|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
31,0002,001,ถ้าไม่รู้ก็จะไปทำในทางอื่นที่ผิดจากธรรมเนียมของสมณะ ซึ่งเป็นการ
|
|
31,0002,002,ไม่สมควรประการหนึ่ง และอกรณียกิจเป็นทางสำคัญใกล้ต่อความขาด
|
|
31,0002,003,จากภิกษุ นับว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ควรให้ผู้บวชรู้เสียแต่แรกประการหนึ่ง
|
|
31,0002,004,ดังนี้ พออุปสมบทแล้ว พระอุปัชฌาย์จึงบอกอนุศาสน์เสียแต่เมื่อบวช
|
|
31,0002,005,ใหม่ทีเดียว.
|
|
31,0002,006,๒๔๕๗
|
|
31,0002,007,ถ. เหตุไฉนพระศาสดา จึงทรงแสดงนิสัย ๔ ไว้ในอนุศาสน์
|
|
31,0002,008,เนื่องด้วยการบิณฑบาต นุ่งห่มผ้าบังสุกุล อยู่โคนไม้ ฉันยาดองด้วย
|
|
31,0002,009,น้ำมูตรเน่า ? จงอธิบาย.
|
|
31,0002,010,ต. การที่พระบรมศาสดาจะทรงแสดงนิสัย ๔ ไว้ในอนุศาสน์
|
|
31,0002,011,เนื่องด้วยบิณฑบาต นุ่งห่มผ้าบังสุกุล อยู่โคนไม้ และฉันยาดอง
|
|
31,0002,012,ด้วยน้ำมูตรเน่านั้น เพราะว่าพระองค์ผู้เสด็จออกจากศากยสกุล อัน
|
|
31,0002,013,บริบูรณ์มั่งคั่งประกอบด้วยศฤงคารบริวาร บรรพชา ก็โดยที่พระองค์
|
|
31,0002,014,ทรงเห็นว่า ศฤงคารบริวารหรือลาภยศซึ่งทุก ๆ คนปรารถนา แม้จะนำ
|
|
31,0002,015,ความสุขให้เกิดก็เป็นชั่วคราว ซ้ำกลับจะทำบุคคลให้กำหนัดในอารมณ์
|
|
31,0002,016,เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัด ขัดเคืองในอารมณ์เป็นที่ตั้งแห่งความขัด
|
|
31,0002,017,เคือง ลุ่มหลงในอารมณ์เป็นที่ตั้งแห่งความลุ่มหลง มัวเมาในอารมณ์
|
|
31,0002,018,เป็นที่ตั้งแห่งความมัวเมา ทั้งทำใจให้เดือดร้อนกระวนกระวายเป็นทุกข์
|
|
31,0002,019,ในเมื่อสิ่งเหล่านั้นวิบัติไป ครั้นพระองค์ทรงเล็งเห็นเช่นนี้แล้วก็ทรง
|
|
31,0002,020,เบื่อหน่ายไม่ไยดี จึงได้เสด็จออกบรรพชาแสวงหาสิ่งกุศลสันติวรบท
|
|
31,0002,021,ซึ่งเป็นทางแห่งความสงบระงับไม่เกี่ยวข้องด้วยส่วนลามกเหล่านั้น ใน
|
|
|