File size: 3,456 Bytes
c5b6280
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
Book,Page,LineNumber,Text
43,0050,001,หรือบอกแก่ผู้อื่น  ซึ่งธรรมเป็นอันมากก็ไม่สามารถตรัสรู้ธรรมพิเศษ
43,0050,002,ในอัตภาพนั้นได้ ประหนึ่งดอกอุบลอันอยู่ในน้ำ  อันเป็นภักษาแห่ง
43,0050,003,ปลาและเต่า  ฉะนั้น.  พระสารีบุตรกับพระโมคคัลลานะ  ๒  องค์นี้
43,0050,004,จัดเข้าในประเภทที่ ๑  ได้   เพราะท่านทั้ง ๒  นั้น ได้ฟังเพียงหัวข้อ
43,0050,005,แห่งพระพุทธศาสนาที่พระอัสสชิยกขึ้นแสดงเท่านั้น  ก็ยังตรัสรู้ธรรม
43,0050,006,พิเศษได้ในทันใด.  
43,0050,007,๒๐/๘/๗๐
43,0050,008,ถ.  เราทั้งหลายแสดงตนว่านับถือพระผู้มีพระภาคเป็นพระศาสดา
43,0050,009,ผู้แนะนำสั่งสอน  โดยฐานะเป็นพระบรมครูอย่างประเสริฐ  ฉะนี้.  หากมี
43,0050,010,ผู้มาซักถามเราว่า  ครูของท่านสอนอย่างไร  เราควรตอบแก้ไขเขา
43,0050,011,อย่างไร  จึงจะเป็นอันไม่ผิดคำสอนของพระศาสดา ?
43,0050,012,ต.  ขอนำคำของพระสารีบุตรมาเฉลยว่า  ถ้าเขาถามอย่างนั้น
43,0050,013,พึงพยากรณ์ว่า  ครูของเราสอนให้ละความกำหนัดรักใคร่เสีย.  ถ้าเขา
43,0050,014,ถามอีกว่า  ละความกำหนัดรักใคร่ในสิ่งไร  พึงพยากรณ์ว่าในขันธ์ ๕.
43,0050,015,ถ้าเขาถามอีกว่า  ครูของท่านเห็นโทษอะไร  และเห็นอานิสงส์อะไร
43,0050,016,ึจึงสอนอย่างนั้น   พึงพยากรณ์ว่า เมื่อบุคคลมีความกำหนัดรักใคร่
43,0050,017,ในสิ่งเหล่านั้น  ครั้นสิ่งเหล่านั้นแปรปรวนไปเป็นอย่างอื่น  ก็เกิดทุกข์
43,0050,018,มีโศกร่ำไรเป็นต้น.  เมื่อละความกำหนัดรักใคร่ในสิ่งเหล่านั้นได้แล้ว
43,0050,019,ถึงสิ่งเหล่านั้นจะวิบัติแปรปรวนไป  ทุกข์เหล่านั้นก็ไม่เกิด  ครูของเรา
43,0050,020,เห็นโทษและอานิสงส์เหล่านี้.
43,0050,021,๒๙/๘/๗๑