File size: 3,790 Bytes
c5b6280
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
Book,Page,LineNumber,Text
06,0004,001,อุปสัมปทา   คือภิกษุประชุมครบองค์กำหนดในเขตแห่งชุมนุมซึ่งเรียกว่า
06,0004,002,สีมา  กล่าววาจาประกาศเรื่องความที่จะรับคนนั้น ๆ  เข้าหมู่  และ 
06,0004,003,ได้ความยินยอมของภิกษุทั้งปวงผู้เข้าประชุมเป็นสงฆ์นั้น.  องค์กำหนด
06,0004,004,ของสงฆ์ผู้ให้อุปสมบทได้นั้น  ในประเทศที่มีพระดื่น  ซึ่งในครั้งนั้น
06,0004,005,ชี้เอามัธยมประเทศ  ๑๐  รูป  ในประเทศที่หาพระยาก  ซึ่งชี้เอาปัจจันต-
06,0004,006,ชนบทเพียง  ๕  รูปก็ได้.   อุปสมบทสำเร็จด้วยอำนาจสงฆ์อย่างนี้เป็นมา
06,0004,007,จนถึงกาลทุกวันนี้.  
06,0004,008,ภิกษุผู้ได้อุปสมบทด้วยวิธีซึ่งทรงเอง  ที่เรียกว่าเอหิภิกขุอุปสัม-
06,0004,009,ปทาก็ดี  ด้วยวิธีซึ่งสาวกทำ   ที่เรียกว่าติสรณคมนุปสัมปทาก็ดี  ด้วย
06,0004,010,วิธีซึ่งสงฆ์ทำ   ที่เรียกว่าญัตติจตุตถกัมมอุปสัมปทาก็ดี  ทั้ง ๓   เหล่านี้
06,0004,011,มีสังวาส   คือธรรมเป็นเครื่องอยู่ร่วมเป็นอันเดียวกัน  เข้าเป็นพวกเดียว
06,0004,012,กันได้.
06,0004,013,ครั้นทรงเลิกติสรณคมนุปสัมปทาเสียแล้ว  ได้ทรงพระอนุญาต
06,0004,014,ให้เอาวิธีนั้นมาใช้บวชกุลบุตร   ผู้มีอายุยังหย่อน  ไม่ครบกำหนดเป็น
06,0004,015,ภิกษุ  ให้เป็นสามเณร   ยังเสร็จด้วยอำนาจบุคคลคือสาวกหรือภิกษุ
06,0004,016,ผู้เถระนั่นเอง.  เมื่อเกิดมีสามเณรขึ้น  การบวชจึงเป็น  ๒  คือ  บวช
06,0004,017,"เป็นภิกษุ  เรียกว่า   อุปสัมปทาหรืออุปสมบท,  บวชเป็นสามเณร"
06,0004,018,เรียกว่า  บรรพชา.  และวิธีที่สงฆ์จะให้อุปสมบท  ก็ให้แก่ผู้ได้รับ
06,0004,019,บรรพชาเป็นสามเณรมาแล้ว.  นี้ใช้เป็นธรรมเนียมมาจนบัดนี้.
06,0004,020,คราวนี้   จะอธิบายถึงธรรมเนียมให้อุปสมบทของสงฆ์.  ผู้จะ
06,0004,021,อุปสมบทนั้น   ต้องเป็นชาย   มีอายุครบกำหนดเป็นบุรุษ  คือไม่ต่ำ