dhamma-scholar-book / 41 /410003.csv
uisp's picture
init upload
c5b6280
Book,Page,LineNumber,Text
41,0003,001,หมายความว่า พระอเสขะไม่ต้องทำอะไรอีกต่อไป หรืออย่างไร ?
41,0003,002,ต. มิได้หมายความอย่างนั้นโดยส่วนเดียว พึงทราบกิจอันจะ
41,0003,003,ต้องทำ ๒ อย่างก่อน คือ ๑. กิจเฉพาะตน ๒. กิจเนื่องด้วยคนอื่น.
41,0003,004,กิจข้อที่ ๑. พระอเสขะไม่ต้องทำอีกต่อไป เพราะได้บรรลุถึงที่สุดแล้ว
41,0003,005,ส่วนกิจข้อที่ ๒ ยังต้องทำอยู่ พึงเห็นเช่นพระพุทธเจ้าและพระสาวก
41,0003,006,ผู้ได้บรรลุอรหัตผลแล้ว ยังประพฤติอ่อนน้อมต่อธรรมและบุคคล
41,0003,007,และเที่ยวเทศนาสั่งสอนมหาชนในที่ต่าง ๆ ทั้งนี้เพื่อเป็นทิฏฐานุคติ
41,0003,008,และประโยชน์สุขแก่ชนอื่น ๆ อีกต่อไป .
41,0003,009,๒๔๗๙
41,0003,010,ถ. พระเสขะ อเสขะ ท่านปฏิบัติอยู่ในธรรมอะไรบ้าง ? จงแสดง.
41,0003,011,ต. ในบาลีท่านแสดงว่าปฏิบัติอยู่ในธรรม ๕ อย่างคือ ศีล สมาธิ
41,0003,012,ปัญญา วิมุตติ วิมุตติญาณทัสสนะ. ในพระสูตรท่านแสดงว่าปฏิบัติ
41,0003,013,ธรรมเหล่านี้คือ เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีล เป็นผู้มีทวารอันคุ้มครองดีแล้ว
41,0003,014,ในอินทรีย์ทั้งหลาย (อินทรียสังวร) เป็นผู้รู้จักประมาณในโภชนะ
41,0003,015,(โภชนมัตตัญญู) เป็นผู้ประกอบในชาครธรรม คือธรรมเป็นเครื่อง
41,0003,016,ตื่นอยู่ (ชาคริยานุโยค) ถึงพร้อมด้วยสัปปุริสธรรม ๗ เป็นผู้มีฌาน.
41,0003,017,ส.ป.
41,0003,018,ถ. สมถกัมมัฏฐาน และวิปัสนากัมมัฏฐาน ต่างกันอย่างไร ?
41,0003,019,การเจริญกัมมัฏฐานอย่างไหนจึงจะกำจัดกิเลสได้โดยสิ้นเชิง หรือต่าง
41,0003,020,เจริญทั้งสองอย่าง ?
41,0003,021,ต. สมถกัมมัฏฐาน ได้แก่กัมมัฏฐานอันเนื่องด้วยการบริกรรม