dhamma-scholar-book / 26 /260006.csv
uisp's picture
init upload
c5b6280
raw
history blame
4.03 kB
Book,Page,LineNumber,Text
26,0006,001,ความพะรุงพะรัง เป็นไปเพื่อสะสมกิเลสและทุกข์ ยั่วให้เกิดราคะ
26,0006,002,ความกำหนัดมากขึ้น ทำให้หลงไม่รู้จริงตามธรรมดาของสังขาร ปิด
26,0006,003,ช่องทางแห่งความดี อันจะให้ไหลหลั่งเข้ามาเสียหมด โดยประการ
26,0006,004,ทั้งปวง เมื่อภิกษุประพฤติล่วงเข้า ก็เท่ากับคนที่ถูกตัดศีรษะเสียแล้ว
26,0006,005,จะกลับพื้นมีชีวิตไม่ได้ฉะนั้น เพราะฉะนั้น การเสพเมถุน จึงเป็นกิจ
26,0006,006,ที่ภิกษุไม่ควรทำประการหนึ่ง.
26,0006,007,๒. อทินนาทาน ถ้าภิกษุล่วงเข้าแล้ว ต้องได้รับโทษดังที่ได้
26,0006,008,กล่าวมาแล้วในข้อเสพเมถุนเหมือนกัน เพราะการที่ประพฤติโจรกรรม
26,0006,009,ได้ชื่อว่ายังชีวิตของตนให้เป็นอยู่ โดยแสวงหาในทางผิด ๆ เห็นแต่
26,0006,010,ความสุขเฉพาะตนถ่ายเดียว ไม่แลเหลียวถึงความทุกข์ของผู้อื่นบ้างเลย
26,0006,011,เป็นการเลี้ยงชีพไม่ชอบธรรม ภิกษุใดประพฤติเช่นนี้ ได้ชื่อว่า
26,0006,012,ทำลายความดีของตนเสียเอง ย่อมจะต้องได้รับโทษ คือขาดจากความ
26,0006,013,เป็นภิกษุ ไม่เป็นภิกษุได้อีกจนตลอดชีวิต เพราะล่วงกรรมสิทธิ์
26,0006,014,ในทรัพย์สมบัติของผู้อื่น ได้ราคาตั้งแต่ ๕ มาสกขึ้นไป ท่านเปรียบ
26,0006,015,ไว้ว่าเหมือนกับใบไม้ที่หล่นหลุดออกแล้วจากหัวขั้ว มีแต่จะแห้งเหี่ยว
26,0006,016,ไปโดยถ่ายเดียว ไม่มีเวลาที่จะกลับสดขึ้นได้อีกฉะนั้น เพราะฉะนั้น
26,0006,017,การประพฤติโจรกรรม จึงเป็นกิจที่ภิกษุไม่ควรกระทำประการหนึ่ง.
26,0006,018,๓. การทำปาณาติบาต คือฆ่าสัตว์ การฆ่าสัตว์ย่อมเป็นการ
26,0006,019,ปราศจากเมตตาจิต ทำให้สัตว์อื่นต้องเสียชีวิต อันพึงสงวนและ
26,0006,020,รักใคร่ โดยไม่ใช่เหตุจำเป็น เพราะฉะนั้น ในฝ่ายพระศาสนา ท่าน
26,0006,021,จึงปรับโทษภิกษุผู้กระทำผิดเพราะฆ่าชีวิตมนุษย์ ไว้เป็นอย่างแรงถึง