|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
19,0039,001,ขึ้นในสันดานแล้ว ก็พึงกำหนดไว้ว่า เราประพฤติอิริยาอย่างนี้ ๆ
|
|
19,0039,002,อยู่ในเสนาสนะอย่างนี้ ๆ โภชนาหารอันเป็นที่สบายอย่างนี้ ๆ จึงได้
|
|
19,0039,003,สำเร็จฌาน โยคาพจรกุลบุตรที่ได้ฌานสมาบัติด้วยวิธีดังว่ามานี้นั้น ซึ่ง
|
|
19,0039,004,ให้กำหนดอิริยาบถและเสนาสนะและอาหารนี้ไว้ เพื่อจะได้สืบต่อเมื่อ
|
|
19,0039,005,ภายหน้า เกลือกจะมีความประมาท ฌานเสื่อมไป เมื่อจะเจริญสืบต่อไป
|
|
19,0039,006,ใหม่นั้น จะได้ประพฤติอิริยาบถ และเสพเสนาสนะและโภชนาหาร
|
|
19,0039,007,เหมือนอย่างแต่ก่อน ฌานที่เสื่อมไปแล้วนั้นก็จะได้เกิดขึ้นได้ บริบูรณ์
|
|
19,0039,008,ในสันดานอีก.
|
|
19,0039,009,ครั้นเมื่อโยคาพจรเจ้าได้สำเร็จปฐมฌานแล้ว ก็พึงปฏิบัติใน
|
|
19,0039,010,ปฐมฌานนั้นให้ชำนาญคล่องแคล่วด้วยดีก่อน แล้วจึงจะเจริญทุติยฌาน
|
|
19,0039,011,สืบต่อไปได้ ก็ปฐมฌานนั้นจะชำนาญคล่องแคล่วด้วยดี ก็ต้อง
|
|
19,0039,012,ประกอบด้วยวสีทั้ง ๕ คือ อาวัชชนวสี ๑ สมาปัชชนวสี ๑ อธิฏฐาน-
|
|
19,0039,013,วสี ๑ วุฎฐานวสี ๑ ปัจจเวกขณวสี ๑ รวมเป็น ๕ อาวัชชนวสี
|
|
19,0039,014,คือชำนาญคลองแคล่วในการนึก ถ้าปรารถนานึกถึงองค์ฌานที่ตนได้
|
|
19,0039,015,ก็อาจนึกได้โดยเร็วพลันมิได้เนิ่นช้า ไปจนถึงเบื้องหน้าแต่ชนจิตที่
|
|
19,0039,016,ครบ ๔ ที่ครบ ๕ ตกลงยังภวังคจิต ๒ ขณะ ๓ ขณะ สมาปัชชนวสี
|
|
19,0039,017,นั้น คือชำนาญคล่องแคล่วในการที่จะเข้าฌาน อาจเข้าฌานได้ในลำดับ
|
|
19,0039,018,อาวัชชนจิต อันพิจารณาซึ่งอารมณ์ คือปฏิภาคนิมิต มิได้เนิ่น
|
|
19,0039,019,ช้า อธิฏฐานวสีนั้น ชำนาญคล่องแคล่วในการที่จะรักษาไว้มิให้ฌาน-
|
|
19,0039,020,จิตนั้นตกภวังค์ ตั้งฌานจิตไว้ได้ตามกำหนด ปรารถนาจะตั้งไว้
|
|
19,0039,021,เท่าใดก็ตั้งไว้ได้เท่านั้น วุฏฐานวสีนั้น คือชำนาญคล่องแคล่วในการที่
|
|
|