File size: 3,329 Bytes
c5b6280
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
Book,Page,LineNumber,Text

26,0039,001,ที่  ๑๐ ]   แปลงแต่ในสิกขาบทนี้   ภิกษุผู้ประพฤติล่วงไม่ได้เป็นตัวการ 

26,0039,002,เอง   เป็นแต่สมรู้ร่วมคิด   ช่วยอุดหนุนส่งเสริม   และคอยทัดทานภิกษุ

26,0039,003,อื่นไว้   ไม่ให้ว่ากล่าวภิกษุผู้ทำลายสงฆ์นั้น   [ สงฆ์ผู้สวดสมนุภาสนะ

26,0039,004,เพียง  ๒-๓  รูปก็ได้ ].

26,0039,005,สิงขาบทที่   ๑๒  ภิกษุเป็นคนดื้อ   ว่ายากสอนยาก   ไม่เชื่อฟังคำ

26,0039,006,ตักเตือนของพระภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง   ห้ามภิกษุไม่ให้เตือนไม่ให้สอนเธอ

26,0039,007,ด้วยประการทั้งปวง   ให้สงฆ์ตั้งแต่   ๔  รูปขึ้นไป   สวดสมนุภาสนะแก่

26,0039,008,เธอ. 

26,0039,009,สิกขาบทที่   ๑๓  ภิกษุประทุษร้ายตระกูล   คือประจบประแจง

26,0039,010,คฤหัสถ์   ด้วยอาการที่เอาอะไรไปให้เขาก็ดี   หรือรับใช้สอยเขาด้วย

26,0039,011,กิจธุระใด ๆ  ก็ดี  เพื่อจะให้เขาชอบตน   จนเป็นเหตุให้เขาเสื่อมศรัทธา

26,0039,012,ไม่มีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา   เช่นนี้เรียกว่าประทุษร้ายตระกูล.

26,0039,013,<B>วิธีอยู่กรรม</B>

26,0039,014,ภิกษุใดเมื่อต้องอาบัติสังฆาทิเสสเข้าแล้ว   ถ้าไม่ปกปิดไว้ก็เป็น

26,0039,015,แต่ขอมานัตต่อสงฆ์   ตั้งแต่  ๔  รูปขึ้นไป   แล้วให้อยู่มานัตครบ  ๖  ราตรี

26,0039,016,เมื่ออยู่ครบแล้ว  ไปขออัพภานต่อสงฆ์   ๒๐  รูปเป็นกำหนด   เมื่อออก

26,0039,017,อัพภานแล้ว   ก็เป็นอันเสร็จตามวิธี   ถ้าปกปิดไว้นานเท่าใด   ต้องไปอยู่

26,0039,018,ปริวาสเท่านั้นก่อน   แล้วจึงไปขอมานัต   และออกอัพภานดุจกล่าว

26,0039,019,มาแล้ว.

26,0039,020,อนึ่ง   ในเวลาที่อยู่ปริวาสและมานัตนั้น   ถ้ามีภิกษุอื่นไป   ต้อง