dhamma-scholar-book / 04 /040011.csv
uisp's picture
init upload
c5b6280
Book,Page,LineNumber,Text
04,0011,001,่ว่า ถ้าเขาทำวิหารคือกุฎีขึ้น ภิกษุเหล่านั้นจะพึงอยู่ในวิหารของเขา
04,0011,002,"หรือ, ภิกษุเหล่านั้นตอบว่าพระศาสดายังมิได้ทรงอนุญาตวิหาร, เขา"
04,0011,003,"ขอให้กราบทูลถามแล้วบอกแก่เขา, ภิกษุเหล่านั้นรับคำแล้วไปเฝ้า"
04,0011,004,พระศาสดา กราบทูลเรียนปฏิบัติ. เพราะเรื่องนี้เป็นเหตุ พระศาสดา
04,0011,005,ตรัสธรรมีกถาแล้วทรงอนุญาตเสนาสนะ คือที่นอนที่นั่ง ๕ ชนิด โดย
04,0011,006,ชื่อว่าวิหาร ๑ อัฑฒโยค ๑ ปราสาท ๑ หัมมิยะ ๑ คุหา ๑. วิหาร
04,0011,007,นั้นคงเป็นกุฎีมีหลังคา มีปีกสองข้างอย่างปกติ. อัฑฒโยคนั้น แปล
04,0011,008,โดยพยัญชนะว่า ประกอบกึ่งหนึ่ง ได้แก่โรงหรือร้านที่มุงแต่ซีกเดียว
04,0011,009,เพื่อเปิดอีกด้านหนึ่งให้โปร่าง เช่นโรงโชนของเก่า หรือร้านขายของ
04,0011,010,"เล็กน้อย, ในภายหลังมีผู้คิดทำเป็นเรือนตึกก็มี. ปราสาทนั้น เรา"
04,0011,011,"เข้าใจกันมาว่าเรือนยอด แต่ยังไม่พบแก้ในภาษามคธเลย, เรือนยอด"
04,0011,012,"ก็มีเหมือนกัน แต่เรียกว่ากูฏาคาร, คำกล่าวถึงปราสาท มีแต่กล่าว"
04,0011,013,ถึงชั้นว่าปราสาท ๗ ชั้น ไม่ได้กล่าวถึงหลังคา ชื่อนี้จึงแปลกันมาว่า
04,0011,014,เรือนชั้น พิจารณาตามพยัญชนะก็ไม่ได้ความ แปลว่าเรือนนำมาซึ่ง
04,0011,015,ความสดใสแห่งจิต คือน่ารื่นรมย์หรือน่าสนุก เพ่งความงามแห่ง
04,0011,016,เรือนนั้น. หัมมิยะ เป็นชนิดที่มัว ได้พบแก้แห่งหนึ่งว่า หลังคาที่มี
04,0011,017,ลานพระจันทร์ส่องถึง ได้แก่หลังคาตัด. คุหานั้นได้แก่ถ้ำแห่งภูเขา.
04,0011,018,ภิกษุเหล่านั้นแจ้งข่าวแก่ราชคหกเศรษฐีให้ทราบ. เศรษฐีไว้
04,0011,019,ทราบว่าทรงอนุญาตเสนาสนะแล้วให้ปลูกวิหารขึ้น ๖๐ หลังในวันเดียว
04,0011,020,กุฎีที่ปลูกแล้วเสร็จในวันเดียว ๖๐ หลังนั้น ถ้าทำได้จริงก็คงเป็นเพียง