File size: 3,815 Bytes
c5b6280
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
Book,Page,LineNumber,Text
42,0037,001,ต.  เห็นว่าในวิภังค์แจกอาบัติวารเผลอไป  ความเผลอในวิภังค์
42,0037,002,นั้นอาจชี้ได้หลายแห่ง  ในฐานะอย่างนี้  เห็นว่าควรยกอาบัติที่หนัก
42,0037,003,กว่าขึ้นปรับ  ในอธิการนี้  ต้องปรับเป็นปาจิตตีย์  เพราะพูดมุสาเทียบ
42,0037,004,ด้วยสัญเจตนิกา  บุรพประโยคแห่งประถมปาราชิก  ปรับไว้ในวินีตวัตถุ
42,0037,005,เป็นสังฆาทิเสส  ไม่ปรับถุลลัจจัย.   
42,0037,006,๙/๑๑/๒๔๖๐
42,0037,007,ถ.  การกล่าวโอมสวาท  (คำพูดเสียดแทงให้เจ็บใจ)  เป็นกิริยา
42,0037,008,ที่เลวทรามเพียงไร  ผู้มีศีลเป็นที่รักคงทราบกันดีแล้ว  แม้พระศาสดา
42,0037,009,ก็ทรงเห็นเป็นการเสียหายแก่สาวก  เพราะไม่เหมาะสมแก่สารูปของสมณะ
42,0037,010,จึงทรงบัญญัติสิกขาบทขึ้นไว้  เพื่อลงโทษประจานความเลวทรามนั้น
42,0037,011,แต่การกล่าวนั้น  กล่าวด้วยวาจาก็มี  เขียนหนังสือก็มี  ต่างกันอย่างไร
42,0037,012,ถ้าภิกษุกล่าวกะอุปสัมบันเป็นอาบัติอะไร  ต่างจากอนุปสัมบันหรือไม่ ?
42,0037,013,ต.  การกล่าวโอมสวาท  จะกล่าวด้วยวาจาหรือด้วยเขียนหนังสือ
42,0037,014,ก็ตาม  ก็คงให้สำเร็จผลอย่างเดียวกัน  ทั้งผู้กล่าว  ทั้งผู้ที่ถูกกล่าว
42,0037,015,ไม่ต่างอะไรกัน  แต่เห็นว่าเขียนหนังสือจะต่างจากกล่าวด้วยวาจาอยู่บ้าง
42,0037,016,เพราะวาจาเมื่อพูดแล้ว  เสียงที่พูดก็หายไป  แต่หนังสือนั้นยังไม่ถูก
42,0037,017,ทำลายลงตราบใด  ก็ยังปรากฏอยู่ตราบนั้น  เมื่อเทียบกับรูปภาพที่เขียน
42,0037,018,ก็ไม่ต่างอะไรกัน  จะต่างกันก็แต่นั่นเป็นภาพรูป  นี่เป็นภาพถ้อยคำ
42,0037,019,เท่านั้น  เพราะฉะนั้น  จึงทำให้น่ารังเกียจ.
42,0037,020,โอมสวาทนี้  ถ้าภิกษุกล่าวกะอุปสัมบัน  ด้วยปรารถนาจะให้
42,0037,021,เจ็บใจ  ก็เป็นอาบัติปาจิตตีย์  ต่างจากอนุปสัมบันซึ่งเป็นเพียงทุกกฏ