dhamma-scholar-book / 27 /270042.csv
uisp's picture
init upload
c5b6280
Book,Page,LineNumber,Text
27,0042,001,หรือจีวรกาล ภิกษุผู้มิได้รับประโยชน์จากกาลนี้ พึงทรงอติเรกจีวร
27,0042,002,ได้ ๑๐ วันเป็นอย่างยิ่ง.
27,0042,003,ประเภทแห่งจีวร ๖
27,0042,004,๑. โขมํ ผ้าทำด้วยเปลือกไม้ เช่นผ้าลินิน.
27,0042,005,๒. กปฺปาสิกํ ผ้าทำด้วยฝ้าย คือผ้าสามัญ.
27,0042,006,๓. โกเสยฺยํ ผ้าทำด้วยไหม คือแพร.
27,0042,007,๔. กมฺพลํ ผ้าทำด้วยขนสัตว์ [ ยกผมขนมนุษย์ ]. เช่น
27,0042,008,สักหลาด.
27,0042,009,๕. สาณํ ผ้าทำด้วยเปลือกไม้สาณะ ซึ่งแปลกันว่าป่าน.
27,0042,010,๖. ภงฺคํ ผ้าทำด้วยสัมภาระเจือกัน เช่นผ้าด้ายแกมไหม.
27,0042,011,ผ้ามีกำเนิด ๖ นี้ มีประมาณตั้งแต่ยาว ๘ นิ้ว กว้าง ๔ นิ้วขึ้นไป
27,0042,012,เข้าองค์กำหนดแห่งผ้าต้องวิกัปเป็นอย่างต่ำ ชื่อว่าจีวร.
27,0042,013,กิริยาว่าทรง
27,0042,014,แต่เดิมดูเหมือนจะหมายเอาคารองหรือนุ่งห่ม ตั้งแต่มีอนุบัญญัติ
27,0042,015,ผ่อนให้ ๑๐ วันแล้ว หมายความตลอดถึงมีไว้เป็นสิทธิ์.
27,0042,016,วิธีนับวันล่วง
27,0042,017,กำหนดนับเป็นวันล่วงนั้น เมื่ออรุณคือแสงเงินขึ้น ภิกษุทรง
27,0042,018,อติเรกจีวรนั้นให้ล่วง ๑๐ วัน ถึงอรุณที่ ๑๑ เป็นนิสสัคคิยปาจิตตีย์.
27,0042,019,การเสียสละ
27,0042,020,อาบัตินี้ ต่อเมื่อภิกษุสละของอันเป็นเหตุต้องแล้ว จึงแสดง
27,0042,021,อาบัติได้ การสละแก่ผู้สมควรมี ๓ คือ :-