File size: 3,833 Bytes
c5b6280 |
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 |
Book,Page,LineNumber,Text
17,0010,001,โดยสังขิตนัย ข้อหนึ่งว่า <B>กุสลํ ภิกฺขเว ภาเวถ<SUP>๑</SUP></B> ดูก่อนภิกษุ
17,0010,002,ทั้งหลาย ขอท่านทั้งหลายบำเพ็ญกุศลเถิด กุศลนี้สามารถจะบำเพ็ญได้
17,0010,003,หาไม่เราก็จะไม่กล่าวชักชวนท่านทั้งหลาย เพราะกุศลเป็นการที่
17,0010,004,สามารถจะบำเพ็ญได้แท้ เราจึงได้กล่าวชักชวนท่าน อีกประการ
17,0010,005,หนึ่ง ถ้ากุศลที่บำเพ็ญแล้วจะเป็นไปเพื่อผลอันไม่เป็นประโยชน์และ
17,0010,006,เป็นไปเพื่อทุกข์แล้ว เราก็จะไม่กล่าวชวนท่านเหมือนกัน เพราะเหตุ
17,0010,007,กุศลที่บำเพ็ญแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อหิตสุข เราจึงกล่าวชวนท่าน อีก
17,0010,008,ข้อหนึ่ง พระองค์ตรัสให้เกิดอุตสาหะว่า <B>มา ภิกฺขเว ปุานํ
17,0010,009,ภายิตฺถ<SUP>๒</SUP></B> ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ท่านทั้งหลายอย่าได้กลัวแต่บุญเลย
17,0010,010,<B>สุขสฺเสตํ ภิกฺขเว อธิวจนํ ยทิทํ ปุญฺานีติ<SUP>๓</SUP></B> คำว่าบุญ ๆ นี้
17,0010,011,เป็นชื่อของสุข อธิบายว่า กรรมที่สัตว์กระทำด้วยไตรทวาร จะได้
17,0010,012,โวหารว่าบุญก็ดี กุศลก็ดี ต้องมี อโลภะ อโทสะ อโมหะ เป็น
17,0010,013,สมุฏฐาน ข้อนี้เป็นการทวนกระแสโลกประวัติ ยากที่สัตวโลกจะ
17,0010,014,บำเพ็ญ ถึงเช่นนั้น ก็ยังไม่เป็นอันพ้นวิสัยของผู้ประกอบด้วยปรีชาเล็ง
17,0010,015,เห็นผลแล้ว มีความกล้าหาญอดทนกระทำ ข้อนี้แลเป็นเหตุให้สัตว-
17,0010,016,โลกพิเศษและต่ำช้าไม่เสมอทั่วกันไป บุคคลผู้ใดแม้แลเห็นผลแห่ง
17,0010,017,บุญจริยาประจักษ์ แต่มาท้อถอยไม่สามารถจะบำเพ็ญ มีฉันทะ
17,0010,018,อุตสาหะปีติปราโมทย์ในบุญจริยาน้อยเบาบางไม่กล้าหาญพอจะต่อสู้ด้วย
17,0010,019,หมู่กิเลสมาร คือ โลภะ โทสะ โมหะ อันมีกำลังกล้า บุคคล
17,0010,020,ผู้นั้นได้ชื่อว่ากลัวแต่บุญ สมเด็จพระบรมศาสดาจารย์ ประทาน
|