|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
16,0028,001,คาบเกี่ยวหรือทับเขตสีมาอันได้สมมติไว้ก่อนแล้ว ทำอย่างนั้น สีมา
|
|
16,0028,002,ที่สมมติขึ้นทีหลังย่อมวิบัติ ไม่นับเป็นสีมา ทรงพระอนุญาตให้เว้น
|
|
16,0028,003,ชานไว้ในระหว่าง เรียกสีมันตริก.
|
|
16,0028,004,เพื่อสะดวกในปฏิบัติเนื่องด้วยสีมา ทรงพระอนุญาตให้สงฆ์
|
|
16,0028,005,ถอนสีมาอันสมมติไว้เดิมได้ พื้นที่อันถอนจากความเป็นสีมาแล้วนั้น
|
|
16,0028,006,อาจสมทบเข้ากับที่อเลอ<SUP>๑</SUP>อื่น กำหนดเขตตามความพอใจ สมมติเป็น
|
|
16,0028,007,สีมาขึ้นใหม่ได้.
|
|
16,0028,008,ฟังดูเพียงเท่านี้ พอเข้าใจได้ว่า เป็นไปตามธรรมเนียม การ
|
|
16,0028,009,จับจองและโอนที่ในฝ่ายอาณาจักรในครั้งนั้น พอปฏิบัติได้สะดวก
|
|
16,0028,010,แต่พระอาจารย์ทั้งหลายพรรณนาถึงเรื่องสีมาคาบเกี่ยวกันมากออกไป
|
|
16,0028,011,ฟังฟั่นเฝือ เป็นเหตุแก่งแย่ง เป็นเหตุลำบากแห่งความปฏิบัติเนื่อง
|
|
16,0028,012,ด้วยสีมา ดังจะกล่าวในสีมาสังกระข้างหน้า.
|
|
16,0028,013,สีมาที่ทรงพระอนุญาตให้สงฆ์สมมตินี้ เรียกว่า สมานสังวาสสีมา
|
|
16,0028,014,แปลว่า แดนมีสังวาสเสมอกัน ภิกษุผู้อยู่ในเขตนี้ มีสิทธิในอันจะเข้า
|
|
16,0028,015,อุโบสถ ปวารณา และสังฆกรรมร่วมกัน เป็นแดนที่กำหนดความ
|
|
16,0028,016,พร้อมเพรียง ภิกษุผู้อยู่ในสีมานี้ทั้งหมดเข้าประชุมกันเป็นสงฆ์ หรือนำ
|
|
16,0028,017,ฉันทะของภิกษุผู้ไม่มาเข้าประชุม เรียกว่า สงฆ์ผู้พร้อมเพรียง มีอำนาจ
|
|
16,0028,018,ทำกรรม ๔ ประเภทดังกล่าวแล้วในกัณฑ์ที่ ๒๓.
|
|
16,0028,019,สมานสังวาสสีมานี้ ทรงพระอนุญาตให้สมมติ ติจีวราวิปปวาส
|
|
|