dhamma-scholar-book / 48 /480037.csv
uisp's picture
init upload
c5b6280
Book,Page,LineNumber,Text
48,0037,001,๒. จักยอมรับความวินิจฉัยอันชอบแก่ธรรมวินัยและสัตถุสาสน์.
48,0037,002,(๒) วิธีระงับด้วยการตั้งผู้วินิจฉัย
48,0037,003,"สงเคราะห์ด้วยองค์ ๓ เว้น สงฺฆสมฺมุขตา บ้าง ด้วยองค์ ๔ บ้าง,"
48,0037,004,(แต่เสด็จ ฯ ทรงเห็นว่า สงฺฆสมฺมุขตา ไม่น่าได้ในอธิการนี้).
48,0037,005,(๓) วิธีระงับด้วยอำนาจแห่งสงฆ์ คือ :-
48,0037,006,๑. สงฆ์เห็นภิกษุบางพวกประพฤติผิดแผกออกไป ไม่เห็นชอบด้วย
48,0037,007,ร่วมใจกันเข้าประชุมเป็นสงฆ์วินิจฉัยข้อที่แผกกันนั้นว่าผิด ด้วย
48,0037,008,อาณาสงฆ์.
48,0037,009,๒. มีภิกษุเป็นคู่วิวาท แม้เธอจะไม่มอบให้วินิจฉัย เห็นแก่พระธรรม
48,0037,010,วินัย ชี้ขาดข้อที่ผิดด้วยอาณาสงฆ์ก็ได้.
48,0037,011,สัมมุขาวินัยนี้ สงเคราะห์ด้วยองค์ ๓ เว้น ปุคฺคลสมฺมขตา บ้าง
48,0037,012,ด้วยองค์ ๔ บ้าง.
48,0037,013,ภิกษุผู้ที่สงฆ์ควรมอบอธิกรณ์ให้แยกไปวินิจฉัย (วิธีนี้เรียก
48,0037,014,อุพพาหิกา) ควรประกอบด้วยองค์ ๑๐ คือ :-
48,0037,015,๑. เป็นผู้มีศีล.
48,0037,016,๒. เป็นพหูสูต.
48,0037,017,๓. เป็นผู้ทรงพระปาฏิโมกข์.
48,0037,018,๔. เป็นผู้มั่นในพระวินัย ไม่คลอนแคลน.
48,0037,019,๕. เป็นผู้อาจชี้แจงให้คู่วิวาทเข้าใจและให้เลื่อมใส.
48,0037,020,๖. เป็นผู้ฉลาดเพื่อยังอธิกรณ์อันเกิดขึ้นให้ระงับ.
48,0037,021,๗. รู้เรื่องอธิกรณ์.