txt
stringlengths
202
53.1k
# AIS เปิดแพ็กเกจใหม่เจาะกลุ่ม SME เริ่มเดือนละ 599 ใช้โซเชียลฟรี ประกันไซเบอร์ 1 ปี ฯลฯ AIS เปิดตัวธุรกิจโมเดลใหม่ AIS SME เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้า SME ที่อยากขายของออนไลน์ในช่วง COVID-19 พร้อมเปิดแพ็กเกจใหม่ รวมการโทร ใช้โซเชียล โทรหาคอลเซนเตอร์ฝั่งธุรกิจฟรี และบริการคลังสินค้าออนไลน์ มีแพ็กเกจใหม่ 5 แบบ ดังนี้ SME Pro Social เดือนละ 599, 899, 1,199 บาท สามารถโทรหาคอลเซนเตอร์ธุรกิจฟรี ไม่เสียค่าโทร, ใช้แอปโซเชียลฟรี, ประกันภัยไซเบอร์จากกรุงเทพประกันภัยฟรี 1 ปี พร้อมส่วนลดอุปกรณ์ไลฟ์ขายของ SME Work & Talk เดือนละ 599, 899, 1,399 บาท ใช้ Office 365 และ Zoom ฟรี 3 เดือนไม่เสียค่าเน็ต, ประกันภัยไซเบอร์จากกรุงเทพประกันภัยฟรี 1 ปี เป็นต้น SME Digi Tools เดือนละ 499, 799, 1,099 บาท ได้สิทธิ์ใช้งาน Facebook Ads 20,000 reach ต่อเดือน, สิทธิ์ใช้ Web DIY จาก Yellow.co.th 1 ปี SME DIY เริ่มเดือนละ 99 บาท จัดการแพ็กเกจได้เอง SME Go Digital เดือนละ 899 และ 1,199 บาท หรือเหมาจ่ายรายปี 9,888 และ 12,888 บาท โทรทุกเครือข่ายเร่ิม 1,000 นาทีต่อเดือน แต่ละแพ็กเกจมีรายละเอียดและสิทธิประโยชน์ต่างกัน เข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ AIS AIS ยังอ้างอิงข้อมูลจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว. รายงานสถานการณ์ของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิดเมื่อปี 2563 ว่า 61.4% ยังไม่มีช่องทางการขายผ่านออนไลน์ ในขณะที่ มีถึง 79.3% ที่สามารถรับชำระเงินผ่านทางออนไลน์ได้แล้ว แต่มีเพียง 38.6% ที่มีช่องทางขายบนออนไลน์ และช่องทางที่ขายดีที่สุดคือ บน Facebook, LINE และ Website ตามลำดับ ข้อมูลจาก AIS พบว่า 4 อันดับต้นๆ ที่ผู้ประกอบการต้องการ คือ เพิ่มการส่งเสริมการขายในตลาดออนไลน์, เพิ่มนวัตกรรมในการทำธุรกิจ, เพิ่มความยืดหยุ่น และปรับโครงสร้างต้นทุน โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาบริหารจัดการ แต่ที่ผ่านมาอาจขาดเครื่องมือที่เหมาะสมและคุ้มค่า ที่มา - ข่าวประชาสัมพันธ์, AIS
# เข้าวงการสายรัดสุขภาพ OnePlus เปิดตัว OnePlus Band ในอินเดีย ราคาพันต้น OnePlus เข้าวงการนาฬิกาฟิตเนสและเปิดตัวเป็นคู่แข่ง Xiaomi ด้วยการเปิดตัว OnePlus Band ในอินเดีย ราคา 34 ดอลลาร์ หรือราว 1,024 บาท สามารถนับจำนวนก้าวและแคลอรี่ที่เผาผลาญ รวมถึงตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจ ติดตามการนอนหลับและวัดระดับออกซิเจนในเลือด รองรับโหมดการออกกำลังกาย 13 โหมด ได้แก่ วิ่งกลางแจ้ง วิ่งในร่ม Fat Burn Run ขี่จักรยาน พายเรือ ว่ายน้ำ โยคะและคริกเก็ต ฟีเจอร์คร่าวๆ คือ รองรับการแจ้งเตือน, ควบคุมการเล่นเพลง} ซิงโครไนซ์โหมด Zen กับโทรศัพท์ OnePlus บางรุ่นได้, กดรับหรือปฏิเสธสายเรียกเข้า, IP68 สำหรับการกันฝุ่นและน้ำ, ทำงานบน Bluetooth 5.0, หน้าจอสี AMOLED ขนาด 1.1 นิ้วพร้อมสายรัดซิลิโคน, หน้าจอมีความละเอียด 126 x 294 พิกเซล, แบตเตอรี่ 100 mAh OnePlus อ้างว่าใช้งานได้นานถึง 14 วันต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ทำงานคู่กับแอปที่รันบน Android 6.0 ขึ้นไป เปิดตัวมาสามสีคือ Black, Navy และ Tangerine Gray วางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม บนเว็บไซต์ Amazon India, Flipkart และ OnePlus India ภาพจาก OnePlus ที่มา - XDA Developers
# ดับจริงไม่ได้ขู่ แอปโซเชียลฝ่ายขวา Parler ใช้งานไม่ได้หลัง AWS แบนบัญชี AWS แบนบัญชีแอปโซเชียลฝ่ายขวา Parler หลังครบเส้นตาย 24 ชั่วโมงที่ประกาศไว้ ทำให้ตอนนี้เว็บเข้าไม่ได้โดยสมบูรณ์เนื่องจาก DNS ของแอปให้บริการผ่าน Route 53 ของ AWS ทาง Parler ยืนยันว่ากำลังพยายามกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งแต่ตอนนี้ยังหาผู้ให้บริการไม่ได้ ข้อมูลล่าสุดระบุว่าแม้แต่ Twillo ผู้ให้บริการ SMS ก็แบน Parler จนทำให้ต้องปิดการยืนยันตัวตนสองขั้นตอน เนื้อหาบน Parler ที่แพลตฟอร์มต่างๆ ยอมรับไม่ได้ มีแนวทางเรียกร้องความรุนแรง เช่นโพสหนึ่งขอให้ตามฆ่าสมาชิกพรรคเดโมแครต, ผู้นำกลุ่ม Black Lives Matter, และนักข่าวกระแสหลัก อย่างไรก็ดีทาง Parler ระบุว่าสองวันที่เป็นข่าวก่อนบริการจะดับไปนี้มีสมาชิกใหม่รวมมากกว่าที่เปิดบริการมาสองปีเสียอีก ที่มา - BBC
# YouTube ไทยเผยวิดีโอเพลงไทยยอดนิยม 2020 มะล่องก่องแก่งฉบับ cover ยอดดูสูงสุด YouTube ประเทศไทยเผยวิดีโอและครีเอเตอร์ยอดนิยมประจำปี 2020 ในหมวดทั่วไป และหมวดเพลง ดังนี้ 10 อันดับวิดีโอยอดนิยมบน YouTube หมวดเพลงดัง (จัดอันดับ ณ วันที่ 15 พฤศจิกายน 2563) โดยในปีนี้ เพลงลูกทุ่งยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง 6 ใน 10 ของวิดีโอเพลงยอดนิยมเป็นวิดีโอเพลงลูกทุ่ง มะล่องก่องแก่ง[MALONG KONGKAENG] - Cover: มอส จารุภัทร Feat.แฮปปี้ ปริญญา(ต้นฉบับ: พจน์ สายอินดี้) จนถึงตอนนี้มียอดรับชมกว่า 177 ล้านวิว (MV Full)โดดดิด่ง Ost. ไทบ้าน x BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้ / BNK48 คือเก่า - เบนซ์ เมืองเลยXกระต่าย พรรณิภา(MV OFFICIAL) อสูรกาย - กานต์ ทศน (Official Mv) 24พฤษภา (24MAY) - แจ๊ส สปุ๊กนิค ปาปิยอง กุ๊กกุ๊ก (JSPKK) | (Official Mv) ล่ะแมนวา1.2(ชาบู) - อ๊อฟ สงกรานต์ Ft. เเร็พอีสาน (COVER BY T-REX) P.A.P BEATBAND Ft N/A - ฟาวเวอร์ รักเหงาเหงา - ฝน นภัส จิวะกิดาการ x ILLSLICK (Cover by JORJOEY & Nicetriumph) ตัวละครลับ - กระต่าย พรรณนิภา (OFFICIAL MV) ปล่อย - NUM KALA (Official MV) ส่วนการจัดอันดับก่อนหน้านี้ที่ เพลงของ มนต์แคน แก่นคูน ศิลปินหมอลำนั้นเป็นการจัดอันดับจากเว็บไซต์วิเคราะห์ตลาดดนตรี Chartmaster.org ออกสรุปข้อมูลรายชื่อศิลปินที่ถูกสตรีมมากที่สุดบน YouTube จากประเทศต่างๆ รวมถึงประเทศไทยด้วย นอกจากนี้ YouTube ยังจัด 10 อันดับวิดีโอยอดนิยมบน YouTube หมวดทั่วไป (จัดอันดับ ณ วันที่ 15 พฤศจิกายน 2563) เด็กฉลาดต้องแบบนี้ สุภาพบุรุษสุดซอย 2020 | EP.1 สู้ๆๆ..เพื่อหมูกระทะของเฌอ เก๋ไก๋เป็นนางเอกหนังโฆษณา เรื่องแรก เยลลี่เคียวโฮ รสโคล่า ขวดโค้กกินได้ ปีโป้โคล่า ถ้าเพลง พักก่อน อยู่ในอาชีพต่างๆ (ล้อเลียนเพลง MILLI - พักก่อน) โควิดระบาด ระวังแมสปลอมให้ดี UDiEX2 vs Sprite Salaider | FULL FIGHT | IDOL FIGHT THAILAND ฮักแพง HugPang หนังเต็มเรื่อง HD ผมไม่ได้เอ๋อแค่สมองของผมช้า พีช พิชิตสถิติใหม่ ก๋วยเตี๋ยวโอ่งมังกร โคตรใหญ่ โค ตะ ระ โอ่งง!! #กินปุ๊บอินปั๊บ 10 อันดับครีเอเตอร์ยอดนิยมบน YouTube (จัดอันดับ ณ วันที่ 15 พฤศจิกายน 2563) MNJ TV Kaykai Salaider zbing.z SpriteDer SPD Kyutae Oppa UDiEX2 Bie The Ska HeHaa TV Ananped แจ๊ส สปุ๊กนิค ปาปิยอง กุ๊กกุ๊ก ที่มา - YouTube
# HP เปิดตัวหูฟังไร้สาย Elite Wireless Earbuds มี ANC ราคา 199 ดอลลาร์ HP เปิดตัวหูฟังไร้สาย Elite Wireless Earbuds ไดรเวอร์นีโอไดเมียมขนาด 9.2 มิลลิเมตร รองรับความถี่ 20 ถึง 18,000Hz มี PNC (Passive Noise Canceling) จากจุกโฟม และ ANC (Active Noise Canceling) พร้อมไมค์รับเสียงภายนอกแบบรอบทิศทาง สามารถปรับแต่งเสียง ปรับแต่งการควบคุมด้วยระบบสัมผัส และปรับระดับ ANC ได้ในแอป ที่จะมีทั้งเวอร์ชั่น Windows, iOS และ Android HP Wireless Earbuds ชาร์จผ่าน USB-C ชาร์จ 15 นาทีใช้งานได้ 1.5 ชั่วโมง ชาร์จเต็มภายใน 2 ชั่วโมง แต่ยังไม่เปิดเผยว่าแบตเตอรี่อยู่ได้นานเท่าไร รองรับ Microsoft Swift Pair และรองรับการย้ายอุปกรณ์จากมือถือเป็นโน้ตบุ๊กหรือคอมพิวเตอร์แบบ “seamless” HP Elite Wireless Earbuds มาเป็นตัวเลือกพร้อมโน้ตบุ๊ก Elite Dragonfly Max วางจำหน่ายแยก ในเดือนเมษายน ที่ราคา 199 ดอลลาร์ (ราว 6,000 บาท) ที่มา - HP, Notebookcheck
# แบงค์ชาติสิงคโปร์แนะนำ ส่งอั่งเปาดิจิทัลแทนดีกว่า ถ้าอยากได้ธนบัตรใหม่ต้องจองล่วงหน้า หน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินของสิงคโปร์ (Monetary Authority of Singapore หรือ MAS เทียบได้กับแบงค์ชาติของสิงคโปร์) ออกประกาศแนะนำให้คนสิงคโปร์หันมาแจก "อั่งเปาดิจิทัล" แทนการแจกเงินสดในช่วงเทศกาลตรุษจีน MAS ให้เหตุผลว่า อั่งเปาดิจิทัล (e-hong bao) สามารถส่งให้กันได้จากระยะไกล ไม่จำเป็นต้องมาเจอกันจริงๆ จะจัดงานพบหน้าผ่านออนไลน์แล้วส่งอั่งเปาให้กันก็ได้ อีกทั้งยังเป็นมิตรต่อส่งแวดล้อม ลดปริมาณการพิมพ์ธนบัตรใหม่ด้วย ซึ่ง MAS ก็กระตุ้นให้บริษัทฟินเทคในสิงคโปร์พัฒนาการส่งของขวัญออนลไน์ (e-gifting) มาสักระยะหนึ่งแล้ว ส่วนคนที่ยังต้องการธนบัตรใหม่ไปใส่ซองแจกในวันตรุษจีน MAS ก็ร่วมมือกับธนาคารพาณิชย์ของสิงคโปร์ ต้องจองคิวล่วงหน้าก่อนไปรับธนบัตรใหม่ที่สาขาของธนาคาร ธนาคารพาณิชย์ของสิงคโปร์เองก็พยายามออกแคมเปญกระตุ้นให้คนส่งอั่งเปาดิจิทัลเพิ่มขึ้น ตัวอย่างเช่นโฆษณาของ DBS ด้านล่าง ที่มา - MAS, Channel News Asia
# ตำรวจซานฟรานซิสโก เตรียมรับมือกลุ่มสนับสนุน Trump ประท้วงที่ สนง. ใหญ่ Twitter Twitter น่าจะเป็นโซเชียลมีเดียที่ต้องรับมือกับ Donald Trump มากที่สุด โดยเคสล่าสุดถึงกับต้องแบนบัญชีถาวร แม้จะย้ายไปบัญชี @POTUS ก็ต้องตามไปลบทวีต ซึ่งก็มีรายงานว่ากลุ่มสนับสนุน Trump นัดประท้วง Twitter ผ่าน Reddit ในวันจันทร์นี้ (ตามเวลาท้องถิ่น) ทำให้กรมตำรวจของซานฟรานซิสโกเตรียมรับมือกับกลุ่มผู้สนับสนุน Trump ที่สำนักงานใหญ่ของ Twitter ในซานฟรานซิสโกแล้ว แม้จะไม่มีพนักงานอยู่เพราะวิกฤติโควิดก็ตาม โดยกรมตำรวจระบุว่ายินดีช่วยเหลือและอำนวยความสะดวก การชุมนุมและการแสดงออกตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ แต่ก็เรียกร้องให้ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญอย่างสงบ และนึกถึงความปลอดภัยของคนอื่นด้วย ที่มา - TechCrunch
# HP เปิดตัว Elite Dragonfly G2 และ Elite Dragonfly Max โน้ตบุ๊ก 2-in-1 รองรับ 5G HP เปิดตัวโน้ตบุ๊ก 2-in-1 ขนาด 13.3 นิ้ว สำหรับธุรกิจ รุ่น Elite Dragonfly G2 และรุ่นพิเศษ Elite Dragonfly Max เน้นเรื่องการประชุมทางไกล ทั้งสองรุ่นมาพร้อมซีพียู Intel Core 11th Gen และรองรับ 5G ผ่าน Nano SIM Elite Dragonfly G2 จะมีซีพียู Intel Core 11th Gen รุ่น i3, i5 และ i7 ส่วน Dragonfly Max มีแค่ i5 กับ i7 ทั้งสองรุ่นตัวเลือกแรมสูงสุด 32GB ตัวเลือก SSD M.2 สูงสุด 2TB พอร์ตเชื่อมต่อ USB 3.1 หนึ่งพอร์ต USB-C Thunderbolt 3 สองพอร์ต HDMI 1.4b หนึ่งพอร์ต รุ่น Dragonfly G2 มีตัวเลือกหน้าจอ 4K รุ่น Dragonfly Max ตัวเลือกหน้าจอสูงสุดแค่ Full HD ทั้งสองรุ่นมีตัวเลือกเคลือบหน้าจอเพื่อความเป็นส่วนตัว ลดมุมการมองเห็นจากด้านข้าง จุดแตกต่างหลัก ๆ คือรุ่น Dragonfly Max เน้นการประชุมทางไกลมากขึ้น โดยการเปลี่ยนกล้องหน้าจาก 1.2 MP ที่ไม่มีสไลด์ปิดกล้องในรุ่น G2 เป็นกล้อง 5MP พร้อมสไลด์ปิดกล้องเพื่อความเป็นส่วนตัว และเพิ่มไมโครโฟน แบบ wide-array รับเสียงมุมกว้างเป็น 4 ตัว และมีตัวเลือกแถมหูฟัง HP Elite Wireless Earbuds Dragonfly G2 มาในสี Dragonfly Blue ส่วน Dragonfly Max จะมีตัวเลือกสี Sparkling Black เพิ่มเข้ามาวางจำหน่ายภายในเดือนมกราคมนี้ ยังไม่เปิดเผยราคา ที่มา - HP, The Verge
# Dell เปิดตัวจอโค้ง UltraSharp 40 มี Thunderbolt 3 และ UltraSharp 38 USB-C Hub Dell เปิดตัวหน้าจอ UltraSharp 40 จอโค้งขนาด 40 นิ้ว ความละเอียด WUHD สัดส่วน 21:9 รองรับ sRGB 100%, DCI-P3 98% ความสว่าง 300nits รีเฟรชรท 60Hz มีลำโพงแรงขับ 9W ในตัว พอร์ทมี HDMI 2.0 x2, DisplayPort 1.4 x1, USB-A 3.1 Gen2 x3, USB Type-b ขา upstream สำหรับต่อฮับ USB, RJ45, 3.5mm และ Thunderbolt 3 ที่รองรับการจ่ายไฟ PD 90W UltraSharp 40 วางขาย 28 มกราคมนี้ ราคา 2,099.99 เหรียญหรือราว 63,000 บาท อีกตัวคือ UltraSharp 38 HDR ขนาด 37.5 นิ้ว แพแนล IPS ความละเอียด WQHD+ รองรับ sRGB 100%, DCI-P3 95% พอร์ทมี HDMI 2.0, DisplayPort 1.4, RJ45, USB-C ที่รองรับการจ่ายไฟ PD 90W วางขาย 28 มกราคมนี้ ราคา 1,499.99 เหรียญ หรือราว 45,000 บาท ที่มา - MacRumors, Notebookcheck UltraSharp 40 Ultrasharp 38
# พี่ทำให้เสร็จก่อน, นักพัฒนา CDPR เผย Cyberpunk 2077 ยังเหลือความลับในเกมเพียบ น่าจะเป็นเกมมาแรงที่สะดุดขาตัวเองแห่งปีสำหรับ Cyberpunk 2077 ที่จำนวนผู้เล่นหายไปเกือบ 80% หลังขายเพียงเดือนเดียว และโอกาสครบรอบ 1 เดือน Pawel Sasko หนึ่งในนักออกแบบเควสต์ของ Cyberpunk 2077 ได้ทวีตว่ายังไม่มีใครค้นพบทุกอย่างที่ทีมงานทำเอาไว้ในเกม ขนาด The Witcher 3 ยังใช้เวลาเป็นปี ๆ กว่าจะเจอกันหมด ฉะนั้นเกมนี้น่าจะนานเช่นกัน Sasko บอกด้วยว่าเขาและทีมงานไล่เก็บคอมเมนท์และฟีดแบ็กให้ได้มากที่สุดเท่าที่ได้ และทุกเสียงบ่นเสียงด่า ทีมงานรู้เรื่องหมด แพตช์ที่ผ่านมาอย่างน้อยก็พอเป็นเครื่องพิสูจน์ได้ แต่ไม่ใช่ทุกปัญหาจะสามารถแก้ได้ทีเดียวพร้อมกัน ที่มา - @PaweSasko via Gamerant
# Lenovo เปิดตัว Yoga Slim 7i Pro ใหม่ เพิ่มตัวเลือกจอ OLED Lenovo เปิดตัว Yoga Slim 7i Pro โดยยังคงเป็นรุ่นเดียวกับปีที่แล้ว ทั้งในแง่ดีไซน์และสเปค สิ่งที่มาใหม่มีแค่รุ่นที่ใช้แพแนลหน้าจอเป็น OLED ของซัมซุง และรองรับ Alexa เพิ่มเข้ามา รุ่น OLED ขนาดยังเท่าเดิมคือ 14 นิ้ว แต่ความละเอียดเพิ่มขึ้นจากเดิมเป็น 2.8K (2880x1800 พิกเซล) รีเฟรชเรท 90Hz สัดส่วน 16:10 รองรับมาตรฐานสี DCI-P3 100% และ sRGB 125% รวมถึง Dolby Vision Lenovo ยังไม่ประกาศราคาของ Yoga Slim 7i Pro รุ่น OLED ที่มา - Lenovo
# ผู้บริหารเทคสตาร์ทอัพไทยชี้ ต้องการตลาดที่ใหญ่พอ และกฎหมายเอื้อต่อการลงทุน AWS ประเทศไทยจัดงานเสวนาออนไลน์ Building Thailand’s first Unicorn: The Technology Powering the Nation’s Startup Innovation เน้นแลกเปลี่ยนกันเรื่อง อนาคตและความเป็นไปได้ที่ประเทศไทยจะมีสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์น รวมถึงความท้าทายที่สตาร์ทอัพต้องเจอ โดยมีผู้เข้าร่วมเสวนาทั้งจากฝั่งสตาร์ทอัพและฝั่งนักลงทุนประกอบด้วย คุณกรวัฒน์ เจียรวนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Amity (เจ้าของ Eko สตาร์ตอัพไทยที่พัฒนาแอพแชทสำหรับตลาดองค์กร), คุณยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ก่อตั้ง บริษัท ไลน์แมน วงใน จำกัด และ คุณปารดา ทรัพย์ประเสริฐ ผู้อำนวยการ 500 Start-ups โดยมีผู้ดำเนินรายการคือ ดร.ชวพล จริยาวิโรจน์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย, บริษัท อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) ข้อมูลเปิดเผย Blognone เป็นบริษัทในเครือ ไลน์แมน วงใน จำกัด Image by StartupStockPhotos from Pixabay สตาร์ทอัพไทย ติดกับดักความคิดที่ว่าให้บริการในไทยก็เพียงพอแล้ว คุณกรวัฒน์จาก Amity ให้ภาพรวมสภาวะปัจจุบันของสตาร์ทอัพในไทยว่ายังไม่ mature เท่าไรนัก เมื่อเทียบกับจีดีพี และประเทศเพื่อนบ้าน สตาร์ทอัพไทยติดกับดักความคิดที่ว่า เจาะตลาดคนไทยก็เพียงพอแล้ว ซึ่งจากประสบการณ์ที่ได้พูดคุยกับสตาร์ทอัพในมาเลเซีย, สิงคโปร์ พวกเขารู้ตัวตั้งแต่แรกแล้วว่าตลาดในประเทศนั้นเล็กเกินไป ต้องเป็น regional player เท่านั้นถึงจะอยู่ได้ ทำให้ตอนนี้มาเลเซียมีสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นมากพอสมควร ส่วนประเทศไทย เนื่องจากขนาดประชากรเยอะพอและใหญ่พอ ทำให้เกิดสภาวะก้ำกึ่งระหว่าง อยู่ในประเทศ หรือบุกต่างประเทศ จากซ้าย ทัชพล ไกรสิงขร CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง ConvoLab และรองประธานกรรมการและหัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยี (Vice President, Head of Technology) ของ Amity กรวัฒน์ เจียรวนนท์ ซีอีโอของ Eko/Amity ณัฐพล ไกรสิงขร CFO และผู้ร่วมก่อตั้ง ConvoLab COVID-19 ทำสตาร์ทอัพต้องพึ่งตนเองมากกว่านักลงทุน คุณยอดจาก ไลน์แมน วงใน ให้มุมมองว่า ปีที่ผ่านมาสำหรับสตาร์ทอัพนั้น เหนื่อยมาก ยาก ลำบาก โดยเฉพาะสตาร์ทอัพที่ทำเกี่ยวกับการท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ เราจึงมองเห็นสภาวะที่เกิดขึ้นเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกคือ จำศีล จากการลดคน หรือเปลี่ยนธุรกิจไปทำอย่างอื่นชั่วคราว เพื่อรักษากระแสเงินสดให้ได้มากที่สุด ส่วนสตาร์ทอัพอีกกลุ่มคือ Thrive Under Covid-19 หรือมีการเติบโตสูง เช่น Food Delivery, E- commerce อย่างไรก็ตาม COVID-19 บังคับให้สตาร์ทอัพที่จากเดิม สามารถระดมทุนทุนหรือเข้าหานักลงทุนเพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ ได้ ตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว เพราะเราไม่สามารถบินไปหานักลงทุนได้ การสร้างความสัมพันธ์เป็นไปได้ยาก ดังนั้น สตาร์ทอัพต้องอยู่ให้ได้ด้วยตัวเองมากขึ้น เป็นปีที่ต้องปรับตัวเยอะ ที่อยู่ได้ก็ต้องโฟกัสที่ความสามารถในการทำเงินอย่างแท้จริง ฝั่งผู้ลงทุน คุณปารดา จาก 500 Startups บอกว่า อีโคซิสเต็มไทยเดินช้ากว่าประเทศอื่นจริง แต่ยังยืนยันว่าเรายังเดินต่อได้อย่างแข็งแรง โดยจากสถิติการลงทุน 80 บริษัท มีไม่ถึง 15% ที่ไม่รอด และมี 60% ยังระดมทุนรอบต่อไปได้ ในปีที่ผ่านมาพบว่าดีลการลงทุนน้อยลงจริง เพราะเราต้องดูอนาคต ว่าธุรกิจนี้ยังอยู่ได้หรือไม่ นักลงทุนกลั่นกรองมากขึ้น ทำให้ดีลน้อยลง แต่ไม่ใช่ไม่มีเลย ยังพอมองเห็นดีลใหญ่บ้าง และมีหลายเจ้าที่กำลังจะ IPO ภายใน 3-5 ปี ดังนั้นสิ่งที่อยากเห็นคือ คนช่วยกันภายในประเทศ ทั้งรัฐ เอกชน และสตาร์ทอัพด้วยกันเอง แนวโน้มสตาร์ทอัพในอาเซียน ยังหนีไม่พ้น B2C ในวงเสวนามีการพูดคุยกันด้วยว่า สูตรสำเร็จสำหรับสตาร์ทอัพคืออะไร ซึ่งผู้เข้าร่วมทั้งสามตอบตรงกันว่าไม่มีสูตรสำเร็จใดๆ เลย แต่หากโฟกัสเฉพาะตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สตาร์ทอัพที่ให้บริการแบบ B2C ยังคงเป็นเทรนด์หลัก ในขณะที่การบริการแบบ B2B นั้น ตลาดในภูมิภาคนี้ยังเล็ก คุณยอดบอกว่า ไม่มีสูตรสำเร็จที่ชัดเจนขนาดนั้น แต่พื้นฐานเลยคือ ขนาดตลาดต้องใหญ่พอ ไม่เป็นแชมป์ในประเทศไปเลยก็ต้องไปเป็น regional หรือ global player ซึ่งไลน์แมน วงในเลือกทางแรก เพราะเราคิดว่ามันใหญ่พอ มีการใช้จ่ายต่อหัวสูงกว่าประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน แต่อาจต้องใช้เวลาสร้างฐานผู้ใช้งาน และยังโฟกัสที่ B2C เป็นหลัก ที่สำคัญคือ การสร้างคุณค่าเพื่อเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคต้องมากพอ ถ้าทำได้ ก็จะหาวิธีหาเงินจากกลุ่มผู้บริโภคเหล่านั้นได้ คุณกรวัฒน์ ระบุว่า ตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังไงก็ยังต้องเป็น B2C แม้ในตลาดโลก ขนาดตลาด B2B ใหญกว่ามาก แต่ในภูมิภาคของเรายังเล็กเกินไป ส่วนสูตรก็ไม่มีตายตัว แต่เท่าที่พยายามศึกษาบริษัทที่ประสบความสำเร็จคือ ทำผลิตภัณฑ์ใดผลิตภัณฑ์หนึ่งให้ดีจนเป็น best in class ไปเลย คือต้องมีโฟกัสสำคัญว่าสตาร์ทอัพต้องการทำอะไร แก้ปัญหาอะไร การมีเมนเทอร์ที่ดีก็สำคัญ บางทีอาจสำคัญกว่าเงิน เพราะช่วยให้เราหลีกเลี่ยงความผิดพลาดได้ ด้านคุณปารดาให้คำแนะนำว่า อย่าไปยึดติดกับการเป็นยูนิคอร์นมาก เพราะการเป็นยูนิคอร์นคือได้รับการลงทุน แต่ในช่วงเวลาที่เราไม่สามารถเดินทางไปหานักลงทุนได้ และนักลงทุนเองก็คิดเยอะมากขึ้น จึงอยากให้โฟกัสที่ความยั่งยืนของธุรกิจตัวเองมากกว่า ความคาดหวังจากภาครัฐ คุณปารดาแลกเปลี่ยนในมุมมองนักลงทุนว่า อยากให้รัฐบาลเปลี่ยนกฎบางข้อในเรื่องการระดมทุน บางกฎยังทำให้มันทำไม่สะดวก ต้องให้สตาร์ทอัพหนีไปจดทะเบียนต่างประเทศ ส่วนคุณยอดระบุว่า อยากให้สร้างสิ่งแวดล้อมในประเทศเหมาะสม และได้เปรียบในการแข่งขัน กฎหมายเป็นเรื่องหนึ่งเลย เรายังมองเห็นแพลตฟอร์มต่างชาติบางราย ยังไม่เสียภาษีในไทยในขณะที่บริษัทไทยต้องเสีย จึงอยากให้สร้างสิ่งแวดล้อมที่เท่าเทียมกัน
# เปิดตัว HP Envy 14 ซีพียู Intel Core 11th Gen, GTX 1650 Ti Max-Q, จอ Delta E <2 HP เปิดตัว HP Envy 14 โน้ตบุ๊กขนาด 14 นิ้ว ซีพียู Intel Core i5-1135G7 แรม DDR4 3200MHz ขนาด 16GB และ SSD NVMe เริ่มต้นที่ 256GB การ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1650 Ti Max-Q หน้าจอ IPS แบบสัมผัส ขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด 1,920 x 1,200 พิกเซล อัตราส่วน 16:10 ความสว่างสูงสุด 400 nits รองรับการแสดงผลสี sRGB ที่ 100% และ HP ระบุว่าเป็นหน้าจอที่ให้ค่าสีตรงความจริงที่สุดของบริษัท โดยมีการคาลิเบรตสีให้มีค่า Delta E น้อยกว่าสองมาจากโรงงาน และใช้แอป Display Control ของ HP ตั้งค่าจอได้ HP Envy 14 มีกล้องหน้า 720p รองรับ Wi-Fi 6, Bluetooth 5 มีพอร์ต Thunderbolt 4 หนึ่งพอร์ต, USB 3.1 Type-A หนึ่งพอร์ต, HDMI 2.0 หนึ่งพอร์ต มีช่องอ่าน microSD card และ Audio Combo Jack ขนาด 3.5 มิลลิเมตร (รูหูฟัง) แบตเตอรี่ 63.3 WHr ใช้งานได้ประมาณ 16.5 ชั่วโมง ชาร์จได้ 50% ภายใน 30 นาที HP Envy 14 วางจำหน่ายเดือนมกราคมนี้ ราคาเริ่มต้น 999 ดอลลาร์ (ราว 300,100 บาท) ที่มา - HP
# โซนี่เปิดตัวลำโพงไร้สาย ปรับเสียงให้เองตามพื้นที่ห้อง เชื่อมต่อกับทีวี Bravia ได้ โซนี่เปิดตัวลำโพงไร้สายสองรุ่นคือ RA5000 และ RA3000 ทั้งคู่มาพร้อมฟีเจอร์ 360 Reality Audio และ Immersive Audio Enhancement สำหรับความกระหึ่มของเสียงในห้อง โดยอาศัยการตรวจจับพื้นที่จากโหมด Sound Calibration ที่ใช้เซ็นเซอร์วัดพื้นที่รอบห้อง จุดแตกต่างหลัก ๆ คือ RA3000 จะมีลำโพงรอบตัว และป้องกันความชื้น ขณะที่ RA5000 มีลำโพงด้านบนเพิ่มเข้ามา 3 ตัวเพื่อยิงเสียงขึ้นไปด้านบน มีซับวูฟเฟอร์และได้รับการรับรองสำหรับเล่นเพลง Hi-Res ทั้งคู่รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่มี Chromecast และสั่งงานได้ด้วย Google Assistant และอุปกรณ์ที่รองรับ Alexa (ตัวมันเองไม่ได้รองรับ น่าจะประมาณสั่ง Google Home ให้แคสต์เพลงไปชึ้นที่ลำโพง) รวมถึงรองรับการเชื่อมต่อกับทีวี Bravia ผ่านบลูทูธ RA3000 ราคา 280 ปอนด์ (ราว 11,000 บาท) และ RA5000 ราคา 500 ปอนด์ (ราว 20,000 บาท) ตอนนี้วางขายก่อนเฉพาะใน UK และ EU ในเดือนหน้า ที่มา - Sony, Notebookcheck RA3000 RA5000
# [ลือ] Hyundai เตรียมเป็นพาร์ทเนอร์รถไฟฟ้าอัตโนมัติกับ Apple เริ่มผลิต 2024 หลัง Hyundai ออกมายอมรับเรื่องการเจรจากับ Apple ถึงการพัฒนารถไฟฟ้าไร้คนขับ ล่าสุด Reuters รายงานอ้างอิงสื่อท้องถิ่นเกาหลี Korea IT News ว่าทั้งสองบริษัทเตรียมลงนามเป็นพาร์ทเนอร์กันภายในเดือนมีนาคมนี้ และจะเริ่มการผลิตราวปี 2024 ในสหรัฐ ซึ่งสอดคล้องกับการวิเคราะห์ของ Ming-Chi Kuo ว่ารถ Apple น่าจะเปิดตัวอย่างเร็วที่สุด 2025 Korea IT News เผยด้วยว่า Hyundai และ Apple จะออกรถเวอร์ชันเบต้าออกมาก่อนในปีหน้า ที่มา - Reuters
# โปรแกรมเมอร์ไม่พอเป็นเหตุ องค์กรมาตรฐานซอฟต์แวร์ระบุ เฉพาะในสหรัฐฯ ซอฟต์แวร์คุณภาพต่ำสร้างความเสียหายปีละ 2 ล้านล้านดอลลาร์ Consortium for Information & Software Quality (CISQ) องค์กรวางมาตรฐานคุณภาพซอฟต์แวร์รายงานการสำรวจเหตุจากปัญหาคุณภาพซอฟต์แวร์และความเสียหายที่เกิดขึ้นในปี 2020 ระบุว่าความเสียหายรวมอยู่ที่ 2.08 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่าหกหมื่นล้านบาท โดยปัญหาใหญ่เกิดจากโปรแกรมเมอร์ไม่เพียงพอ ความเสียหายที่เกิดขึ้นมีตั้งแต่โครงการซอฟต์แวร์ที่ล้มเหลว 260,000 ล้านดอลลาร์ ความเสียหายจากซอฟต์แวร์เก่าคุณภาพต่ำ 520,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ บั๊กที่ทำให้ซอฟต์แวร์ทำงานล้มเหลว 1.56 ล้านล้านดอลลาร์ (รวมกันเกินความเสียหายรวม คาดว่าบางกรณีจัดอยู่ในหลายหมวด) รายงานอาศัยการสำรวจเหตุการที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์ เช่น บั๊กซอฟต์แวร์ของยาน Starliner ที่ทำให้โบอิ้งทดสอบนำยานจอดเทียบสถานีอวกาศนานาชาติล่าช้าและต้องทดสอบซ้ำ รายงานระบุว่าปัญหาใหญ่คือโปรแกรมเมอร์ยังขาดแคลนอยู่มาก และประเมินว่าประชากรโลกทั้งหมดมีความสามารถในการเขียนโปรแกรมเพียง 2% และคาดว่าตำแหน่งงานจะเพิ่มขึ้น 24% ภายใน 7 ปีข้างหน้า ที่มา - The Register ภาพโดย Free-Photos
# GoBear บริษัทขายประกันออนไลน์ ประกาศเลิกกิจการเพราะระดมเงินทุนเพิ่มไม่ได้ GoBear บริษัทขายประกันออนไลน์สัญชาติสิงคโปร์ ที่มาทำตลาดในบ้านเราด้วย ประกาศยุติกิจการเนื่องจากไม่สามารถระดมเงินทุนเพิ่มได้ และธุรกิจบางส่วนได้รับผลกระทบจาก COVID-19 เช่น ขายประกันเดินทางได้น้อยลง GoBear ก่อตั้งในปี 2015 ปัจจุบันบริษัทมีพนักงาน 165 คนใน 7 ประเทศคือ สิงคโปร์ ไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม อินโดนีเซีย ฮ่องกง GoBear ระบุว่าจะทยอยปิดธุรกิจทีละเฟสในระยะเวลาอันใกล้นี้ และพนักงานจะได้รับแจ้งเลิกกิจการและได้เงินชดเชยตามที่กฎหมายแต่ละประเทศกำหนดไว้ ที่มา - Straits Times
# Lenovo เปิดตัว ThinkReality A3 แว่น AR สำหรับใช้งานภาคองค์กร Lenovo เปิดตัว ThinkReality A3 แว่นตาอัจฉริยะรุ่นใหม่สำหรับกลุ่มลูกค้าองค์กร โดยเน้นการใช้งานกับงาน visualization ประเภทสามมิติ หรือ workflow งานประเภท AR โดยปรับเปลี่ยนรูปแบบจากรุ่นเดิม A6 ที่จะคล้ายกับแว่น mixed reality ทั่วไปที่มีขนาดใหญ่มากให้เล็กลงคล้ายกับแว่นตาทั่วไปมากขึ้น ThinkReality A3 ใช้ชิป Snapdragon XR1 Platform พร้อมกับหน้าจอ stereoscopic 1080p ให้ผู้ใช้เห็นหน้าจอ virtual display ได้สูงสุดถึง 5 จอ พร้อมกับกล้อง 8 ล้านพิกเซล RGB ที่สามารถบันทึกวิดีโอ 1080p, dual-fish eye camera สำหรับใช้ติดตามในสเกลระดับห้อง พร้อมรองรับระบบ tether เพื่อเชื่อมต่อเข้ากับ PC หรือสมาร์ทโฟน Motorola บางรุ่นผ่านสาย USB-C Lenovo มี A3 อยู่สองรุ่น คือรุ่น PC รัน Windows เพื่อใช้เครื่องมือและแอป ส่วน A3 รุ่น Industrial Edition ใช้ซอฟต์แวร์ ThinkReality เพื่อใช้งานประเภท hands-free AR โดย Lenovo ไม่ได้ประกาศราคาจำหน่ายของแว่นตา A3 อย่างเป็นทางการ (เนื่องจากขายองค์กรเป็นหลัก) แต่ระบุวันพร้อมจำหน่ายว่าในช่วงกลางปีนี้ ที่มา - XDA Developers, Engadget ภาพจาก Lenovo ภาพจาก Lenovo
# [ลือ] Apple จะเปิดตัว AirPods Pro และ iPhone SE รุ่นใหม่ เมษายนนี้ เว็บ Macotakara รายงานโดยอ้างข้อมูลจากซัพพลายเชนที่เกี่ยวข้อง ว่าแอปเปิลจะเปิดตัวหูฟังไร้สาย AirPods Pro รุ่นใหม่ และ iPhone SE รุ่นใหม่ ในเดือนเมษายนนี้ ข้อมูลระบุว่า AirPods Pro รุ่นใหม่ จะมีเคสชาร์จหูฟังดีไซน์ใหม่ ที่มีขนาดเล็กลงเล็กน้อย รวมทั้งตัวหูฟังเองก็จะปรับรูปแบบเช่นกัน ส่วน iPhone SE ซึ่งหากออกมาจริงจะเป็นรุ่นที่ 3 เว็บ Macotakara ไม่มีรายละเอียดส่วนนี้ แต่ข่าวลือก่อนหน้านี้ระบุว่าจะมีขนาดหน้าจอใหญ่ขึ้นเป็น 5.5 นิ้ว ดีไซน์คล้ายกับ iPhone 8 Plus ที่มา: 9to5Mac
# Quibi ปิดดีลขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ให้ Roku แล้ว Roku ผู้ผลิตกล่องชมสตรีมมิ่งผ่านโทรทัศน์ ประกาศเข้าถือลิขสิทธิ์เนื้อหาของ Quibi แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งที่ประกาศปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว เป็นไปตามข่าวลือก่อนหน้านี้ ซึ่งคอนเทนต์ที่ซื้อมา ประกอบด้วยรายการและสารคดีรวมมากกว่า 75 รายการ โดยได้สิทธิในการจัดจำหน่ายทั่วโลกด้วย นอกจากนี้ Roku ยังได้สิทธิเผยแพร่เนื้อหาของ Quibi ที่ผลิตไปแล้วแต่ยังไม่เคยออกอากาศอีกด้วย Roku ระบุว่าเนื้อหาทั้งหมดของ Quibi จะนำมาเผยแพร่ต่อผ่านทาง Roku Channel ช่องสตรีมมิ่งสำหรับลูกค้า Roku มูลค่าของดีลไม่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการ แต่มีรายงานว่าน้อยกว่า 100 ล้านดอลลาร์ เหตุผลหนึ่งเพราะคอนเทนต์ Quibi มีขนาดสั้นไม่เกิน 10 นาทีต่อตอน ที่มา: Ars Technica และ Roku
# Trump แถลงเอง กำลังเจรจากับเว็บอื่น, สนใจทำแพลตฟอร์มโซเชียลของตัวเอง หลัง Donald Trump โดนแบนถาวรจาก Twitter และช่องทางโซเชียลอื่นๆ อีกจำนวนมาก หลายคนก็จับตากันว่าท่าทีของเขาจะทำอย่างไรต่อในแง่ช่องทางการสื่อสาร ทีมงานของ Trump ออกแถลงการณ์ผ่านสื่อว่า กำลังเจรจากับเว็บไซต์อื่นๆ อีกหลายแห่ง และจะมีประกาศข่าวใหญ่ในเร็วๆ นี้ และอีกทางหนึ่งที่เป็นไปได้คือการสร้างแพลตฟอร์มโซเชียลของตัวเองในเร็วๆ นี้ (we also look at the possibilities of building out our own platform in the near future) ก่อนหน้านี้ มีการคาดการณ์ว่า Trump จะย้ายไปใช้ Parler แต่เนื่องจาก Parler เองก็โดนแบนเช่นกัน ทำให้การย้ายไปใช้ Parler ในระยะสั้นย่อมไม่ง่ายนัก แพลตฟอร์มโซเชียลอีกตัวคือ Gab ที่หน้าตาคล้าย Twitter แต่ก็โดนแอปเปิล-กูเกิลแบนไปก่อนหน้านี้แล้ว (ต้องใช้ผ่าน mobile web เท่านั้น) ดังนั้น แม้ในอนาคต Trump จะสร้างแพลตฟอร์มเองได้สำเร็จ (ผู้ติดตาม Trump บน Twitter มีจำนวน 89 ล้านคน, Facebook จำนวน 35 ล้านคน) แต่การต้องฝ่าด่านแอปเปิล-กูเกิล เพื่อนำแอพขึ้นสโตร์ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน ที่มา - AP, ภาพจาก Facebook Donald Trump
# แอพโซเชียลฝ่ายขวา Parler โดนแบนบัญชีบน AWS, โดนแอปเปิลถอดจาก App Store แอปเปิลแบนแอพ Parler โซเชียลเน็ตเวิร์คของฐานเสียง Donald Trump ออกจาก App Store แล้ว ตามหลังกูเกิลที่แบน Parler ไปก่อนหน้านี้ เหตุผลที่แอปเปิลแบนคือ Parler ละเมิดเงื่อนไขของ App Store เรื่องมาตรการคัดกรองเนื้อหาที่รุนแรง และก่อนหน้านี้แอปเปิลแจ้ง Parler ให้ปรับมาตรการแล้ว แต่แอปเปิลมองว่ามาตรการที่ Parler แจ้งมานั้นยังไม่เพียงพอ จึงตัดสินใจแบน Parler จนกว่าจะแก้ปัญหาได้ ตอนนี้คนใกล้ชิด Donald Trump หลายคนเริ่มหันไปใช้ Parler กันบ้างแล้ว เช่น Eric Trump และ Donald Trump Jr. ลูกชายของเขาทั้งสองคน และนักการเมืองที่ใกล้ชิดกับ Trump เช่น Ted Cruz ก็เปิดบัญชีบน Parler แล้ว การแบนของกูเกิลและแอปเปิล ทำให้ตอนนี้ช่องทางการใช้งาน Parler เหลือเพียงผ่านหน้าเว็บ และแอพ Android แบบติดตั้งผ่าน APK ด้วยตนเอง อัพเดต ล่าสุด Amazon ประกาศว่าจะแบนบัญชีของ Parler บน AWS ในวันอาทิตย์ (ตามเวลาสหรัฐ) ทำให้ Parler จะใช้งานไม่ได้ทั้งระบบ หากไม่สามารถหาโฮสต์ใหม่ได้ทัน โดย Amazon ไม่ได้ระบุเหตุผลว่าทำไมถึงแบน Parler John Matze ซีอีโอของ Parler กล่าวถึงปัญหานี้ โดยยอมรับว่าอาจต้องใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์ในการย้ายระบบ Parler เพราะต้องสร้างระบบขึ้นใหม่ อย่างไรก็ตาม ทีมงาน Parler เตรียมพร้อมรับสถานการณ์แบบนี้ไว้ตั้งแต่ต้น โดยไม่ได้ออกแบบระบบให้อิงกับสถาปัตยกรรมของ AWS อยู่แล้ว ที่มา - CNN, BuzzFeed
# LG ลงทุน 80 ล้านดอลลาร์ ถือหุ้นใหญ่ใน Alphonso บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลการดูทีวี LG ประกาศเข้าถือหุ้นใหญ่ใน Alphonso บริษัทวิเคราะห์จัดการข้อมูลการรับชมโทรทัศน์ ด้วยมูลค่าการลงทุน 80 ล้านดอลลาร์ ซึ่ง LG ระบุว่าทำให้บริษัทเป็นผู้ถือหุ้นใน Alphonso มากกว่า 50% Alphonso เป็นบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลการรับชมโทรทัศน์ในอเมริกา ทั้งวิธีการรับชมโฆษณาตลอดจนเนื้อหารายการ มีพาร์ทเนอร์เป็นผู้ผลิตโทรทัศน์รายใหญ่หลายราย ซึ่ง LG บอกว่าจะนำบริการของ Alphonso มาเสริมบริการสตรีมมิ่ง LG Channels ทั้งนี้ Alphonso จะยังดำเนินธุรกิจในฐานะบริษัทอิสระภายใต้แบรนด์เดิมต่อไป ที่มา: LG และ ZDNet
# แบนไม่ได้ก็โดนแบน TikTok แบนคลิปและแฮชแท็กปลุกระดมม็อบหน้ารัฐสภาของผู้สนับสนุนทรัมป์ ช่วงนี้มีความเคลื่อนไหวจากโซเชียลเน็ตเวิร์คหลายราย ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram หรือ Twitter ล่าสุดโซเชียลเน็ตเวิร์คที่ออกมาดำเนินการเรื่องคอนเทนต์สร้างความเกลียดชังของทรัมป์คือ TikTok ผู้ที่ทรัมป์จะพยายามแบนแต่ก็ไม่สำเร็จ ตัวทรัมป์เองไม่ได้มีบัญชี TikTok แต่ก็มีผู้พยายามโพสต์สนับสนุนเขาอยู่เรื่อย ๆ โดยล่าสุด TikTok ยืนยันกับ TechCrunch แล้วว่าทางแพลตฟอร์มได้ลบคลิปคำปราศรัยของทรัมป์เพื่อปลุกระดมผู้สนับสนุนของเขาแล้ว รวมถึงแฮชแท็กที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนของเขาอย่าง #stormthecapital และ #patriotparty ก็ถูกลดการมองเห็นในแอปเช่นกัน แต่จะยังคงให้วิดีโอรายงานข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ชุมนุมหน้ารัฐสภายังคงอยู่บนแพลตฟอร์มต่อไป TikTok ระบุว่าพฤติกรรมการสร้างความเกลียดชังหรือความรุนแรงจะไม่มีที่อยู่บนแพลตฟอร์ม บัญชีหรือเนื้อหาที่สนับสนุน กระตุ้น หรือส่งเสริมความรุนแรงถือว่าผิดกฎการอยู่ร่วมกันของชุมชนและจะถูกลบทิ้ง ที่มา - Engadget, TechCrunch ภาพจาก Pixabay
# Hyundai เผยกำลังเจรจาขั้นต้นกับ Apple ถึงการพัฒนารถไฟฟ้าไร้คนขับ หลังจาก Reuters เปิดเผยข้อมูลเรื่องโครงการรถไร้คนขับของ Apple ซึ่งระบุว่า Apple กำลังพิจารณาแนวทางหาพาร์ทเนอร์เพื่อการผลิตรถยนต์ให้ หรืออาจจะลดขนาดเหลือแค่ทำระบบและร่วมมือกับผู้ผลิตรถยนต์ในตลาด Hyundai เป็นรายแรกที่ออกมายืนยันว่ากำลังเจรจากับ Apple ในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าไร้คนขับร่วมกัน แต่การเจรจายังอยู่ในขั้นเริ่มต้นเท่านั้นและยังไม่มีการตกลงใด ๆ ทั้งสิ้น โดยการยืนยันของ Hyundai ไม่ได้เอ่ยชื่อ Apple ตรง ๆ แต่เป็นการตอบคำถามที่ถูกถามเข้ามาเป็นจำนวนมาก หลังมีรายงานจากสื่อท้องถิ่นเกาหลีว่า Apple กำลังเจรจากับ Hyundai เรื่องการพัฒนารถไฟฟ้าและแบตเตอรี่ ที่มา - CNBC
# [ไม่ยืนยัน] Intel กำลังพูดคุยกับ TSMC และ Samsung เพื่อเอาท์ซอร์สการผลิตชิป Bloomberg รายงานว่า Intel กำลังพูดคุยกับ TSMC และ Samsung ถึงกระบวนการจ้างผลิตชิป เพื่อแก้ปัญหากระบวนการผลิตชิปของตัวเองที่เริ่มตามหลังคู่แข่งไปไกลขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนหน้านี้ Bob Swan ซีอีโอของ Intel เคยบอกว่าจะเปิดเผยเรื่องนี้พร้อมแผนการจ้างผลิตชิปในการประกาศผลประกอบการ วันที่ 21 มกราคมนี้ อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวของ Bloomberg ระบุว่าจนถึงตอนนี้ Intel ก็ยังคงไม่ได้ข้อสรุปกับ TSMC เพราะยังรอดูการปรับปรุงกระบวนการผลิตของตัวเองจนนาทีสุดท้าย ขณะที่หากจะจ้าง TSMC ผลิตจริง ก็น่าจะใช้กระบวนการผลิตของ TSMC ที่ผลิตให้ลูกค้ารายอื่นอยู่แล้ว และคาดว่าชิป Intel จาก TSMC จะออกสู่ตลาดอย่างเร็วที่สุด 2023 ขณะที่การเจรจากับ Samsung นั้นยังอยู่ในขั้นเริ่มต้นเท่านั้น ไม่ได้ลงรายละเอียดเท่ากับที่เจรจากับ TSMC ที่มา - Bloomberg
# เปิดตัว Chromebook Spin 512 จาก Acer ใช้ซีพียูและจีพียูจาก AMD Acer เปิดตัว Chromebook Spin 512 เป็น Chromebook แบบพับได้ (convertible) ระดับธุรกิจ ซีพียูเป็น Ryzen 7 3700C หรือ Ryzen 5 3500C (ซีรีส์ C คือสำหรับ Chromebook) จีพียูเป็น Radeon Vega Mobile Chromebook Spin 512 หน้าจอ IPS ขนาด 14 นิ้ว FHD ครอบด้วย Gorilla Glass แรม DDR4 16GB, PCIe NVMe SSD 256GB หนัก 1.55 กก. หนา 17.35 มม. แบตอยู่ได้ราว 10 ชม. ได้รับการรับรองความทนทาน MIL-STD 810H มี USB-C 2 พอร์ท เป็น USB 3.2 Gen 1, DisplayPort over USB-C และช่องชาร์จไฟในตัว รวมถึงมี USB-A ที่เป็น USB 3.2 Gen 1 และ HDMI อีกอย่างละพอร์ต มี 3 สีคือ Pure Silver, Steel Gray และ Mist Green วางขายในสหรัฐเดือนหน้า ราคา 479.99 เหรียญหรือราว 14,500 บาท ที่มา - Acer
# ทีมวิจัยสำเนากุญแจ Titan ของกูเกิลสำเร็จ อาศัยการวัดคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากชิปเข้ารหัส Victor Lomne และ Thomas Roche หรือทีมวิจัยความปลอดภัย NinjaLab รายงานถึงการทดลองดึงข้อมูลกุญแจภายในของ Titan Security Key ของกูเกิล ทำให้แฮกเกอร์สามารถล็อกอินบัญชีของเหยื่อได้ โดยอาศัยการวัดคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากชิปเข้ารหัสในกุญแจ ชิปเข้ารหัสที่ถูกโจมตีครั้งนี้คือ NXP A7005a ที่รัน JavaCard Operating System ใช้เซ็นลายเซ็นดิจิทัลแบบ RSA-2048 และ ECC ขนาดไม่เกิน 320 บิต ทีมงานนำกุญแจไปกัดเอาแพ็กเกจออก (ต้องทำในห้องสะอาดเพื่อให้ชิปยังทำงานได้) และเอาเครื่องวัดคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าไปจ่อบนตัวชิปเพื่อสังเกตการทำงาน จากนั้นสั่งให้กุญแจยืนยันผู้ใช้ด้วยการยิง authentication request message จากนั้นสังเกตดูว่าชิปปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าแบบใดในช่วงการทำงานแบบใด จากนั้นสร้างซอฟต์แวร์ machine learning มาถอดรหัสกุญแจที่ใช้เซ็นข้อความจนได้กุญแจออกมา และสามารถสำเนากุญแจออกมาใช้ล็อกอินซ้ำได้ แม้การรายงานนี้จะเจาะเอากุญแจลับออกจากกุญแจ Titan ได้จริงแต่ก็ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงและเครื่องมือราคาแพง เฉพาะเครื่องจับสัญญาณแม่เหล็กไฟฟ้าก็ประมาณหมื่นยูโร รวมถึงการยิงข้อความยืนยันตัวตนซ้ำๆ แปลว่าแฮกเกอร์ต้องผ่านการยืนยันตัวตนขั้นแรกคือใส่รหัสผ่านมาแล้ว การแฮกแบบนี้จึงยังสามารถใช้งานได้ยาก และกุญแจ Titan ก็ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้อย่างมาก ที่มา - ArsTechnica
# Acer เปิดตัวหน้าจอเกมมิ่ง 3 ตัวทั้งตระกูล Predator และ Nitro Acer เปิดตัวหน้าจอเกมมิ่งใหม่ 3 ตัว เป็นตระกูล Predator 2 ตัวและ Nitro แบรนด์เกมมิ่งระดับเริ่มต้น 1 ตัว ตัวแรก Predator XB323QK NV ขนาด 31.5 นิ้ว แพแนล IPS ความละเอียด UHD รีเฟรชเรท 144Hz รองรับสีมาตรฐาน DCI-P3 90% และได้รับรองมาตรฐาน VESA DisplayHDR 400 นอกจากนี้ยังมี Acer Vision Care 4.0 ที่ปรับแสงและอุณหภูมิสีหน้าจอตามสภาพแวดล้อมและแสงแอมเบี้ยนรอบตัว ได้รับการรับรองจาก TÜV Rheinland Eyesafe เริ่มขายในสหรัฐเดือนพฤษภาคม ราคา 1,199.99 เหรียญ หรือราว 36,000 บาท ถัดมา Predator XB273U NX ขนาด 27 นิ้ว แพแนล IPS ความละเอียด WQHD รีเฟรชเรท (โอเวอร์คล็อกได้สูงสุด) 275Hz เวลาตอบสนอง 0.5ms รองรับสีมาตรฐาน DCI-P3 95% และ G-Sync รวมถึงมีเทคโนโลยี NVIDIA Reflex Latency Analyzer ที่ตรวจจับการคลิ๊กเม้าส์และเวลาตอบสนองของเม็ดพิกเซล วางขายสหรัฐเดือนพฤษภาคมเช่นกัน ราคา 1,099.99 เหรียญหรือราว 33,000 บาท รุ่นเล็กสุดที่เปิดตัว Nitro XV282K KV ขนาด 28 นิ้ว ความละเอียด UHD รีเฟรชเรท 144Hz รองรับ FreeSync, มาตรฐานสี P3 90% และ VESA DisplayHDR 400 รวมถึง HDMI 2.1 วางขายสหรัฐเดือนพฤษภาคม ราคา 899.99 เหรียญหรือราว 27,000 บาท ที่มา - Acer
# Reddit / Discord ร่วมด้วย แบนห้อง r/donaldtrump และแชนแนล The_Donald นอกจากโซเชียลมีเดียที่พร้อมใจกันแบน Donald Trump เพื่อไม่ให้แสดงออกผ่านช่องทางต่าง ๆ ที่อาจนำไปสู่ความรุนแรงจากการจลาจลอีกระลอก ล่าสุดเว็บบอร์ด Reddit ได้แบนห้องย่อย r/donaldtrump แล้ว เช่นเดียวกับ Discord ที่แบนแชนแนล The_Donald ด้วยเหตุผลคล้าย ๆ กันคือมีการปลุกปั่นให้เกิดความรุนแรง แม้จะไม่มีรายละเอียดใด ๆ จาก Reddit แต่คาดว่าอาจเกิดจากการแชร์ทวีตของ Donald Trump รวมถึงอาจเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายขวาจัดที่สนับสนุน Trump ใช้เป็นพื้นที่พูดคุย ปลุกปั่นหรือส่งต่อข้อมูลเท็จเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ด้าน ArsTechnica ที่ลองไล่ค้นหารายละเอียดที่มาที่ไปจาก archive ของห้องย่อยข้างต้น พบว่ามีการพูดคุยตั้งแต่ก่อนการจลาจลวันที่ 6 ถึงการนัดรวมตัวและพูดถึงที่ Trump เรียกร้องให้ผู้สนับสนุนเขาออกมารวมตัวกันที่อาคาร Capitol Hill ขณะที่ Discord บอกว่าแม้จะยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าแชนแนล The_Donald ถูกใช้ในการจัดตั้งหรือรวมตัวเพื่อก่อจลาจล แต่ Discord ก็ตัดสินใจแบน จากความเกี่ยวข้องอย่างเปิดเผยไปยังฟอรัมออนไลน์ (Reddit) ที่สนับสนุนความรุนแรงและเผยแพร่ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ที่มา - Reddit, ArsTechnica
# Google แบน Parler แอปโซเชียลที่ฝ่ายขวาใช้คุยกัน เพราะกรองเนื้อหารุนแรงไม่ได้ จากเหตุม็อบสนับสนุนโดนัลด์ ทรัมป์ บุกรัฐสภาสหรัฐฯ ทำให้โซเชียลมีเดียตื่นตัวกับการแก้ปัญหา ลดการปลุกระดมความรุนแรง ซึ่งทรัมป์โดนแบนจากโซเชียลใหญ่ไปหลายแห่งแล้ว ล่าสุด Google แบนแอปพลิเคชั่น Parler ซึ่งเป็นฟอรั่มออนไลน์ชูจุดเด่นเรื่อง Free Speech เนื่องจากไม่สามารถคัดกรองเนื้อหาที่มีความรุนแรงได้ Parler ยังเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่มีการรายงานว่า ฝ่ายขวาใช้เป็นแพลตฟอร์มประสานงานกันเพื่อบุกรัฐสภา โดย Google ให้เหตุผลว่าจะแบน จนกว่า Parler จะมีนโยบายกลั่นกรองเนื้อหา ไม่กระตุ้นให้เกิดความรุนแรง ส่วน Apple ก็คาดว่าจะแบน Parler เช่นกัน ตามรายงานของ Buzzfeed News ที่มา - Gizmodo
# Sinovac แถลงผลทดสอบเฟสสามในบราซิลระบุ ประสิทธิภาพป้องกันอาการป่วย 78% แต่ไม่เปิดเผยข้อมูลชัดเจน Sinovac แถลงข่าวการทดสอบวัคซีนในบราซิล โดยระบุว่าประสิทธิภาพของวัคซีนสูงถึง 78% อย่างไรก็ดีในการแถลงข่าวกลับไม่ยอมบอกตัวเลขแน่ชัดว่าคำนวณมาได้อย่างไร แต่ระบุเพียงว่าจะตีพิมพ์ผลการทดลองและยื่นผลให้หน่วยงานกำกับดูแลภายหลัง การทดสอบในกลุ่มผู้ทำงานสาธารณสุข 13,060 คน พบว่ามีผู้ติดเชื้อรวม 218 คน โดยเป็นผู้ติดเชื้อจากกลุ่มได้รับวัคซีนปลอม 160 คนกว่าๆ ที่เหลือเป็นผู้ติดเชื้อจากกลุ่มที่ได้รับวัคซีนจริง และกลุ่มผู้ได้รับวัคซีนไม่มีอาการป่วยปานกลางหรือรุนแรงเลย (เทียบกับการแถลงข่าวของ Pfizer ที่รายงานตัวเลขถึงหลักหน่วยทุกตัว) Denise Garrett นักระบาดวิทยาสหรัฐฯ เตือนว่าการแถลงข่าวระบุถึงประสิทธิภาพของวัคซีนในการป้องกับความเจ็บป่วยจากเชื้อ (ติดเชื้อมีอาการ) ไม่ได้รายงานประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อเนื่องจากออกแบบการทดลองไว้แบบนี้ตั้งแต่ต้น อย่างไรก็ดีผลโดยรวมดูแล้ววัคซีนมีประสิทธิภาพและปลอดภัยเพียงพอสำหรับควบคุมการระบาด ที่มา - Science Magazine, Nikkei Asian Review ภาพโดย qimono
# หลังโดนทวิตเตอร์แบน Trump หันไปโพสต์ผ่านบัญชี @POTUS แต่ก็โดนลบข้อความอีก ความคืบหน้าหลังจาก บัญชี @realDonaldTrump โดนแบนถาวร สิ่งที่ตามมาคือ Trump หันไปทวีตผ่านบัญชีอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีสหรัฐ @POTUS ที่เขามีสิทธิใช้งาน แต่ไม่เคยใช้เลย Trump โพสต์ข้อความผ่านบัญชี @POTUS ทั้งหมด 4 ข้อความ แต่ทั้งหมดก็ถูกทวิตเตอร์ลบออกไปในเวลาอันรวดเร็ว หนึ่งในข้อความนั้นเป็นการวิจารณ์ทวิตเตอร์ว่าร่วมมือกับฝ่ายพรรคเดโมแครต เพื่อลบบัญชีของเขาออกจากระบบ บัญชี @POTUS ยังสามารถใช้งานได้ต่อ แต่มีเฉพาะข้อความเก่าเท่านั้น (ซึ่งเป็นการ retweet ข้อความของคนอื่น) โดยบัญชีนี้จะถูกรีเซ็ต ก่อนส่งมอบให้ประธานาธิบดีคนใหม่ Joe Biden หลังวันรับตำแหน่ง นอกจากนี้ บัญชี @TeamTrump ที่เป็นทีมงานของ Trump ก็ถูกทวิตเตอร์แบนเช่นกัน ที่มา - CNN
# GM ปรับโลโก้ครั้งใหญ่ในรอบ 50 ปี เตรียมก้าวสู่ยุครถยนต์ไฟฟ้า GM ประกาศปรับโลโก้บริษัทครั้งใหญ่ในรอบ 50 ปี โดยเปลี่ยนจากการใช้ตัวอักษร GM ตัวพิมพ์ใหญ่สีขาวมีขีดด้านล่างในกล่องสีฟ้า เปลี่ยนเป็น gm ตัวพิมพ์เล็ก มีขีดใต้ตัว m ละเปลี่ยนจากกล่องสีฟ้าเป็นกรอบมนแทน แรงบันดาลใจในการออกแบบโลโก้ใหม่ของ GM คือการก้าวเข้าสู่ยุคของรถยนต์ไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นสีฟ้าเฉดใหม่ที่บ่งบอกถึงพลังงานสะอาด รวมถึงตัว m ที่มีลักษณะคล้ายกับปลั๊กไฟ ซึ่งการออกแบบโลโก้รวมถึงตัวฟอนต์นี้ เป็นผลงานของดีไซน์เนอร์ GM เอง และเปิดตัวครั้งแรกในแคมเปญการตลาด Everybody In เพื่อโปรโมตการบุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจัง ซึ่งตามแผนคือบริษัทจะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้ 30 โมเดลในหลายประเทศทั่วโลกภายในปี 2025 โลโก้ใหม่ของ GM จะเริ่มใช้งานในบริษัท ไม่ว่าจะเป็นหัวกระดาษ, ตามตึกสำนักงาน หรือว่านามบัตร รวมถึงเว็บไซต์ gm.com ที่จะเริ่มใช้โลโก้ใหม่ในวันจันทร์นี้ ที่มา - CNN, Engadget
# Bitcoin ราคาทะลุ 40,000 ดอลลาร์ แล้ว มูลค่าตลาดรวมเงินคริปโตตอนนี้สูงกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ บิตคอยน์ยังคงร้อนแรงและมีราคาเพิ่มสูงขึ้น โดยช่วงวันพฤหัสบดีราคาซื้อขายบิตคอยน์สูงกว่า 40,000 ดอลลาร์ เป็นครั้งแรก จากนั้นราคาก็ปรับลงมา และในคืนวันศุกร์ราคาก็กลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง โดยมีราคาซื้อขายสูงสุดมากกว่า 41,000 ดอลลาร์ ราคาบิตคอยน์ที่มาถึง 40,000 ดอลลาร์ ทำให้มูลค่าบิตคอยน์รวมทั้งตลาดมากกว่า 7 แสนล้านดอลลาร์ และทำให้มูลค่ารวมของเงินคริปโตทั้งตลาดสูงกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ เป็นครั้งแรกอีกด้วย มูลค่ารวมของเงินคริปโตสกุลอื่นต่างปรับขึ้นเช่นกัน โดย Ethereum มูลค่ามากกว่า 1.4 แสนล้านดอลลาร์, Tether 2.2 หมื่นล้านดอลลาร์, Litecoin 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ และ Bitcoin Cash 8 พันล้านดอลลาร์ ที่มา: Ars Technica
# Elon Musk ชวนคนย้ายไปใช้ Signal หลัง WhatsApp ปรับเงื่อนไข แชร์ข้อมูลให้ Facebook Elon Musk ทวีตเชิญชวนให้คนย้ายไปใช้ Signal หลังจาก WhatsApp ปรับเงื่อนไขการใช้งาน ว่าต้องแชร์ข้อมูลส่วนตัวให้กับ Facebook ด้วย ผลคือ Signal มีคนใช้งานพุ่งสูงในหลายประเทศ ขึ้นอันดับหนึ่งของ App Store ในอินเดียและเยอรมนี, ข้อความ SMS ยืนยันตัวตนของผู้ใช้ใหม่ส่งล่าช้าในหลายประเทศ รวมถึงส่งผลให้หุ้นของบริษัท Signal Advance Inc. ที่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน (แต่ชื่อเหมือนกัน) พุ่งสูงขึ้นถึง 1000% ด้วย เพราะคนเข้าใจผิด Signal ได้รับเงินสนับสนุนจาก Brian Acton ผู้ก่อตั้ง WhatsApp ที่ลาออกจาก Facebook ในปี 2017 และเป็นฝ่ายวิจารณ์ Facebook อยู่บ่อยครั้ง ที่มา - CNET, CNBC
# ทวิตเตอร์แบนบัญชี Donald Trump อย่างถาวรแล้ว เพราะเสี่ยงใช้ปลุกม็อบรอบใหม่ Donald Trump เพิ่งได้บัญชีทวิตเตอร์กลับคืนมาไม่ทันไร ล่าสุดทวิตเตอร์ประกาศแบนบัญชี @realDonaldTrump เป็นการถาวรแล้ว ในประกาศของทวิตเตอร์อธิบายว่า 2 โพสต์สุดท้ายของ Trump ที่ระบุว่า ผู้ลงคะแนนให้เขา 75 ล้านคนต้องได้รับการปฏิบัติที่เท่าเทียม และประกาศที่บอกว่าเขาจะไม่ไปร่วมงานสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของ Joe Biden ในวันที่ 20 มกราคม 2021 และ ทวิตเตอร์ระบุว่าทั้งสองข้อความนี้มีโอกาสที่จะสร้างความรุนแรงได้อีก โดยพิจารณาจากบริบทต่างๆ ทั้งจากภาษาที่ใช้ เสียงตอบรับจากฐานเสียงของเขา พฤติกรรมของผู้ที่ไปยึดรัฐสภาสหรัฐคราวก่อน และแผนการยึดรัฐสภารอบใหม่วันที่ 17 มกราคม ที่เริ่มมีการคุยกันในทวิตเตอร์บ้างแล้ว จากปัจจัยเหล่านี้ทำให้ทวิตเตอร์ตัดสินใจแบน @realDonaldTrump อย่างถาวร ต้องจับตาดูว่า Trump จะทำอย่างไร เพราะตอนนี้โดนแบนจากโซเชียลดังๆ จำนวนมาก เช่น Facebook/Instagram, Snapchat, Twitch เหลือเพียง YouTube ที่ยังใช้งานได้อยู่ ที่มา - Twitter
# นิสสันเผลอไม่เปลี่ยนรหัสผ่านตั้งต้นเซิร์ฟเวอร์ Git (admin:admin) คนร้ายดูดข้อมูลออกแจกจ่าย คนร้ายเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ Bitbucket Git ของนิสสันอเมริกาเหนือหลังบริษัทใช้งานโดยไม่ได้เปลี่ยนรหัสผ่านเริ่มต้นที่ใช้เป็น admin:admin ทำให้สามารถเข้าถึงซอร์สโค้ดทั้งหมดของบริษัท และนำมาแจกจ่ายตามฟอรั่มแฮกเกอร์ ไฟล์ดัมพ์ขนาด 18.4GB เก็บซอร์สโค้ดตั้งแต่ระบบภายในรถที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต, เว็บภายในของบริษัท, ระบบให้บริการขนส่งสินค้า, ระบบหลังบ้านสำหรับดีลเลอร์, ซอฟต์แวร์การตลาด, แอปสำหรับผู้ใช้ในอเมริกาเหนือ ทางนิสสันยอมรับว่าซอร์สโค้ดหลุดไปจริง แต่ยืนยันว่าไม่มีข้อมูลส่วนบุคคลหลุดไปด้วย และเซิร์ฟเวอร์นี้ก็ถูกปิดไปแล้ว ที่มา - ZDNet ภาพจาก Nissan USA
# [ลือ] Baidu เตรียมตั้งบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเอง ใช้โรงงานของ Geely Reuters รายงานข่าวลือว่า Baidu กำลังจะตั้งบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าของตัวเอง โดยใช้โรงงานผลิตของบริษัทรถยนต์จีน Geely Baidu มีโครงการรถยนต์ไร้คนขับ Apollo มาได้สักระยะหนึ่งแล้ว แต่ยังเน้นไปที่การพัฒนาซอฟต์แวร์เป็นหลัก ส่วนฮาร์ดแวร์รถยนต์ใช้วิธีร่วมมือกับบริษัทรถยนต์หลายราย เช่น Ford, Geely และ Toyota ข่าวรอบนี้คือ Baidu สนใจผลิตรถยนต์ด้วยตัวเอง โดยใช้โครงสร้างพื้นฐานการผลิตของ Geely นั่นเอง ก่อนหน้านี้ Alibaba ก็ร่วมทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้ากับ SAIC แบรนด์รถยนต์จีนอีกราย และบริษัทเรียกรถ Didi Chuxing ก็จับมือกับบริษัทรถยนต์ BYD เช่นกัน ภาพรถยนต์ Geely จากเว็บไซต์ Baidu Apollo ที่มา - Reuters
# Twitter ปลดแบนบัญชี Donald Trump แล้ว แต่ถ้าทำยังผิดกฎอีก อาจถูกแบนถาวร Twitter ปลดแบนบัญชีของประธานาธิบดี Donald Trump แล้ว หลังถูกแบนชั่วคราวจากข้อความสนับสนุนผู้บุกรุกรัฐสภาสหรัฐ โดย Trump ยอมลบข้อความที่เป็นปัญหาออก หลังถูกปลดแบน Trump โพสต์ข้อความใหม่ที่พูดถึงผู้สนับสนุนของเขาในมุมกว้างกว่าเดิม นั่นคือผู้ที่ลงคะแนนให้เขาทั้ง 75 ล้านเสียง ว่าเป็นเสียงที่ต้องถูกรับฟังเช่นกัน ตัวแทนของ Twitter ระบุกับ The Verge ว่าหาก Trump ยังทำผิดกฎซ้ำอีก ก็มีโอกาสถูกแบนถาวร ฝั่ง Facebook นั้นกลับกัน โดยระบุว่าจะแบน Donald Trump ไปอีกอย่างน้อย 13 วันจนกว่า Joe Biden จะรับตำแหน่งประธานาธิบดีเสร็จเรียบร้อยก่อน ที่มา - The Verge
# Xiaomi เปิดตัว Mi Smart Clock และ Mi 360 Home Security Camera 2K Pro พร้อม ๆ กับ Redmi ทาง Xiaomi ยังมีอุปกรณ์ IoT ใหม่ 2 ตัวที่เปิดพร้อมกันคือ Mi Smart Clock นาฬิกาอัจฉริยะที่มีหน้าจอ พร้อมรองรับ Google Assistant และ Chromecast ในตัว สามารถสตรีวิดีโอจากกล้องวงจรปิด แคสต์แพลงหรือหนังจากสมาร์ทโฟน ยังไม่เปิดเผยราคาและวันวางจำหน่าย อีกตัวคือ Mi 360 Home Security Camera 2K Pro กล้องวงจรปิดความละเอียด 3 ล้านพิกเซล สามารถแสดงผลได้สูงสุด 2304x1296 รูรับแสง f/1.4 ไมโครโฟนคู่ มีอัลกอริทึมตรวจจับเงาของคนและแจ้งให้ผู้ใช้งานทราบ สามารถสั่งกล้องได้ผ่าน Mi Home และควบคุมด้วยเสียงผ่าน Google Assistant และ Amazon Alexa Mi 360 Home Security Camera 2K Pro ขายวันที่ 25 มกราคมนี้ ราคา 1,590 บาทบน JD Central, Shopee, Lazada และร้านตัวแทนจำหน่าย
# Xiaomi เปิดตัว Redmi 9T / Note 9T รองรับ 5G เริ่ม 4,499 บาทและ 6,999 บาท Xiaomi เปิดตัวสมาร์ทโฟนตระกูล Redmi 2 รุ่นคือ Redmi 9T และ Redmi Note 9T สมาร์ทโฟนราคาถูก โดยรุ่น Note 9T รองรับ 5G สำหรับ Redmi Note 9T ชิปเซ็ตเป็น Dimensity 800U หน้าจอ 6.53 นิ้ว ความละเอียด FHD ครอบด้วย Gorilla Glass 5 กล้องหลัง 3 ตัว ตัวหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล, กล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล และกล้องวัดระยะชัดลึก 2 ล้านพิกเซล แรม 4GB แบตเตอรี่ 5,000mAh ได้รับการรับรอง Widevine L1 Redmi Note 9T มีสี Nightfall Black และ Daybreak Purple วางขายเฉพาะ JD Central วันที่ 16 มกราคมนี้ 4+64 ราคา 6,999 บาท ราคาพิเศษ 5,999 บาทถ้าซื้อระหว่าง 9-15 มกราคม 4+128 ราคา 7,499 บาท ราคาพิเศษ 6,599 บาทถ้าซื้อระหว่าง 9-15 มกราคม ส่วน Redmi 9T ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 662 หน้าจอ 6.53 นิ้ว ความละเอียด FHD ครอบด้วย Gorilla Glass 3 กล้องหลัง 4 ตัว กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล, กล้องอัลตร้าไวด์ 8 ล้านพิกเซล, กล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซลและกล้องวัดระยะชัดลึก 2 ล้านพิกเซล แบต 6,000 mAh รองรับ microSD สูงสุด 512GB ได้รับการรับรอง Widevine L1 เช่นกัน Redmi 9T มี 4 สี Carbon Gray, Twilight Blue, Sunrise Orange และ Ocean Green วางจำหน่ายที่ AIS, dtac, True, Banana, BKK, Kingkong Phone, TG Fone, Jaymart, JD Central, Shopee, Lazada และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ 4+64GB ราคา 4,499 บําท วางจำหน่ายวันที่ 15 มกราคม 6+12GB ราคา 5,299 บาท วางจำหน่ายวันที่ 25 มกราคม
# Epic Games ซื้อ RAD Game Tools ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์สร้างเกม ผนวกเข้า Unreal Engine Epic Games ประกาศซื้อบริษัท RAD Game Tools ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์หลายตัวที่ใช้ในวงการพัฒนาเกม เช่น Bink Video ฟอร์แมตสำหรับบีบอัดไฟล์วิดีโอ-เสียงที่ใช้ในเกมจำนวนมาก, Oodle ฟอร์แมตบีบอัดข้อมูลเกมแบบ loseless ที่ทำงานเร็ว, Telemetry โพรไฟเลอร์สำหรับปรับแต่งประสิทธิภาพเกม เครื่องมือของ RAD จะถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของ Unreal Engine ในอนาคต แต่ผลิตภัณฑ์ของ RAD ก็ยังมีให้บริการต่อไปสำหรับลูกค้ากลุ่มอื่นๆ (เช่น วงการภาพยนตร์) ที่ไม่จำเป็นต้องใช้ Unreal Engine ด้วยเช่นกัน ที่มา - Epic Games
# Lenovo เปิดตัว Ideapad 5G โน้ตบุ๊ก 5G ซีพียู Snapdragon 8cx สถาปัตยกรรม ARM Lenovo เปิดตัวโน้ตบุ๊ก Ideapad 5G โน้ตบุ๊กรองรับ 5G หน้าจอ 14 นิ้ว ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล ความสว่าง 300 nits อัตราส่วน 16:9 มาพร้อมซีพียู Qualcomm Snapdragon 8cx สถาปัตยกรรม ARM ชิปโมเด็ม X55 รองรับ 5G แบบ Sub 6GHz แต่รองรับแค่ Wi-Fi 5 ภายในมาพร้อมแรม LPDDRX 8GB และ SSD PCIe สูงสุด 512GB แบตเตอรี่ 51 Wh เล่นวิดีโอในนาน 20 ชั่วโมง ชาร์จด้วยระบบ Rapid Charge Express ผ่าน USB-C Lenovo Ideapad 5G ยังไม่เปิดเผยราคา แต่ระบุว่าจะแตกต่างกันไปในแต่ละตลาด และจะไม่วางขายในสหรัฐอเมริกา ที่มา - Lenovo
# สำนักงาน ก.พ. ชี้แจงผู้สมัครสอบ ก.พ. 64 สูงถึง 131,947 คน ต้องเพิ่มเซิร์ฟเวอร์เป็น 110 เครื่อง จากกรณีที่สำนักงาน ก.พ. ได้ทำการเปิดรับสมัครสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก) ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ประจำปี 2564 (e-Exam) ในวันนี้ (8 มกราคม) เป็นวันแรก จำนวนกว่า 40,998 ที่นั่งสอบ ซึ่งพบว่าได้รับความสนใจจากประชาชนเข้ามาสมัครสอบเป็นจำนวนมาก ทำให้ระบบขัดข้องจนต้องปิดปรับปรุงระบบชั่วคราว ล่าสุดเพจ "สำนักงาน ก.พ." ได้ออกมาชี้แจงไทมไลน์ถึงสาเหตุของการล่มดังนี้ สำนักงาน ก.พ. ขอชี้แจงการดำเนินการเกี่ยวกับระบบรับสมัครสอบด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Exam) ดังนี้ค่ะ เวลา 08.25 น.... โพสต์โดย สำนักงาน ก.พ. เมื่อ วันศุกร์ที่ 8 มกราคม 2021 ที่มา - สำนักงาน ก.พ.
# Lenovo เปิดตัวโน้ตบุ๊ก Ideapad 5 Pro ซีพียู AMD และ Ideapad 5i Pro ซีพียู Intel Lenovo เปิดตัวโน้ตบุ๊กตระกูล Ideapad 5 2 รุ่น คือ Ideapad 5 Pro ซีพียู AMD Ryzen สองขนาด และ Ideapad 5i Pro ซีพียู Intel Core 11th Gen อีกสองขนาด Ideapad 5 Pro และ 5i Pro หน้าจอสองขนาด 16 และ 14 นิ้ว อัตราส่วน 16:10 รุ่น 14 นิ้ว รีเฟรชเรต 90 Hz ความสว่าง 400 nits รุ่น 16 นิ้ว รีเฟรชเรต 120Hz ความสว่าง 350 nits Ideapad 5 Pro จะมาพร้อมซีพียู AMD Ryzen รุ่นเน็กซ์เจ็นที่ยังไม่เปิดเผย ส่วนรุ่น 5i Pro เป็นซีพียู Intel Core 11th Gen มีจีพียู NVIDIA MX450 ทั้งสองรุ่น รุ่น 14 นิ้ว แบตเตอรี่ 56.5 Wh รุ่น 16 นิ้ว แบตเตอรี่ 75 Wh ชาร์จด้วยระบบ Rapid Charge Express ผ่าน USB-C เช่นเดียวกัน รุ่นขนาด 14 นิ้ว มาพร้อมแรม DDR4 16 GB, SSD แบบ PCIe สูงสุด 1TB รุ่นซีพียู Intel จะมีพอร์ต Thunderbolt 4 มาด้วย ส่วนในรุ่น AMD จะไม่มี และถ้าซื้อขนาด 16 นิ้ว จะสามารถใส่แรม DDR4 ได้สูงสุด 32GB มีรุ่นเดียวที่จะวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา คือ Ideapad 5 Pro รุ่น 16 นิ้ว ซีพียู AMD Ryzen ราคา 1149.99 ดอลลาร์ (ราว 36,400 บาท) ส่วนรุ่นอื่นๆ จะวางจำหน่ายในแถบยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา เดือนมีนาคม ราคาดังนี้ Ideapad 5 Pro ซีพียู AMD Ryzen ขนาด 14 นิ้ว ราคาเริ่มต้น 799 ยูโร (ราว 29,500 บาท) Ideapad 5i Pro ซีพียู Intel ขนาด 14 นิ้ว ราคาเริ่มต้น 699 ยูโร (ราว 25,800 บาท) Ideapad 5i Pro ซีพียู Intel ขนาด 16 นิ้ว ราคาเริ่มต้น 899 ยูโร (ราว 33,100 บาท) ส่วนราคาและวันวางจำหน่ายในบ้านเรา ต้องติดตามต่อไป Ideapad 5 Pro ขนาด 16 นิ้ว Ideapad 5i Pro ขนาด 14 นิ้ว ที่มา - Lenovo
# NEC Lavie Mini โน้ตบุ๊ก 8 นิ้วเพื่อเกมเมอร์ หนัก 579 กรัม ต่อจอยด้านข้างจอได้แบบ Switch เราไม่เห็นโน้ตบุ๊กเซกเมนต์จอเล็กต่ำกว่า 11 นิ้วกันมาได้สักพักใหญ่ๆ แล้ว แต่ล่าสุด NEC (ปัจจุบันเป็นแบรนด์โน้ตบุ๊กของ Lenovo) ออก Lavie Mini โน้ตบุ๊กขนาดเล็กจอ 8 นิ้ว ที่ระบุชัดว่าเน้นเพื่อเกมมิ่ง (สโลแกนคือ Ultimate Portable Gaming PC) หน้าจอ 8" แบบสัมผัส WUXGA 1920x1200 พับจอเป็นแท็บเล็ต 2-in-1 ได้ หน่วยประมวลผล Intel 11th Gen Core i7-1180G7 Tiger Lake จีพียู Iris Xe รุ่นสูงสุดของอินเทลในปัจจุบัน แรม 16GB LPDDR4x 4266MHz, สตอเรจ SSD 256GB น้ำหนัก 579 กรัม, แบตเตอรี่ 26 Whr กล้อง IR รองรับ Windows Hello สิ่งที่น่าสนใจคืออุปกรณ์เสริม Controller แปะด้านข้างของจอ (เหมือนกับ Nintendo Switch) โดยใช้เลย์เอาท์ของปุ่มเหมือน Xbox Controller และอุปกรณ์ Dock เพื่อเล่นเกมออกทีวีผ่าน HDMI โดยเพิ่มพอร์ตสำหรับใช้งานมาใน Dock ด้วย NEC Lavie Mini ยังมีสถานะเป็นฮาร์ดแวร์ต้นแบบ ยังไม่วางขายทั่วไป และยังไม่เปิดเผยราคา ที่มา - Lenovo (PDF), Notebookcheck
# Lenovo เปิดตัว Tab P11 แท็บเล็ตเน้นเรียนออนไลน์ รองรับปากกา ราคาราว 7 พันบาท Lenovo เปิดตัวแท็บเล็ต Tab P11 ที่ลดสเปกลงจาก Lenovo Tab P11 Pro รุ่นเมื่อกลางปี 2020 โดยเน้นเจาะกลุ่มนักเรียนที่ต้องเรียนออนไลน์จากบ้าน (สโลแกนโปรโมทคือ Upgrade to First Class) มีสเปกดังนี้ หน้าจอ 11" ความละเอียด 2K (2000x1200) IPS LCD (รุ่น Pro 11.5" OLED 2560x1600) หน่วยประมวลผล Snapdragon 662 (รุ่น Pro ใช้ 730G) แรม 4/6GB, สตอเรจ 64GB/128GB, รองรับ microSD กล้องหน้า 8MP ปรับแต่งมาเพื่อวิดีโอคอลล์ เหมาะกับการเรียนออนไลน์ มีฟีเจอร์ Smart Privacy เบลอฉากหลัง กล้องหลัง 13MP แบตเตอรี่ 7700mAh ใช้ได้นาน 15 ชั่วโมง รองรับการใส่ซิม Nano SIM ระบบปฏิบัติการ Android 10 พร้อมฟีเจอร์ Kids Space ราคาเริ่มต้น 229.99 ดอลลาร์ (ประมาณ 7,000 บาท) ถูกกว่ารุ่น Pro ที่ราคา 499.99 ดอลลาร์อยู่พอสมควร Lenovo P11 มีอุปกรณ์เสริมแยกขายเป็น Keyboard Pack คีย์บอร์ดพร้อมแทร็คแพดและเคสขาตั้ง กับปากกา Precision Pen 2 ที่มา - Lenovo
# LG เปิดตัว LG Gram โน้ตบุ๊กรุ่นเบาบางใหม่ 5 รุ่น หน้าจอ 16:10 ผ่านมาตรฐาน Intel Evo ในงาน CES 2021 LG เปิดตัวโน้ตบุ๊กในรุ่น Gram ที่เน้นความบางเบา 5 ตัว โดยใช้ซีพียู Intel รุ่นที่ 11 Tiger Lake ได้รับการรับรองมาตรฐาน Intel Evo ที่การันตีแบตเตอรี่ใช้งานที่จอ 1080p ได้นานกว่า 9 ชั่วโมง, ตื่นจากโหมด sleep ภายใน 1 วินาที ,ชาร์จเร็ว 30 นาทีใช้งานได้นาน 4 ชั่วโมง เป็นต้น LG Gram ใหม่ 5 ตัวประกอบด้วย LG Gram 17 (17Z90P), LG Gram 16 (16Z90P), LG Gram 14 (14Z90P) และแลปทอป 2-1 หน้าจอสัมผัสได้ด้วยคือ LG Gram 2-in-1 16 (16T90P) และ LG Gram 2-in-1 14 (14T90P) ทั้งหมดมาด้วยสัดส่วนหน้าจอ 16:10 ขอบจอบาง มีพื้นที่แนวตั้งมากขึ้น screen-to-body 90% ตัวเด่นๆ ในชุดนี้คือ Gram 17 ที่แม้จะมีขนาดจอใหญ่ 17 นิ้วแต่มีน้ำหนักเพียง 1.35 กิโลกรัม LG ยังเคลมด้วยว่า Gram 17, Gram 16 และ 16 2-in-1 มีการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนาน 19 ชั่วโมง สามารถอ่านสเปกเต็มๆ ของทั้ง 5 รุ่นได้ ที่นี่ ที่มา - The Verge, LG
# Samsung เปิดตัว Galaxy Chromebook 2 หน้าจอ QLED รุ่นแรกของโลก ลดสเปก ลดราคาลงเกือบครึ่ง หลัง Samsung เปิดตัว Chromebook แบบ 2-in-1 รุ่นแรก ในชื่อ Galaxy Chromebook ไปเมื่อเดือนมกราคมปี 2020 ในปีนี้ Samsung ก็ออกรุ่นต่อเนื่อง Galaxy Chromebook 2 ที่มีการปรับเปลี่ยนในหลายๆ ด้าน โดยเป็นการลดสเปกลงมา และปรับราคาเริ่มต้นจาก 999.99 ดอลลาร์ ลงมาเป็น 549 ดอลลาร์อีกด้วย Galaxy Chromebook 2 เป็นโน้ตบุ๊กหน้าจอ 13 นิ้ว มาพร้อมตัวเลือกซีพียู Celeron 5205U แรม 4GB และหน่วยความจำ 64GB กับรุ่น Intel Core i3-10110U คู่กับแรม 8GB และหน่วยความจำ 128GB ตัวเครื่องเป็นวัสดุอะลูมิเนียม หนา 13.9 มิลลิเมตร น้ำหนักประมาณ 1.2 กิโลกรัม หน้าจอที่เคยเป็นแบบ OLED ความละเอียด 4K ในรุ่นแรก ปรับเปลี่ยนมาเป็นหน้าจอ QLED ความละเอียด 1080p แทน (ถือเป็นโน้ตบุ๊กรุ่นแรกของโลกที่ใช้จอ QLED) โดยยังเป็นหน้าจอที่รองรับปากกา Active Stylus แบบ USI standard แต่คราวนี้ไม่แถมปากกามาด้วยแล้ว คีย์บอร์ดเป็นแบบ backlit มีกล้องหน้าความละเอียด 720p รองรับ Wi-Fi 6, Bluetooth 5.0 มีช่องอ่าน microSD card พอร์ต USB-C สองพอร์ต แบตเตอรี่ลดลงจาก 49.2 Wh เหลือ 45.5 Wh ซึ่งน่าแปลกใจเล็กน้อยเพราะรุ่นก่อนโดนติว่าแบตเตอรี่หมดไว แต่การเปลี่ยนมาใช้ซีพียูที่กินไฟน้อยลง และลดสเปกหน้าจอจาก OLED 4K เหลือ QLED 1080p ก็อาจจะทำให้แบตเตอรี่อยู่ได้นานขึ้นก็เป็นได้ Samsung Galaxy Chromebook 2 มีสองสีคือสีเทา (Mercury Gray) และสีแดง (Fiesta Red) เตรียมวางจำหน่ายในไตรมาสแรกของปี 2021 รุ่น Celeron 5205U ราคา 549 ดอลลาร์ (ราว 16,500 บาท) ส่วนรุ่น Intel Core i3 จะอยู่ที่ 699 ดอลลาร์ (ราว 21,000 บาท) ที่มา - Samsung via 9to5Google
# Red Hat ซื้อกิจการ StackRock บริษัทความปลอดภัย Kubernetes RedHat ประกาศซื้อกิจการ StackRock สตาร์ตอัพด้านความปลอดภัยสำหรับคอนเทนเนอร์ ที่ระบุว่าเป็น Kubernetes-native security platform ด้วยแนวคิดการฝังคอมโพเนนต์ตรวจสอบความปลอดภัยไว้ในแต่ละคลัสเตอร์ ช่วยให้การตรวจสอบความปลอดภัยของทั้งระบบทำได้ง่ายขึ้น ซอฟต์แวร์ของ StackRock จะถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของ Red Hat OpenShift แต่ซอฟต์แวร์เก่าก็ยังซัพพอร์ตต่อไป และใช้งานได้กับแพลตฟอร์ม Kubernetes ตัวอื่นๆ เช่น Google (GKE), Amazon (EKS), Azure (AKS) StackRock มีโครงการที่เป็นโอเพนซอร์ส เช่น KubeLinter ที่ช่วยวิเคราะห์ไฟล์คอนฟิกของ Kubernetes ว่าปลอดภัยหรือไม่ ส่วนซอฟต์แวร์หลักที่ไม่ได้โอเพนซอร์สในตอนนี้ จะถูกโอเพนซอร์สภายหลังจากการซื้อกิจการเสร็จสิ้น ซึ่งเป็นนโยบายของ Red Hat อยู่แล้วในการเปิดซอร์สโค้ดซอฟต์แวร์ที่ซื้อกิจการมา StackRock ก่อตั้งในปี 2014 มีพนักงานประมาณ 60 คน มีสำนักงานอยู่ที่เมือง Mountainview ในแคลิฟอร์เนีย ที่มา - Red Hat
# ทวีศิลป์ ดีใจ ยอดโหลดแอปหมอชนะรวม 3.69 ล้านครั้ง วันเดียวเพิ่มกว่า 2 ล้าน ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) แถลงข่าวความคืบหน้าประจำวันที่ 8 มกราคม พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 205 ราย และยังมีแถลงเพิ่มถึงประเด็นแอปพลิเคชั่นหมอชนะ ตัวเลขวันที่ 7 ม.ค. มียอดดาวน์โหลด 3.69 ล้านราย โดยตัวเลขดาวน์โหลดเมื่อวันที่ 5 ม.ค. มียอดดาวน์โหลด 1.5 ล้านราย, วันที่ 6 ม.ค. มียอดดาวน์โหลด 1.65 ล้านราย จนกระทั่งวันที่ 7 ม.ค. ที่มีประเด็นร้อนแรงเรื่องถ้าไม่พบผู้ป่วยไม่ดาวน์โหลดแอปจะมีความผิด มียอดดาวน์โหลดเพิ่มขึ้นเป็น 3.69 ล้านราย นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. ระบุถึงกระแสทางลบเรื่องจะดำเนินคดีความกับผู้ไม่ดาวน์โหลด ซึ่งภายหลังได้มีการชี้แจงเพิ่มและขอโทษประชาชนแล้วว่าคนไม่ดาวน์โหลดจะไม่ถูกดำเนินคดี เขาบอกด้วยว่ารู้สึกดีใจที่เห็นยอดดาวน์โหลดภายในวันเดียวเพิ่มขึ้น 2 ล้านครั้ง จากเมื่อวานที่รู้สึกเสียใจกับกระแสด้านลบหมอชนะ วันนี้ก็รู้สึกดีใจขึ้นมาทันที ขอบคุณพี่น้องประชาชนที่เข้าใจและปฏิบัติตามในช่วงวิกฤตอย่างนี้ ที่มา - ศบค.
# StreamYard แพลตฟอร์มทำไลฟ์ถูกเข้าซื้อโดย Hopin ผู้ทำไลฟ์อีเว้นท์ในดีล 250 ล้านเหรียญ StreamYard แพลตฟอร์มทำไลฟ์ถูกเข้าซื้อด้วยดีล 250 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยบริษัท Hopin ผู้ทำโซลูชั่นไลฟ์ให้กับการจัดอีเว้นท์ต่างๆ ซึ่งถือเป็นธุรกิจที่กำลังเติบโตในช่วง COVID-19 StreamYard ก่อตั้งขึ้นในปี 2018 สามารถใช้เบราว์เซอร์ให้ผู้ใช้สตรีมวิดีโอสดไปยัง Facebook, YouTube และ LinkedIn ได้โดยตรง ส่วน Hopin เองก็มีแพลตฟอร์มสตรีมสดอยู่แล้ว แต่ผู้ใช่้งานก็นำเข้าสตรีมจากภายนอกอย่าง YouTube, Vimeo, Wistia และ StreamYard เข้ามาได้ด้วยเช่นกัน การเข้าซื้อ StreamYard ช่วยให้ StreamYard เป็นตัวเลือกเริ่มต้นสำหรับ Hopin ในการถ่ายทอดสด ธุรกิจทั้งสองกำลังเติบโตดีในช่วงโรคระบาด Hopin มีรายได้ประจำปีเป็น 20 ล้านเหรียญใน 9 เดือน และ StreamYard ก็ปรับขนาดรายได้ประจำปีเป็น 30 ล้านเหรียญโดยไม่มีแหล่งทุนภายนอก ที่มา - TechCrunch, Venture Beat
# เปิดตัว Lenovo Yoga AIO 7 ออลอินวัน AMD Ryzen 4000, RTX 2060 ใช้เป็นทีวี 4K ได้ Lenovo เปิดตัว Lenovo Yoga AIO 7 คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะแบบออลอินวัน มาพร้อมตัวเลือก AMD Ryzen 7 4800H และ Ryzen 5 4500H คู่กับ Geforce RTX 2060 ตัวเลือกแรม 16GB และ 32GB ตัวเลือกหน่วยความจำ แบบ PCIe NVMe สูงสุด 1TB หน้าจอ 27 นิ้ว ความละเอียด 4K แสดงผลสีมาตรฐาน Adobe RGB และ DCI-P3 ได้ 99% มีระบบ DC dimming ควบคุมการหรี่ไฟเพื่อสีดำสนิท และปล่อยแสงสีฟ้าต่ำเพื่อรักษาสายตา สามารถหมุนหน้าจอใช้งานในแนวตั้งได้ Lenovo ยังกล่าวอีกว่าจะมีซอฟต์แวร์อัพเดตตามมาเพื่อเปลี่ยนให้สามารถใช้เป็นสมาร์ททีวีในตัวภายหลัง เพราะจะมีแอปให้แคสต์ภาพขึ้นมาบนจอได้ ลำโพงได้รับการรับรองโดย JBL Harmon มี Alexa รองรับ Wi-Fi 6 และ Bluetooth 5.0 พอร์ตเชื่อมต่อ USB 3.2 Gen2 Type-C 1 พอร์ต, USB 3.2 Gen2 Type-A 4 พอร์ต, USB 2.0 2 พอร์ต, พอร์ตหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรแบบคอมโบ, และพอร์ต LAN Lenovo Yoga AIO 7 มีจำหน่ายในประเทศจีนแล้ว ในชื่อ Yoga 27 และจะวางจำหน่ายในบางตลาดอื่น เดือนกุมภาพันธ์นี้ ในราคา 1,599 ดอลลาร์ (ราว 48,200 บาท) ที่มา - Notebookcheck
# F5 ซื้อกิจการ Volterra แพลตฟอร์มจัดการ Multi-Cloud มูลค่าดีล 500 ล้านดอลลาร์ F5 ประกาศเข้าซื้อกิจการ Volterra แพลตฟอร์มบริหารจัดการ edge บนมัลติคลาวด์ ด้วยมูลค่า 500 ล้านดอลลาร์ แบ่งเป็นเงินสด 440 ล้านดอลลาร์ และผลประโยชน์ในอนาคตอีก 60 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ Volterra มีนักลงทุนสำคัญหลายรายในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งกองทุน M12 ของไมโครซอฟท์ และ Samsung Ventures François Locoh-Donou ซีอีโอ F5 กล่าวว่าโซลูชันของ Volterra จะนำมาเป็นส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์ F5 ตามวิสัยทัศน์ Edge 2.0 เพื่อแก้ปัญหาให้ลูกค้าองค์กรที่พบปัญหาบริหารจัดการบนมัลติคลาวด์ ขณะที่ Ankur Singla ก็บอกว่าสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทำให้หลายองค์กรย้ายการทำงานไปอยู่บนคลาวด์มากขึ้น จึงมีความต้องการใช้งานผลิตภัณฑ์ของ Volterra สำหรับบริหารจัดการมากขึ้น Volterra เป็นดีลซื้อกิจการด้านซอฟต์แวร์ล่าสุดของ F5 ซึ่งมาเสริมกับธุรกิจฮาร์ดแวร์ที่มีอยู่ เมื่อปีที่แล้วบริษัทมีดีลซื้อกิจการทั้ง NGINX และ Shape Security ที่มา: F5, Volterra และ TechCrunch
# โซนี่ไทยประกาศวันวางขาย PS5 แล้วเป็นวันที่ 5 กุมภาพันธ์นี้ เริ่ม 13,990 บาท ในที่สุดโซนี่ประเทศไทยประกาศราคาและวันวางจำหน่ายของ PlayStation 5 แล้วอยู่ที่ 13,990 บาท สำหรับรุ่นดิจิทัลและ 16,990 บาทสำหรับรุ่น Ultra HD Blu-ray วางขาย 5 กุมภาพันธ์นี้ เปิดให้จองตั้งแต่ 22 มกราคม เวลา 11 โมงเป็นต้นไป ส่วนคอนโทรลเลอร์ DualSense อยู่ที่ 2,390 บาท หูฟังไร้สาย Pulse HD 3,490 บาท, รีโมท ราคา 1,090 บาท และแท่นชาร์จ DualSense ราคา 1,090 บาท, กล้อง HD 2,090 บาท ส่วนพาร์ทเนอร์ที่เปิดรับพรีออเดอร์นอกจาก Sony Store แล้วก็มี Banana IT, Dotlife, Gameshop Concept Store (GSCS), GameStart, Gcorners, Nadz Project, Opensource, Plawarn, Power Buy, Power Mall และ SiamGameShop ที่มา - Sony Thai, PlayStation
# ปีที่แล้วอุตสาหกรรมเกมเติบโต 12% ผลพวงจากโรคระบาด แว่นและเกม VR ก็กลับมาโต ผลพวงจากโรคระบาดเมื่อปีที่แล้ว ไม่ได้มีแค่สตรีมมิ่ง, พีซี หรือผู้ให้บริการวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์เท่านั้นที่ธุรกิจเติบโต แต่ยังมีอุตสาหกรรมเกมทั้งอุตสาหกรรมด้วยที่เติบโตเพราะคนเล่นเกมอยู่บ้านกันมากขึ้น SuperData หน่วยงานที่วิเคราะห์ข้อมูลอุตสาหกรรมเกมของ Nielsen เปิดเผยตัวเลขมูลค่าอุตสาหกรรมเกมปีที่แล้วอยู่ที่ 1.39 แสนล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นถึง 12% จากปี 2019 แม้แต่เกมคอนโซลที่เป็นช่วงท้ายเจนของ PS4 / Xbox One ก็เพิ่มขึ้น 28% จากปีก่อนหน้าด้วย ขณะที่สัดส่วนเกมที่สร้างรายได้ในอุตสาหกรรมมากที่สุดคือเกมเล่นฟรี (แต่เสียเงินจากกาชาหรือของตกแต่ง) ถึง 78% โดยตลาดเกมบนมือถือในเอเชียเป็นตลาดใหญ่ที่สุด ส่วนแพลตฟอร์มที่มีสัดส่วนผู้เล่นมากที่สุดคือสมาร์ทโฟนที่ 58% ที่น่าสนใจคือแว่น VR สำหรับเล่นเกมก็กลับมาเติบโตที่ 19% สวนทางตลาด VR ที่เหมือนกำลังจะตายด้วย โดย Oculust Quest และ Oculust Quest 2 เป็น 2 อันดับแรกที่มีส่วนแบ่งมากที่สุด เช่นเดียวกับเกมกลุ่ม VR ที่ทำรายได้เติบโต 25% จากผลพวงของ Half-Life: Alyx SuperData คาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมเกมจะยังเติบโตอยู่ในปี 2021 นี้ แต่จะอยู่ที่ราว 2% เท่านั้น รวมถึงคาดด้วยว่าอุตสาหกรรมเกมจะเกิดการ consolidate ผ่านการซื้อกิจการต่อเนื่องจากปีนี้ หลังมีเกิดดีลซื้อกิจการกันค่อนข้างมากอย่าง EA ปาดหน้า Take-Two ซื้อ Codemasters, นินเทนโดซื้อกิจการ Next Level Games ผู้พัฒนา Luigi's Mansion 3, Embracer Group บริษัทเกมสวีเดน ประกาศซื้อสตูดิโอรวดเดียว 11 แห่ง และดีลใหญ่แห่งปีอย่างไมโครซอฟท์ซื้อ ZeniMax บริษัทแม่ Bethesda ซึ่งซีอีโอไมโครซอฟท์บอกว่าจะไม่หยุดแค่นี้ด้วย ที่มา - Venturebeat
# โซนี่เปิดตัวไลน์อัพทีวี Bravia XR ใหม่ รันด้วย Google TV มีสตรีมมิ่ง Bravia Core โซนี่เปิดตัวไลน์อัพสมาร์ททีวีตระกูล Bravia XR ประจำปี 2021 จุดอัพเดตใหญ่คือมีชิป Cognitive Processor XR ที่โซนี่บอกว่าเป็นการเอา Cognitive Intelligence (เหนือกว่า AI เดิม ๆ) มาแบ่งหน้าจอเป็นโซน ๆ และวิเคราะห์คนดูจะโฟกัสอยู่จุดไหนของภาพ ช่วยให้องก์ประกอบต่าง ๆ ของการแสดงผลทีวีทั้งภาพ สี เสียง ออกมาสอดคล้องกันเหมือนกว่าการใช้ AI บนทีวีในแบบเดิม ๆ Bravia XR จะมีบริการ Bravia Core มาให้ในตัว รันด้วย Google TV พอร์ตเป็น HDMI 2.1 สำหรับคอนเทนท์ 4K 120fps รองรับการเชื่อมต่อกับลำโพงอัจฉริยะทั้ง Google Nest หรือลำโพงที่มี Google Assistant และ Alexa ทีวีในกลุ่ม Bravia XR ก็มี Z9J 8K (Full-array LCD), X95J 4K (Full-array LCD), X90J 4K (Full-array LCD) A90J 4K (OLED) และ A80J 4K(OLED) ที่มา - Sony
# โซนี่เปิดตัว Bravia Core บริการสตรีมมิ่งระดับ Ultra HD Blu-ray เฉพาะบนทีวีโซนี่ โซนี่เปิดตัวบริการสตรีมมิ่งของตัวเองในชื่อ Bravia Core ซึ่งไม่ใช่สตรีมมิ่งที่ให้บริการทั่วไป แต่จะมีให้เฉพาะบนสมาร์ททีวีรุ่นใหม่อย่าง Bravia XR ที่ออกในปีนี้เท่านั้น คอนเทนท์ของ Bravia Core จะมีแต่คอนเทนท์ของ Sony Pictures คุณภาพภาพใกล้เคียง Ultra HD Blu-ray คุณภาพเกือบ lossless ด้วยบิตเรท 80Mbps ความละเอียด 4K แบบ HDR10 เสียง DTS Digital 5.1 ที่สำคัญคือมีหนังที่เป็น IMAX Enhanced ให้ในไลบรารี่ด้วย ที่มา - Sony, Sony Channel
# YouTube จะลงโทษฐานเดียวกับการละเมิดลิขสิทธ์ หากโพสต์ข้อมูลปลอมเกี่ยวกับการเลือกตั้งสหรัฐฯ จากเหตุจลาจลที่รัฐสภาสหรัฐฯในกรุงวอชิงตัน ดีซี YouTube เพิ่มมาตรการอีกขั้น หากช่องไหนโพสต์วิดีโอที่มีข้อมูลปลอมเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ จะถูก strike หรือการลงโทษจาก YouTube ไม่เว้นแม้แต่ช่องของโดนัลด์ ทรัมป์เอง การ strike บน YouTube จะถูกใช้บ่อยๆ เมื่อเจ้าของช่องโพสต์วิดีโอละเมิดลิขสิทธิ์ ทำให้ไม่สามารถอัพโหลดวิดีโอใหม่ได้ ซึ่งแม้จะลบวิดีโอออกไปแล้ว ผลของการ strike จะยังคงอยู่ไปอีก 90 วัน และหากโดน strike 3 ครั้งจะทำให้ช่องถูกปิดถาวร ภาพจาก Shutterstock ที่มา - 9to5Google
# LG เปิดตัว webOS 6.0 ปรับ UI และรีโมทใหม่ให้เหมาะกับการรับชมคอนเทนต์ยุคปัจจุบัน LG เปิดตัว webOS 6.0 แพลตฟอร์มสำหรับสมาร์ททีวีของตัวเองเวอร์ชันใหม่ โดยมาพร้อม UI ยกเครื่องใหม่ที่เหมาะกับปี 2021 สำหรับทีวี 4K และ 8K โดยถือเป็นการอัพเดตสำคัญที่สุดของ webOS ตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2014 ที่ webOS ได้ย้ายจาก HP มาอยู่กับ LG webOS 6.0 จะปรับรูปแบบโฮมสกรีนใหม่เพื่อให้เข้าใช้งานแอปที่ใช้บ่อย ๆ ได้ง่ายขึ้น รวมถึงมีระบบแนะนำคอนเทนต์ตามผู้ใช้ปรับแต่งและประวัติการรับชม มี Magic Explorer ช่วยเลือกคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องโดยดูตามนักแสดง, สถานที่ และสิ่งที่สนใจ และ Next Picks ที่จะวิเคราะห์การรับชมและแนะนำสิ่งที่ผู้ใช้งานน่าจะชอบ ส่วน LG Magic Remote ใหม่จะมาพร้อมระบบควบคุมที่เรียบง่ายกว่าเดิม มีระบบสั่งการด้วยเสียงที่ให้เลือกได้ทั้ง LG ThinQ, Alexa และ Google Assistant มีปุ่ม hotkey สำหรับกดเข้า Netflix, Amazon Prime Video หรือ Disney+ และผู้ให้บริการคอนเทนต์ชื่อดังเจ้าอื่น ๆ พร้อมกับ Magic Tap ระบบ NFC ที่เมื่อนำสมาร์ทโฟนที่รองรับมาสัมผัสกับรีโมทก็สามารถแชร์คอนเทนต์จากมือถือขึ้นไปสู่ทีวี หรือจะแชร์จากทีวีลงมามือถือก็ได้เช่นกัน LG ระบุว่าจะเริ่มโชว์ทีวีที่รัน webOS 6.0 อย่างเป็นทางการในวันที่ 11-14 มกราคมนี้ทาง CES 2021 Virtual Showroom ที่มา - Engadget, Gadgetguy, PR Newswire
# Twitch ปิดไม่ให้ โดนัลด์ ทรัมป์ ไลฟ์ อย่างไม่มีกำหนด Twitch ปิดช่องทางการไลฟ์ของโดนัลด์ ทรัมป์ อย่างไม่มีกำหนด อันเป็นผลจากการที่เขาแสดงการกระทำสนับสนุนความรุนแรงที่เกิดขึ้นในรัฐสภาที่วอชิงตัน ดีซี ทางบริษัทระบุว่านี่เป็นขั้นตอนที่จำเป็นในการปกป้องชุมชนบน Twitch และป้องกันไม่ให้ Twitch ถูกใช้เพื่อปลุกระดมความรุนแรงอีกต่อไป ตัวบัญชีของทรัมป์ ยังคงอยู่บนแพลตฟอร์ม ยังสามารถเข้าถึง archive วิดีโอได้ แต่ไม่สามารถทำการไลฟ์ได้อีก ก่อนหน้านี้ Twitch ก็เคยแบนทรัมป์ชั่วคราว เพราะละเมิดกฎการใช้คำพูดแสดงความเกลียดชัง ที่มา - The Verge
# Shopify แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ดึงหน้าร้านของโดนัลด์ ทรัมป์ออก Shopify ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์สำหรับเปิดร้านค้าออนไลน์และหน้าร้าน นำร้านค้าของโดนัลด์ ทรัมป์หรือ TrumpStore ออกจากแพลตฟอร์ม ทาง Shopify ระบุว่าทางบริษัทไม่สามารถทนการกระทำที่ยั่วยุให้เกิดความรุนแรงแบบนี้ขึ้นของทรัมป์ได้ จนถึงตอนนี้ โซเชียลมีเดียรายใหญ่แบนทรัมป์ออกหมดแล้วตั้งแต่ Twitter (แบนชั่วคราว), Facebook, Instagram, Snapchat เพราะเขาใช้โซเชียลเป็นช่องทางสื่อสารกับผู้สนับสนุนของเขาและมีการพูดส่งเสริมความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากม็อบบุกรัฐสภาในวอชิงตัน ดีซี อย่างไรก็ตาม Shopify เคยเป็นประเด็นราว 3 ปีก่อนที่อนุญาตให้มีสินค้าของ Breitbart สื่อขวาจัดอยู่บนแพลตฟอร์มต่อไปได้ เพราะไม่อยากให้กระทบการแสดงออกอย่างเสรี แต่ภายหลัง Shopify ก็ลดโทนลง มีการแบนสินค้าขวาจัดจากกลุ่ม Proud Boys และบริจาคเงินช่วยเหลือในองค์กรสิทธิช่วงประท้วง Black Lives Matter ภาพประกอบจาก Shopify ที่มา - TechCrunch
# Facebook และ Instagram ขยายเวลาล็อกบัญชีทรัมป์ไปจนกว่า Joe Biden จะเข้ารับตำแหน่งเสร็จสิ้น ก่อนหน้านี้ Facebook และ Instagram ล็อกบัญชีของทรัมป์เป็นเวลา 24 ชั่วโมงเนื่องจากละเมิดนโยบายของบริษัท ล่าสุด Mark Zuckerberg ได้รายงานผ่านทาง Facebook ระบุว่าบัญชีของทรัมป์จะถูกล็อกจากโซเชียลเน็ตเวิร์คทั้ง Facebook และ Instagram แบบไม่กำหนดเวลาชัดเจน (indefinitely) โดยอย่างเร็วสุดคือจะไม่ปลดล็อกจนกว่า Joe Biden จะเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ เนื่องจากสถานการณ์ล่าสุดเป็นการบ่งบอกว่าทรัมป์จะใช้เวลาที่เหลือในตำแหน่งของเขาในการทำลายการเปลี่ยนผ่านอำนาจอย่างสันติตามกฎหมายให้กับประธานาธิบดีคนใหม่ Zuckerberg ระบุว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ Facebook อนุญาตให้ทรัมป์ใช้แพลตฟอร์มตามกฎของบริษัท มีการลบเนื้อหาหรือติดป้ายโพสต์ที่ผิดนโยบายบ้าง เนื่องจากเขาเชื่อว่าสาธารณชนมีสิทธิ์ที่จะรับรู้คำพูดในเชิงการเมืองแม้จะเป็นคำพูดที่สร้างความขัดแย้งกันก็ตามที แต่กับสถานการณ์ปัจจุบันนี้แตกต่างออกไป เพราะเป็นการใช้แพลตฟอร์มในการส่งเสริมความรุนแรงเพื่อต่อต้านรัฐบาลที่ได้รับการเลือกตั้งอย่างเป็นประชาธิปไตย ด้วยเหตุผลข้างต้น Facebook และ Instagram จึงจะดำเนินการล็อกบัญชีของทรัมป์ต่อไปแบบไม่ระบุว่าจะปลดล็อกเมื่อไร โดยระยะเวลาเร็วสุดคือหลังเปลี่ยนผ่านอำนาจสู่ประธานาธิบดีคนใหม่จะเสร็จสิ้นในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า ที่มา - Engadget ภาพจาก @realDonaldTrump
# เตรียมพบกับ Wi-Fi 6E มาตรฐานใหม่ใช้คลื่นย่าน 6GHz แก้ปัญหา 5GHz เริ่มไม่พอใช้ กลุ่มมาตรฐานอุตสาหกรรม Wi-Fi Alliance ประกาศเริ่มกระบวนการรับรองอุปกรณ์ Wi-Fi 6E ที่ใช้คลื่น 6GHz แล้ว Wi-Fi 6E เปิดตัวครั้งแรกเมื่อต้นปี 2020 โดยมีไอเดียว่าคลื่นย่าน 5GHz ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันเริ่มไม่พอ และเริ่มมีหน่วยงานกำกับดูแลหลายประเทศ (โดยเฉพาะ FCC หรือ กสทช. สหรัฐ) เริ่มเปิดคลื่นย่าน 6GHz ให้ใช้งาน Wi-Fi กันบ้างแล้ว (FCC เปิดคลื่นให้กว้าง 1200MHz เป็น unlicensed band คือใช้งานโดยไม่ต้องขออนุญาต) อุปกรณ์กลุ่ม Wi-Fi 6E จะถูกแปะแบรนด์เป็นส่วนหนึ่งของ Wi-Fi 6 โดยแบรนด์ที่กำลังทดสอบอุปกรณ์เป็นชุดแรกอยู่คือ Broadcom, Intel, MaxLinear, MediaTek, Qualcomm, Quantenna แต่ในแถลงการณ์ของ Wi-Fi Alliance ก็มีชื่อบริษัทอื่นๆ เช่น Cisco, Aruba, Linksys, Samsung ด้วยเช่นกัน ที่มา - Wi-Fi Alliance
# ทีมงานแอพหมอชนะแจง ไม่ใช้ Apple/Google API เพราะอยากได้พิกัด GPS, เก็บข้อมูลบนเซิร์ฟเวอร์ตลอดเวลา หลังการระบาดรอบใหม่ของโรค COVID-19 ในประเทศไทย ภาครัฐได้ย้ำให้ประชาชนติดตั้งแอพหมอชนะเพื่อติดตามตำแหน่งของผู้ใช้และแจ้งเตือนหากเป็นผู้มีความเสี่ยงสูง โดยในการระบาดรอบนี้ได้มีผู้ใช้จำนวนมากตั้งคำถามว่าเพราะอะไรแอพหมอชนะจึงไม่เลือกใช้ Apple/Google Exposure Notification API ซึ่งเป็น API ที่ Apple กับ Google จับมือกันพัฒนาออกมาให้รัฐบาลทุกประเทศใช้ Apple/Google Exposure Notification API ทำงานโดยการสุ่มเลขประจำตัวชั่วคราวขึ้นมาและประกาศเลขนี้ออกไปทางบลูทูธ ซึ่งสมาร์ทโฟนเครื่องอื่นๆ ที่อยู่ใกล้ๆ ก็จะได้รับเลขสุ่มนี้ หากเจ้าของสมาร์ทโฟนเครื่องใดป่วยเป็น COVID-19 ขึ้นมา ก็จะสามารถส่งการแจ้งเตือนไปหาสมาร์ทโฟนทุกเครื่องที่เคยเข้าใกล้สมาร์ทโฟนของผู้ป่วยได้ทันที โดยแอพที่จะเข้าใช้งาน API นี้ได้ ต้องเป็นแอพจากรัฐบาลเท่านั้น ทำให้แอพหมอชนะ ซึ่งเป็นแอพลักษณะเดียวกันนี้เข้าข่ายที่ควรนำ API ดังกล่าวมาใช้งานที่สุด แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีการใช้งานแต่อย่างใด เมื่อช่วงก่อนสิ้นปี 2020 นายฉัตรชัย คุณปิติลักษณ์ รองผู้อำนวยการกลุ่มงานเศรษฐกิจดิจิทัล สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) หนึ่งในทีมงานพัฒนาแอพหมอชนะ ได้เขียนบล็อกเล่าถึงเหตุผลที่ทีมงานตัดสินใจไม่ใช้ Exposure Notification API นายฉัตรชัย ระบุว่าตั้งแต่แอพหมอชนะถูกปล่อยให้ดาวน์โหลดผ่าน App Store และ Play Store ก็ได้หารือกับตัวแทนของ Apple และ Google ถึงการนำ Exposure Notification API เข้ามาใช้งาน โดยหลังจากทีมงานได้อ่านข้อตกลงการใช้งาน API ดังกล่าว พบว่าเงื่อนไขการใช้งานคือแอพห้ามเก็บตำแหน่งของผู้ใช้ รวมถึงห้ามใช้บลูทูธ ยกเว้นว่าจะใช้งานผ่าน API ดังกล่าวเท่านั้น รวมถึงห้ามเข้าถึงข้อมูลที่ระบุตัวตนของผู้ใช้ได้ด้วย ภาพอีเมลการพูดคุยกับตัวแทนของแอปเปิล ต่อมาเขาระบุว่าประชาชนที่ใช้สมาร์ทโฟนของ Huawei ที่ไม่มี Google Mobile Services (GMS) ก็จะไม่สามารถเข้าถึง API นี้ได้ แม้ Huawei Mobile Services (HMS) จะออกอัพเดตมาพร้อมยืนยันว่าทำงานร่วมกับโซลูชันด้าน COVID-19 ชั้นนำอื่นๆ ได้ แต่ Huawei ก็ไม่ได้บอกตรงๆ ว่าหมายถึง Exposure Notification API หรือไม่ HMS มีอัพเดตโดยระบุว่ามี Contact Shield API นายฉัตรชัย เขียนถึงข้อกังวลที่ทีมงานแอพหมอชนะมีต่อ Exposure Notification API ว่าการเก็บตำแหน่งของผู้ใช้นั้นจำเป็นมาก เพราะบางครั้งผู้ป่วย COVID-19 อาจทิ้งเชื้อไวรัสไว้ในสถานที่รวมถึงสิ่งของต่างๆ เช่นราวบันได และลูกบิดประตู และหากมีผู้ใช้คนอื่นเข้ามาที่สถานที่นั้นๆ ทีหลัง ก็อาจได้รับเชื้อแต่ไม่ได้รับการแจ้งเตือน เพราะสมาร์ทโฟนของทั้งสองคนไม่ได้เชื่อมถึงกันตรงๆ นอกจากนี้ข้อกังวลบางข้อยังฟังดูแปลกๆ เช่นกังวลว่าผู้ใช้บางรายอาจไม่ยินยอมให้ประกาศเลขสุ่มประจำเครื่อง ทำให้ประชาชนไม่อยากติดตั้งแอพ ทั้งที่ปัจจุบันเราก็เห็นกันอยู่แล้วว่าผู้ติดเชื้อจำนวนมากต้องออกมาประกาศไทม์ไลน์ของตัวเองกันเองอย่างละเอียด เพื่อให้ผู้ใกล้ชิดรีบตรวจสอบและตรวจหาเชื้อ ข้อสังเกตที่สำคัญอีกข้อ คือ Exposure Notification API จะไม่มีการเก็บข้อมูลเลขสุ่มของแต่ละเครื่องไว้บนเซิร์ฟเวอร์ แต่จะเก็บไว้ในสมาร์ทโฟนเฉยๆ โดยข้อมูลเลขสุ่มจะถูกอัพโหลดขึ้นเซิร์ฟเวอร์ก็ต่อเมื่อผู้ป่วยกดอัพโหลดข้อมูลเพื่อให้แจ้งเตือนคนอื่นเท่านั้น และจะถูกลบทิ้งภายใน 14 วัน แต่การทำงานของแอพหมอชนะจะเก็บข้อมูลทุกอย่างไว้บนเซิร์ฟเวอร์ตลอดเวลาที่ยังมีวิกฤติโรคระบาดอยู่ ภาพจากเอกสาร Exposure Notification API FAQ (PDF) สุดท้ายเขาระบุว่าประเทศอินเดียก็ไม่ใช้ Exposure Notification API ด้วยเหตุผลเรื่องตำแหน่งของผู้ใช้เช่นกัน รวมถึงในสหรัฐอเมริกาเองก็มีเพียง 19 จาก 50 รัฐที่ใช้งาน API ดังกล่าว (และมีอีก 2 รัฐระบุว่ากำลังจะใช้) อย่างไรก็ตาม นายฉัตรชัยระบุว่าหาก Apple และ Google เปลี่ยนข้อบังคับ หรือเงื่อนไขของสถานการณ์เปลี่ยนไปก็พร้อมพิจารณาใช้ API ทันที ที่มา - Chatchai Khunpitiluck - Medium
# OpenAI เปิดตัว DALL·E ปัญญาประดิษฐ์วาดภาพได้ จาก input ที่เป็นคำบรรยาย OpenAI บริษัทวิจัยด้านปัญญาประดิษฐ์ที่มี Elon Musk เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง (แต่ตอนนี้ไม่เกี่ยวข้องแล้ว) และมีไมโครซอฟท์ให้การสนับสนุน เปิดตัว DALL·E โปรแกรมปัญญาประดิษฐ์ที่พัฒนาจาก GPT-3 ซึ่งสามารถสร้างสรรค์รูปภาพ จากตัวหนังสืออธิบายรายละเอียดของภาพ (text caption) ผลลัพธ์ที่ OpenAI นำเสนอ พบว่าสามารถวาดรูปภาพ ตั้งแต่ประเภทที่กำหนดรายละเอียดจำเพาะ เช่น นาฬิกาตั้งโต๊ะสีเขียวทรงห้าเหลี่ยม ไปจนถึงภาพที่ระบุวัตถุหลายอย่างประกอบกันได้ และสามารถวาดภาพแนวสร้างสรรค์สิ่งใหม่ขึ้นมาก็ได้ ตัวอย่างเช่น ภาพวาดหัวไชเท้าใส่ชุด Tutu จูงสุนัข หรือ เก้าอี้นั่งรูปทรงอะโวคาโด นอกจากนี้ DALL·E ยังสามารถวาดองค์ประกอบของภาพเพิ่มเติม แม้ไม่ได้ระบุในรายละเอียดได้ด้วย เช่น ภาพวาดสุนัขจิ้งจอกนั่งในทุ่งหญ้าฤดูหนาว องค์ประกอบก็จะมีแสงเงารวมอยู่ด้วย ไปจนถึงกรณีที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น ให้วาดภาพแมวที่เหมือนกับรูปต้นฉบับด้านบน ก็วาดออกมาได้หลายลายเส้น ตอนนี้สถานะของ DALL·E ยังจำกัดรูปแบบคำที่กำหนด ในบางกรณีผลลัพธ์ก็ยังดูไม่สมบูรณ์มากนัก แต่ทำให้เห็นทิศทางการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์สำหรับการวาดภาพได้พอสมควร ทั้งนี้ชื่อ DALL·E มีที่มาจากการผสมคำของ Salvador Dalí จิตรกรชาวสเปน และอนิเมชันเรื่อง WALL·E ไปทดลองดูได้ที่ลิงก์นี้ของ OpenAI ที่มา: Engadget
# Snapchat ล็อคแอคเคาท์ Donald Trump ตามรอย Facebook/Twitter หลัง Donald Trump ถูกล็อคบัญชี 24 ชม. จากทั้ง Facebook/Twitter จากเหตุม็อบบุกรัฐสภา ล่าสุด Snapchat ใช้มาตรการเดียวกันกับแอคเคาท์ของประธานาธิบดีที่กำลังจะหมดวาระคนนี้แล้ว โดยโฆษก Snap บอกว่าบริษัทจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไปก่อนจะพิจารณาเปลี่ยนแปลงมาตรการนี้ เหตุผลของ Snap ก็ไม่ต่างกับ Facebook หรือ Twitter คือไม่สนับสนุนแอคเคาท์ที่โปรโมทความรุนแรงและการแบ่งแยกชาติพันธุ์ โดยก่อนหน้านี้แอคเคาท์ Trump เคยถูกนำออกจากการแสดงผลบนแท็บ Discovery บน Snapchat มาแล้วช่วงกลางปีที่ผ่านมา และมีเฉพาะผู้ติดตามหรือผู้ที่ค้นหาเท่านั้นที่จะสามารถเห็นคอนเทนท์จาก Trump ได้ ที่มา - TechCrunch ภาพจาก Getty Images
# Palo Alto คาดเทรนด์ความปลอดภัยปีนี้: การแชร์ข้อมูลส่วนตัวจากโควิด, 5G, WFH และคลาวด์ Palo Alto Networks ให้ข้อมูลในการแถลงข่าวออนไลน์วันนี้ เกี่ยวกับเทรนด์ความปลอดภัยในปี 2021 โดยมีผู้ให้ข้อมูลหลัก 3 ท่าน คือคุณฌอน ดูคา รองประธานและหัวหน้าฝ่ายความปลอดภัยประจำภูมิภาค เอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น, ดร. ธัชพล โปษยานนท์ ผู้อำนวยการ บริษัท พาโล อัลโต เน็ตเวิร์ค ประเทศไทย และอินโดจีน และคุณคุณคงศักดิ์ ก่อตระกูล ผู้จัดการวิศวกรรม ประจำประเทศไทยและภูมิภาคอินโดจีน ข้อสำคัญ 4 ประการที่น่าจะเป็นจุดเสี่ยงในปีนี้ คือการแชร์ข้อมูลส่วนตัวกับหน่วยงานเพื่อใช้ในการติดตามข้อมูลความเสี่ยง COVID-19 ระบบโครงข่าย 5G ที่ต้องปลอดภัยมากขึ้น ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากการทำงานนอกสถานที่ และความเสี่ยงที่มาจากการจัดระเบียบการทำงานที่อิงระบบคลาวด์มากขึ้น การท่องเที่ยวอาจกลับมา พร้อมกับการที่เราต้องแชร์ข้อมูลมากขึ้น Palo Alto Networks มองว่าการท่องเที่ยวในปีนี้อาจกลับมาก็จริง แต่ก็อาจต้องแลกมากับการยอมเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวบางอย่างที่มากขึ้น เช่นไทม์ไลน์การเดินทาง ทั้งกับภาครัฐและเอกชน เช่นสายการบิน และโรงแรม หลายประเทศมีการจับคู่ท่องเที่ยวระหว่างประเทศและเปิดช่องทางสีเขียวเพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการ เพื่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว และยังมีการถกเถียงเรื่องวิธีการจัดเก็บ การเข้าถึงข้อมูล และการใช้ข้อมูลอยู่ ผู้ท่องเที่ยวควรตระหนัก และระวังในการแชร์ข้อมูลส่วนตัวมากขึ้น รวมถึงภาครัฐและเอกชน ควรต้องร่วมกันปรับปรุงความปลอดภัยในจุดนี้ให้ชัดเจน 5G มาแล้ว แต่ความปลอดภัยพร้อมหรือยัง การวางเครือข่าย 5G ใหม่ในหลายๆ ที่ก่อนหน้านี้ถูกผลักดันโดยรัฐ กลายมาเป็นเอกชนที่ผลักดันกันเองมากขึ้น เนื่องจากรัฐมีปัญหาใหญ่คือ COVID-19 ที่ต้องจัดการ การเพิ่มขึ้นของจำนวนโหนดที่ต้องติดตั้งเพื่อใช้ในเครือข่าย 5G และความเร็วที่มากขึ้นในการเข้าสู่เครือข่าย ย่อมเพิ่มโอกาสที่อาจทำให้ระบบถูกโจมตีได้มากขึ้นได้เช่นเดียวกัน จุดนี้ Palo Alto Networks มองว่าภาคเอกชนที่เป็นเจ้าของโครงสร้างพื้นฐานต้องพัฒนาระบบความปลอดภัยให้ดีกว่าสมัย 2G, 3G และ 4G การทำงานจากที่อื่น ต้องปลอดภัยขึ้น อีกเทรนด์ที่มาแรงไม่แพ้กัน คือการทำงานจากบ้าน หรือทำงานจากทุกๆ ที่ ที่ไม่ใช่ออฟฟิศอีกต่อไป มีวิธีการมากมายที่อำนวยความสะดวกให้พนักงานทำงานจากบ้านได้มากขึ้น แต่ก็มีความซับซ้อน และความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน ทั้ง การเชื่อมต่อ VPN ไปจนถึง fob และดิจิทัลคีย์ ซึ่งมาตรการการทำงานหลายๆ อย่างในการทำงานจากบ้าน ไม่เคยถูกทดสอบด้วยการใช้งานมากขนาดนี้ และมักมีไว้ใช้แก้ปัญหาระยะสั้น จุดนี้ทำให้มีความเสี่ยงจากการถูกโจมตีมากขึ้น รวมถึงวิธีการใช้งานที่ซับซ้อนในการรักษาความปลอดภัยก็อาจก่อปัญหาจาก user-error ได้ หากพนักงานไม่มีความรู้ด้านเทคนิคเพียงพอ Palo Alto Networks มองว่าการนำ Secure Access Service edge (SASE) มาใช้ และการออกแบบระบบความปลอดภัย รวมถึงการเชื่อมต่อกับระบบของพนักงานให้มีความซับซ้อนน้อยลง จะทำให้การทำงานง่ายขึ้น และปลอดภัยขึ้นได้ 2021 จะเป็นปีแห่งการแก้ไขและปรับปรุงระบบ บริษัทต่างๆ จะเริ่มใช้ระบบคลาวด์มากขึ้น การควบคุมความปลอดภัยเครือข่าย จะกลายมาเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์ และองค์กรจำเป็นต้องมีการกำกับดูแลข้อมูลระบุตัวตนและการจัดการการเข้าถึง (IAM) ที่ดีขึ้น เพราะการคอนฟิกผิดพลาดเพียงเล็กน้อย ก็อาจส่งผลใหญ่ต่อข้อมูลความปลอดภัยของบริษัทได้ ฝ่ายไอทีในบริษัทจะเริ่มมีความสำคัญมากขึ้น และเน้นในด้านโครงสร้างพื้นฐานในการทำงานให้เรียบง่ายและมั่นคงขึ้น มากกว่าการทำอะไรที่ล้ำๆ ใหม่ๆ ทีมรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์จะต้องมีการปรับปรุง เพื่อให้สอดคล้องกับการทำงานบนระบบคลาวด์ การเติบโตของระบบคลาวด์ และไฮบริดคลาวด์ที่มากขึ้นในปี 2564 อาจทำให้ช่องโหว่เพิ่มขึ้นได้แบบทวีคูณ สรุป เทรนด์ความปลอดภัยส่วนใหญ่ในปี 2021 ที่ Palo Alto Networks คาดการณ์ มีตัวแปรหลักๆ อยู่สองตัวคือผลกระทบจากไวรัส COVID-19 ที่ทำให้การเก็บและแชร์ข้อมูลส่วนตัวมีมากขึ้นจากการติดตามการสัมผัส (contact tracing) ระบบการทำงานขององค์กรต้องเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดด และระบบคลาวด์มีความสำคัญมากขึ้น แต่ทั้งหมดนี้ย่อมหมายถึงความเสี่ยงที่มากขึ้นเช่นกัน อีกตัวแปรคือการมาถึงของ 5G ที่ยิ่งเร่งให้การเปลี่ยนแปลงข้างต้นเกิดเร็วขึ้นไปอีก แต่ความปลอดภัยของระบบและโครงข่ายก็ต้องเพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน ที่มา - งานแถลงข่าวออนไลน์ Palo Alto Networks: คาดการณ์ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ปี 2021
# Apple ออก AirPods Pro รุ่น limited เพิ่มลวดลายต้อนรับปีฉลู ขายเฉพาะบางประเทศ แอปเปิลออกหูฟังไร้สาย AirPods Pro รุ่นพิเศษจำนวนจำกัด ต้อนรับวันตรุษจีน 12 กุมภาพันธ์ ปีนี้ โดยตัวกล่องและเคสใส่หูฟัง ได้เพิ่มลวดลายอีโมจิวัวแบบพิเศษสำหรับปีนักษัตรฉลูของปีนี้ AirPods Pro รุ่นพิเศษนี้จำหน่ายในราคาเท่ากับรุ่นปกติ (ซึ่งสามารถสลักอีโมจิได้เช่นกัน) จำกัดจำนวนการสั่งซื้อทางออนไลน์คนละไม่เกิน 2 ชุด และจะมีจำหน่ายที่ร้าน Apple Store เช่นกัน โดย AirPods Pro รุ่นพิเศษนี้ จำหน่ายเฉพาะที่ จีน ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ และมาเลเซีย เท่านั้น ที่มา: The Verge
# หน้าเพจใหม่ Facebook ไม่มีปุ่มยอดไลค์ เน้นตัวเลขคนติดตาม พร้อมหน้าฟีดใหม่สำหรับแอดมินเพจ Facebook ออกแบบหน้าแฟนเพจใหม่และเพิ่มฟีเจอร์ใหม่หลายอย่าง หลักๆ ที่เห็นได้ชัดคือ ไม่แสดงตัวเลขยอดไลค์เพจแล้ว แต่แสดงยอดผู้ติดตาม และปุ่มให้กดติดตามแทน ทำให้ภาพรวมหน้าตาสะอาดขึ้น ข้อมูลน้อยลง ด้านฟีเจอร์ใหม่อื่นๆ คือ Facebook ทำหน้าฟีดให้กับเพจโดยเฉพาะ แอดมินเพจสามารถเลื่อดูฟีดใหม่ และคอมเม้นท์เพจอื่น หรือสร้าง engagement กับแฟนๆ ได้โดยใช้เพจของตัวเองได้เลย ในหน้าฟีดใหม่ยังแนะนำคอนเนกชั่น เพจและกลุ่มอื่นๆ รวมถึงเทรนด์น่าสนใจมาให้ด้วย แอดมินเพจยังสามารถสร้าง Q&A คล้ายๆ กับที่มีใน Instagram Stories เป็นอีกช่องทางในการสร้าง engagement นอกจากนี้ Facebook ยังปรับตาการตั้งค่าเพจใหม่หใ้แอดมินสามารถตั้งค่าการเข้าถึงสิทธิ์ต่างๆ ว่าผู้ที่เป็นแอดมินเพจร่วมสามารถทำอะไรกับเพจได้บ้าง ที่มา - Facebook Newsroom
# ซัมซุงเปลี่ยนมาใช้รีโมททีวี Solar Cell ชาร์จไฟในร่มได้ ลดขยะจากถ่าน AAA ในประกาศของใหม่ CES 2021 ของซัมซุง นอกจากทีวีรุ่นใหม่ของปี 2021 ยังมีรีโมทพลัง Solar Cell ที่จะแถมมากับทีวีรุ่นปี 2021 เพื่อแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม ลดขยะจากแบตเตอรี่ AAA ลง รีโมทแบบใหม่มีแผงรับแสงอยู่ด้านหลัง โดยซัมซุงระบุว่าสามารถชาร์จไฟในร่ม (indoor light) ได้ หรือจะชาร์จผ่าน USB ก็ได้เช่นกัน (ยังไม่มีรายละเอียดว่าชาร์จนานแค่ไหน และใช้ได้นานแค่ไหน) นอกจากรีโมทแล้ว ซัมซุงยังประกาศนโยบายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยออกแบบกล่องใส่ทีวีใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นำมาดัดแปลงเป็นของเล่นได้ พิมพ์ลายบนกล่องน้อย เพื่อลดปริมาณหมึกที่ใช้ ช่วยให้รีไซเคิลง่ายขึ้นด้วย ที่มา - Samsung
# ประวัติศาสตร์เปิดเผย 20 ปีที่แล้ว ไมโครซอฟท์เคยอยากซื้อนินเทนโด แต่ไม่สำเร็จ Bloomberg มีสกู๊ปเล่าประวัติของ Xbox รุ่นแรก และที่มาที่ไปของไมโครซอฟท์ก่อนเข้าสู่วงการเกมเมื่อ 20 ปีก่อน ประเด็นใหม่ในบทความนี้คือ Steve Ballmer ซีอีโอไมโครซอฟท์ในตอนนั้นเคยพยายามซื้อกิจการนินเทนโด แต่ไม่สำเร็จ เรื่องนี้มาจาก Kevin Bachus อดีตผู้บริหารฝ่ายสานสัมพันธ์บริษัทเกม ที่โดน Ballmer สั่งให้นัดพบนินเทนโดเพื่อสอบถามว่าสนใจขายกิจการหรือไม่ ผลคือผู้บริหารนินเทนโดหัวเราะใส่นานเป็นชั่วโมง หลังจากนั้นไมโครซอฟท์ยังไม่ละความพยายาม ช่วงต้นปี 2000 ไมโครซอฟท์เชิญตัวแทนของนินเทนโดมาหารือเรื่องการร่วมทุน โดยไมโครซอฟท์จะทำฮาร์ดแวร์และให้นินเทนโดทำเกม (เพราะนินเทนโดทำฮาร์ดแวร์สู้ PlayStation ไม่ได้) แต่ก็ไม่สำเร็จเช่นกัน เวลาผ่านมา 20 ปี สถานการณ์ต่างๆ เปลี่ยนไปมาก ตอนนี้ทั้งสองบริษัทมีความสัมพันธ์ค่อนข้างดีต่อกัน เช่น ตัวละครจาก Minecraft ไปโผล่ในเกม Super Smash Bros. เป็นต้น ที่มา - Eurogamer, Bloomberg
# ศบค. ระบุหากติด COVID-19 แล้วโทรศัพท์ไม่มีแอปหมอชนะจะผิดข้อกำหนด แม้ตัวประกาศบอกเพียงรัฐบาลสนับสนุน ศบค. แถลงข่าวถึงประกาศฉบับที่ 17 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินโดยระบุถึงมาตรการเพิ่มเติมจากเดิมคือการสนับสนุนการติดตั้งและใช้แอปพลิเคชั่นหมอชนะ โดยในการแถลงข่าวโฆษกศบค. ระบุว่าผู้ติดเชื้อ COVID-19 แล้วไม่ได้ติดตั้งแอปหมอชนะจะถือว่าทำผิดจากประกาศนี้ ข้อความในตัวประกาศไม่ได้บังคับให้ติดตั้งโดยตรง แต่บอกเพียงว่า "รัฐบาลสนับสนุนให้ประชาชนติดตั้งและใช้ระบบแอปพลิเคชัน “หมอชนะ” ซึ่งเป็นการพัฒนาและประสานความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนและภาครัฐ" แอปพลิเคชั่นหมอชนะเป็นแอปพลิเคชั่นที่เก็บข้อมูลอย่างละเอียดโดยอาศัยการกระจายหมายเลขประจำตัวบัญชีผู้ใช้ออกไปรอบๆ ทำให้โทรศัพท์เครื่องอื่นๆ สามารถมองเห็นได้ว่าเข้าใกล้บัญชีผู้ใช้งานอื่นเวลาใดบ้าง พร้อมกับการเก็บข้อมูลพิกัดจาก GPS และยังอัพโหลดข้อมูลเหล่านี้กลับเซิร์ฟเวอร์ตลอดเวลา แนวทางของหมอชนะนับว่าแตกต่างจากการให้บริการ Contact Tracing ที่กูเกิลและแอปเปิลเพิ่มเข้าไว้ในโทรศัพท์ โดยทั้งสองบริษัทหลีกเลี่ยงการดึงข้อมูลส่วนตัวมากเกินไปด้วยการใช้กระจายหมายเลขประจำตัวชั่วคราวที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเพื่อป้องกันคนที่ไม่เกี่ยวข้องไปติดตามตัวผู้ใช้งาน ไม่เก็บข้อมูล GPS ตลอดจนไม่อัพโหลดข้อมูลกลับเซิร์ฟเวอร์จนกว่าจะยืนยันว่าเป็นผู้ป่วย แนวคิดการบังคับติดตั้งแอปพลิเคชั่นหมอชนะมีมานาน ปีที่แล้วแนวคิดเช่นนี้ทำให้ดร. นพ.นวนรรน ธีระอัมพรพันธุ์ ถอนตัวออกจากโครงการไป ที่มา - NBT
# TOT และ CAT ควบรวมเป็นบริษัทใหม่ National Telecom (NT) มีผลวันนี้ 7 ม.ค. 2564 วันนี้ 7 มกราคม 2564 รัฐวิสาหกิจด้านโทรคมนาคม 2 รายคือ TOT และ CAT ควบรวมกันเป็นบริษัทใหม่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) (National Telecom Public Company Limited ตัวย่อ NT) ตามที่ประกาศไว้ ในแง่การให้บริการ TOT และ CAT ยังคงเดิมไปก่อน แต่ในแง่นิติบุคคล การออกหนังสือราชการ ที่อยู่ทางกฎหมาย ได้เปลี่ยนเป็นบริษัทใหม่เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้บริษัทใหม่ NT ยังไม่มีโลโก้อย่างเป็นทางการ (มีแต่โลโก้ชั่วคราว) แต่มีเว็บไซต์ NTPLC.co.th และ เพจ Facebook NTPLC เผื่อใครสนใจติดตาม
# อินเทลเปิดตัว RealSense ID ชุดกล้องสแกนหน้า ประมวลผลใบหน้าได้ในตัว อินเทลเปิดปี 2021 ด้วยกล้องวัดระยะลึกแบรนด์ RealSense ที่เริ่มทำตลาดมาตั้งแต่ปี 2014 รุ่นใหม่คือ RealSense ID Facial Authentication กล้องวัดระยะลึกพร้อมเทคโนโลยีตรวจจับใบหน้าในตัว (มี SoC ในตัว, ไม่ต้องเชื่อมต่อเครือข่าย) เหมาะกับการนำไปติดตั้งที่ประตู, จุดขายสินค้า (POS), ตู้ ATM หรือตู้ kiosk ชนิดอื่นๆ กล้อง RealSense มีอัตราแม่นยำ 99.76%, สตอเรจเข้ารหัสข้อมูลใบหน้า แบ่งเป็น 2 รุ่นย่อยคือ F455 ที่เป็นกล่องสำเร็จรูปมาให้พร้อม ตัวละ 99 ดอลลาร์ และรุ่น F450 เป็นบอร์ดสำเร็จรูปเพื่อนำไปใช้เชื่อมกับโมดูลอื่น ตัวละ 75 ดอลลาร์ ที่มา - Intel
# Dell เปิดตัวหน้าจอที่มาพร้อมปุ่ม Microsoft Teams และกล้อง IR สำหรับ Windows Hello Dell เปิดตัวมอนิเตอร์ใหม่ 3 ขนาด ที่ Dell เรียกว่า "มอนิเตอร์สำหรับวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์รุ่นแรกของโลกที่ได้รับการรับรองจาก Microsoft Team" เนื่องจากมีปุ่มที่ใช้งานสำหรับการประชุมผ่าน Microsoft Teams ทั้งปุ่มเปิดโปรแกรม, รับสาย เพิ่มลดเสียงและปิดไมค์ นอกจากนี้ตัวมอนิเตอร์ยังมีกล้องหน้าแบบป๊อปอัพขนาด 5 ล้านพิกเซลที่เป็นกล้อง IR สำหรับปลดล็อกผ่าน Windows Hello, ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนและลำโพงคู่แรงขับ 5 วัตต์ พร้อมโหมดตัดแสงสีฟ้าให้ในตัวด้วย หน้าจอทั้ง 3 ขนาดก็มี 24 นิ้วความละเอียด FHD ราคา 519.99 เหรียญ (ราว 15,500 บาท), 27 นิ้วความละเอียด QHD ราคา 719.99 เหรียญ (ราว 21,500 บาท) และจอโค้ง 34 นิ้ว (WQHD) ราคา 1,149.99 เหรียญ (ราว 34,400 บาท) วางขาย 16 กุมภาพันธ์นี้ ที่มา - The Verge
# ซัมซุงเปิดตัวทีวีไฮเอ็น Neo QLED และทีวีเทคโนโลยี microLED ซัมซุงเปิดตัวทีวีระดับไฮเอ็นใหม่ด้วยเทคโนโลยีหน้าจอ Neo QLED ที่ใช้ Quantum Mini LED เป็นตัวกำเนิดแสง มีความสูงน้อยกว่าหลอด LED 40 เท่า เพราะมีชั้นบาง ๆ ขนาดไมโครเมตรที่หลอด LED แทนการใช้เลนส์เพื่อกระจายแสงและยึดหลอด LED เอาไว้ในแบบเดิม ขณะเดียวกันก็มีคอนทราสต์และความสว่างมากกว่าหน้าจอเดิม ๆ ทีวี Neo QLED มี 2 รุ่นย่อยคือความละเอียด 8k และ 4k ใช้ดีไซน์ใหม่แบบไร้ขอบที่ซัมซุงเรียกว่า Infinity One มีกล่อง Slim One Connect Box ที่รวมสวยเคเบิลและการควบคุมทุกอย่างเอาไว้ที่เดียว มีฟีเจอร์ Object Tracking Sound ที่วิเคราะห์เสียงเพื่อให้เสียงเคลื่อนไหวไปกับภาพแบบเรียลไทม์, Super Ultrawide GameView ปรับสัดส่วนจอสำหรับเล่นเกมได้ถึง 23:9, GameBar, รองรับ Google Duo และต่อกล้องเสริมด้วย USB นอกจากนี้ยังมีทีวี MicroLED จากเดิมที่ใช้อยู่แต่ทีวีระดับธุรกิจอย่าง The Wall มาอยู่ในทีวีสำหรับคอนซูมเมอร์ที่ราคาถูกลงแล้ว (แต่ก็น่าจะมีหลักแสน) ในขนาด 99 นิ้วและ 110 นิ้ว สัดส่วนหน้าจอต่อบอดี้อยู่ที่ 99% โดยตัว microLED ไม่แตกต่างจาก OLED มากนักในแง่คอนทราสต์และความดำมืด แต่เหนือกว่าตรงให้ความสว่างที่มากกว่า และไม่มีปัญหาจอเบิร์น นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ 4Vue (Quad View) สามารถเชื่อมต่อและแสดงผลภาพจาก 4 แหล่งได้พร้อมกันในหน้าจอเดียว นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีเสียง Majestic Sound ที่สามารถเล่นเสียงแบบ 5.1 ได้โดยไม่ต้องต่อลำโพงนอก ซัมซุงยังไม่ได้ประกาศราคาและวันวางจำหน่ายของทีวีทั้ง 2 รุ่น ที่มา - อีเมลประชาสัมพันธ์
# ทีมงาน Cyberpunk 2077 ปฏิเสธข่าวลือว่าการพัฒนาเกมถูกผู้บริหารแทรกแซง หลังจากมีโพสต์ใน Gamefaqs ที่อ้างว่าเป็นข้อมูลจากภายใน CD Projekt Red บอกว่าทีมพัฒนาถูกแทรกแซงจนต้องตัดเนื้อหาในเกมออก และเร่งเกมให้ออกทันปลายปี แต่อาจจะมีแพทช์ และ DLC เพิ่มเนื้อหาเหล่านี้กลับมาใหม่ ให้เหมือนตอน No Man’s Sky และ Blognone ลงข่าวไปเมื่อวานนี้ ล่าสุดมีอัพเดตในเว็บบอร์ดอย่างเป็นทางการของ CD Projekt Red เป็นแอคเคาท์ของทีมงานชื่อ Vattier ออกมาตอบกระทู้ที่เกี่ยวกับเรื่องนี้สั้นๆ ว่า “ถึงปกติเราจะไม่ให้ความเห็นเกี่ยวกับความลือ แต่คราวนี้คงต้องบอกว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริงเลย” อย่างไรก็ตาม ยังมีแฟนๆ มาแสดงความเห็นในแง่จิกกัดเสียดสีต่อ ว่า “ทีมงาน CDPR ก็เพิ่งโกหกผู้บริโถคไปหมาดๆ นะ ใครจะลืมลง” หรือแม้แต่ว่า “อ้าว งั้นแปลว่าเรื่องที่ทีมงานตั้งใจจะทำเกมให้เสร็จ เป็นเรื่องโกหกเหรอ?” ถึงแม้จะมีคอมเมนต์ที่เข้าใจ และให้กำลังใจทีมงานอยู่ และพร้อมจะรอการซ่อมแซมเกมให้เสร็จ แต่คอมเมนต์บางส่วนในบอร์ด ก็สะท้อนความไม่พอใจของฐานแฟนคลับได้เป็นอย่างดี เพราะถ้าเป็นปีก่อนๆ เราจะแทบไม่ได้เห็นคอมเมนต์แบบนี้บนบอร์ด CDPR เลย ที่มา - CD Projekt Red Forum via DSO Gaming
# จากเหตุม็อบบุกรัฐสภา Tim Cook, Brad Smith ออกมาสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลอย่างสงบ จากเหตุม็อบสนับสนุน โดนัลด์ ทรัมป์ บุกรัฐสภาที่ Washington D.C. ก็มีบุคคลสำคัญในวงการไอทีออกมาแสดงความเห็น โดย Tim Cook ซีอีโอ Apple บอกว่า ท่ามกลางอุดมการณ์ของเราที่กำลังถูกท้าทาย ต้องเปลี่ยนผ่านทีมรัฐบาลให้เป็นทีมของ Joe Biden โดยเร็ว และต้องมีคนรับผิดชอบต่อการก่อจลาจลครั้งนี้ โดยโพสต์นี้ของ Tim Cook ถือเป็นการโพสต์ครั้งแรกในเชิงการเมือง นับจากเสร็จสิ้นการเลือกตั้งสหรัฐฯ 2020 เป็นต้นมา ด้าน Brad Smith ประธาน Microsoft แชร์โพสต์ของ Business Roundtable ที่สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลโดยสงบ และแสดงความสนับสนุนและเห็นคุณค่าของรัฐธรรมนูญ ภาพจาก Shutterstock ที่มา - CNBC, Brad Smith
# Apple รายงานสถิติ App Store มีการใช้จ่ายช่วงปีใหม่มากถึง 1.8 พันล้านดอลลาร์ แอปเปิลรายงานสถิติตัวเลขของกลุ่มธุรกิจซอฟต์แวร์อินเทอร์เน็ตและบริการ (Internet Software and Services) ในปี 2020 ซึ่งเป็นธุรกิจของแอปเปิลที่มีการเติบโตสูงต่อเนื่องมาหลายไตรมาส โดยช่วงเทศกาลวันหยุดที่ผ่านมามีการใช้จ่ายผ่าน App Store มากถึง 1.8 พันล้านดอลลาร์ ส่วนใหญ่เป็นการใช้จ่ายในเกม เฉพาะในวันปีใหม่การใช้จ่ายนั้นสูงถึง 540 ล้านดอลลาร์ แอปเปิลยังบอกว่าได้จ่ายเงินให้นักพัฒนาไปแล้วมากกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่ App Store เปิดตัวในปี 2008 Apple Music ก็ทำสถิติใหม่สูงสุดเช่นกัน โดยมีการฟังเพลงที่มากขึ้น และผู้ใช้ iOS 14 เกือบ 90% ได้เข้ามาใช้งานคุณสมบัติใหม่ อาทิ "ฟังตอนนี้", สถานีวิทยุส่วนตัว และอื่น ๆ ที่มา: แอปเปิล
# Facebook และ Instagram ล็อคบัญชีของ Trump นาน 24 ชั่วโมง จากเหตุม็อบบุกรัฐสภา จากเหตุการณ์ม็อบผู้สนันสนุนประธานาธิบดี Trump บุกรัฐสภาที่ Washington D.C. เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องพาว่าที่ประธานาธิบดี Joe Biden หนีออกไป ก่อนจะส่งหน่วยรักษาความปลอดภัยมากันผู้ชุมนุม ทางด้าน Trump เองก็มีการโพสต์เนื้อหายุยงในหลายแพลตฟอร์มเช่น Facebook และ Twitter ทำให้ก่อนหน้านี้ Twitter ได้ประกาศล็อคบัญชีของ Trump นาน 12 ชั่วโมง และล่าสุดฝั่ง Facebook ก็ออกมาประกาศในลักษณะเดียวกันว่า Trump ละเมิดนโยบาย 2 ข้อ โดยทั้งบัญชี Facebook และ Instagram ของ Trump จะถูกล็อคนาน 24 ชั่วโมง และเขาจะโพสต์อะไรไม่ได้เลย ก่อนจะถูกล็อคบัญชี Trump ได้โพสต์วิดีโอที่พูดกับกลุ่มผู้ชุมนุมและบอกว่าการเลือกตั้งสหรัฐฯ นั้นมีการโกง ซึ่งไม่เป็นความจริง ทำให้ Facebook ลบวิดีโอดังกล่าวออกไป นอกจากนี้เขายังโดนลบอีกโพสต์ที่ระบุว่าให้ผู้สนับสนุนจดจำวันนี้ตลอดไป ที่มา - The Verge ภาพจาก Getty Images
# Facebook และ YouTube ลบวิดีโอทรัมป์พูดแสดงความรักต่อม็อบที่บุกรัฐสภา จากประเด็น ม็อบสนับสนุนโดนัลด์ ทรัมป์ก่อความรุนแรงที่รัฐสภาของสหรัฐฯ จนทำให้ Twitter ระงับบัญชีทรัมป์ชั่วคราวเพราะเขาโพสต์แนวส่งเสริมสนับสนุนม็อบ Facebook และ YouTube ก็ลบวิดีโอของทรัมป์ที่พูดเชิงสนับสนุนม็อบเช่นกัน ในวิดีโอเขาพูดว่า ผู้ชุมนุมยังคงอยู่ในความสงบ แม้กลุ่มผู้ชุมนุมจะบุกเข้าไปในอาคารจนต้องทำการอพยพคนออกมาหมดก็ตาม ทรัมป์ยังบอกให้ผู้ชุมนุมกลับบ้าน และบอกด้วยว่า "เรารักคุณ พวกคุณพิเศษมาก" ทาง Facebook ระบุเหตุผลที่ลบว่า เป็นเนื้อหาเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดความรุนแรง มากกว่าจะช่วยแก้ปัญหา ส่วน YouTube บอกว่าเนื้อหาดังกล่าวละเมิดนโยบายโดยกล่าวหาว่ามีการฉ้อโกงอย่างกว้างขวางหรือข้อผิดพลาดเกี่ยวกับการเลือกตั้งสหรัฐฯในปี 2020 ตั้งแต่ช่วงเลือกตั้งสหรัฐฯที่ผ่านมา ทรัมป์ใช้โซเชียลมีเดียเป็นกระบอกเสียงเสมอว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ผิดพลาด ฉ้อโกง และถูกขโมยไปจากคนบางกลุ่ม แม้หน่วยงานไซเบอร์,หน่วยงานระดับสูงจะบอกว่าการเลือกตั้งสหรัฐฯครั้งนี้ปลอดภัยที่สุดเท่าที่เคยมีมาก็ตาม ภาพ Gage Skidmore/Flickr (CC BY-SA 2.0) ที่มา - TechCrunch
# Windows 10 Insider เพิ่มฟีเจอร์แสดงข่าว สภาพอากาศ ผลกีฬา ราคาหุ้น ที่ Taskbar ไมโครซอฟท์ออก Windows 10 Insider Preview Build 21286 แบบ Dev Channel รุ่นทดสอบตัวแรกของปี 2021 เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจคือเพิ่มปุ่มแสดงสภาพอากาศที่ Taskbar กดแล้วจะแสดงข่าวสาร สภาพอากาศ ผลกีฬา ราคาหุ้น ฯลฯ ให้กดดูกันง่ายๆ (ถ้ายังจำกันได้ เมื่ออดีตอันไกลโพ้นเราเคยมี Active Desktop ที่มีฟีเจอร์แบบเดียวกัน) ข้อมูลที่อัพเดตผ่านฟีเจอร์นี้จะ personalize ตามความสนใจของผู้ใช้แต่ละคน โดยมีแหล่งข่าวให้เลือกกว่า 4,500 เว็บไซต์ทั่วโลก แต่เบื้องต้นยังรองรับเฉพาะประเทศที่พูดภาษาอังกฤษเป็นหลัก เช่น สหรัฐ สหราชอาณาจักร แคนาดา ออสเตรเลีย อินเดีย เท่านั้น ของใหม่อย่างอื่นใน Build 21286 คือ Settings เพิ่มหน้าจอจัดการ Storage Space และ Windows Subsystem for Linux (WSL) รองรับการรันคำสั่งตอนเริ่มบูตลินุกซ์ ที่มา - Microsoft
# Twitter ระงับบัญชีทรัมป์ชั่วคราวหลังทวีตสนับสนุนความรุนแรงที่รัฐสภา Twitter ประกาศระงับบัญชีของทรัมป์ชั่วคราว หลังจากเขาทวีตสนับสนุนม็อบที่ก่อความรุนแรงที่รัฐสภาของสหรัฐฯ เพื่อหยุดยั้งการยืนยันผลเลือกตั้งประธานาธิบดี Twitter จะล็อกบัญชีทรัมป์ 12 ชั่วโมง และเขาจะต้องลบ 3 ทวีตที่เขียนสนับสนุนความรุนแรงก่อนจึงจะกลับมาเปิดใช้งานบัญชีได้อีกครั้ง ซึ่งในอนาคตหากทรัมป์ทำผิดกฎอีกอาจเป็นการสั่งปิดบัญชี @realDonaldTrump ถาวร ปกติแล้ว Twitter มักจะเลือกการระงับการใช้งานบัญชีของผู้นำโลกไว้เป็นขั้นตอนสุดท้ายตามนโยบาย public interest policy แต่ข้อกำหนดนี้ก็มีข้อจำกัดว่าถ้าทางผู้ดูแลแพลตฟอร์มเห็นว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายชัดเจนก็อาจต้องระงับบัญชี ที่มา - Engadget ภาพ Gage Skidmore/Flickr (CC BY-SA 2.0)
# สหรัฐฯ อนุญาตให้ GitHub ให้บริการในอิหร่านอีกครั้ง GitHub ประกาศว่าได้รับอนุญาตจากสำนักงานควบคุมสินทรัพย์ต่างชาติ (Office of Foreign Assets Control - OFAC) เพื่อให้บริการแก่นักพัฒนาในอิหร่านได้อีกครั้งหลังจากต้องแบนนักพัฒนาที่เคยใช้ไอพีอิหร่านทั้งหมดตั้งแต่ช่วงกลางปี 2019 เป็นต้นมา ทาง GitHub แบนนักพัฒนาจากหลายชาติ โดยที่มีข่าวก่อนหน้านี้ ได้แก่ อิหร่าน, เกาหลีเหนือ, คิวบา, ซีเรีย, และคาบสมุทรไครเมีย ส่งผลให้นักพัฒนาที่เคยใช้ไอพีชาติเหล่านี้เข้าถึง private repository แม้แต่ครั้งเดียวก็ถูกบล็อค เมื่อสิ้นปี 2020 ที่ผ่านมา Sebastian Slomski CTO ของบริษัท Neocom.ai ทวีตร้องเรียนว่า GitHub บล็อค repository ของทั้งบริษัทเพียงเพราะมีพนักงานคนหนึ่งเข้าใช้งานจากอิหร่าน ที่มา - GitHub
# AWS แพ้คดีเครื่องหมายการค้า "AWS" ในจีน ถูกสั่งจ่ายค่าเสียหาย 360 ล้านบาท AWS หรือ Amazon Web Service แพ้คดีละเมิดเครื่องหมายการค้า "AWS" ที่จดทะเบียนโดย ActionSoft Science & Technology Development บริษัทซอฟต์แวร์ในจีน ศาลปักกิ่งสั่งให้ทาง AWS เลิกใช้เครื่องหมายการค้านี้และจ่ายค่าเสียหายให้ ActionSoft รวม 76.5 ล้านหยวน หรือประมาณ 360 ล้านบาท แม้ว่าทาง ActionSoft จะเรียกค่าเสียหายเกือบ 1,400 ล้านบาท ทาง AWS ยืนยันว่าบริษัทใช้เครื่องหมายการค้าเพื่อขายบริการคลาวด์มาก่อน ActionSoft จะจดทะเบียนอยู่หลายปี และยืนยันจะสู้คดีนี้ต่อในศาลฎีกา ActionSoft จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า AWS เพื่อให้บริการคลาวด์ในจีนมาตั้งแต่ปี 2004 ที่มา - Wall Street Journal ภาพอาคารสำนักงาน AWS โดย Tony Webster
# ผู้ให้บริการโทรศัพท์ Three ในอังกฤษให้นักเรียนใช้เน็ตเรียนออนไลน์ไม่จำกัด เครือข่ายโทรศัพท์มือถือในอังกฤษ Three ให้ดาต้าไม่จำกัดแก่นักเรียนด้อยโอกาสใช้เรียนออนไลน์ หลังประเทศล็อกดาวน์อีกรอบเพราะ COVID-19 ระบาดหนัก ให้ปริมาณดาต้าไม่จำกัดยาวๆ ถึงเดือนกรกฎาคม 2021 เด็กนักเรียนจะต้องแจ้งให้โรงเรียนทราบว่ายังไม่มีอินเทอร์เน็ตที่บ้าน เพื่อให้โรงเรียนรวบรวมข้อมูลไปให้หน่วยงานการศึกษา เพื่อขออินเทอร์เน็ตใช้งานผ่านโครงการ Get Help with Technology ก่อนหน้านี้ Three ก็ให้ผู้ใช้งานในอังกฤษโทรหาหน่วยงานสุขภาพ NHS 101 ฟรี รวมทั้งให้ปริมาณดาต้าแก่บุคลากรทางการแพทย์แบบไม่จำกัด ภาพจาก Three ที่มา - Neowin
# Jim Keller วิศวกรชิปชื่อดังที่เคยอยู่ AMD, Apple, Tesla, Intel ย้ายไปทำงานบริษัทชิป AI Jim Keller วิศวกรออกแบบชิปชื่อดัง ผู้ผ่านงานมาแล้วกับทั้ง Apple, AMD, Tesla, Intel ประกาศเข้าทำงานกับบริษัทพัฒนาชิป AI ชื่อ Tenstorrent Jim Keller ถือเป็นนักออกแบบชิปที่มีผลงานมากมาย และมีประวัติการทำงานกับบริษัทดังๆ เช่น AMD (2 รอบ รอบแรกทำ K7/K8, รอบหลังช่วยทำ Zen), Tesla (ชิปสำหรับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ), Apple (A4/A5), Broadcom และตำแหน่งล่าสุดคือ Intel ระหว่างปี 2018-2020 ส่วน Tenstorrent บริษัทใหม่ของเขาเป็นสตาร์ตอัพสายฮาร์ดแวร์ ที่ออกแบบชิป 120 คอร์สำหรับประมวลผล machine learning ที่มีประสิทธิภาพสูง (ชิปใช้โค้ดเนมว่า Grayskull) โดยซีอีโอของบริษัท Ljubisa Bajic เคยเป็นวิศวกรของ AMD และ NVIDIA Tegra Jim Keller จะเข้ามาเป็น CTO และ President ของ Tenstorrent รวมถึงรับตำแหน่งในบอร์ดด้วย แต่ยังไม่ระบุชัดว่างานของเขาคือพัฒนาผลิตภัณฑ์ตัวใดของบริษัท ที่มา - Tenstorrent, AnandTech, ภาพจาก Intel
# บริษัทวิจัย CIRP เผย iPhone 12 ขายดีสุดในสี่รุ่น, iPhone 12 Mini ยอดขายน่าผิดหวัง 9to5Mac แชร์ข้อมูลจากบริษัทวิจัยตลาด Consumer Intelligence Research Partners (CIRP) เปิดเผยยอดขาย iPhone 12 ทั้ง 4 รุ่น พบว่ามือถือตระกูล iPhone 12 ทำยอดขายรวม คิดเป็น 76% ของ iPhone ทุกรุ่นที่จำหน่ายในสหรัฐ ช่วงเดือนตุลาคม ถึงเดือนพฤศจิกายน 2020 iPhone 12 ถือว่าประสบความสำเร็จในช่วงเปิดตัวมากกว่าเมื่อเทียบกับ iPhone 11 ที่มียอดขายช่วงเดือนเปิดตัว อยู่ที่ 69% ของ iPhone ทั้งหมดที่วางจำหน่ายในสหรัฐในช่วงนั้น (แปลว่าในช่วง iPhone 11 คนก็ยังซื้อรุ่นเก่าอยู่ 31%) เมื่อเจาะลึกแต่ละรุ่นของ iPhone 12 แม้อาจจะเปรียบเทียบได้ยาก เพราะคราวนี้ Apple เปิดตัวมือถือ 4 รุ่นไม่พร้อมกัน แต่ผลปัจจุบันคือ iPhone 12 มียอดขายมากที่สุดใน iPhone ทุกรุ่น ช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน คิดเป็น 27% รองลงมาเป็น iPhone 12 Pro และ Pro Max ที่มียอดขายใกล้เคียงกัน อยู่ที่ประมาณ 20% ทั้งคู่ ส่วน iPhone 12 Mini ทำยอดขายไปได้ 6% เท่านั้น และที่เหลือเป็น iPhone รุ่นอื่นๆ ยอดขาย iPhone 12, 12 Pro และ Pro Max ดูจะไม่หนีกันมากนัก เมื่อเทียบกับยอดขายที่แตกต่างระหว่าง iPhone 11 ทั้งสามรุ่น ช่วงเดือนเปิดตัวปี 2019 เพราะในรุ่นก่อน iPhone 11 ทำยอดขายคิดเป็น 39% ในขณะที่ iPhone 11 Pro กับ Pro Max มียอดขายในช่วงเปิดตัวรวมกัน คิดเป็นแค่ 15% ของยอดขาย iPhone ทุกรุ่นในช่วงนั้น อาจถือได้ว่า iPhone 12, 12 Pro และ 12 Pro Max ประสบความสำเร็จใกล้เคียงกันในหมู่ผู้ใช้ iPhone ส่วนจะมีน่าผิดหวังก็คงเป็น iPhone 12 Mini ที่ยังชิงตำแหน่งในหมู่ iPhone มาได้เพียงน้อยนิดที่ 6% โดย Mike Levin นักวิเคราะห์จาก CIRP คาดว่าสาเหตุมาจาก iPhone XR ที่ราคา 499 ดอลลาร์ และ iPhone 11 ที่ราคา 599 ดอลลาร์ น่าจะดึงดูดกว่า iPhone Mini ที่มีขนาดเล็กกว่า แต่ราคาเปิดตัวเริ่ม 699 ดอลลาร์ ที่มา - 9to5Mac ภาพจาก CIRP
# คนมันรวยช่วยไม่ได้ Amazon ซื้อเครื่องบินโดยสาร 11 ลำ ดัดแปลงเป็นเครื่องขนส่งสินค้า ท่ามกลางวิกฤตของอุตสาหกรรมการบินทั่วโลก Amazon ประกาศซื้อเครื่องบินรุ่น Boeing 767-300 จำนวนทั้งหมด 11 ลำ ของสายการบิน Delta Air Lines และ WestJet เพื่อมาใช้ขนส่งสินค้าทางอากาศเพิ่มเติมจากเครื่องบินที่มีอยู่เดิม เครื่องบินทั้ง 11 ลำจะแบ่งเป็น 4 ลำจาก WestJet ในปี 2021 และอีก 7 ลำจาก Delta เข้าร่วมในปีหน้า 2022 โดยเครื่องจาก WestJet กำลังอยู่ระหว่างการดัดแปลงจากเครื่องบินโดยสารมาเป็นเครื่องบินขนส่งสินค้า ที่ผ่านมา Amazon Air ใช้วิธีเช่าเครื่องบินจากบริษัทอื่นๆ แต่รอบนี้ตัดสินใจซื้อเครื่องบินเป็นของตัวเอง โดยบริษัทให้เหตุผลว่าจะใช้เครื่องบินทั้ง 2 แบบเพื่อให้ยืดหยุ่นมากขึ้น ปีที่แล้ว 2020 Amazon Air เพิ่งขยายฮับการบินไปนอกสหรัฐอเมริกา โดยเริ่มจากสนามบิน Leipzig Halle Airport ในเยอรมนีเป็นที่แรก ที่มา - Amazon
# [WSJ] รัฐบาลจีนกำลังบีบให้ Ant Group แชร์ข้อมูลเครดิตลูกค้าให้กับรัฐบาล เป็นความพยายามของรัฐบาลจีนมานานในการควบคุมบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ของประเทศ โดยเฉพาะ Ant Group ของ Jack Ma ล่าสุด Wall Street Journal รายงานข้อมูลว่าตอนนี้รัฐบาลจีนกำลังบีบให้ Ant Group แชร์ข้อมูลและเครดิตของลูกค้าให้กับรัฐบาล เพราะรัฐบาลมองว่า Ant Group ผูกขาดข้อมูลสำคัญอย่างพฤติกรรมด้านการเงินของประชาชน ข้อเสนอตอนนี้คือ Ant Group ฟีดข้อมูลด้านเครดิตไปให้กับระบบส่วนกลางของธนาคารกลาง Bank of China หรือส่งข้อมูลให้กับบริษัทเครดิตเรตติ้ง ที่ธนาคารกลางควบคุมอีกที แต่ก็ยังไม่มีข้อมูลว่ารัฐบาลต้องการเข้าถึงฐานข้อมูลทั้งหมดที่ Ant ใช้วิเคราะห์เครดิตหรือพฤติกรรมลูกค้าหรือไม่ ภาพจาก Shutterstock สถานการณ์ตอนนี้ของ Ant Group น่าจะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก หลังจากถูกรัฐบาลระงับการ IPO และเรียก Jack Ma เข้าพบ จากความไม่พอใจที่ Ma วิจารณ์ระบบกฎหมายและระเบียบของรัฐ และจนถึงทุกวันนี้ Ma หายหน้าไปจากสื่อและสาธารณะกว่า 2 เดือนแล้ว นอกจากนี้ตอนนี้ Ant Group กำลังถูกภาครัฐพูดคุยและแก้ไขเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผูกขาด ขณะที่ Alibaba ถูกสอบสวนไปแล้ว ที่มา - WSJ
# จำนวนผู้เล่น Cyberpunk 2077 บน Steam หายไปกว่า 79% แล้วนับตั้งแต่วางขาย แม้จะมียอดขายทะลุเป้า จนติด 1 ใน 12 เกมที่ทำเงินมากที่สุดของปีบน Steam แต่ด้วยสารพัดปัญหาทำให้หลังจากผ่านมาราว 1 เดือน จำนวนผู้เล่น Cyberpunk 2077 เฉพาะบน Steam ลดลงไปแล้วกว่า 79% ข้อมูลจาก Githyp ชี้ว่าจำนวนผู้เล่น Cyberpunk 2077 พร้อมกันสูงที่สุดในปัจจุบันอยู่ที่ราว 200,000 คนเท่านั้น ลดลงจากช่วงเปิดตัวที่สูงถึงราว 1 ล้านคน แต่ถึงกระนั้นคะแนนรีวิวบน Steam จากผู้เล่นราว 308,000 คนก็ยังอยู่ที่ Mostly Positive จากที่มีคนให้บวกกว่า 79% หากเทียบกับเกมใหญ่ก่อนหน้าอย่าง The Witcher 3: Wild Hunt ที่ใช้เวลากว่า 3 เดือน จำนวนผู้เล่นถึงจะลดในสัดส่วนที่เท่ากัน ดูทรงแล้ว Cyberpunk 2077 เกมที่ไฮป์ที่สุดแห่งปี น่าจะเดินตามรอย No Man's Sky แล้วที่ได้รับความสนใจมากแต่ก็ถูกรีวิวเชิงลบอย่างมากในช่วงแรก ก่อนจะค่อย ๆ อัพเดตเนื้อหาต่าง ๆ ตามมาจนสมบูรณ์และรีวิวเป็นบวกในปัจจุบัน ที่มา - Githyb via GameSpot _
# แจ้งเตือน อุปกรณ์เน็ตเวิร์ค Zyxel มีบัญชีสิทธิ์ระดับสูงฝังไว้ เปิดทางแฮกเกอร์เข้ายึดอุปกรณ์ ควรรีบแพตช์ เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมาทาง Zyxel ได้ออกแพตช์เฟิร์มแวร์อุปกรณ์เน็ตเวิร์คในกลุ่มไฟร์วอลล์และ Access Point controller หลังนักวิจัยพบว่าเฟิร์มแวร์เวอร์ชั่น 4.60 มีบัญชีผู้ใช้ zyfwp พร้อมรหัสผ่านแบบ hardcode ทำให้แฮกเกอร์สามารถล็อกอินเข้าไปยังอุปกรณ์ หากเปิดบริการ Secure Shell หรือเว็บอินเทอร์เฟซให้เข้าจากภายนอก Niels Teusink นักวิจัยที่เปิดเผยช่องโหว่นี้ระบุว่าเฟิร์มแวร์เวอร์ชั่นก่อนๆ ก็มีบัญชีผู้ใช้ zyfwp นี้อยู่ในระบบแต่ไม่ได้ตั้งรหัสผ่านเอาไว้ ทำให้ใช้ล็อกอินไม่ได้ แต่ทาง Zyxel กลับไปตั้งรหัสผ่านในเวอร์ชั่นหลังๆ และรหัสผ่านนี้เหมือนกันทุกอุปกรณ์ ความน่ากังวลของช่องโหว่นี้คือองค์กรจำนวนหนึ่งใช้ไฟร์วอลล์ Zyxel ทำหน้าที่เกตเวย์ VPN ให้องค์กรและ SSL VPN ก็ใช้พอร์ตเดียวกับเว็บอินเทอร์เฟซทำให้หลายองค์กรเปิดหน้าเว็บอินเทอร์เฟซออกสู่อินเทอร์เน็ตไปพร้อมกัน ล่าสุดทางบริษัท GreyNoise รายงานออกมาว่าเริ่มเห็นระบบโจมตีอัตโนมัติพยายามล็อกอินบัญชีนี้เพื่อทดสอบว่ามีไฟร์วอลล์ที่มีช่องโหว่เปิดสู่อินเทอร์เน็ตไว้หรือไม่ สำหรับผู้ใช้เฟิร์มแวร์เวอร์ชั่นเก่ากว่า 4.60 ไม่ได้รับผลกระทบจากช่องโหว่นี้แต่ก็มีช่องโหว่อื่นๆ น่ากังวลไม่แพ้กัน ดังนั้นควรเร่งอัพเดตแพตช์ล่าสุดเสมอ ที่มา - ArsTechnica
# เปิดตัว Dell Latitude 7320 Detachable โน้ตบุ๊กทรงแท็บเล็ตแบบ Surface Pro X สเปก Intel Core 11th Gen Dell เปิดตัว Dell Latitude 7320 Detachable โน้ตบุ๊กกึ่งแท็บเล็ต มีขาตั้ง มาพร้อมปากกา คล้ายคลึงกับ Microsoft Surface Pro X แต่ภายในใช้ซีพียู Intel Core 11th Gen สูงสุดรุ่น Core i7 vPro แรม LPDDR4X 4,266 MHz สูงสุด 16GB หน้าจอสัมผัส 13 นิ้ว อัตราส่วน 3:2 ความละเอียด FHD+ ความสว่างสูงสุด 500 nits ครอบด้วย Corning Gorilla Glass DX หน่วยความจำ SSD M.2 2230 ความจุตั้งแต่ 128GB ถึง 1TB มีตัวเลือก NVMe แบบ self-encrypting drive (SED) เข้ารหัสข้อมูลภายในอัตโนมัติ ขนาด 256GB กล้องหน้า 5 MP 1080p มีตัวเลือกกล้อง IR สำหรับ Windows Hello ใช้การ์ด Wi-Fi จาก Intel รองรับ Wi-Fi 6 AX201 แบบ 2x2 รองรับ Bluetooth 5.1 มีตัวเลือกเพิ่มชิปโมเด็ม Snapdragon X20 สำหรับรองรับซิม 4G LTE ได้ แต่ไม่รองรับ 5G พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C แบบ Thunderbolt 4 สองพอร์ต แบตเตอรี่ 40Wh 2-cell Dell Latitude 7320 Detachable เริ่มจำหน่าย 30 มีนาคม 2021 ราคาเริ่มต้น 999 ดอลลาร์ หรือราว 30,000 บาท ที่มา - Notebookcheck
# Google ยืนยันแล้วเตรียมอัพเดตแอปบน iOS อย่างเร็วในสัปดาห์นี้ พร้อมแจ้งการเก็บข้อมูล หลังจากที่ Fast Company เขียนบทความว่า Google ไม่อัพเตดแอป iOS มาเกือบเดือนแล้ว คาดว่าเป็นเพราะนโยบายความเป็นส่วนตัวใหม่ของ App Store ล่าสุด Google ยืนยันกับ TechCrunch แล้วว่ากำลังจะปล่อยอัพเดตอย่างเร็วภายในสัปดาห์นี้ หรืออาจจะเป็นสัปดาห์หน้า Google ยืนยันว่าไม่ได้หลีกเลี่ยงการชี้แจงข้อมูลในแอป ซึ่งอัพเดตใหม่นี้จะแจ้งการเก็บและใช้งานข้อมูลด้วย โดย TechCrunch ให้เหตุผลสนับสนุน Google ว่าส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะไม่ได้ต้องการจะปล่อยอัพเดตหรือรันโค้ดชุดใหม่ไม่กี่สัปดาห์ก่อนช่วงวันหยุดยาว ซึ่งนักพัฒนาและวิศวกรหยุดกันหมด ถ้าเกิดปัญหาก็จะไม่มีใครแก้ นอกจากนี้ TechCrunch ยังตรวจสอบข้อมูลกับ Sensor Tower และไล่ดูแอปบน iOS เองก็พบว่าจริง ๆ แล้ว Google อัพเดตแอป 2 ตัวหลังวันที่ 8 คือ Google Slide และแอปช่วยทำการบ้าน Socratic by Google เพียงแต่ยังไม่ได้อัพเดตเรื่องการเก็บข้อมูล ที่มา - TechCrunch
# Google ไม่อัพเดตแอปบน iOS มาเกือบเดือนแล้ว ถูกสงสัยเป็นเพราะนโยบายความเป็นส่วนตัวใหม่ แอปเปิลออกกฎ App Store ใหม่ที่ว่าด้วยความเป็นส่วนตัวและการเก็บข้อมูล ซึ่งเริ่มบังคับใช้ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา ขณะที่ Google เองก็ถูกพบว่าไม่มีการอัพเดตแอปของตัวเองหลายตัวบน iOS/iPadOS เลยแม้แต่ตัวเดียวตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ซึ่งผิดวิสัยบริษัทใหญ่ที่มีแอปจำนวนมาก ครั้งสุดท้ายที่ Google อัพเดตคือวันที่ 7 ธันวาคม ขณะที่หลังวันที่ 8 แอปเปิลจะบังคับให้นักพัฒนาต้องระบุว่าตัวแอปเก็บข้อมูลอะไรบ้าง และจะเอาไปใช้อะไร เพื่อเปิดเผยกับผู้ใช้งานบน App Store ซึ่ง Fast Company คาดว่า Google เห็นประเด็นว่า Facebook เปิดเผยข้อมูลว่าเก็บอะไรบ้างแล้วทำผู้ใช้งานตกใจ (เพราะยาวเป็นหางว่าว) ถูกจนสื่อนำไปเป็นประเด็น อัพเดต Google บอกว่าเตรียมปล่อยอัพเดตอย่างเร็วสัปดาห์นี้ ที่มา - Fast Company
# Google เผยสูตรขนมที่คิดค้นขึ้นโดยปัญญาประดิษฐ์ Google เปิดเผยว่าในช่วงเดือนพฤศจิกายนและธันวาคมทุกปี ยอดคำค้นหาอย่างการอบขนม (baking) เพิ่มขึ้นสูงทุกปี ปีนี้ Google เลยเกาะกระแสด้วยการใช้ AI มาช่วยคิดค้นสูตรขนม ทีมงานใช้ AutoML Table มาแยกและสร้างโมเดลสำหรับขนมแต่ละประเภทอย่างเค้ก, ขนมปังและคุกกี้ออกจากกันด้วยวัตถุดิบและปริมาณของวัตถุดิบแต่ละประเภท ซึ่งสุดท้ายตัว ML สามารถแยกแยะขนมแต่ละประเภทได้แล้ว ยังสามารถสร้างสูตรขนมแบบไฮบริดที่เป็นลูกผสมด้วย เช่น breakie (bread+cookie), cakie (cake+cookie) ที่มา - Google Blog
# [ไม่ยืนยัน] Cyberpunk 2077 มีปัญหาเพราะผู้บริหารแทรกแซง, เนื้อหาที่ถูกตัดอาจกลับมาในแพทช์ และ DLC ยูสเซอร์ JoeBuck80 แชร์ข้อมูลในกระทู้บนบอร์ด GameFaqs เกี่ยวกับปัญหาในช่วงพัฒนาเกม และคอนเทนต์ที่ถูกตัดออก โดยอ้างว่าเป็นการส่งต่อจากกระทู้ที่ทีมพัฒนา CD Projekt Red (CDPR) ออกมาเปิดเผยข้อมูลภายใน แบบไม่เปิดเผยตัวตน ทีมงานที่เปิดเผยข้อมูลรายนี้เล่าว่าปัญหาที่เกิด มาจากทีมผู้บริหาร CDPR ยอมทำร้ายชื่อเสียงบริษัทเพื่อให้ผู้ลงทุนพอใจ แต่เขาก็ได้ยินมาว่าบริษัทมีแผนจะซ่อมเกมให้กลับมาดีขึ้น เหมือนในกรณีเกม “No Man’s Sky” โดยจะเพิ่มเนื้อหาเข้ามาในแพทช์ใหญ่ในเดือนมิถุนายนและ DLC ต่อๆ ไป แต่แพทช์ซ่อมเกมสองตัวหลักๆ น่าจะมาในช่วงกลางเดือนมีนาคม เขาเล่าว่าทีมผู้บริหารยังเข้ามายุ่งกับการพัฒนาตัวเกมมากจนเกินไป มีทั้งเควสต์หนึ่งที่ทีมงานต้องแก้เนื้อเรื่องถึงสิบสองรอบ เพราะผู้บริหาร “ไม่พอใจ” และสุดท้ายก็ถูกตัดออกไป แต่ก็มีแผนจะถูกนำกลับมาใน DLC แถมยังมีเรื่องเส้นสาย ที่มีบางคนถูกจ้างเข้ามาทำงาน แค่เพราะเป็นคนที่ผู้บริหาร “ไว้ใจ” การนำคีอานู รีฟส์ มารับบท Johnny Silverhand ก็เป็นการตัดสินใจของทีมผู้บริหาร โดยทีมงานบอกว่าตอนแรก Johnny จะเถื่อนกว่านี้ บ้ากว่านี้ เสียงของตัวละครในฉบับแรก ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก David Hayter ที่พากย์ Solid Snake และจะรับบทโดย Cillian Murphy (ตัวเอกจากซีรีส์ Peaky Blinders) เรื่องคอนเทนต์ที่ถูกตัดไป มีทั้งโซนใต้ดินของเมืองที่มืดหม่นและหดหู่ เป็นส่วนที่ทีมงานเชื่อว่าเจ๋งสุดๆ แต่ก็ถูกตัดเพราะผู้บริหารรู้สึกว่ามันดู “น่าเกลียด” มีทั้งเนื้อเรื่องเสริมที่จะให้ผู้เล่นสวมรอยเป็นตำรวจพิเศษ Max Tac แต่ก็ถูกตัดอีก แท็กซี่ควรจะคุยกับผู้เล่น และให้เควสต์กับผู้เล่นได้ AI ของตำรวจก็มีคนมาทำพังในช่วงท้ายๆ ของการพัฒนา เนื้อเรื่องหลักถูกตัดไปสององก์ใหญ่ๆ เพราะบั๊ก เควสต์ของ Morgan Blackhand ที่จะพูดถึง Corporate Wars และอื่นๆ ก็ถูกตัด แต่เขาก็เชื่อว่าการที่เกมนี้มีดราม่า มีคนเรียกเงินคืนมากมาย น่าจะเป็นข้อดี เพราะเป็นการทำให้ผู้บริหารได้รู้สักทีว่าการทำแบบนี้มันไม่เวิร์ค เขาเชื่อว่าแพทช์อัพเดตใหญ่ในเดือนมิถุนายน จะเพิ่มคอนเทนต์ที่ถูกตัดออกกลับเข้ามาในเกมอีกมาก และ DLC จะทำให้ผู้เล่นได้เล่นเกมที่ควรจะเป็น ภายในปี 2021 ซึ่งก็ต้องติดตามต่อไปว่าจะเป็นจริงหรือไม่ ที่มา - Gamfaqs via DualShockers
# Steve Mollenkopf ซีอีโอ Qualcomm ลาออก มีผลกลางปีนี้ Steve Mollenkopf ซีอีโอคนปัจจุบันของ Qualcomm ประกาศลาออกจากตำแหน่งและจะมีผลวันที่ 30 มิถุนายนนี้ โดย Cristiano Amon ประธานบริษัทคนปัจจุบันจะรับช่วงต่อ Steve เข้ามาเป็นซีอีโอตั้งแต่ปี 2014 เป็นคนนำพา Qualcomm เติบโตในช่วงการแข่งขันสูง ผ่านทั้งคดีความกับแอปเปิลและการฟ้องร้องผูกขาดจาก FTC ขณะที่ Amon อยู่ Qualcomm มาค่อนชีวิต เติบโตมาจากฝ่ายชิปมือถือ และถูกวางตัวเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งซีอีโอตั้งแต่ราวปี 2018 ที่มา - WSJ, CNBC Steve Mollenkopf ภาพจาก Qualcomm