|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
37,0020,001,เพราะเหตุไร ? เพราะผู้ฟังเทศน์ ไม่ใช่นับถือผู้เทศก์เป็นส่วนตัวโดย
|
|
37,0020,002,แท้จริง นับถือพระศาสนาต่างหาก ถ้าไม่อ้างสุภาษิตอื่นมาประกอบ
|
|
37,0020,003,การติชม และการตักเตือนสั่งสอนนั้น จะกลายเป็นของผู้เทศก์ไป
|
|
37,0020,004,หมด ไม่ใช่เป็นของพระศาสนา และถ้าลงได้กลาย เทศนาของตน
|
|
37,0020,005,ก็หาศักดิ์สิทธิ์ไม่ เป็นอันไม่สำเร็จประโยชน์อะไร จริงอยู่ ผู้เทศก์
|
|
37,0020,006,ก็นำเรื่องจากพระศาสนานั่นเองไปเทศน์ มิใช่นำจากอื่น แต่ข้อนี้
|
|
37,0020,007,จะลืมไม่ได้ว่า ผู้ฟังเทศน์มีหลายชนิด ชนิดที่สามารถจะนึกอย่างนั้น
|
|
37,0020,008,ได้ก็มี ชนิดที่สามารถจะนึกอย่างนั้นได้แต่ไม่นึกก็มี ชนิดที่ไม่
|
|
37,0020,009,สามารถเลยทีเดียวก็มี เมื่อมีทางเสียอยู่เช่นนี้ ในการติชมและ
|
|
37,0020,010,ตักเตือนสั่งสอน จึงต้องอ้างสุภาษิตอื่นมาประกอบ เพื่อแสดงว่า
|
|
37,0020,011,การที่กล่าวอย่างนั้น ๆ มิใช่ผู้เทศก์กล่าวเอง มีคำกล่าวไว้ในพระ
|
|
37,0020,012,ศาสนาอย่างนี้ ๆ.
|
|
37,0020,013,(๒) ในที่ที่เกี่ยวด้วยเรื่องสลักสำคัญ อันล่อแหลมต่อปรัปวาท
|
|
37,0020,014,"อาจให้โต้แย้งทุ่มเถียง เช่นนี้ก็เรียกว่า ""ในที่จำเป็น"" เหมือนกัน"
|
|
37,0020,015,ซึ่งจะต้องอ้างสุภาษิตอื่นมาประกอบให้จงได้ เพราะเหตุไร ? เพราะ
|
|
37,0020,016,ผู้ฟังเทศน์มี ๒ ประเภท คือ ประเภท ๑ ฟังเพื่อจะเก็บเอาความรู้
|
|
37,0020,017,อีกประเภท ๑ ฟังเพื่อจะเก็บเอาความบกพร่อง ผู้ที่นับถือพระศาสนา
|
|
37,0020,018,แต่จิตใจยังห่างเหินต่อพระศาสนา ยังไม่เข้าถึงพระศาสนาโดยแท้จริง
|
|
37,0020,019,ย่อมเป็นบุคคลประเภทหลังนี้ เทศนาสำหรับบุคคลประเภทนี้ จึงต้อง
|
|
37,0020,020,ระวังให้จงหนัก ข้อความที่สลักสำคัญอันจะแสดงออกไป ควรให้อยู่
|
|
37,0020,021,ในกรอบแห่งสุภาษิตทั้งนั้น ยิ่งเป็นพระพุทธภาษิตด้วยก็ยิ่งดี เพราะ
|
|
|