File size: 5,012 Bytes
c5b6280
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
Book,Page,LineNumber,Text
45,0040,001,เดือนอาสาฬหะ   อันเป็นวันกำหนดนัดแสดงปาฏิหาริย์ตอนเช้าได้เกิดพายุใหญ่ขึ้นใน
45,0040,002,พระนครสาวัตถี  พายุพัดมณฑปของพวกเดียรถีย์พังพินาศลงสิ้นจนหาชิ้นดีไม่ได้
45,0040,003,และในตอนเช้าวันนั้น  พระพุทธองค์ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะทรงแสดงพระปาฏิหาริย์ตาม  
45,0040,004,รับสั่งแต่ประการใด  ตกตอนบ่าย  มีคนเฝ้าสวนหลวงของพระเจ้าปัสเสนทิโกศล  ชื่อ
45,0040,005,นายคัณฑะ  นำผลมะม่วงทะวายที่หลงตาอยู่ผลหนึ่งจะไปเฝ้าพระเจ้าแผ่นดินได้พบ
45,0040,006,พระพุทธองค์ก่อน  เกิดความเลื่อมใสศรัทธาจึงน้อมผลมะม่วงสุกนั้นถวายพระพุทธองค์
45,0040,007,เมื่อพระพุทธองค์ทรงรับแล้ว  ตรัสสั่งให้พระอานนท์เถระพุทธอุปัฏฐากจัดทำน้ำปานะ
45,0040,008,ด้วยผลมะม่วงนั้นถวายและได้นำเมล็ดวางลงบนพื้นดินทรงนั้นทรงแันน้ำปานะเสร็จแล้ว
45,0040,009,ทรงล้างพระหัตถ์ให้น้ำตกลงบนเมล็ดมะม่วงนั้น  ทันทีก็เกิดปาฏิหาริย์เมล็ดมะม่วง
45,0040,010,นั้นได้งอกออกเป็นมะม่วงต้นสูงใหญ่ขึ้นในปัจจุบันทันใด  พระพุทธองค์จึงรับสั่งว่า
45,0040,011,จะทรงแสดงปาฏิหาริย์ที่ต้นมะม่วงต้นนี้
45,0040,012,พอข่าวแพร่ไปได้ไม่เท่าไรมหาชนก็พากันมาประชุมเนื่องแน่นแม้แต่พระ
45,0040,013,เจ้าปัสเสนทิโกศลและเหล่าเสนาข้าราชการก็เสด็จและมา  พระพุทธองค์จึงทรงเริ่ม
45,0040,014,แสดงพระปาฏิหาริย์
45,0040,015,ทรงบันดาลให้เกิดช่อไฟและท่อน้ำแล่นเป็นคู่สลับกันในอากาศโดยรอบ
45,0040,016,บริเวณต้นมะม่วงนั้นแล้วทรงเนรมิตพระพุทธนิมิตมีพระพุทธลักษณะเหมือนพระ-
45,0040,017,พุทธองค์ทุกประการขึ้นองค์หนึ่ง  ให้เป็นคู่กับพระพุทธองค์ทรงเปล่งพระฉันพรรณ-
45,0040,018,รังสีกระจายออกทั่วบริเวณจับช่อไฟและธารน้ำ  ซึ่งแล่นอยู่นั้น  บังเกิดเป็นสีรุ่งงามระยับ
45,0040,019,ทั่วไป   ทรงแสดงธรรมและทรงจงกรมสลับกันกับพระพุทธนิมิตเมื่อพระพุทธองค์
45,0040,020,บนต้นพระพุทธนิมิตก็กลับลงมาประทับที่โคนต้นแทน   สลับกันอยู่เช่นนี้ตลอดเวลา
45,0040,021,ปรากฏว่ามหาชนพากันกราบไหว้บูชาสรรเสริญพระพุทธคุณกันทั่ว
45,0040,022,"การแสดงพระปาฏิหาริย์เป็นคู่ ๆ  ดังกล่าวนี้  จึงเรียกว่า  ""<B>ยมกปาฏิหาริย์</B>"""
45,0040,023,มีครั้งเดียว  คือครั้งนี้เท่านั้น  เป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก  ครั้นมหาชนได้ทราบความจริง