|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
09,0038,001,ไปแล้ว หมายเอาผีผู้เคยเป็นมนุษย์มาก่อน ยังไม่ได้ไปถือกำเนิดอื่น
|
|
09,0038,002,ได้ในศัพท์ สัมภเวสี ผู้แสวงหาที่เกิดในเมตตสูตร ภายหลังหมาย
|
|
09,0038,003,เอาเฉพาะจำพวกทำบาปมีโทษไม่ถึงตกนรก แต่มีรูปร่างซวดทรงไม่
|
|
09,0038,004,สมประกอบ ตกยาก ได้ความอดอยากเป็นล้นเหลือ เดือดร้อน
|
|
09,0038,005,ไปในทางเป็นอยู่ของตนเอง. พวกเปรตนี้ ดูเหมือนอาศัยมนุษยโลก
|
|
09,0038,006,ก็มี พึงเห็นอย่างพวกเปรตพระญาติเก่าของพระเจ้าพิมพิสาร ซึ่ง
|
|
09,0038,007,กล่าวถึงในติโรกุฑฑสูตร และในอรรถกถาแห่งสูตรนั้น ดูเหมือนมี
|
|
09,0038,008,ภูมิสำหรับก็มี พึงเห็นอย่างพวกเปรตซึ่งกล่าวถึงในชาณุสโสณีสูตร
|
|
09,0038,009,นอกจากนี้ ยังมีเปรตอีกจำนวนหนึ่ง อยู่ปลีกตามลำพังในมนุษยโลก
|
|
09,0038,010,ได้เสวยสุขเสวยทุกข์ปนกัน มีวิมานอยู่ มีสมบัติ ได้เสวยสุขในวิมาน
|
|
09,0038,011,ในวัน ครั้นค่ำลง ต้องออกจากวิมานไปรับกรรมการณ์เหมือนสัตว์
|
|
09,0038,012,นรกในคืน พอสว่างก็กลับวิมานได้อีก. อสุรกาย เป็นจำพวกที่
|
|
09,0038,013,มัว ในบาลีไม่กล่าวถึงเลย ในอรรถกถาก็ได้พบเพียงสักว่าชื่อ ใน
|
|
09,0038,014,ปทานุกรมสํสกฤต แก้อสุรศัพท์ว่าผู้เป็นอยู่ อธิบายว่า ได้แก่ผีเป็น
|
|
09,0038,015,อทิสสมานกาย ประเภทที่ชั่ว ตรงกับผีไม่มีชื่อผู้เที่ยวหลอกมนุษย์
|
|
09,0038,016,ให้ตกใจกลัว. ผีแปลกจากเปรตเพราะเที่ยวหลอก เปรตไม่หลอก
|
|
09,0038,017,เป็นแต่คนไปพบเข้าเอง หรือเมื่อจะร้องทุกข์แก่คน ก็แสดงตัวให้เห็น
|
|
09,0038,018,เป็นอทิสสมานกายหรือไม่ ๆ ชัด กล่าวถึงทั้ง ๒ อย่าง. อาหารของ
|
|
09,0038,019,สัตว์นรก ท่านกล่าวว่ากรรม. อาหารของสัตว์ดิรัจฉาน เป็นตาม
|
|
09,0038,020,ประเภทของมัน ที่เป็นส่วนใหญ่ ของเกิดในสรีระแห่งสัตว์ด้วยกัน
|
|
09,0038,021,เป็นต้นว่าเนื้อและเลือดก็มี ของนับเข้าในภูตคาม เป็นต้นว่าหญ้าและ
|
|
|