File size: 3,700 Bytes
c5b6280
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
Book,Page,LineNumber,Text
13,0037,001,อันเป็นของทรงอนุญาตแล้วนั้น ใช้ในที่ทั่วไปไม่ได้  ไม่เจ็บเท้า  ห้าม 
13,0037,002,ไม่ให้สวมเข้าบ้าน  เป็นอาคันตุกะเข้าไปในวัดอื่นก็ให้ถอด  ในอาราม
13,0037,003,อันไม่ใช่ที่ต้องห้าม  ในป่าสวมได้.  ฝ่าเท้าบางเหยียบพื้นแข็งไม่ได้ 
13,0037,004,เหยียบเข้าเจ็บ  หรือในฤดูร้อน  พื้นร้อน  เหยียบเท้าพอง  สวม
13,0037,005,"เข้าบ้านได้  เข้าวัดได้,  ในฤดูฝน  ไปในที่ฉำแฉะ  ภิกษุผู้อาพาธเป็น"
13,0037,006,โรคกระษัย  สวมเพื่อกันเท้าเย็นก็ได้.
13,0037,007,ส่วนบริขารอื่น  พระอรรถกถาจารย์ชี้ชนิดไว้ว่า  อย่างนั้นควร
13,0037,008,อย่างนั้นไม่ควร  ดังมีแจ้งในบริขารกถาแห่งบุพพสิกขาวัณณนา
13,0037,009,ฟังฟั่นเฝือเสียจริง ๆ  ยากที่จะกำหนดให้เข้าใจ.  ผู้ศึกษาพระวินัย
13,0037,010,พึงเข้าใจต้นเค้าดังนี้ :  ภิกษุย่อมนิยมใช้สอยบริขารที่เป็นของปอน
13,0037,011,หรือของเรียบ ๆ  ไม่ใช้ของดีที่เขากำลังตื่นกันในสมัย  อันพึงจะเรียก
13,0037,012,ว่าของโอ่โถง  ความประพฤติปอนของภิกษุนี้  ย่อมนำให้เกิดความ
13,0037,013,เลื่อมใสแก่คนบางเหล่า  ที่เรียกว่าพวกลูขประมาณ  แปลว่า  มีของ
13,0037,014,ปอนเป็นประมาณ  มีของปอนเป็นเหตุนับถือ.  ศิลปะ  คือความคิด
13,0037,015,และฝีมือทำพัสดุสำหรับใช้สอยของมนุษย์  ย่อมเจริญขึ้นโดยลำดับ
13,0037,016,กาล. ของที่ประณีตในสมัยหนึ่ง  ย่อมกลับเลวในสมัยอื่น.
13,0037,017,ของที่พระอรรถกถาจารย์พรรณนาไว้ว่าเป็นของดีในครั้งนั้น มาใน
13,0037,018,บัดนี้  กลับเป็นของสามัญหรือของเลวก็มี  จะหาของที่ท่านว่าเป็น
13,0037,019,สมณสารูปเกือบไม่ค่อยได้  เหตุนั้น  พึงเข้าใจว่า  ท่านก็พรรณนา
13,0037,020,ตามสมัยของท่าน.  ภิกษุผู้เคร่งไม่นึกถึงกาลเทศะ  ปรารถนาเพียง