File size: 4,093 Bytes
c5b6280
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
Book,Page,LineNumber,Text
20,0024,001,สักว่ารูป  เวทนา  สัญญา  สังขาร  วิญญาณ  นั่นไม่ใช่ของเรา  นั่นไม่  
20,0024,002,เป็นเรา  นั่นไม่ใช่ตัวของเรา  ดังนี้  ลำดับนี้ พระองค์ทรงแสดงอานิสงส์
20,0024,003,แห่งวิปัสสนาปัญญานั้นว่า  <B>เอวํ  ปสฺสํ  ภิกฺขเว  สุตวา  อริยสาวโก</B>
20,0024,004,เป็นต้น ความว่า  ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย  อริยสาวกผู้ได้ฟังแล้ว  เมื่อเห็น
20,0024,005,อย่างนี้  ย่อมเหนื่อยหน่ายในรูป  เวทนา  สัญญา  สังขาร  วิญญาณ
20,0024,006,เมื่อเหนื่อยหน่าย  ก็ย่อมฟอกจิตให้หมดจด  เพราะการฟอกจิตให้
20,0024,007,หมดจดได้  จิตนั้นก็พ้นจากอาสวะทั้งปวง  เมื่อจิตพ้นพิเศษแล้ว ก็มี
20,0024,008,ญาณหยั่งรู้ว่าพ้นแล้ว  และเธอรู้ประจักษ์ว่า ชาติสิ้นแล้ว  พรหมจรรย์
20,0024,009,คือกิจพระศาสนาได้ประพฤติเสร็จ  กิจที่ควรทำได้ทำเสร็จแล้ว  กิจอื่น
20,0024,010,ที่จะต้องทำเช่นนี้ไม่อีก  ข้อนี้สาธกให้เห็นว่า การยกอนัตตลักษณะ
20,0024,011,ขึ้นแสดงสั่งสอนมีเฉพาะแต่ในพระพุทธศาสนา  และพระองค์ประทาน
20,0024,012,อนุศาสนีด้วยข้อนี้มากกว่าอย่างอื่น เหตุว่าความถือตน  ถือเรา ถือ
20,0024,013,เขา  ยังมีเพียงใด  ความพ้นจากทุกข์ก็ยังไม่มีเพียงนั้น อนัตตา  คือ
20,0024,014,ความไม่ใช่ตนก็เป็นสามัญญลักษณะมีเสมอทั่วกันไปแก่สังขารทั้งปวง
20,0024,015,แต่ไม่มีใครพิจารณาเห็น  ได้ชื่อว่าเช่นกับของที่คว่ำอยู่  พระพุทธเจ้า
20,0024,016,ผู้หยิบยกขึ้นแสดงสอน  ได้ชื่อว่าเหมือนหงายของที่คว่ำอยู่นั้นขึ้น.
20,0024,017,ข้อ ๒  เมื่อผู้มีปัญญาได้ฟังคำสั่งสอนพระพุทธเจ้า  เห็นอนันตต-
20,0024,018,ลักษณะชัดแล้ว  แต่นั้นก็สามารถชำแรกอวิชชา  คือความเขลาไม่รู้
20,0024,019,อันปิดบังสภาวธรรมไว้  ให้สำคัญเห็นเป็นสัตว์เป็นบุคคลออกเสีย
20,0024,020,ได้แล้ว  เห็นเป็นแต่สภาวธรรมซึ่งจะพึงกำหนดเห็นเป็นขันธ์ ๕ คือ
20,0024,021,รูป  เวทนา  สัญญา  สังขาร  วิญญาณ  ซึ่งมีอาการดังกล่าวแล้ว  หรือ