File size: 3,863 Bytes
c5b6280
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
Book,Page,LineNumber,Text
16,0048,001,คนเข้าจับจองทำนา  ใช้เป็นแดนอุทกุกเขปไม่ได้  จะทำกรรมต้องเว้น 
16,0048,002,จากเอกเทศเช่นนั้นชั่วอุทกุกเขปหนึ่ง.  น่านน้ำเดิมดอนขึ้นจนไม่มี
16,0048,003,น้ำขังแล้ว  ปรากฏเพียงสักว่าซาก  พ้นจากภาวะเดิม. 
16,0048,004,คามสีมา  สัตตัพภันตรสีมา  และอุทกุกเขป  รวมเข้าในประเภท
16,0048,005,เดียวกัน  เรียกอพัทธสีมา  มีกำหนดเขตตามชนิดดังกล่าวแล้ว.
16,0048,006,สีมาสังกระ
16,0048,007,เนื่องจากตรัสห้ามไม่ให้สมมติสีมาคาบเกี่ยวกันนั้น พระอาจารย์
16,0048,008,ทั้งหลายเข้าใจความกว้างมากเกินไป  อธิบายถึงการปะปนกันแห่งสีมา
16,0048,009,ไว้โดยอเนกประการ  ย่นแสดงโดยใจความ  มีประการดังต่อไปนี้ :-
16,0048,010,๑.  เพราะในบาลีไม่มีข้อว่าด้วยพัทธสีมาละวัตถุไปได้เอง  นอก
16,0048,011,จากสงฆ์ถอน  สีมานั้นไม่มีสงฆ์ปกครองเป็นเจ้าของ  ไม่มีอะไรเหลือ
16,0048,012,เป็นซากเพื่อจะให้รู้ได้ ท่านว่ายังไม่ละวัตถุ  คงเป็นพัทธสีมาอยู่นั่นเอง
16,0048,013,สงฆ์ภายหลังไม่รู้  สมมติสีมาใหม่คาบเกี่ยวสีมาเดิมเข้า  สีมาใหม่ย่อม
16,0048,014,วิบัติ หากว่ากระแสแห่งแม่น้ำไหลกัดยังพื้นที่สีมานั้นให้พังโดยลำดับ
16,0048,015,จนกลายเป็นแม่น้ำไปแล้ว  เอกเทศแห่งแม่น้ำตรงนั้น  ยังคงเป็น
16,0048,016,พัทธสีมาอยู่นั่นเอง  สงฆ์ภายหลังไม่รู้  ทำกรรมกำหนดเขตด้วยอุทกุกเขป
16,0048,017,ในเอกเทศแห่งแม่น้ำนั้น  ถ้ามีภิกษุมาในเรือผ่านเอกเทศนั้น  แม้ไม่
16,0048,018,เข้าในเขตอุทกุกเขป  ย่อมยังกรรมนั้นให้เสีย.  ท่านอธิบายไว้อย่างนี้
16,0048,019,เพราะเข้าใจว่า  สีมาหยั่งลงไปถึงน้ำหนุนแผ่นดิน  ดังกล่าวแล้วใน
16,0048,020,หนหลัง.  สงฆ์ในภายหลังจะสมมติสีมาขึ้น  จึงต้องสวดถอนดะไปก่อน
16,0048,021,ตลอดพื้นที่ ดังกล่าวแล้วในหนหลัง  ไม่เพ่งถึงความลำบาก  ชื่อว่า