|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
21,0025,001,หมู่ของพระอริยเจ้า หมู่เป็นพระอริยเจ้า. ภิกษุตั้งแต่ ๔ รูปขึ้นไป
|
|
21,0025,002,นั่งในภายในสีมาไม่ละหัตถบาสกันและกัน มีอำนาจให้สำเร็จสังฆกรรม
|
|
21,0025,003,นั้น ๆ ได้ ชื่อว่าสมมติสงฆ์ สงฆ์โดยสมมติ. ก็พระสงฆ์นั้นย่อมมี
|
|
21,0025,004,คุณแก่สัตว์ เพราะท่านรักษาปริยัติธรรมของพระพุทธเจ้าไว้ ได้สังคีติร้อย
|
|
21,0025,005,กรองไว้เป็นหมู่เป็นหมวดมิให้กระจัดพลัดพราย จนถึงได้จารลึกลงไว้
|
|
21,0025,006,ในใบลานเป็นลำดับมา หมู่ชนที่เกิด ณ ภายหลังได้ศึกษาเล่าเรียน
|
|
21,0025,007,สดับฟังทรงไว้ จึงได้พากันฉลาดรู้พุทธวจนะและบุญบาปเหตุเกิด
|
|
21,0025,008,สุขและทุกข์ ถ้าเมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว พระสงฆ์
|
|
21,0025,009,มิได้รักษาปริยัติธรรมไว้ มิได้ร้อยกรองเรียบเรียงปริยัติธรรมไว้ไซร้
|
|
21,0025,010,หมู่ชนที่เกิด ณ ภายหลังก็พากันโง่เขลา หารู้พุทธวจะและบุญบาปเหตุ
|
|
21,0025,011,เกิดสุดและทุกข์ไม่ ซึ่งประชุมชน ที่เกิดภายหลัง มารู้จักพุทธวจนะ
|
|
21,0025,012,และบุญบาปเหตุเกิดสุขและทุกข์ตามภูมิปัญญาของตน ๆ ได้นี้ เพราะ
|
|
21,0025,013,พระสงฆ์เป็นต้นเหตุ ข้อนี้ชื่อว่าพระสงฆ์มีคุณแก่สัตว์อย่างหนึ่ง อนึ่ง
|
|
21,0025,014,พระสงฆ์นั้น ท่านเป็นบุญเขตเนื้อนาบุญของสัตวโลก หาเขตบุญอื่นยิ่ง
|
|
21,0025,015,กว่าและเสมอไม่มี บุคคลเหล่าใดมีความต้องการสมบัติที่เป็นของมนุษย์
|
|
21,0025,016,หรือเป็นของทิพย์ หรือต้องการสมบัติคือนิพพานแล้ว และถวายทาน
|
|
21,0025,017,บูชาและปฏิบัติตามด้วยความเชื่อและเสื่อมใสในพระสงฆ์ ๆ ก็สามารถ
|
|
21,0025,018,จะให้บุคคลเหล่านั้นได้สมบัตินั้น สมดังจิตประสงค์ของตน ๆ ได้ ข้อนี้
|
|
21,0025,019,พระสงฆ์ได้ชื่อว่ามีคุณแก่สัตว์อย่างหนึ่ง เพราะเป็นบุญเขตอันยิ่ง.
|
|
21,0025,020,โยคาพจรบุตรผู้เจริญสังฆานุสสติ จะพึงระลึกถึงคุณของพระ
|
|
21,0025,021,สงฆ์ โดยนัยที่กล่าวมาแล้วนี้ก็ได้ หรือจะระลึกถึงคุณของพระสงฆ์
|
|
|