dhamma-scholar-book / 31 /310011.csv
uisp's picture
init upload
c5b6280
raw
history blame
3.37 kB
Book,Page,LineNumber,Text
31,0011,001,เขตนั้นไป ย่อมเป็นความผิดและเสียหายได้เหมือนกัน.
31,0011,002,๒๔๗๗
31,0011,003,ถ. เป็นบรรพชิตต้องปฏิบัติพระวินัยให้สมแก่ภาวะของตน ๆ ก็
31,0011,004,พระวินัยนั้นคืออะไร ? และมีการลงโทษต่างจากกฎหมายบ้านเมือง
31,0011,005,อย่างไร ?
31,0011,006,ต. พระวินัยนั้น คือพระพุทธบัญญัติและอภิสมาจาร. มีการ
31,0011,007,ลงโทษต่างจากกฎหมายบ้านเมือง คือ กฎหมายบ้านเมือง บุคคลเป็นผู้
31,0011,008,ลงโทษแก่ผู้ประพฤติผิดอีกชั้นหนึ่ง บางครั้งประพฤติล่วงแล้ว แต่หา
31,0011,009,หลักฐานอะไรมิได้ ไม่ถูกลงโทษก็มี บางครั้งไม่ได้ประพฤติล่วงกฎ-
31,0011,010,หมาย แต่เข้าระหว่างแก้ตัวไม่ได้ ถูกลงโทษก็มี. ส่วนพระวินัยลงโทษ
31,0011,011,เฉพาะผู้ประพฤติล่วงละเมิดเท่านั้น เมื่อประพฤติล่วงละเมิดแล้ว ใคร
31,0011,012,รู้เห็นก็ตาม ไม่รู้ไม่เห็นก็ตาม ก็เป็นอันมีโทษตามพระพุทธบัญญัติ
31,0011,013,กล่าวคือเป็นอาบัติ.
31,0011,014,๒๔๗๓
31,0011,015,ถ. จงอธิบายประโยชน์แห่งการบัญญัติพระวินัย ?
31,0011,016,ต. อธิบายว่า ประโยชน์แห่งการบัญญัติพระวินัยนั้น เพื่อให้
31,0011,017,เป็นบรรทัดดัดกายวาจาให้เรียบร้อยดีงาม เพราะผู้ที่มาบวชในพระ-
31,0011,018,พุทธศาสนา เป็นผู้ต่างชาติต่างสกุลต่างนิสัยใจคอกัน เมื่อไม่มีพระวินัย
31,0011,019,ไว้เป็นข้อขีดขั้นความประพฤติแล้ว ไหนเลยความประพฤติจะลงคลอง
31,0011,020,อันหนึ่งอันเดียวกันได้ เมื่อในหมู่หนึ่งต่างมีความประพฤติผิดแปลกกัน
31,0011,021,แล้ว ผลคือความเสียหายอื่นไม่ต้องกล่าวถึง พระวินัยย่อมเป็นเครื่อง