| Book,Page,LineNumber,Text | |
| 19,0034,001,เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เพราะกัมมัฏฐาน ๘ เหล่านั้น เป็น | |
| 19,0034,002,ที่สบายของคนที่เป็นโทสจริตนั้น. คนที่เป็นโมหจริตกับคนที่เป็นวิตก- | |
| 19,0034,003,จริตนั้น ควรเจริญอานาปานัสสติ เพราะอานาปานัสสติกัมมัฏฐานนี้ | |
| 19,0034,004,เป็นที่สบายของคนที่เป็นโมหจริตและคนที่เป็นวิตกจริตนั้น. คนที่เป็น | |
| 19,0034,005,สัทธาจริตนั้น ควรเจริญอนุสสติ ๖ คือพุทธานุสสติ ธัมมานุสสติ | |
| 19,0034,006,สังฆานุสสติ สีลานุสสติ จาคานุสสติ เทวตานุสสติ เพราะอนุสสติ ๖ | |
| 19,0034,007,เหล่านี้ เป็นที่สบายของคนที่เป็นสัทธาจริตนั้น. คนที่เป็นพุทธิจริตนั้น | |
| 19,0034,008,ควรเจริญกัมมัฏฐาน ๔ คือมรณัสสติ อุปสมานุสสติ อาหาเรปฏิกูล- | |
| 19,0034,009,สัญญา จตุธาตุววัตถานะ เพราะกัมมัฏฐาน ๔ เหล่านี้ เป็นที่สบาย | |
| 19,0034,010,ของคนที่เป็นพุทธิจริตนั้น. กัมมัฏฐาน ๘ คืออรูปกัมมัฏฐาน ๔ ภูต- | |
| 19,0034,011,กสิณ ๔ คือ ปฐวี อาโป เตโช วาโย เหล่านี้ เป็นที่สบายแห่ง | |
| 19,0034,012,จริตทั้งสิ้น แต่อรูปกัมมัฏฐานทั้ง ๔ นั้น กุลบุตรไม่ควรจะเจริญก่อน | |
| 19,0034,013,พึงเจริญกัมมัฏฐานอื่น ๆ เสียก่อน เมื่อได้กัมมัฏฐานอื่น ๆ อย่างใด | |
| 19,0034,014,อย่างหนึ่งเป็นพื้นเสียก่อนแล้ว จึงควรเจริญอรูปกัมมัฏฐานนั้นได้ต่อ | |
| 19,0034,015,ภายหลัง. | |
| 19,0034,016,ก็แลในกัมมัฏฐาน ๔๐ ประการ มีนิมิต ๓ อย่าง มีภาวนา ๓ | |
| 19,0034,017,อย่าง นิมิต ๓ อย่างนั้น คือบริกรรมนิมิต ๑ อุคคหนิมิต ๑ ปฏิ- | |
| 19,0034,018,ภาคนิมิต ๑ บริกรรมนิมิตและอุคคหนิมิต ๒ อย่างนี้ ได้ทั่วไปใน | |
| 19,0034,019,กัมมัฏฐานทั้งสิ้น ปฏิภาคนิมิตนั้น เฉพาะในกัมมัฏฐาน ๒๒ ประการ | |
| 19,0034,020,คือกสิณ ๑๐ อสุภ ๑๐ กายคตาสติ ๑ อานาปานัสสติ ๑ เหล่านี้เท่านั้น. | |
| 19,0034,021,ภาวนา ๓ นั้น คือบริกรรมภาวนา ๑ อุปจารภาวนา ๑ อัปปนา- | |