรหัส BOON62 ขณะนี้ กระผมและภรรยามาเยี่ยมลูกชายที่จบการศึกษาที่ประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งกระผมได้วางแผนมา 2-3 เดือนแล้วและมิได้หนีเอาตัวรอดตามที่ปรากฏเป็นข่าว,กระผมอยากเรียนสมาชิกยูฟันว่าวันนี้กระผมและภรรยาได้ถูกออกหมายจับจากทางราชการ ซึ่งกระผมขอสัญญาว่าจะไม่หลบหนีไปไหน เมื่อกระผมเสร็จภารกิจที่ประเทศสหรัฐอเมริกาแล้ว กระผมและภรรยาจะกลับไปมอบตัวต่อทางราชการและต่อสู้คดีให้ถึง ที่สุด ด้วยเหตุนี้กระผมจึงใคร่ขอให้สมาชิกยูฟันได้ช่วยพิจารณาช่วยกันสร้างความเป็นธรรม และชอบธรรมให้กับสังคม ลงชื่อ พล.ท.อธิวัฒน์ สุ่นปาน ลงวันที่ 17 เม.ย.2558,ในท้ายจดหมายได้ระบุถึงผู้ประสานงานชื่อดวงกมล เมื่อสอบถามไปยังนางดวงกมลได้รับการยืนยันว่า จดหมายดังกล่าวรวมทั้งเนื้อความในจดหมายที่ระบุชื่อ พล.ท.อธิวัฒน์เป็นเรื่องจริง ซึ่ง พล.ท.อธิวัฒน์ได้ทำหนังสือดังกล่าวส่งผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์โดยต้องการที่จะออกมาชี้แจงว่าที่ผ่านมาไม่เคยคิดหลบหนี ทั้งนี้ การเดินทางไปต่างประเทศครั้งนี้ได้วางแผนมาหลายเดือนแล้วก่อนที่จะปรากฏเป็นข่าวและพร้อมที่จะแสดงความบริสุทธิ์ใจ | ด้าน เกย์นที รับร่วมเครือข่ายบริษัทแชร์ลูกโซ่ข้ามชาติ แต่อยู่ในฐานะเหยื่อ ถ้าถูกแจ้งข้อหาขอสู้คดีถึงที่สุด ขณะที่เหยื่อเริ่มทยอยเข้าแจ้งความเพิ่ม ทั้งที่จังหวัดสระแก้วและขอนแก่น | ข่าว,ทั่วไทย | ข่าวหน้า1,แชร์ลูกโซ่,ยูฟัน สโตร์,เครือข่ายแชร์ลูกโซ่,ปปง.,รวบรวมหลักฐาน,ทลายเครือข่าย,นที ธีระโรจนพงษ์,เกย์นที,อยู่ในฐานะเหยื่อ,ทยอยเข้าแจ้งความเพิ่ม | https://www.thairath.co.th/news/local/493592 |
6 เทควันโดไทย ลัดฟ้าล่าเหรียญทอง ยูเอส โอเพ่น 2017 | ขอให้เล่นตามฟอร์มที่ฟิตซ้อมมา เป้าหมาย 1 เหรียญทองไม่ไกลเกินเอื้อม เพราะแต่ละคนล้วนผ่านประสบการณ์มาอย่างโชกโชน นอกจากนี้ ยังจะได้จับตาดูฟอร์ม เทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ที่ขยับมาเตะในรุ่น 53 กก.เป็นพิเศษว่าจะมีความพร้อมมากน้อยแค่ไหนด้วย,วันที่ 28 ม.ค.60 ความเคลื่อนไหวทัพจอมเตะเทควันโดทีมชาติไทย ชุดเข้าร่วมการแข่งขันเก็บคะแนนสะสมจัดอันดับโลก รายการแรกของปีนี้ หรือศึก ยูเอสโอเพ่น 2017 ระดับจี 2 โดย แชมป์ ในแต่ละรุ่นจะได้รับคะแนนสะสม 20 แต้ม ที่จะเริ่มเปิดฉากขึ้นช่วงวันที่ 30 ม.ค.-5 ก.พ.นี้ ที่เมืองลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา,ล่าสุด เมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา ดร.สมคิด ปิ่นทอง เลขาธิการสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศ ไทย ในฐานะผู้จัดการทีมชาติ ได้พานักกีฬาทั้ง 6 คน ประกอบด้วย ชาย รุ่น 58 กก. เทม เทวินทร์ หาญปราบ ดีกรีเหรียญเงินริโอเกมส์ 2016 ที่บราซิล, รุ่น 54 กก. จูเนียร์ รามณรงค์ เสวกวิหารี อดีตเหรียญทองยูเอสโอเพ่น, รุ่น 63 กก. นัท ณัฐวีร์ กล่อมพงษ์ อดีตเหรียญทองซีเกมส์ และหญิง รุ่น 46 กก. มิ้นท์ นภาพร จรณวัต เจ้าของแชมป์เยาวชนโลกคนล่าสุด ที่แคนาดา, รุ่น 53 กก. เทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ อดีตแชมป์โลก ในฐานะเจ้าของเหรียญทองแดงริโอเกมส์ 2016 และรุ่น 57 กก. นก พรรณนภา หาญสุจินต์ อดีตเหรียญทองซีเกมส์ ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยเที่ยวบิน เคอี 660 ไปยังสหรัฐอเมริกา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว,ทั้งนี้ ก่อนออกเดินทาง ดร.สมคิดเปิดเผยว่า เวลานี้นักกีฬาทั้ง 6 คนมีความพร้อมสมบูรณ์เต็มที่ หลังได้เข้าโปรแกรมการฟิตซ้อมมาเป็นอย่างดีจากทีมงานสตาฟฟ์โค้ชช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งแต่ละคนล้วนมีประสบการณ์และผ่านเวทีระดับนานาชาติมาอย่างโชกโชน โดยเฉพาะ 3 ตัวหลักในริโอเกมส์ ทั้ง เทวินทร์, พาณิภัค และพรรณนภา แม้ว่าจะห่างหายจากเวทีการแข่งขันไปพอสมควร หลังจบโอลิมปิก แต่ทุกคนก็มีความพร้อมและทุ่มเทเต็มที่ในการคว้าเหรียญรางวัลรายการนี้กลับมา เนื่องจากนักกีฬาทั้ง 3 คนยังมีไฟและความต้องการในการพิสูจน์ตัวเองอยู่ ยิ่งในศึกโตเกียวเกมส์ปี 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น หากจอมเตะทั้ง 3 คนยังรักษาเนื้อรักษาตัวให้ดีอยู่ก็น่าจะมีสิทธิ์ไปล่าความสำเร็จได้อีกครั้ง,ขณะที่ โค้ชจอมเฮี้ยบ เช ยอง ซอก หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยชาวเกาหลีใต้ ได้กล่าวว่านักกีฬาทั้งหมดมีโอกาสหยิบเหรียญรางวัลมาได้พอๆกัน ซึ่งทุกอย่างคงขึ้นอยู่กับการจับสลากแบ่งสายและจำนวนนักกีฬาที่เข้าร่วมเป็นหลักว่า แข็งแกร่งมากน้อยแค่ไหน ส่วนตัวอยากให้นักกีฬาทุกคนเล่นในฟอร์มของตัวเองที่ได้ฟิตซ้อมมา อย่าไปตื่นเต้นหรือเกร็งมากจนเกินไปนัก ที่ผ่านมานักเทควันโดไทยสร้างผลงานในรายการนี้ด้วยการคว้าเหรียญทองกลับมา ได้ตลอด ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน ส่วนตัวมีความเชื่อมั่นว่าเป้าหมาย 1 เหรียญทอง ตามที่ บิ๊กเอ ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคม ได้วางไว้นั้นคงไม่ไกลเกินจริง,ทั้งนี้ เพราะนักกีฬาทั้ง 6 คนเป็นตัวเก่าในรุ่นประชาชนถึง 5 คน จะมีหน้าใหม่ที่ขึ้นมาเตะในรุ่นประชาชนแค่คนเดียวเท่านั้นคือรุ่น 46 กก. มิ้นท นภาพร ซึ่งเวลานี้ทุกคนก็พร้อมเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วในการล่าเหรียญรางวัลครั้งนี้ เพราะเป็นแมตช์สำคัญในการเก็บคะแนนสะสมจัดอันดับแรงกิ้งโลกด้วย แน่นอนว่าทั้ง 6 คนมีโอกาสสร้างผลงานตัวเองให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ เพื่อจะได้มีโอกาสผ่านการควอลิฟายไปร่วมโอลิมปิกเกมส์อีก 3 ปีข้างหน้า ที่กรุงโตเกียว นอกจากนี้ ตัวเองยังจะได้ดูฟอร์มของ พาณิภัค ที่ขยับจากรุ่น 49 กก. มาเตะในรุ่น 53 กก. เป็นพิเศษด้วยว่า เจ้าตัวจะไหวแค่ไหน ยังมีจุดบอดต้องแก้ไขอะไรอีกหรือไม่ ตลอดจนคู่แข่งในแต่ละประเทศด้วยว่า พัฒนาอย่างไรบ้าง โค้ชเชกล่าว | 6 จอมเตะไทยพร้อมเกินร้อย ออกไปล่าเหรียญทองแล้ว ในเทควันโด รายการเก็บแต้มแรงกิ้งโลก ยูเอสโอเพ่น วันที่ 30 ม.ค.-5 ก.พ.นี้ ที่สหรัฐอเมริกา โค้ชเช ยอง ซอก เชื่อมั่น ทุกคนมีโอกาส | null | เทควันโด,ดร.สมคิด ปิ่นทอง,เช ยอง ซอก,ยูเอสโอเพ่น,เทควันโดทีมชาติไทย | https://www.thairath.co.th/content/845661 |
บีบีซีจับตามองท่าทีกองทัพไทย | โจนาธาน เฮด ผู้สื่อข่าวของบีบีซีเปรียบเทียบการทำหน้าที่ของตำรวจในการชุมนุมประท้วงครั้งนี้กับปี 2553 พบว่ารอบนี้ฝ่ายตำรวจไม่ได้ใช้ความรุนแรง ในขณะที่ผู้ประท้วงสามารถปิดถนน ยึดสถานที่ราชการ และใช้ความรุนแรงบุกเข้าไปในสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่นดินแดง ซึ่งเป็นสถานที่จับฉลากของผู้สมัครรับเลือกตั้งบัญชีรายชื่อ จนทำให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ต้องหนีออกมาโดยเฮลิคอปเตอร์ผู้สื่อข่าวของบีบีซีมองว่าตำรวจไม่สามารถทำหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ได้อย่างเต็มที่ เพราะได้รับคำสั่งให้หลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม และการปฏิบัติหน้าที่ติดต่อกันนานนับสัปดาห์ ทำให้ตำรวจเริ่มอ่อนล้า ในขณะที่ผู้ประท้วงมองว่าตำรวจ คือฝ่ายที่สนับสนุนรัฐบาล ซึ่งเท่ากับเป็นศัตรูของผู้ประท้วงไปด้วยในขณะที่กองทัพ ซึ่งถือเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญต่อสังคมไทย จนถึงตอนนี้ยังไม่มีท่าทีว่าจะสนับสนุนฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ยกตัวอย่างเหตุการณ์เมื่อวานนี้ที่ทหารไม่ยอมออกมาช่วยตำรวจรับมือกับผู้ประท้วงที่พยายามจะบุกเข้าไปภายในสนามกีฬา ทั้งๆ ที่มีทหารประจำการอยู่ด้านในทั้งนี้ ฝ่ายรัฐบาลมั่นใจว่าหากมีการเลือกตั้งก็น่าจะชนะ และได้กลับเข้ามาบริหารประเทศอีก แต่หากรัฐบาลไม่สามารถสั่งการกองทัพ ซึ่งมีความภักดีต่อสถาบันได้ อำนาจของรัฐบาลก็จะมีอยู่อย่างจำกัด | การปะทะกันระหว่างตำรวจกับผู้ชุมนุมที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่นดินแดงเมื่อวานนี้ ที่ทำให้ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย และผู้ชุมนุมบาดเจ็บมากกว่า 90 คน เรื่องนี้ผู้สื่อข่าวของบีบีซีได้แสดงความกังวลถึงท่าทีของกองทัพที่ยังคงอยู่นิ่งๆ ไม่มีท่าทีสนับสนุนฝ่ายใด ทั้งๆ ที่กองทัพถือเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในสังคมไทย | ต่างประเทศ | กองทัพ,จับตา,ชุมนุม,ตำรวจ,ทหาร,บีบีซี,ประท้วง,ผู้สื่อข่าว | https://news.thaipbs.or.th/content/213867 |
ตร.ภาค 5 รวบอดีตคนร้ายฆ่าคนตาย ลอบขนยาบ้ากว่า 4 แสนเม็ดที่ลำพูน | เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 16 พ.ย. พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง รอง ผบช.ภ. 5 พล.ต.ต.สุรพล เปรมบุตร รรท.ผบก.สส.ภ. 5 และ พ.ต.อ.วรพงษ์ คำลือ รอง ผบก.สส.ภ. 5 และพวก ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายพงศกร กาวิตา อายุ 31 ปี ชาวบ้าน หมู่ 2 ต.ศรีวิชัย อ.ลี้ จ.ลำพูน พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้า จำนวน 408,400 เม็ด เหตุเกิดบริเวณร้านขายเสื้อผ้า บ้านสันป่าฝ้าย ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ลำพูน,พ.ต.อ.วรพงษ์ คำลือ รอง ผบก.สส.ภ. 5 หัวหน้าชุดจับกุม เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมขบวนการค้ายาเสพติดที่ อ.ป่าซาง จ.ลำพูน จากนั้นได้ขยายผลสืบสวนหาขบวนการที่เกี่ยวข้อง จนกระทั่งทราบว่า มีนายต่อ หรือ นายพงศกร กาวิตา เป็นตัวการสำคัญที่เปิดร้านไว้บริเวณบ้านสันป่าฝ้าย ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ลำพูน จึงได้จับกุมและได้ตรวจค้นภายในร้านขายเสื้อผ้าที่เปิดบังหน้า จึงพบของกลางยาบ้าจำนวน 408,400 เม็ด,นอกจากนี้ จนท.ยังได้จับกุมผู้ร่วมขบวนการได้อีก 2 คน เป็นผู้หญิง ทราบชื่อ คือ น.ส.สุกัญญา ตุ้มโหมด อายุ 23 ปี ชาวบ้าน หมู่ 8 ต.ปงแสนทอง อ.เมือง จ.ลำปาง และ น.ส.พัชราวรรณ ณ ลำปาง อายุ 20 ปี ชาวบ้าน หมู่ 1 ต.นาสัก อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ซึ่งเป็นคนขนลำเลียงยาเสพติดด้วยกัน,รอง ผบก.สส.ภ. 5 หัวหน้าชุดจับกุม กล่าวอีกว่า สำหรับ นายต่อ ผู้ต้องหา เคยต้องโทษในคดี ฆ่าผู้อื่นตายเมื่อประมาณ ปี 2551 และพ้นโทษมาปี 2558 ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ลำพูน ซึ่งตอนนั้นนายต่อยังเป็นเยาวชน ได้ใช้มีดแทง นายสำเริง ทาจันทร์ เป็นครูอาสาอยู่โรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.ลำพูน จนถึงแก่ความตาย หลังก่อเหตุได้ลากศพไปเก็บยัดไว้ในตู้เสื้อผ้าก่อนหลบหนีไป จนกระทั่งสามารถติดตามจับกุมดำเนินคดี,ผู้ต้องหา กล่าวว่า ระหว่างที่ติดคุกอยู่นั้นได้พบกับขบวนการค้ายาเสพติดด้วยกัน และเมื่อพ้นโทษออกมาจึงได้ติดต่อกัน โดยมีหัวหน้าชื่อ อาธง เป็นคนสั่งการ โดยจะทำหน้าที่ในการนำยาเสพติดไปวางไว้ตามจุดต่าง ๆ กระจายไปในพื้นที่ จ.ลำพูนและจังหวัดลำปาง,นายพงศกร กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้เมื่อครั้งยังเป็นเยาวชน ตนได้เสพยาเสพติดจนติดงอมแงม จากนั้นก็ผันตัวมาเป็นผู้ค้า และล่าสุด ก็เป็นคนขนลำเลียงไปวางตามจุดตามคำสั่งของหัวหน้าชื่อ อาธง และระหว่างที่เอายาเสพติดไปวางตามจุดต่างๆ ก็จะต้องเสพยาเพื่อไม่ให้หลับ และเฝ้าของกลางกลัวหาย ทุกวันนี้ก่อนถูกจับกุมก็จะต้องเสพอย่างน้อยวันละไม่ต่ำกว่า 10 เม็ด,ด้าน พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง รอง ผบช.ภ. 5 กล่าวว่า พื้นที่ จังหวัดลำพูน นั้นก่อนหน้านี้มีสำนักข่าวจากต่างประเทศได้รับการร้องเรียนและถ่ายทำข่าว ว่ามีโรงงานและบุคลากรในโรงงานนิคมอุตสาหกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องประสานกับกรมสวัสดิการโรงงาน เข้าตรวจสอบภายในอาทิตย์นี้. | ตำรวจภาค 5 รวบอดีต ผู้ต้องหาฆ่าคนตายหลังพ้นโทษไม่เข็ด ลอบขนยาบ้าให้เครือข่าย อาธง หัวหน้าขบวนการประเทศเพื่อนบ้านกว่า 4 แสนเม็ด โดยจับได้ที่ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ลำพูน | ข่าว,ทั่วไทย | ตำรวจภูธรภาค 5,อดีตผู้ต้องหา,ลำพูน,ขนยาบ้า,ขนยาเสพติด,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1422415 |
เอฟซี โตเกียว ไล่ถลุง ชลบุรี เละ 9-0 ทะยานเข้ารอบแบ่งกลุ่ม ACL | การแข่งขันศึกฟุตบอลสโสรเอเชีย เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก รอบคัดเลือก รอบ 3 ประจำวันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ ที่สนาม อายิโนะโมโตะ สเตเดียม เอฟซี โตเกียว ทีมอันดับที่ 4 เจลีก ฤดูกาล 2015 เปิดบ้านพบกับ ฉลามชล ชลบุรี เอฟซี ที่ในรอบก่อนหน้านี้เฉือนเอาชนะ ย่างกุ้ง ยูไนเต็ด แบบหืดจับ 3-2 ,เริ่มเกมในครึ่งแรกเป็นฝ่ายเจ้าถิ่นที่ครองเกมได้เหนือกว่าอย่างชัดเจน และมาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 แบบโชคช่วยในนาทีที่ 6 เมื่อ โคตะ มิซูนูมะ เปิดเตะมุมจากฝั่งขวาไปหน้าประตู บอลตกใส่เท้า โรดริโก เวอร์จิลิโอ เปลี่ยนทางเข้าประตูไป ,ถัดมาอีกเพียง 2 นาที เอฟซี โตเกียว ได้เพิ่มเป็น 2-0 เมื่อ โคตะ มิซูนูมะ จ่ายบอลสั้นให้กับ ทาคูมะ อาเบะ ลากบอลเข้ากลางก่อนซัดด้วยขวา บอลผ่านมือ ธณชัย หนูราช ตุงตาข่าย ,และในนาที 34 รองแชมป์เจลีกฤดูกาลล่าสุด ขยับไปเป็น 3-0 เมื่อ ยูเฮอิ โทคูนากะ เติมขึ้นมาทางฝั่งขวา ก่อนเปิดเข้าไปหน้าประตูให้กับ เคอิโกะ ฮิกาชิ ยิงเน้นๆ เข้าไปไม่พลาด และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้ ,ครึ่งหลังเจ้าถิ่นยังไม่เพลาเกมบุก และมาทิ้งห่างออกไปเป็น 4-0 ในนาที 54 จากจังกวะที่ เคอิโกะ ฮิกาชิ จ่ายให้กับ ริวอิจิ มาเอดะ เข้าชาร์ตตุงตาข่าย ,จากนั้นนาที 55 เอฟซี โตเกียว ได้เพิ่มเป็น 5-0 เมื่อ ทาคูจิ ยาเนโมโตะ ได้บอลหน้าประตู ก่อนจะซัดเข้าไปไม่เหลือซาก ,ถัดมานาที 61 ทีมดังจากเจลีกทิ้งไปอีกครั้งเป็น 6-0 เมื่อ ยูเฮอิ โทคูนากะ แบ็กขวาเติมขึ้นมา ก่อนจะโยนไปที่เสาสองให้กับ โคตะ มิซูนูมะ สอดเข้ามายิงเบียดเสาเข้าไป ,นาที 71 เอฟซี โตเกียว ขยับเป็น 7-0 เมื่อ โคตะ มิซูนูมะ ใส่พานให้กับ ฮิโรกิ คาวาโนะ ยิงเข้าไปไม่พลาด ,นาที 84 เจ้าถิ่นไหลไปเป็น 8-0 เมื่อ นาโอทาเกะ ฮันยู เปิดบอลไปหน้าประตู แต่โดน ชลทิตย์ จันทคาม สกัดบอลผิดเหลี่ยมเข้าประตูไป ,และในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาที 92 ทีมดังจากแดนปลาดิบได้ประตูเพิ่มเป็น 9-0 จากการสังหารจุดโทษของ ฮิโรกิ คาวาโนะ,จบเกม เอฟซี โตเกียว ไล่ถล่มเอาชนะ ชลบุรี เอฟซี ไปแบบไม่ไว้หน้า 9-0 ลอยลำเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่ม ไปพบกับ เจียงซู ซุนหนิง ของจีน, ชุนบุค ฮุนได มอเตอร์ส จากเกาหลีใต้ และ บีคาแม็กซ์ บินห์เดือง จากเวียดนาม ในกลุ่ม อี ต่อไป,รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม,โตเกียว เอฟซี : โยตะ อากิโมโตะ, ยูเฮอิ โทคุนากะ, มาซาโตะ โมริชิเกะ, ยูอิจิ มารูยามะ, ทาคูจิ โยเนะโมโตะ, ฮา แด-ซอง, ริวอิชิ มาเอดะ, เคอิโกะ ฮิกาชิ, ทาคูมะ อาเบะ, โคตะ มิซูนูมะ, ยูอิจิ โคมาโนะ,ชลบุรี เอฟซี : ธณชัย หนูราช, เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์, สุทธินันท์ พุกหอม, เลอันโดร อัสซัมเซา, กรกช วิริยะอุดมศิริ, คิม ซอล โฮ, ณรงค์ จันทร์เสวก, โรดริโก้ เวอร์จิลิโอ, ชลทิตย์ จันทคาม, อันเดอร์สัน ดอส ซานโตส, นูรูล ศรียานเก็ม,ผลการแข่งขันคู่อื่นในรอบเดียวกัน,โปฮัง สตีลเลอร์ส (เกาหลีใต้) ชนะ ฮานอย ที แอนด์ ที (เวียดนาม) 3-0,โปฮังฯเข้ารอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอช พบกับ กวางโจว เอเวอร์แกรนด์ แชมป์เก่าจากจีน, ซิดนีย์ เอฟซี จากออสเตรเลีย และ อูราวะ เรด ไดมอนด์ส จากญี่ปุ่น,อเดเลด ยูไนเต็ด (ออสเตรเลีย) แพ้ ซานตง หลู่เหนิง ไทซาน (จีน) 1-2,ซานตงเข้ารอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอฟ พบกับ ซานเฟรซ ฮิโรชิมา จากญี่ปุ่น, เอฟซี โซล จากเกาหลีใต้ และ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จากไทย | เอฟซี โตเกียว ทีมดังจากแดนปลาดิบ ดาหน้าไล่ถล่มผู้มาเยือนจากไทยอย่าง ฉลามชล ชลบุรี เอฟซี ไปแบบยับเยินหมดทางสู้ 9-0 ลอยลำเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่ม เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก 2016 ได้สำเร็จ | null | ผลบอล,เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก 2016,รอบคัดเลือก,รอบ 3,เอฟซี โตเกียว,ชลบุรี เอฟซี,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/575176 |
วัชระ ยุส่ง คสช.เอาให้ชัด อยากได้ รธน.แบบไหน | เมื่อวันที่ 25 พ.ค.59 นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. ระบุว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม บ่นเหนื่อยและจะลาออกว่า ถ้าลาออกก็ตั้งใหม่ จะใช้มาตรา 44 ตั้งเข้ามาใหม่ และกลายเป็นเรื่องล้อเล่น ในวาระที่รัฐบาล คสช.ครบวาระ 2 ปีนั้น ว่า หาก พล.อ.ประวิตร ลาออกจริง จะมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์รัฐบาลแน่ และบ้านเมืองไม่ใช่เด็กเล่นหม้อข้าวหม้อแกง ยิ่งอยู่ในภาวะไม่ปกติ จึงควรเป็นหลักให้บ้านเมือง ใช้อำนาจตามหลักธรรมาภิบาล แยกแยะมิตรศัตรูให้ชัด อยากให้รัฐบาล คสช.ศึกษาอุทาหรณ์จากประวัติศาสตร์ 14 ตุลา 2516 ที่มีการเรียกร้องรัฐธรรมนูญ ที่วันนี้มีบางฝ่ายกำลังเร่งสถานการณ์ให้คล้ายกัน นายกฯ อย่าให้ซ้ำรอยประวัติศาสตร์ โดยเร่งปฏิรูปประเทศตามสัญญา นำพาสู่การเลือกตั้งให้ได้ อย่าเชื่อขาเชียร์หรือโหรว่าจะอยู่นาน 10-20 ปี ท่านต้องรีบปฏิรูปประเทศเพื่อประชาชนทุกคน ไม่ต้องเกรงใจใคร เพราะถ้าเกิดเหตุคล้าย 14 ตุลา มาตรา 44 ของท่านเอาไม่อยู่,นายวัชระ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ.ของบประมาณเบี้ยเลี้ยงเพิ่มเติม ให้กับครู ค.ในการเดินเคาะประตูแจกแจงเรื่องรัฐธรรมนูญนั้น ตนเห็นด้วยเพราะมีความจำเป็น แต่ถ้าให้ดีอยากให้นายมีชัยลองเดินเคาะประตูบ้านดูบ้าง จะได้รู้ความจริงของสังคมว่า มีแนวโน้มการลงประชามติอย่างไร และที่ นายมีชัยระบุว่า ขณะร่างรัฐธรรมนูญก็รับฟังความเห็นประชาชนมาแก้ไขตลอด แต่ทำไมยังตัดสิทธิ์นักเรียนให้เรียนฟรีแค่ ม.3 เพิ่มคุณสมบัติคนชราที่จะรับเบี้ยยังชีพว่า ต้องเป็นผู้ยากไร้ หรือสิทธิการรักษาพยาบาลฟรียังมีอยู่สำหรับประชาชนทุกคนหรือไม่ ทั้งนี้ตนยังเชื่อว่าร่างรัฐธรรมนูญของ คสช.ที่เตรียมสำรองไว้กรณีร่างนายมีชัยไม่ผ่าน น่าจะดีกว่าของนายมีชัย คสช.ควรกำหนดรูปแบบของประเทศผ่านรัฐธรรมนูญไปเลยว่าต้องการแบบใด. | วัชระ เตือน คสช. บ้านเมืองไม่ใช่ของเล่น แยกแยะมิตรศัตรู ศึกษาประวัติศาสตร์ หวั่นซ้ำรอย 14 ตุลาฯ ยุ คสช. กำหนดประเทศ ผ่านร่างฯไปเลย ว่าต้องการแบบไหน | null | 2 ปี คสช.,มาตรา 44,วัชระ เพชรทอง,ภาพลักษณ์ รบ.,14 ตุลา 16,รัฐธรรมนูญ,ประชาธิปไตย,การเลือกตั้ง,ปฏิรูปประเทศ,เบี้ยเลี้ยงครู ค.,ชี้แจงร่างฯ,ร่างรัฐธรรมนูญ,เรียนฟรี,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง | https://www.thairath.co.th/content/625644 |
พุทธะอิสระ บุก สตง. ยื่นสอบการเบิก-จ่าย เงินอุดหนุนถวาย พระสังฆราช | วันนี้ (23 มี.ค.59) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระพุทธะอิสระ ประธานคณะสงฆ์วัดอ้อน้อย เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบการเบิก การจ่าย การนำออกไปใช้จ่าย ซึ่งเงินอุดหนุนทูลถวายสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เพื่อการปฏิบัติศาสนกิจตามพระอัธยาศัย ที่รัฐบาลทูลถวายเป็นประจำทุกปี ปีละ 23 ล้านบาท โดยมีนายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เป็นผู้รับหนังสือดังกล่าว,พระพุทธะอิสระ กล่าวว่า การให้สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เข้าตรวจสอบใน 6 ข้อหลัก ได้แก่ 1. นับแต่ปี พ.ศ.2547 ซึ่งมีการตั้งคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ใครเป็นผู้ดำเนินการหรือลงนามขออนุมัติเบิกจ่ายเงินดังกล่าว ต่อสำนักงบประมาณ สำนักนายกรัฐมนตรี 2. ภายหลังสำนักงบประมาณ อนุมัติเงินแล้ว สำนักพระพุทธศาสนาโดยใคร? เป็นผู้ดำเนินการหรือลงนามถือจ่าย 3. เมื่อสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้รับเงินอุดหนุนฯ มาแล้ว ได้ทูลถวายสมเด็จพระสังฆราชเมื่อใด 4. ในช่วงปี พ.ศ.2556 ถึงปัจจุบันได้จำหน่าย จ่าย โอน ให้แก่ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชหรือไม่ 5. เงินอุดหนุนฯ ได้ทูลถวายสมเด็จพระสังฆราชหรือไม่ และ 6. ระเบียบในการเบิกจ่าย นำออกใช้ เงินอุดหนุนทูลเกล้าฯ เป็นไปโดยถูกต้องตามระเบียบหรือไม่,ด้านนายพิศิษฐ์ กล่าวว่า จะรับเรื่องดังกล่าวไว้เพื่อตรวจสอบและดำเนินการ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ ขึ้นอยู่กับหลักฐานและข้อกฎหมาย | พระพุทธะอิสระ ยื่นหนังสือถึงสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้ตรวจสอบการเบิกจ่ายเงินอุดหนุน ถวายสมเด็จพระสังฆราช เพื่อปฏิบัติศาสนกิจ ปีละ 23 ล้านบาท ที่คณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เบิกจ่าย ขณะสมเด็จพระสังฆราชทรงพระประชวร | null | พุทธะอิสระ,หลวงปู่,ยื่นหนังสือ,งบประมาณส่วนพระสังฆราช,ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช,สนง.ผู้ตรวจการแผ่นดิน,การเบิกจ่ายงบพระสังฆราช,พิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/595088 |
ช้างศึกยู-23 ซ้อมมื้อแรกเตรียมหวดดูไบ คัพ โค้ชโย่ง ยิ้มเด็กปรับตัวไว | เมื่อช่วงเย็นเวลา 18.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลาประเทศไทย 21.00 น. ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ชุดเตรียมสู้ศึกซีเกมส์ 2017 และ ชิงแชมป์เอเชีย 2018 รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีรอบคัดเลือก ลงฝึกซ้อมเป็นมื้อแรก ที่สนามอัล ฮัมริยาห์ สปอร์ตคลับ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หลังเดินทางมาแข่งขัน ดูไบ คัพ U23 ระหว่างวันที่ 20-28 มีนาคม นี้,วรวุธ ศรีมะฆะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนได้นำลูกทีมฝึกซ้อมเพียง 1 ชั่วโมง เริ่มจากการวิ่งวอร์มร่างกายและเล่นลิง ต่อด้วยการคอนโทรลบอลเข้าทำครึ่งสนาม การป้องกันและจบสกอร์จากลูกเตะมุม ซึ่งในส่วนของ สุริยา สิงห์มุ้ย ยังมีอาการบาดเจ็บไม่ได้ร่วมซ้อมกับเพื่อนร่วมทีม,กุนซือช้างศึก U23 เปิดเผยถึงความพร้อมทีมล่าสุดว่า การฝึกซ้อมวันแรกต้องยอมรับว่าเด็กปรับตัวได้เร็ว ซึ่งตอนเช้าเราแค่ทานอาหารไม่มีซ้อม เพราะมาที่นี่เราต้องการซ้อมแค่วันละมื้อ เนื่องจากซ้อมเย็นอากาศจะเย็นลง ส่วนเรื่องสภาพสนามซ้อมถือว่าดี ต้องขอบคุณทางสมาคมที่ประสานงานจัดเตรียมให้เป็นอย่างดี,แถมการเดินทางมาครั้งนี้แทบไม่มีปัญหาอะไร เรื่องเวลาที่ห่างจากบ้านเรา 3 ชั่วโมงก็ไม่เป็นปัญหา เพราะเราเดินทางมาก่อนถึงสองวันเด็กๆ สามารถปรับเวลาได้ ส่วนอาการบาดเจ็บของ สุริยา สิงห์มุ้ย ต้องเช็กอีกที คาดว่า 2 เกมแรกจะไม่ได้เล่นแน่นอน เพราะเราอยากให้เขาสมบูรณ์กว่านี้ก่อน และไม่เป็นปัญหาเพราะเรามีแบ็กซ้ายอีก 2 คน,ขณะที่ ไอซ์ สิทธิโชค กันหนู กองหน้าของทีมจากสโมสรไทยฮอนด้า เปิดเผยว่า ส่วนตัวแล้วตั้งเป้าถึงการคว้าแชมป์ ด้านเรื่องยิงประตูก็คงเป็นทุกแมตช์ที่ได้ลงสนาม และรายการนี้ไม่กดดัน คงมีแค่เกมกับเจ้าภาพที่น่าจะเป็นเกมที่ยาก จึงยากฝากแฟนบอลช่วยเชียร์ทีมชาติไทย ยู-23 ด้วย พวกเราจะคว้าแชมป์กลับบ้านครับ,สำหรับทัพ ช้างศึก U23 ในการแข่งขันดูไบ คัพ อยู่ร่วมสายเอ กับ ยูเออี (เจ้าภาพ), เกาหลีเหนือ และสิงคโปร์ และจะลงประเดิมสนามเกมแรกวันที่ 20 มี.ค.นี้ พบกับ ยูเออี ที่โปลิศ สเตเดี้ยม คิกออฟเวลา 22.30 น. ตามเวลาประเทศไทย | ทัพช้างศึก ทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีลงซ้อมมื้อแรกที่ประเทศสหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ เตรียมพร้อมลงแข่งดูไบ คัพ โค้ชโย่ง วรวุธ ศรีมะฆะ เฮดโค้ชของทีมแฮปปี้ที่เด็กๆปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว | ข่าว | วรวุธ ศรีมะฆะ,ทีมชาติไทย,ดูไบ คัพ,ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี,ช้างศึก | https://www.thairath.co.th/news/889091 |
โวยเสื้อยืดฮิตเลอร์-ต่างชาติตำหนิคนไทยทำเก๋โดยไม่รู้ความหมาย | พาดหัวข่าวเสื้อยืดรูปฮิตเลอร์กลายเป็นแฟนชั่นนาซีสำหรับวัยรุ่นไทย (ที่มา: The Sun) หน้าเว็บไซต์ของสำนักข่าว The Sun ของอังกฤษ รายงานเมื่อวันที่ 29 ก.พ. ที่ผ่านมา เสื้อยืดลายการ์ตูนของผู้นำนาซี อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ กลายเป็นแฟชั่นใหม่ในประเทศไทย ร้านเสื้อผ้าในกรุงเทพมหานครเริ่มมีการขายเสื้อผ้าลายผู้นำเผด็จการฮิตเลอร์ในรูปแบบตัวการ์ตูนเทเลทับบี้ หมีแพนด้า หรือ โรนัลด์ แมคโดนัล โดยราคาขายอยู่ที่ระหว่าง 4 ปอนด์ ถึง 7.5 ปอนด์ (ราว 190 บาทถึง 360 บาท) ซึ่งการขายเสื้อลายฮิตเลอร์นี้สร้างความไม่พอใจให้แก่ชาวต่างชาติ แต่ทางผู้ค้าเสื้อก็พยายามอธิบายว่าที่พวกเขาขายเสื้อลายแบบนี้เนื่องจากมันเป็นที่นิยมในหมู่เยาวชนมาก คนขายเสื้อที่ชื่อฮัทกล่าวว่า มีชาวต่างชาติบางคนรู้สึกไม่พอใจที่เห็นเสื้อยืดลายนี้วางขาย พวกเขามาที่ร้านแล้วได้ต่อว่าในเรื่องนี้ แต่ขณะเดียวกันฮัทก็อธิบายว่า \ไม่ใช่ว่าผมชื่นชอบฮิตเลอร์ แต่เขาดูตลกดีและเสื้อลายนี้ก็เป็นที่นิยมมากในหมู่วัยรุ่น\ หนึ่งในผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์เสื้อยืดฮิตเลอร์คือเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย อิทซัค โชฮัม เขาบอกว่า \คุณคงไม่อยากเห็นภาพความทรงจำของนาซีถูกทำให้ดูเป็นเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้\ \มันทำร้ายความรู้สึกของชาวยิวและอารยชนทุกคน\ ตัวการ์ตูนของฮิตเลอร์ไม่เพียงแค่อยู่บนเสื้อผ้าเท่านั้น มีรูปปั้นไร้รสนิยมของจอมเผด็จการผู้นี้ปรากฏขึ้นบนท้องถนนของกรุงเทพฯ รัฐบาลเผด็จการนาซีของฮิตเลอร์ได้สังหารประชาชนชาวยิวราว 6 ล้านคน ในการฆ่าล้างเผ้าพันธุ์ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง อับราฮัม คูเปอร์ รองอธิบดีศูนย์ไซมอน วีเซนธาล ในลอส แองเจลลิส ซึ่งคอยสอดส่องพฤติกรรมลัทธินีโอนาซีทั่วโลก เห็นด้วยว่าการแสดงความเป็นนาซีอย่างเก๋ไก๋ในภูมิภาคนี้นั้น ส่วนใหญ่แล้วมาจากความไม่รู้ แต่คูเปอร์ก็ได้กล่าวอีกว่าคนในพื้นที่ก็ควรจะเรียนรู้เรื่องราวของฮิตเลอร์และอุดมการณ์อันตรายของเขาไว้ด้วย \หากนาซีชนะสงคราม อุดมการณ์เหยียดเชื้อชาติของฮิตเลอร์ก็จะทำให้ทุกเผ่าพันธุ์ที่เขาคิดว่าอ่อนด้อยกว่าตกเป็นเป้า รวมถึงชาวเอเชียเองด้วย\ ที่มา: แปลและเรียบเรียงจาก Hitler T-shirts are a Nazi trend for Thai youth | นสพ.เดอะ ซัน ของอังกฤษรายงานเรื่องการขายเสื้อยืดลายการ์ตูนฮิตเลอร์ในประเทศไทย ซึ่งทำให้ชาวต่างชาติไม่พอใจ รวมถึงเอกอัครราชทูตอิสราเอลในไทยด้วย เดอะ ซัน | ต่างประเทศ,สังคม | การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์,นาซี,พรรคนาซี,วัยรุ่นไทย,ฮิตเลอร์,เยาวชน,เสื้อยืดรูปฮิตเลอร์,แฟชั่น | https://prachatai.com/journal/2012/03/39513 |
อุดมเดช ยํ้า คสช.ต้องรอบคอบ ปม ปูขอบินนอก | วันที่ 9 ก.พ. ที่อาคารรับรองพิเศษ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และ ผบ.ทบ. กล่าวถึงกรณีที่ คสช.ไม่อนุญาตให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางออกนอกประเทศว่า การดำเนินการของ คสช. ตนในฐานะเลขาธิการ คสช. รับนโยบายจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ว่า ในเรื่องการปฏิบัติต่างๆ ทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการอย่างระมัดระวัง และทราบดีว่าเรื่องนี้คนไทยให้ความสนใจ แต่จะต้องอยู่ในกระบวนการตามกฎหมายที่ คสช.ต้องมีความรอบคอบและนำข้อมูลส่งไปให้หัวหน้า คสช. ตัดสินใจ โดยมีการรับข้อมูลจากส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องตามกฎหมาย รวมทั้งที่ผ่านมามีการปรึกษาหารือร่วมกัน,ขอย้ำว่าเรื่องนี้ คสช.ดำเนินการอย่างรอบคอบ และ คสช.เองก็อยากให้ความสะดวกกับทุกๆ คน ที่ให้ความร่วมมือ แต่ถ้าบางสิ่งบางอย่างมีผลต่อรูปคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ และอาจเกิดผลกระทบตามมาได้ ก็จำเป็นต้องชะลอเรื่องไว้ก่อน เพื่อรอให้ศาลเป็นผู้ตัดสินใจต่อไป พล.อ.อุดมเดช กล่าว,เมื่อถามว่า หากคดีโครงการรับจำนำข้าวยังไม่สิ้นสุด น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเดินทางออกนอกประเทศไม่ได้ใช่หรือไม่ พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ทางอัยการสูงสุดก็จะดำเนินการตามขั้นตอน เมื่อเข้าสู่กระบวนการทางศาลก็ต้องเป็นไปตามนั้น แม้ว่า คสช.จะมีอำนาจสั่งการในเรื่องต่างๆ แต่เมื่อเป็นรัฐบาลแล้วก็ต้องเข้าสู่กระบวนการตามขั้นตอนที่ถูกต้อง ดังนั้นประเด็นนี้ ตนคิดว่ามีความเหมาะสมแล้วที่จะออกมาเป็นเช่นนั้น เพราะเกรงว่าอาจเกิดปัญหาภายหลังได้,เมื่อถามถึงกรณีที่ คสช.เชิญผู้ช่วยทูตทหารประจำประเทศไทยทุกประเทศ เข้ารับฟังการชี้แจงสถานการณ์ในวันที่ 11 ก.พ. นี้ พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ในระดับของทหารมีผู้ช่วยทูตทหารประจำประเทศไทยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในส่วนกองทัพบกที่มีผู้ช่วยทูตทหารมาสร้างความสัมพันธ์กับเรา ซึ่งก็ต้องสร้างความเข้าใจ เพื่อให้เขานำไปชี้แจงในประเทศของเขาได้ถึงความจำเป็นในการปฏิบัติงานต่างๆ ของ คสช. และรัฐบาลที่เป็นประโยชน์ และเพื่อให้ประเทศมีความเรียบร้อยสามารถเดินต่อไปได้ ซึ่งมิตรประเทศก็ควรมีความเข้าใจการดำเนินการของรัฐบาลและ คสช.ในขณะนี้ว่า สามารถสร้างความสงบสุขได้ แม้ว่าก็ยังมีการสร้างสถานการณ์เล็กๆ น้อยๆ บ้าง แต่ตนคิดว่าไม่มากมายนัก เพราะเจ้าหน้าที่ยังควบคุมสถานการณ์ได้ดี,ทั้งนี้ เมื่อถามว่าจะชี้แจงเรื่องที่ คสช.เชิญผู้เคลื่อนไหวทางการเมืองมาพูดคุยหรือไม่ เพราะสหรัฐฯ ยังกังวลในเรื่องนี้ พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า เรื่องนี้มีความจำเป็น เราต้องชี้แจงว่าเกิดอะไรขึ้น ที่ผ่านมาเกิดความไม่สงบเรียบร้อย จนทำให้ประชาชนไม่สามารถใช้ชีวิตได้เป็นปกติ การแสดงความคิดเห็นทางการเมืองที่ไม่มีการควบคุมจนขยายตัวเป็นหลายๆ กลุ่ม ที่มีความคิดเห็นไม่ตรงกัน และก้าวไปสู่การใช้อาวุธสงคราม จนทำให้เด็ก ผู้หญิง และประชาชนทั่วไป ต้องเสียชีวิต ตนอยากถามว่าถ้าเกิดเหตุการณ์เหล่านั้นขึ้นมาอีก จะมีใครมาร่วมรับผิดชอบชะตากรรมและการบริหารประเทศได้,ดังนั้น บางอย่างเราก็มีความจำเป็นเพื่อสร้างความสงบ ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ดำเนินการเพียงแค่ขอความร่วมมือเท่านั้น ซึ่งได้รับความร่วมมือจากประชาชนพอสมควร แต่มีบางส่วนที่ยังไม่เข้าใจ ทางเจ้าหน้าที่ก็พยายามตักเตือน โดยไม่ได้ใช้ความรุนแรงอะไร อย่างไรก็ตาม ถ้าใครไม่มีความเข้าใจก็ต้องมีการปรับความเข้าใจกัน ทั้งนี้ไม่ได้กระทบหลักละเมิดสิทธิมนุษยชน เพราะเป็นการเชิญมาพูดคุยกัน,ถ้าเราประสบปัญหาคงไม่มีใครมาช่วยเราได้ นอกจากเราต้องหาวิธีดูแลสถานการณ์ของเราเองให้ได้ โดยไม่ได้ดำเนินการด้วยวิธีการใช้ความรุนแรง ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า ไม่มีใครโดนกระทำด้วยความรุนแรง พล.อ.อุดมเดช กล่าว | อุดมเดช ย้ำ คสช.ต้องรอบคอบ หลัง ยิ่งลักษณ์ ขอไปต่างประเทศ ชี้ ขึ้นอยู่กับศาล เตรียมชี้แจงสถานการณ์ต่อผู้ช่วยทูตทหาร 11 ก.พ. นี้ ยัน คสช.ไม่ละเมิดสิทธิ์ผู้มีความเห็นต่าง | null | งดปูบินนอก,คสช.,อุดมเดช สีตบุตร,ผบ.ทบ.,รมช.กลาโหม,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,นายกรัฐมนตรี,ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร,อดีตนายกรัฐมนตรี,ข่าวการเมือง,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/480029 |
อดีตแชมป์เวคบอร์ดแห่งเอเชีย ธนธร รัตนไชย สร้างอาชีพจากใจรักจนประสบความสำเร็จ | นำความชื่นชอบในกีฬาเอ็กซ์ตรีม ผาดโผนเร้าใจมาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างฝันให้เป็นจริง สร้างอาณาจักรกีฬาเอ็กซ์ตรีมสุดมันส์ที่ขึ้นชื่อในเมืองไทย,อั้ม–ธนธร รัตนไชย ผู้บริหารหนุ่มวัย 33 ปี ลูกชายคนที่ 2 ในจำนวน 3 คนของ นพ.ดนัย–จารุวรรณ รัตนไชย เล่าถึงเส้นทางชีวิตและการทำงานของเขาว่า จุดเริ่มต้นของการเป็นนักกีฬาเอ็กซ์ตรีมมาจากตอน เรียน ม.2 ที่ ร.ร.เทพศิรินทร์ คุณพ่อ คุณแม่พาไปลองเล่นเวคบอร์ด แล้วเกิดชอบเลยเล่นเป็นประจำ เล่นได้ 1 ปี ก็ลองไปแข่งขัน เริ่มเวทีแรกที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และได้แชมป์โลก รุ่นจูเนียร์ เมน ตอนอายุ 15-16 ปี ในปี 2542 จากนั้นก็ไปแข่งอยู่เรื่อยๆ แพ้บ้างชนะบ้าง และมาได้รางวัลครั้งสุดท้ายในปี 2552 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการแข่งขันเวคบอร์ดแห่งเอเชีย และตนลงแข่งด้วย ได้ตำแหน่งแชมป์เวคบอร์ดในเอเชียมาครอง นอกเหนือจากการเป็นนักกีฬาแล้ว ในช่วงที่เรียนคณะบริหารธุรกิจ ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ตนก็ได้ตั้งบริษัท อินเท็นซิตี้ จำกัด นำเข้าเสื้อผ้าและอุปกรณ์ กีฬาสไตล์เซิร์ฟ พร้อมกับได้มีโอกาสไปแข่งเวคบอร์ดที่ประเทศฟิลิปปินส์ได้เห็นสถานที่แข่งของเขามีมาตรฐาน เลยอยากให้บ้านเรามีบึงแข่งที่ได้มาตรฐานสากลแบบนี้บ้าง จึงคิดโปรเจกต์ทำสนามแข่งเวคบอร์ดขึ้น แล้วลองคุยกับที่บ้าน ซึ่งมีที่ดินอยู่ที่ลำลูกกา 40 กว่าไร่ จึงนำมาทำ Thai Wake Park สนามเวคบอร์ดแห่งเดียวในเมืองไทยที่ได้มาตรฐานระดับนานาชาติ ซึ่งได้เปิดขึ้นเมื่อปี 2551,โครงการนี้ผมทำร่วมกับครอบครัว ทั้งพี่ชายและน้องชาย รวมทั้งคุณพ่อก็ได้มาร่วมกันทำ แยกกันดูแล ในส่วน ตัวผมดูแลโดยรวม รวมทั้งเรื่องระบบการเล่น ความปลอดภัยต่างๆ ด้วยความที่ผมเคยเป็นนักกีฬามาก่อน พอมา เป็นเจ้าของสนาม ก็ทำให้เราต้องยิ่งมองถึงความปลอดภัย และอยากสร้างมาตรฐานและพัฒนากีฬาประเภทนี้ให้มากขึ้น พอเปิดมาตั้งแต่แรกก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เพราะมีฐานลูกค้าอยู่แล้ว บวกกับเราเองก็เป็นที่รู้จักในวงการกีฬาเอ็กซ์ตรีมนี้ พอผันตัวเองจากนักกีฬามาเป็นผู้บริหาร ก็ต้องมีการปรับตัวนิดหน่อย ซึ่งใน การทำงานของผมจะค่อน ข้างสบายๆ แต่ขอให้ทุกคนมีระเบียบ และตรงต่อเวลา นอกจากนี้ อยากให้ทุกคนมีความสุขในการ ทำงาน การได้ทำงานในสิ่งที่ชอบ เขาก็จะรักในงานที่ทำ ถ้าไม่รัก ก็แสดงว่าเราให้เขายืนผิดจุดแล้ว อั้มเล่าถึงการบริหารงานของเขา,การได้ก้าวมาถึงจุดนี้ หนุ่มนักกีฬาเอ็กซ์ตรีมบอกว่า ผมคิดว่า เราควรที่จะทำงานในสิ่งที่ตัวเองชอบ ก็จะดี ผมก็ไม่คิดว่าจะมาทำตรงนี้ เราต้องลองพัฒนาตัวเอง ดึงความสามารถของเราออกมาทำในสิ่งที่เราชอบ แล้วเราก็จะทำมันได้ดีครับ. | สมกับเป็นคนรุ่นใหม่ที่มองหาแนวทางของตัวเอง ในการสร้างโอกาสสร้างอาชีพจากใจรักและทุ่มเทจนประสบความสำเร็จ ธนธร รัตนไชย อดีตนักกีฬาแชมป์เวคบอร์ด (Wake Board) ของเอเชีย | ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง | ธนธร รัตนไชย,เวคบอร์ด,Wake Board,กีฬาเอ็กซ์ตรีม,Thai Wake Park,ข่าวสตรี,ข่าว,ไทยรัฐฉบับพิมพ์ | https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/649516 |
โสมชบาจ๊ะจ๋า 03/10/61 | สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯแทนพระองค์ พระราชทานปริญญาบัตร ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภาคเช้า และบ่าย วันที่ 4 ต.ค.เป็นวันแรก,จัดดินเนอร์ถวาย เจ้าหญิงเลอา แห่งเบลเยียม ที่บ้านไทย สุขุมวิท คืนก่อน ม.ล.ภูมิใจ ชุมพล และแขกวีไอพี by invitation 10 คน อาทิ ทูตเบลเยียม Philippe Kridelka เคานต์มหาเศรษฐีเบลเยียมหัวใจไทย Gerald Van Der Straten Ponthoz กมลา สุโกศล นภาลัย อารีสรณ์ มีเซอร์ไพรส์ เพราะเจ้าหญิง Dechen yangZom Wangchuck ขนิษฐาสุดท้องของ กษัตริย์จิกมี พร้อมสามี Sir Tandin Namgyel Dorji เสด็จด้วย และมีจริยวัตรที่งดงามน่ารักมาก ,ครอบครัว พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ และ พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ยามนี้ กำลังแสนสุข เพราะได้หลานปู่ย่าคนแรกมาเชยชมความน่ารักกันแล้ว ,จะได้เป็นตายายป้ายแดงกันเร็วๆนี้ คู่ กลินท์-เพชรพริ้ง สารสิน ยังสวีตกันไม่จางจืด จนได้เป็น Couple of the Year จากงานครบ 27 ปี Thailand Tatler และเซเลบไฮโซ คนอื่นๆ ที่ได้รางวัล มี อาทิ Best dress of the Night ตกเป็นของ ศีกัญญา ศักดิเดช ภาณุพันธุ์ และ Most eligible Woman คือ พลอยชมพู อัมพุช,อยากเปิดพื้นที่ให้พ่อแม่ที่มีลูกแพ้อาหาร ได้ไปแชร์ความรู้ ศุภานวิต เอี่ยมสกุลรัตน์ จัดงาน ตลาดนัดเด็กแพ้ ครั้งที่ 2 รวมผลิตภัณฑ์ของใช้ อาหาร ขนม มาให้ชิมช็อป และร่วมกิจกรรม ที่คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา 6-7 ต.ค. เวลา 10.00-18.00 น. ,บรรทัดนี้ โสมชบา ขอพื้นที่เขียนกราบขอบพระคุณ นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ที่ให้ทีมแพทย์ ออร์โทฯมือหนึ่ง รพ.กรุงเทพ พล.ต.ต.นพ.สุรพล เกษประยูร นพ.สมบัติ โรจน์วิโรจน์ และ นพ.อนุวัฒน์ วัลลภาพันธุ์ ดูแลดี จากอาการหมอนรองกระดูกหลังเคลื่อนทับ จนเดี้ยงนั่งเดินซมซานอยู่ยามนี้ (แต่ยังทำงานได้นะคะ บอส สราวุธ วัชรพล),จากกรณีนี้ ดิฉันจึงขอเรียนเตือนท่านผู้อ่าน ไม่ว่าจะสูงวัยหรืออ่อนวัยว่า อย่าเอี้ยวหรือโน้มตัวหยิบของหนักๆ เพราะตอนแอดมิต เพิ่งรู้ว่า ที่ รพ.กรุงเทพ มีคนไข้อาการเดียวกัน ทั้งฟลอร์--และคนป่วยล่าสุดคือ ศศิธร มาดามของ อนุทิน ชาญวีรกูล.,,โสมชบา | จะได้เป็นตายายป้ายแดงกันเร็วๆนี้ คู่ กลินท์-เพชรพริ้ง สารสิน ยังสวีตกันไม่จางจืด จนได้เป็น Couple of the Year จากงานครบ 27 ปี Thailand Tatler และเซเลบไฮโซ คนอื่นๆ | null | โสมชบาจ๊ะจ๋า,โสมชบา,ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ,อนันตพร กาญจนรัตน์,ณะ อารีนิจ | https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/hisoceleb/1388660 |
รอง ผบช.ภ.1 ลั่นโจ๋ตีกันใน รพ.ดำเนินคดีหมดทุกคน ย้ำต้องไม่เกิดขึ้นอีก | เมื่อวันที่ 22 ก.ค.63 พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสดำรงค์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้เดินทางมาที่ สภ.สำโรงใต้ เพื่อติดตามความคืบหน้า กรณีวัยรุ่นสองกลุ่มยกพวกตีกันในโรงพยาบาล โดยแยกเป็น 3 เหตุการณ์ เหตุการณ์ที่ 1ประมาณ1 1ราย เหตุการณ์ที่ 2 จำนวน 9 ราย เหตุการณ์ที่ 3 จำนวน 17 ราย โดยผู้ต้องหาบางราย มีรายชื่อซ้ำในเหตุการณ์ที่ 1 ที่ 2 โดยรวมผู้ต้องหา รวมทั้งสิ้นจำนวน 27 คน ขณะนี้ สามารถติดตามตัวได้ 26 คน และคาดว่าภายในวันนี้จะติดตามตัวได้ครบทั้งหมด โดยทั้งหมดจะแยกข้อหากัน บางรายอาจจะถูกแจ้งข้อหาในหลายขอหา ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการก่อเหตุรอง ผบช.ภ.1กล่าวว่า ขณะนี้ ตนได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน สอบสวนในคดีนี้ให้ชัดเจน ขอเรียนพี่น้องสื่อมวลชน และทางบุคลากรทางการแพทย์ โดยทางนายกแพทยสภา พร้อมทีมงานท่านไปตรวจเยี่ยมโรงพยาบาล เพื่อให้กำลังใจบุคคลากรทางการแพทย์ และได้เดินทางมาให้กับกำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถติดตามจับกุมได้โดยเร็ว และท่านได้ฝากในเรื่องการป้องกันไม่ให้มีเหตุซ้ำขึ้นจึงได้บอกว่า พล.ต.อ.จักทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ทุกพื้นที่ โดยเฉพาะภาค 1 ท่านผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ก็ได้มีการเรียกประชุมทุกส่วน 9 จังหวัด 13 สถานีผ่านวีดิโอคอนเฟอร์เรนซ์ ว่าให้เพิ่มความเข้มในมาตรการการป้องกันเหตุ วางแผน และมีการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ ร่วมกับบุคลากรทางการแพทย์ และหน่วยข้างเคียงทั้งหมด พร้อมกำชับไม่ให้มีเหตุการณ์นี้ขึ้นอีกพล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าวต่อว่า วันนี้ทีมสืบสวนใหญ่ลงมาภาค 1 ลงมาบูรณาการณ์ร่วมกับสืบสวนจังหวัดและโรงพัก สภ.สำโรงใต้ และมีการแบ่งงานกันทำชัดเจน ยืนยันได้ว่าในเรื่องนี้ นอกจากทางตำรวจเร่งรัดติดตามจับกุมให้ได้โดยเร็วแล้ว เราก็จะรีบสรุปสำเนารวบรวมพยานหลักฐาน โดยเฉพาะผลการตรวจดีเอ็นเอ โดยได้ประสานไปยังศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 เพื่อรอผลตรวจเร่งด่วน และได้สั่งการให้รองผู้บังคับการสอบสวนและทีมสอบสวนตั้งทีมพนักงานสอบสวนขึ้นดึงมาจากหลายโรงพักมาร่วมกันสอบสวนในคืนนี้ให้ครบถ้วนให้เสร็จโดยเร็ว คิดว่าภายในสัปดาห์นี้หรือ ต้นสัปดาห์หน้าเราน่าจะส่งสำนวนให้กับพนักงานอัยการทั้งหมดได้รอง ผบช.ภ.1 กล่าวอีกว่า สำหรับ ส่วนของคดีในรายของคนเจ็บเราก็ได้แจ้งข้อกล่าวหาด้วย จะดูว่าความผิดมันต่างกรรมต่างวาระ ใครผิดประเด็นไหนเจ้าหน้าที่แจ้งทุกข้อหา และบางคนอาจจะมากกว่า 4 ข้อหาเพราะอยู่ให้หลายเหตุการณ์ อันนี้ก็เรียนยืนยันเลยว่า ผู้ที่ก่อเหตุทั้งหมดตำรวจทราบตัวหมดแล้ว และฝากส่งสัญญาณไปยังบุคคลที่เหิมเกริมไม่เกรงกลัวกฎหมายท้าทายอำนาจรัฐ ตนคิดว่าเราต้องบังคับใช้กฎหมาย 100% วันนี้ท่าน ผบ.ตร.ได้สั่งมาชัดเจนว่า ให้เปิดยุทธการในทุกพื้นที่ของภูธรภาค 1 และในพื้นที่ทั้งหมดต้องไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นพล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าวด้วยว่า อยากให้ท่านทั้งหลายคิดว่า เมื่อเราป่วย พ่อแม่เราป่วย เราจะไปไหน เราก็ต้องไปโรงพยาบาล ก็ต้องอาศัยแพทย์พยาบาลทุกคน ถ้าหากเราทำอย่างนี้แล้วทำให้สังคมรับไม่ได้ ส่วนในเรื่องต้นตอที่มาจากปมยาเสพติด ตอนนี้ตำรวจมีข้อมูลอยู่แล้ว และกำลังวางแผนว่าเราจะทำอะไรก่อน แต่เราอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูล ไม่ใช้ที่มหาวงค์ที่เดียวทั้งหมดในพื้นที่ ทั้งหมดเรามีข้อมูลและแผนยุทธกรรมทั้งหมดเรามีหมดแล้ว. | รอง ผบช.ภ.1 ลั่นคดีโจ๋ตีกันในโรงพยาบาล ต้องไม่เกิดขึ้นอีก สั่ง จนท.วางแผนป้องกันแพทย์พยาบาล ซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ ส่วนเรื่องยาเสพติดกำลังวางแผนจะทำอะไรก่อน แต่เรียนว่าทาง ตร.มีข้อมูลหมด | ข่าว,อาชญากรรม | ตีกันในโรงพยาบาล, ตีกันในโรงพยาบาล, ข่าว ตีกันที่ รพ.,ยกพวกตีกัน,รพ.เมืองสมุทรปู่เจ้า,รพ. วิภารามชัยปราการ,ตีกันในรพ.,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1895520 |
Subsets and Splits