|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
07,0041,001,นั้น ประหนึ่งอันธรรมนิยามแห่งพระบารมีธรรมของพระมหาบุรุษ
|
|
07,0041,002,หากบันดาลให้เป็นไป กาลเมื่อพระองค์มีพระประสงค์ ด้วยจะให้เป็น
|
|
07,0041,003,พยานรู้เห็นประจักษ์ตาในทุกรกิริยาทุกขัปปธาน จึงได้มากระทำวัต-
|
|
07,0041,004,ปฏิบัติพระองค์ตลอดมา ครั้นเมื่อเวลามีประโยชน์ด้วยกายวิเวกเงียบ
|
|
07,0041,005,สงัดในทางปฏิบัติภายในจิต แม้ผู้มีอยู่ชิด ณ ที่เดียวกันไม่พึงเป็นพยาน
|
|
07,0041,006,รู้เห็นได้ จึงได้ละพระองค์ไว้ หลีกไปเสียจากที่นั้น ด้วยประการ-
|
|
07,0041,007,ฉะนี้.
|
|
07,0041,008,ตรัสรู้
|
|
07,0041,009,ปางเมื่อเบญจวัคคีย์หลีกหนีไปจากที่นั้นแล้ว พระมหาบุรุษเจ้า
|
|
07,0041,010,็ก็ทรงสงัดด้วยกายวิเวก ส้องเสพพระอาหารหยาบมีข้าวสุก ขนมกุมมาส
|
|
07,0041,011,เป็นต้นโดยลำดับ ให้พระกายมีกำลังดำรงเป็นปกติแล้ว ทรงสืบต่อ
|
|
07,0041,012,พากเพียรพยายามในสมาบัติมิได้ช้า อาศัยประโยคอันชอบ ความเพียร
|
|
07,0041,013,อันชอบ กระทำในจิตโดยชอบ พระองค์ได้ละนีวรณ์ทั้ง ๕ คือ
|
|
07,0041,014,กามฉันท์ พยาบาท ถีนมิทธะ อุทธัจจกุกกุจจะ วิจิกิจฉา ให้ปราศ
|
|
07,0041,015,ไปโดยวิปขัมภนปหาน บรรลุมหรคตรูปาวจรฌานทั้ง ๔ คือปฐมฌาน
|
|
07,0041,016,ความเพ่งที่ ๑ มีองค์ ๕ คือ วิตก วิจาร ปีติ สุข เอกัคคตา และ
|
|
07,0041,017,ทุติยฌาน ความเพ่งที่ ๒ มีองค์ ๒ คือ สุขและเอกัคคตา และ
|
|
07,0041,018,ตติยฌาน ความเพ่งที่ ๓ มีองค์ ๒ คือ สุขและเอกัคคตา และ
|
|
07,0041,019,จตุตถฌาน ความเพ่งที่ ๔ มีองค์ ๒ คือ อุเบกขาและเอกัคคตา และ
|
|
07,0041,020,แคล่วคล่องชำนาญด้วยดี เป็นจิตตวิเวก ควรเป็นบาทที่ตั้งแห่งอภิญญา
|
|
07,0041,021,คุณเป็นจรณะอันใกล้แก่วิชชาฉะนี้แล้ว แต่นั้นกาลล่วงไป ๆ ถึงวันที่
|
|
|