File size: 3,940 Bytes
c5b6280
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
Book,Page,LineNumber,Text
13,0049,001,ปกครองเนื่องด้วยอุปัชฌายะก็ชอบอยู่  เมื่อท่านไปแล้ว  นิสัย 
13,0049,002,อาจารย์กลับติดอีก  กิจด้วยจะต้องขอใหม่ไม่มี  ตลอดเวลาอยู่ใน
13,0049,003,ปกครองของท่าน  ต่อเมื่อออกจากปกครองของท่านด้วยองค์  ๕ 
13,0049,004,ข้างต้นอย่างใดอย่างหนึ่ง  นิสัยจึงระงับ  เช่นอันเตวาสิกลาอาจารย์
13,0049,005,ไปอยู่วัดอื่น  ถือภิกษุอื่นเป็นอาจารย์ในวัดนั้น  ภายหลังกลับมาวัด
13,0049,006,เดิมอีก  เช่นนี้ของนิสัยใหม่ก็ชอบแก่เหตุ.  ถ้าเข้าใจอย่างว่ามานี้
13,0049,007,จะเปลื้องความลำบากของอาจารย์และอันเตวาสิกลงได้  จะทำให้
13,0049,008,อันเตวาสิกพอใจจะเข้าหน้าอุปัชฌายะของตน  ทั้งจะเป็นผลอันดีแก่
13,0049,009,การปกครอง.
13,0049,010,ภิกษุมีพรรษาหย่อน ๕  เป็นนวกะอยู่  แม้เป็นผู้มีความรู้ทรง
13,0049,011,ธรรมทรงวินัย จะไม่ถือนิสัยอยู่ในปกครองของอุปัชฌายะหรือของ
13,0049,012,อาจารย์ไม่ชอบ  ทรงห้ามไว้  ไม่ต้องกล่าวถึงภิกษุผู้ยังไม่รู้อะไร
13,0049,013,เว้นไว้แต่ภิกษุผู้ยังไม่ตั้งลงเป็นหลักแหล่ง  ที่แสดงไว้ในบาลีว่า  ภิกษุ
13,0049,014,เดินทาง  ภิกษุผู้ไข้  ภิกษุผู้พยาบาลผู้ได้รับขอของคนไข้เพื่อให้อยู่ ภิกษุ
13,0049,015,ผู้เข้าป่า  เพื่อเจริญสมณธรรมชั่วคราว.  ในที่ใด  หาท่านผู้ให้นิสัยมิได้
13,0049,016,และมีเหตุขัดข้องที่จะไปอยู่ในที่อื่นไม่ได้  จะอยู่ในที่นั้นด้วยผูกใจว่า
13,0049,017,เมื่อใดมีท่านผู้ให้นิสัยได้มาอยู่ จักถือนิสัยในท่าน  ก็ใช้ได้.
13,0049,018,ภิกษุผู้มีพรรษาได้  ๕ แล้ว  แต่ยังหย่อน ๑๐  ได้ชื่อว่ามัชฌิมะ
13,0049,019,แปลว่าผู้ปานกลาง  มีองคสมบัติพอรักษาตนผู้อยู่ตามลำพังได้  ทรง
13,0049,020,พระอนุญาตให้พ้นจากนิสัยอยู่ตามลำพังได้  เรียกว่า  นิสสัยมุตตกะ
13,0049,021,ฝ่ายภิกษุผู้มีความรู้ไม่พอจะรักษาตน  แม้พ้น  ๕  พรรษาแล้ว  ก็ต้อง