dhamma-scholar-book / 39 /390004.csv
uisp's picture
init upload
c5b6280
Book,Page,LineNumber,Text
39,0004,001,<B>๓. พระอนาคามี</B> แปลว่าผู้ไม่กลับมาสู่โลกนี้อีกต่อไป หรือหลัง
39,0004,002,จากท่านทำกาลกิริยาไปแล้ว จะบังเกิดในพรหมโลกชั้นสุทธาวาส ๕ ชั้น
39,0004,003,คือ<B>อวิหา อตัปปา สุทัสสา สุทัสสี อกนิฏฐา</B> เพราะความแก่กล้าแห่งอินทรีย์
39,0004,004,๕ ประการ หมายความว่า ท่านเกิดด้วยอำนาจอินทรีย์ที่แก่กล้าตามลำดับ
39,0004,005,ท่านผู้มีสัทธินทรีย์แก่กล้า ตายไปแล้วไปเกิดในชั้นอวิหา ท่านที่มีวิริยินทรีย์
39,0004,006,แก่กล้า ตายไปแล้วจะบังเกิดในสุทธาวาสชั้นอตัปปา ท่านที่สตินทรีย์แก่
39,0004,007,กล้า ตายไปแล้วจะบังเกิดในสุทธาวาสชั้นสุทัสสา ท่านที่มีสมาธินทรีย์
39,0004,008,แก่กล้า ตายไปแล้วจะบังเกิดในสุทธาวาสชั้นสุทัสสี ท่านที่มีปัญญินทรีย์
39,0004,009,แก่กล้า ตายไปแล้วจะบังเกิดในสุทธาวาสชั้นสูงสุดคืออกนิฏฐา
39,0004,010,พระอนาคามีนั้นได้ละสังโยชน์ คือเครื่องผูกใจสัตว์เพิ่มขึ้นอีก
39,0004,011,๒ ประการ ซึ่งเป็นการละได้อย่างเด็ดขาดจริง ๆ นั้น คือ
39,0004,012,<B>๓.๑ กามราคะ</B> ได้แก่จิตที่กำหนัดด้วยอำนาจความยินดี ความ
39,0004,013,เพลิดเพลินในวัตถุกามทั้งหลาย คือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ที่น่า
39,0004,014,ใคร่น่าปรารถนา น่าพอใจ
39,0004,015,<B>๓.๒ ปฏิฆะ</B> ความหงุดหงิด ความไม่พอใจ ความไม่ชอบใจ
39,0004,016,ในสิ่งที่ตนเห็นด้วยตา ได้ยินด้วยหู สูดดมด้วยจมูก ลิ้มด้วยลิ้น ถูกต้อง
39,0004,017,ด้วยกาย แม้แต่ตรึกนึกด้วยใจ ท่านละได้เด็ดขาดเป็นสมุจเฉทปหาน คือ
39,0004,018,ไม่เกิดกำเริบขึ้นในใจท่านอีกต่อไป แต่ถึงอย่างนั้น พระอริยบุคคลทั้ง ๓
39,0004,019,ประเภทนี้ ยังได้ชื่อว่าเป็นเสขะ เพราะยังต้องประพฤติปฏิบัติเพื่อขจัด
39,0004,020,สังโยชน์ที่ยังละไม่ได้ และทำให้สมบูรณ์ในปัญญาอย่างเต็มที่ เพราะถึง
39,0004,021,ชั้นนี้ ศีลสมบูรณ์ สมาธิสมบูรณ์ แต่ปัญญายังต้องเพิ่มพูนมากยิ่งขึ้น ดังนั้น
39,0004,022,จึงได้ชื่อว่าเป็นพระเสขะ