File size: 3,497 Bytes
c5b6280
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
Book,Page,LineNumber,Text
04,0020,001,ทรงมอบให้สงฆ์เป็นใหญ่ในกิจ  
04,0020,002,วันหนึ่ง  พระศาสดาทรงพระดำเนินอยู่ในพระวิหารทอดพระเนตร
04,0020,003,เห็นราธพราหมณ์มีร่างกายอันผอม  มีผิวเศร้าหมองไม่สดใส  ตรัสถาม
04,0020,004,ได้ความว่า  ราธพราหมณ์ปรารถนาจะบวช  แต่ไม่มีใครบวชให้ เมื่อ
04,0020,005,ไม่ได้บวชสมประสงค์  จึงได้เป็นเช่นนั้น  จึงตรัสถามภิกษุทั้งหลายว่า
04,0020,006,"ใครระลึกถึงอุปการะของพราหมณ์ผู้นั้นได้บ้าง,  พระสารีบุตรกราบทูล"
04,0020,007,ว่า  ข้าพระเจ้านึกได้อยู่ วันหนึ่ง  ข้าพระเจ้าเที่ยงไปบิณฑบาตในกรุง
04,0020,008,"ราชคฤห์,  พราหมณ์นั้นได้ให้อาหารแก่ข้าพระเจ้าทัพพีหนึ่ง,  พระ"
04,0020,009,"ศาสดาตรัสว่าดีละ ๆ สารีบุตร  สัตบุรุษเป็นคนกตัญญูกตเวที,  ถ้า"
04,0020,010,อย่างนั้นสารีบุตรให้พราหมณ์นั้นบวชเถิด.  ครั้นตรัสสั่งพระสารีบุตร
04,0020,011,ที่ทรงพระอนุญาตไว้แล้วแต่เดิม  ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นไป  ทรงอนุญาต
04,0020,012,ให้สงฆ์อุปสมบทกุลบุตรด้วยวิธีประชุมภิกษุในมัธยมชนบท ๑๐ รูปใน
04,0020,013,"ปัจจันตชนบทที่หาภิกษุยากเพียง ๕ รูป,  ภิกษุรูปหนึ่งประกาศสงฆ์"
04,0020,014,ให้รู้เรื่องครั้งหนึ่งก่อน แล้วประกาศความรับอุปสมบท  คือสมมติคนนั้น
04,0020,015,"ให้เป็นภิกษุของสงฆ์อีกสามคราว, ถ้าไม่มีภิกษุคัดค้าน, ผู้นั้นชื่อว่า"
04,0020,016,"เป็นภิกษุ,  ถ้าถูกคัดค้านจนเสียเดียวเป็นอันไม่ยอมรับ.  อุปสมบท"
04,0020,017,ชนิดนี้เรียกว่าญัตติจตุตถกัมมอุปสัมปทา  แปลว่าอุปสมบทด้วยการ
04,0020,018,สงฆ์มีวาจาประกาศเป็นที่สี่.  ผู้จะอุปสมบทต้องมีภิกษุผู้รับรอง  เรียกว่า
04,0020,019,อุปัชฌายะ.<SUP>๑</SUP>