|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
05,0026,001,<B>ตามสัตถุศาสน์ ไม่เอื้อเฟื้อ ไม่ทำคืนอาบัติ มิได้ทำภิกษุผู้มีสังวาส
|
|
05,0026,002,เสมอกันให้เป็นสหาย นางยังไม่ยอมสละวัตถุนั้น สงฆ์สวดสมนุภาส
|
|
05,0026,003,ภิกษุณีผู้มีชื่อนี้ เพื่อให้สละวัตถุนั้น การสวดสมนุภาสภิกษุณีผู้มี
|
|
05,0026,004,ชื่อนี้ เพื่อให้สละวัตถุนั้น ชอบแก่แม่เจ้าผู้ใด แม่เจ้าผู้นั้นพึงเป็น
|
|
05,0026,005,ผู้นิ่ง ไม่ชอบแก่แม่เจ้าผู้ใด แม่เจ้าผู้นั้นพึงพูด.
|
|
05,0026,006,ดิฉันกล่าวความนี้เป็นครั้งที่สอง. . .
|
|
05,0026,007,ดิฉันกล่าวความนี้เป็นครั้งที่สาม. . .
|
|
05,0026,008,ภิกษุณีมีชื่อนี้ อันสงฆ์สวดสมนุภาสแล้ว เพื่อให้สละวัตถุ
|
|
05,0026,009,นั้น ชอบแก่สงฆ์ เหตุนั้นจึงนิ่ง ดิฉันทรงความนี้ไว้ด้วยอย่างนี้.</B>
|
|
05,0026,010,[๒๒] จบญัตติ ต้องอาบัติทุกกฏ จบกรรมวาจาสองครั้ง ต้อง
|
|
05,0026,011,อาบัติถุลลัจจัย จบกรรมวาจาครั้งสุด ต้องอาบัติปาราชิก.
|
|
05,0026,012,[๒๓] บทว่า ภิกษุณีแม้นี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเทียบเคียง
|
|
05,0026,013,ภิกษุณีรูปก่อน.
|
|
05,0026,014,<H1>ทรงอุปมาด้วยศิลาแตก</H1>
|
|
05,0026,015,คำว่า <B>เป็นปาราชิก</B> มีอธิบายว่า ศิลาหนาแตกสองเสี่ยงแล้วเป็น
|
|
05,0026,016,ของกลับต่อกันสนิทไม่ได้ฉันใด ภิกษุณีก็ฉันนั้นแล อันสงฆ์สวดสมนุภาสอยู่
|
|
05,0026,017,ถึงครั้งที่สาม ยังไม่สละ ย่อมไม่เป็นสมณะ ไม่ใช่ธิดาของพระศากยบุตร
|
|
05,0026,018,เพราะเหตุนั้น จึงตรัสว่า เป็นปาราชิก.
|
|
05,0026,019,บทว่า <B>หาสังวาสมิได้</B> ความว่า ที่ชื่อว่า สังวาส ได้แก่กรรมที่พึง
|
|
05,0026,020,ทำร่วมกัน อุเทศที่พึงสวดร่วมกัน ความเป็นผู้มีสิกขาเสมอกัน นั่นชื่อว่า
|
|
05,0026,021,สังวาส สังวาสนั้นไม่มีร่วมกับภิกษุนั้น เพราะเหตุนั้นจึงตรัสว่า หาสังวาส
|
|
05,0026,022,มิได้.
|
|
|