File size: 4,026 Bytes
c5b6280
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
Book,Page,LineNumber,Text
10,0029,001,เมื่อพิจารณาเห็นอย่างนี้  ย่อมละความพอใจรักใคร่กระวนกระวายในกาม 
10,0029,002,เสียได้  อนึ่ง  เวทนาเป็น ๓ อย่าง คือ  สุข  ทุกข์  อุเบกขา  คือ  ไม่ใช่
10,0029,003,ทุกข์ไม่ใช่สุข   ในสมัยใดเสวยสุข  ในสมัยนั้น  ไม่ได้เสวยทุกข์  และ
10,0029,004,อุเบกขา   ในสมัยใด  เสวยทุกข์  ในสมัยนั้น  ไม่ได้เสวยสุข  และ
10,0029,005,อุเบกขา.   สุข ทุกข์ อุเบกขา ทั้ง ๓ อย่างนี้ ไม่เที่ยง ปัจจัยประชุม
10,0029,006,แต่งขึ้น  อาศัยปัจจัยเกิดขึ้นแล้วมีความสิ้นไป  เสื่อมไป  คลายไป
10,0029,007,ดับไปเป็นธรรมดา  อริยสาวกผู้ได้ฟังแล้ว  เมื่อเห็นอย่างนี้ย่อมเบื่อหน่าย
10,0029,008,ทั้งในสุข ทุกข์ อุเบกขา  เมื่อเบื่อหน่าย  ก็ปราศจากกำหนัด  เพราะ
10,0029,009,ปราศจากกำหนัด  จิตก็พ้นจากความถือมั่น   เมื่อจิตพ้นแล้ว  ก็เกิด
10,0029,010,ญาณรู้ว่าพ้นแล้ว  อริยสาวกนั้นรู้ชัดว่าชาติสิ้นแล้ว  พรหมจรรย์ได้อยู่
10,0029,011,จบแล้ว  กิจที่จำจะต้องทำได้ทำสำเร็จแล้ว  กิจอื่นอีกเพื่อความเป็นอย่างนี้
10,0029,012,มิได้มี   ภิกษุผู้พ้นแล้วอย่างนี้  ไม่วิวาทโต้เถียงกับผู้ใด  ด้วยทิฏฐิของ
10,0029,013,ตน  โวหารใด  เขาพูดกันอยู่ในโลก  ก็พูดตามโวหารนั้น  แต่ไม่ถือ
10,0029,014,มั่นด้วยทิฏฐิ.   สมัยนั้น  พระสารีบุตรนั่งถวายอยู่งานพัด  เบื้องพระ-
10,0029,015,ปฤษฎางค์แห่งพระศาสดา  ได้ฟังธรรมเทศนาที่ตรัสแก่ทีฆนขปริพาชก
10,0029,016,จึงดำริว่า   พระศาสดาตรัสสอนให้ละการถือมั่นธรรมเหล่านั้น  ด้วย
10,0029,017,ปัญญาอันรู้ยิ่ง  เมื่อท่านพิจารณาอย่างนั้น  จิตก็พ้นจากอาสวะ  ไม่ถือ
10,0029,018,มั่นด้วยอุปทาน.  ส่วนทีฆนขปริพาชกนั้น  เป็นแต่ได้ดวงตาเห็นธรรม
10,0029,019,สิ้นความเคลือบแคลงสงสัยในพระพุทธศาสนา  ทูลสรรเสริญพระธรรม-
10,0029,020,เทศนาและแสดงตนเป็นอุบาสก.
10,0029,021,พระอรรถกถาจารย์  แก้การที่พระสารีบุตรได้บรรลุพระอรหัตช้า