dhamma-scholar-book / 50 /500008.csv
uisp's picture
init upload
c5b6280
Book,Page,LineNumber,Text
50,0008,001,อยากได้ คือตัณหาความทะยานอยาก ราคะ ความกำหนัด อรติ
50,0008,002,ความขึ้งเคียด เป็นอาทิ เรียกว่ามาร เพราะเป็นโทษล้างผลาญ
50,0008,003,คุณความดีและทำให้เสียคน. บ่วงของมารนั้น คือวัตถุกาม ได้แก่
50,0008,004,กามารมณ์ ๕ อันเป็นของน่าชอบใจ. เพราะเป็นอารมณ์เครื่องผูกใจ
50,0008,005,ให้ติดแห่งมาร.
50,0008,006,๕/๙/๖๕
50,0008,007,ถ. บุคคลจะพ้นจากบ่วงแห่งมารด้วยอาการสำรวมจิต อย่างไร
50,0008,008,บ้าง ?
50,0008,009,ต. บุคคลจากพ้นจากบ่วงแห่งมาร ด้วยอาการสำรวมจิต ๓
50,0008,010,ประการ คือ ๑. สำรวมอินทรีย์ มิให้ความยินดีและความยินร้าย
50,0008,011,ครอบงำในเมื่อเห็นรูปเป็นต้น ๒. มนสิการกัมมัฏฐาน อันเป็นปฏิ-
50,0008,012,ปักษ์แก่กามฉันท์ คืออสุภะและการคติหรือมรณัสสติ ๓. เจริญ
50,0008,013,วิปัสสนา สันนิษฐานเห็นสภาพไม่เที่ยงแท้ เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา.
50,0008,014,๑๔/๙/๖๖
50,0008,015,ถ. การปฏิบัติตนให้พ้นจากมารจะไม่ดีกว่าหรือ เหตุไฉนท่าน
50,0008,016,จึงสอนให้ปฏิบัติตนให้พ้นจากบ่วงแห่งมาร ? จงอธิบาย.
50,0008,017,ต. กิเลสกาม คือเจตสิกชักให้ใคร่ให้รักให้อยากได้ คือ
50,0008,018,ตัณหา ราคะ อรติ เป็นอาทิ จัดว่าเป็นมาร เพราะเป็นโทษล้าง
50,0008,019,"ผลาญคุณความดีและทำให้เสียคน, วัตถุกาม คือ รูป เสียง กลิ่น"
50,0008,020,รส โผฏฐัพพะ อันเป็นของน่าชอบใจ จัดว่าเป็นบ่วงแห่งมาร เพราะ
50,0008,021,เป็นอารมณ์เครื่องผูกใจให้ติดแห่งมาร. เมื่อไม่ติดอยู่ในอารมณ์อัน