dhamma-scholar-book / 01 /010014.csv
uisp's picture
init upload
c5b6280
Book,Page,LineNumber,Text
01,0014,001,มาประเคน ห้ามเสียแล้ว ลุกจากที่นั่งนั้นแล้ว ฉันของเคี้ยวของฉันซึ่ง
01,0014,002,ไม่เป็นเดนภิกษุไข้ หรือไม่ได้ทำวินัยกรรม ต้องปาจิตตีย์.
01,0014,003,๖. ภิกษุรู้อยู่ว่า ภิกษุอื่นห้ามข้าวแล้ว [ ตามสิกขาบทหลัง ]
01,0014,004,คิดจะยกโทษเธอ แกล้งเอาของเคี้ยวของฉันที่ไม่เป็นเดนภิกษุไข้ ไปล่อ
01,0014,005,ให้เธอฉัน ถ้าเธอฉันแล้ว ต้องปาจิตตีย์.
01,0014,006,๗. ภิกษุฉันของเคี้ยวของฉันที่เป็นอาหารในเวลาวิกาล คือตั้งแต่
01,0014,007,เที่ยงแล้วไปจนถึงวันใหม่ ต้องปาจิตตีย์.
01,0014,008,๘. ภิกษุฉันของเคี้ยวของฉันที่เป็นอาหารซึ่งรับประเคนไว้ค้างคืน
01,0014,009,ต้องปาจิตตีย์.
01,0014,010,๙. ภิกษุขอโภชนะอันประณีต คือ ข้าวสุก ระคนด้วยเนยใส
01,0014,011,เนยข้น น้ำมัน น้ำผึ้ง น้ำอ้อย ปลา เนื้อ นมสด นมส้ม ต่อคฤหัสถ์
01,0014,012,ที่ไม่ใช่ญาติไม่ใช่ปวารณา เอามาฉัน ต้องปาจิตตีย์.
01,0014,013,๑๐. ภิกษุกลืนกินอาหารที่ไม่มีผู้ให้ คือยังไม่ได้รับประเคน ให้
01,0014,014,ล่วงทวารปากเข้าไป ต้องปาจิตตีย์. เว้นไว้แต่น้ำและไม้สีฟัน.
01,0014,015,อเจลกวรรคที่ ๔ มี ๑๐ สิกขาบท
01,0014,016,๑. ภิกษุให้ของเคี้ยวของฉัน แก่นักบวชนอกศาสนา ด้วยมือตน
01,0014,017,ต้องปาจิตตีย์.
01,0014,018,๒. ภิกษุชวนภิกษุอื่นไปเที่ยวบิณฑบาตด้วยกัน หวังจะประพฤติ
01,0014,019,อนาจาร ไล่เธอกลับมาเสีย ต้องปาจิตตีย์.