File size: 3,548 Bytes
c5b6280
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
Book,Page,LineNumber,Text
42,0024,001,ไร ?  พระ ก. ชอบประพฤติเป็นคนลอบลักความลับของผู้อื่น  ไป
42,0024,002,ด้อมแอบฟังความที่เขาปิดบังมาก็ดี  ไปลักลอบรู้ประโยคหรือเฉลยที่
42,0024,003,เขาสงวน  ดังที่ออกสอบในวันนี้ก็ดี  จะวางบทปรับโทษเธอในฐาน
42,0024,004,อทินนาทานตามสิกขาบทบัญญัติได้หรือไม่ ?  เพราะเหตุไร ?       
42,0024,005,ต.  สิกขาบทบัญญัติ  ท่านเพ่งเฉพาะการลักทรัพย์พัสดุ
42,0024,006,เท่านั้นเป็นอทินนาทาน  ไม่ได้เพ่งถึงการลักอย่างอื่น.  การที่พระ ก. ไป
42,0024,007,ลอบลักความลับของผู้อื่น  ยังวางบทปรับโทษเธอในฐานอทินนาทาน
42,0024,008,คามสิกขาบทบัญญัติยังไม่ได้  เพราะความลับนั้นไม่ใช่เป็นตัวทรัพย์
42,0024,009,พัสดุ  แต่ถึงกระนั้น  ความประพฤติเช่นนั้น  ก็ส่ออากัปปะของเธอเอง
42,0024,010,ว่า  เป็นสมณะเช่นไร  แม้จะเป็นโจรไม่ท่วมตัว  ก็ต้องว่าท่วมขึ้น
42,0024,011,มาถึงคอแล้ว  เพราะกิริยานั้นเป็นกิริยาโจรโดยแท้  แต่หากเคราะห์ดี
42,0024,012,ที่พระบัญญัติจำกัดกรรมของกิริยาเสีย  จึงยังพอรอดตัว  เพียงเป็น
42,0024,013,พระโจร.
42,0024,014,๓/๙/๒๔๖๘
42,0024,015,ถ.  ภิกษุมีไถยจิตลักทรัพย์ที่เป็นสังหาริมะ  พอทำให้เคลื่อน
42,0024,016,จากที่ก็เป็นอันต้องอาบัติ  ส่วนที่ภิกษุรับฝากของมีไถยจิตคิดเอาเสีย
42,0024,017,แม้ทำให้ของนั้นเคลื่อนจากที่ก็ยังไม่ต้องอาบัติ  ข้อนี้มีความหมาย
42,0024,018,ต่างกันอย่างไร ?
42,0024,019,ต.  มีความหมายต่างกันอย่างนี้  คือที่กำหนดให้เป็นอาบัติด้วย
42,0024,020,ทำให้เคลื่อนจากที่นั้น  เพ่งเอาของที่ภิกษุไม่ต้องรับสำนอง  คือรับผิด
42,0024,021,หรือสำหรับใช้ในเมื่อหายแล้ว  ส่วนของภิกษุรับฝากไว้นั้น  ภิกษุต้อง