|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
38,0049,001,ที่ ๔ อยู่ในสงฆ์ จึงใช้ไม่ได้ ถ้าไม่เป็นที่ ๔ ใช้ได้ และเข้านั่ง
|
|
38,0049,002,ไม่ละหัตถบาสแห่งกันและกัน สำหรับเป็นกิริยานั่งประชุม.
|
|
38,0049,003,๓. เธอทั้งหลายไม่ต้องสภาคาบัติ ถ้ามีอย่างนั้น ต้องสวดประกาศ
|
|
38,0049,004,"ก่อนว่า ""สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ, อยํ สพฺโพ สงฺโฆ สภาคํ"
|
|
38,0049,005,อาปตฺตึ อาปนฺโน ยทา อญฺํ ภิกฺขุํ สุทฺธํ อนาปตฺติกํ
|
|
38,0049,006,"ปสฺสิสฺสติ, ตทา ตสฺส สนฺติเก ตํ อาปตฺตึ ปฏิกฺกริสฺสติ."""
|
|
38,0049,007,"แปล : ""ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า สงฆ์ทั้งปวงนี้ต้อง"
|
|
38,0049,008,สภาคาบัติ จักเห็นภิกษุอื่นผู้บริสุทธิ์ไม่มีอาบัติเมื่อใด จักทำคืน
|
|
38,0049,009,"อาบัตินั้นในสำนักเธอเมื่อนั้น"" แล้วจึงทำอุโบสถได้."
|
|
38,0049,010,๔. บุคคลควรเว้นไม่มีในหัตถบาส [คือไม่ได้อยู่ในที่ประชุม].
|
|
38,0049,011,<B>บุคคลควรเว้นมีประเภทดังนี้</B>
|
|
38,0049,012,๑. คนไม่ใช่ภิกษุ [คืออนุปสัมบัน ภิกษุณีก็นับเข้าด้วย].
|
|
38,0049,013,๒. เป็นภิกษุอยู่ก่อน แต่ขาดจากความเป็นภิกษุด้วยประการใดประ-
|
|
38,0049,014,การหนึ่งแล้ว [คือต้องปาราชิก เข้ารีตเดียรถีย์ทั้งเพศภิกษุหรือ
|
|
38,0049,015,ลาสิกขาแล้ว].
|
|
38,0049,016,๓. เป็นภิกษุแต่ถูกสงฆ์ลงอุกเขปนียกรรม.
|
|
38,0049,017,[จำพวกหลังนี้ ไม่เป็นที่ ๔ ในสงฆ์ ไม่เป็นอะไร].
|
|
38,0049,018,<B>คำสมมติตนเองเพื่อเป็นผู้ถามวินัยดังนี้</B>
|
|
38,0049,019,"""สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ"
|
|
38,0049,020,"อิตฺถนฺนามํ วินยํ ปุจฺเฉยฺยํ."""
|
|
38,0049,021,"แปล : ""พระสงฆ์เจ้าข้า ขอจงฟังข้าพเจ้า ถ้าความพร้อมพรั่ง"
|
|
|