|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
31,0025,001,เช่นโจรกรรม นี้เรียกว่าโลกวัชชะ. ที่เป็นโทษทางพระบัญญัติ คือผู้
|
|
31,0025,002,มิใช่ภิกษุทำเข้าไม่จัดว่าเป็นผิด เช่นบริโภคอาหารในเวลาวิกาล นี้เรียก
|
|
31,0025,003,ปัณณัตติวัชชะ.
|
|
31,0025,004,ส. ป.
|
|
31,0025,005,สมุฏฐาน
|
|
31,0025,006,ถ. อะไรเรียกว่าสมุฏฐานแห่งอาบัติ ? มีเท่าไร ? อะไรบ้าง ?
|
|
31,0025,007,ต. ที่เกิดแห่งอาบัติเรียกว่าสมุฏฐานแห่งอาบัติ. โดยตรงมี ๔
|
|
31,0025,008,คือลำพังกาย ๑ ลำพังวาจา ๑ กายกับจิต ๑ วาจากับจิต ๑ เมื่อว่า
|
|
31,0025,009,ตามบาลีมี ๖ คือเติมกายวาจา รวมกันเป็น ๑ กายวาจาจิต รวมกัน
|
|
31,0025,010,เป็น ๑.
|
|
31,0025,011,ส. ป.
|
|
31,0025,012,ถ. ภิกษุเสพเมถุนด้วยจิตคิดจะเสพ จะจัดว่าเกิดจากสมุฏฐาน
|
|
31,0025,013,ไหน ?
|
|
31,0025,014,ต. จัดว่าเกิดจากสมุฏฐานคือจากกายกับจิต.
|
|
31,0025,015,ส. ป.
|
|
31,0025,016,ถ. เมื่อเพ่งเอาเจตนาเป็นที่ตั้งแล้ว จะจดอาบัติได้เป็นกี่พวก ?
|
|
31,0025,017,อะไรบ้าง ?
|
|
31,0025,018,ต. จัดได้เป็น ๒ คือ สจิตตกะ ต้องเพราะมีเจตนาคือจงใจล่วง
|
|
31,0025,019,ละเมิดพวก ๑ อจิตตกะ ต้องเพราะไม่มีเจตนา คือไม่จงใจล่วงละเมิด
|
|
31,0025,020,พวก ๑.
|
|
31,0025,021,ส. ป.
|
|
|