File size: 3,364 Bytes
c5b6280
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
Book,Page,LineNumber,Text
41,0047,001,อัปปนาภาวนา  ๑  ทั้ง  ๓  นี้  จัดเข้าในสมถภาวนา  ไม่มีข้อใดจัดเข้าใน
41,0047,002,วิปัสสนาภาวนา.  ที่จัดเช่นนี้   เพราะภาวนาทั้ง  ๓  เป็นสมถะทั้งหมด
41,0047,003,ส่วนวิปัสสนา  เป็นทัสสนะทางใจในคติธรรมดา   ปรารภสภาวธรรมและ
41,0047,004,สามัญญลักษณะ. 
41,0047,005,๒๕๑๕
41,0047,006,ถ.  ปริญญา  เป็นเหตุผลเนื่องกันอย่างไรหรือไม่  ?  จงอธิบาย.
41,0047,007,ต.  เป็นเหตุผลอันเนื่องกัน  อธิบายว่า   ญาตปริญญา  กำหนด
41,0047,008,รู้ปัญญจขันธ์เป็นต้น   โดยวิภาคจากที่คุมกันแล้ว   ย่อมจำกัดความ
41,0047,009,หลงว่าคนจริงจัง   เหมือนหยุดเครื่องยนต์อันมีปกติหมุนได้แล้ว  เห็น
41,0047,010,ตัวจักรถนัด   เป็นเหตุให้เกิดตีรณปริญญา     พิจารณาเห็นไตรลักษณ์
41,0047,011,ที่ไม่เที่ยงไม่ทนหรือทนยาก   พ้นอำนาจตามเป็นจริงอย่างไร  อันเป็น
41,0047,012,ปัจจัยให้เกิดปหานปริญญา   กำหนดละฉันทะในปัญจขันธ์เป็นต้นนั้น.
41,0047,013,๒๔๗๕
41,0047,014,ถ.  กำหนดรู้ด้วยการรู้   กับกำหนดรู้ด้วยการพิจารณานั้น   ต่าง
41,0047,015,กันอย่างไร  ?
41,0047,016,ต.  ต่างกัน.  กำหนดรู้ด้วยการรู้นั้น   หมายเพียงรู้จักแยกขันธ์
41,0047,017,ออกเป็นส่วน ๆ  จากสังขาร  ว่ามีลักษณะเป็นอย่างไรแล้ว  รู้จัก
41,0047,018,ลักษณะแห่งส่วนนั้น ๆ  นี้เรียกว่ากำหนดรู้ด้วยการรู้.   ส่วนกำหนด
41,0047,019,รู้ด้วยการพิจารณานั้น  คือกำหนดส่วนแห่งขันธ์เป็นต้นอย่างใดอย่างหนึ่ง
41,0047,020,หรือทั้งหมดแล้ว   พิจารณาหาเหตุผลและเกิดดับ   ยกขึ้นพิจารณา
41,0047,021,โดยพระไตรลักษณ์จนมีความเห็นแน่ว่าส่วนนั้น ๆ  ย่อมประกอบด้วยเถิด